[เอเชียอาคเนย์] ประเทศไทย

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×
















ประเทศไทย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรไทย

เป็นรัฐชาติอันตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดิมมีชื่อว่า "สยาม"

มีเมืองหลวงคือ กรุงเทพมหานคร




ประเทศไทยประกอบด้วย 76 จังหวัด กับ 2 เขตปกครองพิเศษ
(กรุงเทพมหานคร และเขตปกครองพิเศษเมืองพัทยา)

แบ่งลักษณะภูมิประเทศเป็นหลายภาคหลากหลาย


ภาคเหนือ เป็นพื้นที่ภูเขาสูงสลับซับซ้อน จุดสูงที่สุดในประเทศไทย คือ ดอยอินทนนท์ ณ 2,565 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล รวมทั้งยังปกคลุมด้วยป่าไม้อันเป็นต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของที่ราบสูงโคราช สภาพของดินค่อนข้างแห้งแล้งและไม่ค่อยเอื้อต่อการเพาะปลูก


ภาคกลาง เป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง มีแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งเกิดจากแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่านที่ไหลมาบรรจบกันที่ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ทำให้ภาคกลางเป็นภาคที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด และถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก


ภาคใต้ เป็นส่วนหนึ่งของคาบสมุทรมลายู ขนาบด้วยทะเลทั้งสองด้าน มีจุดที่แคบลง ณ คอคอดกระ

แล้วขยายใหญ่เป็นคาบสมุทรมลายู ทะเลสาบสงขลาเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย


ส่วนภาคตะวันตก เป็นหุบเขาและแนวเทือกเขาซึ่งพาดตัวมาจากทางตะวันตกของภาคเหนือ



.


จุดเชื่อมต่อรถไฟเฮเฟตัส:

ชานชาลาที่ 9 สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)




สำหรับท่านไม่มีตั๋วโปรดซื้อตั่วที่เคาน์เตอร์

* ก่อนชำระเงินอย่าลืมบวกภาษีทุกครั้ง *

ตั๋ว 1 ที่นั่ง ราคา: 20 ดรักม่า

ตั๋วห้องวีไอพี (4-5 คน): 100 ดรักม่า







แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 13412 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-7-8 14:47
โพสต์ 2024-7-21 16:37:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Nanette Leblanc
สวนหลวง ร.9 กรุงเทพ, ประเทศไทย


รถไฟจากนิวยอร์กมาถึงกรุงเทพ ประเทศไทยในเวลาต่อมา นาแนตต์ลงมาจากรถไฟตรงสถานีหัวลำโพง มองผู้คนที่ดูแตกต่างจากเชื้อชาติและวัฒนธรรมก็ทำให้รู้ได้ชัดเจนเลยว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นิวยอร์กอีกแล้ว พลันความรู้สึกตื่นเต้นดีใจก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาด


นาแนตต์เสิร์ชแผนที่ในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง พอออกมาจากค่ายฮาล์ฟบลัดแล้วสัญญาณอินเตอร์เน็ตต่าง ๆ ก็ใช้ได้ เท่าที่จำได้เหมือนว่าเธอต้องไปเที่ยว 5 เมืองไม่ซ้ำกัน ดังนั้นเมืองแรกก็ต้องเริ่มต้นด้วยกรุงเทพนี่ล่ะ


“ไหนดูซิ กรุงเทพมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง”


ไถโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ นาแนตต์ก็สะดุดตากับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติซึ่งเป็นสวนสวยงามในกรุงเทพแบบที่ตามหา เด็กสาวจากฝรั่งเศสจึงตกลงจะไปที่นี่ทันที


ใช้เวลาไม่นานรถแท็กซี่พานาแนตต์มาที่สวนหลวง ร.9 ในช่วงเย็นแดดร่มลมตกแบบนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศดูสดชื่นและสวยงามมากยิ่งขึ้น เด็กสาวลากกระเป๋าเดินทางไปพลางยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายรูปไปพลาง ก่อนที่นาแนตต์จะหาที่นั่งเพื่อรอดูท้องฟ้าสวย ๆ ในยามพระอาทิตย์ตกในวันนี้


ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์ 1 กรุงเทพ (สวนหลวง ร.9)



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 7790 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-7-21 16:37
โพสต์ 7,790 ไบต์และได้รับ +3 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก หอมเย้ายวน  โพสต์ 2024-7-21 16:37
โพสต์ 7,790 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก งามเป็นหนึ่ง  โพสต์ 2024-7-21 16:37
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตาหลากสี
ชุดบำรุงอาวุธ
หมวกปีกกว้าง
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
ดาบสัมฤทธิ์
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-7-22 14:38:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Nanette Leblanc
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา, ประเทศไทย


นาแนตต์ในวันนี้ไม่ได้อยู่กรุงเทพแล้ว เพราะเธอกำลังทำภารกิจท่องเที่ยวทั่วไทยไปกับ 5 จังหวัด ตอนนี้เด็กสาวเลยมาอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ตามที่ได้ยินว่าที่เที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดนี้น่ะสวยสุด ๆ ไปเลย


อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่คือสถานที่ที่นาแนตต์มาในวันนี้ เด็กสาวที่แม้จะใส่ชุดคล่องตัวแต่ก็ยังไม่วายติดแกลมอย่างการมีหมวกคาวบอยสีชมพูบาร์บี้ประดับมาด้วย ยืนถ่ายรูปธรรมชาติตรงจุดป้ายสถานที่ อาจจะเป็นเพราะว่าวันนี้ไม่ใช่วันหยุด เลยทำให้นักท่องเที่ยวไม่เยอะและไม่ทำให้เธอเสียอารมณ์


“สวยจัง”


ถึงแม้จะเกิดและเติบโตในเมืองใหญ่ แต่พอได้มาสูดอากาศสดชื่นท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ แบบนี้แล้ว นาแนตต์ก็รู้สึกถูกใจไม่น้อยเหมือนกัน


“เอาล่ะ ที่นี่มีของกินอะไรขึ้นชื่อนะ ไปกินกันดีกว่า”



ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์ 2 นครราชสีมา (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 7424 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-7-22 14:38
โพสต์ 7,424 ไบต์และได้รับ +3 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก หอมเย้ายวน  โพสต์ 2024-7-22 14:38
โพสต์ 7,424 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก งามเป็นหนึ่ง  โพสต์ 2024-7-22 14:38
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ตาหลากสี
ชุดบำรุงอาวุธ
หมวกปีกกว้าง
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
ดาบสัมฤทธิ์
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-7-28 13:41:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-11-2 12:42

201
Thailand P.1 - เที่ยวละไม



               3 วันก่อนหน้าการท̶̶่อ̶ง̶เ̶ท̶ี̶̶่ย̶ว̶ทำภารกิจ

               ออกจากลอนดอนสี่ทุ่มมาถึงไทยบ่ายสี่โมงโดยหลับมาตลอดทาง ตื่นมาอีกทีก็ถึงเย็นของอีกวันที่ประเทศในทวีปเอเซียอาคเนย์ ต้องเผชิญกับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นและฝุ่นควันเรียกว่าแตกต่างจากยุโรปที่เขาจากมาอย่างสุดขั้ว แม้ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินมาแต่ก็เกิดอาการเจ็ตแลคจนต้องใช้เวลาในการปรับตัวอยู่หนึ่งวันก่อนจะเริ่มออกเดินทาง

               หลังจากที่ดีนและแมคเคนซีออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงพวกเขาตัดสินใจว่าจะเช่ารถขับกัน ตามสามัญสำนึกจะหาบริษัทเช่ารถง่ายที่สุดคือต้องไปแถว ๆ สนามบิน ไหน ๆ จะเดินทางขึ้นเหนือแล้วพวกเขาจึงเลือกจะไปที่ดอนเมืองแทนที่จะเป็นสุวรรณภูมิโดยขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สนามบินได้เลยถือว่าสะดวกสบาย

               ดีนค่อนข้างตื่นเต้นกับระบบรถไฟฟ้าของไทยแลนด์ มันสะอาดยิ่งกว่าที่นิวยอร์ก ปารีส หรือแม้แต่ลอนดอนเสียอีก จนไม่น่าเชื่อที่ประเทศที่เต็มไปด้วยฝุ่นควันแทบจะติดฟิลเตอร์เหลืองตลอดเวลาจะมีสถานีรถไฟฟ้าที่สะดวกสบายได้เช่นนี้ ติดอยู่แค่อย่างเดียว… บันไดเลื่อนจะมีเอาไว้ทำไมถ้าจะปิดทำการ อีกเรื่องที่เขาตื่นเต้นก็คือการที่รถไฟวิ่งบนรางลอยฟ้าเนี่ยแหล่ะ ปกติเขาจะคุ้นเคยกับรถไฟที่อยู่ใต้ดินมากกว่าพอได้เห็นวิวงาม ๆ ระหว่างการเดินทางเลยได้ถ่ายรูปมาอีกหลายสิบรูปตั้งแต่ที่ภารกิจยังไม่เริ่มต้นขึ้น

               เมื่อมาถึงดอนเมืองพวกเขาก็เข้าพักยังโรงแรมใกล้กับสนามบินและวางแผนว่าจะเช่ารถในตอนเช้าเพื่อขับขึ้นเหนือไปยังแม่ฮ่องสอนก่อนจะไล่จังหวะลงมาบรรจบที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งงานนี้จำเป็นจะต้องซื้อซิมส์โทรศัพท์แล้วเปิดใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่จากคำแนะนำของศิลาบอกว่าเมืองไทยไม่ค่อยมีอสุรกายนอกจากภูตผีก็แปลว่าพวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องอันตราย …ใช่ไหม?

               @Mackenzie

               .
               .
               .

               2 วันก่อนหน้าการท̶̶่อ̶ง̶เ̶ท̶ี̶̶่ย̶ว̶ทำภารกิจ

               วันนี้ดีนและแมคเคนซีตื่นแต่เช้าเพื่อลงไปรับประทานอาหารที่แคนทีนของโรงแรมแล้วเช็คเอาต์ออกไปทันทีเพื่อเช่ารถที่สนามบินดอนเมือง อาจเป็นเพราะพวกเขาพักโรงแรมมีชื่อใกล้สนามบินก็ได้มั้งอาหารเช้าที่รับประทานจึงไม่แตกต่างจากอเมริกันเบรคฟาสต์มากเท่าไรจนทำให้เกิดอาการคัลเจอร์ช็อก แต่ก็ยังมีอาหารไทยเรียบง่ายบางอย่างให้ลองชิมเช่นข้าวต้มปลา ซึ่งดีนไม่พลาดที่จะลิ้มลองดูสักถ้วย มันคล้ายกับซุปข้าวโอ๊ตแต่น้ำซุปใสทำให้คล่องคอกว่ามาก

               แผนการของวันนี้คือขับรถขึ้นเหนือ ด้วยความที่เป็นชาวต่างชาติ ความชำนาญทางเท่ากับศูนย์ต้องพึ่งพาเนวิเกเตอร์จากแอปเปิลแมพเพียงอย่างเดียว แถมยังต้องขับรถพวงมาลัยขวาที่ไม่คุ้นเคยพวกเขาจึงตกลงกันว่าจะค่อย ๆ ขับขี่กันอย่างไม่รีบร้อน เหนื่อยตอนไหนก็แวะพัก ระหว่างทางนอกจากช่วยดูทางให้แมคเคนซีดีนก็ฝึกภาษาไทยไปด้วย

              ‘ซาหวาดดีขรั่บ’ แปลว่า สวัสดี… ‘คอบขุ่นขรั่บ’ แปลว่า ขอบคุณ… ‘อานนี้ท่าวหร่าย’ ใช้ถามราคา… ‘อาโหร่ยมาร์ก’ แปลว่า อร่อย… นายต้องจำคำพวกนี้ไว้ด้วยนะแมคซี่”

               เขาบอกสารถีจำเป็นเพราะแมคเคนซีเป็นคนเดียวที่มีใบขับขี่สากล

               ดีนท่องศัพท์มากมายที่จำเป็นสำหรับการท่องเที่ยวที่ประเทศไทยจนพอจะจำศัพท์บางคำได้แล้ว กระนั้นพวกเขาก็ยังคงต้องพึ่งพาแอปพลิเคชั่นแปลภาษาอยู่ดี

               เมื่อถึงยามเย็นทั้งสองมาถึงที่จังหวัดสุโขทัยที่จัดว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนืออย่างแท้จริง พวกเขาหาโรงแรมในตัวเมืองเพื่อพักผ่อน แล้วก็จบไปอีกหนึ่งวัน

               @Mackenzie

              .
               .
               .

               1 วันก่อนหน้าการท̶̶่อ̶ง̶เ̶ท̶ี̶̶่ย̶ว̶ทำภารกิจ

               วันนี้การเดินทางยาวนานเสียยิ่งกว่าวันแรกแล้วยังต้องขับขี่ไปตามเส้นทางขึ้นเขาอันคดเคี้ยวกว่าจะถึงแม่ฮ่องสอนก็เล่นเอาเสียตะวันเกือบจะตกดิน ซึ่งวันนี้ดีนก็ยังคงไม่หยุดการเรียนรู้คำศัพท์และบทสนทนาภาษาไทยจนคาดว่าแมคเคนซีน่าจะมีหลอนหูกันอยู่บ้าง

               ระหว่างเดินทางดีนได้เสิร์จหาที่พักดี ๆ ที่แม่ฮ่องสอนจนได้พบกับโรงแรมแห่งหนึ่ง ณ อำเภอปาย ที่ควรเรียกว่าฟาร์มสเตย์เสียยิ่งกว่าโรงแรม ที่พักมีลักษณะบังกะโลเป็นหลัง ๆ มีที่จอดรถและอาหารเช้าฟรี ที่สำคัญที่สุดเลยคือมีน้องแกะ เป็ด ไก่! น่าเสียดายก็ตรงที่พวกเขามาถึงเย็นเกินไปก็เลยไม่ได้เล่นกับเหล่าสรรพสัตว์ในฟาร์ม แต่ดีนก็มีจุดมุ่งหมายอันดับแรกที่จะทำในเช้าวันพรุ่งนี้แล้ว

               “แมคซี่ เห็นว่าแถวนี้มีตลาดกลางคืนด้วย เราไปเดินเล่นหาอะไรกินกันไหม?”

               ดีนเอ่ยปากชวน หากจะให้การมาเที่ยวรับประทานแต่อาหารโรงแรมและร้านอาหารตามปั๊มน้ำมันก็กะไรอยู่

               @Mackenzie

               “โอเค งั้นไปกัน เห็นว่าถนนคนเดินอยู่ไม่ห่างจากที่พักเท่าไรนะ ขับรถไปแค่ไมล์เดียวเอง”

               ดีนยังคงติดหน่วยวัดมาตรฐานของอังกฤษแทนกิโลเมตร เขายื่นแมพจากโทรศัพท์มือถือเปิดให้อีกฝ่ายดู และเมื่อตกลงเส้นทางกันเสร็จเรียบร้อยทั้งสองก็ขับรถไปที่ถนนคนเดินของอำเภอปาย หากอยู่ในตัวเมืองที่ผู้คนพลุกพล่านดีนคงชวนอีกฝ่ายเดินชมเมืองไปแล้ว ทว่าเขาได้รับคำเตือนเรื่องความปลอดภัยจากคุณพ่อและคุณลุงชาวมนุษย์มาอยู่บ้าง ไทยแลนด์แม้จะปลอดภัยเรื่องขโมยต่างจากอเมริกาหรือฝรั่งเศส แต่ก็ยังถือว่าไว้ใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็น และอีกอย่างขณะนี้ฟ้าก็เริ่มมืด คงไม่ปลอดภัยหากจะเดินเล่นบทถนนที่มีเพียงแค่ไฟทางสลัวไร้ผู้คน

               เมื่อใกล้ถึงตลาดคนเดินแสงไฟเริ่มสว่างและเห็นถึงความคึกคัก ตึกรามบ้านช่องทำจากไม้ดูแตกต่างจากประเทศที่เคยมา แม้ว่าผู้คนจะไม่ได้พลุกพล่านมากเพราะเป็นช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยว ทว่าร้านค้ายังคงเปิดริมสองข้างทางให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่าย ไม่ว่าจะเป็นของสตรีทฟู้ด เสื้อผ้าพื้นเมือง งานไม้แกะสลัก หรือข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทั้งแนววินเทจและสมัยใหม่ จะบอกว่าเป็นกลิ่นอายที่แตกต่างจากที่เขาเคยสัมผัสก็ว่าได้



               เท่าที่สำรวจร้านอาหารในละแวกนี้ส่วนมากเป็นผับแอนด์เรสเตอรองขายอาหารตะวันตกไม่ว่าจะเป็นสเต็ก พิซซ่า พาสต้า หรือแม้แต่อาหารเม็กซิกันก็มี ส่วนร้านอาหารไทยจะเป็นร้านแผงลอยที่กางโต๊ะเก้าอี้อยู่บนถนน เรื่องความสะอาดดูแล้วไม่เท่าไร แต่เป็นอาหารแปลกใหม่ที่ไม่เคยลอง

               “เอาร้านไหนดีล่ะแมคซี่”

               ดีนเอ่ยถาม อยากลองอาหารข้างทางอยู่นะ แต่ก็แอบกลัวว่าจะท้องเสียตั้งแต่วันแรกหรือเปล่า

               @Mackenzie

               “น่าสนใจดีนะ”

               ปกติที่สหรัฐฯ ดีนได้กินแต่น้ำมะพร้าวบรรจุขวดพลาสติกแต่ไม่เคยกินน้ำมะพร้าวสด ๆ ที่เฉาะออกจากลูกมะพร้าวให้ได้เห็นแบบนี้มาก่อน เขาปล่อยให้แมคเคนซีที่น่าจะรู้ภาษาไทยมากกว่าเข้าไปเจรจาแต่ดูเหมือนว่าคนขายจะสนทนาภาษาอังกฤษพอได้จึงไม่ต้องเหนื่อยอธิบายหรือใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษา จะว่าไปเขาเห็นคนเดินถนนเป็นชาวตะวันตกมากกว่าคนไทยเสียอีก เพราะแบบนี้ล่ะมั้งพ่อค้าแม่ขายถึงได้สปีกอิงลิชกันได้คล่อง

               “ขอบใจนะ” ดีนรับแก้วน้ำมะพร้าวที่แมคเคนซีซื้อมาแล้วลองดื่ม เป็นอย่างที่คิดเลยจริง ๆ ว่าน้ำมะพร้าวสดจากลูกพร้อมกับเนื้อมะพร้าวอร่อยชื่นใจว่าน้ำมะพร้าวบรรจุขวดเยอะเลย “อร่อย สดชื่นมาก” แล้วก็หันไปคุยกับพ่อค้า โชว์สกิลภาษาไทยนิดหน่อย “อาโหร่ยมาร์ก” ซึ่งนั่นเรียกเสียงหัวเราะจากคนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี

               “ฉันสนใจพวกร้านอาหารข้างทางนะ เราลองเสี่ยงดวงกินกันดีไหม? ร้านที่เป็นร้านก็มีแต่อาหารตะวันตก มาไทยทั้งทีจะกินแต่ของเดิม ๆ ก็แปลก ๆ นะนายว่าไหม?”

               @Mackenzie

               “โอเคได้”

               ตัดสินใจเดินดูให้ทั่วจนสุดถนนจนแมคเคนซีพามาหยุดอยู่หน้าร้านขายไส้กรอกรูปทรงประหลาดที่ตอนแรกดีนคิดว่าเป็นมีทบอลเสียอีก ทว่าเขาดันเห็นพวงของไส้กรอกที่ห้อยถูกย่างบนเตาเหล็กจนควันฉุย แมคเคนซีก็ช่างเลือกร้านหาอะไรแปลก ๆ รับประทาน อาจเป็นเพราะว่าเขามัวแต่กังวลเรื่องท้องเสียละมั้งจึงไม่กล้าทานอะไร

               “ห๊ะ เสียเหรอ?”

               ชายหนุ่มทำตาโตทันทีที่คนรักบอกว่าอาหารนี้มีรสชาติเปรี้ยว ยิ่งกระตุ้นความแพนิกของตัวเองเข้าไปใหญ่ แต่อาหารที่ถูกปรุงสุกแถมยังร้อนอยู่จะเสียได้ยังไง ดีนเหลือบมองไปยังร้านขายของที่มีเด็กไทยเพิ่งซื้อไส้กรอกลูกกลมแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อยก็ขมวดคิ้ว หรือรสเปรี้ยวที่แมคเคนซีพูดอาจไม่ใช่การเสียก็ได้ ดีนจึงลองดมดู

               “ไม่ใช่กลิ่นบูดนะ แต่กลิ่นกระเทียมชัดมาก”

               เขายู่หน้าเล็กน้อยอย่างไม่เคยชิน ก่อนจะลองชิมไส้กรอกกลมคำเล็ก ๆ ไปครึ่งลูก เปรี้ยวจริงด้วยแต่ว่ารสชาติไม่แย่ รสสัมผัสประหลาด ๆ คล้ายกับมีข้าวผสมอยู่ จะว่าไปก็แอบคล้ายแบล็กพุดดิ้งอยู่หน่อย ๆ เขาเลยลองใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษาสนทนากับคนขายจนได้ความว่า ไส้กรอกเหล่านี้ชื่อว่า ‘ไส้กรอกอีสาน’ มีรสเปรี้ยว ให้รับประทานกับกะหล่ำ ขิง และพริกเพื่อแก้เลี่ยน ดีนจึงลองทำตามแล้วก็น้ำตาเกือบไหลเพราะพริกเม็ดเล็ก ๆ นั่นจนดูดน้ำมะพร้าวแทบไม่ทัน

               @Mackenzie

               ดื่มน้ำมะพร้าวจนหมดแก้วอาการเผ็ดจึงทุเลาแต่ยังคงไม่หายแสบที่ปลายลิ้น

               “ปกติอาหารเม็กซิกันก็เผ็ดนี่นา ฉันเลยนึกว่าจะกินได้”

               แต่ปาปริก้ากับพริกเม็ดเล็ก ๆ ก็ต่างกัน ไม่ต้องพูดถึงพริกเผ็ดอย่าง ‘แคโรไลนา รีพเปอร์’ หรือ ‘อะโพคาลิปส์ สกอเปี้ยน’ เลย แม้ไม่ใช่พริกที่เผ็ดที่สุดในโลกแต่กินเข้าไปก็น่าจะถึงตาย

               “เอามาสิ ฉันเอามาทุกยาทุกตำหรับเลย” หมายถึงทั้งกล่องยาสามัญและอาหารเทพ ถึงจะบอกว่ามียาแต่อย่าให้ท้องเสียเลยจะดีกว่า แล้วก็มองคนที่กินไส้กรอกอีสานไม่หยุดปาก เห็นแล้วก็ขำนิดหน่อย “นี่ชอบหรือว่าหิว?”

               @Mackenzie
               “อิ่มไวจัง ฉันยังกินไม่ได้ครึ่งกระเพาะเลย”

               แหงมแหล่ะ กินแค่ไส้กรอกไปลูกนึงกับน้ำแก้วนึงเองนี่นา หากว่าไส้กรอกลูกกลมมันไม่มีเนื้อสัมผัสคล้ายแบล็กพุดดิ้งเขาคงจะทานได้สบายใจกว่านี้ ดังนั้นแมคเคนซีจึงเป็นฝ่ายรับประทานไส้กรอกอีสานจนหมด แล้วพวกเขาก็เดินชมนั่นดูนี่ต่อไปจนแมคเคนซีชี้ให้ดูร้านข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งอยู่ในเช็กลิสต์สิ่งที่ต้องรับประทานเมื่อมาถึงเมืองไทย

               “โอ๊ะ น่ากิน เอาสิ แล้วนายกินไหม?”

               รู้สึกว่าข้าวเหนียวมะม่วงจะถูกจัดอยู่ในหมวดของหวาน แต่ถ้ากินเป็นมื้อหลักคงไม่เป็นไรมั้ง…

               @Mackenzie

               “มันคล้าย ๆ แบล็กพุดดิ้งอ่ะ ฉันเลย.. แบบว่า…”

               ละคำพูดเอาไว้แต่อาการคงออกทางสีหน้าให้อีกฝ่ายอ่านได้ และแมคเคนซีก็น่าจะรู้ดีว่าเขาไม่ถูกโรคกับไส้กรอกแบบนี้มากแค่ไหนจนกลายเป็นดูเหมือนคนเบื่ออาหาร แต่เขาประหลาดใจมากกว่าที่อีกฝ่ายทานแค่ไส้กรอกก็อิ่มแล้วเหรอ

               “งั้นฉันซื้อแค่ของที่เดียวนะ”

               กล่าวบอกกับอีกฝ่ายก่อนจะเข้าไปสั่งข้าวเหนียวมะม่วงที่ใส่ในภาชนะใบไม้น่ารัก ๆ มาแล้วรอให้อีกฝ่ายจ่ายเงินให้ มือยื่นถาดใบไม้ส่งไปตรงหน้าแมคเคนซี

               “ให้คนจ่ายเงินกินก่อน”

               @Mackenzie

               “มันก็คล้ายกันนิดหน่อยแบบว่ามีข้าวอยู่ข้างใน”

               ดีนอธิบาย จะว่าไปเขาก็ไม่ใช่คนเลือกกินนะ เพิ่งมารู้ตอนไปต่างแดนนี่แหล่ะว่ามีอาหารบางอย่างที่เขาไม่ชอบ คงอาจเพราะตอนอยู่ที่อเมริกาเขาได้ทานแต่อาหารซ้ำ ๆ จำเจอย่างของทอด ของทอด และของทอดสุดโปรดก็เป็นได้

               “เปล่าสักหน่อย แค่ให้นายลองชิมเพราะเดี๋ยวฉันจะกินหมด”

               แต่ดูเหมือนว่าคนกินหมดจะไม่ใช่เขาแต่เป็นอีกฝ่ายต่างหาก เห็นคนยึดข้าวเหนียวมะม่วงจานแรกไปก็อดที่จะยิ้มขำไม่ได้ ดีแล้วที่แมคเคนซีได้กินอาหารเพิ่มเพราะเขาคิดว่าแค่ไส้กรอกอีสานคงไม่เพียงพอ

               “แล้วนายน่ะจานเดียวพอเหรอ?”

               แกล้งแซวไป จากนั้นก็รับจานใบไม้มาจากคนขาย ชิมหน่อยสิว่าของหวานที่แมคเคนซีอร่อยจนสีหน้าเปลี่ยนมันจะสักแค่ไหน สมกับที่เป็นเมนูแนะนำเมื่อหากมาไทยหรือไม่ ซึ่งรสชาติความหวานหอมของข้าวเหนียวที่ราดด้วยน้ำขาว ๆ ขุ่น ๆ (คัสตาร์ด? ก็ไม่น่าใช่) เข้ากันได้ดีมาก ๆ กับมะม่วงสุกรสเปรี้ยวอมหวานจนทำให้ดีนทำตาโตไปอีกคน

               @Mackenzie

               “ฉันก็ไม่แน่ใจ..”

               ไม่แน่ใจว่าที่เขาไม่ชอบเพราะมีข้าวอยู่ข้างในหรือเพราะว่าเขาได้ทานแบล็กพุดดิ้งมาก่อนเลยติดเฟิร์สอิมเพรสชั่นที่ไม่ดีมา แล้วพอมาเจอไส้กรอกอีสานที่มีข้าวอยู่ข้างในเหมือนกันเลยพาลให้นึกถึงอาหารที่ไม่ชอบ บางทีหากเขาได้รับประทานไส้กรอกอีสานก่อนอาจจะรู้สึกชอบมากกว่านี้ก็เป็นได้

               “อร่อยมาก อร่อยจนอยากจะลองอื่น ๆ อีกเยอะเลย”

               พอได้ทานอาหารอร่อยก็เหมือนว่าความกลัวจะท้องเสียถูกลบไปชั่วขณะ ดีนมาคิดภายหลังว่าหากเขามัวแต่กังวลเรื่องนี้จะเครียดไปก่อนทั้งที่ความจริงแล้วจะไม่เป็นไรหรือเปล่า เพราะก็เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติคนอื่นดูจะเอ็นจอยกับสตรีทฟู้ดแปลก ๆ โดยไม่คำนึงถึงท้องเสีย แล้วถ้ายิ่งเขากังวลมากไปอาจจะทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่สนุกก็เป็นได้ อาจจะต้องปรับทัศนคติตัวเองใหม่

               แล้วก็สะกิดแมคเคนซี

               “เมื่อกี้ฉันร้านนู้นขายอะไรแปลก ๆ ในจานใบไม้ด้วย เดินกลับไปดูได้ไหม?”

               @Mackenzie

               หลังจากเครื่องติดจากข้าวเหนียวมะม่วงดีนก็ลองกินอาหารสตรีทฟู้ดไทยหลายอย่าง เช่น หมูปิ้ง ซูชิสไตล์ไทย โรตีราดนมข้นหวาน อย่างละนิดละหน่อยทั้งคาวและหวานสลับกันมั่วซั่วไปหมด

               จนมาถึงร้านอาหารแปลก ๆ ที่เขาขอให้วกกลับมาดูอีกที มีป้ายเขียนบอกเป็นภาษาอังกฤษว่า ‘อาหารพื้นเมืองชนกลุ่มน้อย’ ตามด้วยชื่อ ‘ข้าวปุกงา’ และคำอธิบายว่าทำจากข้าวเหนียวและงา พอลองทานแล้วรสชาติมันคล้ายกับโมจิอยู่นะ



               “แมคซี่อาหารชนเผ่าล่ะ พวกเรานี่โชคดีชะมัดที่ได้มากิน”

               เขาเคี้ยวข้าวปุกหงุบหงับสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จะว่าไปวัฒนธรรมอาหารของไทยก็แปลกดี จากที่เขาศึกษาก่อนมาเที่ยวในเว็บไซต์บอกว่าหมูปิ้งคืออาหารที่คนไทยนิยมรับประทานในตอนเช้า แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับเห็นว่าคนไทยกินหมูปิ้งเป็นอาหารเย็น หรือคำที่ว่า ‘คนไทย แปลว่า อิสระ' คือเรื่องจริง ประมาณว่าฉันจะกินอะไรตอนไหนก็ได้ใครจะทำไม

               รักประเทศนี้จังแฮะ

               @Mackenzie

               “อืม เข้มข้นดีนะ ลิ้นคนอังกฤษอย่างนายรับไหวใช่ไหม?”

               ดูเหมือนแมคเคนซีจะให้ความสำคัญกับเรื่องกลิ่นของอาหารน่าดูเลย อาจเป็นอย่างที่เขาว่ากัน ชาวอังกฤษไม่มักเครื่องเทศและทานรสจืดจนได้รับคำครหาว่าเป็น ‘ชาติลิ้นเพี้ยน’ แต่ดีนที่ได้ไปทานอาหารต้นตำหรับลอนดอนมาแล้วก็บอกได้ว่าอาหารอังกฤษไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่รสอ่อนกว่าที่อื่น ๆ คือเรื่องจริง

               เมื่อหาอาหารเย็นกินกันจนหนังท้องตึงแล้วก็ได้เวลากลับไปที่พักฟาร์มสเตย์ จะว่าไปพวกเขาเปิดโทรศัพท์มือถือมาตลอดตั้งแต่ใส่ซิมส์การ์ดแต่ยังไม่เจออสุรกายเลยสักตัว หรือว่าประเทศนี้จะเป็นดินแดนที่ปลอดภัยสำหรับเดมิก็อดจริง ๆ นะ แบบนี้ก็ดีจะได้ทำให้พวกเขาท่องเที่ยวกันอย่างสบายใจโดยไม่มีภัยร้ายมารบกวน

               @Mackenzie


เริ่มภารกิจ: เที่ยวไทยแลนด์

แสดงความคิดเห็น

30. Pai’s street food is so good M [ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ] หลังจากรถไฟเฮเฟตัสเริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ระเทศไทยได้สัก  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-7-29 16:21
โพสต์ 45488 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-7-28 13:41
โพสต์ 45,488 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-7-28 13:41
โพสต์ 45,488 ไบต์และได้รับ +5 EXP +9 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2024-7-28 13:41
โพสต์ 45,488 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-7-28 13:41
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x3
x11
x2
x7
x2
x4
x8
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-7-29 16:21:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mackenzie เมื่อ 2024-7-29 16:22
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-7-28 13:41
201Thailand P.1 - เที่ยวละไม

30. Pai’s street food is so good
M

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากรถไฟเฮเฟตัสเริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ระเทศไทยได้สักพัก แมคเคนซีก็หลับตามเด็กอนามัยเข้านอนเร็วอย่างดีนที่หลับไปแทบจะทันทีหลังรถออก แล้วเขาก็ตื่นมาหลังจากที่หลับยาวไปได้เต็ม ๆ ตื่นนึงจนกระทั่งรถไฟจอดเทียบชานชาลา

พวกเขามาถึงประเทศไทยแล้ว

เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟเฮเฟตัสแล้ว แมคเคนซีรู้สึกว่าตนคิดถูกเหลือเกินที่ถอดเสื้อโค้ทออกตั้งแต่อยู่ในรถไฟจนเหลือเพียงแค่เสื้อโปโลแขนสั้นชั้นเดียว เพราะประเทศไทยนั้นเรียกได้ว่าแค่แตะเท้ามายังสถานีหัวลำโพงซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยกับสถานีเฮเฟตัสแล้วก็ปะทะกับอากาศร้อนเข้าอย่างจัง มันร้อนกว่าหน้าร้อนที่ลอนดอนและนิวยอร์กหลายเท่าตัวจนรู้สึกว่าผิวขาว ๆ ของเขาจะไหม้ได้เลย

ตามแผนการที่ดีนวางไว้ พวกเขาจะต้องไปเช่ารถกันแถวสนามบินดอนเมืองก่อน ซึ่งการเดินทางโดยรถไฟฟ้าที่มีแอร์เย็น ๆ ก็ทำให้แมคเคนซีรู้สึกสบายตัวได้สักพัก ทั้งยังได้ชมวิวเมืองกรุงเทพจากมุมสูงอีก จึงทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาจากอากาศร้อนได้ระดับนึง แต่ก็คงจะไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่ากับคนที่มาด้วยกันที่หยิบกล้องมาถ่ายรูปเป็นว่าเล่น

หลังลงจากรถไฟฟ้าและเข้าเช็คอินที่โรงแรมแล้ว โชคดีที่พวกเขาไม่มีแผนจะออกไปไหนอีก แมคเคนซีจึงได้คูลดาวน์ตนเองจากแดดประเทศไทย และคราวนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเปิดระบบจีพีเอสในการเดินทาง ซึ่งดีนบอกว่าตนได้ถามเพื่อนชาวไทยจากในค่ายมาแล้วถึงได้รู้ว่าที่ประเทศไทยไม่มีอสุรกายมากเท่าฝั่งยุโรป แต่ประโยคต่อมาที่ว่า ‘ประเทศไทยมีภูติผี’ นั้นก็ทำให้แมคเคนซีเกิดเสียวสันหลังขึ้นมาแปลกๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาเจอประสบการณ์ขนหัวลุกที่หอคอยแห่งลอนดอน ได้แต่หวังว่าการมาทำภารกิจที่ไทยตนจะไม่เจอเรื่องเช่นนั้นซ้ำสองอีก

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากได้นอนหลับเต็มอิ่มแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็เริ่มต้นด้วยการไปรับประทานอาหารเช้าของโรงแรม และเพื่อไม่ให้เสียเวลาการเดินทาง ทั้งคู่ก็เช็คเอาท์แล้วไปเช่ารถต่อทันที แน่นอนว่าผู้รับหน้าที่การขับรถตลอดทริปนี้ก็คือแมคเคนซีผู้มีใบขับขี่สากล ซึ่งนอกจากการต้องปรับตัวนิดหน่อยเพราะที่นั่งคนขับของรถยุโรปกับรถเอเชียอยู่คนละด้านกันแล้วแมคเคนซีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเนื่องด้วยเป็นคนที่ชอบขับรถเล่นมาแต่ไหนแต่ไร พอเริ่มขับคล่องแล้วก็ไม่มีอะไรต้องน่าห่วง เพียงแค่ต้องคอยดูแมพดี ๆ เพื่อไม่ให้ขับออกนอกเส้นทางเท่านั้น

จากตอนแรกที่คิดว่าขับรถนาน ๆ คงจะง่วงนอนเป็นแน่ แมคเคนซีจึงซื้อลูกอมจากร้านมาร์คแอนด์สเปนเซอร์เตรียมเอาไว้ แต่กลับกลายป็นว่ามีดีนคอยฝึกพูดภาษาไทยอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ทำให้เหงาหูอีกต่อไป ทั้งสำเนียงแปร่ง ๆ ของอีกฝ่ายยังทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาเป็นระยะด้วย

“ที่จริงตอนทำงานที่คลับก็เคยมีลูกค้าคนไทยสอนภาษาไทยฉันนะ เขาสอนคำว่า ‘ซาหวาดดีขรั่บ’ ‘คอบขุ่นซำรั่บทิปครั้บ’ ‘ขุ่นซวยม๊าก’แล้วก็ ‘พ้มรักขุ่น’”

เขาลองพูดประโยคภาษาไทยเท่าที่จำได้ออกมา ซึ่งมันก็แปร่งไปไม่ต่างจากดีนเลย เพียงแต่รูปประโยคที่ใช้นั้นน่าจะเป็นเฉพาะโอกาส ก็แน่ล่ะสิ เขาฟังประโยคพวกนี้มาจากในคลับซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามกลางคืน ก็ต้องมีคำพูดเชิงจีบกันอยู่แล้ว

หลังจากที่แวะทานอาหารบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง และเติมน้ำมันระหว่างทางแล้ว พวกเขาก็มาถึงจังหวัดสุโขทัยซึ่งเป็นจังหวัดที่ดีนวางแผนไว้ว่าจะค้างคืนที่นี่ในช่วงเย็นก่อนจะเดินทางต่อไปยังภาคเหนือในวันพรุ่งนี้ เมื่อหาที่พักเช็คอินได้แล้วก็ได้เวลาพักผ่อนหลังจากที่อยู่ในรถกันมาแทบทั้งวัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันเดินทางขึ้นทางเหนือ หลังจากที่ตรวจเช็คความพร้อมของรถและแน่ใจว่าเติมน้ำมันจนเต็มถังแล้วพวกเขาก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ วันนี้นับว่าเป็นวันที่ท้าทายสกิลการขับรถของแมคเคนซีก็ว่าได้ เพราะระหว่างทางที่กว่าจะถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนนอกจากจะต้องขับรถขึ้นเขาแล้วเส้นทางยังเป็นทางคดไปมา ซึ่งเมื่อคืนแมคเคนซีลองเปิดอินเทอร์เน็ตเพื่อศึกษาเส้นทางดูก็พบว่าระยะทางกว่าจะไปถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้นต้องขับผ่านทางโค้งถึง 1,864 โค้งกันเลยทีเดียว ทั้งสติและสมาธิจึงไปอยู่ที่ถนนและการขับรถทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมวันนี้เขาถึงไม่ได้พูดคุยฝึกภาษาไทยกับดีนเหมือนเมื่อวาน

จนในที่สุดพวกเขาก็เข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและมาถึงที่พักที่ดีนเซิร์ทเจอระหว่างทางจนได้ เขาอยากจะขอบคุณตัวเองเหลือเกินที่ขับรถพาทั้งคู่รอดมาจนถึงที่หมายได้โดยไม่มีใครคลื่นไส้อาเจียนจากทางโค้งเหล่านั้นไปเสียก่อน แต่เรื่องปวดเมื่อยตัวจากการนั่งรถเป็นเวลานานนั้นคงไม่ต้องพูดถึง

ที่พักที่ดีนจองไว้ดูไม่ใกล้เคียงกับโรงแรมสักเท่าไหร่ มันออกแนวเหมือนฟาร์มสเตย์ แต่กระนั้นด้วยตัวสถานที่พักและบรรยากาศโดยรอบก็จัดว่าน่าอยู่และเหมาะแก่การพักผ่อนไม่น้อย และเขารู้สึกได้ว่าอากาศที่ภาคเหนือนั้นค่อนข้างเย็นกว่าภาคกลางพอสมควร แมคเคนซีจึงค่อนข้างสบายตัว

“ไปก็ได้ เรายังไม่ได้กินมื้อเย็นกันเลย”

มัวแต่ตั้งใจขับรถจนลืมความหิวไปแทบหมด พอดีนเอ่ยชวนไปหาของกินท้องของเขาก็ร้องขึ้นมาทันที แต่ก็แอบสงสัยว่าตลาดกลางคืนนั้นเป็นยังไง เริ่มค่ำจะยังมีร้านขายอาหารนอกจากร้านสะดวกซื้อและร้านฟาสต์ฟู้ดที่เปิด24 ชม.อยู่อีกหรือ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากขับรถจนมาถึงตลาดคนเดินและหาที่จอดรถเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็เดินเข้าไปในย่านร้านค้า ไม่รู้ว่าตลาดแห่งนี้เงียบเหงาเป็นปกติหรือว่าไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยวกันแน่ ผู้คนถึงได้ดูบางตาขนาดนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงทำให้แมคเคนซีประหลาดใจไม่น้อย เพราะยิ่งเดินเข้าไปก็ยิ่งเห็นร้านขายอาหารเรียงรายเต็มไปหมด เขาสังเกตเห็นว่าบางร้านก็ใช้ใบไม้ของต้นกล้วย (ใบตอง) มาทำเป็นภาชนะใส่อาหารแทนที่จะใช้จานชาม ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ว่าร้านอาหารที่เปิดมากมายจะมีไฟจากป้ายร้านคอยดึงดูดลูกค้าขนาดไหน แต่ร้านอาหารแผงลอยกลับดึงดูดความสนใจเขาได้มากกว่า

“น้ำมะพร้าวนี่น่ากินดีนะ”

แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับร้านขายน้ำมะพร้าวร้านนึงที่มีน้ำมะพร้าวใส่ในแก้วพลาสติกใสปากกว้างทั้งยังมีเนื้อมะพร้าวอ่อนที่ถูกตักออกมาจนเป็นทรงกลมสวยงามใส่ลงไปด้วย แมคเคนซีเดินเข้าไปซื้อทันที ซึ่งคนขายก็พยายามสนทนากับเขาด้วยภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ จนสุดท้ายแมคเคนซีก็ได้น้ำมะพร้าวมาสองแก้วแล้วยื่นให้ดีนแก้วนึง

“ลองชิมดูสิ เดี๋ยวค่อยไปร้านอื่นกันต่อ”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากที่ลองดื่มน้ำมะพร้าวแล้วก็เป็นอย่างที่ดีนบอกจริง ๆ ความเย็นของน้ำทำให้เขาสดชื่นและหายเหนื่อยส่วนเนื้อมะพร้าวอ่อนที่อ่อนนุ่มก็เคี้ยวเพลินดี ที่สำคัญคือไม่หวานเกินไป เขาฟังดีนพูดภาษาไทยกับคนขายแล้วหลุดขำตามเล็กน้อย ถึงสำเนียงที่อีกฝ่ายพูดจะฟังดูแปลก ๆ แต่ก็น่ารักดี

“ได้นะ ฉันว่าพวกเราคงไม่ท้องเสียตั้งแต่วันแรกหรอกมั้ง ลองเดินไปให้สุดถนนดูเป็นไง”

ถึงจะบอกแบบนั้นแต่พอเดินได้สักพักก็เหลือบไปเห็นร้านไส้กรอกย่างอีก กลิ่นค่อนข้างหอมทีเดียว ในที่สุดก็ซื้อมาสองไม้เพื่อลองชิมก่อนโดยหยิบไม้นึงให้ดีนมาร่วมทดสอบด้วยกัน

“นี่มันไส้กรอกอะไรไม่รู้ แต่คนขายเขาให้ผัก พริกแล้วก็ขิงดองมาเต็มเลย”

บอกพลางเป่าไส้กรอกในมือที่ควันฉุยให้อุ่นก่อนจะงับไปหนึ่งคำแล้วก็ถึงกับตาโต

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อืม…ไม่เสียงั้นเหรอ”

แมคเคนซีพยักหน้าหงึก ๆ ถึงจะสงสัยว่าไส้กรอกที่เพิ่งทานไปเสียหรือเปล่า แต่ในความสงสัยนั้นก็รู้สึกว่ามันเป็นรสชาติแปลกใหม่ด้วย ระหว่างที่ดีนไปคุยกับคนขายเขาจึงลองทานไปอีกคำพร้อมกับลองหยิบกะหล่ำปลีมาทานคู่กัน พอยิ่งทานไปก็รู้สึกว่ามันก็อร่อยดีนี่นา แม้จะมีกลิ่นฉุนของกระเทียมที่เขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่มันกลับทำให้รสชาติของไส้กรอกนี่เข้มข้นขึ้นและยังกลบกลิ่นของเนื้อได้ด้วย ให้ตายสิ…ถ้ามันเสียจริง ๆ พรุ่งนี้เขาคงได้เข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่นไม่ต้องไปไหนกันพอดี

“นายโอเคหรือเปล่า กินพริกไปเป็นเม็ดก็เผ็ดแย่สิ พวกเรามียาแก้ท้องเสียกันใช่ไหม”

เริ่มกังวลนิดหน่อยแต่แมคเคนซีก็ยังไม่หยุดเอาไส้กรอกอีสานเข้าปากพลางเดินมองหาร้านอาหารร้านต่อไปไปด้วย

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เห็นดีนออกอาการเผ็ดขนาดนั้น จากที่คิดว่าจะลองทานพริกดูเลยไม่กินดีกว่า ดูท่าว่าจากนี้ไปคงต้องเลือกอะไรที่ปลอดภัยต่อกระเพาะพวกเขาสักหน่อย ถ้าหากไม่สบายขึ้นมาทริปนี้คงหมดสนุกตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

“ก็…ทั้งสองอย่าง แต่ตอนนี้เริ่มจะอิ่มแล้ว”

คนที่เคี้ยวไส้กรอกตุ้ย ๆ พอถูกทักแบบนั้นก็ยิ้มเขิน ๆ จากที่หิว ๆ พอกินน้ำมะพร้าวกับไส้กรอกอีสานไปก็เริ่มจะอิ่ม แต่คนข้าง ๆ นี่สิทานไปแค่นิดเดียว แบบนี้จะไปอิ่มได้ยังไง

หลังจากที่เดินมาจนเกือบสุดทาง แมคเคนซีก็เห็นร้านที่คิดว่าดีนน่าจะชอบ แต่คราวนี้เขาไม่บุ่มบ่ามเข้าไปซื้ออีกแล้ว

“นั่น ร้านข้าวเหนียวมะม่วง นายสนใจไหม”

เขาหันมาถามดีนก่อน ตั้งใจว่าจะหาร้านที่อีกฝ่ายทานได้อย่างสบายใจ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ก็นายกินไปนิดเดียวเองนี่”

ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าว่าดีนดูไม่ค่อยกล้าทานอาหารสตรีทฟู้ดของไทยเท่าไหร่ กลายเป็นแมคเคนซีเองที่เป็นฝ่ายเอ็นจอยอีทติ้งไปซะได้ แต่อาจจะเ็นอย่างที่อีกฝ่ายพูดก็ได้ว่าเขากำลังหิว ก็เลยทานทุกอย่างที่ขวางหน้า พออิ่มแล้วก็ไม่ค่อยอยากทานอะไรต่อ

“ฉันแค่ลองชิมได้ไหม ดูแล้วท่าจะหวาน”

อาจจะเหมือนกับลิ้นจี่เชื่อมที่โฟร์ซีซั่น ที่แมคเคนซีทานได้คำเดียวก็ยอมแพ้แล้วให้ดีนทานต่อทั้งหมด

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“หืม…เหมือนเหรอ ฉันว่าอันนี้ไม่ได้ใส่เลือดนะ”

ถึงจะคิดว่าต่างกันแต่สังเกตจากสีหน้าดีนแล้ว ถ้าไม่ชอบก็คือไม่ชอบ คงไม่บังคับให้ทาน แมคเคนซียืนดูแม่ค้าปอกมะม่วงอย่างคล่องแคล่วแล้ววางลงไปในถาดใบไม้ที่มีข้าวเหนียวอยู่ จากนั้นก็ตักน้ำขาวข้นอะไรสักอย่างราดลงบนข้าวเหนียว พอแมคเคนซีจ่ายเงินแล้วดีนก็ยื่นถาดข้าวเหนียวมะม่วงมาให้

“จะให้ฉันทดสอบรสชาติก่อนงั้นเหรอ”

แกล้งถามแต่ก็ลองตักมะม่วงกับข้าวเหนียวชิมดูคำนึง

“อื้อหือ อร่อย !”

ตอนแรกก็คิดว่าคงจะหวานเหมือนลิ้นจี่กระป๋องแน่ ๆ แต่เปล่าเลย มะม่วงสุกนี่หวานโดยธรรมชาติ ทั้งยังมีกลิ่นหอม ไม่ได้หวานแหลมเหมือนลิ้นจี่กระป๋องที่แช่ในน้ำเชื่อม แถมข้าวเหนียวที่ราดน้ำเค็ม ๆ นี่ก็มัน ๆ รสชาติกลมกล่อม พอทานกับมะม่วงแล้วก็ให้รสชาติที่อร่อยลงตัว ดูท่าว่าอาหารไทยวันนี้จะถูกใจแมคเคนซีเข้าแล้วจากที่ว่าจะลองชิมเขาเลยสั่งเพิ่มอีกชุดแล้วเอาชุดใหม่ให้ดีนไป

“จานนี้ฉันยึดแล้ว นายเอาจานใหม่ไป”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“นายไม่ชอบไส้กรอกที่มีข้าวงั้นเหรอ”

แมคเคนซีทำหน้าสงสัย แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะไส้กรอกที่คนทั่วไปทานจะมีเนื้อสัตว์กับแป้งเป็นส่วนผสมหลักไม่ก็เป็นเนื้อสัตว์ล้วน พอมีข้าวเป็นเม็ด ๆ แบบนี้เป็นส่วนผสมอาจจะไม่คุ้นชินเท่าไหร่

“พอสิ ที่จริงฉันอิ่มแล้วจริง ๆ นะ แต่พอกินเจ้านี่แล้วก็เหมือนว่ากระเพาะฉันจะขยายได้อีกนิดหน่อย”

บอกแล้วตักข้าวเหนียวมะม่วงเข้าปากอีกคำก่อนจะหันไปมองดีนที่เริ่มต้นทานคำแรกแล้วยิ้มออกมา

“เป็นไง อร่อยใช่ไหม”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ถึงดีนจะไม่ชอบไส้กรอกอีสานแต่อย่างน้อยก็ยังชอบน้ำมะพร้าวกับข้าวเหนียวมะม่วง ยังดีที่ว่าพอจะทานอะไรได้บ้าง

“ได้แน่นอน นายอยากกินอะไรก็เต็มที่เลย”

เขารีบพยักหน้ารับเมื่ออีกฝ่ายที่ดูเซื่องซึมเริ่มจะกระตือรือร้นกับการทานอาหารขึ้นมาบ้าง แล้วถือถาดข้าวเหนียวมะม่วงเดินกลับไปยังทางเดิม เมื่อตอนที่มาจากหัวลำโพงเขาก็นำเงินที่เหลือจากทริปลอนดอนมาแลกเป็นเงินบาทอีกที ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าอาหารที่เขาจ่ายไปทั้งหมดในมื้อนี้แล้วถือว่าถูกกว่าค่าอาหารที่อังกฤษอยู่มาก เงินจำนวนนี้น่าจะเพียงพอให้พวกเขาใช้ได้อีกหลายวัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ขาเดินกลับเหมือนว่าวิญญาณนักชิมของดีนจะกลับมาอีกครั้ง กว่าจะถึงร้านที่อีกฝ่ายบอกว่า ‘ขายอะไรแปลก ๆ’ ก็แวะซื้อของกินระหว่างทางไปหลายร้าน

“นั่นสิ ฉันว่าที่นี่อาหารรสจัดดี แต่ก็ไม่ได้กลิ่นฉุนจนเกินไป”

จากที่ได้ทานอาหารมาหลายเชื้อชาติ เขาพบว่าอาหารทางยุโรปจะมีรสชาติไปทางจืดและเน้นใส่นม เนยและชีสส่วนอาหารจีนแม้จะเป็นอาหารเอเชียแต่ก็ไม่ได้รสชาติจัดจ้านเท่าไหร่ ส่วนอาหารไทยนั้นค่อนข้างมีกลิ่นหอมและหลายอย่างก็มีรสชาติเข้มข้น พอทานไปแล้วก็ชวนให้อยากอาหารมากขึ้น หรือว่านี่จะเป็นความมหัศจรรย์ของอาหารไทยกันนะ

“คล้ายข้าวเมื่อกี้ที่เรากินกับมะม่วงเลย มันเหนียว แต่อันนี้ยืดได้เหมือนโมจิ”

จะบอกว่า ‘ติดฟันเหมือนกันทั้งคู่’ ก็เกรงว่าดีนจะหัวเราะเอา ข้าวปุกที่พวกเขาทานอยู่ถือว่าเป็นอาหารคาวหรือขนมก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าหากไม่จิ้มนมข้นหรือน้ำผึ้งซึ่งเป็นท้อปปิ้งเสริมของทางร้านรสชาติก็ออกจะจืด ๆ ติดเค็มนิดหน่อย

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ได้อยู่ ฉันว่ามันก็อร่อยไปอีกแบบ ดีที่ยังไม่เจอของเผ็ด ไม่งั้นคงได้ลิ้นชา”

เคยได้ยินมาว่าอาหารไทยก็ขึ้นชื่อเรื่องอาหารเผ็ดเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าอาหารทางเหนือจะเผ็ดขนาดนั้นหรือเปล่า

หลังจากเดินเที่ยวพลางซื้ออาหารมากมายตามสตรีทฟู้ดทานกันไปหลายร้านก็พากันกลับมายังที่พัก ค่อยยังชั่วที่พรุ่งนี้พวกเขายังอยู่กันที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน แมคเคนซีจึงไม่ต้องขับรถไกลมาก ได้เก็บแรงไว้ในวันที่จะเดินทางไปยังจังหวัดอื่นต่อ


เริ่มภารกิจ  : เที่ยวไทยแลนด์

แสดงความคิดเห็น

202Thailand P.2 - แม่ฮ่องสอน วันนี้นับเป็นวันแรกของการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนตามภารกิจ ‘เที่ยวไทยแ  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-7-31 22:32
โพสต์ 41077 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-7-29 16:21
โพสต์ 41,077 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-7-29 16:21
โพสต์ 41,077 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-7-29 16:21
โพสต์ 41,077 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-7-29 16:21
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส
น้ำหอมเฮคาที
เหรียญนกฮูก
สร้อยคอดีไซน์เท่
กางเกงเดินป่า
ตำราเวทมนต์เฮคาที
เข็มกลัดเฮคาที
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
เกราะนักรบสีทองแดง
การควบคุมหมอกขั้นสูง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เรียกอาวุธจากหมอก
Hydro X
การปลุกผี
คบเพลิงเวท
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
นาฬิกาสปอร์ต
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x2
x7
x10
x10
x7
x2
x9
x6
x4
x3
x70
x4
x10
x6
x12
x6
x18
x3
x55
x9
x189
x14
x14
x12
x45
x18
x5
x5
x5
x2
x5
x2
x11
x20
x10
x10
x2
x2
x2
x4
x1
x3
x12
x6
x2
x5
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x13
x2
x4
x4
x2
x1
x16
x145
x192
x10
x6
x10
x10
x16
x55
x80
x1
x1
x1
x4
x3
x1
x1
x1
x1
x5
โพสต์ 2024-7-31 22:32:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-11-2 12:43
Mackenzie ตอบกลับเมื่อ 2024-7-29 16:21
30. Pai’s street food is so good M
[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]
หลังจากร ...

202
Thailand P.2 - แม่ฮ่องสอน

               วันนี้นับเป็นวันแรกของการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนตามภารกิจ ‘เที่ยวไทยแลนด์’ ของเทพีดีมีเธอร์อย่างเต็มตัวเสียที

               ดีนตื่นแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น เขามองคนข้าง ๆ ที่ยังนอนหลับสนิทจนสองจิตสองใจว่าจะปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นดีหรือว่าปล่อยให้แมคเคนซีนอนต่ออีกสักหน่อย อีกฝ่ายต้องใช้พลังงานมากกว่าเขาในการขับรถส่วนตนแอบงีบหลับเมื่อไรย่อมได้เสมอ ชายหนุ่มจึงค่อย ๆ ลุกออกจากเตียงช้า ๆ เพื่อไม่ทำให้คนรักตื่นนอน หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเตรียมไปถ่ายรูปยามเช้าของฟาร์มสเตย์และที่สำคัญที่สุดคือพบปะเหล่าสัตว์น้อย น้องแกะ น้องเป็ด และน้องไก่



               ‘อากาศดีชะมัด เหมาะกับการวิ่งจ๊อกกิ้งมาก’

               ทว่าก็ได้แต่คิดในใจเพราะหากมีนักท่องเที่ยวมาวิ่งไปทั่วฟาร์มคงแปลกพิลึก

               หลังจากที่ชื่นชมบรรยากาศยามเช้าเสร็จเรียบร้อยดีนก็ไปปลุกแมคเคนซีที่ห้องพัก จัดแจงอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปรับประทานอาหารเช้าแล้วเช็คเอาต์จากที่พักตั้งแต่หัววันเพื่อออกเดินทางต่อ บรรยากาศยามเช้าของตัวเมืองปายมีความแตกต่างจากตอนกลางคืนอยู่มาก พวกเขาไม่ได้แวะได้แต่ขับรถผ่าน เมื่อคืนนี้ถนนคนเดินเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแต่พอมาเป็นยามเช้ากลับเป็นชาวบ้านท้องถิ่นออกมาทำกิจวัตรประจำวัน

               ขนาดว่าเข้าช่วงสายแล้วยอดเขายังถูกหมอกปกคลุม ช่างสมแล้วจริง ๆ กับที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนถูกขนานนามว่าเป็น ‘เมืองสามหมอก’



               @Mackenzie

               “ใช่ เป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนนานที่อพยพเข้ามาในไทย”

               กล่าวจบดีนก็เซ็ตจีพีเอสไปยังตำแหน่งดังกล่าวแล้วเสียบไว้ที่ตั้งโทรศัพท์บนคอนโซลหน้ารถให้แมคเคนซีได้ดูอย่างสะดวก



               อย่างที่กล่าวไว้ หมู่บ้านสันติชลคือหมู่บ้านของชาวจีนยูนนานทางตอนใต้ของประเทศจีนได้อพยพลงมายังประเทศไทย ในตอนแรกชาวบ้านสันติชลได้อาศัยอยู่บนดอยผีลูในอำเภอปาย แต่ได้ย้ายจากที่เก่ามาอยู่ ณ สถานที่ปัจจุบันได้สามสิบกว่าปีแล้ว แต่ก่อนพื้นที่แห่งนี้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่ทว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามและพัฒนามาเป็นหมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยว จุดเด่นคือโขดหินใหญ่ ด้านบนสร้างเป็นมังกรพันเสาหางชี้ฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน

               ภายในหมู่บ้านมีกิจกรรมการละเล่นสไตล์จีนยูนนานให้นักท่องเที่ยวได้แวะชมและมีส่วนร่วม อาทิ ขี่ม้าล่อท่องเที่ยวในชุมชน โล้ชิงช้า เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ท่องเที่ยวเชิงเกษตร และอุดหนุนสินค้าจากชาวบ้าน แต่ดีนและแมคเคนซีมีเวลาไม่มากพอที่จะเที่ยวทั้งหมดได้ในวันเดียวพวกเขาจึงเลือกที่จะขี่ม้าล่อและลองเล่นโล้ชิงช้าตามแบบฉบับชาวบ้านท้องถิ่นดู

               เพียงแค่สองกิจกรรมเวลาก็ได้ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเที่ยง ไหน ๆ ได้มาที่นี้แล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการรับประทานอาหารสไตล์ยูนนานที่มีทั้ง ขาหมูยูนนาน ผัดยอดผักแม้ว ปลานึ่งซีอิ๋ว เห็ดผัดซีอิ๊ว หมั่นโถวนึ่งและทอด



               “เป็นไงบ้างแมคซี่ อาหารถูกปากหรือเปล่า?”

               @Mackenzie

                “ก็ดีนะ เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี ฉันไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน” ใกล้เคียงสุดคงเป็นเห็ดผัดซีอิ๊วที่คล้ายกับการ์นิชในจานสเต็ก “จะว่าไปมาไทยก็คุ้มนะ เหมือนได้ไปอีกประเทศนึงฟรี ๆ เลย”

               เขากล่าวหลังจากที่ทานขาหมูกับหมั่นโถวคำสุดท้าย ดีนใช้ตะเกียบเก่งกว่าแมคเคนซีนิดหน่อยเขาจึงฝืนใช้ต่อเพราะสังหรณ์ใจว่าอยู่ไทยจะได้ใช้ตะเกียบอีกเยอะจากวัฒนธรรมหลาย ๆ ชาติที่ผสมผสานเข้าด้วยกัน

               “นายอยากจะเดินเล่นต่ออีกหน่อยไหม หรือว่าไปที่ต่อไปกันเลย”

               @Mackenzie

               หลังตกลงกันได้ว่าไปเที่ยวที่อื่นต่อดีนจึงตั้งค่าจีพีเอสตำแหน่งใหม่ให้กับแมคเคนซี ซึ่งจะย้อนกลับมาทางเมืองและใช้เวลาขับรถประมาณยี่สิบนาที

               “เถอะน่า เดี๋ยวนายก็รู้”

               หลังจากที่รถเคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายภาพของบ้านเรือนชาวบ้านที่ทำด้วยไม้ห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ ภาพทุ่งนาอันสุดลูกหูลูกตาเข้ามาแทนที่ ณ ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในฤดูฝน ทุ่งหญ้าที่ขนาบข้างจึงเป็นสีเขียวขจีแบบที่หาไม่ได้จากที่สหรัฐฯ หรือแม้แต่ฟาร์มวัวของแมคเคนซี

               จุดหมายต่อไปคือ ‘วัดท่าทรายขาว’ และ ‘สะพานบุญโขกู้โส่’ พวกเขาไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนวัดแต่ไฮไลท์ของสถานที่นี้คือทุ่งนาที่สวยงามและสะพานไม้ที่ทอดยาวกว่าแปดร้อยเมตรที่ร่วมสร้างจากน้ำพักน้ำแรงของชาวบ้าน แนวคิดเริ่มแรกชาวบ้านต้องการสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้พระสงฆ์บิณฑบาตรในตอนเช้าโดยไม่เหยียบย่ำพืชสวนไร่นาของชาวบ้าน แต่ภายหลังก็ได้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญในการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน



               เมื่อมาถึงจุดหมายดีนอธิบายไกด์ให้ฟังตามข้อมูลที่หามา ซึ่งบางอย่างเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหมายถึงอะไร

               “ถ้าเกิดมาในตอนเช้าจะเห็นพระสงฆ์ออกมาบิณฑบาตรบนสะพานนี้ด้วย บิณฑบาตรคือกิจวัตรที่พระต้องออกมารับอาหารจากชาวบ้าน.. ประมาณนั้นล่ะนะ”

               แต่เหนืออื่นใด นักท่องเที่ยวอย่างเขาไม่ใช่นักวิชาการด้านศิลปะวัฒนธรรม เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าใจถ่องแท้ทั้งหมดก็ได้

               ดีนอ้าสองแขนสัมผัสกับสายลมที่พัดผ่าน พร้อมทั้งสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดที่หลังจากนี้เขาคงไม่ได้สูดอากาศดี ๆ แบบนี้ไปอีกหลายอึดใจเพราะได้ข่าวว่าภาคเหนือของไทยประสบปัญหาฝุ่นควันอยู่ แม้ว่าช่วงนี้จะดีขึ้นเพราะเป็นฤดูฝนก็ตาม

               “แล้วนายว่าเป็นไง วิวนี้คุ้มค่าที่แวะดูไหม?”

               @Mackenzie

               “ไว้เอาแบบนี้ไปทำที่บ้านนายบ้างสิ”

               แขนที่กางออกขยับไปโอบบ่าคนรักจากนั้นก็หอมแก้มเข้าไปหนึ่งฟอด พวกเขาเดินชมวิวที่ทุ่งนาแห่งนี้จนครบรอบจากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไปที่อยู่ไม่ไกลนั่นก็คือ ‘สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย’



               หากพูดถึงความสำคัญทางภูมิศาสตร์ สะพานเหล็กสีเขียวเข้มที่ทอดข้ามแม่น้ำปายคือประตูสู่จังหวัดเชียงใหม่ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเมื่อข้ามผ่านสะพานนี้ไปก็จะเข้าเขตจังหวัดเชียงใหม่แล้ว แต่สะพานนี้ยังมีความสำคัญหนึ่งทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองอีกด้วย

               ในอดีตสะพานแห่งนี้เป็นสะพานไม้ แต่เมื่อครั้งที่กองทัพของจักรวรรดิญี่ปุ่นเดินทางมาเพื่อยึดครองภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์และสร้างสะพานใหม่เป็นเหล็กสำหรับใช้ข้ามแม่น้ำปายและลำเลียงเสบียงและอาวุธเพื่อเข้าโจมตีประเทศพม่า ในตอนนั้นไทยแลนด์เป็นพันธมิตรที่ดีต่อญี่ปุ่นจึงแทบจะเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่ไม่ถูกทหารญี่ปุ่นรุกรานอย่างโหดร้ายทารุณ

               ปัจจุบันสะพานแห่งนี้เป็นจุดแลนด์มาร์กในฐานะประตูระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ไม่เปิดให้รถยนตร์วิ่งผ่านแต่นับว่าเป็นสะพานประวัติศาสตร์ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินเล่น ถ่ายรูปนำวิวสวย ๆ กลับไป

               การท่องเที่ยว ณ จุดนี้จึงไม่มีอะไรมาก ถือเป็นจุดแวะพักก่อนจะขับรถต่อไปโดยห่างจากแม่ฮ่องสอนไปอีกสิบสามไมล์

               @Mackenzie

               สถานที่ต่อไปคือ ‘อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง’ ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ภายในอุทยานแห่งนี้มีจุดท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย อาทิ น้ำตกแม่หาด น้ำตกแม่ลาด น้ำพุร้อนโป่งเดือด น้ำพุร้อนท่าปาย และจุดชมวิวดอยกิ่วลม น่าเสียดายที่พวกเขามาถึงเอาช่วงบ่ายแก่ ๆ จึงอาจเที่ยวชมได้ไม่ครบทุกจุด แต่ไม่เป็นไร อย่างไรไฮไลท์ของการมาที่นี่คือนอนกางเต็นท์ชมดาวท่ามกลางสายหมอก

               ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงสองหนุ่มเดมิก็อดจึงมาถึงจุดบริการนักท่องเที่ยวของอุทยาน สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำก็คือการเช่าอุปกรณ์กางเต็นท์และสำรวจที่ทางในการกินอยู่บนเขาตลอดหนึ่งคืน

               “พี่แจ็คครับเรื่องมันมีอยู่ว่าผมและแฟนได้ไปเที่ยวดอยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ตกกลางคืนก็นอนกางเต็นท์กันปกติ พอเวลาผ่านไปประมาณตีสามกว่า ๆ ผมรู้สึกปวดห้องน้ำเลยว่าจะลุกไปฉี่ แต่ก็เห็นเงาหลายเงาเดินรอบเต็นท์ที่พวกเรานอนอยู่…”(ภาษาไทย)

               เสียงที่ออกมาจากสมาร์ทโฟนของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดังเข้าหูของชายหนุ่มชาวอเมริกันที่มาติดต่อเช่าอุปกรณ์แคมป์ปิ้งทว่าเขาฟังไม่ออกเลยสักคำนอกจากคำว่า ‘แจ็ค’ อาจเป็นชื่อของใครสักคนล่ะมั้งที่บุคคลในพอดแคสต์คุยด้วย แต่ด้วยความที่เขาฟังไม่ออกจึงไม่ได้สนใจ ทว่าดีนมองสีหน้าเจ้าหน้าที่ที่กำลังเปิดฟังอยู่มีท่าทีสยองขวัญชอบกล

               ดีนใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษาเช่นเดิมในการสนทนา จนทราบว่าบนอุทยานแห่งนี้มีร้านค้าสวัสดิการฯ ที่จะเปิดทำการแปดนาฬิกาจนถึงสิบหกนาฬิกา ซึ่งสามารถซื้อข้าวของเครื่องใช้รวมถึงอาหารบางอย่างได้จากร้านค้าแห่งนี้ และยังมีร้านอาหารอีกแห่งอยู่ ณ จุดชมวิวที่ห่างออกไปประมาณสองร้อยเมตรที่จะเปิดร้านจนถึงสี่ทุ่ม หากต้องการรับประทานร้านอาหารอื่น ๆ จำเป็นต้องขับรถลงดอยไปอีกร่วมสิบกิโลเมตร ไหน ๆ พวกเขาทั้งสองขึ้นมาบนนี้แล้วคงไม่ขับรถลงไปด้านล่างให้เสียเวลา

               แต่สิ่งสำคัญที่เจ้าหน้าที่เน้นย้ำเป็นอย่างมากคือเรื่องการเข้าห้องน้ำ ห้ามขับถ่ายที่อื่นนอกจากห้องน้ำ และหากเข้าห้องน้ำห้ามไปคนเดียว น่าจะเป็นเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

               เมื่อได้ข้อมูลเรียบร้อยก็หอบอุปกรณ์ไปที่ลานกางเต็นท์ ดูเหมือนจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่หลบลี้ความวุ่นวายในตัวเมืองและต้องการหลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลมาพักผ่อนที่นี่ประมาณสี่ครอบครัว ดีเลยที่มีเพื่อนไม่เงียบเหงาจนเกินไปและไม่วุ่นวายจนรบกวนการพักผ่อน

               “กางเต็นท์กันตรงนี้ดีไหม?”

               ดีนเอ่ยถาม จุดที่เขาบอกอยู่ห่างจากกลุ่มคนและร้านอาหารออกมานิดหน่อย ถือว่าเป็นส่วนตัวนิดนึงเผื่อมีแมคเคนซีอยากจะจู๋จี๋กับเขาในคืนนี้

               @Mackenzie

               “เอาสิ นายกางเต็นท์เป็นไหมแมคซี่?”

               ลองถามดูก่อนหากอีกฝ่ายทำเป็นแล้วเขาจะได้ไม่ต้องสอน ส่วนดีนเขาเคยไปแคมป์ปิ้งกับเพื่อน ๆ อยู่หลายครั้ง ฉะนั้นเรื่องการตั้งเต็นท์ก่อเตาบาร์บีคิวทำอาหารอะไรพวกนี้เขาทำได้สบาย

               @Mackenzie

               “โอเค งั้นทำตามฉันนะ แบบนี้….”

               แล้วดีนก็เริ่มสอนแมคเคนซีให้กางเต็นท์ เริ่มจากการปูแผ่นรองด้านใต้เพื่อกันน้ำค้างบนพื้นหญ้าไม่ให้ชื้นแฉะเข้ามาในเต็นท์จนนอนเปียกหลัง จากนั้นก็ขึ้นโครงเต็นท์ ยึดสมอบก ผูกเชือกให้แน่นหนา แล้วเมื่อกางเต็นท์เสร็จแล้วก็นำชุดเครื่องนอนเข้าไปจัดแจงปูที่นอน

               พอกางเต็นท์กันเสร็จเรียบร้อยทั้งสองก็เดินเล่นที่ลานชมวิวดูพระอาทิตย์ตกลงไปใต้ทะเลหมอกช่างเป็นภาพที่งดงาม และดีนก็จับภาพแสงสุดท้ายหายไปใต้เมฆหมอกได้อย่างพอดิบพอดี



               “สวยจังเลยเนอะ อย่างกับว่าเมฆอยู่ใต้เท้าพวกเราเลย” ดีนหันไปยิ้มแฉ่งให้กับแมคเคนซีแทนที่พระอาทิตย์ที่ลับฟ้าไป “ฉันหิวแล้ว เราลองไปดูที่ร้านค้ากันเถอะ นายว่าจะไปกินร้านไหนกันดี?”

               ไม่รู้ว่าอาหารทั้งสองร้านจะแตกต่างกันมากหรือเปล่า คงต้องเสี่ยงดวง

               @Mackenzie

               “ที่นี่ตกกลางคืนก็น่าจะหนาวนะ”

               ยิ่งอยู่บนยอดดอยอากาศยิ่งเย็นสบาย แม้พวกเขาจะชินกับอากาศหนาวจากบ้านเกิดกันแล้วก็เถอะ แต่เตรียมแจ๊กเก็ตกันหนาวไว้เสียหน่อยก็ไม่เสียหาย

               “โอเคได้เลย จะได้ไปซื้อยาทากันแมลงด้วย ฉันว่าแมลงน่าจะเยอะแน่ ๆ”

               จากนั้นก็จูงมือกันไปที่ร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ อาหารเย็นวันนี้มีให้เลือกไม่กี่อย่างคล้ายกับโรงอาหารของโรงเรียน ดีนไม่รู้จักเมนูตรงหน้าเลยสักอย่างแต่ว่าเข้าเห็นอาหารที่เหมือนกับซุปใสใส่หมูบดทานกับข้าว (ต้มเลือดหมู) อีกอย่างคือข้าวกับหมูแดงแบบที่เคยกินในภัตตาคารจีนราดด้วยซอสสีแดง (ข้าวหมูแดง) และสุดท้ายคือเส้นพัพพาร์เดลล์แบบใส (เส้นใหญ่) ผัดกับเนื้อสัตว์และผักคะน้า (เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว)

               จนสุดท้ายดีนก็ได้ข้าวหมูแดงราดน้ำซอสสีแดงมารับประทานเป็นอาหารเย็น

               @Mackenzie

               “พาสต้าเหรอ ฉันว่ามันเหมือนกับยากิโซบะที่เส้นหนา ๆ แบน ๆ” ว่าแล้วก็จกหมี่ผัดของอีกฝ่ายเข้าปากลองชิม ก่อนจะขมวดคิ้วขณะพินิจรสชาติ “เอ่อ.. ไม่เหมือนยากิโซบะเลยอ่ะ”

               แล้วก็ปฏิเสธออกมาทันควัน อาจเป็นยากิโซบะแบบไทยสไตล์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่นก็ได้ใครจะรู้ แต่ที่แน่ ๆ เขาคิดว่าข้าวหมูแดงของตัวเองอร่อยกว่า น้ำราดสีแดงนี่มันช่างหวานได้ใจนับเป็นเดอะเบสซอสที่เคยรับประทานมาในชีวิตนี้เลย

               “ชิมของฉันไหม อร่อยนะ หวานมาก”

               เลื่อนจานข้าวไปตรงหน้าของแมคเคนซีให้ได้ชิมรสอาหารที่เขาบอกว่าอร่อยนักหนา

               @Mackenzie

               “ถ้าถามแล้วต้องได้ชื่อแปลก ๆ มาแน่” ดีนหัวเราะก่อนจะดุแมคเคนซีแบบไม่จริงจัง “นายสบประมาทอาหารอร่อยแบบนี้ได้ไง หวานแบบนี้โดนใจฉันเลย”

               กล่าวจบก็ตักข้าวหมูแดงเคี้ยวตุ้ย ๆ ดูเหมือนว่าในจานจะมีผักเครื่องเคียงมาให้ด้วยเป็นแตงกว่ากับต้นหอม เขาสงสัยว่าให้กินต้นหอมดิบ ๆ แบบนี้เลยเหรอ? แต่หากเป็นของที่ถูกจัดให้รับประทานคู่กันก็คงจะใช่ เขาจึงลองกัดต้นหอมสดไปคำนึงก่อนจะกินข้าวกับหมูแดงตาม รสเผ็ดของต้นหอมกลับเข้ากันได้ดีกับน้ำราดข้าวหวาน ๆ นี้เสียอย่างนั้น แต่ก็แลกมากับลมหายใจที่ไม่ค่อยหอมสดชื่นเท่าไร

               จนกระทั่งพวกเขารับประทานอาหารเย็นกันเสร็จก็ได้เวลาอาบน้ำชำระร่างกาย แต่เมื่อเห็นห้องน้ำก็แทบช็อกกับชักโครกหน้าตาประหลาดที่ไม่รู้ว่าจะจุ่มก้นลงไปอย่างไร แต่ละห้องกั้นด้วยสังกะสี อีกทั้งอากาศหนาวเย็นขนาดนี้แต่กลับไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นเสียอย่างนั้น

               “แมคซี่ คืนนี้ไม่อาบน้ำนอนได้ไหม?”

               ดีนเบะปาก ใช่ว่าเขาเป็นคนขี้เกียจ ความจริงติดจะสำอางเสียด้วยซ้ำ ตอนอยู่ค่ายมาร์คหน้าทาครีมก่อนนอนเป็นชั่วโมงแต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะทำไม่ได้เสียแล้ว และหากว่าเขายังอิดออดไม่ต้องพูดถึงลูกคุณหนูอย่างแมคเคนซีเลย สำนึกผิดกับการอยากใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ สมบุกสมบันเยี่ยงลูกผู้ชายขาลุยแทบไม่ทัน

               ‘รู้สึกผิดชะมัด พาที่รักมาลำบากแล้วไหมล่ะเนี่ย!’

               @Mackenzie

               “พรุ่งนี้คงจะนอนโรงแรมมั้ง… ไม่รู้สิ”

               ดีนยักไหล่ ก็พวกเขาไม่ได้จองโรงแรมไว้นี่นา เที่ยวแบบค่ำไหนนอนนั่นคงประมาณนี้ แต่พอเจอที่พักแนวธรรมชาติแบบนี้บ่อย ๆ คงไม่ไหว หากไม่ใช่ภารกิจเดินทางกู้โลกก็ขอใช้ชีวิตสุขสบายนิดนึงเถอะ บางทีตอนเข้าเมืองคงต้องหาโรงแรมไว้ก่อน

               “งั้นคืนนี้เราล้างหน้าแปรงฟันกันก็พอเนอะ”

               อย่างน้อยได้ล้างหน้าล้างตาสักหน่อยก็ทำให้รู้สึกสดชื่นพร้อมนอน อากาศเย็นสบายเช่นนี้ไม่เหนียวเนื้อตัวเท่าไรหรอกมั้ง เมื่อทำธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินกลับไปที่ลานกางเต็นท์ แม้จะมีเพื่อนนักท่องเที่ยวอยู่หลายครอบครัวแต่ทุกคนก็เคารพธรรมชาติไม่ส่งเสียงดัง บางทีพวกเขาอาจกำลังเพลิดเพลินใจกับทะเลดาวตรงหน้าไม่ต่างจากดีนและแมคเคนซีก็ได้ แน่นอนว่าชายหนุ่มจะไม่ลืมเก็บภาพอันงดงามนี้ไว้อย่างแน่นอน

               “แมคซี่ ดาวเต็มฟ้าเลย สวยจังเลยเนอะ”



               @Mackenzie

               “ได้ งั้นเดี๋ยวตั้งนาฬิกาปลุกไว้เลย”

               แม้ดีนจะตื่นเช้าเป็นกิจวัตรแต่สำหรับที่ประเทศไทยนั่นเขายังไม่คุ้นเคยเวลาเท่าไรแม้จะท่องเที่ยวมาแล้วสามคืน ช่วงเที่ยงของวันเขายังติดงีบหลับจากเวลาท้องถิ่นของนิวยอร์กอยู่เลย ฉะนั้นตั้งนาฬิกาปลุกไว้ปลอดภัยที่สุดหากไม่ต้องการพลาดชมทะเลหมอก

               ยิ่งตกดึกอากาศด้านนอกเต็นท์ยิ่งหนาวตรงกันข้ามกับไออุ่นที่ภายใน แม้เบาะนอนและหมอนหนุนจะไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนกับเตียงนอน ผ้าห่มที่เช่ามาก็ผืนสากกว่าผ้านวมเป็นไหน ๆ ทว่าชายหนุ่มก็ม่อยหลับไปด้วยความเพลียจากการเดินทาง และแล้วค่ำคืนนี้ก็จบลง…

               .
               .
               .

               ซะเมื่อไรล่ะ…

               @Mackenzie

               กำลังหลับอยู่ดี ๆ ก็ถูกสะกิดปลุกให้ลุกตื่น มือไม้ควานหาแว่นตาด้วยความงัวเงียจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น

               “มีอะไรเหรอแมคซี่ ปวดฉี่เหรอ?”

               ชายหนุ่มเอ่ยถามโดยที่ดวงตายังไม่เปิดดี ภาพแรกที่เห็นคือใบหน้าซีดเผือดท่ามกลางความมืดของคนรัก แล้วรับฟังถ้อยคำด้วยสมองที่ประมวลผลอย่างไม่เต็มที่ ดีนขยี้ตาอีกทีไล่ความง่วงที่ครอบคลุมให้คลายออก ด้านนอกยังคงมืดทว่ามีแสงจันทร์และดวงดาวส่องสว่างจนพอจะเห็นเงาที่วูบไหวอยู่ด้านนอก

               “หือ?”

               ดีนพยายามเพ่งมองดูดี ๆ ทว่าจู่ ๆ เงามือจำนวนมากมายได้ปะป่ายไปทั่วเต็นท์

               ผ่าง!!

               “เหวอ ผีหลอก!!!”

               นาทีนี้วิทยาศาสตร์ก็เอาไม่อยู่ เขาแทบจะดึงคนรักมากอดในทันทีพร้อมกับหลับตาปี๋ซุกหน้าลงกับบ่ากว้าง ไม่อยากจะเชื่อว่าผีมีจริง เกิดมาตั้งยี่สิบสามปีอยู่ที่อเมริกามาตั้งนานไม่เคยเจอผี แต่กลับมาเจอผีที่ไทยเนี่ยนะ ต้องท่องบทสวดอะไรถึงไล่ผีได้ คิดตำหนิตัวเองที่โบสถ์ก็ไม่เคยเข้าไปพระเจ้าคงไม่ช่วยเหลือ แต่ถึงแม้จะท่องบทไล่ผีได้ แต่ผีจากไทยแลนด์จะฟุดฟิดฟอไฟกันได้รู้เรื่องเหรอ?

               “กี้!”

               เสียงผีร้องดังออกมาจากด้านนอกเต็นท์ทำเอาดีนสะดุ้งผวาอีกครั้ง

               ‘เดี๋ยวนะ… ผีร้อง ‘กี้’ งั้นเหรอ?’

               @Mackenzie

               ไม่ใช่แล้ว ถ้าร้องกี้แบบนี้ไม่ใช่ผีชัวร์ ๆ หรือถ้าเป็นผีก็คงเป็นผีก็อบลิน ดีนมองตากับแมคเคนซีดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะคิดเช่นเดียวกัน บุตรแห่งโพไซดอนหยิบหอกกรีกที่ซุกอยู่ใต้เบาะนอนออกมาก่อนที่เจ้ากีกี้ตัวเขียวจะพังเต็นท์แล้วพวกเขาต้องจ่ายค่าปรับ

               “เดี๋ยวฉันไปจัดการมันเองแมคซี่ นายปิดเต็นท์ดี ๆ ระวังอย่าให้แมลงเข้าไปข้างในนะ”

               ดีนรูดซิปเต็นท์เปิดออกก่อนจะกระโจนพรวดออกไปเผขิญหน้ากับก็อบลินท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงแค่แสงจากอวกาศส่องสว่างลงมาให้เห็นรำไร เงาเล็ก ๆ เต้นระบำวูบไหวไปรอบ ๆ ตัวของชายหนุ่มกะคร่าว ๆ น่าจะมีประมาณสิบตัวเห็นจะได้ มากันเยอะแบบนี้นี่เองถึงได้ซ่ามารุม

               เงาซิลลูเอทรบรากับก็อบลินจิ๋ว หากสังเกตดี ๆ เขาเห็นว่าเครื่องแต่งกายของเจ้าพวกนี้แตกต่างจากก็อบลินจากตะวันตก บางทีชุดเกราะที่สวมใส่อาจเป็นสไตล์ของนักรบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แต่จะอย่างไรก็ช่างหมวกปีกกว้างที่ร่วงหล่นเป็นสินสงครามทำมาจากสัมฤทธิ์อย่างแน่นอน

               “โอ๊ย!! เข้ามารุมไม่หยุดไม่หย่อนเลยไอ้พวกเบื๊อกนี่”

               ดีนโวยวาย จากความมืดทำให้เขาต่อสู้ไม่ถนัดเอาเสียเลย และดูเหมือนว่าเสียงดังที่เกิดขึ้นจะทำให้เต็นท์อื่นเริ่มเคลื่อนไหว

               @Mackenzie

               หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก..

               เมื่อเริ่มชินกับความมืดการไล่หวดก็อบลินก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นเท่าไร ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญหรือมันตามสัญญาณโทรศัพท์มาก็ตามแต่ถือว่าเจ้าตัวเขียวพวกนี้ใจกล้าที่จะปะทะเดมิก็อดอย่างเขาน่าดู หรือไม่อีกที.. มันก็อาจจะอยากรับประทานแมคเคนซีเป็นอาหาร

               “ฝันไปเถอะ!”

               เจ็ด แปด เก้า สิบ..

               เมื่อหอกกรีกเสียบทะลุอกก็อบลินจากไทยแลนด์การต่อสู้ก็จบลง ร่างเขียวที่ห้อยต่องแต่งอยู่บนปลายหอกค่อย ๆ สลายกลายเป็นฝุ่น ดีนไม่แน่ใจว่าพวกมันได้ตกสู่ทาร์ทารัสหรือลงนรกอเวจีตามความเชื่อของไทย แต่ไม่ว่าอย่างไหนก็ไม่สำคัญ เจ้าพวกนี้มารบกวนการนอนเล่นทำเอาซะตาสว่าง เหลือเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าตะวันจะขึ้นสู่ฟ้าได้เวลาดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก แกจะให้ฉันทำอะไรรอ เล่นแคนดี้ครัชเรอะ!

               ดีนไล่เก็บหมวกสัมฤทธ์ทรงประหลาดจากนั้นก็กลับเข้าเต็นท์นอน แต่ว่าเขาไม่เจอแมคเคนซี

               “หือ แมคซี่ไปไหนแล้ว?”

               @Mackenzie

               ดีนทำตาโตเมื่อเห็นว่าแมคเคนซีปรากฏกายอยู่ข้างหลังแถมยังมีสินสงครามอยู่ในมืออีกต่างหาก

               “แมคซี่นายไปไหนมา แล้วนี่ไม่เป็นไรนะ!?”

               รีบสำรวจเนื้อตัวคนรักว่าได้รับบาดแผลอะไรบ้างหรือเปล่า

               @Mackenzie

               ถึงดีนจะพยายามสำรวจบาดแผลของอีกฝ่ายแต่ว่าเขาก็มองอะไรไม่เห็น ที่นี่มันมืดพอ ๆ กับบ้านเฮคาทีที่เขาเผลอเอานิ้วก้อยเท้าเตะโต๊ะเตียงไปหลายที แต่ตรงนี้คงมีแค่สมอบกเต็นท์ให้สะดุด

               “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว นายไปเข้าห้องน้ำมาสินะ…”

               นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหลุดขำ ที่แมคเคนซีบังเอิญตื่นขึ้นมาปลุกเขาคงเพราะเรื่องนี้ล่ะมั้ง เห็นท่าทางสำนึกผิดนั้นก็น่าเอ็นดูเสียจริง อดไม่ได้ที่จะล็อกคออีกฝ่ายมาหอมเหม่งแรง ๆ ทีนึง

               “อื้อ มานอนกันต่อเถอะ ถ้านอนหลับนะ…”

               มุดเข้าไปในเต็นท์แล้วถอดรองเท้าออกซุกไว้ใต้เบาะเช่นเดียวกับหอกกรีกที่เพิ่งใช้เป็นอาวุธกำจัดก็อบลิน ดูเหมือนว่าในเต็นท์จะแคบลงอีกหน่อยแล้วสิเพราะถูกหมวกเล็ก ๆ สิบกว่าอันแย่งที่นอน

               @Mackenzie

ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์: ถ่ายรูปภาพจังหวัดแม่ฮ่องสอน
[1/5]
-------------------------------------------------

@God

แสดงความคิดเห็น

31. Ghosts(?) at The MountainM [ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ] หลังจากหลับสบายมาทั้งคืน เช้านี้แมคเคนซีก็ตื่นขึ้นมาจากการปลุ  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-7-31 23:49
โพสต์ 66,825 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2024-7-31 22:32
โพสต์ 66,825 ไบต์และได้รับ +15 EXP +20 เกียรติยศ +20 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2024-7-31 22:32
โพสต์ 66825 ไบต์และได้รับ 36 EXP!  โพสต์ 2024-7-31 22:32
โพสต์ 66,825 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-7-31 22:32
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x3
x11
x2
x7
x2
x4
x8
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-7-31 23:49:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-7-31 22:32
202Thailand P.2 - แม่ฮ่องสอน
               วันนี้นับเป็นวันแรกของ ...

31. Ghosts(?) at The Mountain
M

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากหลับสบายมาทั้งคืน เช้านี้แมคเคนซีก็ตื่นขึ้นมาจากการปลุกของดีน อีกฝ่ายเป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้วระหว่างที่เขาหลับคงไปเดินกินลมชมวิวซึมซับอากาศดี ๆ ยามเช้า รวมไปถึงเล่นกับสัตว์ในฟาร์มที่เจ้าตัวตั้งหน้าตั้งตารอมาตั้งแต่เมื่อคืนเรียบร้อยแล้ว เมื่อจัดการธุระต่าง ๆ เรียบร้อย พวกเขาก็เช็คเอาท์แล้วออกเดินทางกันต่อ วันนี้แมคเคนซีได้ขับผ่านตลาดกลางคืนที่มาเดินเมื่อวาน บรรยากาศโดยรอบแตกต่างจากเมื่อคืนอยู่บ้างตรงที่ไม่มีร้านแผงลอยมาเปิดตามถนนแล้ว แต่ร้านรวงต่าง ๆ พากันเปิดแทน ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้คนมาเดินกันแต่เช้าอยู่ดี เขาจึงต้องคอยขับช้า ๆ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

“เราจะไปที่ไหนกันก่อนนะ…หมู่บ้านสันติชล”

แมคเคนซีอ่านชื่อสถานที่ที่ปรากฏขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางที่พวกเขากำลังจะไป ก่อนจะเร่งความเร็วรถให้เพิ่มขึ้นเมื่อขับมาพ้นจากย่านชุมชน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อมาถึงหมู่บ้านสันติชลแล้วพวกเขาก็พากันเดินชมสถานที่และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางชาวบ้านที่นั่นจัดไว้ จนกระทั่งถึงเวลาอาหารมื้อกลางวัน ซึ่งอาหารที่ทั้งคู่เลือกทานในมื้อนี้ก็คืออาหารจีนยูนนาน

“อร่อยดี รสไม่จัดแบบเมื่อวาน”

ถึงจะมาทานอาหารจีนแต่แมคเคนซีก็ยังเลือกใช้ช้อนส้อมอยู่ดี หลังจากที่ลองใช้ตะเกียบแล้วคีบหล่นคีบพลาดไปหลายครั้งจนเกือบหมดอารมณ์ทาน

“แล้วนายคิดว่าเป็นไงบ้าง”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เหมือนได้ไปจีนอีกที่ใช่ไหม”

จะว่าไปทั้งสิ่งปลูกสร้าง ทั้งอาหาร และการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่ก็ให้ฟีลเหมือนอยู่ประเทศจีนจริง ๆ

“เรานั่งม้าเที่ยวกันแล้วนี่นา ไปที่อื่นกันบ้างดีกว่า บ่ายแล้วด้วย”

ดูจากจำนวนสถานที่ที่ต้องไปต่อแล้วก็น่าจะสมควรแก่เวลา แม้ว่าจะท่งเที่ยวอยู่ในจังหวัดเดียวกันแต่ก็ต้องใช้เวลาเดินทาง เมื่อทานอาหารเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็กลับมานั่งที่รถ แมคเคนซีเปิดมือถือดูสถานที่ต่อไปที่ถ่ายรูปมาจากแผนการท่องเที่ยวที่ดีนทำไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแบกตัวเล่มที่หนาเหมือนธีสิสมาด้วย

“ที่ต่อไปคือ…ทุ่งนา ? เราจะไปทำอะไรกันที่นั่น”

เรียวคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อยด้วยสงสัยว่าที่ทุ่งนามีกิจกรรมอะไรให้ทำ แต่ถึงอย่างนั้นก็รอให้ดีนเซิร์ทหาเส้นทางของจุดหมายต่อไป

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

พอถูกบอกเช่นนั้นก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจจนกระทั่งมาถึงที่หมาย เมื่อหาที่จอดแล้วลงจากรถดีนก็พาแมคเคนซีเดินมายังทุ่งสีเขียวขจี ในตอนแรกเขานึกว่าเป็นทุ่งหญ้า แต่เมื่อมองดูดี ๆ แล้วมันคือทุ่งนาที่ยังไม่ออกรวงข้าวต่างหาก

เขาเดินมาตามสะพานไม้เล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นผ่านทุ่งนาพลางฟังคนรักอธิบายเรื่องราวของสถานที่นี่ไปด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของต้นพืช กลิ่นชื้นของดิน รวมถึงอากาศเย็น ๆ ที่สูดเข้าไปทำให้แมคเคนซีรู้สึกสดชื่นจนแทบสมองโล่ง ในตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมดีนถึงพาเขามาที่นี่

ขณะที่มองวิวไปเรื่อย ๆ อีกฝ่ายก็ถามขึ้นมา เมื่อแมคเคนซีหันไปมองก็เห็นดีนกำลังกางแขนหลับตาลงสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปโดยมีผืนนา ภูเขา และท้องฟ้าเป็นพื้นหลังจนแมคเคนซีต้องหยิบมือถือมาถ่ายภาพเก็บไว้อย่างห้ามใจไม่อยู่

“คุ้มค่ามาก ไม่เสียดายเวลาที่แวะมาเลย”

ริมฝีปากระบายยิ้มพลางเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง…เป็นภาพที่สวยงามที่สุดภาพหนึ่งตั้งแต่ที่เขาเคยเห็นมา

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

พอถูกแสดงความรักกลางท้องทุ่งก็ถึงกับอมยิ้ม

“ให้ฉันไปปลูกข้าวที่กลอสเตอร์งั้นเหรอ พ่อได้ด่าฉันพอดี”

นึกภาพทุ่งหญ้าที่บ้านเปลี่ยนสภาพเป็นทุ่งนาแล้วก็หัวเราะ มันดูไม่ค่อยเหมาะเอาเสียเลย อีกอย่างวัวคงไม่กินต้นข้าวเป็นอาหารแน่ ๆ

จากนั้นพวกเขาก็เดินทางไปยัง ‘สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย’ เป็นที่ต่อไป แต่ที่ตรงนี้นอกจากตัวสะพานและเกร็ดประวัติศาสตร์ที่ดีนเล่าให้ฟังแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรเป็นจุดสนใจมากนัก ทั้งคู่จึงไปต่อยังสถานที่สุดท้ายของวันนี้นั่นคือ ‘อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง’

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อขับรถมาถึง แมคเคนซีก็เลี้ยวรถเข้าจอดตรงจุดที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้ หลังจากหยิบสัมภาระที่จำเป็นลงมาด้วยแล้วพวกเขาก็ไปเช่าเต๊นท์สำหรับนอนค้างแรมในคืนนี้ อากาศบนดอยค่อยข้างเย็นสบายเขาหวังว่าการนอนในเต๊นท์ที่ไม่มีทั้งพัดสมและเครื่องปรับอากาศในคืนนี้จะไม่ทำให้ร้อนจนเหงื่อออก

ระหว่างที่เจรจาเรื่องการเช่าเต๊นท์และฟังเจ้าหน้าที่อธิบายถึงการใช้พื้นที่อุทยานรวมถึงข้อควรระวังต่าง ๆก็มีเสียงอะไรบางอย่างลอยเข้าหูมาด้วย พอมองหาต้นเสียงแล้วถึงได้รู้ว่ามาจากคลิปที่เจ้าหน้าที่อุทยานอีกคนกำลังเปิดฟังอยู่นั่นเอง แม้จะฟังภาษาไทยไม่ออกแต่จากประสบการณ์การทำงานที่คลับซึ่งแต่ละวันแมคเคนซีต้องคอยฟังลูกค้าเล่าเรื่องต่าง ๆ จึงพอคาดเดาอารมณ์จากน้ำเสียงผู้พูดออก อย่างเช่นเสียงผู้พูดในคลิปนี้ที่ใช้น้ำเสียงต่ำ ๆ เย็น ๆ และเล่าเรื่องอย่างเนิบช้า คงจะกำลังเล่าเรื่องสยองขวัญไม่ผิดแน่โชคดีเหลือเกินที่เขาแปลภาษาไทยไม่ออก ไม่อย่างนั้นคงเก็บเอาไปหลอนจนไม่กล้าเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน

หลังจ่ายค่าเช่าเต๊นท์เรียบร้อยก็ถึงเวลาหาทำเลดี ๆ นอนกันแล้ว

“อื้ม ตรงนี้น่าจะเงียบดี ให้ฉันช่วยกางเต๊นท์ไหม”

แมคเคนซีพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อดีนพามายังจุดที่ห่างจากผู้เข้าพักกลุ่มอื่น ๆ ด้วยความที่ชอบมุมเงียบ ๆและเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะเคยไปตั้งแคมป์กับพ่อแบบนับครั้งได้จนแทบลืมวิธีการกางเต๊นท์ไปแล้ว แต่เขาก็ยังอยากช่วยอีกฝ่ายอยู่ดี

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ฉันเคยไปตั้งแคมป์กับพ่อนะ แต่ก็นานมาแล้วเลยจำวิธีกางเต๊นท์ไม่ค่อยได้ แต่ถ้านายบอก ฉันว่าฉันน่าจะทำได้”

ถึงจะไม่ชำนาญในเรื่องนี้แต่แมคเคนซีก็อยากช่วย นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว เหมือนว่าประเทศไทยจะฟ้ามืดเร็วกว่าอังกฤษ ไม่ทันไรพระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยต่ำลงแล้ว ช่วยกันทำอาจจะเสร็จไวกว่าก็ได้

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

แมคเคนซีตั้งใจมองดีนที่กางเต๊นท์ให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วทำตาม คงเพราะเคยเป็นลูกมือช่วยพ่อมาแล้วก็เลยพอทำได้ไม่ได้ติดขัดอะไร ในที่สุดก็กางเต๊นท์เสร็จกันจนเป็นรูปร่าง

“นั่นสิ สวยมาก อากาศก็กำลังดี ถ้าเป็นที่อังกฤษหรืออเมริกาคงหนาวมากแน่”

เขาหันมายิ้มตอบอีกฝ่าย ทั้งอากาศและวิวที่แสนเป็นใจเลยถือโอกาสนี้กุมมือดีนไว้หลวม ๆ

“ไปร้านใกล้ ๆ ก่อนไหม เผื่อว่ากลับมืดจะได้ไม่ต้องเดินไกล”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“นอนกอดกันจะไปหนาวได้ไง”

พึมพำเบา ๆ พลางเดินไปร้านค้าที่อยู่ไม่ไกลนัก ถ้าดีนเลือกจะนอนถุงนอน เขาก็จะกอดก่ายอีกฝ่ายแทนหมอนข้างซะเลย

แมคเคนซีมองถาดใส่อาหารตรงหน้าภายในร้านอาหารอย่างใช้ความคิด อาหารหน้าตาแปลกใหม่แต่ก็ไม่ได้ชวนให้อยากทานอะไรเป็นพิเศษ สุดท้ายเลยจิ้มมั่ว ๆ ไปที่อาหารหน้าตาคล้ายพาสต้าแต่สีเข้มข้นกว่าที่เคยเห็นมา

“พาสต้าไทยนี่รสชาติแปลก ๆ”

เขาบอกหลังจากที่ลองชิมอาหารที่ตนเองเลือกไปคำนึง พาสต้าที่เขาเคยทานรสชาติจะกลมกล่อมและเป็นซอสครีมเสียส่วนใหญ่ แต่อันนี้นอกจากจะไม่มีซอสแล้วรสชาติยังติดไปทางเค็มเป็นหลัก

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

แมคเคนซีมองสีหน้าดีนรวมไปถึงฏิกิริยาหลังชิมอาหารที่เจ้าตัวบอกว่าเหมือนยากิโซบะแล้วหัวเราะน้อยๆ

“ไว้กินเสร็จแล้วลองไปถามคนขายดูสิ แล้วของนายคืออะไร”

ก้มมองจานข้าวที่ดีนเลื่อนมาให้ แค่ได้ยินว่า ‘หวานมาก’ ก็เริ่มลังเลที่จะชิม แต่ไหน ๆ มาถึงประเทศไทยแล้ว ลองชิมสักหน่อยดีกว่า โอกาสที่จะได้มาทานอาหารถึงแต่ละพื้นที่นั้นก็ช่างหาได้ยากเย็น คิดได้อย่างนั้นเขาจึงลองตักมาชิมคำนึง

“หวานจริงด้วย…นี่มันข้าวในน้ำเชื่อมหรือไง”

บอกแล้วหยิบน้ำขึ้นดื่ม ไม่รู้ว่าคนขายได้ยินหรือฟังที่พวกเขาคุยกันออกไหม แต่ถ้าฟังออกอาจจะโดนดุที่ไปวิจารณ์รสชาติอาหารเอาก็ได้

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องเรียกมันว่าพาสต้าหรือยากิโซบะใช่ไหม”

ชิมดูแล้วเหมือนรสชาติจะไม่ไทางไหนสักทาง ไม่ว่าจะพาสต้าหรือยากิโซบะ แต่ภาษาไทยก็ค่อนข้างออกเสียงยาก ถึงจะได้ชื่อที่ถูกต้องมาพวกเขาก็อาจออกเสียงเพี้ยนจนดูตลกก็ได้ แมคเคนซีจึงตัดสินใจถ่ายรูปเก็บไว้แแล้วค่อยไปเซิร์ทดูทีหลัง

“นายกินของหวานกับของคาวพร้อมกันได้ไง”

ถึงจะถูกว่าแต่แมคเคนซีก็ยังสงสัยไม่หาย คนไทยเอาน้ำเชื่อมมาราดข้าวกันแบบนี้เลยเหรอ เชื่อเลยว่าถ้าดีนอยู่ที่นี่นานเข้าค่าน้ำตาลคงได้พุ่งสูงแน่ ๆ

หลังทานมื้อเย็นและเดินกลับมาตรงที่พักก็ได้เวลาสำรวจห้องน้ำกันเสียที ทันทีที่เห็นสภาพห้องน้ำและห้องอาบน้ำแล้วแมคเคนซีก็ถึงกับเงียบไปเล็กน้อย ก็เข้าใจแหละว่าเป็นที่พักแบบติดธรรมชาติ แต่ก็ไม่นึกว่าจะเหมารวมห้องน้ำด้วย

“เอ่อ…ฉันว่าแค่คืนเดียวคงไม่เป็นไร พรุ่งนี้เราพักโรงแรมกันใช่ไหม ไปอาบน้ำที่นั่นกันดีกว่า”

เขาหันมาบอกดีนแล้วยิ้มให้ ไม่ใช่แค่ไม่อาบน้ำเท่านั้น เรื่องห้องน้ำก็คงเช่นกัน ฮึบไว้คืนนึงคงไม่เป็นไร ดีนะที่พาสต้าหน้าตาประหลาดเมื่อกี้ไม่ค่อยถูกปาก เขาจึงทานไได้ไม่เยอะเท่าไหร่

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ตรงไหนก็ได้ แต่ขอห้องน้ำเกรดดีกว่านี้หน่อย”

หากนับถึงการนอน เต๊นท์ก็นับว่าเป็นการนอนที่ไม่สบายตัวเป็นอันดับต้น ๆ จะมีดีก็ตรงที่ได้ดูวิวสวย ๆและอากาศดี เพราะงั้นที่พักต่อไปจะเป็นที่นอนแบบไหนเขาก็คงรับได้หมด แมคเคนซีเห็นด้วยที่ว่าคืนนี้คงจบแค่ตรงการล้างหน้าแปรงฟัน หลังจากนั้นก็มานั่งดูดาวท่ามกลางอากาศเย็นในยามค่ำต่อ

“ฮื่อ ฟ้าเปิดแบบนี้ถ้าดูดาวเป็นคงได้เห็นกลุ่มดาวเยอะแยะเลย พรุ่งนี้ถ้าตื่นเช้าก็จะเห็นหมอกใช่ไหม นายปลุกฉันด้วยล่ะ”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อตกลงเวลาตื่นนอนวันพรุ่งนี้และดูดาวกันจนเต็มอิ่มแล้ว พวกเขาก็เข้านอนกัน แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงแมคเคนซีก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ตั้งใจว่าจะฮึบไว้จนถึงพรุ่งนี้ แต่น้ำที่ดื่มไปคงจะเริ่มออกฤทธิ์ ตอนนี้เขาเริ่มปวดห้องน้ำขึ้นมาซะแล้ว ถึงจะไม่อยากเข้าห้องน้ำแต่ก็คงอดทนไว้จนถึงพรุ่งนี้ไม่ได้แน่ ๆ

ขณะที่ตั้งใจจะออกจากเต๊นท์ไปอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้คนรักที่กำลังหลับสบายรู้สึกตัว เงาของอะไรบางอย่างก็วิ่งผ่านเต๊นท์พวกเขาไป

“…….!”

‘เมื่อกี้มันอะไร’

มือที่กำลังจะรูดซิปเปิดเต๊นท์ชะงักค้างแล้วเริ่มประมวลผล

‘หรือว่าจะเป็นเงาต้นไม้…’

พอคิดได้แบบนั้นก็ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย แต่ขณะที่กำลังจะรูดซิปอีกครั้ง เงาดำแบบเดิมก็วิ่งผ่านเต๊นท์ไปอีก แถมคราวนี้ยังมีอีกหลายเงา ถ้าฟังดี ๆ ยังมีเสียงฝีเท้าวิ่งบนพื้นหญ้าอีกด้วย บ้าจริง…คนดี ๆ ที่ไหนจะมาวิ่งกลางดึกแบบนี้ นอกซะจาก…

“ดีน…ดีนตื่น….มีอะไรอยู่ข้างนอกไม่รู้”

แมคเคนซีรีบสะกิดปลุกคนที่ยังหลับอยู่แล้วพูดเสียงเบาราวกับกลัวพวกเงาที่อยู่ข้างนอกจะได้ยิน จากที่ว่าจะปล่อยให้นอนหลับสบายก็กลายเป็นอยากให้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์หลอนด้วยกันซะงั้น

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เหวอออ !!”

แค่ได้ยินสิ่งที่ดีนพูดตรงกับสิ่งที่ตนเองคิดเท่านั้นก็เกิดเหตุการณ์โบ๊ะบ๊ะบ้าจี้ร้องตามกันขึ้นมาทันที แมคเคนซีกอดอีกฝ่ายตอบแน่น ปวดห้องน้ำก็ปวดแต่ตอนนี้กะจิตกะใจไม่ได้ไปโฟกัสที่ตรงนั้นแล้ว โชคดีแค่ไหนที่ไม่ราดออกมา ยอมรับว่าตั้งแต่เจอเหตุการณ์ชวนสยองที่หอคอยแห่งลอนดอนเขาก็ขวัญอ่อนมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

“กี้…!”

แต่พอเข้าสู่จังหวะเงียบก็เหมือนได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังแทรกขึ้นมา

“นายว่าเสียงคุ้น ๆ ไหม”

จนเมื่อสติกลับคืนมาเขาจึงค่อย ๆ คลายกอดแล้วถามดีนเพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้คิดไปเองคนเดียว

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“โอเค ระวังตัวด้วย”

แมคเคนซีรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เมื่อดีนออกไปแล้วก็รูดซิปเต๊นท์ให้มิดชิด แม้แต่ที่ไทยก็ยังมีพวกอสุรกาย แปลว่าเจ้าพวกนี้น่าจะกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก แต่พวกก็อบลินตัวนิดเดียวคงไม่คณามือดีนหรอก…ล่ะมั้ง

นั่งรออยู่สักพักอาการเดิมก็กลับมาอีกแล้ว เมื่อกี้เขายังไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำเลยนี่นา พอนึกขึ้นได้ก็ขนลุกซู่แทบจะกลั้นไม่อยู่

‘ไม่ได้การ ต้องไปห้องน้ำเดี๋ยวนี้’

แมคเคนซีหยิบดาบสัมฤทธิ์ที่วางอยู่ด้านข้างตรงที่ตนเองนอนแล้วค่อย ๆ รูดซิปเต๊นท์ เห็นดีนโดนพวกก็อบลินล่อไปอีกทางจนเห็นแผ่นหลังจากไฟทางลิบ ๆ อยากจะไปช่วยอยู่หรอก แต่ขอเวลาสัก 5 นาทีเพื่อทำธุระส่วนตัวหน่อยแล้วกัน

ในที่สุดเขาก็มาถึงห้องน้ำ ถึงจะไม่อยากใช้แต่แค่ปลดทุกข์เบาก็คงไม่เป็นไร เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงกรอบแกรบก็ดังเข้าหู มันมาจากถังขยะที่อยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำนี่เอง และเมื่อหันไปมอง แมคเคนซีก็จ๊ะเอ๋เข้ากับก็อบลิน 2 ตัวที่กำลังหาอาหารค่ำ ดูเหมือนว่าพอพวกมันเห็นเขาแล้วก็ทำตาวาวเหมือนเห็นอาหารเลิศรสที่แม้แต่ขยะยังเทียบไม่ได้ยังไงยังงั้น

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เฮ่อ…..”

แมคเคนซีถอนหายใจอย่างผ่อนคลายขณะเดินออกมาจากห้องน้ำ ในที่สุดเขาก็ได้ปลดปล่อย ตอนนี้สบายตัวพร้อมนอนต่อ ส่วนพวกก็อบลินที่เจอก่อนหน้านั้นโชคดีที่มันไม่ได้มีฤทธิ์เดชหรือพละกำลังอะไรมาก สุดท้ายก็โดนเขาเอาดาบจิ้มแบบทำเวลาเพื่อจะรีบไปเข้าห้องน้ำ นี่อาจถือเป็นครั้งแรกก็ได้ที่แมคเคนซีจัดการอสุรกายได้ไวขนาดนี้

“โอ้…ลืมไปเลย”

เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าพวกก็อบลินที่กลายเป็นฝุ่นผงได้ทิ้งสินสงครามให้ดูต่างหน้าด้วย ถ้าจำไม่ผิดเหมือนดีนจะเคยบอกว่าพวกนี้นำไปใช้ประโยชน์ได้ แมคเคนซีจึงเก็บหมวกสัมฤทธิ์สองใบบนพื้นขึ้นมาแล้วเดินกลับเต๊นท์

“นายกลับมาก่อนฉันอีก ว่าแล้วเชียวว่าเจ้าพวกนั้นสู้นายไม่ได้แน่ ฉันไปเจอมาสองตัว ได้ไอ้นี่มาด้วย”

พอเห็นดีนที่กลับมาที่เต๊นท์ก่อนแล้วก็นั่งลงด้านข้างแล้ววางหมวกสัมฤทธิ์ให้ดู

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ไม่ ฉันไม่เป็นไร ก็อบลินพวกนั้นตัวเล็กมาก แล้วก็มีแค่สองตัว ดูสิ ฉันไม่มีแผลอะไรเลย”

อยู่เฉย ๆ ให้ดีนได้สำรวจร่างกายก่อนจะยิ้มออกมาเขิน ๆ เมื่อต้องบอกเหตุผลที่ตัวเองต้องรีบร้อนออกจากเต๊นท์ไป

“คือว่าฉัน…ไปเข้าห้องน้ำมา ฉันไม่ได้บอกนายก่อนอีกแล้ว ขอโทษที รอบนี้มันสุดจะกลั้นจริง ๆ”

อยู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดที่ดีนเคยบอกเขาที่ลอนดอนขึ้นมาได้ว่าต่อให้จะไปไหนก็ต้องบอกอีกฝ่ายก่อน

“ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว มานอนต่อกันไหม พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ก็ใช่ เฮ้ นายขำอะไรเล่า ไม่ปวดบ้างให้มันรู้ไป”

นึกว่าโดนหัวเราะเยาะเรื่องที่ปวดฉี่กลางดึกเลยโวยวายออกมาเล็กน้อย แต่พอถูกหอมแก้มก็เงียบทันควัน

“หลับสิ ง่วงจะแย่ ถ้านายไม่หลับก็นอนนับแกะหรือนับก็อบลินไปแล้วกัน”

วันนี้เขาขับรถมาทั้งวันเมื่อยเนื้อตัวไปหมดแถมยังต้องมาเจอฝูงก็อบลินกลางดึกอีกเลยไม่มีแรงจะพูดจากวนอีกฝ่ายแล้ว กลายเป็นว่ารอบนี้เป็นแมคเคนซีเองที่พอหัวถึงหมอนก็แทบจะหลับไปในทันที



      

@God

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 49301 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-7-31 23:49
โพสต์ 49,301 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-7-31 23:49
โพสต์ 49,301 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-7-31 23:49
โพสต์ 49,301 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-7-31 23:49
โพสต์ 49,301 ไบต์และได้รับ +6 EXP +9 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-7-31 23:49
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส
น้ำหอมเฮคาที
เหรียญนกฮูก
สร้อยคอดีไซน์เท่
กางเกงเดินป่า
ตำราเวทมนต์เฮคาที
เข็มกลัดเฮคาที
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
เกราะนักรบสีทองแดง
การควบคุมหมอกขั้นสูง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เรียกอาวุธจากหมอก
Hydro X
การปลุกผี
คบเพลิงเวท
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
นาฬิกาสปอร์ต
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x2
x7
x10
x10
x7
x2
x9
x6
x4
x3
x70
x4
x10
x6
x12
x6
x18
x3
x55
x9
x189
x14
x14
x12
x45
x18
x5
x5
x5
x2
x5
x2
x11
x20
x10
x10
x2
x2
x2
x4
x1
x3
x12
x6
x2
x5
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x13
x2
x4
x4
x2
x1
x16
x145
x192
x10
x6
x10
x10
x16
x55
x80
x1
x1
x1
x4
x3
x1
x1
x1
x1
x5
โพสต์ 2024-8-4 09:51:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mackenzie เมื่อ 2025-11-2 12:46

32. Rainy Day
M

หลังจากได้นอนหลับเต็มอิ่ม แมคเคนซีก็ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยการปลุกของดีนเช่นเดิม วันนี้พวกเขาตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดีเพื่อมาชมทะเลหมอกซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง หมอกหนาที่ปกคลุมจนมองไม่เห็นด้านล่างนั้นให้บรรยากาศราวกับสรวงสวรรค์ จนอดคิดไม่ได้ว่าดินแดนที่พวกทวยเทพอยู่จะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า

ชื่นชมทะเลหมอกไปได้สักพักก็ถึงเวลาพระอาทิตย์โผล่พ้นผ่านเมฆหมอกขึ้นมาจากขอบฟ้า แสงสีแสดช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ยามเช้าที่หนาวเย็น นักท่องเที่ยวที่รอชมภาพอันงดงามนี้ต่างก็ถ่ายคลิปไม่ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ไม่เว้นแม้แต่แมคเคนซีเองก็เช่นกัน หลังจากนั้นพวกเขาก็เก็บสัมภาระและนำเต๊นท์ที่เช่านอนไปคืนเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็ไปทานอาหารเช้ากันที่ร้านเดิมเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ต่อ



@Dean

จากจุดที่พวกเขาจะไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพนั้น เมื่อเปิดดูจีพีเอสแล้วก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง คิดว่าน่าจะไปถึงช่วงสาย ๆ หน่อย แต่การได้ขับรถท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ก็ถือว่าได้ชมวิวไปในตัว

“นายไม่สบายหรือเปล่า วันนี้ดูเงียบ ๆ นะ”

แต่ดูเหมือนว่าตั้งแต่เช้ามาคนที่นั่งข้างเขาจะดูไม่เอ็นจอยเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าไม่สบายหรือเปล่าถึงได้ดูไม่ค่อยพูดค่อยจาเหมือนปกติ มือข้างหนึ่งจึงผละจากพวงมาลัยรถมาใช้หลังมืออังหน้าฝากอีกฝ่ายเพื่อวัดไข้ก่อนจะผละออกมา

“ก็ไม่มีไข้ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจงั้นเหรอ”

@Dean

เพราะขับรถลงเขาอยู่จึงต้องระมัดระวังและคอยมองถนนให้ดีจึงไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้นแมคเคนซีก็จับอารมณ์จากน้ำเสียงได้

“แค่นั้นแน่เหรอ”

เขาเอื้อมมือข้างนึงไปกุมมืออีกฝ่ายไว้

“นายมีเรื่องอะไร บอกฉันได้นะ”

@Dean

“งั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวถ้าเจอคาเฟ่ฉันจอดแวะเลย นายจะได้ดื่มกาแฟหวานสองร้อยเปอร์เซ็นต์เติมพลัง”

จากที่คิดว่าขับรถสองชั่วโมงกว่าคงเมื่อยแน่ เมื่อมีจุดมุ่งหมายใหม่ตอนนี้ก็กลายเป็นมีแรงจูงใจในการขับรถแล้ว อย่างน้อยถ้าเข้าทางหลักไปก็คงมีคาเฟ่อยู่บ้าง ดีนจะได้ดื่มกาแฟร้อน ๆ เพื่อให้สดชื่นขึ้น

“งั้นนายมองฝั่งตัวเองไว้ ถ้าเจอคาเฟ่ก็บอกฉันเลยนะ ฉันจะมองอีกฝั่งเอง”

@Dean

ทั้งที่รับปากว่าจะช่วยดูแท้ ๆ แต่ดีนก็หลับไปซะแล้ว ถึงอย่างนั้นแมคเคนซีก็ไม่ได้คิดมากอะไร ดูจากสีหน้าที่ค่อนข้างอิดโรยแล้วเมื่อคืนคงนอนไม่หลับจริง ๆ ไม่เพียงแค่เท่านั้น เขายังรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีบางอย่างอยู่ในใจแต่ก็ยังไม่คิดจะถามด้วยไม่อยากกวนอารมณ์คนนอนน้อยให้ขุ่นมัวไปกว่านี้ และแม้จะอยากกุมมือดีนต่อแต่ความปลอดภัยของพวกเขาทั้งคู่ก็ต้องมาก่อน แมคเคนซีจึงค่อย ๆ ผละมือออกมากุมพวงมาลัยแล้วขับรถต่อ

จนเมื่อขับมาได้สักพักใหญ่ตามเส้นทางที่จะไปเข้าตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ สายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายคาเฟ่ที่ตรงข้างทาง แต่ดูเหมือนว่าจะต้องเข้าซอยไปอีกหน่อย เอาล่ะ…ในเมื่อดีนอยากแวะคาเฟ่ก็้ต้องได้ตามนั้น ออกนอกเส้นทางนิดหน่อยคงไม่เสียเวลามาก คิดได้แบบนั้นแมคเคนซีก็หักพวงมาลัยเลี้ยวถเข้าซอยไปในทันที

คาเฟ่ที่เขามาถึงเป็นคาเฟ่ที่อยู่ริมน้ำ บรรยากาศดูร่มรื่นสบาย ๆ ตกแต่งได้น่ารักและมีมุมให้ถ่ายรูป ดีนที่เพิ่งซื้อกล้องถ่ายรูปมาใหม่น่าจะชอบ

‘คงได้รูปจากที่นี่ไปเยอะทีเดียว’

คิดได้แบบนั้นก็ยิ้มอารมณ์ดี สะกิดปลุกอีกฝ่ายทันที

“ดีน…ถึงคาเฟ่แล้ว กาแฟหอม ๆ รอนายอยู่นะ”

@Dean

“ไม่เป็นไร เรายังต้องไปกันอีกหลายที่ ได้หลับบ้างก็ดีแล้ว”

บอกยิ้ม ๆ ก่อนจะดับเครื่องแล้วลงจากรถ เมื่อเข้าไปสั่งอาหารภายในร้านเรียบร้อย พวกเขาก็มาหาที่นั่งที่มองเห็นวิวด้านนอกกัน

“พอดีฉันเห็นป้ายอยู่ริมถนน แต่ก็เลี้ยวเข้าซอยมาไม่ไกลนักหรอก”

บอกพลางตักน้ำแข็งไสที่ทำจากนมเข้าปาก แรกเริ่มแมคเคนซีตั้งใจจะสั่งโกโก้ร้อน แต่ด้วยความที่ยังติดใจข้าวเหนียวมะม่วงจากตลาดคนเดินที่แม่ฮ่องสอนจึงสั่งบิงซูมะม่วงกับทาร์ตผลไม้มาอีกหนึ่งชิ้น และมันก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเลย ขนมที่นี่รสชาติอร่อยดีทีเดียว

“ลองชิมนี่ไหม หวานเย็นสดชื่นมาก”

ถามพลางเลื่อนชามบิงซูไปให้ดีน

@Dean

“ฉันแค่อยากให้นายอารมณ์ดี”

อย่างน้อยแค่เห็นรอยยิ้มอีกฝ่ายที่ได้ทานของอร่อยถูกใจท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว

“จะว่าไงดี มันอร่อยแบบที่ไม่เคยกินมาก่อน แล้วถ้ากลับค่ายก็คงหากินไม่ได้แล้ว”

ที่ค่ายไม่มีต้นมะม่วง แมมะม่วงยังเป็นผลไม้ประจำเมืองร้อนอีก ประเทศทางยุโรปค่อนข้างหาทานยากหากไม่นำเข้ามาจากต่างประเทศ หากเขากลับค่ายไปคงคิดถึงรสชาติหวานหอมของมะม่วงแน่ ๆ ส่วนโกโก้เขาจะชงดื่มเองเมื่อไหร่ก็ย่อมได้

@Dean

“ฉันพูดหรือทำอะไรให้นายไม่พอใจงั้นเหรอ”

ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มสงสัยขึ้นมา ก็พอรู้อยู่ว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไม่ดี แต่ก็ไม่คิดว่าต้นเหตุจะมาจากตัวเขาเอง

“หรือไม่เราก็ซื้อมะม่วงกลับไปแล้วเอาเม็ดไปปลูกที่ค่าย แต่กว่าจะได้กินนี่กี่ปีกันนะ”

ถ้าจำไม่ผิดมะม่วงเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ กว่าจะปลูกแล้วไดทานผลคงใช้เวลาเป็นปี คิดแล้วก็ท้อ ซื้อทานง่ายกว่าเยอะ

@Dean

“งั้นเหรอ…โอเค ต่อไปฉันจะระวัง”

ถึงกับทำให้นอนไม่หลับคงเป็นคำพูดที่อีกฝ่ายไม่ชอบใจแน่ ๆ แต่เหมือนว่าดีนจะไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บอีกเขาเลยไม่อยากถามรายละเอียดไปมากกว่านี้ แต่ถ้าให้เดาก็คงเป็นนิสัยเผลอพูดอะไรกวนเท้าอีกฝ่ายเข้าล่ะมั้งเขามันเป็นพวกยิ่งสนิทก็ยิ่งชอบพูดเล่นอยู่ด้วย จากนี้ไปคงต้องระมัดระวังมากกว่านี้

“คุณไครอนจะใจดีให้เราปลูกมะม่วงได้งั้นเหรอ ลูกเดียวน้อยไปหรือเปล่า กินมื้อเดียวก็หมดแล้ว”

จากนั้นแมคเคนซีก็นั่งรอดีนถ่ายรูปรอบ ๆ ร้าน ไม่รู้ว่าจบจากทริปนี้ไปจะมีรูปจำนวนเท่าไหร่

@Dean

“มีคนเคยบอกไหมว่านายร้องเพลงเพราะ”

ถามขึ้นมาขณะฟังอีกฝ่ายร้องเพลงไปด้วย จนกระทั่งมาถึงทางขึ้นเขาที่จะไปยังดอยสุเทพ

“เชื่อมือฉันได้เลยที่รัก”

หากผ่านทางโค้งของแม่ฮ่องสอนมาได้ก็ไม่มีเส้นทางไหนน่ากลัวสำหรับแมคเคนซีอีกต่อไป ในที่สุดเขาก็ขับขึ้นมาจนถึงดอยสุเทพ แม้จะไม่ใช่วันหยุดแต่ช่วงสายเวลานี้ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวมามากจำนวนหนึ่ง เมื่อหาที่จอดรถได้แล้วก็พากันเดินมายังทางที่จะขึ้นไปพระธาตุดอยสุเทพ

“โห เราต้องขึ้นบันไดสูงขนาดนี้เลยเหรอ”

แมคเคนซีมองบันไดสูงชันตรงหน้าซึ่งมีสัตว์ในตำนานของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นามว่า ‘พญานาค’ ขนาบอยู่ทั้ง 2 ด้านแทนราวบันได หากกะด้วยสายตาคร่าว ๆ ดูแล้วน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 200-300 ขั้น ขณะที่กำลังรู้สึกท้อกับกำลังขาของตนอยู่นั่นเอง สายตาก็เหลือบไปเห็นคนกลุ่มนึงกำลังต่อแถวจากที่ที่พวกเขายืนอยู่ไม่ไกล ตรงนั้นมีป้ายเขียนว่า ‘กระเช้าไฟฟ้าขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ’

“ตรงนั้นมีกระเช้าไฟฟ้าด้วย เราขึ้นกระเช้ากันดีกว่าไหม”

เขารีบหันมาถามดีนทันที



@Dean

ถึงจะพูดพร้อมกันแต่แมคเคนซีก็ได้ยินคำชวนของดีน แต่จากการขับรถมานานทั้งยังต้องเก็บแรงไว้อีกตลอดทั้งทริป เขาจึงได้แต่ยิ้มอ่อนให้อีกฝ่าย แล้วเดินนำไปยังที่ขายตั๋ว ต่อแถวรอไม่นานก็ถึงคิว ลักษณะกระเช้าไฟฟ้านั้นค่อนข้างคล้ายกับตัวชิงช้าของลอนดอนอายคือเป็นแคปซูลและให้ผู้โดยสารเข้าไปยืนได้หลายคน เพียงแต่แค่กระเช้าของที่นี่ขนาดเล็กกว่า ไม่มีแอร์ และไม่มีวิวสวย ๆ ให้ดู แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ ระยะทางที่ขึ้นไปยังดอยสุเทพใช้เวลาประมาณไม่กี่นาทีเท่านั้น จะติดเครื่องปรับอากาศไปก็คงจะใช่ที่

เมื่อออกจากกระเช้าไฟฟ้าก็มาถึงประตูทางเข้าพระธาตุดอยสุเทพเสียที ที่แห่งนี้ถือเป็นศาสนสถาน ผู้คนจึงถอดรองเท้าก่อนที่จะเข้าไปเยี่ยมชมและสักการะบูชา ซึ่งพวกเขาก็ทำตามเป็นอย่างดีแม้ว่าแดดเมืองไทยจะทำให้เท้าร้อนไปหน่อยก็ตาม

“โห สวยจัง”

เมื่อเข้ามาภายในก็พบกับสถาปัตยกรรมตามแบบไทยที่วิจิตรงดงามไม่แพ้โบสถ์วิหารตามฝั่งยุโรป ที่เด่นสะดุดตาที่สุดก็คือเจดีย์พระธาตุดอยสุเทพที่มีลักษณะเป็นทรงระฆังขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางลานกว้างล้อมด้วยพระพุทธรูปปางต่าง ๆ รอบฐานจนต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้



@Dean

“นั่นสิ เหมือนทองจริง ๆ เลย”

เรื่องวัสดุที่ใช้สร้างเขาเองก็ไม่รู้ แต่พอดีนทักขึ้นมาก็เริ่มสงสัยตามไปด้วย แต่ถ้าใช้ทองจริงก็น่าจะใช้จำนวนไม่น้อย แปลว่าประเทศไทยก็เป็นประเทศนึงที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์

“นี่น่ะเหรอ ถ้าตีแล้วมันจะเสียงดัง——”

เก๊ง——!!

กำลังจะบอกว่า เสียงดังรบกวนคนอื่น แต่ก็มีเสียงระฆังดังแทรกขึ้นมาจนหูอื้อไปเล็กน้อย พอหันไปมองก็เห็นผู้คนกำลังต่อแถวไล่ตีระฆังแบบเอาจริงเอาจังเหมือนว่าเป็นเรื่องปกติของที่นี่

“เอาสิ มาตีระฆังกัน ให้ทริปนี้ของเรามีแต่โชคดี”

บอกแล้วก็ดึงมือดีนให้มาต่อแถว จนเมื่อถึงคิวก็ใช้ไม้ตีระฆังจนดัง ‘เก๊ง——!!’ กังวานไปทั่วบริเวณ

@Dean

เมื่อเดินชมเจดีย์พระธาตุดอยสุเทพและตีระฆังที่อยู่ภายในจนครบแล้วพวกเขาก็เดินออกมาด้านนอกกัน เนื่องจากแมคเคนซีสวมรองเท้าผ้าใบมาจึงใช้เวลาใส่ค่อนข้างนานกว่าดีนที่คงจะสวมรองเท้าเสร็จแล้วเดินไปถ่ายรูปต่อ แต่เหมือนเขาจะได้ยินเสียงคนรักเถียงกับใครแว่ว ๆ เมื่อหันไปมองก็ต้องเบิกตาโต

‘ตัวอะไร’

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านั่นคืออสุรกายไม่ผิดแน่ เพียงแต่เป็นรูปร่างของสัตว์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นสัตว์ในตำนานเช่นเดียวกันกับพญานาคก็ได้

“เฮ้ย !”

แมคเคนซีร้องเสียงดังเมื่อดีนถูกอสุรกายตนนั้นกระโจนเข้าไปตะปบ แม้อีกฝ่ายจะหลบทันแต่ก็อันตรายไม่ใช่น้อย

“ตายแล้ว ! ฝรั่งคนนั้นโดนหมาวิ่งไล่ฟัดไปโน่นแล้ว !”

เสียงแม่ค้าร้านขายของแถวนั้นตะโกนขึ้น แมคเคนซีรีบใส่รองเท้าข้างที่เหลือแล้ววิ่งตามไปทันที

@Dean

“ดีน ! นายเป็นอะไรหรือเปล่า”

แมคเคนซีที่วิ่งตามมาจนเหนื่อยหอบถามพลางหายใจลึกเอาอากาศเข้าปอดไปด้วย แล้วก็เหมือนทุกครั้ง อีกฝ่ายไม่มีบาดแผลอะไรเลย

“แล้วเจ้ามอนสเตอร์นั่นล่ะ หายไปไหนแล้ว”

เขามองซ้ายมองขวาแล้วมองไปรอบ ๆ แต่ก็เห็นเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น

@Dean

“ไกร…ซอน…?”

พยายามจะออกเสียงตามแต่รู้สึกว่าลำบากเกินไปเลยล้มเลิกความตั้งใจแล้วหันมาช่วยพยุงร่างดีนดีกว่า

“นายเอาหอกเก็บไว้ในรถไม่ใช่เหรอ แล้วนายสู้กับมอนสเตอร์นั่นยังไง”

เหมือนว่าก่อนออกจากรถเขาจะเห็นอาวุธประจำตัวดีนอยู่แต่ก็ไม่ได้คิดจะเตือนว่าให้พกไปด้วยไม่นึกว่าจะมีอสุรกายอยู่ในที่แบบนี้ พอได้ยินอีกฝ่ายบอกว่าให้รีบออกไปจากที่นี่ จากตอนขาขึ้นที่เห็นดีนแสดงทีท่าว่าอยากจะเดินขึ้นบันไดแต่พวกเขาขึ้นกระเช้ากันมา ขาลงเลยว่าจะตามใจอีกฝ่ายบ้าง เลยกลายเป็นว่าต้องลงด้านล่างกันไปด้วยกระเช้าไฟฟ้าเหมือนเดิม

“หิวหรือยัง แวะกินอะไรกันก่อนไปสวนสัตว์ดีไหม”

หันมาถามความเห็นดีนหลังจากที่ขึ้นรถกันแล้ว

@Dean

แมคเคนซีขับรถพลางฟังดีนเล่าไปด้วย

“สร้างน้ำเป็นอาวุธเหรอ มันคงดีถ้าไม่ต้องพกอาวุธแล้วใช้น้ำแทน งั้นถ้าทำเป็นอาวุธอื่นล่ะได้ไหม แบบที่เล็กลงสักหน่อย นายจะใช้พลังงานน้อยลงหรือเปล่า”

เขาคิดว่าอาวุธของอีกฝ่ายค่อนข้างเทอะทะ แม้ว่ามนต์พลางตาจะทำให้เห็นเป็นท่อน้ำสีฟ้าแต่เขาก็คิดว่ามันก็ยังดูเด่นสะดุดตาอยู่ดี

เมื่อตกลงสถานที่ทานมื้อกลางวันกันได้เขาก็เปิดเพลงฟังต่อระหว่างที่ขับรถไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็มาถึงตลาดที่ดีนบอกไว้ เมื่อลงจากรถมาเดินไล่ดูไปตามร้านต่าง ๆ ก็เห็นร้านนึงที่ดูน่าสนใจ

“ร้านนั้นคนเยอะ ลองดูไหม”

ตามความคิดของแมคเคนซี ร้านไหนคนเยอะเท่ากับว่าร้านนั้นอร่อย

@Dean

“ซุปที่สีเหมือนแกงกะหรี่นั่นน่ะเหรอ”

เหมือนจะพอนึกหน้าตาอาหารที่ชื่อว่า ‘ข้าวซอย’ ออก แมคเคนซีคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นรูปในข้อมูลท่องเที่ยวไทยที่ดีนทำไว้ เมื่อเห็นด้วยกันทั้งคู่ พวกเขาก็ไปสั่งอาหารที่หน้าร้านซึ่งมีพนักงานคอยรับออเดอร์ แต่เนื่องจากภายในร้านยังไม่มีที่นั่งจึงต้องรออยู่หน้าร้านตามคิว

“มันจะเผ็ดไหม สีดูจัดจ้านเชียว”

พอแอบมองโต๊ะใกล้ตัวที่กำลังทานกันอยู่ก็เริ่มเกิดความสงสัย เพราะอากาศร้อนหรือรสชาติอาหารที่ร้อนแรงกันแน่ คนพวกนั้นถึงได้เหงื่อออกกันขนาดนั้น

@Dean

แมคเคนซีดูราคาจากเมนูแล้วสั่งข้าวซอยเนื้อก่อนจะสั่งเก๊กฮวยอีกแก้วกับน้ำเปล่าอีกขวดเผื่อว่าอาหารที่พวกเขาสั่งมาจะเผ็ดจนเกินไป รอไม่นานพนักงานก็นำน้ำมาเสิร์ฟ แมคเคนซีมองน้ำสีเหลืองในแก้วที่สีเหมือนเบียร์เพียงแค่ไม่มีฟองก็เท่านั้น

“หื้อ…อร่อย นี่มันเรียกว่าน้ำอะไรนะ”

พอดูดเข้าไปครั้งแรกก็ถึงกับตาโต ปกติแมคเคนซีไม่ค่อยดื่มน้ำหวานเท่าไหร่ แต่น้ำสีเหลืองนี่ไม่หวานจนเกินไป และไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่ามันทำให้เขาสดชื่นขึ้นด้วย

@Dean

“มันสดชื่นดีนะ นายว่าไหม ยิ่งดื่มเย็น ๆ นี่หายเหนื่อยเลย”

แป๊บเดียวก็หมดไปแก้วนึงแล้ว เขาเลยสั่งอีกแล้วแต่พอพนักงานบอกว่ามีแบบขวดขายด้วยก็เปลี่ยนใจแทบจะทันที ดีนจะได้เติมได้ด้วย กลายเป็นว่าปล่อยให้น้ำเปล่าถูกวางเหงาไปซะอย่างนั้น

แล้วก็ถึงเวลาลองอาหารพื้นเมืองอีกอย่างของชาวเหนือ แม้ว่าจะมีกลิ่นหอมแต่แมคเคนซีก็สัมผัสได้ถึงความเผ็ดร้อนเช่นกัน ดังนั้นก่อนจะทานจึงต้องนั่งทำใจนิดนึงก่อน ดีที่ดีนขอช้อนส้อมมาให้ ไม่อย่างนั้นเสื้อผ้าคงได้เลอะเทอะไปหมด

“แค่ก ๆ !”

หลังจากลองชิมน้ำซุปไปเล็กน้อย รสชาติเข้มข้นนั้นก็ทำให้ร้อนจนระคายคอถึงขั้นไอออกมา เขารีบความแก้วเก๊กฮวยมาดูดอึกใหญ่จนเกือบหมดแก้ว

“ผ..เผ็ด !”

@Dean

“ชาน่ะเหรอ แล้วมีขายหรือเปล่า ฉันว่ามันหอมดี ถ้าเอาไปชงให้จูลี่ดื่มน่าจะชอบ”

อยู่ ๆ ก็นึกถึงน้องชายร่วมบ้านขึ้นมา วัน ๆ ต้มแต่ยาสมุนไพรดื่มคงจะขมคอไม่ก็เหม็นเขียว ถ้าได้ดื่มอะไรหวานหอมชุ่มคอสักหน่อยน่าจะดีไม่น้อย

“ไม่..ไม่เป็นไร ถ้าไม่กินน้ำซุปก็น่าจะพอได้”

แมคเคนซีส่ายหน้า ปริมาณอาหารในชามก็ดูไม่เยอะเท่าไหร่ คงใช้เวลาทานไม่นาน คงไม่ถึงกับเผ็ดจนน้ำหูน้ำตาไหล…แค่ปากเจ่อเห่อร้อนเท่านั้น แล้วก็เริ่มทานต่อแบบแยกน้ำซุปออก

@Dean

“ก็เข้มข้นดี แต่มันเผ็ดนี่นา”

บอกพลางเป่าลมออกปากระบายความเผ็ดร้อนแต่ก็ช่วยได้นิดหน่อยเลเทน้ำเปล่าใส่แก้วมาดื่มต่อก่อนจะรับมือถือจากดีนมาดู

“ดีสิ แบบนี้เราจะไปซื้อน้ำนี่ตรงไหนก็ได้แล้ว แต่ถ้าซื้อกลับค่ายจะหนักหรือเปล่า ถ้าซื้อไปชงเองฉันว่ามันน่าจะเบากว่า แล้วก็ชงได้หลายแก้วด้วย”

ลำพังแค่สัมภาระและอาวุธที่หอบหิ้วมาแถมยังเพิ่มสินสงครามมาในภายหลังกระเป๋าพวกเขาก็น้ำหนักมากพอแล้ว หากต้องแบกน้ำกันอีกน่าจะกล้ามขึ้นเลยทีเดียว

“อ้าว…ฝนตก”

พอมองไปนอกร้านก็เห็นฝนลงเม็ดซะแล้ว แบบนี้การขับรถขึ้นหรือลงเขาคงต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

@Dean

นี่น่าจะเป็นมื้ออาหารที่แมคเคนซีใช้เวลาทานนานที่สุดมื้อนึงแม้จะไม่ได้ทานไปคุยไป เมื่อทานหมดก็ปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามหน้าผาก ทั้งที่ฝนตกจนอากาศเย็นสบายแท้ ๆ แต่เขากลับร้อนจนหน้าแดงไปหมด

“ดูท่านายจะชอบนะ กินซะเกลี้ยงเชียว”

มองชามที่แทบจะว่างเปล่าของดีน ต่างกับของตนเองที่น้ำซุปไม่พร่องแม้แต่น้อย

“ใกล้ ๆ นี้ก็มีขายใช่ไหม ไว้ฝนหยุดแล้วค่อยไปดูกัน”

เหมือนว่าเขาพลาดไปเรื่องนึงนั่นคือการไม่ได้พกร่มมา ก็เลยต้องมาติดอยู่ในร้านอาหารแบบนี้ คงต้องไปซื้อร่มหรือเสื้อกันฝนซะแล้ว

@Dean

แมคเคนซีไม่ปฏิเสธว่าอาหารไทยนั้นอร่อยหลายอย่าง ถึงแม้จะรสจัดแต่รสชาติก็ครบเครื่อง เขาอาจต้องใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัวให้ลิ้นคุ้นชินกับรสชาติของอาหารไทย ยังไงซะพวกเขาก็คงอยู่ที่นี่กันอีกหลายวันตราบใดที่ยังทำภารกิจไม่เสร็จ

“หา…แล้วนายจะไปยังไง เดี๋ยวก็เปียกฝนพอดี”

เรียวคิ้วขมวดเล็กน้อย เขาไม่ได้อยากให้ดีนทำอย่างนั้น หากโดนฝนแล้วไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง

@Dean

“ก็รู้…แล้วยังไงเล่า”

พึมพำประโยคหลังเบา ๆ เขารู้ว่าดีนเป็นลูกมหาเทพแห่งสายน้ำและท้องทะเล แต่ก็แล้วยังไง ถ้าโดนน้ำก็เปียกอยู่ดี ยกเว้นว่าอีกฝ่ายจะได้พรวิเศษหรือมีสกิลใหม่ ๆ ติดตัวมาอีก สุดท้ายเลยยอมหยิบกุญแจรถส่งให้

“เดินระวังด้วย ถนนมันลื่น”

@Dean

แมคเคนซีมองตามหลังดีนที่วิ่งฝ่าสายฝนไปแล้วเรียกพนักงานมาคิดเงินค่าอาหาร กว่าจะจ่ายเงินเสร็จอีกฝ่ายก็กลับมาพอดี

“เตรียมมาเผื่อด้วยเหรอ ขอบคุณนะ”

เขารับเสื้อกันฝนจากดีนมาสวมให้เรียบร้อย จะว่าไปเวลาเดินทางไกลแบบนี้อีกฝ่ายค่อนข้างรอบคอบทีเดียว

“แล้วเราจะไปตลาดด้านในต่อไหม หรือว่าจะยังไงต่อดี”

ถึงจะใส่เสื้อกันฝนแต่มันก็ค่อนข้างเดินลำบาก ไม่รู้ว่าดีนจะโอเคไหม ตอนนี้หากจะไปยังที่ถัดไปตามแผนการท่องเที่ยวก็คงถึงช้ากว่าเวลาที่วางไว้ไปสักหน่อยเพราะเขาคงต้องขับรถให้ช้าลงจากการที่ถนนลื่น

@Dean

ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่  พวกเขาจับมือกันเดินไปยังร้านขายดอกไม้อบแห้ง เมื่อมาถึงแล้วก็เห็นทั้งดอกไม้ ใบไม้ และผลไม้อบแห้งต่าง ๆ เต็มร้าน ให้อารมณ์เหมือนห้องเก็บสมุนไพรที่บ้านแมคเคนซีอยู่ไม่น้อย ตอนแรกตั้งใจว่าจะซื้อแค่ดอกเก๊กฮวย แต่คนขายก็ภูมิใจนำเสนอสินค้าชนิดต่าง ๆ อีก จนสุดท้ายเขาก็ได้ทั้งกระเจี๊ยบ อัญชัน และเห็ดหลินจืออบแห้งติดไม้ติดมือเพิ่มมาด้วย

“ซื้อมาซะเยอะเลย จูลี่น่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้บ้างนะ แล้วนายอยากซื้ออะไรไหม ถ้ามีของที่อยากได้จะแวะดูก่อนก็ได้นะ”

@Dean

“ไม่เห็นเป็นไร นายจะได้ไม่ต้องไปมองหมีตัวอื่น”

ที่ผ่านมาก็พอรู้ว่าดีนเปรียบเขาเป็นหมีมาโดยตลอด บางทีก็ชอบเรียกเขาว่า ‘พ่อหมี’ ด้วยซ้ำ เพราะงั้นสำหรับอีกฝ่ายแล้วเขาจะเป็นหมีอะไรก็ได้ทั้งนั้น

“กว้างขนาดนี้จะไปดูโซนไหนกันก่อนดี”

มองป้ายที่จัดแสดงสัตว์ตามโซนต่าง ๆ ถ้าจากทางที่เข้ามาและจอดรถที่ใกล้ที่สุด ตอนนี้พวกเขาก็อยู่ใกล้โซนแสดงพันธุ์สัตว์ออสเตรเลียและแอฟริกา



@Dean

“ถ้าใช่แล้วจะทำไม”

ตอบหน้านิ่ง ตอนที่กลับกลอสเตอร์ดีนก็เล่นกับแอนโธนี่และแอนดริวซึ่งเป็นหมาที่บ้านจนเขาแอบอิจฉา แม้ว่าภาพนั้นจะดูเหมือนหมาสามตัว (?) เล่นกันก็ตาม

ขณะเดินดูสัตว์ตามโซนต่าง ๆ แมคเคนซีก็ถ่ายรูปสัตว์สลับกับคนรักที่ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

“แปลว่าฉันจะเป็นหมีพันธุ์ไหนก็น่ารักหมดเลยไงล่ะ”

พอถูกแซวซ้ำก็ตีหลังกว้างไปเบา ๆ หลังอีกฝ่ายถ่ายรูปเสร็จ กว่าที่จะดูสัตว์ครบทุกโซนก็เข้าสู่ช่วงเย็นแล้ว พวกเขาจึงเดินทางไปที่ไนท์ซาฟารีต่อก่อนแวะทานมื้อเย็นที่ร้านอาหาร ‘ยีราฟ’ แล้วไปชมการแสดงสัตว์รอบเย็นต่อ



@Dean

เมื่อดูโชว์จบก็าถึงไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่นั่นคือการนั่งรถส่องสัตว์ตอนกลางคืนที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นรถรางและได้สัมผัสกับสัตว์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด มันก็น่าตื่นเต้นดีอยู่หรอก แต่เหมือนว่าแมคเคนซีที่ขับรถและผจญภัยมาทั้งวันจะเริ่มง่วงนอนซะแล้ว ช่วงเวลานั่งรถรางส่องสัตว์จึงกลายเป็นช่วงเวลาให้เขาได้แอบงีบในระยะเวลาสั้น ๆก่อนที่จะต้องขับรถเข้าเมืองไปยังโรงแรมที่ดีนจองไว้เมื่อครู่



@Dean

“ครบรอบแล้วเหรอ…”

ถามขึ้นมาเมื่อถูกดีนสะกิดปลุก ให้ตายสิ…ทำไมรถนี่ไม่วิ่งรอบละ 2-3 ชั่วโมงกันนะ เขาจะได้มีเวลางีบมากกว่านี้หน่อย

“เห็นแต่แกะเต็มไปหมด”

บอกเสียงงัวเงียแล้วบิดขี้เกียจไล่ความง่วง พอถูกโอบบ่าเลยถือโอกาสเอียงศีรษะไปพิงซบอีกฝ่ายซะเลยชดเชยที่ไม่ได้ทำเมื่อตอนนั่งรถส่องสัตว์เพราะอยากให้ดีนได้ดูและถ่ายรูปสัตว์ให้เต็มที่

“ไม่เป็นไร ฉันขับเอง เมื่อกี้ได้งีบก็โอเคขึ้นหน่อย”

เมื่อเดินมาถึงรถก็พากันขับไปยังโรงแรมที่ดีนจองไว้ในตัวเมือง โรงแรมที่พวกเขาเข้าพักวันนี้ตกแต่งแบบไทยดั้งเดิม ภายในห้องก็ค่อนข้างกว้างขวาง มีทั้งอ่างอาบน้ำและเตียงกว้างหนานุ่มให้นอนจนแมคเคนซีอยากจะกระโจนเข้าใส่เตียงซะเดี๋ยวนั้นถ้าไม่ติดว่าเขายังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อคืน แต่ก็ไม่เป็นไร ได้แช่น้ำอุ่นผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนเข้านอนก็ถือว่าเป็นการจบทริปวันนี้ที่ดีเหมือนกัน

@Dean


ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์  :  ถ่ายรูปจังหวัดเชียงใหม่
  [1/5]

@God

แสดงความคิดเห็น

203Thailand P.3 - เชียงใหม่ ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie จากเมื่อคืนที่มีเรื่องระทึกขวัญเกิดขึ้นก  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-8-5 10:49
โพสต์ 68521 ไบต์และได้รับ 36 EXP!  โพสต์ 2024-8-4 09:51
โพสต์ 68,521 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-8-4 09:51
โพสต์ 68,521 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-8-4 09:51
โพสต์ 68,521 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-8-4 09:51
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส
น้ำหอมเฮคาที
เหรียญนกฮูก
สร้อยคอดีไซน์เท่
กางเกงเดินป่า
ตำราเวทมนต์เฮคาที
เข็มกลัดเฮคาที
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
เกราะนักรบสีทองแดง
การควบคุมหมอกขั้นสูง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เรียกอาวุธจากหมอก
Hydro X
การปลุกผี
คบเพลิงเวท
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
นาฬิกาสปอร์ต
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x2
x7
x10
x10
x7
x2
x9
x6
x4
x3
x70
x4
x10
x6
x12
x6
x18
x3
x55
x9
x189
x14
x14
x12
x45
x18
x5
x5
x5
x2
x5
x2
x11
x20
x10
x10
x2
x2
x2
x4
x1
x3
x12
x6
x2
x5
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x13
x2
x4
x4
x2
x1
x16
x145
x192
x10
x6
x10
x10
x16
x55
x80
x1
x1
x1
x4
x3
x1
x1
x1
x1
x5
โพสต์ 2024-8-5 10:49:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-8-5 10:51
Mackenzie ตอบกลับเมื่อ 2024-8-4 09:51
32. Rainy DayM
หลังจากได้นอนหลับเต็มอิ่ม แมคเคนซีก็ตื่นขึ้ ...

203
Thailand P.3 - เชียงใหม่

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               จากเมื่อคืนที่มีเรื่องระทึกขวัญเกิดขึ้นก็ทำให้ดีนนอนไม่หลับจนถึงเช้า ไม่ใช่เพราะการก่อกวนของก็อบลินเพียงอย่างเดียว แต่จากคำพูดก่อนนอนของแมคเคนซีก็ส่วนขึ้น เช้านี้ก็เลยซึม ๆ นิดหน่อย แม้ภาพบรรยากาศยามเช้าจะสวยงามทว่าเขาไม่ได้รู้สึกเต็มอิ่มกับสถานที่มากเท่าไร ข้าวต้มร้อน ๆ ยามเช้าอาจช่วยให้ดีขึ้นได้มานิด ๆ

               หลังจากที่ออกจากอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมาแล้ว ดีนก็เซ็ตจีพีเอสไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป้าหมายที่จะไปเป็นที่แรกก็คือ ‘วัดพระธาตุดอยสุเทพ’ ศาสนสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาอย่างช้านาน และเป็นจุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นเมื่อมาเยือนเชียงใหม่

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               เหลือบมองอีกฝ่ายจากหางตานิด ๆ แมคเคนซีคงสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา ก็แหงมล่ะ จากคนที่พูดมาก พูดไม่หยุด พูดจนน่ารำคาญแต่วันนี้กลับเงียบกริบแม้ไม่ได้หลับ ดีนไม่อยากเป็นคนท็อกซิกเอาความรู้สึกไม่ดีไปลงที่คนอื่น แต่เขาก็ชั่งใจว่าควรจะบอกอีกฝ่ายดีหรือไม่ว่าตนไม่พอใจเรื่องอะไร เพราะการจะใช้ชีวิตคู่จำเป็นจะต้องแชร์ความรู้สึกซึ่งกันและกัน

               ทว่าเขาหลุบสายตาลงก่อนจะแค่นยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

               ‘...จัดการกับความรู้สึกตัวเองง่ายกว่า’

               “แค่นอนไม่หลับ” กล่าวความจริงส่วนหนึ่งออกไป

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               พอถูกเขาทำดีเข้าหน่อยก็ใจอ่อนยวบ จากงอน ๆ อยู่ไม่งอนแล้วก็ได้ ถึงกระนั้นก็ยังไม่หายซึมมากเท่าไร ดีนเลือกที่จะโกหกขาวให้คนรักสบายใจจะได้เที่ยวกันวันนี้ไม่กร่อยและไม่หมางใจกัน

               “ไม่มีอะไร ฉันแค่นอนไม่หลับ พลังงานก็เลยต่ำ บางทีแวะคาเฟ่ซื้อกาแฟหวาน ๆ คงช่วยได้แหล่ะ”

               ดีนตอบ แต่จากเส้นทางลงเขาแบบนี้จะไปหาคาเฟ่ได้ที่ไหน เผลอ ๆ อาจจะต้องไปดื่มที่หน้าสถานที่ท่องเที่ยวเลยทีเดียว

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “อืม ได้”

               เขารับปาก แต่เส้นทางทอดยาวลงเขาไม่มีอะไรนอกจากสีเขียว สีสันที่เมื่อมองแล้วทำให้รู้สึกสงบ และความสงบกับความง่วงเป็นของคู่กันจนทำให้ดีนแข็งตามองทางต่อไม่ไหว ยังไม่ทันที่จะลงมาถึงตัวเมืองดีนก็งีบหลับหัวพิงกระจกไปเสียแล้ว

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “หืม?” งัวเงียตื่นหลังจากถูกปลุก เมื่อรู้สึกตัวก็สะดุ้งโหยงขึ้นมาทันที “โอ๊ย โทษที ฉันเผลอหลับไป ไม่ได้ช่วยนายดูทางเลย ขอโทษนะแมคซี่”

               รีบขอโทษขอโพยคนรักเป็นการใหญ่ แต่คนมันง่วงนี่นาให้ทำไงได้ ที่ทำได้ก็มีแต่ดันแว่นขึ้นมาดี ๆ ก่อนจะมองออกไปนอกกระจกรถ

               “คาเฟ่.. ถึงแล้วเหรอ?”

               เอ่ยถามคล้ายกับยังไม่ตื่นดี แต่ได้กาแฟสักหน่อยคงไม่เลว แล้วไหนจะวิวสวย ๆ ที่อยู่รายรอบอีก ประเทศไทยนี่แข่งกันประกวดคาเฟ่สวยหรือไงนะ แวะกี่ที่ก็เจอแต่ร้านที่ตกแต่งแบบทุ่นทุนสร้างตลอด

               พวกเขาเข้าไปในร้านแล้วเริ่มสั่งกาแฟและขนมมากินเล่น แน่นอนว่าดีนสั่งอเมริกาโน่เย็นหวานสองร้อยเปอร์เซ็นเหมือนเดิม ส่วนขนมสั่งเป็นเค้กส้มผลไม้สุดโปรดปราน

               “นายหาร้านนี้เจอได้ไงน่ะ หน้าตาไม่เหมือนอยู่ข้างทางเลย”

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “เหรอ ลงทุนจังแฮะ”

               อดอมยิ้มไม่ได้ที่อีกฝ่ายดูจะลงทุนพาเขามาดื่มกาแฟในร้านสวย ๆ แทนที่จะเป็นร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ทั่วประเทศ ร้านที่เห็นชื่อครั้งแรกก็ต้องตกใจนึกว่าคุณซาบริน่ามาเปิดสาขาเพิ่มที่ต่างประเทศ (หรือร้านนี้มีสาขาที่ค่ายฮาล์ฟบลัดหว่า) ไม่ก็แค่เรื่องบังเอิญที่มีชื่อเดียวกัน แต่ว่าเขามาคิดถึงร้านอื่นทำไมกันนะ ที่นี่ไม่ใช่ ‘อะเมซอนคาเฟ่’ สักหน่อย

               ดีนมองชามปิงซูมะม่วงที่ถูกเลื่อนมาตรงหน้า งั้นก็ลองชิมสักหน่อย ยังไงของหวานก็โดนใจอยู่แล้ว ทั้งความเย็นความหวานและรสชาติหอมหวานของมะม่วงทำให้สดชื่นตาตื่นไม่แพ้กาแฟ

               “อร่อยจัง ดูเหมือนว่านายได้ของโปรดใหม่นอกจากโกโก้แล้วสิ”

               ใช่ มันค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียวที่แมคเคนซีไม่สั่งโกโก้ร้อนใส่น้ำตาลหนึ่งช้อนอะไรสักอย่างของเขา

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               แมคเคนซีพูดแบบนี้คงรู้สินะว่าเมื่อคืนจนถึงตอนเช้าอารมณ์ของเขาค่อนข้างขุ่นเหมือนมีเมฆหมอกมาปกคลุม

               “แค่นายพูดดี ๆ ทำดี ๆ กับฉันแบบนี้ก็แฮปปี้ไปทั้งวันแล้วล่ะแมคซี่”

               กล่าวจบดีนก็ยิ้มแฉ่งออกมา ความดีที่อีกฝ่ายกระทำนั้นทำให้เขาลืมความหมางใจไปได้ และหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ไปตลอด

               “จริงด้วย ที่ค่ายหากินมะม่วงยากมาก หรืออีกทีเราต้องเข้าไปในเมืองกันแล้วก็หาร้านอาหารไทยที่นิวยอร์ก”

               แต่แค่การออกไปหาของกินอร่อย ๆ คุ้มค่ากับที่ต้องออกไปเสี่ยงตายไหมเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมการเป็นเดมิก็อดถึงได้ยากเย็นแบบนี้กันนะ โชคชะตาช่างเล่นตลกจริง ๆ เขาอยากจะเป็นแค่คนธรรมดาแท้ ๆ

               เลิกคิดถึงเรื่องปวดสมองแล้วโฟกัสอยู่ที่ของกินตรงหน้าดีกว่า

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               ได้ยินแบบนี้ดีนก็นิ่งไปเล็กน้อย เขาตักบิงซูเข้าปากอีกคำก่อนจะตอบ

               “ก็มีบ้างนิดหน่อย บ้างครั้งคำพูดนายก็ทำให้ฉันนอนไม่หลับ” แล้วก็ตักมะม่วงเข้าปากต่ออีกคำ ทำเป็นไม่ใส่ใจ แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่อยากให้คนรักนำมาใส่ในใจจนปวดหัวมากกว่า “แต่มันผ่านไปแล้วก็ช่างมัน เอาแค่เรื่องที่ต่อจากนี้ดีกว่า”

               ไหน ๆ ถูกเปลี่ยนเรื่องแล้วดีนก็คล้อยตาม

               “งั้นถ้าได้ไปตลาดก็ลองหาซื้อมะม่วงกันสักลูกแล้วกันเนอะ”

               ทั้งกาแฟและของหวานเติมเต็มพลังงานที่ขาดหายไปได้ดี นอกจากนั้นก็เติมเต็มเมโมรี่ของกล้องถ่ายรูปด้วยวิวสวย ๆ ของคาเฟ่เพิ่มอีกนิดหน่อย ดีจริง ๆ ที่ซื้อเมโมรี่การ์ดความจุระดับสูงสุดมาทำให้พื้นที่เก็บภาพความทรงจำมีอย่างเหลือเฟือเลยจริง ๆ

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               หลังจากที่เติมพลังเสร็จเรียบร้อยพวกเขาก็ออกเดินทางต่อไปวัดพระธาตุดอยสุเทพที่ต้องขับรถต่อไปอีกเกือบ ๆ ชั่วโมง ดูเหมือนว่าเมืองที่พวกเขาแวะพักจะชื่อว่า ‘แม่ริม’ ส่วนจุดที่จะไปคือเมือง ‘สุเทพ’ ส่วนตัวเมืองเชียงใหม่ก็อยู่ห่างออกไปอีก ระหว่างทางดีนที่ไม่มีอะไรทำก็เปิดเพลงจากลิสต์ที่ชอบพลางร้องเพลงคลอไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

               “When I first saw you… From across the room… I could tell that you were curious, oh, yeah”

               จนสปอติฟายเล่นเพลงไปได้สิบกว่าเพลงถึงได้เห็นป้ายบอกทางขึ้นดอยสุเทพ

               “ขึ้นเขากันอีกแล้ว นายขับระวัง ๆ นะแมคซี่”

               ดีนบอกคนขับรถ ส่วนตัวเองหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายทางขึ้นเขาอันคดเคี้ยว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่คดเท่ากับตอนไปแม่ฮ่องสอน

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “เห จริงอ่ะ ปกติร้องตอนเมาเลยไม่มีใครชม”

               จะว่าไปเขาก็เคยแสดงฝีมือการร้องเพลงประชันกับคุณดีที่ค่ายฮาล์ฟบลัดไปนี่นะ แต่ตอนนั้นโดนมอมสุราเทพไปสองแก้ว บอกไม่ได้เลยว่าที่โชว์ไปมันดีหรือว่าแย่

               จวบจนมาถึงที่หมายและทั้งสองได้มาหยุดอยู่ที่บันไดทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพที่มีรูปปั้นมังกรเอเซียตั้งอยู่ แววตาของบุตรโพไซดอนดูจะเปล่งประกายตื่นเต้นมากกว่าอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ

               “ว้าว บันไดนี่สูงชะมัด งั้นเราวิ่งขึ้นกันไปเล—..”

               แต่เขาดันพูดตรงกับที่แมคเคนซีเอ่ยชวนให้ขึ้นกระเช้า ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่จอยกับการออกแรง ดีนก็ลืมไปเลยว่าคนรักต้องเป็นคนขับรถตลอดทั้งทริป แล้วการขับรถนาน ๆ มันก็เหนื่อย เขาจึงต้องคูลดาวน์ความตื่นเต้นลง

               “ขึ้นกระเช้าก็ได้ ไปทางนั้นใช่ไหม?”

               ชี้ไปตามป้ายมองไปสุดทางจึงเห็นมีซุ้มขายตั๋วขึ้นกระเช้าตั้งอยู่

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               น่าเสียดายที่ไม่ได้พิชิตบันไดกว่าสามร้อยขั้น แต่ไม่เป็นไรเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของคนขับรถก็ยอมได้

               เมื่อมาถึงด้านบนพวกเขาต้องถอดรองเท้าเพื่อเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้จะยังไม่ถึงเที่ยงวันแต่พื้นหินที่ถูกพระอาทิตย์สาดแสงใส่มาหลายชั่วโมงก็ทำเอาดีนต้องกระโดดโหยงเหยงกว่าที่เท้าจะชินกับความร้อนก็พักนึงเลยทีเดียว อาจด้วยความสวยงามของพระธาตุที่ดึงดูดความสนใจไปจากฝ่าเท้าจนหมด

               “สวยจริงด้วย นั่นทำมาจากทองจริง ๆ หรือเปล่านะ?”

               ดีนไม่รู้วิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธมากนักเขาจึงแค่พนมมือไหว้ยอดเจดีย์สีทองอร่ามตรงหน้าด้วยความไม่นับถือศาสนาเขาจึงแสดงความเคารพได้หมด (พอมารู้ว่าเป็นบุตรเทพเจ้ากรีกถึงมีศาสนาก็คงยึดหลักความเชื่อเดิมไม่ถูก) จากนั้นเขาก็เริ่มถ่ายรูปแทบทุกซอกทุกมุมของพระธาตุจนมาถึงกำแพงรอบนอกที่รายล้อมไปด้วยระฆังกว่าร้อยใบ

               “แมคซี่ มาตีระฆังกัน ตอนหาข้อมูลฉันเจอว่าถ้าตีระฆังครบทุกใบจะโชคดีล่ะ”

               เอ่ยบอกคนรักอย่างกระตือรือร้น แม้ความเข้าใจจะผิดจากวัตถุประสงค์แรกเริ่มไปอยู่บ้างแต่โดยรวมแล้วก็เพื่อสิริมงคลเช่นเดียวกัน

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ถ้าตีก็ต้องเสียงดังอยู่แล้ว เห็นไหม คนไทยก็ตีกัน”

               เมื่ออีกฝ่ายตอบรับก็ถึงคราวเล่นสนุก ระฆังกว่าร้อยใบที่อยู่รายล้อมอุโบสถจะต้องส่งเสียงดังถึงสวรรค์ของชาวพุทธแน่ ๆ

               ก๊อง แก๊ง ก๊อง แก๊ง

               หลังจากขอพรกับระฆังนำโชคจนครบหนึ่งร้อยแปดใบก็จบการท่องเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพในครึ่งเช้าของวัน กระนั้นวัดไทยก็มีอะไรน่าสนใจให้ถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ขาดสาย อย่างเช่นรูปปั้นหมา (?) ผู้พิทักษ์ประตูทางเข้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

               แชะ

               ดีนถ่ายภาพรูปปั้นหินที่เขียนลวดลายสวยงามเป็นที่ระลึก ทว่าเมื่อเขามองดูหน้าจอของกล้องดิจิตัลกลับเห็นว่าภาพนั้นพร่ามัวเหมือนมีอะไรวิ่งผ่าน ไม่สิ.. เหมือนรูปปั้นสิงโตมันกระโดดหนีไปมากกว่า

               “หืม?”

               「เจ้าอสุรกายชั้นต่ำบังอาจเหยียบย่ำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์!」

               เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้องในหู ทว่าดีนกลับได้ยินเสียงนั้นเป็นคำพูดชัดเจน เมื่อละลายตาออกจากกล้องเขาเห็นว่ารูปปั้นหมาผู้พิทักษ์เคลื่อนไหวได้

               “น้องหมาขยับได้.. ได้ไง?”

               「บังอาจนักกล้าเรียกข้าว่าน้องหมา! ข้าคือไกรสรราชสีห์ผู้องอาจ ปกปักษ์รักษาพระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ จงตายเสียเจ้าก็อบลินชั้นต่ำ!」

               “เดี๋ยวนะ ก็อบลิน? หมายถึงฉัน!?”

               ดีนชี้หน้าตนเอง ในหัวของเขามีแต่ความงงงวย สิงโตหินตรงหน้าเอาอะไรมาพูดว่าเขาเหมือนก็อบลิน ตัวก็ไม่เตี้ย หน้าตาก็หล่อ ผิวก็ไม่ได้เขียว จนมานึกได้ว่าเป้บนหลังเก็บหมวกก็อบลินไว้เป็นสิบใบไม่ได้ระบายออก บางทีหมวกก็อบลินคงจะส่งกลิ่นฉึ่งออกมาจนทำให้ผู้พิทักษ์วัดเข้าใจผิด

               ทว่าไกรสรราชสีห์ไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มชาวต่างชาติได้ยืนอึ้งนาน มันกระโดดเข้าตะปบด้วยกรงเล็บของสัตว์ร้ายจนดีนแทบจะหลบไม่ทัน

               “เหวอ ใจเย็น คุยกันดี ๆ ก่อน!”

               เขาพยายามจะเจรจากับผู้พิทักษ์วัดไทยทว่าไกรสรราชสีห์ไม่ยอมรับฟัง มันไล่งับเขาสถานเดียว สงสัยคงไม่พ้นต้องปะทะ ดีนจึงวิ่งล่อมันออกไปจากปุถุชนผู้มาสักการะพระธาตุไปยังที่ลับตาคน

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               ซวยขนานแท้!

               เพราะใจคิดว่ามาเที่ยวเลยลืมเอาอาวุธติดตัวด้วยมาเสียสนิท แถมเจ้าไกรสรอะไรสักอย่างนี่ก็ดูเก่งสมฐานะผู้พิทักษ์เสียด้วย ทว่าอาวุธของบุตรแห่งโพไซดอนคือสายน้ำ หากมีน้ำก็ไม่ต้องกลัว

               เมื่อวิ่งล่อมาถึงที่ลับตาคน ชายหนุ่มก็ดึงขวดน้ำดื่มที่ติดกระเป๋าออกมา ก่อนจะใช้มุกเดียวกับที่บุตรแห่งแอมฟิไทรต์เคยใช้ให้ได้ชม

               ‘ตรีศูลน้อย’

               สายน้ำจากขวดพลาสติกก่อรูปร่างเป็นตรีศูล น่าเหลือเชื่อที่เขาสามารถจับสายน้ำนั้นได้ราวกับว่ามันเป็นของแข็ง

               「นี่เจ้ากินบุตรแห่งพระวรุณเข้าไปรึ!」ไกรสรราชสีห์เบรกเอี๊ยด ภายใต้ลูกตาที่ถูกวาดเขียนฉายแววตกใจ ก่อนที่หัวคิ้วม้วน ๆ จะขมวดเข้าหากัน「ร้ายกาจ!」

               “ใช่ซะที่ไหนกันเล่า! ต้องบอกกี่ครั้งว่าฉันไม่ใช่ก็อบลิน แต่เป็นเดมิก็อดต่างหาก!”

               ดีนพยายามอธิบายแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักพระวรุณอะไรนั่นที่สิงโตหินกล่าวถึงก็ตามที หวังว่าไกรสรราชสีห์จะยอมให้เขาพิสูจน์ตัวตนนะ

               「อย่ามาโกหก ตายซะเจ้าอสุรกายชั้นต่ำ!」

               ในเมื่อเจ้าถิ่นไม่ยอมฟังมีแต่ต้องปะทะกันเท่านั้น ดีนเพ่งจิตควบคุมสายน้ำจากตรีศูลพุ่งใส่ราชสีห์ราวกับห่ากระสุน สิงห์หนุ่มที่กระโจนเข้าใส่ถูกกระสุนน้ำยิงเข้าเต็ม ๆ จนทรุดลง

               “โห พลังนี่แรงแฮะ”

               แม้แต่ดีนยังอึ้งจนทำตาโตกับพลังใหม่ที่รุนแรงมากกว่าเก่า ทว่าจำเป็นต้องรีบปิดฉากเพราะว่าพลังนี่มันช่างกินแรงเสียเหลือเกิน แต่จะให้ดีกว่าคือยุติการต่อสู้นี้โดยไม่มีฝั่งไหนสูญเสียเลือดเนื้อจากความเข้าใจผิด แต่ราชสีห์สีขาวขนม้วนดุจปุยเมฆไม่ยอมลดละด้วยทิฐิอันแรงกล้า มันเข้าจู่โจมดีนอีกครั้งอย่างไม่กลัวตาย

               “โอ๊ยย ให้ตายสิ หยุดสู้สักทีเถอะ!”

               แม้ว่าดีนร้องขออย่างไรแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รับฟัง ดีนพยายามใช้สายน้ำป้องกันตัวเองจากกรงเล็บของสัตว์ร้ายจนสายน้ำเริ่มจะงวดลงไปทุกทีตามพลังที่มีจำกัด หากว่าเขาไม่เอาจริงงานนี้มีหวังได้เป็นอาหารสิงโตแน่ ๆ

               “ขอโทษด้วยแล้วกัน!”

               กล่าวเพียงเท่านั้นชายหนุ่มรวบรวมน้ำทั้งหมดที่มีรวมมาอยู่ในจุดเดียวกันก่อนจะปล่อยสายน้ำแรงดันสูงออกมาจนกระทั้งน้ำทั้งหมดระเหยหายไป หายไปพร้อมกับไกรสรราชสีห์ตัวนั้นที่สายกลายเป็นละอองสีทอง เหลือเพียงเสียงคำรามสุดท้ายค่อย ๆ หายไปกับสายลม

               「อั่ก! เจ้านี่เป็นเดมิก็อดจริง ๆ ด้วยยย….」

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ไม่ ฉันไม่เป็นไร ส่วนตัวเมื่อกี้ เอ่อ.. ‘ใครสอนราดซะหมี’ มั้ง เห็นเจ้าตัวว่างั้น”

               ดีนแค่นยิ้ม มือค้ำเข่าย่อตัวหอบหายใจ พลังที่ใช้ไปเมื่อครู่นี้กินพลังงานไปเยอะมากจนตอนนี้รู้สึกแทบจะไร้เรี่ยวแรง พอมีแมคเคนซีอยู่ข้าง ๆ แบบนี้แล้วเขาพอจะปล่อยตัวเองเอนพิงซบอีกคนนึงได้

               “พอคุยกันไม่รู้เรื่องก็เลยต้องจัดการ มันคิดว่าฉันเป็นก็อบลินนะ คงตามกลิ่นสินสงครามในกระเป๋ามา” เหมือนจะมีปัญหากับเจ้าที่แถวนี้แล้วสิ หวังว่าตัวอื่นจะไม่เป็นไรนะ “ฉันว่าเรารีบออกจากที่นี่ดีไหม ไม่รู้จะมีสิงโต หมา หรือมังกรมาเข้าใจผิดอะไรฉันอีกหรือเปล่า”

               ตอนนี้ระแวงรูปปั้นเหล่าสรรพสัตว์ตามประตูและบันไดวัดไปหมด

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ใช้น้ำจากขวดน้ำที่พกมาน่ะ ปกติมันก็ใช้ได้แบบที่นายเคยเห็น แต่คราวนี้ฉันใช้มันสร้างเป็นตรีศูลน้ำขึ้นมาก็เลยควบคุมน้ำได้มากขึ้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะสูบพลังงานฉันเป็นสองเท่า”

               ดีนแค่นหัวเราะหลังอธิบายจบ แม้สกิลนี้จะดีแต่ดูเหมือนว่าถ้าใช้บ่อย ๆ จะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไรแฮะ

               น่าเสียดายสุดท้ายก็ไม่ได้ท้าทายบันไดสามร้อยขั้น น่าเจ็บใจจริง ๆ จะบอกว่าโอกาสหน้าค่อยมาใหม่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสนั้นอีกไหม ก็ไทยแลนด์อยู่แค่ปากซอยเสียเมื่อไรล่ะ

               “หิวมาก เหมือนตอนขามาฉันเห็นมีตลาดอยู่เยื้องทางขึ้นดอยไปหน่อยป่ะ เราลองไปหาอาหารถิ่นกันตรงนั้นดีไหม”

               เหมือนจะใกล้แต่ก็ไกล ขับรถไปตลาดดอยสุเทพน่าจะดีที่สุด

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ถ้าแค่ควบคุมน้ำเฉย ๆ สร้างเป็นอะไรก็ได้แหล่ะ แต่ตรีศูลน้ำจะเสถียรกว่าแล้วก็แรงกว่า แต่อย่างที่บอก เหนื่อยมากกว่าเป็นสองเท่า”

               เขาเองก็คิดเช่นเดียวกันกับแมคเคนซี การพกอาวุธสัมฤทธิ์ไปไหนมาไหนมันออกจะเทอะทะแถมยังประหลาดตกเป็นเป้าสายตาของคนทั่วไปอีก จะให้ดีเขาคงต้องตีซี้กับบุตรเฮเฟตัสสักคนแล้วขอให้ผลิตอาวุธย่อขยายส่วนใหญ่ จะให้พึ่งพาแต่น้ำอย่างเดียวก็ไม่ใช่เรื่องอีก

               ดีนมองวิวด้านข้างกระจก ภาพบ้านเรือนชาวบ้านจากไทยแลนด์ก็ยังไม่คุ้นชินอยู่ดี แต่ถ้าให้ถ่ายรูปเพิ่มมีหวังได้มีแต่ภาพบ้านคนแน่ ๆ จึงต้องถนอมเมโมรีเอาไว้ก่อน จนแมคเคนซีหาที่จอดรถได้พวกเขาจึงลงมาหาอะไรกินกัน

               “ได้สิ”

               ชายหนุ่มรับคำหลังจากที่มองไปยังร้านที่แมคเคนซีบอก ป้ายร้านมีแต่ภาษาไทยสงสัยต้องพึ่งพาแอปแปลภาษาอีกหน เขายกสมาร์ทโฟนขึ้นมาสแกนป้ายหน้าร้านดูหน่อยเถอะว่าร้านนี้ขายอะไร

               “ข้าวซอย.. ใช่ไอ้นั่นไหม ซุปที่ติดอันดับว่าอร่อยที่สุดในโลก ฉันอยากกิน!”

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ใช่ ๆ อันนั้นแหล่ะ”

               ถึงจะพูดว่าอันนั้นแต่จะคืออันนั้นตรงกับที่แมคเคนซีเข้าใจหรือเปล่าไม่รู้ เพราะอาหารไทยมีซุปข้นที่สีเหลือง ๆ ส้ม ๆ เต็มไปหมด แต่พอเห็นของจริงจากโต๊ะอื่นแล้วก็คิดว่าใช่แหล่ะ หน้าตาคล้าย ๆ กับที่เขาหาข้อมูลมาเลย

               “นั่นสิ ชักเสียวว่าจะกินไหวไหม”

               แต่อย่างน้อยดีนก็กินเผ็ดได้ดีกว่าแมคเคนซี เขาก็หวังว่าแม่ครัวจะปราณีฝรั่งสองคน

               รออยู่ประมาณสิบนาทีถึงจะได้โต๊ะ ถ้าให้รอนานกว่านี้เกือบจะไปกินร้านอื่นแล้วเชียว ดีนสั่งข้าวซอยไก่ส่วนเครื่องดื่มคือน้ำเก๊กฮวย เขาไม่รู้จักหรอกว่ามันคืออะไรแต่เห็นโต๊ะอื่นสั่งกันเยอะเลยสั่งตาม

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ไม่คิดว่านายจะชอบน้ำหวาน” ดีนแอบยิ้ม อีกฝ่ายบอกว่าอร่อยแต่ว่าเขาชอบเลย ให้หวานกว่านี้ก็กินได้ “เหมือนว่าจะชื่อ ‘น้ำเกงฮ้วย’ นะ”

               หลังจากเครื่องดื่มมาแล้วข้าวซอยไก่สองชามก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ดีนมองอุปกรณ์การกินที่มาคู่กัน ช้อนสั้นกับตะเกียบ เป็นอาหารประเภทเส้นสินะ แล้วแบบนี้อีกฝ่ายจะกินสะดวกไหมเนี่ย เขาจึงเรียกพนักงานเสิร์ฟขอช้อนส้อมมาคู่นึงให้แมคเคนซี ส่วนตัวเองจะลองฝึกการใช้ตะเกียบดู

               ดีนลองซดน้ำซุปสีเหลืองข้น รสชาติออกไปทางหวานและกลมกล่อม ไม่เผ็ดมากเกินไปจนรับประทานไม่ได้ ส่วนพริกสีแดงคือเครื่องปรุงที่อยู่ในแก้วใส ถ้าให้อร่อยคงต้องใส่นิดนึง

               “กินเลม่อนกับราเมงเนี่ยนะ?”

               รู้สึกว่าแปลกแต่ถ้ามันคือหนึ่งในเครื่องเคียงก็คงต้องรับประทานแบบนั้น เมื่อปรุงจนได้ที่แล้วก็เริ่มรับประทาน น้ำพริกผัดที่ใส่ไปน้อยนิดทำเอาชาวต่างชาติปากแดงได้ภายในพริบตา

               “อร่อยสมกับติดอันดับ แต่ว่าเผ็ดชะมัดเลย”

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “คงทำมาจากสมุนไพรบางอย่าง…” ด้วยความสงสัยดีนจึงเซิร์จหาข้อมูล “หืม.. มันคือดอกเบญจมาศ คล้าย ๆ พวกชาดอกไม้สินะ”

               กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์มาจากดอกไม้นี้เอง ส่วนรสหวานคงน้ำตาลล้วนสินะ พอรู้ว่าทำมาจากอะไรก็อยากจะซื้อดอกเบญจมาศไปชงดื่มเลย แต่ว่าจะไปชงได้ที่ไหนละเนี่ย

               ได้ยินเสียงสำลักก็เงยหน้าขึ้นจากชาม ว่าแล้วเชียวว่าอีกฝ่ายกินไม่ไหว ขนาดไม่ได้ใส่พริกเพิ่มแบบเขานะ

               “ไหวไหมที่รัก หรือหาอย่างอื่นกินแทนดี?”

               ร้านนี้ไม่ได้ขายแต่ข้าวซอย แต่ยังเห็นในใบเมนูว่ามีอาหารจานเดียวอื่น ๆ อีก อย่างพาสต้าผัดที่แมคเคนซีกินตอนอยู่ที่ห้วยน้ำดังก็มี

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ไม่ใช่ว่ามันอร่อยที่น้ำซุปหรือไงกันล่ะ”

               ดีนพูดอุบอิบก่อนจะเสิร์จหาข้อมูลให้แฟนต่อ ถ้าแฟนอยากได้ต้องได้ซื้อ แล้วเขาก็พบว่าในตลาดตัวเมืองเชียงใหม่มีเก๊กฮวยอบแห้งขาย นอกจากนั้นในร้านสะดวกซื้อก็มีเครื่องดื่มชนิดนี้แบบสำเร็จรูปใส่ขวดขายอยู่แล้ว

               “นายดูสิ น้ำนี่มีขายในเซเว่นด้วย”

               ยื่นรูปในโทรศัพท์มือถือให้อีกฝ่ายดู

               ขณะเดียวกันเม็ดฝนเริ่มเทลงมาปรอย ๆ ขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหารกลางวันกัน
               
               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “งั้นก็ค่อย ๆ กินถ้านายยังอยากกินต่อ”

               แผนการท่องเที่ยวของพวกเขายืดหยุ่นอยู่แล้วแถมฝนยังตกอีกต่างหากกว่าฝนจะหยุดก็น่าจะอีกพักใหญ่ แม้เวลาการท่องเที่ยวต่อจังหวัดจะมีไม่มากแต่หากเที่ยวที่ไหนไม่ทันก็แค่แคนเซิลแล้วนอนตีพุงที่โรงแรม

               “งั้นเอาไว้ลองดูที่ตลาด ไม่แน่ใจเลยแฮะว่าแถวนี้มีขายหรือเปล่า”

               ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วดีนเรียกเด็กเสิร์ฟมาถามว่าแถวนี้หาซื้อได้ไหม แม้ใช้แอปพลิเคชั่นช่วยแปลภาษาแต่สนทนากันอยู่พักหนึ่งกว่าจะได้ความ เห็นว่าร้านที่อยู่ในซอยนี้มีร้านนึงที่ขายดอกเก็กฮวยอบแห้ง

               แม้ว่าข้าวซอยจะเผ็ดแต่ดีนก็ทานหมดเกลี้ยงซดน้ำแทบไม่เหลือ

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               จากที่อีกฝ่ายเป็นคนปากแดงอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่โดยไม่ต้องพึ่งพาลิปสติก จะว่าไปตอนนี้เขาคงมีสภาพไม่ต่างกันมากนักแต่ดีกว่าหน่อยตรงที่เขาคุ้นชินกับความเผ็ดอยู่บ้างจากอาหารบ้านเกิด

               จะว่าไปแมคเคนซีสภาพนี้มองแล้วเพลินชะมัด

               “อร่อยนี่ ไม่กินให้หมดได้ไง”

               กระนั้นให้ตามไปซดน้ำซุปจากจานอีกฝ่ายคงไม่ไหว ตอนนี้ในท้องเขาหนักน้ำเก๊กฮวยเต็มไปหมด

               “ต้องรอฝนหยุดเลยเหรอ ฉันเอาเสื้อกันฝนมานะ แต่ว่ามันอยู่ในเป้ต้องไปเอาที่รถ” เขายื่นมือออกไปข้างหน้า “เอากุญแจรถมาสิเดี๋ยวฉันไปเอามาให้”

               อย่างไรเสียตนก็มีสกิลป้องกันเปียกอยู่แล้ว แค่เดินตากฝนน่ะจิ๊บ ๆ

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “เปียกก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ นายลืมไปแล้วเหรอว่าฉันลูกใคร” ดีนกระดิกมือที่แบอยู่อีกครั้ง “เอากุญแจรถมาเร็ว อย่าให้ฉันต้องค้นตัวนายนะ”

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ก็แค่เนี้ยะ” ดีนอมยิ้มแล้วคว้ากุญแจรถเช่ามาไว้ในมือ “เช็คบิลรอเลยก็ได้นะ”

               กล่าวจบเขาก็ลุกออกจากโต๊ะแล้วรีบวิ่งไปที่รถเหมือนลืมคำเตือนเรื่องถนนลื่น แต่แค่นี้ไม่ล้มง่าย ๆ หรอกน่า เมื่อมาถึงรถเขาก็รีบเปิดประตูรถเข้าไปด้านในแล้วใช้สกิลภูมิคุ้มกันเปียกจนร่างกายแห้งหมดจด

               คิดถูกชะมัดว่าแมคเคนซีไม่ได้เอาชุดกันฝนมาเขาเลยเอามาเผื่อสองตัว ดีนศึกษามาแล้วว่าช่วงเวลานี้คือฤดูฝนยังไงก็เลี่ยงฝนไม่ได้แน่ ๆ แม้ว่าดีนจะไม่เปียก แต่เพื่อความเนียนเขาเลยจัดแจงสวมเสื้อกันฝนในรถก่อนจะหยิบเสื้อกันฝนตัวที่จะให้แมคเคนซีติดออกมา ล็อครถเสร็จก็วิ่งดุ๊ก ๆ กลับมายังร้านข้าวซอย ตอนนี้อีกฝ่ายน่าจะชำระเงินเสร็จพอดี

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ฉันมีทุกอย่างให้นายอยู่แล้ว” พูดแล้วก็ขยิบตาให้ “ไปสิ นายอยากซื้อดอกเก๊กฮวยไปต้มไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ก็ไม่รู้จะหาซื้อได้ที่ไหนแล้วนะ สัญญาเลยว่าฉันจะไม่เถลไถลดูร้านอื่น”

               ยกมือขึ้นสาบาน จากนั้นก็จับมือแมคเคนซีจูงเดินตลาดกลางฝนพรำ เอาจริงนะ ที่นี่มีแต่ของที่น่าสนใจเต็มไปหมดที่จะหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยว ถ้าไม่สาบานไปเมื่อกี้เขาคงแวะดูมันซะทุกร้าน จนมาถึงร้านที่ขายดอกไม้อบแห้ง มีทั่งเก๊กฮวย และอื่น ๆ อีกมากมายที่เขาไม่รู้ พอลองเอาแอปแปลภาษาส่องก็ขึ้นตัวอักษรว่า ‘มะตูม’ ‘กระเจี๊ยบ’ ‘อัญชัน’ คืออะไรบ้างไม่รู้เหมือนกัน

               “นายจะเอาอย่างอื่นนอกจากเก๊กฮวยไหม?”

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ไม่มีอ่ะ ฉันรอแย่งนายกิน” ดีนตอบยิ้ม ๆ

               หลังจากช็อปปิ้งซื้ออุปกรณ์ต้มน้ำสมุนไพรกันเสร็จก็ได้เวลาท่องเที่ยวกันต่อ ณ ตอนนี้ฝนซาลงไปมากแล้วทว่าถนนยังเปียกอยู่ กว่าจะขับรถกันลงมาถึงล่างเขาก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมงจากเดิมที่ใช้เวลาเพียงแค่สามสิบนาที และพอมาถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ฝนก็หยุดตก เหลือเพียงไว้แค่แอ่งน้ำเฉอะแฉะเจิ่งนองทั่วพื้น และอากาศที่เย็นสบายไม่ร้อนเหงื่อออกหลัง

               น่าเสียดายที่ตอนนี้สวนสัตว์เชียงใหม่ไม่มีหมีแพนด้าแล้วจึงทำให้ขาดดาราเด่นไป ทว่าสัตว์จากไทยก็แตกต่างจากสวนสัตว์ซานอันโตนีโอ

               “เสียดายจังนายอดเจอเพื่อนเลยแมคซี่” แซวอีกฝ่ายว่าเหมือนหมีที่ขอบตาดำไปหนึ่งดอก

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “มองหมีตัวอื่น? นี่นายหึงแม้กระทั่งกับสัตว์เลยเหรอ”

               หลุดขำ เขาใช้ศอกกระแซะแซวคนข้าง ๆ

               “เอาโซนที่ใกล้ที่สุด ลุยกันเลย!”

               พอได้เที่ยวสวนสัตว์ดีนก็คึกคักเหมือนกับเด็ก พวกเขาไปที่โซนสัตว์แอฟริกา ตื่นเต้นกับฮิปโปโปเตมัส ยีราฟ ม้าลาย แรดตัวใหญ่ ส่วนต่อไปคืออดีตส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า แต่หลังจากที่แพนด้าตัวลูกกลับจีนไปแล้ว ตัวพ่อและแม่ทยอยตายจนไม่เหลือหมีแพนด้าในประเทศไทยอีก ส่วนจัดแสดงนี้จึงเปลี่ยนเป็นสถานที่ให้ความรู้และเป็นจุดแสดงหมีโคอาล่าแทน

               “แมคซี่ นายกลายพันธุ์แล้วเหรอ ตัวนิดเดียวแถมยังหลับตลอดเวลาอีก”

               แกล้งหยอดแซวอีกฝ่ายไปอีกครั้งแล้วหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายโคอาล่าที่เกาะต้นไม้หลับหน้าหน้าตะมุตะมิจะอยากได้มาเลี้ยงสักตัว

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ก็ถูกของนาย ไม่ว่าจะเป็นแมคซี่พันธุ์ไหนก็น่ารักไปหมดจริง ๆ นั่นแหล่ะ”

               ดีที่สวนสัตว์เชียงใหม่มีรถกอล์ฟคอยให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวฟรี ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาได้เดินกันขาลากในสวนสัตว์อันกว้างขวางแห่งนี้แน่ ๆ สัตว์ในไทยมีความแตกต่างจากบ้านเกิดพอสมควรดีนจึงเพลิดเพลินกับสัตว์นานาชนิดที่ไม่รู้จัก รู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเข้าสายัณห์แล้วเขาก็ได้รูปถ่ายเหล่าสัตว์โลกน่ารักมาอีกเพียบ

               จบจากสวนสัตว์เชียงใหม่ก็ไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีซึ่งเป็นสวนสัตว์ของเอกชนกันต่อ ด้วยความเป็นเอกชนนี้ทำให้บรรยากาศและการตกแต่งภายในแตกต่างจากสวนสัตว์ประจำจังหวัดโดยสิ้นเชิง (แน่นอน รวมถึงราคาค่าเข้าชมด้วย) ที่หน้าทางเข้าเจ้าหน้าที่ได้นำลีเมอร์ตัวเป็น ๆ มาโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ดีนจึงไม่พลาดโอกาสที่จะเข้าไปสัมผัสขนนุ่มฟูของคิงจูเลียนจากมาดากัสก้า

               ยังพอมีเวลาก่อนที่การนั่งรถชมสัตว์กลางคืนรอบแรกจะเริ่มต้นขึ้นพวกเขาจึงไปรับประทานอาหารเย็นกัน ที่นี่ขายอาหารตะวันตกด้วยทำให้พอจะหายคิดถึงบ้านเกิดได้บ้าง แต่อาหารตะวันตกสไตล์ไทยก็ให้รสชาติที่แตกต่างจนไม่เหมือนกับรับประทานอาหารบ้านเกิดเสียทีเดียว

               ระหว่างรอเวลาการแสดงน้ำพุกลางคืนได้เริ่มขึ้นอย่างสวยงาม น่าเสียดายเหลือเกินที่ดีนไม่อาจจับภาพนิ่งในช่วงแรกไว้ได้เพราะจังหวะไม่ดีพอ เขาจึงเลือกที่จะบันทึกเป็นวีดีโอไว้แทน นอกจากนี้ยังมีโชว์สุดแสนอลังการระหว่างรับประทานอาหารจึงกลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้คือมื้อพิเศษสุดแสนประทับใจ

               เที่ยวมาทั้งวันเกือบลืมที่ซุกหัวนอน ดีนใช้เวลาระหว่างรอนั่งรถส่องสัตว์หาโรงแรมดี ๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่แล้วโทรจอง ทดแทนกับที่เมื่อคืนเขาพาแมคเคนซีไปตกระกำลำบากนอนเต็นท์ น้ำไม่ได้อาบ แถมยังต้องตบตีกับก็อบลิน

               เอาล่ะ จองโรงแรมเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลานั่งรถส่องสัตว์กลางคืนแล้ว!

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ว้าว”

               ในขณะที่ดีนกำลังตื่นเต้นอยู่กับการได้ใกล้ชิดกับสัตว์โลก ทั้งยีราฟและม้าลายที่เชื่อง การส่องไฮยีน่าและสิงโตจากกรงไกล ๆ หันไปมองคนรักอีกทีก็เห็นคนนั่งสัปหงก

               โธ่ธัง.. แมคเคนซีคงง่วงมากจากการขับรถมาทั้งวันแถมวันนี้พวกเขายังตื่นเข้าเป็นพิเศษเพื่อดูทะเลหมอกกันอีก ดีนจึงปล่อยให้อีกฝ่ายงีบไปก่อนส่วนตัวเองที่ยังมีพลังงานก็ตื่นเต้นกับสัตว์ต่อไป จนเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงรถส่องสัตว์ถึงได้หมดรอบการแสดงและวนกลับมาจอดเทียบท่าลง ณ จุดสตาร์ท ชายหนุ่มถึงได้สะกิดปลุกคนรักให้ตื่น

               “แมคซี่ นายเห็นสัตว์ในฝันกี่ตัว” แซวอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดูก่อนจะโอบบ่าอีกคนลงจากรถแล้วพาไปยังรถยนต์ของพวกเขาที่จอดอยู่ด้านหน้าทางเข้า “นายขับรถไหวไหม หรือจะให้ฉันขับ แต่ว่า…”

               เป็นไปได้เขาก็ไม่อยากทำผิดกฎหมายที่ต่างแดนเท่าไร

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               แม้จะมาถึงโรงแรมแล้วแต่สิ่งที่ทำเป็นอันดับแรกไม่ใช่การโยนตัวเองลงอ่างอาบน้ำแล้วเตรียมตัวนอน ถึงวันนี้จะเป็นภารกิจวันที่สองทว่าดีนและแมคเคนซีได้มาถึงประเทศไทยได้เกือบอาทิตย์แล้ว เสื้อผ้าดีเริ่มจะหมดหากไม่ซักภายในวันหรือสองวันนี้มีหวังต้องใส่ผ้าเน่าต่อไปอีกวันสองวัน

               ดีนปล่อยให้แมคเคนซีพักผ่อนที่ห้องไปก่อนส่วนตัวเองหอบเสื้อผ้าใส่แล้วของทั้งคู่ลงไปใช้บริการซักรีดที่ด้านล่าง พนักงานบอกว่าให้มารับชุดได้ตอนเช้าก่อนเช็คเอาท์ออก

               หลังจากจัดการธุระเรียบร้อยแล้วดีนก็กลับมาที่ห้องแล้วได้เวลาพักผ่อนเสียที

               “อาบน้ำกันแมคซี่ นายเหนื่อยมาทั้งวันเดี๋ยววันนี้ฉันถูหลังให้นายเองที่รัก”


ตื่นรู้ +2 จากการพิชิต [ไกรสรราชสีห์] ครั้งแรก

@God


แสดงความคิดเห็น

204Thailand P.4 - เชียงราย เข้าสู่วันที่สามของการทำภารกิจ ด้วยความนุ่มของเตียงนอนในโรงแรมที่มีส  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-8-7 23:09
โพสต์ 89065 ไบต์และได้รับ 48 EXP!  โพสต์ 2024-8-5 10:49
โพสต์ 89,065 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-8-5 10:49
โพสต์ 89,065 ไบต์และได้รับ +1 Point จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2024-8-5 10:49
โพสต์ 89,065 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-8-5 10:49

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x3
x11
x2
x7
x2
x4
x8
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2024-8-7 23:09:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-11-2 12:44
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-8-5 10:49
203Thailand P.3 - เชียงใหม่
               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mack ...

204
Thailand P.4 - เชียงราย

               เข้าสู่วันที่สามของการทำภารกิจ

               ด้วยความนุ่มของเตียงนอนในโรงแรมที่มีสิ่งอำนวยพร้อมสรรพทำเอาไม่อยากจะลุกออกจากเตียงแล้วนอนกลิ้งอยู่ตรงนี้สักครึ่งวัน ทว่าพวกเขาทำแบบนั้นไม่ได้เพราะเส้นทางการขับขี่ไปเชียงรายค่อนข้างไกล และพวกเขาไม่อยากให้เหนื่อยแบบเมื่อวานมากเกินไปจึงจำต้องตัดสถานที่น่าสนใจอย่างสามเหลี่ยมทองคำที่เป็นจุดบรรจบของสามประเทศ ไทย พม่า และลาว แม้จะเสียดายแต่ไม่เป็นไรเพราะเขาเชื่อว่า ณ จังหวัดเหนือสุดแดนสยามจะต้องมีสิ่งที่น่าสนใจรออยู่อย่างแน่นอน

               ช่วงเช้ารับประทานอาหารที่โรงแรมรวมถึงรับเสื้อผ้าที่ซักรีดมาด้วยจากนั้นจึงเช็คเอาท์และออกเดินทางจากเชียงใหม่สู่เชียงราย ใช้เวลาถึงสามชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมายแรก ‘วัดร่องขุ่น’



               อารามสีขาวสะอาดที่ตามประวัติบอกว่าสร้างโดยศิลปินชื่อดังของประเทศไทย มิน่าล่ะเขาถึงรู้สึกถึงความแตกต่างบางอย่างได้จากวัดแห่งนี้ องค์ประกอบทางศิลปะหลายอย่างลงตัวเกินจะบอกได้ว่าที่นี่คือศาสนสถาน สำหรับดีเขาคิดว่าเหมือนงานศิลปะเสียกมากกว่า

               “ที่นี่สวยจัง ถ้าถ่ายแค่บางมุมอย่างกับฉากถ่ายหนังแฟนตาซีเลย”

               ดีนเอ่ยบอกกับแมคเคนซีพลางชี้นิ้วให้คนรักไปยืนตรงจุดที่เขาโฟกัสเอาไว้แล้ว นายแบบก็หล่อ สถานที่ก็ดีนี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ เสียอย่างเดียวท้องฟ้าดูจะครึ้มไปหน่อย มีแววว่าวันนี้ฝนจะตกอีกแน่ ๆ

               @Mackenzie

               “รูปปั้นพวกนั้น สื่อถึงนรกสวรรค์หรือไงนะ?”

               ดีนมองรูปปั้นสีขาวพลางตั้งคำถาม เขาไม่เข้าใจความคิดเรื่องนรกสวรรค์ของไทย เอาจริงขนาดของคริสตศาสนาก็ไม่ได้เข้าใจขนาดนั้น เขาเพิ่งมาคิดถึงเรื่องความเชื่อหลังความตายไม่นานมานี้เอง คงเป็นช่วงที่รู้ตัวว่าเทพเจ้ามีจริง ไม่ใช่พระเจ้าตามศาสนาแต่ดันเป็นเทพเจ้ากรีก โอลิมปัสอยู่เหนือยอดตึกเอ็มไพร์สเตทฟังดูเป็นเรื่องที่จินตนาการยากเสียยิ่งกว่าสวรรค์ของศาสนาอื่น ๆ เสียอีก

               ขณะที่เดินถ่ายภาพอยู่รอบนอกศาสนสถานก็เกิดความระแวง เขาจะเจอกับผู้พิทักษ์ที่เข้าใจผิดว่าตนเป็นก็อบลินอีกหรือเปล่าจึงเอาแต่จด ๆ จ้อง ๆ รูปปั้นสัตว์วิเศษ ทว่ามันขยับนิ่งไม่ไหวติง

               เมื่อเข้าไปด้านในอุโบสถพวกเขาก็ได้พบกับพระประธานองค์ใหญ่สีทองอร่ามและพระพุทธรูปสีขาวบนบัลลังก์สีทอดดูอลังการงานสร้าง แถมรอบ ๆ ยังรายรอบไปด้วยภาพวาดตามศิลปะสไตล์ไทยบนผนังสีทองที่น่าจะสื่อถึงสวรรค์ล่ะมั้ง ไม่แน่อาจเป็นฝีมือของจิตรกรผู้สร้างวัดก็เป็นได้ หน้าองค์พระมีพระชรารูปหนึ่งนั่งอยู่คอยพรมน้ำมนต์แก่ชาวไทยผู้แวะมาสักการะ

               “ทำพิธีแบบไทยกันหน่อยไหมแมคซี่” ลองกล่าวชวน

               @Mackenzie

               “ทั้งสองอย่าง ถึงไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกันแต่ฉันว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่านายติดเรื่องนั้นไหม.. ที่ว่าห้ามเคารพสิ่งอื่นนอกเหนือจากพระเจ้าน่ะ” อีกฝ่ายเคยบอกว่าไม่เคร่งศาสนา แต่คำว่าไม่เคร่งกับไม่ได้นับถือก็ต่างกัน แล้วถ้าเข้าร่วมพิธีของศาสนาอื่นก็ถือว่าผิดพระบัญญัติอีกต่างหาก

               @Mackenzie

               “โอ้ ถ้างั้นไม่เข้าร่วมดีกว่า เดี๋ยวพระเจ้าจะลงโทษนาย” ดีนกระซิบบอกแกล้งทำน้ำเสียงให้ดูสยองขวัญ

               สงสัยคงได้แต่มองดูชาวพุทธประกอบพิธีรับศีลรับพร ตอนแรกดีนคิดว่าพระเจ้าไม่มีจริงเป็นเพียงแค่นิทานที่คนโบราณแต่งขึ้นเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ทว่าตั้งแต่ที่ไปเจอกับลูซิเฟอร์มีตัวตนอยู่จริง ๆ ก็ทำให้แน่ใจว่าพระเจ้าก็มีจริงเฉกเช่นเดียวกับเทพเจ้ากรีกและนอร์ส แล้วถ้าฟังจากเจ้ารูปปั้นราชสีห์เมื่อวานบอกก็แปลว่าน่าจะมีเทพเจ้าของฝั่งเอเซียด้วย จนนึกสงสัยว่าพวกเทพเจ้ามีเขตการปกครองกันยังไงนะ เหมือนประธานาธิบดีของแต่ละประเทศหรือเปล่า แล้วที่แคลงใจอีกอย่าง

               ‘ไอ้ตัวเมื่อวานมันพูดอังกฤษได้ไงหว่า’

               แต่คำถามของเขาไม่รู้จะไปเอาคำตอบจากที่ไหนนอกจากจะไปถามจากเทพเจ้าหรือพระเจ้าตัวเป็น ๆ

               หลังจากเที่ยวชมวัดร่องขุ่นกันจนอิ่มเอมแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปยังสถานที่ถัดไปซึ่งใช้เวลาขับรถขึ้นเขาอีกตั้งชั่วโมงนึง ซึ่งพวกเขาหาอะไรแถวนี้กันดีกว่า

               “เที่ยงนี้กินอะไรกันดีล่ะ ฉันเสิร์จเจอร้านข้าวซอยอีกแล้ว” ดีนหัวเราะ ให้เขากินก็กินได้อีก แต่แมคเคนซีจะไหวไหม “หรือนายสนใจร้านอาหารแบบอื่นหรือเปล่า?”

               @Mackenzie

               “ฉันอยากกินให้ได้หลากหลายน่ะ แบบที่คนไทยกินเป็นปกติประจำวันได้ก็ดี”

               ฟังดูแล้วแมคเคนซีไม่ค่อยอยากกินข้าวซอยซ้ำเท่าไร อาจด้วยรสชาติเผ็ดของมัน แต่อาหารไทยมีอะไรที่ไม่เผ็ดบ้างล่ะ

               “แต่ตอนขามาเราเจอร้านอาหารตั้งหลายร้านใช่ไหม ลองไปดูหน้าวัดอาจจะเจออะไรเด็ด ๆ ก็ได้”

               ดีนบอก จากนั้นพวกเขาก็ไปเอารถแล้วลองขับวนรอบวัดกันดู และเป็นอย่างที่คาดมีร้านอาหารไทยแบบบ้าน ๆ ให้บริการอยู่หลายร้านเลยทีเดียว

               “แมคซี่ เอาร้านนั้นไหม เหมือนจะมีทั้งอาหารและกาแฟ”

               ดีนชี้ให้อีกฝ่ายดูร้านหนึ่งที่มีโลโก้รูปจานอาหารและแก้วกาแฟชัดเจน แต่ถ้าจะเอาร้านนี้คงต้องจอดรถกันหน้าร้าน สำหรับชาวต่างชาติแล้วรู้สึกแปลกหน่อย ๆ แต่เท่าที่มาไทยเขาเห็นว่าคนไทยจอดรถกินข้าวข้างทางกันเป็นเรื่องปกติ

               @Mackenzie

               “ไม่รู้สิ ฉันกินอาหารไทยแค่ไม่กี่ครั้งเอง”

               เมื่อพวกเขาได้ที่นั่งพนักงานเสิร์ฟก็มารับออเดอร์ หน้าตาของพนักงานดูจะเลิ่กลั่กเป็นพิเศษเมื่อรับลูกค้าเป็นชาวตะวันตก เห็นแบบนี้ดีนก็รู้ได้ว่าทางนั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แน่เลยใช้บริการแอปพลิเคชั่นแปลภาษาอีกรอบแล้วถามพนักงานเสิร์ฟ

               “เมื่อกี้คืออะไร ผมอยากได้แบบโต๊ะนั้นที่นึง แล้วก็มีอะไรแนะนำบ้างไหม?”

               พนักงานเสิร์ฟแนะนำอาหารจานเดียวมาหลายอย่าง ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรคืออะไรบ้างจนสุดท้ายเขาก็เลือกสั่ง ‘ผัดกระเป๋าหมูสาบข่ายดาว’ (ผัดกะเพราหมูสับไข่ดาว) มาจานนึง ขอความเผ็ดแบบออริจินัลด้วยเพื่อเข้าถึงความเป็นไทย ส่วนเครื่องดื่มลองกาแฟดำแบบไทยที่ชื่อว่า ‘โอเหลียง’  (โอเลี้ยง) ดู

               @Mackenzie

               “นั่นสิ สงสัยถ้าจะมาเที่ยวไทยอีกต้องไปหัดเรียนภาษาไทยไว้บ้างแล้ว”

               อย่างอาหารยอดนิยมที่ชาวต่างชาติอย่างเขารู้จักก็มีแค่ไม่กี่อย่าง ส้มตำ ต้มยำ ผัดไทย มีแค่นี้เองมั้ง ข้าวซอยก็เพิ่งรู้จะได้ไม่นานจากชื่อเสียงที่ติดท็อปซุปที่ดีที่สุดนี่เอง

               ไม่นานนักอาหารก็มาเสิร์ฟ ว่าไปแมคเคนซีก็กล้าดีแฮะที่จะสั่งต้มยำกุ้งมาลอง สงสัยจะอยากชิมของขึ้นชื่อไทยแลนด์แม้ว่ามันจะเผ็ด ดีนมองสลับมายังอาหารในจานของตัวเองที่ใส่พริกเสียแทบจะทุกอณู นี่เขาต้องสวดภาวนาให้กินแล้วไม่ตายก่อนไหมนะ




               “อาหารมาแล้ว เอาล่ะ ลุยกันเลย”

               @Mackenzie

               “คล้าย ๆ ออมเลตเลยแฮะ อร่อยจริงเปล่า ไหนชิมหน่อย”

               ไม่รอให้เจ้าของจานอนุญาตดีนก็จ้วงไข่เจียวของแมคเคนซีไปช้อนนึงแล้วเอาเข้าปาก ชายหนุ่มทำตาโตอย่างประหลาดใจในรสชาติที่กลมกล่อม แถมยังหอมกลิ่นกระทะที่ออมเล็ตไม่มี

               “ว้าว อร่อยจังแฮะ ไม่คิดเลยว่าจะมีออมเลตแบบนี้ด้วย”

               ถึงกับอยากจะหาสูตรทำอาหารมาลองทำเลยทีเดียว แต่ว่าจะไปทำที่ไหนได้ล่ะ เจ๊ฮาร์ปี้คงไม่ยอมให้เข้าไปยุ่งย่ามในครัวหรอก

               แล้วก็ถึงตาของอาหารในจานตัวเอง ดีนค่อย ๆ เขี่ยเม็ดพริกสีแดงที่น่ากลัวเหล่านั้นออก แม้มันจะเผ็ดไม่เท่ากับสกอเปียนริปเปอร์แต่เขาไม่ท้าทายความเผ็ดของพริกจากไทยแลนด์แน่ ๆ เมื่อเคลียร์พริกออกหมดเขาก็เริ่มกิน อาหารตรงหน้ารสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้านเป็นอย่างมาก ครบทั้งรสเผ็ดเค็ม ตัดหวานเล็กน้อย มันอร่อยสำหรับเขาทว่าจบคำนึงก็ต้องดูดกาแฟไทยรสหวาน ๆ นั่นไปหนึ่งอึก

               “ของฉันก็อร่อย นายอยากลองไหม?”

               @Mackenzie

               “อาจเป็นเพราะกระทะก็ได้ ปกติออมเล็ตไม่ได้ใช้กระทะก้นลึกแบบของไทยนี่นา”

               เหลือบมองไปทางครัวแบบกึ่งเอาท์ดอร์เห็นทั้งการใช้กระทะก้นลึกและไฟแรงจากแก๊สแทบจะเป็นวิธีการทำอาหารคนละอย่างกับชาวตะวันตก และอาจจะเป็นเรื่องน้ำมันด้วยก็ได้ที่ทำให้ไข่กรอบฟูแบบนี้ หลักการคงคล้ายกับการทอดไก่หรือเฟรนฟรายแบบร้านฟาสต์ฟู้ดซื้อที่เขาเคยทำงาน

               “ไหวไหมเนี่ย ว่าแต่นายสั่งต้มยำโดยที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรงั้นเหรอ”

               มองคนรักไอค่อกแค่กก็อมยิ้มเล็กน้อย สงสัยกรรมในถ้วยตรงหน้าคงตกอยู่ที่เขาเสียล่ะมั้ง ซึ่งคาดไว้ไม่ผิดเลยจริง ๆ ดีนจึงลองชิมดู เขาเคยทานซุปประเภทนี้จากร้านอาหารไทยในนิวยอร์ก แต่เมื่อได้กินของจริงสูตรต้นตำหรับมันคนละเรื่องกันเลย เพียงแค่ช้อนเดียวก็ทำเอาเหงื่อแตกพลั่กได้เลย ความเผ็ดคูณสาม ความเค็มและความเปรี้ยวก็คูณสาม ทว่าด้วยรสชาติที่จัดจ้านเขากลับคิดว่ามันอร่อยกว่าร้านที่นิวยอร์กเสียอีก จะว่ายังไงดี มันเผ็ดมาก แต่ก็คล่องคอชะมัด

               “ฉันว่านายอาจจะกินไม่ไหว น่าจะเผ็ดกว่าข้าวซอยอีก”

               ดีนเทียบระดับให้แมคเคนซีได้เห็นถึงความแตกต่าง จากนั้นเขาก็ยกมือเรียกพนักงาน สั่งน้ำหวาน ๆ มาอีกแก้วเพื่อกินดับความเผ็ด

               @Mackenzie

               “อาจจะมีก็ได้นะ เจ๊ฮาร์ปี้ทำอาหารได้ตั้งหลายอย่าง”

               จะว่าไปตอนนั้นดีนเคยช่วยเจ๊ฮาร์ปี้เตรียมผักอยู่ครั้งหนึ่งเลยได้เข้าไปข้างในครัวของโรงอาหาร แต่เขาไม่ได้สอดส่องดูว่าเครื่องครัวมีอะไรบ้าง ถึงจะทำอาหารเป็นแต่เรียกว่าเป็นงานอดิเรกที่โปรดปรานก็คงจะไม่ได้ แถมตอนเขาต้องรีบเร่งแข่งกับเวลาจึงต้องใส่ใจกับงานตรงหน้าก่อน

               “บ้า ซุปมะเขือเทศเหรอ ถึงจะมีมะเขือเทศใส่อยู่แต่รสขาติคนละเรื่องเลย แต่ว่านายลองชิมดูก็ได้เผื่อจะชอบ”

               แล้วก็ชิมต้มยำกุ้งให้ดูอีกครั้งว่าเขาเอ็นจอยกับอาหารเผ็ดจานนี้อยู่ แล้วพอแมคเคนซีเลื่อนแก้วชาไทยมาให้เขาก็ลองชิมดู

               “อร่อยดี แต่ว่ามันหวานเกินเลเวลนายไปไหม หรือว่าตอนนี้เปลี่ยนมาชอบกินหวานตามฉันแล้วล่ะ” อมยิ้มขำ ๆ

               @Mackenzie

               เห็นอีกฝ่ายกินต้มยำได้ก็ยิ้มออก นึกว่าอาหารจานนี้จะเหลือเป็นฟูดเวสต์เสียแล้ว เพราะเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะกินของเผ็ดทั้งสองจานได้หมด ไหน ๆ แมคเคนซีตักไข่เจียวแบ่งมาให้แล้วก็เลยลองชิมคู่กับน้ำซุปต้มยำ ความหอมกรอบของไข่เข้ากันได้ดีกับรสเปรี้ยวนำของต้มยำได้ดี หรือนี่คือคอมบิเนชั่นใหม่ที่เขาเพิ่งค้นพบ ของทอดกับรสเปรี้ยว ถึงว่าล่ะทำไมเวลากินอาหารทอดชอบมีเลม่อนแนมมาให้บีบ

               “ไม่เลวเลยนี่นา แบบนี้นายน่าจะเจริญอาหารแน่ ๆ”

               ส่วนเขาก็เสริมสกิลกินเผ็ดขึ้นมาอีกห้าเลเวล จะว่าไปนึกถึงตอนที่เล่นเกมเดอะซิมส์แล้วตัวละครมีอนิเมชั่นพ่นไฟหลังจากรับประทานอาหารเผ็ดครั้งแรก แต่หลังจากนั้นก็กินของเผ็ดได้คล่อง สภาพไม่ต่างอะไรกับเขาในตอนนี้เลย

               “งี้จะซื้อชากลับไปชงด้วยไหม กินแทนโกโก้ไปเลย”

               @Mackenzie

               “ได้สิที่รัก อย่าอิดออดตอนตื่นเช้าล่ะ”

               เห็นด้วยกับแมคเคนซีเลย หุ่นดีก็อยากมี ของกินอร่อยก็อยากกิน อย่างเช่นผัดกระเป๋าที่เขากินอยู่นี่เข้ากันได้ดีกับไข่ดาวกรอบสไตล์ไทยมาก ๆ แม่ครัวทอดไข่ยังไงนะที่ทำให้ไข่ขาวกรอบได้ขนาดนี้แต่ไข่แดงยังไม่สุก เป็นไข่ดาวสไตล์ที่ไม่เคยกินเลยจริง ๆ ซึ่งเขาชอบมันมาก ๆ

               “นั่นสิ ไม่เห็นนายซื้อของฝากอย่างอื่นเลย”

               ความจริงผลิตภัณฑ์จากไทยก็มีหลายสิ่งที่น่าสนใจ เสื้อเพนท์สกรีนต่าง ๆ กางเกงช้าง งานแกะสลัก และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่พวกเขาได้เที่ยวอีกหลายวันค่อยไปซื้อของฝากตอนขากลับเลยทีเดียวก็จะได้แบกไม่หนักมาก

               @Mackenzie

               “ได้เลย ตกลงตามนั้น ส่วนของฝาก.. เอาไว้เดี๋ยวค่อยดูตอนวันกลับแล้วกัน”

               แล้วเขาก็ตักข้าวเข้าปากกินต่อ แปลกชะมัดยิ่งกินยิ่งรู้สึกว่าเขาทานเผ็ดได้ทนขึ้นโดยไม่ได้รู้สึกเผ็ดมากเท่าไร หรือว่าปากจะชินกับความเผ็ดได้กันแล้วนะ หรืออาจเพราะไข่แดงเยิ้ม ๆ ที่ราดอยู่ข้าวช่วยกลบความเผ็ดด้วยก็ไม่รู้ ด้วยความติดใจมีหวังเขาได้สั่งอาหารชนิดนี้ซ้ำอีกแน่ ๆ รวมถึงต้มยำกุ้งด้วยเช่นกัน

               เมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จจนหนังท้องตึง (ส่วนมากอิ่มน้ำ) ก็เดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปคือดอยแม่ฟ้าหลวงและพระตำหนักดอยตุง สถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อของจังหวัดเชียงรายที่ภายในสวนปลูกดอกไม้หมุนเวียนตามฤดูกาลรอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมตลอดทั้งปี เห็นว่าดอยแห่งนี้มีพระตำหนักของพระมารดากษัตริย์องค์ก่อนของไทยตั้งอยู่ ในอดีตพระองค์มักจะเสด็จประทับเพื่อเยี่ยมเยียนชาวแดนเหนืออยู่เป็นประจำด้วย ถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่ง

               แค่ระหว่างทางก็มีวิวภูเขางาม ๆ ให้ได้ชมไม่มีเบื่อจนกระทั่งเดินทางไปถึงดอยแม้ฟ้าหลวง เมื่อมาถึงสังเกตจากลานจอดรถที่ว่างเปล่า ดูเหมือนว่าดีนและแมคเคนซีแทบจะเป็นนักท่องเที่ยวไม่กี่คนที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้ในเดือนแปดที่ถือว่าอยู่กลางฤดูฝนเต็ม ๆ

               สถานที่แรกที่รอต้อนรับพวกเขาคือ ‘หอแห่งแรงบันดาลใจ’ ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของอุทยาน เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่บันทึกเรื่องราวพระราชกรณียกิจของกษัตริย์องค์ก่อนและพระมารดาให้นักท่องเที่ยวทำความเข้าใจ จนพอจะรู้ได้ว่าเมื่อก่อนนี้ในภาคเหนือเป็นแหล่งลำเลียงยาเสพติดขนาดใหญ่แต่พระราชาได้มีโครงการพัฒนาที่ดิน มอบอาชีพให้ชาวบ้านทำมาหากินอย่างอื่นที่สุจริต เป็นการปราบปรามยาเสพติดด้วยซอฟต์พาวเวอร์โดยแท้



               @Mackenzie

               เมื่อรับข้อมูลความสำคัญของดอยแม่ฟ้าหลวงคร่าว ๆ แล้วทั้งสองก็ไปยังจุดถัดไปที่อยู่ห่างร่าว ๆ ห้าร้อยเมตรจึงคิดว่าขับรถไปดีกว่าจะได้ดูรอบ ๆ ด้วย และเมื่อมาถึงหน้าพระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวงพวกเขาก็จอดรถที่ลานด้านหน้าแล้วเดินเข้าไป สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ออกดอกชูช่อสวยงามคอยต้อนรับทั้งสองที่เดินผ่าน ด้านบนเนินคือพระตำหนักที่มารดาของราชาองค์ก่อนเคยประทับ ตัวเรือนทำจากไม้ จั่วหลังคาด้วยกาแลตามศิลปะภาคเหนือ บอกเลยว่าถ้าได้มาอยู่อาศัยในสถานที่สวยงามแบบนี้เขาคงไม่ขอจะกลับลงไปข้างล่างในตัวเมืองอีก… ล้อเล่นน่า คนติดปาร์ตี้อย่างดีนคงอดใจไปสังสรรไม่ไหว



               “ที่นี่สวยชะมัดเลย ตอนนั้นที่นายบอกว่าอยากมีบ้านพักตากอากาศที่อเมริกาเอาแบบนี้ก็ดีนะ”

               ดีนละสายตาออกจากจอภาพที่ถ่ายรูปของสวยสวยมามองทางคนรักพร้อมกับรอยยิ้ม หากจะสร้างบ้านท่ามกลางดินแดนแห่งดอกไม้พวกเขาต้องย้ายไปแคลิฟอร์เนียหรือเปล่านะ คนละโยชน์กับลองไอแลนด์เลย

               @Mackenzie

               ฟังที่คนรักตอบก็เริ่มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดเล่นหรือจริงจัง แต่สีหน้าดูจะจริงจังอยู่นะ..

               “เดี๋ยวดิแมคซี่ ถึงนายจะรวยแต่ตอบตกลงเรื่องสร้างบ้านง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ อย่างน้อยนายต้องแย้งฉันสักนิดสิ”

               เป็นตัวเองที่เลิกลั่ก ชักเป็นห่วงขึ้นมาเสียแล้วว่าอีกฝ่ายจะถูกคนอื่นใช้วาจาโน้มน้าวต้มตุ๋นจนหมดตัว ถึงแม้ว่าคนรักของเขาจะเป็นคนฉลาดแล้วดูไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ ก็เถอะ

               “ได้สิ เข้าไปดูข้างในได้ ราคาตั๋วรวมทุกอย่างไว้หมดแล้ว”

               ตอนซื้อตั๋วดีนเป็นคนจัดการลงไปซื้อให้เองโดยเขาเลือกแพ็กเกจค่าเข้าชมสถานที่ เข้าชมพระตำหนัก และสวนแม่ฟ้าหลวง

               หลังจากที่สวนสวยดึงดูดพวกเขาได้พักใหญ่ทั้งสองก็เดินขึ้นเนินมาจนถึงหน้าพระตำหนักได้เสียที ตอนนี้พระตำหนักไม่ได้ใช้งานเป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์แล้ว และถูกใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเต็มตัวโดยแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์สมเด็จย่า (ดูเหมือนว่าชาวไทยจะเรียกมารดาของราชาองค์อก่อนว่าอย่างนั้น) จัดแสดงชีวประวัติและพระราชกรณียกิจต่าง ๆ และยังเห็นร่องรอยของที่อยู่อาศัยเดิมที่ออกจะเรียบง่ายเสียด้วยซ้ำ ถือว่าดูไว้เป็นไอเดียเผื่อจะได้สร้างบ้านพักต่างอากาศกลางสวนดอกไม้จริง ๆ

               @Mackenzie

               จบจากการชมพระตำหนักเสร็จก็ได้เวลามูฟกลับมาที่รถเพื่อหารือเรื่องจุดหมายถัดไปกันต่อ

               “ต่อไปคือไร่ชาฉุยฟง อยู่ห่างจากตรงนี้สิบสามไมล์ ขับรถไปอีกครึ่งชั่วโมง สถานที่อาจไม่มีอะไรมากไปกว่าไร่ชาแล้วก็ร้านขายชา นายคิดว่าไง อยากไปไหม?”

               ดีนเอ่ยถาม เห็นก่อนหน้านี้แมคเคนซีบ่นอยากซื้อชาไทยกลับไปบ้านด้วย ถ้าได้ซื้อจากแหล่งผลิตชาเลยก็คงดีไม่น้อย ได้ทั้งบรรยากาศ ได้ทั้งสตอรี่ให้เล่าสู่กันฟัง

               @Mackenzie

               ครึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงไร่ชาฉุยฟงที่มีเนื้อที่กว่าพันไร่ เป็นไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผลิตและจัดจำหน่ายใบชาหลายชนิด อาทิ ชาอู่หลง ชาเขียว ชาไทย และอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อทอดสายตามองออกไปจึงเห็นไร่ชาขั้นบันไดทอดยาวจนสุดลูกหูลูกตา จากข้อมูลบอกว่าหากมาในตอนเช้าจะพบกับทะเลหมอกด้วย น่าเสียดายเป็นบ้าที่พวกเขามาถึงก็เป็นช่วงบ่ายแก่ ๆ ค่อนไปทางเย็น แต่ทิวทัศน์ยามตะวันคล้อยต่ำท้องฟ้าเจือด้วยสีเหลืองอ่อนตัดกับสีเขียวของทุ่งชาก็เป็นภาพที่สวยงามไปอีกแบบ



               พวกเขาตัดสินใจที่จะเดินเล่นชมไร่ชากันก่อนที่จะไปแวะพักจิบชาที่ร้านคาเฟทรงโมเดิร์นขนาดใหญ่ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าบนเนินเขาสีเขียว

               “ที่นี่สวยเป็นบ้าเลย ไม่ต้องอยู่บ้านท่ามกลางสวนดอกไม้ก็ได้ แต่ไร่ชาแบบนี้ก็แจ่ม”

               ดีนกล่าวออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนสเป็คบ้านในฝันไปเรื่อยเลย แต่จุดเหมือนกันก็คืออยู่ท่ามกลางธรรมชาติและความสงบ ซึ่งดูขัดแย้งกับเจ้าตัวเสียจริง

               @Mackenzie

               ดีแล้วที่ภารกิจนี้ได้รับมอบหมายให้มาถ่ายรูปที่ไทยแลนด์ หากเทพีดีมีเธอร์เลือกอยากทำคอลเลกชั่นเวียดนามเขาคงได้ไป ‘เครซี่เฮาส์’ ที่ดาลัดแล้วบอกว่า ‘อยากมีบ้านแบบนี้’ เป็นแน่ ก็ใครเล่าจะไม่อยากมีบ้านที่เหมือนกับสวนสนุก

               หากให้กล่าวถึงเครซี่เฮาส์โดยสังเขป มันเป็นบ้านที่เศรษฐีดาลัดที่เงินเหลือเลยอยากสานฝันบ้านวัยเด็กของตัวเองเริ่มจากการสร้างบ้านต้นไม้ แต่ไม่เหมือนกับบ้านต้นไม้ที่พ่อสร้างให้ปีนเล่นในวัยเด็ก ทว่าคล้ายกับโพรงกระต่ายในเรื่อง ‘อลิส ในดินแดนมหัศจรรย์’ มากกว่า และด้วยความมันมือเศรษฐีคนนั้นก็สร้างนั่นนี่เพิ่มจนบ้านกลายเป็นธีมพาร์ค ดีนเคยดูรายการท่องเที่ยวเครซี่เฮาส์มาก่อน นอกจากที่เจ้าของบ้านจะมาพักนาน ๆ ทียังเปิดให้แขกผู้เยี่ยมชมจองห้องพักค้างคืนเพื่อแบ่งปันประสบการณ์อีกด้วย

               แต่ก็แอบคิดเหมือนกันว่ามืด ๆ ค่ำ ๆ เดินขึ้นบันไดอันคดเคี้ยวขึ้นไปจะสะดุดอะไรล้มหัวฟาดพื้นหรือเปล่า ขนาดแค่เดินอยู่ในบ้านเฮคาทีที่อยู่ในโทนดำมืดเขายังเดินเตะนั่นเตะนี้จนหน้าแข้งลายตั้งหลายครั้ง

               ดูเหมือนแมคเคนซีจะทำตัวเหมือนชาวอังกฤษผู้คลั่งชาขึ้นมาบ้าง หมอนั่นถึงได้ชิมชาเยอะแยะและซื้อกลับไปเยอะไม่แพ้กัน

               “กินชาเยอะขนาดนี้เดี๋ยวคืนนี้ก็นอนไม่หลับหรอก จะว่าไปมื้อเย็นนี้เอาไงดี กินจากที่นี่เข้าไปเลยหรือว่าจะไปกินที่โรงแรมดี ตอนนายกำลังง่วนชิมชาฉันหาที่พักคืนนี้ได้แล้ว บรรยากาศอย่างแจ่ม”

               @Mackenzie

               “จะให้กล่อมยังไงล่ะ ให้ฉันนับแกะให้นายฟังเหรอ”

               แกล้งหยอกอีกฝ่ายไปนิดหน่อย เอาเข้าจริงเขาคิดว่าตัวเองน่าจะหลับไปซะก่อนที่คนรักหลับอีกมั้ง

               “ไม่ไกลเลย อยู่ตรงนี้เอง”

               ดีนกดแมพในสมาร์ทโฟนแล้วยื่นให้อีกฝ่ายดู อยู่ห่างจากไร่ชานี้ไปเพียงสามไมล์ขับรถไปไม่ถึงสิบนาที ถ้าหากไม่ต้องขับรถอ้อมเขาแล้วลงไปทางตรงน่าจะไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำแบบนั้นเกรงจะได้ไปสวรรค์ก่อนถึงโรงแรม

               “งั้นค่อยสั่งรูมเซอร์วิสกินตอนหิวแล้วกัน ตกลงเอาโรงแรมนี้เนอะ งั้นไปกันเลย”

               @Mackenzie

               “ตบก้นนายเหรอ น่าสนใจ ฉันจะตบรัว ๆ เลย” พูดจบก็หัวเราะร่า

               แล้วก็ได้เวลาพักผ่อนประจำวันที่โรงแรมสุดหรูจนดีนอยากจะมีบ้านแบบรีสอร์ทแห่งนี้อีกจนได้ สงสัยเพราะน้ำชายามบ่ายที่กินไปเลยทำให้ท้องไม่ค่อยหิว และเมื่อกระโดดลงไปบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วก็ขี้เกียจเกินกว่าจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาสั่งรูมเซอร์วิส ดีนป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ มินิบาร์แล้วเจอว่ามีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่สองกระป๋อง ถึงวันนี้นอนหรูแต่กินบะหมี่กึ่งฯ เป็นมื้อเย็นคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง…


ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์: ถ่ายรูปภาพจังหวัดเชียงราย
[2/5]

@God

แสดงความคิดเห็น

33. The Man Who Crazy TeaM [ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ] หลังจากที่เมื่อคืนได้เติมพลังงานจนเต็มเปี่ยมด้วยที่นอนนุ่ม ๆ น้ำ  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-8-8 12:17
โพสต์ 61920 ไบต์และได้รับ 36 EXP!  โพสต์ 2024-8-7 23:09
โพสต์ 61,920 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-8-7 23:09
โพสต์ 61,920 ไบต์และได้รับ +1 Point จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2024-8-7 23:09
โพสต์ 61,920 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-8-7 23:09
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x3
x11
x2
x7
x2
x4
x8
x1
x1
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้