
วันที่ 30 เดือนสิงหาคม ปี 2558
ช่วงดึก เวลา 21.00 - 04.00 น. ณ ห้องนอนรวม บ้านหมาป่า หุบเขาโซโนมา รัฐแคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา (นอน)
แสงไฟสลัวในห้องนอนรวมของบ้านหมาป่าถูกกลบด้วยบรรยากาศเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมหายใจของเหล่าเดมิก็อดที่หลับสนิท (น่าจะมีแค่ 3-4 คนด้วยซ้ำ) โมนีก้านั่งพับเพียบอยู่บนเตียงตัวเองในชุดนอนสบาย ๆ หลังจากทาครีมทั่วแขนขาเรียบร้อยก็หยิบมาส์กหน้าแปะลงบนผิวเย็น ๆ ฟู่ว... รู้สึกดีชะมัด ระหว่างที่กำลังดีดขาไปมาเธอก็ยกมือขึ้นกวัดเล็กน้อย แสงสีฟ้าทอประกายจากแหวนดาราจรัส ก่อนที่หนังสือพิมพ์เมอร์คิวรี่จะลอยออกมาจากห้วงมิติในแหวนอย่างนุ่มนวล
“โอเค มาดูข่าวเผือกต่อดีกว่า…” เธอพึมพำเสียงงัวเงีย พลางเปิดหน้าถัดไป
สายตาสีมะพร้าวอ่อนกวาดไปตามตัวอักษร วงในแอบส่อง! "ลีโอริค หนุ่มตี๋" ควง "เอมิเลีย สาวนักบิน" เดตวาเลนไทน์!? หรือแค่พี่น้องร่วมค่าย?
“ห๊ะะะะะะ!?” โมนีก้าขมวดคิ้วทันที มุมปากสั่น ๆ เพราะเนื้อข่าวเล่นเว่อร์เหมือนปาปารัสซี่จับผิดคนดัง เธอไล่สายตาอ่านต่อ บรรยายลุคของลีโอริคเหมือนศิลปินบอยแบนด์หลุดมาเดินเล่นในค่าย ขณะที่เอมีเลีย ธิดาแห่งซุสก็มาในโหมดสาวหวานกับโอเวอร์โค้ทครีมละมุน “โอยยย… แค่ภาพก็นึกออกละ” โมนีก้าพูดทั้ง ๆ ที่หน้ามาส์กยังแปะอยู่ พอถึงย่อหน้าที่เล่าว่าเอมีเลีย มอบช็อกโกแลตทำเองกับมือ ให้ลีโอริค โมนีก้าก็เผลอเอามือทาบอก “แม่เจ้า… นี่มันขั้นกว่าแล้วนะยะ! วาเลนไทน์นี้คือหวานน้ำตาลท่วมค่ายชัด ๆ”
ข่าวยังแถมปิดท้ายด้วยประโยคแสบ ๆ ว่า จากพี่สาวสุดเท่กับเจ้าหมาเด็ก สู่คู่รักลับ ๆ หรือแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันแน่?
โมนีก้ากลิ้งตัวลงบนเตียงทั้งที่ยังถือหนังสือพิมพ์อยู่ในมือ ร้องเบา ๆ “ว๊ากกกกก… นี่มันอะไรกันเนี้ย ทำไมมันเหมือนดูซีรีส์เกาหลีผสมค่ายกรีกโรมันวะ!?”
โถ่ววววว… หลังจากนั้นโมนี่ในชุดนอนพันผ้าคาดผมสีชมพูแปะมาส์กหน้าเต็มปากเต็มคำ นั่งชันเข่าอยู่บนเตียง พอพลิกหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์เมอร์คิวรี่ไปหน้าต่อไปก็เจอหัวข่าวตัวโต ด่วนที่สุด! ข่าวคืบหน้า ‘คณะเดินทางนรกของโจนาทาน’ โผล่แล้ว! ลูซิเฟอร์เตรียมตัว!
“เหี้ยไรเนี่ยยย…” เธออุทานออกมาเสียงอู้อี้เพราะแผ่นมาส์กปิดปากครึ่งนึง พอตั้งสติได้ก็รีบก้มลงอ่านต่อ แค่พาดหัวก็ทำเอาหัวใจเต้นตึกตักแล้ว เนื้อข่าวเขียนราวกับนักข่าวสายบันเทิงผสมสายศึกชิงนรก บรรณาธิการเฮอร์มีสรายงานด่วนจี๋! … “โอ้โห พ่อใครเขียนข่าวลูกตัวเองแบบนี้วะ” โมนีก้าส่ายหัวแรง ๆ แล้วหัวเราะหึหึ อ่านต่อว่า โจนาทาน วินเซนโซ บุตรแห่งไนกี้ ทีฟา ธิดาแห่งไนกี้ และเซซิลลูกชายแห่งเฮอร์มีส ออกเดินทางทำภารกิจลับสุดยอดไปเจอลูซิเฟอร์พอเห็นชื่อ ลูซิเฟอร์ โมนีก้าก็เผลอหายใจแรง “เชี่ย… นี่เล่นของใหญ่เลยนะคะคุณผู้สื่อข่าว”
ตัวบทข่าวยังใส่อารมณ์เหมือนแฟนคลับเชียร์ศึกกีฬาระดับโลก #โจนาทานสู้ๆ #ทีฟาสู้ๆ #เซซิลสู้ๆ โมนีก้าแทบจะสำลักเสียงหัวเราะ “นี่มันหนังสือพิมพ์หรือแท็กในทวิตเตอร์ค่ายฮาล์ฟบลัดวะเนี่ย!!” เธอนอนหงายแผ่กับเตียง ยกหนังสือพิมพ์ขึ้นอ่านเหนือหน้า มาส์กหน้าลื่นจะหลุดตกลงมาคาปาก “กรี๊ดด… ถ้าแม่มาเห็นนะ จะด่าเอาว่านอนอ่านข่าวในสภาพผีตายโหง” อ่านไปก็แอบรู้สึกขนลุกอยู่หน่อย ๆ เพราะคำว่า ลูซิเฟอร์ มันไม่ใช่เรื่องขำ ๆ โมนีก้าขยับตัวเอาหนังสือพิมพ์แอบซุกไว้ข้างหมอนหันขวับมาบ่นเบา ๆ “หวังว่าพวกนั้นจะรอดกลับมาจริง ๆ เถอะนะ… ไม่งั้นเฮอร์มีสเล่นดราม่าแน่”
แล้วเธอก็ดึงผ้าห่มมาคลุมหัว หัวเราะคิกคักอีกรอบ “แต่แบบนี้… อ่านข่าวซุบซิบของค่ายนี่มันเพลินดีเนอะ เหมือนแอบส่องทวิตดารา” ทิ้งท้ายด้วยการกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงเหมือนหนอนดิ้น เสียงหัวเราะคละเคล้ากับเสียงหายใจผ่านแผ่นมาส์กหน้าที่แทบหลุดออกมาอยู่รอมร่อ
หลังจากนั้นโมนีก้าก็อ่านต่อเธอลุกขึ้นนั่งแหมะอยู่บนเตียงในห้องนอนรวม มาส์กหน้ายังแปะอยู่เต็มหน้า พลิกหนังสือพิมพ์เมอร์คิวรี่ไปอีกหน้า แล้วทันทีที่เห็นพาดหัว ข่าวใหญ่! คูเปอร์ โจนส์ และ ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์: สถานะ ‘กุ๊กกิ๊กกุ๊กหม่ำ’ ไม่มีผิดเพี้ยน! ดวงตาสีเทาเงินบริสุทธิ์ก็เบิกกว้างขึ้นทันที “...กุ๊กกิ๊กกุ๊กหม่ำ...?” เธอทวนเบา ๆ เสียงอู้อี้ลอดมาส์กหน้า หัวคิ้วขมวดจนแทบจะชนกัน “อะไรมันจะเอ็นดูปนเขินขนาดนี้วะเนี่ย…”
พออ่านเนื้อหาต่อไปโมนีก้าก็ยิ่งเอ๋อหนักขึ้น เรื่องราวถูกเล่าราวกับฉากหนังรักวัยรุ่นริมทะเลสาบมีเสียงกีตาร์มีแสงไฟอ่อน ๆ “เดี๋ยวนะ… อันนี้หนังรักโรแมนติกหรือนิยายกุ๊กกิ๊กกันแน่?” เธอสบถเบา ๆ พลางยกหนังสือพิมพ์ขึ้นบังหน้าตัวเองราวกับกลัวใครมาเห็น แล้วก็เจอวลี “จับแบบนี้” โมนีก้าสำลักอากาศแทบขาดใจ “เชี่ย! จับอะไร๊?! กีตาร์ใช่มั้ย! อย่ามาหลอกตีนะคะเฮอร์มีส!” เธอตีหมอนฟาดดึ๋งลงไปแรง ๆ ระบายอาการเกินทนแต่พอเจออีกประโยค “เงียบก่อน ตั้งใจฟัง” โมนีก้ากลับดิ้นพลั่กบนเตียงมาส์กหน้าลื่นจะหลุด “โอ๊ยยย อิพี่นี่มันไม่ธรรมดาแล้ว! อันนี้คือแนบชิดขั้นไหนเนี่ย!?”
ท่อนที่ทำให้โมนีก้าหยุดนิ่งไปคือคำพูดของไลแซนเดอร์ “เพราะพวกเธอทำให้ผมได้เห็นคุณในแบบที่…น่ารักกว่าปกติ”
“…โอ้โห…ฆ่าคนกลางข่าวกันชัด ๆ” โมนีก้าอ้าปากพะงาบ ๆ มือยกขึ้นกุมอกตัวเอง “กรี๊ดดดด ใครจะไปทนไหวล่ะคะประโยคแบบนี้! อิฉันไม่ใช่แม่ยกยังเขินเลย!” เธอทิ้งตัวลงแผ่หราบนเตียงทันทีเอาหนังสือพิมพ์ทาบหน้าแล้วตะโกนลอดผ้าห่ม “ทำไมข่าวเมอร์คิวรี่มันเขินกว่ามังงะโชโจที่เคยอ่านอีกวะะะะะะะ!!!” โมนีก้ากลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนลูกแมวน้อยถูกกองไฟแห่งความเขินเผา มาส์กหน้าหลุดครึ่งใบแต่เธอไม่สนใจแล้ว ตอนนี้ในหัวมีแต่เสียงกรี๊ดและภาพวาดการ์ตูนหัวใจพุ่งพล่านเต็มไปหมด
หลังจากครบเวลา 20 นาทีโมนีก้าลอกมาส์กหน้าออกโยนลงถังขยะดัง แอ๊วะ! ก่อนจะหันกลับมาคว้าหนังสือพิมพ์เมอร์คิวรี่พลิกหน้าไปอ่านต่อ แค่เห็นพาดหัวก็เกือบสำลักน้ำลาย ฮือฮา! วงในค่ายฮาล์ฟบลัดตาแตก! ‘ลอร์ร่า’ กับ ‘เจโรม’ สอนว่ายน้ำประสา(ว่าที่)แฟน!? “...เอ้า...อิพี่อิพี่...นี่มันข่าวเช้าเชื่อมข่าวค่ำเลยปะ?! คนเดิมปะเนี้ยลอร์ร่า ใช่แหละ” โมนีก้าเอียงคอมองพาดหัวพลางเบิกตากว้าง รู้สึกเหมือนโดนลากเข้าละครน้ำเน่าที่ไม่รู้ตัวว่าซื้อตั๋วตอนไหนพออ่านเนื้อหาแล้วถึงกับทุบหน้าผากตัวเองแรง ๆ “โอบเอวใต้น้ำ จูบกลางสระ!?” เธอเงยหน้ามองเพดานแล้วร้องออกมาเสียงสูง “เชี้ยยยยยยยย!! นี่มันละครเกาหลีเวอร์ชั่นกรีก-โรมันใช่มั้ย!?” ภาพในหัวเริ่มชัดเจนเจโรมหล่อโฮกกำลังสวมบทครูสอนว่ายน้ำส่วนลอร์ร่าท่าทางกลัวน้ำตาโตปิ๊ง ๆ แล้วตอนใต้น้ำ…โอ้ยยย โมโนร่า! (โมนีก้าตั้งชื่อเรือเองเฉย)
“แบ่งอากาศ หรือแบ่งใจ…โอ๊ยยยยย หยุดค่ะหยุดดดด!” โมนีก้ากัดฟันแน่น แต่หัวใจดันเต้นแรงตามเนื้อข่าวซะงั้น พออ่านต่อเจอฉาก “มือน้อย ๆ กำเสื้อเจโรมแน่น” โมนีก้าก็ทำตาโตหันไปสบตาหมอนข้างราวกับจะถามมันว่า “เห็นมั้ย!? นี่มันสัญญาณแล้วนะเว้ย!” ก่อนจะทิ้งตัวลงกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงแบบดิ้นตาย
สุดท้ายก็ปิดหนังสือพิมพ์ลงพึมพำกับตัวเองเสียงอู้อี้ “โอเค ๆ เขารักกันดี รักกันมาก รักกันจนฉันจะเป็นบ้าแทนแล้ว…พอเถอะ! พออออ!!”
ตอนแรกกะว่าจะหยุดอ่านแต่มันหยุดไม่ได้ โมนีก้าวางหนังสือพิมพ์ลงกับตักอย่างหมดแรงตาปรือ ๆ หรี่ตามองตัวอักษรที่พาดหัว ด่วน! เลเวอเรทท์ ฟรีมอนท์ กับ ไนมีเรีย รีอังก้า เฮนลาดิส: สนามฝึกกลายเป็นเวทีรัก!? ก่อนจะสูดลมหายใจแรง ๆ แล้วเอามือขยี้หัวตัวเองเหมือนจะบอกว่า “ไม่ ไม่ ไม่อีกแล้วววววววว”
“...สนามฝึกเวทีรักบ้าอะไรเนี่ยยยย!!” เธอตะโกนใส่หมอนข้างเสียงอู้อี้ก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย ตาจ้องเพดานมือยังถือกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ไม่ปล่อย อ่านต่อแล้วเจอคำว่า “ฝึกลมหายใจแนบเนื้อ” โมนีก้าถึงกับสะดุ้งเฮือกหันไปพูดกับตัวเองเสียงสั่น “เฮ้ย นี่มันสนามฝึกนะ ไม่ใช่คลาสโยคะคู่รัก!” พอเจอประโยค “แอบยื่นอะไรบางอย่างให้แบบลับ ๆ ราวกับร่ายเวทมนตร์” เธอถึงกับทำตาโต “อื้อหือออออ... นี่มันซีรีส์พ่อมดแม่มดผสมรักวัยรุ่นใช่มั้ย?! แม่งโคตรแมสเลยนะเว้ย!”
อ่านจนถึงตรง “สวมหมวกกันน็อกลายเดียวกับแจ็กเก็ต” โมนีก้าถึงกับเอามือกุมหน้าแล้วร้องออกมา “โอ๊ยยยยยยยยย จะคอสเพลย์คู่รักก็พูดมาเถอะ! จะอวดชาวบ้านทำไมให้ฉันปวดตับ!?” สุดท้ายเจอแฮชแท็ก #ทีมเผือกเชียร์เลเวอมีเรีย โมนีก้าก็แทบอยากจะปาหนังสือพิมพ์ออกนอกหน้าต่าง “เชี่ยยยยยยย มีแฮชแท็กแล้วด้วย!! นี่มันเข้าสู่ระดับแฟนด้อมแล้วโว้ย!!”
เธอทิ้งตัวลงกับเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง ทำหน้าเอ๋อ ๆ พึมพำเบา ๆ “โอเค...เข้าใจแล้ว ชีวิตเดมิก็อดนี่ไม่มีวันเหลือความเป็นกองทัพอีกต่อไป มันคือกองละครน้ำเน่า...รักกัน ๆ ไปให้หมดเลย...” แล้วก็กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง เอาหมอนปิดหน้า “แม่เซเรส...ถ้าลูกไปค่ายจูปิเตอร์แล้วอย่าให้เจอข่าวเม้าท์แบบนี้นะ ไม่งั้นหนูตายคาเตียงแน่!”
ส่วนข่าวต่อไปโมนีก้าถือกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ในมือแล้วเบิกตากว้างทันทีที่เห็นพาดหัวข่าว Breaking News! เลเวอเรทท์ กับ ไนมีเรีย: สถานะกำลังดูใจ / จีบแบบแอบชอบแต่ทำทรง!
“โอ้วววว พระแม่เซเรสขาาาา!! ทำไมข่าวค่ายนี้มันอัพเดตเร็วกว่าเฟซบุ๊กอีกวะ!” เธอร้องออกมาเสียงหลง พลางเอามือทาบอกเลียนแบบท่าทางของบรรณาธิการเฮอร์มีสในข่าวอย่างประชดประชัน แต่พออ่านต่อก็เผลอทำตาปริบ ๆ ตรงประโยค “มีการส่งขนมให้กันในคาบเรียน” โมนีก้าแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง “ห๊ะ?! ส่งขนม = จีบ? เออ ก็ดีนะ กูส่งมันฝรั่งทอดให้เพื่อนทีนี่ต้องแต่งงานกันเลยมั้ย?! โอ๊ยยยย…” แล้วพอเลื่อนไปเจอตอน “ใครบอกว่าไม่ชอบขี้หน้า!” เธอถึงกับทิ้งตัวลงไปนอนกลิ้งกับหมอนข้าง หัวเราะจนขากระตุก “เชี่ยยยยย อันนี้โคตรปากแข็งเลยยยยย นี่มันสูตรสำเร็จพระเอกนิยายชัด ๆ!”
อ่านต่อถึงตอน “ดอกไม้เยอะแยะ” โมนีก้าก็แทบจะปาหมอนขึ้นเพดาน “โอ้ยยยยยยยย ดอกไม้เต็มมือขนาดนี้จะไม่ให้คิดเกินเพื่อนได้ยังไง!! กรี๊ดดด ใครปลูกไร่ดอกไม้ไว้ในค่ายฟะะะะะะ” สุดท้ายเธอหรี่ตามองสรุปข่าวที่เขียนว่า #หัวใจหินผาละลายแล้ว #จีบแบบปากแข็ง แล้วทำหน้าเอ๋อ ๆ “โอเค…ถ้ามีแท็กพวกนี้จริง แปลว่ามันไม่ใช่กองทัพแล้วนะคะทุกคน…นี่มันกองคลั่งรักเว้ยยย!!!”
โมนีก้าล้มตัวลงบนเตียงอีกครั้ง เอาหนังสือพิมพ์คลุมหน้าแล้วบ่นพึมพำ “ถ้าแม่มาเห็นหนูอ่านข่าวเผือกพวกนี้ แม่ต้องคิดว่าหนูเสียสติแน่…แต่ก็นะ…อ่านแล้วแม่งโคตรมันส์เลยว่ะ!!”
หลังจากนั้นก็พลิกหน้าหนังสือพิมพ์อ่านต่อแต่แล้วโมนีก้าก็ถือหนังสือพิมพ์ค้างไว้กลางอากาศ ตาคู่โตเบิกกว้างจนแทบจะหลุดจากเบ้าเมื่อเจอพาดหัวข่าว ไฮด์เพื่อนซี้ที่ทำตัวแปลกไปแล้ว กำลังมีซัมติงกับไนมีเรีย!
“ห๊าาาา!? ม่ายยยยยยยยยยยย!!” เธอร้องออกมาเสียงสูงพลางทิ้งตัวลงนอนหงายกับเตียง หนังสือพิมพ์แปะลงบนหน้าเหมือนอยากปิดบังโลกใบนี้ “อย่าบอกนะว่าค่ายนี้มันไม่ได้ฝึกนักรบแล้ว แต่เป็นกองประกวดเดอะเฟซซีซั่นใหม่!!” แต่ความอยากเผือกมันแรงเกินห้าม เธอค่อย ๆ ดึงกระดาษออกมาแล้วกวาดตามองเนื้อหาข่าว พอเจอประโยคที่ว่า “พอไนมีเรียเดินมาใกล้ๆ มันกลับยอมพูดก่อน” โมเนีก้าถึงกับดีดตัวขึ้นนั่ง “เฮ้ย! นี่มันผิดธรรมชาติแล้วนะเว้ยยยย ไอ้ไฮด์เนี่ยนะพูดก่อน!? ปกติถ้าไม่ถามมันว่า ‘จะกินข้าวมั้ย’ มันก็ไม่อ้าปากอยู่แล้วนี่หว่า!!”
แล้วพอเลื่อนไปเจอตอน “เอามือแตะที่แขนของไฮด์ แล้วยื่นยันต์ให้” เธอถึงกับร้องโวยวาย “อ๊ากกกกกกกกกกกก!! แตะตัวด้วยยยยยย!! แล้วก็ยัง ‘ก้มลงมองด้วยสายตาเหมือนเขิน’ อีก!! ไฮด์ดดดดด! ไปแล้วววววว!!” เธอทิ้งตัวนอนคว่ำกับหมอน หัวโขกลงไปแรง ๆ สองที แล้วครางเบา ๆ “โว้ยยยยย ค่ายนี้แม่งไม่ใช่ค่ายฝึกแล้ว มันเป็นละครวัยรุ่นกรีก–โรมันสไตล์ Netflix ชัด ๆ เล้ยยย!!”
สุดท้ายเธอนั่งเท้าคาง มองสรุปข่าวที่ว่า “ร้อนฉ่าจากเคมีของไนมีเรีย หนาวจากพลังของไฮด์” แล้วทำหน้ามึน ๆ “โอเค…ยอม…ทางนี้คงต้องอยู่ #ทีมเผือก แล้วล่ะว่ะ เพราะอยากรู้จริง ๆ ว่าพี่น้ำแข็งเนี่ยจะละลายเพราะความรักหรือเพราะยันต์ของแม่มด…” พูดจบเธอก็กลิ้งไปมาอยู่บนเตียงเหมือนแมวน้อยลงแดง พลางบ่นพึมพำ “ค่ายบ้านหมาป่านี่ไม่ใช่แค่ฝึกโรมันนะคะคุณ แต่มันคือ ละครน้ำเน่า 18 ตอนรวดดดด!!”
แต่แล้วข่าวต่อมาทำให้โมนีก้าแทบจะอยากไปเป็นหมอดู โมนีก้าเลิกคิ้วจนแทบจะชนไรผม พอเห็นพาดหัวข่าว ร้อนฉ่า! ไนมีเรียจุดประเด็นรักสามเส้า เราสามคน!! หญิงสาวแทบสำลักน้ำลายตัวเอง “เชี่ยยยยย!! ว่าแล้ววววววว!! ค่ายนี้มันไม่ใช่ค่ายฝึกแล้วมันคือละครเชือดเฉือนตีท้ายครัว!” เธอโวยลั่นทั้งที่ยังนั่งกอดเข่าบนเตียง หนังสือพิมพ์แทบสั่นตามแรงมือ
พอเลื่อนสายตาอ่านต่อถึงประโยคที่ว่า “ไนมีเรียกลับจากภารกิจกับเจ้าชายน้ำแข็งไฮด์ ได้คืนเดียว วันรุ่งขึ้นไปออกทริปกับเลเวอเรทต่อ” โมนีก้าถึงกับดีดตัวขึ้นนั่งตรง ปากอ้าพะงาบ ๆ เหมือนปลาทอง “ห๊าาา!? เมื่อคืนมากับน้ำแข็ง วันนี้ไปกับไฟ!? คุณพี่จะเล่น 4 ธาตุ รวบตึงเลยมั้ยเนี้ย!!” แล้วเจอท่อน “เลเวอเรทเคยออกมาวีนแหลกว่ามันเต้าข่าว” เธอถึงกับหัวเราะพรืด “55555 เอ้า พี่เลเวอ! พี่นี่ไม่รอดหรอกพี่! ขนาดไฮด์ยังเสียอาการ นี่เล่นไปออกทริปต่อหน้า ๆ แบบนี้ มันจะเหลืออะไร๊!!”
โมนีก้าวางหนังสือพิมพ์ลงตักถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพึมพำกับตัวเอง “โอ๊ย…ฉันไม่ได้อยู่ค่ายฮาล์ฟบลัดตอนนี้อยู่ใน Love Triangle the Series ชัด ๆ” พอเลื่อนสายตาเจอการแบ่งทีม #ทีมไฮด์ #ทีมเลเวอเรท #ทีมไนมีเรีย เธอถึงกับกลิ้งลงบนหมอนหัวเราะท้องแข็ง “กรี๊ดดดดดดด เปิดโหวตเหมือนเลือกตั้งนักเรียนประจำค่ายเลยเหรอวะ! 55555”
สุดท้ายเธอชูมือขึ้นทำหน้าจริงจังทั้งที่ยังนอนกลิ้งอยู่ “งั้นฉันอยู่ #ทีมป๊อปคอร์นละกัน! ไม่ได้จะเชียร์ใคร จะนั่งแดกข้าวโพดดูพวกรุ่นพี่วางมวยใส่กันต่างหาก!” พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนหงาย หัวเราะคิกคักกับความไร้สาระสุดโบ๊ะบ๊ะของข่าว แล้วบ่นงึมงำ “แม่ง…โลกนี้แม่งมีแต่สงครามนะเว้ย แต่สงครามที่ใหญ่สุดไม่ใช่เทพกับปีศาจหรอก…เป็นสงคราม แย่งความรัก นี่แหละ!!”
แต่แล้วไม่นานโมนีก้าก็พบกับข่าวอื่น…หืม? ทำไมมันแปลกไป โมนีก้าถึงกับเบิกตากว้างตอนเห็นหัวข้อข่าว “เปิดตำนานพันธมิตรข้ามค่าย!” เธอแทบจะสะดุ้งลุกขึ้นนั่งจากเตียงเลยทีเดียว เพราะข่าวนี้มันไม่ใช่แค่เมาท์มอยกุ๊กกิ๊กหวานเจี๊ยบเหมือนที่ผ่านมา แต่มันดันกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับสัตว์บรรพกาลอาละวาดซะงั้น “โอ้โหหหหหหหหหห... อ่านอยู่ดี ๆ จากค่ายละครรักวัยรุ่นเมกัน... ดันกลายเป็น Avengers: Demi-God Edition ซะแล้วเรอะ!!” เธอร้องลั่น หันไปมองซ้ายขวาเหมือนหาคนยืนยันว่าไม่ได้ตาฝาด
พอเจอประโยค “เดนิสต้า ธิดาแห่งวีนัส กับ ชอนย่า ทายาทหนี่วา ร่วมมือพิชิตหงส์เพลิงคลั่ง” โมนีก้าถึงกับทึ้งหัวตัวเอง “เชี่ย... แค่ชื่อก็กินขาดแล้ว! วีนัส + หนี่วา นี่มัน ครอสโอเวอร์ที่โลกต้องจารึก!” เธอก้มอ่านต่อเจอท่อน “หงส์เพลิงยังส่งสัญญาณเตือนว่ามีคนชักใยเบื้องหลัง” หญิงสาวทำหน้าเอ๋อค้าง “อหหหหหหหหหหหห! เธออย่าบอกนะว่าฉันจะได้ดู Game of Thrones เวอร์ชันเดมิก็อด ต่อจากนี้!? โลกิ? ดีมิทรี? สี่อัศวินกาลวิบัติ? เชี่ย… ใครแม่งคิดพล็อตข่าวพวกนี้วะ ตึงจนอยากเอาไปเขียนบทหนังแล้วนะ!!”
โมนีก้าเอาหนังสือพิมพ์ตบกับตักดังแปะ ๆ ๆ แล้วพึมพำ “ทางนี้ยังฝึกวิ่งอยู่ทุกวันอยู่เลยนะเว้ย พวกรุ่นพี่เล่นกันระดับบงการสัตว์บรรพกาลกันแล้ว ตัวเรายังอยู่เลเวลต้มบะหมี่กับฝึกกราดิอุสอยู่เลย!!” สุดท้ายเธอถอนหายใจแรง ๆ แต่ก็หัวเราะคิกคักเหมือนบ้า “เออวะ…จะรักจะรบก็มาเหอะ ค่ายนี้มันได้หมดจริง ๆ ตั้งแต่โรมคอมยันมหากาพย์สงครามจักรวาล ยอมแล้ว!”
หลังจากนั้นก็อ่านข่าวต่อแต่โมนีก้ากลับขมวดคิ้ว โมนีก้าถือกระดาษหนังสือพิมพ์ขึ้นมาจ้องอีกครั้ง แล้วถอนหายใจยาวแบบคนที่กำลังจะขาดใจ “เชี่ย…อีกแล้วเรอะ! ไนมีเรียอีกแล้วโว้ยยยยย!!!” เสียงเธอดังสะท้อนในห้องนอนรวมจนเด็กบางคนที่นอนดิ้นละเมออยู่ขยับผ้าห่มพลิกตัว
หญิงสาวเอาหนังสือพิมพ์ตบหน้าตักดังป้าบ “อ่านมาสามสี่ข่าวติดนะเว้ย! เจ๊ไนมีเรียเจอผู้ชายกี่คนแล้วคะ!? ไฮด์บ้าง เลเวอเรทท์บ้าง รักสามเส้าบ้าง ศิษย์เมนเทอร์บ้าง… ฉันละงง ใครแม่งเขียนข่าวเนี่ย เหมือนจะเป็นค่ายฝึกเดมิก็อด สุดท้ายกลายเป็น ละครน้ำเน่าไพรม์ไทม์ ไปแล้ว!” โมนีก้าไถตามองบรรทัดที่ว่า “จากนี้ไป เธอต้องอยู่ในสายตาฉันตลอดเวลา ห้ามแยกไปไหนคนเดียวเด็ดขาด เข้าใจไหม” ก่อนจะกรีดร้องใส่หมอน “โอยยยยยย พอเหอะ!!! ไม่อินแล้วแม่!!! นี่มันประกาศความเป็นเจ้าของชัดๆ ไม่ใช่ภารกิจโรมันแล้ว มันกลายเป็น นิยายรักค่ายรบ ไปเรียบร้อย!”
สุดท้ายเธอโยนหนังสือพิมพ์ขึ้นฟ้าแล้วปล่อยตกลงมากองตรงปลายเตียงเหมือนทิ้งบ่วง “พอ! ข่าวไหนมีชื่อไนมีเรียจะข้ามแม่งหมด! เบื่อแล้ว!! อยากอ่านข่าวสาระ ข่าวจริงจัง ไม่ใช่ซีรีส์รักใสวัยรุ่นเวทมนตร์ทุกเพจแบบนี้”
หลังจากที่ว่าแบบนั้นก็ขยับไปหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านต่อ โมนีก้าถือหน้ากระดาษขึ้นมาอย่างงง ๆ แล้วหรี่ตามองตัวอักษรที่บรรยายฉากในห้องสมุด ก่อนจะยกคิ้วสูง “อ้าวเห้ย…รอบนี้เปลี่ยนคู่ละเว้ย!” เสียงเธอแผ่วหัวเราะหึ ๆ เหมือนคนที่โล่งใจที่ไม่ใช่ชื่อไนมีเรียโผล่มาอีก
เธออ่านบรรทัดที่เขียนว่า “ยื่นมือให้ริปลีย์จับมือถือแขน” แล้วเอามือแตะหน้าผากปาดแรง ๆ “โอ๊ยยยยย…นิยายรักค่ายนี้มันโผล่มาทุกมุมจริง ๆ สินะ ห้องสมุดก็ไม่เว้น!” หญิงสาวทำหน้าตกใจปนขำ “โอเค ๆ รอบนี้อย่างน้อยก็เปลี่ยนบรรยากาศละกัน จากสนามรบกับแม่มดกลายเป็นศิลปินหล่อลูกไดโอนีซุสกับสาวทะเลลูกโพไซดอนแทน…อื้อหือ น้ำกับไวน์อะนะ? จะผสมกันแล้วหวานขึ้นจริงดิ เฮอร์มีสแม่งเขียนได้เหมือนเมนูค็อกเทลเลยนะเนี้ย!” โมนีก้าวางหนังสือพิมพ์ลงบนตัก กอดหมอนแล้วบ่นพึมพำแบบคนปลง “ไม่รู้จักใครเลย แต่ดันอ่านจนอินไปกับความหวานเฉย…บ้าชิบหาย” เธอส่ายหัวขำ ๆ ก่อนจะสะกิดนิ้วชี้ไปที่บรรทัดท้าย “เดินออกไปเงียบ ๆ แต่รู้สึกอุ่นใจ” แล้วกลอกตา “โอ๊ยพอเถอะ จะร้องเพลงประกอบละครแล้วเนี่ย! หวานจัดน้ำตาลจะขึ้นแล้ว!”
เธอเอนหลังพิงหมอน ถอนหายใจเหมือนยอมแพ้กับชะตา “เอาวะ ไหน ๆ ก็เปิดอ่านละอ่านให้มันจบ ๆ ไปเถอะ จะได้รู้ว่าค่ายฮาล์ฟบลัดนี้มันเป็นค่ายฝึกนักรบหรือค่ายรักวัยรุ่นกันแน่วะ!” หลังจากคิดงั้น โมนีก้าก็นั่งพับเพียบอยู่บนเตียงขยับนิ้วเลื่อนหน้ากระดาษต่อมาแล้วทันทีที่สายตาเจอพาดหัวใหญ่โต ประกาศลั่น! เลเวอเรทท์ ฟรีมอนต์ และ ไนมีเรีย เฮนลาดิส: สถานะ ‘คบกันแล้ว’ อย่างเป็นทางการ! ชาวบ้าน 3 การันตี!
หญิงสาวถึงกับทำหน้าเหวอ แก้มกระตุกไปหนึ่งทีก่อนจะร้องออกมาสั้น ๆ “โอยยยยยพอที!!!” เสียงเต็มไปด้วยอาการปวดหัวเหมือนโดนลากให้เข้าไปในละครรักที่ไม่อยากเป็นผู้ชม โมนีก้าสะบัดมือดัง ฟึ่บ! ปิดหน้ากระดาษฉับเดียว ไม่เหลือแม้แต่ช่องให้แอบเหลือบมอง เธอเบือนหน้าหนีทันทีแล้วบ่นพึมพำ “ไม่อ่านแล้วเว้ยยย เบื่ออออ! ไนมีเรียอีกละ ไนมีเรียทุกหน้าเลยป้ะเนี่ย!! สงสารแทนโดนเอาไปทำข่าวหนังจัดเลย”
เธอขยับมือรวบกระดาษพับครึ่งเหมือนจะตัดขาดสายตาจากพาดหัวข่าวนั้นอย่างถาวร แล้วถอนหายใจแรง ๆ “จะโดนตามหลอนด้วยข่าวรักคู่นี้ทั้งชีวิตเลยใช่ไหมเนี่ย…” พูดจบก็ยัดกระดาษเข้ากองแหวนดาราจรัสทันที ไม่แม้แต่จะเสียเวลามองตัวอักษรตัวเล็ก ๆ ที่ยังเหลือ “ข้าม! ข้ามแม่งเลย!!!” โมนีก้ากัดฟันบ่นเสียงดังทำหน้าเหมือนคนเพิ่งเอาตัวรอดจากดงดราม่าได้สำเร็จ พลางยกมือปัด ๆ เหมือนสะบัดเอาความหวานเลี่ยนออกไปจากอากาศรอบตัว
หลังจากข้ามข่าวที่แล้วเพราะอ่านแค่หัวข้อเธอก็ขยับดวงตาโมนีก้าหรี่ตาลงพลางขมวดคิ้วน้อย ๆ เมื่อเห็นพาดหัวข่าวต่อมาว่า ข่าวพิเศษ! คลื่นลูกใหม่ เอ็กเซล, ลีโอ วัลเดช และ เชลิค โบซครูต์ มีซัมติงพิเศษหรือจะเป็นคู่ทริปเปิ้ลคู่แรก! หญิงสาวแทบจะหลุดหัวเราะออกมาในทันที “ไอ้เชี่ย...อันนี้มาเป็นสามเลยเรอะ?!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เธอเลื่อนสายตาอ่านเนื้อหาข่าวไปทีละบรรทัด ตั้งแต่เรื่องแอ็คเซลผู้บำบัดจิต การจัดห้องให้นอนพักได้จริง ไปจนถึงการพยายามทำให้บุตรแห่งแอรีสอย่างเชลิค “รู้สึกเป็นบ้าน” ด้วยการสร้างกิจวัตรร่วมกัน… โมนีก้านั่งฟังเหมือนกำลังฟังคนขายตรงพร่ำบรรยายคุณสมบัติหมอนสุขภาพยังไงยังงั้น พอเจอประโยค “เครื่องจักรที่ทำงานหนักที่สุด...ก็สมควรได้รับการบำรุงรักษาที่ดีที่สุดเช่นกันครับ” เธอก็หลุดหัวเราะพรืดออกมา จนต้องเอามือปิดปาก “โอ้โห พ่อจิตแพทย์แห่งค่ายนี่แม่งโคตรขายของเป็นเลยนะเว้ย”
แต่พออ่านไปถึงตอนที่เชลิคสารภาพว่า “มันไม่เคยเป็นบ้าน…แม้ว่าทุกคนจะเรียกมันว่าบ้านก็ตาม” โมนีก้าก็ชะงักไปแวบหนึ่งดวงตาเธอนิ่งขึ้นนิด ๆ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “เออวะ...อันนี้แม่งก็เจ็บดีนะ” พออ่านจนจบเธอก็โยนกระดาษข่าวลงบนตักพลางทำเสียงเซ็ง ๆ “ฉันว่ามันไม่ใช่ซัมติงแบบรัก ๆ ใคร่ ๆ หรอกนะจากที่ดู แต่พวกนักข่าวเมอร์คิวรี่นี่แม่งจับโยงทุกอย่างเป็นคู่รักจนได้อ่ะ… จะเป็นสามเหลี่ยมหรือสามเส้า นี้ก็ว่าไม่รอดหรอก”
ว่าแล้วโมนีก้าก็ยักไหล่ ถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะบ่นพึมพำ “ข่าวนี้ยังพออ่านแล้วไม่อยากเอาหัวโขกฝาเท่าข่าวคนชื่อไนมีเรียนั่นนะน่าสงสารเพราะมีแต่คนทำข่าว... แต่ก็เหอะ เหนื่อยใจชิบหาย” โมนีก้าปล่อยหนังสือพิมพ์กองนั้นตกกระแทกกับพื้นดัง ปึก ไม่เหลืออารมณ์อยากอ่านอีกแล้ว ร่างเล็กทิ้งตัวลงนอนบนเตียงพลางกอดหมอนแน่น ริมฝีปากระบายเสียงถอนหายใจยาวเหยียดเหมือนจะระบายความอึดอัดที่พอกพูนจากข่าวไร้สาระทั้งหลายที่อ่านมาทั้งคืน
“เฮ้อ…ขออย่าให้ฉันฝันเห็นพวกแม่งก็พอ… ถ้าฝันว่าอยู่ท่ามกลางไอ้ข่าวรัก ๆ ใคร่ ๆ พวกนี้ ทางนี้คงเอาหัวโขกหมอนให้ตายไปเลยจริง ๆ” เธอบ่นพลางเอาผ้าห่มคลุมหัวเหมือนเด็กหนีผี เสียงหัวเราะแผ่วบางหลุดออกมาปนเหนื่อยหน่าย ไม่นานหัวใจที่เต้นเร่งเพราะความขุ่นเคืองค่อย ๆ ช้าลง สติเริ่มเลือนรางไปพร้อมกับความมืดที่กลืนกินห้องนอนรวมอันสงัด โมนีก้าซุกตัวจนกลายเป็นก้อนผ้าห่มเล็ก ๆ สุดท้ายเสียงคร่อกฟี้เบา ๆ ก็ดังขึ้น เธอหลับไปพร้อมความหวังเล็ก ๆ ว่าคืนนี้จะไม่มีข่าวซุบซิบบ้า ๆ พวกนั้นมาตามหลอนในความฝันอีกแล้ว

อื่น ๆ: มาอ่านข่าวและมานาน
รางวัล : โรลเพลย์เข้านอนหลัง 20.00 น. ไม่เกิน 02.00 น. ได้รับ +30 พลังงาน
อ่านข่าวซุบซิบ จำนวน 13 ข่าว ข่าวละ +15 EXP = 195 EXP