[มหาสมุทรแอตแลนติก]

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×



A T L A N T I C O C E A N












A T L A N T I C O C E A N

มหาสมุทรแอตแลนติก





มหาสมุทรแอตแลนติกเป็นมหาสมุทรที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน 5 

มหาสมุทรของโลก (รองจากมหาสมุทรแปซิฟิก)

ครอบคลุมพื้นที่ตรงกลางระหว่างทวีปแอฟริกา ทวีปยุโรป และทวีปอเมริกา


มหาสมุทรแอตแลนติกครอบคลุมทะเลน้อยใหญ่มากมาย อาธิ

ทะเลบอลติก ทะเลดำ ทะเลแคริบเบียน ช่องแคบเดวิส ช่องแคบเดนมาร์ก

ส่วนหนึ่งของเส้นทางเดรค อ่าวเม็กซิโก ทะเลลาบราดอร์ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ทะเลเหนือ ทะเลนอร์เวย์ ทะเลสโกเทียเกือบทั้งหมด และแหล่งน้ำสาขาอื่น ๆ


..ในโลกของเทพเจ้ากรีก...

เมืองบาดาล 'แอตแลนติส' เป็นสถานที่ประทับของเจ้าสมุทรโพไซดอน 

ก็ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแห่งนี้ด้วยเช่นกัน


ในมหาสมุทรตอนใต้ หากมองจากระยะไกล อาจเห็นอสุรกายขนาดยักษ์

ที่เฝ้าทางเข้าเบอร์มิวด้าอยู่








แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 8407 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-3-30 13:42
โพสต์ 2024-3-31 06:30:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
065
ช่วยดูแลฉันด้วยนะพี่ฮิปโป

             เหนื่อยล้าเหมือนว่าร่างจะแหลกเสียให้ได้ ตอนนี้ดีนคิดถึงเตียงนุ่ม ๆ ในห้องนอนบ้านโพไซดอน และอาหารแสนอร่อยฝีมือเจ๊ฮาร์ปี้เหลือเกิน แต่ความจริงแล้วถ้าเปลี่ยนสถานที่จากค่ายฮาล์ฟบลัดเป็นบ้านเลขที่สองห้าสอง เอนคานโต้ ซานอันโตนิโอ คงจะแฮปปี้กว่านี้เยอะ แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามดีนตอนรีบหาทางออกจากเฮติให้ได้เสียก่อน

             หลังจากที่ชายหนุ่มจัดการกับแม่มดดำที่สนามกีฬาสำเร็จบริเวณรอบ ๆ ก็ดูจะเงียบสงบ เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าหน้าที่เดินตรวจตราบริเวณโดยรอบแต่ไร้สุ้มเสียงของการปะทะ คิดถูกแล้วจริง ๆ ที่บ้าระห่ำบุกฝ่าดงซอมบี้เข้าไปลุยทั้งอย่างนั้น แม้จะเจ็บตัวแต่ก็ถือว่าผลลัพธ์ที่ออกมาค่อนข้างคุ้มค่า เพียงแต่ว่าจะออกไปกจากจุดนี้ได้อย่างไร

             ‘สำหรับคุณเป็นกรณีพิเศษ ขากลับคุณจะต้องนั่งเรือจากเฮติกลับมาที่ท่าเรือนิวยอร์ก และจำเอาไว้ว่าห้ามนั่งเครื่องบินกลับมาโดยเด็ดขาด’

             เขาจำคำแนะนำของไครอนได้ทั้งหมด แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงห้ามนั่งเครื่องบินกลับก็ตามที แต่ดีนไม่ถูกโรคกับเจ้านกเหล็กขนาดใหญ่นั่นอยู่แล้ว มีความประทับใจแรกที่ไม่ดีเอาเสียเลย ถ้าเลือกได้ก็ขอเลือกไม่โดยสารเครื่องบินดีกว่า.. ไหนจะเรื่องค่าใช้จ่ายอีก

             ดังนั้นต้องหาท่าเรือแต่ดีนไม่รู้เลยว่าท่าเรือที่ใกล้ที่สุดที่มีเรือออกเดินทางไปยังนิวยอร์กอยู่ไกลแค่ไหน แม้ตอนนี้เขาจะหลบซ่อนอยู่ในที่กำบังนานพอที่จะรู้ว่ารอบการเดินตรวจตราของทหารจะทุก ๆ กี่นาทีก็ตามที เป็นฮีโร่นี่มันไม่ง่ายเลย เริ่มเข้าใจหัวอกของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ก็ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์ จน หล่อ เป็นฮีโร่แค่ทางการไม่ยอมรับ แล้วผู้นำทางอย่างนกฮูกของเทพีอะธีน่าก็ไม่อยู่ ตอนนี้ดีนเหมือนกับถูกทิ้งเอาไว้กลางทาง

             แต่อย่าเพิ่งสิ้นหวังหากยังไม่ตาย เขามักจะท่องคำนี้เอาไว้เวลาเจออุปสรรค ไม่ใช่ ‘ตายแน่ งานนี้ตายแน่ ๆ’ เพียงอย่างเดียว สุดท้ายเขาก็ทำใจออกจากที่กำบัง แม้ขาจะเจ็บแต่ก็ลอบเร้นออกจากการลาดตระเวนได้สำเร็จ เขาแหงนหน้ามองป้ายถนนเห็นคำว่า ‘Port’ แล้วชี้ไปทางทิศตะวันตกราว ๆ หนึ่งกิโลเมตร หนุ่มผิวน้ำผึ้งครุ่นคิดในใจ คำว่า Port ในภาษาฝรั่งเศส กับ Port ในภาษาอังกฤษจะมีความหมายเดียวกันหรือไม่ เขาไม่รู้แต่ต้องลอง หนึ่งกิโลเมตรถือว่าไม่ไกลเลยสำหรับคนขาดี แต่ดีนเพิ่งจะถูกยิงเฉี่ยวขามาทำให้เขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ช้าลงกว่าเท่าตัว กระนั้นตลอดการเดินทางค่อนข้างราบรื่น ไม่รู้เป็นเพราะเทพเจ้าคอยช่วยเหลือ หรือเป็นเพราะว่าเขาล้มบอสแถวนี้ไปได้แล้วทุกอย่างจึงกลับคืนสู่ความสงบ

             แม้ไร้ศัตรูที่จะมาเป็นอุปสรรคแต่เมื่อมาถึงท่าเรือดีนก็ต้องพบกับความสิ้นหวังเมื่อเรือที่จะไปยังนิวยอร์กเพิ่งออกจากท่าไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน และในช่วงภาวะความไม่สงบเช่นนี้การเดินทางจึงถูกลดรอบลง หากว่าเขาจะกลับไปยังนิวยอร์กต้องรอเรือเที่ยวใหม่อีกทีพรุ่งนี้เลย

             “ทำไมฉันถึงได้ซวยแบบนี้นะ…”

             อยากร้องไห้เป็นบ้าเลย นี่เขาต้องอยู่ที่ปอร์โตแปงซ์อีกหนึ่งวันเลยเหรอ ในเมืองท่ามกลางสงครามขนาดย่อมและปีศาจแรคคูนที่คอยจะมาฉีกทึ้งเนื้อหนังตลอดเวลาแบบนี้เนี่ยนะ.. ท่ามกลางความสิ้นหวังชายหนุ่มหอบเอาร่างสูงสูงหกฟุตอันบอบช้ำของตัวเองไปนั่งทำมิวสิกวีดีโอที่ริมตลิ่ง พลางครุ่นคิดหาทางออกต่อไป…

             ครืนนนน

             “อะไรวะนั่น?”

             เสียงคลื่นแวกน้ำเรียกความสนใจจากชายหนุ่มผู้ท้อแท้กับชะตาชีวิตให้เงยหน้าขึ้นมอง บางสิ่งกำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเล มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงราวกับสปีดโบ๊ทก็ไม่ปาน ไม่รู้เลยว่ามาดีหรือร้ายดีนได้แต่ถอยหนี แต่ไม่ทันจะได้ออกวิ่งสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำไม่ใช่แค่หนึ่งแต่มีถึงสองตัว



             “ตัวอะไรเนี่ย!?...”

             คนที่มัวแต่ตะลึงมองหลุดปากพูดเสียงเบา เบื้องหน้าของเขาคือม้าน้ำ.. ที่ไม่ได้หมายถึงม้าน้ำ แต่เป็นม้าตัวสีฟ้าที่ครึ่งล่างเป็นปลา พวกมันทั้งสองตัวสวมเครื่องทรงสวยงามแพรวพราว ด้านหลังลากเรือกอนโดล่าบุเบาะมาอย่างดี ดูไปก็คล้ายกับม้าน้ำที่รูปปั้นโพไซดอนขี่

             “ฮรี้~~” oO(สวัสดีท่านชายเอลวิน เจ้าสมุทรสั่งให้พวกเรามารับท่านกลับ ทรงขึ้นเรือมาเถิดเพคะ)

             “อะไรนะ?”

             เขาพูดคำว่า ‘อะไร’ ติดกันถึงสามประโยค ในใจครุ่นคิดว่านี่มันเรื่องอะไรกัน? ม้าพวกนี้ดูโหงวเฮ็งน่าจะเป็นพวกฝ่ายดี มันรู้จักชื่อที่พ่อตั้งให้เขาอีกต่างหากแปลว่าน่าจะถูกสั่งมาจริง แต่ด้วยเรื่องเยอะแยะมากมายที่กระหน่ำเข้ามาในชีวิตทำให้ดีนไม่ปักใจเชื่อว่าม้าน้ำสองตัวนี้จะไม่ลากเขาลงไปงาบใต้มหาสมุทร บางทีอาจจะเป็นเวทมนตร์ของแม่มดดำอีกก็ได้

             “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าพวกนายพูดจริง เอ๊ะ.. เดี๋ยวนะ พวกนายพูดได้!?!!!” เหมือนจะรู้ตัวช้า ดีนยิ่งตื่นตกใจเป็นการใหญ่

             “ฮรี้~~” oO(ท่านโพไซดอนกะแล้วว่าท่านต้องไม่เชื่อ มหาเทพจึงฝากข้อความมาขอรับ) ม้าน้ำกระแอมแล้วดัดเสียงโทนต้ำ “ฮรี้~~” oO(เพราะว่าตอนนั้นข้าเสียใจจากแม่เจ้ามาก เลยต้องไปซบอกหนุ่มเกาหลีไงล่ะ)

             “โอ้…” ดีนยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาโตกะพริบปริบ แทบไม่เชื่อหูที่เขาได้ยินความลับนี้ออกจากปากของม้าทะเลจนเรียกเสียงหัวเราะออกมาได้ “โอเค ๆ เชื่อแล้ว …งามหน้าไหมล่ะเนี่ย”

             เขายกมือขึ้นลูบหน้า ก่อนจะค่อย ๆ กัดฟันปีนลงเรือกอนโดล่าที่มารับ เขาแทบจะทิ้งตัวลงนอนทันทีเมื่อสัมผัสเบาะหนังนุ่มนิ่ม

             “พวกนายชื่ออะไร? ฉันดีน.. หมายถึง เอลวิน.. บ้าจริง จะแนะนำตัวไปทำไมกันนะ ยังไงพวกนายก็รู้จักฉันอยู่แล้วใช่ไหม?”

              “ฮรี้~~” oO(ข้าไทร์รีมขอรับ พวกเราเป็นฮิปโปแคมปัสใต้อาณัติท่านเจ้าสมุทร) ม้าทะเลตัวผู้แนะนำตัวก่อน
            
             “ฮรี้~~” oO(ส่วนข้าแกลลี่ย์เพคะ) ตามมาด้วยม้าทะเลตัวเมีย… มั้ง เหมือนเขาจะได้ยินเสียงผู้หญิงตอนที่เธอพูด “ฮรี้~~” oO(ท่านชายพร้อมออกเดินทางหรือยังเพคะ)

              “ฮิปโปแคมปัสสินะ..เอ่ยพึมพำชื่อเผ่าพันธุ์ที่ไม่คุ้นหูก่อนจะเงยหน้าตอบโอเค ฉันพร้อมแล้ว ออกเดินทางกันเลย”

              ดีนหาที่จับ เขากลัวว่าม้าทะเลสองตัวนี้จะซิ่งแรงเร็วทะลุนรกจนพาเขากลิ้งตกจากเรือ ซึ่งเขาคิดถูก.. ม้าสองตัวนี้ซิ่งเร็วพอ ๆ กับเฟอร์รารี่คันหรู จนทำเอาตัวเกร็ง ตอนนี้เขาไม่เห็นอะไรเลยนอกจากกระแสน้ำที่สาดกระเซ็นจนทำเอาเขาเปียกไปหมด แต่มันไม่ได้หนาวอย่างที่คิด ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นชินกับน้ำทะเลมากผิดปกติอาจเพราะสายเลือดของเทพที่ไหลเวียนอยู่ในกาย

              เมื่อออกห่างจากแผ่นดินมาได้ระยะหนึ่ง เขาก็มองเห็นเงาทะมึนของออกไรบางอย่างลอยอยู่เหนือผิวน้ำไกลลิบ แรก ๆ ดีนว่าเป็นเรือเดินสมุทร แต่จากรูปทรงและการขยับเคลื่อนไหวแปลก ๆ ทำให้ชายหนุ่มไม่แน่ใจ

              “ไทร์รีม แกลลี่ย์ นั่นคืออะไรน่ะ?”

              “ฮรี้~~” oO(อสูรทะเลขอรับ มันเฝ้าทางเข้าเบอร์มิวด้าเอาไว้ ทางที่ดีอย่าเข้าไปใกล้มันเลยจะดีกว่าขอรับ)

              ม้าน้ำหนุ่มกล่าว ซึ่งดีนเห็นด้วยกับความคิดนั้น ปล่อยให้เจ้าตัวที่อยู่ตั้งไกลแต่เห็นว่าโคตรใหญ่อยู่ตรงนั้นไปนั่นแหล่ะ เขาคงไม่ซุกซนไปทำอะไรที่เบอร์มิวด้าอยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เฮติก็น่ากลัวจะแย่ เพราะงั้นเขาคงไม่คิดจะไปแหยมกับบอสใหญ่

              ระหว่างไม่มีอะไรทำชายหนุ่มก็ฉีกซองอาหารฉุกเฉินห่อสุดท้ายแล้วหยิบเอาแครกเกอร์ห่วย ๆ มาทานรองท้อง แม้จะมีรสชาติของน้ำทะเลกระเซ็นเข้ามาแต่ก็ดีกว่าปวดท้องหิวตาย ส่วนอาหารอย่างอื่นยังไม่สะดวกจะทานในตอนนี้เขาเลยปล่อยมันไว้อยู่ในถุง แม้เรือเทียมฮิปโปแคมปัสจะเคลื่อนทีรวดเร็วเพียงใดแต่คงไม่ไวเท่ากับเครื่องบิน

              “นี่ พวกเราจะไปถึงนิวยอร์กกันเมื่อไรเหรอ?” ดีนตะโกนถามราชเรือทั้งสอง

              “ฮรี้~~” oO(ด้วยความเร็วสูงสุดน่าจะถึงลองไอแลนด์พรุ่งนี้ช่วงสายเพคะท่านชาย) แกลลี่ย์ตอบ

               “โอ้.. ใช้เวลาเป็นวันเลยแฮะ” แต่หนึ่งวันก็ยังดีกว่าหนึ่งอาทิตย์ อย่างน้อยช่วงเวลาที่เสียไปเขาคงไม่ได้พลาดอะไรในค่าย “ถ้างั้นฉันของีบก่อนนะ ไม่ไหวแล้ว..”

              “ฮรี้~~” oO(รับทราบเพคะท่านชาย)
              
               หลังการขานตอบ ความเร็วของเรือกอนโดล่าก็แล่นช้าลง พี่ม้าทะเลทั้งสองคงซิ่งในระดับที่ให้เขาพอจะนอนหลับได้สบาย ไม่ไหวแล้วร่างกายตอนนี้บอบช้ำเหลือเกิน เมื่อคืนนอนก็เหมือนไม่ได้นอน ดีนหลับตาลงแล้วจากนั้นเขาก็จมสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว…


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 25501 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-3-31 06:30
โพสต์ 25,501 ไบต์และได้รับ +8 EXP +8 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า  โพสต์ 2024-3-31 06:30
โพสต์ 25,501 ไบต์และได้รับ +6 EXP +6 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-3-31 06:30
โพสต์ 25,501 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2024-3-31 06:30
โพสต์ 25,501 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-3-31 06:30
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-6-4 20:42:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Bright เมื่อ 2024-6-5 18:07


◇◆ 86 ◇◆


ภาคสนามของวิชาดร.เวโด การออกเรือไปมหาสมุทรแอตแลนติส ไม่ใช่ครั้งแรก ฉันเคยไปมาตั้งแต่สมัยเรียนป.โท แต่เป็นของดร.เพนนี รถบัสมหาลัยมาถึงโรงแรมเมืองแซนดิเอโกตั้งแต่ 5 โมงเย็นของเมื่อวาน จึงมีเวลาให้พักผ่อนก่อนลงลุยภาคสนามทั้งวัน ไบร์ทเอ็นจอยมากกว่า ๆ พอได้กลับมาอยู่ในชีวิตประจำวันคนธรรมดาเนี่ย


เวลา 03.45 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ทั้งฉันทั้งรูมเมตสาวสวย 'ชาร์บัต' หญิงชาวอัฟกันเจ้าของดวงตาสีเขียว ตื่นขึ้นมาอาบน้ำและหยิบเสื้อกันลมสีน้ำเงินพร้อมกระเป๋ากันน้ำมารอเพื่อนข้างใต้โรงแรม


ขึ้นรถบัสไปท่าเรือทางตอนใต้ของเมืองแซนดิเอโก ซึ่งเป็นฐานทัพของ US Navy ถึงที่ท่าเรือ 04.25 ซึ่งเป็นเวลาที่นัดเช็กชื่อก่อนเรือจะออกในเวลาตี 5 


ไบร์ทเดินแยกออกมายืนสูบพอตคนเดียวก่อนเรียกเช็คชื่อ ฉันเดินไปจุดที่แสงสว่างสลัว ๆ หวนคะนึงคำพยากรณ์แม่หมอเรเชลตัวแทนเทพพยากรณ์แห่งเดลฟี 'ธิดาแห่งโพไซดอน พึงฟัง จงระวัง…..'


พรึ่บ


เสียงลมพัดจนกระดาษหนังสือพิมพ์เก่า ๆ จากพื้นลอยปลิวว่อนเกือบชนหน้าไบร์ท "ลมแรงจังวะ"


เดินผ่านเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ที่ลูกเรือกำลังลำเลียงของกันอยู่ กลับไปยังจุดที่เหล่าพ้องเพื่อนรอเช็คชื่อ พลิกข้อมือดูนาฬิกาแสดงเวลา 04.45 ไบร์ทได้ยินเสียงวี๊ดในหูตามมาด้วยเสียงบางอย่างกระทบกัน 


ฉันรอตามเสียงนั้นไปดูก็พบว่า แถวนี้มืด นั่นจึงทำให้ฉันต้องหยิบไฟฉายส่องไปที่ต้นกำเนิดของเสียง


ลำไฟฉายสว่างจ้าในความมืด สิ่งที่เห็นคือลำตัวของอสุรกายและเมื่อมองขึ้นไปด้านบนฮาร์ปี้กำลังบินรอบตัวชายหนุ่มร่างโปร่งผมน้ำตาลหยักศก กระพือปีกสร้างลมพายุพัดใส่เขาคนนั้น ฉันรู้ได้ในทันทีชัดเจนมาก คนคนนั้นเป็นเดมิก็อด เขาแทงหอกใส่ปีกอสุรกายแล้วพลิกตัวหวดฮาร์ปี้ลงกระแทกพื้น 


จากนั้นคงไม่ต้องเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ฮาร์ปี้โดนซัดนัวยำชุดใหญ่ ไบร์ทอ้าปากเหวอ ชายร่างโปร่งหันควับจ้องฉันเขม็ง 


"เห็นเหรอ"


"เห็นสิ เห็นเต็มสองตา" ถามอะไรของเอ็งฟ่ะเนี่ย ไบร์ทตอบเดมิก็อดผมน้ำตาลหยักศก "เห้ย ทำไร" อีกฝ่ายเดินเข้ามาหาฉัน มือเลื่อนไฟฉายลงส่องเห็นเสื้อคลุมบลูโอเชี่ยนทับเสื้อยืดสีม่วงด้านใน


'SPQR' ตัวอักษรที่ปักกลางเสื้อ "ฉันรู้จักนั่นมัน"


"เธอรู้จักค่ายจู….." 


"ทีมหมาป่าแห่งโรม นายเป็นแฟนบอลของทีมนี้หรอ แล้วทำไมถึงเป็นเสื้อสีม่วงอ่ะ ที่เคยเห็นมันแดงเหลือง" ไบร์ททำหน้างง


"ไม่ใช่โว้ย !" เอ่ยเสียงมีน้ำโห "มันย่อมาจาก Senate and the People of Rome"


"ก็ใช่ไง เลอันโดร ปาเรเดส นักเตะดาวรุ่งในทีมฉันรู้จักนะ" แล้วไอ้บ้านี่มันจะมาขยายความหมาย 'SPQR' ทำไม ฉันไม่ได้โง่นะที่แปลไม่ออก


ร่างโปร่งขมวดคิ้วเข้าใจกันคนละเรื่องกันเลย และยังไม่คุ้นหน้าของหญิงสาวร่างสูง "เธอเป็นเด…."


ติ๊ด ๆๆๆ 


เสียงโทรศัพท์ดังกลางคัน ฉันหยิบมาคุย "ฮัลโหล อาร์มี่ว่าไง"


"แกอยู่ไหน ใกล้ถึงเวลาเช็คชื่อแล้ว"


"เออจริงด้วย กำลังไปขอเวลา สองนาที !" พอกดวางสายฉันมองหน้าเดมิก็อดคนนั้น "จะถามอะไรอ่ะ ถ้าจะถามว่าเป็นนักศึกษาไหมก็ใช่นะ นักศึกษานักล่าปริญญา !" 


ฉันวิ่งสับตีนแตกกลับไปร่วมกับคนในสาขา ปล่อยให้เขาคนนั้นงง


เมื่อเช็คชื่อเสร็จพวกเราขึ้นเรือลำเล็กของสถาบัน เล็กแบบที่มีขนาดพอบรรจุคนได้ 50 คน (เล็กแบบใด งงที่ดร.พูดมาก) แล่นออกน่านน้ำของรัฐแคลิฟอร์เนีย ผ่านหมอกหนา ๆ 


ทุกคนออกมารวมกับบริเวณท้ายเรือ เพื่ออบรมเรื่องการป้องกันภัยบนเรือ จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายไปกินกาแฟ อาหารว่าง และพูดคุยกันพร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้น 


"อีก 1 ชั่วโมงจะถึงจุดที่ 1" 


ฉันก็มาตั้งวงกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งล้วนเป็นคนที่รู้จักกันมากกว่าสามปี อาร์มี่ วิลเลียม มาร์ตินและลินดิส ปาร์ตี้อดีตโควตานักศึกษาต่างประเทศที่ MIT รับอย่างน้อย 


"แมวน้ำนอนบิดขี้เกียจอยู่ที่ทุ่นกลางทะเล ดูดิตลกว่ะ" 


"แล้วท่าบิดอย่างโง่" มาร์ตินหัวเราะ


ไบร์ทสนใจฝูงนกนางนวลที่บินมาเกาะบนเรือ "ไง" 


เมื่อมาถึงจุดที่ 1 วัดคุณภาพน้ำทะเลด้วย CTD ซึ่งวัดความเค็มของน้ำทะเล ความเป็นกรด-ด่าง อุณหภูมิ พร้อมเก็บตัวอย่างนำทะเลในแต่ละความลึกขึ้นมา


จากนั้นสามารถมาอ่านผลบนหน้าจอระหว่างเครื่องกำลังถูกส่งลงไปเก็บข้อมูลใต้ท้องทะเล ซึ่งเป็นการทบทวนความรู้เก่าเพราะทุกคนในนี้ผ่านการเรียนเครื่อง CTD มาหมดแล้ว เพราะแต่ละคนก็มีความรู้ระดับอาจารย์ ไม่อย่างนั้นจะมาเรียนป.เอกกันทำไม 


เรือแล่นออกห่างจากชายฝั่งไปอีก จับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลลึกใช้สิ่งที่เรียกว่าอวนลากแผ่นตะเฆ่ ลูกเรือช่วยกันเอาอวนลงไปในทะเล เพื่อจะจับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก 1,500 เมตร


ทำให้ได้ปูทูน่าสีแดงที่พบบ่อยในเวลาลากอวนทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติส และสัตว์ใต้ทะเลลึกตัวอื่น ๆ 


"โอ้ได้ปลาคิเมียราด้วย" เสียงคนบนเรือ


ในช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตก ก็มีการจับปลาน้ำลึกมาศึกษากันต่อ เนื่องจากปลาน้ำลึกว่ายขึ้นมาหากินอาหารจากแหล่งน้ำลึกหลังพระอาทิตย์ตก จะต้องเตรียมสิ่งที่เรียกว่า IKMT


ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล เพราะพวกเขาต้องนอนค้างบนเรือถึงสามวันสองคืน จะกลับท่าเรือในที่แซนดิเอโกในวันที่สามตอนรุ่งเช้า 


การใช้ชีวิตบนเหล็กลอยน้ำ(เรือ) เหมือนอยู่ห้องพักในหอเป๊ะ ๆ ข้าวฟรี น้ำฟรี ไฟฟรี แอร์ฟรีและมี WIFI ฟรีบนเรืออีก แต่ขนาดของห้องพักไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก 


ปลาบาร์เรลอาย ถูกจับขึ้นมา ปลาหัวใสพบในทะเลลึก 2,000 - 2,600ฟุต ในมหาสมุทรแอตแลนติก "หัวของมันที่มีลักษณะใส ๆ เนื่องจากแสงที่มีน้อยมากในทะเลลึกเข้าไปถึงตาช่วยให้มองหาอาหารได้ง่ายและดีขึ้น" 


ฉันนั่งฟังดร.เวโดบอกกลุ่มนักศึกษา ตลอดทั้งวันเจอสัตว์น้ำใต้ทะเลที่พบเห็นมีทั้งที่คล้ายแพลงก์ตอนตัวบางโปร่งแสง อีกทั้งยังมีกุ้งตัวจิ๋วนับร้อย ๆ ตัว รวมกับปลานานาชนิด


พวกเขาจะมีการเตรียมตู้น้ำเย็นเพื่อให้สัตว์เหล่านี้ได้อยู่ในอุณหภูมิที่คุ้นเคย ซึ่งระหว่างการสำรวจก็มีสัตว์หลายชนิดตายลงก่อนที่จะได้ศึกษา


"ปลาหมึกตัวนี้ตายแล้ว" อาร์มี่บอก


"เป็นเพราะมีกรดในน้ำทะเลเพิ่มมากขึ้น"


"ใช่ ๆ ปริมาณก๊าซ CO2 ในชั้นบรรยากาศเพิ่ม" เสียงแต่ละคนแสดงความรู้ เมื่อเหล่าผู้มีความรู้วิทยาศาสตร์มารวมตัวกันมันก็จะเป็นแบบนี้แหละ


ใช้สมอง 300 IQ 


สัตว์ที่กำลังถกเถียงกันอยู่เป็น Clio pyramidata สัตว์จำพวกปลาหมึกและหอยตัวสามเหลี่ยมปิรามิด


"คุณเอมส์ ยังไม่ไปนอนอีกเหรอ" ดร.ถามฉัน


"ยังไม่ง่วง น่าจะอีกสักพัก" จริง ๆ ฉันพึ่งชงกาแฟกินไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว บอกเลยตอนนี้ตาอย่างแข็ง


ดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าปรากฏให้เห็น เหมือนตัวฉันยืนอยู่ท่ามกลางทะเลดาวสีน้ำเงิน เหนือศีรษะคือท้องฟ้ายามราตรี ด้านล่างเป็นผืนมหาสมุทรแอตแลนติส







แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 51714 ไบต์และได้รับ 30 EXP!  โพสต์ 2024-6-4 20:42
โพสต์ 51,714 ไบต์และได้รับ +1 Point จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2024-6-4 20:42
โพสต์ 51,714 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก GPS ทะเล   โพสต์ 2024-6-4 20:42
โพสต์ 51,714 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมบุรุษ  โพสต์ 2024-6-4 20:42
โพสต์ 51,714 ไบต์และได้รับ +6 EXP +8 เกียรติยศ +6 ความศรัทธา จาก ชุดเครื่องเพชร  โพสต์ 2024-6-4 20:42
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ควบคุมน้ำ
ตรีศูลน้อย
เข็มทิศมหาสมุทร
น้ำหอมบุรุษ
ชุดเครื่องเพชร
หมวกนีเมียน
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
แว่นกันแดด
ปืนอัจฉริยะ L&E
เกราะหนัง
กำไลหินนำโชค
หายใจใต้น้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x17
x2
x3
x2
x3
x3
x20
x4
x6
x1
โพสต์ 2024-6-5 19:11:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด

◇◆ 87 ◇◆


คลื่นลมทะเลไม่แน่นอน แปรปรวนอารมณ์ราวกับผู้ปกครองใต้ท้องทะเล ใช่…..ฉันจะสื่อถึงเทพโพไซดอนพ่อของฉันเองเนี่ยแหละ


ในห้องพักรูมเมตออกไปทานข้าวเช้า ไบร์ทล็อกประตูก่อนรูดซิปกระเป๋า ฮาร์ปี้ตัวน้อยที่ยังไม่โตเต็มวัยบินออกมาเล่น "พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว อดทนหน่อยละกัน" ตัวกะเปี๊ยกเดียวจะเอาแรงที่ไหนไปสู้อสุรกายได้


ฮาร์ปี้น้อยอ่อนแอ่ ฉันเม้มริมฝีปากก่อนนึกถึงวิธีจะเพิ่มพลังแก่มอนเตอร์ วางหูฟังบลูทูธบนโต๊ะแล้วภาวนาถึงมหาเทพแห่งโอลิมปัส แพ็กของลงใส่กล่องปิดด้วยม้วนเทปเฮอร์มีสที่ซื้อจากร้านดรักม่า "นอกจากหูฟังบลูทูธที่ฉันถวายให้ เกียรติยศที่ฉันสะสมจากการปราบอสุรกายและชื่อเสียงทั้งหมดขอมอบเทพซุส"


"ตัวฉันไม่ได้มีความปรารถนาที่จะเป็นคนมีชื่อเสียงอะไร ฉะนั้นจึงเหมาะแก่การเชิดชูมหาเทพมากกว่า"


"และแปรเปลี่ยนเป็นพลังแก่เจ้าหญิงน้อย ฮาร์ปี้ที่ฉันเลี้ยงดูอยู่แทน" ฉันพูดจนจบประโยคกล่องบรรจุของหายไปต่อหน้าต่อตา 


"เธอรออยู่ที่ห้องเหมือน ฉันต้องออกไปแล้วล่ะ"


ไบร์ทออกห้องพักมาทานอาหารเช้าก่อนเริ่มเรียนสมุทรศาสตร์ชีววิทยา ลูกเรือลานอวนจับวาฬเพชฌฆาตขึ้นมาบนเรือ 


"ตัวนี้เป็นตัวผู้"


"น้ำหนัก 6 ตัน" 


"มันน่าจะหลงฝูงมา" วิลเลียมเอ่ย "เพราะเจ้าวาฬออก้า ปกติพบได้ที่แถบอาร์กติกและแอนตาร์กติกา กระแสน้ำใต้ทะเลคนละแถบกันเลย ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ" 


"ฉันเห็นด้วยกันวิลเลียม" 


ทะเลมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ ไบร์ทคิดตามคำพูดเพื่อนชาย ก่อนจดเลคเชอร์ลงบันทึกเล่มเล็ก ๆ 


อวนถูกดึงขึ้นอีกรอบเผยร่างสัตว์ใต้ท้องทะเลความลึกกว่า 1,000 เมตรขึ้นไป หมูทะเล สัตว์ตระกูลปลิงทะเล มันกินพวกเศษซากพืช ซากสัตว์  ลำตัวมีลักษณะอ้วนกลม ผิวสีชมพู มีปากที่คล้ายจมูกหมู มีระยางที่อยู่บริเวณส่วนท้อง ฉันเก็บมันลงใส่ตู้น้ำเย็นก่อนมันจะตาย เพื่อนำกลับไปที่มหาลัยและวิจัย


สิ่งมีชีวิตแห่งท้องทะเลลึกสายพันธุ์ไอโซพอดสัตว์จำพวกครัสเตเชียนกลุ่มหนึ่ง ถูกจับลงตู้น้ำเย็นเช่นกัน ปรสิตในช่องปากของปลาทะเลรูปร่างเห็นแล้วกินไม่ลง


"ทำไมคนถึงกินปรสิตตัวนี้ มันน่ากินตรงไหนวะ" ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ 


"พวกคนเอเชียนิยมกินกันนี่ ราเมนไอโซพอดยักษ์แค่ได้ยินชื่อก็จะอ้วก" อาร์มี่กระซิบบอกฉัน "คนแม่งก็แปลกแห่กันไปกิน"


"เออ"


ไบร์ททอดสายตามองน้ำทะเลสีครามที่มีฝูงโลมาทักทาย ฉันสามารถฟังสิ่งที่พวกโลมาพูดได้


'ระวัง ระวัง ระวัง'


'เรือกำลังไปทางถิ่นของอสุรกาย' โลมาส่งเสียงวิ้ด ๆ เตือน 


"อสุรกาย ห่ะ" ฉันทวนประโยคที่ได้ยินจากโลมาฝูงใหญ่ น่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติสเขตปกครองของโพไซดอนมีอสุรกายด้วยเหรอ


"ไอ้ไบร์ทยืนคุยกับใครคนเดียว เข้ามาหลบฝนก่อน" 


จากที่ท้องฟ้าอากาศแจ่ม มวลเมฆมืดครึ้ม คลื่นลมแรงขึ้นกะทันหัน เรือโคลงเครงน่าหวาดเสียว


นกหวีดเสียงสั้น ๆ ติดกันเจ็ดครั้งและตามด้วยเสียงยาวอีกหนึ่งครั้ง เป็นสัญญาณว่าเรือกำลังมีปัญหาในเวลาฉุกเฉิน 


"ทุกคนกลับห้องพัก" กัปตันแจ้ง


ดร.เวโดเองก็พยายามทรงตัวจากคลื่นลมพายุที่โครงเครงบอกนักศึกษา ดูเหมือนว่าอยู่ดี ๆ ก็เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็สภาพอากาศปกติไม่มีการรายงานแจ้งจากกรมอุตุวิทยา


เกิดปรากฏการณ์พายุงวงช้างขนาดใหญ่กลางทะเล ดูดน้ำขึ้นไปบนท้องฟ้า ไบร์ทมองหน้าต่างเรือเห็นอันตรายด้านนอก 


เมื่อมีลมพัดแรงเข้าหาบริเวณศูนย์กลางของพวยน้ำยอดของพวยน้ำจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วอย่างมาก ฉันได้ยินเสียงอสุรกายร้องคำรามดังกึกก้องหู 


สัตว์ประหลาดคล้ายหมึกกล้วยขนาดยักษ์โผล่ขึ้นจากน้ำ


ไบร์ทรู้ดีว่านอกจากความเวิ้งว้างของผืนน้ำแล้ว ความน่าสะพรึงกลัวของท้องทะเล คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ผืนน้ำอันเป็นปริศนานั้น 'คราเคน'


ฉันไม่รู้ทำไมถึงมีไอ้ตัวเวรนี่โผล่มา เป็นเพราะได้กลิ่นเลือดเดมิก็อดหรือบังเอิญซวยเจอ ซึ่งไม่ว่าจะทางไหนแม่งก็แย่ทั้งคู่ ภายนอกมองเห็นเป็นพายุใหญ่ซัดคลื่นอย่างน่ากลัวจะเรือล่ม


สถานการณ์ฉุกเฉินถูกประกาศออกไป และดูเหมือนว่ากัปตันจะตัดสินใจเฉียบขาด ไม่เลือกที่จะฝ่าพายุ และหันหัวเรือกลับ


พวกฉันโล่งใจกันมาก เกือบได้กลายเป็นผู้ประสบภัย



หูฟังบลูทูธ

BELIEVER (ผู้ศรัทธาเหล่าเทพ) โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15


ข้า ไบร์ท เอมส์ ขอถวายเกียรติยศแก่เหล่าเทพ แก่เทพ มหาเทพซุส ผู้นำเทพแห่งโอลิมปัสทั้งปวง


จำนวนเกียรติยศที่มอบให้: 7000 เกียรติยศ

(ทุก ๆ 1000 เกียรติยศ = +30 EXP, +5 ความโปรดปรานต่อเทพองค์นั้น) 

มอบให้ฮาร์ปี้ทั้งหมด EXP





แสดงความคิดเห็น

God
ฮาร์ปี้ได้รับความโปรดปรานจากซุส +35 และค่าประสบการณืเติบโต 210 EXP  โพสต์ 2024-6-5 21:08
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-01] ซุส เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 2024-6-5 21:08
God
คุณได้รับ --7000 เกียรติยศ โพสต์ 2024-6-5 21:07
God
เกียรติยศทั้งหมดมอบให้ในนามฮาร์ปี้  โพสต์ 2024-6-5 21:07
โพสต์ 40455 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-6-5 19:11
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ควบคุมน้ำ
ตรีศูลน้อย
เข็มทิศมหาสมุทร
น้ำหอมบุรุษ
ชุดเครื่องเพชร
หมวกนีเมียน
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
แว่นกันแดด
ปืนอัจฉริยะ L&E
เกราะหนัง
กำไลหินนำโชค
หายใจใต้น้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x17
x2
x3
x2
x3
x3
x20
x4
x6
x1
โพสต์ 2024-12-28 10:10:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Elina LetaniaStay with me, I'm afraid of my soul "Life flows like water; to live is to adapt and transform."


เรือไม้ลำเล็กของเด็กหญิงตัวน้อย เอลิน่า เลทาเนีย ล่องลอยอย่างสง่างามบนเกลียวคลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ลมเย็นพัดผ่านผิวทะเล สะท้อนแสงพระอาทิตย์ราวกับพื้นน้ำเป็นกระจกเงิน เธอจับพายไม้ในมือแน่น ริมฝีปากเล็กกระซิบคำเพลงกล่อมโลกในภาษาของชนเผ่าโบราณที่เธอเรียนรู้จากแม่ของเธอ

แต่แล้ว...

เสียงกรีดร้องแหลมสูงดังขึ้นจากเบื้องบน!

เงาทะมึนจากปีกที่แผ่กว้างปกคลุมเรือ เอลิน่า เงยหน้ามองด้วยดวงตาเบิกกว้าง เธอเห็นร่างของ ฮาร์ปี้ อสุรกายร่างครึ่งนกครึ่งมนุษย์ สายตาดุร้ายสีแดงฉานจ้องมองเธอเหมือนเหยื่อ มันกระพือปีกขนาดมหึมา ส่งแรงลมจนเรือเล็กโยกเยก

"เจ้ามนุษย์น้อย!" ฮาร์ปี้ตะโกนเสียงแหลม "มหาสมุทรแห่งนี้เป็นของข้า ใครล้ำเขตแดนมาจะต้องชดใช้!"

เอลิน่า ไม่หวั่นไหว เธอรีบหยิบ หอกฮาลต้า อาวุธศักดิ์สิทธิ์ซึ่งตกทอดจากบรรพบุรุษ หอกเล่มนี้ส่องประกายอ่อนๆ เหมือนมีชีวิต

"ฉันไม่กลัวแกหรอก เจ้าสัตว์ร้าย!" เธอตะโกนกลับด้วยน้ำเสียงทรงพลังเกินตัว แม้หัวใจจะเต้นรัว

ฮาร์ปี้กรีดร้องอีกครั้งก่อนโฉบลงมาด้วยความเร็วปานสายฟ้า!

เอลิน่า กระโดดหลบอย่างคล่องแคล่ว เธอพลิกตัวอย่างแผ่วเบาเหมือนกำลังเต้นรำ ปลายหอกในมือปัดป้องกรงเล็บแหลมคมของฮาร์ปี้ได้ทันเวลา

"มาดูกันว่าเจ้าแกร่งแค่ไหน!" ฮาร์ปี้หัวเราะเยาะ

เด็กหญิงกัดฟันแน่น เธอกระชับหอกในมือ "ฉันจะปกป้องเรือลำนี้และมหาสมุทรของฉัน!"

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ฮาร์ปี้พุ่งโฉบไปมาเหมือนเงาสายฟ้า แต่ เอลิน่า ใช้ทักษะอันช่ำชองในการหลบหลีกและจู่โจมสวนกลับ

ในจังหวะที่ฮาร์ปี้พุ่งเข้ามาอีกครั้ง เธอหมุนตัวและแทงหอกฮาลต้าทะลุเข้าที่ปีกของมัน!

"อ๊ากกก!" ฮาร์ปี้ร้องลั่น ร่างของมันสั่นสะท้านก่อนร่วงลงกระแทกผิวน้ำ เกิดระลอกคลื่นใหญ่

เอลิน่า ยืนนิ่งบนเรือ หายใจหอบเหนื่อย เธอจ้องมองลงไปยังผิวน้ำที่เริ่มสงบ ร่างของฮาร์ปี้จมหายไปในมหาสมุทร

"ขอบคุณนะ...ฮาลต้า" เธอพึมพำเบาๆ ลูบหอกในมือด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง

แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนผืนน้ำอีกครั้ง พร้อมกับความสงบสุขที่กลับคืนมา เรือของ เอลิน่า ล่องลอยไปยังขอบฟ้า ราวกับมหาสมุทรแห่งนี้รับรู้ถึงหัวใจที่กล้าหาญของเด็กหญิงตัวน้อย...
ภาพการต่อสู้จากในระบบ เด็กหญิงเอลิน่า Vs ฮาร์ปี้ Lv. 20 ผลการต่อสู้ เด็กหญิงเอลิน่า เลทาเนีย เป็นฝ่ายชนะไป
#หมายเหตุ: เรือของเด็กหญิงเอลิน่า เลทาเนีย ลูคัส และเซลีน แล่นถึงบริเวณมหาสมุทรแอนแลนติกเหนือ และพบกับอสูรกายฮาร์ปี้ Lv. 20 และ เอลิน่าได้ทำการต่อสู้จนได้รับชัยชนะ



"Every wave tells a story, and every drop contains a universe." the world will stain us with a scarlet cross
✿ Elli

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 9637 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 10:10
โพสต์ 9,637 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2024-12-28 10:10
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สายน้ำเยียวยา
หอกฮาลต้า
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
สัมผัสแห่งกระแสน้ำ
กระซิบแห่งท้องน้ำ
ลมหายใจสมุทร
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x12
x2
x1
x4
x2
โพสต์ 2024-12-28 13:48:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Elina LetaniaStay with me, I'm afraid of my soul "Life flows like water; to live is to adapt and transform."


ท้องทะเลครามส่องแสงระยิบระยับ ทว่าความเงียบสงบนี้เป็นเพียงเบื้องหลังของเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ เด็กหญิงเอลิน่า เลทาเนีย ผู้ถือดาบสีเงินในมือ ยืนหอบหายใจบนดาดฟ้าเรือหลังจากการต่อสู้กับฮาร์ปี้ระดับ 20 สิ้นสุดลง

"เอลิน่า! เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" ลูคัส เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งเอ่ยถาม ขณะที่เขารีบวิ่งเข้ามาดูอาการของเธอ

เอลิน่ายิ้มบาง ๆ ทั้งที่ยังหอบ "ฉันโอเค...แค่เหนื่อยหน่อย แต่มันคุ้มค่า"

เซลีน หญิงสาวผู้มีสายตาเฉียบคม เดินเข้ามาพร้อมผ้าเช็ดหน้าในมือ "เธอทำได้ดีมากเอลิน่า ฮาร์ปี้ตัวนั้นไม่ใช่ศัตรูธรรมดา" เธอพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "แต่ตอนนี้เราต้องเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น"


---

จุดหมายเหนือมหาสมุทรแอตแลนติส

ไม่นานหลังจากนั้น เสียงเครื่องยนต์ของเรือก็ดับลง พวกเขาลอยลำอยู่ตรงพิกัดที่ระบุไว้ในแผนที่โบราณ เซลีนกวาดตามองผิวน้ำที่เงียบสงบ

"นี่แหละ จุดที่เรือขนส่งโรมันอัปปาง" เธอกล่าวพลางหันไปมองเอลิน่าและลูคัส

"ตามตำนาน สมบัติของจักรพรรดิองค์สุดท้ายยังคงอยู่ใต้มหาสมุทรนี้" ลูคัสเสริม พลางหยิบเข็มทิศและเครื่องมือนำทางออกมา

"ถ้าอย่างนั้น อย่ามัวรอช้า" เอลิน่าเอ่ย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "เรามาเริ่มกันเลย"


---

ดำดิ่งสู่โลกใต้สมุทร

พวกเขาทั้งสามคนเตรียมตัวอย่างรอบคอบ เสื้อดำน้ำสีดำแนบลำตัวช่วยให้เคลื่อนไหวสะดวก อุปกรณ์ดำน้ำและไฟฉายถูกเตรียมพร้อม ก่อนที่พวกเขาจะกระโดดลงสู่ความมืดมิดของมหาสมุทร

เมื่อแสงไฟฉายแตะต้องพื้นทรายใต้สมุทร ความลึกลับของโลกใต้น้ำก็เผยตัว เอลิน่ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ ขณะที่พวกเขาค่อย ๆ สำรวจบริเวณนั้น

"ดูนั่น!" ลูคัสชี้ไปยังซากเรือโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ชั้นทราย

ซากเรือขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างโบราณเด่นชัดยังคงสง่างาม ลวดลายแกะสลักบนไม้บอกเล่าเรื่องราวของอดีตที่เต็มไปด้วยความรุ่งเรือง


---

หีบสมบัติและภารกิจกู้ทองคำ

เมื่อพวกเขาเข้าสู่ซากเรือ เอลิน่าสังเกตเห็นตราประทับจักรพรรดิบนประตูเหล็กที่ผุกร่อน ลูคัสและเซลีนช่วยกันเปิดมันออก ด้วยการร่ายเวทมนตร์และการใช้เครื่องมือ

"นั่นไง หีบสมบัติ!" เซลีนร้องออกมา เมื่อพวกเขาเห็นหีบไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกล่ามด้วยโซ่สนิม

เอลิน่าเข้าไปใกล้ พร้อมดาบในมือ เธอฟันโซ่สนิมจนขาดออกจากกัน พวกเขาเปิดหีบออก และทันใดนั้น แสงสีทองก็เปล่งประกายออกมา

"นี่คือ...ทองคำของจักรพรรดิ" ลูคัสเอ่ยด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

พวกเขารีบขนทองคำและสมบัติล้ำค่าต่าง ๆ กลับสู่เรือของตัวเองอย่างระมัดระวัง ใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าที่จะนำสมบัติทั้งหมดขึ้นมาได้สำเร็จ


---

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่

เมื่อพวกเขากลับมาบนเรือพร้อมสมบัติ เอลิน่านั่งลงบนดาดฟ้า ถอนหายใจอย่างโล่งอก

"เราไม่เพียงแค่ค้นพบสมบัติเท่านั้น แต่เรายังเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างได้ด้วยตัวเราเอง" เธอกล่าว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

"ใช่แล้ว เอลิน่า" เซลีนกล่าวพลางวางมือลงบนไหล่ของเธอ "และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของเรา"

เรือแล่นออกจากจุดนั้น พร้อมกับสมบัติที่พวกเขากู้มาได้ และอนาคตที่เต็มไปด้วยความหวัง...
#หมายเหตุ: เรือ ของ เด็กน้อยเอลิน่า เลทาเนีย ลูคัส  และเซลีน หยุดแล่น ทั้งสามคนเตรียมตัวและลงดำน้ำสู้ใต้สมุทรเพื่อสำรวจด้านใต้หาเรือขนส่งกรุงโรมที่อัปปาง
#หมายเหตุ: (2) เด็กหญิงตัวน้อยเอลิน่า เลทาเนีย ทำการโรลเพลย์เพื่อสุ่มทองคำจักรพรรดิจากเลขไบต์สองหลักสุดท้าย


"Every wave tells a story, and every drop contains a universe." the world will stain us with a scarlet cross
✿ Elli

แสดงความคิดเห็น

God
ได้รับทองจักรพรรดิ 40 ก้อน  โพสต์ 2024-12-28 14:33
โพสต์ 13540 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 13:48
โพสต์ 13,540 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 13:48
โพสต์ 13,540 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2024-12-28 13:48
โพสต์ 13,540 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก ลมหายใจสมุทร  โพสต์ 2024-12-28 13:48
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สายน้ำเยียวยา
หอกฮาลต้า
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
สัมผัสแห่งกระแสน้ำ
กระซิบแห่งท้องน้ำ
ลมหายใจสมุทร
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x12
x2
x1
x4
x2
โพสต์ 2025-3-14 22:49:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-3-19 04:22

302
วันเหงา ๆ บนเรือยอร์ช

               07/02/2025

               วันและเวลาอันน่าเบื่อหน่ายบนเรือยอร์ชผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียเหลือเกินเมื่อไม่มีอะไรทำ กิจวัตรประจำวันในช่วงสองสามวันมานี้ไม่พ้นตื่นนอน ยืดเส้นยืดสายเอ็กเซอร์ไซร์บนเรือ กินอาหารเช้า นอนไถสมาร์ทโฟน (ตรวจเช็คข่าวสารประจำวัน) กินอาหารกลางวัน นอนไถสมาร์ทโฟน (ทวิตด่ารัฐบาลสหรัฐฯ ที่ทำเรื่องโง่ ๆ วันเว้นวัน) กินอาหารเย็น อาบน้ำ นอนไถสมาร์ทโฟน (แชทกับที่รัก) แล้วก็นอนหลับ

               อาจถือว่าโชคดีก็ได้ที่อย่างน้อยสัญญาณไวไฟของโทรศัพท์เดดาลัสก็ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้จะอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแต่เครือข่ายแรงดีไม่มีตก คลิปหมาแมวในยูทูปช่วยเยียวยาชีวิตแต่ละวันให้ยังพอมีรอยยิ้ม แต่ที่น่าเบื่อหน่ายมากจริง ๆ เลยคืออาหารการกินที่ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าอาหารกระป๋องชืด ๆ ที่ซื้อมาตุนไว้ตั้งแต่ตอนขึ้นเรือ

               เมื่อออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติกคลื่นลมทะเลได้พัดโหมกระหน่ำซัดเข้าหาเรือลำน้อยอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งอาจเหมือนอารมณ์ของเจ้าสมุทรในตอนนี้ที่ไม่คงเส้นคงวา เหล่าฮิปโปแคมปัสลากเรือเปล่งออร่าบางอย่างออกมาล้อมรอบเรือเอาไว้เพื่อคุ้มกันไม่ให้คลื่นยักษ์โหมใส่เรือจนล่มจม ดีนเคยทำรายงานเรื่องสารพัดม้าส่งให้ไทสัน การบรรเทาคลื่นลมก็ถือเป็นหนึ่งในความสามารถเฉพาะตัวของฮิปโปแคมปัสด้วยเช่นกัน กระนั้นความโคลงเคลงของเรือก็ทำให้เมาเรือได้ง่าย

               “โอ้กกกกก”

               วูล์ฟเฟีย.. ก๊อบลินน้อยจากแดนทะเลทรายไม่คุ้นกับการออกทะเลมากที่สุด จากใบหน้าที่เขียวอยู่แล้วยิ่งซีดเซียวเขียวอี๋ยิ่งกว่าเดิมเมื่อมันเมาทะเล เจ้าตัวเล็กผูกเชือกไว้กับเอวแล้วเกาะกาบเรือยอร์ชโก่งคออ้วก แล้วปล่อยร่างที่หมดแรงแกว่งไปแกว่งมาตามแรงโคลงของเรือ

               “เจ้าตัวเล็กไม่ไหวแน่ ๆ กว่าจะไปถึงลองไอแลนด์น่าจะอีกตั้งอาทิตย์นึง”

               “ฮรี้?” oO(งั้นหากให้ข้าพามันบินไปแทนล่ะ? เจ้าจิ๋วไม่เมาม้า)ควีนเสนอ แม้คำว่า 'เมาม้า' จะทำให้ดีนรู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย...

               “บินไป? เธอจะบินไปไหวเหรอ มหาสมุทรแอตแลนติสมันไกลมากนะ แถมไม่มีที่ให้ยืนพักด้วย” ดีนถาม เอาเข้าจริงเขาก็แอบสงสัยว่านางบินข้ามสมุทรจากเกาะอังกฤษมาถึงนิวยอร์กได้อย่างไร

               “ฮรี้” oO(ไว้ข้าหมดแรงค่อยลงจอดบนเรือแล้วกัน)

               “อืม…” ดีนกุมคางใช้ความคิด คงไม่มีวิธีไหนที่จะดีไปกว่าวิธีนี้แล้วจริง ๆ “ไม่ลำบากเธอใช่ไหม?”

               “ฮรี้” oO(ไม่ อีกอย่าง.. ให้ข้าได้ยืดเส้นยืดสายบ้างดีกว่าอยู่เฉย ๆ บนเรือจนเป็นง่อย) วาจายังคงรุนแรงเหมือนเดิม

               “โอเค ถ้าเธอไม่ลำบากก็เอาตามนั้น ฉันจะให้ฮิปโปแคมปัสลดความเร็วลงหน่อยจะได้บินตามกันทัน”

               เมื่อตกลงกันได้แล้วดีนจึงไปสั่งเหล่าฮิปโปแคมปัสลูกสมุน (ของพ่อ) อาจไปถึงช้านิดหน่อยแต่ดีกว่ามีใครไม่สบายจนตายไปจริง ๆ

               การเปลี่ยนรอบฮิปโปแคมปัสลากเรืออยู่ที่นอกชายฝั่ง 'เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้' คราวนี้ดีนไม่ได้ขี่ควีนไปเที่ยวเล่นต่อเพราะว่าเพกาซัสสาวบินตามเรือมาหลายชั่วโมงน่าจะเกิดอาหารเพลียเป็นทุนเดิม ดีนจึงใช่เวลาที่น่าเบื่อหน่ายอันยาวนานทำเรื่องเดิม ๆ อย่างที่เคยทำมาตลอดหลายวันซึ่งนั่นคือการจ้องจอโทรศัพท์มือถือ

               ยิ่งใกล้วันวาเลนไทน์ดูเหมือนว่าเหล่าวัยรุ่นจะตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ หลายคนเตรียมคอนเทนต์วันวาเลนไทน์เพื่อสร้างยอดไลค์ในหน้าโซเชียลล่วงหน้า ตามกระทู้ในเรดดิทถามหาสถานที่เดตหรือวิธีการเซอร์ไพรส์แฟนกันให้ควั่ก

               “น่าอิจฉาคนได้อยู่กับแฟนชะมัด…”

               เสียงทุ้มเอ่ยยานคางด้วยความอิจฉาอย่างสุดหัวใจ ไหงวาเลนไทน์แรกของการมีแฟนทั้งเขาและคนรักถึงได้อยู่กันคนละซีกโลกกันได้นะ

               ช่วงนี้ดีนได้คุยกับแมคเคนซีไม่มาก เผลอ ๆ อาจน้อยกว่าช่วงที่ยังเป็นแค่เพื่อนทางผลประโยชน์กันเสียอีก ซึ่งดีนก็เข้าใจ (หรืออาจพยายามจะเข้าใจ) ว่าการออกไปทำภารกิจระดับยากต้องผจญกับภัยอันตรายนานับประการจนไม่มีเวลาจับโทรศัพท์มือถือ แค่อีกฝ่ายมีเวลามาตอบแชทเขาสองสามประโยคก่อนนอนได้ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว กระนั้นดีนก็อดที่จะนอยด์ไม่ได้จนระเบิดโพสต์ในกรุ๊ปแชทของพี่น้องกระท่อมโพไซดอน


profile
CABIN 3 POSEIDON
D.E.A.N.:
อยากเดตกับแมคซี่จังว้อยยยยยยยยย
               🌻𝓡є𝑠ℎα🌻:
RESHA
แง พี่ดีนอย่าร้องนะคะ
             Sanz:
SANZ
SANZ
นายยังดีมีคนคุย ฉันสิเอาแต่เรียนจนไม่มีเวลาหาสาว
D.E.A.N.:
นายชักจะน่าสงสารกว่าฉันแล้วสิซันนี่
               🌻𝓡є𝑠ℎα🌻:
RESHA
แง พี่ซันซ์นี่น่าสงสาร
             Sanz:
SANZ
เดี๋ยว!
SANZ
ไม่ต้องมาสงสารฉันกันเลยนะ!
D.E.A.N.:
ไม่ได้ ซันนี่น้องรัก ปีนี้นายต้องมีคนเดต!
               🌻𝓡є𝑠ℎα🌻:
RESHA
พี่ซันซ์นี่ต้องมีคนเดต!
             Sanz:
SANZ
ใจเย็น ๆ กันก่อนทั้งคู่เลย
SANZ
ฉันจะไปหาคนที่ไหนมาเดต!


               ชั่วเสี้ยววินาทีที่เกิดความคิดบรรเจิดขึ้นมาในหัว จำได้แม่นเลยว่าตอนที่เรียนไฮสคูลเขาเคยเข้ากิจกรรมไบล์นเดตกับกลุ่มเพื่อนในตัวเมือง ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่น่าสนุกดี


profile
CABIN 3 POSEIDON
D.E.A.N.:
ฉันคิดว่าฉันมีไอเดีย
แต่ต้องขอความร่วมมือจากทั้งสองคนด้วย
               🌻𝓡є𝑠ℎα🌻:
RESHA
ขอความร่วมมืออะไรเหรอคะ?
RESHA
หนูจะช่วย!
RESHA
             Sanz:
SANZ
สังหรณ์ใจแปลก ๆ
SANZ
D.E.A.N.:
รอแป๊บ ฉันขอเขียนนิดนึง
Read by 🌻𝓡є𝑠ℎα🌻 and Sanz.



               สลับหน้าจอแชทมาเขียนบางอย่างลงในเมโมทันที เขาถ่ายทอดความคิดในหัวจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา นิ้วใหญ่ ๆ จิ้มตัวอักษรในจอภาพเล็กผิด ๆ ถูก ๆ หลายครั้งจนต้องลบพิมพ์ใหม่อยู่หลายครั้ง แต่ด้วยพลังไฟกามเทพทำให้ดีนเขียนแผนการเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว


profile
CABIN 3 POSEIDON
D.E.A.N.:
นี่แหล่ะกลยุทธ์การสละโสดของซันนี่!
               🌻𝓡є𝑠ℎα🌻:
RESHA
             Sanz:
SANZ
หาแฟนจากไบล์นเดตเนี่ยนะ?
D.E.A.N.:
แม่นแล้ว
อย่างน้อยถึงไม่ได้แฟนก็ต้องได้เพื่อนใหม่
               🌻𝓡є𝑠ℎα🌻:
RESHA
ได้เพื่อนใหม่ก็ไม่เลวนะคะพี่ซันซ์นี่
D.E.A.N.:
ใช่ไหมล่ะ!
ทีนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเธอทำงานแล้ว
             Sanz:
SANZ
'พวกเธอ' เนี่ย…
SANZ
นั่นไง ตูว่าแล้วเชียว
D.E.A.N.:
รีช พี่ฝากเธอปริ๊นท์เอกสารแล้วส่งให้คุณไครอนทีนะ
               🌻𝓡є𝑠ℎα🌻:
RESHA
D.E.A.N.:
ส่วนนายซันนี่
             Sanz:
SANZ
รู้แล้ว ในนั้นเขียนไว้แล้วนี่ ให้ฉันเปิดซุ้มลงทะเบียนที่นิวโรม
D.E.A.N.:
แสนรู้มาก สมกับที่นายเป็นน้องรักฉันเลย
             Sanz:
SANZ
ได้ยินแบบนี้โคตรจะดีใจเลยว่ะ
SANZ
D.E.A.N.:
เอาเป็นว่าตกลงตามนี้แหล่ะ ฝากด้วยนะทั้งสองคน ส่วนของรางวัลเดี๋ยวฉันโอนไปให้ โอเคนะ
Read by 🌻𝓡є𝑠ℎα🌻 and Sanz.



               อย่างน้อยการใช้เวลาว่างไปกับการคิดกิจกรรมก็พอจะช่วยให้ดีนคลายความเบื่อหน่ายในช่วงนี้ไปได้บ้าง ทีนี้ก็เหลือแต่ว่าวันวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ผลประกอบการจะเป็นอย่างไร จะมีใครได้เป็นแฟนกันจริง ๆ หรือไม่ ไม่แน่ว่าหนึ่งในนั้นอาจจะเป็น ซันซ์ มาเดิล เคานต์ ที่สละโสดก็เป็นได้
               



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 22851 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-3-14 22:49
โพสต์ 22,851 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก กุหลาบสีน้ำเงินทอง  โพสต์ 2025-3-14 22:49
โพสต์ 22,851 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก เสื้อฮาวาย  โพสต์ 2025-3-14 22:49
โพสต์ 22,851 ไบต์และได้รับ +8 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ จาก Hydro X  โพสต์ 2025-3-14 22:49
โพสต์ 22,851 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความกล้า +8 ความศรัทธา จาก โล่แห่งเกียรติยศ  โพสต์ 2025-3-14 22:49
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2025-3-20 06:29:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-3-20 06:32

303
ทะเลคลั่ง กับใจฉันที่ว้าวุ่น

!! Trigger Warning: ภายในตอนมีฉากการบรรยายที่มีความรุนแรง !!

               10/02/2025

               ยังคงอยากย้ำว่าหนทางกลับด้วยการใช้ชีวิตอยู่บนเรือโดยปราศจากสิ่งบันเทิงใจนอกเสียจากโทรศัพท์มือถือช่างเป็นอะไรที่แสนน่าเบื่อหน่าย…

               ท้องฟ้าสีฟ้าซีดทอดยาวสุดสายตา แสงแดดจ้าส่องสว่างกระจายไปทั่ว ไม่มีเงาของพระอาทิตย์ตก ไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนผ่านของเวลา มีเพียงแสงสว่างที่ไม่เคยเลือนหาย คลื่นทะเลกว้างใหญ่แผ่ไปทุกทิศทาง ผืนน้ำขยับตัวขึ้นลงด้วยจังหวะเดิม ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด กลิ่นอายความเค็มของทะเลที่รู้สึกว่าแสบจมูกในช่วงแรกกลับกลายเป็นคุ้นเคยราวกับว่าได้สูญเสียประสาทการดมกลิ่นไปเสียแล้ว

               เรือยอร์ชเจ้าสมุทรลอยลำไปข้างหน้า แม้เหล่าฮิปโปแฮมปัสจะเคลื่อนที่อย่างสุดพลัง ทว่าในสถานการณ์ที่ราวกับช่วงเวลาได้หยุดนิ่ง ในแต่ละวันแต่ละคืนช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน ไร้วี่แววของชายฝั่ง หรือทิวทัศน์อื่นให้ได้ยลนอกจากฟากฟ้าและเกลียวคลื่น

               อันที่จริงหากเทียบเวลาเดินทางแล้วยังคงอยู่ในกำหนดการเดิม จากการคาดคะเน ดีนคิดว่าเรือลากฮิปโปแคมปัสหกแรงม้าจะพาพวกเขากลับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัดราว ๆ วันที่สิบสอง ซึ่งตอนนี้พวกเขาได้มาถึงบริเวณนอกชายฝั่งฟลอริดาราว ๆ แปดร้อยไมล์ทะเล (หนึ่งพันห้าร้อยกิโลเมตร) หากว่าจีพีเอสจากกำไลข้อมืออัจฉริยะที่ได้เป็นของขวัญจากพ่อไม่มั่วนิ่ม แสดงว่าอีกประมาณหนึ่งถึงสองวันก็น่าจะเดินทางไปถึงค่ายฮาล์ฟบลัด

               ความเบื่อหน่ายที่ถูกขังอยู่ในคุกที่เรียกว่า ‘เรือยอร์ชกลางมหาสมุทร’ ไม่ใช่ความเซ็งเดียวที่ดีนประสบ เพราะในช่วงวันสองวันมานี้ดีนไม่สามารถติดต่อกับแมคเคนซีได้จนทำให้ภายในอกรุ่มร้อนไปหมด

               ‘แบตเตอรี่โทรศัพท์หมดแล้วหรือไงนะ?’
            
               ก็ไม่น่าใช่.. ขนาดว่า ตนเล่นมือถือแก้เบื่อจนแบตเตอรี่ไหลเป็นน้ำแต่ด้วยความอึดถึกทนของสมาร์ทโฟนสำหรับเดมิก็อดแห่งท้องทะเลก็ยังไม่ถึงกับทำให้แบตเตอรี่หมดโดยสิ้นเชิง และจากที่คบกันมาเกือบหนึ่งปีไม่นับรวมตอนที่ยังเป็นแค่เพื่อนกัน ดีนรู้นิสัยของแมคเคนซีดีว่าไม่ใช่คนติดโทรศัพท์ ขนาดว่าติดต่อกลับไปบ้านที่อังกฤษยังนาน ๆ ครั้ง อีกฝ่ายจึงไม่น่าจะเล่นโทรศัพท์จนแบตหมดบ๋อแบ๋ มิหนำซ้ำเมื่อลองส่งข้อความไอริสไปหาเจ้าตัวก็ขึ้นว่า ‘ไม่สามารถติดต่อเป้าหมายที่กำลังเคลื่อนที่ได้’ อีกต่างหาก

               เพราะฉะนั้นจึงเหลืออีกเพียงเหตุผลเดียวที่ดีนไม่อยากนึกถึง

               ‘แมคซี่กำลังตกอยู่ในอันตราย!’

               “ไม่ ๆๆ ไม่คิดแบบนั้นสิวะ!”

               ถึงจะบอกตัวเองแบบนั้นแต่ในหัวหยุดคิดถึงเรื่องความปลอดภัยของคนรักไม่ได้แม้เสี้ยววินาที การเดินทางของแมคเคนซียาวไกลกว่าภารกิจที่ดีนเคยทำมาก แถมยังต้องตามหาสถานที่ที่เป็นรังลับของคนร้ายด้วยตนเองอีก

‘บุตรแห่งราตรี ผู้ถือกำเนิดจากเงา
บัดนี้ ถูกพันธนาการ ด้วยอุบายมืด
ณ เมืองเหนือสุด ดินแดนแห่งหิมะและแสงเหนือ’

               พอจะจำคำทำนายของอีกฝ่ายได้คร่าว ๆ ซึ่งหากตรงตามนี้จริงอีกฝ่ายต้องเดินทางไกลไปสุดชายแดนแคนาดา หรือหากแย่ไปกว่านั้นอาจต้องไปไกลถึงกรีนแลนด์

               แค่การเดินทางไปซานฟรานซิสโกของตัวเองยังต้องผจญภัยอันตรายมากมายรวมถึงเทพร้าย ๆ ที่มาก่อกวนกลางทาง แล้วคนที่ต้องเดินทางไกลเป็นสองเท่าของตนเองจะต้องพบเจอกับความยากลำบากขนาดไหน แทบจะนึกภาพความลำเค็ญนั้นไม่ออก

               ดีนสะบัดศีรษะไล่ความคิดแย่ ๆ ที่มีอยู่เต็มหัว แล้วพยายามหาเหตุผลอื่นมาอ้างอิงให้ความเลวร้ายบรรเทาลง

               ‘หมอนั่นอาจจะแค่ทำโทรศัพท์มือถือหายไปล่ะน่า…’

               นี่ไม่ใช่ความคิดแย่ ๆ เพียงอย่างเดียวอยู่อยู่ในใจของชายหนุ่ม… ความห่างไกล ความหวาดกลัว ความหวาดระแวง ก่อเกิดความคิดแง่ลบในใจของคน (เคย) คิดบวกได้อย่างน่ากลัว…

               ก่อนหน้านี้ดีนคิดว่าการใช้ชีวิตแบบผู้ชายลัลล้าไม่ผูกมัดก็ไม่มีอะไรเสียหาย เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายโดยไม่มีคนรักครอบครอง อยากจะทำอะไรก็ทำได้โดยอิสระ ทำอะไรตัวคนเดียวก็สะดวกรวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจความรู้สึกของใคร แต่ตอนนี้เขาเพิ่งมารู้ว่าตัวเองติดแฟนมากกว่าที่คิด

               ได้เห็นแค่ข้อความ ได้ยินแค่เสียงแม้ตัวจะอยู่ห่างไกลกันยังพอทำเนา แต่ในเมื่อติดต่อไม่ได้ ไม่ทราบความเป็นอยู่ ได้แต่จมอยู่กับจินตนาการในหัวต่าง ๆ นานา มันทำเอาเขาแทบคลั่ง

               ‘ถ้าติดต่อได้อีกครั้งจะบอกให้แมคซี่ยกเลิกภารกิจดีไหม…’

               แต่ก็ต้องล้มเลิกความคิดนี้ไปเพราะว่ารู้สึกว่าเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย โลกกำลังถูกภัยมืดคุกคามอยู่เบื้องหลัง หากไม่มีใครสักคนที่จัดการกับภารกิจนี้ให้สำเร็จ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรร้ายแรงมากกว่านี้อีกหรือเปล่า

               ‘แล้วทำไมต้องเป็นนายที่ไปทำด้วยล่ะ เป็นคนอื่นไม่ได้เหรอ เช่น ซิลเวอร์หรือคนอื่น …อะไรแบบนี้’

               คล้ายกับตอนที่ตนรับภารกิจตามหาตรีศูลของโพไซดอน พ่อเลือกที่จะส่งคำใบ้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาทางเขาเพื่อให้ไปรับคำพยากรณ์เดลฟี ทางด้านแมคเคนซีก็คล้ายกัน ต้องฝันร้ายวันเว้นวันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนกว่าจะรับคำภารกิจเดินทางมา จะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่ได้ ในเมื่อเทพเบื้องบนคล้ายกำหนดชะตามาแล้วว่าเราต้องเดินไปทางไหน หากฝืนชะตาก็จำต้องพบกับความยากลำบากบางอย่างเป็นการลงทัณฑ์

               จะว่าไปพ่อแม่พวกเรานี่ก็ใจร้ายกันชะมัดเลยแฮะ…

                ถ้าหากมันเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ยิ่งน่าเสียใจที่แมคเคนซีไม่เลือกให้เขาเป็นเพื่อนร่วมทางในภารกิจ ทั้งที่ตนเคยมีประสบการณ์กับภารกิจแบบนี้มาบ้างแล้ว ก็น่าจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง จริงอยู่ที่ตนมีแผนจะมาช่วยพ่อหาเสียงที่นีออม แต่สำหรับภารกิจนี้เขายกเลิกก็ได้หากว่าของอีกฝ่ายสำคัญกว่า

               แต่จากคำหว่านล้อมที่ว่า ‘ช่วยครอบครัวสำคัญกว่า’ มันก็ใช่.. ซึ่งคิดแล้วมันก็น่าน้อยใจสุด ๆ แม้กระนั้นเขาก็ไม่เคยปริปากบ่นความในใจเพราะกลัวจะดูงี่เง่าเกินไปในสายตา จนรู้สึกว่าการพยายามทำตัวเป็นแฟนที่แสนดีมันยากชะมัดเลย

               ‘ห่างกันนาน ๆ แบบนี้อีกไม่เอาแล้วนะ.. ถ้าเป็นแบบนั้นสู้ไม่—..’

               ความคิดถูกชะงักเอาไว้ เขาเกลียดสิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวตอนนี้มากจนนึกพาลเกลียดตัวเองที่เป็นคนเห็นงี่เง่าแก่ตัว ดีนไม่อยากเป็นแบบนั้น แต่ในตอนนี้เขานึกเรื่องที่มีความสุขแทบไม่ออก ปกติดูคลิปหมาแมวเพื่อฮีลใจแต่ก็ช่วยไม่ได้มาก ครั้นเปิดรูปถ่ายเก่า ๆ ของเราสองคนมาดูก็ยิ่งมีแต่ความคิดถึงจนแทบจะขาดใจ จนวัน ๆ ได้แต่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นตัวเองในสภาพที่ไม่น่าดู

               ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ!

               เสียงแจ้งเตือนทำเอาชายหนุ่มที่กำลังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มสะดุ้ง คริสตัลสีฟ้าที่ประดับอยู่บนกำไลอัจฉริยะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเรืองแสงวูบวาบ แต่ไม่เพียงแค่นั้นเสียงแจ้งเตือนที่ดังสนั่นมาจากโทรศัพท์มือถือเดดาลัส หน้าจอสมาร์ทโฟนกลายเป็นสีแดงกะพริบรัวเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงแจ้งเตือนที่ดังลั่น บนหน้าจอเขียนว่า ‘เตือนภัยระดับ 4 คราเคน’ สร้างความวิตกจนดวงตาสีเปลือกไม้เบิกโพลง จากตอนแรกเศร้า ๆ ตอนนี้ตกใจ ทำเอาปรับอารมณ์แทบไม่ทัน


[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]

               “อะไรนะคราเคน!?”

               ดีนรีบเปิดประตูออกจากห้องนอนของเรือสำราญเล็ก เบื้องหน้าที่เห็นคือท้องทะเลที่คลื่นลมปั่นป่วนอย่างผิดปกติ จนทำเอาชายหนุ่มต้องรีบเกาะวงกบประตูเรือไว้ไม่ให้ร่างของเขาถูกซัดจนโซเซ เหล่าฮิปโปแคมปัสที่ลากเรืออยู่ในน้ำดูแตกตื่นอย่างเห็นได้ชัด มันเร่งความเร็วเต็มพิกัดเพื่อหนีอะไรบางอย่างที่อยู่ใต้ท้องทะเลจนควีนที่อยู่บนฟ้าบินตามไม่ทัน

               “ฮรี้!?” oO(ดีน! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?)

               เพกาซัสสาวตะโกนถามมาจากด้านบน มันพยายามกะพือปีกแรงเพื่อร่อนลงจอดบนดาดฟ้าเรือยอร์ชที่ผิดปกติ แต่ดูเหมือนว่าฮิปโปแคมปัสทำท่าจะลากเรือหนีเพียงอย่างเดียว

               “คราเคน มันอยู่ใต้น้ำ! มือถือฉันมันเตือนภัยมาอย่างนี้!” ดีนตะโกนตอบ เขาชูหน้าจอโทรศัพท์สีแดงแจ๋และยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนไม่หยุดให้เพื่อนร่วมทางบนฟ้าได้ดู

               “ฮรี้!?” oO(อะไรนะ คราเคนอย่างนั้นรึ!?)

               แม้แต่ควีนก็ยังตกใจ คราวนี้ไม่ใช่อสุรกายย่อม ๆ อย่างยักษ์จีนี่ที่เคยปะมือกันมา แต่เป็นสุดยอดอสุรกายยักษ์ใหญ่ในตำนาน ศัตรูตัวฉกาจของนักเดินเรืออย่างคราเคน เมื่อเพกาซัสดำและลูกก๊อบลินมองลงไปเบื้องล่างพวกมันถึงได้เห็นเงาอันน่าสะพรึงขนาดใหญ่กว่าเรือยอร์ชหลายเท่าว่ายอยู่ใต้เรือ

               “ฮรี้!” oO(มันอยู่ใต้เรือ เจ้ารีบขึ้นมานี่เร็วดีน!)

               พากาซัสพยายามบินโฉบลงมาเพื่อรับสหายของมัน ทว่าในเสี้ยววินาทีนี้ที่หนวดหมึกขนาดมหึมาได้ชูขึ้นเหนือผืนน้ำ ซัดระยางอันน่าสยดสยองเข้าใส่ควีนจนมันต้องเชิดหัวบินขึ้นเพื่อหลบให้พ้นระยะ เล่นเอาวูล์ฟเฟียที่อยู่บนหลังเกือบพลัดตกลงมา

               “กี้!”

               “ควีนระวัง!!” ดีนร้องเตือน

               ในช่วงนาทีที่กำลังใจหายใจคว่ำก็พอโล่งอกไปได้เมื่อเห็นว่าทั้งควีนละวูล์ฟเฟียหลบหนวดยักษ์ไปได้อย่างหวุดหวิด เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็ยิ่งเห็นระยางที่เต็มไปด้วยตุ่มดูดชูขึ้นมาเหนือน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ หนวดบางเส้นกำลังเลื้อยพันรอบลำเรือจนทำให้เรือยอร์ชโคลงไปเคลงมาจนไม่อาจยืนอยู่ แรงรัดมหาศาลก่อให้เกิดเสียงแกรบแกรบเมื่อตัวเรือปริแตก พื้นที่หยัดยืนเสียสมดุลทำเอาดีนเซล้มก้นจ้ำเบ้า ตัวของเขาไหลไปตามแรงยื้อโคลงไปเคลงมายากจะตั้งหลัก

               “ฮรี้!”

               เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่งดังมาจากหน้าเรือ ดีนเห็นว่าฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่งถูหนวดยักษ์บีบรัดจนร่างแหลกสลายไปต่อหน้าต่อตา นั่นคือความสูญเสียแรกที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

               “ไม่นะ!!”

               ท่ามกลางความตกตะลึงเขาเห็นฮิปโปแคมปัสอีกหลายตัวเลิกลากเรือหนีแต่มันพยายามต่อสู้กับอสุรกายใต้ทะเล ในยามรบฮิปโปแคมปัสที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีเข้าจู่โจมอสุรกายใต้สมุทรอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทว่าด้วยกำลังที่แตกต่างทำได้เพียงหยุดการเคลื่อนไหวของปีศาจหมึกยักษ์ได้ชั่วครั้งชั่วคราวแต่ไม่อาจสร้างบาดแผลใหญ่ไปได้มากกว่านั้น

               “โอ้ ฉิบหาย ทำไงดี ทำไงดี!”

               ดีนพยายามข่มจิตข่มใจสงบอารมณ์ในสถานการณ์ที่ใช้คำว่า ‘ฉิบหาย’ ได้อย่างถูกต้องมากที่สุด เขาพยายามเกาะข้างลำเรือเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นแม้ว่าแข้งขาจะสั่นจากความกลัวตาย ในช่วงเวลาที่ฮิปโปแคมปัสถ่วงเวลาต่อสู้ไว้จังหวะนี้แหล่ะที่จะหนี ชายหนุ่มพยายามปีนขึ้นที่สูง ตอนนี้พื้นเรือที่แตกร้าวเกิดรอยรั่วซึมน้ำทะเลทะลักขึ้นมาตามรอยแตก ยานพาหนะสุดหรูที่โดยสารมาหลายวันพร้อมที่จะจมทะเลได้ทุกเมื่อ

               ควีนพยายามจะบินลงมารับเขาหลายครั้ง แต่ถูกหนวดหมึกเส้นหนึ่งก่อกวนไม่เลิก หวุดหวิดหลายครั้งที่เพกาซัสจะพลาดท่าเสียเอง ดวงตาสีเปลือกไม้แหงนมองภาพของสหายที่พยายามลงมาช่วยเหลือด้วยความสิ้นหวัง หากถูกจับได้พวกเราน่าจะได้ตายกันหมด ดีนจึงตัดสินใจตะโกนบอกปากสั่น

               “ควีน! เธอไม่ต้องห่วงฉัน! พะ.. พาไข่ผำบินไปที่ฝั่ง หนีกลับค่ายไปก่อนเลย!”

               “ฮรี้!” oO(จะบ้าเหรอ จะให้ข้าทิ้งเจ้าไปได้ยังไงกัน! โอ๊ย!!)

               แต่ไม่ยังจะสิ้นคำดีเพกาซัสสาวก็ถูกระยางเส้นนั้นรัดปลายเท้าสีดำไว้แน่น ควีนพยายามบินเหินขึ้นฟ้า แต่ดูท่าแล้วเพกาซัสตัวเล็ก ๆ ไม่อาจต้านทานเรี่ยวแรงมหาศาลของปีศาจใต้ทะเลลึกได้เลย มันสาวเหยื่อจากฟ้าลงมา อ้าปากใหญ่ที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวแหลมคมรอรับอาหารอันโอชะที่มีด้วยกันถึงสองวิญญาณ

               “ควีน!!”

               ในชั่วพริบตาที่หายนะกำลังจะเกิดขึ้นกับสหาย ดีนได้สลัดความกลัวทั้งหมดทิ้งไป เปลี่ยนรูปร่างของอาวุธจากกำไลข้อมือเป็นดาบสามง่าม เขาพุ่งตัวทะยานจากเสากระโดงเรือ สะบัดข้อมือฟันหนวดเส้นนั้นฉับเดียวจนปลายระยางขาดกระจุย บุตรแห่งโพไซดอนร่วงหล่นลงไปม่านน้ำเย็นเฉียบของมหาสมุทรแอตแลนติกปลายฤดูหนาว แว่นตากรอบหนาที่สวมใส่บนใบหน้าปลิวหายไปกับสายน้ำ ชั่วพริบตาที่เขามองอะไรไม่เห็นก็รู้สึกตัวได้ว่าร่างทั้งร่างถูกอะไรบางอย่างช้อนขึ้นจากเบื้องล่างทำให้ตัวของเขาลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ

               “ฮรี้!” oO(ท่านเอลวินไม่เป็นไรนะขอรับ!)

               เป็นฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่งที่เข้ามาช่วยเหลือเขา ดีนจึงพยายามตั้งสติอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เขาไม่ชอบเลยที่มองทุกอย่างเห็นเป็นแต่ภาพพร่ามัว อย่างน้อยถ้าต้องต่อสู้จนตัวตายก็ขอให้ได้ต่อสู้อย่างสมน้ำสมเนื้อหน่อยเถอะ!

               “ขอบคุณ ฉันไม่เป็นไร แค่มองอะไรไม่ค่อยเห็น นายต้องเป็นตาแทนฉันแล้วล่ะ.. ว่าแต่นายชื่ออะไร?”

               “ฮรี้!” oO(ข้าน้อย ‘ดิวดรอป’ ขอรับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านชาย)

               “ฉันก็ยินดีเหมือนกัน ฝากให้นายนำทางด้วยนะดิวดรอป เอาล่ะ พวกเราก็ไปลุยกันบ้างเถอะ!!”

               บุตรแห่งเจ้าสมุทรประกาศศึกอย่างเป็นทางการบนหลังของฮิปโปแคมปัสสีน้ำเงินรุ้งที่ชื่อว่าดิวดรอป เมื่อควีนเห็นว่านี่ไม่ใช่สมรภูมิที่มันร่วมสู้ได้ เพกาซัสสาวจึงเลือกที่จะทำตามที่นายมันบอกนั่นคือการโผบินเข้าหาแผ่นดินทางทิศตะวันตกของมหาสมุทร

               “ฮรี้!” oO(งั้นข้ากลับไปรอที่ค่ายก่อนล่ะ เจ้าเองก็กลับมาให้ได้นะดีน!)

               เมื่อเห็นว่าควีนและไข่ผำได้จากไปอย่างปลอดภัยแล้วบุตรแห่งโพไซดอนก็โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง แต่ก็ยังชะล่าใจและประมาทไม่ได้ เพราะคู่ต่อสู้ที่ต้องเผชิญอยู่ในระดับน้อง ๆ ของคธุลฮู คราเคนเป็นอสุรกายใต้สมุทรซึ่งน่าจะคุ้นเคยกับกระแสน้ำเป็นอย่างดี การจะใช้พลังควบคุมน้ำต่อกรกับมันอาจไม่สามารถสร้างบาดแผลไปได้มากกว่ารอยขีดข่วน ดังนั้นการทำลายด้วยกายภาพอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

               ดีนมองภาพความโกลาหลตรงหน้าพลางคิดว่าจะรับมือกับคราเคนยักษ์อย่างไรดี ฮิปโปแคมปัสสี่ตัวช่วยกันสู้ พวกมันสร้างกระแสน้ำวนใต้สมุทรจู่โจมสัตว์ยักษ์จากใต้น้ำ บางก็ว่ายน้ำอย่างรวดเร็วใช้กีบเท้าอันทรงพลังตะกุยเตะถีบคราเคนจนสร้างบาดแผลได้บ้าง แต่ก็แค่ได้บ้าง ซึ่งดูแล้วอาวุธที่ใช้ต่อกรได้ดีเห็นทีจะเป็นอาวุธเทพที่บิดาประทานให้

               “ฮรี้!”

               ฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่งพลาดท่าถูกหนวดยักษ์จับตัวไว้ได้ มันไม่ได้ถูกจัดจนตายในคราวเดียว ทว่าร่างสีรุ้งถูกจับฟาดกับเรือยอร์ชสีขาวที่หวุดหวิดจะจมแหล่ไม่จมแหล่ปริ่มน้ำจนลำเรือขาดสองท่อน ร่างของอาชาใต้สมุทรแหลกเหลวไม่แพ้ลำเรือที่แตกสลาย เหลือร่องรอยของความมีชีวิตทิ้งไว้เพียงฟองคลื่นรูปม้าที่กระจายไปตามสายน้ำ

               “ฮรี้!” oO(โธ่เอ๊ย!! ไม่นะไบรนี่!) ดิวดรอปคำรามด้วยความโกรธแค้นเมื่อสหายได้ถูกพรากชีวิตไป ส่วนดีนที่เห็นเพียงภาพเลือนลางได้แต่กัดฟันกรอด

               “เราต้องกำจัดมัน มีวิธีไหนที่จะเฉือนเจ้าหมึกย่างนั่นได้บ้างไหม?” ดีนกัดฟัน เขาพยายามคิดหาทาง หากไม่ทำอะไรสักอย่างต้องเกิดความสูญเสียมากกว่านี้แน่ ๆ

               “ฮรี้” oO(คราเคนเป็นอสุรกายที่ร้ายกาจมากขอรับ ด้วยพลังของเหล่าฮิปโปแคมปัสจำนวนแค่นี้เป็นไปได้ยากที่จะเอาชนะมันได้ การหนีอาจเป็นวิธีที่ดีกว่า แต่โอกาสหนีรอดก็มีไม่มากขอรับ)

               น้ำเสียงของดิวดรอปสั่นพร่า ใจของมันคงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ตรงกันข้ามกับท่าทีของมันที่เหมือนพร้อมจะสู้จนตัวตายด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของสมุนของเทพเจ้า

               “ไม่มีวิธีกำจัดเลยเหรอ…” ดีนเอ่ยเสียงแผ่ว

               “ฮรี้!” oO(มีเพียงพลังของเจ้าสมุทรถึงจะจัดการมันได้โดยง่ายขอรับ)

               “พลังของเจ้าสมุทร.. ใช่พลังแบบเดียวกับที่ฉันมีหรือเปล่านะ”

               ถึงไม่รุนแรงเท่าพลังของโพไซดอนแต่ก็ต้องลองดู ในเมื่อเขามีทั้งอาวุธที่ถูกประทานให้โดยเทพเจ้าและพลังการควบคุมน้ำตามสายเลือดของเทพแห่งท้องทะเล

               ดาบตรีศูลในมือถูกเปลี่ยนสภาพเป็นหอกสามง่าม ดีนหลับตาเพ่งจิตไปที่ปลายหอกแหลมคมใช้มันแทนกับคทาร่ายเวท ดูดน้ำทะเลขึ้นมาได้เป็นวงใหญ่ จากนั้นชายหนุ่มจึงสะบัดปลายตรีศูล ส่งใบมีดน้ำอันคมกริบสามสายตวัดฟันหนวดหมึกยักษ์ที่กำลังต่อกรกับฮิปโปแคมปัสที่เหลือเป็นวงเสี้ยวจันทร์จนขาดกระจุยไปได้สองหนวด

               แรงสั่นทะเทือนมาจากใต้น้ำ คล้ายเกิดจากเสียงคำรามอย่างเจ็บปวดของคราเคนที่สูญเสียอวัยวะสำคัญไป จากนั้นผืนน้ำสีครามเข้มก็ถูกย้อมจนกลายเป็นสีดำสนิทจากหมึกของคราเคน แสดงว่าการโจมตีนี้ได้ผล!

               ดีนจำสารคดีสัตว์โลกที่เขาโปรดปรานได้ ตอนหนึ่งที่ฉายถึงสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกอย่างหมึกยักษ์มีสมองด้วยกันถึงเก้าแห่งด้วยกัน สมองหลักทำหน้าที่ควบคุมการทำงานทั้งหมดอยู่บริเวณส่วนหัวอันใหญ่ และสมองอีกแปดแห่งประจำอยู่ที่หนวดทั้งแปดแต่ละเส้น หนวดหมึกจึงมีความเป็นอิสระในตัวของมันเอง

               จากการทดลองในสารคดีแสดงให้เห็นว่า หมึกจึงเป็นสัตว์ทะเลที่มีความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก มันสามารถเปิดขวดโหลที่บิดฝาแน่นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว มิหนำซ้ำมันยังสามารถแก้ไขปริศนากลไกง่าย ๆ ได้โดยใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน

               หนวดหมึกจึงถือเป็นอวัยวะที่สำคัญสำหรับหมึกเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากจะจัดการกับคราเคนอย่างเด็ดขาดที่สุดคือการกำจัดอาวุธทั้งแปดของมันก่อนจากนั้นจึงจะสามารถระเบิดหัวมันได้อย่างถนัดถนี่

               ฮิปโปแคมปัสไม่ทราบชื่อซึ่งดูเหมือนจะเชี่ยวชาญการรบที่สุดในกลุ่ม ควบคุมพายุหมุนใต้ทะเลปั่นหนวดที่สามของคราเค่นขาดกระจุยเหมือนกับเครื่องบดเนื้อ เศษซากเมือกหนืดกระจายไปทั่วผืนน้ำทว่าหลังจากนั้นไม่นานก็มันก็สลายกลายเป็นฝุ่นผง

               “จัดการได้สามแล้ว!”

               เมื่อเห็นว่าพอจะต่อกรได้กำลังใจก็เริ่มกลับมา ดีนใช้ท่วงท่าเดิมเพื่อจัดการกับหนวดคราเคนจากระยะไกล แต่อย่างที่บอกว่าหมึกมีความฉลาดเฉลียวและหนวดแต่ละเส้นมีสมองของมันเอง หนวดที่เหลืออีกห้าเลื้อยหลบใบมีดน้ำได้รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อขัดกับขนาดตัวที่ใหญ่โตของมัน แล้วดูเหมือนว่าสมองหลักของคราเคนจะตระหนักได้ว่าตัวปัญหาที่ต้องจัดการก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ม้าน้ำสีรุ้งที่สู้กับมันอยู่ตั้งนาน แต่เป็นเดมิก็อดที่กำลังขับขี่ม้าน้ำอีกตัวจากที่ไกล ๆ อยู่ต่างหาก

               คราเคนมุดลงไปใต้น้ำ ใช้หมึกดำของมันอำพรางกายจนดีนที่อยู่เหนือผิวน้ำมองอะไรไม่เห็น (ซึ่งอันที่จริงเขาก็มองอะไรแทบไม่เห็นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) ท่าทางของมันคล้ายหลบหนี ทว่ายังไม่อาจชะล่าใจ

               “มันไปไหนแล้ว? หรือว่าจะหนีไปแล้วเหรอ?” ดีนเอ่ยถามดวงตาคู่ใหม่ของเขา

               “ฮรี้” oO(อาจเป็นไปได้ขอรับ แต่ข้าน้อยไม่เคยเห็นท่าทางของมันเป็นเช่นนี้มาก่อน)

               ผ่านไปหลายอึดใจที่ดีนและเหล่าฮิปโปแคมปัสตัวที่เหลือเฝ้าระวังภัยให้แก่กันละกัน มันนานพอที่จะคิดว่าการต่อสู้ได้จบลงแล้ว

               แต่ว่าไม่…

               หนวดขนาดใหญ่จู่โจมพุ่งแทงจู่โจมมาจากใต้น้ำ กว่าที่ดีนและดิวดรอปจะรู้ตัวก็เหมือนกับว่าจะสายไปแล้ว พวกเขาไม่อาจหลบหนวดนั้นพ้น

               “ฮรี้!” oO(แย่แล้ว!)

               “อะไรนะดิวดรอป!?”

               ท่ามกลางความอลหม่านนั้นเอง ดีนและดิวดรอปถูกอะไรบางอย่างชนกระแทกอย่างแรงเข้าด้านหลัง ทั้งสองเซถลาไปกับผืนน้ำไกลหลายฟุตแต่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากไปกว่าความจุกเสียดจากแรงชน

               “ฮรี้!” oO(ไม่นะ ซีบรีซ!!)

               ดิวดรอปร้องลั่นก่อนที่ดีนจะหันกลับไปมอง เขาเห็นภาพเลือนลางของฮิปโปแคมปัสที่ชื่อซีบรีซถูกหนวดหมึกยักษ์แทงทะลุกลางตัวก่อนที่มันจะสลายไป หากว่าซีบรีซไม่มาช่วยผลักทั้งสองออกไป มีหวังคนที่แทงทะลุเป็นลูกชิ้นคงเป็นดีนและดิวดรอป สร้างความช็อกแก่บุตรแห่งเจ้าสมุทรจนเขาพูดอะไรแทบไม่ออก

               “ฮรี้!” oO(หนอยแน่! เจ้าเล่ห์นักนะเจ้าคราเคน!!)

               ฮิปโปแคมปัสตัวที่สู้เก่งคำรามลั่นเมื่อมันเห็นการสูญเสียพวกพ้องอีกครั้ง จากความเดือดดาลที่มีในกายมันมุดลงไปใต้น้ำพร้อมกับเสกพายุหมุนอย่างบ้าคลั่ง ต่อสู้ไล่ตามคราเคนที่สังหารพวกพ้องของมันไป สร้างกำลังใจให้ฮิปโปแคมปัสตัวอื่น ๆ ได้ฮึดสู้

               “ฮรี้!” oO(ซีโฟมสู้แล้ว พวกเราก็อย่ายอมแพ้ ลุยกันเถอะดิวดรอป!)

               ฮิปโปแคมปัสที่เหลืออีกตัวมุดน้ำตามลงไปช่วยคู่หูของมันต่อสู้กับคราเคนอย่างเอาเป็นเอาตาย ในเวลานี้หากดีนบอกว่า ‘หนีกันเถอะดิวดรอป!’ เจ้าตัวคงไม่ฟังเพราะตอนนี้เลือดในกายของม้าน้ำหนุ่มมันเดือดพล่านไปหมด

               “ฉันเองก็จะ… จะพยายามนะ”

               ดีนได้แต่พูดอ้อมแอ้ม เขาไม่อยากสู้เท่าไร แต่นาทีนี้การสู้ตายน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหนีไปแล้วถูกลอบโจมตีจากตอนไหนก็ไม่รู้ ในเมื่อเขาเคยโดนลูกไม้นี้มาก่อนแล้ว เมื่อได้สัญญาณดิวดรอปจึงมุดน้ำลงไปอีกตัว ดีนได้แต่จับแผงคอของมันเอาไว้แน่น และเตรียมตรีศูลเพื่อสังหารศัตรู เมื่อทั้งสองมาถึงสนามรบก็เห็นว่าซีโฟมฮิปโปแคมปัสสุดแกร่งและฮิปโปแคมปัสอีกตัวสามารถตัดหนวดเส้นที่สี่ของคราเคนได้แล้ว

               “ฮรี้!!!”

               ดิวดรอปเข้าประจัญบาน ในยามอะดรีนารีนเดือดพล่านมันว่ายน้ำได้รวดเร็วฉวัดเฉวียนหลบหนวดที่เหลืออีกสี่เส้นของคราเคนที่พุ่งโจมตีมาได้หมดจนในที่สุดก็สามารถเข้าประชิดได้กับตัวหมึก แม้ภาพจะพร่ามัวทว่าดีนก็มองร่างกายใหญ่ยักษ์ของคราเคนได้อย่างชัดเจน เขาพุ่งหอกตรีศูลแทงเข้าไปยังดวงตาอันใหญ่โตของอสุรกายอย่างแม่นยำ และปักเข้าไปทีเดียวมิดด้าม

               “ก๊าซซซซ!!!”

               คราเคนกรีดร้องเมื่อสูญเสียดวงตาอันสำคัญไป มันจึงคุ้มคลั่งตวัดหนวดฟาดฟันมั่วซั่วไปหมดจนสหายรบหลบกันแทบไม่ทัน

               “บุ๋ง!” oO(ดิวดรอป ลากมันไปเลย ตัดผ่าหัวมัน!!) แม้ปากจะพูดออกมาไม่ได้ แต่ดีนยังคงสื่อสารภาษาม้ากับฮิปโปแคมปัสรู้เรื่องจากการเชื่อมใจทั้งสองเข้าหากัน

               “ฮรี้!” oO(ขอรับท่านเอลวิน!)

               เมื่อได้รับคำสั่งดิวดรอปก็ออกว่ายน้ำไปรอบ ๆ หัวของคราเคนอย่างรวดเร็ว ในจังหวะนั้นดีนควบคุมให้หอกตรีศูลที่เสียบคาดวงตาเปลี่ยนเป็นใบมีดดาบ ผ่าเฉือนเนื้อเมือกลื่นให้ขาดออกจากกันอย่างง่ายดายราวกับพ่อครัวซูชิมือฉมัง

               ร่างกายของคราเคนกระตุกเฮือก รวมถึงหนวดทั้งสี่ที่ดิ้นพล่านเหมือนกับหนังสยองขวัญ หมึกจำนวนมากไหลทะลัก ย้อมสีน้ำให้กลายเป็นดำทมิฬอีกครั้งหนึ่ง นี่คงเป็นวาระสุดท้ายของอสุรกายยักษ์ใต้สมุทร ทว่ามันไม่ยอมตายเพียงตัวเดียว ในขณะที่ร่างกายใหญ่โตกำลังจะสลายเป็นธุลี หนวดเส้นหนึ่งที่มีสมองเป็นของตัวเองพุ่งเข้ามารัดทั้งดีนและดิวดรอปจากด้านหลังในขณะที่ทั้งสองไม่ทันได้ระวังตัว

               “อึก!!”

               ทั้งคนและฮิปโปแคมปัสถูกเรี่ยวแรงมหาศาลบีบรัดจนหายใจไม่ออก ดีนได้ยินเสียงลั่นของกระดูกที่เขาแยกไม่ออกว่าเป็นของตัวเองหรือว่าฮิปโปแคมปัสที่ร่วมสู้ ความเจ็บปวดอย่างสาหัสที่สุดในชีวิตแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย ชายหนุ่มคล้ายกับจะอาเจียนออกมา แต่สิ่งที่จะออกจากปากดูเหมือนจะเป็นเครื่องในของเขาเอง ดีนได้กลิ่นของเลือดจำนวนมากที่คาวคลุ้งไปทั่วผืนน้ำ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เลือดของดิวดรอป เพราะว่าคู่หูของดีนได้สลายกลายเป็นฟองอากาศในนาทีที่ได้ยินเสียงกระดูกหักในครั้งแรก

               ‘ฉัน.. กำลังจะตาย?’

               ‘อย่างน้อยถ้าจะตายก็ขอเจอนายก่อนไม่ได้เหรอ... แมคซี่’

               แรงรัดมหาศาลคลายออกไปราวกับไม่เคยมีอยู่หลังจากที่คราเคนถูกส่งไปยังทาร์ทารัส ภาพตรงหน้ามืดดับไปทั้งที่ชายหนุ่มยังลืมตา และเสียงสุดท้ายที่ชายหนุ่มได้ยินก่อนที่ความรู้สึกสุดท้ายจะดับวูบไปคือเสียงของฮิปโปแคมปัสสุดแกร่งที่ชื่อว่าซีโฟม

               “ฮรี้!” oO(รีบพาท่านเอลวินไปรักษาตัวที่แอตแลนติสเร็วมิสตี้!)


ตื่นรู้ +2 จากการพิชิตครั้งแรก
สินสงคราม : เนื้อคราเคน จำนวน 7 ea

ใช้สกิล [น้ำเยียวยา]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 71373 ไบต์และได้รับ 56 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-3-20 06:29
โพสต์ 71,373 ไบต์และได้รับ +20 EXP +40 เกียรติยศ +40 ความศรัทธา จาก กุหลาบสีน้ำเงินทอง  โพสต์ 2025-3-20 06:29
โพสต์ 71,373 ไบต์และได้รับ +2 EXP +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก เสื้อฮาวาย  โพสต์ 2025-3-20 06:29
โพสต์ 71,373 ไบต์และได้รับ +18 EXP +30 เกียรติยศ จาก Hydro X  โพสต์ 2025-3-20 06:29
โพสต์ 71,373 ไบต์และได้รับ +13 EXP +25 เกียรติยศ +25 ความกล้า +18 ความศรัทธา จาก โล่แห่งเกียรติยศ  โพสต์ 2025-3-20 06:29

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2025-4-25 16:57:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-4-25 17:03

311
ออกเดินทางกันต่อ ลุยไปเลยเรือฮิปโปแคมปัส!


               21/03/2025 เวลา 9.00 น.

               “ขอบคุณที่มาส่งนะคุณลูอิส แล้วขอบคุณที่ดูแลผมในช่วงวันสองวันนี้ด้วย บริการถูกใจกดห้าดาวให้เลย”

               “ด้วยความยินดีขอรับ”

               ไซคลอปส์องครักษ์วางมือแนบอกก่อนจะค้อมศีรษะให้บุตรแห่งโพไซดอน ไม่อยากจะบอกว่าเขาก็แค่ทำตามหน้าที่ที่เจ้าสมุทร (โพไซดอน) มอบหมายงานให้ ถึงจะงงว่า ‘กดห้าดาวให้’ คืออะไรแต่เขาก็ทำเออออไปก่อน อย่างน้อยนั่นก็น่าจะเป็นคำชม

               “ท่านชายที่จะมาขึ้นเรือฮิปโปแคมปัสใช่ไหมขอรับเชิญทางนี้”

               ข้ารับใช้นายอู่เรือกล่าวทักทายพร้อมกับผายมือไปทางเรือกอนโดล่าสุดหรูบุเบาะนอนอย่างดีที่เทียมฮิปโปแคมปัสสีน้ำเงินเหลือบลายรุ้งสองตัว

               “ต้องบอกลากันแล้ว ไม่รู้จะได้เจอกันเมื่อไร แต่ผมไม่พูดว่าลาก่อนแล้วกัน โชคดีนะคุณลูอิส”

               กล่าวจบหนุ่มผิวน้ำผึ้งก็ตรงเข้าไปสวมกอดไซคลอปร่างสูงเพรียวแบบแมน ๆ ตบหลังสองสามทีก่อนจะปล่อยกอดออก จะว่าสร้างความตกใจให้ลูอิสก็ใช่ แต่จากที่เขาเห็นดีนกอดโพไซดอนและเนปจูนแล้วคิดว่าคงเป็นธรรมเนียมการทักทายสไตล์ชาวบกเสียกระมัง

               “ขอให้เดินทางปลอดภัยขอรับท่านชายเอลวิน”

               ไซคลอปส์ตาเดียวบอกลาญาติห่าง ๆๆๆๆ ของเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะมองส่งบุตรแห่งโพไซดอนให้ขึ้นเรือไป

               “ฮรี้~~” oO(สวัสดีขอรับท่านชายเอลวิน)
               
               “ฮรี้~~” oO(ยินดีที่ได้รับใช้อีกครั้งเพคะ ท่านชายเอลวิน)

               ฮิปโปแคมปัสที่ลากเทียมเรือส่งเสียงทักทายลูกชายเจ้านายทันทีเมื่อได้เห็นบุตรแห่งเจ้าสมุทรอีกครั้ง

               “สวัสดี เอ่อ.. ขอโทษที เราน่าจะเคยเจอกันมาก่อนใช่ไหม? พอดีว่าฉันแยกหน้าฮิปโปแคมปัสไม่ค่อยออกน่ะ”

               จะใช่ฮิปโปแคมปัสที่ลากเรือยอร์ชสองตัวสุดท้ายที่เหลือรอดหรือเปล่านะ เท่าที่จำได้ก่อนสลบเหมือนว่าทั้งคู่จะเป็นตัวผู้หนึ่งตัวและตัวเมียอีกตัวด้วยพอดี

               “ฮรี้~~” oO(ข้าไทร์รีมขอรับ พวกเราเคยรับท่านที่เฮติไปส่งที่ค่ายฮาล์ฟบลัด)

               “ฮรี้~~” oO(ส่วนข้าแกลลี่ย์เพคะ)

               หลังฮิปโปแคมปัสทั้งสองแนะนำตัวดีนก็ร้อง “อ๋อ” ออกมา

               “ฉันจำทั้งสองคนได้! เอะ.. เรียกสรรพนามว่าคนหรือเปล่านะ แต่ว่าช่างเถอะ” ถามเองตอบเองก่อนจะโบกมือปัดไปมา “ยินดีที่ได้พบกับทั้งสองอีกครั้งนะ ดีใจจัง ทั้งคู่สบายดีกันไหม?”

               “ฮรี้~~” oO(พวกข้าสบายดีเพคะ)ฮิปโปแคมปัสสาวตอบอย่างนอบน้อม ประดุจดั่งฮิปโปแคมปัสชาววังที่ได้รับการเทรนงานมาดี

               “งั้นก็ดีแล้ว เฮ้อ... คิดถึงคืนวันเก่า ๆ ชะมัด แต่ขอให้คราวนี้ไม่ต้องกลับแบบเจ็บตัวอีก”

               ดีนหัวเราะแก้เก้อ เดินทางด้วยเรือฮิปโปแคมปัสทีไรเป็นต้องเจ็บตัวทุกทีสิ แต่จากจุดนี้อยู่ห่างไกลจากเบอร์มิวด้าเยอะ น่าจะไม่มีอสุรกายน่ากลัว ๆ อีก ชายหนุ่มเอกเขนกตัวลงบนที่นั่งด้วยท่าทางสบาย ๆ ก่อนออกคำสั่งเดินเรือเมื่อเขาพร้อม

               “ตอนนี้พร้อมออกเดินทางแล้ว ลุยกันเลย!”

               เมื่อได้สัญญาณ… หลังคาเรือโปร่งแสงราวกับกระจกได้ลงมาคลุมครอบตัวเรือราวกับเรือดำน้ำ จากนั้นเรือกอนโดล่าลำงามก็เคลื่อนตัวออกจากท่าเรือฝ่าสายน้ำออกไปจากนครแอตแลนติส เมื่อหันมองกลับไปชายหนุ่มเห็นเพียงแค่ภาพขมุกขมัวมาแทนที่ จากนั้นเมืองทั้งเมืองได้อันตรธานหายไปกับหุบเหวใต้สมุทรอันว่างเปล่า เวทมนตร์บังตาทำงานได้อย่างดี หากไม่ใช่ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตไม่มีวันหาเมืองที่สาปสูญแห่งนี้พบ อาจรวมถึงเทพซุสที่ไม่อาจลงทัณฑ์นครใต้บาดาลนี้อีกเป็นครั้งที่สอง

               เรือดำน้ำฮิปโปแคมปัสโผล่ขึ้นเหนือน้ำกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ วิ่งฉิวด้วยความเร็วไม่ต่างจากเรือสปีดโบ๊ท ด้วยขนาดเรือลำเล็กกว่าขามาหลายเท่าจึงมีความคล่องตัวสูง มันดำผุดดำว่ายผ่านกระแสคลื่นที่โหมกระหน่ำ แต่เมื่อสังเกตดี ๆ คล้ายกับเห็นออร่าสีฟ้าอ่อนปกคลุมทั่วลำเรือ มันคืออำนาจคุ้มครองของฮิปโปแคมปัสสองตน คลื่นที่ซัดสาดเข้ามาจึงกลายเป็นเพียงระรอกคลื่นเล็ก ๆ ไม่ถาโถมรุนแรง

               ใจหนึ่งดีนนึกกลัวเมื่อนึกย้อนกลับไปยังเหตุการณ์เสี่ยงตาย แต่วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีและอารมณ์ดีเป็นพิเศษ วันนี้ทั้งวันจึงไม่น่าจะประสบกับปัญหาใด ๆ

               ชายหนุ่มหยิบสมาร์ทโฟนเดดาลัสขึ้นมากดพิมพ์ส่งข้อความถึงคนรัก ริมฝีปากขยับพึมพำตามตัวอักษร

               “กำ-ลัง-กลับ-ไม่-ต้อง-เป็น-ห่วง-แล้ว-เจอ-กัน-พรุ่ง-นี้-รัก-นะ-จุ๊บ… แล้วก็สติ๊กเกอร์อีกสามตัว”

               อมยิ้มมองแชทล่าสุดที่ส่งหา จากนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ เกี่ยวข้องกับธุระที่คุณชายไซม่อนชื่อเขียนยาก ๆ ไหว้วานให้ทำแลกกับหินแห่งปัญญา.. แหม ขอแลกกับเรือสักลำก็ไม่ได้…

               ‘เธอจะมีเส้นสายตามหานักร้องได้ไหมนะแนนซี่…’

               ปลายนิ้วขยับสลับหน้าจอแชทไปที่แชทพื้นหลังสีชมพูหวานแหว๋ว จากนั้นกดปุ่มพิมพ์ทักทายเพื่อนเก่าที่ไม่ได้คุยมานาน…


profile
Nancy Luvly
   D.E.A.N.:
ไฮฮายยย แนนซี่
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
ฮายยยย ที่รัก
ว่าง
อยู่ ๆ ก็ทักมาก่อนเป็นไปได้ด้วยเหรอเนี่ย
   D.E.A.N.:
ก็เพราะว่าฉันคิดถึงเธอน่ะสิ
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
   D.E.A.N.:
พอดีว่ามีเรื่องอยากปรึกษาหน่อย
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
ว่าแล้วเชียว คิดถึงอย่างเดียวไม่มีจริง
ว่าง
เอาล่ะ ฉันพร้อมที่จะฟังเรื่องของหนุ่มอังกฤษคนนั้นแล้ว
ว่าง
   D.E.A.N.:
แมคซี่เหรอ?
ฉันคิดถึงเขาจัง อยากกลับไปนอนกอดไว ๆ แล้ว
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
อ้าว ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ?


               เกือบลืมไปเลยแฮะว่าเพื่อนมักเกิ้ล (?) ของเขาไม่รู้เรื่องที่ตนกับคนรักแยกย้ายกันไปทำภารกิจ ต้องหาเรื่องโกหกให้มันเนียน ๆ แล้วรีบเข้าเรื่องธุระดีกว่า...


profile
Nancy Luvly
   D.E.A.N.:
อ้อ
คือว่า
แยกกันไปทำธุระที่ต่างเมืองน่ะ
แต่ที่จะปรึกษาไม่ใช่เรื่องแมคซี่หรอกนะ
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
ถ้าไม่ใช่เรื่องแฟนแล้วจะปรึกษาอะไร?
ว่าง
หรือว่านายมีกิ๊ก?
ว่าง
ดีน อีคนชั่ว!


               ‘ปัดโธ่เว้ย! ให้ตายสิแนนซี่!!!’

               ถึงก่อนหน้าสละโสดจะเป็นคนไม่ค่อยดีในเรื่องกามาเท่าไร แต่พอมีแฟนแล้วเขารักเดียวใจเดียวนะจะบอกให้!!


profile
Nancy Luvly
   D.E.A.N.:
เดี๋ยวก่อนสิเฟ้ย!
หยุดคิดไปเองเลย!
คืองี้
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
ถ้าไม่ใช่งั้นว่ามา
   D.E.A.N.:
เพื่อนใหม่ฉันอยากได้คอนแทกต์ของนักร้องที่ชื่อว่าเคธี่น่ะ
เคธี่ สก็อต นักร้องใหม่ค่ายสตาร์อะเกน เธอพอจะมีเส้นสายบ้างไหม?
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
โธ่ ที่รัก
ว่าง
ถึงฉันจะเป็นอินฟูลเอนเซอร์ แต่จะไปหาเส้นสายค่ายเพลงมาจากไหน
ว่าง
ว่าแต่เพื่อนใหม่นายหล่อป้ะ?
   D.E.A.N.:
หล่อสิ หล่อมาก หล่อจนไม่เหมือนมนุษย์
แต่ว่าส่งรูปเขาไปให้เธอไม่ได้ ฉันต้องปกป้องเขาจากการเป็นเหยื่อ
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
เหยื่ออะไรกันยะ!
   D.E.A.N.:
กลับเข้าเรื่องต่อ
คนรู้จักห่าง ๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับบริษัทนั้นก็ได้
เธอออกจะกว้างขวาง ไม่รู้จักใครบ้างเลยเหรอ?
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
ถ้าเป็นตอนนี้ยังนึกไม่ออก
ว่าง
แต่ถ้าที่รักขอร้องฉันก็จะจดไว้
ว่าง
   D.E.A.N.:
ขอบคุณนะแนนซี่เพื่อนรัก
รักเธอจัง
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
จ้าาาา
ว่าง
โอ้
ว่าง
ฉันพอจะนึกออกอยู่คนนึง
ว่าง
แต่ว่านายไม่อยากคุยด้วยแน่


               ปลายนิ้วที่กำลังพิมพ์แชทอย่างออกรสชะงัก ดีนรู้ว่าคนที่แนนซี่กล่าวถึงคือใคร มันคือหนึ่งในอดีตที่เขาไม่อยากจดจำ ที่เมื่อนึกถึงที่ไรก็รู้สึกถึงความร้อนลามขึ้นใบหน้า จังหวะของหัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างรู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่เคยเป็น


profile
Nancy Luvly
   D.E.A.N.:
....
อย่าบอกนะว่าหมายถึงคนนั้น ฉันไม่มีทางติดต่อไปเด็ดขาด!
ไม่มีวัน!
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
รู้น่า นายกลัวว่าถ่านไฟเก่าจะร้อนล่ะสิ
   D.E.A.N.:
ถ่านไฟเก่าอะไรไร้สาระ!
           Nancy Luvly:
Nancy Luvly
ไม่โกรธสิที่รัก
ว่าง
เอาไว้ฉันจะลองหาลู่ทางอื่นดูก่อน
ว่าง
แต่นายก็เตรียมใจเจอเธอไว้ด้วยล่ะ หากว่าฉันไม่มีหนทางอื่นแล้ว
   D.E.A.N.:
เอาแบบนั้นก็ได้
ขอบคุณนะ


               พิมพ์แชทถึงตรงนี้ดีนก็ถอนหายใจ ภาวนาหวังให้แนนซี่หาช่องทางติดต่อเคธี่ได้โดยไม่ต้องผ่าน ‘คน ๆ นั้น’

               แต่ในเมื่อได้ชิทแชทกับเพื่อนสาวแล้วแนนซี่ก็ไม่ปล่อยดีนไปง่าย ๆ วันเดินทางทั้งวันเขาจึงแชทกับหญิงสาวตลอดทางซึ่งส่วนใหญ่นางจะเล่าถึงการทำงานและแฟนคลับแปลก ๆ ในช่องแชทของออนลี่แฟน ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าเลือกเดินทางนี้แล้วก็ต้องทำใจกับพวกโรคจิตหน่อยนะเพื่อนสาว

               นาน ๆ ทีได้คุยกับเพื่อนแบบนี้ก็หายเหงาได้บ้างเหมือนกันแฮะ ไว้มีโอกาสคงต้องไปแฮงก์เอ้าท์แบบสุดเหวี่ยงกันสักที


เดินทางกลับค่ายฮาล์ฟบลัด
ขอให้เพื่อนในวงการช่วยตามหาคอนแทกต์ของเคธี่


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 62,420 ไบต์และได้รับ +8 ความศรัทธา จาก เข็มทิศมหาสมุทร  โพสต์ 2025-4-25 16:57
โพสต์ 62,420 ไบต์และได้รับ +1 Point จาก ตรีศูลน้อย  โพสต์ 2025-4-25 16:57
โพสต์ 62,420 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2025-4-25 16:57
โพสต์ 62,420 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-4-25 16:57
โพสต์ 62,420 ไบต์และได้รับ +8 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ควบคุมน้ำ  โพสต์ 2025-4-25 16:57
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้