[รัฐแคลิฟอร์เนีย] [เมืองซานฟรานซิสโก] สะพานโกลเดนเกต

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ เมื่อวานซืน 13:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×
เอาไว้สร้างสถานที่

สะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge)

{ รัฐแคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา }
【 สะพานโกลเดนเกต 】
Gateway to the Pacific

สะพานโกลเดนเกต (Golden Gate Bridge) คือหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองซานฟรานซิสโก และของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีฉายาที่คนทั่วโลกรู้จักกันว่า “สะพานแห่งหมอก” (The Bridge of Fog) หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า “ประตูทองสู่แปซิฟิก” (Gateway to the Pacific) ตัวสะพานตั้งตระหง่านท่ามกลางภูเขาเบื้องหลัง น้ำทะเลสีฟ้าเข้มเบื้องล่าง และหมอกขาวที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวมาทับซ้อนราวกับม่านแห่งสรวงสวรรค์ เป็นภาพที่งดงามราวภาพวาด จนทำให้สะพานแห่งนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจของศิลปิน ช่างภาพ นักประพันธ์ และผู้ฝันใฝ่ทั่วโลก


การเดินทางจากใจกลางเมืองซานฟรานซิสโกสามารถใช้รถยนต์ วิ่งบนทางหลวง US-101 หรือ CA-1 ข้ามสะพานได้อย่างสะดวก ตัวสะพานตั้งอยู่ระหว่างอ่าวซานฟรานซิสโกกับมหาสมุทรแปซิฟิก เชื่อมระหว่างเมืองซานฟรานซิสโกฝั่งใต้และมารินเคาน์ตี้ฝั่งเหนือ มีความยาวรวมประมาณ 2.7 กิโลเมตร โครงสร้างเหล็กสีแดงอมส้มที่เรียกว่า International Orange โดดเด่นเหนือท้องฟ้าและทะเลเมฆหมอกที่ปกคลุมเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น

แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 10335 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ เมื่อวานซืน 13:26
โพสต์ เมื่อวานซืน 14:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ที่ 26 เดือนสิงหาคม ปี 2558

ช่วงบ่าย เวลา 13.00 - 16.00 น. ณ สะพานโกลเดนเกต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (พบ ลูปา)


เสียงลมพัดแรงพาเอากลิ่นไอทะเลและละอองเค็มของมหาสมุทรแปซิฟิกซัดขึ้นมาปะทะร่าง ขณะที่รถแท็กซี่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่สะพานโกลเดนเกต โครงเหล็กสีแดงส้มตัดกับท้องฟ้าที่สว่างจ้าเป็นภาพอลังการที่ใคร ๆ ก็อยากบันทึกเก็บไว้ โมนีก้าเองก็เช่นกัน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรัว ๆ แทบไม่หยุด รอยยิ้มเปื้อนเต็มใบหน้าเหมือนเด็กสาวที่ได้เที่ยวทริปในฝัน “โมลูก…อย่าลืมสิว่าเราไม่ได้มาพักร้อนนะ” พ่อถอนหายใจยาว มือยังคงกอดกระเป๋าเดินทางไว้แน่น แต่ก็ห้ามลูกสาวไม่ได้


“แหมพ่อ~ ถ้าหนูทำหน้านอย ๆ ตลอดทางมันก็ไม่ช่วยอะไรนี่นา อย่างน้อยขอมีรูปสวย ๆ ก่อนตายก็ยังดี” เธอพูดติดตลกพลางหันกล้องมาถ่ายเซลฟี่อีกสักช็อต แต่ทันใดนั้นเองรอยยิ้มของโมนีก้าก็พลันชะงักไป…


ในขณะที่สายตาเธอเหลือบออกไปนอกหน้าต่างตรงกลางสะพาน ดวงตาสีเงินกลับสะดุดเข้ากับบางสิ่ง เป็นเงาขาวขยับอยู่ท่ามกลางหมอกที่ลอยเหนือผิวน้ำและเสาเหล็กมหึมา ร่างนั้นค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น หมาป่าขนสีขาวบริสุทธิ์ตัวใหญ่ดวงตาสีทองคมกริบ สง่างามราวกับหลุดมาจากตำนานโบราณ มันยืนอยู่กลางเส้นทางที่มีทั้งรถยนต์วิ่งขวักไขว่และผู้คน แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นเลยสักคนเดียว…นอกจากเธอ


โมนีก้าตกใจจนเผลอกำโทรศัพท์แน่น หัวใจเต้นแรงจนหายใจไม่ทัน แต่หมาป่าตัวนั้นไม่ขยับ ไม่เห่า ไม่คำราม มันเพียงแค่ จ้องเธอ…จ้องด้วยสายตาที่นิ่ง ลึกล้ำ ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักหรือพิพากษาอะไรบางอย่างในตัวเธอ “พ่อ…” เสียงเธอสั่นเครือ พยายามเรียกให้พ่อหันไปมอง แต่เมื่อแคนทัสหันไป กลับไม่เห็นอะไรเลยนอกจากรถและนักท่องเที่ยวที่กำลังถ่ายรูป


โมนีก้ากัดริมฝีปากแน่น ความรู้สึกวูบหนึ่งแผ่วผ่านหัวใจ คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในห้องนอนคืนนั้นตอนเธอได้ยินเสียงประหลาด ความเชื่อมโยงบางอย่างกำลังชัดขึ้น…หมาป่าขาวยังคงไม่พูด ไม่ใช้กระแสจิต ไม่แม้แต่จะขยับ เพียงแต่ยืนอยู่ตรงนั้นในโลกที่เหมือนมีเพียงโมนีก้าคนเดียวที่มองเห็นมัน ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของทางเลือกหรือจุดเริ่มต้นของโชคชะตา มือเล็กของเธอเผลอเลื่อนไปจับแขนเสื้อพ่อแน่นขึ้น พลางพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง “นี่มัน…อะไรกันเนี้ย…” ลมหายใจของโมนีก้าสะดุดชะงัก ดวงตาสีเงินเบิกกว้างขณะหมาป่าขาวที่ยืนอยู่กลางสะพานโกลเดนเกตค่อย ๆ หันศีรษะไปทางหนึ่ง หูตั้งชัน ก่อนจะขยับตัวเหมือนกำลังจะออกวิ่ง ทว่าก่อนจะก้าวหายไปในหมอกหนา มันกลับหยุด หันกลับมามองเธอตรง ๆ อีกครั้ง


สายตาสีทองนั้นชัดเจนเกินกว่าคำพูดราวกับกำลังเอ่ยกับเธอโดยไม่ต้องเปล่งเสียง หากอยากปลอดภัย…ตามข้ามา…ตรงนั้น อันตรายต่อเขา


ร่างเล็กของโมนีก้าสั่นสะท้าน เธอหันกลับไปมองพ่อ ดวงตาสีเงินพราวสั่นเครือด้วยทั้งความกลัวและความเข้าใจที่ผุดขึ้นจากก้นบึ้งสัญชาตญาณ เธอเอื้อมไปกอดพ่อแน่นจนร่างกายอบอุ่นของเขากลายเป็นกำแพงสุดท้ายที่เธอไม่อยากปล่อย “พ่อ…” เสียงเธอแตกพร่า “หนูต้องไป…หนูรู้สึกได้เลย ถ้าหนูยังอยู่ พ่อจะเป็นอันตราย” แคนทัสนิ่งไปชั่วอึดใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดปนยอมรับ ลึก ๆ เขาเองก็รู้มาตลอดตั้งแต่เมื่อวานว่าลูกสาวไม่ได้เกิดมาเพื่อชีวิตธรรมดา เศษเสี้ยวสายเลือดโบราณที่เขาเองไม่อาจปฏิเสธบอกชัดเจน นี่คือเวลาที่เธอต้องเดินเส้นทางของเธอเอง


เขาขมวดคิ้วแน่น ก่อนตัดสินใจกระซิบกับคนขับแท็กซี่เสียงหนักแน่น “หยุดรถตรงนี้ด้วยครับ”


แท็กซี่ชะลอแล้วหยุดกลางสะพานท่ามกลางเสียงบีบแตรจากรถคันอื่น แต่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชั่ววินาทีนี้ แคนทัสหันกลับมากอดลูกสาวแน่นอีกครั้ง กลิ่นอุ่นคุ้นเคยของเขาแทบทำให้โมนีก้าน้ำตาไหล “ฟังพ่อนะโมนี่…” น้ำเสียงของเขาสั่น แต่หนักแน่นเต็มไปด้วยความรัก “ไม่ว่าเจออะไร อย่าลืมติดต่อพ่อนะเจ้าตัวเล็ก สัญญากับพ่อสิว่าจะติดต่อมา” หญิงสาวพยักหน้ารัว ๆ กำเสื้อพ่อแน่นเหมือนไม่อยากปล่อยมือจากไปเลย “สัญญาค่ะพ่อ หนูจะติดต่อมาแน่นอน…ไม่เคยโกหกพ่ออยู่แล้ว”


หมาป่าขาวเหยียดยืนรออยู่ข้างหน้า ร่างสูงสง่างามตัดกับหมอกสีทองที่ปกคลุมสะพาน เหมือนผู้พิทักษ์แห่งชะตากรรมที่ไม่อาจเพิกเฉยได้อีกต่อไป โมนีก้าผละออกจากอ้อมกอดอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนหันไปสบตาพ่ออีกครั้งเพื่อเก็บภาพนี้ไว้ในใจเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจึงหันกลับไปยังหมาป่าที่รออยู่ หัวใจเธอเต้นแรง แต่ก้าวแรกก็ถูกยกขึ้นและโลกทั้งใบของเธอกำลังจะเปลี่ยนตลอดกาล


ตอนแรกก็คิดว่าแค่เดินตามธรรมดา แต่ทว่า…เสียงส้นสูง ก๊อก ก๊อก ก๊อก! กระแทกลงบนพื้นสะพานโกลเดนเกตดังก้องประสานกับเสียงลมแรงที่พัดปะทะ เส้นผมสีม่วงครามของโมนีก้าสะบัดไปด้านหลังเป็นพวง เธอกัดฟันแน่น วิ่งตามร่างสง่างามของหมาป่าขาวที่พุ่งไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวกลับมามองเลยแม้แต่น้อย ตอนแรกก็เดิน จากนั้นก็เป็นเดินเร็ว…และตอนนี้คือวิ่ง!! 


“โอ้ยยยย!! นี่มันบ้าไปแล้ว!!” เธอแทบจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ ทั้งเหนื่อย ทั้งตกใจ และทั้งตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน มือหนึ่งโอบกอดกระเป๋าสีชมพูแน่น กลัวสิ่งของสำคัญข้างในหล่นหาย ส่วนอีกมือแกว่งไปตามจังหวะวิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะทำได้ ชุดเบลเซอร์สีชมพูหวานกับกระโปรงลูกไม้สีขาวที่เธอสวมอยู่ในตอนนี้ดูจะไม่เข้ากับสถานการณ์เลยแม้แต่น้อย ยิ่งส้นสูง Sam Edelman Women’s Camdyn Pump สี Nude ที่กำลังถูกใช้งานหนักยิ่งกว่ารันเวย์แฟชั่น ทำให้ภาพที่เกิดขึ้นดูเหมือนฉากหลุดมาจากหนัง โดยเฉพาะ Jurassic World ฉากตำนานที่ ไบรซ์ ดัลลาส ฮาวเวิร์ด วิ่งหนีทีเร็กซ์ในส้นสูงเป๊ะ ๆ



“ทำไมต้องใส่ส้นสูงวันนี้ด้วยยยย!?” โมนีก้าโวยวายในใจแทบร้องไห้ แต่ขาก็ยังสับไม่หยุด เธอพยายามเก็บสมดุลตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เหงื่อเริ่มไหลซึมจากขมับ หัวใจเต้นแรงไม่ต่างจากกลองศึก


หมาป่าขาววิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงอย่างสง่างาม มันไม่สนถนน ไม่สนสายตาผู้คน ที่จริงแล้วดูเหมือน ไม่มีใครเห็นมันเลยนอกจากเธอ ยิ่งทำให้ความจริงย้ำชัดในหัว นี่คือบททดสอบ นี่คือการนำทางของโชคชะตา เสียงส้นสูงกระแทกพื้นดังสะท้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในใจเธอเหลือเพียงความคิดเดียว อย่าล้มนะ…อย่าล้มนะนังโมนีก้า!! แต่ถึงแม้จะบ่นแทบขาดใจ ใบหน้าของโมนีก้ากลับมีประกายบางอย่างแทรกเข้ามา มันคือรอยยิ้มบาง ๆ ของคนที่รู้ว่าแม้การวิ่งครั้งนี้จะบ้าบิ่นแต่มันคือก้าวแรกที่พาเธอเข้าสู่โลกที่แท้จริงของตัวเองแล้ว



อื่น ๆ: วิ่ง ๆ เอาออกมาวิ่ง วิ่งสิแฮมทาโร่ววว


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 26788 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ เมื่อวานซืน 14:20
โพสต์ 26,788 ไบต์และได้รับ +5 EXP +6 เกียรติยศ +6 ความศรัทธา จาก น้ำยาย้อมผม  โพสต์ เมื่อวานซืน 14:20
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
น้ำยาย้อมผม
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้