PRINCIPIA ⋘ พรินซิเปีย ⋙

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×





PRINCIPIA

⋘ พรินซิเปีย ⋙














คลิกที่ภาพเพื่อเยี่ยมชมด้านใน





พรินซิเปีย เป็นสำนักงานใหญ่ของแม่ทัพ ที่ตั้งอยู่ในค่ายจูปิเตอร์ แม่ทัพทั้งสองของกองพันที่สิบสองจะมาพบกันที่พรินซิเปียเพื่อหารือเรื่องสำคัญต่าง ๆ โดยมีรูปลักษณ์เป็นอาคารหินอ่อนสีขาวสองชั้นที่มีเสาค้ำเหมือนธนาคารสมัยก่อน โดยมีทหารโรมันยืนเฝ้าอยู่หน้าอาคาร เหนือประตูทางเข้ามีป้ายสีม่วงขนาดใหญ่แขวนอยู่ โดยมีอักษร S.P.Q.R สีทองปักไว้ภายในพวงมาลัยลอเรล


ด้านในมีภาพโมเสกของโรมูลุสและเรมัสภายใต้การนำของลูปาที่ส่องประกายระยิบระยับบนเพดาน พื้นเป็นหินอ่อนขัดเงา ผนังคลุมด้วยกำมะหยี่ ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเต็นท์สำหรับตั้งแคมป์ที่แพงที่สุดในโลก และบนผนังด้านหลังมีป้ายและเสาไม้ประดับด้วยเหรียญทองแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางทหาร ตรงกลางมีชั้นวางสำหรับวางคทาอินทรีอันเป็นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งโรมที่มุมด้านหลัง มีบันไดทอดลงมาและถูกกั้นด้วยลูกกรงเหล็กที่เรียงกันเหมือนประตูคุก ตรงกลางห้องมีโต๊ะไม้ยาววางอยู่เต็มไปหมด โดยมีม้วนกระดาษ สมุดบันทึก แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ มีดสั้น และชามขนาดใหญ่ที่ใส่เจลลี่บีนไว้ ด้านหลังโต๊ะมีเก้าอี้พนักสูง 2 ตัวที่สร้างขึ้นสำหรับแม่ทัพทั้งสอง


⋘ 2 แม่ทัพแห่งกองพันที่สิบสอง ฟุลมินาตา ⋙

   
 ควินตัส แอนเดอร์สัน
ยาสมิน อาเดน

แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 10445 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-12-5 00:32
โพสต์ 2024-12-28 22:06:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Character Avatar
DENISTA NORTARA
Lovers of Pleasure From Wolf House

“ ควินตัส ได้ยินหรือยัง? ”

“ อืม ได้ยินแล้ว ”

สองแม่ทัพแห่งกองพันที่สิบสอง ฟุลมินาตาประจำค่ายจูปิเตอร์หันมองกันและกันภายในอาคารหรูหราตามฉบับโรมันโบราณที่ถูกตั้งชื่อไว้อย่างงดงามว่า ‘ พรินซิเปีย ’ พวกเขาได้รับแจ้งจากหน่วยลาดตระเวนว่าจะมีสมาชิกใหม่มาแสดงเจตจำนงขอเข้าร่วมค่ายในอีกไม่กี่นาทีซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ ทว่าคำพ่วงท้ายกำชับประโยครายงานกับรายนามอสุรกายที่ได้ยินกลับทำให้พวกเขาตัดสินใจปรากฏตัวเพื่อรับรองหญิงสาวคนนั้นกันทั้งคู่

ก๊อก ๆ

เสียงเคาะประตูห้องทำงานทำให้ดวงตาของยาสมินและควินตัสสบกันอย่างรวดเร็ว พวกเขารีบเปลี่ยนท่าทางจากสบาย ๆ เป็นเคร่งขรึมตามประสาคนที่ยังมีภาพลักษณ์ของแม่ทัพให้ต้องดูแล หลังจากการส่งซิกทางสายตาหลายครั้ง ในที่สุดควินตัสก็กระแอมในลำคอและกล่าวอนุญาต “ เข้ามา ” เสียงทุ้มของชายที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มดังกว่าระดับที่ตั้งใจไว้เนื่องเพราะความตื่นเต้น ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจเสียตั้งแต่ก่อนที่ผู้มาเยือนจะก้าวเข้ามาซะอีก

พรืด—- เสียงหลุดขำของยาสมินดังมาพร้อมกับเสียงผลักประตูไม้เก่า ๆ ให้อ้าออกรับผู้ที่มารายงานตัว สายลมอ่อน ๆ กลุ่มหนึ่งพัดเอากลิ่นหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของกุหลาบป่าเข้ามาจนพวกเขาตาพร่าด้วยความมึนงง “ สวัสดีค่ะ ” เสียงหวานของว่าที่สมาชิกใหม่ปลุกพวกเขาขึ้นจากความสับสนและเมื่อดวงตาของพวกเขาเลื่อนไปที่กลางห้องก็พบกับหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่มีผิวขาวเป็นประกายราวไข่มุก แม้จะมีบาดแผลรวมไปถึงร่องรอยของการต่อสู้บนร่างกาย แต่ด้วยบุคลิกและท่าทางที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีก็ยังทำให้เธอดูโดดเด่นหน้ามอง

เป็นความสวยในระดับที่ไม่ธรรมดา ,

ความสวยในระดับที่ทำให้สับสนว่านี่คือสมาชิกเริ่มต้นจริงหรือเปล่า?

“ … ”

“ ส สวัสดีจ๊ะ ”

คนแรกที่ตั้งสติได้คือยาสมิน แม่ทัพหญิงแห่งกองพันที่สิบสองใช้ข้อนิ้วเคาะลงกับโต๊ะทำงานเบา ๆ เป็นการปลุกให้ควินตัสตื่นจากภวังค์ ‘ ไม่ต้องคิดเลย ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นสายเลือดวีนัสในสักทางหนึ่ง ’ ธิดาเนปจูนผายมือมาด้านหน้า เชื้อเชิญให้หญิงสาวแปลกหน้าได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในพื้นที่ภายในใกล้กับโต๊ะทำงาน หรือพูดให้ถูกก็คือเชิญให้นั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าควินตัสราวกับว่าจงใจจัดวางเอาไว้แต่แรก ‘ เราตกลงกันแล้ว นายรับบทโหด ฉันรับบทใจดี ’ สองแม่ทัพสื่อสารกันด้วยสายตาลับหลังว่าที่สมาชิกใหม่อย่างดุเดือด ควินตัสอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าการรับบทแบบนั้นค่อนข้าง.. เสียเปรียบสำหรับเขา

“ เดินทางมายากมากไหม? เป็นยังไงบ้าง? ”

ยาสมินถามหญิงสาวด้วยสีหน้าที่เป็นมิตรพร้อมกับเดินไปยืนข้างที่นั่งของควินตัส

“ ขึ้นอยู่กับว่าขอบเขตของคำว่า ‘ ยาก ’ สำหรับพวกคุณคือตรงไหน ” ดวงตาของเดนิสต้าจับจ้องไปยังโถลูกอมบนโต๊ะทำงานที่วางเอาไว้ล่อเด็ก ๆ หญิงสาวชำเลืองตามองยาสมินเล็กน้อยเป็นการขออนุญาต ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้า ดังนั้นเธอถึงได้โน้มไปเปิดฝาโถแล้วหยิบลูกอมออกมาแกะทานไปพลาง ๆ “ สำหรับฉันแล้ว แน่นอน– ยากค่ะ ยากจนคิดว่าจะไม่ได้เห็นค่ายแล้วด้วยซ้ำ ”

ควินตัสขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำตอบของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ครู่หนึ่งเขาอยากจะเอ่ยปากว่า ‘ คงเป็นเรื่องลำบากสำหรับคุณ ’ แต่มือของยาสมินที่หยิกไหล่ด้านหลังของเขากลับทำให้เขาพูดไม่ออก ‘ ขยันสะกัดดาวรุ่งกันซะด้วย ’ แม่ทัพหนุ่มประจำกองพันที่สิบสอง บุตรชายของเทพีอาร์คัสหักนิ้วของตัวเองจนเป็นเสียงกรอบแกรบไล่ความประหม่าก่อให้เกิดเป็นบรรยากาศหนักอึ้ง แต่ท้ายที่สุดแล้วเขากลับพูดขึ้นว่า “ ถ้างั้นมาทำเรื่องนี้ให้จบกันไว ๆ ดีกว่า จดหมายรับรองล่ะ..ครับ? ”

ยาสมินกรอกตา เธออุตส่าห์ตั้งใจจะเทรนด์ควินตัสให้มีมาดของแม่ทัพเย็นชาใครจะไปนึกได้ว่าจิตใต้สำนึกของสายเลือดอาร์คัสจะสุภาพขนาดนั้น แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในการเฝ้ามองของเดนิสต้า .. พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่าบุคคลที่นั่งตรงหน้ามีพรสวรรค์ประหลาดที่พัฒนาไปไกลยิ่งกว่าสายเลือดวีนัสคนใดที่พวกเขารู้จัก การรับรู้อารมณ์ สื่อสารกับสัตว์ หรือแม้แต่สัญชาตญาณที่เฉียบขาด นี่ไม่ใช่ขอบเขตของธิดาวีนัสที่พวกเขารับมือได้เลยสักนิด

ริมฝีปากของสาวสวยยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเบาบาง มือของเธอหยิบจดหมายที่ซ่อนเอาไว้ในปกหลังของบันทึกการเดินทางขึ้นมายื่นให้แก่พวกเขา คนที่รับไปคือควินตัส ชายหนุ่มหยิบที่เปิดผนึกจดหมายมากรีดใต้ตราประทับครั่งของจดหมายก่อนจะค่อย ๆ คลี่กระดาษบาง ๆ ที่ซ่อนเนื้อหาอันน่าประทับใจเอาไว้


ถึง แม่ทัพประจำค่ายจูปิเตอร์

ข้าพเจ้า อีริค นอร์ทาร่า ขอแนะนำ เดนิสต้า นอร์ทาร่า บุตรสาวของข้าพเจ้า ซึ่งมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเข้าร่วมค่ายจูปิเตอร์

เดนิสต้าเป็นเด็กสาวที่เฉลียวฉลาด มีไหวพริว และมีความมุ่งมั่นสูงนับตั้งแต่เด็ก เธอแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำและความสามารถในการตัดสินใจที่เฉียบขาด เดนิสต้ามักเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอเนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่าเดนิสต้ามีความกระหายในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เธอใฝ่หาความรู้ใหม่ ๆ ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเอง ดังนั้นข้าพเจ้าเชื่อว่าเธอจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมการฝึกฝนที่เข้มข้นได้เป็นอย่างดี

แม้ว่าบางครั้งเดนิสต้าอาจจะแสดงความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าด้วยการฝึกฝนและคำแนะนำจากท่าน เธอจะสามารถควบคุมนิสัยนี้ และเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะพิจารณาให้โอกาสเดนิสต้าได้เข้าร่วมกองพันที่สิบสอง และช่วยให้เธอได้พัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่



ขอแสดงความนับถือ
อีริค นอร์ทาร่า

ดวงตาของควินตัสกวาดมองไปตามตัวอักษรเขียนที่ตวัดอย่างมั่นใจ บ่งบอกถึงลักษณะของผู้เขียนที่มีความแยบคายหนักแน่น แม่ทัพหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะส่งจดหมายไปให้ยาสมินได้อ่าน เขาเงยหน้าขึ้น ตัดสินใจทำสิ่งที่นอกเหนือจากที่ตกลงกันได้ด้วยการถามไถ่อย่างสุภาพ “ คุณ.. เดนิสต้า จากคนที่มารายงานบอกว่ารายชื่ออสุรกายที่คุณเจอ.. น่าประทับใจทีเดียว พอจะบอกให้ทราบได้ไหมครับ? ”

ใบหน้าหวานของหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายแมวเปอร์เซียแสนเย่อหยิ่งเอียงไปข้าง ๆ พร้อมมองเขาด้วยสายตาพิจารณา หลังจากเงียบอยู่พักหนึ่งเดนิสต้าก็ตอบ “ ฉันเริ่มต้นด้วยการเจอเอ็มพูซาค่ะ จากนั้นก็เฮลฮาวน์ ” อาศัยแค่สองรายชื่อนี้ สีหน้าของแม่ทัพประจำกองพันที่สิบสองก็เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว ทั้งเอ็มพูซาที่ถือว่าเป็นอสุรกายระดับกลางไปจนถึงเฮลฮาวน์ที่หายากจนเลือดตาแทบกระเด็น ใครจะไปนึกว่าในการเดินทางไม่ถึงหนึ่งวันของหญิงสาวตรงหน้าจะมีรายขื่อพวกนี้โผล่มา

“ มีไซคลอปส์ กับที่พึ่งจัดการไปก่อนถึงอุโมงค์ก็เป็นไคเมร่า ” สองมือของเดนิสต้าประสานวางกันบนตัก เธอเอนแผ่นหลังของเธอแนบชิดไปกับพนักพิง เฝ้ามองหน้าที่เปลี่ยนสีไปมาของสองแม่ทัพด้วยแววตาขบขัน ถึงจะรู้สึกประหลาดอยู่ลึก ๆ ที่เลือกปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยการวางตัวให้มีระยะห่างพอประมาณ ต่างกับตอนที่เป็นแค่เด็กไร้สาระในมือของอเล็กซานเดอร์ แต่เชื่อเถอะว่าโดยปกติแล้วตัวตนของเดนิสต้ากระเดียดมาในทางที่เธอกำลังปฏิบัติอยู่ตอนนี้มากกว่า “ ในกรณีที่คุณอาจไม่เชื่อ ”

“ ฉันให้คุณเช็คสินสงครามได้นะ ”

ไม่ใช่แค่สมาชิกค่ายโดยทั่วไปแน่นอน , ควินตัสกับยาสมินสบตากันอีกครั้ง ก่อนจะเป็นยาสมินที่พูดขึ้น

“ ขอพวกเราคุยกันนิดนึงนะ ” สองแม่ทัพผละออกจากโต๊ะ เดินหายไปเงียบ ๆ ในมุมที่ไกลเกินกว่าการรับรู้ของคนทั่วไปเพื่อกระซิบกระซาบหารือ ทิ้งให้หญิงสาวที่ชื่อเดนิสต้า นอร์ทาร่าลักหยิบลูกอมในโหลเพิ่มไปอีกสามสี่ชิ้น “ ควินตัส ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เล่น ๆ เลย เธอซัดไคเมร่าก่อนมาเข้าค่ายด้วยซ้ำ ??? ”

“ ได้ยินแล้วน่า ”

“ นายเห็นรอยสักบนแขนเธอไหม? ”

“ ไม่ ยังไม่เห็—- ”

พรึ่บ

“ เชี่ย ”

อยู่ดีไม่ว่าดีแขนซ้ายของเดนิสต้าก็มีไฟลุกพรึ่บ ร่างน้อยของหญิงสาวยืนขึ้นทันควันพร้อมกับสะบัดแขนไปมาไล่เปลวเพลิงที่ไร้ความร้อนนั้นจนมันมอดดับ เหลือไว้แค่รอยสักสีเข้มรูปนกพิราบคาบกิ่งมะกอกอย่างชดช้อยอยู่บนผิวเนียน “ อะไรเนี่ย.. ” เธอพึมพัมกับตัวเองด้วยสีหน้าสับสน ตรงข้ามกับผู้รับชมทั้งสองที่หันมองหน้ากัน

“ นายเห็นแล้วนะ ”

“ เฮ้อ ”

ท้ายที่สุดสองแม่ทัพแห่งกองพันที่สิบสองก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน ควินตัสนั่งลงที่เดิม ส่วนยาสมินก็ยืนในจุดเดิมที่เคยยืน สีหน้าและแววตารวมไปถึงน้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจผิดกับก่อนหน้านี้ที่เหมือนจะยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ “ ยินดีต้อนรับสู่ค่ายจูปิเตอร์ครับเดนิสต้า ผมเชื่อว่าการเติบโตของคุณจะเป็นหนึ่งในกำลังที่เราพึ่งพาได้ในสักวัน ”

ทว่าสิ่งที่เดนิสต้าสนใจกลับไม่ใช่เสียงของพวกเขา แต่เป็นเสียงแว่วกระซิบแผ่วเบาจากแดนไกลที่หลั่งไหลมาตามสายลมว่า ‘ อย่าข้ามแม่น้ำไทเบอร์ และห้ามเฉียดใกล้แม่น้ำไทเบอร์น้อย.. สำหรับเจ้าแล้วจงใช้สะพาน ’

+7 ความสัมพันธ์จากสกิลหอมเย้ายวนกับควินตัส และยาสมิน
รายงานตัวเพื่อเข้าร่วมกับกองพันหลักที่สิบสอง - รอการยืนยันกองร้อย

แสดงความคิดเห็น

God
((คุณสังกัดกองร้อยที่ 1))  โพสต์ 2024-12-28 22:08
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-14] ยาสมิน อาเดน เพิ่มขึ้น 7 โพสต์ 2024-12-28 22:08
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-13] ควินตัส แอนเดอร์สัน เพิ่มขึ้น 7 โพสต์ 2024-12-28 22:08
โพสต์ 24176 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 22:06
โพสต์ 24,176 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 22:06
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2025-1-12 15:03:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Euphemia เมื่อ 2025-1-12 15:41



𝕰𝖚𝖕𝖍𝖊𝖒𝖎𝖆 𝕸. 𝕷𝖊𝖓𝖓𝖔𝖝
- 13:30 † 03 มกราคม 2025 -
พรินซิเปีย, ค่ายจูปิเตอร์


- เข้าพบแม่ทัพแห่งกองพันที่สิบสองฟุลมินาตา -


อาจไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะมีสายเลือดแห่งโรมสักคนโผล่มาถึงหน้าค่ายจูปิเตอร์ในสภาพสะบักสะบอมจนต้องนอนห้องพยาบาลก่อนเข้ามารายงานตัว แต่นั่นก็นานมากแล้ว…สภาพที่อาบชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสดของยูเฟเมียทำให้คนที่พบเห็นพาลคิดว่า ‘ศพ’ ถูกหามเข้ามาในค่าย ที่น่าประหลาดใจมากกว่าคือใช้เวลาเพียง 12 ชั่วโมง ผู้เยียวยาของค่ายจูปิเตอร์ก็พลิกชีวิตเฉียดนรกเธอกลับมาเป็น ‘ I’m EUPHEMIA. I’m OKEY👌🏻 ’ ได้อย่างง่ายดาย

ทันทีที่ร่างกายฟื้นคืนสภาพ ยูเฟเมียซึ่งระอาเต็มทีกับกลิ่นยาฆ่าเชื้อก็ยืนยันจะลากสังขารตนเองมาที่พรินซิเปียทันทีเพื่อให้ร่างของเธอได้นอนพักฟื้นบนเตียงนุ่มๆ แทน

ในอาคารสไตล์โรมัน…ตอนนี้เสียงพูดคุยในห้องรับรองดังมาประมาณ 15 นาทีแล้ว

“...และ ‘ริวเมย์ อิเอโนะ’ นักเดินทางที่ฉันเข้าใจว่าเป็นลูกหลานของสายเลือดเทพีคีโอเน่ก็ดันเฉลยว่าตัวเองเป็นเทลไคน์— ” ยูเฟเมียหลุดหัวเราะคิกคัก เสียงฟังดูชืดชาไปบ้างขณะเล่าถึงเหตุการณ์ที่พบเจอตลอดสามสี่วันที่เดินทางมาค่ายจูปิเตอร์ ดวงตาสีเข้มซ่อนประกายเสน่ห์ เผยรอยยิ้มล้อเลียน “ ถือว่าฉันมีเพื่อนร่วมทางที่ไม่เลวเลยค่ะ ”

ยาสมิน เอเดนสบสายตาของหนุ่มน้อยสายเลือดอาร์คัส-ควินตัส แอนเดอร์สัน เห็นชัดว่ามุกตลกนี้ไม่ผ่าน ทั้งคู่ไม่ขำเลยสักนิด

มุกตลกร้ายแบบนี้ลองขำออกเราคงมีสงครามน้ำลายกันต่อแน่

ใบหน้าของยูเฟเมีย เลนน็อกซ์แฝงความตึงเครียดรางๆ และยังคงยึดครองบทสนทนาในครั้งนี้ “ ครึ่งเทพ สายเลือดแห่งโรมที่ยังเด็ก— ฉันขอเรียกสภาพที่ช่วยเหลือตนเองจากอสูรกายได้อย่างไม่เต็มที่ว่า ‘เด็ก’ นะคะ ในสังคมมนุษย์—ฉันหมายถึงนอกกำแพงค่ายจูปิเตอร์ เรามีสิ่งที่เรียกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็ก 4 ประการค่ะ สิทธิที่จะมีชีวิตรอด สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิที่จะได้รับความคุ้มครอง สิทธิที่ในการมีส่วนร่วม ”

“ คุณอาจไม่ทันตระหนัก…แต่ฉันคิดว่าระบบของพวกคุณค่อนข้างล้าหลังเกินไปสำหรับยุคนี้นะคะ ”

“ การออกจากบ้านหมาป่าเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเองมองยังไงก็เป็นตั๋วตรงสู่นรกชัดๆ เคยทำสถิติไหมคะว่ามีเด็กเท่าไหร่ที่มาไม่ถึงค่าย ตัวเลขมันควรเป็นศูนย์ค่ะ ”

“ เฮ้อ— ถึงเจ้าบ้าเทลไคน์นั่นจะประสาทกลับ แต่ถ้าไม่มีเขาก็ไม่แน่ว่าฉันจะรอดมาถึงป่านนี้ ”

“ ถ้าเห็นว่าชีวิต ‘พวกเราทุกคน’ สำคัญก็อยากให้ช่วยเลิกธรรมเนียมโบราณคร่ำครึนี่สักทีค่ะ ”

“ พวกเราในตอนนี้ไม่มีแม้แต่ ‘สิทธิที่จะมีชีวิตรอด’ เสียด้วยซ้ำ ”

เธอเอ่ยด้วยเสียงเศร้าจับใจราวกับไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างสาหัส มือบางประทับลงที่อกขณะแสดงสีหน้าอ้อนวอน ควินตัสกระแอมเล็กน้อยเพื่อเบี่ยงสติให้เหนือการควบคุมของเวทเสน่ห์ พลางส่งต่อจดหมายแนะนำจาก ‘ชารอน เลนน็อกซ์’ ให้ยาสมินที่เอนกายอ่านเนื้อความสลับกับจดจ้องใบหน้าของยูเฟเมียมาพักใหญ่ 


 

เรียน แม่ทัพแห่งกองพันที่สิบสองฟุลมินาตาคนปัจจุบัน

     ดิฉัน ชารอน เลนน็อกซ์ เขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการมีอยู่ของ ยูเฟเมีย เอ็ม (แมรี่) เลนน็อกซ์ บุตรสาวของดิฉัน เธอเป็นผู้สืบเชื้อสายจากเทพีวีนัส และกำเนิดภายใต้ดิฉันซึ่งสืบสายเลือดของเทพเมอร์คิวรี่สายตระกูลอาร์ชิโบล์ดผ่านทาง แคสแซนดร้า อาร์ชิโบล์ด อดีตสมาชิกกองพันที่สิบสองฟุลมินาตาผู้เป็นมารดา

     ก่อนอื่นดิฉันของแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความเข้าใจผิดในอดีต มารดาของดิฉันซาบซึ้งในความเมตตาของทางกองพันฯ และสภาเซเนทเสมอมาที่นำคดีความโกลาหลทางการเงินในละตินอเมริกากลับขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง รวมถึงเห็นควรให้เธอไร้มลทิน

     เธอเสียใจเหลือจะกล่าวที่มิได้ติดต่อทางค่ายจูปิเตอร์เนื่องเพราะความละอายใจ

     และตามที่ได้กล่าวถึงในข้างต้น ยูเฟเมียเป็นครึ่งเทพสายเลือดวีนัสอย่างไร้ข้อกังขา แต่ดิฉันและมารดา (แคสแซนดร้า) ไม่อาจเอ่ยรับรองได้ว่าเกียรติแห่งเมอร์คิวรี่จะตื่นขึ้นในรุ่นของเธอ

     ยูเฟเมีย-เธอประจักษ์แจ้งแก่ตนเองตั้งแต่วัยเยาว์ แม้จะสัมผัสถึงอสูรกายและความยากลำบากในการใช้ชีวิตด้วยโรคดิสเล็กเซียก็ยังมีชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสดใสจับใจผู้คนเสมอ

     เธอมีอิสระเหมือนนกเลือกบินที่จะหยุดพักในสถานที่ที่เธอเลือก เสน่ห์ของการผจญภัยเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เธอเผชิญโลกนี้อย่างกล้าหาญ และมีความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกมุมมองต่อโลก โดยเฉพาะในด้านการสื่อสารและเจรจาวางเหตุผลร้องเรียกที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้ก้าวข้ามผ่านปัญหาความแตกต่างระหว่างครึ่งเทพและคนทั่วไปมาได้อย่างผ่าเผย

     บุคลิกภาพที่โดดเด่นสะท้อนความเข้มแข็งในจิตใจ

     ในฐานะมารดา ดิฉันพบความจริงว่า อุปนิสัยที่โดดเด่นนั้นมาพร้อมกับดื้อรั้นและไม่จริงจังกับบางเรื่อง การร้องขอให้กองพันฯ อุปถัมภ์เธอที่มีลักษณะนิสัยเช่นนั้นทำให้ดิฉันละอายใจในฐานะผู้ให้กำเนิด แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีที่ใดจะปลอดภัยต่อเธอมากไปกว่าค่ายจูปิเตอร์อีกแล้ว

     ด้วยเกียรติแห่งอาร์ชิโบล์ดดิฉันเชื่อว่าเธอมีศักยภาพที่จะเติบโตดังเช่นบรรพบุรุษที่เคยหยัดยืนเคียงข้างค่ายในสองรุ่นที่ผ่านมา โปรดพิจารณาให้โอกาสยูเฟเมียเข้าร่วมกองพันฯ และสอนสั่งถึงวิถีชีวิตที่ควรค่ากับเธอ

     หวังว่าความเห็นของดิฉันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา

เปี่ยมด้วยหัวใจที่นับถือ
ชารอน เลนน็อกซ์


( เนื้อความเบื้องหลัง- เวอร์ชั่นไอ้เชลไม่ได้ตกแต่งอะไรเพิ่ม )
เรียน แม่ทัพแห่งกองพันที่สิบสองฟุลมินาตาคนปัจจุบัน

ข้าพเจ้าขอแจ้งให้ทราบว่า ยูเฟเมีย แมรี่ เลนน็อกซ์ เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากเทพี Venus และมีสายเลือดของเทพเจ้า Mercury อยู่ในตระกูล

แมรี่เป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่โดดเด่น มีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์
(แปล : เธอชอบและเกลียดสิ่งเดียวกันได้แบบมีสไตล์จนคุณงง เราเรียกสิ่งนี้ว่า เอกลักษณ์หรือเสน่ห์ได้ในทางหนึ่งใช่ไหมคะ?

เธอเป็นคนรักอิสระ ชอบการผจญภัยและมีความคิดสร้างสรรค์
(แปล : อย่าคิดว่ากฎจะหยุดเธอได้แม้เธอจะทำตามระเบียบ

เธอมีความสามารถในการสื่อสารและมีทักษะในการเจรจาต่อรอง
(แปล : นักฉอดบนโลกออนไลน์ หรือเรียกเกรียนคีย์บอร์ดอาจฟังดูคุ้นหูกว่า ลูกฉันแทบไม่หลับไม่นอนตอนที่ ‘ดาราหนุ่มสุดปลื้ม’ ของเธอมีดราม่า สงครามสร้างได้ที่ปลายนิ้ว และเธอต้องชนะ

อย่างไรก็ตาม แมรี่เป็นคนที่ค่อนข้างดื้อรั้นและอาจจะไม่จริงจังกับบางเรื่อง
(แปล : เรื่องนอกความสนใจเธอกลายเป็น​อิกนอแรนต์ได้ทันที แม้ปัญหาจะวางอยู่บนหัว และหวังว่าคุณจะมีความพยายามมากพอจะขู่เข็ญบังคับเธอ

ข้าพเจ้าหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่าน

ด้วยความเคารพ
ชารอน เลนน็อกซ์

‘ เป็นจดหมายที่เปี่ยมด้วยความรัก…และเค้ารางของตัวปัญหา ’ ยาสมินลงความเห็นได้ทันที ตามประวัติที่แนบมายูเฟเมียแทบจะไม่มีปัญหาด้านการใช้ชีวิตที่เกินรับมือถึงขั้นมองตนเองต่างจากมนุษย์ในสังคมเหมือนกับสายเลือดแห่งโรมหรือครึ่งเทพคนอื่นๆ ความสามารถในการกลมกลืนพอจะเรียกได้ว่า ‘กิ้งก่าเปลี่ยนสี’ หรือบางทีนั่นอาจเป็นการมองสิ่งมีชีวิต ทั้งคนทั่วไป ครึ่งเทพ และอื่นๆ อย่างเท่าเทียม

ควินตัสผู้มีสัมผัสแห่งนักล่าคล้ายมองทะลุไปถึงเบื้องหลังตัวอักษรกินใจ

จดหมายรับรองจากผู้ส่งผ่านสายเลือดของเมอร์คิวรี่มีวาทศิลป์เป็นเอกลักษณ์จนทำให้ชายหนุ่มอยากจะหลุดขำ แต่ถ้อยคำที่ยูเฟเมียกำลังสร้างก็มีฉากหน้าที่ ‘จริงจัง’ เกี่ยวพันกับคนรุ่นหลังจนขำไม่ได้ ความรู้สึกอิหลักอิเหลื่อจนไม่รู้จะวางสีหน้าอย่างไรค่อยๆ กัดกินชายหนุ่มสายเลือดอาร์คัสอย่างรวดเร็ว

“ ผมเชื่อว่านั่นเป็นหนทางที่ควรมุ่งไป การสูญเสียไม่ใช่สิ่งที่พวกเราคาดหวัง ”

ยาสมินเหล่ตามองยูเฟเมียพลางพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อนร่วมตำแหน่ง “ ฉันเสียใจกับเรื่องที่เธอได้พบระหว่างทาง แต่ตอนนี้… ยินดีต้อนรับเข้าสู่ค่ายจูปิเตอร์ ” เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มเข้าอกเข้าใจ


+10 ความสัมพันธ์จากสกิลหอมเย้ายวนกับควินตัสและยาสมิน      รายงานตัวเพื่อเข้าร่วมกับกองพันหลักที่สิบสอง- รอการยืนยันกองร้อย [ ก็อปปี้เปก🥺🥺🥺 หงุงหงิง ]
𝔎𝔲𝔡𝔞𝔪 𝔰𝔞𝔯𝔞𝔫𝔤, 𝔑𝔞𝔩 𝔰𝔞𝔯𝔞𝔫𝔤, 𝔥𝔶𝔲𝔫𝔤
Anita Codes

แสดงความคิดเห็น

God
ยูเฟเมีย จากจดหมายรับรอง เธอเหมาะสมกับกองร้อยที่ 5  โพสต์ 2025-1-12 15:34
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-14] ยาสมิน อาเดน เพิ่มขึ้น 10 โพสต์ 2025-1-12 15:28
God
สกิลหอมเย้ายวนส่งผลแค่คนเดียว (เนื่องจากไม่ได้ระบุจึงสุ่ม)  โพสต์ 2025-1-12 15:28
โพสต์ 23852 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-1-12 15:03
โพสต์ 23,852 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +9 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก ตาหลากสี  โพสต์ 2025-1-12 15:03
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เดรสลายลูกไม้
กำไลหินนำโชค
ต่างหูเงิน
ตาหลากสี
ยาดม
หอมเย้ายวน
ผลิตภัณฑ์กันแดด
รองเท้าเซฟตี้
ดาบกราดิอุสไม้
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x2
x6
x4
x2
x2
x1
x2
x4
x3
x4
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x26
โพสต์ 2025-2-3 13:17:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2025-2-3 16:57

Character Avatar
DENISTA NORTARA
ภารกิจปลดปล่อยดวงวิญญาณ 30 ดวงสู่ยมโลก : 01 - ปรึกษาการเดินทาง

การจะไปทำภารกิจก็ไม่ใช่ว่าอ่าน คิด อยากไป แล้วไปได้เลย โดยเฉพาะกับภารกิจที่เชื่อมโยงกับยมโลกซึ่งถือเป็นสถานที่นอกเหนือเขตปกครองของเทพโดยทั่วไป ดังนั้นแทนที่จะกลับไปเตรียมตัวเพียงลำพังที่เขตกองร้อย เดนิสต้าจึงต้องมาเยือนพรินซิเปีย สำนักงานใหญ่อันเป็นห้องทำงานหลักของเหล่าแม่ทัพรวมไปถึงห้องหน่วยข่าวกรองต่าง ๆ ประจำกองพันที่สิบสองฟุลมินาตาเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการเดินทางรวมไปถึงข้อที่ควรระวังสำหรับการเป็นแขกของยมโลก

เดนิสต้าไม่ใช่สายเลือดพลูโตหรือเทพและเทพีอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับโลกนั้นทำให้เธอไม่ได้มีเคล็ดลับหรือความสามารถในการไปล่วงรู้ว่าต้องเดินทางยังไง ทำแบบไหน หลังจากประทับนามขอรับภารกิจ สิ่งแรกที่เธอคิดยังเป็นการตั้งคำถามอยู่เลย ‘ จะไปที่นั้นฉันต้องกลายเป็นวิญญาณก่อนหรือเปล่านะ.. ภาวนาหวังว่าจะไม่ใช่ก็แล้วกัน ’

ภายในพรินซิเปียยังคงเงียบสงบเหมือนกับครั้งแรกที่มา คงเป็นเพราะมหาลัยนิวโรมกำลังเปิดเรียน ดังนั้นทุกคนจึงมักจะไปรวมตัวที่กรุงโรมใหม่มากกว่ามาปวดหัวกับงานมากมายที่อาจเข้ามาได้ทุกเมื่อยกเว้นอยู่เพียงสองสมาชิกสำคัญของค่ายจูปิเตอร์ที่ยังต้องวนกลับมาตรวจสอบพรินซิเปียเป็นระยะ ๆ มือบางของเดนิสต้ายกขึ้นเคาะกับประตูไม้เนื้อแข็งของห้องทำงานสองแม่ทัพใหญ่เบา ๆ ก่อนจะขานยืนยันตัว “ นอร์ทาร่าจากกองร้อยหนึ่งขอเข้าพบค่ะ ”

ความเงียบคือคำตอบรับหลังเคาะประตูได้เกือบหลายนาที

‘ ไม่อยู่? ’ สองตาเรียวเฉี่ยวปานสิงคาลกวาดมองรอบด้านก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน ‘ ไม่สิ ปกติแล้วพวกเขาน่าจะกลับมาตรวจงานเวลานี้.. ’ เว้นก็แต่ชีวิตมหาวิทยาลัยนิวโรมมันลำบากจนเกินไป เดนิสต้าหลุบตาลงพิจารณาความเป็นไปได้อื่น ๆ กระทั่งตัดสินใจที่จะถอย ‘ ไว้ค่อยมาให—- ’

โคร้ม !!

อะไรล่ะ(วะ)นั่น

เสียงโครมครามหลังประตูห้องทำงานตามมาด้วยเสียงประตูไม้ฝืด ๆ แง้มออกช้า ๆ ต้อนรับการมาเยือนของผู้ยืนคอยอยู่ด้านหน้าโดยที่ไร้คำอนุญาตจากคนภายใน … แอ๊ด— มือบางของธิดาแห่งเทพความรักยื่นออกไปผลักประตูไม้ตรงหน้าให้เปิดอ้ากว้างกว่าเก่า นัยน์ตาสีฟ้าหม่นเหลือบมองรอบด้านก่อนจะขยับริมฝีปากสีกลีบกุหลาบให้เปล่งเสียงทักทาย “ ที่นี่กลายเป็นห้องผีสิงไปแล้ว.. หรือว่าผู้องอาจของเหล่าทัพยังทำงานกันอย่างขมักเขม้นอยู่คะ? ”

“ คุณนอร์ทาร่า เข้ามาก่อนสิ ”

เสียงเรียกที่นุ่มนวลในระดับของเพศเดียวกันแต่แฝงมาด้วยความอ่อนใจทำให้ธิดาวีนัสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ร่างเพรียวของสมาชิกคนล่าสุดของกองร้อยที่หนึ่งเคลื่อนเข้าไปด้านในห้องทำงานที่เต็มไปด้วยกองเอกสารสูงพะเนินเทินทึก “ ดูท่าชีวิตในมหาลัยคงไม่เอื้อต่อแผนงานของผู้นำเหล่าทัพสินะคะ ” ปลายนิ้วเนียนจรดลงกับขอบกระดาษของกองที่ตั้งอยู่ข้างโต๊ะทำงานของยาสมิน อาเดน — ธิดาเนปจูน หนึ่งในสองแม่ทัพและ.. สุภาพสตรีท่าทางห่อเหี่ยวที่อยู่ตรงหน้าเธอในเวลานี้

“ ถึงจะอยากปฏิเสธแต่คงทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบว่าใช่ล่ะนะ ” ลมหายใจพรั่งพรูออกจากริมฝีปากหนาของหญิงสาวผิวสีช็อคโกแลต ยาสมินเหลือบตาขึ้นมองธิดาวีนัสผู้มาเยือนพร้อมด้วยรอยยิ้มไม่ทุกข์ร้อน ‘ เห็นว่าไม่เข้าเรียนไปพักนึง.. กลับมาได้แล้ว? ’ แต่ถ้าจะให้ถามตามข้อสงสัยที่มีอยู่ในใจเลยก็คงจะเป็นการเสียมารยาท เจ้าของสายเลือดเทพเนปจูนเก็บสายตากลับลงมองที่เอกสารบนโต๊ะพลางถามอย่างสุภาพ “ มาที่พรินซิเปียครั้งนี้มีเรื่องอะไรจะปรึกษาล่ะคุณนอร์ทาร่า? ”

และถ้าหากว่าเดนิสต้ามีความสามารถในการหยั่งรู้ความคิดของคนอย่างชัดเจน คำแรกที่เธอตอบอีกฝ่ายคงเป็นคำว่า ‘ ไม่ ’ เดนิสต้าไม่ได้พร้อมสำหรับการกลับมาแบบร้อยเปอร์เซ็น บางครั้งความหวั่นไหวก็เป็นอุปสรรคสำหรับสายเลือดวีนัส (ถูกต้อง) แม้จะไม่อยู่ในขั้นอกหักหรือตกหลุมรัก แต่การสับสนได้เพราะคนเพียงคนเดียวก็ทำให้ผู้ครองสายเลือดเทพีแห่งความรักเสียความมั่นใจไปพักใหญ่ ‘ ก็แค่ออกไปหาเรื่องใส่ตัวให้หายคิดมาก ’ นั่นคือเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอรีบร้อนวิ่งพล่านไปที่กระดานหินภารกิจทวยเทพก่อนจะเข้าเดือนแห่งความรักเต็มตัว “ ฉันไปรับภารกิจที่กระดานภารกิจจากเทพมาน่ะค่ะ.. ”

“ … ”

ดวงตาของยาสมินเหลือบขึ้นมองเดนิสต้าซึ่งเป็นผู้รายงานอีกครั้งแม้จะไม่แน่ใจว่าควรตอบสนองอย่างไร แต่สมองก็สั่งการให้แม่ทัพสาวคลี่ยิ้มยินดีไปกับความคืบหหน้าของคนในค่าย “ ภารกิจแรกสินะคะ? ยินดีด้วย ” ไม่ใช่ทุกครั้งที่สมาชิกจะมาแจ้งความประสงค์ขอออกไปทำภารกิจกับผู้นำเหล่าทัพ ฉะนั้นสำหรับครั้งนี้ยาสมินจึงอดไม่ได้ที่จะประทับใจผสม ๆ กับขบขันเมื่อนึกขึ้นว่าเดนิสต้าอาจจะยังไม่รู้หลักการดำเนินภารกิจตามปกติของค่าย “ ฉันดีใจที่คุณมาบอกนะคะ แต่โดยปกติ คุณไม่จำเป็นต้องมาที่พรินซิเปียเพื่อขออนุญาตหรือแจ้งว่าจะออกไปทำภารกิจหรอก ให้ยึดตามรายละเอียดของภารกิจหลังจากลงชื่อรับภารกิจได้เลย.. คุณคงจดรายละเอียดคร่าว ๆ บนกระดานมาแล้วใช่ไหม? นั่นแหละ ทำตามนั้นได้เลย ”

“ ดังนั้นฉันเลยมาที่นี่ไงคะ ”

การตอบกลับแบบไม่ต้องคิดรวมไปถึงรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของเดนิสต้าทำให้ยาสมินชะงัก บรรยากาศไม่น่าไว้วางใจพาดผ่านระหว่างสองสาวที่กำลังสบตากันอยู่เงียบ ๆ จวบจนเดนิสต้าเป็นฝ่ายพูดขึ้นอีกครั้ง “ ฉันต้องเดินทางไกลน่ะค่ะ.. ไกลมาก ๆ ด้วยจังหวะจะโคนและการเว้นช่วงเสียงให้รูปประโยคดูซับซ้อน เดนิสต้าที่เคยถือว่าเป็นเพียงธิดาวีนัสดาษดื่นกลับดูโดดเด่นแปลกตาขึ้นทันควัน “ เห็นว่ามาปรึกษาเส้นทางกับพวกคุณน่าจะดีกว่าลุยเดี่ยวคนเดียว ”

กระดาษแผ่นหนึ่งถูกวางลงกับโต๊ะทำงานของยาสมิน มันวางอยู่เหนือเอกสารที่ชวนให้ลายตามากมายแต่กลับโดดเด่นได้ด้วยตัวหนังสือหนา ๆ บนหัวกระดาษเพียงไม่กี่ตัวที่ทำให้แม่ทัพหญิงเบิกตากว้าง “ ปลดปล่อยดวงวิญญาณ 30 ดวงสู่ยมโลก? ”

“ อะไรนะ ?? ” คราวนี้ไม่ใช่แค่ยาสมินที่สะดุ้ง อีกหนึ่งแม่ทัพที่อาศัยเวลานี้งีบหลับหลังฝ่าฟันกับกองวิจัยมากมายจากมหาวิทยาลัยถึงกับผุดขึ้นมาจากกองกระดาษอีกฟากหนึ่งของห้อง ‘ ควินตัส แอนเดอร์สัน ’ บุตรแห่งอาร์คัสยกมือขึ้นลูบหลังศีรษะของเขาหลังจากยืดตัวเร็วเกินไปจนชนเข้ากับชั้นหนังสือที่ตั้งอยู่ด้านหลัง เสียงร้องโอดครวญเบา ๆ จากปากเขาทำให้เดนิสต้าหลุดหัวเราะเสียงแผ่วก่อนจะหันกลับมายืนยันภารกิจของตัวเองอีกครั้ง

“ ใช่ค่ะ ภารกิจนั้นแหละ ”

“ คุณนอร์ทาร่า.. สายเลือดของคุณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับอันเดอร์เวิลด์เลย คุณแน่ใจเหรอ? ” แม้จะรู้แก่ใจดีว่าต่อให้ไม่แน่ใจตอนนี้ก็คงปฏิเสธการลงชื่อไม่ได้แล้ว ยาสมินขมวดคิ้วในระหว่างที่เธอเลื่อนกระดาษรายละเอียดภารกิจกลับไปให้เดนิสต้า “ ภารกิจแบบนี้ให้สายเลือดไทรเวีย นอกซ์หรือ.. ”

“ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครว่างไปทำเลยนะ ” เสียงหวานของเดนิสต้าตัดน้ำเสียงที่แฝงมาด้วยความลังเลของธิดาเนปจูนจนขาดสะบั้น ดวงตาเรียวของสาวสวยอันเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฐานะคนนอกคอกประจำค่ายจูปิเตอร์หรี่ลงอย่างมีเลศนัย “ ฉันทำได้ค่ะ คงไม่ยากอะไร ”

ในเมื่อคนทำภารกิจดูเหมือนจะมั่นใจเสียขนาดนั้น..

สองแม่ทัพประจำกองพันที่สิบสองหันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ “ เรื่องการเดินทาง.. ”

.

.

.

การปรึกษาเส้นทางเป็นไปอย่างเรียบง่ายและเป็นระเบียบ เพื่อไม่ให้พลัดหลงหรือกลายเป็นบุคคลสูญหาย เดนิสต้าได้รับคู่มือการเดินทางอย่างละเอียดที่มีทั้งแบบเดินทางผ่านโดยขนส่งสาธารณะรวมไปถึงแบบที่ใช้รถส่วนตัว ‘ น่าเสียดายที่ฉันยังเรียนคลาสขับรถไม่จบ.. ต่อให้จบก็ยังไม่มีเงินซื้อรถในตอนนี้อยู่ดี ’ สองตาของเดนิสต้ามองลงที่โพสอิทเล็ก ๆ ที่ประกอบไปด้วยคำแนะนำเชิงกำชับอีกมากมายจากยาสมินและควินตัสก่อนจะปิดสมุดแนะนำเส้นทางพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ

“ เท่านี้น่าจะพอใช้ได้แล้วล่ะ ”

ขนส่งสาธารณะใช้เวลา 11 ชั่วโมงกว่า ๆ แต่ถ้าหลอก(?)รถส่วนตัวให้ไปส่งได้ก็ใช้เวลาแค่ 5 ชั่วโมง

มุมปากของเดนิสต้ายกขึ้นสูงเป็นพิเศษในระหว่างที่เธอวางชามขนมจีบสองชามลงบนโต๊ะของยาสมินและควินตัสเพื่อเป็นการขอบคุณ “ อย่าหักโหมเยอะจนเกินไป ทานข้าวพักผ่อนกันบ้างนะคะ ” ด้วยการทิ้งท้ายอย่างเป็นห่วง ธิดาวีนัสคนสวยยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือร่ำลาสองผู้นำเหล่าทัพอย่างใจเย็น ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานขนาดใหญ่ภายในพรินซิเปีย ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมรัญจวนของกุหลาบพันปีอันเป็นเอกลักษณ์

+10 ความสัมพันธ์กับควินตัส แอนเดอร์สัน จากสกิลหอมเย้ายวน
+?? ความสัมพันธ์กับควินตัส แอนเดอร์สัน จากการมอบขนมจีบ
+?? ความสัมพันธ์กับยาสมิน อาเดน จากการมอบขนมจีบ

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-14] ยาสมิน อาเดน เพิ่มขึ้น 10 โพสต์ 2025-2-3 15:03
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-13] ควินตัส แอนเดอร์สัน เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2025-2-3 15:03
โพสต์ 27523 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-2-3 13:17
โพสต์ 27,523 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก สร้อยนำโชคจากไทสัน  โพสต์ 2025-2-3 13:17
โพสต์ 27,523 ไบต์และได้รับ +10 EXP +9 เกียรติยศ +12 ความกล้า จาก คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)  โพสต์ 2025-2-3 13:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2025-6-6 07:15:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-6-12 18:55






Vincenzo Bergamotto
NPC Son of Vulcan | SPQR IV Cohort
6th June, 2025 --- 13:00

หลังจากใช้เวลาตกผลึกความคิดรวมทั้งนัดคุยกับแม่ทัพค่ายจูปิเตอร์ก็ผ่านไปห้าวันเต็ม ๆ เมื่อถึงเวลานัดหนุ่มวัลแคนก็ไปที่พรินซิเปียตามกำหนดการโดยพยายามไม่ให้สายแม้ใจอยากบิด

"วินเซนโซ เบอร์กาม็อตโต จากกองร้อยที่สี่ ขออนุญาตครับ"

หนุ่มผิวน้ำผึ้งขออนุญาตตามระเบียบ จากนั้นจึงเดินผ่านประตูไม้หนาเข้าไปหลังทหารยามเปิดทางที่ปิดกัน สองแม่ทัพของค่ายนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะทำงานของแต่ละคน ควินตัส แอนเดอร์สัน บุตรแห่งอาร์คัส อยู่ทางซ้ายมือ ส่วนทางขวาคือ ยาสมิน อาเดน ธิดาแห่งเนปจูน ทั้งสองดูพยายามปั้นหน้าเคร่งขรึมที่เขาสายตาเหยี่ยวแอบเห็นเศษเปลือกช็อกโกแลตที่เพิ่งกินไปเมื่อกี้หลงอยู่บนโต๊ะ

ทำไงได้ถึงคนพวกนี้จะเป็นถึงแม่ทัพผู้เก่งกาจ แต่อายุอานามก็ไม่ได้มากกว่าช่างซ่อมเขาไปนักหรอก

"สวัสดีคุณเบอร์กาม็อตโต" ธิดาเจ้าสมุทรเอ่ยทักก่อน จังหวะนั้นเขาแอบเห็นควินตัสกลืนช็อกโกแลตที่อยู่เต็มปากลงคอ "คุณขอเข้าพบเพราะรับคำพยากรณ์มาสินะ ไหนมันว่ายังไงบ้าง?"

"ครับท่าน" วินเซนโซขานรับ จากนั้นหยิบม้วนคำพยากรณ์ที่เขาเผลอทำยับนิดหน่อยระหว่างคิดพิจารณาขึ้นมาอ่าน

"เมื่อราตรีดับสูญ แสงสุริยาครองพิภพ
โลกไร้สมดุล มืดมนไร้ซึ่งเงา
จงมุ่งหน้าสู่สุดขอบฟ้า แดนต้องห้าม
ปลุกเทพแห่งความมืด ผู้หลับใหล
ทว่าเส้นทางนี้ เต็มไปด้วยขวากหนาม
สี่อัศวินแห่งความโกลาหล ขวางกั้น
จงพิสูจน์ตน ด้วยความกล้าและสติปัญญา
ฝ่าฟันบททดสอบแห่งอีเรบัส
เพื่อกอบกู้ราตรี คืนสู่โลก
แม้เพียงชั่วคราว แต่ก็อาจพลิกชะตา"


"ในที่สุดคำพยากรณ์นี้ก็โผล่ออกมาสักที!"

ควินตัสโพล่งออกมาแทบจะกระโดดตัวลอยหลังจากที่วินเซนโซอ่านคำทำนายจบลง ท่าทางดีใจที่เหมือนหาคนแก้ไขวิกฤตโลกที่เกิดขึ้นมานานได้เสียทีทำเอาบุตรวัลแคนเผลอเบ้ปาก ส่วนยาสมินกระแอมให้คู่หูเก็บอาการหน่อย ทั้งที่เธอเองก็น่าจะยินดีไม่แพ้กัน สังเกตได้จากการพยายามกลั้นรอยยิ้ม ส่วนในใจหนุ่มอิตาลีในตอนนี้

'แล้วทำไมกรรมถึงได้ตกอยู่ที่ตูฟะ!'

แต่นั่นแหล่ะ... เวลานี้เป็นงานเป็นการทั้งสามจึงพยายามสงบอารมณ์ในแบบของตัวเอง

"นี่แบบฟอร์มค่ะ"

แม่ทัพหญิงยื่นแบบฟอร์มมาให้โต๊ะเบื้องหน้า กระดาษพร้อม ปากกาพร้อม ชายหนุ่มเคยเห็นกระดาษแบบนี้เพียงแต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาต้องเขียนด้วยตัวเอง

"มีตรงให้ให้ช่วยก็บอกได้นะ"

ควินตัสพูด ซึ่งวินเซนโซคิดว่าไม่มี งานนี้เขาทำการบ้านมาเต็มที่ คำนวนทุกอย่างมาพร้อมสรรพ ระหว่างที่บุตรวัลแคนกำลังกรอกแบบฟอร์มแม่ทัพทั้งสองก็เริ่มวิเคราะห์ถึงคำทำนาย

"ขอผมดูม้วนคำพยากรณ์ใกล้ ๆ หน่อย" ควินตัสกล่าว จากนั้นรับม้วนกระดาษสีทองที่เกิดจากไส้ในของตุ๊กตามาเปิดอ่าน ไม่มีเหตุผลใดเลยที่วินเซนโซจะไม่ให้ "จงมุ่งหน้าสู่ดินแดนสุดขอบฟ้า แดนต้องห้าม จะหมายถึงที่ไหนได้บ้าง?"

"ถ้าบอกว่าแดนต้องห้ามก็มีเยอะแยะ แต่ถ้าสุดขอบฟ้า... ตีความตรงตัวน่าจะมุ่งขึ้นเหนือ อืม.. แถบขั้วโลกเหนืออย่างนั้นเหรอ แต่อีเรบัสไม่ได้อยู่ที่ยมโลก?" ยาสมินตั้งข้อสงสัย

"ผมก็คิดว่างั้นครับ" เจ้าของภารกิจกล่าว คำพยากรณ์นี้ค่อนข้างตรงไปตรงมาจนคิดได้เช่นนั้นจริง "ก็เลยอยากขอเรือเหาะสนับสนุนสักลำสองลำ"

"สองลำเลยเหรอ ขอเยอะจัง" ควินตัสขำน้อย ๆ 

"ก็แค่เผื่อเอาไว้กันฉุกเฉิน ผมศึกษาบันทึกมาหลายฉบับ แทบจะร้อยเปอร์เซ็นบันทึกตรงกันว่าระหว่างทางยานพาหนะชอบได้รับความเสียหายอยู่เรื่อย"

"ก็จริง"

ผู้มีประสบการณ์ทั้งสองพยักหน้าเห็นด้วย ใครเล่าที่ออกไปทำภารกิจเดินทางแล้วจะไม่ประสบอุบัติเหตุ รถคว่ำ เครื่องบินตก เรือล่ม ขนาดว่าเดินอยู่ดี ๆ อาจมีรถมาพุ่งชนได้

"ภารกิจนี้เป็นการแก้ภัยพิบัติที่สร้างความปั่นป่วนแก่โลกมาแล้วครึ่งปี ฉันคิดว่าสภาคงอนุมัติ แต่คงให้เรือเหาะคุณได้แค่ลำเดียวแน่ ๆ คุณเบอร์กาม็อตโต แต่ถ้าอยากขอสองลำก็ลองเขียนลงไปก็ได้ ไม่มีใครว่าอะไรอยู่แล้ว"

"โอ้ เขียนลงไปได้ด้วยสินะครับ"

บุตรวัลแคนยักไหล่ เขาแค่พูดให้คล้องจองแต่ไหงเหล่าแม่ทัพกลับคิดเป็นจริงเป็นจังไปได้นะ กระนั้นวินเซนโซก็เขียนเลข 2 ต่อ ท้ายคำว่า เรือเหาะแพ็กซ์ แม้รู้ว่าต้องถูกตีตกแน่ ๆ แต่เขาก็แค่อยากจะลองท้าทายสภา

"คงมีเหตุผลที่ต้องไปขั้วโลกเหนือ บางทีอีเรบัสอาจกำลังทำอะไรบางอย่างที่นั่น"

ควินตัสเริ่มวิเคราะห์ต่อ ซึ่งหากคิดเช่นนั้นก็น่าสงสัยเป็นบ้าเลย

"พวกท่านคิดว่าแปลกไหม โดยปกติขั้วโลกเหนือคือสถานที่ที่แทบจะมีแสงสว่างตลอดเวลาตรงกันข้ามกับขั้วโลกใต้ที่มักจะอับแสง แต่คำพยากรณ์บอกให้เราไปสุดขอบฟ้า"

"คุณจะบอกว่าสุดขอบฟ้าหมายถึงขั้วโลกใต้แทนอย่างนั้นเหรอ?" ยาสมินละสายตาขึ้นจากกระดาษ "ก็มีความเป็นไปได้ แค่หันทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน"

"ใช่ครับ ผมคิดว่าขั้วโลกใต้เป็นไปได้มากกว่าเยอะ จากที่ผ่านมาคำทำนายมีทั้งตรงตัวแล้วต้องตีความใหม่ ซึ่งคราวนี้ไม่รู้ว่าควรเชื่อแบบไหน เพราะถ้าหากพิจารณาท่อนถัด ๆ ไปบอกว่าจะได้พบอัศวินกาลวิบัติด้วย หากประเมินสถานการณ์โลกตอนนี้.. ความตายมีอยู่ทุกที่ ซึ่งน่าจับตามองพอ ๆ กับภัยสงครามที่เกิดขึ้นทางซีกโลกเหนือและพื้นที่ตะวันออกกลาง และแน่นอนที่ ๆ มีภัยสงครามก็ย่อมมีโรคระบาดและความอดอยากตามมา ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเรื่องป่วง ๆ ในซีกโลกใต้เท่าไร ถ้าต้องปะทะกับอัศวินกาลวิบัติก็อาจต้องไปเยือนให้ถึงที่"

"วิเคราะห์ได้เฉียบแหลมคุณเบอร์กาม็อตโต ดังนั้นคุณจึงเห็นควรว่าน่าจะไปขั้วโลกเหนือมากกว่าขั้วโลกใต้สินะคะ"

ถึงเป็นเพียงแค่ช่างเครื่องยนต์ประจำค่ายแต่เห็นทีคงดูถูกมันสมองยอดอัจฉริยะไม่ได้เสียแล้ว สมแล้วกับที่เป็นเจ้าของสิ่งประดิษฐ์ 'ซีตัส' ยานพาหนะเคลื่อนที่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ และอีกสารพัดยุทโธปกรณ์แก่ค่าย ทั้งที่เพิ่งผ่านการเรียนรู้งานเพียงไม่ถึงเดือน

ตลอดระยะเวลาห้าปีของวินเซนโซทำผลงานชวนอึ้งแก่ค่ายมาได้มากมายก็จริง น่าเสียดายที่หนุ่มคนนี้ออกจะขี้เกียจมากไปหน่อยไม่อย่างนั้นค่ายจูปิเตอร์คงมีนวัตกรรมล้ำยุคจนไม่คิดว่ามาจากอารยธรรมโรมันโบราณเป็นแน่แท้

ก็ทำไงได้ล่ะในเมื่อวินเซนโซถือคติ 'วันอาทิตย์คือวันทำงานเดียวของสัปดาห์' ช่างเย้ยหยั่นพระเจ้าองค์อื่นโดยแท้

แต่ในเมื่อหนุ่มช่างยนต์แสดงไหวพริบออกมาได้แล้วแม่ทัพทั้งสองก็อุ่นใจ '
จงพิสูจน์ตน ด้วยความกล้าและสติปัญญา
ฝ่าฟันบททดสอบแห่งอีเรบัส' สมาชิกทีมภารกิจคงผ่านอุปสรรคนั้นไปได้ไม่ยาก

"ผมเขียนเสร็จแล้วครับพวกท่านลองดู"

"แค่คุณก็พอ ไม่ต้องเรียกท่านหรอกครับ"

ควินตัสกล่าวก่อนจะรับแบบฟอร์มที่สมาชิกค่ายเพิ่งกรอกไป จากนั้นหนุ่มอาร์คัสก็เลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อเห็นว่าแผ่นกระดาษเต็มไปด้วยตัวอักษรแน่นเอียด




แบบฟอร์มการเขียนรายงานยื่นต่อสภาเซเนท


เรื่อง:
ขอเปิดภารกิจบันทึกการเดินทาง

ส่วนที่ 1: ข้อมูลทั่วไป

ชื่อผู้ยื่น: วินเซนโซ เบอร์กาม็อตโต
สายเลือดเทพ: วัลแคน
ตำแหน่ง: เดมิก็อด สมาชิกกองร้อย
สังกัดกองร้อย: 4
สังกัดกองพัน: กองพันที่สิบสองฟุลมินาตา

วันที่ยื่นรายงาน: 6 มิถุนายน 2025



ส่วนที่ 2: รายละเอียดภารกิจ

ชื่อภารกิจ: คุณพร้อมที่จะทุ่มเทสรรพกำลังทั้งหมดเพื่อทวงคืนรัตติกาลกลับมาหรือเปล่า!

ประเภทภารกิจ: ภารกิจค้นหา

ระดับความยาก: ยากมาก
เนื่องจากเป็นการกู้คืนกลางคืนกลับมาโดยต้องพึ่งพาไททันโบราณอย่างอีเรบัส
นอกจากนี้ยังต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติก่อนการล้างโลกอย่างเช่นอัศวินจตุรอาชา ที่เคยระบุไว้ตามตำนานวันพิพากษาโลก


พื้นที่ปฏิบัติภารกิจ: ขั้วโลกเหนือ
ดินแดนต้องห้าม บางทีอาจเป็นเขตแดนของอีเรบัส


ระยะเวลาโดยประมาณ: 1-3 เดือน ตามอุปสรรคที่พบ

จำนวนผู้เข้าร่วม: มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
1. อิซิเลีย โดมินิคัส กองร้อยที่ 1 ลูกหลานโรมันเชื้อสายน็อกซ์
คุณโดมินิคัสมีความคุ้นเคยกับความมืดเป็นอย่างดี บางทีเชื้อสายของเธออาจช่วยให้แก้ปัญหาของอีเรบัสง่ายขึ้น

2. ทาราส ทิโคนอฟ กองร้อยที่ 1 บุตรแห่งอควิลลอน
คุณทิโคนอฟเป็นผู้บงการสายลมได้ ผมคิดว่าความสามารถของเขาน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเดินทางท่ามกลางสภาวะอากาศอันโหดร้ายของขั้วโลกเหนือ

3. เลธิเซีย อะลอนโซ่ กองร้อยที่ 1 ธิดาแห่งเมอร์คิวรี่
คุณอะลอนโซ่มีทักษะการแฮ็กที่ยอดเยี่ยม ผมเชื่อว่าทักษะของเธอเป็นประโยชน์แก่ทีมในการค้นหาพิกัดของเทพอีเรบัสได้รวดเร็วขึ้น โดยการแฮ็กตำแหน่งต้องสงสัยผ่านดาวเทียม

4. ดานิโล โคเกลียเนเซ่ กองร้อยที่ 1 บุตรแห่งอะพอลโล่
การเดินทางครั้งนี้มีการปะทะกับทั้งอสุรกาย ภัยธรรมชาติ และอัศวินกาลวิบัติทั้ง 4 ในทีมจึงต้องการผู้ที่มีพลังในการรักษาบาดแผล ดังนั้นทักษะของคุณโคเกลียเนเซ่จึงจำเป็นอย่างยิ่ง

5. ลูคัส อควินัส กองร้อยที่ 2 บุตรแห่งมาร์ส
คุณอควินัสเป็นนักรบที่เก่งกาจ ฝีมือการต่อสู้ของเขายอดเยี่ยมและได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก ผู้ที่จะจัดการกับอัศวินกาลวิบัติได้คงไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกจากเขาคนนี้

6. เซรีน อีรีน่า กองร้อยที่ 2 ธิดาแห่งพูลโต
คุณอีรีน่ามีความสุขุมรอบคอบ มีความมั่นใจเด็ดเดี่ยวและมีทักษะการตัดสินใจที่ดีเยี่ยม นอกจากนั้นสายเลือดพูลโตของเธอยังเป็นประโยชน์ในการต่อสู้เป็นอย่างมาก

7. วิเวียน่า โรเซลลา กองร้อยที่ 2 ธิดาแห่งวีนัส
ในการเดินทางจำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านหรือสิ่งมีชีวิตอื่น เสน่ห์ของคุณโรเซลลาจะช่วยให้ทีมปฏิบัติภารกิจได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

8. นิโคลัส เดลฟิโน กองร้อยที่ 2 บุตรแห่งอะพอลโล่
คุณเดลฟิโนมีพรสวรรค์ทางด้านการรักษา นอกจากรักษาอาการบาดเจ็บแล้วผมมั่นใจว่าคนมองโลกในแง่ดีจะเยียวยาจิตใจของเพื่อนร่วมทีมในสภาวะตึงเครียดได้เป็นอย่างดีแน่นอน

9. นพมาศ เชี่ยววารี กองร้อยที่ 3 ธิดาแห่งเนปจูน 
ผู้สืบสายเลือดโรมันเชื้อสายฮาร์โมเนีย
การได้ธิดาแห่งเนปจูนมาร่วมทีมถือเป็นความโชคดีแสนพิเศษ น้ำที่อยู่ภายใต้ผืนน้ำแข็งทั้งหมดจะเป็นอาวุธอันไร้ขีดจำกัดให้คุณเชี่ยววารีได้ใช้พิชิตศัตรูสุดแข็งแกร่ง 

10. มิเรว่า ลาเวลล็อง กองร้อยที่ 3 ธิดาแห่งไทรเวีย
ความสามารถของคุณลาเวลล็องผ่านประสบการณ์มาหลายยุคสมัย ผมเชื่อว่าทักษะทางสายเลือดของเธอจะมีประโยชน์สูงสุดแก่ทีมในการผ่านภารกิจในครั้งนี้ นอกจากนั้นเธอยังมีความสามารถคลี่คลายปริศนาของอีเรบัสได้อีกด้วย

11. 
แองเจลิก้า  ฮาร์ดี้  กองร้อยที่ 4 ธิดาแห่งมาร์ส
เนื่องจากผมและคุณฮาร์ดี้ทำภารกิจร่วมกันมาหลายครั้งจึงมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทำให้ปฏิบัติภารกิจได้อย่างลื่นไหล ทักษะการต่อสู้ของเธอเป็นที่ประจักษ์ จนมั่นใจว่าเธอสามารถต่อกรกับอัศวินกาลวิบัติแห่งสงครามได้

12. อาเธอร์ แมฟเวอริค กองร้อยที่ 5 บุตรแห่งซุส
การเดินทางทางอากาศคงไม่มีใครเหมาะสมเท่าเจ้าแห่งท้องนภาบุตรแห่งซุส คุณแมฟเวอริคมีความสามารถในการควบคุมลมและสายฟ้าอย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีทักษะการต่อสู้ที่เหนือใคร หากได้เขาเป็นสมาชิกในทีมจะเป็นประโยชน์ทั้งการเดินทางและการต่อสู้กับอัศวินกาลวิบัติอย่างแน่นอน

13. ฮารุโตะ ฮิกะ กองร้อยที่ 5 บุตรแห่งอะพอลโล่ ผู้สืบสายเลือดโรมันเชื้อสายวิคตอเรีย
ความได้เปรียบของคุณฮิกะคือการใช้พลังได้ทั้งสองสายเลือดเทพ เป็นที่แน่นอนว่าทีมต้องการผู้รักษา และชัยชนะที่จะนำมาสู่นิวโรม ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของเขาว่าจะพาให้ทีมสำเร็จภารกิจได้อย่างสวยงาม



เหตุผลและความจำเป็นในการทำภารกิจ:
1. เพื่อกู้คืนกลางคืนกลับมาแม้เพียงแค่ชั่วคราว รักษาสมดุลของโลกไม่ให้พินาศไปมากกว่านี้ 
2. มีผลเสียมากมายจากการที่กลางคืนหายไป ทั้งผลทางด้านสุขภาพกาย และสุขภาพจิต
3. การที่มีกลางวันตลอดเวลาทำให้สิ่งมีชีวิตบางประเภทเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
4. น้ำแข็งจากขั้วโลกละลายทำให้ประมาณน้ำสูงขึ้นแผ่นดินลดลง และอาจทำให้เชื้อโรคจากยุคโบราณกลับมามีชีวิตได้ 
5. จากคำทำนายบอกว่าจะมีการปะทะกับอัศวินกาลวิบัติ หากทำให้ศัตรูอ่อนกำลังลงได้สถานการณ์ความวุ่นวายในโลก สงคราม โรคระบาด ความอดอยาก และความตาย จะลดลง
6. การไปขั้วโลกเหนืออาจได้เบาะแสของขุมทองจักรพรรดิเพิ่มเติม




ส่วนที่ 3: แผนการปฏิบัติภารกิจ


วัตถุประสงค์:
1. นำกลางคืนกลับมา ฟื้นฟูสมดุลแก่โลกสู่โลก

ขั้นตอนการปฏิบัติ:
วันที่ 1 (ออกเดินทาง 08:00 น.)
ออกเดินทางจากค่ายจูปิเตอร์ด้วยเรือเหาะ Pax บินด้วยความเร็ว 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง
คาดว่าจะถึงขั้วโลกเหนือภายใน 18 ชั่วโมง (ระหว่างทางอาจเผชิญหน้ากับพายุหิมะได้เสมอ)

วันที่ 2 เริ่มทำการค้นหาวิหารอีเรบัส อาจใช้เวลาในการสำรวจขั้วโลกเหนืออย่างต่ำ 1 เดือน จากนี้จึงไม่อาจบ่งบอกเวลาที่แน่ชัดได้ 

ข้อปฏิบัติอื่น ๆ
1. หลีกเลี่ยงการล่าแมวน้ำ วอลรัส หมีขาว หรือสัตว์สงวนท้องถิ่นเป็นอาหาร
2. เป็นมิตรกับชาวบ้าน
3. หาสถานที่ซ่อนเรือเหาะให้พ้นสายตาจะได้ไม่เป็นที่สงสัย
4. ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

การเดินทางกลับ หากยังมีเชื้อเพลิงเหลือให้โดยสารกลับทางเรือเหาะ Pax 


ทรัพยากรที่ต้องการ:
1. เรือเหาะ Pax                      จำนวน   2 ลำ (สำรอง 1 ลำ)
2. อะไหล่ซ่อมบำรุง                 จำนวน   100 ชุด
3. น้ำมันเชื้อเพลิง                   จำนวน   18,000 ลิตร (คำนวนรวมน้ำมันสำรองแล้ว)
4. เสบียงอาหารแห้ง               จำนวน   50 ชุด
5. กาแฟ                                จำนวน   50 ชุด
6. ยาและเวชภัณฑ์                  จำนวน   10 ชุด
7. น้ำทิพย์หรืออาหารเทพ         จำนวน   10 ชุด
8. อุปกรณ์กันหนาว                  จำนวน   10 ชุด
9. อุปกรณ์ตกปลาใต้น้ำแข็ง       จำนวน   5 ชุด
10. ทุนทรัพย์                          จำนวน   100,000 ดอลลาร์
11. เพลิงกรีก                          จำนวน   3 ชุด
12. อาวุธและชุดเกราะระดับสูง  จำนวน 10 ชุด


แผนสำรอง:
1. กรณีเจอพายุหิมะให้นำเรือเหาะลงจอดในสถานที่ลับตาคน ห้ามฝืนบินต่อเด็ดขาด จากนั้นหลบภัยในถ้ำหรือบ้านคน
2. ในการต่อสู้กับอัศวินกาลวิบัติอาจเกิดการสูญเสียเกิดขึ้น ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของกองทัพ พึ่งระวังไว้เสมอให้รักษาชีวิตของตนเองก่อนเป็นอันดับแรก
3. หากเชื้อเพลิงไม่เพียงพอให้เดินทางกลับด้วยเรือเหาะลำที่ 2 จากนั้นติดต่อทีมเพื่อกู้คืนซากยาน




ส่วนที่ 4: การประเมินความเสี่ยง

อุปสรรคและความท้าทาย:
1. สภาพอากาศอันหนาวจัด
2. การขาดแคลนอาหาร
3. ความยากลำบากในการแก้ไขปริศนาก่อนเข้าพบอีเรบัส
4. การเผชิญหน้ากับอัศวินกาลวิบัติ อสุรกาย และสัตว์ดุร้ายอื่น ๆ


อันตรายที่อาจเกิดขึ้น:
1. อัศวินกาลวิบัติ 
2. อสุรกายรายทาง
3. กับดักเวทมนตร์
4. อุบัติเหตุจากพายุหิมะ 
5. การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน


มาตรการป้องกัน:
1. มีสติอยู่ตลอดเวลา การเชื่อฟังหัวหน้าทีมอย่างเคร่งครัด ไม่แก้ไขสถานการณ์เพียงลำพัง
2. ความพร้อมจากการเตรียมอุปกรณ์ตามรายการที่ขอ
3. คัดเลือกสมาชิกร่วมทีมที่มีความชำนาญในด้านต่าง ๆ
4. การฝึกฝนทักษะการต่อสู้ และทักษะการเอาชีวิตรอดก่อนออกเดินทาง
5. ตั้งกะเฝ้าระวังเวรยามตลอดการเดินทาง
6. เตรียมแผนการหลบหนีและเก็บกระเป๋าฉุกเฉินไว้ข้างตัว




ส่วนที่ 5: คำร้อง

ข้าพเจ้าขอความกรุณาจากสภาเซเนท โปรดอนุมัติให้เปิดภารกิจบันทึกการเดินทางนี้ เพื่อประโยชน์ในการฝึกฝนและพัฒนาศักยภาพของเหล่าเดมิกอด


                                    
ลงชื่อ: _________________________
          (วินเซนโซ เบอร์กาม็อตโต)


            
ลงชื่อ: _________________________
  (ควินตัส แอนเดอสัน)

ลงชื่อ: _________________________
(ยาสมิน อาเดน)

หมายเหตุ: โปรดกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน และส่งกลับมาให้สภาเซเนท สภาเซเนทจะพิจารณารายงาน และแจ้งผลการอนุมัติเปิดการประชุมให้ทราบภายหลัง


'ขอสมาชิกไปทั้งค่ายไม่พอยังขอเสบียงไปเกือบหมดอีก!'

"อะแฮ่ม! ผมไม่แน่ใจนะว่าพวกวุฒิสภาจะอนุมัติสิ่งที่คุณร้องขอไปได้กี่อย่าง"

ควินตัสตอบหลังจากที่อ่านข้อความทั้งหมดจบภายในรอบแรก

"ครับ ไม่มีปัญหา ผมเคยเข้าร่วมชมประชุมสภามาก่อนได้ข่าวว่าตัดงบอุปกรณ์แหลก เลยต้องเขียนเผื่อเอาไว้เยอะ ๆ ก่อน" วินเซนโซหัวเราะน้อย ๆ คล้ายจะเย้ยหยั่ยสภาเซเนทเสียมากกว่า "ก็ไม่เป็นไร ตอนที่พวกคุณยื่นเรื่องเสนอก็อ่านชื่อหัวข้อให้พวกเขาฟังดัง ๆ ก็แล้วกันครับ"

"ชื่อเรื่อง?"

ยาสมินถาม ควินตัสจึงยื่นแบบฟอร์มที่หนุ่มวัลแคนเพิ่มกรอกให้ เอาแว้บเดียวหญิงสาวก็หลุดขำโดยการพ่นลมออกมา

'ไอ้หมอนี่มันแน่เว้ย! อยากรู้ชะมัดว่าพวกตาแก่ในสภาจะทำหน้ากันยังไง'

เนปจูนสาวอมยิ้มที่มุมปาก จากนั้นเธอจึงลงนามชื่อสุดท้ายลงไป ไม่อยากบอกเลยว่าถูกใจความกวนสภาของบุคคลตรงหน้ามากแค่ไหน บางทีตาแก่เหล่านั้นต้องเจอคนแบบนี้

"ทางกองทัพรับเรื่องแล้ว เชิญคุณเบอร์กาม็อตโตไปพักผ่อนได้ ทางเราจะแจ้งเตือนวันประชุมสภาให้คุณอีกที ถึงตอนนั้นก็หวังว่าจะไฟท์ให้ตัวเองได้ทั้งหมดนี่มานะ"

"ได้สักครึ่งนึงผมก็ไม่ขาดทุนแล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนครับ"

นายทหารจากกองร้อยสี่ทำความเคารพแม่ทัพทั้งสองก่อนจะออกมาจากพรินซิเปีย จากนี้เหลือแค่รอการประชุมสภาสุดหินก่อนออกเดินทาง เอาเข้าจริงวินเซนโซไม่ได้ปรารถนาเรือเหาะสองลำหรือค่าเดินทางจำนวนมาก แต่สิ่งที่เขาต้องการจากสภามากที่สุดคือ 'คำสั่งระงับการออกเดินทาง' ต่างหาก

แสดงความคิดเห็น

God
แม่ทัพทั้งสองลงลายเช็นถูกต้อง  โพสต์ 2025-6-6 10:48
โพสต์ 52830 ไบต์และได้รับ 30 EXP!  โพสต์ 2025-6-6 07:15
โพสต์ 52,830 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก เข็มกลัดโพไซดอน  โพสต์ 2025-6-6 07:15
โพสต์ 52,830 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-6-6 07:15
โพสต์ 52,830 ไบต์และได้รับ +25 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความศรัทธา จาก กุหลาบสีน้ำเงินทอง  โพสต์ 2025-6-6 07:15
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x50
x1
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x3
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x1
x1
x5
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้