12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[รัฐเท็กซัส] ซานอันโตนิโอ

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2024-12-16 02:31:32 | ดูโพสต์ทั้งหมด
243
การเดินทางไกลของสามหนุ่มสามมุม

               11/12/2024 - 9.30 น.

               ใช้เวลาอยู่กลับครอบครัวอย่างเต็มอิ่มถึงหนึ่งเดือนเต็ม ๆ ตอนนี้ก็ได้เวลากลับค่ายฮาล์ฟบลัด ซึ่งคราวนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ดีนกับแมคเคนซี แต่ยังมีสมาชิกใหม่อย่าง ‘เชมัส แคตต์’ เพิ่มมาด้วยอีกหนึ่งคน ตอนแรกคิดว่าจะจองตั๋วเพิ่มไม่ได้แล้วเสียอีก ยังดีที่พอมีที่ว่างให้พวกเขาแอดที่นั่งของเด็กเพิ่มไปอีกหนึ่ง

               น่าประหลาดใจเหลือเกิน... ทั้งที่ช่วงนี้อยู่ในฤดูกาลแห่งการเดิน ระหว่างเทศกาลสำคัญช่วงปลายปี ที่ติดกันจนเป็นวันหยุดยาวแท้ ๆ แต่คุณฌอนพ่อของเชมัสยังจองตั๋วรถไฟมาได้ แถมยังได้อัพตั๋วเป็นตู้นอนสองขบวนเลยอีก หรือบางที... นี่อาจเป็นความอนุเคราะห์จากเทพบิดาหรือมารดาเด็กชายคนนี้ก็เป็นได้ ที่กล่าวแบบนั้นเป็นเพราะดีนยังไม่วางใจว่าเทพผู้ปกครองของเชมัสเป็นหญิงหรือชายจากกรณีของเจโรมที่เขาเคยรู้มา

               นางอัลวาเรซขับรถมาส่งหนุ่ม ๆ ที่สถานีรถไฟซานอันโตนิโอ จะว่าตื่นเต้นก็คงได้ แม่ซื้อรถใหม่มาในช่วงที่ดีนไปเรียนที่นิวยอร์ก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้นั่งบนรถญี่ปุ่นสีน้ำทะเลคันนี้ (ไม่นับที่เขาช่วยเอารถของแม่เข้าที่จอดรถในวันแรกที่เจอกัน) หากปกติคงนั่งได้สะดวกสบายกว่ารถกระบะของลุงไมค์เยอะ ทว่าพวกเขามีสัมภาระเป็นกระเป๋าเดินทางใบโตถึงสามใบ และกระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงอีกหนึ่ง เรื่องกระเป๋าพอยัดใส่ไว้หลังรถได้สองใบ คนที่เบาะหลังต้องนั่งเบียดกับกระเป๋าอีกหนึ่ง ส่วนออมเล็ตดีนอุ้มไว้บนตัก ค่อยไปกางกระเป๋าใส่สุนัขตอนขึ้นรถไฟทีหลัง

               “เดินทางปลอดภัยนะหนุ่ม ๆ ถึงค่ายแล้วอย่าลืมโทรหาแม่ล่ะ”

               “ครับแม่ แม่ก็ขับรถกลับบ้านดี ๆ นะ”

               ดีนเข้าไปสวมกอดมารดาผู้ให้กำเนิดด้วยความรัก เขาไม่อายเลยที่จะทำตัวเป็นเด็กอย่างการหอมแก้มแม่ซ้ายขวาขณะอยู่หน้าสถานีรถไฟ ใคร ๆ เขาก็ทำกันจะมัวอายทำไมล่ะ...

               หลังบอกลากันเสร็จก็ถึงเวลาออกเดินทาง จัดการออมเล็ตให้อยู่ในกระเป๋าสัตว์เลี้ยงเรียบร้อย จากนั้นก็เข็นกระเป๋าขึ้นรถไฟแอมแทรกเส้นทางเท็กซัสอีเกิ้ล เชมัสดูไม่ได้ตื่นเต้นมากนักที่ต้องเดินทางไกลเพราะว่าเขานั่งเครื่องบินติดตามบิดามาจนชิน แต่การนั่งรถไฟข้ามรัฐแบบนี้อาจเป็นครั้งแรก

               ห้องโดยสารเป็นห้องนอนแบบเดิมที่นอนได้สี่คน เพียงแต่คราวนี้มีเด็กเดินทางมาด้วย การละเล่นจ้ำจี้บนตู้โดยสารจึงเป็นเรื่องต้องห้ามโดยเด็ดขาด

               “อยู่ในนี้อึดอัดไหมเชมัส ถ้านายอยากออกไปสูดอากาศล่ะก็ขึ้นไปที่ตู้ชมวิวได้นะ”

               “ผมยังไงก็ได้ฮะ” เด็กชายผมดำเชื้อสายไอริชครึ่งเทพตอบกลับ

               “แล้วนายล่ะแมคซี่ อยากขึ้นไปสูดอากาศข้างบนไหม?”

               @Mackenzie

               ไม่ผิดคาดสักเท่าไรกับคำตอบของแมคเคนซี

               ในเมื่อคนนึงบอกว่ายังไงก็ได้ ส่วนอีกคนบอกว่าอยากอยู่ในตู้ส่วนตัว งั้นก็เอาเป็นพักผ่อนกันในนี้จนกว่าจะถึงเวลามื้ออาหาร แม้ว่าคนไฮเปอร์อย่างดีนอยากจะออกไปยืดเส้นยืดสายข้างบนเสียหน่อยก็เถอะ แต่ดูจากปริมาณผู้โดยสารจำนวนมากแล้วนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในห้องนอนนี้ก็ได้

               รถไฟค่อย ๆ เคลื่อนขบวนออกไปจากชานชาลา เด็กชายและสิงโตนีเมียนน้อยต่างแย่งกันเกาะกระจกชมวิว เชมัสมีท่าทีเกร็ง ๆ อยู่บ้างตอนที่ออมเล็ตแทรกเข้ามา แต่เหมือนเขาจะทำใจได้แล้วกับรูปลักษณ์ที่แท้จริงของมัน เพราะก่อนหน้านี้เด็กชายเห็นสิงโตเป็นสุนัขมาตลอดจนถึงวันเกิดของตัวเองที่ผ่านมาได้สัปดาห์เศษ ๆ ไม่เพียงเท่านั้น... ทุกสิ่งทุกอย่างที่เลื่อนผ่านกรอบสายตาก็ดูเหมือนจะผิดปกติไปเสียหมด

               และอาจเป็นโชคดีของเด็กชายที่เขาบังเอิญได้มาเจอกับรุ่นพี่ทั้งสองคน

               “โอ๊ะ นอกหน้าต่างมีคุณวัวถือค้อนด้วยฮะ!”

               เชมัสดูจะตื่นเต้นกับภาพที่เขาเห็นอยู่ไม่น้อยโดยหารู้ไม่ว่านั้นน่ะตัวอันตราย ที่นอกหน้าต่างรถไฟมีมิโนทอร์ตัวหนึ่งถือค้อนใหญ่โตทำท่าทางฉุนเฉียวอยู่ท่ามกลางทุ่งข้าวฟ่าง

               “อ่าใช่ นั่นน่ะมิโนทอร์ เห็นเป็นคุณวัวเท่ ๆ แต่ถ้าเจอแล้วต้องรีบวิ่งหนีให้ไวเลยล่ะ ไม่งั้นโดนมันทุบแบนแต๊ดแต๋เป็นเนื้อบดในแฮมเบอร์เกอร์แน่ ๆ” ดีนเบ้ปากตอบ

               “ดีนะที่เราอยู่บนรถไฟ คุณวัววิ่งตามไม่ทันแน่ ๆ” น้องน้อยหัวเราะขำ ๆ ดูท่าทางไม่หวั่นเกรงภัยที่มาไม่ถึงตัว ราวกับลืมไปแล้วว่าเคยถูกอสุรกายหกหัวระดับไฮดร้าวิ่งไล่ตาม “ไม่มีตัวไหนที่เชื่องเหมือนออมเล็ตเลยเหรอฮะ”

               “อื้ม… จริง ๆ เผ่าพันธุ์ของออมเล็ตก็ดุร้ายนะ เพียงแต่ว่าเจ้านี่ถูกฉันเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดมันก็เลยเชื่อง ถ้าเจอสิงโตนีเมียนที่ไหนก็ห้ามเข้าใกล้เหมือนกัน อสุรกายที่เชื่องมีไม่เยอะหรอก ระวังตัวเองไว้ก่อนปลอดภัยกว่า.. จะว่าไปสงสัยจังแฮะว่าเชมัสเป็นลูกของเทพองค์ไหน”

               จากที่คลุกคลีกันมาเป็นเดือน ดีนพอรู้ข้อมูลของเด็กชายคร่าว ๆ เชมัสเป็นคนไอร์แลนด์ เดินทางกับพ่อบ่อย งานอดิเรกคือการว่ายน้ำแถมเคยเป็นตัวแทนลงแข่งว่ายน้ำเยาวชนรุ่นอายุต่ำกว่าสิบสองปี

               ‘คงไม่ใช่ว่า… ไม่หรอกมั้ง คงไม่จู่ ๆ ก็มีน้องชายงอกมาคนนึงหรอกนะ…’

               “นายคิดว่าไงแมคซี่ มาเล่นเกมทายกันไหม?” ดีนหันไปถามคนรักหลังจากที่เขามัวแต่คุยกับเด็กมาพักนึง

               @Mackenzie

               “ไม่เสมอไปหรอก พ่อเจโรมยังเป็นผู้ชายเลย มีเทพกรีกไม่น้อยเลยนะที่เป็นไบเซ็กส์ชวลแล้วก็มีลูกกับเพศเดียวกันได้..”

               พูดไปก็นึกขึ้นได้ว่ามีเด็กทำหน้างงอยู่ตรงนี้ ดีนจึงกระแอมแล้วตัดจบ ไม่ตั้งข้อสงสัยเรื่องระบบการสืบพันธุ์แบบพิศวงต่อ แม้จะได้คำตอบเรื่องนี้จากไนแอดสาวแห่งแม่น้ำซานอันโตนิโอมาแล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินกว่าจินตนาการอยู่ดี หนุ่มเท็กซัสผู้จากบ้านเกิดอีกครั้ง หันไปจับสีหน้าของแมคเคนซีที่ดูจะเคร่งเครียดเหมือนกับตอนที่เขาคิดว่าเชมัสอาจเป็นน้องชายของตัวเอง

               “ดูนายทำหน้าสิ อย่างกับคิดว่าเชมัสจะเป็นน้องของนายว่างั้น” เขาหัวเราะในขณะที่นึกสนุก “งั้นฉันเดาว่าเชมัสเป็นบุตรของเทพีเฮคาทีแล้วกัน นายจะได้มีน้องเพิ่ม แต่ว่านายเนี่ยนะ.. องุ่นมันต้อง 'ไชน์ มัสคัท' ไม่ใช่เหรอ”

               เชมัสได้แต่มองรุ่นพี่สองคนสลับกันไปกันมา พลางคิดว่าถ้าได้เป็นน้องชายของหนึ่งในสองคนนี้ก็คงดี ถึงจะเป็นลูกคนเดียวมาตลอดอายุสิบสองปีแต่ถ้ามีพี่ชายที่สนิทกันตั้งแต่แรกก็น่าจะไม่ลำบากหากห่างไกลบิดา

               “ผมยังไงก็ได้ฮะ”

               “ไม่ยังไงก็ได้สิ นั่นแม่หรืออาจจะพ่อแท้ ๆ ของนายก็ได้เลยนะ จะว่าไปนายมีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับแม่ของตัวเองบ้างไหม?”

               เด็กชายยังคงทำหน้างงกับท่อนหนึ่งของประโยค ‘นั่นแม่หรืออาจจะพ่อแท้ ๆ ของนายก็ได้เลยนะ’ แต่คำถามหลังทำให้เขาต้องเปลี่ยนจุดโฟกัสไป เชมัสจึงพยักหน้าหงึกหงัก

               “พ่อบอกว่าแม่เป็นคนที่วิเศษที่สุดตั้งแต่ที่เคยเจอมาเลยฮะ เธอเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ถ้าอยากบอกเล่าเรื่องราวอะไรให้เขียนจดหมายแล้วเผาลงในเตาผิงแล้วคุณแม่จะรับรู้เองฮะ”

               เพียงได้ฟังคำบอกเล่าของเด็กชายดีนก็เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งพลางครุ่นคิดตาม ดูเหมือนว่าคุณฌอนพ่อของเชมัสจะรู้เรื่องอะไรเยอะดีเหมือนกันแฮะ ถึงว่าตอนที่เขาไปบอกอีกฝ่ายตามตรงถึงไม่มีท่าทีตกใจมากมายไปกว่า ‘คุณรู้ได้ไงว่าลูกชายผมเป็นเดมิก็อด’ แถมยังบอกวิธีการสื่อสารถึงเทพเจ้าอีก ขนาดว่าตนยังเพิ่งมารู้เอาตอนอยู่ค่ายฮาล์ฟบลัดแล้วเลย การบอกความจริงกับลูกแบบนี้จะเข้าใจว่าคุณแม่เสียไปแล้วก็ได้ เป็นวิธีการที่แยบยล ต่อให้เล่าให้คนธรรมดาร้อยคนฟังก็ไม่มีทางคิดว่าแม่เด็กเป็นเทพเจ้าหรอก

               “แต่ถ้าพูดว่าแม่คงไม่ใช่เทพผู้ชายสินะ พ่อฉันคงไม่ปลอมตัวไปหรอกเนอะ จินตนาการไม่ออกเลยว่าเทพโพไซดอนเวอร์ชั่นไม่มีหนวดจะหน้าตาเป็นยังไง”

               ถึงเฟิร์สอิมเพรสชั่นตอนเจอกับภาพในอุดมคติในหัวจะโคตรต่าง มีแค่หนวดเคราบนใบหน้านี่แหล่ะที่เหมือนภาพมโนไม่มีผิด

               @Mackenzie

               “นายขี้บุลลี่นี่หว่า แต่รู้เลยว่าพอเชมัสเจอคุณดีจะถูกเรียกว่ายังไง”

               ต่อยแขนคนรักเบา ๆ ไปทีนึงแล้วก็ต้องหัวเราะกับสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นตอนอยู่ค่าย เสียดายชะมัดที่วันเกิดของเชมัสเพิ่งผ่านไป หากถึงวันเกิดของเด็กชายอีกครั้ง ต้องมีป้าย ‘สุขสันต์วันเกิดไชน์มัสคัส’ พร้อมประดับเถาองุ่นติดอยู่เต็มแน่ ๆ

               “ผมยังไงก็ได้ฮะ” เชมัสพูด

               “ยังไงก็ได้อีกแล้วนะ นายติดปากคำพูดนี้จัง ถ้าไม่ชอบอะไรก็หัดปฏิเสธบ้าง”

               ไม่รู้ว่าเป็นแค่คำติดปากเพราะขี้เกรงใจเหมือนพ่อ หรือว่าเด็กคนนี้ไม่คิดอะไรเลยจริง ๆ กันแน่ …ส่วนเรื่องเทพปลอมตัวเป็นหญิง

               “ใครจะรู้ ลงทุนเป็นกวาง เป็นวัว เป็นฝนยังมีมาแล้วเลย โอ๊ย ไม่อยากจะคิดภาพ”

               @Mackenzie

               “ยังไงก็ได้.. หมายถึงทั้งสองอย่างเลยฮะ”

               เด็กชายตอบกลับพร้อมกับยิ้มให้ อาจเพราะฌอนไม่เคยบอกว่าตัวตนที่แท้จริงของแม่เด็กคือใคร ก็เลยเป็นใครก็ได้ล่ะมั้ง ยังไงมีแม่เป็นเทพเจ้าก็พิเศษกว่าใคร ๆ อยู่แล้ว จากที่เข้าใจว่าแม่เสียไปแล้วแต่มารู้ทีหลังว่าแม่มีตัวตนเป็นอมตะอยู่บนโอลิมปัส ยังไงอย่างหลังก็ดีกว่าอยู่แล้ว

               แต่จะว่าไป.. เด็กนี่รู้เรื่องตำนานเทพกรีกมากน้อยแค่ไหนกันนะ?

               พอมีสมาชิกร่วมทางเพิ่มมาด้วยอีกหนึ่งก็เผลอสนทนาอย่างออกรสจนถึงเวลามื้ออาหารทั้งสองมื้อ ดีนได้กินเมนูที่อยากลองตอนขามาอย่างจุใจ เผื่อเอาไว้เพราะตอนที่ต่อรถจากชิคาโก้กลับนิวยอร์กจะไม่ได้กินหรูอยู่สบายแบบนี้อีกแล้ว

               จนมาถึงเวลาเข้านอน เชมัสนอนหลับไปก่อนสมกับเป็นเด็กดีจริง ๆ เหลือแต่เพียงผู้ใหญ่สองคนที่ต้องแยกเตียงกันนอนในคืนนี้

               “วันนี้ไม่ได้นอนด้วยกัน นายคงไม่เหงาจนนอนไม่หลับหรอกนะที่รัก”

               นอนตะแคงเอียงข้างกระซิบถามแมคเคนซีที่นอนอยู่บนเตียงตรงกันข้ามที่มีระยะห่างกันเพียงแค่หนึ่งช่วงแขน

               @Mackenzie

               .
               .
               .

               1.34 น.

               แรงสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อยของรถไฟปลุกเดมิก็อดสายเลือดโพไซดอนให้ตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มหลับหูหลับตาคว้าแว่นที่หัวเตียงมาใส่ พยายามลืมตาตื่นขึ้นมามองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าทุกคนยังหลับสนิท

               ‘ปวดฉี่แฮะ…’

               ไม่ต้องคิดให้มากความในเมื่อห้องน้ำส่วนตัวบนรถไฟได้อยู่ภายในห้อง ดีนสไลซ์ตัวลงมาจากเตียงก่อนจะเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวรวมล้างมือไม่ถึงนาทีก็เสร็จ

               “หงิง”

               คงมีเพียงดีนและสิงห์น้อยที่ตื่นอยู่ เขาเห็นมันพยายามเอาตัวมุดผ้าห่มของสัตว์เหมือนกับว่าหวาดกลัวอะไรบางอย่าง และทิศทางที่มันมองออกไปคือหน้าต่างรถไฟ

               ‘จะว่าไป.. ถึงไหนแล้วนะ’

               ดีนเดินไปที่หน้าต่างจากนั้นแง้มผ้าม่านออกดู สิ่งที่เขาเห็นเล่นเอาแทบช็อค มีปีศาจเงือกเกาะอยู่ที่หน้าต่าง มันพยายามทุบกระจกรถไฟอย่างเอาเป็นเอาตายจนกระจกบานหนาสั่นสะเทือน กลิ่นของเดมิก็อดสามคนมารวมตัวกันคล้ายกลิ่นของอาหารมื้อใหญ่ที่กินได้แบบบุฟเฟต์

               “เหวอ!!”

               ดีนร้องออกมาเสียงหลง แต่คนในห้องโดยสารเดียวกันกลับไม่มีใครขยับตัวตื่นลุกขึ้นมาดู ไม่รู้ด้วยทั้งคู่เป็นคนหลับลึก หรือสถานการณ์คนเจอผีก็มักจะเป็นแบบนี้… ปลุกใครไม่เคยตื่น นอกจากตกใจแล้วเขายังสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปีศาจเงือกขึ้นมาเกาะบนกระจกรถไฟได้ยังไง ตอนนี้รถไฟก็วิ่งด้วยความเร็วสูงไม่ใช่เหรอ!?

               ‘ไม่สิ.. แรงสั่นตอนที่ทำให้ตื่นเมื่อกี้คือ…’

               ในตอนนี้ดีนไม่รู้สึกถึงเสียงของล้อรถบดกับราง หรือเพราะรถไฟหยุดวิ่งเจ้าพวกนี้จะตามมาทันกันนะ? หรือไม่ก็อีกอย่าง.. ปีศาจพวกนี้ก็ทำให้รถไฟต้องหยุดชะงักชั่วคราว จากนั้นก็ทุบกระจกลากเอาเดมิก็อดทั้งสามออกไปหม่ำ ๆ กู๊ดเกิร์ลต่อในน้ำ

               แต่จะด้วยเหตุใดก็ช่าง ถ้ารถไฟยังออกวิ่งไม่ได้ล่ะก็แย่แน่ ไม่รู้เสียด้วยว่ากระจกจะทนทานต่อแรงกระแทกได้มากน้อยแค่ไหน บางทีเขาควรจะออกไปจัดการกับมันก่อนที่นางจะทุบกระจกแล้วแห่กันเข้ามาได้ โล่และหอกถูกหยิบจับอย่างรวดเร็วส่วนชุดเกราะช่างแม่ง ถึงจะไม่ใส่เกราะแต่แว่นตาว่ายน้ำค่าสายตาแปดร้อยคือสิ่งที่จำเป็น งานนี้ได้มีฉากต่อสู้ในน้ำแน่!

               จากนั้นรีบหุนหันออกจากตู้นอน เท่าที่สังเกตดูภายในตู้โดยสารขบวนนอนเงียบกริบ มีเพียงเสียงเจ้าหน้าที่ที่ดูเหมือนจะวุ่นวายอยู่ด้านนอก พอจับใจความได้ว่าระบบรางมีปัญหาอะไรสักอย่างถึงทำให้รถไฟต้องชะลอและหยุดวิ่ง แต่ดีนจะมัวแต่หูผึ่งฟังเขาคุยกันไม่ได้ เพราะตอนนี้ชีวิตของแมคเคนซีและเชมัสกำลังตกอยู่ในอันตราย เผลอ ๆ จะเป็นตัวเขาเองด้วย

               ดีนลักลอบออกจากขบวนรถไฟ จึงได้เห็นว่าตอนนี้ขบวนรถจอดอยู่เหนือน่านน้ำของทะเลสาบพอนชาร์เทรน ชายหนุ่มวิ่งไปตามรางอันคับแคบ ยังเห็นปีศาจเงือกเคาะกระจกหน้าต่างรถไฟอยู่เลย หนุ่มโพไซดอนรวบรวมน้ำไว้ที่ฝ่ามือก่อนจะยิงบอลน้ำไปสะกิดปีศาจเงือกพวกนั้น

               “เฮ้!! ที่แกต้องสนใจคือตรงนี้พวก!!”

               “อึก!”

               ปีศาจเงือกสาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนคำรามใส่ ดูเหมือนว่าโปเกม่อนน้ำสู้กับโปเกม่อนน้ำจะตีกันไม่เข้าแฮะ บอลน้ำที่ดีนยิงออกไปถึงได้เบาหวิว มันส่งเสียงกรี๊ดใส่ด้วยคลื่นเสียงแหลมสูงจนหูอื้อ ทำเอาเดมิก็อดหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาใช้กำลังเพียงอึดใจกระโดดลอยตัวขึ้นสูงเพื่อพุ่งหอกใส่มัน

               ทว่า…

               “เฮ้ย!!!”

               ร่างหนึ่งพุ่งกระโจนจากน้ำขึ้นมาด้านข้างรวบตัวของชายหนุ่มลงไปยังผืนน้ำอันเงียบสงบ มันคือปีศาจเงือกอีกตัวที่พยายามกอดรัดเดมิก็อดลงไปกินใต้น้ำ เขาถูกพาดำดิ่งลึกลงไปอย่างรวดเร็ว จากแสงตะวันที่ส่องสว่างอยู่เหนือหัวบัดนี้เขาเห็นเพียงแค่แสงเลือนลาง หากเป็นคนอื่นที่ไม่มีพรหายใจใต้น้ำคงไม่อาจสู้ศึกนี้ไหวแน่ ๆ

               ดีนมองไปที่เจ้าอสุรกาย ใช้กำลังดิ้นขัดขืนออกมาแต่มันกลับรัดเขาแน่นด้วยหางทั้งสองข้าง

               ‘เงือกสายพันธุ์ไหนวะเนี่ย ตอนที่เจอกับเจโรมไม่ได้หน้าตาแบบนี้นี่!’

               ในเมื่อใช้กำลังกายไม่ได้คงต้องใช้กฎฟิสิกส์เสียหน่อย ถึงเป็นอสุรกายแต่คงไม่อาจต้านทานกฎของธรรมชาติได้หรอก

               ‘จะไหวไหมนะ… ตรีศูลน้อย’

               ดีนควบคุมมวลน้ำที่อยู่รอบตัวให้เชื่อฟัง เสกตรีศูลน้อยให้ปรากฏอยู่เบื้องหน้า จากนั้นใช้พลังควบคุมเพิ่มแรงกดดันมหาศาลไปที่ร่างอสูรสาว ปีศาจเงือกเริ่มดินทุรนทุรายด้วยอาการหายใจไม่ออก จากมวลน้ำมหาศาลที่บีบอัดจนมันปล่อยอ้อมกอดอันเย็นเฉียบออก แต่ถ้าไม่กำจัดให้สิ้นคงก่อเรื่องอีก สายเลือดแห่งโพไซดอนจึงไม่ผ่อนพลังซ้ำยังใช้มันมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น... จนกระทั่งสภาพสุดท้ายของปีศาจเงือกสองหางไม่ต่างจากบล็อบฟิช ร่างนั่นสลายไปเหลือแต่สินสงครามที่ลอยเท้งเต้งขึ้นมาเหนือผืนน้ำ

               ‘เหลืออีกตัว’

               ดีนควบคุมน้ำส่งแรงดันที่ใต้ขา เขายังไม่อยากมีสภาพเหมือนอสุรกายที่ตายไปจึงเสกฟองน้ำล้อมตัวเองไว้ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นสูงเหนือน้ำในเวลารวดเร็ว

               “เฮ้! ฉันกลับมาแล้ว!!”

               ไม่ทันสิ้นเสียงหอกสัมฤทธิ์ก็พุ่งทะลุร่างของอสุรกายอีกตัว มันส่งเสียงกรี๊ดแหลมสูงอีกครั้งก่อนสิ้นชีพแล้วเหลือไว้เพียงสินสงคราม

               “อุก.. เวียนหัวชะมัด”

               ชายหนุ่มทรุดตัวโซเซ ใช้แขนค้ำยันตู้รถไฟเอาไว้ เมื่อครู่เขาใช้พลังมากเกินไป อาจเพราะจำนวนน้ำมหาศาลยากจะควบคุม หรือไม่ก็จากการเคลื่อนที่ขึ้นสู่ผืนน้ำอย่างรวดเร็วเกินไปจนร่างกายปรับสภาพตามไม่ไหว แม้ว่าเขาจะเสกฟองน้ำกันไว้อีกหนึ่งชั้นแล้วก็ตามที แต่จะปล่อยให้ตัวเองหมดสติตอนนี้ไม่ได้ เขาได้ยินเสียงการซ่อมแซมรางว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาที่ต้องรีบกลับไป ดีนใช้พลังทำให้ตัวแห้งก่อนจะปีนขึ้นตู้รถไฟทางประตูเก่า พยายามเดินสะโหลสะเหลกลับไปทางห้องพักจากนั้นทรุดตัวลงตรงเบาะนอนของออมเล็ต

               “อ๊าววว” แมวยักษ์ตัวน้อยเข้ามาเลียใบหน้า ส่วนดวงตาของดีนค่อย ๆ ปิดปรือ เขาตบสีข้างของมันบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร ก่อนจะสลบไปทั้งอย่างนั้น

สินสงคราม: น้ำตาเมลูซีน 10 ชิ้น


แสดงความคิดเห็น

ดี: 4.0
49. Seamus Catt & Shine Muscat ?M -11.12.24 / 09:30AM.- [ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ] หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดก็ถึงเวลาต้  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2024-12-16 13:45
God
ดี: 4
  โพสต์ 2024-12-16 07:35
โพสต์ 47505 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-12-16 02:31
โพสต์ 47,505 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก แจ๊กเก็ตยีนส์  โพสต์ 2024-12-16 02:31
โพสต์ 47,505 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก แว่นตา  โพสต์ 2024-12-16 02:31
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-12-16 13:45:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mackenzie เมื่อ 2024-12-16 15:19
Dean ตอบกลับเมื่อ 2024-12-16 02:31
243การเดินทางไกลของสามหนุ่มสามมุม
               11/12/2024 - 9.30 น. ...

49.1. Seamus Catt & Shine Muscat ?
M

-11.12.24  /  09:30AM.-

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดก็ถึงเวลาต้องบอกลาครอบครัวอันแสนอบอุ่นของดีนที่ซานอันโตนิโอและเดินทางกลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดกันเสียที ซึ่งรอบนี้มีเดมิก็อดน้อยนามว่า ‘เชมัส แคตต์’ ร่วมเดินทางไปกับพวกเขาด้วย ซึ่งแมคเคนซีเองรู้เพียงแค่ว่าคนรักของเขารับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กและคอยสอนการบ้านให้เซมัสช่วงที่พวกเขาอยู่ซานอันโตนิโอ แต่เรื่องที่ว่าดีนรู้ได้อย่างไรว่าเด็กชายคือเดมิก็อด
นั้นคงต้องให้เจ้าตัวเล่าให้ฟังในภายหลัง

แมคเคนซียิ้มเล็กน้อยมองดีนกอดลาผู้เป็นแม่ราวกับเด็กที่กำลังถูกส่งไปเข้าค่าย (ซึ่งพวกเขาก็กำลังจะกลับค่ายจริง ๆ นั่นล่ะ) ซึ่งคุณมาเรียนน่าก็แบ่งปันความอบอุ่นนั้นมาให้เขาและเชมัสด้วย หนุ่มเชื้อสายอังกฤษกอดคุณมาเรียนน่าผู้ซึ่งเปรียบเสมือนแม่อีกคนก่อนจะคลายกอด เมื่อบอกลากันเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็พากันขึ้นรถไฟขบวนที่จะเดินทางไปยังชิคาโก

“ฉันว่าจะอยู่ตรงนี้ก่อน อีกสักพักค่อยออกไป ไม่ก็ไปตอนมื้ออาหารเลย”

แมคเคนซีบอกขณะไปนั่งตรงที่นั่งริมหน้าต่าง ช่วงนี้ชั้นบนคนน่าจะยังเยอะอยู่

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

สุดท้ายพวกเขาก็ตกลงกันที่ว่าจะนั่งอยู่ในตู้นอนส่วนตัวจนถึงเวลามื้ออาหาร แมคเคนซีจึงนั่งมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างเงียบ ๆ จนกระทั่งเชมัสร้องขึ้นมาว่าเห็น ‘วัวถือค้อน’ เขาจึงมองตามไป ให้ตายสิ นั่นมันอสุรกายไม่ใช่เหรอ ด้วยความเร็วของรถไฟมันคงไม่ทันสังเกตเห็นพวกเขา จากนั้นแมคเคนซีก็ฟังดีนกับเชมัสคุยกัน ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาไม่ใช่คนที่ถูกโรคกับเด็กสักเท่าไหร่ แต่เพราะการมาอยู่ค่ายฮาล์ฟบลัดที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นเด็กเป็นเวลาหลายเดือน จึงทำให้แมคเคนซีคิดว่าตนเองก็พออยู่ร่วมกับเด็ก ๆ ได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนในระดับนึง…ล่ะมั้ง

“หืม…ให้ทายว่าเชมัสเป็นลูกใครน่ะเหรอ”

อยู่ ๆ ก็ถูกชักชวนให้เข้าร่วมวงสนทนาด้วย แมคเคนซีที่กำลังนั่งด้วยท่าสบาย ๆ จึงขยับตัวนั่งดี ๆ ดวงตาสีฮาเซลมองไปทางดีนก่อนจะย้ายไปยังเด็กชายชาวไอรีชที่กำลังมองหน้าเค้าด้วยใบหน้าไร้เดียงสา

“อืม…ถ้าพ่อเป็นมนุษย์ แม่ของเชมัสก็ต้องเป็นเทพีสักองค์น่ะสิ…”

ฉับพลัน ดวงหน้าของหญิงคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในความคิด ผู้ให้กำเนิดที่เขาเจอในภวังค์ที่ร้านเวทมนตร์ในซานอันโตนิโอ ‘เทพีเฮคาที’

บ้าน่า…’

แมคเคนซีส่ายหน้าไปมาไล่ความคิดในหัว ไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับหากตนเองจะมีน้องชายร่วมมารดาเพิ่มอีกคน แต่หากเชมัสเป็นน้องชายของตนจริง ๆ แม่ของเขาน่าจะบอกอะไรสักอย่างหรือฝากฝังเชมัสไว้กับเขาเมื่อยามพบกัน

“ฉันว่า…เชมัสเป็นลูกของเทพีดีมิเทอร์ เพราะชื่อคล้ายพันธุ์องุ่น เทพีคงอยากตั้งชื่อลูกให้เกี่ยวโยงกับพวกพืชพรรณอะไรแบบนี้…”

ไม่รู้ว่านี่ถือเป็นการบูลลี่ชื่อหรือเปล่า แต่พอพูดชื่อและนามสกุลของเด็กชายติดกันทีไรแมคเคนซีก็อดนึกถึงองุ่นไม่ได้ทุกที นี่น่าจะเป็นการคิดวิเคราะห์ที่ตื้นเขินที่สุดครั้งหนึ่งของเขาเลยก็เป็นได้

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละสำหรับที่นี่ ถ้าเป็นลูกแม่ฉันก็ดีเหมือนกัน จูลี่จะได้มีเพื่อนด้วย ช่วงนี้ยิ่งดูเหงา ๆ อยู่”

ใช่…ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทพกรีกมีลูกกับเพศเดียวกันได้ หรือแม้แต่เขาจะมีน้องชายเพิ่มมาอีกคนก็ตาม นึกถึงน้องชายคนเล็กในบ้านแล้วก็เป็นห่วงขึ้นมา ส่วนทางชาร์ล็อตที่ออกไปทำภารกิจแล้วยังไม่กลับค่ายมาจนถึงตอนนี้ก็น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน แม้บางทีจูลี่จะเล่าให้ฟังว่าเธอใช้ช่องทางสัญญาณของไอริสติดต่อมาเป็นครั้งคราวก็ตามที

“เห็นไหม มันก็คล้ายจริง ๆ องุ่นไชน์ มัสคัส ส่วนนี่เชมัส แคตต์”

ว่าแล้วก็ออกเสียงเปรียบเทียบให้ฟังซะเลย จากนั้นก็กลับมาสนใจเรื่องผู้ปกครองของเด็กชายต่อ เมื่อได้ฟังที่เชมัสเล่าก็ถึงกับมุ่นคิ้วอีกครั้ง ‘แม่เป็นคนที่วิเศษที่สุด’ ประโยคนี้คล้ายกับที่พ่อเล่าเรื่องแม่ของเขาให้ฟังไม่ผิดเพี้ยน จะไม่เหมือนก็แค่พ่อของเขาไม่เคยบอกว่าแม่เป็น ‘นางฟ้า’ ก็เท่านั้น ซึ่งแมคเคนซีก็คิดว่าพ่อทำถูกแล้วที่ไม่พูดคำนี้ออกมา งั้นเรื่องที่ว่าเชมัสเป็นน้องชายเขาน่าจะตัดออกไปได้เลย

“ถ้าถึงขั้นต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิง พ่อนายคงชอบเขามากเลยล่ะ”

นึกแล้วก็ยิ้มฝืด ก็นะ…ขนาดเรื่องเล่าในตำนานที่เขาเคยอ่านมา พวกเทพก็แปลงกายเป็นนั่นนี่มาเกี้ยวพาราสีมนุษย์เยอะแยะไป

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

“นายก็พูดไป บอกแล้วว่าฉันแค่เทียบเสียงให้ฟังเฉย ๆ”

จะหัวเราะผสมโรงไปด้วยเดี๋ยวก็จะกลายเป็นการบูลลี่ชื่อเด็กจริง ๆ แต่อยู่ ๆ คำตอบของเชมัสที่พูดขึ้นมาก็ทำเอาแมคเคนซีงงไปเล็กน้อย

“ยังไงก็ได้ของนายนี่…หมายถึงจะเป็นลูกเทพองค์ไหนก็ได้ หรือจะให้เรียกนายว่าเชมัสหรือไชน์มัสคัสก็ได้ล่ะ”

คำถามฟังดูน่าโดนต่อยซ้ำแต่เขาก็สงสัยกับความ ‘ยังไงก็ได้’ ของเชมัสจริง ๆ

“คิดมากตอนนี้ไปก็เท่านั้น เราแค่ทายกันเล่น ๆ เองนี่ใช่ไหม เดี๋ยวถึงค่ายแล้วก็รู้เอง”

ว่าแล้วก็เอนหลังพิงผนังตู้นอนต่อ เจ้าไข่เหลืองที่นั่งเอียงคอฟังคนนั้นทีคนนี้ทีก็อ้าปากหาวเดินไปนอนตรงประจำตัวเอง

[ดูโรลเพลย์ของดีนประกอบ]

เมื่อได้ฟังคำตอบแมคเคนซีก็ยักไหล่เล็กน้อย บางทีนี่อาจไม่ใช่คำพูดติดปาก แต่เป็นความรู้สึกจริง ๆ ของเด็กชายก็เป็นได้ ซึ่งเขาก็หวังว่าเชมัสจะไม่ตอบว่า ‘ยังไงก็ได้ฮะ’ ไปเสียทุกเรื่อง

แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีพระจันทร์ขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง แต่วันนึงก็ผ่านไปเร็วเสมอ และตอนนี้ก็ถึงเวลานอนของพวกเขาแล้ว

“ไม่น่า ห่างกันแค่นี้เอง ฉันนอนมองหน้านายเดี๋ยวก็หลับแล้ว”

ดีที่เชมัสหลับไปแล้ว ไม่งั้นคงได้กลิ่นตุ ๆ หรือเกิดอาการ ‘เหม็นความรัก’ แน่ ๆ พรุ่งนี้พวกเขายังต้องโดยสารรถไฟขบวนนี้ต่อ หลังจากที่นอนมองหน้าคนรักพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักแมคเคนซีก็หลับไปภายใต้แสงอาทิตย์ยามกลางคืน



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 18470 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-16 13:45
โพสต์ 18,470 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก คบเพลิงเวท  โพสต์ 2024-12-16 13:45
โพสต์ 18,470 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เวทมนต์[I]  โพสต์ 2024-12-16 13:45
โพสต์ 18,470 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความศรัทธา จาก ศาสตร์การปรุงยา  โพสต์ 2024-12-16 13:45
โพสต์ 18,470 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-12-16 13:45
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Hydro X
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
แจ็คเก็ต YANKEES
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x13
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x15
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x2
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้