12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

Circus Maximus ⋘ เซอร์คัส แม็กซิมัส ⋙

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-10-14 16:14:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 08 เดือน ตุลาคม ปี 2025

ช่วงเช้าถึงเที่ยง เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ เซอร์คัส แม็กซิมัส กรุงโรมใหม่ ค่ายจูปิเตอร์ เรียนวิชาขับขี่ยานยนต์และมอเตอร์ไซต์ (VMO)


ลานฝึกกลางเซอร์คัส แม็กซิมัสคุกรุ่นด้วยกลิ่นยางอุ่น ๆ และฝุ่นทรายจากสนามโบราณที่ถูกขีดเส้นใหม่เป็นรูปตัว S วงกลม และทางตรงยาวเหยียด ลมบ่ายกรุงโรมใหม่พัดธงสีม่วงทองของค่ายให้กระพือ โมนีก้าดึงสายรัดหมวกกันน็อกให้แน่น ก้มแตะคางจนคลิ๊ก “โอเค หัวรอดก่อนค่อยคุยเรื่องเทคนิค” เธอบ่นแซวตัวเองทั้งยังแอบหงุดหงิดไม่หายจากคลาสก่อน แต่แววตาเริ่มติดประกายอยากเอาชนะพอ ๆ กับความงอนนั้น


วิญญาณสีเหลืองปรากฏตัวกลางแสงฝุ่น ลาเรส แจ็คสัน ฟอสเตอร์ ผู้สอนประจำวิชา VMO วันนี้เขาแตะขอบหมวกทรงนักแข่งทัก “นักเรียน บทเรียนสอง: Basic Driving Techniques กติกาค่ายเหมือนเดิม วิ่งได้ ขี่ได้ แต่ต้องเคารพ ‘กฎ’ ก่อนเสมอ” เสียงทุ้มกระทบกำแพงสนาม “ในเขตค่าย: จำกัดความเร็วตามป้าย, หยุดให้คนเดินเท้าหน้าทางม้าลาย, ห้ามแซงในเขตอาคาร, เปิดไฟเลี้ยวก่อนเปลี่ยนเลน, ห้ามคุยเล่นกับฟอร์จูนหมากฝรั่งบนแฮนด์เพราะฟอร์จูนไม่ช่วยตอนเบรกหลบอะไรไม่ทัน”


“รับทราบค่ะครู” โมนีก้าตอบ กัดปลายลิ้นนิด ๆ กันหลุดหัวเราะ เธอยืนข้างมอเตอร์ไซค์วิบากสีขาว คันฝึกของค่ายที่ตั้งเซ็ตติ้งไว้กลาง ๆ สำหรับมือใหม่ ลาเรสลอยเลื่อนเข้ามาแตะแฮนด์อย่างคนเคยชิน “เริ่มด้วยทฤษฎีเร็ว ๆ แล้วลงมือจริง เราต้องรู้สี่อย่าง: ออกตัว เร่ง เบรก เลี้ยว และหนึ่งอย่างที่ครอบทั้งหมด การคุมรถที่ความเร็วต่ำ”


“ออกตัว = คลัทช์–คันเร่ง–สมดุล” เขาวาดเส้นโค้งในอากาศ “หาจุดเสียดทานของคลัทช์ คงรอบเครื่องให้เนียน แล้วปล่อยคลัทช์ช้า ๆ ขณะมองไกลไปทิศที่ ‘อยากไป’ ไม่ใช่มองล้อหน้า เข้าใจไหมเราจะมองที่ที่ใจอยากถึง รถจะตามตาเสมอ” เธอพยักหน้าตอนได้ยินแล้วลองเงี่ยหูฟังเสียงรอบเดินเบาที่ขุ่น ๆ นุ่ม ๆ “เร่ง = นุ่ม ไม่ใช่ฮึกเหิม เบรก = สั้น ชัด เป็นจังหวะ แบ่งหน้า 70 หลัง 30 ในเส้นตรง ถ้าจะเข้าโค้ง ใช้เทรลเบรกลดแรงเบรกก่อนจุดเอเพ็กซ์; เลี้ยว = ไหลตามเส้น ไม่หักพวงมาลัยทีเดียว ให้ ‘ตั้งลำ–เอนตัว–เปิดคันเร่งคงที่–คืนตัว’ สำหรับมอไซค์ เลี้ยววงแคบใช้เทคนิคถ่วงน้ำหนักสวนโค้ง มองผ่านไหล่เข้าเส้นทางออก”


เขาหันไปทางรถจี๊ปฝึกสีทราย “สำหรับสี่ล้อ พวงมาลัยใช้ ‘ผลัก–ดึง’ (push–pull) ไม่ไขว้มือตอนคุมที่ความเร็วต่ำ, เบรกตรง ๆ ก่อนเข้าโค้ง, เข้าเกียร์ต่ำด้วยรอบเครื่องพอดี อย่า ‘ลงเกียร์ลากรอบ’ จนล้อสะท้าน และจำกฎทอง กระจก สัญญาณ เคลื่อน (Mirror–Signal–Manoeuvre) ทุกครั้งก่อนเปลี่ยนตำแหน่งรถ”


“เอาล่ะ ลงสนาม” ลาเรสผายมือให้ทางตรงยาว โมนีก้าคร่อมรถ น้ำหนักลงกลางเบาะ ดึงคลัทช์ บิดปลายคันเร่งนิดเดียว เครื่องครางต่ำ เธอค่อย ๆ ปล่อยคลัทช์ จังหวะนั้นเท้าซ้ายยกจากสแตนด์ วินาทีที่รถเริ่มไหล เธอกำแฮนด์แน่นเกินไปนิด แล้วสูดลมหายใจ วางศอกให้ผ่อน คลายไหล่ “ดี…หาจุดเสียดทานเจอแล้ว” ลาเรสพึมพำเหมือนยิ้มอยู่ในลมหายใจ


ในการลองทางตรงเธอบิดคันเร่งเพิ่มทีละเสี้ยว มองปลายกรวยสีส้มไกลข้างหน้า ไม่ใช่กรวดตรงหน้า ฟังเสียงเครื่องขึ้นรอบ เกียร์หนึ่งหมดแรงฉุด ปลายเท้าตะปบคันเกียร์ขึ้นสองอย่างเนียน คันเร่งผ่อนจังหวะเดียวแล้วต่อ เธอยิ้มมุมปากกับความลื่นไหลที่เริ่มเป็นของตัวเอง “เร่งนุ่ม เบรกชัด” เธอท่องในหัว ปลายทางตรงใกล้เข้ามา เธอบีบเบรกหน้าเพิ่มแรงไล่จากเบาไปหนัก ขณะเท้าเหยียบหลังเสริม น้ำหนักย้ายไปหน้าตามหลักฟิสิกส์ รถนิ่ง เสียงยางไล้ทรายดังซ่าเบา ๆ ก่อนหยุดตรงเส้น ลาเรสพยักหน้า “เบรกเป็นสเต็ป ดีมาก”

ในการลองรูปตัว S กรวยวางซิกแซก โมนีก้าดูเส้นทาง ตั้งลำก่อนกรวยแรก น้ำหนักลำตัวขยับเข้าออกตามโค้ง สายตาพุ่งผ่านปลายกรวยถัดไป ไม่จับจ้องสิ่งกีดขวาง “มองไปที่เส้นทาง ไม่ใช่อุปสรรค” เธอเลี้ยวซ้าย ปลายคันเร่งคงที่คืนตัว เปลี่ยนเป็นขวาแบบไหลเดียว เสียงเครื่องรักษารอบอย่างเสถียร ข้อมือไม่กระตุก ล้อไม่เสียศูนย์ ลาเรสลอยตามข้าง ๆ “นี่แหละ flow; อย่าลืมหายใจ” เธอหัวเราะหอบเบา ๆ “รับทราบค่ะครู ก่อนหน้าหายใจด้วยความหัวร้อนอย่างเดียว”

ในช่วงทางวงกลมโมนีก้าออกตัวช้า ๆ เข้าเส้นวงกว้าง คุมความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่ทรงได้ ใช้คลัทช์เสี้ยวและคันเร่งน้อย ๆ รักษาสมดุล น้ำหนักตัวกดด้านนอกเล็กน้อยเพื่อยึดเกาะ เสียงเครื่องเป็นเมโทรนอมคงจังหวะ “นี่คือ ‘คุมที่ช้า’ ยากกว่าคุมที่เร็ว” ลาเรสเตือน เธอมีส่ายนิด ๆ แล้วกู้กลับได้ทัน พลิ้วผ่านจุดเอเพ็กซ์ เปิดคันเร่งเพิ่มน้อย ๆ ออกจากวงด้วยสายตาไปที่ทางตรง “โค้งคือบทสนทนา ไม่ใช่สนามประลองอีโก้” เขาเอ่ย เธอสบถในใจเล็ก ๆ แต่ยอมรับว่าจริง


หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเวิร์กสเตชันเป็นรถจี๊ป เธอสวมเข็มขัด ตรวจสอบกระจก สัญญาณ ก่อนเคลื่อน ออกตัวด้วยเบรกเท้า ปล่อยเบรกมือ พวงมาลัยแบบผลักดึงทแยงเข้าเส้นตัว S กว้าง ๆ เธอเรียนรู้จุดหมุนของท้ายรถเมื่อถอยหลังเข้าซอง ลาเรสชี้กรวยสองใบก้นรถคือเส้นกึ่งกลางสะโพกเธอคิดแบบนั้นเวลาเล็งท้าย โมนีก้าหักเลี้ยวช้า ๆ ตามมุมกระจกข้าง แก้คืนครึ่งรอบก่อนตรงตัว รถเข้ากล่องพอดีจนกรวดแทบไม่สั่น ลาเรสเป่าปาก “คลาสสิก” เธอยักไหล่ “หนูดูคลิปมาค่ะ…สาบานว่าไม่ใช่เพราะอยากชนะใคร แค่…หงุดหงิดอยู่”


กลับมาที่มอเตอร์ไซค์การทรงตัวที่ความเร็วต่ำขั้นต่อไป เลี้ยววงแคบแบบ U-turn ในช่องแคบ เธอมองไกลไปจุดออก ใช้คลัทช์เฟเธอร์ แบ่งเบรกหลังพยุง แฮนด์มุมสุดอย่างนุ่มนวล น้ำหนักกดพักเท้าด้านนอก รถเอนไปในองศาที่ทำให้หัวใจหยุดเต้นชั่วคราว ก่อนพยุงขึ้นได้อย่างสวย ลาเรสหัวเราะ “นั่นแหละ magic ของสมดุล”


ระหว่างพักสั้น ๆ ลาเรสชี้ชุดอุปกรณ์ยืมฝึกที่กองไว้ แผ่นรองเข่า แผ่นอก สนับศอก “มีให้ใช้ตอนซ้อมเฉพาะกิจ แต่ในคลาสนี้ข้อบังคับจริง ๆ คือหมวกกันน็อกเท่านั้น ส่วนยานยนต์ฝึกตรวจสภาพให้พร้อมเสมอ แล้วรับผิดชอบที่มือและหัวของตัวเอง” โมนีก้าตีคางกับสายรัดหมวกจนดังเบา ๆ “หัวนี้ของหนู จะเก็บไว้ใช้บ่นครูอีกหลายครั้งค่ะ” เขาเชิดคาง “ถ้าขับได้เนียนขึ้น ฉันยอมฟัง”


รอบสุดท้ายคือคอมโบที่รวมทุกอย่าง ทางตรง–ตัว S–วงกลม–จอด–ถอย–กลับเข้า U โมนีก้าออกตัวอย่างนิ่ง ระยะเบรกวางก่อนเส้น เลี้ยวซิกแซกด้วยสายตาอ่านไกล วงกลมเนียนกว่าทุกรอบ เปิดคันเร่งออกโค้งอย่างพอดี จอดเทียบกรวย เอาเกียร์ว่าง ดึงเบรกหน้าค้าง 1 วินาที ดับเครื่องตามพิธีปิดคอร์ส เธอถอดหมวก เหงื่อซึมกรอบหน้า แต่รอยยิ้มค่อย ๆ ขึ้นแทนที่เส้นตึงจากเช้า


ลาเรสลอยวนแล้วแตะหัวไหล่เธอราวลมอุ่น “เทคนิควันนี้ที่เธอยึดได้ชัดคือมองที่ทาง ไม่มองที่กลัว, คุมคันเร่งนิ่มนวล, เบรกเป็นชั้น, และบาลานซ์ที่ความเร็วต่ำ จำไว้ ทักษะเหล่านี้ไม่ใช่ของขลัง ต้องรดน้ำทุกวัน” โมนีก้าเชิดคางตอนเขาบอก “หนูจะกลับมารดน้ำค่ะครู แต่ขอประกาศหน่อย หนูจะทำให้คลาสหน้าครูไม่มีอะไรให้แซะนอกจากคำชม ยกเว้นว่าครูจะให้การบ้านหนูอีก หนูอาจจะหงุดหงิด” วิญญาณนักแข่งหัวเราะสะท้อนอัฒจันทร์


เธอมองสนามที่เริ่มถูกเงาเย็นกลืนกิน หัวใจยังเต้นแรงแต่ไม่ใช่เพราะโกรธอีกต่อไป เป็นแรงเต้นของคนพบจังหวะของตัวเองบนยางสองเส้นและพวงมาลัยหนึ่งวง เธอสวมหมวกอีกครั้งเพื่อเข็นรถเข้าช่องเก็บ “ไปกันต่อเถอะ โมนีก้า แม่งเอ้ย” ลมยามเย็นพัดผ่านคล้ายคำตอบ และที่ริมทรายโบราณนั้น เธอรู้สึกว่าความคุกรุ่นกลายเป็นเชื้อไฟที่เผาเฉพาะความกลัว เหลือไว้เพียงแรงตั้งใจที่ขับเคลื่อนให้ไกลขึ้น เร็วขึ้นแต่ปลอดภัยกว่าเดิม


อื่น ๆ: วิชาขับขี่ยานยนต์และมอเตอร์ไซต์ ( 2 / 4 )

ส่ง การบ้านคลาสที่ 1 ได้รับ +1 Point +20 ความกล้าหาญ

รางวัล: พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5 [Lares-06] แจ็คสัน ฟอสเตอร์

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Lares-06] แจ็คสัน ฟอสเตอร์ เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-10-14 17:05
God
คุณได้รับ +20 ความกล้า โพสต์ 2025-10-14 17:04
โพสต์ 31994 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-14 16:14
โพสต์ 31,994 ไบต์และได้รับ +9 EXP +9 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก รากพันธนาการ  โพสต์ 2025-10-14 16:14
โพสต์ 31,994 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก หนังสือนิยาย  โพสต์ 2025-10-14 16:14
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-10-16 06:35:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 10 เดือน ตุลาคม ปี 2025

ช่วงเช้า เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ เซอร์คัส แม็กซิมัส กรุงโรมใหม่ ค่ายจูปิเตอร์ เรียนวิชาการฝึกเดินทัพ (MD) (พบ เฟเบียส รูฟัส)


แสงแดดยามเช้าของกรุงโรมใหม่ในเวลาเก้าโมงตรงสาดกระทบผืนทรายสีทองของสนามเซอร์คัส แม็กซิมัสจนระยิบระยับดั่งผืนผ้าไหมที่คลี่ออกกลางหุบเขา เสียงฝีเท้าทหารเดมี่ก๊อดจากหลายกองร้อยกึกก้องเป็นจังหวะก้องสะท้อนตามอัฒจันทร์ขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยผู้สังเกตการณ์และครูฝึก วิหารหินอ่อนข้างสนามทอดเงาเรียวยาวลงบนลานฝึกอันร้อนระอุในวันสุดท้ายของภาคเรียนที่ใครหลายคนรอคอย


โมนีก้าในชุดเกราะโรมันเต็มยศยืนอยู่แถวหน้าของกองร้อยที่สอง รองเท้าทหารแบบ caligae ของเธอส่องแสงสะท้อนแดดจนเห็นคราบฝุ่นตามรอยเดินเท้าที่ผ่านศึกฝึกมาแล้วหลายสัปดาห์ ใบหน้าเธอมีเหงื่อบาง ๆ แต่มุมปากยังคงยกยิ้มเมื่อมองเพื่อนร่วมรุ่นที่ต่างกำลังจัดเข็มขัด ดึงสายเกราะ และตรวจสอบเข็มทิศจำลองในมือ ทุกคนต่างรู้ว่าวันนี้คือคาบสุดท้ายของวิชาการฝึกเดินทัพ (Marching Discipline) วิชาที่คัดคนได้มากพอ ๆ กับทำให้คนถอดใจ


เสียงลมอุ่นพัดผ่านก่อนจะตามมาด้วยประกายเรืองแสงสีม่วงเข้มที่ลอยขึ้นกลางสนาม เฟเบียส รูฟัส ปรากฏตัวในร่างลาเรสผู้ทรงอำนาจ แสงรอบตัวเขาเปลี่ยนเป็นไอหมอกสีน้ำเงินเจือแดงที่คล้ายควันธูปจากวิหาร เขามีรูปลักษณ์สง่างามในชุดเกราะนายพลยุคจักรพรรดิเนโร ดวงตาคมปลาบเหมือนคนยังมีชีวิต แต่แฝงไปด้วยเงาแห่งอดีตที่ไม่เคยเลือนจากจิตวิญญาณ


“ทหารแห่งจูปิเตอร์ วันนี้คือวันสุดท้ายของพวกเจ้ากับข้า” เสียงของเขาแผ่วลึกแต่ก้องไกลราวเสียงเหล็กเสียดกัน “วันนี้เราจะเรียนสิ่งที่เรียกว่า การเดินทัพแห่งยุทธวิธี มันไม่ใช่แค่การก้าวเท้า แต่คือศิลปะแห่งการอยู่รอดในสนามรบของความเป็นจริง”


เขาเริ่มอธิบายด้วยท่วงท่าแน่วแน่ ขณะที่เงาในดวงตาของเขาสะท้อนภาพสนามรบเมื่อสองพันปีก่อน “การเดินทัพเพื่อสอดแนมต้องเป็นเหมือนเงาในราตรี เดินโดยไม่มีเสียง หายใจโดยไม่มีร่องรอย” เขาเดินวนรอบนักเรียนอย่างสงบ แต่ทุกก้าวของลาเรสผู้นี้กลับทำให้ผืนทรายสั่นระริก “ส่วนการเข้าตี ต้องเป็นเหมือนคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งในคราวเดียว ไม่ลังเลไม่หยุดกลางทางและการถอยร่น... ต้องถอยอย่างมีศักดิ์ศรี ถอยเพื่อรอดไม่ใช่เพื่อหนี”


“กองทัพคือร่างกายเดียวกัน!” เสียงของเขาดังกังวานจนธงที่ข้างสนามสะบัดไหว “ไม่มีขาไหนจะก้าวพ้นได้หากหัวไม่สั่ง ไม่มีหัวใดจะยืนอยู่ได้หากขาไม่มั่นคง!” เขาลอยลงมาแตะพื้นสนาม เสียงฝีเท้าในลานเงียบสนิทราวต้องมนตร์


โมนีก้าจดทุกคำในใจ เธอพยายามตั้งใจฟังอย่างที่สัญญาไว้กับแม่ที่วิหารเซเรส เสียงเฟเบียสพูดถึงการรักษาความเงียบและการพรางตัว ทำให้เธอนึกถึงคำสอนของท่านทวดเจนัสที่เคยอ่านเจอในหนังสือ 


ภาคทฤษฎีเริ่มต้นขึ้น เฟเบียสลากดาบวิญญาณวาดเส้นกลางอากาศจนเกิดภาพจำลองของสนามรบเต็มท้องฟ้า “การเดินทัพเพื่อสอดแนม ต้องไม่ใช่แค่การเดินเงียบแต่ต้องรู้จักกลืนเข้าไปในภูมิประเทศ รู้จักฟังทิศทางลมและกลิ่นของศัตรู” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม “การเข้าตีต้องประสานจังหวะขาและใจ ไม่มีใครชนะได้ด้วยการวิ่งเร็ว แต่ด้วยการก้าวในเวลาที่ศัตรูไม่คาดคิด”


จากนั้นเขาให้พักสั้น ๆ ก่อนโยนกระบอกเข็มทิศจำลองไปให้แต่ละกองร้อย “ทบทวนให้ไว ใช้แผนที่ ใช้เข็มทิศ คิดให้เหมือนอยู่กลางสนามจริง” เสียงหวีดแตรดังขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มภารกิจจำลอง หลังจากนั้นเฟเบียสให้ทุกคนทบทวนการใช้เข็มทิศและแผนที่จำลองสนามที่กระจายอยู่บนโต๊ะหิน เขาเดินตรวจรอบ ๆ จนมาหยุดข้างหลังโมนีก้า เธอรู้สึกได้ถึงพลังเย็นของวิญญาณที่ลอยอยู่ตรงหลังคอ “ศูนย์ทิศเหนืออยู่ตรงไหน เซ็นจูเรี่ยนกองร้อยสอง?” เขาถามเรียบเสียง


โมนีก้ายกเข็มทิศขึ้นพลิกตามแนวรอยบากอย่างมั่นใจ เฟเบียสพยักหน้าเงียบ ๆ ก่อนจะผายมือไปยังปลายสนาม “ดี... ตอนนี้เริ่มการฝึกจำลอง”


ทันใดนั้นสนามเซอร์คัส แม็กซิมัสก็แปรเปลี่ยนเป็นภาพจำลองยุทธภูมิ ลมพัดแรงขึ้น เงาของอาคารรอบข้างพร่าเลือนกลายเป็นป่าทึบจำลองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแสงแดดบ่ายจัด กลิ่นดิน กลิ่นเหงื่อ และกลิ่นฝุ่นผสมกันจนหายใจแทบไม่ออก เธอและเพื่อนร่วมกองเริ่มเดินทัพอย่างระมัดระวัง เสียงโลหะกระทบกันทุกจังหวะก้าวต้องสอดคล้องกันโดยไม่มีเสียงเกินจำเป็น


เฟเบียสลอยอยู่เหนือหัวพวกเขา คอยให้คำสั่ง “กองสอดแนม หน้า! กองป้องกันขวา เตรียมพรางตา! ห้ามพูด ห้ามสบตาศัตรูจำลอง!” เสียงเขาดังก้องจนผืนทรายสั่นสะเทือน


โมนีก้าใช้เข็มทิศจำลองคำนวณระยะทางผ่านจุดพรางตัวตามแบบที่เรียน เธอให้สัญญาณมือแก่ทีม ก้มหลบใต้แนวไม้จำลองแล้วเคลื่อนตัวเงียบเหมือนเงาของหญ้า เสียงหัวใจเต้นในอกดังจนเธอเกือบเผลอหัวเราะกับตัวเอง ความตื่นเต้นและความสนุกประหลาดผสมกันจนแทบแยกไม่ออกว่าเธอกำลังเรียนหรืออยู่ในสงครามจริง


เมื่อภารกิจสอดแนมผ่านไปอย่างราบรื่น เฟเบียสสั่งให้เริ่มจำลองการเดินทัพกลางคืน เขาเปิดโดมอะไรก็ไม่รู้จน สนามทั้งสนามมืดลงทันที มีเพียงแสงจันทร์จำลองสีเงินซีดที่ส่องผ่านหมอกควัน เธอและทีมต้องเดินเรียงแถวโดยใช้สัญญาณจากแสงไฟในเข็มทิศเท่านั้น ไม่มีคำพูด มีเพียงเสียงหายใจร่วมกันของคนทั้งกองที่สะท้อนในอก และสุดท้าย เมื่อแสงไฟกลับคืน เฟเบียสให้สัญญาณ “จัดตั้งค่ายพักแรม!” ทุกคนต้องใช้เวลาน้อยกว่าห้านาทีสร้างที่พักจำลองจากผ้าใบและเสาไม้ โมนีก้าออกคำสั่งได้อย่างมั่นคง เธอรู้สึกถึงพลังผู้นำบางอย่างในตัวเองที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจากการฝึกอันยาวนานนี้


เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เฟเบียสมองลงมาจากกลางอากาศ ใบหน้าเคร่งครึ้มแต่แววตาอ่อนลงเล็กน้อย “ดี...แต่จำไว้” เขาเอ่ยช้า ๆ น้ำเสียงเย็นเยียบเหมือนลมจากโบราณสถาน “นี่คือการฝึก ไม่ใช่การสอบจริง การสอบจะไม่ง่ายแบบนี้ จำคำข้าไว้ให้ดี เพราะในสนามจริง ไม่มีโอกาสที่สองสำหรับผู้ที่เสียจังหวะไปแม้ครึ่งลมหายใจ”


โมนีก้าก้มศีรษะ “ขอบคุณสำหรับคำสอนค่ะ”


ลาเรสพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะหายวับไปพร้อมละอองแสงที่แตกตัวกลางอากาศ เหล่าทหารหนุ่มสาวรวมถึงโมนีก้ายืนมองท้องฟ้าเหนือสนาม เซอร์คัส แม็กซิมัสสว่างอีกครั้งด้วยแสงแดดยามสาย


เมื่อทุกคนแยกย้ายกลับ เธอเดินอยู่ท้ายขบวน ยกเข็มทิศขึ้นหมุนเล่นอย่างคนอารมณ์ดี พลางพึมพำ “ก็ไม่เลวเลยนี่นา คาบสุดท้าย...” แล้วหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง “แม่คงเห็นอยู่แน่เลย ว่าลูกสาวคนนี้ ไม่ได้หลับในคาบสุดท้ายซะทีเดียว” แสงแดดโรมันใหม่ส่องจับขอบเกราะของเธอเป็นประกาย ท่ามกลางเสียงธงที่พลิ้วตามลมเหนือเซอร์คัส แม็กซิมัสในวันสุดท้ายของการฝึกเดินทัพของเธอ จบสิ้นสักที!! โว้ย

อื่น ๆ: วิชาการฝึกเดินทัพ ( 4 / 4 )

รางวัล: พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5 [Lares-02] เฟเบียส รูฟัส

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Lares-02] เฟเบียส รูฟัส เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-10-16 10:19
โพสต์ 30915 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-16 06:35
โพสต์ 30,915 ไบต์และได้รับ +9 EXP +8 เกียรติยศ +9 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก สัมภาระเต็มรูปแบบ  โพสต์ 2025-10-16 06:35
โพสต์ 30,915 ไบต์และได้รับ +9 EXP +12 เกียรติยศ +12 ความศรัทธา จาก เข็มทิศ  โพสต์ 2025-10-16 06:35
โพสต์ 30,915 ไบต์และได้รับ +9 EXP +9 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก รากพันธนาการ  โพสต์ 2025-10-16 06:35
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-11-25 12:05:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 24 เดือน พฤศจิกายน ปี 2025

ช่วงบ่าย เวลา 14.00 - 16.00 น. เป็นต้นไป ณ เซอร์คัส แม็กซิมัส 


แสงอาทิตย์ยามบ่ายสองสาดลงบนลานทรายกว้างของเซอร์คัสแม็กซิมัสแห่งกรุงโรมใหม่ รัศมีทองอบอุ่นสะท้อนกับธงสีม่วงทองที่ปักเรียงรายบนราวกั้นสูง ส่งเสียงกระพือเบา ๆ ตามแรงลม เสียงฝูงชนที่มาใช้พื้นที่ฝึกซ้อมในส่วนอื่นของสนามดังเป็นฉากหลังห่างไกล ไม่ได้รบกวนสมาธิของผู้หญิงตัวเล็กผมสีน้ำตาลเข้มไฮไลท์ฟ้าอิเล็กทริกที่เดินก้าวเข้ามาพร้อมหมวกกันน็อกในมือ


โมนีก้าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กลิ่นไลแลคหวานผสมเบอร์รี่อ่อน ๆ ระบายออกมากับจังหวะการเดินของเธอ เมื่อก้าวพ้นเงาของเสาประดับมหึมา เธอก็เห็นร่างลาร์เรสประจำสนาม ลาร์เรสสีส้มชายหนุ่มผมทองสั้นใบหน้าคมสัน ยืนกอดอกดูเธออยู่ก่อนแล้วด้วยรอยยิ้มที่ติดเป็นนิสัย “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคุณบลอสซัม” แจ็คสันพูดขึ้นก่อน เสียงทุ้มอบอุ่นลอยมาตามลม “รับตำแหน่งเซนจูเรี่ยนแล้วไม่ว่างเลยสินะ”


โมนีก้ายกมือแตะขมับตัวเองเบา ๆ แล้วหัวเราะแผ่ว “ก็นิดหน่อยค่ะ ช่วงนี้ภารกิจเยอะมากเลยค่ะ เหนื่อยจนจะล้มแหล่มิล้มแหล่แล้ว เย็นนี้ก็ต้องไปทำพิธีเปิด The Grand Brumalia 2025 อีก” แจ็คสันเลิกคิ้วแบบรู้ทัน “อ้อ จริงสิ งานใหญ่ของนิวโรม… งั้นยิ่งต้องฝึกให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้ไม่เหนื่อยเพิ่ม คลาสนี้มีเธอคนเดียวด้วย คนอื่นเขาจบไปตั้งแต่สี่คลาสแรกแล้วล่ะนะ”


“งั้นขอฝากตัวด้วยนะคะ” โมนีก้าเธอสวมหมวกกันน็อกอย่างระมัดระวัง ก่อนจะจัดโค้ทให้เข้าที่


แจ็คสันผายมือให้เธอเดินตามลงไปยังพื้นที่ฝึก “เริ่มเลยก็แล้วกัน วันนี้จะเน้นการพัฒนาทักษะการขับขี่ในสภาพภูมิประเทศท้าทาย ถ้าเธอจะออกภารกิจไกล ๆ แนะนำให้จำให้ขึ้นใจ” ลมอุ่นพัดผ่านในสนามแข่งขนาดมหึมา ทรายละเอียดฟุ้งขึ้นเล็กน้อยรอบรองเท้าส้นสูงของโมนีก้าเมื่อเธอหยุดยืนรอฟัง “พื้นผิวแรกเป็นโคลน” เขาย่อตัวลงใช้กิ่งไม้ชี้ไปยังพื้นที่จำลองโคลนสีเข้มที่ลึกจนถึงข้อเท้าของหุ่นยนต์ม้าที่ตั้งอยู่เป็นตัวอย่าง “จำไว้นะคุณบลอสซัม โคลนจะดูดล้อรถของเธอเหมือนปีศาจทะเลน้ำตื้น อย่าใช้ความเร็วสูง ให้ควบคุมรอบเครื่องต่ำที่สุด ขับให้คงที่ แล้วถ้าน้ำหนักรถเริ่มเอียง ให้เธอโยกสะโพกสวนทิศเหมือนตอนโยกเรือไม่ให้ล้ม”


โมนีก้าก้มมองพื้นที่ข้างหน้า ทำหน้าเหมือนอยากบอกว่า โอเค… ขอโทษนะคะรองเท้าส้นสูงของฉัน แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา


“ต่อไป ทราย” แจ็คสันเดินนำไปยังพื้นที่สีทองสว่าง “ทรายนี่แหละศัตรูตัวฉกาจของผู้เริ่มต้น มันลื่น มันหลอก มันดูเหมือนง่าย แต่พอซัดเข้าจริงก็เหมือนจะลากรถลงนรกต่อหน้าต่อตา เธออย่า…ย้ำว่าอย่า เหยียบเบรกแรงเด็ดขาดให้ใช้คันเร่งประคองแทน”


โมนีก้าพยักหน้า “ทราย… เข้าใจค่ะ เหมือนตอนเดินริมหาดเวลาส้นสูงจมใช่ไหมคะ”

แจ็คสันยิ้มขำ “ใช่ ประมาณนั้นเลย”


เขาพาเธอเดินต่อไปยังหินก้อนใหญ่ที่เรียงเป็นแนวเส้นทางสูงต่ำ “พื้นหิน อันนี้จะสะเทือนแรง เธอต้องยืดแขน ขยับลำตัวให้ล้อหน้าลอยขึ้นเล็ก ๆ เวลาข้ามหิน อย่าปล่อยให้แรงกระแทกมาถึงข้อมือ ไม่งั้นเจ็บไปอีกสามวัน” โมนีก้าทำท่าบิดข้อมือเบา ๆ เหมือนรู้สึกตามไปแล้ว “ต่อไป เนินชัน” แจ็คสันยืนหน้าทางลาดสูงเกือบยี่สิบองศา “เธอต้องถ่ายน้ำหนักให้ดีนะโมนีก้า อย่าเอนไปด้านหลังจนรถยกล้อหน้า แล้วพยายามคุมรอบเครื่องให้นิ่งที่สุด ถ้าหัวใจเต้นแรง ก็ปล่อยให้มันเต้นไปเถอะแต่คันเร่งอย่าเต้นตาม”

 

โมนีก้าหัวเราะ “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะคุณครู ฉันจะพยายามทำให้หัวใจไม่ลากคันเร่งไปด้วยนะคะ”

“ดี งั้นไปลองจริงเลย” เขาตบไหล่เธอเบา ๆ แต่ทว่าก็ทะลุอยู่ดี หรือเปล่านะ? ไม่แน่ใจเหมือนกันเป็นวิญญาณอ่ะ


โมนีก้าขยับตัวขึ้นคร่อมยานยนต์ฝึก สีดำด้านผสมลายทองดุจกงล้ออาทิตย์ เธอสวมถุงมือหนังแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองเส้นทางวิบากจำลองที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาของเซอร์คัสแม็กซิมัส เครื่องยนต์ส่งเสียงคำรามต่ำ ๆ เมื่อเธอบิดสตาร์ต แรงสั่นสะเทือนเคลื่อนขึ้นมาตามท่อนแขนจนถึงหน้าอก ทว่ามันกลับทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวาอย่างประหลาด “โอเคโมนีก้า ไปเลย!” แจ็คสันโบกมือส่งสัญญาณ


ยานพาหนะพุ่งออกตัวช้า ๆ ผ่านพื้นโคลนก่อน เธอคุมคันเร่งนิ่งตามที่สอน ล้อจมลงไปจนโคลนกระเด็นเลอะรองเท้าส้นสูงคู่โปรด แต่โมนีก้ากลับกัดฟันยิ้ม “ฉันจะไม่หงอให้โคลนเด็ดขาดเลย” ต่อด้วยพื้นทราย เสียงล้อบดลงไปเบา ๆ ทำให้ยานยนต์โยกซ้ายขวาเล็กน้อย แต่เธอประคองคันเร่งจนกลับมาตรงได้


“ดีมากโมนีก้า!” แจ็คสันตะโกนลั่นสนาม


จากนั้นเธอก็เร่งความเร็วขึ้นมานิดหนึ่ง เพียงพอให้เครื่องสั่นสนุกมือ ก่อนจะเข้าสู่พื้นหิน โมนีก้ายืดแขน ควบคุมล้อหน้าให้ลอยขึ้นตามเทคนิคที่สอน เสียงหัวใจเต้นเร็ววูบหนึ่ง แต่เธอก็ผ่านมาได้อย่างงดงาม ถึงเนินชัน… เธอสูดหายใจยาวอีกครั้ง ยานพาหนะปีนขึ้นไปช้า ๆ แต่มั่นคง ก่อนจะถึงยอดและไถลลงอีกฝั่งจนทรายฟุ้งขึ้นสูง โมเธอหัวเราะออกมาทั้ง ๆ ที่ลมตีหน้าแรง นี่มันสนุกกว่าที่คิดอีกนะเนี้ย…!


เมื่อเธอกลับมาหยุดหน้าครูผู้สอน แจ็คสันยักคิ้วให้คะแนนแบบกวน ๆ “ยอดเยี่ยมเลยเซนจูเรี่ยนบลอสซัม ผ่านทั้งหมดโดยไม่เจ็บตัวด้วยซ้ำ… นี่เธอแน่ใจเหรอว่าเพิ่งเคยฝึก?” โมนีก้ายกหมวกกันน็อกขึ้น เผยใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะทั้งแดดทั้งความมันส์ของการได้ขับเป็นครั้งแรก “ก็…ฉันมีคุณครูเก่งนี่คะ” เธอพยายามบอกแบบนั้นแต่ความจริงแล้วเธอก็แค่ชอบหนังที่เกี่ยวกับรถยนต์เท่านั้นเอง และทั้งสองก็ฝึกกันจนจบคลาสโมนีก้าก็ต้องขอตัวไปทำงานต่อ

อื่น ๆ: วิชาขับขี่ยานยนต์และมอเตอร์ไซต์ ( 3 / 4 )


รางวัล: [Lares-06] แจ็คสัน ฟอสเตอร์

พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5

กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Lares-06] แจ็คสัน ฟอสเตอร์ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2025-11-25 12:16
โพสต์ 31729 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-25 12:05
โพสต์ 31,729 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก หมวกกันน็อต  โพสต์ 2025-11-25 12:05
โพสต์ 31,729 ไบต์และได้รับ +9 EXP +8 ความศรัทธา จาก จำแลงร่าง  โพสต์ 2025-11-25 12:05
โพสต์ 31,729 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก แหวนเคลื่อนย้าย  โพสต์ 2025-11-25 12:05
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-7 17:35:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Clementis
Haus of Ratigan • Daughter of Justitia • Legacy of Orcus
Place
เซอร์คัส แม็กซิมัส
Date and Time
วันที่ 3 ธันวาคม 2025 • 08.14 น.
Purpose
ภารกิจไกด์เดินชมรอบค่าย
NPC
วินเซนโซ เบอร์กาม็อตโต
ทิศทางที่ทั้งสองกำลังมุ่งหน้าตรงไปให้ความรู้สึกแตกต่างกับอะคาเดเมีย เซเนกาที่เพิ่งละออกมาอย่างสิ้นเชิง
“ฉันว่าเราเปลี่ยนบรรยากาศไปที่ที่เสียงดังและฝุ่นเยอะ ๆ บ้างดีกว่ามั้ง”
วินเซนโซพูดในจังหวะที่บ่งบอกว่าตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพาเธอมาถึงสนามกีฬาขนาดมหึมาที่ยังคงความยิ่งใหญ่แบบโรมันโบราณ แต่มีโครงสร้างที่ดูแข็งแรงและทันสมัยกว่ามาก
“ที่นี่คือ เซอร์คัส แม็กซิมัส มันยังคงใช้แข่งม้าอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้มันสุดยอดกว่าเดิมคือ การแข่งขันรถยนต์ความเร็วสูง !”
น้ำเสียงที่เขาใช้ในการอธิบายสถานที่ดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ฝ่ายราทิแกนชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นสนามแข่งทั้งกว้างใหญ่และโอ่อ่า แม้จะอยู่ไกลแต่ก็พอจินตนาการถึงเสียงเครื่องยนต์แว่วจางและฝุ่นที่ตลบอบอวลได้ไม่ยาก นี่เป็นสถานที่ที่ตรงกันข้ามกับรสนิยมของเธออย่างสิ้นเชิง แต่ก็เป็นสถานที่ที่เข้ากับความหลงใหลในกลไกของวินเซนโซมากอย่างไม่น่าประหลาดใจ
“พวกเขาอนุญาตให้นำรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ลงมาขับแข่งกันที่นี่ตอนไหนก็ได้เลยเหรอคะ”
คลีเมนทิสถามพลางหรี่ตาเล็กน้อยราวกับพยายามมองเห็นรายละเอียดของสนามแข่งให้ชัดเจน
“แน่นอน! มันคือความตื่นเต้นเร้าใจที่ถูกปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย ฉันชอบมาดูการแข่งมอเตอร์ไซค์ที่นี่เป็นพิเศษ”
วินเซนโซตอบ ท่าทางชวนให้นึกถึงเด็กได้ของเล่นใหม่อยู่ในที เขาหันมามองคนอายุน้อยกว่าราวกับอยากจะเชื้อเชิญให้เธอร่วมสัมผัสความเร็วด้วยกัน
“ฉันจำได้ว่าพี่ชอบประดิษฐ์ประดอยสิ่งของแต่เพิ่งรู้ว่าสนใจอะไรแบบนี้ด้วย เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกหรือเปล่าคะ”
“ก็ต้องอย่างนั้นสิ” เขาว่าอย่างนั้นแถมยังไม่ลืมคะยั้นคะยอต่อ “เธอต้องลองมาดูสักครั้งนะ มันดุเดือดจนลืมหายใจเลยล่ะ !”

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-12-7 20:04
โพสต์ 8478 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-12-7 17:35
โพสต์ 8,478 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2025-12-7 17:35
โพสต์ 8,478 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +3 ความศรัทธา จาก ช่อดอกไม้  โพสต์ 2025-12-7 17:35
โพสต์ 8,478 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก เข็มทิศ  โพสต์ 2025-12-7 17:35
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กำแพงแห่งคำสั่ง
สัมผัสแห่งความไม่สมดุล
ดาบสปาเธร์
หมวกเกราะกาเลีย
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
Hydro X
หนังสือนิยาย
กล่องดนตรี
เกมคอนโซลพกพา
ช่อดอกไม้
ต่างหูเงิน
ชุดเครื่องเพชร
เข็มทิศ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x2
x1
x3
x2
x1
x5
x5
x2
x1
x1
x30
x3
x5
x2
x1
x2
x1
x2
x1
x1
x10
x5
x1
x2
x2
x5
โพสต์ 2025-12-13 01:05:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
20:30 น. อัฒจันทร์เซอร์คัส แม็กซิมัส (12/12/2025)
เสียงคำรามกึกก้องของเครื่องยนต์ที่ถูกดัดแปลงด้วยเวทมนตร์แผดเสียงแข่งกับเสียงเชียร์ของผู้คนบนอัฒจันทร์ ทันทีที่ไคและโนอาห์เดินเข้าสู่เขต ‘เซอร์คัส แม็กซิมัส’ ฝุ่นควันจากการดริฟต์และกลิ่นยางไหม้ก็ลอยมาปะทะหน้า ไคยกมือขึ้นปัดฝุ่นจาง ๆ หน้าจมูกเล็กน้อย แต่สายตากลับจับจ้องไปยังสนามแข่งวงรีเบื้องล่างด้วยความสนใจ
ภาพรถสปอร์ตเปิดประทุนที่พุ่งทะยานตีคู่ไปกับรถม้าศึกโบราณ และมอเตอร์ไซค์วิบากที่กำลังเหินข้ามสิ่งกีดขวาง เป็นภาพความโกลาหลที่ดูเหมือนจะไร้ทิศทางในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับไค เขาเห็นเส้นทาง
“ความเร็วที่ปราศจากการควบคุม คือหายนะ...” ไคเปรยออกมาขณะมองรถคันหนึ่งที่หลุดโค้งไปชนกองฟาง “แต่ถ้าควบคุมได้ มันคือศิลปะ”
“ถูกเผง” โนอาห์ยืนกอดอกพิงราวกั้น สายตามองตามรถแข่งคันสีดำที่แซงทางโค้งได้อย่างสวยงาม 
“ที่นี่คือที่ปลดปล่อยสัญชาตญาณดิบของเดมี่ก็อต บางคนใช้การต่อสู้ บางคนใช้ความเร็ว... นายล่ะ คุณชายเชมเบอร์เลน เคยซิ่งรถหรูของที่บ้านเล่นบ้างไหม?”
ไคหันมาสบตาโนอาห์ ริมฝีปากกระตุกยิ้มมุมปากอย่างท้าทาย แววตาที่มักจะนิ่งสงบฉายแววซุกซนขึ้นมาวูบหนึ่ง
“ผมไม่ซิ่งแบบไร้สาระหรอกครับพี่โนอาห์” ไคตอบเสียงเรียบ แต่แฝงความถือดี “แต่ถ้าถามว่าผมรู้วิธีเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงโดยไม่ให้รถคว่ำ หรือคำนวณแรงเสียดทานถนนเพื่อทำเวลาต่อรอบให้ดีที่สุดไหม... คำตอบคือ ใช่ ผมทำได้ดีเสียด้วย”
“โฮ่...” โนอาห์ลากเสียงยาว หันมามองรุ่นน้องเต็มตาด้วยความทึ่งปนชอบใจ “นอกจากจะฉลาด เป็นหนอนหนังสือ แล้วยังเป็นตีนผีด้วยเหรอเนี่ย? ครบเครื่องเกินไปแล้วมั้ง”
“ผมเรียกว่า การบริหารจัดการยานพาหนะอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ครับ” ไคแก้คำให้ดูดีขึ้น หัวเราะในลำคอเบา ๆ “ที่นี่น่าสนใจดีครับ การเอาเทคโนโลยีมาผสมกับสนามรบโบราณ... ถ้ามีโอกาส ผมอาจจะลองลงแข่งดูสักรอบ”
“ถ้าลงเมื่อไหร่ บอกฉันด้วย” โนอาห์ขยับเข้าไปใกล้ กระซิบข้างหูไคแข่งกับเสียงเครื่องยนต์ “ฉันจะเป็นเนวิเกเตอร์ให้นายเอง หรือไม่กH... เราอาจจะได้แข่งกันสักตั้ง อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างทฤษฎีเป๊ะ ๆ ของนาย กับสัญชาตญาณเพียว ๆ ของฉัน ใครจะเข้าเส้นชัยก่อน”
ไคหันขวับมาสบตาคนท้าทาย ระยะห่างที่ใกล้กันทำให้เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจาง ๆ จากตัวอีกฝ่ายที่ตัดกับกลิ่นควันรถในสนาม
“เตรียมใจแพ้ไว้ล่วงหน้าได้เลยครับ รุ่นพี่” ไคตอบกลับเสียงมั่นใจ แต่แววตาอ่อนลงกว่าปกติ “เพราะผมไม่คิดจะออมมือให้พี่แน่”
“นั่นแหละสิ่งที่ฉันอยากได้ยิน” โนอาห์ยิ้มกว้าง ตบหลังไคดังปึก “ไปกันเถอะ”
รับภารกิจไกด์เดินชมรอบค่าย
  • ทัวร์เซอร์คัส แม็กซิมัส EXP +15

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-12-13 01:12
Kai
โพสต์ 9441 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-12-13 01:05
Kai
โพสต์ 9,441 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2025-12-13 01:05
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x4
โพสต์ 2025-12-14 19:33:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-12-14 20:53

วันที่ 11 เดือน ธันวาคม ปี 2025

เวลาสาย เวลา 09.00 - 11.00 น. เป็นต้นไป ณ เซอร์คัส แม็กซิมัส กรุงโรมใหม่ ค่ายจูปิเตอร์ เรียนวิชาขับขี่ยานยนต์และมอเตอร์ไซต์ (VMO)


สนามเซอร์คัสแม็กซิมัสในยามเช้าเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ไม่มีเสียงผู้ชม ไม่มีฝุ่นคลุ้งจากล้อ ไม่มีเสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะ มีเพียงสายลมเช้าอุ่นที่พัดผ่านพื้นทรายสีทอง และแสงแดดอ่อนที่ส่องกระทบโครงสร้างสถาปัตยกรรมหินอ่อนจนเป็นประกาย เอสต้าในร่างของโมนีก้าเดินเข้ามาอย่างลั้ลลา มือข้างหนึ่งถือหมวกกันน็อกสีดำมันวาว อีกข้างถือแท็บเล็ตเดดาลัสที่เปิดหน้าคลาสเรียนไว้ เธอเหลือบมองชื่อคลาสบนจอยานยนต์ในภารกิจ (Vehicles in Missions) แล้วพึมพำเบา ๆ “ชื่อวิชาก็ชวนให้ซิ่งแต่เช้าเลยนะ… ก็ดีแหละ สนุกกว่าเรียนปลูกถั่วไปนั่งทฤษฎีเมนเดลแน่นอน”


ไม่นานก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง เงาเรืองแสงสีทองเคลื่อนไหวมาจากโค้งอัฒจันทร์ “เช้านี้เธอมาก่อนเวลาอีกนะโมนีก้า” แจ็คสัน ฟอสเตอร์ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแต่ทรงอำนาจ แสงรอบร่างเขากระพริบแผ่วเหมือนเปลวไฟในอากาศ ลาร์เรสหนุ่มในชุดแข่งรถสมัยโบราณที่ส่องประกายอยู่ในสนามที่ไร้ผู้คน


“ก็แน่สิคะ ฉันตั้งใจเรียนมากค่ะ” เอสต้าตอบเสียงหวาน ท่าทางสุภาพสุดชีวิตแบบที่เจ้าของร่างตัวจริงคงภูมิใจ... ถ้าไม่รู้ว่าข้างในตอนนี้เธออยากถามว่ารถมีกี่แรงม้าและระเบิดได้ไหม


แจ็คสันหัวเราะน้อย ๆ ก่อนเดินนำเธอไปที่โซนฝึก เสียงฝีเท้าของลาร์เรสเบาเหมือนลม “วันนี้เป็นคลาสที่ 4 คลาสสุดท้าย ยานยนต์ในภารกิจ เธอน่าจะอ่านวัตถุประสงค์แล้วนะ เราจะประยุกต์ใช้ทักษะการขับขี่ในสถานการณ์จริง ฝึกทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ... เริ่มจากทฤษฎีก่อน”


“ค่ะ” เอสต้าตอบเรียบร้อยเกินเหตุ ทั้งที่ในใจแอบบ่นว่า อีกแล้ว วิชาทฤษฎีอีกแล้ว ทำไมไม่ให้ฉันลองชนสักคันก่อนพูดดูสักหน่อยล่ะ แม่งเอ้ย


แจ็คสันยกมือขึ้น โฮโลกราฟิกสีน้ำเงินโปร่งใสปรากฏกลางอากาศ เป็นแผนที่จำลองกรุงโรมใหม่ที่เชื่อมต่อกับเส้นทางหลักของค่ายจูปิเตอร์ “ขั้นแรกคือการวางแผนเส้นทางและการใช้ GPS เธอต้องรู้ว่าการเดินทางในภารกิจไม่ได้มีแค่การขับเร็ว แต่ต้องประเมินเส้นทางปลอดภัยสำหรับการขนส่งเสบียง ลำเลียงพล หรือหลบหนีเมื่อจำเป็น”


“ค่ะ ฉันจะจำไว้ว่าขับช้า ๆ ก็เท่ดีเหมือนกัน” เธอตอบอย่างเนียน แต่ปลายนิ้วยังไล้ไปบนพวงมาลัยจำลองตรงหน้าเหมือนจะขอซิ่งอยู่ในใจ


“ต่อมา…” ลาร์เรสชี้ให้ดูภาพจำลองยานยนต์เสมือน “สถานการณ์จำลองวันนี้คือภารกิจส่งของไปยังจุดหมายทางเหนือของกรุงโรม เธอจะต้องนำเสบียงไปถึงโดยไม่ทำให้เสียหายหรือหล่นหายระหว่างทาง”


“อ๋อ ค่ะ ส่งของ…” เอสต้าพึมพำแล้วแอบกลอกตา ฟังดูเหมือนวิชาส่งพัสดุของปณ.โรมัน คนไหนเคยทำงาน ปณ.ไทย คือต้องชินกับสิ่งนี้แน่ ๆ เลย

“ส่วนภาคปฏิบัติ เราจะเริ่มจากการขับขี่ในสนามจำลอง” แจ็คสันผายมือไปยังยานยนต์สีเทาเงินที่รออยู่ตรงกลาง สนามรอบข้างมีสิ่งกีดขวางตั้งแต่เสาเหล็ก ถังน้ำมันจำลอง ไปจนถึงกับดักพลังเวท “ภารกิจแรกคือการขับส่งของในเส้นทางลาดตระเวน เธอจะต้องรักษาเสถียรภาพรถไม่ให้พลิก หรือเกิดความเสียหาย”

“เข้าใจค่าาา” เอสต้ารับคำเสียงเรียบแล้วสวมหมวกกันน็อกปิดหน้าทันทีที่หันหลังให้เขา ดวงตาเทาเงินของเธอวาวขึ้นเล็กน้อย “แต่ถ้าฉันทำให้มันสนุกกว่านั้นได้ล่ะ…?” เธอกระซิบกับตัวเองก่อนขึ้นประจำที่ ในขณะที่แจ็คสันยังคงยืนตรวจตารางบนแท็บเล็ต “ภารกิจสองจะเป็นการขับในสถานการณ์ฉุกเฉิน จำลองเหตุการณ์ถูกซุ่มโจมตี เธอต้องหลบหลีกสิ่งกีดขวางโดยไม่เสียการควบคุม”


“ได้เลยจ้าา… จะระวังไม่ให้รถหายไปทั้งคันแน่นอนค่ะ” เธอยิ้มหวานขณะเปิดระบบขับเคลื่อน เครื่องยนต์จำลองเริ่มคำรามเบา ๆ เสียงกลไกเวทสั่นสะเทือนในอากาศ “และสุดท้าย…” แจ็คสันพูดต่อ “เราจะฝึกการประเมินความเสียหายของยานยนต์ และซ่อมแซมเบื้องต้นหลังภารกิจ อย่าลืมว่านักรบที่ดีไม่ใช่แค่ขับเร็ว แต่ต้องเข้าใจเครื่องมือของตน”


“แน่นอนค่ะ ฉันจะจำไว้ว่าอย่าขับจนมันพังหมด” เอสต้าพูดพร้อมเสียงหัวเราะแผ่ว ๆ ที่คนเป็นครูอาจคิดว่าเธอพูดเล่น แต่ความจริงเธอกำลังตั้งใจเต็มที่ว่าจะทดสอบทุกระบบในสนามให้สุดขีด “งั้นเริ่มได้เลย โมนีก้า” แจ็คสันว่าพร้อมกดสัญญาณเริ่ม 


เอสต้าคว้าพวงมาลัยแน่น แสงแดดเช้าที่ลอดผ่านโดมสนามสะท้อนบนกระจกหน้ารถ เธอกระตุกยิ้มบางก่อนพึมพำในหมวกกันน็อก “ขับเพื่อภารกิจ... หรือขับเพื่อความสุขของชีวิตดีล่ะ?” แล้วเสียงเครื่องยนต์ก็คำรามขึ้นอย่างทรงพลัง เธอบิดคันเร่งในจังหวะแรก แรงพอจะทำให้ลาร์เรสหนุ่ม(?)เผลอหันมามองด้วยความตกใจ “อ๊ะ… ขอโทษค่ะ! แค่ทดสอบระบบเบรกเฉย ๆ” เสียงของเธอดังผ่านหมวกกันน็อกอย่างใสซื่อ แต่รอยยิ้มที่มุมปากกลับบอกอีกอย่างหนึ่งโดยสิ้นเชิง


“เริ่มภารกิจแรกได้เลย” แจ็คสันกดสัญญาณเริ่ม พื้นสนามเบื้องหน้ากลายเป็นเมืองจำลองขนาดย่อม มีถนน ป้อมกันภัย และสิ่งกีดขวางเรียงรายไปทั่ว “นำกล่องเสบียงพลังเวทนี้ไปส่งให้ถึงจุดหมายทางเหนือสุดโดยไม่ทำตก ไม่ชน และอย่าให้รถพัง”


“ค่ะ รับทราบค่ะ!” เสียงเอสต้าดังลอดหมวกกันน็อก แต่แทนที่เธอจะค่อย ๆ ขับออกจากจุดสตาร์ทตามแบบฝึก เธอกลับกดคันเร่งเต็มเท้า เครื่องยนต์คำรามลั่นจนเสียงก้องสะท้อนทั่วสนาม “วู้ววววววววววววววว!” รถพุ่งทะยานไปข้างหน้าเหมือนลูกธนูสีเงิน ลมแรงปะทะรอบตัวจนแจ็คสันต้องยกมือกันฝุ่น


“โมนีก้า! เราไม่ได้กำลังแข่งรถในสนามแข่ง!” เขาตะโกนขณะโฮโลกราฟิกตรวจจับสัญญาณเตือนเกินระดับจำกัด แจ็คสันถอนหายใจหนัก “ภารกิจสอง เริ่มเลย จำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน!” ทันใดนั้น หุ่นฝึกสามตัวโผล่ขึ้นจากพื้น ยิงลูกพลังเข้าใส่รถของเอสต้าหมุนตัวเบี่ยงหลบในระยะเฉียดตาย ก่อนจะกระโดดขึ้นเนินแล้วหมุนกลางอากาศ เธอกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง “อ๊าาาาา สนุกโว้ยยยยยยย!”


“นี่มันไม่ใช่โชว์สตันท์นะ!” แจ็คสันร้องอย่างสิ้นหวัง แต่สีหน้าเขาเริ่มกลายเป็นขำกลิ่นเหนื่อย เมื่อรถแตะพื้นอีกครั้ง เสียงระบบเตือนดังขึ้นแจ้งว่าการกระแทกแรงเกินขีดจำกัด แนะนำให้ตรวจสอบความเสียหาย แน่นอนว่ามันคือระบบของการฝึกนั้นแหละ  “อ๋อ ภารกิจสามใช่ไหมคะ ตรวจซ่อมยานยนต์เบื้องต้น?” เอสต้าหัวเราะร่า ปิดเครื่องแล้วลงจากรถ เธอใช้มือแตะเบา ๆ ที่ฝากระโปรง ก่อนพลังสีเขียวมรกตไหลซึมออกมาจากฝ่ามือ พืชเถาวัลย์เล็ก ๆ งอกออกมาจากเหล็กแตกหักเชื่อมรอยแผลอย่างน่าอัศจรรย์


แจ็คสันยืนมองด้วยสีหน้าทั้งประทับใจและปวดหัว “...เธอเพิ่งใช้พลังเซเรสซ่อมรถใช่ไหม”

“ค่ะ ก็คุณบอกให้ซ่อม ฉันก็ซ่อมไงคะ” เธอยิ้มหวานก่อนปัดมือเบา ๆ

“โอเค...ถือว่าผ่านทั้งสามภารกิจ แต่จำไว้นะโมนีก้าว่าภารกิจจริงไม่ใช่สนามแข่งรถส่วนตัว”

“ค่ะ ฉันจะจำไว้ค่ะ ว่าภารกิจจริงต้องขับให้เร็วกว่านี้อีกหน่อย”

แจ็คสันเอามือกุมขมับทันทีที่ได้ยินคำนั้น “พระเมอร์คิวรีโปรดเถิด...” สิ้นเสียงนั้น เอสต้าถอดหมวกกันน็อกออก แสงแดดอาบลงบนผมไฮไลต์สีฟ้าที่พลิ้วในลม เธอยิ้มสดใสราวกับเพิ่งออกจากสวนดอกไม้ ไม่ใช่สนามซ้อมรบ “ขอบคุณสำหรับคลาสนะคะครู สนุกกว่าที่คิดอีก”



อื่น ๆ: วิชาขับขี่ยานยนต์และมอเตอร์ไซต์ ( 4 / 4 )


รางวัล: [Lares-06] แจ็คสัน ฟอสเตอร์

พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5

กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10

(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Lares-06] แจ็คสัน ฟอสเตอร์ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2025-12-14 20:03
โพสต์ 39455 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-14 19:33
โพสต์ 39,455 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก ดาบสุริยคติ  โพสต์ 2025-12-14 19:33
โพสต์ 39,455 ไบต์และได้รับ +18 EXP +20 เกียรติยศ จาก Icarus Mirror  โพสต์ 2025-12-14 19:33
โพสต์ 39,455 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก แหวนเคลื่อนย้าย  โพสต์ 2025-12-14 19:33
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-16 02:40:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Clementis เมื่อ 2025-12-16 06:21

Clementis
Haus of Ratigan • Daughter of Justitia • Legacy of Orcus
Place
เซอร์คัส แม็กซิมัส
Date and Time
วันที่ 15 ธันวาคม 2025 • 12.00-14.00 น.
Purpose
วิชาขับขี่ยานยนต์และมอเตอร์ไซต์ (VMO) คลาสที่ 1
NPC
แจ็คสัน ฟอสเตอร์
หากไม่ใช่เพราะความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเก็บเกี่ยวหน่วยกิตการศึกษาให้ครบถ้วนทุกกระบวนความ ประกอบกับวิสัยทัศน์ที่มองเห็นประโยชน์โภชน์ผลของใบอนุญาตขับขี่สากลที่อาจกลายเป็นใบเบิกทางสำคัญในอนาคตอันใกล้ คลีเมนทิส บุตรีแห่งจัสติเทียผู้ยึดมั่นในความเที่ยงธรรมและระเบียบวินัย คงไม่พาตัวเองมายืนตระหง่านอยู่ที่ทางเข้าของ เซอร์คัส แม็กซิมัส ไว ๆ นี้เป็นแน่
ลานกว้างสุดลูกหูลูกตาที่ถูกจัดสรรไว้สำหรับการฝึกฝนการควบคุมยานยนต์ ปูลาดด้วยพื้นยางมะตอยและเส้นทางวิบากจำลอง กลิ่นของยางไหม้จาง ๆ ที่ลอยอวลในอากาศผสมปนเปกับกลิ่นน้ำมันเครื่อง ไม่ใช่อะไรที่ชวนให้อภิรมย์นักสำหรับผู้ที่คุ้นชินกับกลิ่นกระดาษและหมึกพิมพ์ แต่กระนั้นสองเท้าภายใต้รองเท้าบูทคอมแบทกลับก้าวเดินต่อไปด้วยจังหวะที่มั่นคง แม้ลึก ๆ แล้วเธอจะไม่ได้พิสมัยความเร็วหรือความเสี่ยงที่มาพร้อมกับแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางเลยแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อตัดสินใจลงเรือลำนี้แล้วการพายเรือให้ถึงฝั่งย่อมเป็นพันธกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เสียงร่ำลือเกี่ยวกับผู้ฝึกสอนประจำวิชานี้ลอยเข้าหูมาบ้างจากวงสนทนาของเหล่ารุ่นพี่ ‘แจ็คสัน ฟอสเตอร์’ คือนามขานของลาร์เรสหนุ่มผู้รับหน้าที่ถ่ายทอดวิชา ว่ากันว่าในยามที่ยังมีลมหายใจโลดแล่นอยู่ในโลกของคนเป็น เขาคือนักแข่งรถ Formula 1 ระดับแถวหน้า ผู้เคยเหยียบคันเร่งท้าทายมัจจุราชด้วยความเร็วเหนือเสียงมานับครั้งไม่ถ้วน
สำหรับคลีเมนทิสที่มองว่ายานพาหนะเป็นเพียงเครื่องทุ่นแรงในการพาตนจากจุด ก. ไปยังจุด ข. ชื่อเสียงเหล่านั้นจึงเป็นเพียงข้อมูลประดับความรู้ที่ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นใด ๆ ให้แก่เธอ ทว่าเมื่อได้เห็นร่างโปร่งที่ยืนกอดอกด้วยท่วงท่าสบาย ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจของผู้ที่เจนจัดในสนาม เธอก็พอจะเข้าใจได้ว่าบรรยากาศของมืออาชีพนั้นเป็นเช่นไร
แจ็คสันเริ่มต้นคลาสเรียนด้วยการแนะนำตัวอย่างเรียบง่าย ไม่ถือตัว แต่ทุกถ้อยคำกลับหนักแน่นและชัดเจน แววตาของเขาเมื่อกวาดมองเหล่าลูกศิษย์คล้ายกับกำลังประเมินสมรรถนะของรถแข่งก่อนลงสนาม หลังจากทำความคุ้นเคยกันพอสังเขป ช่วงเวลาแห่งการบรรยายภาคทฤษฎีรากฐานสำคัญก่อนการปฏิบัติจริงก็ได้เริ่มต้นขึ้น
เจ้าของเครื่องหน้าสวยเฉี่ยวหยิบสมุดจดบันทึกเล่มเล็กออกมา ปากกาในมือจรดลงบนหน้ากระดาษ พร้อมรับฟังข้อมูลที่พรั่งพรูออกมาจากปากของผู้เชี่ยวชาญ
“ในสนามรบ ยานพาหนะไม่ใช่แค่เหล็กหุ้มเนื้อ แต่มันคือขา คือปีก และคือเกราะกำบังของพวกคุณ”
เสียงของผู้ฝึกสอนดังกังวาน ก่อนจะเริ่มแจกแจงรายละเอียดของยานพาหนะประเภทต่าง ๆ ที่สมาชิกค่ายจูปิเตอร์อาจมีโอกาสได้บังคับควบคุมระหว่างการทำภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ขนาดเบาหรือที่มักเรียกติดปากว่ารถจี๊ป รถจักรยานยนต์วิบาก หรือรถบรรทุกทางยุทธวิธีขนาดเล็ก
เมื่อทำความรู้จักกับประเภทของยานยนต์แล้วแจ็คสันจึงพาเข้าสู่บทเรียนกายวิภาคของเครื่องจักร เขาอธิบายถึงส่วนประกอบสำคัญราวกับหมอกำลังสอนนักเรียนแพทย์ผ่าตัด เครื่องยนต์เปรียบเสมือนหัวใจ ระบบเบรกและระบบบังคับเลี้ยวเปรียบเสมือนมันสมอง หรือล้อกับยางอันเป็นจุดสัมผัสระหว่างรถและพื้นดินเทียบได้กับผิวหนัง แม้จะเป็นการเปรียบเปรยที่แปลกหูอยู่ไม่น้อยแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันช่วยให้เธอเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้น
ก่อนจะจบภาคทฤษฎีผู้ฝึกสอนได้เน้นย้ำถึงกฎเหล็กที่สำคัญที่สุด นั่นคือการตรวจสอบก่อนใช้งาน มันไม่ใช่แค่พิธีกรรม แต่เป็นวินัยที่ต้องฝังอยู่ในสัญชาตญาณ การเดินวนรอบรถชเพื่อมองหารอยรั่วซึมของของเหลว น็อตที่หลวมคลอน หรือความเสียหายภายนอก คือสิ่งที่ต้องทำทุกครั้งก่อนสตาร์ทเครื่อง เพราะในสนามจริงความบกพร่องเพียงเล็กน้อยอาจหมายถึงภารกิจที่ล้มเหลว
เมื่อทฤษฎีอัดแน่นอยู่ในสมอง ก็ถึงเวลาที่ร่างกายต้องเรียนรู้ ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง สมาชิกใหม่ของกองร้อยที่สองลุกขึ้นจากที่นั่งเมื่อได้ยินสัญญาณ มุ่งหน้าไปยังโซนอุปกรณ์ป้องกันที่ถูกได้จัดเตรียมชุดสำหรับฝึกซ้อมไว้ให้อย่างครบครัน เธอเลือกหยิบชุดที่พอดีกับขนาดตัว แม้จะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับความหนาและน้ำหนักของมันแต่ก็เข้าใจดีถึงความจำเป็นในด้านความปลอดภัย
ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เธอปฏิเสธจะใช้ของส่วนกลาง
มือเรียวยกขึ้นจัดแต่งทรงผมเล็กน้อยก่อนจะหยิบเอาหมวกกันน็อกใบสวยที่วางเตรียมไว้ออกมาสวมใส่ มันคือหมวกกันน็อกแบบเต็มใบที่เธอเจียดเวลาไปเลือกซื้อด้วยตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อน ผิววัสดุภายนอกเรียบเนียนไร้รอยขีดข่วน กลิ่นภายในยังคงเป็นกลิ่นของนวมใหม่สะอาดสะอ้าน ปราศจากกลิ่นเหงื่อไคลหมักหมมของผู้ใช้งานคนก่อนหน้า
สำหรับคนรักความสะอาดและหวงแหนความเป็นส่วนตัวอย่างคลีเมนทิส การต้องเอาศีรษะเข้าไปสวมใส่ในอุปกรณ์ที่ผ่านการใช้งานร่วมกับผู้อื่นนับร้อยพันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากยิ่ง การลงทุนซื้อของส่วนตัวชิ้นนี้จึงเป็นการตัดสินใจที่เธอรู้สึกขอบคุณตัวเองที่สุดในวันนี้ เมื่อสายรัดคางถูกล็อคเข้าที่เสียงรบกวนภายนอกก็เงียบลง เหลือเพียงเสียงลมหายใจของตนเองที่ดังก้องอยู่ภายในพื้นที่ส่วนตัวเล็ก ๆ นี้
เบื้องหน้าของเธอคือรถจี๊ปสีเขียวมะกอกคันเก่าแต่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดีโดยผู้ดูแลยานยนต์สำหรับฝึกซ้อม แจ็คสันส่งสัญญาณให้เริ่มขั้นตอนการปฏิบัติ เธอจึงเริ่มต้นด้วยการระบุส่วนประกอบต่าง ๆ ตามที่ได้เรียนมา นิ้วเรียวภายใต้ถุงมือหนังแตะสัมผัสไปที่ฝากระโปรงรถที่ยังคงเย็นเฉียบ สัมผัสถึงความแข็งแกร่งของโลหะ
“ตรวจสอบสภาพก่อนใช้งาน...”
ระบุได้ครบถ้วนดีแล้วเสียงหวานพึมพำกับตัวเองแผ่วเบาภายใต้หมวกกันน็อก ดวงตาหรี่มองระดับน้ำมันที่อยู่ระหว่างขีด Min และ Max รวมถึงสังเกตสีของน้ำมันว่ายังใสเป็นสีอำพัน ไม่ขุ่นคลั่กหรือมีสีดำสนิท ซึ่งบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ จากนั้นจึงขยับไปตรวจสอบถังพักน้ำยาหล่อเย็นและน้ำมันเบรก ทุกอย่างดูปกติดีไม่มีรอยรั่วซึมหยดลงบนพื้นยางมะตอย
เมื่อนั้นเจ้าของร่างบางจึงก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ ความรู้สึกเมื่อก้นสัมผัสเบาะหนังเทียมที่เริ่มแตกลายงาให้ความรู้สึกแปลกใหม่ มือสองข้างจับพวงมาลัยที่ใหญ่กว่ารถทั่วไปเล็กน้อย ปรับกระจกมองข้างและกระจกมองหลังให้เข้ากับระดับสายตา บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง 'ON' เพื่อจ่ายไฟเข้าสู่ระบบ หน้าปัดแสดงผลสว่างวาบขึ้น ไฟเตือนต่าง ๆ ติดขึ้นและดับลงตามลำดับ
คลีเมนทิสชะโงกหน้าออกไปมองสัญญาณมือจากเพื่อนร่วมคลาสที่ช่วยดูไฟท้ายและไฟเลี้ยวให้ เมื่อได้รับสัญญาณว่าทุกดวงทำงานปกติ เธอจึงหันกลับมายังแผงควบคุมเบื้องหน้า
ถึงเวลาปลุกยักษ์ให้ตื่น เท้าขวาเหยียบเบรกจนสุด เท้าซ้ายเหยียบคลัตช์ มือหมุนกุญแจบิดไปทางขวาสุด และ… บรื้นนนนน!
เสียงไดสตาร์ททำงานสั้น ๆ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงคำรามกระหึ่มของเครื่องยนต์ดีเซล แรงสั่นสะเทือนเบา ๆ ส่งผ่านจากตัวถังรถขึ้นมาสู่เบาะนั่งและพวงมาลัย ราวกับชีพจรของสัตว์ร้ายที่เพิ่งตื่นจากจำศีล เข็มวัดรอบเครื่องยนต์ดีดตัวขึ้นก่อนจะตกลงมานิ่งอยู่ที่รอบเดินเบาอย่างสม่ำเสมอ คลีเมนทิสปล่อยให้เครื่องยนต์วอร์มอัพสักครู่ ฟังเสียงจังหวะการทำงานว่าราบรื่นหรือไม่
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เธอจึงลองดับเครื่องยนต์ การบิดกุญแจทวนเข็มนาฬิกาส่งผลให้เสียงคำรามเงียบลงทันที เหลือเพียงความเงียบและความสั่นสะเทือนที่ค่อย ๆ จางหายไป

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Lares-06] แจ็คสัน ฟอสเตอร์ เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-12-16 12:44
โพสต์ 22036 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-16 02:40
โพสต์ 22,036 ไบต์และได้รับ +2 EXP +6 เกียรติยศ +7 ความศรัทธา จาก สัมผัสแห่งความไม่สมดุล  โพสต์ 2025-12-16 02:40
โพสต์ 22,036 ไบต์และได้รับ +3 EXP +8 ความกล้า จาก ดาบสปาเธร์  โพสต์ 2025-12-16 02:40
โพสต์ 22,036 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก หมวกกันน็อต  โพสต์ 2025-12-16 02:40
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กำแพงแห่งคำสั่ง
สัมผัสแห่งความไม่สมดุล
ดาบสปาเธร์
หมวกเกราะกาเลีย
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
Hydro X
หนังสือนิยาย
กล่องดนตรี
เกมคอนโซลพกพา
ช่อดอกไม้
ต่างหูเงิน
ชุดเครื่องเพชร
เข็มทิศ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x2
x1
x3
x2
x1
x5
x5
x2
x1
x1
x30
x3
x5
x2
x1
x2
x1
x2
x1
x1
x10
x5
x1
x2
x2
x5
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้