แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-3-20 06:32
303 ทะเลคลั่ง กับใจฉันที่ว้าวุ่น
!! Trigger Warning: ภายในตอนมีฉากการบรรยายที่มีความรุนแรง !!
10/02/2025
ยังคงอยากย้ำว่าหนทางกลับด้วยการใช้ชีวิตอยู่บนเรือโดยปราศจากสิ่งบันเทิงใจนอกเสียจากโทรศัพท์มือถือช่างเป็นอะไรที่แสนน่าเบื่อหน่าย…
ท้องฟ้าสีฟ้าซีดทอดยาวสุดสายตา แสงแดดจ้าส่องสว่างกระจายไปทั่ว ไม่มีเงาของพระอาทิตย์ตก ไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนผ่านของเวลา มีเพียงแสงสว่างที่ไม่เคยเลือนหาย คลื่นทะเลกว้างใหญ่แผ่ไปทุกทิศทาง ผืนน้ำขยับตัวขึ้นลงด้วยจังหวะเดิม ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด กลิ่นอายความเค็มของทะเลที่รู้สึกว่าแสบจมูกในช่วงแรกกลับกลายเป็นคุ้นเคยราวกับว่าได้สูญเสียประสาทการดมกลิ่นไปเสียแล้ว
เรือยอร์ชเจ้าสมุทรลอยลำไปข้างหน้า แม้เหล่าฮิปโปแฮมปัสจะเคลื่อนที่อย่างสุดพลัง ทว่าในสถานการณ์ที่ราวกับช่วงเวลาได้หยุดนิ่ง ในแต่ละวันแต่ละคืนช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน ไร้วี่แววของชายฝั่ง หรือทิวทัศน์อื่นให้ได้ยลนอกจากฟากฟ้าและเกลียวคลื่น
อันที่จริงหากเทียบเวลาเดินทางแล้วยังคงอยู่ในกำหนดการเดิม จากการคาดคะเน ดีนคิดว่าเรือลากฮิปโปแคมปัสหกแรงม้าจะพาพวกเขากลับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัดราว ๆ วันที่สิบสอง ซึ่งตอนนี้พวกเขาได้มาถึงบริเวณนอกชายฝั่งฟลอริดาราว ๆ แปดร้อยไมล์ทะเล (หนึ่งพันห้าร้อยกิโลเมตร) หากว่าจีพีเอสจากกำไลข้อมืออัจฉริยะที่ได้เป็นของขวัญจากพ่อไม่มั่วนิ่ม แสดงว่าอีกประมาณหนึ่งถึงสองวันก็น่าจะเดินทางไปถึงค่ายฮาล์ฟบลัด
ความเบื่อหน่ายที่ถูกขังอยู่ในคุกที่เรียกว่า ‘เรือยอร์ชกลางมหาสมุทร’ ไม่ใช่ความเซ็งเดียวที่ดีนประสบ เพราะในช่วงวันสองวันมานี้ดีนไม่สามารถติดต่อกับแมคเคนซีได้จนทำให้ภายในอกรุ่มร้อนไปหมด
‘แบตเตอรี่โทรศัพท์หมดแล้วหรือไงนะ?’ ก็ไม่น่าใช่.. ขนาดว่า ตนเล่นมือถือแก้เบื่อจนแบตเตอรี่ไหลเป็นน้ำแต่ด้วยความอึดถึกทนของสมาร์ทโฟนสำหรับเดมิก็อดแห่งท้องทะเลก็ยังไม่ถึงกับทำให้แบตเตอรี่หมดโดยสิ้นเชิง และจากที่คบกันมาเกือบหนึ่งปีไม่นับรวมตอนที่ยังเป็นแค่เพื่อนกัน ดีนรู้นิสัยของแมคเคนซีดีว่าไม่ใช่คนติดโทรศัพท์ ขนาดว่าติดต่อกลับไปบ้านที่อังกฤษยังนาน ๆ ครั้ง อีกฝ่ายจึงไม่น่าจะเล่นโทรศัพท์จนแบตหมดบ๋อแบ๋ มิหนำซ้ำเมื่อลองส่งข้อความไอริสไปหาเจ้าตัวก็ขึ้นว่า ‘ไม่สามารถติดต่อเป้าหมายที่กำลังเคลื่อนที่ได้’ อีกต่างหาก
เพราะฉะนั้นจึงเหลืออีกเพียงเหตุผลเดียวที่ดีนไม่อยากนึกถึง
‘แมคซี่กำลังตกอยู่ในอันตราย!’
“ไม่ ๆๆ ไม่คิดแบบนั้นสิวะ!”
ถึงจะบอกตัวเองแบบนั้นแต่ในหัวหยุดคิดถึงเรื่องความปลอดภัยของคนรักไม่ได้แม้เสี้ยววินาที การเดินทางของแมคเคนซียาวไกลกว่าภารกิจที่ดีนเคยทำมาก แถมยังต้องตามหาสถานที่ที่เป็นรังลับของคนร้ายด้วยตนเองอีก
‘บุตรแห่งราตรี ผู้ถือกำเนิดจากเงา บัดนี้ ถูกพันธนาการ ด้วยอุบายมืด ณ เมืองเหนือสุด ดินแดนแห่งหิมะและแสงเหนือ’
พอจะจำคำทำนายของอีกฝ่ายได้คร่าว ๆ ซึ่งหากตรงตามนี้จริงอีกฝ่ายต้องเดินทางไกลไปสุดชายแดนแคนาดา หรือหากแย่ไปกว่านั้นอาจต้องไปไกลถึงกรีนแลนด์
แค่การเดินทางไปซานฟรานซิสโกของตัวเองยังต้องผจญภัยอันตรายมากมายรวมถึงเทพร้าย ๆ ที่มาก่อกวนกลางทาง แล้วคนที่ต้องเดินทางไกลเป็นสองเท่าของตนเองจะต้องพบเจอกับความยากลำบากขนาดไหน แทบจะนึกภาพความลำเค็ญนั้นไม่ออก
ดีนสะบัดศีรษะไล่ความคิดแย่ ๆ ที่มีอยู่เต็มหัว แล้วพยายามหาเหตุผลอื่นมาอ้างอิงให้ความเลวร้ายบรรเทาลง
‘หมอนั่นอาจจะแค่ทำโทรศัพท์มือถือหายไปล่ะน่า…’
นี่ไม่ใช่ความคิดแย่ ๆ เพียงอย่างเดียวอยู่อยู่ในใจของชายหนุ่ม… ความห่างไกล ความหวาดกลัว ความหวาดระแวง ก่อเกิดความคิดแง่ลบในใจของคน (เคย) คิดบวกได้อย่างน่ากลัว…
ก่อนหน้านี้ดีนคิดว่าการใช้ชีวิตแบบผู้ชายลัลล้าไม่ผูกมัดก็ไม่มีอะไรเสียหาย เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายโดยไม่มีคนรักครอบครอง อยากจะทำอะไรก็ทำได้โดยอิสระ ทำอะไรตัวคนเดียวก็สะดวกรวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจความรู้สึกของใคร แต่ตอนนี้เขาเพิ่งมารู้ว่าตัวเองติดแฟนมากกว่าที่คิด
ได้เห็นแค่ข้อความ ได้ยินแค่เสียงแม้ตัวจะอยู่ห่างไกลกันยังพอทำเนา แต่ในเมื่อติดต่อไม่ได้ ไม่ทราบความเป็นอยู่ ได้แต่จมอยู่กับจินตนาการในหัวต่าง ๆ นานา มันทำเอาเขาแทบคลั่ง
‘ถ้าติดต่อได้อีกครั้งจะบอกให้แมคซี่ยกเลิกภารกิจดีไหม…’
แต่ก็ต้องล้มเลิกความคิดนี้ไปเพราะว่ารู้สึกว่าเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย โลกกำลังถูกภัยมืดคุกคามอยู่เบื้องหลัง หากไม่มีใครสักคนที่จัดการกับภารกิจนี้ให้สำเร็จ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรร้ายแรงมากกว่านี้อีกหรือเปล่า
‘แล้วทำไมต้องเป็นนายที่ไปทำด้วยล่ะ เป็นคนอื่นไม่ได้เหรอ เช่น ซิลเวอร์หรือคนอื่น …อะไรแบบนี้’
คล้ายกับตอนที่ตนรับภารกิจตามหาตรีศูลของโพไซดอน พ่อเลือกที่จะส่งคำใบ้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาทางเขาเพื่อให้ไปรับคำพยากรณ์เดลฟี ทางด้านแมคเคนซีก็คล้ายกัน ต้องฝันร้ายวันเว้นวันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนกว่าจะรับคำภารกิจเดินทางมา จะบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็ไม่ได้ ในเมื่อเทพเบื้องบนคล้ายกำหนดชะตามาแล้วว่าเราต้องเดินไปทางไหน หากฝืนชะตาก็จำต้องพบกับความยากลำบากบางอย่างเป็นการลงทัณฑ์
จะว่าไปพ่อแม่พวกเรานี่ก็ใจร้ายกันชะมัดเลยแฮะ…
ถ้าหากมันเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ยิ่งน่าเสียใจที่แมคเคนซีไม่เลือกให้เขาเป็นเพื่อนร่วมทางในภารกิจ ทั้งที่ตนเคยมีประสบการณ์กับภารกิจแบบนี้มาบ้างแล้ว ก็น่าจะพอมีประโยชน์อยู่บ้าง จริงอยู่ที่ตนมีแผนจะมาช่วยพ่อหาเสียงที่นีออม แต่สำหรับภารกิจนี้เขายกเลิกก็ได้หากว่าของอีกฝ่ายสำคัญกว่า
แต่จากคำหว่านล้อมที่ว่า ‘ช่วยครอบครัวสำคัญกว่า’ มันก็ใช่.. ซึ่งคิดแล้วมันก็น่าน้อยใจสุด ๆ แม้กระนั้นเขาก็ไม่เคยปริปากบ่นความในใจเพราะกลัวจะดูงี่เง่าเกินไปในสายตา จนรู้สึกว่าการพยายามทำตัวเป็นแฟนที่แสนดีมันยากชะมัดเลย
‘ห่างกันนาน ๆ แบบนี้อีกไม่เอาแล้วนะ.. ถ้าเป็นแบบนั้นสู้ไม่—..’
ความคิดถูกชะงักเอาไว้ เขาเกลียดสิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวตอนนี้มากจนนึกพาลเกลียดตัวเองที่เป็นคนเห็นงี่เง่าแก่ตัว ดีนไม่อยากเป็นแบบนั้น แต่ในตอนนี้เขานึกเรื่องที่มีความสุขแทบไม่ออก ปกติดูคลิปหมาแมวเพื่อฮีลใจแต่ก็ช่วยไม่ได้มาก ครั้นเปิดรูปถ่ายเก่า ๆ ของเราสองคนมาดูก็ยิ่งมีแต่ความคิดถึงจนแทบจะขาดใจ จนวัน ๆ ได้แต่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นตัวเองในสภาพที่ไม่น่าดู
ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ!
เสียงแจ้งเตือนทำเอาชายหนุ่มที่กำลังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มสะดุ้ง คริสตัลสีฟ้าที่ประดับอยู่บนกำไลอัจฉริยะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเรืองแสงวูบวาบ แต่ไม่เพียงแค่นั้นเสียงแจ้งเตือนที่ดังสนั่นมาจากโทรศัพท์มือถือเดดาลัส หน้าจอสมาร์ทโฟนกลายเป็นสีแดงกะพริบรัวเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงแจ้งเตือนที่ดังลั่น บนหน้าจอเขียนว่า ‘เตือนภัยระดับ 4 คราเคน’ สร้างความวิตกจนดวงตาสีเปลือกไม้เบิกโพลง จากตอนแรกเศร้า ๆ ตอนนี้ตกใจ ทำเอาปรับอารมณ์แทบไม่ทัน
[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]
“อะไรนะคราเคน!?”
ดีนรีบเปิดประตูออกจากห้องนอนของเรือสำราญเล็ก เบื้องหน้าที่เห็นคือท้องทะเลที่คลื่นลมปั่นป่วนอย่างผิดปกติ จนทำเอาชายหนุ่มต้องรีบเกาะวงกบประตูเรือไว้ไม่ให้ร่างของเขาถูกซัดจนโซเซ เหล่าฮิปโปแคมปัสที่ลากเรืออยู่ในน้ำดูแตกตื่นอย่างเห็นได้ชัด มันเร่งความเร็วเต็มพิกัดเพื่อหนีอะไรบางอย่างที่อยู่ใต้ท้องทะเลจนควีนที่อยู่บนฟ้าบินตามไม่ทัน
“ฮรี้!?” oO(ดีน! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?)
เพกาซัสสาวตะโกนถามมาจากด้านบน มันพยายามกะพือปีกแรงเพื่อร่อนลงจอดบนดาดฟ้าเรือยอร์ชที่ผิดปกติ แต่ดูเหมือนว่าฮิปโปแคมปัสทำท่าจะลากเรือหนีเพียงอย่างเดียว
“คราเคน มันอยู่ใต้น้ำ! มือถือฉันมันเตือนภัยมาอย่างนี้!” ดีนตะโกนตอบ เขาชูหน้าจอโทรศัพท์สีแดงแจ๋และยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนไม่หยุดให้เพื่อนร่วมทางบนฟ้าได้ดู
“ฮรี้!?” oO(อะไรนะ คราเคนอย่างนั้นรึ!?)
แม้แต่ควีนก็ยังตกใจ คราวนี้ไม่ใช่อสุรกายย่อม ๆ อย่างยักษ์จีนี่ที่เคยปะมือกันมา แต่เป็นสุดยอดอสุรกายยักษ์ใหญ่ในตำนาน ศัตรูตัวฉกาจของนักเดินเรืออย่างคราเคน เมื่อเพกาซัสดำและลูกก๊อบลินมองลงไปเบื้องล่างพวกมันถึงได้เห็นเงาอันน่าสะพรึงขนาดใหญ่กว่าเรือยอร์ชหลายเท่าว่ายอยู่ใต้เรือ
“ฮรี้!” oO(มันอยู่ใต้เรือ เจ้ารีบขึ้นมานี่เร็วดีน!)
พากาซัสพยายามบินโฉบลงมาเพื่อรับสหายของมัน ทว่าในเสี้ยววินาทีนี้ที่หนวดหมึกขนาดมหึมาได้ชูขึ้นเหนือผืนน้ำ ซัดระยางอันน่าสยดสยองเข้าใส่ควีนจนมันต้องเชิดหัวบินขึ้นเพื่อหลบให้พ้นระยะ เล่นเอาวูล์ฟเฟียที่อยู่บนหลังเกือบพลัดตกลงมา
“กี้!”
“ควีนระวัง!!” ดีนร้องเตือน
ในช่วงนาทีที่กำลังใจหายใจคว่ำก็พอโล่งอกไปได้เมื่อเห็นว่าทั้งควีนละวูล์ฟเฟียหลบหนวดยักษ์ไปได้อย่างหวุดหวิด เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็ยิ่งเห็นระยางที่เต็มไปด้วยตุ่มดูดชูขึ้นมาเหนือน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ หนวดบางเส้นกำลังเลื้อยพันรอบลำเรือจนทำให้เรือยอร์ชโคลงไปเคลงมาจนไม่อาจยืนอยู่ แรงรัดมหาศาลก่อให้เกิดเสียงแกรบแกรบเมื่อตัวเรือปริแตก พื้นที่หยัดยืนเสียสมดุลทำเอาดีนเซล้มก้นจ้ำเบ้า ตัวของเขาไหลไปตามแรงยื้อโคลงไปเคลงมายากจะตั้งหลัก
“ฮรี้!”
เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่งดังมาจากหน้าเรือ ดีนเห็นว่าฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่งถูหนวดยักษ์บีบรัดจนร่างแหลกสลายไปต่อหน้าต่อตา นั่นคือความสูญเสียแรกที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
“ไม่นะ!!”
ท่ามกลางความตกตะลึงเขาเห็นฮิปโปแคมปัสอีกหลายตัวเลิกลากเรือหนีแต่มันพยายามต่อสู้กับอสุรกายใต้ทะเล ในยามรบฮิปโปแคมปัสที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีเข้าจู่โจมอสุรกายใต้สมุทรอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทว่าด้วยกำลังที่แตกต่างทำได้เพียงหยุดการเคลื่อนไหวของปีศาจหมึกยักษ์ได้ชั่วครั้งชั่วคราวแต่ไม่อาจสร้างบาดแผลใหญ่ไปได้มากกว่านั้น
“โอ้ ฉิบหาย ทำไงดี ทำไงดี!”
ดีนพยายามข่มจิตข่มใจสงบอารมณ์ในสถานการณ์ที่ใช้คำว่า ‘ฉิบหาย’ ได้อย่างถูกต้องมากที่สุด เขาพยายามเกาะข้างลำเรือเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นแม้ว่าแข้งขาจะสั่นจากความกลัวตาย ในช่วงเวลาที่ฮิปโปแคมปัสถ่วงเวลาต่อสู้ไว้จังหวะนี้แหล่ะที่จะหนี ชายหนุ่มพยายามปีนขึ้นที่สูง ตอนนี้พื้นเรือที่แตกร้าวเกิดรอยรั่วซึมน้ำทะเลทะลักขึ้นมาตามรอยแตก ยานพาหนะสุดหรูที่โดยสารมาหลายวันพร้อมที่จะจมทะเลได้ทุกเมื่อ
ควีนพยายามจะบินลงมารับเขาหลายครั้ง แต่ถูกหนวดหมึกเส้นหนึ่งก่อกวนไม่เลิก หวุดหวิดหลายครั้งที่เพกาซัสจะพลาดท่าเสียเอง ดวงตาสีเปลือกไม้แหงนมองภาพของสหายที่พยายามลงมาช่วยเหลือด้วยความสิ้นหวัง หากถูกจับได้พวกเราน่าจะได้ตายกันหมด ดีนจึงตัดสินใจตะโกนบอกปากสั่น
“ควีน! เธอไม่ต้องห่วงฉัน! พะ.. พาไข่ผำบินไปที่ฝั่ง หนีกลับค่ายไปก่อนเลย!”
“ฮรี้!” oO(จะบ้าเหรอ จะให้ข้าทิ้งเจ้าไปได้ยังไงกัน! โอ๊ย!!)
แต่ไม่ยังจะสิ้นคำดีเพกาซัสสาวก็ถูกระยางเส้นนั้นรัดปลายเท้าสีดำไว้แน่น ควีนพยายามบินเหินขึ้นฟ้า แต่ดูท่าแล้วเพกาซัสตัวเล็ก ๆ ไม่อาจต้านทานเรี่ยวแรงมหาศาลของปีศาจใต้ทะเลลึกได้เลย มันสาวเหยื่อจากฟ้าลงมา อ้าปากใหญ่ที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวแหลมคมรอรับอาหารอันโอชะที่มีด้วยกันถึงสองวิญญาณ
“ควีน!!”
ในชั่วพริบตาที่หายนะกำลังจะเกิดขึ้นกับสหาย ดีนได้สลัดความกลัวทั้งหมดทิ้งไป เปลี่ยนรูปร่างของอาวุธจากกำไลข้อมือเป็นดาบสามง่าม เขาพุ่งตัวทะยานจากเสากระโดงเรือ สะบัดข้อมือฟันหนวดเส้นนั้นฉับเดียวจนปลายระยางขาดกระจุย บุตรแห่งโพไซดอนร่วงหล่นลงไปม่านน้ำเย็นเฉียบของมหาสมุทรแอตแลนติกปลายฤดูหนาว แว่นตากรอบหนาที่สวมใส่บนใบหน้าปลิวหายไปกับสายน้ำ ชั่วพริบตาที่เขามองอะไรไม่เห็นก็รู้สึกตัวได้ว่าร่างทั้งร่างถูกอะไรบางอย่างช้อนขึ้นจากเบื้องล่างทำให้ตัวของเขาลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ
“ฮรี้!” oO(ท่านเอลวินไม่เป็นไรนะขอรับ!)
เป็นฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่งที่เข้ามาช่วยเหลือเขา ดีนจึงพยายามตั้งสติอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เขาไม่ชอบเลยที่มองทุกอย่างเห็นเป็นแต่ภาพพร่ามัว อย่างน้อยถ้าต้องต่อสู้จนตัวตายก็ขอให้ได้ต่อสู้อย่างสมน้ำสมเนื้อหน่อยเถอะ!
“ขอบคุณ ฉันไม่เป็นไร แค่มองอะไรไม่ค่อยเห็น นายต้องเป็นตาแทนฉันแล้วล่ะ.. ว่าแต่นายชื่ออะไร?”
“ฮรี้!” oO(ข้าน้อย ‘ดิวดรอป’ ขอรับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านชาย)
“ฉันก็ยินดีเหมือนกัน ฝากให้นายนำทางด้วยนะดิวดรอป เอาล่ะ พวกเราก็ไปลุยกันบ้างเถอะ!!”
บุตรแห่งเจ้าสมุทรประกาศศึกอย่างเป็นทางการบนหลังของฮิปโปแคมปัสสีน้ำเงินรุ้งที่ชื่อว่าดิวดรอป เมื่อควีนเห็นว่านี่ไม่ใช่สมรภูมิที่มันร่วมสู้ได้ เพกาซัสสาวจึงเลือกที่จะทำตามที่นายมันบอกนั่นคือการโผบินเข้าหาแผ่นดินทางทิศตะวันตกของมหาสมุทร
“ฮรี้!” oO(งั้นข้ากลับไปรอที่ค่ายก่อนล่ะ เจ้าเองก็กลับมาให้ได้นะดีน!)
เมื่อเห็นว่าควีนและไข่ผำได้จากไปอย่างปลอดภัยแล้วบุตรแห่งโพไซดอนก็โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง แต่ก็ยังชะล่าใจและประมาทไม่ได้ เพราะคู่ต่อสู้ที่ต้องเผชิญอยู่ในระดับน้อง ๆ ของคธุลฮู คราเคนเป็นอสุรกายใต้สมุทรซึ่งน่าจะคุ้นเคยกับกระแสน้ำเป็นอย่างดี การจะใช้พลังควบคุมน้ำต่อกรกับมันอาจไม่สามารถสร้างบาดแผลไปได้มากกว่ารอยขีดข่วน ดังนั้นการทำลายด้วยกายภาพอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ดีนมองภาพความโกลาหลตรงหน้าพลางคิดว่าจะรับมือกับคราเคนยักษ์อย่างไรดี ฮิปโปแคมปัสสี่ตัวช่วยกันสู้ พวกมันสร้างกระแสน้ำวนใต้สมุทรจู่โจมสัตว์ยักษ์จากใต้น้ำ บางก็ว่ายน้ำอย่างรวดเร็วใช้กีบเท้าอันทรงพลังตะกุยเตะถีบคราเคนจนสร้างบาดแผลได้บ้าง แต่ก็แค่ได้บ้าง ซึ่งดูแล้วอาวุธที่ใช้ต่อกรได้ดีเห็นทีจะเป็นอาวุธเทพที่บิดาประทานให้
“ฮรี้!”
ฮิปโปแคมปัสตัวหนึ่งพลาดท่าถูกหนวดยักษ์จับตัวไว้ได้ มันไม่ได้ถูกจัดจนตายในคราวเดียว ทว่าร่างสีรุ้งถูกจับฟาดกับเรือยอร์ชสีขาวที่หวุดหวิดจะจมแหล่ไม่จมแหล่ปริ่มน้ำจนลำเรือขาดสองท่อน ร่างของอาชาใต้สมุทรแหลกเหลวไม่แพ้ลำเรือที่แตกสลาย เหลือร่องรอยของความมีชีวิตทิ้งไว้เพียงฟองคลื่นรูปม้าที่กระจายไปตามสายน้ำ
“ฮรี้!” oO(โธ่เอ๊ย!! ไม่นะไบรนี่!) ดิวดรอปคำรามด้วยความโกรธแค้นเมื่อสหายได้ถูกพรากชีวิตไป ส่วนดีนที่เห็นเพียงภาพเลือนลางได้แต่กัดฟันกรอด
“เราต้องกำจัดมัน มีวิธีไหนที่จะเฉือนเจ้าหมึกย่างนั่นได้บ้างไหม?” ดีนกัดฟัน เขาพยายามคิดหาทาง หากไม่ทำอะไรสักอย่างต้องเกิดความสูญเสียมากกว่านี้แน่ ๆ
“ฮรี้” oO(คราเคนเป็นอสุรกายที่ร้ายกาจมากขอรับ ด้วยพลังของเหล่าฮิปโปแคมปัสจำนวนแค่นี้เป็นไปได้ยากที่จะเอาชนะมันได้ การหนีอาจเป็นวิธีที่ดีกว่า แต่โอกาสหนีรอดก็มีไม่มากขอรับ)
น้ำเสียงของดิวดรอปสั่นพร่า ใจของมันคงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ตรงกันข้ามกับท่าทีของมันที่เหมือนพร้อมจะสู้จนตัวตายด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของสมุนของเทพเจ้า
“ไม่มีวิธีกำจัดเลยเหรอ…” ดีนเอ่ยเสียงแผ่ว
“ฮรี้!” oO(มีเพียงพลังของเจ้าสมุทรถึงจะจัดการมันได้โดยง่ายขอรับ)
“พลังของเจ้าสมุทร.. ใช่พลังแบบเดียวกับที่ฉันมีหรือเปล่านะ”
ถึงไม่รุนแรงเท่าพลังของโพไซดอนแต่ก็ต้องลองดู ในเมื่อเขามีทั้งอาวุธที่ถูกประทานให้โดยเทพเจ้าและพลังการควบคุมน้ำตามสายเลือดของเทพแห่งท้องทะเล
ดาบตรีศูลในมือถูกเปลี่ยนสภาพเป็นหอกสามง่าม ดีนหลับตาเพ่งจิตไปที่ปลายหอกแหลมคมใช้มันแทนกับคทาร่ายเวท ดูดน้ำทะเลขึ้นมาได้เป็นวงใหญ่ จากนั้นชายหนุ่มจึงสะบัดปลายตรีศูล ส่งใบมีดน้ำอันคมกริบสามสายตวัดฟันหนวดหมึกยักษ์ที่กำลังต่อกรกับฮิปโปแคมปัสที่เหลือเป็นวงเสี้ยวจันทร์จนขาดกระจุยไปได้สองหนวด
แรงสั่นทะเทือนมาจากใต้น้ำ คล้ายเกิดจากเสียงคำรามอย่างเจ็บปวดของคราเคนที่สูญเสียอวัยวะสำคัญไป จากนั้นผืนน้ำสีครามเข้มก็ถูกย้อมจนกลายเป็นสีดำสนิทจากหมึกของคราเคน แสดงว่าการโจมตีนี้ได้ผล!
ดีนจำสารคดีสัตว์โลกที่เขาโปรดปรานได้ ตอนหนึ่งที่ฉายถึงสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกอย่างหมึกยักษ์มีสมองด้วยกันถึงเก้าแห่งด้วยกัน สมองหลักทำหน้าที่ควบคุมการทำงานทั้งหมดอยู่บริเวณส่วนหัวอันใหญ่ และสมองอีกแปดแห่งประจำอยู่ที่หนวดทั้งแปดแต่ละเส้น หนวดหมึกจึงมีความเป็นอิสระในตัวของมันเอง
จากการทดลองในสารคดีแสดงให้เห็นว่า หมึกจึงเป็นสัตว์ทะเลที่มีความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมาก มันสามารถเปิดขวดโหลที่บิดฝาแน่นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว มิหนำซ้ำมันยังสามารถแก้ไขปริศนากลไกง่าย ๆ ได้โดยใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน
หนวดหมึกจึงถือเป็นอวัยวะที่สำคัญสำหรับหมึกเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากจะจัดการกับคราเคนอย่างเด็ดขาดที่สุดคือการกำจัดอาวุธทั้งแปดของมันก่อนจากนั้นจึงจะสามารถระเบิดหัวมันได้อย่างถนัดถนี่
ฮิปโปแคมปัสไม่ทราบชื่อซึ่งดูเหมือนจะเชี่ยวชาญการรบที่สุดในกลุ่ม ควบคุมพายุหมุนใต้ทะเลปั่นหนวดที่สามของคราเค่นขาดกระจุยเหมือนกับเครื่องบดเนื้อ เศษซากเมือกหนืดกระจายไปทั่วผืนน้ำทว่าหลังจากนั้นไม่นานก็มันก็สลายกลายเป็นฝุ่นผง
“จัดการได้สามแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าพอจะต่อกรได้กำลังใจก็เริ่มกลับมา ดีนใช้ท่วงท่าเดิมเพื่อจัดการกับหนวดคราเคนจากระยะไกล แต่อย่างที่บอกว่าหมึกมีความฉลาดเฉลียวและหนวดแต่ละเส้นมีสมองของมันเอง หนวดที่เหลืออีกห้าเลื้อยหลบใบมีดน้ำได้รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อขัดกับขนาดตัวที่ใหญ่โตของมัน แล้วดูเหมือนว่าสมองหลักของคราเคนจะตระหนักได้ว่าตัวปัญหาที่ต้องจัดการก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่ม้าน้ำสีรุ้งที่สู้กับมันอยู่ตั้งนาน แต่เป็นเดมิก็อดที่กำลังขับขี่ม้าน้ำอีกตัวจากที่ไกล ๆ อยู่ต่างหาก
คราเคนมุดลงไปใต้น้ำ ใช้หมึกดำของมันอำพรางกายจนดีนที่อยู่เหนือผิวน้ำมองอะไรไม่เห็น (ซึ่งอันที่จริงเขาก็มองอะไรแทบไม่เห็นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) ท่าทางของมันคล้ายหลบหนี ทว่ายังไม่อาจชะล่าใจ
“มันไปไหนแล้ว? หรือว่าจะหนีไปแล้วเหรอ?” ดีนเอ่ยถามดวงตาคู่ใหม่ของเขา
“ฮรี้” oO(อาจเป็นไปได้ขอรับ แต่ข้าน้อยไม่เคยเห็นท่าทางของมันเป็นเช่นนี้มาก่อน)
ผ่านไปหลายอึดใจที่ดีนและเหล่าฮิปโปแคมปัสตัวที่เหลือเฝ้าระวังภัยให้แก่กันละกัน มันนานพอที่จะคิดว่าการต่อสู้ได้จบลงแล้ว
แต่ว่าไม่…
หนวดขนาดใหญ่จู่โจมพุ่งแทงจู่โจมมาจากใต้น้ำ กว่าที่ดีนและดิวดรอปจะรู้ตัวก็เหมือนกับว่าจะสายไปแล้ว พวกเขาไม่อาจหลบหนวดนั้นพ้น
“ฮรี้!” oO(แย่แล้ว!)
“อะไรนะดิวดรอป!?”
ท่ามกลางความอลหม่านนั้นเอง ดีนและดิวดรอปถูกอะไรบางอย่างชนกระแทกอย่างแรงเข้าด้านหลัง ทั้งสองเซถลาไปกับผืนน้ำไกลหลายฟุตแต่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากไปกว่าความจุกเสียดจากแรงชน
“ฮรี้!” oO(ไม่นะ ซีบรีซ!!)
ดิวดรอปร้องลั่นก่อนที่ดีนจะหันกลับไปมอง เขาเห็นภาพเลือนลางของฮิปโปแคมปัสที่ชื่อซีบรีซถูกหนวดหมึกยักษ์แทงทะลุกลางตัวก่อนที่มันจะสลายไป หากว่าซีบรีซไม่มาช่วยผลักทั้งสองออกไป มีหวังคนที่แทงทะลุเป็นลูกชิ้นคงเป็นดีนและดิวดรอป สร้างความช็อกแก่บุตรแห่งเจ้าสมุทรจนเขาพูดอะไรแทบไม่ออก
“ฮรี้!” oO(หนอยแน่! เจ้าเล่ห์นักนะเจ้าคราเคน!!)
ฮิปโปแคมปัสตัวที่สู้เก่งคำรามลั่นเมื่อมันเห็นการสูญเสียพวกพ้องอีกครั้ง จากความเดือดดาลที่มีในกายมันมุดลงไปใต้น้ำพร้อมกับเสกพายุหมุนอย่างบ้าคลั่ง ต่อสู้ไล่ตามคราเคนที่สังหารพวกพ้องของมันไป สร้างกำลังใจให้ฮิปโปแคมปัสตัวอื่น ๆ ได้ฮึดสู้
“ฮรี้!” oO(ซีโฟมสู้แล้ว พวกเราก็อย่ายอมแพ้ ลุยกันเถอะดิวดรอป!)
ฮิปโปแคมปัสที่เหลืออีกตัวมุดน้ำตามลงไปช่วยคู่หูของมันต่อสู้กับคราเคนอย่างเอาเป็นเอาตาย ในเวลานี้หากดีนบอกว่า ‘หนีกันเถอะดิวดรอป!’ เจ้าตัวคงไม่ฟังเพราะตอนนี้เลือดในกายของม้าน้ำหนุ่มมันเดือดพล่านไปหมด
“ฉันเองก็จะ… จะพยายามนะ”
ดีนได้แต่พูดอ้อมแอ้ม เขาไม่อยากสู้เท่าไร แต่นาทีนี้การสู้ตายน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหนีไปแล้วถูกลอบโจมตีจากตอนไหนก็ไม่รู้ ในเมื่อเขาเคยโดนลูกไม้นี้มาก่อนแล้ว เมื่อได้สัญญาณดิวดรอปจึงมุดน้ำลงไปอีกตัว ดีนได้แต่จับแผงคอของมันเอาไว้แน่น และเตรียมตรีศูลเพื่อสังหารศัตรู เมื่อทั้งสองมาถึงสนามรบก็เห็นว่าซีโฟมฮิปโปแคมปัสสุดแกร่งและฮิปโปแคมปัสอีกตัวสามารถตัดหนวดเส้นที่สี่ของคราเคนได้แล้ว
“ฮรี้!!!”
ดิวดรอปเข้าประจัญบาน ในยามอะดรีนารีนเดือดพล่านมันว่ายน้ำได้รวดเร็วฉวัดเฉวียนหลบหนวดที่เหลืออีกสี่เส้นของคราเคนที่พุ่งโจมตีมาได้หมดจนในที่สุดก็สามารถเข้าประชิดได้กับตัวหมึก แม้ภาพจะพร่ามัวทว่าดีนก็มองร่างกายใหญ่ยักษ์ของคราเคนได้อย่างชัดเจน เขาพุ่งหอกตรีศูลแทงเข้าไปยังดวงตาอันใหญ่โตของอสุรกายอย่างแม่นยำ และปักเข้าไปทีเดียวมิดด้าม
“ก๊าซซซซ!!!”
คราเคนกรีดร้องเมื่อสูญเสียดวงตาอันสำคัญไป มันจึงคุ้มคลั่งตวัดหนวดฟาดฟันมั่วซั่วไปหมดจนสหายรบหลบกันแทบไม่ทัน
“บุ๋ง!” oO(ดิวดรอป ลากมันไปเลย ตัดผ่าหัวมัน!!) แม้ปากจะพูดออกมาไม่ได้ แต่ดีนยังคงสื่อสารภาษาม้ากับฮิปโปแคมปัสรู้เรื่องจากการเชื่อมใจทั้งสองเข้าหากัน
“ฮรี้!” oO(ขอรับท่านเอลวิน!)
เมื่อได้รับคำสั่งดิวดรอปก็ออกว่ายน้ำไปรอบ ๆ หัวของคราเคนอย่างรวดเร็ว ในจังหวะนั้นดีนควบคุมให้หอกตรีศูลที่เสียบคาดวงตาเปลี่ยนเป็นใบมีดดาบ ผ่าเฉือนเนื้อเมือกลื่นให้ขาดออกจากกันอย่างง่ายดายราวกับพ่อครัวซูชิมือฉมัง
ร่างกายของคราเคนกระตุกเฮือก รวมถึงหนวดทั้งสี่ที่ดิ้นพล่านเหมือนกับหนังสยองขวัญ หมึกจำนวนมากไหลทะลัก ย้อมสีน้ำให้กลายเป็นดำทมิฬอีกครั้งหนึ่ง นี่คงเป็นวาระสุดท้ายของอสุรกายยักษ์ใต้สมุทร ทว่ามันไม่ยอมตายเพียงตัวเดียว ในขณะที่ร่างกายใหญ่โตกำลังจะสลายเป็นธุลี หนวดเส้นหนึ่งที่มีสมองเป็นของตัวเองพุ่งเข้ามารัดทั้งดีนและดิวดรอปจากด้านหลังในขณะที่ทั้งสองไม่ทันได้ระวังตัว
“อึก!!”
ทั้งคนและฮิปโปแคมปัสถูกเรี่ยวแรงมหาศาลบีบรัดจนหายใจไม่ออก ดีนได้ยินเสียงลั่นของกระดูกที่เขาแยกไม่ออกว่าเป็นของตัวเองหรือว่าฮิปโปแคมปัสที่ร่วมสู้ ความเจ็บปวดอย่างสาหัสที่สุดในชีวิตแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย ชายหนุ่มคล้ายกับจะอาเจียนออกมา แต่สิ่งที่จะออกจากปากดูเหมือนจะเป็นเครื่องในของเขาเอง ดีนได้กลิ่นของเลือดจำนวนมากที่คาวคลุ้งไปทั่วผืนน้ำ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เลือดของดิวดรอป เพราะว่าคู่หูของดีนได้สลายกลายเป็นฟองอากาศในนาทีที่ได้ยินเสียงกระดูกหักในครั้งแรก
‘ฉัน.. กำลังจะตาย?’
‘อย่างน้อยถ้าจะตายก็ขอเจอนายก่อนไม่ได้เหรอ... แมคซี่’
แรงรัดมหาศาลคลายออกไปราวกับไม่เคยมีอยู่หลังจากที่คราเคนถูกส่งไปยังทาร์ทารัส ภาพตรงหน้ามืดดับไปทั้งที่ชายหนุ่มยังลืมตา และเสียงสุดท้ายที่ชายหนุ่มได้ยินก่อนที่ความรู้สึกสุดท้ายจะดับวูบไปคือเสียงของฮิปโปแคมปัสสุดแกร่งที่ชื่อว่าซีโฟม
“ฮรี้!” oO(รีบพาท่านเอลวินไปรักษาตัวที่แอตแลนติสเร็วมิสตี้!)
ตื่นรู้ +2 จากการพิชิตครั้งแรก
สินสงคราม : เนื้อคราเคน จำนวน 7 ea
ใช้สกิล [น้ำเยียวยา]
|