-2025.06.20 / 07:30PM.-
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]
หลังจากได้เที่ยวงานเทศกาลฟอร์ทูนาในช่วงกลางวันจนเต็มอิ่ม เวลานี้ก็เหลือช่วงพิธีการสุดท้ายแล้วก่อนที่วันนี้จะจบลง รีชา นิโคไลและเชมัสพากันมาที่วิหารฟอร์ทูนาซึ่งอยู่บนเนินเทมเพิลทางตอนใต้ของเมืองนิวโรม สถานที่แห่งนี้ปลีกวิเวกออกมาจากย่านชุมชน บรรยากาศโดยรอบจึงค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัว เพียงแต่วันนี้อาจมีผู้คนมาเยือนมากกว่าปกติก็เท่านั้น
นิโคไลที่พลังงานใกล้หมดหลอดมาตั้งแต่ช่วงเย็นเริ่มเอื่อยเฉื่อย ตอนนี้เขาอยากกลับไปพักผ่อนเต็มที พอหันไปมองเพื่อนอีกสองคนแล้วก็คงไม่ต่างกัน
“ไหวไหมรีชา”
เด็กชายถามธิดาแห่งโพไซดอนที่กำลังปิดปากหาวหวอด
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]
พอถูกทักเข้าเธอก็หัวเราะแห้ง ๆ แล้วกระพริบตาไล่ความง่วงงุนก่อนจะชี้ไปยังตรงมุมหนึ่งของวิหารที่มีสมุดทำนายดวงวางอยู่
"ไปตรงนั้นก่อนดีไหม ดูเหมือนว่าคนจะน้อยที่สุดล่ะ"
นิโคไลกับเชมัสพยักหน้ารับแล้วเดินตามเธอไป ดูท่าบุตรแห่งแอมฟิไทรต์คงหมดเรี่ยวแรงจริง ๆ ถึงไม่พูดแม้แต่ประโยคติดปากออกมา
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]
ระหว่างที่ทั้งสามคนเข้าคิวรอขอคำทำนายก็แอบดูคนลำดับก่อนหน้าไปด้วยว่าต้องทำอย่างไร รอเพียงไม่นานก็ถึงตาพวกเขา โดยเริ่มจากรีชาก่อน
“เทพีฟอร์ทูนาโปรดให้คำแนะนำเรื่องจูลี่ด้วยค่ะ”
เด็กหญิงหลับตาลง อธิษฐานจิตก่อนจะเปิดสมุดทำนายดวง ‘อีนีอิด’ ซึ่งวางอยู่บนแท่นบูชาหินสีขาวแล้วหลับตาจิ้มประโยคหนึ่งในหน้ากระดาษนั้น
"โอ๊ะ ! นิคกี้ เช ดูนี่สิ"
ทันทีที่ลืมตาขึ้นอ่านคำทำนาย เธอก็เรียกให้เพื่อนทั้งสองคนเข้ามาดูด้วยกัน
“และเธอเองก็นำข่าวการมาถึงของเอนิอัสด้วยความยินดี…สิ่งนำโชค เสื้อลายสก็อต ?”
เชมัสอ่านประโยคคำทำนายในสมุดแล้วทำหน้าสงสัย แม้จะยากต่อการตีความทั้งหมด แต่คำว่า ‘ความยินดี’ ในประโยคก็ช่วยให้ใจชื้นเรื่องจูลี่ขึ้นมาได้ไม่น้อย
“ฉันขอลองบ้างได้ไหม”
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]
เมื่อรีชาขยับออกมา นิโคไลก็เข้าไปนั่งแทนที่แล้วทำตามขั้นตอนเดียวกับเธอ
“จูลี่ เดรค ลูกพี่ลูกน้องของผมจะกลับมาถึงค่ายฮาล์ฟบลัดอย่างปลอดภัยไหมครับ”
เขาลองถามเรื่องจูลี่อีกครั้ง คราวนี้ใช้คำถามให้แคบลง จากนั้นก็หลับตา เปิดสมุดทำนายแล้วชี้ประโยคหนึ่งในหน้านั้น
คำทำนายที่ได้รับราวกับยิ่งยืนยันประโยคก่อนหน้าของรีชามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสิ่งนำโชคที่เป็น ‘เสื้อสีส้ม’ เหมือนกำลังบอกเป็นนัยว่าผู้ที่ช่วยชีวิตจูลี่ก็คือชาวค่ายฮาล์ฟบลัดนั่นเอง เพียงแต่ใครจะเป็นคนคนนั้นกันนะ
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]
เชมัสที่คิดไม่ออกว่าจะขอคำทำนายเรื่องอะไรขอผ่านตรงนี้ไป ทั้งสามคนจึงมากันที่จุดต่อไปนั่นคือรูปปั้นเทพีฟอร์ทูนา ซึ่งเป็นจุดที่ผู้คนต่างมาถวายศรัทธาแก่เทพีแห่งโชคชะตา เดมิก็อดจากค่ายฮาล์ฟบลัดพากันนั่งลงตรงด้านหน้ารูปปั้น หลังจากกล่าวคำถวายศรัทธาแล้วก็หยิบอาวุธที่เตรียมไว้ขึ้นมาเทินเหนือศีรษะ
แสงสีทองเรืองรองปรากฏขึ้นก่อนจะหายไป พอมองอาวุธในมืออีกครั้งก็เห็นว่ากลายเป็นสิ่งที่มีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิมไปแล้ว นี่คือการอัพเกรดอาวุธแบบที่รีชาเคยบอกก่อนหน้านั้นไม่ผิดแน่
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]
จากนั้นทั้งสามคนก็มายังจุดสุดท้ายในวิหารซึ่งจัดขึ้นเฉพาะเทศกาลฟอร์ทูนาเท่านั้น นั่นคือกิจกรรมที่ชื่อว่า ‘เล่าชะตาลิขิตโชค’ ซึ่งหากสรุปให้ฟังแบบเข้าใจโดยง่ายก็คือการเขียนเหตุการณ์ที่ตนเองประทับใจในช่วงเวลาที่ผ่านมาลงนกระดาษแล้วนำไปใส่ในโถแก้วแห่งโชคชะตา
รีชาเริ่มต้นเป็นคนแรกของกลุ่มเหมือนเดิม เรื่องที่เธอเขียนเป็นเรื่องของดีนผู้เป็นพี่ชาย ภาพที่ฉายขึ้นมาเป็นช่วงเวลาที่บุตรแห่งจ้าวสมุทรใช้เวลาร่วมกันกับผู้เป็นพ่อที่บ้านพักตากอากาศกลางมหาสมุทรอินเดีย
ส่วนเชมัสเขียนเหตุการณ์ที่ตนเองฝึกซ้อมอย่างหนักกับเอิร์ล พี่ชายร่วมสายเลือดจนทักษะการต่อสู้และป้องกันตัวของตนเองพัฒนาขึ้น
แล้วก็มาถึงคิวของนิโคไล
สำหรับเด็กชายแล้วช่วงเวลากว่าสี่เดือนที่มาอยู่ค่ายฮาล์ฟบลัดยังไม่มีเหตุการณ์ใดน่าประทับใจจนถึงขั้นตราตรึง ดังนั้นเขาจึงเลือกเรื่องราวของพี่ชายที่สนิทสนมที่สุดในบ้านอย่างแมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์นมาเขียนลงไปแทน แม้ว่าพี่ชายชาวอังกฤษคนนี้ของเขาจะไม่ใช่คนพูดเยอะหรือเป็นนักเล่าเรื่อง แต่พวกเขาก็ใช้เวลาว่างในการสนทนากัน และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องที่นิโคไลประทับใจรวมอยู่ด้วย
บุตรแห่งเทพีแห่งมนตราใส่กระดาษลงไปในโถแก้วแห่งโชคชะตาภายหลังภาพเรื่องราวของเชมัสฉายจบลง เมื่อแผ่นกระดาษถูกเปลวไฟแผดเผา เรื่องราวเมื่อช่วงสิ้นปีก่อนก็ฉายขึ้นมา
ภาพแมคเคนซีต่อสู้กับเหล่าอสุรกายในป่าต้องห้ามร่วมกับชาวค่ายฮาล์ฟบลัดตั้งแต่บ่ายจนเย็นย่ำเมื่อวันเหมายัน ในตอนนั้นชายหนุ่มยังเรียนรู้ทักษะเวทย์ได้ไม่มาก ทักษะการใช้อาวุธก็ไม่ได้จัดอยู่ในระดับที่ถือว่าเป็นยอดฝีมือเหมือนใครหลาย ๆ คน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามต่อสู้กับฝูงปิศาจที่มาบุกค่ายจากการชักนำของเทพโลกิด้วยความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อปกป้องค่ายของชาวเดมิก็อดสายเลือดกรีกเอาไว้ แม้ว่าในตอนท้ายจะมีการสูญเสียเกิดขึ้น และค่ายฮาล์ฟบลัดก็เสียหายต้องซ่อมแซมหลายจุด แต่ในซากปรักหักพังนั้นก็ยังซ่อนความประทับใจในด้านความร่วมแรงสามัคคีของชาวค่ายไว้ ร่วมถึงความร่วมมือจากค่ายจูปิเตอร์ที่ให้ความช่วยเหลืออีกส่วนนึงด้วย ค่ายฮาล์ฟบลัดจึงยังอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ และเหตุการณ์นั้นก็เป็นเครื่องเตือนใจได้อย่างดีให้คนในค่ายไม่ประมาทอีก
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]
“อืม…เคยฟังแต่ที่พี่เขาเล่า ไม่นึกว่าพอมาเห็นกับตาตัวเองแล้วจะยิ่งน่าประทับใจขนาดนี้เลย”
เด็กชายพยักหน้าน้อย ๆ แม้ภาพจะฉายจบไปแล้วแต่นิโคไลก็ยังมองอากาศค้างอยู่อย่างนั้น คำบอกเล่าของแมคเคนซีกับภาพที่เห็นให้ความรู้สึกแตกต่างกัน พี่ชายที่เดินทางไปช่วยชีวิตเขาถึงเมืองเยลโลวไนฟ์ต้องต่อสู้กับอสุรกายมากมายขนาดนี้ นั่นทำให้ความกล้าหาญในใจเริ่มถูกปลุกขึ้นมาแทนที่ความหวาดกลัว เขาตั้งใจแล้วว่าหากกลับค่ายไปจะรีบรักษาตัวให้หายแล้วไปฝึกฝนทักษะการต่อสู้กับการใช้เวทย์เพื่อที่จะช่วยปกป้องค่ายและผู้ที่อ่อนแอกว่าให้ได้อย่างแมคเคนซีและเดมิก็อดผู้กล้าคนอื่น ๆ ในค่าย
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]
หลังจากเดินชมภายในวิหารและทำกิจกรรมต่าง ๆ จนครบถ้วนแล้ว เดมิก็อดทั้งสามก็ออกจากวิหารฟอร์ทูนา นำชุดที่โทก้าที่เช่าใส่มาทั้งวันไปคืน และพากันกลับไปที่โรงแรมเพื่อพักผ่อนให้เต็มที่เป็นคืนสุดท้ายในเมืองนิวโรมก่อนจะเดินทางกลับค่ายฮาล์ฟบลัดเช้าพรุ่งนี้
[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]

เทศกาลฟอร์ทูนา
เข้าร่วมการสวดมนต์บูชาเทพีฟอร์ทูน่าในยามค่ำคืนที่วิหารฟอร์ทูนา
+2 Point
แบบฟอร์มกิจกรรม: เล่าชีวิตลิขิตโชค
ชื่อ-นามสกุล: แมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์น (แทน)
สายเลือดแห่ง: เฮคาที
ประสบการณ์ของแมคเคนซี: Link Link Link Link
เหตุผล: พี่แมคเคยเล่าเหตุการณ์นี้ให้ผมฟังตอนมาอยู่ค่ายได้ไม่นาน
มันค่อนข้างน่ากลัว แต่ผมก็ได้รู้ว่าคนในค่ายฮาล์ฟบลัดไม่ว่าจะอยู่บ้านไหน
เป็นบุตรเทพหรือเทพีองค์ใด ในยามคับขันทุกคนต่างก็ช่วยเหลือกัน
นั่นทำให้ผมประทับใจ และอยากเป็นคนที่เก่งขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ เช่นกัน
(by นิโคไล ครอฟต์)
แบบฟอร์มกิจกรรม: ถวายศรัทธาเพื่ออุปกรณ์ที่ดีขึ้น
ข้า แมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์น (แทน)
ขอมอบศรัทธาต่อเหล่าเทพแก่ เทพีฟอร์ทูน่า เทพีแห่งโชคชะตา
จำนวนศรัทธาที่มอบให้: 1,000
อุปกรณ์ที่ต้องการเลื่อนขั้น: เกราะหนัง
คืนชุดโทก้าที่เช่ามา