แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-8-5 10:51
203 Thailand P.3 - เชียงใหม่
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
จากเมื่อคืนที่มีเรื่องระทึกขวัญเกิดขึ้นก็ทำให้ดีนนอนไม่หลับจนถึงเช้า ไม่ใช่เพราะการก่อกวนของก็อบลินเพียงอย่างเดียว แต่จากคำพูดก่อนนอนของแมคเคนซีก็ส่วนขึ้น เช้านี้ก็เลยซึม ๆ นิดหน่อย แม้ภาพบรรยากาศยามเช้าจะสวยงามทว่าเขาไม่ได้รู้สึกเต็มอิ่มกับสถานที่มากเท่าไร ข้าวต้มร้อน ๆ ยามเช้าอาจช่วยให้ดีขึ้นได้มานิด ๆ
หลังจากที่ออกจากอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมาแล้ว ดีนก็เซ็ตจีพีเอสไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป้าหมายที่จะไปเป็นที่แรกก็คือ ‘วัดพระธาตุดอยสุเทพ’ ศาสนสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาอย่างช้านาน และเป็นจุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นเมื่อมาเยือนเชียงใหม่
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
เหลือบมองอีกฝ่ายจากหางตานิด ๆ แมคเคนซีคงสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา ก็แหงมล่ะ จากคนที่พูดมาก พูดไม่หยุด พูดจนน่ารำคาญแต่วันนี้กลับเงียบกริบแม้ไม่ได้หลับ ดีนไม่อยากเป็นคนท็อกซิกเอาความรู้สึกไม่ดีไปลงที่คนอื่น แต่เขาก็ชั่งใจว่าควรจะบอกอีกฝ่ายดีหรือไม่ว่าตนไม่พอใจเรื่องอะไร เพราะการจะใช้ชีวิตคู่จำเป็นจะต้องแชร์ความรู้สึกซึ่งกันและกัน
ทว่าเขาหลุบสายตาลงก่อนจะแค่นยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
‘...จัดการกับความรู้สึกตัวเองง่ายกว่า’
“แค่นอนไม่หลับ” กล่าวความจริงส่วนหนึ่งออกไป
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
พอถูกเขาทำดีเข้าหน่อยก็ใจอ่อนยวบ จากงอน ๆ อยู่ไม่งอนแล้วก็ได้ ถึงกระนั้นก็ยังไม่หายซึมมากเท่าไร ดีนเลือกที่จะโกหกขาวให้คนรักสบายใจจะได้เที่ยวกันวันนี้ไม่กร่อยและไม่หมางใจกัน
“ไม่มีอะไร ฉันแค่นอนไม่หลับ พลังงานก็เลยต่ำ บางทีแวะคาเฟ่ซื้อกาแฟหวาน ๆ คงช่วยได้แหล่ะ”
ดีนตอบ แต่จากเส้นทางลงเขาแบบนี้จะไปหาคาเฟ่ได้ที่ไหน เผลอ ๆ อาจจะต้องไปดื่มที่หน้าสถานที่ท่องเที่ยวเลยทีเดียว
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“อืม ได้”
เขารับปาก แต่เส้นทางทอดยาวลงเขาไม่มีอะไรนอกจากสีเขียว สีสันที่เมื่อมองแล้วทำให้รู้สึกสงบ และความสงบกับความง่วงเป็นของคู่กันจนทำให้ดีนแข็งตามองทางต่อไม่ไหว ยังไม่ทันที่จะลงมาถึงตัวเมืองดีนก็งีบหลับหัวพิงกระจกไปเสียแล้ว
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“หืม?” งัวเงียตื่นหลังจากถูกปลุก เมื่อรู้สึกตัวก็สะดุ้งโหยงขึ้นมาทันที “โอ๊ย โทษที ฉันเผลอหลับไป ไม่ได้ช่วยนายดูทางเลย ขอโทษนะแมคซี่”
รีบขอโทษขอโพยคนรักเป็นการใหญ่ แต่คนมันง่วงนี่นาให้ทำไงได้ ที่ทำได้ก็มีแต่ดันแว่นขึ้นมาดี ๆ ก่อนจะมองออกไปนอกกระจกรถ
“คาเฟ่.. ถึงแล้วเหรอ?”
เอ่ยถามคล้ายกับยังไม่ตื่นดี แต่ได้กาแฟสักหน่อยคงไม่เลว แล้วไหนจะวิวสวย ๆ ที่อยู่รายรอบอีก ประเทศไทยนี่แข่งกันประกวดคาเฟ่สวยหรือไงนะ แวะกี่ที่ก็เจอแต่ร้านที่ตกแต่งแบบทุ่นทุนสร้างตลอด
พวกเขาเข้าไปในร้านแล้วเริ่มสั่งกาแฟและขนมมากินเล่น แน่นอนว่าดีนสั่งอเมริกาโน่เย็นหวานสองร้อยเปอร์เซ็นเหมือนเดิม ส่วนขนมสั่งเป็นเค้กส้มผลไม้สุดโปรดปราน
“นายหาร้านนี้เจอได้ไงน่ะ หน้าตาไม่เหมือนอยู่ข้างทางเลย”
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“เหรอ ลงทุนจังแฮะ”
อดอมยิ้มไม่ได้ที่อีกฝ่ายดูจะลงทุนพาเขามาดื่มกาแฟในร้านสวย ๆ แทนที่จะเป็นร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ทั่วประเทศ ร้านที่เห็นชื่อครั้งแรกก็ต้องตกใจนึกว่าคุณซาบริน่ามาเปิดสาขาเพิ่มที่ต่างประเทศ (หรือร้านนี้มีสาขาที่ค่ายฮาล์ฟบลัดหว่า) ไม่ก็แค่เรื่องบังเอิญที่มีชื่อเดียวกัน แต่ว่าเขามาคิดถึงร้านอื่นทำไมกันนะ ที่นี่ไม่ใช่ ‘อะเมซอนคาเฟ่’ สักหน่อย
ดีนมองชามปิงซูมะม่วงที่ถูกเลื่อนมาตรงหน้า งั้นก็ลองชิมสักหน่อย ยังไงของหวานก็โดนใจอยู่แล้ว ทั้งความเย็นความหวานและรสชาติหอมหวานของมะม่วงทำให้สดชื่นตาตื่นไม่แพ้กาแฟ
“อร่อยจัง ดูเหมือนว่านายได้ของโปรดใหม่นอกจากโกโก้แล้วสิ”
ใช่ มันค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียวที่แมคเคนซีไม่สั่งโกโก้ร้อนใส่น้ำตาลหนึ่งช้อนอะไรสักอย่างของเขา
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
แมคเคนซีพูดแบบนี้คงรู้สินะว่าเมื่อคืนจนถึงตอนเช้าอารมณ์ของเขาค่อนข้างขุ่นเหมือนมีเมฆหมอกมาปกคลุม
“แค่นายพูดดี ๆ ทำดี ๆ กับฉันแบบนี้ก็แฮปปี้ไปทั้งวันแล้วล่ะแมคซี่”
กล่าวจบดีนก็ยิ้มแฉ่งออกมา ความดีที่อีกฝ่ายกระทำนั้นทำให้เขาลืมความหมางใจไปได้ และหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ไปตลอด
“จริงด้วย ที่ค่ายหากินมะม่วงยากมาก หรืออีกทีเราต้องเข้าไปในเมืองกันแล้วก็หาร้านอาหารไทยที่นิวยอร์ก”
แต่แค่การออกไปหาของกินอร่อย ๆ คุ้มค่ากับที่ต้องออกไปเสี่ยงตายไหมเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมการเป็นเดมิก็อดถึงได้ยากเย็นแบบนี้กันนะ โชคชะตาช่างเล่นตลกจริง ๆ เขาอยากจะเป็นแค่คนธรรมดาแท้ ๆ
เลิกคิดถึงเรื่องปวดสมองแล้วโฟกัสอยู่ที่ของกินตรงหน้าดีกว่า
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
ได้ยินแบบนี้ดีนก็นิ่งไปเล็กน้อย เขาตักบิงซูเข้าปากอีกคำก่อนจะตอบ
“ก็มีบ้างนิดหน่อย บ้างครั้งคำพูดนายก็ทำให้ฉันนอนไม่หลับ” แล้วก็ตักมะม่วงเข้าปากต่ออีกคำ ทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่อยากให้คนรักนำมาใส่ในใจจนปวดหัวมากกว่า “แต่มันผ่านไปแล้วก็ช่างมัน เอาแค่เรื่องที่ต่อจากนี้ดีกว่า”
ไหน ๆ ถูกเปลี่ยนเรื่องแล้วดีนก็คล้อยตาม
“งั้นถ้าได้ไปตลาดก็ลองหาซื้อมะม่วงกันสักลูกแล้วกันเนอะ”
ทั้งกาแฟและของหวานเติมเต็มพลังงานที่ขาดหายไปได้ดี นอกจากนั้นก็เติมเต็มเมโมรี่ของกล้องถ่ายรูปด้วยวิวสวย ๆ ของคาเฟ่เพิ่มอีกนิดหน่อย ดีจริง ๆ ที่ซื้อเมโมรี่การ์ดความจุระดับสูงสุดมาทำให้พื้นที่เก็บภาพความทรงจำมีอย่างเหลือเฟือเลยจริง ๆ
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
หลังจากที่เติมพลังเสร็จเรียบร้อยพวกเขาก็ออกเดินทางต่อไปวัดพระธาตุดอยสุเทพที่ต้องขับรถต่อไปอีกเกือบ ๆ ชั่วโมง ดูเหมือนว่าเมืองที่พวกเขาแวะพักจะชื่อว่า ‘แม่ริม’ ส่วนจุดที่จะไปคือเมือง ‘สุเทพ’ ส่วนตัวเมืองเชียงใหม่ก็อยู่ห่างออกไปอีก ระหว่างทางดีนที่ไม่มีอะไรทำก็เปิดเพลงจากลิสต์ที่ชอบพลางร้องเพลงคลอไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“When I first saw you… From across the room… I could tell that you were curious, oh, yeah”
จนสปอติฟายเล่นเพลงไปได้สิบกว่าเพลงถึงได้เห็นป้ายบอกทางขึ้นดอยสุเทพ
“ขึ้นเขากันอีกแล้ว นายขับระวัง ๆ นะแมคซี่”
ดีนบอกคนขับรถ ส่วนตัวเองหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายทางขึ้นเขาอันคดเคี้ยว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่คดเท่ากับตอนไปแม่ฮ่องสอน
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“เห จริงอ่ะ ปกติร้องตอนเมาเลยไม่มีใครชม”
จะว่าไปเขาก็เคยแสดงฝีมือการร้องเพลงประชันกับคุณดีที่ค่ายฮาล์ฟบลัดไปนี่นะ แต่ตอนนั้นโดนมอมสุราเทพไปสองแก้ว บอกไม่ได้เลยว่าที่โชว์ไปมันดีหรือว่าแย่
จวบจนมาถึงที่หมายและทั้งสองได้มาหยุดอยู่ที่บันไดทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพที่มีรูปปั้นมังกรเอเซียตั้งอยู่ แววตาของบุตรโพไซดอนดูจะเปล่งประกายตื่นเต้นมากกว่าอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ
“ว้าว บันไดนี่สูงชะมัด งั้นเราวิ่งขึ้นกันไปเล—..”
แต่เขาดันพูดตรงกับที่แมคเคนซีเอ่ยชวนให้ขึ้นกระเช้า ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่จอยกับการออกแรง ดีนก็ลืมไปเลยว่าคนรักต้องเป็นคนขับรถตลอดทั้งทริป แล้วการขับรถนาน ๆ มันก็เหนื่อย เขาจึงต้องคูลดาวน์ความตื่นเต้นลง
“ขึ้นกระเช้าก็ได้ ไปทางนั้นใช่ไหม?”
ชี้ไปตามป้ายมองไปสุดทางจึงเห็นมีซุ้มขายตั๋วขึ้นกระเช้าตั้งอยู่
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
น่าเสียดายที่ไม่ได้พิชิตบันไดกว่าสามร้อยขั้น แต่ไม่เป็นไรเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของคนขับรถก็ยอมได้
เมื่อมาถึงด้านบนพวกเขาต้องถอดรองเท้าเพื่อเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้จะยังไม่ถึงเที่ยงวันแต่พื้นหินที่ถูกพระอาทิตย์สาดแสงใส่มาหลายชั่วโมงก็ทำเอาดีนต้องกระโดดโหยงเหยงกว่าที่เท้าจะชินกับความร้อนก็พักนึงเลยทีเดียว อาจด้วยความสวยงามของพระธาตุที่ดึงดูดความสนใจไปจากฝ่าเท้าจนหมด
“สวยจริงด้วย นั่นทำมาจากทองจริง ๆ หรือเปล่านะ?”
ดีนไม่รู้วิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธมากนักเขาจึงแค่พนมมือไหว้ยอดเจดีย์สีทองอร่ามตรงหน้าด้วยความไม่นับถือศาสนาเขาจึงแสดงความเคารพได้หมด (พอมารู้ว่าเป็นบุตรเทพเจ้ากรีกถึงมีศาสนาก็คงยึดหลักความเชื่อเดิมไม่ถูก) จากนั้นเขาก็เริ่มถ่ายรูปแทบทุกซอกทุกมุมของพระธาตุจนมาถึงกำแพงรอบนอกที่รายล้อมไปด้วยระฆังกว่าร้อยใบ
“แมคซี่ มาตีระฆังกัน ตอนหาข้อมูลฉันเจอว่าถ้าตีระฆังครบทุกใบจะโชคดีล่ะ”
เอ่ยบอกคนรักอย่างกระตือรือร้น แม้ความเข้าใจจะผิดจากวัตถุประสงค์แรกเริ่มไปอยู่บ้างแต่โดยรวมแล้วก็เพื่อสิริมงคลเช่นเดียวกัน
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ถ้าตีก็ต้องเสียงดังอยู่แล้ว เห็นไหม คนไทยก็ตีกัน”
เมื่ออีกฝ่ายตอบรับก็ถึงคราวเล่นสนุก ระฆังกว่าร้อยใบที่อยู่รายล้อมอุโบสถจะต้องส่งเสียงดังถึงสวรรค์ของชาวพุทธแน่ ๆ
ก๊อง แก๊ง ก๊อง แก๊ง
หลังจากขอพรกับระฆังนำโชคจนครบหนึ่งร้อยแปดใบก็จบการท่องเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพในครึ่งเช้าของวัน กระนั้นวัดไทยก็มีอะไรน่าสนใจให้ถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ขาดสาย อย่างเช่นรูปปั้นหมา (?) ผู้พิทักษ์ประตูทางเข้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
แชะ
ดีนถ่ายภาพรูปปั้นหินที่เขียนลวดลายสวยงามเป็นที่ระลึก ทว่าเมื่อเขามองดูหน้าจอของกล้องดิจิตัลกลับเห็นว่าภาพนั้นพร่ามัวเหมือนมีอะไรวิ่งผ่าน ไม่สิ.. เหมือนรูปปั้นสิงโตมันกระโดดหนีไปมากกว่า
“หืม?”
「เจ้าอสุรกายชั้นต่ำบังอาจเหยียบย่ำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์!」
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้องในหู ทว่าดีนกลับได้ยินเสียงนั้นเป็นคำพูดชัดเจน เมื่อละลายตาออกจากกล้องเขาเห็นว่ารูปปั้นหมาผู้พิทักษ์เคลื่อนไหวได้
“น้องหมาขยับได้.. ได้ไง?”
「บังอาจนักกล้าเรียกข้าว่าน้องหมา! ข้าคือไกรสรราชสีห์ผู้องอาจ ปกปักษ์รักษาพระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ จงตายเสียเจ้าก็อบลินชั้นต่ำ!」
“เดี๋ยวนะ ก็อบลิน? หมายถึงฉัน!?”
ดีนชี้หน้าตนเอง ในหัวของเขามีแต่ความงงงวย สิงโตหินตรงหน้าเอาอะไรมาพูดว่าเขาเหมือนก็อบลิน ตัวก็ไม่เตี้ย หน้าตาก็หล่อ ผิวก็ไม่ได้เขียว จนมานึกได้ว่าเป้บนหลังเก็บหมวกก็อบลินไว้เป็นสิบใบไม่ได้ระบายออก บางทีหมวกก็อบลินคงจะส่งกลิ่นฉึ่งออกมาจนทำให้ผู้พิทักษ์วัดเข้าใจผิด
ทว่าไกรสรราชสีห์ไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มชาวต่างชาติได้ยืนอึ้งนาน มันกระโดดเข้าตะปบด้วยกรงเล็บของสัตว์ร้ายจนดีนแทบจะหลบไม่ทัน
“เหวอ ใจเย็น คุยกันดี ๆ ก่อน!”
เขาพยายามจะเจรจากับผู้พิทักษ์วัดไทยทว่าไกรสรราชสีห์ไม่ยอมรับฟัง มันไล่งับเขาสถานเดียว สงสัยคงไม่พ้นต้องปะทะ ดีนจึงวิ่งล่อมันออกไปจากปุถุชนผู้มาสักการะพระธาตุไปยังที่ลับตาคน
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
ซวยขนานแท้!
เพราะใจคิดว่ามาเที่ยวเลยลืมเอาอาวุธติดตัวด้วยมาเสียสนิท แถมเจ้าไกรสรอะไรสักอย่างนี่ก็ดูเก่งสมฐานะผู้พิทักษ์เสียด้วย ทว่าอาวุธของบุตรแห่งโพไซดอนคือสายน้ำ หากมีน้ำก็ไม่ต้องกลัว
เมื่อวิ่งล่อมาถึงที่ลับตาคน ชายหนุ่มก็ดึงขวดน้ำดื่มที่ติดกระเป๋าออกมา ก่อนจะใช้มุกเดียวกับที่บุตรแห่งแอมฟิไทรต์เคยใช้ให้ได้ชม
‘ตรีศูลน้อย’
สายน้ำจากขวดพลาสติกก่อรูปร่างเป็นตรีศูล น่าเหลือเชื่อที่เขาสามารถจับสายน้ำนั้นได้ราวกับว่ามันเป็นของแข็ง
「นี่เจ้ากินบุตรแห่งพระวรุณเข้าไปรึ!」ไกรสรราชสีห์เบรกเอี๊ยด ภายใต้ลูกตาที่ถูกวาดเขียนฉายแววตกใจ ก่อนที่หัวคิ้วม้วน ๆ จะขมวดเข้าหากัน「ร้ายกาจ!」
“ใช่ซะที่ไหนกันเล่า! ต้องบอกกี่ครั้งว่าฉันไม่ใช่ก็อบลิน แต่เป็นเดมิก็อดต่างหาก!”
ดีนพยายามอธิบายแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักพระวรุณอะไรนั่นที่สิงโตหินกล่าวถึงก็ตามที หวังว่าไกรสรราชสีห์จะยอมให้เขาพิสูจน์ตัวตนนะ
「อย่ามาโกหก ตายซะเจ้าอสุรกายชั้นต่ำ!」
ในเมื่อเจ้าถิ่นไม่ยอมฟังมีแต่ต้องปะทะกันเท่านั้น ดีนเพ่งจิตควบคุมสายน้ำจากตรีศูลพุ่งใส่ราชสีห์ราวกับห่ากระสุน สิงห์หนุ่มที่กระโจนเข้าใส่ถูกกระสุนน้ำยิงเข้าเต็ม ๆ จนทรุดลง
“โห พลังนี่แรงแฮะ”
แม้แต่ดีนยังอึ้งจนทำตาโตกับพลังใหม่ที่รุนแรงมากกว่าเก่า ทว่าจำเป็นต้องรีบปิดฉากเพราะว่าพลังนี่มันช่างกินแรงเสียเหลือเกิน แต่จะให้ดีกว่าคือยุติการต่อสู้นี้โดยไม่มีฝั่งไหนสูญเสียเลือดเนื้อจากความเข้าใจผิด แต่ราชสีห์สีขาวขนม้วนดุจปุยเมฆไม่ยอมลดละด้วยทิฐิอันแรงกล้า มันเข้าจู่โจมดีนอีกครั้งอย่างไม่กลัวตาย
“โอ๊ยย ให้ตายสิ หยุดสู้สักทีเถอะ!”
แม้ว่าดีนร้องขออย่างไรแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รับฟัง ดีนพยายามใช้สายน้ำป้องกันตัวเองจากกรงเล็บของสัตว์ร้ายจนสายน้ำเริ่มจะงวดลงไปทุกทีตามพลังที่มีจำกัด หากว่าเขาไม่เอาจริงงานนี้มีหวังได้เป็นอาหารสิงโตแน่ ๆ
“ขอโทษด้วยแล้วกัน!”
กล่าวเพียงเท่านั้นชายหนุ่มรวบรวมน้ำทั้งหมดที่มีรวมมาอยู่ในจุดเดียวกันก่อนจะปล่อยสายน้ำแรงดันสูงออกมาจนกระทั้งน้ำทั้งหมดระเหยหายไป หายไปพร้อมกับไกรสรราชสีห์ตัวนั้นที่สายกลายเป็นละอองสีทอง เหลือเพียงเสียงคำรามสุดท้ายค่อย ๆ หายไปกับสายลม
「อั่ก! เจ้านี่เป็นเดมิก็อดจริง ๆ ด้วยยย….」
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ไม่ ฉันไม่เป็นไร ส่วนตัวเมื่อกี้ เอ่อ.. ‘ใครสอนราดซะหมี’ มั้ง เห็นเจ้าตัวว่างั้น”
ดีนแค่นยิ้ม มือค้ำเข่าย่อตัวหอบหายใจ พลังที่ใช้ไปเมื่อครู่นี้กินพลังงานไปเยอะมากจนตอนนี้รู้สึกแทบจะไร้เรี่ยวแรง พอมีแมคเคนซีอยู่ข้าง ๆ แบบนี้แล้วเขาพอจะปล่อยตัวเองเอนพิงซบอีกคนนึงได้
“พอคุยกันไม่รู้เรื่องก็เลยต้องจัดการ มันคิดว่าฉันเป็นก็อบลินนะ คงตามกลิ่นสินสงครามในกระเป๋ามา” เหมือนจะมีปัญหากับเจ้าที่แถวนี้แล้วสิ หวังว่าตัวอื่นจะไม่เป็นไรนะ “ฉันว่าเรารีบออกจากที่นี่ดีไหม ไม่รู้จะมีสิงโต หมา หรือมังกรมาเข้าใจผิดอะไรฉันอีกหรือเปล่า”
ตอนนี้ระแวงรูปปั้นเหล่าสรรพสัตว์ตามประตูและบันไดวัดไปหมด
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ใช้น้ำจากขวดน้ำที่พกมาน่ะ ปกติมันก็ใช้ได้แบบที่นายเคยเห็น แต่คราวนี้ฉันใช้มันสร้างเป็นตรีศูลน้ำขึ้นมาก็เลยควบคุมน้ำได้มากขึ้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะสูบพลังงานฉันเป็นสองเท่า”
ดีนแค่นหัวเราะหลังอธิบายจบ แม้สกิลนี้จะดีแต่ดูเหมือนว่าถ้าใช้บ่อย ๆ จะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไรแฮะ
น่าเสียดายสุดท้ายก็ไม่ได้ท้าทายบันไดสามร้อยขั้น น่าเจ็บใจจริง ๆ จะบอกว่าโอกาสหน้าค่อยมาใหม่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสนั้นอีกไหม ก็ไทยแลนด์อยู่แค่ปากซอยเสียเมื่อไรล่ะ
“หิวมาก เหมือนตอนขามาฉันเห็นมีตลาดอยู่เยื้องทางขึ้นดอยไปหน่อยป่ะ เราลองไปหาอาหารถิ่นกันตรงนั้นดีไหม”
เหมือนจะใกล้แต่ก็ไกล ขับรถไปตลาดดอยสุเทพน่าจะดีที่สุด
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ถ้าแค่ควบคุมน้ำเฉย ๆ สร้างเป็นอะไรก็ได้แหล่ะ แต่ตรีศูลน้ำจะเสถียรกว่าแล้วก็แรงกว่า แต่อย่างที่บอก เหนื่อยมากกว่าเป็นสองเท่า”
เขาเองก็คิดเช่นเดียวกันกับแมคเคนซี การพกอาวุธสัมฤทธิ์ไปไหนมาไหนมันออกจะเทอะทะแถมยังประหลาดตกเป็นเป้าสายตาของคนทั่วไปอีก จะให้ดีเขาคงต้องตีซี้กับบุตรเฮเฟตัสสักคนแล้วขอให้ผลิตอาวุธย่อขยายส่วนใหญ่ จะให้พึ่งพาแต่น้ำอย่างเดียวก็ไม่ใช่เรื่องอีก
ดีนมองวิวด้านข้างกระจก ภาพบ้านเรือนชาวบ้านจากไทยแลนด์ก็ยังไม่คุ้นชินอยู่ดี แต่ถ้าให้ถ่ายรูปเพิ่มมีหวังได้มีแต่ภาพบ้านคนแน่ ๆ จึงต้องถนอมเมโมรีเอาไว้ก่อน จนแมคเคนซีหาที่จอดรถได้พวกเขาจึงลงมาหาอะไรกินกัน
“ได้สิ”
ชายหนุ่มรับคำหลังจากที่มองไปยังร้านที่แมคเคนซีบอก ป้ายร้านมีแต่ภาษาไทยสงสัยต้องพึ่งพาแอปแปลภาษาอีกหน เขายกสมาร์ทโฟนขึ้นมาสแกนป้ายหน้าร้านดูหน่อยเถอะว่าร้านนี้ขายอะไร
“ข้าวซอย.. ใช่ไอ้นั่นไหม ซุปที่ติดอันดับว่าอร่อยที่สุดในโลก ฉันอยากกิน!”
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ใช่ ๆ อันนั้นแหล่ะ”
ถึงจะพูดว่าอันนั้นแต่จะคืออันนั้นตรงกับที่แมคเคนซีเข้าใจหรือเปล่าไม่รู้ เพราะอาหารไทยมีซุปข้นที่สีเหลือง ๆ ส้ม ๆ เต็มไปหมด แต่พอเห็นของจริงจากโต๊ะอื่นแล้วก็คิดว่าใช่แหล่ะ หน้าตาคล้าย ๆ กับที่เขาหาข้อมูลมาเลย
“นั่นสิ ชักเสียวว่าจะกินไหวไหม”
แต่อย่างน้อยดีนก็กินเผ็ดได้ดีกว่าแมคเคนซี เขาก็หวังว่าแม่ครัวจะปราณีฝรั่งสองคน
รออยู่ประมาณสิบนาทีถึงจะได้โต๊ะ ถ้าให้รอนานกว่านี้เกือบจะไปกินร้านอื่นแล้วเชียว ดีนสั่งข้าวซอยไก่ส่วนเครื่องดื่มคือน้ำเก๊กฮวย เขาไม่รู้จักหรอกว่ามันคืออะไรแต่เห็นโต๊ะอื่นสั่งกันเยอะเลยสั่งตาม
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ไม่คิดว่านายจะชอบน้ำหวาน” ดีนแอบยิ้ม อีกฝ่ายบอกว่าอร่อยแต่ว่าเขาชอบเลย ให้หวานกว่านี้ก็กินได้ “เหมือนว่าจะชื่อ ‘น้ำเกงฮ้วย’ นะ”
หลังจากเครื่องดื่มมาแล้วข้าวซอยไก่สองชามก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ดีนมองอุปกรณ์การกินที่มาคู่กัน ช้อนสั้นกับตะเกียบ เป็นอาหารประเภทเส้นสินะ แล้วแบบนี้อีกฝ่ายจะกินสะดวกไหมเนี่ย เขาจึงเรียกพนักงานเสิร์ฟขอช้อนส้อมมาคู่นึงให้แมคเคนซี ส่วนตัวเองจะลองฝึกการใช้ตะเกียบดู
ดีนลองซดน้ำซุปสีเหลืองข้น รสชาติออกไปทางหวานและกลมกล่อม ไม่เผ็ดมากเกินไปจนรับประทานไม่ได้ ส่วนพริกสีแดงคือเครื่องปรุงที่อยู่ในแก้วใส ถ้าให้อร่อยคงต้องใส่นิดนึง
“กินเลม่อนกับราเมงเนี่ยนะ?”
รู้สึกว่าแปลกแต่ถ้ามันคือหนึ่งในเครื่องเคียงก็คงต้องรับประทานแบบนั้น เมื่อปรุงจนได้ที่แล้วก็เริ่มรับประทาน น้ำพริกผัดที่ใส่ไปน้อยนิดทำเอาชาวต่างชาติปากแดงได้ภายในพริบตา
“อร่อยสมกับติดอันดับ แต่ว่าเผ็ดชะมัดเลย”
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“คงทำมาจากสมุนไพรบางอย่าง…” ด้วยความสงสัยดีนจึงเซิร์จหาข้อมูล “หืม.. มันคือดอกเบญจมาศ คล้าย ๆ พวกชาดอกไม้สินะ”
กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์มาจากดอกไม้นี้เอง ส่วนรสหวานคงน้ำตาลล้วนสินะ พอรู้ว่าทำมาจากอะไรก็อยากจะซื้อดอกเบญจมาศไปชงดื่มเลย แต่ว่าจะไปชงได้ที่ไหนละเนี่ย
ได้ยินเสียงสำลักก็เงยหน้าขึ้นจากชาม ว่าแล้วเชียวว่าอีกฝ่ายกินไม่ไหว ขนาดไม่ได้ใส่พริกเพิ่มแบบเขานะ
“ไหวไหมที่รัก หรือหาอย่างอื่นกินแทนดี?”
ร้านนี้ไม่ได้ขายแต่ข้าวซอย แต่ยังเห็นในใบเมนูว่ามีอาหารจานเดียวอื่น ๆ อีก อย่างพาสต้าผัดที่แมคเคนซีกินตอนอยู่ที่ห้วยน้ำดังก็มี
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ไม่ใช่ว่ามันอร่อยที่น้ำซุปหรือไงกันล่ะ”
ดีนพูดอุบอิบก่อนจะเสิร์จหาข้อมูลให้แฟนต่อ ถ้าแฟนอยากได้ต้องได้ซื้อ แล้วเขาก็พบว่าในตลาดตัวเมืองเชียงใหม่มีเก๊กฮวยอบแห้งขาย นอกจากนั้นในร้านสะดวกซื้อก็มีเครื่องดื่มชนิดนี้แบบสำเร็จรูปใส่ขวดขายอยู่แล้ว
“นายดูสิ น้ำนี่มีขายในเซเว่นด้วย”
ยื่นรูปในโทรศัพท์มือถือให้อีกฝ่ายดู
ขณะเดียวกันเม็ดฝนเริ่มเทลงมาปรอย ๆ ขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหารกลางวันกัน ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“งั้นก็ค่อย ๆ กินถ้านายยังอยากกินต่อ”
แผนการท่องเที่ยวของพวกเขายืดหยุ่นอยู่แล้วแถมฝนยังตกอีกต่างหากกว่าฝนจะหยุดก็น่าจะอีกพักใหญ่ แม้เวลาการท่องเที่ยวต่อจังหวัดจะมีไม่มากแต่หากเที่ยวที่ไหนไม่ทันก็แค่แคนเซิลแล้วนอนตีพุงที่โรงแรม
“งั้นเอาไว้ลองดูที่ตลาด ไม่แน่ใจเลยแฮะว่าแถวนี้มีขายหรือเปล่า”
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วดีนเรียกเด็กเสิร์ฟมาถามว่าแถวนี้หาซื้อได้ไหม แม้ใช้แอปพลิเคชั่นช่วยแปลภาษาแต่สนทนากันอยู่พักหนึ่งกว่าจะได้ความ เห็นว่าร้านที่อยู่ในซอยนี้มีร้านนึงที่ขายดอกเก็กฮวยอบแห้ง
แม้ว่าข้าวซอยจะเผ็ดแต่ดีนก็ทานหมดเกลี้ยงซดน้ำแทบไม่เหลือ
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
จากที่อีกฝ่ายเป็นคนปากแดงอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่โดยไม่ต้องพึ่งพาลิปสติก จะว่าไปตอนนี้เขาคงมีสภาพไม่ต่างกันมากนักแต่ดีกว่าหน่อยตรงที่เขาคุ้นชินกับความเผ็ดอยู่บ้างจากอาหารบ้านเกิด
จะว่าไปแมคเคนซีสภาพนี้มองแล้วเพลินชะมัด
“อร่อยนี่ ไม่กินให้หมดได้ไง”
กระนั้นให้ตามไปซดน้ำซุปจากจานอีกฝ่ายคงไม่ไหว ตอนนี้ในท้องเขาหนักน้ำเก๊กฮวยเต็มไปหมด
“ต้องรอฝนหยุดเลยเหรอ ฉันเอาเสื้อกันฝนมานะ แต่ว่ามันอยู่ในเป้ต้องไปเอาที่รถ” เขายื่นมือออกไปข้างหน้า “เอากุญแจรถมาสิเดี๋ยวฉันไปเอามาให้”
อย่างไรเสียตนก็มีสกิลป้องกันเปียกอยู่แล้ว แค่เดินตากฝนน่ะจิ๊บ ๆ
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“เปียกก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ นายลืมไปแล้วเหรอว่าฉันลูกใคร” ดีนกระดิกมือที่แบอยู่อีกครั้ง “เอากุญแจรถมาเร็ว อย่าให้ฉันต้องค้นตัวนายนะ”
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ก็แค่เนี้ยะ” ดีนอมยิ้มแล้วคว้ากุญแจรถเช่ามาไว้ในมือ “เช็คบิลรอเลยก็ได้นะ”
กล่าวจบเขาก็ลุกออกจากโต๊ะแล้วรีบวิ่งไปที่รถเหมือนลืมคำเตือนเรื่องถนนลื่น แต่แค่นี้ไม่ล้มง่าย ๆ หรอกน่า เมื่อมาถึงรถเขาก็รีบเปิดประตูรถเข้าไปด้านในแล้วใช้สกิลภูมิคุ้มกันเปียกจนร่างกายแห้งหมดจด
คิดถูกชะมัดว่าแมคเคนซีไม่ได้เอาชุดกันฝนมาเขาเลยเอามาเผื่อสองตัว ดีนศึกษามาแล้วว่าช่วงเวลานี้คือฤดูฝนยังไงก็เลี่ยงฝนไม่ได้แน่ ๆ แม้ว่าดีนจะไม่เปียก แต่เพื่อความเนียนเขาเลยจัดแจงสวมเสื้อกันฝนในรถก่อนจะหยิบเสื้อกันฝนตัวที่จะให้แมคเคนซีติดออกมา ล็อครถเสร็จก็วิ่งดุ๊ก ๆ กลับมายังร้านข้าวซอย ตอนนี้อีกฝ่ายน่าจะชำระเงินเสร็จพอดี
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ฉันมีทุกอย่างให้นายอยู่แล้ว” พูดแล้วก็ขยิบตาให้ “ไปสิ นายอยากซื้อดอกเก๊กฮวยไปต้มไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ก็ไม่รู้จะหาซื้อได้ที่ไหนแล้วนะ สัญญาเลยว่าฉันจะไม่เถลไถลดูร้านอื่น”
ยกมือขึ้นสาบาน จากนั้นก็จับมือแมคเคนซีจูงเดินตลาดกลางฝนพรำ เอาจริงนะ ที่นี่มีแต่ของที่น่าสนใจเต็มไปหมดที่จะหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยว ถ้าไม่สาบานไปเมื่อกี้เขาคงแวะดูมันซะทุกร้าน จนมาถึงร้านที่ขายดอกไม้อบแห้ง มีทั่งเก๊กฮวย และอื่น ๆ อีกมากมายที่เขาไม่รู้ พอลองเอาแอปแปลภาษาส่องก็ขึ้นตัวอักษรว่า ‘มะตูม’ ‘กระเจี๊ยบ’ ‘อัญชัน’ คืออะไรบ้างไม่รู้เหมือนกัน
“นายจะเอาอย่างอื่นนอกจากเก๊กฮวยไหม?”
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ไม่มีอ่ะ ฉันรอแย่งนายกิน” ดีนตอบยิ้ม ๆ
หลังจากช็อปปิ้งซื้ออุปกรณ์ต้มน้ำสมุนไพรกันเสร็จก็ได้เวลาท่องเที่ยวกันต่อ ณ ตอนนี้ฝนซาลงไปมากแล้วทว่าถนนยังเปียกอยู่ กว่าจะขับรถกันลงมาถึงล่างเขาก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมงจากเดิมที่ใช้เวลาเพียงแค่สามสิบนาที และพอมาถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ฝนก็หยุดตก เหลือเพียงไว้แค่แอ่งน้ำเฉอะแฉะเจิ่งนองทั่วพื้น และอากาศที่เย็นสบายไม่ร้อนเหงื่อออกหลัง
น่าเสียดายที่ตอนนี้สวนสัตว์เชียงใหม่ไม่มีหมีแพนด้าแล้วจึงทำให้ขาดดาราเด่นไป ทว่าสัตว์จากไทยก็แตกต่างจากสวนสัตว์ซานอันโตนีโอ
“เสียดายจังนายอดเจอเพื่อนเลยแมคซี่” แซวอีกฝ่ายว่าเหมือนหมีที่ขอบตาดำไปหนึ่งดอก
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“มองหมีตัวอื่น? นี่นายหึงแม้กระทั่งกับสัตว์เลยเหรอ”
หลุดขำ เขาใช้ศอกกระแซะแซวคนข้าง ๆ
“เอาโซนที่ใกล้ที่สุด ลุยกันเลย!”
พอได้เที่ยวสวนสัตว์ดีนก็คึกคักเหมือนกับเด็ก พวกเขาไปที่โซนสัตว์แอฟริกา ตื่นเต้นกับฮิปโปโปเตมัส ยีราฟ ม้าลาย แรดตัวใหญ่ ส่วนต่อไปคืออดีตส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า แต่หลังจากที่แพนด้าตัวลูกกลับจีนไปแล้ว ตัวพ่อและแม่ทยอยตายจนไม่เหลือหมีแพนด้าในประเทศไทยอีก ส่วนจัดแสดงนี้จึงเปลี่ยนเป็นสถานที่ให้ความรู้และเป็นจุดแสดงหมีโคอาล่าแทน
“แมคซี่ นายกลายพันธุ์แล้วเหรอ ตัวนิดเดียวแถมยังหลับตลอดเวลาอีก”
แกล้งหยอดแซวอีกฝ่ายไปอีกครั้งแล้วหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายโคอาล่าที่เกาะต้นไม้หลับหน้าหน้าตะมุตะมิจะอยากได้มาเลี้ยงสักตัว
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ก็ถูกของนาย ไม่ว่าจะเป็นแมคซี่พันธุ์ไหนก็น่ารักไปหมดจริง ๆ นั่นแหล่ะ”
ดีที่สวนสัตว์เชียงใหม่มีรถกอล์ฟคอยให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวฟรี ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาได้เดินกันขาลากในสวนสัตว์อันกว้างขวางแห่งนี้แน่ ๆ สัตว์ในไทยมีความแตกต่างจากบ้านเกิดพอสมควรดีนจึงเพลิดเพลินกับสัตว์นานาชนิดที่ไม่รู้จัก รู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเข้าสายัณห์แล้วเขาก็ได้รูปถ่ายเหล่าสัตว์โลกน่ารักมาอีกเพียบ
จบจากสวนสัตว์เชียงใหม่ก็ไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีซึ่งเป็นสวนสัตว์ของเอกชนกันต่อ ด้วยความเป็นเอกชนนี้ทำให้บรรยากาศและการตกแต่งภายในแตกต่างจากสวนสัตว์ประจำจังหวัดโดยสิ้นเชิง (แน่นอน รวมถึงราคาค่าเข้าชมด้วย) ที่หน้าทางเข้าเจ้าหน้าที่ได้นำลีเมอร์ตัวเป็น ๆ มาโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ดีนจึงไม่พลาดโอกาสที่จะเข้าไปสัมผัสขนนุ่มฟูของคิงจูเลียนจากมาดากัสก้า
ยังพอมีเวลาก่อนที่การนั่งรถชมสัตว์กลางคืนรอบแรกจะเริ่มต้นขึ้นพวกเขาจึงไปรับประทานอาหารเย็นกัน ที่นี่ขายอาหารตะวันตกด้วยทำให้พอจะหายคิดถึงบ้านเกิดได้บ้าง แต่อาหารตะวันตกสไตล์ไทยก็ให้รสชาติที่แตกต่างจนไม่เหมือนกับรับประทานอาหารบ้านเกิดเสียทีเดียว
ระหว่างรอเวลาการแสดงน้ำพุกลางคืนได้เริ่มขึ้นอย่างสวยงาม น่าเสียดายเหลือเกินที่ดีนไม่อาจจับภาพนิ่งในช่วงแรกไว้ได้เพราะจังหวะไม่ดีพอ เขาจึงเลือกที่จะบันทึกเป็นวีดีโอไว้แทน นอกจากนี้ยังมีโชว์สุดแสนอลังการระหว่างรับประทานอาหารจึงกลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้คือมื้อพิเศษสุดแสนประทับใจ
เที่ยวมาทั้งวันเกือบลืมที่ซุกหัวนอน ดีนใช้เวลาระหว่างรอนั่งรถส่องสัตว์หาโรงแรมดี ๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่แล้วโทรจอง ทดแทนกับที่เมื่อคืนเขาพาแมคเคนซีไปตกระกำลำบากนอนเต็นท์ น้ำไม่ได้อาบ แถมยังต้องตบตีกับก็อบลิน
เอาล่ะ จองโรงแรมเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลานั่งรถส่องสัตว์กลางคืนแล้ว!
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
“ว้าว”
ในขณะที่ดีนกำลังตื่นเต้นอยู่กับการได้ใกล้ชิดกับสัตว์โลก ทั้งยีราฟและม้าลายที่เชื่อง การส่องไฮยีน่าและสิงโตจากกรงไกล ๆ หันไปมองคนรักอีกทีก็เห็นคนนั่งสัปหงก
โธ่ธัง.. แมคเคนซีคงง่วงมากจากการขับรถมาทั้งวันแถมวันนี้พวกเขายังตื่นเข้าเป็นพิเศษเพื่อดูทะเลหมอกกันอีก ดีนจึงปล่อยให้อีกฝ่ายงีบไปก่อนส่วนตัวเองที่ยังมีพลังงานก็ตื่นเต้นกับสัตว์ต่อไป จนเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงรถส่องสัตว์ถึงได้หมดรอบการแสดงและวนกลับมาจอดเทียบท่าลง ณ จุดสตาร์ท ชายหนุ่มถึงได้สะกิดปลุกคนรักให้ตื่น
“แมคซี่ นายเห็นสัตว์ในฝันกี่ตัว” แซวอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดูก่อนจะโอบบ่าอีกคนลงจากรถแล้วพาไปยังรถยนต์ของพวกเขาที่จอดอยู่ด้านหน้าทางเข้า “นายขับรถไหวไหม หรือจะให้ฉันขับ แต่ว่า…”
เป็นไปได้เขาก็ไม่อยากทำผิดกฎหมายที่ต่างแดนเท่าไร
ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
แม้จะมาถึงโรงแรมแล้วแต่สิ่งที่ทำเป็นอันดับแรกไม่ใช่การโยนตัวเองลงอ่างอาบน้ำแล้วเตรียมตัวนอน ถึงวันนี้จะเป็นภารกิจวันที่สองทว่าดีนและแมคเคนซีได้มาถึงประเทศไทยได้เกือบอาทิตย์แล้ว เสื้อผ้าดีเริ่มจะหมดหากไม่ซักภายในวันหรือสองวันนี้มีหวังต้องใส่ผ้าเน่าต่อไปอีกวันสองวัน
ดีนปล่อยให้แมคเคนซีพักผ่อนที่ห้องไปก่อนส่วนตัวเองหอบเสื้อผ้าใส่แล้วของทั้งคู่ลงไปใช้บริการซักรีดที่ด้านล่าง พนักงานบอกว่าให้มารับชุดได้ตอนเช้าก่อนเช็คเอาท์ออก
หลังจากจัดการธุระเรียบร้อยแล้วดีนก็กลับมาที่ห้องแล้วได้เวลาพักผ่อนเสียที
“อาบน้ำกันแมคซี่ นายเหนื่อยมาทั้งวันเดี๋ยววันนี้ฉันถูหลังให้นายเองที่รัก”
ตื่นรู้ +2 จากการพิชิต [ไกรสรราชสีห์] ครั้งแรก
@God
|