12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[มหาสมุทรแอตแลนติก]

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-7-28 10:54:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2025-7-28 16:33




White Swan in The Ocean

Special Training with BRO 8/10

26th July 2025 8 AM - 12 PM


   ริปลีย์ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตอนนี้เจโรมได้เก็บสินสงครามใส่กระเป๋าให้เธอและเตรียมดึงสมอเรือเพื่อเริ่มออกเดินทางกลับค่ายเสียที ร่างเล็กของธิดาโพไซดอนค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นด้วยความง่วงงุนยังคงค้างพอควร ในคราแรกก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันเดินทางได้ราบเรียบ พวกเธอเดินทางตรงออกมาจากใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติกจนเกือบจะพ้นเขตน้ำลึกอยู่รอมร่อ ทว่าไม่นานเท่านั้นที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

   ทะเลนิ่งผิดปกติ...ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังมีลมคลื่นพัดผ่าน แต่ในตอนนี้ —

   สายน้ำใต้ท้องเรือกลับหยุดนิ่ง ราวกับโลกกำลังกลั้นหายใจ


   “เงียบเกินไป...” เจโรมเอ่ยเบา ๆ ดวงตาเขากวาดมองขอบฟ้ารอบทิศ ริปลีย์ที่นั่งอยู่กับพื้นก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น หยิบหอกสตรอมบริงเกอร์ขึ้นมากระชับในมือ ร่างกายรู้สึกได้ถึงแรงดึงบางอย่างจากเบื้องล่างและเรือก็เริ่มเคลื่อนตัวโดยที่ไม่ได้แตะมอเตอร์อะไรทั้งนั้น

   ฟวู่มมม—!!

   เสียงคล้ายการดูดน้ำจากมหาสมุทรดังขึ้นข้างเรือ พื้นน้ำถัดออกไปไม่ไกลกำลังก่อตัวเป็น น้ำวนขนาดยักษ์ หมุนวนรุนแรงพอจะกลืนเรือทั้งลำลงไปในพริบตา และเรือของเธอไม่อยู่ไม่ไกลจากมันมากย่อมไม่ใช่ข้อยกเว้น เรือโคลงเคลงและกำลังไหลเข้าไปใกล้น้ำวน

   เจโรมผู้เป็นรุ่นพี่จำต้องรับผิดชอบชีวิตของน้องสาวที่พ่วงกำแหน่งลูกศิษย์พิเศษ เขารีบใช้พลังเรียก คลื่นสวนกระแสบังคับไม่ให้เรือไหลไปตามแรงของน้ำวนยักษ์ แต่ทันใดนั้น...

   เงาดำขนาดใหญ่ปรากฏกลางใจน้ำวนพร้อมเสียงคำรามกึกก้องที่ดังกว่าเสียงฟ้าผ่าใต้น้ำ

   "สายเลือดโพไซดอน"

   ร่างยักษ์มหึมาทะยานขึ้นจากใจกลางน้ำวน ท่อนบนเป็นฉลามขาวขนาดเท่าช้าง หัวกว้างเต็มไปด้วยฟันแหลมราวใบมีด ท่อนล่างเป็นหนวดหมึกมหึมานับสิบเส้น ฟาดลงบนผิวน้ำรอบตัว ปล่อยแรงสั่นสะเทือนเป็นวง ดวงตาของมันไม่มีม่านตา — มีเพียงความดำมืดดุจหุบเหวและขากรรไกรที่ขยับไม่หยุดราวกับหิวกระหายสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

   “ลูซก้า—”

   เสียงของเจโรมเรียกชื่อของสิ่งนั้นทำเอาดวงตากลมของริปลีย์เบิกกว้าง ลูซก้าที่เขาว่าคือศัตรูคู่แค้นที่เป็นสาเหตุให้บุตรธิดาแห่งโพไซดอนหายสาปสูญลงท้องมันไปแล้วนักต่อนัก และดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นรายต่อไปหรือไม่

   ไม่—เธอไม่ยอมมาตายอะไรตรงนี้หรอก

   ลูซก้าเริ่ม ดูดน้ำทะเลเข้าปาก แรงดูดนั้นรุนแรงพอจะดึงทุกสิ่งเข้าไปหามันได้ ริปลีย์เกาะเสากระโดงไว้สุดแรง เธอใช้ “ฟองอากาศแห่งชีวิต” สร้างฟองกันแรงดูดรอบตัวเจโรม

   “ฉันจะดึงความสนใจมันไว้—เธอลงมาทีหลัง!”

   เจโรมกระโดดลงไปยังท้องทะเลที่มืดมิด แม้ว่านี่จะเป็นทางเลือกที่อันตรายต่อการรักษาชีวิต แต่สำหรับสายเลือกของท้องทะเล มันเองก็ไม่ต่างจากพลังของพวกเธอเหมือนกัน

   “ก็มาดูกันว่าจริง ๆ แล้วทะเลอยู่ข้างใคร”

   ริปลีย์กระโดดลงไปใต้น้ำทันที ณ ใต้ผิวน้ำมหาสมุทร ความมืดที่ลึกอับแสง ลูซก้าหายตัวในเงาใต้น้ำ — พรางตัวกลืนไปกับสภาพแวดล้อม

   ทันใดนั้น หนวดเส้นหนึ่งพุ่งออกจากเงามืด ฟาดใส่เจโรมกระเด็นไป ริปลีย์ที่กระโดดตามลงน้ำ ใช้ “เซนเชอร์น้ำ” เพื่อหาตำแหน่งของมันในเงามืด

   ...เจอแล้ว!

   กายเล็กควบคุมน้ำส่งกระแสน้ำเร่งให้เธอพุ่งเข้าไปแทงหอกไปยังจุดที่มีการบิดตัวของกระแสน้ำ — ทะลุเงาทะเลที่บิดพริ้วจนร่างของลูซก้าโผล่พ้นม่านพรางและคำรามลั่นด้วยความเจ็บใจ

   เจโรมที่ตั้งหลักได้เร่งใช้พลังคลื่นสร้าง “มวลน้ำหมุนสวนทิศ” ใต้น้ำ ทำให้มันหยุดหมุน ริปลีย์ล่อมันให้พุ่งตามเธอไปยัง แอ่งน้ำตื้นใกล้แนวโขดหินใต้ทะเล

   เพื่อให้ลูซก้าขยับได้ช้าในที่ตื้น

   “ตอนนี้แหละ ริปลีย์!” เจโรมสื่อข้อความจากการสื่อสารของใต้ทะเล

   น้องสาวของเขาไม่รอช้าหันกลับไปแทงหอกยาวตรงเข้าสู่ เหงือกหลังกราม ของลูซก้า – แสงสีเทอร์ควอยซ์ระเบิดออกจากรอยแทง ลูซก้ากรีดร้อง ทะยานขึ้นเหนือน้ำอีกครั้ง ก่อนร่างจะระเบิดเป็นละอองน้ำและหมึกดำ เสียงคำรามสุดท้ายสลายกลืนกลับสู่ความเงียบของทะเลลึก

   สองพี่น้องเจกับริปค่อย ๆ ว่ายน้ำขึ้นเรืออีกครั้ง คราวนี้การที่ตองเจอกับระดับลูซก้าทำให้พลังงานของทั้งสองนั้นหมดสิ้นไปจนไม่อาจขยับกายได้อีกแล้ว

   “...โหดกว่าวาฬสามตัวรวมกันอีก”

   “ดีนะที่มันช้าลง ไม่งั้นคงกลายเป็นอาหารเช้าของมันไปแล้ว”

   มีเพียงเสียงหัวเราะหลังอาการหอบหายใจดังขึ้น กำปั้นน้อย ๆ ยกขึ้นชนกำปั้นของร่างสูงเป็นการชนมือที่รู้สึกดีมากที่สุดก็ว่าได้ ประสบการณ์ที่เธอได้จากตรงนี้คงทำให้เธอไม่ลืมอีกยาวนานเชียว

   ดีนะที่ตรงนี้เป็นแอตแลติก เธอคราเคนขึ้นมาเธอคงทำได้แค่มอบตัวเป็นอาหารมื้ออร่อยสุดจุ๊ยซี่ให้มันเชียว

   “หิวแล้วอ่ะ กินอะไรดี” น้องสาวเอ่ยขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นนั่งเพื่อมองดูว่าเสบียงในตัวมีอะไรบ้าง

   “พักก่อนก็แล้วกัน”

   ทั้งสองได้ใช้เวลาร่วมกันผ่านการกินข้าวมื้ออร่อยที่ไม่ได้อร่อยจนร้องไห้อะไรขนาดนั้นด้วยข้อจำกัดอย่างการที่ต้องเน้นเสบียงกินง่าย อยู่ท้อง และไม่เสียง่าย

   ก็ที่นี่เป็นกลางทะเลนี่นา

   หลังจากโซ้ยมื้อเช้าที่น่าจะพ่วงมาเป็นมื้อเที่ยงด้วยแล้วนั้นร่างเล็กก็เดินไปนั่งข้าง ๆ เจโรมผู้เป็นพี่ชายในบ้านเดียวกัน มือเล็กยื่นหนังสือนิตยสารที่เธอชอบอ่ายเพราะหาอะไรทำฆ่าเวลาจากการไม่มีมือถือ เจโรมเองจริง ๆ ก็มีมือถือนะ แต่ว่าไหน ๆ น้องสาวยื่นให้ขนาดนี้แล้วจะไม่รับมาก็กระไรอยู่เลยได้ย้อนวัยกลับไปอ่านอะไรที่เป็นกระดาษสักหน่อย

   “ขอบใจ”

   “อือฮึ”

   ริปลีย์เปิดนิตยสารมาอ่านข่าวภายในค่ายเพื่ออัพเดตจากตอนนั้นที่อ่านถึงข่าวของตัวเองก็โยนทิ้งทันที—แถมไม่ดูตาม้าตาเรือทิ้งไปลงเตาไฟบูชาเสียด้วย…

   “โอ้โห ไอหนุ่มนั่นคุ้น ๆ นะริปลีย์ คนคุ้นเคยไม่เบา”

   “อย่าคิดอะไรไร้สาระน่าเจโรม ไม่มีอะไรทั้งนั้น ใส่สีตีไข่สุด ๆ ”

   “อือฮึ ได้ ๆ ไม่มีก็ไม่มี”

   แต่ใบหน้ากลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนน่าหมั่นไส้ หงส์ขาวตัวน้อยแห่งเคบินที่สามเลือกที่จะไม่สนใจแล้วอ่านนิตยสารในมือของเธอดีกว่า

   ลั่นฟ้าผ่ารูปหัวใจ! ซุสจีบสาวคนใหม่ในเท็กซัส! ปาฏิหาริย์แห่งรักเหนือนครออสติน!
   เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เหนือท้องฟ้านครออสติน #รัฐเท็กซัส #สหรัฐอเมริกา ได้เกิดปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ใจที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องตกตะลึง! นั่นคือ ฟ้าผ่ารูปหัวใจ! ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งหนึ่งในชีวิต และดูเหมือนว่า... จอมเทพซุสของเราจะทรงสร้างปาฏิหาริย์นี้ขึ้นมาเพื่อ "จีบสาวคนใหม่" ในเท็กซัสสำเร็จแล้ว!
   จากภาพที่เฮอร์มีสได้รับมา สายฟ้าสีม่วงอมขาวสว่างเจิดจ้าได้ผ่าลงมาเหนือผืนฟ้าที่มืดมิด ก่อตัวเป็นรูปหัวใจที่ชัดเจนและสมบูรณ์แบบ แสงสว่างนั้นสาดส่องลงไปยังแสงไฟระยิบระยับของเมืองออสติน สร้างความตื่นตะลึงและสร้างบรรยากาศแห่งความรักที่เปี่ยมล้น
   นี่ไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติธรรมดาๆ! หากแต่เป็นสัญญาณอันชัดเจนจากองค์จอมเทพซุส! ผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้และมีเสน่ห์ต่อเหล่าเทพีและมนุษย์! การที่สายฟ้าอันเป็นอาวุธคู่กายของพระองค์ปรากฏเป็นรูปหัวใจเช่นนี้ ย่อมเป็นสัญลักษณ์แห่งการเกี้ยวพาราสีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!

   วิเคราะห์จากเฮอร์มีส:
   ใครกันนะคือสาวผู้โชคดีคนนั้น ที่ทำให้จอมเทพซุสถึงกับต้องยอมลงทุนสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกเพื่อแสดงความรักถึงเพียงนี้!? เธอผู้นั้นจะต้องมีความพิเศษและมีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างหาตัวจับยากเป็นแน่!
   เรื่องนี้ทำให้เฮอร์มีสถึงกับต้องตื่นเต้นและอยากรู้เรื่องราวความรักครั้งใหม่ของจอมเทพซุสเลยทีเดียว! ฟ้าผ่ารูปหัวใจนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานรักบทใหม่แห่งโอลิมปัสหรือไม่?

   #ซุสจีบสาว #ฟ้าผ่ารูปหัวใจ #ตำนานรักบทใหม่ #ออสติน #เท็กซัส

   เฮอร์มีสขอตัวไปสืบสาวราวเรื่องว่าใครคือสาวผู้โชคดีคนนั้น แล้วจะนำข่าวดีๆ มาฝากทุกคนอีกแน่นอน! บ๊ายบาย!’


   “อีกแล้วหรอ ?” ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนที่จะกลับเป็นสภาพเดิม เธอรู้สึกว่าสำหรับอาคนนี้ การที่เขาจะเจ้าชู้ไปทั่วกลายเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจได้ยากที่ปลงตกไปแล้ว

   อย่าว่าแต่เขาเลย โพไซดอนพ่อเธอก็ผลิตพี่น้องให้เธอมากมายนัก

   ริปลีย์เลือกที่จะส่ายหัวไปมาเบาๆ แล้วอ่านเรื่องอื่นต่อดีกว่า

   เปิดโปงความลับ! แอ็คเซล มิโคโลซอฟ และ โนอาห์ วอลเตอร์: สถานะ "เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ" เคมีพุ่งทะลุปรอท!
<    หลังจากที่เฮอร์มีสผู้นี้เฝ้าติดตามมานาน ในที่สุดก็มีมูลพอจะให้จับตามองแล้ว! เฮอร์มีสขอฟันธงว่าสถานะของ แอ็คเซล มิโคโลซอฟ บุตรแห่งไทคี และ โนอาห์ วอลเตอร์ เซเทอร์ผู้ดูแล นั้นคือ "เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ" อย่างไม่ต้องสงสัย!

   เพราะอะไรถึงคิดเช่นนั้น? มาดูหลักฐานที่เฮอร์มีสสืบมาได้!

   หลังจากหนุ่มไทคีหน้าใหม่อย่าง แอ็คเซล มิโคโลซอฟ ได้ปรากฏตัวในค่ายฮาล์ฟบลัดได้ไม่นาน อยู่ๆ ก็เริ่มออกแวว "ติดเซเทอร์ผู้ดูแลอย่างโนอาห์ วอลเตอร์เป็นพิเศษ!" นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ! ได้ยินมาว่า ตั้งแต่ก่อนที่แอ็คเซลจะเข้าค่าย ทั้งสองนั้น "พบเจอกันมาตลอดระยะเวลาหลายปี" (แม้ว่าจะเป็นหน้าที่ของโนอาห์ที่ได้รับคำสั่งให้ติดตามแอ็คเซลก็ตาม) แต่จากการสังเกตการณ์ของสายข่าว เฮอร์มีสพบว่า "หลายๆ จังหวะ โอกาส และโมเม้นท์ต่างๆ ก็เต็มไปด้วยเคมีชั้นดีที่มองข้ามไม่ได้!"
   ไม่ว่าจะเป็นการที่แอ็คเซลดูจะพึ่งพาโนอาห์เป็นพิเศษ หรือการที่โนอาห์เองก็ดูจะให้ความสำคัญกับแอ็คเซลมากกว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขามัน "เกินกว่าคำว่าเพื่อน" ไปแล้ว!

   บทสรุปจากเฮอร์มีส:

   สองคนนี้จะมีซัมติงหรืออย่างไรกันแน่!? เฮอร์มีสขอตอบเลยว่า "มีแน่นอน!" ความใกล้ชิดที่สั่งสมมานานหลายปี และเคมีที่เข้ากันได้อย่างลงตัว กำลังก่อร่างสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าคำว่า "เพื่อนสนิท"
   งานนี้คงต้องจับตาดูความสัมพันธ์ของ แอ็คเซล และ โนอาห์ อย่างใกล้ชิด! เตรียมตัวหวีดกันได้เลย!

   #เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ #แอ็คเซลโนอาห์ #เคมีพุ่ง #ความสัมพันธ์ลับๆในค่าย

   เฮอร์มีสขอตัวไปสืบหาโมเมนต์เด็ดๆ ของคู่นี้เพิ่มเติม แล้วจะนำข่าวคืบหน้ามาบอกทุกคนอย่างรวดเร็วแน่นอน! บ๊ายบาย!


   ประกาศลั่น! เลเวอเรทท์ ฟรีมอนต์ และ ไนมีเรีย เฮนลาดิส: สถานะ "คบกันแล้ว" อย่างเป็นทางการ! ชาวบ้าน 3 การันตี!

   เฮอร์มีสขอฟันธงอย่างหนักแน่นด้วยหลักฐานที่แน่นหนายิ่งกว่ากำแพงของโอลิมปัส! สถานะของ เลเวอเรทท์ ฟรีมอนต์ บุตรแห่งแอรีส และ ไนมีเรีย เฮนลาดิส ธิดาแห่งเฮคาที ตอนนี้คือ "คบกันแล้ว!" อย่างไม่ต้องสงสัย!

   เพราะอะไรถึงคิดเช่นนั้น? มาดูหลักฐานเด็ดที่ชาวบ้าน 3, 4 และทุกคนในค่ายเห็นพร้อมกัน!

   ข่าวนี้ได้รับการตอกย้ำความมั่นใจจาก ชาวบ้าน 3 ผู้เป็นแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้! พวกเขายืนยันว่า "เขาคบกันจริงๆ แล้ว!" ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีการอัปเดตอย่างต่อเนื่องหลังจากการฝึกฝนร่วมกัน จากที่เป็นแค่ศิษย์และอาจารย์ ตอนนี้ต้องเป็นอะไรน้า? ติ๊กต๊อกๆ... คำตอบคือ "แฟนกันแล้ว" ไงล่ะ!

   เริ่มต้นด้วยโมเมนต์ที่ เลเวอเรทท์ มีการบอกให้ไนมีเรีย "รอแป๊บหนึ่ง เอาของมาให้ด้วยเอาสิ" โอ้โห! นี่มันคือ "ของแทนใจต่างหน้า" หรือเปล่านะ? มันยังไงกันแน่! ถึงแม้ ชาวบ้าน 4 จะบอกว่าใช้กล้องส่องทางไกลมองไม่ชัดว่าของชิ้นนั้นคืออะไร แต่การกระทำนี้มันบ่งบอกทุกอย่างแล้ว!

   แต่!! ใครจะบอกว่าจบ? เจอแมทช์นี้เข้าไปค่ะ!

   สิ่งที่ตอกย้ำสถานะความสัมพันธ์ให้ชัดเจนยิ่งกว่าสายฟ้าฟาดของเทพซุสก็คือ ประโยคเด็ดดวงจากปากของไนมีเรียที่ว่า: "ถ้ารุ่นพี่รับปากว่า เมื่อฉันกลับมาถึงค่ายอีกครั้ง จะปฏิบัติต่อฉันให้ดีขึ้นอีกหน่อย ไม่ใช่ในฐานะเด็กบ้านเฮคาทีรึแม่มดที่น่าระแวง แต่ในฐานะรุ่นน้องคนโปรดของคุณน่ะ ฉันจะยอมรับของชิ้นนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้งเลย"

   โอ๊ยยยยยยยยยยยย! คุณขา! นี่มันไม่ใช่แค่การ "ไม่อยากรับของฟรี" แล้ว! นี่มันคือการบอกว่า "ไม่ฟรีหรอก เพราะได้ใจพี่เขาไปแล้ว ถือว่าแลกกันเลย" หรือเปล่านะ?! นี่มันคือการยกระดับความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกว่าที่เคย!

   คำว่า "รุ่นน้องคนโปรด" เนี่ย! ชาวบ้าน 2, 3, 4 หรือคน 20000 ของค่ายก็ดูออกว่าตอนนี้มัน "พิเศษมากแล้วนะคะแม่!" แต่จะโปรดแบบใดกันน้า? แน่นอนว่านี่คือความโปรดในฐานะ "คนรัก"!

   แม้สาวเจ้าจะบอกว่า "ไม่จีบ" (ก็สาวไม่จีบอะสิ!) แต่หนุ่มเขาไม่ได้บอกว่า "ไม่หนิ" ก็มีหวั่นไหวบ้าง หรือเปล่า? เฮอร์มีสขอฟันธงว่า "หวั่นไหวหนักมาก และตอนนี้ได้คบกันแล้ว!"

   สรุปจากเฮอร์มีส:

   หลักฐานและคำบอกเล่าทั้งหมดนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้! เลเวอเรทท์และไนมีเรียได้ก้าวข้ามสถานะศิษย์-อาจารย์ สู่การเป็นคู่รักอย่างเต็มตัวแล้ว! งานนี้เตรียมตัวสำหรับภาพคู่รักสุดหวานที่อาจจะทำให้ชาวค่ายต้องอิจฉาตาร้อน!

   #เลเวอเรทท์ไนมีเรียคบกันแล้ว #รุ่นน้องคนโปรด #รักนอกหลักสูตร #ชาวบ้านยืนยัน #กริ๊ดสลบ

   เฮอร์มีสขอตัวไปเตรียมซุ้มดอกไม้และพลุฉลอง แล้วจะนำข่าวหวานๆ มาฝากทุกคนอีกแน่นอน! บ๊ายบาย!


   จะข่าวไหนก็มีแต่ข่าวของคนรู้จักจนเธอขมวดคิ้วว่านี่ใช่สาวเจ้าที่เธอรู้จักกับหนุ่มบ้านรวยคนนั้นที่เธอรู้จักจริง ๆ หรือไม่ แต่ว่าตอนนี้ดวงตาของเธอค่อยๆ หนักอึ้ง กายเล็กที่เปียกน้ำพอหมาด ๆ แล้วหนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อน ร่างเล็ก ๆ ค่อย ๆ เอนหลังพิงพนักพิงที่นั่งและค่อย ๆ ไหลไปซบไหล่พี่ชายที่นั่งข้างกาย

   เจโรมที่เห็นแบบนี้ไปก็ยกยิ้มเบาบางด้วยความเอ็นดูเจ้าตัวเล็กของเขา ในตอนนี้นับว่าเริ่มสนิทกับริปลีย์มากขึ้นกว่าที่คิดไว้เยอะเชียว ในฐานะพี่ชายแล้วเขาเลือกที่จะนั่งนิ่ง ๆ และเอาผ้ามาห่มกายบาง ปล่อยให่คนตัวเล็กยืมไหล่ต่างหมอนหนุนเพื่อให้เวลาเด็กน้อยได้พักผ่อนเสียทีจากการต่อสู้ตั้งสองรอบติดกัน





เปิดใช้งานเอฟเฟค

ปฏิสัมพันธ์กับ เจโรม ปาร์ค ซึงยอน
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
ให้ นิตยสารวงการบันเทิง แก่ เจโรม ปาร์ค ซึงยอน ให้สิ่งที่ชอบที่สุดกับ NPC จะได้รับ +20 แต้มมิตรภาพ * 2 จากกิจกรรม
ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

ผู้ฟังข่าวซุบซิบ ได้รับ +15 EXP * 3 = 45 EXP

@God

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-03] เจโรม ปาร์ค ซึงยอน เพิ่มขึ้น 47 โพสต์ 2025-7-28 10:56
God
คุณได้รับ 45 EXP โพสต์ 2025-7-28 10:54
โพสต์ 36960 ไบต์และได้รับ 24 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-28 10:54
โพสต์ 36,960 ไบต์และได้รับ +9 EXP +9 เกียรติยศ +9 ความศรัทธา จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-7-28 10:54
โพสต์ 36,960 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ฟองอากาศแห่งชีวิต  โพสต์ 2025-7-28 10:54

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-7-28 16:59:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด



White Swan in The Ocean

Special Training with BRO 9/10

26th July 2025 4 - 6 PM


   หลังจากการต่อสู้ที่ติดต่อกัน ริปลีย์ก็ตื่นมาเอาในช่วงเย็น ๆ ของวัน แสงแดดยามบ่ายปลายวันทาบลงบนเปลือกไม้ของดาดฟ้า เรือโยกเบา ๆ ด้วยจังหวะคลื่นสม่ำเสมอ ริปลีย์นอนอยู่ใต้ผ้าห่มบางตัวหนึ่งที่คลุมร่างเธอจากช่วงไหล่ลงมา

   กลิ่นทะเลเจือจางเข้าจมูก กลิ่นเกลือ แสงแดด และเสียงลมหายใจของน้ำที่ยังคงมีชีวิต… ทั้งหมดนี้ปลุกให้เธอลืมตา

   ไม่ไกลออกไป เจโรมนั่งอยู่ข้างเสากระโดง ผูกปมเชือกอย่างเชี่ยวชาญ มืออีกข้างถือกระบอกน้ำเย็น

   “ตื่นแล้วสินะริปลีย์ ไม่ได้ปวดตัวมากใช่ไหม”

   เสียงนั้นไม่ได้เร่งเร้า แต่มีรอยยิ้มบาง ๆ ปนอยู่ ริปลีย์ขยับตัวช้า ๆ เอนศีรษะขึ้นอย่างมึน ๆ แต่ยังรู้สึกถึงแรงชีวิตในแขนขา เธอยกมือแตะผ้าห่มที่ปิดตัวเองอยู่ — มันอุ่นจากแสงแดด และจากใครบางคนที่คงคลุมให้เธอตอนเธอหลับไป

   เจโรมลุกขึ้น ดึงริปลีย์ให้ลุกตามโดยไม่ถามสุขภาพสักคำ เขาเดินไปหยุดตรงขอบเรือ แล้วชี้ไปยังท้องทะเลเบื้องหน้า

   “ได้เวลาเรียนชิล ๆ แล้ว ดูทะเลสิ — วันนี้มันเงียบ...แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มีอะไรอยู่ข้างใต้”

   เขาเอ่ยอธิบายให้เธอฟังว่า ผิวน้ำ เป็นสิ่งแรกที่ลูกแห่งทะเลควรรู้จัก เพราะมันคือ “ใบหน้า” ของมหาสมุทร — สีของน้ำ เสียงฟอง ฟองที่แตก ความเร็วของคลื่น ล้วนบอกเรื่องบางอย่าง

   “สีของน้ำบอกเราว่าข้างล่างมันลึกแค่ไหน หรือกระแสน้ำกำลังขยับไปทางไหน น้ำทะเลสีฟ้าใส เทอร์ควอยซ์ หรือเขียวอ่อน — นั่นคือน้ำตื้น แสงทะลุถึงพื้น นิ่ง ปลอดภัย”
   “แต่ถ้าเป็นน้ำสีน้ำเงินเข้ม สีกรม หรือเทาอมดำ — แปลว่าลึก แรงดันสูง มืด และมีโอกาสที่บางอย่างจะเคลื่อนไหวอยู่ข้างล่างโดยที่เราไม่รู้ตัว”
   “แล้วก็อีกอย่าง…ถ้าเธอเห็นผิวน้ำเปลี่ยนสีเฉียบพลัน แถบเข้มแถบอ่อนตัดกัน ลมแรงขึ้น ฟองจางไว — นั่นอาจเป็น ‘รอยเท้า’ ของอะไรบางอย่างที่เพิ่งผ่านไป”

   “แล้วก็ต่อไปคลื่นพูดได้นะ รู้ยัง?”
   “คลื่นเบา ๆ ซ่า ๆ ถี่ ๆ มักมาจากน้ำตื้นหรือลมอ่อน — พื้นที่แบบนั้นคือเขตปลอดภัย”
   “แต่คลื่นที่เสียงทุ้ม หนัก แล้วมากระแทกเป็นช่วง ๆ นั่นไม่ใช่เรื่องดี มันบอกว่าข้างล่างลึก มีอะไรบางอย่างเคลื่อนตัว — จะเป็นกระแสน้ำ หรืออะไรใหญ่กว่านั้น…ก็แล้วแต่”
   “เวลาฟังคลื่นน่ะ อย่าฟังแค่หู ฟังประสาทสัมผัสทั้งกายของเธอ มันสั่นเธออยู่ตลอดเวลา ถ้าเธอเงียบพอ เธอจะได้ยิน”

   “และอย่างสุดท้ายของการอ่านผิวน้ำทะเล จำไว้เลยนะริปลีย์ — ฟองน้ำไม่เคยโกหก”
   “ถ้าเธอเห็นฟองเล็ก ๆ เต็มไปหมด ลอยฟู ๆ บนผิวน้ำ นั่นคือน้ำตื้น หรือมีคลื่นปะทะหินข้างล่าง แรงอัดอากาศเบา ๆ ก็ลอยขึ้นมาเป็นฟอง”
   “แต่ถ้าน้ำเรียบเป็นกระจก แทบไม่มีฟองเลย นั่นคือน้ำลึก…แรงดันสูง ข้างล่างอาจเงียบ — แต่มันไม่ว่างเปล่าหรอกนะ”
   “แล้วถ้าเธอเห็นฟองลอยขึ้นมาแล้วโดนลมพัดแป๊บเดียวหายเกลี้ยง — หรือฟองแตกตัวเร็วผิดปกติ นั่นแปลว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวใต้ทะเล แล้วแรงดันของมันก็กำลัง ‘บีบ’ น้ำด้านบนจากข้างล่างขึ้นมา”

   “พูดง่าย ๆ... ถ้าฟองหาย แล้วน้ำเปลี่ยน แปลว่าเราต้องระวัง”


   ริปลีย์ยืนฟังพร้อมกับมองผิวน้ำตลอดเวลา นึกย้อนกลับไปช่วงก่อนที่ลูซก้าจะโผล่ ผิวน้ำมันส่งสัญญาณบอกแบบนั้นจริง ๆ

   “ผิวน้ำน่ะเป็นเหมือนหนังหน้าของทะเล ถ้าเธออ่านออก เธอจะรู้ว่าใต้นั้นกำลังยิ้ม...หรือกำลังแยกเขี้ยวใส่เธออยู่ พอฝึกพอจนเข้าใจ เธอจะมองออกโดยไม่ต้องใช้พลังด้วยซ้ำ เชื่อฉันสิ”

   “คุณเชี่ยวชาญจังเลยนะเจโรม”

   “ถ้าไม่เชี่ยวชาญฉันจะมาเป็นเมนเทอร์ทำไม จริงไหม ?”

   “ก็จริง—”

   หลังจากนั้นการเรียนการสอนเบา ๆ ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาราว ๆ สองชั่วโมงนับจากนี้ เจโรมสอนริปลีย์ขัดเกลาสัมผัสแห่งสายน้ำให้เฉียบแหลมขึ้นโดยการโยนเปลือกหอยเบา ๆ ลงน้ำแล้วให้ริปลีย์ใช้สัมผัสจับว่าเขาโยนตรงไหนกัน แรก ๆ เธอก็ไม่ได้ตอบถูกหรอก แต่หลัง ๆ เหมือนจะจับทริกได้แล้วว่าควรจะทำอย่างไรกับทักษะนี้ก็ดูจะแม่นยำขึ้นทีเดียว

   ต้องบอกว่า การที่เปิดมาก็ใส่อสูรกายยับ ๆ ทำให้เด็กคนนี้ก้าวกระโดดก็ว่าได้




เปิดใช้งานเอฟเฟค


ปฏิสัมพันธ์กับ เจโรม ปาร์ค ซึงยอน
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
@God

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 12821 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-28 16:59
โพสต์ 12,821 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก หินสมุทรเทพ(*)  โพสต์ 2025-7-28 16:59
โพสต์ 12,821 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-7-28 16:59
โพสต์ 12,821 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก ฟองอากาศแห่งชีวิต  โพสต์ 2025-7-28 16:59
โพสต์ 12,821 ไบต์และได้รับ +2 EXP +6 เกียรติยศ +6 ความศรัทธา จาก ภูมิคุ้มกันเปียก  โพสต์ 2025-7-28 16:59
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-7-28 17:28:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด



White Swan in The Ocean

Special Training with BRO 10/10

27th July 2025 9 AM - 2 PM


   ในวันที่สี่ของการอยู่บนเรือกลางทะเล แสงแดดตอนสายส่องลงมาจนผิวน้ำเปล่งประกายเป็นระยิบสีฟ้าอมเขียว ใต้น้ำมีฝูงปลาขนาดเล็กว่ายวนอยู่เป็นวงรอบโขดหิน เจโรมกำลังนั่งคุกเข่าริมขอบเรือ ล้วงมือแตะน้ำเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าหันมามองเธอ

   “วันนี้มาลองดูว่าปลามันจะฟังเธอมั้ย”

   ริปลีย์เดินมาหยุดข้าง ๆ เขา ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า หัวใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะนักตั้งแต่เช้า—แต่เธอพยายามซ่อนมันไว้ เธอมองผืนน้ำเบื้องหน้า ก่อนจะเอื้อมมือออกไปแตะผิวทะเลอย่างแผ่วเบา

   “ไม่ต้องพูดอะไร” เจโรมเอ่ยเสริม “ใช้ใจเธอสื่อสาร จำได้ว่าเคยเห็นเธอคุยกับฮิปโปแคมปัสที่ค่าย ทำเหมือนกันเลย”

   ลมทะเลพัดเฉียดแก้ม ฟองคลื่นเบาบางเคลื่อนผ่านมือเธอไป เหมือนสายน้ำกำลังฟัง แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะไว้ใจเธอดีหรือไม่ ริปลีย์ค่อย ๆ หลับตา ปล่อยให้เสียงรอบข้างค่อย ๆ เลือนหาย เสียงคลื่น เสียงลม เสียงเสื้อผ้าไหวในลม เหลือเพียงจังหวะของหัวใจตัวเอง กับความรู้สึกที่ส่งลงไปในน้ำ

   นี่…มาหากันหน่อยสิ ฉันเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก อยากเจอพวกเธอน่ะ

   วินาทีนั้นเอง เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแตะปลายนิ้ว เมื่อเธอลืมตาขึ้น ปลาหางเหลืองสามสี่ตัวว่ายเข้ามาใกล้ ปลาวนรอบปลายนิ้วเธอหนึ่งรอบ ช้า ๆ และไม่มีความกลัว ก่อนจะว่ายถอยกลับไปอย่างสงบ

   ริปลีย์ไม่ได้พูดอะไร—แต่การหันไปยักคิ้วใส่พี่ชายข้าง ๆ เป็นการอวดอย่างนึงว่า ดูสิ เธอเองก็ไม่ใช่ขี้หมูขี้หมานะ

   เจโรมยิ้มมุมปากอย่างหมั่นไส้ไอ้เด็กคนนี้

   “เก่งจริง ๆ ไอ้เด็กตัวแค่นี้”

   “เก่งสิ คุยกับฮิปโปแคมปัสที่ค่ายก็ทำมาแล้ว”

   “นั่นน่ะมันคุ้นคนในค่ายแล้วเถอะ ปลาตัวเล็ก ๆ ขี้กลัวพวกนี้ต่างหากถือว่าทำได้ดีมาก แล้วก็สมแล้วที่มีภาษีของสายเลือดโพไซดอน”

   เธอลองฝึกพูดคุยก่อนสักพักแล้วเริ่มที่จะลองออกคำสั่งง่าย ๆ อย่างการขอเปลือกหอยเล็ก ๆ ใต้ทะเลมาให้เธอสักอันได้ไหม ปลาพวกนั้นทำท่าทางเหมือนจะเข้าใจก่อนจะว่ายหายลงไปราว ๆ เกือบสิบนาทีได้ก่อนจะโผล่ขึ้นมาพร้อมกับเปลือกหอยจริง ๆ นี่คือครั้งแรกที่เธอลองออกคำสั่งกับสัตว์น้ำ นี่นะน่าทึ่งสุด ๆ

   “เยี่ยมมากริปลีย์ ได้เวลาวิชาต่อไปแล้ว”

   เขาลุกขึ้นยืน แน่นอนว่าริปลีย์ต้องยืนตามอยู่แล้ว ก่อนที่เธอจะมองว่าเขากำลังจะทำอะไร เจโรมยื่นมือขึ้นมาตรงหน้าผืนท้องทะเลสักพักก่อนที่มวนน้ำจะก่อตัวขึ้นเป็นเส้นเกลียวล่องลอยขึ้นจากทะเลมาหมุนวนตามนิ้วเรียว

   “อย่างเจ๋ง”

   เสียงใสเอ่ยออกมา ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย การควบคุมน้ำของเธอมักจะทำได้ตอนคับขันจวนตัวเสมอ ราวกับว่าพวกมันขับเคลื่นแค่เพื่อปกป้องเธอไม่ได้เชื่อฟังเธอขนาดนั้น เจโรมหยุดทุกสิ่งก่อนจะหันมาทางริปลีย์เพื่อให้เธอได้ทำตาม

   “ทำตามสิ ได้เวลาฝึกควบคุมน้ำแล้ว ให้เธอลองควบคุมปริมาณน้ำ การเคลื่อนไหว และสมาธิ จำไว้ว่าถ้าเธอสติแตก น้ำของเธอก็จะแตกตัวกระจายตามสติเธอแน่นอน”

   เขาถอยออกมาเล็กน้อย ให้พื้นที่กับเธอโดยไม่พูดอะไรต่อ ริปลีย์สูดลมหายใจ ยกมือขึ้นช้า ๆ ฝ่ามือหงายเหนือทะเล เธอรู้สึกถึงความเย็นที่พุ่งมาตามเส้นเลือดที่ฝ่ามือ ชีพจรเต้นชัดเจนขึ้นทันที

   เธอลองจับสัมผัสของสายน้ำ — ลมหายใจของตัวเอง กับแรงสั่นในท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้า

   แล้ว…

   พรึบ

   ละอองน้ำหยดหนึ่งค่อย ๆ ลอยขึ้นจากผิวน้ำ — ช้า…ช้ามากจนแทบมองไม่เห็นว่าเคลื่อน มันลอยสั่นคลอนเหมือนลูกโป่งที่ไม่มีใครผูกเชือก ผิวน้ำสั่นตาม ริปลีย์ยกปลายนิ้วขึ้น หมุนช้า ๆ หยดน้ำตอบสนอง — มันหมุนตาม เธอรู้สึกได้ว่ามัน “ฟัง” เธออยู่…

   “อย่าตั้งใจมากเกินไป” เจโรมพูดเสียงต่ำ “เธอไม่ต้อง ‘บังคับ’ น้ำ เธอแค่ต้อง ‘ใช้ใจสื่อสาร’”

   นิ้วของเธอหมุนอีกครั้ง — รอบนี้เนียนกว่าเดิม หยดน้ำค่อย ๆ ก่อตัวกลมรอบปลายนิ้วคล้ายเส้นด้ายโปร่งใสที่วาดเส้นโค้งอยู่ในอากาศ

   แต่แล้ว… จังหวะหายใจของเธอขาด เธอคิดเรื่อง “ถ้าหยดน้ำแตกล่ะ?”

   และใช่ — มันแตกทันที

   แฉะ! น้ำสาดกระเซ็นใส่เธอเองจนหน้าผากเปียก เจโรมหลุดหัวเราะเสียงต่ำ

   “ก็เตือนแล้วว่า ถ้าเธอสติแตก น้ำก็แตกตาม”

   ริปลีย์ทำหน้ามุ่ยทันที เธอปาดน้ำออกจากข้างแก้ม หัวเราะหายเครียดเป็นครั้งแรกของวัน เจโรมเดินกลับมาข้าง ๆ ไม่ได้สอนเพิ่ม แค่พูดเบา ๆ

   “ดีแล้วล่ะ...ครั้งแรกทำได้ขนาดนี้ ถือว่าเกินคาด พอเธอควบคุมน้ำได้เมื่อใจสงบ วันหนึ่งเธอจะควบคุมมันได้แม้ตอนที่เธอสติแตกแค่ไหนก็ตาม”




เปิดใช้งานเอฟเฟค


ปฏิสัมพันธ์กับ เจโรม ปาร์ค ซึงยอน
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย

ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

@God

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-03] เจโรม ปาร์ค ซึงยอน เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-7-28 17:39
โพสต์ 14,577 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ  โพสต์ 2025-7-28 17:28
โพสต์ 14,577 ไบต์และได้รับ +5 EXP +4 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก สายน้ำเยียวยา  โพสต์ 2025-7-28 17:28
โพสต์ 14,577 ไบต์และได้รับ +2 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-7-28 17:28
โพสต์ 14,577 ไบต์และได้รับ +3 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +1 ความศรัทธา จาก หมวกเกราะ  โพสต์ 2025-7-28 17:28
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2025-11-29 23:25:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Eloise เมื่อ 2025-11-30 14:55





วันที่ 1 พฤษภาคม 2025
เวลา 03.00 น.



ความเร็วสูงสุดที่ 150 นอตยังคงพาเรือมินิบานาน่าพุ่งทะยานต่อไปอย่างไม่ลดละ ทุกคนในเรือเกาะยึดตัวเองไว้แน่นกับกาบเรือสีนีออน ใบหน้าชาด้านจากแรงลมที่ปะทะจนรู้สึกเหมือนผิวหนังจะหลุดลอก หกชั่วโมงนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับฝัน ทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์หายไปนานแล้ว ถูกแทนที่ด้วยผืนน้ำที่เปิดกว้างและมีสีเข้มจนเกือบเป็นสีน้ำเงินเข้มจัด

ป้าคาเรนผู้มีสายตาแหลมคม (และสัญชาตญาณเอาตัวรอดสุดเก๋าเกม) เหลือบมองไปยังสีน้ำทะเลที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

“เอโลอิส หยุดเดี๋ยวนี้! สีน้ำมันเข้มเกินไปแล้วนะ เราออกมาไกลเกินไปแล้ว!” ป้าคาเรนตะโกนอย่างสุดเสียง แต่เสียงของเธอถูกเสียงคำรามของลมกลืนหายไปเกือบหมด

วู้ววววววววววววววววววว~ 

เอโลอิสทำได้แค่ส่ายหน้าและตะโกนกลับไปว่า

“อะไรนะคะป้า! ไม่ได้ยินเลย!”

ความรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างกำลังผิดปกติเริ่มคุกคาม ป้าคาเรนตัดสินใจแล้วว่าเธอจะไม่ยอมตายอนาถกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเช่นนี้ เธอรวบรวมพลังเสียงทั้งหมดที่มี และปล่อยเสียงกรีดร้องที่แหลมสูงกว่าเสียงลมใด ๆ

“หยุดเดี๋ยวนี้! บอกให้หยุดไง! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!

เสียงกรี๊ดแปดหลอดของป้าคาเรนดังจนทะลุทะลวงอากาศที่บีบอัดและเสียงลมอันบ้าคลั่งไปได้ และในเสี้ยววินาทีนั้น...บางสิ่งบางอย่างที่อยู่เหนือผิวน้ำก็สังเกตเห็นพวกเขา เงาขนาดใหญ่สามเงาโฉบลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วจากด้านข้างของเรือ พวกมันเคลื่อนไหวว่องไวจนแทบจะมองไม่ทัน

เคร้ง!

มือของเอโลอิสที่กำลังกำกระบอกบรรจุลมสี่ทิศกระบอกที่สองไว้แน่น ถูกบางสิ่งบางอย่างที่มีความแข็งและแหลมคมปัดตกลงไปในน้ำอย่างรุนแรง

ตูมมมมมมมมม!

กระบอกบรรจุลมกระบอกที่สองจมหายไปในทะเลลึกทันที พลังงานลมคำรามก็ยุติลงอย่างฉับพลันอีกครั้ง เรือมินิบานาน่ากระชากตัวอย่างรุนแรงเมื่อความเร็วลดลงจาก 150 นอตสู่ความเร็วปกติอีกรอบ ทุกคนถูกเหวี่ยงไปด้านหน้าก่อนจะทรงตัวได้

เมื่อเรือชะลอความเร็วลง เสียงลมที่เงียบลงทำให้พวกเขาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของสิ่งที่เพิ่งจู่โจม เอโลอิสรีบเงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณ เห็นเพียงเงาตะคุ่มขนาดใหญ่สามตัวที่บินวนอยู่เหนือหัวเรือ พวกมันมีรูปร่างคล้ายนกอินทรี แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก และที่น่าตกใจคือ...จงอยปากและกรงเล็บของพวกมันเป็นสีทองแดงวาววับ

“ตัวอะไรวะเนี่ย!” เอโลอิสบ่นอุบอย่างไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะการเดินทาง

ป้าคาเรนเห็นภาพตรงหน้า ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความกลัวเกือบตายจากความเร็วเรือตอนนี้กลับกลายเป็นความหวาดผวาถึงขีดสุด เธอปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นเสียงกรี๊ดที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังเหมือนคนไร้สติ

ทันใดนั้นเคอร์ติส นกกระทาคู่ใจของเอโลอิสก็โผล่หัวออกมาและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“มันคือนกสติมฟาเลียนขอรับ พวกมันคือสัตว์ประหลาดที่ดุร้ายของท่านเทพแอรีส พวกมันร้ายกาจมาก ต้องระวังนะขอรับ”

คำเตือนของเคอร์ติสทำให้แจสเปอร์ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นทันที พวกมันเป็นสัตว์อสูรที่กระหายเลือดตามธรรมชาติของพ่อเขา นกสติมฟาเลียนสามตัวที่บินวนอยู่นั้นส่งเสียงร้องแหลมบาดแก้วหู มันไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวในการเริ่มการจู่โจม

ฟิ้วววววววววววว!

นกตัวหนึ่งสยายปีกและทันใดนั้นขนจำนวนมากของมันก็ถูกยิงออกมาเหมือนกับลูกธนูโลหะที่พุ่งลงสู่เรือมินิบานาน่า

“บังไว้!” แจสเปอร์ตะโกนลั่น

เอโลอิสตอบสนองได้รวดเร็วราวสายฟ้าแลบ เธอรีบกางโล่กลมขนาดใหญ่มาบังทุกคนไว้

เคร้ง! เคร้ง! เคร้งงงง!

โล่ขนาดใหญ่รับเอาขนโลหะทั้งหมดไว้ได้ ขนเหล่านั้นกระดอนออกไปนอกลำเรือ โล่ของเอโลอิสสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจากแรงปะทะ เคอร์ติสบินเข้ามาซ่อนในร่มเงาของโล่อย่างรวดเร็วตามสไตล์เจ้านกขี้ขลาด

“ระวังนะทุกคนมันเป็นโลหะ พวกเราต้องระวังให้มาก” เอโลอิสตะโกนเตือนด้วยเสียงที่เคร่งเครียด “ฉันจะช่วยป้องกันให้เท่าที่จะช่วยได้”

เมื่อรู้ว่าหนีไม่พ้น ทุกคนจึงชักอาวุธคู่กายออกมาเพื่อเข้าสู่การต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบ แจสเปอร์กำง้าวเยี่ยนหยาที่เงางามของเขาไว้แน่น ส่วนป้าคาเรนหยิบถุงย่ามห้าสีของเธอมาไว้ในมือเตรียมฟาดทุกอย่างที่เข้าใกล้

นกสติมฟาเลียนตัวแรกโฉบลงมาจู่โจมทันที จงอยปากทองแดงของมันพุ่งเข้าใส่โล่ของเอโลอิสอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

เคร้ง! 

โล่ถูกกระแทกจนบุบเล็กน้อย เอโลอิสอาศัยจังหวะนั้นเพื่อทำการสวนกลับตามสัญชาตญาณของตัวเอง

“เอาไปกินซะ!”

เธอชักค้อนไฟออกมาจากกระเป๋าคาดเอว เอโลอิสไม่รอให้มันบินหนีไป เธอเลือกใช้พลังควบคุมโลหะซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในสถานการณ์นี้

เคร้ง!

โล่ทองแดงที่บุบเล็กน้อยของเธอถูกพลังควบคุมให้เปลี่ยนรูปทรงอย่างฉับพลันกลายเป็นกับดัก โล่กักนกตัวนั้นไว้ครู่หนึ่ง นกสติมฟาเลียนส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกโลหะทองแดงจากขนของมันเองหนีบไว้ เอโลอิสไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือไป เธอเหวี่ยงค้อนไฟในมือเข้าใส่ลำตัวของนกอย่างรุนแรง นกตัวแรกส่งเสียงร้องโหยหวนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างของมันจะร่วงหล่นลงสู่ผิวน้ำเบื้องล่าง

การตายของนกตัวแรกไม่ได้ทำให้ตัวที่เหลือกลัวเลยแม้แต่น้อย นกตัวที่สองโฉบลงมาจู่โจมแจสเปอร์ทันที มันยิงขนโลหะออกมาอย่างบ้าคลั่งใส่บุตรแห่งเทพสงคราม แจสเปอร์คำรามออกมาด้วยความโกรธตามสัญชาตญาณของนักรบ เขาใช้ความว่องไวและกำลังทั้งหมดที่เขามี แจสเปอร์หมุนง้าวเยี่ยนหยาในมือของเขาราวกับพายุหมุน

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! 

ขนโลหะทั้งหมดถูกง้าวปัดกระเด็นไปหมด บางส่วนถูกปัดกลับไปที่นกตัวนั้นเอง นกสติมฟาเลียนยิ่งเดือดดาล มันพุ่งตัวเข้าใส่แจสเปอร์ด้วยความเร็วสูง หมายจะใช้กรงเล็บทองแดงฉีกร่างบุตรแห่งแอรีสให้เป็นชิ้น ๆ

พรึ่บ! 

แจสเปอร์เบี่ยงตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด เขาใช้แรงเหวี่ยงตัวและง้าวที่หมุนอยู่ฟาดง้าวเยี่ยนหยาเข้าที่คอของนกตัวที่สองอย่างจัง

ฉึก! 

เสียงโลหะปะทะกับเนื้อหนังที่หุ้มด้วยโลหะดังสนั่น ศีรษะของนกตัวที่สองหลุดออกจากลำตัวทันที ร่างที่ไร้ชีวิตของมันร่วงหล่นตามนกตัวแรกไป

ตอนนี้เหลือเพียงนกตัวสุดท้ายที่บินวนอยู่เหนือเรือ มันส่งเสียงร้องด้วยความเกรี้ยวกราดที่สูญเสียเพื่อนร่วมฝูงไปสองตัว นกตัวนี้พุ่งเข้าใส่จุดอ่อนที่สุดของกลุ่มนี้ นั่นคือ…ป้าคาเรน!

ป้าคาเรนผู้ซึ่งทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากดวงดีไปวัน ๆ ส่งเสียงกรีดร้องและหลับตาปี๋

“ไปให้พ้นนะยะ!” ป้าคาเรนตะโกนอย่างขาดสติพลางเหวี่ยงถุงย่ามห้าสีในมือออกไปอย่างไร้ทิศทาง ถุงย่ามที่บรรจุเสบียงกรังนานาชนิดพุ่งออกไปเหมือนขีปนาวุธที่ไม่มีการนำวิถี แต่ทว่า…

เปรี้ยง!

ถุงย่ามบรรจุชีสเค้กขนาดจัมโบ้กระแทกเข้าที่ใบหน้าของนกสติมฟาเลียนตัวที่สามอย่างจัง มันไทำให้นกตัวนั้นเสียการทรงตัว มันส่งเสียงร้องแหลมออกมาด้วยความเจ็บปวดและสับสน ก่อนที่นกตัวนั้นจะฟื้นตัวทัน ก็โดนแรงเหวี่ยงอันไร้ทิศทางฟาดไปอีกรอบจนร่วงลงสู่ผิวน้ำอย่างน่าอนาถ

การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ…ซากศพของนกสติมฟาเลียนทั้งสามตัวไม่ได้สลายเป็นละอองสีทองเหมือนอย่างที่อสุรกายกรีกอื่น ๆ มักจะเป็นเมื่อถูกสังหาร ร่างของพวกมันที่เต็มไปด้วยขนโลหะและจงอยปากทองแดงลอยคว้างอยู่บนผิวน้ำ 

“เฮ้ย! ทำไมพวกมันไม่สลายเป็นผงสีทองล่ะ?” แจสเปอร์ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มองดูซากศพที่น่ากลัวของพวกมัน

เอโลอิสกัดริมฝีปาก เธอรู้ว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่แน่ถ้าปล่อยไว้

“นกพวกนี้มันเป็นอสุรกาย เราจะปล่อยให้ศพพวกมันลอยอยู่กลางแอตแลนติกไม่ได้นะ! ถ้ามนุษย์ธรรมดาเจอเข้า พวกเขาจะเห็นมันเป็นอะไรก็ยังไม่รู้เลย พวกเราคาดการณ์ไม่ได้แน่”

ป้าคาเรนที่เพิ่งฟื้นตัวจากความตกใจ ยกมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่นะ! ฉันไม่ยอมให้เอาพวกมันมาอยู่บนเรือกับพวกเราเด็ดขาด! อี๋~”

ทุกคนมองหน้ากันด้วยความกลุ้มใจ การทิ้งซากศพไว้กลางมหาสมุทรเป็นการทิ้งหลักฐานที่สุ่มเสี่ยงจนเกินไป เอโลอิสถอนหายใจยาว แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจจนได้

“โอเค ฉันจะทำลายหลักฐานนี้เอง”

เธอเปิดกระเป๋าคาดเอวหนังของเธอ ซึ่งเป็นของวิเศษที่ได้รับจากเทพบิดา 

“แจสเปอร์ช่วยฉันหน่อย”

ด้วยกำลังมหาศาลของแจสเปอร์และพลังควบคุมโลหะของเอโลอิส พวกเขาร่วมกันยกซากศพของนกสติมฟาเลียนทั้งสามตัวทีละตัว แล้วยัดมันเข้าไปในกระเป๋าคาดเอวใบเล็กของเอโลอิสอย่างทุลักทุเลจนเข้าไปได้หมดในที่สุด เมื่อจัดการกับซากศพของอสุรกายเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็กลับมานั่งประจำตำแหน่งเดิมของตน

“เอาล่ะ” แจสเปอร์พูดอย่างมุ่งมั่น “ตอนนี้ไม่มีกระบอกนำทางแล้ว เราจะไปลองไอแลนด์ได้ยังไง?”

ป้าคาเรนยิ้มอย่างมั่นใจ เธอเป็นบุตรีแห่งเทพีไทคีที่มีโชคลาภอยู่ข้างกายเสมอ และในตอนนี้เธอต้องใช้โชคลาภนั้นให้เป็นประโยชน์แล้วล่ะ!

“ใช้สัญชาตญาณของฉันสิ” ป้าคาเรนกล่าว “เราหันหัวเรือไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้...ฉันรู้สึกเหมือนมีกระแสลมดี ๆ กำลังจะมาทางนั้น” พูดพลางชี้ไปยังทิศทางที่ต้องการ

ทุกคนหยิบไม้พายขึ้นมาอีกครั้ง ช่วยกันออกแรงหันหัวเรือรูปกริฟฟอนให้หันไปในทิศทางที่ป้าคาเรนบอก

เมื่อทิศทางเรืออยู่ในแนวที่ถูกต้อง ป้าคาเรนก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เธอล้วงเข้าไปในถุงสายรุ้งของเธออีกครั้ง

“เซอร์ไพรส์!” ป้าคาเรนพูดด้วยน้ำเสียงผู้ชนะ “ฉันมีกระบอกที่สามด้วยนะ!”

เธอหยิบกระบอกบรรจุลมสี่ทิศกระบอกที่สามออกมาจากซอกหลืบหนึ่งในถุงย่าม

“ป้า! ป้าเก็บของพวกนี้ไว้ตรงไหนเนี่ย!” เอโลอิสกับแจสเปอร์อุทานพร้อมกันด้วยความทึ่ง

“ไม่ต้องถามมากนักหรอกเอาเป็นว่ายังมีเหลือก็พอ” ป้าคาเรนยื่นกระบอกที่สามให้เอโลอิส “เอาไป! คราวนี้อย่าทำมันตกน้ำอีกล่ะ”

เอโลอิสรับมันมา เธอหันไปมองแจสเปอร์และป้าคาเรน

“ทุกคนจับให้แน่นนะคะ ครั้งสุดท้ายแล้ว เราจะพุ่งไปถึงลองไอแลนด์เลย!”

ฉึก!

ฝาปิดถูกเปิดออก! 

ตูมมมมมมมมมมมม! 

พลังงานลมคำรามออกมาอีกครั้ง และเรือมินิบานาน่าก็พุ่งทะยานตัดคลื่นลูกใหญ่ของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือไปอย่างบ้าคลั่ง มุ่งหน้าสู่ลองไอแลนด์อันเป็นจุดหมายสุดท้ายของการเดินทาง



หลักฐานการต่อสู้



+2 ตื่นรู้จากการพิชิตนกสติมฟาเลียนเป็นครั้งแรก

ใข้กระบอกบรรจุลมสี่ทิศ




@God 




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 37604 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-11-29 23:25
โพสต์ 37,604 ไบต์และได้รับ +8 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม  โพสต์ 2025-11-29 23:25
โพสต์ 37,604 ไบต์และได้รับ +10 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +20 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก เรือมินิบานาน่า  โพสต์ 2025-11-29 23:25
โพสต์ 37,604 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-11-29 23:25
โพสต์ 37,604 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +30 ความกล้า +20 ความศรัทธา จาก เกราะไทเทเนียม  โพสต์ 2025-11-29 23:25

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม
เรือมินิบานาน่า
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ค้อนไฟ
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
กลศาสตร์
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x2
x18
x1
x4
x16
x1
x1
x3
x5
x5
x2
x4
x50
x1
x33
x1
x1
x1
x273
x2
x22
x7
x8
x2
x9
x10
x2
x52
x17
x31
x1
x1
x2
x5
x2
x8
x13
x2
x26
x7
x7
x7
x6
x44
x52
x3
x4
x11
x9
x9
x26
x18
x14
x1
x3
x6
x1
x11
x2
x2
x5
x1
x15
x5
x7
x11
x7
x15
x10
x15
x7
x25
x6
x3
x26
x1
x8
x3
x11
x69
x3
x2
x6
x10
x7
x5
x4
x5
x59
x1
x7
x25
x2
x48
x458
x24
x4
x185
x24
x1
x10
x11
x18
x7
x3
x1
x1
x2
x2369
x1
x39
x1
x1
x7
x1
x11
x3
x1
x1
x808
x25
x1
x1
x1
x3
x1
x198
x16
x16
x2
x14
x88
x13
x59
x391
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้