การจะไปทำภารกิจก็ไม่ใช่ว่าอ่าน คิด อยากไป แล้วไปได้เลย โดยเฉพาะกับภารกิจที่เชื่อมโยงกับยมโลกซึ่งถือเป็นสถานที่นอกเหนือเขตปกครองของเทพโดยทั่วไป ดังนั้นแทนที่จะกลับไปเตรียมตัวเพียงลำพังที่เขตกองร้อย เดนิสต้าจึงต้องมาเยือนพรินซิเปีย สำนักงานใหญ่อันเป็นห้องทำงานหลักของเหล่าแม่ทัพรวมไปถึงห้องหน่วยข่าวกรองต่าง ๆ ประจำกองพันที่สิบสองฟุลมินาตาเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการเดินทางรวมไปถึงข้อที่ควรระวังสำหรับการเป็นแขกของยมโลก
เดนิสต้าไม่ใช่สายเลือดพลูโตหรือเทพและเทพีอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับโลกนั้นทำให้เธอไม่ได้มีเคล็ดลับหรือความสามารถในการไปล่วงรู้ว่าต้องเดินทางยังไง ทำแบบไหน หลังจากประทับนามขอรับภารกิจ สิ่งแรกที่เธอคิดยังเป็นการตั้งคำถามอยู่เลย ‘ จะไปที่นั้นฉันต้องกลายเป็นวิญญาณก่อนหรือเปล่านะ.. ภาวนาหวังว่าจะไม่ใช่ก็แล้วกัน ’
ภายในพรินซิเปียยังคงเงียบสงบเหมือนกับครั้งแรกที่มา คงเป็นเพราะมหาลัยนิวโรมกำลังเปิดเรียน ดังนั้นทุกคนจึงมักจะไปรวมตัวที่กรุงโรมใหม่มากกว่ามาปวดหัวกับงานมากมายที่อาจเข้ามาได้ทุกเมื่อยกเว้นอยู่เพียงสองสมาชิกสำคัญของค่ายจูปิเตอร์ที่ยังต้องวนกลับมาตรวจสอบพรินซิเปียเป็นระยะ ๆ มือบางของเดนิสต้ายกขึ้นเคาะกับประตูไม้เนื้อแข็งของห้องทำงานสองแม่ทัพใหญ่เบา ๆ ก่อนจะขานยืนยันตัว “ นอร์ทาร่าจากกองร้อยหนึ่งขอเข้าพบค่ะ ”
ความเงียบคือคำตอบรับหลังเคาะประตูได้เกือบหลายนาที
‘ ไม่อยู่? ’ สองตาเรียวเฉี่ยวปานสิงคาลกวาดมองรอบด้านก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน ‘ ไม่สิ ปกติแล้วพวกเขาน่าจะกลับมาตรวจงานเวลานี้.. ’ เว้นก็แต่ชีวิตมหาวิทยาลัยนิวโรมมันลำบากจนเกินไป เดนิสต้าหลุบตาลงพิจารณาความเป็นไปได้อื่น ๆ กระทั่งตัดสินใจที่จะถอย ‘ ไว้ค่อยมาให—- ’
โคร้ม !!
อะไรล่ะ(วะ)นั่น
เสียงโครมครามหลังประตูห้องทำงานตามมาด้วยเสียงประตูไม้ฝืด ๆ แง้มออกช้า ๆ ต้อนรับการมาเยือนของผู้ยืนคอยอยู่ด้านหน้าโดยที่ไร้คำอนุญาตจากคนภายใน … แอ๊ด— มือบางของธิดาแห่งเทพความรักยื่นออกไปผลักประตูไม้ตรงหน้าให้เปิดอ้ากว้างกว่าเก่า นัยน์ตาสีฟ้าหม่นเหลือบมองรอบด้านก่อนจะขยับริมฝีปากสีกลีบกุหลาบให้เปล่งเสียงทักทาย “ ที่นี่กลายเป็นห้องผีสิงไปแล้ว.. หรือว่าผู้องอาจของเหล่าทัพยังทำงานกันอย่างขมักเขม้นอยู่คะ? ”
“ คุณนอร์ทาร่า เข้ามาก่อนสิ ”
เสียงเรียกที่นุ่มนวลในระดับของเพศเดียวกันแต่แฝงมาด้วยความอ่อนใจทำให้ธิดาวีนัสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ร่างเพรียวของสมาชิกคนล่าสุดของกองร้อยที่หนึ่งเคลื่อนเข้าไปด้านในห้องทำงานที่เต็มไปด้วยกองเอกสารสูงพะเนินเทินทึก “ ดูท่าชีวิตในมหาลัยคงไม่เอื้อต่อแผนงานของผู้นำเหล่าทัพสินะคะ ” ปลายนิ้วเนียนจรดลงกับขอบกระดาษของกองที่ตั้งอยู่ข้างโต๊ะทำงานของยาสมิน อาเดน — ธิดาเนปจูน หนึ่งในสองแม่ทัพและ.. สุภาพสตรีท่าทางห่อเหี่ยวที่อยู่ตรงหน้าเธอในเวลานี้
“ ถึงจะอยากปฏิเสธแต่คงทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบว่าใช่ล่ะนะ ” ลมหายใจพรั่งพรูออกจากริมฝีปากหนาของหญิงสาวผิวสีช็อคโกแลต ยาสมินเหลือบตาขึ้นมองธิดาวีนัสผู้มาเยือนพร้อมด้วยรอยยิ้มไม่ทุกข์ร้อน ‘ เห็นว่าไม่เข้าเรียนไปพักนึง.. กลับมาได้แล้ว? ’ แต่ถ้าจะให้ถามตามข้อสงสัยที่มีอยู่ในใจเลยก็คงจะเป็นการเสียมารยาท เจ้าของสายเลือดเทพเนปจูนเก็บสายตากลับลงมองที่เอกสารบนโต๊ะพลางถามอย่างสุภาพ “ มาที่พรินซิเปียครั้งนี้มีเรื่องอะไรจะปรึกษาล่ะคุณนอร์ทาร่า? ”
และถ้าหากว่าเดนิสต้ามีความสามารถในการหยั่งรู้ความคิดของคนอย่างชัดเจน คำแรกที่เธอตอบอีกฝ่ายคงเป็นคำว่า ‘ ไม่ ’ เดนิสต้าไม่ได้พร้อมสำหรับการกลับมาแบบร้อยเปอร์เซ็น บางครั้งความหวั่นไหวก็เป็นอุปสรรคสำหรับสายเลือดวีนัส (ถูกต้อง) แม้จะไม่อยู่ในขั้นอกหักหรือตกหลุมรัก แต่การสับสนได้เพราะคนเพียงคนเดียวก็ทำให้ผู้ครองสายเลือดเทพีแห่งความรักเสียความมั่นใจไปพักใหญ่ ‘ ก็แค่ออกไปหาเรื่องใส่ตัวให้หายคิดมาก ’ นั่นคือเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอรีบร้อนวิ่งพล่านไปที่กระดานหินภารกิจทวยเทพก่อนจะเข้าเดือนแห่งความรักเต็มตัว “ ฉันไปรับภารกิจที่กระดานภารกิจจากเทพมาน่ะค่ะ.. ”
“ … ”
ดวงตาของยาสมินเหลือบขึ้นมองเดนิสต้าซึ่งเป็นผู้รายงานอีกครั้งแม้จะไม่แน่ใจว่าควรตอบสนองอย่างไร แต่สมองก็สั่งการให้แม่ทัพสาวคลี่ยิ้มยินดีไปกับความคืบหหน้าของคนในค่าย “ ภารกิจแรกสินะคะ? ยินดีด้วย ” ไม่ใช่ทุกครั้งที่สมาชิกจะมาแจ้งความประสงค์ขอออกไปทำภารกิจกับผู้นำเหล่าทัพ ฉะนั้นสำหรับครั้งนี้ยาสมินจึงอดไม่ได้ที่จะประทับใจผสม ๆ กับขบขันเมื่อนึกขึ้นว่าเดนิสต้าอาจจะยังไม่รู้หลักการดำเนินภารกิจตามปกติของค่าย “ ฉันดีใจที่คุณมาบอกนะคะ แต่โดยปกติ คุณไม่จำเป็นต้องมาที่พรินซิเปียเพื่อขออนุญาตหรือแจ้งว่าจะออกไปทำภารกิจหรอก ให้ยึดตามรายละเอียดของภารกิจหลังจากลงชื่อรับภารกิจได้เลย.. คุณคงจดรายละเอียดคร่าว ๆ บนกระดานมาแล้วใช่ไหม? นั่นแหละ ทำตามนั้นได้เลย ”
“ ดังนั้นฉันเลยมาที่นี่ไงคะ ”
การตอบกลับแบบไม่ต้องคิดรวมไปถึงรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของเดนิสต้าทำให้ยาสมินชะงัก บรรยากาศไม่น่าไว้วางใจพาดผ่านระหว่างสองสาวที่กำลังสบตากันอยู่เงียบ ๆ จวบจนเดนิสต้าเป็นฝ่ายพูดขึ้นอีกครั้ง “ ฉันต้องเดินทางไกลน่ะค่ะ.. ไกลมาก ๆ ” ด้วยจังหวะจะโคนและการเว้นช่วงเสียงให้รูปประโยคดูซับซ้อน เดนิสต้าที่เคยถือว่าเป็นเพียงธิดาวีนัสดาษดื่นกลับดูโดดเด่นแปลกตาขึ้นทันควัน “ เห็นว่ามาปรึกษาเส้นทางกับพวกคุณน่าจะดีกว่าลุยเดี่ยวคนเดียว ”
กระดาษแผ่นหนึ่งถูกวางลงกับโต๊ะทำงานของยาสมิน มันวางอยู่เหนือเอกสารที่ชวนให้ลายตามากมายแต่กลับโดดเด่นได้ด้วยตัวหนังสือหนา ๆ บนหัวกระดาษเพียงไม่กี่ตัวที่ทำให้แม่ทัพหญิงเบิกตากว้าง “ ปลดปล่อยดวงวิญญาณ 30 ดวงสู่ยมโลก? ”
“ อะไรนะ ?? ” คราวนี้ไม่ใช่แค่ยาสมินที่สะดุ้ง อีกหนึ่งแม่ทัพที่อาศัยเวลานี้งีบหลับหลังฝ่าฟันกับกองวิจัยมากมายจากมหาวิทยาลัยถึงกับผุดขึ้นมาจากกองกระดาษอีกฟากหนึ่งของห้อง ‘ ควินตัส แอนเดอร์สัน ’ บุตรแห่งอาร์คัสยกมือขึ้นลูบหลังศีรษะของเขาหลังจากยืดตัวเร็วเกินไปจนชนเข้ากับชั้นหนังสือที่ตั้งอยู่ด้านหลัง เสียงร้องโอดครวญเบา ๆ จากปากเขาทำให้เดนิสต้าหลุดหัวเราะเสียงแผ่วก่อนจะหันกลับมายืนยันภารกิจของตัวเองอีกครั้ง
“ ใช่ค่ะ ภารกิจนั้นแหละ ”
“ คุณนอร์ทาร่า.. สายเลือดของคุณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับอันเดอร์เวิลด์เลย คุณแน่ใจเหรอ? ” แม้จะรู้แก่ใจดีว่าต่อให้ไม่แน่ใจตอนนี้ก็คงปฏิเสธการลงชื่อไม่ได้แล้ว ยาสมินขมวดคิ้วในระหว่างที่เธอเลื่อนกระดาษรายละเอียดภารกิจกลับไปให้เดนิสต้า “ ภารกิจแบบนี้ให้สายเลือดไทรเวีย นอกซ์หรือ.. ”
“ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครว่างไปทำเลยนะ ” เสียงหวานของเดนิสต้าตัดน้ำเสียงที่แฝงมาด้วยความลังเลของธิดาเนปจูนจนขาดสะบั้น ดวงตาเรียวของสาวสวยอันเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในฐานะคนนอกคอกประจำค่ายจูปิเตอร์หรี่ลงอย่างมีเลศนัย “ ฉันทำได้ค่ะ คงไม่ยากอะไร ”
ในเมื่อคนทำภารกิจดูเหมือนจะมั่นใจเสียขนาดนั้น..
สองแม่ทัพประจำกองพันที่สิบสองหันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ “ เรื่องการเดินทาง.. ”
.
.
.
การปรึกษาเส้นทางเป็นไปอย่างเรียบง่ายและเป็นระเบียบ เพื่อไม่ให้พลัดหลงหรือกลายเป็นบุคคลสูญหาย เดนิสต้าได้รับคู่มือการเดินทางอย่างละเอียดที่มีทั้งแบบเดินทางผ่านโดยขนส่งสาธารณะรวมไปถึงแบบที่ใช้รถส่วนตัว ‘ น่าเสียดายที่ฉันยังเรียนคลาสขับรถไม่จบ.. ต่อให้จบก็ยังไม่มีเงินซื้อรถในตอนนี้อยู่ดี ’ สองตาของเดนิสต้ามองลงที่โพสอิทเล็ก ๆ ที่ประกอบไปด้วยคำแนะนำเชิงกำชับอีกมากมายจากยาสมินและควินตัสก่อนจะปิดสมุดแนะนำเส้นทางพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
“ เท่านี้น่าจะพอใช้ได้แล้วล่ะ ”
ขนส่งสาธารณะใช้เวลา 11 ชั่วโมงกว่า ๆ แต่ถ้าหลอก(?)รถส่วนตัวให้ไปส่งได้ก็ใช้เวลาแค่ 5 ชั่วโมง
มุมปากของเดนิสต้ายกขึ้นสูงเป็นพิเศษในระหว่างที่เธอวางชามขนมจีบสองชามลงบนโต๊ะของยาสมินและควินตัสเพื่อเป็นการขอบคุณ “ อย่าหักโหมเยอะจนเกินไป ทานข้าวพักผ่อนกันบ้างนะคะ ” ด้วยการทิ้งท้ายอย่างเป็นห่วง ธิดาวีนัสคนสวยยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือร่ำลาสองผู้นำเหล่าทัพอย่างใจเย็น ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานขนาดใหญ่ภายในพรินซิเปีย ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมรัญจวนของกุหลาบพันปีอันเป็นเอกลักษณ์