-14.02.25 / 03:48PM-
“ไง~ เจ้าเด็ก ไปเดทมาเรอะ สนุกไหม”
เสียงซิลเวอร์ดังมาแต่ไกลทันทีที่แมคเคนซีเปิดประตูบ้านหมายเลข 20 เข้ามา
“เดทอะไรกัน ผมไปฝึกดาบกับวิชาป้องกันตัวมาต่างหาก”
หนุ่มอังกฤษถอนหายใจตีหน้ายุ่งใส่พี่ชายร่วมมารดาที่เดินยิ้มเผล่เข้ามาหา ตอนนี้ทั้งใบหน้าและร่างกายรู้สึกชื้นเหงื่อจนอยากรีบไปอาบน้ำเต็มที
“อ้าว งั้นเรอะ เห็นวันนี้ที่ค่ายมีกิจกรรมไบล์นเดทอะไรนั่น ได้ข่าวว่าบ้านเจ้าเด็กดีนแฟนนายเป็นคนจัด เจ้าเด็กนิโคไลบอกนายออกจากบ้านไปหลังมื้อเช้า ฉันก็นึกว่านายจะเปลี่ยนบรรยากาศไปเดทกับสาวตอนแฟนไม่อยู่ซะอีก”
ได้ฟังคำตอบซิลเวอร์ก็ถึงกับเลิกคิ้ว ไม่นึกว่าน้องชายของตัวเองจะหันมาฝึกจริงจังขนาดนั้น
“เลิกคิดไปเลยซิลเวอร์ ผมไม่เดทกับใครนอกจากดีนหรอก รูบี้มาตามผมไปฝึกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนแรกผมก็คิดว่าเธอชวนตามมารยาท ที่ไหนได้…”
พูดได้แค่นั้นก็เงียบไป ดูจากสภาพแมคเคนซีตอนนี้แล้วคงเดาได้ไม่ยากว่าธิดาแห่งแอรีสคนนั้นเข้มงวดกับเขาขนาดไหน เธอปล่อยให้เขาได้พักผ่อนเพียงแค่วันเดียว แล้ววันรุ่งขึ้นก็มารอพบที่บ้านแต่เช้าเพื่อบอกว่า “อย่ามัวชักช้าปล่อยเวลาให้เสียเปล่าเลยศิษย์น้อง ไปหยิบดาบมา เราจะไปฝึกวิทยายุทธ์กัน” แมคเคนซีเลยต้องพานิโคไลไปฝากไว้กับคีธที่สถานพยาบาล ไม่เช่นนั้นเด็กชายคงได้ตามติดเขาแจด้วยยังหวาดระแวงกับผู้คนที่ไม่คุ้นหน้าอยู่
“วิ้ววว พ่อหนุ่มรักจริง เจ้าเด็กบ้านแอรีสที่ไปทำภารกิจกับนายคนนั้นน่ะเหรอ อื้มมมม…ฝีมือเธอก็ไม่เลวจริง ๆ ว่าแต่ไหน ๆ ก็มีเวลาฝึกดาบแล้ว ไม่สนใจฝึกใช้เวทย์เพิ่มเติมเหรอ ฉันสอนให้นายได้นะ”
ซิลเวอร์ผิวปากแซวแล้วกอดคอแมคเคนซีไว้เพื่อรอฟังคำตอบ
“พี่นี่ก็ช่างหาภาระให้ผมเพิ่มจริง ๆ ……แต่ก็ได้ ดีเหมือนกัน งั้นไว้ผมจัดตารางแล้วจะบอกพี่อีกที…ได้ไหม”
“หื้ออออ ฉันหูฝาดหรือเปล่าเนี่ย ไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า แต่ก็เอาตามนี้ รีบจัดตารางมาล่ะเจ้าเด็ก”
พี่ใหญ่ของบ้านทำตาโตเกินจริงเมื่อเห็นว่าน้องชายไม่ปฏิเสธอย่างที่คิด
“เปล่าน่า ก็ช่วงนี้…ผมไม่มีอะไรทำ”
แมคเคนซีพึมพำเบา ๆ มีอะไรให้ทำยุ่ง ๆ ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ไม่คิดถึงดีนมากจนเกินไป แค่นี้ก็คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว
“อ้อ แฟนไม่อยู่เลยว่างนี่เอง ปกติตัวติดกันทั้งวันทั้งคืนเลยนี่นะ แล้วเป็นไง ติดต่อเจ้าเด็กดีนได้หรือยัง”
ซิลเวอร์กอดอกถาม ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อแมคเคนซีส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ชิบเป๋ง มาโหมดดราม่าซะงั้น...เอาน่า หมอนั่นอาจยุ่งอยู่ นายก็อย่าเพิ่งหงอยไปก่อนสิน่า ฉันกำลังจะไปอเมซอนพอดี สนใจไปหาอะไรดื่มด้วยกันไหม แล้วก็ไปรับจูลี่ที่โรงเรียนเลย”
ถึงกับต้องหันไปทางอื่นเพื่องึมงำประโยคแรก ไอ้เราก็รับมือกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ไม่ถูกเสียด้วย ซิลเวอร์จึงได้แค่ปลอบตามแบบที่ตนเองถนัดแล้วทำทีเปลี่ยนเรื่องซะเลย
“ไม่ดีกว่า ผมว่าจะอาบน้ำแล้วพักผ่อนสักหน่อย เดี๋ยวต้องไปรับนิโคไลที่สถานพยาบาลแล้วพาไปกินมื้อเย็น”
“โอเค งั้นฉันไปก่อน อย่าลืมตารางล่ะ ฉันจะเคลียร์ทุกอย่างให้ว่างเพื่อมาสอนนายเลย เตรียมตัวรับการฝึกสุดโหดซะเจ้าเด็ก”
ฝ่ามือใหญ่ขยี้ผมสีเข้มของแมคเคนซีจนยุ่ง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของซิลเวอร์จะเดินออกจากบ้านไป
“เฮ่อ……”
พอกลับมาอยู่คนเดียวแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ หลังจากวันที่ดีนขาดการติดต่อไปแมคเคนซีก็ยังคงหมั่นส่งข้อความถึงอีกฝ่ายทุกวัน แต่ก็ไร้การตอบกลับเหมือนเดิมจนเริ่มเป็นห่วงขึ้นมา
‘นายคงไม่ได้หายไปไหนอีกใช่ไหม…’
ความห่างไกลและความเงียบเหงาพาลให้คิดไปได้ต่าง ๆ นานามากมาย และดูเหมือนว่าสิ่งที่สามารถเป็นที่พึ่งทางใจในเวลานี้ก็มีเพียงสิ่งเดียว
รูปปั้นผู้เป็นมารดาที่ตั้งอยู่ในโถงกลางบ้านนั่นเอง
“ผมไม่ได้อยากรบกวนคุณนะ แต่ตอนนี้ผม—อุ๊บ !”
เมื่อเดินมาตรงด้านหน้ารูปปั้นและแตะมือเข้ากับปลายนิ้วอันเย็นเยียบของงานปะติมากรรมแล้ว ความรู้สึกราวกับถูกประแสพลังไหลผ่านเข้าร่างก็เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้สัมผัสมานาน ความรุนแรงและหนักแน่นในครั้งนี้เทียบได้กับเมื่อคราวที่เกิดขึ้นในร้านขายอุปกรณ์เวทมนต์ของแม่มดเฮ็กซาเรีย เพียงแต่ตอนนี้ต่างกันก็แค่พลังเวทย์ของแมคเคนซีแข็งแกร่งขึ้นมาก เขาจึงรับพลังนี้ได้โดยที่ไม่เข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้นเสียก่อน
แต่กลับมีเสียงอันคุ้นเคยดังก้องขึ้นในหัวแทน
‘ทักษะที่เจ้าเพิ่งได้รับไปคือเขตแดนเฮคาที ให้ซิลเวอร์สอนทักษะนี้แก่เจ้าเสีย ส่วนเรื่องภารกิจที่เพิ่งเสร็จสิ้น ข้าขอบใจ…ที่เจ้าช่วยเหล่าน้อง ๆ ของเจ้าได้สำเร็จ’
สิ้นเสียงนั้น พลังที่หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายก็ดูเหมือนจะเริ่มสงบลง นั่นแปลว่าการติดต่อระหว่างเขากับผู้เป็นมารดากำลังจะสิ้นสุดเพียงเท่านี้ แมคเคนซีจึงรีบถามขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวครับ ผมมีเรื่องอยากถาม คุณพอจะรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้ดีนเป็นยังไงบ้าง ผมติดต่อเขาไม่ได้หลายวันแล้ว”
อาจพูดได้ว่านี่เป็นความหวังเกือบสุดท้ายของเขาเลยก็ได้ แน่นอนเขาเชื่อว่าดีนยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้เขามืดแปดด้านจนไม่รู้จะถามใครได้แล้วจริง ๆ
‘……….’
เทพีเฮคาทีเงียบไปนาน…นานเสียจนแมคเคนซีเองก็คิดว่าคงไม่ได้รับคำตอบแล้ว จนเมื่อกำลังจะละมือออกจากรูปปั้นที่แตะอยู่ เสียงก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
‘ข้าบอกได้เพียงว่าบุตรแห่งมหาเทพโพไซดอนผู้นั้นปลอดภัยดี เจ้าจงรอ…และอย่าได้กังวล’
สิ้นเสียงนั้นบรรยากาศโดยรอบก็กลับมาเป็นเช่นเดิม แมคเคนซีค่อย ๆ ละมือออกพลางครุ่นคิดพิจารณาถึงคำพูดเมื่อครู่ มารดาของเขาคงรู้อะไรบางอย่าง แต่เขาก็เข้าใจดีว่าพวกเทพคงไม่ก้าวก่ายกิจธุระกันดังเช่นที่เทพโมมุสและเทพเฟรย์ไม่อาจช่วยเหลือภารกิจของเขาได้
‘บางทีดีนอาจถูกเทพไหว้วานให้ไปทำอะไรอีกก็ได้’
“ขอบคุณครับ...แม่”
คิดได้แบบนั้นก็สบายใจขึ้นมาหน่อย แมคเคนซีจึงกลับเข้าห้องนอนส่วนตัวไปพักผ่อนและเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไปรับนิโคไลที่สถานพยาบาลในตอนเย็น
.
.
ค่ำวันนั้น ในที่สุดดีนติดต่อกลับมา พวกเขาโทรคุยกันจนดึกดื่นเพื่อให้สมกับความคิดถึงที่รอมานาน แต่น่าแปลกที่ดีนกลับบอกว่าตนเองกลับมาค่ายแล้วและกำลังนอนอยู่บนเตียงของเขานี่แหละ
‘ให้ตายสิ โกหกไม่เนียนเหมือนเคย’
เจ้าของเตียงตัวจริงคิดในใจ ไหน ๆ ดีนก็บอกว่ากลับมาค่ายแล้ว หากเขาตอบกลับไปว่า ‘ฉันก็อยู่ที่ค่ายและกำลังนอนอยู่บนเตียงเหมือนกัน’ ดีนคงจะโป๊ะแตกแน่ ๆ ก็เลยเออออไปว่าตนเองยังไม่กลับจากการทำภารกิจเสียเลย และถึงแม้คนรักของเขาจะไม่ยอมให้เปิดวิดีโอคอลด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ดีนก็ยังส่งช่อกุหลาบที่ทำจากช็อกโกแลตมาให้แมคเคนซีเพื่อเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ผ่านทางสมาร์ทโฟนเดดาลัส ซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้ว่าเครื่องมือสื่อสารของเดมิก็อดสามารถทำแบบนี้ได้ด้วย แต่เขานี่สิที่ตั้งแต่กลับค่ายมาก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกอีก เลยไม่ได้ซื้อของขวัญให้ สุดท้ายแม้ว่าวันวาเลนไทน์ปีแรกของเขากับดีนจะจบลงด้วยการที่ไม่ได้ไปเดทหรือทำเรื่องหวานชื่นร่วมกันเหมือนคู่รักอื่น ๆ แต่อย่างน้อยแมคเคนซีก็ได้ใช้เวลาร่วมกับดีนเป็นคนสุดท้ายของค่ำคืนนี้ เสียงทุ้มต่ำที่แสนคิดถึงค่อย ๆ กล่อมให้เขาหลับใหลไปในที่สุด
‘ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน ฉันก็ขออวยพรให้นายปลอดภัย หวังว่าวันวาเลนไทน์ปีหน้าเราจะได้อยู่ด้วยกัน’

ปลดล็อกสกิล : เขตแดนเฮคาที
HEROES (วีรบุรุษผู้โปรดปราน)
โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25
@God