12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[ลองไอส์แลนด์] Dare Universal

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-2-14 20:49:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-14 21:14

Time


14/02/25 



บทพิเศษ Valentine's Day


ตอนที่ 4





"นี่มันอะไรกันครับเนี่ย..." 


คูเปอร์นั่งกอดอกในอ้อมแขนของไลแซนเดอร์ ทำหน้าบึ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าต่อให้บอกให้ปล่อย อีกฝ่ายก็คงไม่สนใจคำขอของเขาอยู่ดี  


ชายหน้ามึนคนนี้น่ะหรือจะฟังเขา? ไม่มีทาง! 


เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วพยายามเมินสายตาของคนที่เดินผ่านไปมา ไม่สนใจแม้แต่เสียงกระซิบกระซาบที่ฟังดูเหมือนกำลังเดากันไปต่างๆ นานาว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกัน  


...ก็แค่คู่เดตจากกิจกรรม blind date ครับพี่น้อง ไม่ต้องคิดไปไกลขนาดนั้น!  


คูเปอร์ข่มใจไม่คิดมาก พยายามหา ข้อดีของการปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้


อย่างน้อยมันก็สบายกว่าเดินเองแหละน่า


ขณะที่เขากำลังจมอยู่ในความคิด เสียงทุ้มข้างตัวก็ดึงเขากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง  


"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?"  


คูเปอร์เหลือบมองเจ้าของคำถามก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงฟังดูเป็นห่วงจริงๆ นะ... แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยแฮะ  


"...ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ"  


"แน่ใจเหรอ?"  


"แน่ใจครับ"  


ไลแซนเดอร์มองเขานิ่งๆ คล้ายกำลังประเมินว่าเขาพูดจริงหรือเปล่า คูเปอร์ทำหน้าขรึมเข้าไว้ พยายามรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูสงบที่สุด...  


แม้ว่าในใจจะรู้สึกอับอายอยู่ลึกๆ ก็เถอะ!  


แต่ดูเหมือนไลแซนเดอร์จะไม่ได้ติดใจอะไร เพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว  


"สรุปแล้วคุณอยากกินร้านไหนดีครับ?"  


คูเปอร์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะย้อนถามกลับ "แล้วคุณล่ะครับ อยากกินอะไร?"  


"วันนี้ผมให้คุณจัดการมื้ออาหารได้เต็มที่เลย" ไลแซนเดอร์กล่าวเสียงเรียบ "อยากให้ผมกินอะไร เดี๋ยวผมจะอุ้มคุณเข้าไปด้วย"  


"..."  


คูเปอร์กัดฟันแน่น ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพูดเล่นหรือพูดจริง แต่ดูจากบุคลิกของเจ้าตัวแล้ว... เขาว่าอีกฝ่ายพูดจริงแน่ๆ!  


โอเค เขาควรเลือกร้านให้เร็วที่สุดก่อนที่จะถูกหิ้วเข้าไปทั้งแบบนี้  


สายตาสีเทากวาดมองรอบตัว พวกเขากำลังเข้าสู่ โอลิมเปียน พลาซ่า ศูนย์กลางของร้านอาหารและซุ้มเกมในแดร์ ยูนิเวอร์แซล อาคารรอบจัตุรัสตกแต่งด้วยสีสันสดใสในสไตล์กรีกแฟนตาซี ประดับไปด้วยเสาโรมันแกะสลักลวดลายเทพเจ้าแห่งโอลิมปัส  


คูเปอร์เหลือบไปเห็นร้านหนึ่งที่มีป้ายเมนูใหญ่ติดอยู่หน้าร้าน "Ares' BBQ Feast"


...อาหารปิ้งย่าง?  


ดูเข้าท่าดีแฮะ  


"ร้านนั้นครับ!" เขาชี้ไปทันที  


ไลแซนเดอร์พยักหน้าก่อนจะก้าวเข้าไปในร้านโดยยังไม่ยอมปล่อยเขาลงสักนิด จนกระทั่งพนักงานที่รอรับลูกค้าเลิกคิ้วขึ้นมองอย่างสงสัย คูเปอร์ถึงได้กระซิบเบาๆ ผ่านซี่ฟัน  


"วางผมลงได้แล้วครับ!"  


"อ้อ จริงสิ" อีกฝ่ายทำเหมือนเพิ่งนึกได้ ก่อนจะวางเขาลงบนเก้าอี้อย่างใจเย็น  


คูเปอร์ถอนหายใจแล้วรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หันไปสั่งอาหารทันทีเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาหมาดๆ  

 


หลังจากนั้นไม่นาน อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ  


ควันหอมฉุยของเนื้อย่างลอยอวลเต็มร้าน ทำให้คูเปอร์รู้สึกหิวขึ้นมาทันที พวกเขาสั่งเนื้อวัว เนื้อแกะ และไส้กรอกรมควันมาลอง ส่วนข้างเคียงก็มีขนมปังอบชีสและซอสสูตรพิเศษของร้าน  


คูเปอร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย พอเป็นอาหารประเภทนี้ก็รู้สึกคุ้นเคยและสบายใจกว่าการกินเค้กเมื่อกี้เยอะ  


"ดูคุณจะชอบนะครับ"  


คูเปอร์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพบว่าไลแซนเดอร์กำลังมองเขาอยู่  


"...ก็อาหารดูดีมากเลยนี่ครับ"  


"อืม ดีแล้ว"  


พวกเขาเริ่มลงมือย่างเนื้อบนเตากลางโต๊ะ คูเปอร์ใช้ตะเกียบคีบเนื้อพลิกไปมาอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะเหลือบมองคนที่นั่งตรงข้ามกัน  


"ปกติคุณกินอะไรบ่อยที่สุดครับ?"  


"ขนมปังกับกาแฟ" ไลแซนเดอร์ตอบเรียบๆ  


"...นั่นมันอาหารเช้านี่ครับ"  


"แล้วก็อาหารเที่ยงและอาหารเย็นด้วย"  


คูเปอร์หยุดมือทันที "เดี๋ยว... นี่คุณหมายความว่ากินแต่ขนมปังกับกาแฟจริงๆ น่ะเหรอครับ?"  


"อืม"  


"...คุณใช้ชีวิตยังไงกันครับ!?"  


"ก็ใช้ชีวิตปกติ"  


"นี่มันไม่ปกติเลยสักนิด!" คูเปอร์ส่ายหัว "แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด วันนี้คุณต้องกินให้อิ่มเลยนะครับ!"  


ไลแซนเดอร์เลิกคิ้วน้อยๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ "คุณนี่ใจดีจังนะครับ”


“...ผมเรียกว่าหวังดีมากกว่านะครับ"  


พวกเขาย่างเนื้อกันไปสักพัก บรรยากาศรอบตัวเริ่มผ่อนคลายลง คูเปอร์ค่อยๆ ลืมความอายไปบ้างแล้ว และเริ่มรู้สึกว่าเขากับไลแซนเดอร์เข้าขากันได้ดีจนน่าแปลกใจ  


"คุณนี่เก่งนะครับ"  


คูเปอร์กระพริบตา "อะไรครับ?"  


"เรื่องการดูแลคนอื่น"  


"...?"  


"คุณดูแลผมตั้งแต่เลือกอาหารให้ คอยดูว่าผมกินครบไหม หรือแม้แต่ตอนที่พยายามบังคับให้ผมกินเยอะๆ"  


"..."  


"แต่ไหนบอกว่าผมต้องเป็นฝ่ายดูแลคุณไงครับ?"  


คูเปอร์นิ่งไป ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วตักเนื้อย่างชิ้นหนึ่งใส่จานของไลแซนเดอร์  


"ถ้าจะเถียงก็ช่วยกินนี่ก่อนนะครับ"  


"รับคำสั่ง" ไลแซนเดอร์ยิ้มมุมปาก ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อเข้าปาก  


คูเปอร์เบือนหน้าออกไปนิดๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองคิดไปเองหรือเปล่า... แต่บรรยากาศระหว่างพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไปจากตอนแรกแล้วจริงๆ อย่างน้อยก็รู้สึกว่าพวกเขาเป็นกันเองขึ้น




หลังจากที่ไลแซนเดอร์ยอมรับเนื้อย่างจากเขาแล้ว คูเปอร์ก็รีบก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเองเพื่อกลบเกลื่อนอะไรบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจ  


มันเป็นความรู้สึกประหลาดที่เขาไม่อยากจะยอมรับง่ายๆ  


แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีอยู่จริง 


บรรยากาศระหว่างพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไป อาจจะเพราะไฟอ่อนๆ จากเตาย่างที่ให้ความอบอุ่น  


"คุณดูตั้งใจทำอาหารจังนะครับ" ไลแซนเดอร์พูดขึ้นพร้อมกับเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ มองดูคูเปอร์ที่กำลังพลิกเนื้ออย่างจริงจัง  


"ก็แน่นอนสิครับ" คูเปอร์ตอบโดยไม่ละสายตาจากเตา "เวลาจะกินอะไร ผมก็อยากให้มันออกมาดีที่สุด"  


"งั้นคุณช่วยดูแลเตาของผมด้วยสิ"  


คูเปอร์เหลือบมองไปที่จานของอีกฝ่าย พบว่าเนื้อของไลแซนเดอร์ยังแทบไม่ได้แตะเลย มีเพียงชิ้นเล็กๆ สองสามชิ้นที่ถูกหยิบไปกินเท่านั้น  


"เฮ้ คุณนี่มันแย่จริงๆ นะครับ" เขาส่ายหัว "ยังไม่ได้กินอะไรจริงจังเลยไม่ใช่เหรอครับ?"  


"ผมกินอยู่ครับ"  


"กินนิดเดียวแบบนั้นไม่นับครับ!"  


ไลแซนเดอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอียงคอ "งั้นคุณช่วยป้อนให้ผมหน่อยสิครับ"  


"...อะไรนะครับ?"  


"คุณเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าผมต้องกินให้เยอะกว่านี้?"  


คูเปอร์กะพริบตาปริบๆ มองคนที่นั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ  


"ผมแค่บอกให้คุณกินเยอะๆ ไม่ได้บอกว่าผมจะป้อนให้ซะหน่อย!"  


"แต่นั่นเป็นวิธีที่เร็วที่สุดไม่ใช่เหรอครับ?"  


"...คุณตั้งใจจะแกล้งผมหรือเปล่าครับเนี่ย?"  


"ผมก็กำลังหิวจริงๆ นะ"  


"..."  


คูเปอร์เม้มริมฝีปาก ก่อนจะถอนหายใจยาว  


โอเค ถ้าจะเล่นแบบนี้ก็ได้!


เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาตักเนื้อย่างที่ดูดีที่สุดบนเตา ก่อนจะยื่นไปให้ไลแซนเดอร์ สีหน้าเรียบเฉยพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกข้างในให้แนบเนียนที่สุด  


"ถ้างั้น... กินซะครับ"  


ไลแซนเดอร์มองเขาเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวมาข้างหน้า อ้าปากรับเนื้อที่เขายื่นไปให้โดยไม่ขัดขืน  


โอเค... ใกล้เกินไปแล้ว!


คูเปอร์รีบดึงมือกลับแทบไม่ทัน หัวใจเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่ง ขณะที่คนตรงข้ามยังคงเคี้ยวอาหารด้วยสีหน้าสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  


"...อืม อร่อยดีนะครับ"  


"ก็แน่นอนอยู่แล้วครับ ผมเป็นคนทำเองทั้งที"  


"งั้นต่อไปช่วยดูแลมื้ออาหารของผมด้วยนะครับ"  


"เดี๋ยว... ผมไม่ได้เซ็นสัญญาอะไรแบบนั้นเลยนะครับ!"  


ไลแซนเดอร์หัวเราะ ก่อนจะยื่นตะเกียบของตัวเองมาตักเนื้อใส่จานของคูเปอร์บ้าง  


"งั้นผมก็จะดูแลคุณเหมือนกันครับ"  


"...คุณกำลังจะแข่งกันอยู่เหรอครับ?"  


"ผมคิดว่าคุณอยากให้เป็นแบบนั้นนะ"  


"..."  


โอเค เขาเริ่มจะตามเกมของอีกฝ่ายไม่ทันแล้ว!  


หลังจากมื้ออาหารผ่านไปโดยมีการหยอกล้อไปมาเป็นระยะๆ พวกเขาก็นั่งพักกันอยู่ครู่หนึ่ง คูเปอร์ยกแก้วน้ำขึ้นจิบ พยายามทำใจให้สงบหลังจากที่รู้สึกว่าโดนอีกฝ่ายเล่นงานไปหลายรอบ  


"เอาล่ะครับ ตอนนี้คุณอิ่มแล้วใช่ไหม?"  


"อืม คงต้องขอบคุณคุณสำหรับมื้อนี้"  


"ดีมากครับ เพราะต่อจากนี้ผมต้องไปหาของที่ระลึกติดไม้ติดมือหน่อยแล้ว"  


"ของที่ระลึก?"  


"ก็ไหนๆ มาแดร์ ยูนิเวอร์แซลแล้ว ผมคงไม่ยอมกลับไปมือเปล่าแน่ๆ"  


ไลแซนเดอร์พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง "ถ้างั้นไปกันเลยไหมครับ?"  


"อ่า เดี๋ยวสิครับ..."  


คูเปอร์กำลังจะยันตัวขึ้นจากเก้าอี้ แต่ก็ชะงักไปทันทีเมื่อรู้สึกถึงอาการเจ็บที่ข้อเท้า เขากัดฟันเล็กน้อย พยายามไม่แสดงออกมากนัก  


แต่ไม่ทันพ้นสายตาของไลแซนเดอร์  


"คุณยังเดินไม่ไหวใช่ไหม?"  


"เอ่อ... ก็..."  


ไม่ทันได้ปฏิเสธ มือใหญ่ของอีกฝ่ายก็จับแขนเขาไว้ ก่อนจะพยุงให้ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง  


"ผมอุ้มคุณอีกครั้งก็ได้นะครับ"  


"เฮ้! ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ!"  


"แล้วคุณจะเดินไหวเหรอ?"  


"..."  


โอเค เขาพูดอะไรไม่ได้เลยจริงๆ  


คูเปอร์พยายามเดินเองช้าๆ แต่ก็ต้องกัดฟันกับอาการเจ็บอยู่ดี ไลแซนเดอร์ถอนหายใจ ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อย  


"ขึ้นหลังสิครับ"  


"...คุณพูดจริง?"  


"ผมไม่ปล่อยให้คุณเดินกระเผลกไปทั้งโอลิมเปียน พลาซ่าหรอกนะครับ"  


คูเปอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจยอมขึ้นหลังของอีกฝ่าย  


"...คุณนี่มัน—"  


"ผมรู้ครับ ผมใจดี"  


คูเปอร์กลอกตา "ผมไม่ได้จะพูดแบบนั้นนะครับ!"  


ไลแซนเดอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะพาคูเปอร์เดินตรงไปยังร้านขายของที่ระลึก ท่ามกลางแสงไฟสลัวของพลาซ่า และเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินผ่านไปมา  


และคูเปอร์ก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอยิ้มออกมาตอนไหน




เสียงพูดคุยจอแจของฝูงชน ผสานกับเสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ ของโอลิมเปียน พลาซ่า ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ทั้งคึกคักและผ่อนคลาย  


ร่างของพวกเขาเคลื่อนไปตามถนนสายหลักของพลาซ่า ฝ่าผู้คนที่เดินขวักไขว่ คูเปอร์ยังคงอยู่บนหลังของไลแซนเดอร์ แม้จะเริ่มคุ้นชินกับความอับอายแล้ว แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะพยายามซุกหน้ากับไหล่ของอีกฝ่ายเป็นพักๆ เมื่อมีคนมองมา  


"คุณอยากได้ของที่ระลึกเป็นอะไรล่ะครับ?"  


คูเปอร์ที่เงียบไปพักหนึ่ง หรี่ตามองคนถามอย่างจับผิด ก่อนจะถอนหายใจ  


"...คงเป็นอะไรทำนองว่า... ตุ๊กตาล่ะมั้งครับ"  


ไลแซนเดอร์พยักหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่มีแววบางอย่างแฝงอยู่ "อืม... ผมเห็นซุ้มกิจกรรมอยู่ตรงนั้นนะครับ บางทีที่นั่นอาจจะมีตุ๊กตาให้คุณ"  


คูเปอร์ขมวดคิ้ว "กิจกรรมอะไรครับ? อย่าบอกนะว่าเป็นกิจกรรมวันวาเลนไทน์น่ะ"  


"ก็อาจจะใช่"  


"แบบนั้นมันชักเยอะไปหน่อยไหมครับ?"  


"เยอะไปเหรอ?"  


"เราผ่านอะไรมาทั้งวันแล้วนะครับ! ยังไม่พออีกเหรอ?"  


ไลแซนเดอร์ไม่ได้ตอบอะไร แต่ริมฝีปากของเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยอย่างมีเลศนัย คูเปอร์เห็นแล้วก็ยิ่งสงสัย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากบ่นอุบอิบกับตัวเอง  


"ของที่ระลึกแค่ซื้อเอาก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องเหนื่อยไปเล่นกิจกรรมอะไรนั่นเลย"  


แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มีทางเลือก... ไลแซนเดอร์อุ้มเขาไปยังซุ้มกิจกรรมโดยไม่ฟังเสียงค้านของเขาเลยแม้แต่น้อย!  


  


ยินดีต้อนรับสู่เกมคู่แท้! พวกคุณทั้งสองคนจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อคว้ารางวัลสุดพิเศษไปให้ได้!"


คูเปอร์กะพริบตาปริบๆ ขณะมองดูซุ้มกิจกรรมขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยริบบิ้นสีแดงและชมพู มีผู้เข้าร่วมหลายคู่ที่กำลังเล่นเกมอยู่ และรางวัลที่แขวนอยู่ตรงมุมหนึ่งก็คือ...  


ตุ๊กตายัดนุ่นน่ารักๆ มากมาย


"...โอเคครับ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณถึงอยากให้ผมมา"  


"คุณอยากได้ตุ๊กตาไม่ใช่เหรอครับ?" ไลแซนเดอร์เอียงคอ "ผมแค่ช่วยให้คุณได้มันมา"  


"...แต่ต้องแลกกับการเล่นเกมสินะครับ"  


"ถือเป็นความท้าทายที่น่าสนุกไม่ใช่เหรอครับ?"  


สนุกบ้าอะไรล่ะครับ!  


แต่สุดท้ายเขาก็ถูกลากเข้าร่วมเกมอยู่ดี  

 


ภารกิจของพวกเขาคือ การประคองลูกแก้วเวทมนตร์ไปยังเส้นชัย โดยต้องใช้แผ่นไม้เล็กๆ ร่วมกันถือ


"โอเคครับ ผมว่าเราแค่เดินไปช้าๆ อย่างระวังแล้วเราจะผ่านมันไปได้" คูเปอร์พูดขึ้นอย่างจริงจัง  


"อืม... ฟังดูเป็นแผนที่ดี" ไลแซนเดอร์ตอบรับ  


..สิบวินาทีต่อมา ลูกแก้วก็กลิ้งตกพื้น


"...โอเคครับ อันนี้แค่ลองเชิง" คูเปอร์รีบแก้ตัว "เอาใหม่!"  


พวกเขาพยายามอีกครั้ง และอีกครั้ง และอีกครั้ง... จนสุดท้ายก็มาถึงเส้นชัยจนได้  


รางวัลที่พวกเขาได้มา คือ... ตุ๊กตายัดนุ่น 6 ตัว!


คูเปอร์มองของที่ได้รับมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ "หกตัวเลยเหรอครับ?"  


"ถือว่าเป็นของขวัญใหญ่เลยนะครับ"  


"ผมแค่อยากได้แค่ตัวเดียวเอง..."  


แต่ก่อนที่เขาจะคิดมากกว่านี้ อยู่ๆ ดอกกุหลาบสีทองและกุหลาบสีน้ำเงินก็ค่อยๆ ร่วงลงมาตรงหน้าพวกเขา  


คูเปอร์หยิบกุหลาบสีน้ำเงินขึ้นมา ไลแซนเดอร์จับกุหลาบสีทอง ดวงตาสีเทาของชายหนุ่มเหลือบขึ้นไปมองด้านบน พลางขมวดคิ้ว  


"มันมาจากไหนกันครับ?"  


ก่อนที่เขาจะได้คำตอบ คนหนึ่งที่เป็นสตาฟของซุ้มก็เดินเข้ามายื่นดอกไม้สีทองให้อีกคน  


คูเปอร์กระพริบตาก่อนจะยิ้มเล็กน้อย "งั้นคุณเอาสีน้ำเงินไปแล้วกันครับ"  


"ทำไมล่ะครับ?"  


"มันเหมาะกับคุณมากกว่า"  


ไลแซนเดอร์มองเขาครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มรับ "ถ้างั้น... ผมก็จะถือว่าเป็นของขวัญจากคุณนะครับ ส่วนกุหลาบสีทองนี่ผมก็ขอให้คุณด้วยเหมือนกัน"  


คูเปอร์รีบเบือนหน้าหนี "อย่าพูดอะไรแปลกๆ สิครับ!"  



จากนั้นก็ถึงเวลาจัดการกับตุ๊กตา


คูเปอร์มองตุ๊กตาทั้งหกตัวที่เรียงกันตรงหน้า เริ่มรู้สึกว่ามันมากเกินไปสำหรับเขา  


"แค่ตัวเดียวก็เกินพอแล้ว"


เขาเลื่อนสายตามองตัวเลือกทั้งหมดอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือไปหยิบ ตุ๊กตาเทพีอะธีน่า ตามสัญชาตญาณ  


แต่ก่อนที่เขาจะได้แตะมัน มือนึงก็ยื่นตุ๊กตาตัวอื่นมาให้เสียก่อน  


ตุ๊กตาเทพีคิโอเน่




คูเปอร์ชะงักไป ก่อนจะหันไปมองเจ้าของมือที่ยื่นมาให้ แน่นอนว่าเป็นไลแซนเดอร์  


"คุณอยากให้ผมรับไว้เหรอครับ?"  


"อืม"  


"ทำไมล่ะครับ?"  


"สำหรับผม... ตัวไหนก็ได้ทั้งนั้น" ไลแซนเดอร์กล่าวเรียบๆ "แต่ผมอยากให้คุณได้ตัวนี้"  


คูเปอร์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรับมาอย่างไม่ขัดขืน  


"แล้วตัวอื่นล่ะครับ?"  


"ส่วนที่เหลือ... ผมจะเอาไปเอง"  


"เอาไปทำอะไรครับ?"  


"พอดีผมมีคนรู้จักที่อาจจะอยากได้"  


คูเปอร์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัย ก่อนจะไหวไหล่ "เข้าใจแล้วครับ งั้นผมจะรับตัวนี้ไว้ก็แล้วกัน"  


เขาก้มมองตุ๊กตาเทพีคิโอเน่ในมือ พลางคิดว่ามันให้ความรู้สึกเย็นๆ นิดหน่อย... คล้ายกับเจ้าตัวที่ยื่นมันให้เลยแฮะ


"งั้น... ของที่ระลึกผมได้ครบแล้วนะครับ"  


"ครับ"  


"เราจะไปไหนต่อดีครับ?"  


ไลแซนเดอร์ไม่ตอบทันที แต่ส่งยิ้มบางๆ มาให้  


"คุณเป็นคนเลือกมาทั้งวันแล้ว... งั้นต่อไป ให้ผมเลือกบ้างดีไหมครับ?"



มอบ ตุ๊กตายัดนุ่น 5 ตัว และ กุหลาบสีน้ำเงิน ให้ [NPC-34] ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์  


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×

แสดงความคิดเห็น

มอบรางวัลเหตุการณ์พิเศษ ตุ๊กตายัดนุ่น 6 ตัว / ดอกกุหลาบสีทอง 1 ดอก  โพสต์ 2025-2-14 23:04
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-34] ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์ เพิ่มขึ้น 50 โพสต์ 2025-2-14 21:32
โพสต์ 135199 ไบต์และได้รับ 80 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-14 20:49
โพสต์ 135,199 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-14 20:49
โพสต์ 135,199 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก ยาดม  โพสต์ 2025-2-14 20:49
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-15 12:24:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-15 15:30

Time

14/02/25


บทพิเศษ Valentine's Day

ตอนที่ 5


แสงไฟสีทองส่องประกายระยิบระยับเหนือโอลิมเปียน พลาซ่า

แม้นาฬิกาจะส่งเสียงบอกโมงยามว่าบัดนี้ใกล้ถึงบ่ายสี่แล้ว แต่บรรยากาศของสวนสนุกยังคงคึกคักไม่จางหาย เสียงหัวเราะของผู้คน เสียงเครื่องเล่นดังระงม และเสียงดนตรีที่บรรเลงอยู่ไกลๆ ทุกอย่างผสมกลมกลืนเป็นความทรงจำของวันหนึ่งที่ไม่มีทางเหมือนเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง  

คูเปอร์ยังคงถือ ตุ๊กตาเทพีคิโอเน่ ไว้แนบอก ขณะที่สายตาเหลือบไปมองไลแซนเดอร์ที่เดินอยู่ข้างๆ  




เสียงบรรเลงดนตรีจากขบวนพาเหรดดังก้องทั่วโอลิมเปียน พลาซ่า  

ฝูงชนเริ่มมารวมตัวกันตลอดแนวถนนหลัก บ้างนั่ง บ้างยืนอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อเฝ้ารอการแสดงสุดยิ่งใหญ่ของสวนสนุก คูเปอร์เหลือบมองไลแซนเดอร์อย่างสงสัยเมื่ออีกฝ่ายพาเขาเดินมายังจุดนี้ ทั้งที่พวกเขาเพิ่งได้รับของที่ระลึกมาไม่นาน  

"เรามารอดูอะไรเหรอครับ?"  

ไลแซนเดอร์พยักพเยิดไปทางด้านหน้าซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับขบวนพาเหรด "เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง"  

"หรือว่า..." คูเปอร์เพ่งมองป้ายกำหนดการของสวนสนุก Heroes' March ขบวนพาเหรดของนักรบและวีรบุรุษกรีกโบราณ ที่มีกำหนดแสดงตอนบ่ายสอง  

"คุณจำที่ผมเคยบอกได้ไหมครับ?"  

"เรื่องไหนล่ะครับ?"  

"ตอนที่เราคุยกันช่วงแรก..." ไลแซนเดอร์หันมามองเขาด้วยสายตาสงบนิ่ง แต่มีบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใน "ผมเคยมาที่นี่ตอนเด็กๆ"  

คูเปอร์กระพริบตาไปสองสามครั้งก่อนจะพยักหน้า "อ้อ ใช่ครับ คุณบอกว่าเคยมา แล้วไงครับ?"  

"ถึงแม้ว่าจะลืมอะไรไปหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจ ก็คือขบวนพาเหรดนี้"  

เสียงกลองดังกึกก้องขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มต้น ขบวนพาเหรดเคลื่อนตัวผ่านถนนกว้างของพลาซ่า ผู้ชมรอบข้างส่งเสียงเชียร์ ขณะที่เหล่านักรบในชุดเกราะส่องประกายเดินเป็นแถวอย่างแข็งแกร่ง  

คูเปอร์จ้องมองภาพเบื้องหน้าด้วยความทึ่ง เฮอร์คิวลิสตัวยักษ์กำลังโชว์พลังยกเสาหินขนาดใหญ่เหนือหัว เพอร์ซิอุส ชูหัวเมดูซ่าจำลองพลางแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ เหล่านักรบจาก อโครโพลิสการ์เดียน ก้าวเดินเป็นจังหวะอย่างพร้อมเพรียง เกราะโลหะวาววับจับแสงอาทิตย์  

"ว้าว... ไม่แปลกใจเลยที่คุณจำมันได้" คูเปอร์พึมพำ มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเปล่งประกาย  

"ตอนเด็ก ผมตื่นเต้นมากทุกครั้งที่เห็นพวกเขาเดินผ่าน" ไลแซนเดอร์พูดเสียงเรียบ "โดยเฉพาะตอนที่เห็นพวกเงือกจากแอตแลนติส"  

ทันทีที่เขาพูดจบ ขบวนของเหล่าสัตว์วิเศษและเผ่าพันธุ์มหัศจรรย์ก็เคลื่อนผ่านมาต่อจากขบวนวีรบุรุษ นางไม้ ในชุดบางเบาสีเขียวมรกตหมุนตัวร่ายรำ เงือกจากแอตแลนติส โผล่พ้นจากอ่างน้ำเคลื่อนที่ขนาดยักษ์ โบกมือทักทายฝูงชน เสียงพิณของเหล่า เทพีมิวส์ดังแว่วสร้างบรรยากาศที่ชวนให้เคลิ้มตาม  

"คุณเคยอยากเป็นอะไรในขบวนนี้ไหมครับ?" คูเปอร์ถามขึ้นอย่างสนใจ  

ไลแซนเดอร์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น "ตอนเด็กๆ ผมเคยอยากเป็นส่วนหนึ่งของขบวน"  

"จริงเหรอครับ"  

"อืม"

"เป็นนักรบ นักดนตรี หรือเงือก?"

"อันสุดท้ายคุณแค่แกล้งพูดใช่ไหมครับ"  

"ฮะๆๆ" คูเปอร์หัวเราะ ก่อนจะหรี่ตา "แต่ถ้าเป็นนักดนตรี ก็ดูเข้ากับคุณอยู่นะครับ"  

ไลแซนเดอร์ไม่ได้ปฏิเสธหรือยืนยัน แค่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น "แล้วคุณล่ะครับ"  

"หืม?"  

"ถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งของขบวนพาเหรด คุณอยากเป็นอะไร"  

คูเปอร์นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง สายตากวาดมองขบวนที่กำลังเคลื่อนผ่านหน้าเขา  

"...คงเป็นพวกนักเล่าเรื่องล่ะมั้งครับ"

"นักเล่าเรื่อง?"  

"ก็พวกคนที่เดินไปตามขบวน แล้วคอยเล่าเรื่องวีรบุรุษให้คนฟัง" เขายิ้มบางๆ "ผมชอบเรื่องราว ชอบการแสดง และชอบสื่อสารกับผู้คน"  

ไลแซนเดอร์พยักหน้ารับ ฟังอย่างตั้งใจ คูเปอร์มองเขาแล้วก็หลุดขำออกมาเบาๆ  

"แต่ถ้าพูดกันตามตรง ผมคงจะเล่นเป็นตัวร้ายที่ออกมาส่งท้ายขบวนมากกว่ามั้งครับ"  

"คุณดูเหมาะกับบทตัวเอกมากกว่านะ"  

"โอ้โห คุณดูออกอีกแล้วแต่จากอะไรครับ?"

"จากวิธีที่คุณพูดและสื่อสารกับคนอื่น"

คูเปอร์กระแอมเล็กน้อย หัวใจเต้นแปลกๆ กับคำพูดนั้น  

เสียงกลองชุดสุดท้ายดังขึ้น ปิดฉากขบวนพาเหรดอันยิ่งใหญ่ ฝูงชนเริ่มแยกย้ายกันไปตามโซนต่างๆ ของพลาซ่า คูเปอร์ยังคงมองตามขบวนที่เคลื่อนผ่านไปด้วยสายตาครุ่นคิด  

"รู้ไหมครับ" ไลแซนเดอร์เอ่ยขึ้น ทำให้เขาหันกลับมา  

"อะไรเหรอครับ"  

"การเดตวันนี้ของเรา ก็คงคล้ายขบวนพาเหรดนี่แหละครับ"  

"..."  

"เต็มไปด้วยเรื่องไม่คาดคิด แต่สุดท้ายก็น่าจดจำ"  

คูเปอร์กระพริบตา มองหน้าอีกฝ่ายที่ยังคงมีรอยยิ้มบางๆ ติดอยู่บนใบหน้า  

"คุณพูดอะไรแบบนี้ทำไมครับ?"  

"แค่พูดตามความจริง"

โอเค... นี่มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

ระหว่างที่พวกเขาเดินออกจากโอลิมเปียน พลาซ่า เสียงของฝูงชนเริ่มจางหายไปทีละน้อย ลมเย็นในช่วงบ่ายพัดผ่านอย่างสบายตัว คูเปอร์พยายามเดินให้เป็นปกติที่สุด แต่ทุกครั้งที่น้ำหนักลงไปที่ข้อเท้าข้างที่พลิก ก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันแน่น  

ไลแซนเดอร์ที่เดินเคียงข้างเหลือบมองเขาอยู่เงียบๆ สักพักก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ  

“คุณยังเจ็บอยู่ใช่ไหมครับ”  

คูเปอร์รีบส่ายหัว “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ เดินไหวอยู่”  

“แน่ใจ?”

"แน่ใจครับ"  

แม้จะพูดแบบนั้น แต่พอเดินมาได้แค่สองสามก้าว ความเจ็บก็เริ่มเล่นงานเขาอีกครั้ง คูเปอร์พยายามไม่ให้ตัวเองเสียจังหวะเดิน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของไลแซนเดอร์อยู่ดี  

ชายหนุ่มร่างสูงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ขึ้น “คุณอยากให้ผมช่วยไหมครับ?”  

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมบอกแล้วไงว่าเดินไหว— เฮ้!”  

คูเปอร์ยังพูดไม่ทันจบ ไลแซนเดอร์ก็โน้มตัวลงมา ก่อนจะช้อนแขนใต้ขาของเขาแล้ว อุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวอีกครั้ง!  

“เฮ้! เดี๋ยวครับ”

คุณโกหกเก่งขึ้นนะครับ” ไลแซนเดอร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ดวงตาสีดำสนิทกลับฉายแววเจ้าเล่ห์จางๆ "ถ้าเดินไหวจริง ทำไมถึงเผลอกัดฟันตอนลงเท้าล่ะครับ"  

ให้ตายเถอะ... หมอนี่สังเกตเก่งเกินไปแล้ว!

คูเปอร์กอดอกแน่น ขณะที่ถูกอุ้มพาเดินไปอย่างมั่นคง ฝ่าผู้คนในสวนสนุกที่ยังเดินไปมาอยู่ เสียงกระซิบกระซาบรอบข้างทำให้เขารู้สึกอับอายจนอยากจะมุดดินหนี  

คุณตั้งใจจะแกล้งผมใช่ไหมครับ”  

เปล่าครับ”  

"ไม่จริง คุณต้องตั้งใจแน่ๆ!"  

"แล้วคุณมีหลักฐานอะไร"  

คูเปอร์อ้าปากค้าง เถียงไม่ออกเพราะอีกฝ่ายพูดไปเรื่อยๆ ด้วยสีหน้าสงบนิ่งมากจนเขาจับไม่ได้ว่าอีกฝ่ายพูดจริงหรือพูดเล่น  

เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ โอเค... เขายอมแพ้ก็ได้!

เมื่อพวกเขาเดินออกจากสวนสนุกและเข้าสู่เส้นทางที่เงียบสงบกว่าเดิม เสียงพูดคุยของผู้คนค่อยๆ ลดลง เหลือเพียงเสียงใบไม้กระทบกันเบาๆ คูเปอร์ที่พยายามไม่สนใจความจริงที่ว่าตัวเองกำลังถูกอุ้มเป็นรอบที่สาม (!) ก็พยายามหาเรื่องพูดกลบเกลื่อน  

ว่าแต่...” เขาเอ่ยขึ้น “ทำไมคุณถึงเลือกพาผมไปที่ริมทะเลสาบล่ะครับ”  

ไลแซนเดอร์เหลือบมองเขาแวบหนึ่งก่อนตอบ “ผมว่ามันเป็นสถานที่ที่คุณอาจจะชอบ”  

“หืม? ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ”  

“คุณดูเป็นคนที่ชอบอะไรที่สงบๆ”  

"...ผมดูเป็นคนชอบความสงบเหรอครับ"  

ไลแซนเดอร์พยักหน้า “อย่างน้อยก็มากกว่าที่คุณคิดนะครับ”  

คูเปอร์กระพริบตาอย่างงุนงง เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสังเกตนิสัยของเขาได้ขนาดนี้  

“ผมว่าเราเพิ่งเจอกันไม่นานเองนะครับ”  

“แค่นั้นก็พอจะดูออกแล้ว”  

ให้ตายเถอะ... พูดอะไรแบบนี้มันน่าขนลุกนะครับ!

คูเปอร์รีบเบือนหน้าหนี ไม่อยากสบตากับอีกฝ่ายตรงๆ เพราะรู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นเขาคงได้หน้าแดงขึ้นมาแน่ๆ  

...แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของไลแซนเดอร์ที่ลอยมาตามสายลมนี่มัน...  


โอเค! เขาต้องห้ามคิดอะไรไปไกลเด็ดขาด!  

คูเปอร์พยายามเบนความสนใจไปทางอื่น กวาดตามองรอบตัวขณะที่ไลแซนเดอร์ยังคงอุ้มเขาเดินไปตามถนนที่ทอดออกจากสวนสนุก เสียงผู้คนจางหายไปเรื่อยๆ เมื่อพวกเขามุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบกว่า แสงแดดอ่อนๆ สะท้อนจากผิวน้ำของทะเลสาบมอนทอคอยู่ลิบๆ  

"คุณโอเคไหมครับ?" เสียงทุ้มของไลแซนเดอร์ดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้คูเปอร์เผลอสะดุ้งเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายก่อนจะรีบพยักหน้ารัวๆ  

"โอเคครับ โอเคมาก"  

"แต่คุณตัวเกร็งขึ้นนะครับ"  

"ก็—!" คูเปอร์รีบกลืนคำพูดตัวเองลงไปก่อนจะสูดหายใจลึกๆ พยายามทำตัวให้เป็นปกติ "แค่รู้สึกแปลกๆ ครับ ปกติผมไม่ค่อยถูกอุ้มแบบนี้"  

"งั้นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่แล้วกัน"  

คูเปอร์กะพริบตา เฮ้ เดี๋ยว นั่นมันควรเป็นคำพูดของเขาไม่ใช่เหรอ!?

เขารีบเบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนสีหน้าที่เริ่มร้อนขึ้นมาเล็กๆ และทำเป็นมองทิวทัศน์ข้างทางแทน มองจากตรงนี้เขาเริ่มเห็นโรงแรมเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ บรรยากาศโดยรอบดูเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนหลังจากวันอันวุ่นวาย  

"ร้านที่คุณพูดถึงอยู่แถวนี้เหรอครับ?"  

"อืม ที่นี่แหละ" ไลแซนเดอร์พยักพเยิดไปทางอาคารไม้ที่ตั้งอยู่ใกล้ริมทะเลสาบ ป้ายหน้าร้านเขียนไว้ว่า The Crow’s Nest

ลมหายใจของคูเปอร์ติดขัดไปชั่วขณะ วิวที่นี่ดีเกินคาด ทะเลสาบกว้างใหญ่ทอดตัวอยู่เบื้องหน้า แสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับ โต๊ะริมระเบียงถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย มีผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดตาให้ความรู้สึกอบอุ่น  

เขาเผลอลืมตัวไปชั่วครู่ จนกระทั่งรู้สึกถึงไอร้อนที่แก้มตัวเองเมื่อมีสายตาของคนรอบข้างจับจ้อง  

"ผมเดินเองได้แล้วครับ"  

ไลแซนเดอร์ชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็วางเขาลงตามคำขอ คูเปอร์รีบทรงตัวให้มั่นก่อนจะไอแห้งๆ แล้วเดินนำเข้าไปในร้านโดยเร็ว  

"สั่งอาหารได้เลยครับ มื้อนี้ผมเลี้ยง"  

คูเปอร์ชะงัก "แน่ใจเหรอครับ?"  

"อืม ถือว่าเป็นคำขอบคุณสำหรับวันนี้"  

"แต่วันนี้ผมเป็นคนเลือกให้คุณตั้งหลายอย่างแล้วนะครับ"  

"งั้นครั้งนี้ให้ผมเป็นฝ่ายดูแลคุณบ้าง"  

คูเปอร์เม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เขาเปิดเมนู ดูเหมือนที่นี่จะเน้นอาหารทะเลและอาหารสไตล์เวสเทิร์น เขาลองเลือกปลาย่างกับสลัด ส่วนไลแซนเดอร์เลือกเมนูสเต็กและซุปข้น  

ระหว่างรออาหาร พวกเขาก็คุยกันเรื่องต่างๆ ไลแซนเดอร์เป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ แม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่คูเปอร์เล่า เจ้าตัวก็ยังรับฟังด้วยความสนใจ  

“ว่าแต่คุณทำอะไรนอกจากเล่นดนตรีเหรอครับ”  

“ผมอ่านหนังสือบ้าง”  

“แนวไหนครับ”  

“แล้วแต่ช่วง บางครั้งก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับตำนาน บางทีก็เป็นบทกวี”  

"ฟังดูเหมือนคนที่มีโลกส่วนตัวสูงนะครับ"  

"ก็อาจจะใช่"  

"แล้วถ้าให้เลือกหนังสือเล่มหนึ่งที่คุณชอบที่สุดล่ะครับ?"  

"อืม..." ไลแซนเดอร์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น "The Odyssey"  

"โอดิสซีย์? เรื่องราวของโอดิสเซียสน่ะเหรอครับ?"  

"อืม"  

คูเปอร์กะพริบตา เขาไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่อีกฝ่ายเลือกเล่มนี้ แต่ก็นึกไม่ออกว่าทำไม  

"เพราะอะไรเหรอครับ"  

"เพราะมันเป็นเรื่องของการเดินทาง"

"แค่นั้นเอง"  

"แล้วคุณคิดว่ามันควรมีเหตุผลมากกว่านั้นไหม?"  

"...ก็ไม่ครับ แค่อยากรู้"  

ไลแซนเดอร์ยิ้มบางๆ ก่อนที่อาหารจะถูกนำมาเสิร์ฟ พวกเขากินไปคุยไป บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายขึ้น  

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็มานั่งที่ริมหาดเพื่อย่อยอาหาร ลมเย็นๆ พัดผ่าน เสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นจังหวะสม่ำเสมอ  

"ที่นี่สงบกว่าที่ผมคิดไว้อีกนะครับ" คูเปอร์พึมพำ มองแสงสะท้อนของพระอาทิตย์ที่อยู่บนผิวน้ำ  

"คุณชอบไหม?"  

"อืม ชอบครับ"  

"ดีแล้ว"  

พวกเขานั่งเงียบไปพักหนึ่ง คูเปอร์เหลือบมองไลแซนเดอร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ อีกฝ่ายดูสงบและไม่พูดมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศอึดอัดเลยแม้แต่น้อย  

"ขอบคุณนะครับ"

ไลแซนเดอร์หันมามองเขา "เรื่องอะไรครับ?"  

"เรื่องวันนี้" คูเปอร์ยิ้มบางๆ "มันสนุกกว่าที่คิดไว้เยอะเลย"  

"งั้นก็ดีแล้วครับ"  

บรรยากาศเงียบลงอีกครั้ง คูเปอร์ปล่อยให้สายลมพัดผ่าน พยายามทำใจให้สงบ  

แต่ทำไมกันนะ...  

ทำไมถึงรู้สึกว่า วันนี้เป็นวันที่พิเศษกว่าทุกๆ วัน


เสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ลมยามเย็นพัดเอื่อยๆ นำกลิ่นน้ำและไอเย็นจากทะเลสาบเข้ามา คูเปอร์นั่งเอนหลังพิงแขนตัวเอง รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าตลอดทั้งวัน แม้จะยังมีความเจ็บตึงจากข้อเท้าอยู่บ้าง แต่เขาก็พอจะลืมมันไปได้ชั่วขณะ  

ไลแซนเดอร์นั่งอยู่ข้างๆ ร่างสูงของอีกฝ่ายทอดสายตามองไปยังผืนน้ำเงียบๆ คล้ายกับกำลังใช้เวลาซึมซับบรรยากาศรอบตัว คูเปอร์เหลือบมองเขา ก่อนจะเผลอยิ้มออกมา  

"คุณดูเป็นคนที่ชอบความเงียบสงบนะครับ"  

ไลแซนเดอร์หันมามองเขาเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มบางๆ "บางทีผมก็ชอบอะไรที่ไม่วุ่นวายเกินไป"  

"งั้นพาผมมาที่นี่เพราะแบบนั้นเหรอครับ?"  

"อาจจะ"

คูเปอร์หัวเราะเบาๆ เขาหยิบก้อนหินเล็กๆ ขึ้นมาแล้วโยนลงไปในน้ำ มันกระเด็นสองสามครั้งก่อนจะจมหายไป  

"คุณเคยมีความฝันอะไรไหมครับ?"  

ไลแซนเดอร์เงียบไปครู่หนึ่ง คล้ายกำลังไตร่ตรองคำถาม  

"ทุกคนก็ต้องมีความฝันกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอครับ?"  

"แล้วความฝันของคุณคืออะไรล่ะครับ"  

ไลแซนเดอร์ไม่ได้ตอบในทันที ดวงตาสีดำของเขายังคงจับจ้องไปที่ผืนน้ำ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเรียบๆ  

"ความฝันของผมเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามช่วงเวลา"  

"ฟังดูเป็นคำตอบที่กำกวมนะครับ"  

"อืม" ไลแซนเดอร์ยิ้มเล็กน้อย "แต่ถ้าจะให้พูดถึงสิ่งที่ผมอยากทำจริงๆ ก็คงเป็น... การได้สร้างอะไรบางอย่างที่อยู่กับผู้คนไปนานๆ"  

"เช่นดนตรี?"  

"นั่นก็เป็นหนึ่งในนั้น"  

คูเปอร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาเองก็เคยมีความฝันที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

"ผมเองก็มีความฝันนะครับ"

ไลแซนเดอร์เหลือบตามามองเขาอย่างสนใจ "อะไรเหรอครับ?"  

คูเปอร์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ ดวงตาสีเทาของเขาฉายแววอ่อนโยนลง "ผมอยากเป็นนักแสดง"  

"นักแสดง?"  

"อืม"  

คูเปอร์เหม่อมองท้องฟ้า เมฆที่ลอยกระจายอยู่เต็มฟ้าสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา "ผมเติบโตมากับเรื่องเล่า โตมากับโลกที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ผมรักการเล่าเรื่องมาตั้งแต่เด็กๆ และผมก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของมัน"

ไลแซนเดอร์ไม่ได้พูดอะไร เขาตั้งใจฟังในสิ่งที่คูเปอร์กำลังถ่ายทอดออกมา  

"ตอนเด็กๆ พ่อบุญธรรมของผมเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ส่วนแม่ก็เป็นนักโบราณคดี บ้านของเรามีหนังสือเต็มไปหมด ผมโตมากับเสียงเล่านิทานก่อนนอน โตมากับเรื่องราวของวีรบุรุษและบุคคลในอดีต"

ไลแซนเดอร์มองคูเปอร์ที่กำลังเล่าด้วยแววตาสงบ ดวงตาสีเทาของอีกฝ่ายเป็นประกายราวกับกำลังย้อนนึกถึงอดีตของตัวเอง  

"แล้วตอนที่ผมเริ่มโตขึ้น... ผมก็เริ่มเห็นอะไรบางอย่างที่คนอื่นไม่เห็น" คูเปอร์หัวเราะเบาๆ "ผมรู้ว่ามันฟังดูแปลก แต่ผมคิดเสมอว่าตัวเองเหมือนอยู่ระหว่างโลกสองใบ โลกของคนธรรมดา และโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเหนือธรรมชาติ"  

"คุณไม่เคยกลัวเหรอครับ"  

"ไม่ครับ" คูเปอร์ส่ายหน้า "ถ้าผมต้องกลัวสิ่งที่ผมเห็น... งั้นผมก็คงต้องกลัวไปตลอดชีวิต"  

ไลแซนเดอร์มองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ "คุณเข้มแข็งกว่าที่คิดนะครับ"  

คูเปอร์หัวเราะ "ไม่รู้ว่าควรรู้สึกดีไหมที่ได้ยินคุณพูดแบบนั้น"  

ไลแซนเดอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะเงียบลงเมื่อคูเปอร์เอ่ยขึ้น  

"ว่าแต่... คุณชอบดนตรีใช่ไหมครับ?"  

"อืม"  

"ความจริงวันนี้ผมเตรียมเพลงมาร้องให้คู่เดตฟังด้วยล่ะ"

ไลแซนเดอร์เลิกคิ้วน้อยๆ ขณะที่คูเปอร์ยิ้ม ก่อนจะสูดหายใจลึกๆ และเริ่มเอื้อนเอ่ยบทเพลงออกมา  



(เพลงประกอบเสริมจิตนาการ---)


เสียงร้องของคูเปอร์ล่องลอยไปพร้อมกับสายลมเย็นของยามเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งเป็นจังหวะเบาๆ กลายเป็นแบ็กกราวด์ที่ช่วยขับเน้นท่วงทำนองให้ไพเราะยิ่งขึ้น ดวงตาสีเทาของเขาหลุบลงเล็กน้อย ปล่อยให้ตัวเองจมไปกับบทเพลงที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย  

"แค่เราหลับตา จะได้มาเห็น  
ในโลกที่ฉันมีสุขร่มเย็น  
ที่ที่เป็นของเรา  
ผ่านมืดมิด ผ่านประตู  
ที่ใดไม่รู้แต่คุ้นตา ดั่งกลับมาบ้านเก่า"

คูเปอร์ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงเลือกเพลงนี้ขึ้นมาร้อง อาจเป็นเพราะเนื้อหาของมันสะท้อนถึงสิ่งที่เขายึดมั่นมาตลอด ความฝันของเขา โลกที่เขาวาดไว้ในใจ และเส้นทางที่เขากำลังก้าวเดินไป  

ริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มบางๆ ขณะที่เสียงร้องของเขาก้องกังวานไปทั่วริมฝั่งทะเลสาบ  

"ใครจะมองว่าเรานั้นฟั่นเฟือนไปมากมาย  
ใครจะมองเรื่องทั้งหลายว่ามันไม่จริง  
จะไม่แคร์ จะไม่สน เขาเรียกเราอย่างไร  
ขอสร้างโลกที่สดใสให้ใจพึ่งพิง"

เสียงของเขาเอื้อนเอ่ยไปตามท่วงทำนองอย่างลื่นไหล บางจังหวะก็แผ่วลงคล้ายเสียงกระซิบ บางช่วงก็ทุ้มต่ำและหนักแน่น สายตาของคูเปอร์เหม่อมองผืนน้ำเบื้องหน้าขณะที่ปล่อยให้ความรู้สึกของตนถ่ายทอดผ่านบทเพลง  

และเมื่อเขาเว้นจังหวะเพื่อหายใจ—  

เสียงร้องอีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นขับร้องท่อนต่อไป

เสียงทุ้มลึก นุ่มนวล และเปี่ยมเสน่ห์ของไลแซนเดอร์

"ก่อนเอนกายในคืนยาวนาน  
ดั่งเกิดประกายดวงไฟบันดาล  
มีฝันนับล้านเวียนวนจนเราต้องตื่น  
ก็อยากให้แดนที่เฝ้าฝันหา  
ปรากฏเป็นจริงไม่ใช่ลวงตา  
และฝันนับล้านนำพาเรามาทุกคืน  
โลกที่สวยดังปองรอให้สองเราได้มายืน"

คูเปอร์เบิกตากว้างเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าไลแซนเดอร์จะร้องเพลงตาม ท่วงทำนองที่เปล่งออกมาจากอีกฝ่ายนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ ความนุ่มนวลของน้ำเสียงขับเน้นให้เพลงยิ่งไพเราะขึ้น  

แวบหนึ่ง คูเปอร์รู้สึกเหมือนลืมวิธีหายใจไปชั่วขณะ  

แต่แทนที่จะหยุดร้อง เขากลับยิ้มบางๆ และปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามจังหวะของเสียงดนตรีที่ไม่มีเครื่องดนตรีใดๆ นอกจากเสียงของพวกเขาเอง  

"จะเล็กหรือใหญ่ ฝ่าไปทุกวัน  
แบ่งปันความฝันจะร้ายดี  
แค่มีกันและกัน  
จะถูกหรือผิด ไม่เคยคิดหวั่น  
ถ้าหากเธอพาฉันเดินก้าวไป  
สู่ดินแดนของเธอ  
โลกที่เจอยามหลับตาเห็นไม่ไกล  
เมื่อหลับตาเห็นในใจ"

คูเปอร์ร้องนำ ไลแซนเดอร์รับส่งเสียงคอรัสประสานเป็นช่วงๆ ราวกับพวกเขาซ้อมร้องเพลงนี้มาด้วยกันหลายเดือน แม้จะเป็นการร้องสดๆ โดยไม่ได้เตรียมตัว แต่ทุกอย่างกลับไหลลื่นเป็นธรรมชาติ  

เมื่อถึงท่อนสุดท้าย พวกเขาประสานเสียงกันในจังหวะเดียวกัน  

"ก็อยากให้แดนที่เฝ้าฝันหา  
ปรากฏเป็นจริงไม่ใช่ลวงตา  
และฝันนับล้านนำพาเรามาทุกคืน  
โลกสวยดังปองรอให้สองเราได้มายืน  
โลกที่สองเราสร้างขึ้นมา"

เมื่อเสียงสุดท้ายจางลง คูเปอร์ลืมตาขึ้นแล้วหันไปสบตากับไลแซนเดอร์  

"คุณร้องเพลงเพราะนะครับ"

คูเปอร์กระพริบตา รู้สึกเหมือนเพิ่งถูกดึงกลับมาสู่โลกความจริง เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเอง  

"ขอบคุณครับ..."

ลมเย็นๆ พัดผ่าน พาเอาความอบอุ่นประหลาดแทรกซึมเข้ามาในบรรยากาศโดยที่พวกเขาเองก็ไม่ทันสังเกต…


เสียงคลื่นยังคงซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะ ลมยามเย็นพัดเบาๆ พาไอเย็นจากทะเลสาบมาโอบล้อม คูเปอร์ทอดสายตามองออกไปยังผืนน้ำกว้าง สายลมทำให้ผิวของเขาเย็นวูบ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายตัวแต่อย่างใด บรรยากาศคืนนี้เงียบสงบ และดูเหมือนว่าเวลาจะไหลไปช้ากว่าปกติ  

เขาหลับตาลง ปล่อยให้ลมพัดผ่านใบหน้าอย่างผ่อนคลาย ก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างสะกิดสายตา  

กุหลาบสีน้ำเงิน  

คูเปอร์เอียงคอเล็กน้อย จ้องมองดอกไม้ที่ดูจะปรากฏตัวขึ้นหลายครั้งในวันนี้ ตั้งแต่ซุ้มกิจกรรมในสวนสนุก ตอนรับรางวัลที่ร้านเค้ก และตอนที่เขายื่นให้ไลแซนเดอร์  

"...แปลกจัง"

เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะคลานไปหยิบมันขึ้นมา สีของมันยังคงเป็นเฉดน้ำเงินลึก หัวใจของเขากระตุกแวบหนึ่งเมื่อนึกถึง

หวังว่านี่จะเป็นดอกสุดท้ายนะ...  

คูเปอร์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเหลือบไปมองคู่เดตที่นั่งอยู่ข้างๆ เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยังคงมีสีหน้าเรียบสงบ ดวงตาสีดำสนิทสะท้อนแสงไฟจากริมฝั่ง  

คูเปอร์มองกุหลาบในมือ ก่อนจะชูดอกไม้นั้นแล้วยื่นไปให้ไลแซนเดอร์  

"ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ รุ่นพี่ไลแซนเดอร์"

ไลแซนเดอร์มองกุหลาบในมือของเขานิ่งๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปรับ ดวงตาของอีกฝ่ายทอดมองเขาด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก ก่อนที่ริมฝีปากจะขยับเปล่งเสียงนุ่มลึก  

"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ... คูเปอร์"

ร่างของคูเปอร์สะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาสีเทาเบิกขึ้นอย่างตกใจ อีกฝ่ายเอ่ยชื่อเขา—!?

ตั้งแต่เดตกันมา ไลแซนเดอร์ไม่เคยเรียกชื่อเขาตรงๆ เลยสักครั้ง คำที่ใช้แทนกันมีแค่ ‘คุณ’  แต่ครั้งนี้กลับเป็น...  

"..."  

ปากของเขากำลังจะขยับถามอะไรบางอย่าง แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อความทรงจำผุดขึ้นมาในหัว  

ตั่งแต่ที่ร้านเค้ก

"จำไม่ได้เหรอ?"  

เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นจากคนตรงข้าม ไลแซนเดอร์เอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย พลางจ้องมองเขาด้วยสายตาที่มีร่องรอยหยอกเย้า  

"คุณเป็นคนพูดเองนะครับ ว่าไม่ต้องใช้ภาษาสุภาพมากก็ได้"

คูเปอร์กระพริบตาปริบๆ ก่อนจะนึกออกว่า ใช่ เขาพูดแบบนั้นจริงๆ ตั่งแต่ตอนแรกที่เจอกันเลย

…แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกแปลกๆ กับการที่อีกฝ่ายเรียกชื่อเขากันนะ!?

"หรือว่า... คุณไม่อยากให้ผมเรียกชื่อคุณครับ?" ไลแซนเดอร์เอ่ยขึ้น น้ำเสียงติดขบขัน  

"เอ่อ..." คูเปอร์หลบสายตาเล็กน้อยก่อนจะกระแอมเบาๆ "ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอกครับ แค่... ไม่คุ้นเท่านั้นเอง"

"งั้นเดี๋ยวคุณก็คุ้นเองครับ"  

คำพูดนั้นทำให้คูเปอร์หันกลับมาสบตากับไลแซนเดอร์โดยอัตโนมัติ ราวกับสมองของเขากำลังพยายามประมวลผลความหมายแฝงของมัน  




แต่ก่อนที่เขาจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ ไลแซนเดอร์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ  

"ดวงตาของคุณ... เป็นสีเทาที่สวยดีนะครับ"  

คูเปอร์กระพริบตาปริบๆ ห๊ะ?

"เอ่อ... ขอบคุณครับ?"  

"มันเหมือนหมอกตอนเช้าตรู่" ไลแซนเดอร์พึมพำเบาๆ "เยือกเย็น แต่ก็แฝงความอบอุ่นอยู่ในที"  

"...คุณกำลังเปรียบเทียบตาผมกับบรรยากาศเหรอครับ?"  

"ก็อาจจะนะ"  

"..."

...นี่มันไม่แฟร์เลยจริงๆ  

หมอนี่ตั้งใจแกล้งเขาแน่ๆ!

คูเปอร์เม้มริมฝีปาก พยายามไม่หลบสายตาของอีกฝ่าย แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ กันนะ...  

บ้าจริง ให้ตายเถอะ ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์!  



คูเปอร์นั่งนิ่งสงบอารมณ์ มองคลื่นที่กระทบชายฝั่งเป็นระลอกๆ ดวงตาสีเทาของเขาหลุบลงมองผืนน้ำ ทิ้งตัวเองให้ล่องลอยไปกับบรรยากาศอันเงียบสงบ รู้สึกได้ถึงลมเย็นที่พัดผ่านแก้มและเสียงกระซิบแผ่วของธรรมชาติ  

แต่แล้วจู่ๆ ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัว  

"อ้อ จริงสิ..."  

คูเปอร์เบิกตากว้างเล็กน้อย ก่อนจะรีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ต นิ้วเรียวสัมผัสกับพื้นผิวเย็นๆ ของบางสิ่งที่เขาเก็บเอาไว้ตั้งแต่เช้านี้ แต่กลับลืมไปเสียสนิท  

หินมูนสโตน

เขาหยิบมันออกมาจากกระเป๋า แสงอ่อนๆ ของดวงจันทร์ถูกสะท้อนออกมาผ่านพื้นผิวของอัญมณีสีขาวขุ่นที่เปล่งประกายเรืองรองราวกับกักเก็บแสงจันทร์เอาไว้ในตัวมันเอง  
  

เขาพลิกหินในมือเบาๆ ปลายนิ้วสัมผัสกับผิวเรียบลื่นและเย็นสบายของมัน หินก้อนนี้เขาตั้งใจจะให้คู่เดตเป็นของที่ระลึกในวันนี้ แต่ดันลืมไปเสียสนิทเพราะเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้น  

เขาเหลือบตามองไลแซนเดอร์ที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ คนตัวสูงยังคงทอดสายตามองออกไปไกล ราวกับกำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง  

คูเปอร์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือออกไป  

"นี่ครับ"  

ไลแซนเดอร์กะพริบตาเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองสิ่งที่คูเปอร์ยื่นให้ "หืม?"  

"หินมูนสโตน ผมตั้งใจจะให้คุณตั้งแต่ตอนกลางวัน แต่ดันลืมไปซะสนิทเลย"  

ไลแซนเดอร์จ้องมองอัญมณีที่เปล่งประกายแสงจางๆ ในมือของคูเปอร์ ก่อนจะยื่นมือมารับมันไป นิ้วเรียวสัมผัสกับผิวเย็นของหิน ดวงตาสีดำลึกลับทอประกายบางอย่าง  

"ทำไมถึงเลือกหินนี้ให้ผมล่ะครับ?"  

คูเปอร์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ "ก็เพราะมันเป็นของที่ให้ความรู้สึกสงบดีนะครับ"  

"สงบ?"  

"ใช่ครับ... ผมไม่รู้ว่าคุณจะเชื่อเรื่องแบบนี้ไหม แต่เขาว่ากันว่ามูนสโตนเป็นหินแห่งพลังของดวงจันทร์ มันช่วยให้จิตใจสงบ และช่วยทำให้ความคิดแจ่มชัดขึ้น"  

ไลแซนเดอร์พลิกหินในมือเบาๆ สัมผัสมันด้วยปลายนิ้วราวกับกำลังพิจารณา  

"คุณเชื่อในพลังของมันไหมครับ?"  

คูเปอร์หัวเราะเบาๆ "ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ผมว่ามันเป็นของที่ดีนะ อย่างน้อยก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้แหละน่า"  

ไลแซนเดอร์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยกหินขึ้นเล็กน้อย แสงจากดวงอาทิตย์สะท้อนลงบนพื้นผิวของมันเป็นประกายเรืองรอง  

"ถ้างั้น... ผมก็จะรับมันไว้ครับ"  

คูเปอร์ยิ้ม "ดีใจที่คุณชอบนะครับ"  

ไลแซนเดอร์ไม่ได้ตอบอะไร แต่คูเปอร์ก็สังเกตเห็นว่ามุมปากของอีกฝ่ายมีรอยยิ้ม แฝงอยู่  




เสียงคลื่นยังคงซัดกระทบฝั่งเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ลมยามค่ำคืนพัดผ่าน ทำให้เส้นผมของคูเปอร์ปลิวไหว เขายกมือขึ้นลูบต้นแขนตัวเองเบาๆ ไม่ใช่เพราะหนาว แต่เพราะรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก

คืนนี้เงียบสงบ ทะเลสาบมอนทอคสะท้อนเงาดวงจันทร์เต็มดวงเป็นประกายระยิบระยับ ทว่าความรู้สึกที่ลอยอยู่ในอากาศตอนนี้ไม่ใช่เพียงความเงียบสงบ แต่มันเต็มไปด้วยอะไรบางอย่างที่คูเปอร์อธิบายไม่ถูก

เขาหันไปมองไลแซนเดอร์ที่ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ คนตัวสูงทอดสายตาออกไปยังเส้นขอบน้ำด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับว่าการอยู่ในความเงียบเช่นนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับเขา

และแล้ว อยู่ๆ ไลแซนเดอร์ก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นก่อนดวงตาสีดำของเขาจับจ้องไปที่คนข้างๆ รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก

“วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์นะครับ”

"แล้วคุณคิดว่าวันนี้เป็นวันแบบไหนเหรอครับ?"

"วันแห่งความรัก?"

"อืม..." ไลแซนเดอร์ครุ่นคิด ก่อนจะเอียงคอมองเขาด้วยสายตาพินิจ "งั้นวันนี้คุณได้รับความรักไปบ้างหรือยังครับ?"

คำถามนั้นทำให้คูเปอร์ชะงักไปครู่หนึ่ง

"เอ่อ..."

นี่หมอนี่พูดอะไรขึ้นมากันนะ!?

เขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย พยายามหาคำตอบที่ฟังดูเป็นกลางที่สุด "ก็น่าจะมีอยู่บ้างครับ..."

"อย่างนั้นเหรอครับ?"

"แล้วคุณล่ะครับ?


ไลแซนเดอร์หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก "อืม... ก็คงได้รับมาเยอะเหมือนกันครับ"

คูเปอร์รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นผิดจังหวะไปครู่หนึ่ง แต่ยังไม่ทันจะได้หาคำตอบให้ตัวเองเกี่ยวกับความรู้สึกนี้ บางอย่างก็ดึงความสนใจของเขาไปเสียก่อน


{สายลมพัดผ่านสะท้านหล้า  

คลื่นครืนถั่งมาพาระลอกขาน  

ฟองขาวกลั่นก่อรัศมีพาน  

จรัสวาบเบิกบานกลางวารี  



กลางเกลียวธาราแสงเรืองรอง  

ล้ำละอองผุดพลั่งดังรัศมี  

โอบเอื้อก่อร่างเป็นนารี  

งามประหนึ่งเทพีสวรรค์ไกล  



เนตรดั่งมณีวาววามสรวง  

เรือนผมรินร่วงเป็นเงาไหม  

ผิวพรรณผ่องพริ้มวิมลใจ  

ราวแสงทองไล้ละอองฟอง}





ฟองคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งเริ่มดูแปลกไป คลื่นดูสูงขึ้นและแตกตัวเป็นฟองขาวละเอียดผิดปกติ มันรวมตัวกันเป็นละอองบางเบาที่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้ายามเย็น

และในพริบตา

ร่างอันสง่างามของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา

คูเปอร์เบิกตากว้างอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งก้าวออกมาจากกลุ่มฟองคลื่น เส้นผมสีทองของนางพลิ้วไหวราวกับต้องแสงตะวัน ผิวกายขาวผ่องราวกับงาช้าง นางสวมอาภรณ์ที่ดูราวกับทอจากไอหมอกแห่งท้องทะเล ระยิบระยับดุจต้องแสงจันทร์

เทพีอะโฟรไดท์

แม้จะไม่เคยพบกันโดยตรง แต่คูเปอร์ก็จำได้ทันทีว่าเป็นใคร เขารีบตั้งสติ พยายามขยับตัวลุกขึ้นเพื่อทำความเคารพ แต่ก็ถูกห้ามไว้ด้วยสายตาอ่อนโยนของนาง

เทพีแห่งความรักเผยรอยยิ้มขบขัน "ข้าไม่ได้รบกวนเวลาอันแสนพิเศษของพวกเจ้าหรอกนะ?"

คูเปอร์สะดุ้ง รีบโบกมือปฏิเสธทันที "พวกผมไม่ได้เป็นอะไรกันนะครับ!”

อะโฟรไดท์หัวเราะเสียงใส "ข้าก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลย" นางหรี่ตาลงมองพวกเขา รอยยิ้มของนางเต็มไปด้วยแววล้อเลียน "แต่ว่ากันตามตรง พวกเจ้าน่าสนใจไม่น้อยเลยนะ"

คูเปอร์เม้มริมฝีปาก พยายามไม่ตอบโต้ใดๆ และปล่อยให้เทพีเป็นฝ่ายพูดต่อ

"เนื่องในวันแห่งความรัก ข้าได้ทักทอผ้าคลุมให้แก่เหล่าเดมิก็อด"

เมื่อสิ้นคำกล่าว ผืนผ้าคลุมสีชมพูอ่อนก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากอากาศเบื้องหน้าพวกเขา มันนุ่มละมุนราวกับหมอกยามเช้า ประดับประดาด้วยขนนกพิราบอันบริสุทธิ์ และกลีบกุหลาบสีแดงสด


เมื่อสิ้นคำกล่าว ผืนผ้าคลุมสีชมพูอ่อนก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากอากาศเบื้องหน้าพวกเขา มันนุ่มละมุนราวกับหมอกยามเช้า ประดับประดาด้วยขนนกพิราบอันบริสุทธิ์ และกลีบกุหลาบสีแดงสด

คูเปอร์มองมันด้วยสายตาปริบๆ

สีชมพูขนาดนี้... ชาตินี้จะได้ใส่ไหมนะ!?

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ปฏิเสธอะไร เทพีอะโฟรไดท์ก็เอียงคอมองเขาอย่างรู้ทัน

"เหตุใดเจ้าไม่ลองใส่ดูก่อนเล่า?”

คูเปอร์เผลอสะดุ้งเล็กๆ โอ้โห นี่เทพีอ่านใจเขาได้หรือไง!?

แม้จะอิดออดอยู่ในใจ แต่เขาก็รู้ดีว่าปฏิเสธเทพีแห่งความรักที่อยู่ต่อหน้านั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เขาจึงค่อยๆ รับผ้าคลุมมาและสวมมันอย่างไม่เต็มใจเท่าไร

"นั่นไง ใส่แล้วก็ดูดีออก" อะโฟรไดท์กล่าวด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ

คูเปอร์ทำหน้าเหมือนจะเถียง แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เขาก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมา

ไลแซนเดอร์กำลังมองมาที่เขา


คูเปอร์กระพริบตา มองกลับไปอย่างสงสัย ดวงตาสีดำของอีกฝ่ายดูราวกับกำลังพินิจบางอย่าง ก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมาเบาๆ

"คุณใส่แล้วดูน่ารักมากเลยนะครับ"

โอเค! พอแค่นี้!

คูเปอร์รีบถอดผ้าคลุมออกแทบจะทันที หน้าเห่อร้อนขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ หมอนี่ตั้งใจแกล้งกันชัดๆ!

อะโฟรไดท์หัวเราะเบาๆกับปฏิกิริยาของคูเปอร์ นางดูพึงพอใจอย่างมาก


แต่ยังไม่ทันที่เทพีจะจากไป ผืนอากาศเบื้องหน้าก็เกิดแสงวูบไหว และกล่องสีทองสองกล่องก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา

คูเปอร์รับกล่องมาอย่างงุนงง และเมื่อมันเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ เขาก็พบว่าภายในมีกุหลาบสีทองห้าดอก วางเรียงกันอย่างงดงาม

เขาเหลือบมองไลแซนเดอร์ พบว่าอีกฝ่ายก็ได้รับกุหลาบแบบเดียวกัน

เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้น อะโฟรไดท์ก็กอดอกยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาของนางเป็นประกายบางอย่าง

"ข้าขอมอบสิ่งนี้สำหรับคู่เดตที่น่าสนใจประจำวาเลนไทน์นี้”


คูเปอร์สำลักอากาศ "เดี๋ยว—"

"และข้าหวังว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้อีกจากพวกเจ้าเยอะๆ นะ"

เสียงขำของเทพีแว่วไปกับสายลม ร่างของนางค่อยๆ เลือนหายกลับเข้าสู่ฟองคลื่น ปล่อยให้คูเปอร์ยังคงอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น

ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร สิ่งที่ร่วงลงมาจากฟ้าก็ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

กุหลาบสีทอง ร่วงลงมาจากท้องฟ้า... แบบเดียวกับที่อยู่ในกล่องเป๊ะ

คูเปอร์กลับมานั่งจุ้มปุ๊กกับพื้นทราย มองดอกไม้พวกนั้นด้วยสีหน้าหมดคำพูด

พวกเขานั่งอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้วรึเปล่านะ...

"กลับค่ายได้แล้วมั้งครับ"

เขาพยายามลุกขึ้น แต่แรงที่กดไปที่ข้อเท้าทำให้รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา

ไลแซนเดอร์มองเขา ก่อนจะพึมพำเบาๆ "ทำไมถึงดื้อจังนะ..."

ก่อนที่คูเปอร์จะทันตอบอะไร ร่างของเขาก็ถูกอุ้มขึ้นอีกครั้ง

"พอแล้วมั้งครับ! คุณไม่หนักบ้างเหรอ!?"

ไลแซนเดอร์ยิ้มขำ "ก็ไม่รู้สิครับ"

"คุณจะอุ้มผมกลับไปจนถึงค่ายเลยหรือไง!?"

ไลแซนเดอร์ยังคงยิ้มหน้าแป้น ไม่สะทกสะท้านอะไรเลยแม้แต่น้อย

หนอยแน่! ถ้ามีคราวหน้าล่ะก็ผมจะเอาคืนบ้าง!


------------------
------------------
มอบ หินมูนสโตน และ กุหลาบสีน้ำเงิน ให้ [NPC-34] ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์  
รับ มาลาแห่งอัสสัมชัญ + ดอกกุหลาบสีทอง 5 ดอก จากกล่องสุ่ม
รับ กุหลาบสีทอง กิจกรรม Blind Date จาก อะโฟรไดท์
BELIEVER โบนัสความโปรดปราน +15
ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ โบนัสความโปรดปราน +15
เป้าหมาย เทพีอะโฟรไดท์


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-12-1] อะโฟร์ไดท์ เพิ่มขึ้น 130 โพสต์ 2025-2-15 13:52
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-34] ไลแซนเดอร์ วิสเปอร์ เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-2-15 13:49
โพสต์ 107899 ไบต์และได้รับ 80 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-15 12:24
โพสต์ 107,899 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-15 12:24
โพสต์ 107,899 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก ยาดม  โพสต์ 2025-2-15 12:24
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
โพสต์ 2025-2-20 15:52:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เที่ยวสวนสนุก เสี่ยงภัย
ย้อนเวลา 18 กุมภา 68 16:00 น.

หลังจากที่เฟเรียตอบตกลงการเชิญชวนของเพื่อนสาวร่วมชั้นของตนเองมาถึงยังสวนสนุกลองไอส์แลนต์ที่เธอก็พอรู้จักเป็นอย่างดีเพราะที่นี่น่ะเธอเคยมาเมื่อหลายเดือนก่อนสมัยที่ฝึกอยู่ที่ค่ายฮาล์ฟบลัดแล้วมาทำภารกิจปราบก็อบลินที่นี่ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นน่าจะแค่ก็อบลินธรรมดามั้งนะ และก็เอาชนะมาได้อย่างไร้บาดแผล แต่ก็นะก็อบลินเป็นแค่อสุรกายระดับต้น ๆ เองนะ แถมตอนนั้นเธอก็เก่งในระดับหนึ่งแล้วด้วยแหละนะ

“ถึงแล้ว งั้นเฟเรียรออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวเราไปซื้อตั๋วมาให้”

“ก็ได้ค่ะ งั้นเราไปนั่งรอตรงนั้นนะคะ”

หลังจากที่เพื่อนสาวที่ชวนมาเดินไปต่อคิวซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกเรียบร้อยแล้ว เฟเรียก็ย้ายตัวเองมานั่งอยู่ที่ม้านั่งหน้าทางเข้าสวนสนุก พลางเหลือบตามองไปที่เพื่อนคนนั้นอย่างพินิจพิจารณาว่าตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายจะเป็นตัวอะไรกันแน่ แต่เนียนขนาดนี้น่าจะมีใครร่ายมนตร์บังตาทับไว้ให้สินะ ถึงทำให้เดมิก็อตอย่างเธอไม่สามารถมองเห็นตัวจริงของคนคนนี้ได้ง่าย ๆ เหมือนกับตอนนั้นเลย วันแรกที่เธอมาเข้าเรียนที่นี่อ่านะ ก็อ่านะถ้าคนคนนั้นส่งเธอคนนี้มาจริง ๆ ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกนะ ก็เป็นเทพีแห่งเวทมนตร์นี่นา จะทำเรื่องพวกนี้คงจะง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปากอยู่แล้วแหละ แค่ว่าจะทำไงให้คนคนนี้เปิดเผยตัวจริงออกมา จะล่อไปที่ที่มีกันแค่สองต่อสองดีไหมนะ แต่ที่ไหนกันล่ะ เธอครุ่นคิดพลางมองขึ้นไปที่เครื่องเล่นเครื่องหนึ่งที่สุดแสนสะดุดตาของเธอ

“จริงด้วยที่นั่นไงล่ะ”

เธอพึมพำกับตัวเองในจังหวะที่เพื่อนสาวที่ชวนมานั่นกลับมาพร้อมตั๋วเข้าสวนสนุกสองใบมาพอดี

“รอนานไหมคะเฟเรีย นี่ค่ะตั๋ว เราเข้าไปข้างในกันเถอะนะคะ”

“ค่ะ”

เธอรับตั๋วเข้าสวนสนุกมาไว้กับตัวก่อนจะพากันเดินเข้าแถวผ่านจุดตรวจตั๋วเข้าสวนสนุกโดนที่เธอนั่นไม่ยอมให้เพื่อนสาวคนนี้แตะตัวเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ก็ระแวงนิด ๆ ล่ะนะ พอเข้ามาถึงแล้วนั้น

“อยากไปเล่นที่ไหนก่อนไหมคะ”

“งั้นไปนั่งชิงช้าสวรรค์ไหมคะ เรามีเรื่องอยากคุยด้วยพอดีเลย”

“ก็ดีนะคะ บรรยายกาศแบบนี้ด้วยนั่งชิงช้าสวรรค์คงสวยดี”

“งั้นไปกันเลยค่ะ”

เฟเรียได้เปลี่ยนจากฝ่ายตามมาเป็นฝ่ายนำพาเพื่อนสาวร่วมชั้นผู้น่าสงสัยคนนี้ไปเข้าแถวขึ้นชิงช้าสวรรค์ด้วยกัน พอถึงคิวพวกเธอก็นั่งในกระเช้าเดียวกันเพียงสองต่อสอง ก่อนที่มันจะค่อย ๆ หมุนขึ้นตามเส้นรอบวงขึ้นมาจนมาถึงสัก 1 ใน 4 รอบทำให้มองเห็นเส้นขอบฟ้าได้บ้าง ก็ถึงเวลาจริงจังแล้วสินะ

“เท่านี้ก็คงไม่มีใครได้ยินแล้วล่ะนะคะ งั้นเราขอถามคุณล่ะนะคะ คุณ เป็น ใครคะ หรือว่าจะเกี่ยวกับเทพีองค์นั่น ไม่ทราบว่าคุณจะเปิดเผยตัวจริงให้เราเห็นจะได้ไหมคะ”

แสดงความคิดเห็น

God
อีกฝ่ายทำสีหน้างุงงง ไม่เข้าใจ  โพสต์ 2025-2-20 20:45
โพสต์ 7286 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-2-20 15:52
โพสต์ 7,286 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เรือแคนูไม้  โพสต์ 2025-2-20 15:52
โพสต์ 7,286 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-2-20 15:52
โพสต์ 7,286 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ควบคุมดอกป๊อปปี้  โพสต์ 2025-2-20 15:52
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เรือแคนูไม้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมดอกป๊อปปี้
ฝันร้าย
มีดสั้นสัมฤทธิ์
Daedalus's Legacy
จิตวิญญาณนักรบแห่งโอกู
เกราะสายรุ้ง
สะกดจิต
น้ำหอม Unisex
ทักษะหอก
กำไลหินนำโชค
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โล่อัสพิส
หอกกรีก
หลับใหล
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x4
x7
x11
x24
x6
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x6
x18
โพสต์ 2025-2-21 00:06:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เที่ยวสวนสนุก
ย้อนเวลา 18 กุมภา 68 17:30 น.

ผิดคาดเลย อีกฝ่ายทำสีหน้างุนงงและไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดหรือว่าจะไม่ใช่อสุรกายกันนะ มันก็ทำให้เธอลดการ์ดลงบ้างนิดหน่อยแต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะบางทีอีกฝ่ายกำลังหลอกลวงเธออยู่ก็เป็นได้ แต่ถ้าเอาแต่ตั้งแง่ไปก็ไม่ได้อะไรดีขึ้นมาด้วยนี่นา เธอหลับตาลงตั้งแต่สมาธิปรับอารมณ์ของตัวเองให้ดีขึ้นมานิดหน่อย

“ขอโทษด้วยนะคะ เราคงระแวงมากเกินไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะที่พูดอะไรแปลก ๆ ออกไป”

เธอโค้งคำนับขอโทษเพื่อนสาวที่ชวนเธอมาเที่ยวด้วยกันแต่เธอดันพูดอะไรแปลก ๆ ออกไปทั้ง ๆ ที่ยังคงนั่งอยู่ในกระเช้าชิงช้าสวรรค์สายตาเธอก็มองวิวทิวทัศน์ยามเย็นที่พระอาทิตย์เริ่มเคลื่อนลับขอบฟ้าส่องแสงสีส้มเหลืองอันแสนงดงามผ่านหน้าต่างกระเช้าชิงช้าสวรรค์ที่พวกเธอนั่งกันอยู่ขณะที่มันกำลังเคลื่อนวนไปอย่างช้า ๆ จนเกือบครบแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ งั้นเพื่อเป็นการลงโทษ ช่วยไปเล่นเครื่องเล่นอย่างอื่นด้วยกันจนกว่าจะปิดสวนเลยนะคะ“

“ก็ได้ค่ะ งั้นไปนู่นก่อนเลยไหมคะโทสะแห่งสายฟ้า“

ดีที่มันเป็นจังหวะที่ชิงช้าสวรรค์วนครบรอบจนถึงพื้นพอดี เธอจึงเลือกเป้าหมายการเล่นเครื่องต่อไปเป็นรถไฟเหาะที่มานามว่า โทสะแห่งสายฟ้า ซึ่งเธอก็รู้เลยว่าต้นแบบมาจากท่านเทพซุส ราชาแห่งท้องฟ้าและเทพแห่งสายฟ้า แถมยังเป็นราชาแห่งเทพอีกต่างหากจำง่ายสุดคือบ้านหมายเลข 1 บ้านซุสน่ะใหญ่ที่สุดในบรรดาบ้านพักในค่ายทั้งหมดล่ะนะ แถมมีคนอยู่แค่สองคนด้วยล่ะมั้งนะน้อยในระดับหนึ่งเลย แต่ก็นะสามมหาเทพนี่นา จะว่าไปก็สงสัยอยู่เหมือนกันนะว่าถ้าไปเล่นเครื่องเล่นนี้จะมีสายฟ้ามาชาร์จให้มือถือของเธอได้บ้างไหมด้วยนี่สิ ถึงจะแค่ความคิดเล่น ๆ ของเดมิก็อตตัวน้อยอย่างเธอล่ะนะ

“งั้นไปกันเถอะค่ะ”

เมื่อตกลงกันได้แล้วพวกเธอก็ลงจากชิงช้าสวรรค์ไปนั่งเล่นรถไฟเหาะนามโทสะแห่งสายฟ้าโดยที่เธอได้ให้เพื่อนสาวคนนี้นั่งอยู่แถวหน้าแล้วตัวเฟเรียเองก็นั่งอยู่ข้างหลังเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเองด้วย เผื่อมีอะไรจะได้ระวังตัวได้ง่าย ๆ ด้วย ถึงแม้ในใจเธอก็นึกสงสัยอยู่ว่าทำไมถึงชวนมาที่นี่กันแน่นะ แต่ก็นั่นแหละนะ เธอพยายามปัดความคิดแย่ ๆ ออกไป ก่อนที่รถไฟเหาะจะพุ่งไปตามรางอย่างน่าหวาดเสียวจนขนาดเธอยังเผลอส่งเสียงกรี๊ดอยู่หลายรอบอยู่ หลังจากตรงนี้พวกเราก็ไปไล่เล่นกันเยอะทั้งล่องแก่ง บ้านผีสิง หรือแม้แต่เรือไวกิ้ง จนครบเป็นที่เรียบร้อยก็มานั่งกินอาหารที่อยู่ในราคาตั๋วสวนสนุกด้วยกันอย่างมีความสุข ถึงจะหวั่นใจว่าจะจบง่ายงี้เลยจริงดิ แต่ก็ช่างเถอะ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 6751 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-2-21 00:06
โพสต์ 6,751 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เรือแคนูไม้  โพสต์ 2025-2-21 00:06
โพสต์ 6,751 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-2-21 00:06
โพสต์ 6,751 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก ควบคุมดอกป๊อปปี้  โพสต์ 2025-2-21 00:06
โพสต์ 6,751 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ จาก Daedalus's Legacy  โพสต์ 2025-2-21 00:06
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เรือแคนูไม้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมดอกป๊อปปี้
ฝันร้าย
มีดสั้นสัมฤทธิ์
Daedalus's Legacy
จิตวิญญาณนักรบแห่งโอกู
เกราะสายรุ้ง
สะกดจิต
น้ำหอม Unisex
ทักษะหอก
กำไลหินนำโชค
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โล่อัสพิส
หอกกรีก
หลับใหล
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x4
x7
x11
x24
x6
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x6
x18
โพสต์ 2025-3-25 10:05:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Example Box with Image and Text

[ลองไอส์แลนด์] Dare Universal

ตอน คำสัญญาของทิฟฟานี

ตั้งเเต่เช้าตรู่แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ้าม่านสีไวน์เข้ามาในห้อง เด็กสาวร่างเล็กยังคงซุกอยู่ในผ้านวม ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนเถาวัลย์องุ่นหน้าบ้านนั้นหละ

เธอกำลังอยู่ในฝันหวานที่เต็มไปด้วยขบวนพาเรด ลูกหมู และไวน์องุ่น แต่แล้ว…

" ลุกได้แล้ว เราจะไปสวนสนุก "

เสียงเด็ดขาดของทิฟฟานีดังขึ้นประหนึ่งสายฟ้าจากพ่อ

เด็กสาวดีดตัวขึ้นมาช้าๆ ตายังปรือ เสื้อยับย่นไปทั้งตัว

" หือ... ยังไม่สายเหรอพี่... ร่ายังอยากนอนนะ "

" ไม่สาย แต่ถ้าช้ากว่านี้จะต่อแถวได้ท้ายสุด และฉันจะไม่รอเธอนะ "

" โอ๊ยยย เข้าใจแล้วๆๆ ร่าลุกแล้ว! "

เธอลุกขึ้นมาพร้อมความงัวเงียและงอแงแบบขั้นสุด ปากยังบ่นพึมพำแต่ก็เดินลากตัวเองไปเตรียมพร้อมในที่สุด เพราะ... ก็สัญญาไว้แล้วนี่นา เรื่องเเบบนี้มันช่วยไม่ได้หนินะ

เมื่อเเต่ตัวเสร็จ พี่สาวคนโตก็คือพาน้องลากขึ้นรถเดินเข้ามาที่สวนสนุกแบบชำนานมาก สงสัยจะแอบมาบ่อยๆ นะ

บรรยากาศท้องฟ้าใสแจ๋ว กับแสงแดดที่กำลังอุ่นพอดี เรียงแถวกันหน้าโลโก้ขนาดใหญ่ของสวนสนุกที่เขียนว่า “ Olympus Fantasy Park

บรรยากาศคล้ายดิสนีย์แลนด์แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเทพเจ้า ผู้คนมากมายมารอเข้าแถว เสียงเพลงธีมโอลิมปัสเปิดคลออยู่เบื้องหลัง

ลอร์ร่ายืนมองไปรอบๆ ตาเป็นประกาย

" โห... สวนสนุกนี่มัน... อลังการ! จังเลยอะ " เธอมองไปรอบๆ เเบบมองไปทางไหนก็สวย

" เธออย่าเพิ่งตื่นตะลึง เข้าก่อนค่อยตะลึง "

ทิฟฟานีกล่าว พร้อมอมยิ้มแบบตื่นเต้นสุดๆ ร่างเล็กเองก็พยักหน้าขนาดนี้ยังมีอลัฃงอีกไม่ต้องพูดแล้วว่าข้างในจะขนาดไหน

" เราซื้อตั๋วกันก่อนเถอะ " อีกฝ่ายพูดเสริมอีก เธอรับเงินจากลอร์ร่าไป ตามจำนวน เพราะต่างคนต่างออก ตามที่ลอร์ร่าเข้าใจ

" ร่าฝากด้วยนะ " เธอกล่าวและให้อีกฝ่ายซื้อตั๋วให้ เพราะเเบบสกิลของเธอนั้นบอกเลยว่าเนียนสุดๆ เเปปๆ คือไปหน้าสุดแล้ว

เมื่อถึงเวลาสวนสนุกเปิด แน่นอนสองเท้าวิ่งลากกันไป พุ่งกันมาแบบไม่รอใคร ทิฟฟานีลากน้องสาวสุดที่รักมายืนต่อแถวรถไฟเหาะสายฟ้าแบบไม่ถามความสมัครใจ

เสียงสายฟ้าฟาดเป็นเอฟเฟกต์ เสียงคนกรี๊ดที่ดังสนั่นจากรอบก่อนๆ ยิ่งทำให้ร่างเล็กสั่นๆ

" ร่าว่า... พวกเราน่าจะเริ่มเบาๆ ก่อนมั้ย!? "

" ไม่ เดี๋ยวเธอก็ชินเอง ต้องเปิดแบบนี้หละ "

" แต่นี่มันคือพลังของราชาแห่งเทพเลยนะ! "

เมื่อถึงคิว รถทะยานพุ่งไปเหมือนแรงของเซอุสจะลงมาจริงๆ ลอร์ร่ากรี๊ดลั่นจนเสียงแหบ

" ว๊ากกกกกก!!! ร่าจะกลายเป็นเมฆแล้ววววว! กรืิ๊ดดดดดดดดดดดดด ดดดดดดดดด  "

ตอนลงมา เด็กสาวแทบทรุดนั่งกับพื้น มือยังสั่น ขาสั่น แต่น้ำตา... หยดเพราะหัวเราะมากกว่าร้องไห้

เมื่อจบเครื่องเล่นตัวเเรก ทั้งคู่พากันมาล่องแก่งต่อในธีมเมืองใต้น้ำ

ลอร์ร่านั่งแถวหน้า ใส่เสื้อคลุมกันน้ำ (ที่เพิ่งยืมจากพี่สาวทันทีหลังโดนล้อ)

การผจญภัยผ่านน้ำตกจำลอง หมอกสีฟ้า และเสียงคำรามของอสุรกายใต้น้ำ ทำให้เธอกรี๊ดได้ไม่แพ้ตอนบนฟ้า

" ม่ายยย! น้ำมันสาดหน้าอีกแล้วววว! อ๊ากกก "

" ก็เธอเลือกที่นั่งเองนะ " ทิฟฟานีหัวเราะเบาๆ พร้อมหันไปยิ้มให้กล้องถ่ายรูปตรงทางออกแบบ.... ไม่อยากจะบรรยายเลย

ไม่นานทั้งคู่ก็เเวะไปหาอะไรทานสักหน่อย เธอนั่งกินกันจนเวลาล่วงเลย

เผลไปไม่นานก็ได้เวลาของการชมพาเรดแล้วหละ

ตอนนี้ทั้งสวนสนุกถูกแต่งแต้มด้วยขบวนพาเรดสุดอลังการ ม้าลอยฟ้า เทพเจ้าสวมชุดระยิบระยับ 

ขับร้องบทเพลงดั้งเดิมจากโอลิมปัส

" ไปเร็วๆ พาเรดมาแล้ว " อีกฝ่ายกล่าว และทั้งคู่ก็วิ่งกันออกไป

" มาแล้วๆ

ลอร์ร่ายืนโบกมือแบบไม่ห่วงภาพลักษณ์ ตาเป็นประกายเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง

" ฉันก็ชอบที่นี้จัง พวกเขาทำได้ดีจริงๆ "

เธอยิ้มพร้อมหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปพี่สาวแบบเผลอๆ และแอบถ่ายตัวเองตอนตาวิบวับ

ไม่นานขวบนนั้นก็จบลง ไปอย่างรวดเร็ว จริงๆ มันน่าจะมีพลุหน่อยนะ เมื่อการแสดงจบทั้งคู่ก็รีบวิ่งไปต่อแถวเพื่อเล่นเครื่องเล่นกันต่อ

รถบั๊มที่ออกแบบให้เหมือนสนามรบ กลายเป็นเวทีประชันกันเองระหว่างพี่น้อง

ลอร์ร่าแอบหมุนรถออกไป หนีการชนเเต่นั้นหละ

" อย่าหนีนะ ฉันจะชนเธอให้กระเด็น กรฺีดดดดดดดด "

เสียงหัวเราะดังลั่นสนาม เสียงชนดังปั้งๆ จนเจ้าหน้าที่แอบยิ้ม

ร่างเล็กหมุนติ้วในรถบั๊ม แล้วหัวเราะจนปวดท้อง

เวลาความสนุกผ่านไปด้วยความเร็วเลย เพียงไม่นานก็จะหมดวันแล้วนะ 

เมื่อจบจากเครื่องเล่นไปพักเหนื่อยชมละครสักหน่อย 

ในโรงละครเล็ก อัดแน่นไปด้วยผู้ชม ทุกคนจดจ่ออยู่กับโชว์ที่เล่ากำเนิดเทพผ่านแสงสีและเสียงดนตรี

ลอร์ร่าดูเงียบที่สุดในวันนั้น ดวงตาเธอจ้องเวทีไม่วาง ร่างเล็กนั่งนิ่งในชุดเปียกหมาดๆ แต่ยิ้มบาง

การแสดงเริ่มเล่นไป ทั้งคู่เองก็เหมือนตกไปในมนสะกด ทุกอย่างมันคือลืมเวลาไปเลย

การแดสงผ่านไปได้ด้วยดีและเร็วมาก เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วๆ

ก่อนทั้งคู่จะลุกเดินพากันออกไป

เมื่อออกมาก็พบว่า เกือบเย็นเเล้ว ทั้งคู่เลยตัดสินใจไปช๊อปปิ้งและกลับบ้านเลยดีกว่า 

เด็กสาวเดินจูงกันไปมุมละลายทรัพย์ ซื้อของจับจ่ายใดๆ

" อันนี้ดู เข้ากับเธอนะ " พี่สาวบอก เอาหมวกใส่ให้

" จริงหรอ " เธอมองตัวเองผ่านกระจก ลองจับให้ดีๆ

ทั้งคู่ลองชุด ถ่ายรูปเล่นกันยกใหญ่ มีตู้โฟโต้บูธ ให้เล่นกันเป็นทั้งของฝากและใดๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน

เมื่อเรียบร้อยก็เตรียมตัวในการเดินทางกลับบ้านกันตามปกติ

หมดเวลาสนุกแล้วหละ แต่เรื่องราววันนี้คงสนุกกันไปอีกหลายต่อหลายวันเลยนะ ก็เรียกว่าเล่ากันไปอีกหลายต่อหลายวันเลยหละ

ทั้งคู่เองเริ่มเดินทากลับบ้าน แม้ลอร์ร่จะไม่อยากกลับเเต่นั้นหละ สวนสนุกมันจะปิดแล้วนะ คงเลือกอะไรไม่ได้มากหรอก จะนอนที่นี้ก็เห็นทีจะไม่ได้



จ่ายค่าเข้าสวนสนุก 109 ดอล (ของลอร์ร่า)

แสดงความคิดเห็น

God
ทิฟฟี่เกิดมิตรภาพต่อคุณ  โพสต์ 2025-3-25 10:28
โพสต์ 26189 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-3-25 10:05
โพสต์ 26,189 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับสัตว์  โพสต์ 2025-3-25 10:05
โพสต์ 26,189 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-3-25 10:05
โพสต์ 26,189 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก น้ำมันหอมอามูร์  โพสต์ 2025-3-25 10:05
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บัตรส่วนลดรถไฟ HP 2025
สื่อสารกับสัตว์
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
น้ำมันหอมอามูร์
เข็มกลัดไดโอนีซุส
แว่นกันแดด
ขลุ่ยไม้เถาองุ่น
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
รสชาติแห่งความสุข
สัมผัสแห่งองุ่น
ธนู
ชุดเครื่องเพชร
หมวกปีกกว้าง
ความคิดสร้างสรรค์
โรคสมาธิสั้น
ต่างหูเงิน
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x3
x3
x5
x1
x1
x7
x2
x1
x1
x2
x1
x1
x4
x2
x4
x4
x15
12
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้