เจ้าของ: God

[เอเชียอาคเนย์] ประเทศไทย

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-8-8 12:17:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-8-7 23:09
204Thailand P.4 - เชียงราย
               เข้าสู่วันที่สามของการทำ ...

33. The Man Who Crazy Tea
M

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากที่เมื่อคืนได้เติมพลังงานจนเต็มเปี่ยมด้วยที่นอนนุ่ม ๆ น้ำอุ่น ๆ และคนถูหลังฝีมือดีแล้ว แมคเคนซีก็พร้อมที่จะขับรถเดินทางไปยังจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นจังหวัดต่อไปในแผนการท่องเที่ยว โดยที่แรกที่พวกเขามาถึงหลังจากขับรถถึงสามชั่วโมงก็คือวัดร่องขุ่น ซึ่งเป็นวัดที่แทบจะเรียกได้ว่าสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแมคเคนซีได้มากทีเดียว

เริ่มตั้งแต่ช่วงสะพานที่เป็นทางเดินเข้าไปยังตัวอุโบสถที่มีทั้งรูปปั้นสัตว์ในตำนานต่าง ๆ รวมถึงรูปปั้นมือนับร้อยที่เหมือนกำลังดิ้นรนไขว่คว้าอะไรสักอย่างจากพื้นเบื้องล่างด้านข้างสะพานทั้งสองด้านราวกับเป็นมือที่ผุดขึ้นมาจากพื้นปฐพีหรือไม่ก็นรกอเวจี และเมื่อใกล้ถึงทางเข้าก็มีรูปปั้นเศษซากโครงกระดูกกองทับถมรวมกันอยู่มากมาย แม้จะดูน่ากลัวแต่ก็สวยงามในคราวเดียวกัน นอกจากนี้ตัวพระอุโบสถก็มีความงดงามไม่แพ้กัน ทุกอย่างในสถานที่นี้ล้วนวิจิตรงดงามและรังสรรค์ออกมาได้อย่างประณีต หากจะบอกว่าเป็นสถานที่แสดงงานศิลปะควบคู่ศาสนสถานก็ไม่น่าแปลกใจ

“นั่นสิ สวยมาก ทำออกมาได้ละเอียดสุด ๆ เลย”

หลังจากไปยืนตามจุดเป็นนายแบบให้ดีนถ่ายรูปแล้วก็กลับมาดูรูปที่อีกฝ่ายถ่ายไว้ ซึ่งก็ถือว่าถ่ายออกมาได้ดี

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“มันก็ให้ฟีลคล้าย ๆ นะ มือพวกนั้นพอมองนาน ๆ ก็น่าขนลุกอยู่”

ถึงจะทำออกมาได้สวยงามแต่กลับไม่รู้สึกอยากจ้องมองด้วยจินตนาการของตนเองที่ว่ามือพวกนั้นจะคว้าข้อเท้าตนแล้วดึงลงไป แค่คิดก็สยองขึ้นมาแล้ว แต่ทุกอย่างจากภายนอกกลับเปลี่ยนไปเมื่อเข้ามาภายในอุโบสถตั้งแต่อากาศเย็นสบายจากพัดลมและพื้นหินอ่อน รวมทั้งภาพวาดฝาผนังโดยรอบที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกับปะติมากรรมด้านนอก

“หือ…นายหมายถึงแบบไหน แบบนั้น…หรือแบบนี้”

ขณะกำลังชมบรรยากาศโดยรอบดีนก็ถามขึ้นมา พิธีแบบไทยก็มีหลายแบบซะด้วย จะเป็นแบบผู้คนที่กำลังนั่งกราบพระพุทธรูป หรืออีกกลุ่มที่กำลังพนมมือแล้วรอให้พระสงฆ์เอาก้านไม้เล็ก ๆ ที่มัดรวมกันสะบัดน้ำใส่…ดูแล้วน่าจะเย็นดี

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“จะว่าไปฉันก็ไม่เคยเคารพบูชาศาสนาอื่นซะด้วยสิ ถ้าฉันนั่งเฉย ๆ ร่วมพิธีได้หรือเปล่า”

หากจะถามว่าแมคเคนซีเคร่งศาสนาขนาดนั้นไหมก็คงไม่ เขาไม่ได้เข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ พิธีรับศีลอะไรก็ไม่ได้ไป กับศาสนาอื่นก็ไม่เคยเคารพนับถือแต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ความเชื่อของใคร

“ถ้าเราพนมมือแต่เราไม่รู้สึกเคารพบูชามันจะดูแปลก ๆ ไหม”

อยู่ ๆ ก็เกิดสงสัยขึ้นมา

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“พระเจ้าลงโทษอะไรกัน คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอกน่า ฉันก็แค่คิดว่าถ้าเราทำอะไรแล้วมันไม่มีแพชชั่นอยู่ในนั้นสุดท้ายต้องมาถามตัวเองว่าเราทำไปทำไม มันก็ออกจะแปลก ๆ อยู่”

แมคเคนซียิ้มเล็กน้อย จนเมื่อพวกเขาออกมาจากวัดและเดินมาที่รถก็ต้องมาขบคิดกันเรื่องอาหารอีกแล้ว

“ถ้านายอยากกินเราไปร้านนั้นกันก็ได้ คงไม่ได้มีข้าวซอยขายอย่างเดียวหรอกมั้ง”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อดีนบอกแบบนั้นแมคเคนซีก็เห็นด้วย เมื่อมองตามร้านที่อีกฝ่ายชี้แล้วก็ตีรถเข้าจอดหน้าร้านทันที

“มีกลิ่นหอม ๆ ออกมาจากร้านด้วย”

เมื่อลงจากรถมาตรงหน้าร้านแล้วก็ได้กลิ่นหอมลอยมาแตะจมูก มันเป็นกลิ่นที่เขาไม่คุ้นเคยแต่ก็ชวนหิวเป็นอย่างมาก พอเข้าไปในร้านเพื่อหาที่นั่งก็สวนกับพนักงานที่ยกอาหารจานหอมกรุ่นนั้นไปเสิร์ฟพอดี ว่าแต่มันคืออะไรกันนะ

“ดีน นายรู้ไหมว่าอาหารนั่นเรียกว่าอะไร”

แมคเคนซีสะกิดคนข้าง ๆ ชี้ไปยังจานที่พนักงานถืออยู่ ลักษณะเป็นแผ่นกลม ๆ สีเหลืองเข้มออกฟู ๆ ดูแล้วน่าจะเป็นของทอดอะไรสักอย่าง

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากที่ได้ดีนช่วยถามให้ แมคเคนซีถึงรู้ว่าอาหารจานนั้นมีชื่อว่า ‘ไข่เจียว’ เขาจึงสั่งมาจานนึง ส่วนเมนูที่ดูก็อ่านไม่ออกแต่ก็มีรูปประกอบบ้างประปราย เลยชี้รูปซุปที่มีกุ้งกับเห็ดแล้วสั่งเพิ่มไปอีกชาม แล้วเครื่องดื่มก็ลองสั่ง ‘ชาไทย’ ที่พนักงานแนะนำดู

“ร้านนี้เมนูอาหารเยอะมากเลย เสียดายที่อ่านไม่ออก”

ถึงจะใช้โปรแกรมช่วยแปลภาษาแต่ก็คงไม่ใช่การเขียนแบบอ่านทับศัพท์ ถ้าเอาศัพท์อังกฤษไปเซิร์ทรูปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะขึ้นรูปอาหารตรงกันหรือเปล่า

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ท่องชื่ออาหารไทยกันไว้เลย”

เขาหัวเราะน้อย ๆ จนเมื่ออาหารมาเสิร์ฟแล้วได้กลิ่นหอมของไข่เจียวอีกก็ยิ้มออกมา แต่ชามซุปที่วางตรงกลางระหว่างพวกเขานั้นเหมือนจะมีกลิ่นสมุนไพรและกลิ่นเผ็ด ๆ

“ของนายพริกเป็นเม็ดเลย นายโอเคไหม”

มองหน้าคนที่สั่งอาหารชื่อผัดกะเพรา หวังว่าอย่างน้อยไข่ดาวน่าจะช่วยลดความเผ็ดร้อนลงได้บ้าง แล้วเขาก็เริ่มลองตักข้าวไข่เจียวชิมดู

“โอ้ อันนี้อร่อยมาก !”

ในที่สุดก็เจออาหารที่ถูกจริตตัวเองเสียทีหลังจากที่ลองมาหลายอย่าง ไข่เจียวฟู ๆ มีรสชาติเค็มเล็กน้อย พอทานกับข้าวแล้วกลมกล่อมกำลังดี

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ใช่ไหม อร่อยมาก ทำไมออมเล็ตไทยถึงได้กรอบฟูแบบนี้”

ตักทานอีกคำพลางวิเคราะห์ไปด้วย ทั้งที่เป็นออมเล็ตเหมือนกันแต่ทำไมถึงไม่เหมือนกันนะ เมื่อถูกชวนให้ลองชิมอาหารของอีกฝ่าย แมคเคนซีก็ชั่งใจอยู่ครู่นึง อาหารที่ชื่อว่า ‘ผัดกะเพรา’ นั้นก็หอมดี แต่หอมแบบฉุน ๆ เล็กน้อย ถ้าให้เทียบก็คงคล้ายกับใบโหระพาหรือใบสะระแหน่ที่เขาใช้ประดับแก้วเครื่องดื่มค็อกเทล  ถึงจะดูเผ็ดแต่ถ้าไม่ลองก็คงเสียเที่ยว แมคเคนซีเลยลองตักหมูสับชิ้นเล็ก ๆ ชิมดู

“หื้อ…เผ็ด !”

แล้วก็ไอค่อกแค่กอีกจนได้ ให้ตายสิ เหมือนเขาจะไม่ค่อยถูกกับของเผ็ดเอาซะเลย แล้วเจ้าซุปนั่นเขาจะทานได้ไหม

“นายลองชิมซุปนั่นดูหน่อยได้ไหมว่าเผ็ดหรือเปล่า”

เลยต้องให้ดีนช่วยพิสูจน์ดูก่อนเพื่อความปลอดภัยของลิ้นตนเอง

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“นายว่าคุณฮาร์ปี้จะมีกระทะก้นลึกหรือเปล่า”

ที่ผ่านมาเห็นคุณฮาร์ปี้ทำอาหารหลากหายเชื้อชาติก็จริง แต่ไม่เคยเห็นทำอาหารไทยเลย ถ้าจะลองขอให้ทำไข่เจียวคุณฮาร์ปี้จะรู้จักไหม

“นี่คือต้มยำงั้นเหรอ…ตอนเห็นรูปฉันนึกว่าคือซุปมะเขือเทศ จนได้กลิ่นเมื่อกี้นี่แหละ เลยคิดว่าไม่น่าใช่แล้ว”

แมคเคนีสารภาพเสียงเบา เขาผิดเองที่ไม่ได้ถามพนักงานให้ดีก่อน ที่จริงก็เคยได้ยินชื่อต้มยำกุ้งมาเหมือนกันว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของไทย แต่ก็ไม่คิดว่าสีสันจะเหมือนซุปมะเขือเทศนี่นา ยิ่งพอเห็นดีนทานแล้วการันตีรสชาติความเผ็ดแล้วก็ยิ่งไม่กล้าทานไปกันใหญ่ เลยหยิบชาไทยมาดูดแก้เผ็ด แล้วก็ไม่น่าเชื่อที่ชาสีส้ม ๆ นี่กลับอร่อยอย่างน่าเหลือเชื่อ

“นายลองชิมชานี่สิ อร่อยมากเลย หอมด้วย”

บอกพลางเลื่อนแก้วไปให้

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

พอดีนบอกแบบนั้นก็เริ่มมีความหวังขึ้นมา คุณฮาร์ปี้คงจะใจดีให้ยืมกระทะ ไม่ก็ถ้าพวกเขาเล่าเรื่องอาหารไทยให้ฟัง เชฟประจำค่ายอาจจะสนใจเพิ่มลงไปในเมนูก็ได้

“ฉันไม่รู้นี่นา เห็นสีเหมือนกัน”

บ่นอุบอิบแต่เห็นดีนทานอย่างเอร็ดอร่อยก็เริ่มสนใจขึ้นมา ถ้าเผ็ดอย่างน้อยก็แค่ดื่มน้ำ อย่างที่บอก มาถึงที่แล้วก็ต้องลองสักหน่อย

“โอ้ ! เผ็ดจริง ๆ ด้วย แต่นี่มันไม่เผ็ดเหมือนซุปข้าวซอย…มันมีรสเปรี้ยว แล้วก็หวานหน่อย ๆ ?”

ถึงกับเป่าลมออกจากปากเมื่อลองชิมน้ำซุปต้มยำ แต่ถึงจะเผ็ดรสชาติก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดด้วยความที่มีหลากหลายรสชาติรวมอยู่ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นเผ็ด เค็ม เปรี้ยว รสหวานจากน้ำพริกเผาที่ติดตรงปลาย รวมถึงความหวานมันของนมที่ใส่ลงไปเล็กน้อย และกลิ่นหอมของเครื่องต้มยำอย่างตะไคร้ใบมะกรูด ที่สำคัญคือเมื่อลองทานคู่กับไข่เจียวแล้วทำให้ทั้งคู่ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก ช่างเป็นอาหารที่อเมซิ่งมาก !

“นายลองกินคู่ออมเล็ตไทยสิ อร่อยมาก”

บอกพลางตักไข่เจียวในจานตนเองแบ่งให้ดีนไปด้วย

“ก็หวาน แต่ชาหอมมากเลย แล้วนมที่ใส่ก็ทำให้กลมกล่อมดีด้วย ฉันว่าถ้าหวานน้อยกว่านี้หน่อยแล้วใส่นมเยอะกว่านี้จะอร่อยมาก

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“นั่นสิ ถ้าอยู่ที่นี่นานคงได้น้ำหนักขึ้นแน่ กลับค่ายไปปลุกฉันไปวิ่งจ๊อกกิ้งกับนายด้วยสิ”

ถึงจะกังวลเรื่องน้ำหนักขึ้นแต่การไม่ได้ทานของอร่อยก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย เอาเป็นว่าทานให้หนำใจก่อนแล้วค่อยไปชดใช้กรรมทีหลังก็แล้วกัน

“ก็ดีเหมือนกัน เวลาอยากกินชาก็ค่อยชง จะว่าไปฉันนี่ซื้อแต่พวกเครื่องดื่มกลับไปนะเนี่ย”

ทั้งดอกเก๊กฮวย กระเจี๊ยบ อัญชัน แล้วนี่ยังมีชาไทยอีก

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ฉันจะพยายาม ถ้าไม่ตื่นนายก็ลากฉันไปได้เลย”

เขาติดนิสัยนอนเช้าตื่นกลางคืนมาจากการทำงานที่คลับ ยกเว้นวันไหนที่มีเรียนคาบเช้าก็จะตั้งนาฬิกาปลุกไว้แล้วตื่นไปเรียน แต่ตั้งแต่มาอยู่ที่ค่ายฮาร์ฟบลัด แม้จะไม่ได้ตื่นแต่เช้าตรู่เขาก็คิดว่าตัวเองตื่นเช้าขึ้นระดับนึง

“ยังไม่เจอของที่ถูกใจนี่สิ แล้วนายล่ะ ไม่ค่อยเห็นซื้ออะไรเลย”

ถึงแมคเคนซีจะซื้อแต่ผลิตภัณฑ์อาหารแต่ก็ยังถือว่าได้ซื้อ แต่ดีนนี่สิ นอกจากสนุกกับการถ่ายรูปและอาหารการกินแล้วเขาก็ไม่ค่อยเห็นอีกฝ่ายซื้ออะไรเท่าไหร่

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากทานอาหารเติมพลังกันแล้วก็ถึงเวลาเดินทางไปสถานที่ถัดไปนั่นคือดอยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งแมคเคนซีใช้เวลาขับรถประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงที่หมาย โชคดีที่วันนี้แค่มีเมฆมากแต่ยังไม่ถึงกับฝนตก ไม่อย่างนั้นคงได้ใช้เวลานานกว่านี้

ดูเหมือนว่าบนดอยแม่ฟ้าหลวงจะมีที่ประทับของราชวงศ์ของไทยที่ชื่อว่า ‘พระตำหนักดอยตุง’ อยู่ด้วย ซึ่งสิ่งปลูกสร้างที่นี่ก็เป็นแบบไทยดั้งเดิมไม่ต่างจากพระราชวังในลอนดอนที่เป็นสิ่งปลูกสร้างแบบสมัยก่อนเช่นกันแต่บรรยากาศของที่นี่ดูร่มรื่นกว่า อาจเป็นเพราะอยู่บนเขา โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ไม่ได้ตั้งอยู่กลางเมืองก็เป็นได้

แมคเคนซียอมรับว่าตนเองมีความรู้เกี่ยวกับประเทศไทยไม่มากเท่าไหร่ และไม่เคยคิดว่าจะได้มาเที่ยวที่นี่มาก่อน แต่เมื่อเข้ามาใน ‘หอแห่งแรงบันดาลใจ’ แล้ว ก็ทำให้เขาได้รู้เรื่องเกี่ยวกับกษัตริย์องค์ก่อนของไทยมากขึ้น ทั้งการจัดวางและการตกแต่งสถานที่ก็ทำได้อย่างเหมาะสมน่าชม ติดเพียงแต่ว่าวันนี้อาจจะดูเงียบ ๆ ไปสักหน่อยเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเขาชอบที่ที่คนน้อยอยู่แล้ว

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“นายอยากมีบ้านกลางสวนดอกไม้แบบนี้เหรอ งั้นฉันคงต้องให้นายเป็นคนเลือกแล้วว่าจะเอาดอกไม้อะไรมาลงบ้าง”

พอเห็นอีกฝ่ายยิ้มก็เลยยิ้มตอบ ที่นี่สวยงามและจัดสวนออกมาได้น่าชมมาก ไม่แปลกที่ใครเห็นก็ต้องชอบ แต่ดีนน่าจะรู้ดีว่าเขาไม่ได้ชอบดอกไม้ชนิดไหนเป็นพิเศษ หากต้องมีบ้านพักกลางสวนแบบนี้จริง ๆ คงยกหน้าที่ให้ดีนไม่ก็บริษัทรับจัดสวนเป็นผู้จัดการ แต่ก็คิดว่าขนาดคงไม่กว้างขวางเท่านี้

“เราเข้าไปดูข้างในเหมือนพระราชวังที่ลอนดอนได้ไหม”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ทำไมฉันต้องขัดนายด้วย นั่นเป็นบ้านที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ฉันก็ต้องตามใจคนที่จะอยู่สิว่าอยากได้แบบไหน”

เลิกคิ้วสงสัย เขาแค่อยากทำบ้านแบบที่พวกเขาทั้งคู่ชอบ การลงทุนกับสิ่งที่จะใช้งานในระยะยาว ถึงจะเสียเงินมากหน่อยแต่สำหรับเขาแล้วถือว่าคุ้มค่า

เมื่อเข้ามาภายในพระตำหนัก แมคเคนซีถึงได้รู้ว่าสถานที่นี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปเสียแล้ว ไม่ได้ใช้เป็นที่ประทับหรือประกอบพระราชพิธีใด ๆ แต่ก็นึกสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมถึงต้องคอยแสดงข้อมูลบอกเล่าเรื่องราวว่าราชวงศ์เคยทำอะไรไว้บ้าง ในขณะที่พรระราชวังในลอนดอนส่วนใหญ่จะใช้งานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงมาตกแต่งแสดงถึงความเฟื่องฟูหรูหรา ในขณะที่นี่ค่อนข้างดูสงบและเรียบง่ายตามบรรยากาศที่ตั้งอยู่บนเขา

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ไร่ชาที่อยู่บนภูเขางั้นเหรอ น่าสนใจดี ไปซื้อชาที่นั่นเลยก็ดีเหมือนกัน”

ครึ่งชั่วโมงก็ถือว่าใช้เวาไม่มากเท่าไหร่ แมคเคนซีเองก็อยากรู้เหมือนกันว่านอกจากชาไทยที่เขาเพิ่งดื่มมาแล้วจะยังมีชาอะไรที่กลิ่นหอมและรสชาติดีอีกไหม เมื่อให้ดีนช่วยตั้งจีพีเอสให้แล้วก็เริ่มออกเดินทางโดยไม่ให้เสียเวลาทันที

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“กว่าพวกเราจะได้ซื้อบ้านจริง ๆ นายคงมีแบบบ้านในฝันเป็นสิบ ๆ แน่”

แมคเคนซีหัวเราะเล็กน้อย แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายอยากจะได้บ้านแบบไหนเขาก็เห็นด้วยทั้งนั้น…ถ้าไม่แปลกเกินไป

ไร่ชาที่นี่กว้างใหญ่มาก และเขาเพิ่งเคยเห็นการปลูกพืชบนภูเขาแบบไล่ชั้นลงไปเป็นขั้นบันได ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวขจีของใบชา หลังจากที่ได้ชิมชาชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของที่นี่แล้ว แมคเคนซีก็ได้ชาอีกสองสามอย่างนอกจากชาไทยเป็นของฝากกลับค่ายเพิ่มมาอีก ดูท่าว่าหากดีนไม่ห้ามเขาคงได้ซื้อเครื่องดื่มอีกเยอะแยะแน่ ๆ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“จริงด้วย ชาที่นี่หอมดีนี่นา ถ้าฉันนอนไม่หลับก็กล่อมฉันนอนสิ”

มองถุงที่บรรจุสารพัดใบชาในมือแล้วก็ได้แต่ยิ้ม ไม่ได้นับเสียด้วยว่าวันนี้ตนเองดื่มชาไปแล้วกี่แก้ว

“ได้ที่พักแล้วเหรอ ไกลจากที่นี่ไหม ถ้าไม่ไกลเราไปกินมื้อเย็นที่โรงแรมก็ได้ พวกเรากินขนมกับชารองท้องบ้างแล้วคงยังไม่หิวหรอกใช่ไหม”

ได้ยินดีนบอกว่าเป็นที่พักบรรยากาศดีก็ชักอยากจะเห็น อีกอย่างได้เข้าที่พักเร็วหน่อยก็ดีเหมือนกัน วันนี้พวกเขาจะได้มีเวลาพักผ่อนเยอะๆ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“จะนับแกะ ร้องเพลง หรือตบก้นกล่อมฉันนอนก็ได้ทั้งนั้น”

แต่ที่น่าจะหลับง่ายที่สุดก็คือนอนนอนอีกฝ่ายนอนนั่นแหละ

“ไม่กี่นาทีเองนี่นา”

แมคเคนซีพยักหน้ารับเมื่อดูเส้นทางในจีพีเอสที่ดีนเปิดให้ดูรวมทั้งเห็นด้วยเรื่องอาหารเย็น จากนั้นพวกเขาก็ออกจากไร่ชาฉุยฟงแล้วมาถึงที่พักในเวลาถัดไป ซึ่งที่พักที่ดีนจองไว้คราวนี้ก็บรรยากาศดีอย่างที่เจ้าตัวบอกไว้จริง ๆ บ้านพักแต่ละหลังแบ่งเป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัว วันนี้เขาคงได้นอนหลับสบายอีกคืน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 45729 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-8-8 12:17
โพสต์ 45,729 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-8-8 12:17
โพสต์ 45,729 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-8-8 12:17
โพสต์ 45,729 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-8-8 12:17
โพสต์ 45,729 ไบต์และได้รับ +6 EXP +9 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-8-8 12:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
โพสต์ 2024-8-11 11:23:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mackenzie เมื่อ 2024-8-11 11:25

34. Wildly Peacock
M

เมื่อวันใหม่มาถึง วันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะไปยังจังหวัดต่อไปนั่นก็คือ ‘จังหวัดพะเยา’ ดูจากแผนการเที่ยวที่ดีนทำไว้แล้ว เหมือนว่าวันนี้ตารางไม่ได้แน่นเท่าไหร่ พวกเขาจึงใช้เวลาในช่วงเช้าอย่างไม่เร่งรีบแล้วค่อยเช็คเอาท์ช่วงสาย

“เมื่อคืนนายท้องเสียหรือเปล่า ฉันได้ยินเสียงก๊อกน้ำหลายรอบเลย”

แมคเคนซีถามขณะที่พวกเขาทานมื้อเช้า เมื่อคืนแม้ว่าจะนอนกอดอีกฝ่ายแต่ก็มีบางช่วงที่พลิกตัวนอนไปด้านอื่นบ้าง เขาได้ยินเสียงเปิดปิดก๊อกน้ำช่วงกลางดึกหลายรอบจนถึงกับตื่นมาถามคนนอนข้าง ๆ ว่าท้องเสียหรือเปล่าเพราะเมื่อวานดีนก็ทานอาหารเผ็ดไปหลายอย่าง แต่อีกฝ่ายกลับหลับสนิทไม่ตื่นเสียอย่างนั้น เขาเลยต้องมาถามอีกครั้งตอนเช้าแทน

@Dean

“วันนี้งดของเผ็ดวันนึง แล้วนายมีเกลือแร่หรือเปล่า ดื่มสักหน่อยก็ดีนะ”

ถึงจะบอกว่าไม่เป็นอะไรมากแต่ก็อยากให้คนรักระวังเรื่องอาหารการกินสักหน่อย และแม้ว่าภาคเหนือจะอากาศไม่ร้อนเท่ากรุงเทพแต่อุณหภูมิก็ยังถือว่าสูงกว่าฝั่งยุโรป ร่างกายอาจจะเสียน้ำได้ หากดื่มเกลือแร่สักหน่อยน่าจะดีไม่น้อย

หลังจากทานอาหารและเช็คเอาท์เรียบร้อยก็ถึงเวลาออกเดินทางไปยัง ‘อุทยานแห่งชาติแม่ปืม’ ด้วยความที่อยากประหยัดเวลาให้มากที่สุด แมคเคนซีจึงเลือกใช้เส้นทางเลี่ยงเมือง

“ถ้าปวดท้องก็บอกนะ จะได้แวะปั๊ม”

หันมาบอกคนนั่งข้าง ๆ เมื่อขับรถไปได้สักพัก

@Dean

เมื่อมาถึงอุทยานแห่งชาติแม่ปืมแล้ว แมคเคนซีก็รู้สึกว่าที่นี่ดูร่มรื่นดี กิจกรรมที่ทางอุทยานจัดให้มีค่อนข้างหลากหลาย ทั้งตั้งแคม์ พายเรือคายัค เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ แต่พวกเขาเลือกที่จะขี่จักรยานกัน น่าจะทำให้ชมสถานที่นี้โดยรอบได้เร็วที่สุด

“เมื่อกี้เจ้าหน้าที่เขาบอกว่าให้ระวังแมวกับนกยูงเจ้าถิ่นด้วย บางตัวก็ดุ”

แมคเคนซีบอกขณะขี่จักรยานตีคู่ไปกับดีน แม้แต่สัตว์เองก็มีบางตัวที่นิสัยอันธพาล เรื่องนี้เขาเข้าใจดี เหมือนว่าที่นี่จะมีแมวและนกยูงค่อนข้างเยอะ เมื่อตอนขับรถเข้าาในเขตอุทยานก็เห็นบ้างบางตัว แต่ก็ยังไม่เจอตัวที่ดุร้ายตามที่เจ้าหน้าที่เตือนไว้



@Dean

“ตัวที่ไม่ดุก็มี ฉันว่านายน่าจะดูออก”

คุยเรื่องแมวกันไปได้ไม่เท่าไหร่ดีนก็เกิดอาการท้องเสียกำเริบซะแล้ว ดูท่าจะปวดมากจริง ๆ ถึงได้เร่งปั่นจักรยานไปห้องน้ำขนาดนั้น แมคเคนซีที่ต้องถนอมขาไว้ขับรถต่อจึงค่อย ๆ ขี่ตามไป

‘แถวนี้ก็มีนกยูงด้วย’

ขณะกำลังชมนกชมไม้ไปเรื่อยก็เหลือบไปเห็นนกยูงตัวนึงตรงข้างทางเข้า ดีนเองก็ขี่จักรยานมาทางนี้ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวสังเกตเห็นหรือเปล่า และในตอนที่กำลังจะขี่จักรยานผ่านไปนั่นเอง สายตาของแมคเคนซีก็สบเข้ากับนกยูงตัวนั้นเข้าพอดี ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม…เจ้านกแสนสวยนั่นมองเขาอย่างกับเจอหนอนหรือแมลงที่เป็นอาหารของมัน

‘หวังว่าคงจะไม่ใช่นกยูงเจ้าถิ่นที่เจ้าหน้าที่เตือนไว้หรอกนะ’

“แกว้กกกก !”

“เฮ้ย ! ตามมาทำไม !”

เสียงร้องแปลก ๆ ด้านหลังทำให้แมคเคนซีต้องหันกลับไปมอง ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นนกยูงตัวเมื่อครู่วิ่งไล่กวดตามมา จากที่ว่าจะค่อย ๆ ขี่จักรยานแบบสบายใจก็กลายเป็นว่าต้องออกแรงปั่นให้เร็วขึ้นเพื่อหนีเจ้านกนั่นแทน

‘เดมิก็อด…อาหาร !’

เสียงที่ดังขึ้นในหูสร้างความสงสัยให้ไม่น้อย จนเมื่อหันกลับไม่มองอีกทีก็ต้องเบิกตาโพลงอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อนกยูงตัวเมื่อครู่กลายร่างเป็นอสุรกายที่มีร่างครึ่งบนเป็นหญิงสาว ส่วนมือและแขนก็กลายเป็นปีกและครึ่งล่างมีเท้าที่เป็นกรงเล็บเหมือนนก

“ตัวอะไรอีกวะเนี่ย ไม่ต้องตามมา !”

แมคเคนซีตะโกนลั่นพร้อมกับเร่งฝีเท้าปั่นจักรยานจนล้อฟรีแต่ความเร็วเท่านี้ก็ดูเหมือนจะยังไม่พอ เมื่ออสุรกายตนนั้นวิ่งตามมาจนทันด้วยความเร็วแบบสบาย ๆ ก่อนจะบินขึ้นมาแล้วใช้กรงเล็บของมันหิ้วปีกต้นแขนทั้งสองข้างของเขาบินขึ้นไปบนฟ้า

เฮ้ ! ปล่อยฉันเจ้านกบ้า !”

แมคเคนซีดิ้นไปมากลางอากาศ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงกรงเล็บแข็งแรงนั่นก็ไม่คลายออกง่าย ๆ สุดท้ายเลยต้องเสี่ยงใช้มือทุบตรงข้อเท้าของมันอย่างแรงจนแขนถูกปล่อยออกมาเป็นอิสระได้ข้างหนึ่ง จากนั้นก็หยิบดาบสัมฤทธิ์ที่เหน็บไว้ตรงเอวออกมาแบบทุลักทุเลแล้วแทงทะลุเข้าไปตรงช่องท้องจนเจ้าอสรุกายร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดก่อนจะปล่อยร่างแมคเคนซีให้ร่วงหล่นลงมาแล้วมันก็สลายกลายเป็นผุยผง

“ว้ากกก ! อุก !”

ร่างแมคเคนซีหล่นตุ้บลงบนพื้นสนามหญ้า โชคดีที่อสุรกายครึ่งนกนั่นยังพาเขาบินขึ้นไปไม่สูงมากนักจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแต่แรงกระแทกก็ทำให้จุกนิดหน่อย ชายหนุ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นมาปัดเศษหญ้าตามตัวออกแล้วหยิบดาบที่ตกอยู่ไม่ห่างจากตัวนักมาเก็บเข้าปลอกดังเดิม ก่อนจะเดินไปเอาจักรยานที่ล้มอยู่กลางทางขี่กลับไปหาดีน ไม่รู้ว่าป่านนี้อีกฝ่ายออกมาจากห้องน้ำหรือยัง

@Dean

พอเห็นว่าดีนเพิ่งออกมาจากห้องน้ำแมเคนซีก็แอบโล่งใจ นึกว่าต้องให้อีกฝ่ายคอยซะแล้ว

“ไม่ ไม่นานเลย ฉันเพิ่งมาถึงแป๊บนึงเอง”

เห็นคนรักเหงื่อท่วมก็หยิบทิชชู่ให้ ก่อนจะก้มลงมองตนเองเมื่อถูกทัก

“หญ้าพวกนี้น่ะเหรอ เอ่อ…ฉัน…คือ…ฉัน…ไปเจอมอนสเตอร์มา”

อ้ำอึ้งอยู่ครู่นึงสุดท้ายก็คิดว่าไม่ควรโกหกอีกฝ่ายจึงบอกความจริงก่อนจะยิ้มให้

“แต่ฉันจัดการมันไปแล้ว ไม่เป็นอะไรเลยด้วย เก่งไหม ว่าแต่นายเป็นยังไงบ้าง โอเคหรือเปล่า”

@Dean

“ไม่นะ ไม่ใช่ก็อบลิน มันเป็นมอนสเตอร์ที่…เป็นครึ่งคนครึ่งนก ครึ่งบนเป็นผู้หญิง ครึ่งล่างเป็นนก แล้วก็มีมือเป็นปีก”

แมคเคนซีนึกภาพอสุรกายที่เพิ่งเจอมาเมื่อครู่แล้วอธิบายลักษณะเท่าที่จำได้ให้ดีนฟัง ถึงจะไม่รู้จักอสุรกายแต่ละชนิดแต่ก็มั่นใจว่าไม่ใช่ก็อบลินแน่ ๆ

“ฉันไม่เป็นไร มันแค่พาฉันบินขึ้นไปข้างบนแล้วก็ปล่อยลงมาบนสนามหญ้าแค่นั้นเอง…เลยจุกนิดหน่อย”

ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ก็ลูบท้องป้อย ๆ แต่เดี๋ยวก็หายละน่า

“เราจะไปกันต่อไหม นายขี่จักรยานไหวหรือเปล่า"

@Dean

“ฮาร์ปี้…นายหมายถึงคุณฮาร์ปี้น่ะเหรอ”

ถามว่าเหมือนไหมก็คล้าย ๆ อยู่หรอก แต่ฮาร์ปี้ที่เขาเจอเมื่อกี้ค่อนข้างตัวเล็กกว่าแล้วก็มีหน้าตาตามแบบเอเชียอาจจะเป็นฮาร์ปี้เชื้อสายไทยก็เป็นได้

จากนั้นพวกเขาก็ไปขี่จักรยานกันต่อ แต่ถึงแม้ดีนจะบอกว่าไม่เป็นไร แมคเคนซีก็ยังคอยสังเกตอาการอีกฝ่ายตลอดเวลา นอกจากนั้นตามเส้นทางที่พวกเขาขี่จักรยานก็ยังมีนกยูงโผล่มาให้คนที่เพิ่งเจอนกยูงกลายพันธุ์เป็นอสุรกายอย่างเขาได้สะดุ้งเป็นช่วง ๆ อีกต่างหาก จนในที่สุดก็ขี่ครบรอบกลับมาที่จุดเช่าจักรยานกันเสียที

@Dean

กว่าจะขี่จักรยานชมบรรยากาศจนทั่วก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน แมคเคนซีค่อนข้างโล่งใจที่ดีนไม่ลองทานอะไรที่เสี่ยงต่อการท้องเสียอีก ข้าวผัดที่อีกฝ่ายสั่งมาก็หน้าตาน่าทานดี ส่วนเขาก็สั่งออมเล็ตไทยเหมือนเดิม หลังจากทานอาหารเรียบร้อยก็เดินทางไปต่อกันที่ ‘อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง’ ซึ่งเมื่อดูเส้นทางจากจีพีเอสแล้วก็ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง น่าจะเพียงพอให้คนป่วยได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่สักตื่นนึง

จนกระทั่งแมคเคนซีขับรถมาถึงที่หมายจึงได้ปลุกอีกฝ่ายที่กำลังหลับสบายอยู่

“ดีน…ตื่นเถอะ เรามาถึงแล้วนะ”

@Dean

“ประมาณชั่วโมงนิด ๆ ได้”

ถ้าให้กะเวลาก็น่าจะราว ๆ นี้ เมื่อจอรถแล้วพวกเขาก็ไปที่จุดบริการนักท่องเที่ยว จึงได้รู้ว่าสถานที่ส่วนใหญ่ปิดไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมเนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝนซึ่งบางเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว ตอนนี้จึงเหลือสถานที่ที่ยังไปได้ก็คือ ‘น้ำตกภูซาง’

“ไปต่อสิ ขับรถมาตั้งไกล ฉันไม่ยอมเสียเที่ยวหรอก”

ต่อให้เหลือเพียงแค่ที่เดียวแมคเคนซีก็ยืนยันที่จะไป ในใจก็หวังว่าน้ำตกจะสวยสมกับที่เขาใช้เวลาขับรถมานาน

เมื่อมาถึงก็อึ้งไปนิดหน่อย น้ำตกภูซางที่พวกเขามาถึงนั้นเป็นน้ำตกชั้นเดียวแต่น้ำก็ใสสะอาดจนเห็นพื้นเบื้องล่าง ที่ด้านหน้าน้ำตกเป็นสนามหญ้าและมีร่มเงาจากต้นไม้ ส่วนฝั่งตรงข้ามกับสนามหญ้าร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม และห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยว ถือว่าเป็นจัดที่จัดมาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจอย่างแท้จริง

“นายจะลงไปเล่นน้ำตกไหม เมื่อกี้ฉันไปอ่านป้ายมา เขาเขียนว่าที่นี่เป็นน้ำตกน้ำอุ่นที่เดียวในประเทศไทยเลย”

หันมาถามอีกฝ่าย แม้ภาพที่เห็นจะไม่ได้งดงามดังที่คิดไว้ แต่ก็ยังมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจก็คือความใสและความอุ่นของน้ำนั่นเอง และตอนนี้แมคเคนซีก็อยากจะลองทดสอบความอุ่นของน้ำที่ว่านั้นด้วย



@Dean

“โอเค เดี๋ยวฉันตามไป”

เนื่องจากอ่านแผนการท่องเที่ยวของดีนมาล่วงหน้าถึงได้รู้ว่าวันนี้พวกเขาจะมาน้ำตกกัน แมคเคนซีจึงใส่กางเกงสามส่วนมาเพื่อลงน้ำโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้คิดจะลงไปแช่ทั้งตัวแบบอีกฝ่ายที่ตอนนี้ลงไปนั่งเล่นในน้ำแล้ว เขาเพียงแค่ถอดรองเท้าแล้วลงมาเดินเล่นแถวที่คนรักนั่งอยู่เท่านั้นซึ่งน้ำก็อุ่นสมคำโฆษณาจริง ๆ

“น้ำอุ่นดีนะ แต่ตอนแรกฉันนึกว่าจะเป็นน้ำตกที่เป็นชั้น ๆ แล้วก็สูงกว่านี้ซะอีก”

@Dean

“ฉันว่าน่าจะเพราะเป็นน้ำตกชั้นเดียว แล้วก็น้ำไม่ลึกเลยไม่อันตรายล่ะมั้ง”

เมื่อไม่อันตรายจึงเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและเล่นได้ตลอด ซึ่งก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้ว่าสถานที่อื่นปิดไม่ให้เข้าชมอย่างพวกเขาก็ยังพอเหลือที่ให้มาแบบไม่เสียเที่ยวบ้าง

“จบจากที่นี่ก็เข้าที่พักแล้วใช่ไหม วันนี้โปรแกรมน้อยเนอะ”

ดูเวลาแล้วก็ยังเห็นว่าเป็นช่วงบ่ายอยู่ พอมีเวลาให้นั่งเล่นตรงนี้อีกนาน หากว่าไม่เบื่อกันไปซะก่อน

@Dean

“รวมถึงเด็กชายดีนด้วยหรือเปล่า”

มองอีกฝ่ายที่นอนลอยตัวเล่นอย่างสบายใจ มือก็วักน้ำสาดใส่เบา ๆ ไปด้วย จนกระทั่งดีนเล่นจนพอใจพวกเขาก็พากันขึ้นจากน้ำ ในเมื่อไม่มีอะไรให้ดูต่อแล้วก็ได้เวลาออกจากที่นี่แล้วไปที่พักเสียที ต้องยอมรับเลยว่าตลอดทริปคนรักของเขาเลือกที่พักได้ค่อนข้างดี ทั้งอยู่ใกล้ใช้เวลาขับรถไม่นาน และบรรยากาศก็ดีอีกด้วย อย่างที่ที่พวกเขาเข้าพักวันนี้ก็เป็นแนวบ้านสวนฟาร์มสเตย์ ซึ่งก็คงเข้าทางคนจองที่ชื่นชอบสัตว์แบบดีน แต่ก็ไม่รู้ว่าอาการปวดท้องที่เจ้าตัวเป็นมาตั้งแต่เช้าจะทำให้เดินถ่ายรูปหรือเล่นกับสัตว์พวกนั้นไหวหรือเปล่า

@Dean

อาหารมื้อนี้หน้าตาแปลกสำหรับแมคเคนซีอีกแล้ว บางอย่างก็สีสันจัดจ้านจนน่ากลัวว่าจะมีรสจัดอีก แต่ดีนก็บอกคุณป้าเจ้าของที่พักไปแล้วว่าขอเป็นอาหารที่ไม่เผ็ด ก็หวังว่าคุณป้าจะใจดีทำตามความต้องการนั้น แล้วก็ต้องทำหน้างงเมื่อเจอประโยคภาษาไทยแบบรัว ๆ ใส่ พอชะโงกหน้าไปดูคำแปลที่ดีนใช้แอพแปลภาษาถึงได้รู้ความหมาย เขาเลยยกมือไหว้แบบเก้ ๆ กัง ๆ แล้วกล่าว “คอบขุ่นคราบ” ตาม

“เมื่อกี้เขาชมว่าพวกเราหน้าตาดีเหรอ”

แอบอยากรู้ขึ้นมาเลยว่าคำไหนที่แปลว่า ‘หน้าตาดี’ เผื่อว่าถ้าถูกชมอีกจะได้ขอบคุณ แล้วก็ถึงเวลาทานอาหารเย็นกันสักที อาหารพื้นเมืองที่ทานวันนี้อาจไม่ได้อร่อยจนร้องว้าว แต่ก็มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง พวกผักสดและผักต้มก็เข้ากันดีกับอาหารทุกจานทั้งยังช่วยลดรสจัดของอาหารได้ด้วย ถือว่าได้ลองรสชาติใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทานมาก่อน

เมื่อทานอาหารเสร็จก็ได้เวลาพักผ่อน แม้วันนี้ฝนจะไม่ตกแต่อากาศตอนกลางคืนก็ค่อนข้างเย็น พอหัวถึงหมอนได้ไม่ทันไรแมคเคนซีก็หลับสนิทไปแล้ว

@Dean


ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์  : ถ่ายรูปจังหวัดพะเยา
[2/5]
ตื่นรู้  +2 จากการพิชิต [ฮาร์ปี้] ครั้งแรก


@God

แสดงความคิดเห็น

205Thailand P.5 - พะเยา ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie “อืม เหมือนจะเป็นงั้นนะ ผัดกระเป๋าทำพิษแน่ ๆ”  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-8-11 14:02
โพสต์ 37945 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-8-11 11:23
โพสต์ 37,945 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-8-11 11:23
โพสต์ 37,945 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-8-11 11:23
โพสต์ 37,945 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-8-11 11:23

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
โพสต์ 2024-8-11 14:02:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Mackenzie ตอบกลับเมื่อ 2024-8-11 11:23
34. Wildly Peacock M
เมื่อวันใหม่มาถึง วันนี้เป็นวันที่พวกเขา ...

205
Thailand P.5 - พะเยา

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “อืม เหมือนจะเป็นงั้นนะ ผัดกระเป๋าทำพิษแน่ ๆ”

               เมื่อคืนดีนจู๊ด ๆ หลายรอบจนร่างเพลีย ดีที่เขาพกยาสามัญประจำบ้านมาอย่างเต็มพิกัดจึงทำให้อาการดีขึ้น กระนั้นเขาก็แทบจะต้องเข้าห้องน้ำทุกสองชั่วโมง

               “แต่ไม่ต้องห่วงฉันเที่ยวไหว”

               ชูสองนิ้วบอกคนรักให้ไม่ต้องเป็นห่วง ทั้งสองเดินไปที่รถก็พบร่องรอยของน้ำชื้นแฉะบนพื้น ฝนคงตกเมื่อคืนตอนดึก เมื่อวานเห็นฟ้าครึ้มมาทั้งวันดีชะมัดที่ไม่ตกตอนที่พวกเขากำลังเที่ยวอยู่ แต่เอาเป็นว่าอย่าประมาทแล้วพกเสื้อกันฝนติดเป้ไปด้วยก็ไม่เสียหาย

               ดีนตั้งพิกัดเดินทางที่จะไปในวันนี้ ถือว่าไปซึมซับธรรมชาติเต็ม ๆ ด้วยการไปอุทยานแห่งชาติสองแห่ง ‘อุทยานแห่งชาติแม่ปืม’ และ ‘อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง’ ใช้เวลาเดินทางไปถึงที่แรกในสองชั่วโมง

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “มี เมื่อคืนกินไปแล้ว เดี๋ยวค่อยกินอีกก็ได้ ตอนนี้ฉันยังฟิต” เบ่งกล้ามให้ดูทีนึงว่าฟิตจริง “ได้เลยที่รัก ถ้าปวดท้องจะรีบบอก”

               เท่าที่ดูจากแมพพวกเขาได้ขับรถผ่านตัวเมืองและอีกพักใหญ่ ๆ ถึงจะขึ้นเขา หวังว่าจะไม่ไปปวดท้องตรงช่วงนั้นนะ

               สองชั่วโมงผ่านไปก็มาถึงอุทยานแห่งชาติแม่ปืม อุทยานที่ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา เป็นจุดกำเนิดของลำน้ำสำคัญ คือ ลำน้ำแม่แก้ว และลำห้วยแม่ปืม อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ ‘อ่างเก็บน้ำแม่ปืม’ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีสำหรับการมาแคมป์ปิ้ง แต่ดีนและแมคเคนซียังเข็ดกับวันแรกที่เขากางเต็นท์นอนกันอยู่แล้วถูกก็อบลินรังควาน วันนี้ก็เลยแค่เช่าจักรยานขี่เล่นชมวิวรอบอ่างเก็บน้ำก็แล้วกัน

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ว้าว อดจกพุงน้องแมวเลย น่าเสียดายชะมัด”

               กล่าวออกมาอย่างเสียดาย ทั้งที่แถวนี้มีน้องแมวอยู่เยอะแยะแท้ ๆ ส่วนนกยูงคงต้องขอดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ แม้อยากเล่นกับสัตว์โลกมากแค่ไหนแต่นกยูงก็มีความเป็นสัตว์ป่ามากกว่าแมวเยอะ

               ขี่จักรยานกันมาได้สักพักโรคเก่าก็ออกอาการ

               “โอ๊ะ แมคซี่ ฉันปวดท้องอ่ะ”

               ดีนนิ่วหน้า เขารีบมองหาห้องน้ำของอุทยาน แถวนี้จะมีหรือเปล่านะ หรือต้องขี่กลับไปยังจุดทางเข้าอุทยาน ฉับพลันสายตาก็เห็นห้องน้ำตั้งอยู่ข้างหน้าลิบ ๆ เท่าที่สมองตัดสินใจเร็ว ๆ รีบปั่นไปข้างหน้าอาจจะดีกว่า

               “แมคซี่ เดี๋ยวฉันไปส้วมแป๊บ นายตามมานะ แต่ไม่ต้องรีบก็ได้” เขาบอกคนที่ขี่จักรยานมาข้าง ๆ พูดจบไม่ทันไรความรู้สึกเสียดท้องยิ่งคุกคามขึ้นหนัก “โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ฉันขอไปก่อนนะ”

               กล่าวจบชายหนุ่มผู้ท้องเสียก็รีบปั่นจักรยานชนิดที่เร็วอย่างกับแข่งโอลิมปิกไปที่ห้องน้ำสาธารณะข้างหน้านู้น เมื่อจอดเขาไม่ขึ้นขาตั้งด้วยซ้ำ ปล่อยจักรยานเช่านอนลงส่วนเจ้าตัวก็พุ่งเข้าไปในห้องน้ำทันใด

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “หืม? เสียงเหมือนมีคนร้อง?”

               เสียงจากด้านนอกห้องน้ำดังแว่วมาถึงข้างใน แต่ดีนไม่ได้เอะใจอะไรมากไปกว่านั้น เขาเล่นเกมมือถือไปพลางขณะที่ทำธุระส่วนตัวจนแล้วเสร็จล้างหน้าล่างตาถึงได้ออกมา สงสัยว่าน่าจะได้เวลาอัดยาแก้ท้องเสียเพิ่มอีกหนึ่งเม็ด

               ดีนออกจากห้องน้ำในสภาพเหงื่อซก แม้จะเพลียนิดหน่อยแต่บอกตัวเองว่ายังไหว แล้วเขาก็เห็นแมคเคนซีรออยู่หน้าห้องน้ำ

               “ไงแมคซี่ รอนานไหม?” ยิ้มถามคนรักก่อนจะสังเกตเห็นเศษหญ้าจำนวนน้อยติดกางเกง ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม “ไหงมีหญ้าติด อย่าบอกนะว่าขี่จักรยานล้ม”

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “จริงเหรอ แปลว่านายแวะถ่ายรูปเยอะเลยล่ะสิ”

               ดีนรับทิชชูมาเช็ดน้ำที่เพิ่งล้างหน้า อาการปู้ดป้าดของเขาเมื่อกี้ก็ไม่ได้ถือว่าแป๊บเดียว บวกกับที่เล่นเกมมือถือจบไปอีกสี่ถึงห้าด่านด้วย แล้วเฉลยก็ตามมาทำเอาเจ้าตัวอุทานเสียงหลง

               “มอนสเตอร์เหรอ!? นายหมายถึงก็อบลิน? แล้วเป็นอะไรไหม?”

               คนป่วยรีบสำรวจอาการของคนสบายดี ดูเหมือนว่าแมคเคนซีจะไม่ได้รับบาดแผลอะไรมากนอกจากหญ้าบางส่วนติดหลัง

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ฟังเหมือนฮาร์ปี้เลยแฮะ หรือว่าเป็นอสุรกายตัวอื่นที่อยู่ไทยแลนด์”

               ดีนกุมคางคิด ตอนที่ถามศิลา ทางนั้นบอกแค่ว่าอสุรกายที่ไทยไม่ค่อยเก่งแต่มีผีเยอะมากกว่า

               “มันพานายบินขึ้นฟ้าแล้วปล่อยลงมาเหรอ อันตรายน่าดู ดีนะที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก งี้เราต้องระวังตัวมากขึ้นแล้ว เผื่อจะมีพวกมันอยู่อีก ส่วนฉันตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว เมื่อกี้อัดยาเข้าไปอีกเม็ดน่าจะดีขึ้น งั้นเราทัวร์กันต่อเลย”

               เขายิ้มตอบอีกฝ่ายให้ไม่ต้องเป็นห่วงก่อนจะพากันไปขี่จักรยานกันเล่นต่อโดยเพิ่มระมัดระวัง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีตัวอะไรออกมานอกจากน้องแมวและน้องนกยูง

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “อื้อ แบบเจ๊ฮาร์ปี้น่ะ ฉันเองก็ไม่เห็นกับตาด้วย จะมีอสุรกายแบบอื่นที่เป็นผู้หญิงนกอีกไหมฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

               ตอนขี่จักรยานวนรอบกลับ ดีนเห็นอีกฝ่ายดูจะขวัญผวาเมื่อเจอนกยูงน่าดู หรืออสุรกายที่อีกฝ่ายเจอจะเป็นฮาร์ปี้สายพันธุ์นกยูงกันนะ

               ‘แบบนี้ก็สวยกว่าเจ๊ฮาร์ปี้น่ะสิ’

               ก็น่าจะอย่างนั้นเพราะว่าแม่ครัวที่ค่ายฮาล์ฟบลัดหน้างอตลอดเวลา

               ก่อนออกจากอุทยานพวกเขาทั้งสองแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านค้าหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ปืม วันนี้จะไม่ซ่ากินแต่อาหารรสอ่อนอย่างข้าวผัด เมื่อท้องอิ่มกันแล้วก็ขับรถต่อไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง โดยระหว่างทางดีนก็เผลอวูบไปนิดหน่อยจากการเสียเกลือแร่จากอาการท้องเสีย

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “หืม ถึงแล้วเหรอ ฉันหลับไปนานแค่ไหนกันเนี่ย”

               ชายหนุ่มขยี้ตาก่อนจะหยิบแว่นขึ้นมาใส่ สภาพร่างกายตอนนี้เรียกว่าใกล้เคียงกับปกติก็คงได้ ไม่ปวดท้องแล้วแค่เพลียนิดหน่อย

               ไฮไลท์ของดอยภูนางคือ ถ้ำผาแดง น้ำตกภูซาง และการชมทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้า แต่ตามแผนพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะตั้งแคมป์กันที่นี่จึงน่าจะไม่ได้ไปที่ภูชี้ฟ้า แต่การเที่ยวถ้ำและน้ำตกก็เหลือเฟือ ให้วันนี้เป็นวันเที่ยวน้อยบ้างเพราะโปรแกรมของวันต่อไปนี่เที่ยวฉ่ำแบบจุก ๆ

               แต่ปรากฏว่า…

               ถ้ำผา ถ้ำน้ำลอด ถ้ำน้ำดั้น และลานกางเต็นท์ปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง วันที่ 31 สิงหาคม

               จบข่าว.. วันนี้เที่ยวได้แค่ที่เดียว สร้างความผิดหวังแก่สองนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวต่างชาติไปตาม ๆ กัน

               “เอ่อ.. เอาไงดีล่ะ เหลือเที่ยวแค่น้ำตกที่เดียว… นายจะไปต่อไหมแมคซี่”

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ดูเป็นน้ำตกที่เฟรนลี่ดีนะ แถมยังไม่มีคนมาอีกด้วย วันนี้เราได้ยึดน้ำตกน้ำอุ่นนี่แล้ว”

               ดีนหัวเราะ ที่บอกว่าเป็นน้ำตกเฟรนลี่เพราะกระแสน้ำน้อย ๆ ที่แม้แต่ในหน้าน้ำก็มีน้ำตกไหลลงมาไม่ต่างกับใช้สายยางฉีดรดต้นไม้ ดูเหงาหน่อย ๆ แต่ในเมื่อมาแล้วก็ขอเล่นน้ำน้อยแหล่ะ เขาถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่งกางขาสั้นวางไว้บนสนามหญ้าก่อนจะค่อย ๆ จุ่มเท้าลงไปในน้ำที่มีอุณหภูมิเกือบเท่ากับร่างกาย จะว่าสบายก็สบายดี แต่ถ้าตอนนี้เป็นฤดูหนาวอาจจะดีกว่านี้ จากนั้นจึงลงไปนั่งจุ่มทั้งตัว

               “แมคซี่ นายก็ลงมาเล่นด้วยกันไหม?”

               โบกไม้โบกมือเรียกอีกฝ่ายที่ยังอยู่บนฝั่ง

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               เคลื่อนตัวในน้ำมาหาคนที่นั่งหย่อนขาแช่น้ำใกล้ ๆ

               “น้ำตกอื่นน่ะเป็นชั้น ๆ แต่ว่าปิดหมด” น้ำเสียงเจือด้วยความเสียดายนิดหน่อย “แต่ก็ยังดีที่น้ำตกตรงนี้เปิด เพราะอะไรกันนะ หรือว่ามันไม่ได้เชื่อมกับน้ำสายหลัก?”

               หากน้ำเป็นน้ำอุ่นคาดว่าตาน้ำมาจากใต้ดินในจุดที่มีกำมะถันอยู่ด้านล่าง แตกต่างจากน้ำตกอื่นที่เกิดจากสายน้ำป่าไหลผ่านลงมา

               “หรือไม่ก็ตรงนี้คนทำขึ้นมาเป็นออนเซ็น”

               ดีนกล่าวพลางกลั้วขำ ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งเจอข่าวน้ำตกปาหี่ที่จีนจะเจออีกที่ก็คงไม่แปลก แต่เขาเชื่อว่าของไทยไม่ได้เป็นแบบนั้น

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ก็จริง น้ำตื้นแบบนี้เด็กเล่นได้ด้วย”

               จู่ ๆ ก็นึกถึงค่ายฮาล์ฟบลัดขึ้นมา ที่นั่นอุดมไปด้วยธรรมชาติทว่าไม่มีน้ำตก หรือไม่ก็อาจมีอยู่ในป่าต้องห้ามที่ดีนไม่คิดจะแหยมเข้าไปหากไม่มีเหตุจำเป็น

               “ใช่ จากนี่ก็จบแล้ว ถือเป็นวันเที่ยวสบาย ๆ แล้วกันนะ”

               นอนลอยตัวอ้าแขนบนผิวน้ำท่าปลาดาว ได้ปล่อยใจชิล ๆ ไม่ต้องรีบเร่งให้ตรงกำหนดการแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               หลังจากปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสายน้ำก็ได้เวลาพักผ่อน ณ ฟาร์มสเตย์

               ที่พักคืนนี้บรรยากาศดีร่มรื่น แม้อาจไม่ได้มีสัตว์เยอะเหมือนกับฟาร์มสเตย์ที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มได้ชาร์จพลังงานกับไก่และแมวที่ทางฟาร์มสเตย์ได้เลี้ยงไว้ ตอนแรกดูจากที่พักตอนจองยังเห็นแมวในภาพเป็นลูกแมวอยู่เลย แต่พอมาเจอตัวเป็น ๆ แมวสองตัวนั้นกลายเป็นแมววัวตัวอ้วนตุ้บไปแล้ว

               ป้าเจ้าของฟาร์มสเตย์มาถามว่ามื้อเย็นจะกินอะไรกันดี ด้วยความที่รู้จักอาหารไทยยังไม่มากดีนจึงรีเควสอาหารเหนือไปแต่เน้นว่าขอไม่เผ็ด เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารสำรับอาหารเหนือก็ถูกยกมาวางไว้ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก ดูเป็นอาหารง่าย ๆ ที่ชาวบ้านปกติทั่วไปกินกันดีเหมือนกัน… มั้ง



               “ข้าวแลงวันนี้ ป้าฮื้อ ลาบคั้ว น้ำพริกหนุ่ม แกงฮังเล ผักลวก แล้วก่จิ๊นส้มหมกไข่มา ฮื้อกิ๋นกันเน้อ บ่เผ็ด กิ๋นข้าวกั๋นหื้ออร่อยเน้อป้อจายงาม” (ภาษาไทย)

               “คอบขุนขราบ”

               ดีนตอบกลับเป็นภาษาไทยพร้อมกับรอยยิ้มให้ป้าเจ้าของโฮมสเตย์ จากคำแปลที่ขึ้นในแอปแปลภาษาดูเหมือนว่าป้าจะชมพวกเขาด้วยนะ

               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie

               “ใช่ ป้าอาจจะชมแค่ฉันก็ได้นะ”

               ยิ้มทะเล้นให้อีกฝ่าย แต่เขาก็รู้อยู่แหล่ะว่าป้าแกน่าจะชมทั้งคู่ แถมได้ยินมาว่าเบ้าหน้าแบบแมคเคนซีคือสเป็คสาวไทยเลยแหล่ะ

               แม้น่าเสียดายที่วันนี้ไม่สุขภาพลำไส้ไม่ค่อยดีและสถานที่ท่องเที่ยวไม่ค่อยเปิด แต่ให้ถือเป็นวันขับรถลงใต้แบบชิล ๆ ก็ได้ ซึ่งดีนเริ่มตั้งข้อสังเกต ทำไมเวลาที่เขาท้องไส้ไม่ค่อยดีแมคเคนซีชอบถูกอสุรกายรังแกกันนะ? หรือพวกมันติดตามเขามาตลอดแต่ไม่กล้าเข้าหาเพราะว่าดีนเป็นเดมิก็อดเลเวลสูงกันแน่

               เอาเป็นว่าจากนี้คงต้องระมัดระวังมากกว่านี้ แล้วบางทีเขาอาจจะพาแมคเคนซีเข้าส้วมไปด้วย…. หมอนั่นคงยอมหรอก

               หลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว นั่งชิล ๆ กับบรรยากาศยามเย็น อาบน้ำอาบท่าแล้วก็เข้านอน เผื่อแรงเที่ยวสำหรับวันพรุ่งนี้ที่ตารางเที่ยวน่าจะแน่นมาก

@God



แสดงความคิดเห็น

206Thailand P.6 - ลำปาง โปรแกรมทัวร์ของจังหวัดลำปางมีเยอะกว่าจังหวัดอื่น ตอนที่ดีนจัดตารางเขาพบสิ่งที่  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-8-16 23:59
โพสต์ 34379 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-8-11 14:02
โพสต์ 34,379 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-8-11 14:02
โพสต์ 34,379 ไบต์และได้รับ +5 EXP +9 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2024-8-11 14:02
โพสต์ 34,379 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-8-11 14:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-8-16 23:59:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-8-11 14:02
205Thailand P.5 - พะเยา
               ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie
   ...

206
Thailand P.6 - ลำปาง

               โปรแกรมทัวร์ของจังหวัดลำปางมีเยอะกว่าจังหวัดอื่น ตอนที่ดีนจัดตารางเขาพบสิ่งที่น่าสนใจในจังหวัดนี้มากมายจนตัดใจตัดสถานที่ใดออกจากโปรแกรมไม่ได้เลย การท่องเที่ยวลำปางจึงจำเป็นต้องแบ่งออกเป็นสองวัน

               พวกเขาออกเดินทางจากจังหวัดพะเยาในช่วงเวลาเดิม ๆ เช่นทุกวัน แต่เส้นทางการขับรถวันนี้ยาวนานกว่าวันอื่น ๆ กว่าพวกเขาจะมาถึงจังหวัดลำปางก็ปาไปเที่ยงวัน ตามโปรแกรมสถานที่แรกที่พวกเขาจะไปเยือนก็คือ ‘บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน’ ตามข้อมูลเห็นบอกว่าชาวไทยนิยมเอาไข่ไปต้มที่บ่อน้ำร้อนแล้วรับประทานจะได้รสชาติที่แตกต่างจากการต้มน้ำปกติ ดีนและแมคเคนซีจึงตั้งใจว่าจะไปหามื้อเที่ยงกินกันที่บ่อน้ำร้อนเลย

               ขอแทรกนิดหน่อย… หากจะกล่าวถึงอาการปวดท้องของดีนบอกเลยว่าตอนนี้หายเป็นปลิดทิ้ง จนแอบคิดว่าสมมุตฐาน ‘ดีนท้องเสียแมคซี่โดนตืบ’ จะเป็นเรื่องจริง

               กลับเข้าเรื่องกันต่อ…

               นอกจากที่แห่งนี้มีอาหารขึ้นชื่อเป็นไข่ต้มบ่อน้ำพุแล้วยังมีห้องอาบน้ำร้อนไพรเวทเหมือนออนเซ็นส่วนตัวที่สายน้ำส่งตรงจากบ่อน้ำพุเชื่อมผ่านมาถึงอีกด้วย ไหน ๆ แล้วได้แช่น้ำร้อนคลายเส้นน่าจะดีเหมือนกัน และก็น่าจะดีสำหรับคนขับรถด้วย แต่ก่อนอื่นเดินชมรอบ ๆ บ่อน้ำพุร้อนก่อนดีกว่า พวกเขาซื้อไข่ไก่ใส่กระชอนน้อยที่หน้าทางเข้ามาด้วยกะว่าจะมาต้มที่บ่อน้ำร้อนเลย เมื่อเข้ามาถึงก็เห็นควันร้อน ๆ โพยพุ่งออกมาจากบ่อน้ำโขมงโฉงเฉง



               “โอ้โห ที่นี่อย่างกับเป็นมินิเยลโลสโตนเลยแฮะ”

               @Mackenzie

               “ไม่เคย แต่ว่าอยากไปอยู่นะ ถ้าได้ไปไอดาโฮเราไปกันไหม?”

               ดีนส่ายหน้า เขาไม่รู้ว่าตนจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเยลโลสโตนเมื่อไร แม้ว่าบ้านเกิดของเขา…เท็กซัส จะอยู่ทางด้านตะวันตกของอเมริกาเช่นเดียวกับสถานที่ตั้งของเยลโลสโตน ทว่าเท็กซัสอยู่ทางใต้แล้วไอดาโฮอยู่ทางเหนือเนี่ยสิ เรียกได้ว่าโคตรจะไกลกันเลย จากเสียงลือเสียงเล่าอ้างของคนที่เคยไปเยลโลสโตนบอกว่า ‘เมื่อได้กลับมาเราจะกลายเป็นคนใหม่จากธรรมชาติบำบัด’ ดีนอยากรู้ว่ามันจะจริงขนาดนั้นเลยเหรอ เอาจริงการได้ไปอยู่ค่ายฮาล์ฟบลัดและใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่สะดวกก็เปลี่ยนเขาเป็นคนใหม่ได้มากโขแล้วนะ

               “เพื่อสุขภาพฉันว่าเราต้มไข่กินกันก่อนดีกว่า จากนั้นอีกสามสิบนาทีค่อยไปแช่ออนเซ็นกัน”

               ดีนให้คำแนะนำก่อนจะเดินไปยังป้ายบอกทางว่าเป็นจุดต้มไข่ อันที่จริงเขาเห็นนักท่องเที่ยวไทยหลายคนต้มไข่ที่จุดอื่น ๆ แต่ว่าเขาเลือกที่จะทำตามป้ายดีกว่า คิดว่าไม่ใช่เพราะกฎระเบียบ แต่ทำไปเพราะความอร่อย

               “มีบอกเวลาด้วย 7-10 นาที ได้ไข่ลวก 10-15 นาที ได้ไข่ต้มยางมะตูม ส่วนถ้าจะเอาสุกทั้งลูกให้ต้ม 15-20 นาที นานเหมือนกันแฮะ งั้นเราต้มไข่ทิ้งไว้แล้วไปเช่าเสื่อมานั่งเล่นแถวนี้ไหม?”

               ไม่ไกลจากลานตรงนี้เขาเห็นพ่อค้าให้บริการเช่าเสื่อ ขายน้ำ ขายข้าวอยู่พอดี

               @Mackenzie

               “แน่นอนที่รัก”

               ดีนรับปากแม้ว่าเขาจะรู้จักถนนหนทางในซานอันโตนีโอดีแต่นอกจากนั้นคงต้องคลำทางกันหน่อย แต่คงไม่มีอะไรให้เป็นห่วงหรอก พวกเขาเดินทางไกลมาถึงนี่ยังได้เลยนี่นา แค่อาจต้องผจญกับอสุรกายเก่งกาจเสียหน่อยระหว่างทาง

               “เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตแล้วก็การย่อยอาหารน่ะ เราไม่ควรกินอาหารแล้วอาบน้ำในทันที ควรจะเว้นช่วงไว้อย่างต่ำครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ไม่งั้นอาหารอาจจะไม่ย่อยแล้วก็ปวดท้องได้น่ะ”

               ชายหนุ่มหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายไข่ต้มในบ่อน้ำพุร้อน น่าจะเป็นภาพหายากที่หาจากเยลโลสโตนไม่ได้แน่ ๆ ก่อนจะผลักใบหน้าออกมามองไข่ในกระชอนพลางคิดว่าแค่นี้จะพอกินไหมน้อ แต่ถ้าซื้อมากก็กลัวจะกินไม่หมดอีก


               “ฉันขอเป็นไข่ลวก กับยางมะตูมก็แล้วกันนะ งั้นนายเฝ้าไข่ไว้ เดี๋ยวฉันไปเช่าเสื่อกับซื้อน้ำ นายจะเอาน้ำอะไรก็บอก”

               @Mackenzie

               “ได้เลยที่รัก”

               เมื่อรับออเดอร์มาแล้วดีนก็ปล่อยให้แมคเคนซีต้มไข่ส่วนตัวของเขาเองไปซื้อน้ำและเช่าเสื่อ ตรงนี้คนเยอะแมคเคนซีคงไม่ถูกอสุรกายโจมตีที่คลาดกัน อย่างน้อยก็ไม่มีลางบอกเหตุจากอาการปวดท้องแจ้งเตือน.. ให้ตายสิ นี่เขาทิ้งความเป็นวิทยาศาตร์ของตัวเองไปไว้ที่ไหนหมดกันนะ! เห็นว่าตรงนั้นมีขายข้าวเหนียวห่อใบตองมาด้วยก็เลยซื้อมาสองห่อเพราะคิดว่ากินแค่ไข่ต้มไม่น่าจะอิ่มแน่ ๆ เสร็จแล้วก็เดินกลับมา

               “ฉันกลับมาแล้ว ไข่ลวกพร้อมกินหรือยัง”

               ถามไปงั้น ๆ เขารู้ว่าตัวเองไปซื้อของใช้เวลาไม่ถึงเวลาที่ไข่จะสุกดีหรอก เจ้าตัวปูเสื่อรอไว้ที่ข้างสนาม

               “อยากผลัดเวรกันเฝ้าไข่ก็บอก”

               @Mackenzie

               “งั้นก็ต้มให้อร่อย ๆ นะ”

               ใช้เวลาไม่นานก็ปูเสื่อเสร็จ ดีนจัดอาหารทุกอย่างที่ซื้อมาไว้กลางวง เครื่องดื่มของแมคเคนซีคือน้ำเปล่า ส่วนของเขาคือน้ำอัดลมรสส้มในขวดพลาสติกเล็กที่แช่ในถังน้ำแข็งมาอย่างชุ่มฉ่ำ

               @Mackenzie

               ดูเหมือนว่าข้าวเหนียวห่อใบตองที่ซื้อมาจะไม่ได้มีแค่ข้าวเหนียวแฮะ แต่ว่ามีเนื้อสัตว์ฝอยรสหวานโปะหน้ามาด้วย คาดว่าน่าจะเป็นหมูเพราะเหมือนคนไทยจะชอบกินหมู แบบนี้ก็ดีเลย

               ไข่ต้มที่ต้มจากบ่อน้ำพุร้อนให้ความแตกต่างจากไข่ต้มทั่วไปที่เคยกิน น่าจะด้วยอุณหภูมิการต้มที่สม่ำเสมอตลอดเวลาและแร่ธาตุจากน้ำแร่ธรรมชาติที่ซึมเข้าไปจนไม่น่าเชื่อว่ากินแค่ไข่ลวกอย่างเดียวก็อร่อยได้

               “ดีเยี่ยม ความสุขถูกใจฉันเลย”

               หลังจากที่พวกเขารับประทานอาหารกลางวันกันจนอิ่มแล้วก็เดินเล่นรอบ ๆ บ่อน้ำพุร้อน ดูโซนต่าง ๆ ทั้งบ่อน้ำที่เป็นสีเทอควอยซ์จากแร่ธรรมชาติ รวมถึงน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นจากพื้นด้วยแรงดันสูง เดินไปตามทางเดินชมป่าเที่ยวชมน้ำตกแจ้ซ้อนที่มีจำนวนถึงหกชั้นคราวนี้พวกเขาไม่ได้เล่นน้ำทว่าเก็บภาพสวย ๆ กันไว้มากมาย



               ซึ่งกว่าจะวนลงมาถึงด้านล่างก็ผ่านไปเกินครึ่งชั่วโมงอาหารคงจะย่อยดีแล้ว พวกเขาถึงได้เตรียมตัวแช่น้ำร้อนตามที่ตั้งใจไว้ในห้องอาบน้ำแบบส่วนตัว เมื่อล้างตัวกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาจุ่มตัวลงไปในน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณสี่สิบองศาเซลเซียส ความร้อนที่ได้รับกลับผ่อนคลายเส้นสายที่ปวดตึงให้ได้คลายออก อยากจะแช่นาน ๆ ชะมัด แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ควรแช่น้ำร้อนนานเกินสี่สิบนาทีไม่อย่างนั้นจะเกิดอาการหน้ามืดได้

               “เฮ้อ สบายชะมัด ไม่คิดเลยว่าการแช่น้ำร้อนจะดีขนาดนี้”

               ดีนยืดเส้นสายอย่างสบายตัวหลังออกจากห้องอาบน้ำร้อน ตอนนี้เขาเหมือนได้ร่างกายใหม่ที่สดชื่นขึ้นกว่าเดิม

               @Mackenzie

               “ปกติไม่เคยแช่น้ำร้อนขนาดนี้มาก่อนเลย งั้นเอาไว้โรงแรมไหนที่มีอ่างอาบน้ำเราทำน้ำร้อนแช่กันดีไหม?”

               แต่โรงแรมที่ไทยไม่ค่อยมีอ่างอาบน้ำในโรงแรมเนี่ยสิ คงต้องไปพักที่หรู ๆ หน่อยถึงมีอ่างอาบน้ำ ซึ่งเขาก็เลือกไม่ได้มากขนาดนั้น

               “ใช่ ตรงนี้ครบจบหมดแล้ว ต่อไปก็.. เหมือนจะขึ้นเขานิดหน่อยนะ”

               หยิบสมาร์ทโฟนออกมาเลื่อนดูแผนเดินทางต่อไปคือ ‘วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์’ ที่ถือเป็นหนึ่งสถานที่โปรโมทว่า ‘คุณจะไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้จากที่ไหนมาก่อน’ อีกด้วย

               ทั้งสองกลับไปที่ลานจอดรถจากนั้นก็ขับไปต่อยังที่หมายต่อไปตามจีพีเอส จนเมื่อมาถึงดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องนั่งรถประจำทางของไทยที่ชื่อว่า ‘รถแดง’ เพื่อขึ้นไปวัดอีกทีนึง..

               “ต้องใช้บริการรถรับส่งของทางวัดจากบริเวณลานจอดรถไปอีกประมาณสามสิบนาทีแล้วต่อด้วยการเดินเท้าขึ้นบันไดไปอีกราว ๆ สามร้อยขั้นด้านบน” ดีนอ่านคู่มือที่เขาหามาให้ฟัง “รู้สึกว่าที่นี่จะไม่มีกระเช้าเหมือนวัดที่เชียงใหม่นะ แต่ตอนนี้เราฮีลร่างกายมาพร้อมแล้วน่าจะไหวเนอะแมคซี่”

               ถ้าอีกฝ่ายไม่ตกลงขึ้นไปสงสัยว่าพวกเขาจะทำได้เพียงแค่มองยอดแหลม ๆ บนหน้าผาจากด้านล่าง ซึ่งมันสวยไม่เท่าวิวจากด้านบนหรอก

               @Mackenzie

               แปลกชะมัด ‘รถแดง’ ควรจะเป็นรถสีแดงใช่ไหม แต่ว่ารถที่รับพวกเขาขึ้นไปที่วัดกลับเป็นรถกระบะสีดำ ส่วนรูปลักษณ์ก็ตามที่แมคเคนซีอธิบายไป ด้วยความสงสัยเจ้าตัวถึงกับค้นหาข้อมูลระหว่างการนั่งรถขึ้นเขาจนได้ความมาว่า ส่วนใหญ่รถรับจ้างลักษณะนี้จะเป็นสีแดงเพื่อให้ผู้โดยสารที่รอโบกขึ้นรถข้างทางเห็นว่ามี ‘รถแดง’ วิ่งมาแต่ไกล ส่วนรถรับจ้างที่ไม่ได้เป็นสีแดงแปลว่าไม่ได้เป็นรถประจำทาง แต่เป็นรถรับจ้างเฉพาะกิจ แล้วเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า

               ‘ตูมานั่งเสิร์จหาอะไรเป็นจริงเป็นจังวะเนี่ย’

               เมื่อมาถึงจุดหมายบันไดกว่าสามร้อยขั้นก็รออยู่ตรงหน้า แต่ทางขึ้นไปยังเจดีย์ลอยฟ้าแตกต่างจากทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพที่จะตรงแหน่วขึ้นไป แต่สำหรับที่นี่เป็นเส้นทางเดินเขาที่เดินวนขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นบันไดบ้าง ทางเนินบ้าง บางจุดก็เดินขึ้นได้อย่างสบาย บางส่วนก็ต้องปีนไต่หินขึ้นไป ส่วนทิวทัศน์รอบ ๆ ก็เป็นป่าไม้คล้ายกับไฮกิ้ง ถือว่าเดินเล่นเพลิน ๆ ไม่ทันได้เหนื่อยมากก็ถึงยอดเขา

               สิ่งที่พวกเขาได้เห็นอยู่ตรงหน้าสมแล้วกับคำโฆษณาที่ว่า ‘เมืองไทยที่ไม่เคยเห็น’ เจดีย์สีขาวน้อยใหญ่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้ามีมากกว่าสิบองค์ พวกเขาเดินขึ้นไปอีกหน่อยเพื่อไปถึงศาลาจุดชมวิวที่อยู่ในจุดสูงสุด ภาพที่เขาเห็นอย่างกับฉากหนังแฟนตาซีสไตล์ไทยแลนด์ แอบรู้สึกเสียดาย หากพวกเขามีโดรนน่าจะถ่ายภาพมุมสูงได้สวยกว่านี้ แต่ด้วยความงามที่อยู่ตรงหน้า ทั้งวิวเมืองเบื้องล่างและวิวเจดีย์ด้านบนก็ทำให้พวกเขาหายเหนื่อย



               @Mackenzie

               เห็นอีกคนหอบแฮกก็ได้แต่อมยิ้ม สงสัยว่าพอได้กลับไปที่ค่ายฮาล์ฟบลัดคงต้องพาแมคเคนซีไปบริหารปอดด้วยการวิ่งจ็อกกิ้งและว่ายน้ำ

               “พักเหนื่อยก่อน เรามีเวลานั่งเล่นครึ่งชั่วโมงก่อนที่นี่จะปิด”

               ขาลงเขาคงไม่ใช้เวลามากเท่าตอนขึ้นมา ดีนส่งขวดน้ำดื่มพกพาให้แก่แมคเคนซี ส่วนเขาก็เก็บภาพบรรยากาศของสถานที่ที่หาดูได้ยากเอาไว้เต็มกล้อง ตอนนี้ผ่านการทำภารกิจมาได้ครึ่งทางแล้ว เมโมรี่ที่ซื้อไว้ก็มีไฟล์อยู่ในนี้เกินครึ่งมานิดหน่อย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ถ่ายวีดีโอเก็บไว้น่าจะดี

               “ไฮฮายทุกคน ตอนนี้ฉันอยู่ไทยแหล่ะ ก็ถ้าเห็นวล็อกนี้คงรู้กันอยู่แล้ว ฉันมีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำให้รู้จัก อยู่ที่ลำปาง ภาคเหนือของไทย ต้องเดินขึ้นเขามาครึ่งไมล์ถึงจะได้เจอวิวแบบนี้ โคตรคุ้มค่า สวยมาก ๆ แล้วยังมีเสียงที่เรียกว่าอะไรนะ… กระดิ่ง? ทำจิตใจสงบมากเลย”

               เล่นกล้องอยู่พักหนึ่ง ถ่ายนั่นถ่ายนี่จนหายเหนื่อยก็มองเวลา

               “ได้เวลาลงเขาแล้วแมคซี่ พร้อมหรือยัง?”

               @Mackenzie

               ดีที่ก่อนหน้านี้ได้แช่บ่อน้ำแร่ฟื้นฟูร่างกายมาก่อนไม่อย่างนั้นการเดินขึ้นลงยอดเขาต้องทำให้หอบลิ้นห้อยแน่ ๆ (ความจริงก็เหนื่อยนิดนึง)

               พวกเขาเดินทางเข้าตัวเมืองแล้วเช็คอินเข้าโรงแรม วันนี้ที่พักเป็นในรูปแบบของโรงแรมง่าย ๆ ไม่ใช่รีสอร์ทหรือโฮมสเตย์อย่างเช่นทุกวัน แม้จะไม่ได้สูดกลิ่นอายธรรมชาติก่อนเข้านอนและตอนตื่นเช้า แต่ก็อยู่ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของเมืองทางตอนเหนือที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก เมื่อได้พักเก็บของกันเล็กน้อยก็ได้เวลาหามื้อเย็นที่ ‘กาดกองต้า’

               กาดกองต้า ถือเป็นถนนคนเดินและตลาดเก่าแก่แห่งหนึ่งของลำปาง คำว่า ‘กาด’ แปลว่า ตลาด ส่วน ‘กองต้า’ หมายถึง ตรอกท่าน้ำ แน่นอนว่าตลาดแห่งนี้จึงตั้งติดริมลำน้ำวัง สมัยก่อนคือจุดการค้าสำคัญของคนในภูมิภาค สถาปัตยกรรม ณ กาดกองต้าจึงผสมผสานระหว่าง ไทย จีน พม่า อินเดีย รวมถึงชาติตะวันตก อย่างเช่นจุดแลนด์มาร์กที่เห็นอยู่เบื้องหน้า



               หลังจากที่ดีนพล่ามข้อมูลที่เขาหามาจากอินเทอร์เน็ตให้คนขับรถได้ฟังแล้วก็มาถึงตลาดตรอกท่าน้ำพอดี และเวลาแห่งการหาของกินก็ได้เริ่มต้นขึ้น

               “แถวนี้ของกินเยอะดีนะ ดูแล้วน่าจะเยอะกว่าที่ปายซะอีก”

               ดีนกวาดสายตามองรอบ ๆ อย่างสนใจ กาดกองต้าอยู่คู่บ้านคู่เมืองลำปางมาตั้งแต่โบราณจริงแท้แน่นอนเพราะคราคร่ำไปด้วยคนเดินถนนที่เป็นคนไทย ไม่ใช่จุดแลนด์มาร์กที่สร้างขึ้นสำหรับดึงดูด ‘ฝรั่ง’ อย่างพวกเขา พวกของที่ระลึกการท่องเที่ยวจึงน้อยตาม

               “ร้านนั้นขายอะไรน่ะคนต่อแถวอย่างเยอะ ไปดูกัน”

               ร้านที่คนรอคิวเยอะแปลว่าอร่อย ไหน ๆ มาต่างประเทศแล้วจะพลาดของอร่อยจากไทยแลนด์ได้อย่างไร เขาเห็นคนไทยซื้ออาหารชนิดนี้ที่อยู่บนใบไม้กลับไปเป็นจำนวนมาก บางคนก็ซื้อไปสิบหรือยี่สิบห่อ อร่อยขนาดนั้นเชียว?

               “ใช่จิ๊นส้มไข่อะไรนั่นที่เราเคยกินกันหรือเปล่านะ?”



               คงเห็นว่ามีฝรั่งเก้ ๆ กัง ๆ ท่ามกลางฝูงชน แม่ค้าที่ขาย ‘ไข่ป่าม’ จึงตะโกนพูดคุยกับทั้งสองด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงไทยแลนด์

               “ไง รูปหล่อ ซื้อ ‘ไข่ป่าม’ ไหม กระทงละห้าบาท”

               ทำเอาดีนหันไปมองหน้าแมคเคนซีเลิกลั่ก แต่ถูกทักแบบนี้แล้วก็คงต้องตอบ

               “ครับ” ชายหนุ่มตอบกลับ “เอาเท่าไรดีแมคซี่ ต้องซื้อเยอะ ๆ หรือเปล่านะ?”

               จะว่าไปกระทงนึงก็ติ๊ดเดียว ที่ซื้อกันเยอะเพราะว่ามันน้อยด้วยนี่แหล่ะ
               
               @Mackenzie

               ถ้าแมคเคนซีซื้อสองกระทงงั้นเขาลอกการบ้านบ้าง แต่ก็รู้สึกว่าอยากจะลองแบบต้นตำหรับที่คนไทยเขากินกัน

               “ใส่พริกสักกระทงคงไม่เป็นไรมั้ง” เขาบอกแมคเคนซีพร้อมกับยิ้มหวานให้ก่อนจะหันไปสรุปยอดกับแม่ค้า “เอาแบบไม่เผ็ดสามอันครับ แล้วก็แบบเผ็ดหนึ่ง”

               ระหว่างพูดก็ชูนิ้วด้วย ใช้ภาษามือประกอบจะได้เข้าใจกันง่าย ๆ

               “โอเค งั้นรออีกสิบนาทีค่อยมาใหม่ ไปเดินเล่นกันก่อนได้เลย”

               คำตอบของแม่ค้าสร้างความฉงนแก่พวกเขาทั้งคู่ แต่เท่าที่สังเกตดูคนไทยบางคนก็สั่งอาหารไว้แล้วก็เดินจากไปไม่รับของเงินก็ไม่จ่าย แล้วก็มีบางคนเหมือนกันที่มารับของจ่ายเงินโดยไม่สั่งออเดอร์ อาจเพราะการปิ้งไข่ป่ามต้องใช้เวลาล่ะมั้ง

               “เอ่อ งั้นจ่ายเงินก่อนหรือว่า?”

               “อะไรนะ? ค่อยจ่ายตอนมารับของ” แม่ค้าดูจะงงกับศัพท์ที่ไม่ค่อยคุ้นหู แต่ได้ยินคำว่า ‘เงิน’ เธอก็พอจะเดาได้ว่าหนุ่มต่างชาติหมายถึงอะไร ถือว่าไหวพริบดีใช้ได้

               “โอเค.. งั้นเดี๋ยวมาครับ”

               ถึงจะงง ๆ แต่ก็ตามน้ำแบบชาวไทย ยังไงเงินก็ยังไม่ได้จ่ายนี่นา ดีนกับแมคเคนซีจึงเดินปลีกออกมาไม่ให้เกะกะหน้าร้าน

               “วัฒนธรรมคนไทยเหรอ แปลกดี งั้นเราไปหาอย่างอื่นกินกันก่อน สิบนาทีค่อยกลับมา”

               @Mackenzie

               “หืม อะไร เรียกพวกเราเหรอ?”

               หันกลับไปมองอย่างงุนงง ก็คงจะเป็นอย่างนั้น ดูเหมือนว่าแม่ค้าอยากให้พวกเขาชิมอะไรบางอย่างรูปทรงแบน ๆ ทอดกรอบ ในเมื่อบอกให้ลองชิมเขาก็ไม่ขัดศรัทธา



               “คอบขุ่นขรับ”

               ดีนกล่าวขอบคุณภาษาไทยก่อนจะหยิบขนมอันนั้นขึ้นมาดูใกล้ ๆ มันทำจากข้าวเอาไปทอดกรอบ ส่วนกลิ่นเขาได้กลิ่นหอม ๆ เย็น ๆ แต่เดาไม่ออกว่าคืออะไร เมื่อวิเคราะห์รูปและกลิ่นจนพอใจเขาจึงลองนำมันเข้าปากชิมดู ความอร่อยของขนมชนิดนี้คือความกรอบร่วนไม่แข็งกระด้าง และน้ำตาลที่ราดอยู่บนหน้าที่ไม่หวานจนเกินไป จะว่านั่นคือคาราเมลก็ไม่เชิง เหมือนจะเป็นน้ำตาลกับอะไรบางอย่าง

               “อร่อยแฮะ แต่คาราเมลรสชาติแปลกจัง” หันไปคุยกับแมคเคนซีแต่แม่ค้าชิงตอบ

               “ทำจากแตงโม วอเตอร์เมล่อนคาราเมล”

               “ห๊ะ แตงโมเนี่ยนะ!” พอรู้วัตถุดิบก็ทำเอาตกใจ เขาไม่คิดว่าแตงโมเอามาทำคาราเมลได้ด้วย “ว่าแต่อร่อยดีนะ ซื้อไปกินระหว่างตอนนั่งรถดีไหม?”

               ดูท่าทางคนรักจะชอบด้วย จะว่าไปก็แปลก ก่อนหน้านี้แมคเคนซีไม่ค่อยโปรดปรานขนมหวาน แต่พอมาไทยแล้วโดนขนมไทยตกเอา ๆ หรือหมอนี่จะไม่ชอบขนมที่ทำจากเนยนมกันแน่นะ

               @Mackenzie

               “ได้สิ งั้นฉันขอด้วยแล้วกัน” แล้วจู่ ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้จนทำให้เขาล่กยกมือกุมหัว “โอ้ตายล่ะ! ฉันลืมวันเกิดน้องไปเลย อวยพรย้อนหลังเธอจะโกรธหรือเปล่าเนี่ย!”

               รีชาชอบตุ๊กตา สงสัยว่าเขาจะต้องซื้อตุ๊กตาสไตล์ไทยไปฝากน้องซักหน่อยแล้วไหมนะ

               หลังจากที่พวกเขาซื้อข้าวแต๋นน้ำแตงโมกันเสร็จจากมือที่ว่าง ๆ ก็เต็มไปด้วยถุงหิ้วแต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องมากไปกว่าขนมที่เพิ่งไปชิมมา พวกเขาจึงแวะร้านข้างทางซื้อนั่นซื้อนี้ที่น่าสนใจกินจุ๊บจิ๊บก่อนจะกลับไปที่ร้านขายไข่ป่าม





               แต่เมื่อไปถึงร้านจากไข่ป่ามที่สั่งไว้สี่อันกลับได้มาหกอันซะอย่างนั้น พอจะอ้าปากบอกว่าน่าจะผิดแม่ค้าก็อู้กำเมืองผสมภาษาอังกฤษใส่

               “ป้าแถมฮื้อคนหล่อ ฟรี ทู ฟอร์ แฮนซั่ม ย่านกิ๋นบ่าฮิม”

               ได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ อย่างไม่เข้าใจ แต่เหมือนเธอจะหมายความว่า ‘แถมให้สองอัน’ นะ แล้วก็ชมว่าหล่อ นี่สินะพรีวิเลจของคนหน้าตาดี พ่อเคยเล่าให้ฟังว่าคนไทยชอบชาวตะวันตกโดยฝรั่งหล่อ ๆ ได้ของฟรีแบบนี้ก็ดีไปเลย!

               “โอ้ คอบขุ่นขราบบบ” ดีนยิ้มหวานให้แม่ค้า เขารับถุงไข่ป่ามมาก่อนจะให้แมคเคนซีจ่ายเงินให้เสร็จแล้วเดินปลีกออกมา “ของกินแค่นี้พอหรือเปล่า อยากซื้ออะไรเพิ่มอีกไหมที่รัก?”

               @Mackenzie

               “โอเค งั้นกลับโรงแรมกัน แล้วพรุ่งนี้ลุยกันต่อ”

               แต่ก่อนอื่นต้องชิมอาหารในกระทงน้อยนี้ก่อน สำหรับดีนแล้วรสสัมผัสของไข่ป่ามไม่ต่างอะไรกับออมเลตมากนัก เพิ่มเติมคือมีกลิ่นหอม ๆ ของใบไม้ที่ใช้ทำภาชนะ จากการที่อยู่เมืองไทยมาร่วมสัปดาห์ดีนเห็นว่ามีการใช้ใบไม้แบบนี้มาใส่อาหารอยู่หลายครั้ง ทั้งทำเป็นจานใบไม้เอยหรือไม่ก็แค่นำมารองจานเฉย ๆ ตอนแรกเขาคิดว่าเพราะใบไม้นี้มีความเหนียวแต่ตอนนี้เพิ่มข้อสังเกตขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อใบไม้ชนิดนี้ถูกความร้อนจะมีกลิ่นหอม ๆ ออกมา เขาไม่รู้ว่ามันคือใบอะไรสงสัยต้องเสิร์จหาข้อมูล

               เมื่อทั้งคู่กลับมาถึงโรงแรมก็อาบน้ำอาบท่ากันทันทีจากนั้นก็รีบเข้านอนเพื่อเที่ยวในตัวเมืองลำปางต่ออีกหนึ่งวัน

               .
               .
               .
               
               @Mackenzie

               เช้าวันที่สองของการท่องเที่ยวเมืองลำปาง

               เมื่อคืนพอจะมีเวลาดีนจึงโทรไปจองโฮมสเตย์ที่จังหวัดสุโขทัยซึ่งเป็นเป้าหมายหน้าของการเดินทาง เขาเล็งที่พักนี้ไว้ตั้งแต่ตอนที่วางแผนการเดินทางแล้วเพราะนอกจากจะได้นอนบ้านไทยแล้วยังได้ทำกิจกรรมตามวิถีชาวบ้านที่ดูน่าสนุก ชายหนุ่มจึงลองโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลดูแล้วพบว่ามีห้องว่างพอดี โปรแกรมวันนี้จึงเป็นการเที่ยวชมวัดสองแห่งในครึ่งวันเช้า จากนั้นก็เดินทางไปที่โฮมสเตย์ที่จังหวัดสุโขทัย

               จุดหมายแรกคือ ‘วัดพระธาตุลำปางหลวง’ ถือเป็นวัดประจำจังหวัดของลำปางเลยก็ว่าได้ พวกเขาขับรถออกจากที่พักกันไม่ใกล้นักก็มาถึงแล้วเที่ยวชมความสวยงามเก็บภาพความประทับใจไว้ในกล้องถ่ายรูป ที่นี่ดูมีความเก่าแก่ได้กลิ่นอายจากเมืองเก่าจากกำแพงอิฐสมัยเก่าและซุ้มประตูที่มีร่องรอยของกาลเวลา ถือว่าแตกต่างจากพระธาตุดอยสุเทพที่มีสีทองอร่ามตาเรียกว่างดงามไปคนละแบบ



               “เขาว่าวัดนี้เป็นวัดประจำปีนักษัตริย์ของนายด้วย ถ้าได้มาสักการะพระพุทธรูปที่นี่จะโชคดี”

               ตามข้อมูลที่หามาเขียนเอาไว้ว่าพระธาตุลำปางหลวงเป็นพระธาตุประจำปีฉลู ด้วยความสงสัยว่าปีนักษัตริย์คืออะไรเขาจึงไปหาข้อมูลมา ซึ่งตรงกับปีเกิดของแมคเคนซีพอดี

               “ถ้านายไหว้พระไม่ได้เดี๋ยวฉันไหว้ให้เอง”

               ดีนยิ้มแป้นบอกกับคนรัก อีกฝ่ายเป็นคนมีศาสนาแต่ว่าเขาไม่มีข้อจำกัดในเรื่องนั้น เพื่อให้คุณแฟนโชคดีตลอดปีตลอดไปเขาทำแทนได้อยู่แล้ว และคิดว่าพระเจ้าของพุทธคงใจดีแชร์บุญได้

               @Mackenzie

               “นายไม่รู้จักสินะ ก็ไม่แปลก.. ฉันก็เพิ่งรู้ตอนหาข้อมูล” เว้นวรรคเล็กน้อยก่อนจะเริ่มร่ายยาว “จักรราศีแบ่งตามกลุ่มดาวของแต่ละเดือนใช่ไหม แต่ปีนักษัตริย์แบ่งตามปี หนึ่งรอบปีนักษัตริย์จะมีสิบสองปี มีนิทานด้วย เป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนของสัตว์ แล้วก็มีตัวที่วิ่งเข้าเส้นชัยทั้งหมดสิบสองตัว ตัวแรกที่เข้าวินรู้สึกจะเป็นหนูมั้ง เรียงลำดับปีตามลำดับการเข้าเส้นชัย ที่มาน่ารักดีใช่ไหมล่ะ”

               ดีนหัวเราะน้อย ๆ นึกถึงตอนอ่านตำนานนี้เขาคิดว่าเนื้อเรื่องเบา ๆ แบบนี้ก็น่ารักดี ไม่เหมือนตำนานของกลุ่มดาวราศีที่มักมีคนตาย แถมคนตายบางส่วนดันเป็นญาติร่วมสายเลือดเดมิก็อดเสียด้วยสิ

               “ไม่รู้ แต่คงได้แหล่ะ ยังไงฉันกับนายก็อยู่ที่เดียวกัน มันก็เหมือนสัญญาณไวเลสที่อยู่ในอากาศแหล่ะน่า”

               แถไปเรื่อย เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันถูกต้องหรือไม่ แต่เขาเชื่ออย่างหนึ่งว่าหากเราตั้งใจทำมันก็ดีกับเราเองนี่แหล่ะ อย่างน้อยก็ดีต่อใจ

               “งั้นนายรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปไหว้พระธาตุให้แป๊บนึง”

               บอกคนรักให้รออยู่ใกล้ ๆ จากนั้นก็ลอกเลียนแบบคนไทยที่ไหว้พระธาตุก่อนหน้าโดยไม่รู้เลยว่าพิธีการถูกต้องหรือเปล่า ก็อย่างที่บอกทุกสิ่งมันขึ้นอยู่ที่ความตั้งใจ ก้มกราบเสร็จก็ลุกขึ้นเดินมาหาคนรัก

               “เสร็จแล้ว รู้สึกโชคดีขึ้นบ้างไหมล่ะ” พร้อมกับยิ้มยิงฟันให้

               @Mackenzie

               “วัวน่ะ” เขาตอบ ซึ่งประโยคถัดไปของแมคเคนซีทำเอาเขินจนต้องเม้มปากอมยิ้มแต่ต้องแกล้งกวนไม่ให้เสียทรง “ฉันรู้ ฉันน่ะเป็นตัวนำโชคของนายตั้งแต่เกิด”

               แล้วก็ใช้ศอกสะกิดอีกฝ่ายไปทีนึง

               หลังจากเที่ยวชมวัดจนทั่วทั้งดีนก็เดินนำออกมาที่ด้านหน้าวัดแทนที่จะไปลานจอดรถ เพราะกิจกรรมถัดไปคือการนั่งรถม้าเที่ยวชมรอบเมืองลำปาง


Credit: ลำปาง เมืองต้องห้ามพลาด

               คนถือกระเป๋าเงินคือแมคเคนซีดีนจึงให้อีกฝ่ายไปเจรจาค่าโดยสารส่วนตัวเองก็ถลาเข้าไปหาน้องม้าสีน้ำตาล

               “ฮรี้” oO(เฮ้อ ต้องทำงานอีกแล้ว ลูกค้าเป็นฝรั่งอีกต่างหาก ตัวก็ใหญ่ มาก็ตั้งสองคน งานหนักอีกแล้วหญ้าก็ได้กินเท่าเดิม)

               เจ้าม้าน้ำตาลบ่นเป็นภาษาม้าแต่ถ้อยคำนั้นไม่หลุดรอดไปจากหูของหนุ่มสายเลือดโพไซดอนผู้สื่อสารกับม้าได้

               “โธ่เอ๊ย ฉันไม่หนักขนาดนั้นหรอกน่าแต่คนมาด้วยก็ไม่แน่… ถึงตอนมาเที่ยวจะกินไม่หยุดแล้วน้ำหนักน่าจะขึ้นก็เถอะ” ดีนตอบกลับม้าด้วยน้ำเสียงขำ ๆ

               “ฮรี้!?” oO(เฮ้ย! ทำไมมะนุ้ดพูดภาษาม้าได้!?)

               “เพราะว่าฉันเป็นเดมิก็อดไงล่ะ ว่าแต่นายได้ยินฉันเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ?”

               “ฮรี้” oO(ภาษาม้า) ม้าน้ำตาลตอบ “ฮรี้” oO(เดมิก็อดคือตัวอะไร?)

               “เอ่อ.. ฉันเป็นลูกเทพน่ะ โพไซดอน เทพแห่งทะเลและม้า นายไม่รู้จักเหรอ?”

               “ฮรี้” oO(อ๋อ ลูกเทพ พวกต้มตุ๋นอีกคน เมืองไทยมีลูกเทพเยอะแยะไปหมดแหล่ะ อย่างที่ตำหนักทรงตรงนู้นก็มี)

               “ห๊ะ ต้มตุ๋น? อะไรนะ?”

               คำตอบของเจ้าม้าน้อยทำเอาดีนอึ้งกิมกี่ เขาชั่งใจว่าจะชวนมันคุยต่อดีไหม ถ้าคุยกับมันน่าจะได้เสียเงินค่าเช่าเกินหนึ่งชั่วโมงแน่ ๆ

               @Mackenzie

               หลังจากตกลงเช่ารถม้ากันเสร็จเรียบร้อยพวกเขาก็นั่งรถเที่ยวชมเมืองลำปาง ระหว่างนี้ดีนถ่ายวีดีโอวล็อกไว้ด้วยโดยที่มีเจ้าม้าสีน้ำตาลคอยเป็นไกด์นำเที่ยวด้วยอาการเบื่อเซ็ง


Credit: ลำปาง เมืองต้องห้ามพลาด

               “ตรงนั้นมีรูปปั้นม้าด้วย ลำปางช่างเป็นเมืองแห่งม้าจริง ๆ นายรู้ไหมว่าทำไมฮอร์สซี่?” ตอนนี้ม้าน้ำตาลมีชื่อแล้วโดยดีนตั้งเองตามอำเภอใจให้เสร็จสรรพ

               “ฮรี้” ม้าฮอร์สซี่อธิบายให้ฟังอย่างเหนื่อยหน่ายด้วยภาษาม้าที่ในวีดีโอจะได้ยินแค่เสียงร้องของมัน

               “โอ้.. น่าสงสาร” พอได้ฟังเรื่องราวของรูปปั้นม้าตัวนี้ถึงกับเม้มปาก “ฮอร์สซี่บอกว่ารูปปั้นม้าตัวนี้เมื่อก่อนมันมี *บิ๊บ* ที่ใหญ่มาก ๆ จนคนที่ขับรถมาแถวนี้เอาแต่จ้อง *บี๊บ* ของม้าจนเกิดอุบัติเหตุ เลยมีคนตัด *บิ๊บ* ของรูปปั้นม้าออกเหลือแต่ตอ” ไม่เชื่อต้องพิสูจน์ ดีนถ่ายซูมเข้าไปที่รูปปั้นม้าอีกนิด “โอ้ ดูสิ เหลือแต่ตอจริง ๆ ด้วย ส่วนที่ผมถามว่าทำไมมีม้าเยอะฮอร์สซี่บอกว่า ‘จะไปรู้เร้อ เกิดไม่ทัน’ มันว่างั้นน่ะ”

               หลังนั่งรถม้าชมเมืองจนทั่วก็ได้เวลาหาอะไรกิน ดีนได้ลองเสิร์จหาข้อมูลดูแล้วรู้สึกว่าของขึ้นชื่อของเมืองนี้จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ก๋วยเตี๋ยว’ นะ แต่ยังไม่ทันถึงร้านดีนก็ถูกแมคเคนซีสะกิดถาม

               “อ้อ ฮอร์สซี่บอกว่าไม่อยากรับนักท่องเที่ยวฝรั่งน่ะ เพราะว่าตัวหนัก แล้วมันก็บอกว่า..” ดีนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปกระซิบที่หูของอีกฝ่าย “มันบอกว่านายอ้วน สงสัยกลับไปค่ายต้องออกกำลังกายลดน้ำหนักแล้วล่ะแมคซี่ที่รัก” ก่อนจะผละออกมามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง

               @Mackenzie

               ไม่บอกหรอกว่าประโยคหลังเขาเติมขึ้นมาเองเพราะพักหลัง ๆ มานี้แมคเคนซีชักจะเจ้าเนื้อเกินไปหน่อย ดีนจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

               “เอาน่า นายอย่าไปโกรธม้าเลย มันก็พูดไปเรื่อยแหล่ะ หาอะไรกินกันดีกว่าจะได้ใจเย็นลง เอ้อ ร้านที่ฉันดูมาเป็นร้านกวยเตียวนะดูเหมือนแถวนี้จะมีเยอะเลย เราก็จิ้มเอาสักร้านนึง เอาร้านนี้แล้วกัน”

               กำลังจะเดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งพอดีเลยแวะเข้าไปซะเลย ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงพอดีลูกค้าก็เลยค่อนข้างจะแน่นร้าน

               “เวลกำ ๆ” แม่ค้าที่กำลังลวกก๋วยเตี๋ยวเอ่ยทักลูกค้าชาวต่างชาติทั้งสอง ก่อนจะมองหาโต๊ะว่าง เธอมองไปที่โต๊ะหนึ่งที่มีเด็กชายวัยประถมกำลังนั่งทำการบ้านวิชาศิลปะอยู่ ดูแล้วไม่ใช่ลูกก็หลาน “อ้ายน้องบอล ลุกหื้อฝรั่งนั่งกำหน้อย” (ภาษาไทย) จากนั้นเธอก็หันมายิ้มหวานให้หนุ่มทั้งสอง “โก ๆ ซิท นู่น”

               ดีนงงกับภาษาไทยคำปะกิดคำอยู่บ้าง แต่พอเข้าใจได้ว่า ‘โก ๆ’ น่าจะไม่ได้หมายความว่าไล่พวกเขาไปนะ พอไปนั่งที่โต๊ะ เด็กชายคนเมื่อกี้ก็เอ่ยถาม

               “ว้อด ยู อี๊ด” เด็กชายดูท่าทางอยากจะคุยเป็นภาษาอังกฤษดีนะ ดูแล้วเป็นเด็กกล้าแสดงออกใช้ได้ไม่ขี้อายและกลัวชาวต่างชาติแบบพวกเขา

               “มีอะไรแนะนำบ้างไหม?” ดีนพยายามพูดช้า ๆ ชัด ๆ แต่เด็กคนนั้นทำหน้างงใส่ สงสัยต้องใช้แอปแปลภาษาอีกแล้ว

               @Mackenzie

               “ไม่ ไม่ใช่ หมายถึง ‘ส้อม’ ไม่ใช่ ‘กบ’

               ดีนช่วยสื่อสาร แต่ดูเหมือนเด็กน้อยยังทำหน้างงหันไปตะโกนบอกแม่ค้าที่หน้าร้าน

               “ยาย พี่เปิ้นบอกว่าจะกิ๋นก๊บ” (ภาษาไทย)

               “บอกเปิ้นเต๊อะว่า ร้านบ่ะมีก๊บเน้อ” (ภาษาไทย)

               “โนแฮบ ฟ๊อก” เด็กน้อยหันมาตอบตาใส จนกระทั่งดีนเปิดรูปในโทรศัพท์ให้ดูถึงจะคุยกันรู้เรื่อง โอ๊ยย เหนื่อย นี่ยังไม่ทันได้สั่งก๋วยเตี๋ยวเลยนะ แล้วคำถามต่อไปก็ตามมา “ว้อด ‘เส้น’ ยู อี๊ด”

               “ห๊ะ ‘เส้น’?” แล้วดีนก็อึ้งไปอีกรอบ ‘เส้น’ (ภาษาไทย) หมายความว่าอะไรวะ จะว่าเป็นหน่วย ‘เซ็น’ ก็ไม่ใช่ “ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร ที่ร้านนี้มีอะไร อร่อย ๆ บ้าง ขอให้พวกเราหน่อย”

               อย่างน้อยดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะพอรู้จักคำว่า ‘อร่อย’ นะ

               “โอเค ๆ อันเด้อ สะแตน ยูเอาด้วยไหม? ดิลิเชียส” เด็กไทยหันไปถามแมคเคนซี

               @Mackenzie

               ดีนไม่รู้ว่าอะไรอร่อยจึงให้เด็กน้อยเป็นคนสั่งเรียกว่าเป็นอาหารโอมากาเสะได้หรือเปล่านะ?

               รอไม่นานเท่าไรก๋วยเตี๋ยวก็มาเสิร์ฟ ของแมคเคนซีได้บะหมี่น้ำตามสั่งพร้อมช้อนส้อม แม้การสื่อสารจะขรุขระไปบ้างแต่ก็ถือว่าสำเร็จผล ส่วนของดีนได้เป็นเส้นเล็กลูกชิ้นหมูพร้อมช้อนส้อมเช่นเดียวกับแมคเคนซี หน้าตาดูน่าจะกินง่าย เขาลองชิมน้ำซุป เป็นซุปใสที่คล่องคอ แม้น่าจะทำจากน้ำต้มกระดูกหมูแต่ให้ความแตกต่างจากตอนที่กินราเม็งอยู่พอควร ตัวเส้นเล็กก็ต้มได้เหนียวนุ่มไม่เละ เป็นรสสัมผัสที่ทานเพลิน ส่วนโปรตีนอย่างหมูชิ้นและลูกชิ้นก็อร่อยหอมกลิ่นพริกไทยที่ผสมอยู่ด้านใน มีสิ่งเดียวที่รู้สึกประหลาดก็คือถั่วงอกในชาม คงเพราะในอาหารที่เขากินเป็นปกติไม่มีพืชชนิดนี้จนชาวตะวันตกบางคนไม่รู้จักว่ามันคืออะไร (ซึ่งดีนรู้จักมันตอนทำการทดลองเพาะถั่วเขียว)

               ระหว่างรับประทานอาหารกลางวันเด็กชายก็เอาการบ้านมากางทำต่อร่วมโต๊ะเดียวกับเขา เป็นเรื่องประหลาดอีกเรื่องที่น่าจะหาไม่ได้ที่อเมริกา ลูกชายร้านอาหารมานั่งทำการบ้านไปด้วยเนี่ย ..ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ เขาอยู่กับเด็กที่ค่ายจนชิน ดีนลองเหลือบมองไปดูเห็นเด็กชายกำลังระบายสีรูปไก่อยู่ จะว่าไปไก่นี่คล้าย ๆ กับชามก๋วยเตี๋ยวที่เขากำลังกินอยู่เลย

               “ไก่ เหมือนกันเลย” เขาชวนคุย

                “เยส ชิกเก้น ออฟ ลำปาง เอวี่วัน ดรอว์ ชิกเก้น ได้” เด็กชายตอบ เหมือนจะมีคำลงท้ายเป็นภาษาไทยอยู่นะ

               “ไก่คือมาสคอตของลำปางเหรอ?”

               “เยส ชิกเก้น แอนด์ 'ชาม' อีส ลำปาง มาสคอต” เด็กชายจิ้มจึก ๆ มาที่ชามตราไก่ เมื่อเห็นว่าฝรั่งทำหน้างงใส่เด็กชายก็วิ่งเข้าไปในบ้านแล้วเอาเซ็ตชามตราไก่มาอวดทั้งสอง

               “โห เหมือนว่าของฝากที่นี่จะเป็นไก่แฮะ ฉันอยากได้บ้างจังแมคซี่ พวกเราหาซื้อก่อนเดินทางต่อได้ไหม”

               ดีนหันไปอ้อนคนรักตาเป็นประกาย ทั้งคุณแม่และคุณพ่อจะต้องได้เซ็ตชามตราไก่เป็นของฝาก หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวกันเสร็จต้องได้ไปช็อปปิ้งต่อแล้ว ดีนใช้เวลาอีกครู่หนึ่งในการถามเด็กลำปางว่าจะหาซื้อชามตราไก่ได้จากที่ไหน จนได้พิกัดมาว่าพวกเขาหาซื้อได้ในตลาดใกล้ ๆ นี่เอง

               @Mackenzie

               กลายเป็นว่าได้ของฝากไวกว่าที่คิดไว้ แต่ไม่เป็นไรพวกเขามีรถส่วนตัวที่เอาไว้เก็บของในรถได้



               หลังจากซื้อของฝากแล้วก็ได้เวลาเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวถัดไป ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่พ้นกับพระธาตุที่ ‘วัดพระธาตุดอยพระฌาน’ เมื่อมาถึงลานจอดรถจะได้พบกับคาเฟ่โตโตโร่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแต่ดูแล้วไม่น่าใช่ของลิขสิทธ์ แต่เอาเป็นว่าขอแวะซื้อกาแฟก่อนแล้วกัน ซึ่งดีนสนใจกาแฟส้มมา



               การเดินขึ้นพระธาตุจำเป็นจะต้องเดินขึ้นบันไดพญานาคซึ่งรอบนี้มีมากถึงสี่ร้อยเก้าสิบเก้าขั้น ทำไมน่ะเหรอ เพราะว่าเขานับระหว่างขึ้นไปด้วยยังไงล่ะ

               “สี่ร้อยเก้าสิบเจ็ด.. สี่ร้อยเก้าสิบแปด.. แฮ่ก! สี่ร้อยเก้าสิบเก้า.. ถึงแล้ว!”

               เมื่อหันมองกลับไปด้านล่างก็ได้พบกับวิวที่งดงามคุ้มค่ากับที่ปีนบันไดขึ้นมาจนหอบลิ้นห้อย



               แต่ดูเหมือนปลายทางจะไม่ได้สุดอยู่แค่นั้นเพราะยังมีทางขึ้นไปเพื่อสักการะ ‘พระใหญ่ไดบุตสึ’ ที่เหมือนกับยกมาจากญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ขอนั่งพักชมวิวสวย ๆ ของจังหวัดลำปางก่อนแล้วกัน

               “โอ๊ย เหนื่อยชะมัด นายจะขึ้นไปต่อไหมแมคซี่ ฉันว่าฉันไม่ไหวแน่ ๆ”

               คาดการณ์จำนวนบันไดที่ไปต่อน่าจะเป็นจำนวนสองเท่าของขามา ไม่ไหว ๆ ศรัทธาไม่พอ ขอเก็บภาพสวย ๆ แค่จากมุมนี้ดีกว่า
               
               @Mackenzie

               ในเมื่อมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะไม่ขึ้นไปต่อการเที่ยวชมพระธาตุดอยพระฌานจึงจบลงแค่ที่ตัววัด อย่างน้อยความสวยงามของตัววัดและวิวเมื่อมองลงไปก็พอทำให้รู้สึกคุ้มขึ้นมาบ้างที่ถ่อสังขารขึ้นมาถึงยังจุดนี้

               หลังเที่ยวชมทั้งหมดจบก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยังจังหวัดสุโขทัยและจะเป็นที่พักในคืนนี้ของพวกเขานั่นเอง

               @Mackenzie


ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์: ถ่ายรูปภาพจังหวัดลำปาง [3/5]
@@God

แสดงความคิดเห็น

35. Temple on PeakM [ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ] หลังจากที่ตื่นนอนและทานอาหารเช้าเรียบร้อย พวกเขาก็เช็คเอาท์ออกจากที  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-8-17 16:43
โพสต์ 97956 ไบต์และได้รับ 54 EXP!  โพสต์ 2024-8-16 23:59
โพสต์ 97,956 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-8-16 23:59
โพสต์ 97,956 ไบต์และได้รับ +1 Point จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2024-8-16 23:59
โพสต์ 97,956 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-8-16 23:59
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-8-17 16:43:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-8-16 23:59
206Thailand P.6 - ลำปาง
               โปรแกรมทัวร์ของจังหวัดลำปาง ...

35. Temple on Peak
M

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากที่ตื่นนอนและทานอาหารเช้าเรียบร้อย พวกเขาก็เช็คเอาท์ออกจากที่พัก บอกลาจังหวัดพะเยาเพื่อไปยังจังหวัดลำปางต่อ จากที่ดูแผนการท่องเที่ยวแล้วเหมือนว่าพวกเขาจะใช้เวลาที่จังหวัดนี้นานที่สุด แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะกว่าจะขับรถมาจนเข้าตัวจังหวัดและมาถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่แรกเวลาก็ผ่านไปครึ่งวัน คิดถูกจริง ๆ ที่เมื่อวานพวกเขาเข้าที่พักเร็วเลยมีเวลาพักผ่อนเยอะ วันนี้ต่อให้ขับรถกินเวลาหลายชั่วโมงก็ยังไม่รู้สึกล้า

สถานที่แรกที่มาก็คือ ‘บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน’ จากข้อมูลที่ดีนหามา ดูเหมือนว่าที่นี่สามารถต้มไข่ทานได้ด้วย จนแมคเคนซีคิดว่าถ้าถึงขนาดต้มไข่สุกได้อุณหภูมิของน้ำคงจะร้อนกว่าน้ำตกที่พวกเขาไปกันว่าเมื่อวานแน่ ๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้แช่น้ำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายด้วย

“นายเคยไปที่นั่นไหม ดูท่าจะใหญ่กว่าที่นี่หลายเท่าเลยสิ”

เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าเยลโล่สโตนที่ดีนพูดถึงนั้นมีเนื้อที่มากกว่า 2 ล้านเอเคอร์ และตั้งอยู่ในเขตติดต่อระหว่างรัฐของอเมริกา

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เอาสิ ถึงตอนนั้นนายขับรถบ้างนะ”

แกล้งบอกยิ้ม ๆ แต่ก็คิดว่าถ้าเป็นที่อเมริกาอีกฝ่ายน่าจะชำนาญเส้นทางกว่า แต่ถ้าดีนอยากเป็นคนนั่งเขาก็ยินดีจะขับรถให้

“หืม…กินไข่ต้มก่อนแช่น้ำครึ่งชั่วโมงช่วยเรื่องสุขภาพได้เหรอ”

ถามขณะเดินไปข้าง ๆ อีกฝ่าย ถ้าใช่ก็ถือว่าเป็นความรู้ใหม่เลย

“นายชอบกินแบบไหน ฉันว่าจะลองไข่ลวกกับไข่ยางมะตูม”

แมคเคนซีถามพลางเอาไข่ที่ใส่ในกระชอนวางลงในบ่อน้ำร้อนที่ใช้สำหรับต้มไข่แล้วหยิบมือถือมากดปุ่มจับเวลา

“ก็ดีเหมือนกัน จะซื้ออะไรมากินเพิ่มไหม”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อ้อ เข้าใจแล้ว”

แมคเคนซีพยักหน้าช้า ๆ หลังฟังจบ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนอาบน้ำทันทีหลังทานอาหารเสร็จ กว่าจะได้อาบน้ำทีก็สไลด์หน้าจอมือถือดูนั่นนี่อยู่นานสองนาน

“โอเค งั้นฉันขอน้ำเปล่า”

หลังจากฝากดีนซื้อน้ำแล้วก็จับตาดูไข่ที่ต้มไว้อย่างตั้งใจ ไม่ให้เวลาขาดหรือเกิน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ถึงกับยิ้มเล็ก ๆ เมื่อถูกเรียกว่า ‘ที่รัก’ ติด ๆ กัน แม้ว่าดีนจะเรียกแทนตัวเขาด้วยคำนี้บ่อยก็ตาม แต่ในเวลานี้ที่สถานะเปลี่ยนไป ความรู้สึกเมื่อยามได้ยินก็เพิ่มขึ้นด้วยจนใจฟูไปหมด

“ยังเลย อีกแป๊บนึง นายปูเสื่อเสร็จน่าจะได้กินพอดี”

แมคเคนซีบอกพลางดูเวลาในมือถือไปด้วย อีกไม่กี่นาทีพวกเขาก็จะได้ชิมไข่ลวกจากน้ำพุกันระหว่างรอไข่ยางมะตูม

“ไม่เป็นไร แค่ดูไข่แค่นี้สบายมาก”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

อย่างที่บอก เมื่อดีนจัดที่จัดทางเสร็จไข่ลวกก็พร้อมทานพอดี พวกเขาชิมไข่ลวกกันเสร็จก็ถึงคิวไข่ยางมะตูมต่อซึ่งก็ตรงเวลากับที่อีกฝ่ายบอกไว้ทั้งหมด ส่วนเรื่องรสชาตินั้นแมคเคนซีไม่ค่อยแน่ใจว่าต่างจากไข่ที่ต้มด้วยน้ำปกติทั่วไปตรงไหน เนื่องด้วยส่วนมากเขาจะทานไข่ดาวเป็นส่วนใหญ่ แต่พอทานหมดทุกอย่างรวมทั้งข้าวเหนียวห่อใบตองที่ดีนซื้อมาเสริมก็ทำให้อิ่มท้องไปได้อีกมื้อ

“เป็นไง ไข่ต้มอร่อยไหม”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังอาหารกลางวันก็ได้เวลาย่อย พวกเขาเดินชมสถานที่ต่าง ๆ ต่อเพื่อฆ่าเวลาจนกระทั่งถึงเวลาลงแช่น้ำ ทันทีที่ร่างกายได้สัมผัสกับสายน้ำที่อุ่นจนค่อนข้างร้อนแมคเคนซีก็พรูลมหายใจอย่างรู้สึกสบายตัว

“ดีมาก ๆ ถ้าได้แช่น้ำแบบนี้ทุกวันฉันขับรถได้สบาย ๆ เราทำกิจกรรมที่นี่ครบหมดแล้วใช่ไหม”

จากที่เดินดูจนทั่วแล้วก็เหมือนว่าจะไม่มีอะไรให้ทำอีก ตอนนี้น่าจะได้เวลาไปยังที่ต่อไปกันแล้ว

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ถ้ามีล่ะก็นะ”

แมคเคนซีพยักหน้าเล็กน้อย ยังไงเรื่องที่พักเขาก็ยกให้ดีนเป็นคนจัดการ อย่างน้อยแค่เป็นห้องที่สะอาดและมีเตียงนุ่ม ๆ ให้เขานอนก็พอใจแล้ว

เมื่อออกจากสถานที่แรกมายังสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป พวกเขาก็ต้องนั่ง ‘รถแดง’ ไปต่อจากลานจอดรถเพื่อไปที่‘วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์’ ซึ่งรถแดงของที่นี่แตกต่างจากรถแดงที่ลอนดอนมากทีเดียว รถแดงที่นี่เป็นเหมือนรถกระบะต่อเติมหลังคาที่มีเบาะนั่ง 2 ด้านจึงบรรจุผู้โดยสารได้เพียงไม่กี่คน ไม่ได้เป็นรถปรับอากาศ 2 ชั้น แต่แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบตรงที่ทำให้สัมผัสกับธรรมชาติได้เต็ม ๆ ติดอยู่อย่างเดียวคือขับเร็วมาก ไม่รู้ว่าจะรีบทำรอบวิ่งรถหรือยังไง

จนเมื่อลงจากรถแดงแล้วมายืนอยู่หน้าวัด บันได 300 ขั้นซึ่งเป็นทางขึ้นเดียวไปยังจุดหมายที่ดีนบอกก่อนหน้านั้นก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า

“ไหวสิ ไหว เราเดินขึ้นไปกัน”

คราวที่แล้วดีนก็ชวดจากการเดินขึ้นลงบันไดที่พระธาตุดอยสุเทพมาแล้ว ถ้าคราวนี้พลาดอีกคงจะหงุง ๆ เป็นเจ้าหมาหงอยแน่ ๆ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“แฮ่ก…แฮ่ก…”

หลังจากที่ฝ่าฟันบันได 300 ขั้นซึ่งเป็นด่านสุดท้ายมาได้ ในที่สุดพวกเขาก็ขึ้นมาถึงด้านบนเสียที สำหรับดีนคงไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่กับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายอย่างแมคเคนซีแล้ว แม้ว่าจะค่อย ๆ เดินอย่างไม่รีบร้อนก็ตามแต่สุดท้ายก็หอบกินอยู่ดี วิวที่มองจากด้านบนสวยมากอย่างที่อีกฝ่ายบอกไว้จริง ๆ ดูท่าว่าเขาคงต้องใช้เวลานั่งพักสักหน่อยก่อนที่จะกลับลงไปด้านล่าง แม้ว่าขาลงจะให้ความรู้สึกว่าไวกว่าก็ตาม

“พอขึ้นมาข้างบนแบบนี้แล้วอากาศดีมากเลย ได้สูดโอโซนเข้าไปเต็ม ๆ”

แมคเคนซีบอกพลางสูดหายใจเข้าลึกรับอากาศบริสุทธิ์เข้าร่างกายพลางฟังเสียงกระดิ่งลมที่พากันส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งยามลมพัดไปด้วย

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ขอบคุณ”

แมคเคนซีรับขวดน้ำมา หลังจากที่ได้นั่งพักจนหายเหนื่อยไปบ้างแล้วเลยดื่มน้ำไปรวดเดียวเกือบหมดขวดระหว่างนั่งดูวิวโดยรอบก็ได้ยินเสียงดีนจ้อไม่หยุด พอหันไปมองก็เห็นเจ้าตัวกำลังถ่ายคลิปวล็อคอย่างที่ชอบทำดู ๆ ไปแล้วก็น่าอิจฉาเหมือนกันที่อีกฝ่ายร่าเริงได้ทุกที่ทุกเวลา แต่นั่นก็พลอยทำให้เขายิ้มไปได้ด้วย

“อืม…พร้อมแล้ว ไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทันเวลาปิด”

พอดีนเรียกก็ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายไล่ความเมื่อยแล้วพากันเดินลงบันไดไปด้านล่างและขึ้นรถแดงกลับไปยังลานจอดรถ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังออกมาจากวัดบนเขา พวกเขาก็เข้ามาในตัวเมือง เมื่อเช็คอินที่โรงแรมแล้วก็ออกมาเดินตรงถนนคนเดินที่เรียกว่า ‘กาดกองต้า’ กันต่อ ถือเป็นการมาหามื้อเย็นทานด้วย แล้วก็นึกถึงตอนที่พวกเขาไปปายที่มีอาารแปลกๆ ให้ลองเต็มไปหมด แมคเคนซีรู้สึกว่าสิ่งปลูกสร้างที่นี่ค่อนข้างแตกต่างจากจังหวัดอื่น ๆ ที่พวกเขาไปมา แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นการผสมผสานของวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ ตามที่ดีนได้เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้

“คนเยอะกว่าที่ปายอีก”

แมคเคนซีจำได้ว่าตอนที่ไปถนนคนเดินของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้นบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ส่วนที่นี่กลับคึกคักมีผู้คนมากมาย อาหารก็มีให้เลือกสรรมากมายเต็มไปหมด จนกระทั่งดีนพาเขาไปตรงร้านที่มีคนต่อคิวเยอะแยะ เมื่อแม่ค้าเชิญชวนจึงลองดูก่อนว่าสิ่งที่ขายคืออะไร ดูเหมือนว่าเธอจะเรียกอาหารชนิดนั้นว่า ‘ไข่ป่าม’ จะว่าไปกลิ่นมันก็หอมดี แต่มีบางอย่างที่ทำให้แมคเคนซีสะดุดเข้าซะก่อน

“โอ้ ไม่ ไม่…ไม่ใส่พริก ไม่เอาเผ็ด”

เขารีบทำแขนไขว้กันเป็นกากบาทเมื่อเห็นพริกสีแดง ๆ โรยหน้าไข่ป่ามเต็มไปหมดจนแม่ค้าหัวเราะออกมาแล้วบอกเขาว่า “แบบไม่ใส่พริกก็มี”

“งั้นฉันเอาแบบไม่เผ็ดสองอัน แล้วนายเอาเท่าไหร่ คงไม่กินเผ็ดอีกใช่ไหม”

หลังจากตกลงกับแม่ค้าได้ก็หันมาคุยกับดีนต่อ ไม่รู้ว่าจะอยากทานเผ็ดหรือเปล่า ยิ่งเพิ่งหายจากอาการท้องเสียมาด้วยเลยเป็นห่วงสุขภาพอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

คิดอยู่แล้วว่าอย่างดีนต้องลองอะไรที่เป็นออริจินัลแน่ พออีกฝ่ายยิ้มหวานให้เลยถอนหายใจบาง ๆ อย่างจำยอม ก็นะ…เคยขัดอีกฝ่ายได้ซะที่ไหน

“คงจะใช่ ฉันว่าก็แฟร์ดี ได้สินค้าแล้วค่อยจ่ายเงิน”

แมคเคนซีโคลงศีรษะเล็กน้อย หลังจากเดินห่างมาจากร้านไข่ป่ามได้สักระยะก็ถูกแม่ค้าเรียกไว้อีก

“พ่อหนุ่ม มาชิมข้าวแต๋นน้ำแตงโมก่อนสิ อร่อยนะ อร่อยมาก ดิลิ๊เชียส !”

หญิงที่ดูมีอายุรุ่นป้ากวักมือเรียกพวกเขาแล้วยื่นกล่องพลาสติกที่ด้านในใส่ขนมอะไรสักอย่างหน้าตาคล้ายซีเรียลราดด้วยคาราเมลมาให้ พอลองหยิบชิมดูแล้วก็ต้องตาโตขึ้นมาเพราะความอร่อย ทั้งแป้งที่มีกลิ่นหอมและรสหวานของซอสที่คล้ายคาราเมลนั้นมีรสกลมกล่อมอบอวลอยู่ในปากจนต้องหยิบใส่ปากอีกชิ้น

“ดีนนายชิมขนมนี่สิ อร่อยชะมัด”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“หื้อ แตงโม ?”

แมคเคนซีเองก็ดูจะแปลกใจไม่แพ้กัน เพิ่งรู้เลยว่าแตงโมนำมาทำคาราเมลได้ด้วย

“เอา เอาสิ ซื้อไปหลาย ๆ ชุดเลย ฉันว่าถ้ากินกับชาก็น่าจะอร่อย นายซื้อไปฝากรีชกับคนอื่น ๆ ด้วยไหม”

พอนึกถึงน้องที่บ้านตนเองก็นึกถึงน้องสาวตัวเล็กของอีกฝ่ายด้วย เด็ก ๆ กับขนมเป็นของคู่กันอยู่แล้ว

“สิบชุดพอไหม”

หลังจากที่คำนวณว่าควรซื้อไปฝากใครบ้างรวมถึงส่วนที่จะเก็บไว้ทานเองคร่าว ๆ ในใจก็หันมาถามดีน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“รีชคงไม่โกรธหรอก พวกเราออกมาทำภารกิจกันนี่นา แต่ซื้อของไปง้อเธอหน่อยก็ดี”

แมคเคนซีคิดว่าเด็กดีอย่างรีชามีเหตุผลพอที่จะไม่โกรธพี่ชายที่ออกมาทำภารกิจจนไม่ได้อวยพรวันเกิด แต่เรื่องน้อยใจนี่เขาก็ไม่แน่ใจ การซื้อของไปฝากน่าจะช่วยให้เด็กหญิงอารมณ์ดีไม่มากก็น้อย

หลังจากซื้อของกินไปตามรายทาง พวกเขาก็กลับมายังร้านขายไข่ป่าม แล้วก็ต้องแปลกใจว่าไข่ป่ามที่พวกเขาสั่งไว้ 4 อันก่อนหน้านี้งอกมาเป็น 6 อันได้ยังไง จนแม่ค้าเฉลยว่าเป็นของแถมด้วเหตุผลที่ว่า ‘พวกเขาหน้าตาดี’ แมคเคนซีเอ่ยขอบคุณตามดีนแล้วหยิบเงินจ่ายค่าไข่ป่ามก่อนจะเดินออกมา

“ไม่เอาแล้ว แค่นี้ก็อิ่มจะแย่”

ไม่รู้ว่าควรดีใจไหมที่ได้ของแถมมา ก่อนหน้านี้พวกเขาแวะกินร้านนั้นร้านนี้ไปทั่วจนเริ่มอิ่ม ตอนนี้ชักไม่แน่ใจว่าจะทานไข่ป่ามพวกนี้หมดหรือเปล่า

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากกลับมาที่โรงแรมและทานไข่ป่ามตบท้ายมื้อเย็นของวันนี้ แมคเคนซีก็อิ่มจนท้องแน่นไปหมด หลังจากรอให้ย่อยสักพักก็ไปอาบน้ำแล้วเข้านอนแบบสบายตัว
.
.
.
.
.
หลังจากที่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็ม วันนี้แมคเคนซีก็ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น แผนการเที่ยวช่วงเช้าพวกเขายังอยู่ที่จังหวัดลำปางอยู่ น่าจะไม่ต้องขับรถไกลมาก

“วัดพระธาตุลำปางหลวง…จะว่าไปที่เมืองไทยนี่วัดเยอะจังนะ พวกเราไปวัดกันมาตั้งหลายที่”

แมคเคนซีพูดขึ้นมาขณะขับรถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของวันนี้

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ปีนักษัตริย์ ?”

แมคเคนซีทำหน้าสงสัยด้วยไม่เข้าใจว่าคืออะไร อย่างเขารู้จักเพียงแค่จักรราศีตามเดือนเกิดตามแบบยุโรปเท่านั้น ดูท่าว่าถ้ามีเวลาว่างคงต้องให้ดีนอธิบายให้ฟังสักหน่อย

“ไหว้แทนกันได้ด้วยเหรอ”

เลิกคิ้วสงสัยอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้คิดจะขัด ศาสนาพุทธนี่ดีเสียจริง ศาสนาคริสต์ยังสารภาพบาปแทนกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่เรื่องขอพรนั้นเขาเองก็ขอพรให้ดีนอยู่บ่อย ๆ เวลาที่อีกฝ่ายออกไปทำภารกิจนอกค่าย…ไม่สิ อาจจะตั้งแต่ตอนที่พวกเขารู้จักกันสักพักได้แล้วละมั้ง

มาพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวกันบ้าง วัดแห่งแรกที่พวกเขามากันในวันนี้ดูมีความเก่าแก่ สังเกตได้จากประตูทางเข้าและกำแพงที่ก่อด้วยอิฐมอญเป็นแนวยาวที่มีคราบจากการผ่านสภาพอากาศต่าง ๆ มานานตามกาลเวลาส่วนพระอารามหลวงน่าจะมีการซ่อมแซมบ้างตามวาระเนื่องจากยังดูใหม่อยู่ ส่วนพระธาตุที่นี่แม้จะไม่ได้เป็นสีท่องอร่ามอย่างที่ดอยสุเทพแต่ก็เป็นทรงระฆังคว่ำสวยงามเช่นกัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“แล้วปีที่ฉันเกิดคือสัตว์อะไร”

ดีนก็ยังสมเป็นดีน ชอบเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังเสมอ แม้เขาคิดว่าเวลานี้อีกฝ่ายอาจต้องการเที่ยวชมสถานที่ก่อนแต่ก็กลับคลายสิ่งที่เขาสงสัยให้ในทันที แมคเคนซียืนรอดีนไหว้พระธาตุตามอยู่ไม่ไกลนัก จนเมื่อคนรักของเขาทำพิธีการตามแบบชาพุทธเสร็จก็ยิ้มตอบให้กับคำถามนั้น

“ฉันโชคดีตั้งแต่ที่มีนายอยู่กับฉันแล้ว”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งไปเล็กน้อย นี่ชีวิตเขาวนเวียนอยู่กับวัวขนาดนั้นเชียว ธุรกิจของทางบ้านก็ทำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับนมวัว ซ้ำเขายังมาเกิดปีวัวที่เป็นปีนักษัตริย์ตามความเชื่อของชาวเอเชียอีก อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น

หลังออกมาจากวัดพระธาตุลำปางหลวงแล้วดีนก็พาเดินมายังจุดที่จะขึ้นรถม้าชมเมือง คราวนี้แมคเคนซีเป็นผู้ไปตกลงราคาจึงได้รู้ว่าที่นี่มีบริการอยู่ 3 แบบ 3 ราคาซึ่งก็คือเส้นทางรอบเมืองเล็ก เส้นทางรอบเมืองใหญ่ และเช่าแบบรายชั่วโมงที่สามารถไปตามสถานที่ที่อยากไปได้ แต่เนื่องด้วยเวลาอันจำกัดเขาจึงเลือกแพ็คเกจเส้นทางรอบเมืองใหญ่ที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยมีเสียงดีนคุยกับเจ้าม้าที่ร้อง “ฮรี้ ๆ” เป็นแบ็คกราวน์

สถานที่ที่รถม้าวิ่งผ่านล้วนแต่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดลำปาง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเลียบแม่น้ำวังซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสำคัญของทางเหนือที่จะไปไหลบรรจบรวมกันกับแม่น้ำอีก 3 สายจนกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา บ้านบะเก่าที่เป็นบ้านไม้เก่าแก่ สวนสาธารณะเขลางค์นคร ย่านตลาดอัศวินซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน และห้าแยกหอนาฬิกาที่เปรียบเสมือนจุดสูงกลางของเมืองก่อนจะกลับมายังที่จุดเดิมซึ่งก็ถือว่าเป็นอันจบการเที่ยวสถานที่แรกของพวกเขา

“ตอนก่อนจะขึ้นรถม้า นายกับม้านินทาอะไรฉันหรือเปล่า ฉันได้ยินนายพูดชื่อฉันด้วย”

หันมาถามอีกฝ่ายเมื่ออยู่กันสองคนขณะเดินหาร้านทานมื้อกลางวัน เกิดไปถามตอนที่มีคนบังคับรถม้าอยู่ด้วยคงได้คิดว่าพวกเขาเป็นนักท่องเที่ยวประหลาดกันพอดี

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ห๊ะ เจ้าม้านั่น…”

พอรู้ว่าถูกนินทาเรื่องอะไรแมคคนซีก็หน้าบึ้งตึง ให้ตายสิ นี่เขาโดนม้านินทาเรื่องรูปร่างงั้นเหรอ

“ถ้าฉันรู้ตั้งแต่ตอนนั้น ฉันจะตัดบิ๊บเจ้าม้านั่นให้เหมือนรูปปั้นม้าตัวนั้นเลย โทษฐานมาสบประมาทหุ่นฉัน”

ดวงตาสีฮาเซลจ้องหน้าคนรักตอบด้วยสีหน้าจริงจังไม่แพ้กัน แน่นอนว่าเขาพูดเล่น…ที่เขาจับตารอดูคือฏิกิริยาของอีกฝ่ายต่างหาก

“ไหน…ได้ร้านสำหรับมื้อกลางวันหรือยัง”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อเดินตามดีนเข้ามาในร้านถึงได้รู้ว่า ‘กวยเตียว’ หน้าตาเป็นอย่างไร มันคืออาหารที่เป็นเส้นและแน่นอนว่าต้องใช้ตะเกียบอีกแล้ว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แมคเคนซีไม่ถนัดเอาเสียเลย หลังจากนั่งลงแล้วก็มีบริกรตัวน้อยที่วางมือจากการวาดรูปมารับออเดอร์ ด้วยความที่ไม่ว่าจะสั่งอะไรก็ดูเป็นผู้ประสบภัยทั้งนั้น เขาเลยสั่งบะหมี่น้ำไปชามนึง

“May I have a fork, please ?”

พอเห็นว่าเด็กชายพูดภาษาอังกฤษได้เลยเผลอพูดภาษาประเทศบ้านเกิดตัวเองไป ผลคือเด็กน้อยเอียงคอมองหน้าเหมือนว่ากำลังประมวลผลอยู่

“ฟ็อค…อ้อ ฟ็อค ! ฟ็อค อ๊บ อ๊บ !……แล้วพี่จะเอากบไปทำอะไรอะ”

ถึงจะฟังประโยคหลังไม่ออกแต่เสียง ‘อ๊บ อ๊บ’ ก็พอทำให้แมคเคนซีเดาออกว่าเด็กน้อยตีความผิดเข้าซะแล้วฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นลูบหน้าแล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากดีน

“นายบอกให้หน่อยสิ ฉันอยากได้ส้อม ไม่ใช่กบ”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

กว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่องก็ทำเอาแมคเคนซีปวดหัวไปนิดหน่อย พอเด็กชายหันมาถามอีกรอบก็เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนหน้านี้เขาสั่งบะหมี่น้ำไปแล้ว แต่สงสัยมัวแต่คุยเรื่องส้อมกันจนลืมไปแล้วล่ะมั้ง

“โอเค”

เขาตอบเพียงสั้น ๆ เน้นให้เด็กน้อยเข้าใจได้ง่าย ๆ

‘เอาเถอะ…จะเป็นอะไรก็ได้ แค่ไม่เผ็ดก็พอ’

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

พอได้ช้อนส้อมมาแล้วก็ทำให้อาหารมื้อนี้ทานง่ายขึ้นมาก รสชาติของก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ไม่ได้จัดว่าอร่อยจนอยากทานซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าแย่เช่นกัน ระหว่างที่ทานแมคเคนซีก็นั่งฟังดีนคุยกับเด็กชายไปด้วย

“ได้อยู่แล้ว แค่ซื้อชามคงไม่ได้เสียเวลามากหรอก”

เหมือนว่าดีนจะถูกใจชามตราไก่ที่เป็นของฝากประจำจังหวัดลำปางเข้าให้แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้อินกับของชิ้นนี้เท่าไหร่แต่ก็แน่นอนว่าหากแฟนบอกว่าอยากได้แล้วยังไงก็ต้องได้ ดังนั้น เมื่อทานอาหารเสร็จพวกเขาจึงพากันไปยังตลาดใกล้ ๆ ตาที่เด็กชายบอก ซึ่งก็มีอยู่จริง ๆ แมคเคนซีจึงให้เวลาดีนได้เลือกของฝากอย่างเต็มที่ ส่วนเขาก็รับบทเป็นคนช่วยถือชามที่อีกฝ่ายเลือกไว้เพื่อรอคิดเงิน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากที่ดีนได้ของฝากสมใจ พวกเขาก็เดินทางมายัง  ‘วัดพระธาตุดอยพระฌาน’ ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวสุดท้ายของพวกเขาในจังหวัดลำปาง ทันทีที่มาถึงก็ถูกต้อนรับด้วยคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นเป็นอันดับแรก ซึ่งแมคเคนซีก็ไม่พลาดที่จะสั่งเครื่องดื่มสุดโปรดก็คือ ‘โกโก้ร้อนหวานน้อย’

จากนั้นก็ถึงช่วงเวลาแห่งการทรมานร่างกาย (?) นั่นก็คือการเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นเพื่อไปชมวิวของจังหวัดลำปางจากมุมสูง ส่วนผู้ที่นับถือศาสนาพุทธก็คงจะขึ้นมากราบไหว้บูชาพระธาตุด้วย หลังจากที่เดินสลับหยุดพักไปหลายรอบ ในที่สุดแมคเคนซีก็ขึ้นมาถึงด้านบนหลังดีนไม่นานนัก จากความรู้สึกของเขาแล้วบันไดที่นี่มากขั้นกว่าวัดบนเขาที่พวกเขาไปกันมาเมื่อวานแน่ ๆ จะว่าไปวิวที่มองจากด้านบนนี้ก็สวยดีอยู่หรอก แต่แมคเคนซีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยถึงต้องสร้างวัดไว้สูงขนาดนี้ ถ้าจะพูดให้ตรงกว่านี้ก็ ‘ทำไมถึงหาทำกันได้ขนาดนี้’

“ไม่ดีกว่า แค่นี้ก็เมื่อยจะแย่ จะลงไหวไหมยังไม่รู้เลย”

พอคิดว่าต้องลงบันไดกลับไปด้านล่างอีก 499 ขั้นก็เหนื่อยไปล่วงหน้าแล้ว หากมีเวทมนตร์ที่ทำให้วาร์ปลงไปได้ในชั่วพริบตาเขาก็ไม่ลังเลที่จะใช้

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หลังจากดึงพลังงานจากก๋วยเตี๋ยวที่ทานไปเมื่อตอนกลางวันมาใช้จนแทบหมด ในที่สุดพวกเขาก็กลับลงมาถึงด้านล่างจนได้ ให้ตายสิ…ตอนนี้แมคเคนซีเริ่มหิวอีกแล้ว ยังดีที่ตุนข้าวแต๋นไว้หลายชุด อย่างน้อยก็มีอะไรทานระหว่างทาง เมื่อพักจนหายเหนื่อยแล้วทั้งคู่ก็เริ่มเดินทางออกจากจังหวัดลำปางเพื่อไปยังจังหวัดต่อไป



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 58500 ไบต์และได้รับ 30 EXP!  โพสต์ 2024-8-17 16:43
โพสต์ 58,500 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-8-17 16:43
โพสต์ 58,500 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-8-17 16:43
โพสต์ 58,500 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-8-17 16:43
โพสต์ 58,500 ไบต์และได้รับ +6 EXP +9 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-8-17 16:43
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
โพสต์ 2024-8-25 16:18:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
36. Ruins of History
M

หลังจากที่เที่ยวจังหวัดในภาคเหนือตอนบนแล้ว ก็ถึงเวลาขับรถกลับลงมาเที่ยวที่ภาคเหนือตอนล่างอย่างจังหวัดสุโขทัยที่ขามาพวกเขาได้เพียงแค่พักค้างคืนเท่านั้นก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะออกเดินทางต่อ คราวนี้จึงจะได้เที่ยวและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในจังหวัดนี้เสียที แต่กว่าจะมาถึงที่พักก็เริ่มจะเย็นแล้ว ทั้งคู่จึงไปขี่จักรยานชมรอบหมู่บ้านเพื่อรอเวลาอาหารเย็น ที่พักที่ดีนเลือกมาคราวนี้เป็นโฮมสเตย์ที่ผู้คนในชุมชนร่วมกันจัดตั้ง จึงมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำมากมาย ทั้งคู่ขี่จักรยานไปยังสะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวบนทุ่งนาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกนับว่าเป็นบรรยากาศที่สวยงามตามธรรมชาติ รวมไปถึงอากาศก็ยังสดชื่นด้วย



@Dean

เมื่อขี่จักรยานเสร็จก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี ซึ่งอาหารที่ทางโฮมสเตย์จัดไว้ให้คืออาหารที่ชื่อว่า ‘ขันโตก’ โดยชาวบ้านอธิบายเพิ่มเติมให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าเป็นเซ็ตที่รวมอาหารเหนือเอาไว้นั่นเอง

“มีไส้กรอกใส่พริกด้วย”

นอกจากจะมีอาหารหน้าตาดูน่าจะเผ็ดหลายอย่างแล้วก็ยังมีผักต้ม แคปหมู (ที่ชาวบ้านบอกว่าเป็นหนังหมูทอดกรอบ) แล้ว ก็ยังมีข้าวแต๋นของโปรดของแมคเคนซีเป็นขนมหวานด้วย หลังจากที่เริ่มมื้ออาหารได้ไม่นาน ชาวบ้านแถวนั้นก็เอา ‘แกงเห็ดเผาะ’ หรือที่ชาวเหนือเรียกกันว่า ‘เห็ดถอบ’ มาให้ลองชิม ดูเหมือนว่าจะเป็นอาหารที่หาทานได้เฉพาะช่วงหน้าฝนเพราะเห็ดเผาะจะเติบโตและเก็บได้เยอะ เมื่อชิมดูแล้วก็ได้รสชาติเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆแต่ก็ไม่ได้เผ็ดมากจนเกินไป เห็ดเผาะเมื่อทานแล้วก็กรุบกรอบอร่อยดี

พอทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วก็นั่งย่อยสักหน่อย ก่อนจะได้เวลาอาบน้ำเข้านอน วันนี้พวกเขาใช้พลังงานไปเยอะมากจริง ๆ ทันทีที่นอนลงไปแมคเคนซีก็หลับแทบจะทันที
.
.
.
.
.

@Dean

เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ดังขึ้นในเช้าวันใหม่ เมื่อวานระหว่างนั่งย่อยหลังทานมื้อเย็นเสร็จ เจ้าของบ้านก็มาคุยกับพวกเขาถึงโปรแกรมต่าง ๆ ในวันนี้ ซึ่งกิจกรรมแรกก็คือการทำบุญใส่บาตรซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวพุทธทำกัน ที่จริงแมคเคนซีจะเลือกข้ามกิจกรรมนี้แล้วนอนต่อก็ได้ แต่ดูเหมือนว่าคนรักของเขาจะสนใจ ก็เลยตกลงกันว่าจะตื่นแต่เช้า และตอนนี้พวกเขาก็ตื่นแล้วทั้งที่ฟ้ายังไม่สว่างดีเลยด้วยซ้ำ

“แล้วพวกเราต้องทำยังไงกับอาหารนี่”

หลังจากจัดการธุระส่วนตัวแล้ว เจ้าของบ้านก็นำชุดอาหารสำหรับใส่บาตรมาให้ ตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้วแมคเคนซีที่ยืนรออยู่หน้าบ้านมาได้สักพักก็ปิดปากหาว

@Dean

แมคเคนซีเงียบไปเล็กน้อยเมื่อถูกถามเช่นนั้นก่อนจะยักไหล่

“พระเจ้าคงไม่ลงโทษฉันกับเรื่องแค่นี้หรอก เจ้าของบ้านเขาเตรียมของให้แล้ว ถ้าไม่เข้าร่วมกิจกรรมก็คงเสียน้ำใจแย่”

อย่างที่เคยบอกไว้ แม้ว่าจะเข้าร่วมแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเคารพศรัทธาก็ได้ หากพระเจ้าจะลงโทษเขาด้วยเรื่องการร่วมกิจกรรมของศาสนาอื่นเพียงเล็กน้อย สู้เอาเวลานั้นไปลงโทษพวกทำผิดร้ายแรงกว่านี้ไม่ดีกว่าหรือไง

รออยู่สักพักก็เห็นกลุ่มคนสวมผ้าสีส้มเดินเรียงแถวมาพร้อมกับเด็ก ๆ อีก 2-3 คน ได้ยินเสียงชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า “พระมาแล้ว” ก็ทำหน้าสงสัย แต่พอเห็นเจ้าของบ้านออกมาเตรียมพร้อมก็พอเข้าใจได้ว่าพิธีตักบาตรกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

@Dean

แม้จะไม่ได้นับถือศาสนาพุทธแต่แมคเคนซีก็ฟังสิ่งที่เจ้าของบ้านอธิบายและปฏิบัติตามอย่างไม่ขาดตกบกพร่องสำหรับเขาแล้วถือว่าเป็นการได้รับความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา ทั้งการตักบาตรและกรวดน้ำแน่นอนว่าแมคเคนซีไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็ไม่ได้คิดจะลบหลู่ความเชื่อของผู้คนต่างศาสนา จนกระทั่งเสร็จพิธีการ ทั้งคู่ก็ได้มีเวลาพักผ่อนกันอีกนิดหน่อยก่อนจะถึงเวลาอาหารเช้าที่ทางเจ้าของบ้านเตรียมให้

“ตอนกรวดน้ำนายขอพรด้วยเหรอ ดูจริงจังเชียว”

แมคเคนซีถามขณะทานข้าวต้มทรงเครื่องที่เป็นมื้อเช้าของวันนี้

@Dean

มองคนยิ้มอารมณ์ดีแล้วก็ยิ้มตามออกมาเล็กน้อย

“เรื่องสุดท้ายไม่ต้องขอก็ได้ ฉันทำแบบนั้นอยู่แล้ว”

หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ ดูเหมือนว่าเจ้าของบ้านจะไม่ปล่อยให้พวกเขาได้มีเวลาพักนานก็เอากิจกรรมถัดไปมาเสนออีกแล้ว นั่นก็คือ ‘การขี่จักรยานชมวิถีชีวิตชาวบ้าน’ แม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่ชุมชนที่ใหญ่มากแต่ก็มีสิ่งที่น่าสนใจให้ดูมากมาย ทั้งการทอผ้าใต้ถุนเรือน การทำตุ๊กตาบาร์โหนที่บ้านตาวงศ์ และการทำผ้าหมักโคลนซึ่งถือเป็นงานหัตถกรรมขึ้นชื่อของชุมชน





   

จนกระทั่งมาถึงกิจกรรมสุดท้ายที่พอชาวบ้านเห็นพวกเขาแล้วก็ร้องเรียกพร้อมกับกวักมือ

“พ่อหนุ่ม ! มานี่ มาทำข้าวเปิ๊บด้วยกัน”

@Dean

“หือ ต้องถ่ายฉันด้วยเหรอ ฉันไม่ได้เอาคลิปไปลงที่ไหน”

แมคเคนซีไม่ได้ชอบลงคลิปตัวเองเหมือนที่อีกฝ่ายทำ แต่พอดีนบอกว่าจะถ่ายคลิปให้ก็เริ่มประหม่าเล็กน้อยจากท่าทางสบาย ๆ ก็เริ่มจะเกร็งขึ้นมานิดหน่อย

ก่อนจะเริ่มทำอาหารก็ต้องมารู้จักความเป็นมากันก่อน ‘ข้าวเปิ๊บ’ เป็นอาหารท้องถิ่นของชาวสุโขทัย แรกเริ่มเดิมทีมีชื่อว่า ‘ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง’ คำว่า ‘เปิ๊บ’ เป็นภาษาเหนือที่แปลว่าพับซึ่งอยู่ในขั้นตอนหนึ่งของการทำนั่นเอง

เริ่มต้นขั้นอนแรกด้วยการละเลงแป้งหมักลงบนผ้าขาวบางที่ขึงบนภาชนะคล้ายหม้อดินเผาแล้วมาตั้งเตาจนร้อนแล้วรอให้ไอน้ำทำให้แป้งสุก ซึ่งขั้นตอนนี้กว่าแมคเคนซีจะทำจนได้แผ่นแป้งที่สุกพอดีโดยไม่ให้แป้งหนาไปหรือบางไปจนขาดก็ใช้เวลาถึง 3-4 ครั้ง จากนั้นก็วางผักต่าง ๆ อย่างเช่น ถั่วงอก กะหล่ำปลี ผักบุ้งลงบนแผ่นแป้งแล้วพับแป้งทั้ง 4 มุมเข้าหากันแล้วตักใส่ชาม จากนั้นก็ทำไข่ดาวโดยการตอกไข่ลงบนผ้่าขาวบางเช่นกันซึ่งแมคเคนซีคิดว่ามันอเมซิ่งมากที่สามารถทำไข่ดาวโดยไม่ต้องใช้น้ำมันและทอดในกระทะได้ เมื่อได้ไข่ดาวที่สุกตามต้องการแล้วก็ตักชามที่มีแผ่นแป้งที่ทำไว้อยู่ สุดท้ายก็ราดด้วยน้ำซุปต้มกระดูกหมูเป็นอันเสร็จ เขามองอาหารไทยฝีมือตนเองจานแรกอย่างภาคภูมิใจ จะว่าไปแล้วก็น่าทานเหมือนกันนะเนี่ย

“เอาล่ะตามนายแล้ว เอากล้องมาเดี๋ยวฉันถ่ายคลิปให้”

คราวนี้ก็ถึงตาเขาทำหน้าที่ตากล้องให้คนรักบ้างแล้ว

   

@Dean

พอโดนชมว่า ‘น่ารัก’ ตรง ๆ แถมยังอยู่ท่ามกลางคนเยอะ ๆ แบบนี้ก็เล่นเอาแมคเคนซีเขินไปเหมือนกัน เมื่อถึงตาเขาถ่ายคลิปให้ดีนบ้างถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายก็ทำอาหารค่อนข้างคล่องแคล่ว แบบนี้ถ้ากลับค่ายต้องลองทำอาหารด้วยกันสักมื้อแล้วไหมนะ

ในที่สุดข้าวเปิ๊บฝีมือเดมิก็อดหนุ่มก็เสร็จเรียบร้อย เท่านี้พวกเขาก็มีมื้อเที่ยงทานแล้ว แต่ไม่รู้ดีนนึกสนุกอะไรอยู่ ๆ ก็สลับชามอาหารกันซะอย่างนั้น

“ถ้ากินของฉันแล้วท้องเสียก็อย่ามาโทษกันล่ะ”

แกล้งเตือนไปอย่างนั้น ที่จริงเขาเองก็อยากชิมฝีมือดีนเหมือนกัน

@Dean

“ฉันล้างมือแล้ว”

งึมงำบอกแล้วมองอีกฝ่ายที่ลงมือชิมข้าวเปิ๊บฝีมือตนเองราวกับเชฟในรายการแข่งทำอาหารที่รอคอมเม้นต์จากกรรมการ ก่อนจะพรูลมหายใจอย่างโล่งใจที่ดีนบอกว่าอร่อย และดูท่าว่าจะไม่ได้โกหกเพราะจากนั้นเจ้าตัวก็ทานเอา ๆ จนหมดเกลี้ยง

“นายก็ทำได้ไม่เลวเหมือนกัน นี่ฉันเพิ่งเคยได้กินอาหารฝีมือนายครั้งแรกเลยนะ”

ส่วนเขาเองก็ทานจนไม่เหลือเช่นกัน สาบานได้ว่าไม่ได้ทานเพื่อเอาใจหรือหิวแต่อย่างใด แต่ฝีมือดีนนั้นดีจริง ๆ

“จะบ่ายโมงแล้ว นายจะเช็คเอาท์เลยไหม”

เมื่อหยิบมือถือมาดูเวลาก็เห็นว่าเลยเที่ยงวันมาแล้ว น่าจะถึงเวลาที่พวกเขาต้องไปที่ต่อไปเสียที

@Dean

“อย่างน้อยฉันก็ใช้ไมโครเวฟเป็น ไม่งั้นคราวก่อนนายได้กินอาหารไหม้ไปแล้ว”

แมคเคนซีบอกพลางเปิดตารางแผนการท่องเที่ยวดูก่อนจะพยักหน้า

“อืม…อุทยานประวัติศาสตร์

หลังจากบอกลาเจ้าของบ้านและชาวบ้านชุมชนบ้านต้นจั่นแล้ว พวกเขาก็ไปยังจุดหมายต่อไปก็คือ ‘อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย’



เนื่องจากที่นี่คือเมืองเก่าที่เคยเป็นเมืองหลวงของชาวไทยในอดีต สถานที่นี้จึงเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีทั้งโบราณสถาน ศาสนสถาน และพระราชวังแม้ว่าในปัจจุบันเมืองหลวงของประเทศไทยจะย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพแล้วก็ตาม แต่ที่นี่ก็ยังคงเก็บรักษาซากปรักของสิ่งก่อสร้างในอดีตเอาไว้เพื่ออนุรักษ์ให้ลูกหลานและนักท่องเที่ยวได้มาเข้าชม

@Dean

หลังจากชมจุดสำคัญต่าง ๆ ตามอุทยานจนใกล้ถึงเวลาปิดทำการ พวกเขาก็ออกจากที่นั่นมาเช็คอินที่รีสอร์ทใกล้ ๆ ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะชวนดีนทานมื้อเย็นที่ห้องอาหารของที่พัก แต่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะมีสิ่งที่อยากทานอยู่

“ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนที่เราแวะเติมน้ำมันส่วนมากจะเห็นแต่ร้านเคเอฟซีนะ อ้อ แล้วก็มีแมคกับเท็กซัสบ้างนิดหน่อย”

นึกถึงร้านที่เจอระหว่างทางตลอดการท่องเที่ยวทริปนี้แล้วก็ไม่เห็นร้านเวนดีส์เลย

@Dean

“ได้อยู่แล้ว ซื้อเซ็ตใหญ่กินให้หายอยากเลย”

พอเห็นสีหน้าอันหลากหลายไม่ว่าจะหน้ามู่ทู่หรือหน้าตาตอนอ้อนเหมือนเด็ก ๆ ก็ทำให้แมคเคนซีอดที่จะขยี้ผมสีเข้มของอีกฝ่ายที่ตอนนี้เริ่มยาวขึ้นเล็กน้อยอย่างมันเขี้ยวไม่ได้

“งั้นมื้อนี้เราไปกินที่ห้องอาหารโรงแรมก่อนไหม จะได้มาพักผ่อนกัน”

@Dean

เมื่อดีนตอบตกลงพวกเขาก็ไปทานมื้อเย็นกัน จากนั้นก็กลับมาพักผ่อน วันนี้ถือว่าไม่เหนื่อยเท่าไหร่ พอมาคิดดูตอนนี้พวกเขาก็เริ่มเข้าสู่ครึ่งหลังของการทำภารกิจที่เมืองไทยแล้ว แมคเคนซีหวังว่าจังหวัดที่เหลือพวกเขาจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นนะ


ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์  : ถ่ายรูปจังหวัดสุโขทัย
[3/5]

@God

แสดงความคิดเห็น

207Thailand P.7 - สุโขทัย [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie] ด้วยความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวมาทั้งว  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-8-25 19:55
โพสต์ 32051 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-8-25 16:18
โพสต์ 32,051 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-8-25 16:18
โพสต์ 32,051 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-8-25 16:18
โพสต์ 32,051 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-8-25 16:18
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
โพสต์ 2024-8-25 19:55:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Mackenzie ตอบกลับเมื่อ 2024-8-25 16:18
36. Ruins of HistoryM
หลังจากที่เที่ยวจังหวัดในภาคเหนือตอนบนแ ...

207
Thailand P.7 - สุโขทัย

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               ด้วยความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวมาทั้งวันทำให้ดีนอยากจะถลาลงเตียงเพื่อพักผ่อนตั้งแต่มาถึงโฮมสเตย์ แต่ดูเหมือนว่าจะทำอย่างนั้นไม่ได้ โฮมสเตย์ที่เขาหาจองมามีกิจกรรมยามเย็นให้ได้ทำคือขี่จักรยานชมพระอาทิตย์ตกที่ทุ่งนาต้นจั่น ตอนแรกว่าจะปฏิเสธแต่ชาวบ้านโฮมสเตย์ดูตั้งใจจะอยากพาพวกเขาเที่ยวต่อ พอเห็นความตั้งใจนั้นก็ปฏิเสธไม่ลงแล้วลากสังขารขี่จักรยานตามไป แม้เป็นคนพลังงานเยอะแต่ก็ดูเหมือนว่าจะแบตเตอรี่หมดดีนจึงไม่ได้กระชุ่มกระชวยเหมือนตอนเช้า ซึ่งก็โอเค ภาพพระอาทิตย์ตกดินมันสวยงาม แต่หนังตาเขาก็จะปิดพอกัน ดูเหมือนว่าเขาต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดถ่างตาให้ตื่นพอ ๆ กันกับที่ต้องขี่จักรยานกลับที่พัก

               เมื่อพวกเขากลับมาถึงอาหารเย็นก็พร้อมเสิร์ฟ เซ็ตอาหารไทยชุดใหญ่จัดใส่ภาชนะอย่างสวยงาม ผู้แนะนำบอกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือ ‘ขันโตก’ เป็นสำรับอาหารที่ชาวเหนือรับประทานกัน

               “ว้าว.. ยอดไปเลย ฉันโคตรหิว ‘ขานโทก’ หมดไม่เหลือแน่”

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               หลังจากที่ดีนประกาศกร้าวออกไปเขาก็กินอาหารในขันโตกจนหมดไม่เหลือจริง ๆ ไม่เหลือแม้กระทั่งแตงกวาที่เอาไว้กินกับน้ำพริกอ่อง พอเห็นแบบนั้นแม่ครัวชาวไทยก็ถึงกับยิ้มแก้มปริ

               ก่อนนอนดีนขอให้ผู้ดูแลโฮมสเตย์ต้มน้ำใส่ถังมาให้หน่อยเพราะการเดินขึ้นชมวัดในวันนี้ทำเอาเขาปวดน่องไปหมด พอได้จุ่มขาลงไปในน้ำร้อนก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่ให้ดีกว่านี้คือได้นวดสักที และแน่นอนว่ามาไทยทั้งทีเขาจะต้องหาเวลาเข้าร้านนวดแผนไทยไม่วันใดก็วันหนึ่ง

               หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เอนหลังนอนลงบนเตียงลูกฟูกของบ้านพัก แม้สัมผัสจะแปลกประหลาดไปหน่อยแต่เขาก็หลับไปในทันทีที่หัวถึงหมอน ก่ายแขนขาพาดเกี่ยวตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ดูเหมือนจะสลบไปก่อนเขาเสียอีก

               .
               .
               .

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               แทบไม่อยากลุกออกจากที่นอนเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น แต่ก็จำเป็นต้องดื่นเพราะพวกเขามีโปรแกรมตักบาตรพระตั้งแต่เช้าตรู่ ดีนงัวเงียขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟันด้วยน้ำเย็นเจี๊ยบในโอ่งดินเผา ความเย็นของน้ำทำให้เขาตาตื่นและสดชื่นขึ้นมานิดหน่อย

               น่าประหลาดใจอยู่พอควร ในตอนแรกดีนไม่คิดว่าแมคเคนซีจะมาตักบาตรพระเพราะเป็นพิธีอย่างหนึ่งของชาวพุทธซึ่งขัดต่อหลักความเชื่อของคริสตชนอย่างร้ายแรง

               “แมคซี่ นายไม่กลัวพระเจ้าลงโทษแล้วเหรอ”

               ดีนสะกิดถามอีกฝ่ายที่ตื่นเช้ามาใส่บาตรด้วย คงไม่ใช่ว่าคุณแฟนแค่ตื่นมาเป็นเพื่อนเขาหรอกนะ

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               เมื่อพระมาถึงเจ้าของบ้านชาวไทยก็แนะนำวิธีการใส่บาตรพระสงฆ์ให้ทั้งสองเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ดูแล้วน่าจะรับแขกชาวต่างชาติมาเยอะ การตักบาตรพระสงฆ์คือการทำทานอย่างหนึ่งตามประเพณีของพระพุทธศาสนาที่ศาสนิกชนพึงกระทำ แต่ไม่ใช่กฎบังคับว่าชาวพุทธทุกคนจะต้องใส่บาตรพระทุกเช้า แต่สามารถกระทำได้ตามความสะดวกของแต่ละบุคคลหรือจะไม่ทำเลยก็ไม่ผิดหลักศาสนา

               โดยกิจวัตรทุกวันของพระสงฆ์คือการออกบิณฑบาต เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการเดินออกมาขออาหารเช้าและกลางวันประทังชีพ เนื่องจากหลักของพุทธนิกายเถรวาทห้ามมิให้คณะสงฆ์ประกอบอาหารรับประทานด้วยตนเองเพื่อต้องการให้นักบวชลดละกิเลสจากการรับประทานอาหาร (ที่เจ้าของบ้านใช้คำว่า ‘ฉัน’) ละการเบียดเบียนจากการคร่าชีวิต ลดเวลาการประกอบอาหารเพื่อได้ศึกษาพระธรรม ได้เผยแพร่ศาสนาจากการออกมาพบปะประชาชนจากการโปรดสัตว์ หากไม่เชื่อเรื่องเวรกรรมอย่างน้อยการทำบุญก็ช่วยทำให้ได้อิ่มอกอิ่มใจ ซึ่งดีนคิดว่าอย่างหลังนี่แหล่ะที่สำคัญที่สุด

               เจ้าของบ้านบอกให้พวกเขาใส่อาหารลงไปใน ‘บาตรพระ’ ก่อน มันคือภาชนะทรงกลมกลวงทำจากโลหะที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนที่อเมริกาแต่เขาเห็นจนชินตาที่วัดไทย จากนั้นจึงนั่งยอง ๆ ลงพนมมือเพื่อรับพรจากพระ เจ้าของบ้านเตรียมอุปกรณ์กรวดน้ำมาให้ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้อธิบายว่า ‘เป็นการส่งต่อผลบุญให้แก่ตนเอง ครอบครัว หรือผู้ที่ล่วงลับ’  ในขั้นตอนนี้ดีนไม่รู้ว่าแมคเคนซีจะทำได้หรือเปล่า

               แม้ว่าดีนจะไม่เข้าใจภาษาบาลีที่พระสวดเลยสักประโยค แต่เขาได้รับบรีฟมาว่าแค่ตั้งใจนึกถึงผู้ที่อยากส่งต่อผลบุญให้ก็พอ

               ‘ขอให้ครอบครัวมีความสุข ขอให้โรบินวิ่งเล่นบนดาวหมาอย่างสนุกสนาน ขอให้ผมรวยไว ๆ ขอแมคเคนซีรักผมไปอีกนาน ๆ ขอให้ไม่เจออสุรกายเบียดเบียน ขอให้ค่ายฮาล์ฟบลัดไม่ถูกบุกอีก’

               และเมื่อปลายนิ้วแตะสัมผัสไปกับสายน้ำก็ทำให้เขานึกถึงสายเลือดทวยเทพที่ไหลเวียนอยู่ในตัว

               ‘พ่อครับ พ่อรู้สึกถึงผมได้ไหม ตักบาตรทำให้รู้สึกดีจริง ๆ ด้วย หวังว่าคุณพ่อโพไซดอนจะได้รับผลบุญที่ผมทำให้นะครับ’

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               หลังใส่บาตรเสร็จดีนก็ยิ้มแป้นหน้าตาผ่องใส… อาจจะคิดไปเองก็ได้แท้จริงแล้วเขาแค่นอนหลับเพียงพอ

               จากนั้นก็มารับประทานข้าวต้มทรงเครื่องที่ดูแล้วอาหารชนิดนี้น่าจะเป็นอาหารประจำโรงแรมของประเทศไทยเพราะว่าได้ทานแทบทุกเช้า จนตอนนี้เขาเริ่มจะคิดถึง ขนมปังปิ้ง แฮม ไส้กรอก และไข่ดาว แต่คิดถึงแบบสุด ๆ เห็นทีจะไม่พ้นไก่ทอดแป้งกรอบ ๆ กับชีสเยิ้มในร้านฟาสต์ฟู้ด

               “อื้อ ฉันขอพรหลายอย่างเลย ให้ครอบครัว ให้ค่าย ให้คุณพ่อ แล้วก็ขอให้เรารักกันนาน ๆ ด้วย”

               ดีนยิ้มแฉ่งให้แมคเคนซีก่อนจะตักข้าวต้มเข้าปาก

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จพวกเขาก็ไปเที่ยวชมกิจกรรมของชาวบ้านนาต้นจั่นกันต่อ มีทั้งทอผ้า ทำตุ๊กตาบาร์โหน และการทำผ้าหมักโคลน ซึ่งดีนลองทำดูมันสนุกแต่ก็ไม่ได้ง่าย บางทีการทำงานศิลปะอาจไม่ใช่ทางของเขา แต่ชายหนุ่มก็ชอบอุดหนุนงานศิลปะทำมือเหล่านั้นจึงได้อุดหนุนหัตถกรรมพื้นบ้านของชาวบ้านมาหลายอย่าง ตอนนี้จึงมีของฝากให้ทั้งครอบครัวที่ซานอันโตนีโอ และคนที่สนิท ๆ ในค่ายฮาล์ฟบลัดอย่างทั่วถึง

               จนมาถึงกิจกรรมสุดท้ายที่โซนโรงครัว รู้สึกว่าเราจะได้เรียนทำอาหารสักอย่างจากชาวบ้านแล้วก็รับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ไปเลย ซึ่งอาหารนั่นคือ ‘ข้าวเปิ๊บ’ ซึ่งถือว่าเป็นอาหารท้องถิ่นของสุโขทัยที่หาทานได้ยากในจังหวัดอื่น

               “รบกวนด้วยนะครับ”

               ดีนกล่าว อยู่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องภาษา เพราะดูเหมือนชาวบ้านจะคุ้นเคยกับคนต่างชาติเป็นอย่างดี และเมื่อเดินเข้าไปหาเขาก็เห็นว่ามีวัตถุดิบทำอาหารต่าง ๆ ตั้งอยู่มากมาย เท่าที่รู้จักก็มี แป้งหมัก ไข่ไก่ หมูสับ มันหมูทอด (กากหมู) ผักต่าง ๆ และวุ้นเส้น

               “นายทำก่อนเลยแมคซี่ เดี๋ยวฉันถ่ายวีดีโอนายให้”

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               “ไม่ต้องเอาไปลงที่ไหนก็ได้นี่นา ฉันแค่อยากถ่ายความน่ารักของนายเอาไว้เองที่รัก”

               ความหวานหยดของคู่รักเกย์นักท่องเที่ยวทำเอาชาวบ้านที่ฟังภาษาอังกฤษออกต่างอมยิ้ม หลังพูดจบดีนก็ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาอัดวีดีโอไว้ทันทีเพื่อให้ไม่พลาดขั้นตอนการทำข้าวเปิ๊บ ดีนมองภาพตรงหน้าผ่านเลนส์ แมคเคนซีแม้ไม่ได้เชี่ยวชาญการทำอาหาร ออกจะงก ๆ เงิ่น ๆ เสียด้วยซ้ำตอนทำแป้งข้าวเปิ๊บ แต่นั่นก็สมแล้วที่อีกฝ่ายเป็นคุณหนูบ้านผู้ดีอังกฤษ แต่ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็นคนเรียนรู้อย่างรวดเร็ว เมื่อผ่านการทำแป้งไปได้สองสามแผ่นก็เริ่มเข้ามือแล้วดูจะทำอะไรทะมัดทะแมงยิ่งขึ้น นั่นทำให้ผู้ที่มองอยู่อย่างดีนอดที่จะอมยิ้มตามไม่ได้

               “ถึงตาฉันแล้วเหรอ กำลังดูนายเพลิน ๆ เลย”

               จนแล้วจนรอดก็มาถึงตาของเขาที่ต้องส่งกล้องให้แมคเคนซีแล้วไปลองทำข้าวเปิ๊บดูบ้าง

               ดีนพอจะมีทักษะการทำอาหารเล็กน้อยจากการช่วยคุณพ่อชาวมนุษย์เตรียมอาหารเย็นตอนเด็ก ๆ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเป็นลูกมือล้างและหั่นวัตถุดิบ ส่วนหน้าที่การปรุงให้เป็นของเชฟใหญ่ประจำบ้าน พอมาอยู่มหาวิทยาลัยก็มีทำอาหารกินเองเป็นบางครั้งเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นอะไรง่าย ๆ อย่างแมคแอนด์ชีส หรือพาสต้าที่แค่ต้มเส้นแล้วก็อุ่นซอสพาสต้าสำเร็จรูปมาราดหน้ารับประทาน ดูเหมือนการทำข้าวเปิ๊บจะไม่จำเป็นต้องปรุงรส แต่สิ่งที่ยากคือการนึ่งแป้งบนผ้าขาวบาง จะว่าไปมันก็คล้ายกับการทำเครปแต่คราวนี้ไม่ได้ทำบนกระทะ ซึ่งมันก็สนุกดี

               แม้แผ่นแป้งจะออกมาบูด ๆ เบี้ยว ๆ ไปบ้างแต่ตอนกินน่าจะไม่ตาย เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาชิมข้าวเปิ๊บที่ถือเป็นอาหารเที่ยงประจำวันนี้ แต่หาทำอะไรสักนิดดีกว่า

               “แลกชามกัน ฉันกินของนาย ส่วนนายกินของฉัน ตกลงตามนั้น”

               พูดเองเออเอง ดีนส่งชามข้าวเปิ๊บของตนเองให้แมคเคนซี จากนั้นจึงฉวยอาหารของอีกฝ่ายมาแทน

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               “ไม่ท้องเสียหรอกน่า วัตถุดิบของเราก็เหมือนกัน เว้นแต่เมื่อกี้ตอนทำผ้าหมักโคลนนายไม่ได้ล้างมือ”

               ดีนยักไหล่ ท้องเขาจะไม่เป็นอะไรจนกว่าที่อีกฝ่ายจะต้องปะทะกับอสุรกายเพียงลำพัง… ไปเอาความคิดแบบนี้มาใส่หัวได้ยังไงกันนะ

               ลองซดน้ำซุปดูก่อน เป็นรสชาติละมุน ๆ อ่อน ๆ ถือว่าพอดีสำหรับชาวต่างชาติอย่างเขาแต่หากเป็นคนไทยคงต้องปรุงรสเสียหน่อยล่ะมั้ง สังเกตได้จากพวงเครื่องปรุงที่ตั้งเตรียมไว้ จากนั้นก็ชิมเส้นและหมูแดงที่โปะหน้า ทานไปพร้อมกับไข่ขาวที่อยู่ด้านบน

               “หืม อร่อยนี่นา นายทำเส้นออกมาได้บางกำลังดีเลย”

               มือข้างที่ว่างยกนิ้วโป้งให้คนรักเป็นการชมเชยจากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตารับประทานต่อแป๊บเดียวข้าวเปิ๊บก็ถูกมายากลเสกของลงท้องหายไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่ซุปสักหยด

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               พอแมคเคนซีทักบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้รับประทานอาหารฝีมือเขาทำให้ดีนนึกได้ว่านี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้กินอาหารฝีมืออีกฝ่ายเช่นเดียวกัน แต่ไม่กวนสักหน่อยคงไม่ใช่ดีน

               “เหรอ แต่ของฉันครั้งที่สองหรือเปล่านะ ครั้งแรกอาหารเวฟฝีมือนาย”

               ถึงแม้อาหารเวฟจะนับว่าทำเองไม่ได้ก็เถอะ..

               “เอาสิ เช็คเอาต์เลยก็ได้ วันนี้ยังเหลือเที่ยวอีกที่สินะ”

               เที่ยวที่เดียวแต่เป็นสถานที่ที่ใหญ่โตเอามาก ๆ เมื่อตกลงกันได้แล้วทั้งสองจึงกลับไปเก็บของที่ห้องพักจากนั้นก็เช็คเอาต์แล้วออกเดินทางกันต่อ

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               ขับรถออกจากตัวเมืองสุโขทัยเล็กน้อยก็มาถึงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่มีเนื้อที่กว่าเจ็ดสิบตารางกิโลเมตรซึ่งถือว่าใหญ่มาก ๆ แทบจะเป็นเมือง ๆ นึงได้เลย (ซึ่งก็ถูก ในอดีตนี้คือเมือง ๆ นึง) ขนาดที่ว่าตอนซื้อตั๋วเข้าชมมีให้เลือกแบบวันเดย์ทริปหรือจะเป็นตั๋วรวมที่เข้ามาเที่ยวได้ภายในระยะเวลาสามสิบวัน ทว่าพวกเขาไม่มีเวลาเที่ยวในจังหวัดนึงมากขนาดนั้นเลยซื้อแบบหนึ่งวันแล้วดูเท่าที่ดูไหวพอ

               สุโขทัยถือเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรหนึ่งของไทยที่พอจะบอกได้ว่านี่แหล่ะต้นกำเนิดของชนชาติสยาม (แต่เหมือนในยุคนั้นจะไม่ได้ใช้คำนั้น) เป็นที่น่าเสียดายที่เมืองหลวงในประวัติศาสตร์กว่าเจ็ดร้อยปีเหลือแต่เพียงแค่ซากโบราณสถาน วัดวาอารามยังพอเหลือรูปทรงโบสถ์เจดีย์อยู่บ้าง ทว่าส่วนที่เป็นพระราชวังเดิมเหลือเพียงแค่ฐานราบไม่เหลือโคลงจนไม่สามารถจินตนาการได้ว่ากษัตริย์สุโขทัยใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แบบไหน ดีนตั้งข้อสังเกตว่าบ้านไทยเก่า ๆ มักจะทำด้วยไม้จึงไม่แน่พระราชวังโบราณอาจจะทำขึ้นจากไม้ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อผ่านเวลามาเกินครึ่งศตวรรษไม้จึงผุพังไปตามกาลเวลาหากไม่ได้รับการทะนุบำรุงอย่างดีมาตั้งแต่แรกเริ่ม

               พวกเขาวนรถเที่ยวชมในเมืองโบราณแห่งนี้อยู่นานสองนานจนได้เวลาปิดทำการจึงขับออกมาหาที่พักในบริเวณใกล้ ๆ กับอุทยานประวัติศาสตร์ ดีนไม่ได้มีปัญหาว่าที่พักจะดีหรือแย่ เขาสามารถใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบันได้ (แต่เลือกได้เอาแบบสบายดีกว่า) แต่ตอนนี้ดีนเริ่มมีปัญหาหนึ่งที่ผุดขึ้นมากวนใจเขาทุกทีที่นึกถึง

               อาการคิดถึงอาหารฟาสต์ฟู้ดกำเริบ

               “อยากกินเวนดีส์จัง ที่ไทยจะมีไหมนะ ไม่เคยเห็นเลย”

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               “เคเอฟซีเหรอ?”

               ดีนยู่หน้าเล็กน้อย สำหรับเขาเคเอฟซีที่อเมริกาอร่อยเป็นอันดับท้าย ๆ ของบรรดาร้านขายไก่ทอดแล้ว ถ้าไม่มีเวนดีส์อย่างน้อยขอให้มีจอลลีบีหน่อยก็ไม่ได้ แต่ถ้าอยากกินแก้เสี้ยนนาทีนี้ต่อให้เป็นเคเอฟซีเขาก็อยากพุ่งเข้าไป ส่วนเท็กซัสชิกเก้น… ตอนอยู่เท็กซัสไม่เคยได้ยินชื่อแบรนนี้เลยแฮะ

               “งั้นถ้าเข้าปั๊มน้ำมันอีกแวะซื้อหน่อยได้ไหมแมคซี่”

               ทำตาใสออดอ้อนคนรัก

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

               “โอเค งั้นฉันรอกินพรุ่งนี้เลย”

               ยิ้มแฉ่งตอบคนรักไป ถ้าได้นั่งอยู่บนรถการจะขอแวะปั๊มน่ะมีเหตุผลตั้งล้านแปดนอกจากเติมน้ำมัน ส่วนวันนี้ก็ได้เวลาพักเพื่อเตรียมลุยเที่ยวจังหวัดต่อไปในวันรุ่งขึ้น

               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie]

อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เทพโพไซดอนให้มีแต่ความสุขความเจริญ...

@God


แสดงความคิดเห็น

208Thailand P.8 - พิษณุโลก เมื่อวานกิจกรรมท่องเที่ยวน้อยทำให้พวกเขาได้มีเวลาได้พักผ่อนเพื่อที่จะลุยเที  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-9-5 18:54
God
คุณได้รับ +50 เกียรติยศ +50 ความศรัทธา โพสต์ 2024-8-25 22:13
โพสต์ 39,637 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2024-8-25 19:55
โพสต์ 39637 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-8-25 19:55
โพสต์ 39,637 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-8-25 19:55
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-9-5 18:54:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-9-19 10:58
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-8-25 19:55
207Thailand P.7 - สุโขทัย
               [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenz ...

208
Thailand P.8 - พิษณุโลก

               เมื่อวานกิจกรรมท่องเที่ยวน้อยทำให้พวกเขาได้มีเวลาได้พักผ่อนเพื่อที่จะลุยเที่ยวในวันนี้ซึ่งกิจกรรมจะออกแนวแอดเวนเจอร์ให้ได้เสียเหงื่อนิดหน่อย อาจจะเท่าตอนที่ขึ้นบันไดห้าร้อยขั้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่วันนี้ดีนชาร์จพลังงานมาเต็มร้อย ทั้งนอนหลับสนิท รับประทานอาหารเช้าจนอิ่ม และโด๊ปกาแฟมาเรียบร้อย

               ขับรถกันออกจากสุโขทัยลงใต้มาไม่นานก็ถึงจังหวัดพิษณุโลกซึ่งถือเป็นหัวเมืองทางเหนือที่สำคัญของประเทศไทย ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อประมาณสี่ร้อยกว่าปีก่อน ‘พิษณุโลก’ จะเป็นเมืองที่ให้ ‘พระมหาอุปราชา’ หรือก็คือรัชทายาทอันดับหนึ่งมาปกครอง ซึ่งถ้าใครได้ปกครองพิษณุโลกก็รู้ได้ทันทีว่าผู้นั้นคือพระราชาองค์ต่อไป และเมืองพิษณุโลกจะมีความเจริญรุ่งเรืองกว่าเมืองอื่น ๆ ในละแวกนี้มาตั้งแต่โบราณ

               สถานที่ท่องเที่ยวแรกเป็นแบบเบา ๆ ก่อนจะไปดำเนินกิจกรรมหนัก สองหนุ่มเดมิก็อดมาเยือน ‘วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร’ หรือที่คนไทยทั่วไปเรียกว่า ‘วัดพระพุทธชินราช’ และชาวพิษณุโลกเรียกว่า ‘วัดใหญ่’ มีหลายชื่อจนงง แต่ที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดใหญ่นี่ก็ใหญ่สมชื่อ ทั้งใหญ่โตด้วยอาณาบริเวณ และใหญ่โตในความสำคัญ ซึ่ง ‘พระพุทธชินราช’ ถือเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในประเทศไทย

               แม้ว่าดีนจะไม่มีความรู้เรื่องความงามแบบไทยแต่เขาก็เห็นด้วยว่าพระพุทธรูปสีทองตรงหน้ามีความงดงามและเปล่งออร่าแห่งความศักดิ์สิทธิ์ออกมา ภายในพระอุโบสถคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่มาสักการะไม่ได้เงียบเหงาเหมือนสถานที่อื่นที่เขาผ่านไปมาจนถ่ายรูปไม่ให้ติดคนได้ยาก กว่าจะได้ภาพนี้มาเขาซูมกล้องแล้วซูมกล้องอีกก่อนจะกดชัตเตอร์ในจังหวะที่เหมาะสม



               “แมคซี่ นั่นเขาทำอะไรกันน่ะ?”

               นอกจากจะเห็นชาวบ้านกราบไหว้องค์พระประธานเขาเห็นชาวบ้านเขย่ากระบอกบางอย่างจนแท่งไม้ร่วงลงมาจากนั้นก็ลุกไปหยิบแผ่นกระดาษในตู้ไม้ข้างผนังมาอ่าน บางคนอ่านเสร็จก็วางคืน แต่บางคนก็หยิบกระดาษนั้นขึ้นมาไหว้แล้วพับใส่กระเป๋า แย่จังเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่ได้ศึกษามาก่อนด้วย

               @Mackenzie

               “จับสลากเนี่ยนะ”

               ดีนเลิกคิ้วพลางคิดขบขัน ก่อนจะเดินตามแมคเคนซีไปดูแผ่นกระดาษจับสลากที่แมคเคนซีว่าก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษาส่องคำแปล มันคือคำทำนายภาษาไทยที่ค่อนข้างต้องใช้การตีความ

               เดิมทีชายหนุ่มเชื่อในวิทยาศาสตร์อย่างสุดหัวใจแม้จะถูกอสุรกายตามล่าก็ยังคิดว่านั่นอาจเป็นภาพหลอน (ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า) และไม่เชื่อในคำทำนายหรืออะไรก็ตามที่บอกว่า ‘อนาคตถูกกำหนดไว้แบบนี้’ แต่เขาก็ไม่ถึงกับหัวแข็งที่จะเที่ยวไปบอกว่าเรื่องเหล่านั้นคือสิ่งไร้สาระ มันคือความเชื่อของคน หากรับสารมาพิจารณาและระมัดระวังตนไม่ให้ประมาทมันก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ ขอแค่ว่าอย่าเอาแต่ยึดติดกับคำทำนายจนทำให้ชีวิตไม่เดินหน้าต่อก็เท่านั้น

               ดีนยิ้มมุมปากก่อนจะเก็บใบคำทำนายไว้ในช่องตู้ไม้ตามเดิม ตอนนี้เขาแค่อยากเล่นสนุกเฉย ๆ

               “น่าสนุก ฉันอยากจะลอง เดี๋ยวมานะ”

               กล่าวจบเขาก็เดินดุ่ม ๆ ไปที่กระบอกเขย่าที่ว่างอยู่ (เซียมซี) เมื่อมองดูใกล้ ๆ เขาเห็นที่ปลายแท่งไม้มีเลขเขียนอยู่ ทำให้เข้าใจหลักการได้ในทันที จากนั้นมองซ้ายมองขวาเลียนแบบชาวไทย นั่งลงก้มกราบพระจากนั้นก็หยิบกระบอกไม้ขึ้นมาเขย่า

               แซ่ก แซ่ก แซ่ก

               เพ่งสมาธิให้แท่งไม้หล่นลงมาแค่แท่งเดียว ซึ่งมันยากมากที่จะทำให้แท่งไม้ไม่หกออกมาทั้งกระบอก เขาจึงใช้เวลาอยู่นานสองนานกว่าจะได้แท่งไม้ทำนายด้วย

               แกรก

               ‘เลข 14’

               เมื่อได้หมายเลขเขาก็เก็บแท่งไม้ลงกระบอกจากนั้นก็เดินดุ๊ก ๆ ไปที่ตู้ผลคำทำนายแล้วหยิบกระดาษในช่องหมายเลขสิบสี่ออกมา

               “ใบที่หกว่าไว้… เฮ้! ใครเอาใบที่หกมายัดช่องสิบสี่เนี่ย!”

               หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันก่อนจะยัดกระดาษที่ผิดพลาดเข้าช่องที่ถูกต้อง แล้วหยิบกระดาษหมายเลขสิบสี่ที่เช็คแล้วว่าใช่ชัวร์ออกมา



               @Mackenzie

               “อืม ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรแต่สุดท้ายเหมือนจะบอกว่า ‘มีความสุขทุกวันนะ’ ได้ใบที่ดีมาแบบนี้งั้นฉันเก็บไว้เป็นที่ระลึกดีกว่า”

               คนดวงดียิ้มแป้นก่อนจะพับใบคำทำนายเป็นใบเล็ก ๆ แล้วสอดไว้ในช่องหนึ่งของกระเป๋าสตางค์

               เมื่อเสร็จจากการเที่ยวชมพระอุโบสถแล้วก็เดินชมสถานที่ต่าง ๆ ในวัด ที่นี่มีทั้งพระใหญ่องค์ใหญ่กลางแจ้ง ซากโบราณสถาน และสถานที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ มากมาย (ดีนไม่แน่ใจว่าเป็นความเชื่อของทางพุทธหรือไม่เพราะรูปปั้นที่ชาวบ้านกราบไหว้ไม่เหมือนพระพุทธรูปที่เห็น)



               “โอ๊ะ ตรงนั้นมีการแสดงด้วย ไปดูกันไหมแมคซี่”

               สะกิดคนรักให้ไปดูทางศาลาหนึ่งเปิดเพลงบรรเลงไทย ตรงนั้นมีนางรำใส่ชุดไทยสวยงามร่ายรำอยู่ด้านหน้า ใกล้ ๆ นั้นมีโต๊ะตั้งอาหารมากมายที่ส่วนใหญ่เป็นหัวหมู ไก่ต้ม และไข่ไก่

               “แปลกชะมัด ที่วัดนี้มีจัดการแสดงด้วย”

               @Mackenzie

               “ฉันมีความสุขอยู่แล้ว แต่มีนายยิ่งมีความสุขมากขึ้นต่างหาก”

               หากไม่ติดว่าอยู่ในวัดในวาเขาคงล็อกคออีกฝ่ายมาหอมสักฟอดหนึ่ง แล้วเขาก็เหล่ไปเห็นว่าอีกฝ่ายส่งบางอย่างเข้ามาให้ในโทรศัพท์มือถือ พอเปิดดูก็เห็นภาพตัวเองที่เขย่ากระบอกเสี่ยงทายเมื่อครู่นี้

               “โอ้ ขอบคุณนะแมคซี่ นายเริ่มจะเป็นสามีบล็อกเกอร์เต็มตัวแล้วสิ”

               ดีนหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะหันไปมองโต๊ะอาหารที่อีกฝ่ายว่าไว้

               “พิธีกรรมเหรอ? เอ่อ.. ก็อาจจะใช่แฮะ”

               ลืมคิดถึงเรื่องนั้นไปเลย เพราะว่าแถวบ้านเขาไม่มีอะไรแบบนี้นี่นา แต่การทำพิธีในวัดย่อมเป็นเรื่องมงคล แม้ว่าพวกเขาจะไม่เกี่ยวแต่ขอดูหน่อยคงไม่เป็นไร

               @Mackenzie

               “คนแก่เหรอ… คงงั้นมั้ง”

               ภาพที่ดีนเห็นเป็นชาวบ้านธรรมดาที่ยกมือพนมไหว้ เท่าที่ดูจากช่วงวัยก็มีผู้สูงอายุอยู่เยอะจริง ๆ นั่นแหล่ะ…

               เมื่อดูการรำบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรสักอย่างเสร็จแล้วก็เดินออกประตูหลังวัดมาเดินเล่นริมน้ำ แม่น้ำเส้นใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าคือ ‘แม่น้ำน่าน’ ที่บัดนี้น้ำในแม่น้ำขึ้นเกือบเต็มตลิ่ง ช่วงนี้ภาคเหนือของประเทศไทยกำลังประสบอุทกภัย คิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งไปมาถูกน้ำท่วมก็หดหู่ใจแปลก ๆ หวังว่าจะไม่มีเรื่องเลวร้ายอะไรไปมากกว่านี้ ดูเหมือนว่าเทพเจ้าแห่งสายน้ำแถบเอเซียจะอยู่ในความดูแลของเทพองค์อื่นไม่ใช่โพไซดอนเสียด้วย หากจำไม่ผิด.. ที่รูปปั้น ‘ใครสอนราดซะหมี’ กล่าวถึงอาจเป็นเทพที่ชื่อว่า ‘พระพิรุณ’

               “เฮโล่ว ลีฟ ฟิช ฟอร์ แมหริด”
               
               “ห๊ะ?”

               จู่ ๆ ก็ถูกคนแถวนั้นเรียกไว้ ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นคนที่มาจับปลาแต่ดูไปดูมาเป็นคนขายปลานี่นา แต่แปลก.. ขายปลาในถุง นอกจากปลายังมีเต่าแล้วก็ปลาไหลอีกต่างหาก แล้วเมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ ‘ปล่อยปลาเพื่อบุญ?’ ดีนกำลังคิดว่าปล่อยปลาเพื่อบุญจะได้บุญยังไงในเมื่อปลาก็อยู่ของมันดี ๆ แต่ถูกคนจับมาใส่ถุงให้คนปล่อยเพื่อทำบุญ อีกอย่างเต่าบกมันว่ายน้ำไม่ได้ปล่อยไปเกรงจะได้บาปมากกว่า

               “เอ่อ.. ไม่ล่ะ”

               อาการล่กเริ่มออกดีนจับแขนแมคเคนซีไว้แน่นเหมือนว่าจะรับมือไม่ถูกกับการเสนอขายเชิงรุก คล้ายกับถูกตื๊อขายคอร์สเสริมความงามในห้างสรรพสินค้าจนน่าอึดอัดใจ

               @Mackenzie

               “ฟู้ว..”

               ดีนถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อผละออกจากพ่อค้านักขายปลามาได้ หากไม่มีแมคเคนซีมาช่วยเอาไว้เขาคงทำตัวไม่ถูกแน่ ๆ

               “อืม… ฉันว่าแถวนี้ก็ไม่มีอะไรมาก พวกเรากลับไปที่รถกันก็ได้แล้วก็ขับรถชมวิวริมน้ำกัน นายว่าไงแมคซี่?”

               เขาเสนอถาม เพราะว่าริมแม่น้ำน่านตรงนี้แสงแดดช่างร้อนแรงจนทำใบหน้าแทบไหม้ อยากจะขึ้นรถไปตากแอร์เย็นฉ่ำเสียมากกว่า

               @Mackenzie

               เมื่ออีกฝ่ายตอบตกลงพวกเขาก็พากันเดินมาที่ลานจอดรถจากนั้นก็ขับออกไปชมวิวริมน้ำรอบเมืองพิษณุโลก ดีนเห็นบ้านลอยน้ำอยู่ที่ริมแม่น้ำน่านอยู่ประปรายถือเป็นภาพที่แปลกตาไม่น้อย ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นแค่บ้านริมน้ำแต่เปล่าเลย เป็นบ้านที่ลอยอยู่ในน้ำต่างหาก รู้สึกแอบเสียดายเล็ก ๆ ที่ไม่ได้จองโรงแรมริมน้ำสุดคลาสสิกติดแต่ว่าน้ำในแม่น้ำออกจะสีแดงไปหน่อย ซึ่งหน้าน้ำก็มักจะเป็นแบบนี้



               “อยากสิ อยากกิน เมื่อวานลองหาร้านดูแล้วเหมือนจะมีในปั๊มน้ำมันที่วังทองนะ เป็นทางผ่านพอดีออกจากเมืองไปนิดนึงก็เจอแล้ว ว่าแต่นายอยากกินไหม? หรือว่าอยากกินอาหารพื้นเมืองพิษณุโลก?”

               เรื่องนี้ดีนก็หาข้อมูลมาเหมือนกันว่าอาหารประจำถิ่นเมืองสองแคว คือ แกงหยวกกล้วย ต้มยำหัวปลีปลาย่าง แกงแคปลาย่าง และแกงคั่วขนุน ซึ่งในคู่มือยังเขียนอีกว่าไม่ใช่อาหารที่หารับประทานได้ง่าย ส่วนมากชาวบ้านจะทำรับประทานกันเองในครอบครัว ดังนั้นหากจะหาทานแกงสามสี่อย่างที่ว่าไปอาจจะหายากยิ่งกว่าเคเอฟซีเสียอีก

               ระหว่างที่นั่งรถผ่านสะพานข้ามแม่น้ำที่ประดับโคมไฟรูปนกสไตล์ไทย พวกเขาก็พบกับวัดแห่งหนึ่งสีทองเหลืองอร่ามจนไม่อาจละสายตา ความงามเป็นที่ประจักษ์แต่น่าเสียดายที่มีห้างซ่อมแซมล้อมอยู่ภายนอกตัววัด



               “โห วัดอะไรเนี่ยสวยชะมัด! แต่ว่ายังสร้างไม่เสร็จงั้นเหรอ น่าเสียดายชะมัดเลย”

               @Mackenzie

               หลังจากที่ชมเมืองพิษณุโลกจนเต็มอิ่มแล้วพวกเขาก็ขับรถกันออกมาตามเส้นทางนอกเมืองแล้วแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มที่มีเคเอฟซี

               “ดงไก่ทอดเลยเหรอ นายก็ว่าไป” ชายหนุ่มหัวเราะ “บอกให้ฉันสั่งเต็มที่งั้นเดี๋ยวลองเอาทุกอย่างทั้งร้านอย่างละหนึ่งเลยดีไหม? หยอก ๆ น่า ถ้ากินทั้งร้านมีหวังได้หอบกลับไปกินอีกวัน”

               เอาจริงร้านไก่ผู้พันถือเป็นเทียร์ต่ำสุดในการจัดอันดับแบรนไก่ทอดที่อร่อยสำหรับดีน อย่าให้บรรยายเลยว่าเคเอฟซีที่อเมริกามีสภาพเป็นยังไง ดังนั้นเขาจึงไม่ตั้งความหวังไว้มากเพราะกลัวว่าจะผิดหวัง ชายหนุ่มสั่งเซ็ตไก่ทอดต้นตำหรับและเบอร์เกอร์มารับประทาน ไหน ๆ จะได้กินแบรนดังที่ต่างประเทศทั้งทีงั้นก็ถ่ายฟุตเทจเก็บเอาไว้เผื่อทำวล็อกเปรียบเทียบไปในตัว โดยการยัดกล้องถ่ายรูปใส่มือแมคเคนซีแล้วขอให้อีกฝ่ายถ่ายให้หน่อย

               “ไฮฮาย เพื่อน ๆ ตอนนี้ผมยังอยู่ที่ไทยแลนด์แล้ววันนี้ได้มากินไก่ร้านดัง ดูเหมือนที่ไทยจะมีแบรนคุ้นหูแค่ที่นี่นะ ไม่ค่อยอยากหวังเท่าไร แต่ก็ขอให้ดีกว่าที่นิวยอร์กนะ… เอาล่ะไม่ให้เสียเวลาเรามาอันบ็อกซ์กันเลย”

               กล่าวจบเขาก็เปิดกล่องไก่ทอด สีหน้าคมคายชะงักอึ้งไปเล็กน้อยก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นไก่ทอดสีเหลืองทองกองอยู่ในกล่อง

               “เฮ้ย นี่มันดูดีกว่าที่คิดไว้มาก ดูสิทุกคนคิดว่าไง” แล้วเขาก็หยิบไก่ทอดชิ้นสะโพกมาโชว์ให้กล้อง “หน้าตาดูดีมาก ไม่เศร้าเหมือนที่เคยกินเลย งั้นเดี๋ยวมาลองชิมดูเริ่มจากไก่อย่างเดียวก่อน”

               ว่าแล้วก็กัดกร้วมเข้าไปคำนึง เสียงกรอบได้ยินเข้ามาถึงในกล้อง ส่วนหนุ่มดีนที่ได้สัมผัสรสของไก่ทอดชื่อดังหลับตาพริ้มอมยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เพียงแค่สีหน้าคงจะสื่ออารมณ์ออกมาได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องบรรยายว่าไก่ทอดชิ้นนี้อร่อยเด็ดแค่ไหน

               “อ้อ ที่ไทยไม่มีเกรวี่นะ แต่ยังมีซอสมะเขือเทศให้อยู่ แล้วอีกอย่างคือ.. เขาบอกว่าเป็นซอสพริก เดี๋ยวลองกินพร้อมซอสดู” กล่าวจบก็ลองใช้น้ำจิ้มที่ไปกดมากินคู่กัน “อื้มมม ซอสรสแตกต่างจากที่นิวยอร์กนิดหน่อย แต่ก็โอเคอยู่นะ”

               ว่าไปแล้วก็อยากลองเมนูแนะนำของที่นี่ดูแฮะ รู้สึกว่าจะชื่อไก่แซ่บอะไรสักอย่างดีนจึงลุกไปซื้อมาชิมเพิ่ม มันอร่อยนะแต่กินแล้วแทบจะพ่นไฟออกมาได้

               @Mackenzie

               “ไก่ทอดที่ไทยก็ต้องมีรสเผ็ดอยู่แล้วสิ”

               ผละออกมาจากแก้วโคล่าเพื่อตอบก่อนจะดูดต่อหมดแก้วจนได้ยินเสียงโครก ดีที่ซื้อแบบรีฟิลมาน้ำในตู้จึงเติมได้ไม่อั้น

               “หิวไหมแมคซี่ พอสไว้แล้วมากินกันก่อนก็ได้นะ”

               ระหว่างรีวิวเขาเห็นคนรักกลืนน้ำลายลงคอไปหลายอึก แมคเคนซีคงคิดไม่ต่างจากเขาว่าเคเอฟซีไทยดีดูกว่าที่อเมริกาสิบล้านเท่า แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าไก่ทอดอังกฤษอร่อยไหม หรือจะขึ้นชื่อแค่เรื่องปลาทอด

               “ว่าไปมีอีกหลายเมนูที่น่ากินเลยนะ โดนัทกุ้ง ทาร์ตไข่ เราซื้อทาร์ตไข่ไปกินเล่นระหว่างทางดีไหมที่รัก?”

               @Mackenzie

               “โอเค งั้นเดี๋ยวกินชิ้นนี้หมดฉันไปซื้อทาร์ตไข่มาเพิ่ม”

               จัดการสวาปามไก่เผ็ดในมือเสร็จอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ดูดโคล่าดับความเผ็ดร้อนไปอีกหนึ่งอึกแล้วก็ซื้อทาร์ตไข่กลับมาเซ็ตนึงแล้วค่อยกลับมากินไก่ที่เหลือต่อ

               พอได้รับประทานอาหารที่คุ้นเคย (ในรสชาติที่ดีกว่ามาก) จนอิ่มอก อิ่มใจ และอิ่มพุงก็ได้เวลาเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปของสองหนุ่มค่ายฮาล์ฟบลัดก็คือ ‘อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า’ ที่อยู่นอกตัวเมืองพิษณุโลกขับขึ้นเขาเข้าป่าไปอีกแล้วหลังจากที่ออกจากป่าเขามาหลายวัน ทิวทัศน์รอบข้างเป็นชนบทอย่างชัดเจนจนสุดท้ายก็มาถึงอุทยาน

               พวกเขาติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ทางเข้าคราวนี้เขาถูกถามหาพาสปอร์ต ไม่น่าเชื่อเลยแฮะว่าจะมาถูกตรวจพาสปอร์ตเอาตรงนี้ ดีนยื่นเล่มพาสปอร์ตเล่มสีน้ำเงินเข้มไปให้เจ้าหน้าที่ด้วยใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ แม้ว่าไทยจะมีฟรีวีซ่าทว่าทั้งสองไม่ได้ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเข้ามา แต่พอเจ้าหน้าที่เห็นรูปเล่มเขาก็ส่ายหน้าก่อนจะยื่นสมุดสะสมบางอย่างให้แก่เขาแทน

               “ไม่ใช่ หมายถึง พาสปอร์ตเที่ยวอุทยานแห่งชาติประเทศไทย คุณอยากซื้อไหมเล่มละหนึ่งร้อยบาท”

               “....”

               เมื่อเห็นพาสปอร์ตท่องเที่ยวที่เจ้าหน้าที่อุทยานยื่นมาให้ชายหนุ่มก็มองมันด้วยสายตาว่างเปล่า ตั้งแต่ที่พวกเขามาเมืองไทยตั้งหลายวันได้ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติมากี่ที่นะ เกือบสิบที่น่าจะได้มั้งแต่เพิ่งรู้ว่ามีพาสปอร์ตท่องเที่ยวขายให้นักท่องเที่ยวได้ประทับตราเอาวันที่เจ็ด

               ‘บ้าเอ๊ย!’

               ดีนสบถในใจก่อนจะปั้นหน้ายิ้มให้แก่เจ้าหน้าที่อุทยานก่อนจะตอบกลับไปว่า

               “ขอสองเล่มครับ ช่วยประทับตราให้ด้วย”

               แม้จะเฟลไปนิดหน่อยแต่ช่วยไม่ได้ เอาไว้คราวหน้าได้มาไทยแลนด์อีกพ่อจะประทับตาให้ครบทุกหน้าเลย!

               “แมคซี่ เอาไว้คราวหลังเรามาแสตมป์กันใหม่นะ”

               ดีนยิ้มแหย ๆ ให้คนรักหลังจากที่พวกเขาออกจากศูนย์ประชาสัมพันธ์เพื่อเข้าชมจุดท่องเที่ยวแรก

               @Mackenzie

               “ถ้าเป็นแบบนั้นแย่เลย ต้องโดนแบล็กลิสต์แล้วก็เที่ยวอย่างถูกกฎหมายจริง ๆ ไม่ได้แน่ โอ้ พระเจ้า!”

               ดีนเองก็โล่งอกไม่แพ้กัน แต่สีหน้าเสียดายของเขาคงแสดงออกมามากว่าถึงได้ถูกขยี้ผมแบบนี้ ยังไม่ค่อยชินเท่าไรแต่มันก็ดีที่ไม่ได้ถูกขยุ้มผมแค่ตอนอยู่บนเตียง

               สถานที่เที่ยวอยู่ห่างจากลานจอดรถไม่ห่างไม่ไกล ดีนเตือนแมคเคนซีว่าอย่าลืมเอาอาวุธสัมฤทธิ์ติดตัวไปด้วย เพราะอะไรก็ไม่รู้ทั้งที่สถานที่ก่อนหน้าหลายแห่งเขาแทบไม่พกอาวุธติดตัวลงมาด้วยแท้ ๆ เมื่อมาถึงป้อมจุดแรกทั้งสองก็ถูกชายวัยเกือบชราคนหนึ่งเข้ามาทัก ลุงคนนั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้จึงต้องใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษากันหน่อย

               ลุงคนนั้นบอกว่าตนเป็นไกด์ท้องถิ่นชื่อลุงชัย หากต้องการจ้างเขาสามารถนำเที่ยวในอุทยานให้ได้ซึ่งดีนคิดว่าก็ดีนะจะได้ความรู้ไปด้วยแล้วเผื่อว่าลุงชัยจะพาไปชมจุดลับที่เด็ด ๆ

               “จ้างลุงไหมแมคซี่ ฉันว่าก็ดีนะ”

               @Mackenzie

               “โอเค”

               เมื่อได้รับการอนุมัติจากเจ้าสัวเขาก็เจรจากับลุงชาวไทยเพื่อจ้างงานไกด์ท้องถิ่นเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านให้ได้มีรายได้ไปในตัว หลักจากที่ตกลงกันได้แล้วลุงชัยก็เดินนำพวกเขาเข้าไปในตัวอุทยานฯ ด่านแรกที่เจอเขาก็พบกับปืนกลเก่าตั้งไว้กลางลาน แม้ไม่รู้ประวัติศาสตร์ก็ย่อมเดาออกว่าสถานที่แห่งนี้คือเป็นสนามรบมาก่อน ซึ่งตามที่อ่านข้อมูลมาคร่าว ๆ ดีนรู้มาว่ารัฐบาลทหารสมัยนั้นได้ต่อสู้กับนักศึกษาและคอมมิวนิสต์ที่หนีเข้ามาในป่า ซึ่งภูหินร่องกล้าคือหนึ่งในสมรภูมินั้น

               เมื่อเดินเข้าไปด่านที่สองที่พวกเขาพบคือป่าต้นอะไรสักอย่างที่มีใบไม้ยาว ดู ๆ ไปแล้วช่างคุ้นตาเหลือเกิน

               “แมคซี่ ดูต้นนั่นสิ ใบมันเหมือนกับใบไม้ที่คนไทยชอบเอามาห่ออาหารเลย”

               ลุงชัยคงเห็นว่าหนุ่มชาวต่างชาติทั้งสองสนใจต้นไม้นั้นเป็นพิเศษจึงแถลงข้อสงสัยให้

               “ตรงนี้เป็นป่ากล้วย กล้วยน่ะมีประโยชน์เยอะเลยนะหนุ่ม ผลกล้วยเอามากินได้ ใบตองเอามาใช้ห่ออาหาร ทำกระทง ส่วนลำต้นกล้วยที่เรียกว่า ‘หยวก’ ก็เอามาทำอาหารเอามาแกงได้ เราใช้ประโยชน์จากกล้วยได้ทั้งต้น” (ภาษาไทย)

               ดีนอ่านทวนข้อความในแอปฯ แปลภาษาให้แมคเคนซีฟังก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รู้คุณประโยชน์ของกล้วย แม้ว่าเขาจะเรียนมาทางด้านชีววิทยาทว่าเขาสนใจในสัตว์มากกว่าพืช ความรู้ด้านนี้จึงมีไม่มากเท่าไร

               @Mackenzie

               “เหมือนว่าจะเป็น ‘ใบทอง’ นะ”

               ดีนตอบกลับแมคเคนซี ในแอปฯ ไม่ได้เขียนทับศัทพ์มาแต่เขาได้ยินลุงชัยพูดมาประมาณนั้น

               หลังจากที่เดินผ่านป่ากล้วยกันมาลุงชัยก็เริ่มร่ายประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยเมื่อเกือบห้าสิบปีที่แล้วว่าอะไรเป็นอย่างไรแล้วทำไมถึงเกิดความแตกแยก โดยรวมแล้วก็เหมือนกับข้อมูลที่ดีนหามาแต่ก็มีรายละเอียดที่พอจะขยายความให้เข้าใจได้มากขึ้น เป็นเรื่องน่าเศร้าที่อุดมการณ์ที่แตกต่างทำให้เกิดการฆ่าล้างกันเกิดขึ้น อันที่จริงเรื่องราวแบบนี้ก็เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกไม่เว้นแต่ที่สหรัฐฯ เองก็เช่นกัน แต่หากราคาที่ต้องจ่ายมันสูงค่าก็หวังอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในสังคม

               ป้ายด้านหน้าเขียนว่า ‘สุสานนักรบ’ พร้อมกับลูกศรเลี้ยวขวาแต่ลุงชัยบอกว่า “ไปดูโรงเรียนการเมืองการทหารก่อนแล้วค่อยวนมาตรงนี้ มันเดินวนเป็นวงกลมได้” (ภาษาไทย)

               หากไกด์ว่าตามนั้นเขาก็เชื่อไกด์แล้วเดินตาม ลุงชัยบอกว่า ‘โรงเรียนการเมืองการทหาร’ เป็นเหมือนหมู่บ้านที่สอนแนวคิดคอมมิวนิสต์ซึ่งตอนนี้ถูกปล่อยทิ้งร้างหลังจากที่มวลชนเข้ามอบตัวกับทางการ ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในป่าลึกพวกเขาได้พบกับบรรยากาศที่ราวกับเทพนิยาย หมอกอ่อน ๆ ปกคลุมยอดหญ้าเขียวขจีซึ้งปกคลุมด้วยพรรณไม้ป่านานาพันธุ์ที่ผลิดอกบานกลางวสันตฤดู หากไม่สนใจเรื่องราวของประวัติศาสตร์สถานที่แห่งนี้ช่างให้บรรยากาศที่เหมือนกับฉากสโนว์ไวท์หลงป่าเสียเหลือเกิน



               ด้วยอุณหภูมิที่ลดต่ำผิดจากในตัวเมืองทำเอารู้สึกหนาวแขน สาบานได้ว่าไม่ได้หนาวเพราะกลัวบรรยากาศวังเวงภายในป่า และการที่ดีนกระแซะตัวเข้าไปติดแมคเคนซีจนเกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่แขนเล่นเอาแทบสะดุ้งมันเกิดจากความหนาว

               เดินเข้าป่ามาร่วมไมล์ก็มาถึงโรงเรียนการเมืองการทหารที่ว่านั่นเสียที บ้านไม้ถูกสร้างขึ้นเป็นโซน ๆ บัดนี้ถูกปกคลุมด้วยตะไคร่และมอสจากความชื้น ไม้บางส่วนผุพังและมีเห็ดขึ้น ดีนจินตนาการไปว่าหากค่ายฮาล์ฟบลัดร้างคงมีสภาพไม่ต่างจากนี้แต่คุณไครอนคงไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น


               ระหว่างนี้ลุงชัยก็บรรยายว่าส่วนต่าง ๆ คืออะไรเป็นฉาก ๆ ราวกับว่าลุงเคยใช้ชีวิตอยู่อาศัยที่นี่ในสมัยเมื่อสี่สิบห้าสิบปีก่อนอย่างไรอย่างนั้น

               “ส่วนตรงนี้เป็นที่อยู่อาศัยของฝ่ายพลเรือน ข้างหลังตรงนู้นจะมีกังหันวิดน้ำ ถ้ามาเที่ยวในฤดูหนาวจะเห็นว่าใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงด้วย” (ภาษาไทย)

               ดีนเงยมองต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นคลุมทั่วบริเวณรวมทั้งเศษใบไม้สีน้ำตาลแก่ที่กองใต้เท้ารอการย่อยสลาย ลักษณะของใบไม้ดูคุ้นตาจริง ๆ ด้วย มันเป็นใบเมเปิ้ลห้าแฉกเช่นเดียวกับที่เซ็นทรัลพาร์ค น่าเสียดายที่มาผิดฤดูไปหน่อยไม่งั้นคงได้ชมความงามอย่างครบสูตรไปแล้ว หรือว่าเขาจะดึงเช็งอยู่ไทยไปจนถึงฤดูหนาวดี? …ล้อเล่นน่า

               @Mackenzie

               จบจากการชมโรงเรียนการเมืองการทหารลุงชัยก็พาทั้งสองเดินวนป่าไปยัง ‘ลานหินปุ่ม’

               แรก ๆ ทางเดินที่ลาดขึ้นเขาเป็นลานหินโล่งสลับกับพื้นหญ้าเป็นบางหย่อม ถือว่าเดินได้สบาย ๆ อยู่ แต่เมื่อเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ เริ่มเห็นร่องรอยของพื้นหินที่แตกแยกออกจากกันจนเป็นร่องหินเยอะ แม้จะมีสะพานเหล็กสำหรับข้ามผ่านแต่ละช่องหินทว่ายังต้องใช้ความระมัดระวังไม่เล่นซุกซน (ซึ่งคนรักตัวกลัวตายอย่างดีนไม่ทำอยู่แล้วแม้ว่าเขาจะซนแค่ไหน) บางจุดเป็นชั้นหินจำเป็นจะต้องปีนป่ายขึ้นไปเล็กน้อย อาจไม่เหมาะกับเด็กเล็กหรือคนชรา ทว่าลุงชัยผู้เชี่ยวชาญพื้นนี้ยังคงเดินขึ้นเขาได้ปร๋อ

               ระหว่างทางพวกเขาได้พบกับประติมากรรมทางธรรมชาติหลายแห่ง เช่น ผาหินกบ เป็นหินก้อนใหญ่ที่ถูกกระแสลมและน้ำเซาะกร่อนจนมีรูปร่างเหมือนกบ และผาหินหัวใจ ที่ถูกกระบวนการทางธรรมชาติกระทำจนมีรูปทรงเหมือนหัวใจ (ที่ดีนดูยังไงก็จินตนาการไม่ออกว่าคล้ายหัวใจตรงไหน) ผาคู่รัก ผาหัวใจหิน ผานาคราช (รูปทรงก็ตามชื่อ มองออกบ้างมองไม่ออกบ้าง)

               นอกจากนี้บนผาหินยังห้อมล้อมไปด้วยมวลบุปผชาติแห่งพงไพร ลุงชัยบอกชื่อดอกไม้ป่าอย่างคล่องแคล่วแต่ดีนจำไม่ได้สักอย่างว่าคือดอกอะไรบ้าง และดูเหมือนว่าแอปฯ แปลภาษาจะแปลชื่อเฉพาะจนมั่วซั่วไปหมด แต่ช่างเถอะไม่ต้องรู้ชื่อก็ได้ขอแค่สวยก็พอแล้ว



               กว่าจะเดินขึ้นมาถึงลานหินปุ่มก็ทำเอาแทบหอบ ตะวันยอแสงเมื่อเข้าสู่ช่วงบ่ายแก่ ๆ

               ลานหินลักษณะนี้สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ลานหินบนภูเขาถูกกระบวนการทางเคมีและฟิสิกส์กัดเซาะกร่อนจนมีสภาพตะปุ่มตะป่ำ ส่วนทางด้านประวัติศาสตร์ก็ระบุว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเพิงอาศัยของคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้นเช่นเดียวกัน ทว่าสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดได้ถูกทำลายลงไปแล้วจากไฟป่า



               และจุดไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้คือผาชูธง เมื่อก่อนจะมีธงค้อนเคียวปักอยู่แต่ตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นธงไตรรงค์ของไทยหลังปราบรามคอมมิวนิสต์เรียบร้อย

               “หนุ่ม ลองตะโกนว่า ‘เหินฟ้า’ สิ” (ภาษาไทย)

               ลุงชัยบอกสองนักท่องเที่ยวหนุ่มถึงธรรมเนียมที่นี่ หลังจากที่ดีนอ่านคำแปลบนหน้าจอมือถือจบเขาก็พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะหันไปยิ้มแป้นให้คนรัก

               “นายถ่ายวีดีโอให้ฉันหน่อยสิที่รัก เดี๋ยวฉันจะตะโกนตามที่ลุงบอก” ว่าแล้วก็ยัดกล้องถ่ายรูปที่เหลือแบตเตอรี่ไม่กี่ขีดให้กับแมคเคนซี

               @Mackenzie

               จัดท่าพร้อมอะไรพร้อม ดีนก็ป้องปากตะโกนหลังสัญญาณที่แมคส่งมาให้

               “ห่านฟ้าาาาา” (ภาษาไทย)

               เล่นทำเอาลุงชัยขำคิกคักแต่ไม่คิดจะแก้ไขให้ ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้รู้ตัวเลยว่าที่ตัวเองตะโกนออกไปนั้นมันผิดคำผิดความหมาย แล้วก็หันมาทางแมคเคนซีด้วยความกระตือรือร้น

               “นายเอาด้วยไหม เดี๋ยวฉันถ่ายวีดีโอให้”

               @Mackenzie

               “ว้า น่าเสียดาย” ทำหน้าเสียดายนิดหน่อยที่จะไม่ได้เก็บภาพอีกฝ่ายไว้ดูเล่น แต่แล้วเรียวคิ้วเข้มก็ขึงขึ้นมา “จะบ้าเหรอ เพลงนั้นมันต้องเอาไว้ร้องให้ไข่เหลืองต่างหาก”

               พวกเขาพักชมวิวกันสักพักแล้วจึงลงเขามาก่อนที่อุทยานจะปิดทำการ จนวนมาถึงป้ายเดิมที่คุ้นเคย ‘สุสานนักรบ’ ที่พวกเขาไม่ได้แวะมาในตอนแรก แต่เมื่อเห็นป้ายนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าทางออกไปลานจอดรถอยู่อีกไม่ไกล เอาจริง ๆ พอเดินเข้ามาในเขตสุสานกลางป่าในช่วงเย็นก็ทำเอาดีนใจเต้นหวิว ๆ บ้างเล็กน้อยจึงเดินตามติดไปกับแมคเคนซีแจ

               แต่เมื่อมาถึงดีนก็แสดงสีหน้าผิดหวังนิดหน่อย เขาคิดว่าสุสานนักรบที่ว่าจะเป็นสุสานอย่างที่เขาเคยไปมาหรือไม่ก็เป็นแบบในหนังสยองขวัญเสียอีก สิ่งที่เห็นเป็นเพียงท่อนไม้ที่ปักไว้เป็นคอกสี่เหลี่ยมล้อมเนินดินขนาดไม่ใหญ่มากที่มีหญ้าปกคลุมจนรกครึ้ม ตรงกลางปักแท่งไม้ขึ้นมาแล้วมีบุหรี่เสียบไว้อยู่ ทว่าไม่มีป้ายชื่อระบุไว้เลยด้วยซ้ำว่าผู้เสียชีวิตคือใคร แต่สิ่งที่ชวนสยองขวัญมากที่สุดคือบ้านไม้ขนาดเล็กเหมือนบ้านตุ๊กตาที่ออกจะผุ ๆ พัง ๆ ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ในบรรยากาศวังเวง จะว่าไปดีนก็เห็นบ้านตุ๊กตาไม้นี้บ่อยเหมือนกันเมื่อมาไทย ดีนเลยลองถามลุงชัยดูว่านั่นคืออะไร

               “นี่คือศาล อันนี้เป็นศาลผี เป็นเสมือนที่พักให้แก่วิญญาณ จะมีอีกประเภทที่เป็นศาลเจ้าที่ ศาลพระภูมิ ศาลพวกนั้นจะเป็นสีขาวแต่งสวย ๆ ให้เทวดาอารักษ์อาศัยอยู่” (ภาษาไทย)

               ดีนไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องสร้างศาลเอาไว้แถมยังมีตั้งหลายประเภท แต่ก็ทำให้เขาพอจะนึกตอนที่คุยกับศิลาออก ‘เมืองไทยผีเยอะ’ คงเพราะมีบ้านให้ผีอยู่แน่ ๆ ผีเลยมีเยอะแล้วไม่ยอมไปไหนเสียที

               ‘โชคดีนะที่มองไม่เห็นผี—’

               คิดในใจไม่ทันขาดคำเขาก็ได้ยินเสียงแซ่กอยู่หลังพุ่มไม้จนกระโดดโหยงไปหลบหลังคนรัก แล้วเมื่อหันไปมองเขาก็เห็นดวงตาสีแดงสองดวงจ้องผ่านมาจากมุมมืด

               “เหวออออ อย่าบอกนะว่านั่นน่ะ ผะ..ผี!!”

               @Mackenzie

               “อะ..เอามาสิ หอกฉันมันก็ อะ..อันเบ้อเร้ออยู่ข้างหลังเนี่ย”

               คนที่บอกว่าไม่เชื่อเรื่องผีพูดตอบปากสั่น พอแมคเคนซีทักเรื่องหอกดีนก็หยิบหอกที่เหน็บไว้กับเป้ออกมากุมไว้ด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ ชายหนุ่มเหลือบมองไปทางไกด์นำเที่ยว ลุงชัยไม่ได้มีท่าทีตกใจหรือหวาดกลัวแต่สีหน้าสูงวัยฉายแววกังวลมากกว่า

               เหมือนกับว่ารู้อะไรบางอย่าง

               ดวงตาในความมืดวูบไหวก่อนที่มันจะโผออกมาจากพุ่มไม้รกชัฏ สองร่างนั้นไม่ใช่ผีทว่ามันคืออัลกูลอสุรกายกินซากศพต่างหาก และตอนนี้มันได้กลิ่นที่หอมอร่อยมากเสียกว่าศพทหารที่นอนค้างในหลุมมาเกือบสี่สิบปี

               ‘แย่ล่ะสิ ตอนนี้มีคนนอกอยู่ด้วยทำไงดี’

               ตอนนี้ลุงชัยอาจมองเห็นอสุรกายสองตัวข้างหน้านี้เป็นสัตว์ป่าอยู่ก็เป็นได้ แต่ไหงลุงชัยถึงตั้งท่าเหมือนเตรียมสู้นะ หรือภาพที่คนธรรมดามองเห็นจะไม่ใช่หมีภูเขา?

               ยังไม่ทันคิดอะไรไปได้มากกว่านั้นอัลกูลตัวใหญ่ก็กระโจนมาทางเขา หากว่ามันไม่ใช่ผีก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แม้อัลกูลจะอันตรายแต่ว่าเขาเคยกำราบมันมาแล้วสองตัวพร้อมกันแน่นอนว่าต้องรู้จักวิธีรับมือ ดีนจึงพุ่งตัวมากางโล่ขวางแล้วรับกรงเล็บนั้นเอาไว้แทนแมคเคนซี แต่ดูเหมือนว่าอัลกูลตัวนี้จะเก่งกาจว่าตัวที่เขาเคยประมือที่หน้าค่าย มันจับโล่ของเขาเหวี่ยงไปไกลทั้งคนทั้งโล่จึงลอยหวือตาม

               “เหวอ!!!”

               ดีนปักหอกค้ำดินเอาไว้ก่อนที่ร่างของเขาจะกระแทกพื้น เมื่อทรงตัวได้เขาก็เห็นว่าอัลกูลตัวนั้นพุ่งเข้ามาจัดการกับเขา ส่วนอีกตัวที่เล็กกว่ายืนประจันหน้ากับแมคเคนซีและลุงชัย สงสัยงานนี้ต้องแยกกันสู้เสียแล้ว

               “แมคซี่ นายระวังตัวด้วยนะ!”

               @Mackenzie

               สำรวจกล้องถ่ายรูปที่คล้องคออยู่ก่อนเลย โชคดีที่ไม่เป็นอะไร แต่ให้สู้ไปทั้งที่สะพายกล้องอยู่แบบนี้ลำบากชะมัด!

               ‘ต้องรีบจบเกมให้ไว!’

               ชายหนุ่มคำรามในลำคอเบา ๆ นัยหนึ่งคือการเรียกขวัญตัวเองแม้ตอนนี้ดีนจะรู้สึกเป็นห่วงทางด้านแมคเคนซีมากแต่เขาต้องจัดการเจ้าอัลกูลตัวใหญ่ระดับจ่าฝูงตัวนี้ไปให้ได้ก่อน ไม่รอให้มันโจมตีแล้วโต้กลับ คราวนี้ดีนบุกทะลวงให้วิชาหอกที่เรียนมาโจมตีใส่มันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเข้าเป้าบ้างไม่เข้าเป้าบ้างแต่ก็สร้างบาดแผลเล็กใหญ่กับมันได้ไม่น้อย

               “ก๊าซซซซ”

               จ่าฝูงอัลกูลร้องเสียงแหลมด้วยความเจ็บปวด กลิ่นเหม็นคาวยิ่งลอยคลุ้งออกมาจากบาดแผลตามเนื้อตัวเน่าเฟะไม่ต่างจากอาหารที่มันรับประทานเข้าไป ดีนเคยทำบันทึกอสุรกายมาก่อน จากเรื่องราวที่เขาได้ค้นคว้าอัลกูลเป็นสัตว์ประหลาดกินซากศพซึ่งอีโวฯ มาจากกูลธรรมดา และเมื่อแค่ศพไม่เพียงพอมันจึงออกล่าชิมเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร และที่โปรดปรานที่สุดเห็นทีจะเป็นเลือดเนื้อของเดมิก็อดอย่างพวกเขา ไม่รู้ว่าพวกมันต้องหิ้วท้องรอมานานขนาดไหน เพราะศพใต้สุสานที่ถูกฝังมาเกือบห้าสิบปีบัดนี้น่าจะไม่เหลืออะไรให้แทะเล็มแล้ว และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่อัลกูลที่เขาปะทะออกจะไร้เรี่ยวแรงออกอาวุธหรือเปล่านะ..

               ‘ถ้างั้นก็เป็นฝุ่นไปซะ!’

               ดีนไม่ได้ตะโกนประโยคสุดจูนิเบียวนี้ออกมาทว่าทุกอย่างคงแสดงออกมาหมดเมื่อหอกสัมฤทธิ์ในมือพุ่งแทงเข้าจุดตายของจ่าฝูงอัลกูลเข้าอย่างจังจนร่างฟอนเฟะได้สลายหายไป ค่อยหายใจได้คล่องหน่อย..

               “ฟู้ว.. ไม่เห็นจะยาก”

               ชายหนุ่มเป่าปากขณะก้มลงเก็บสินสงครามบนพื้น และเมื่อเขาหันไปทางแมคเคนซีก็ดูเหมือนว่าคนรักของมันจะจัดการอัลกูลอีกตัวได้โดยไร้รอยขีดข่วน เรื่องต่อสู้น่ะไม่เท่าไร แต่ตอนนี้ดีนไม่รู้เลยว่าลุงชัยไกด์นำเที่ยวเห็นอะไรมาบ้าง

               เหมือนสองคนนั้นจะคุยอะไรกันแต่คนละภาษา แล้วท่าทีของลุงชัยดูไม่ตกใจสักเท่าไร ผิดกันแววตาออกจะฉายแววตื่นเต้นเสียด้วยซ้ำ

               “พวก ‘ปอบ’ ไม่ได้ออกอาละวาดมานานแล้ว”(ภาษาไทย)

               “ห๊ะ?”

               ชายหนุ่มถึงกับรีบควักเอาสมาร์ทโฟนออกมากดแอปพลิเคชั่นแปลภาษาแล้วให้ลุงพูดใหม่อีกรอบ ความความหมายก็คือ ‘กูล’ แต่เมื่อกี้ไม่เห็นว่าลุงชัยพูดคำว่ากูลออกมาเลย

               “เดี๋ยวนะ คุณมองเห็นไอ้ตัวเมื่อกี้เหรอ?”

               ดีนถาม เมื่อผ่านการแปลภาษาเสร็จคนที่รับสารก็พยักหน้า

               “พวกคุณเป็นร่างอวตารของเทพองค์ไหน” (ภาษาไทย)

               “หา? อวตาร?” เจอคำถามนี้เข้าไปดีนถึงกับอึ้งกิมกี่ หากพูดถึงอวตารใครเล่าจะไม่นึกถึงมนุษย์ต่างดาวผิวสีฟ้าจากดาวแพนดอรา เขาหันหน้าไปมองแมคเคนซี “นายรู้ไหมลุงกำลังพูดถึงอะไร หนังเหรอ?”

               @Mackenzie

               จากข้อสงสัยของแมคเคนซีทำเอาดีนระแวงขึ้นมา ทว่าออร่าที่มาจากตัวของลุงชัยไม่ได้มีกลิ่นอายดำมืดของอสุรกายทว่าเขากลับสัมผัสถึงสายน้ำได้นิดหน่อย แต่เป็นพลังงานน้ำที่แตกต่างจากของตัวเอง ไม่ใช่ทะเลแต่เหมือนแม่น้ำใหญ่

               “คุณเป็นใครกันแน่?”

               ดีนถามผ่านเครื่องมือแปลภาษา หากทั้งหมดพูดคุยด้วยภาษาเดียวกันเข้าใจโดยไม่ผ่านตัวกลางสถานการณ์ซีเรียสตรงหน้าคงไม่ดูขบขันแบบนี้.. แบบที่ลุงชัยเองก็ต้องชะโงกหน้าดูคำแปลบนมือถือ แถมเรื่องที่พวกเขาคุยกันยังเป็นอะไรที่ต้องจับเข่าขยายความกันเยอะอีกด้วย

               “ลุงก็น่าจะเป็นเหมือนพวกหนุ่ม ‘ภีษมะ’ คือชาติก่อนของลุง บุตรแห่งคงคา”(ภาษาไทย)

               คำตอบทำเอาดีนอึ้งไป..

               “อะไรนะ? ชาติก่อน?” เขาสะบัดหัว “ไม่สิ แต่คุณบอกว่าเป็นบุตรแห่งคงคา แปลว่าคุณเป็นเดมิก็อด?”

               คำว่า ‘ครึ่งเทพ’ เด่นหราบนหน้าจอแปลภาษาไทยทำเอาลุงชัยหัวเราะ

               “ไม่ใช่ ลุงก็เป็นคนธรรมดานี่แหล่ะ แค่สัมผัสญาณพิเศษได้นิดหน่อยจากการระลึกชาติ แต่ว่าพวกหนุ่ม…”(ภาษาไทย) ลุงชัยเว้นวรรคก่อนจะทำหัวคิ้วขมวดมุ่น “ไม่ได้กลับชาติมาเกิดกันงั้นรึ?”(ภาษาไทย)

               “กลับชาติมาเกิด.. ฟังเหมือนอนิเมะญี่ปุ่นเลยแฮะ เกิดใหม่ในต่างโลกอะไรงี้...” ดีนหันไปซุบซิบกับแมคเคนซีก่อนที่เขาจะหันกลับมาสนทนาต่อ “ไม่ เรา เอ่อ.. เป็นเดมิก็อด ลูกของเทพกรีก คุณลุงรู้จักไหมครับ โพไซดอนกับเฮคาที”

               โพไซดอนคงน่าจะพอได้ยินอยู่บ้าง แต่นามของแม่แมคเคนซีที่เป็นมินิก็อดฟังครั้งแรกอาจจะไม่เข้าใจ

               “โอ้ สายตรงเลยรึ” (ภาษาไทย)

               ลุงชัยแสดงสีหน้าทึ่ง สำหรับภูมิภาคนี้น้อยคนนักที่จะเป็นบุตรแห่งเทพเจ้าสายตรง ส่วนใหญ่มักจะเป็นพวกกลับชาติมาเกิดกันทั้งนั้น กลับชาติมาเกิดจากบุตรแห่งเทพเลยอาจจะน้อย แต่พวกพญานาคเกิดใหม่มีเยอะมาก แม้ส่วนใหญ่ของเก๊จะมีมากกว่า

               “โพไซดอน.. รู้จักสิ เทพแห่งอ่าง แต่อีกองค์ลุงไม่รู้จัก” (ภาษาไทย)

               @Mackenzie

               ดูเหมือนการสนทนาเรื่องเชื้อสายการเป็นเทพคงต้องจบลงเพียงเท่านี้จากการทักท้วงของแมคเคนซี ดีนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงกว่าเกือบห้าโมง อุทยานใกล้จะปิดและพวกเขาต้องเดินทางต่อ ทั้งหมดจึงรีบเดินเท้าออกมายังหน้าที่ทำการโดยไม่ได้สนทนาเรื่องลูกเทพอะไรอีก

               จนสุดท้ายก็ได้เวลาร่ำลา เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ลุงชัยก็สวมวิญญาณกลับมาเป็นไกด์ท้องถิ่น

               “ก่อนกลับลองไปที่ลานจอดฮอฯ ใกล้ลานกางเต็นท์สิ ตรงนั้นเพิ่งพบรอยเท้าไดโนเสาร์เมื่อไม่กี่วันนี้เอง” (ภาษาไทย)

               จากคำแนะนำของลุงชัยทำเอาดีนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง เผลอ ๆ จะมากกว่าที่รู้ว่าลุงไม่ใช่คนธรรมดาเมื่อกี้เสียอีก

               “ได้เลยครับ งั้นเดี๋ยวผมจะลองแวะไปดู วันนี้ขอบคุณมากนะครับลุงชัย”

               เมื่อร่ำลากับไกด์และเจ้าหน้าที่เรียบร้อยดีนก็คะยั้นคะยอให้แมคเคนซีขับรถไปที่ลานกางเต็นท์แล้วรีบจ้ำไปดูรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ตามคำแนะนำ ทว่านักท่องเที่ยวอย่างพวกเขาเข้าไปดูรอยเท้าไดโนเสาร์ไม่ได้ อย่างว่าแหล่ะ เพิ่งถูกค้นพบไม่กี่วันก่อนเองนี่นา ตอนนี้พื้นที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์จึงถูกกั้นเทปเอาไว้

               “น่าเสียดายชะมัดเลย คราวหน้าที่มาหวังว่าจะเข้าชมได้แล้วนะ”

               ดีนพูดเหมือนกับว่าจะได้มาอีก เขาตั้งจีพีเอสให้แมคเคนซีขับรถไปที่พักคืนนี้ที่เขาจองมาเมื่อคืนพร้อมด้วยอาหารไทยสุดพิเศษที่คู่มือนำเที่ยวบอกว่าเป็นอาหารยอดฮิตที่ชาวไทยโปรดปราน แต่จะเป็นอะไรนั้นขออุบไว้ก่อนเอาไว้ค่อยเซอร์ไพรซ์แมคเคนซีทีเดียว

               @Mackenzie

               ใช้เวลาสองชั่วโมงในการขับรถลัดเลาะทิวเขาไปจนถึง ‘เขาค้อ’ จังหวัดเพชรบูรณ์ น่าเสียดายที่พวกเขามาถึงช้าไปหน่อยเลยไม่ทันได้ดูตะวันตกดิน ทว่าถือยังโชคดีฟ้ายังไม่มืดสนิทไม่อย่างนั้นต้องลำบากแน่ ๆ

               ที่พักในคืนนี้เป็นเต็นท์กระโจมสีขาว ภายในมีที่นอนที่สะดวกสบายแต่ถ้าจะเข้าห้องน้ำต้องเดินออกมาเข้าห้องน้ำข้างนอกที่อยู่ใกล้กับเต็นท์ วันนี้ทั้งสองใช้แรงช่วงบ่ายมามากเมื่อมาถึงท้องก็ร้องจ๊อก ๆ ดีนจึงให้พนักงานนำอาหารเย็นที่รวมในแพ็กเกจออกมาเสิร์ฟทันที

               แต่นแต๊น! มัน คือ หมูกระทะ และน้ำเก็กฮวยบูด



               ดีนไม่เคยกินบาร์บีคิวแบบไทยมาก่อนแต่ว่าเขาเป็นมือวางอันดับสองของการปิ้งบาร์บีคิวตอนไปแคมป์ปิ้งอยู่แล้ว เช็ตอาหารที่อยู่ตรงหน้าจึงดูเป็นเรื่องที่น่าสนุกสำหรับชายหนุ่ม และด้วยความที่เขาใช้ตะเกียบคล่องกว่าแมคเคนซีจึงเป็นคนปิ้งเสิร์ฟไปให้โดยปริยาย

               “อื้ม บาร์บีคิวแบบนี้ก็อร่อยดีนะ เหมือนว่าคนไทยจะเรียกว่า ‘มู้กะตะ’ คีบเบค่อนสุกแตะน้ำจิ้มนิดหน่อยแล้วเอาเข้าปากเคี้ยวตุ้ย จากนั้นก็กระดกเบียร์เย็นขึ้นดื่ม “อาห์ นี่ก็ชื่นใจมาก มื้อนี้เหมือนเป็นรางวัลของความเหนื่อยเลยเนอะ”

               หันมายิ้มกว้างให้กับแมคเคนซีที่กินไปชมทิวทัศน์ข้างล่างภูเขาไปด้วยกัน แม้จะไม่เห็นอะไรมากมายนอกจากแสงไฟจากบ้านเรือนก็ตามที

               @Mackenzie
               
               “กินได้ใช่ไหม ไม่เผ็ดสำหรับนายไปเนอะ”

               เห็นคนรักดูเอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้าเขาก็ดีนใจ จะมีอะไรดีไปกว่าเห็นคนรักกินอิ่มนอนหลับอีกล่ะ

               “นั่นสิ มีมากกว่าที่ศิลาบอกตั้งเยอะ บางทีหมอนั่นอาจจะมาค่ายก่อนก็เลยไม่ทันได้เจอแบบที่พวกเราเจอก็ได้มั้ง”

               อย่างอัลกูลที่ต่อสู้มาเมื่อเย็นก็เป็นอสุรกายที่มีถิ่นอาศัยอยู่แถวสุสาน หากอยู่อาศัยในตัวเมืองก็คงจะไม่เจอกับอสุรกายแบบนั้นหรอก

               @Mackenzie

               “เห็นนายกินอร่อยฉันก็ย่างซะเพลินเลยไง”

               ดีนหัวเราะน้อย ๆ ก่อนจะคีบเนื้อย่างเข้าปากกินบ้าง อีกฝ่ายแบ่งหมูมาให้แบบนี้บางทีอาจจะเริ่มอิ่มแล้วมั้ง ไม่เป็นไรช่วยกันกินเดี๋ยวก็หมด

               “ฉันเพิ่งได้คำทำนายโชคดีมาเพราะงั้นไม่เป็นไรหรอก ถ้าเจอพวกมันอีกเราก็ขับรถหนีเลยเป็นไง”

               เทียบกันแล้วการท่องเที่ยวคราวนี้ถือว่าได้เจอกับอสุรกายน้อยกว่ามากกว่าการเดินทางอื่น ๆ เสียอีก ถ้าได้ปะทะบ้างประปรายดีนก็คิดว่าตนสู้ไหว แต่ถ้าให้ดีไม่ขอเจอเลยจะดีกว่า

               จะว่าไปวันนี้ก็ได้รู้เรื่องลูกเทพจากไทยอีกเรื่อง ถึงจะเป็นการกลับชาติมาเกิดมากกว่าการเป็นลูกเทพสายตรงก็เถอะ…

               หลังจากที่รับประทานมื้อค่ำกันอย่างอิ่มหนำสำราญมีแอลกอฮอล์ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดกันพอประมาณแล้วก็ได้เวลาล้างเนื้อล้างตัวแล้วจุ่มตัวลงไปในที่นอนแสนนุ่มโดยไม่ลืมตั้งเวลาปลุกสำหรับการชมทะเลหมอกในเช้าวันพรุ่งนี้

ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์: ถ่ายรูปภาพจังหวัดพิษณุโลก
[4/5]
------------------------------------------------------------------------



@God

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2024-9-9 10:57
God
คุณได้รับ +10 ความกล้า โพสต์ 2024-9-9 10:57
37. RevengeM [ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ] เวลานี้พวกเขามาถึงจังหวัดพิษณุโลกซึ่งเป็นที่ถัดมาจากจังหวัดสุโขทัยกัน  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-9-8 20:48
โพสต์ 110289 ไบต์และได้รับ 60 EXP!  โพสต์ 2024-9-5 18:54
โพสต์ 110,289 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-9-5 18:54
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-9-8 20:48:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-9-5 18:54
208Thailand P.8 - พิษณุโลก
               เมื่อวานกิจกรรมท่องเที่ย ...

37. Revenge
M


[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เวลานี้พวกเขามาถึงจังหวัดพิษณุโลกซึ่งเป็นที่ถัดมาจากจังหวัดสุโขทัยกันแล้ว สถานที่แรกสำหรับวันนี้ก็คือ ‘วัดพระพุทธชินราช’ จากที่ไปเที่ยวตามจังหวัดต่าง ๆ เป็นเวลาครึ่งทริป แมคเคนซีก็สังเกตได้ว่าประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่ศาสนสถานเยอะมาก ไม่ว่าพวกเขาจะไปจังหวัดไหนก็จะมีวัดอยู่ในตารางแนการท่องเที่ยวของวันนั้นเสมอ และไม่เพียงแต่มีวัดประจำเมือง ขณะที่พวกเขาขับรถก็ยังผ่านวัดนั้นวัดนี้เต็มไปหมดจนสงสัยว่าชาวพุทธนั้นเคร่งศาสนาขนาดนี้เชียวหรือ

กลับมาที่วัดพระพุทธชินราชกันต่อ นอกจากที่นี่จะถือว่าเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่แล้ว ภายในพระอุโบสถก็ยังตกแต่งได้งดงามราวกับว่าพวกเขาอยู่ภายในห้องที่เต็มไปด้วยทองคำ ทั้งแสงไฟที่ตกกระทบ ภาพวาดลายไทยตามเสาและกำแพง รวมไปถึงพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งไว้ให้ชาวพุทธมาสักกาะบูชา ขนาดที่ว่าแมคเคนซีที่เป็นชาวคริสต์ก็ยังคิดว่าสถานที่นี้งดงามมากจริง ๆ

“หือ…นั่นสิ เหมือนกำลัง…จับฉลาก ? แต่ว่าจับฉลากเพื่อเอากระดาษเนี่ยนะ”

พอถูกดีนถามเข้าก็เลยหันไปมองกิจกรรมที่อีกฝ่ายกำลังพูดถึง ตอนเข้ามาในพระอุโบสถก็ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นหูมาตลอด ที่แท้ก็มาจากการที่มีผู้คนเขย่ากระบอกไม้จนไม้แท่งเล็ก ๆ หลายแท่งที่บรรจุในนั้นกระทบกันนั่นเองด้วยความสงสัย แมคเคนซีจึงเดินไปดูตรงตู้ไม้ข้างผนังที่ใส่กระดาษก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ไม่เห็นมีภาษาอังกฤษเลย แต่เหมือนเขาจะวางเรียงเป็นเลขไว้นะ”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อดีนใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษากระดาษที่เรียงอยู่ในตู้ แมคเคนซีจึงยื่นหน้ามาอ่านด้วยถึงได้รู้ว่าเป็นคำทำนายนี่เอง เขาพยักหน้ารับเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าอยากลองไปรับคำทำนายดูแล้วยืนรออยู่ที่เดิม แต่ก็นึกอะไรสนุก ๆ ในส่วนของตัวเองขึ้นมาได้จึงหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปตอนคนรักเขย่ากระบอกไม้อย่างตั้งใจจนได้คำทำนายมา เมื่อดีนเดินกลับมาหยิบคำทำนายจึงอ่านดูด้วยอีกครั้ง

“โอ้ ลัคกี้นี่นา ใช่ไหม”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“นายต้องมีความสุขทุกวันอยู่แล้ว มีฉันอยู่ด้วยทั้งคน”

บอกแล้วก็กดส่งคลิปที่เพิ่งอัดไว้ให้

“ฉันถ่ายเก็บไว้ เผื่อนายอยากอัพลงวล็อค”

พอออกจากพระอุโบสถพวกเขาก็เดินดูรอบ ๆ กันต่อ ที่นี่เองก็มีซากปรักของโบราณสถานเช่นกัน ดูท่าว่าคงจะเคยเป็นเมืองเก่าไม่ต่างจากสุโขทัย จนกระทั่งดีนชวนเขาหยุดดูการแสดงของคนกลุ่มหนึ่ง

“มีโต๊ะอาหารด้วย แถมยังจุดธูปอีก นายไม่คิดว่าพวกเขากำลังทำพิธีกรรมอะไรสักอย่างเหรอ”

จากที่ดูสถานการณ์โดยรวมแล้วแมคเคนซีไม่คิดว่าเป็นการแสดงทั่วไป แต่คืออะไรก็สุดที่จะรู้เช่นกัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

‘สามี !’

คำคำนี้วนเวียนอยู่ในหัวแมคเคนซีซ้ำ ๆ ราวกับโดนสะกดจิตจนต้องใช้สองมือตบ ๆ แก้มตนเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา

“น่าจะเป็นการแสดงท้องถิ่นหรือเปล่า คนแก่ ๆ มาดูกันเต็มเลย”

นอกจากนักแสดงจะแต่งกายเหมือนชุดไทยสมัยก่อนแล้ว แมคเคนซีก็ยังสังเกตเห็นกลุ่มคนสูงอายุที่แต่งกายด้วยชุดแบบชาวบ้านต่างกับผู้คนสมัยนี้มายืนดูการแสดงอยู่ตรงมุมนึงด้วย

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ขณะที่เดินเล่นกันริมน้ำก็นึกถึงการแสดงเมื่อครู่ขึ้นมา แต่ในตอนที่คิดถึงเรื่องนั้นดีนก็จับแขนเขาไว้ พอหันไปมองอีกทีก็เห็นคนรักของตนถูกคนขายสัตว์น้ำแถวนั้นตามตื๊อเข้าซะแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพูดภาษาอังกฤษได้ แมคเคนซีจึงขยับตัวมาบังดีนไว้แล้วปฏิเสธซ้ำไปอีกครั้งด้วยเสียงเข้มและเด็ดขาดกว่าจนคนขายคนนั้นยิ้มเจื่อนแล้วเดินกลับร้านตนเองไป

“ให้ตายสิ ฉันดูดุขนาดนั้นเลยหรือไง นายอยากอยู่ตรงนี้ต่ออีกหน่อยไหม หรือว่าจะไปที่ต่อไปกันเลยดี”

เขาบ่นพึมพำก่อนถามความเห็นอีกฝ่ายเมื่อคิดว่าตอนนี้พวกเขาเดินดูกันจนทั่วแล้ว

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เป็นความคิดที่ดี”

พยักหน้ารับเห็นด้วยกับข้อเสนออีกฝ่าย จากนั้นก็พากันเดินไปยังที่จอดรถแล้วขับไปยังสถานที่ต่อไปด้วยความเร็วแบบชิล ๆ เพื่อให้ดีนได้ดูวิวไปด้วย

“เมื่อวานที่นายบอกว่าอยากกินไก่ทอดตอนนี้ยังอยากกินอยู่ไหม”

แมคเคนซีถามขึ้นมาขณะขับรถหลังจากเหลือบไปเห็นหน้าปัดแสดงปริมาณน้ำมันที่พร่องไปกว่าครึ่ง เขาควรแวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมันได้แล้ว และหาอะไรทานในมื้อกลางวันกันก่อนจะไปยังจุดมุ่งหมายถัดไป

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เรากินอาหารไทยมาหลายมื้อแล้ว เปลี่ยนบ้างก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวฉันต้องแวะเติมน้ำมันอยู่แล้วด้วย ส่วนอาหารพื้นเมือง ถ้านายอยากลองชิมเราไปหาร้านตอนมื้อเย็นกัน”

บอกแล้วก็ขับรถไปเรื่อย ๆ จนมาถึงวัดที่ดีนโหวกเหวกด้วยความตื่นเต้นว่าสวยงาม ซึ่งมันก็งดงามอย่างที่ว่าจริง ๆ แมคเคนซีถูกสีทองของสิ่งลูกสร้างนั้นกระแทกตาเข้าอย่างจัง

“ถ้าสร้างเสร็จนายว่าเขาจะเปิดให้เข้าไปดูข้างในไหม ดูหรูหราเกินกว่าจะเป็นวัดยังไงก็ไม่รู้”

สายตาไล่มองขณะขับผ่านวัดไป ไม่รู้ว่าใช้ทองคำจริงสร้างหรือเปล่า ถ้าใช่ก็คงจะอลังการงานสร้างเกินไปแล้ว

หลังออกจากเมืองมาได้สักพักก็เจอปั๊มน้ำมันที่มีเคเอฟซีตามที่ดีนบอก แมคเคนซีเลี้ยวรถเข้าไปทันที หลังจากเติมน้ำมันและมาจอดรถที่หน้าร้านไก่ทอดชื่อดังแล้วก็พากันเดินเข้าร้าน

“เรามาถึงดงไก่ทอดแล้ว อยากกินอะไรสั่งเต็มที่เลยที่รัก”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อสั่งอาหารและมานั่งกันเรียบร้อย หนุ่มอเมริกันชีวิตติดโซเชียลอย่างดีนก็ส่งกล้องถ่ายรูปมาให้แมคเคนซีถ่ายวิดีโอเก็บไว้ ทันทีที่อีกฝ่ายเปิดกล่องไก่ทอด กลิ่นหอมอันแตกต่างจากร้านที่สาขาอเมริกาก็ลอยมาเตะจมูกให้ตายสิ เขาเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของตากล้องรายการรีวิวอาหารต่าง ๆ ก็วันนี้เองว่าต้องพยายามถือกล้องถ่ายโดยอดทนต่อกลิ่นยั่วยวนของอาหารและท่าทางการทานที่ออกรสออกชาติของนักรีวิวมากแค่ไหน ดีที่ว่าอีกฝ่ายเป็นแฟนเขา หน้าตาเปี่ยมสุขเวลาได้ทานของอร่อยจึงพอเป็นอาหารตาดึงดูดแมคเคนซีจากอาหารที่ทำให้อิ่มท้องได้ แม้แต่ตอนที่ดีนลุกไปซื้อไก่ทอดเพิ่ม เขาก็แพลนกล้องตามไปและกดซูมให้ภาพโฟกัสอีกฝ่ายในระยะใกล้จนกระทั่งเดินกลับมาและลองทานเมนูที่ชื่อว่าวิงแซ่บดู

“เฮ้ ! ไหวหรือเปล่า ไก่ทอดที่ไทยมีแบบเผ็ดด้วยงั้นเหรอ”

พอเห็นอาการเผ็ดแบบนั้น แมคเคนซีก็กดปุ่มหยุดแล้วเลื่อนแก้วน้ำโคล่าให้คนรัก

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เมนูซิกเนเจอร์ของแต่ละประเทศสินะ แต่ที่นี่กลิ่นมัน…ดูท่าจะจัดจ้านน่าดู”

เห็นดีนดื่มน้ำไปขนาดนั้นก็รู้ได้ว่าเมนูนี้คงไม่เหมาะกับตนแน่ ๆ แถมพอลองเอามาดมใกล้ ๆ ก็ได้กลิ่นเครื่องเทศที่ต่างไปจากไก่ทอดยี่ห้อเดียวกันที่สาขาอเมริกา แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่กลิ่นไม่ดีอะไร ตรงกันข้าม…ค่อนข้างหอมไม่แพ้กับไก่ทอดชุดแรกที่พวกเขาสั่งมาด้วยซ้ำ เพียงแต่เหมือนเขาจะได้กลิ่นเปรี้ยว ๆ ผสมเผ็ดร้อนยังไงชอบกล คงต้องให้ดีนจัดการให้หมดซะแล้ว

“หิวสิ นายกินน่าอร่อยขนาดนั้น งั้นเดี๋ยวค่อยถ่ายต่อนะ”

พอดีนเอ่ยปากชวนก็วางกล้องลงแทบจะทันที สงสัยเหลือเกินว่าไก่ทอดของไทยจะอร่อยสักแค่ไหนกันเชียว

“โอ้ อร่อยมาก !”

หลังจากที่เอาไก่ทอดจิ้มซอสแล้วทานคำแรกเข้าไปก็ต้องตาโต ไก่ทอดของที่นี่ต่างจากที่อเมริกาลิบลับ ทั้งแป้งที่กรอบและเนื้อไก่ที่ทอดจนสุกแต่ยังมีความชุ่มฉ่ำไม่แห้งเกินไปจนฝืดคอ ยิ่งพอจิ้มซอสก็ทำให้เนื้อไก่ยิ่งมีรสชาติ แม้ว่าโดยรวมแล้วรสชาติจะเข้มข้นกว่าของอเมริกาแต่ก็ถือว่าทำได้อร่อยทีเดียว

“เอาสิ ฉันก็สนใจทาร์ตไข่อยู่ ที่อเมริกาไม่มีเลยนี่นา”

แมคเคนีพยักหน้าเห็นด้วยทันที แม้ว่าจะไม่ได้ชอบทานของหวาน แต่เคเอฟซีที่ขายทาร์ตไข่ก็ถือว่าแปลกใหม่ลองสักชิ้นคงไม่เป็นไร เพราะยังไงคนที่ชอบของหวานอย่างดีนก็คงทานที่เหลือหมดเกลี้ยงแน่ ๆ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อจบจากมื้อกลางวันและซื้อขนมมาทานกันในรถต่อแล้ว พวกเขาก็เดินทางมายัง ‘อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า’ ซึ่งขณะจะขับรถเข้าไปด้านในพวกเขาก็ถูกเจ้าหน้าที่เรียกไว้ซะก่อน และเขาก็ถึงกับขมวดคิ้วเมื่อดีนยื่นพาสสปอร์ตไปให้ แน่ล่ะสิ…พวกเขาไม่ได้เดินทางกันมาโดยเครื่องบินสักหน่อย สถานะจึงไม่ต่างอะไรกับพวกลักลอบเข้าประเทศ แต่สุดท้ายก็ถูกช็อตฟีลเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าหน้าที่เพียงแค่ต้องการจะขายพาสสปอร์ตของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ให้ต่างหาก

“ให้ตายสิ ฉันตกใจแทบแย่ นึกว่าจะโดนตรวจพาสสปอร์ตจริง ๆ แล้วโดนส่งกลับบ้านเกิดซะแล้ว”

แมคเคนซีถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะขับรถผ่านเข้าไปด้านในเพื่อหาที่จอด เขาละมือข้างนึงจากพวงมาลัยไปขยี้ผมสีเข้มของรักเบา ๆ

“ยิ้มแบบนั้นเสียดายล่ะสิ เอาสิ ไว้มากันใหม่ก็ได้”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อืม…ถ้านายว่าดีฉันก็โอเค”

แมคเคนซีพยักหน้าน้อย ๆ เมื่อเห็นว่าดีนต้องการจะจ้างไกด์ท้องถิ่นที่มาเสนอตัวนำพวกเขาไปเที่ยวจุดต่าง ๆภายในอุทยาน ถึงแม้เขาจะชอบการเที่ยวเป็นส่วนตัวแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหากจะมีคนร่วมเดินทางไปด้วย จะติดก็แต่คนนำเที่ยวที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แม่จะมีแอปพลิเคชั่นแปลภาษาก็ตาม แต่พวกเขาจะเสียเวลาสื่อสารกันนานไหมก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ให้ดีนผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดีกว่าเขาเป็นคนจัดการก็แล้วกัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

แล้วพวกเขาก็เริ่มออกเดินทางสำรวจไปยังจุดต่าง ๆ โดยเริ่มจากส่วนที่เป็สนามรบเก่า และส่วนต่อมาก็คือป่ากล้วย เขาฟังคุณลุงที่ชื่อชัยอธิบายเป็นภาษาไทยด้วยสีหน้างุนงง แต่ก็ยังดีที่ดีนใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษาแล้วอ่านให้เขาฟังต่อมาแทบจะทันที ซึ่งหากพวกเขามาเที่ยวกันเองก็คงไม่รู้ว่าจุดต่าง ๆ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร

“ใบต้นกล้วยเขาเรียกภาษาไทยว่าอะไรนะ”

ดูเหมือนจะไม่ได้เรียกว่าใบต้นกล้วยตรงตัวอย่างภาษาอังกฤษที่พวกเขาพูดกัน แต่ถาจะให้เดาจากที่ลุงชัยพูดก็เดาไม่ถูกอยู่ดีว่าคือคำไหน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ใบทอง…”

พึมพำออกเสียงตามอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปต่อที่ยังจุดอื่น ไม่ว่าจะเป็น ‘โรงเรียนการเมืองการทหาร’ ที่เคยเป็นค่ายของกลุ่มคอมมิวนิสต์ไทยในสมัยก่อน จะว่าสมัยก่อนก็ไม่ถูกนัก หากเทียบกันแล้วก็น่าจะอยู่ในสมัยที่พ่อของเขายังเป็นวัยรุ่น (ส่วนแม่ไม่นับ…เพราะนับอายุไม่ถูก) จะว่าไปก็น่าเสียดายไม่น้อย ประเทศที่มีทรัพยากรและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่างประเทศไทยยังคงถกเถียงกันเรื่องการปกครองและประชาธิปไตยมาจนถึงปัจจุบันจนมีข่าวออกมาให้ทั่วโลกเห็นกันอยู่กราย ๆ ทั้งที่น่าจะเอาเวลาเหล่านี้ไปพัฒนาประเทศและความเป็นอยู่ของพลเมืองให้ดีขึ้นกว่านี้ได้แล้วแท้ ๆ

ขณะที่คิดเรื่องเหล่านั้นพลางมองที่อยู่อาศัยซึ่งถูกทิ้งร้างไว้ แมคเคนซีก็ไหวไหล่เล็กน้อยแล้วกลับไปสนใจลุงชัยที่กำลังอธิบายเรื่องอื่นต่อ

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

จากนั้นไกด์ท้องถิ่นอย่างลุงชัยก็พาพวกเขาไปยังจุดต่อไป เริ่มจากพื้นที่ราบไปจนถึงส่วนที่เป็นชั้นหินซึ่งเดินได้ลำบากนิดหน่อยและบางจุดก็ต้องปีนขึ้นไป โชคดีที่ว่าตอนนี้ฝนยังไม่ตกไม่อย่างนั้นคงจะทุลักทุเลกว่านี้ โดยพวกเขาก็ไม่ได้เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเดิน ระหว่างทางยังมีหินรูปร่างต่าง ๆ ที่ต้องใช้จินตนาการดูว่าเป็นรูปอะไรรวมถึงดอกไม้พันธุ์ต่าง ๆ ที่ขึ้นตามพื้นที่ จนในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดที่เรียกว่า ‘ลานหินปุ่ม’ กัน

“ฮะ…เอาจริงอะ ?”

แมคเคนซีทำหน้างงแต่ก็รับกล้องจากดีนมาถือไว้ จริงอยู่ที่ตรงนี้มีแค่พวกเขามันจึงไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าลุงชัยแกให้ทำไปเพื่ออะไร

“เอาล่ะ ฉันจะถ่ายแล้วนะ หนึ่ง..สอง..สาม”

พอให้สัญญาณแล้วก็กดถ่ายวิดีโอทันที

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เห็นลุงชัยหัวเราะก็รู้แล้วว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างผิดพลาดแน่ ๆ แมคเคนซีจึงรีบส่ายหน้าไปมาเมื่อดีนหันมาชวนให้ทำแบบเดียวกัน

“ไม่เป็นไรดีกว่า แค่นี้พอแล้วเหรอ ฉันนึกว่านายจะตะโกนว่า อาาาาาซิเพนย่าาาาาซะอีก”

อยู่ ๆ ก็นึกถึงฉากในการ์ตูนชื่อดังของวอลล์ดิสนีย์ขึ้นมาได้ น่าจะเหมาะกับดีนที่ชอบสัตว์แถมโลเคชั่นในตอนนี้ก็เหมาะมาก ๆ อีกต่างหาก

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“ป่านนี้ไข่เหลืองโตจนนายอุ้มไม่ไหวแล้วมั้ง”

แกล้งบอกยิ้ม ๆ นึกถึงสิงโตนีเมียนที่ดีนเคยเล่าให้ฟัง ถ้าจำไม่ผิดก็คือเป็นสิงโตที่ตัวใหญ่ยักษ์ยิ่งกว่าหมีกริซลีหลายเท่าตัวนัก

หลังจากชมวิวจากที่สูงและสูดอากาศบริสุทธิ์กันจนเต็มปอดก็ได้เวลาเดินกลับกันเสียที โดยขากลับพวกเขายังเหลืออีกจุดหนึ่งที่ยังไม่ได้แวะชมก็คือ ‘สุสานนักรบ’ ที่ในความเป็นจริงแล้วดูไม่เหมือนสุสานเท่าไหร่ หรืออาจเป็นสุสานแบบไทยก็ไม่อาจรู้ได้ ทั้งยังมีบ้านทรงไทยหลังเล็ก ๆ ที่พอลุงชัยอธิบายให้ฟังแล้วก็ยิ่งสร้างความขนลุกขนพองมากขึนไปอีก

“อะ..อะไร ผีที่ไหน”

แมคเคนซีสะดุ้งโหยงหน้าตาตื่นเมื่ออยู่ ๆ ดีนก็โดดหลบมาทางด้านหลังแล้วยังตะโกนลั่นว่า ‘ผี’ อีก เมื่อหันไปมองตามก็เห็นดวงตาสีแดงก่ำจากในพุ่มไม้กำลังจ้องมาที่พวกเขาจริง ๆ จะเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้แต่ในเวลานี้เขากำด้ามดาบสัมฤทธิ์ที่เหน็บไว้ตรงเอวแน่น อย่างน้อยก็พอช่วยให้อุ่นใจว่ามีสิ่งของพอป้องกันตัวได้

“ระวังตัวด้วยนะ นายเอาหอกสัมฤทธิ์มาใช่ไหม”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

สิ่งที่กระโจนออกมาจากพุ่มไม้ไม่ใช่ผีอย่างที่ดีนคิด ทว่ากลับเป็นอสุรกายหน้าตาน่าเกลียด แต่แมคเคนซีกลับคุ้นหน้ามันอย่างบอกไม่ถูก

“อัลกูล…แกนี่เอง !”

ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่ออัลกูลที่ตัวใหญ่ที่สุดในฝูงก็พุ่งตัวเข้ามาทางเขาพร้อมกับดีนที่กระโดดเข้ามาขวางและเอาโล่มากันไว้ไม่ให้กรงเล็บแหลมคมของมันฟาดเข้าที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของพวกเขาไปเสียก่อน

“ดีน !”

แมคเคนซีตะโกนลั่นเมื่ออัลกูลตนนั้นเหวี่ยงโล่พร้อมกับเจ้าของไปอีกทิศ แต่ด้วยฝีมือการต่อสู้ของดีนที่พัฒนาขึ้นมากทำให้เจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ส่วนเขาที่จะวิ่งเข้าไปช่วยคนรักก็กลับถูกอัลกูลอีกตนมาขวางหน้าไว้เสียก่อน

“พวกแกทำให้แมคกี้ของฉันกลายเป็นเศษเหล็ก วันนี้พวกแกต้องชดใช้ !”

แน่นอนว่าแมคเคนซีจำอสุรกายชนิดนี้ได้ไม่มีวันลืม จากวันแรกที่เขาหนีตายมาที่ค่ายฮาล์ฟบลัดด้วย ‘แมคกี้’ มอเตอร์ไซต์คู่ใจพร้อมกับแดนนี่ผู้เป็นแซเทอร์ประจำตัว และจบลงด้วยการที่แมคกี้ถูกอัลกูลตนหนึ่งเหยียบจนบี้แบน ส่วนเขากับแดนนี่ก็ถูกหามเข้าห้องพยาบาล ซึ่งความจริงแล้วพวกเขาอาจไม่รอดชีวิตมาจนถึงวันนี้ก็ได้ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากดีนที่ผ่านมาเห็นพอดี และไม่ว่าจะเป็นโชคชะตาหรือเวรกรรมอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เขาได้มาเจอพวกอัลกูลอีกในวันนี้ แม้ว่าจะอยู่คนละประเทศกันก็ตาม แต่ยังไงก็คือเผ่าพันธุ์เดียวกัน ดังนั้น ก็ต้องชดใช้กับสิ่งที่ได้ทำลงไปกับของรักของเขา

ดาบสัมฤทธิ์ถูกชักออกมาจากปลอกที่เอว แมคเคนซีไม่สนใจแล้วว่าในเวลานี้ลุงชัยจะเห็นว่าภาพตรงหน้าเป็นอย่างไร คมดาบตวัดฟาดฟันอสุรกายด้วยความเคียดแค้น แต่อัลกูลนั้นก็ว่องไวเสียเหลือเกิน การโจมตีของมันนั้นค่อนข้างรวดเร็วจนแมคเคนซีที่ตั้งใจจะโจมตีหนัก ๆ เพื่อปิดจ๊อบให้ได้ไวที่สุดต้องคิดแผนการต่อสู้เสียใหม่คราวนี้เขาจึงเปลี่ยนจากฝ่ายที่ตั้งหน้าตั้งตาจู่โจมรุกเข้าหามาเป็นฝ่ายตั้งรับดูบ้าง ซึ่งก็ค่อนข้างได้ผล แม้ว่าจะสลับกันได้แผลแต่การโจมตีจากการตั้งรับของแมคเคนซีนั้นรุนแรงและแม่นยำกว่าตอนที่บุ่มบ่ามเข้าหามันมากนัก

“และนี่ สำหรับแมคกี้ของฉัน !”

คมดาบสุดท้ายแทงเข้ากลางอกของอัลกูลที่บัดนี้ร่างกายมีแผลเหวอะหวะจากการโดนฟันและแทงไปหลายจุดมันกรีดร้องเสียงแหลมแสบแก้วหูก่อนที่ร่างจะสลายกลายเป็นผุยผง แมคเคนซีมองฝุ่นละอองตรงหน้าแล้วถอนหายใจ ตอนนี้เขาควรจะไปช่วยดีน

“ฝีมือใช้ได้นี่พ่อหนุ่ม”

แต่เสียงของลุงชัยที่ยืนอยู่ด้านหลังกลับรั้งเขาไว้เสียก่อน ดวงตาสีฮาเซลหันกลับมามองชายวัยเกินกลางคด้วยสีหน้าติดตื่นตระหนก

“คุณ…เห็นทุกอย่างเลยงั้นเหรอ”

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ยังไม่ทันหายสงสัยกับปฏิกริยาลุงชัยทั้งยังไม่ทันวิ่งไปสมทบเพื่อช่วยดีนจัดการกับเจ้าอัลกูลตัวใหญ่ อีกฝ่ายก็กลับมาแล้ว ช่างรวดเร็วจริง ๆ แมคเคนซียื่นหน้ามาดูแอปแปลภาษาในมือถือดีนที่แปลคำพูดของลุงชัยด้วยความสนใจ เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมไกด์คนนี้ถึงไม่มีทีท่าตกใจในตอนที่เห็นพวกเขาสู้กับอสุรกายซ้ำยังดูมีความทรงจำครบถ้วนทั้งที่หากเป็นมนุษย์ปกติเมื่อพวกเขาจัดการพวกอสุรกายได้แล้วจะต้องจำเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้อย่างกับถูกล้างสมองแล้วแท้ ๆ

“ฉันก็ไม่รู้ แต่เขาดูไม่ตกใจเลยนะตอนที่เห็นฉันสู้กับอัลกูล แถมยังเหมือนเขาคอยดูอยู่ตลอดด้วยซ้ำ”

แมคเคนซีส่ายหน้าแล้วลดเสียงลงจนใกล้เคียงกับการกระซิบกระซาบแม้ว่าลุงชัยจะฟังภาษาอังกฤษไม่ออกก็ตาม ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก

“นายว่ามีโอกาสไหมที่เขาจะเป็นเหมือนพวกเรา…ไม่ก็เป็นอสุรกาย”

ประโยคหลังเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดและไม่น่าเป็นไปได้ หากลุงชัยเป็นอสุรกายจริง เมื่อครู่ก็คงเผยตัวตนที่แท้จริงแล้วรวมหัวกับอัลกูลพวกนั้นจัดการพวกเขาไปแล้ว แต่ในโลกนี้ยังมีคำว่า ‘ลาสบอส’ อยู่ และลุงชัยอาจจะรับบทนั้นก็เป็นได้

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ยิ่งอ่านคำแปลคิ้วของแมคเคนซีก็ยิ่งขมวดเป็นปมขึ้นเรื่อย ๆ เขามองหน้าจอมือถือสลับกับลุงชัยหลังจากอ่านแต่ละประโยคจบ สุดท้ายจึงได้เข้าใจว่าอีกฝ่ายเองก็มีเชื้อสายเทพเหมือนกับพวกเขา ต่างกันเพียงแค่เป็นเทพคนละสัญชาติ (เรียกแบบนี้ถูกไหมไม่รู้) และชาติกำเนิดที่อีกฝ่ายเป็นการกลับชาติมาเกิด ส่วนพวกเขาเป็นลูกที่เกิดจากเทพและมนุษย์โดยตรง

แมคเคนซีไหวไหล่เมื่ออ่านประโยคที่ว่าอีกฝ่ายไม่รู้จักผู้เป็นแม่ของตนซึ่งนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ขนาดเขาเองก็ยังรู้จักแค่เทพโพไซดอนผู้เป็นพ่อของดีนเหมือนกัน ส่วนเทพีเฮคาทีผู้เป็นแม่นั้นหากไม่ไปหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมก็คงไม่รู้ว่ามีชื่อนี้อยู่ในลิสต์เทพกรีกด้วย

“ผมว่าเราออกจากที่ตรงนี้กันก่อนดีไหม ไม่รู้ว่าพวกมันจะโผล่มาอีกหรือเปล่า”

ดูจากสีท้องฟ้าก็น่าจะเป็นเวลาเย็นแล้วด้วย หากอยากคุยกันต่อเขาคิดว่าไปหาที่ที่ปลอดภัยกว่านี้น่าจะดีกว่า

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อเดินออกมายังจุดบริการนักท่องเที่ยวแล้วพวกเขาก็กล่าวขอบคุณและลาลุงชัย ก่อนจะแยกกันอีกฝ่ายยังแนะนำให้พวกเขาไปดูรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ด้วย ซึ่งดูเหมือนดีนผู้รักสัตว์จะตื่นเต้นกับการค้นพบนี้มากจนเหมือนกับจากลายเป็นเด็กชายดีนเลยทีเดียว

แต่เมื่อมาถึงจุดที่ลุงชัยบอก พวกเขาก็ได้แต่ยืนดูอยู่ตรงรอบนอกเท่านั้นเพราะมีเทปกั้นห้ามเข้าไปตรงบริเวณนั้นเอาไว้ แมคเคนซีหันมามองหน้าดีนเพื่อดูว่าอีกฝ่ายจะหงอย ๆ หงุง ๆ หรือเปล่า แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น

“ถ้าเขาเปิดให้เข้าได้ฉันจะขับรถพานายมาเองเลย”

ไม่ว่าจะต้องรออีกกี่เดือนหรืออีกกี่ปีก็ตาม ต่อให้ไม่ใช่รอยเท้าไดโนเสาร์เขาก็ยินดีพาไปทุกที่ จากนั้นพวกเขาก็ขับรถออกจากอุทยานเพื่อไปยังที่พักต่อ เมื่อครู่ออกแรงต่อสู้กับอสุรกายจนเสียพลังงานไปไม่น้อย จะว่าไปตอนนี้ก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่พักในจังหวัดเพชรบูรณ์เสียที ต้องชมดีนอีกครั้งว่าช่างเข้าใจเลือกที่พักจริง ๆ วิวจากมุมสูงยามค่ำคืนและอากาศเย็น ๆ อันบริสุทธิ์บนภูเขาช่วยเยียวยาจิตใจจากเจ้าพวกอัลกูลที่รูปร่างเหมือนซอมบี้และยังมีกลิ่นเหม็นราวซากศพได้ดียิ่งนัก แถมยังมีอาหารแปลกตาที่ดีนบอกว่าชื่อ ‘มู้กะตะ’ ให้ทานคู่กับเบียร์เย็นชื่นใจอีก

“ฮื่อ อร่อยดี ซอสแบบนี้ก็อร่อยคนละแบบกับซอสบาร์บีคิวเลย”

แมคเคนซีพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยพลางใช้ช้อนตักน้ำจิ้มราดบนเนื้อหมูที่คนรักปิ้งให้จนสุกแล้วเอาใส่ปากถึงน้ำจิ้มจะเผ็ดไปบ้างแต่พอทานกับหมูย่างแล้วกลับเข้ากันอย่างเหลือเชื่อ การได้ทานของอุ่น ๆ ท่ามกลางอากาศเย็น ๆ นี่มันช่างฟินสุดยอดจริง ๆ

“ที่ไทยนี่ก็มีมอนสเตอร์เยอะเหมือนกันนะ ฉันนึกว่าเราจะได้ไปเที่ยวถ่ายรูปกันอย่างสบายใจซะอีก”

เขาเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วยกแก้วเบียร์เย็นเจี๊ยบขึ้นดื่มไปอึกใหญ่ นอกจากมู้กะตะจะอร่อยแล้วเบียร์ไทยก็รสชาติไม่เลวเหมือนกัน

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“เผ็ดอยู่เหมือนกัน แต่ก็อร่อยดี นายย่างให้ฉันซะเยอะ ตัวเองก็กินบ้างสิ”

พอหลุบตาลงมองในชามตนเองก็เห็นหมูย่างกองพะเนิน ดีนคงเห็นเขาใช้ตะเกียบไม่คล่องเลยเอาแต่บริการให้แต่แบบนี้อีกฝ่ายจะอิ่มเหรอ แมคเคนซีจึงแบ่งหมูในจานตนเองไปให้ดีนบ้าง คนรักของเขาจะได้ไม่ต้องทานแต่ผัก

“เหลืออีกแค่ไม่กี่จังหวัดเอง เราคงไม่โชคร้ายเจอเจ้าพวกมอนสเตอร์ไปตลอดทางหรอกเนอะ”

หากต้องเจออีกก็คงถือเป็นทริปปราบอสุรกายผสมท่องเที่ยวไปในตัว แต่อนาคตจะเป็นยังไงก็ช่างมันไปก่อนเวลานี้เขาขอดื่มด่ำกับอาหารสุดอร่อย บรรยากาศดี ๆ และคนรักที่น่ารักที่สุดในโลกของเขาก่อนที่พรุ่งนี้จะเริ่มเดินทางกันต่อก็พอแล้ว

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]




ตื่นรู้ +2  จากการพิชิตอัลกูลครั้งแรก


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 66352 ไบต์และได้รับ 36 EXP!  โพสต์ 2024-9-8 20:48
โพสต์ 66,352 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-9-8 20:48
โพสต์ 66,352 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-9-8 20:48
โพสต์ 66,352 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-9-8 20:48
โพสต์ 66,352 ไบต์และได้รับ +6 EXP +9 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-9-8 20:48
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
โพสต์ 2024-9-11 12:49:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
38. Formula Mong
M

ถึงเมื่อคืนจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแต่วันนี้พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาดูทะเลหมอกซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของเขาค้อแห่งจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งทะเลหมอกของที่นี่ก็สวยไม่แพ้กับตรงอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังที่เชียงใหม่เลย

“อากาศเย็นดีเนอะ ผิดกับตอนกลางวันลิบลับเลย”

แมคเคนซีบอกขณะมองทะเลหมอกตรงหน้ากระโจมที่พัก อาจถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวส่วนตัวเลยก็ได้



@Dean

“ใช้ของฉันก่อนก็ได้ เตรียมตุนมาหลายขวดอยู่”

แน่นอนว่าหลังจากที่รู้ว่าจะต้องมาทำภารกิจที่ประเทศซึ่งอากาศสุดโซฮ็อตอย่างประเทศไทยแล้ว แมคเคนซีก็โกยครีมกันแดดที่มีอยู่มาจนเกือบหมด แต่ก็อย่างว่า ขนาดโบกครีมกันแดดจนผิวที่ขาวอยู่แล้วใกล้เคียงกับคำว่าขาววอกก็ยังสู้อิทธิฤทธิ์แดดของประเทศนี้ไม่ได้ ผิวของแมคเคนซีจึงคล้ำขึ้นมาเล็กน้อย ครั้นจะให้ใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวก็คงจะไม่ไหว ได้เหงื่อออกจนชุ่มเสื้อผ้ากันหมดพอดี

“มาแล้วทั้งทีไปดูจุดชมวิวกันหน่อยดีกว่า ถ้านายง่วงก็ไปนอนต่อในรถเอา”

ถือโอกาสหันไปหอมอีกฝ่ายฟอดนึง แต่ลืมไปว่าพวกเขามาที่นี่กันหลายวันแล้ว ดีนก็เริ่มหนวดเคราขึ้นเป็นตอจนจิ้มจมูกเขาให้ได้เจ็บ ๆ คัน ๆ ไปเล็กน้อย

“เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อน แล้วเราค่อยมาสลับกัน ระหว่างนี้นายก็เก็บของให้เรียบร้อยนะ”

บอกแล้วก็ลุกไปอาบน้ำให้สดชื่นสักหน่อย

@Dean

หลังจากทำธุระส่วนตัวกันเสร็จก็ถึงเวลาอาหารเช้า ตั้งแต่มาที่ไทยเขาก็ทานข้าวกับก๋วยเตี๋ยวเสียเป็นส่วนใหญ่แอบสังเกตเห็นสีหน้าดีนอยู่เหมือนกัน อาจจะเบื่ออาหารไทยแล้วหรือเปล่านะ แต่หากให้พูดตามความจริงแล้วแมคเคนซีเองก็แอบคิดถึงขนมปังและเซ็ตอาหารเช้าสไตล์ยุโรปอยู่เหมือนกัน

หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จพวกเขาก็เช็คเอาท์ออกจากที่พักไปยังจุดชมวิวต่าง ๆ โดยจุดแรกที่พวกเขาไปถึงก็คือ ‘จุดชมวิวทุ่งกังหันลมเขาค้อ’ ที่มีกังหันลมสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาดจำนวน 24 ต้น ซึ่งที่นี่มีบริการนั่งรถแวะตามจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ ไร่สตรอเบอร์รี่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการเก็บสตรอเบอร์รี่กันได้ ลานแคมปิ้ง และร้านกาแฟสำหรับนั่งชมวิว ซึ่งเดมิก็อดทั้งคู่ก็ไม่พลาดที่จะเลือกกิจกรรมนั่งรถชมพื้นที่แห่งนี้ให้ทั่ว

“โอ๊ะ นั่นอะไร”

แมคเคนซีมองเครื่องเล่นที่เหมือนชิงช้าซึ่งขณะนี้มีเด็ก ๆ กำลังเล่นกันอยู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นคล้าย ๆ เครื่องเล่นรถยนต์ที่ทำมาจากไม้ที่มีคนขับคนเดียวบ้าง ซ้อนกันบ้างลงมาจากเนินสูง

“ตรงนี้เป็นจุดเครื่องเล่นของชาวม้งนะครับ ! มีชิงช้าม้งและฟอร์มูล่าม้ง และมีผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านม้งขาย เราจะหยุดให้ทุกท่านเดินชมรอบ ๆ ยี่สิบนาที ใครที่เล่นฟอร์มูล่าม้งก็ระวังกันด้วยนะครับ !”

เสียงเจ้าหน้าที่ที่คอยแนะนำจุดต่าง ๆ ประจำรถที่พวกเขานั่งอยู่ดังขึ้นมาหลังจากรถจอด มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเลยไม่ต้องใช้แอปพลิเคชั่นคอยแปล

“นายอยากเล่นหรือว่าไปเดินดูอะไรไหม”

แมคเคนซีหันมาถามดีนขณะที่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ พากันทยอยลงรถไปแล้ว

   



@Dean

“แน่นอน ไปคันเดียวกันเลยแล้วกัน”

ไม่ผิดไปจากที่คิดไว้ว่าดีนต้องสนใจฟอร์มูล่าม้งแน่ ๆ ซึ่งเขาเองก็สนใจอยู่เหมือนกัน และดูเหมือนว่ารถคันนึงจะสามารถนั่งได้สองคน สังเกตได้จากคู่รักหนุ่มสาวที่ไถลฟอร์มูล่าม้งลงมาจากเนินโดยที่ฝ่ายหญิงกอดเอวฝ่ายชายผู้เป็นคนบังคับรถไว้แน่นทั้งยังคอยกรี๊ดอัดหูให้กำลังใจอีกต่างหาก

ก่อนจะเช่ารถแมคเคนซีก็ใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษาที่เขียนอยู่ตรงป้ายให้เช่ารถก็ได้ความมาว่า ‘เวลาเบรคให้ดึงคันโยกเข้าหาตัว และใช้เท้าถีบล้อหน้าเพื่อบังคับไปทางซ้ายหรือขวา’

นี่คือวิธีการขับฟอร์มูล่าม้งนี่เอง

หลังจากจ่ายค่าเช่ารถแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาพวกเขาขึ้นมาบนเนินสูงที่มีรถฟอร์มูล่าม้งจอดรออยู่ หลังจากรับหมวกกันน็อคมาสวมแล้วฟังคำอธิบายแล้ว แมคเคนซีก็มานั่งประจำที่นั่งคนขับ

“กอดแน่น ๆ นะที่รัก วู้ววววว !!!”

แมคเคนซีหันมาบอกดีนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะผลักรถไม้ลงจากเนิน ด้วยความชันจึงทำให้รถเคลื่อนตัวลงมาด้านล่างอย่างรวดเร็ว เขาต้องคอยใช้เท้าบังคับแกนล้อประคองรถให้วิ่งเป็นทางตรงโดยไม่เป๋ไปพลิกคว่ำลงกลางทาง ส่วนเรื่องความเร็วนั้น สิงห์นักบิดอย่างแมคเคนซีไม่คิดจะผ่อนอยู่แล้ว ซึ่งการเคลื่อนที่จากที่สูงลงที่ต่ำด้วยความเร็วเช่นนี้มันเสียวแต่ก็สนุกเป็นบ้าจนออดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างชอบใจ

@Dean

ใช้เวลาไม่นานแมคเคนซีก็ดึงคันโยกเบรคของรถไม้ให้สไลด์ลงมาจอดตรงพื้นราบได้อย่างงดงามโดยที่พวกเขาไม่หน้าคะมำไปเสียก่อน ถึงแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการขับฟอร์มูล่าม้ง แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าหูจะอื้อไปนิดหน่อยจากเสียงคนที่นั่งซ้อนหลัง ตอนนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของฝ่ายชายที่โดนฝ่ายหญิงซึ่งเป็นคนรักกรี๊ดอัดหูแล้ว

“อยากเล่นอีกรอบไหม คราวนี้นายขับบ้าง”

ถึงแม้ว่าจะรู้แล้วว่าฟอร์มูล่าม้งเป็นยังไง แต่แค่ครั้งเดียวก็ยังไม่สนุกสมใจเท่าไหร่ หากได้ซ้ำอีกสักรอบก็คงจะไม่เลว ถึงอย่างนั้นก็คงต้องถามความสมัครใจของคนที่มาด้วยกันก่อน

@Dean

“อย่าถึงขั้นขาหรือแขนหักก็พอ ไม่งั้นนายได้เปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นคนขับรถแน่”

บอกแล้วก็ถือโอกาสกอดเอวอีกฝ่ายไว้แน่นทั้งที่มันก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น เมื่อรอบที่สองเริ่มขึ้นความรู้สึกแบบรอบแรกก็กลับมาอีก เพียงแต่รอบนี้มีการเกือบลงข้างทางให้ได้ใจหายใจคว่ำเล่นอยู่หลายรอบจนเขาร้องเสียงหลง ซึ่งแมคเคนซีเองก็หวังว่าดีนจะไม่หูอื้อตามเขาไปซะก่อน จนกระทั่งรถไม้มาจอดได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง

“เก่งมาก นายทำได้ดี”

เอ่ยปากชมอีกฝ่ายก่อนจะพากันไปเดินดูผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ชาวม้งนำมาขายก่อนจะหมดเวลา ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นผักและผลไม้สด พวกเขาเลยไม่ได้อะไรติดมือกลับไป จนเมื่อดูกันครบแล้วก็นั่งรถต่อไปยังจุดต่าง ๆ จนครบ

“กินมื้อกลางวันกันให้เสร็จไปเลยไหม จะได้ไปที่ต่อไปกัน”

แมคเคนซีชี้ไปยังร้านกาแฟที่เจ้าหน้าที่แนะนำว่าเป็นร้านที่มีทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มบริการพร้อมทั้งมีวิวสวย ๆ ให้นั่งดูด้วย

@Dean

เมื่อดีนตอบตกลง พวกเขาก็พากันมาานั่งที่คาเฟ่ร้านหนึ่งซึ่งร้านนี้มีอาหารหลากหลายเชื้อชาติคอยบริการ แมคเคนซีฟังที่ดีนถามแต่เหมือนจะเป็นประโยคบอกเล่ามากกว่า เขามองพนักงานที่ตั้งท่าจะจดรายการอาหารก่อนจะพยักหน้าให้เป็นการบอกว่าให้จดทั้งหมดที่คนรักของเขาพูดไปเมื่อครู่ได้เลย

“อยากได้อะไรเพิ่มอีกไหม มื้อนี้ฉันให้นายสั่งให้หมดเลย”

@Dean

“นายก็รู้ว่าฉันไม่มีอาหารอะไรที่ชอบเป็นพิเศษ”

นั่งฟังดีนออร์เดอร์อาหารอย่างเพลิดเพลิน ว่าแต่พิซซ่าทริปเปิ้ลชีสนี่มีแต่ชีสใช่ไหมนะ ดูท่าอีกฝ่ายคงคิดถึงพวกขนมปัง นม เนย ชีสน่าดู

“อือฮึ รู้ใจมาก กำลังอยากดื่มโกโก้เย็น ๆ พอดี”

ยิ้มตอบแล้วหันหน้าไปมองวิวด้านนอกที่ยังเป็นทิวทัศน์บนภูเขาสูง เนื่องจากเป็นเวลามื้อเที่ยงลูกค้าจึงค่อนข้างเยอะเลยใช้เวลารออยู่สักพักอาหารถึงค่อย ๆ ทยอยมาเสิร์ฟ เขารอให้ดีนได้ถ่ายรูปก่อนแล้วค่อยลงมือทานแมคเคนซีเริ่มจากโกโก้ปั่นเป็นอันดับแรก มันหวานกว่าปกติที่เขาดื่มแต่ก็เข้มข้นดี

“พิซซ่าอร่อยดีนะ”

บอกหลังจากลองชิมพิซซ่าแฮมเห็ดไปได้คำนึง ไม่รู้ว่าคนที่สั่งมาจะถูกใจรสชาติอาหารมื้อนี้มากแค่ไหน

@Dean

ริมฝีปากได้รูประบายยิ้มพอใจที่ดีนจำรายละเอียดเล็กน้อยของตนได้ ปกติอีกฝ่ายก็ทานเก่งอยู่แล้วแต่เหมือนว่ามื้อนี้เมื่อได้เจอของชอบก็ยิ่งเจริญอาหารมากขึ้นไปอีก หลังจากนี้ไม่กี่วันพวกเขาก็ต้องกลับค่าย คงจะไม่ได้ทานอาหารไทยไปอีกนาน

เมื่อทานมื้อกลางวันเสร็จพวกเขาก็เดินทางมายัง ‘อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ’ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไปกว่ามาถึงก็ล่วงเข้าไปตอนบ่ายแก่ ๆ เสียแล้ว

“นายนี่น่าจะเป็นนักโบราณคดีมากกว่านักชีววิทยานะ”

หากสังเกตจากสถานที่ส่วนใหญ่ในโปรแกรมของดีนแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่เพียงแค่เป็นแนวธรรมชาติแต่ยังเป็นสถานที่เก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ด้วย ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพเองก็เช่นกัน โดยระหว่างขับรถเดินทางมาที่นี่ อีกฝ่ายก็เล่ารายละเอียดต่าง ๆ ของสถานที่แห่งนี้ให้ฟังเช่นเคย ทั้งในด้านที่ว่า‘ศรีเทพ’ คือชื่อเมืองเก่า ประกอบด้วยชุมชนโบราณที่มีลักษณะเป็นเมืองซ้อนเมืองขนาดใหญ่และโบราณสถานที่มีความโดดเด่นทั้งด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนาและวัฒนธรรม ถือได้ว่าเป็นเมืองในอดีตที่มีความเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องกันมาถึง 3 สมัย นั่นคือ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ยุคทวารวดี จนถึงยุคขอมเรืองอำนาจ และล่าสุดยูเนสโกก็ได้ขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพเป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อวันที่ 19 กันยายน  2023



@Dean

“งั้นเหรอ แล้วนายอยากเรียนอะไร”

ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกสนใจเรื่องของดีนมากกว่าสถานที่ที่พวกเขากำลังเที่ยวชมกันอยู่เสียอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูจนทั่วบริเวณแล้วจึงขับรถออกจากอุทยานไปหาที่พักสำหรับวันนี้กัน

“เย็นขนาดนี้แล้ว ขับข้ามจังหวัดได้ถึงมืดกันพอดี”

เหลือบตาขึ้นมองท้องฟ้าที่ตอนนี้เป็นสีส้ม ยังดีที่ดีนตาไวเห็นว่าตรงทางเข้ามีรีสอร์ทอยู่ แมคเคนซีขับเข้าไปในรีสอร์ทที่ว่า คราวนี้ก็หลือแค่ว่าขอให้มีห้องว่างสำหรับพวกเขาเท่านั้น

@Dean

“ไม่อยากเรียนแล้วอยากทำอะไร อยากรวยแล้วไปเที่ยวรอบโลกแบบที่เคยบอกน่ะเหรอ”

หัวเราะน้อย ๆ ไม่แน่ว่าอีกไม่กี่ปีความฝันอีกฝ่ายอาจเป็นจริงขึ้นมาก็ได้

“โอเค”

เมื่อจอดรถให้ดีนไปติดต่อประชาสัมพันธ์จึงรู้ว่ามีห้องว่าง พอขับมาถึงห้องพักแล้วก็นิ่งไปเล็กน้อยยังไม่ลงจากรถในทันที จะว่าไงดี…ที่นี่ค่อนข้างห่างไกลจากคำว่ารีสอร์ทในความคิดของเขาไปสักหน่อย แมคเคนซีมองอาคารปูนเปลือยชั้นเดียวที่มีห้องพักเรียงรายกันตรงหน้าตาปริบ ๆ ก่อนจะออกจากรถมาหยิบสัมภาระที่จำเป็นเข้าไปในห้องพัก เอาเถอะ…ยังดีกว่าไม่มีห้องว่างแล้วต้องขับรถข้ามจังหวัดไปล่ะนะ

“นี่ก็เย็นแล้ว เราสั่งอาหารที่นี่กินเลยแล้วกัน”

หลังจากสำรวจห้องที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักแล้ว แมคเคนซีก็หยิบเมนูอาหารที่วางอยู่ข้างโทรศัพท์มาดูพอใช้แอพแปลภาษาก็เจอว่ามีข้าวไข่เจียวอยู่ด้วย เอาล่ะ…มื้อนี้เขารอดแล้ว หลังจากสั่งอาหารมาทานกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาพักผ่อนและเข้านอน ถือว่าเป็นการท่องเที่ยวอีกวันที่ไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่

@Dean


ภารกิจเที่ยวไทยแลนด์  :  ถ่ายรูปจังหวัดเพชรบูรณ์
[4/5]

@God

แสดงความคิดเห็น

209Thailand P.9 - เพชรบูรณ์ [ดูโรลเพลย์ก่อนหน้าของ Mackenzie] ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ กับการตื่นขึ้นมาแต่เ  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-9-12 02:24
โพสต์ 34586 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-9-11 12:49
โพสต์ 34,586 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-9-11 12:49
โพสต์ 34,586 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ผ้าพันคอไหมพรม  โพสต์ 2024-9-11 12:49
โพสต์ 34,586 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2024-9-11 12:49
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้