Academia Seneca ⋘ อะคาเดเมีย เซเนกา ⋙

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×





Academia Seneca


อะคาเดเมีย เซเนกา: แหล่งบ่มเพาะปัญญาและคุณธรรมแห่งกรุงโรมใหม่









อะคาเดเมีย เซเนกา
แหล่งบ่มเพาะปัญญาและคุณธรรมแห่งกรุงโรมใหม่


ณ ใจกลางความรุ่งเรืองของกรุงโรมใหม่ มิได้มีเพียงอนุสรณ์สถานอันโอ่อ่า หากแต่ยังเป็นศูนย์รวมแห่งปัญญาและความรู้ที่สืบทอดจิตวิญญาณแห่งโรมันอย่างแท้จริง อะคาเดเมีย เซเนกตั้งตระหง่านอย่างสง่างามภายในมหาวิทยาลัยนิวโรม ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความคลาสสิกแบบโรมันเข้ากับความเรียบง่ายอันลึกซึ้ง เสาหินอ่อนขัดเงางามคู่กับลานภายในที่เปิดโล่งสู่ท้องฟ้า สร้างบรรยากาศที่ทั้งขรึมขลังและชวนให้ใคร่ครวญ

เมื่อก้าวเข้าสู่ อะคาเดเมีย เซเนกา เสียงก้องกังวานของภาษาละตินจะดังก้องอยู่ทั่วไป ราวกับเสียงกระซิบจากอดีตกาล ที่นี่ยึดมั่นใน ภาษาละติน เป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนได้ซึมซับรากเหง้าทางวัฒนธรรมและวรรณกรรมอันล้ำค่าของบรรพบุรุษ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาสากลแห่งยุคสมัย และ ภาษาจีน ซึ่งเป็นภาษาที่ทรงอิทธิพลและเชื่อมโยงกับโลกตะวันออกอันกว้างใหญ่

อะคาเดเมีย เซเนกา เปิดประตูต้อนรับเยาวชนชาวโรมันแห่งกรุงโรมใหม่ ตั้งแต่ ระดับชั้นประถมปีที่ 1 จนถึงมัธยมปีที่ 6 (หรือเกรด 1-12) หล่อหลอมพวกเขาให้เติบโตตามหลักการของ เซเนกา ที่ว่า




เราเรียนรู้เพื่อชีวิต มิใช่เพื่อโรงเรียน
(Non scholae sed vitae discimus)




หลักสูตรเข้มข้นจึงมุ่งเน้นการศึกษา วิถีชีวิตและประวัติศาสตร์โรมัน อย่างลึกซึ้ง โดยเน้นการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และความเข้มแข็งทางจิตใจ ควบคู่ไปกับความรู้ทางวิชาการ

นักเรียนจะได้ศึกษาตำนาน วัฒนธรรม กฎหมาย ปรัชญาแนวสโตอิกอันเป็นเอกลักษณ์ของเซเนกา ศิลปะ และประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของโรมัน ผ่านการอภิปราย การไตร่ตรอง และการฝึกฝนตนเองให้เป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบและมีปัญญา

นอกจากนี้ สถาบันแห่งนี้ยังเป็นที่หมายของเหล่า ชาวค่ายจูปิเตอร์ ที่ปรารถนาจะขยายพรมแดนความรู้และสัมผัสชีวิตในเมืองหลวงอันคึกคัก พวกเขาจะได้รับโอกาสในการพักอาศัยในหอพักที่จัดเตรียมไว้ และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนอย่างเต็มที่ เป็นการเชื่อมโยงสองขั้วอำนาจแห่งโลกฮาล์ฟบลัดให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

บรรยากาศภายใน อะคาเดเมีย เซเนกา เงียบสงบแต่เปี่ยมด้วยพลังแห่งการใฝ่รู้ ครูบาอาจารย์เปรียบเสมือนนักปราชญ์ผู้ชี้นำ เน้นการสนทนาและการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นความคิด มีห้องสมุดขนาดใหญ่ที่รวบรวมปัญญาแห่งยุคสมัย ลานฝึกฝนร่างกายเพื่อความสมบูรณ์พร้อมทั้งกายและใจ และพื้นที่สำหรับการบำเพ็ญเพียรทางจิตวิญญาณ

อะคาเดเมีย เซเนกา มิได้เป็นเพียงโรงเรียน แต่เป็น วิถีแห่งการเติบโต เป็นสถานที่ที่หล่อหลอมเยาวชนให้เป็นผู้ที่มีปัญญา คุณธรรม และความเข้มแข็ง พร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายของโลก และสืบทอดจิตวิญญาณแห่งโรมันให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน ดุจแสงดาวแห่งปัญญาที่ส่องนำทางชีวิตให้แก่เหล่าลูกหลานโรมัน






แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 15821 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-10 11:13
โพสต์ 2025-9-11 21:44:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 11 เดือน กันยายน ปี 2025

ช่วงสาย เวลา 09.00 - 11.00 น. ณ อะคาเดเมีย เซเนกา กรุงโรมใหม่ ค่ายจูปิเตอร์ 


แสงแดดยามเช้าสาดทาบอาคารสูงโอ่อ่าของอะคาเดเมียเซเนกา โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยนิวโรม ด้านหน้ามีเสาหินอ่อนเรียงรายตระหง่าน สัญลักษณ์ของความรู้และเกียรติยศผสมผสานเข้ากับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่อย่างกลมกลืน ริมบันไดทางเข้า มีชายคนหนึ่งยืนรอด้วยท่าทีใจจดใจจ่อ แคนทัส บลอสซัม พ่อผู้เป็นที่รักของโมนีก้า วันนี้เขาสวมแว่นกรอบเรียบ ถือซองเอกสารและกระเป๋าหนังสีน้ำตาลไว้ในมือ ใบหน้าที่แม้มีริ้วรอยแห่งวัย แต่ยังเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและความแข็งแรงของชายวัย 40 ปลาย ๆ 


เมื่อสายตาเห็นร่างลูกสาวที่คุ้นเคยในเครื่องแบบเรียบง่าย ผมสีม่วงครามพลิ้วสะท้อนแสงเงิน ดวงตาสีเทาเงินบริสุทธิ์ที่เธอสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เขาก้าวลงจากบันไดมาแทบไม่ทันใจ ก่อนจะกอดเธอแน่นเหมือนจะชดเชยเวลาเพียงน้อยนิดที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน


“พ่อ...” เสียงโมนีก้านุ่มสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็ยกแขนกอดตอบแน่นด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นอะไรนะคะ พ่อโอเคไหม” แคนทัสหัวเราะเบา ๆ พลางผละออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้าลูกสาวเต็มตา เขายกมือดันแว่นขึ้นก่อนตอบเสียงอบอุ่น “พ่อคิดถึงลูกมาก... โชคดีที่ได้มาเจอกันอีก”


โมนีก้ากะพริบตา ยกคิ้วถามตรง ๆ “ว่าแต่...พ่อคะ ต้องแลกเงินหนักมากเลยใช่ไหม? หนูได้ยินว่าค่าเงินที่นี่โหดสุด ๆ” บิดาพยักหน้า ถอนหายใจคล้ายจะยอมรับความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ “ใช่แล้วล่ะ ที่นี่ 500 ดีนาเรียส เท่ากับ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว” หญิงสาวทำหน้ามุ่ยทันที “แพงเกินไปแล้วค่ะหนูไม่อยากให้พ่อลำบากเลย”


แต่แคนทัสกลับหัวเราะเบา ๆ ก่อนลดเสียงลงเหมือนจะบอกความลับ “ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อไม่ลำบากเท่าไหร่ เพราะพ่อเจอเงินของทวดเรา...จำนวนไม่น้อยเลยล่ะ ถึงอย่างนั้น ทวดกำชับว่าห้ามให้ลูกตรง ๆ”


โมนีก้าเบิกตาโต หน้าเอ๋อค้างทันที “หาาา... อะไรนะคะ? แล้วแบบนี้มันยังไงกัน”


แคนทัสยิ้มอ่อนโยนก่อนมองลูกด้วยแววตาจริงจังปนอบอุ่น “พ่อรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วนะโมนีก้า เรื่องที่ฟังดูแปลก ๆ เรื่องแม่ เรื่องสายเลือด เรื่องที่ลูกต้องมาอยู่ที่นี่...แม่ของลูกบอกพ่อไว้ทั้งหมดแล้ว พ่อดีใจมากที่วันนี้ยังได้เจอกันอีกครั้ง” หญิงสาวเม้มปากแน่น ความอบอุ่นในอกผสมกับความสับสนและเหนื่อยล้าที่เธอเก็บมานาน น้ำเสียงพ่อกลับกลายเป็นแรงพยุงที่เธอไม่เคยรู้ว่าตัวเองโหยหาขนาดนี้ “ลูกต้องเข้มแข็งนะ พ่อปลอดภัยดีและพ่อจะอยู่ตรงนี้ ข้างลูกเสมอ”


โมนีก้าหลับตาแน่นอีกครั้งก่อนพยักหน้า ยกยิ้มออกมาแม้ดวงตาจะสั่นระริก “ค่ะ พ่อ...หนูจะพยายาม” ท่ามกลางเสียงจอแจของผู้คนที่เดินเข้าออกอาคาร อ้อมกอดนั้นและคำมั่นของพ่อกลับทำให้โลกของโมนีก้าดูสงบลงอย่างประหลาด ราวกับไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมใดเธอก็ยังมีพ่ออยู่ข้าง ๆ เสมอ


แคนทัสวางมือลงบนไหล่โมนีก้าเบา ๆ ก่อนจะเดินพาลูกสาวเข้าไปยังอาคารหินอ่อนของอะคาเดเมียเซเนกา ประตูบานใหญ่แกะสลักลายองุ่นและมงกุฎลอเรลเปิดออกช้า ๆ เผยให้เห็นโถงต้อนรับที่โอ่อ่าและเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นโรมันผสานกับบรรยากาศสมัยใหม่ คุณครูหญิงในชุดทางการของโรงเรียนก้าวออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม เธอพาโมนีก้าและแคนทัสเข้าไปนั่งในห้องทำงานที่ประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวตำนานโรมัน เมื่อทุกคนนั่งลงเรียบร้อย เธอก็เริ่มอธิบายอย่างเป็นทางการ


“โรงเรียนอะคาเดเมียเซเนกาแห่งนี้มีปรัชญาชัดเจนค่ะ” ครูพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง “เราสอนภาษาละตินเป็นภาษาหลัก เพื่อให้ลูกศิษย์ซึมซับรากเหง้าวัฒนธรรมและวรรณกรรมอันล้ำค่าของบรรพบุรุษ พร้อมกันนั้นก็เรียนภาษาอังกฤษเพื่อใช้สื่อสารกับโลกสากล และภาษาจีนเพื่อเชื่อมต่อกับโลกตะวันออกที่ทรงอิทธิพล” โมนีก้าเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีเงินเทาเป็นประกายเล็กน้อยเมื่อได้ยินรายละเอียด รู้สึกตื่นเต้นแต่ก็ยังเก็บอาการไว้ เธอจดจำคำพูดทุกถ้อยคำ เพราะนี่คือก้าวใหม่ในชีวิตที่เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงได้


ครูอธิบายต่อ พลางเปิดแฟ้มเอกสารให้ทั้งสองดู “นอกจากวิชาภาษาแล้ว นักเรียนจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตและประวัติศาสตร์โรมันอย่างลึกซึ้ง เรามุ่งเน้นให้นักเรียนไม่ใช่เพียงท่องจำแต่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ควบคู่กับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมและความเข้มแข็งทางจิตใจ” เธอหยุดหายใจเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสริม “ที่นี่ นักเรียนจะได้สัมผัส ตำนาน วัฒนธรรม กฎหมาย ปรัชญาสโตอิก ศิลปะ และประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของโรมัน ผ่านการอภิปราย การไตร่ตรองและการฝึกฝนตนเอง เพื่อก้าวสู่การเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบและเปี่ยมด้วยปัญญา”


แคนทัสพยักหน้า เห็นด้วยกับแนวทางทั้งหมด ขณะที่โมนีก้าแอบถอนหายใจเบา ๆ เพราะรู้สึกว่าหนักเอาการ แต่ก็ไม่อาจบ่นได้ เธอเพียงยกมือลูบปอยผมสีม่วงครามที่หล่นลงมา แล้วหันไปมองพ่อราวกับขอพลังใจ


“และที่สำคัญที่สุด” ครูเอ่ยพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น “สำหรับชาวค่ายจูปิเตอร์ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะทางค่ายออกเงินสนับสนุนเต็มจำนวน ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงการศึกษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเล่าเรียน” โมนีก้าลอบเบิกตานิด ๆ “เรียนฟรี…ซะด้วย” เธอบ่นพึมพำ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ครูยังคงอธิบายตารางเรียน “ชาวค่ายจูปิเตอร์ทุกคนต้องเข้าเรียนที่สถาบันนี้ในช่วง เทอม 1 เวลา 07:00 – 12:00 น. หลังจากนั้นช่วงบ่ายไปจนถึงเย็นจะต้องกลับไปฝึกฝนและทำหน้าที่ทหารตามกฎของค่าย ส่วน เทอม 2 จะไม่มีการเรียนการสอน เพื่อให้ทหารฝึกเต็มที่ รับผิดชอบภารกิจ และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไม่ถูกเบียดเบียนด้วยเรื่องวิชาการ”


แคนทัสหันไปมองลูกสาวพลางมีสีหน้าภาคภูมิใจปนห่วงใย “ฟังดูเข้มงวด แต่ก็ดีนะ...ลูกจะได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งดูแลตัวเองได้”


ก่อนที่ครูจะปิดท้ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ชาวค่ายทุกคนต้องสร้างผลงานเพื่อตอบแทนเกียรติยศ ผลงานจะถูกบันทึกด้วยรอยสักขีดผลงาน ยิ่งผู้ที่ทำภารกิจสำคัญเกี่ยวข้องกับสภาเซเนท ไม่ว่าจะจบการศึกษาชั้นมัธยมปลายหรือไม่ หากสร้างผลงานโดดเด่น ก็จะได้รับสิทธิ์เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยนิวโรม เพื่อเตรียมปลดประจำการเป็นทหารผ่านศึกในกองกำลังสำรอง เป็นการยืนยันว่าพร้อมที่จะโตเป็นผู้ใหญ่และก้าวเข้าสู่โลกใหม่อย่างสมบูรณ์”


โมนีก้านั่งนิ่งไปครู่ใหญ่ ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “หนักแน่ ๆ บ้าบอที่สุด” แคนทัสหัวเราะเบา ๆ ยกมือขยี้ผมลูกสาวอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องกังวลหรอก พ่อจะอยู่ตรงนี้ ดูแลและเป็นกำลังใจให้เสมอ” โมนีก้าสูดหายใจลึกแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้พ่อ ในใจรู้ดีว่าก้าวต่อไปจะไม่ง่ายแต่เธอจะเดินต่อไปในเส้นทางที่โชคชะตาและสายเลือดกำหนดไว้


และเมื่อทุกอย่างรับทราบโมนีก้าก็โดนพ่อส่งเรื่องย้ายมาที่อะคาเดเมียเซเนก้าอย่างเรียบร้อนจนโมนีก้าได้เรียนเกรด 10 ที่นี่ และเริ่มเรียนสัปดาห์หน้าเป็นหารเข้าเรียนกลางเทอมเพราะพึ่งเปิดเทอมไปเดือนที่แล้วนั้นเอง



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 29,868 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก หนังสือนิยาย  โพสต์ 2025-9-11 21:44
โพสต์ 29,868 ไบต์และได้รับ +8 EXP +10 เกียรติยศ จาก เกมคอนโซลพกพา  โพสต์ 2025-9-11 21:44
โพสต์ 29,868 ไบต์และได้รับ +7 EXP +7 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก กล่องดนตรี  โพสต์ 2025-9-11 21:44
โพสต์ 29,868 ไบต์และได้รับ +8 EXP +9 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก กระซิบแห่งพงไพร  โพสต์ 2025-9-11 21:44
โพสต์ 29,868 ไบต์และได้รับ +9 EXP +9 เกียรติยศ +9 ความศรัทธา จาก แหวนดาราจรัส(D)  โพสต์ 2025-9-11 21:44
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
การควบคุมธรนี
สัมภาระเต็มรูปแบบ
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หนังสือนิยาย
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
Icarus Mirror
ดาบสุริยคติ
น้ำหอม Unisex
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
นาฬิกาสปอร์ต
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x5
x2
x2
x8
x2
x10
x5
x5
x20
x20
x6
x16
x63
x1
x7
x2
x4
x8
x6
x6
x1
x3
x8
x14
x10
x2
x22
x17
x1
x3
x3
x2
x5
x5
x2
x18
x26
x7
x5
x13
x6
x45
x36
x15
x69
x1
x1
x32
x2
x9
x70
x2
x2
x2
x20
x5
x4
x5
โพสต์ 2025-9-17 20:45:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 15 เดือน กันยายน ปี 2025

ช่วงเช้าถึงเที่ยง เวลา 07.00 - 12.00 น. ณ อะคาเดเมีย เซเนกา กรุงโรมใหม่ ค่ายจูปิเตอร์ (เรียน) (พบหยาน)


เมื่อแสงแดดอ่อนของเช้าวันใหม่ส่องลอดผ่านเสาสูงตระหง่านของอคาเดเมีย เซเนกา โมนีก้าก็ก้าวเข้ามาในรั้วโรงเรียนด้วยหัวใจที่เต้นแรง ชีวิตไฮสคูลของเธอกำลังเริ่มต้นขึ้นในสถานที่ที่เป็นดั่งศูนย์กลางแห่งวิชาความรู้ของกรุงโรมใหม่ 


แม้จะเข้ามาเรียนช้ากว่าคนอื่นไปหนึ่งเดือนเต็ม แต่เธอก็ตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้ความล่าช้านี้กลายเป็นอุปสรรค เสียงสนทนาของนักเรียนที่พูดคุยกันด้วยภาษาละตินดังก้องไปทั่วบริเวณโถง เสียงที่ทำให้บรรยากาศเหมือนย้อนกลับไปยังยุคสมัยโรมันโบราณ โมนีก้าพยายามจับคำและประโยคที่พอจะคุ้นเคยจากการเรียนมาก่อนหน้านี้ โชคดีที่ภาษาละตินยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธอ ส่วนภาษาอังกฤษก็เป็นสิ่งที่เธอใช้จนชินอยู่แล้ว แต่พอถึงเวลาที่อาจารย์ยกป้ายตัวอักษรจีนขึ้นมา ความมั่นใจทั้งหมดก็แทบพังทลายทันที


“เชี้ย…อะไรวะเนี้ย ภาพยึกยือนั้น…” หญิงสาวนั่งกะพริบตาปริบ ๆ มองตัวอักษรที่เต็มไปด้วยเส้นขีดซับซ้อน มันเหมือนเขาวงกตที่ไม่รู้จุดเริ่มและจุดจบ ไหนจะเสียงอ่านที่แตกต่างกันตามสำเนียงอีก ไม่ว่าจะเป็นสำเนียงกลาง สำเนียงกวางตุ้ง หรือสำเนียงเซี่ยงไฮ้ที่อาจารย์หยิบมาเปรียบเทียบให้ฟัง 


โมนีก้าแทบอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะความรู้สึกคือมันไม่ใช่แค่ภาษาเดียว แต่เป็นราวกับโลกทั้งโลกที่ต้องเรียนรู้ใหม่หมด เธอพยายามจดตาม แต่ลายมือที่ขีดเขียนลงไปก็เหมือนเส้นตะกุกตะกักที่อ่านแทบไม่ออกเองด้วยซ้ำ


เมื่อเวลาผ่านไปจากคาบแรกสู่คาบถัดมา ความเหนื่อยล้าเริ่มกดทับลงมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เวลาเจ็ดโมงเช้าที่เข้าเรียนจนกระทั่งเกือบเที่ยงวัน โมนีก้ารู้สึกเหมือนถูกจับไปอยู่ในห้องสอบที่ไม่มีวันสิ้นสุด เสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมชั้นที่เข้าใจภาษาจีนได้บ้างยิ่งตอกย้ำความรู้สึกโดดเดี่ยว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังยิ้มสู้ พยายามใช้ความสดใสร่าเริงแบบอเมริกันจ๋าของตัวเองดึงให้ทุกอย่างดูไม่เลวร้ายจนเกินไป


สนามหญ้ากลางโรงเรียนที่ล้อมรอบด้วยเสาโรมันสูงใหญ่และห้องเรียนแบบเปิดโล่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในประวัติศาสตร์ทุกครั้งที่เดินผ่าน เหล่านักเรียนบางกลุ่มกำลังนั่งถกเถียงเรื่องปรัชญาแนวสโตอิก บ้างก็เปิดตำรากฎหมายโรมันอย่างขะมักเขม้น อาจารย์บางคนเดินผ่านด้วยสายตาที่จริงจังและเต็มไปด้วยความคาดหวัง อคาเดเมียแห่งนี้ไม่ใช่แค่โรงเรียน แต่มันเป็นเหมือนโรงหล่อหลอมพลเมืองแห่งอนาคตของกรุงโรมใหม่


แสงแดดยามบ่ายเอื่อยเฉื่อยส่องลอดหลังคากระเบื้องของอคาเดเมีย เซเนกา ลงมากระทบใบหน้าซีดเซียวของโมนีก้า เธอก้าวเท้าช้า ๆ ออกมาจากอาคารเรียนราวกับร่างไร้วิญญาณ หลังผ่านคาบเรียนสามภาษาที่ทำให้สมองแทบระเบิด ละตินพอเข้าใจ อังกฤษยังเอาตัวรอดได้ แต่ภาษาจีน…ตัวอักษรบนกระดาษยังคงเป็นปริศนาเหมือนมดไต่กันไปมา ชุดยูนิฟอร์มเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวและกระโปรงเข้มที่ควรยาวถึงเข่า กลับถูกพับชายขึ้นเล็กน้อยตามสไตล์สาวอเมริกันขี้เล่นอย่างเธอ


เสียงหัวเราะของนักเรียนที่เดินผ่านลานเสายังแว่วอยู่รอบตัว แต่โมนีก้ากลับไม่ได้ยินอะไรชัดเจน ทุกย่างก้าวเหมือนเดินในหมอก กึก!! เสียงกระแทกดังขึ้นเมื่อโมนีก้าสะดุดชนใครบางคน เธอเผลอชนแรงพอสมควรจนสมุดเรียนในมือหลุดกระเด็น กระดาษแบบฝึกหัดภาษาจีนปลิวว่อนกลางแดดบ่าย รอยขีดเขียนของเธอที่ตั้งใจจดตลอดเช้ากลับเป็นเพียงเส้นยุ่งเหยิงเหมือนตัวหนอนพาดเต็มหน้า มันคือหลักฐานแห่งความพยายามที่ไม่เป็นผล


“โอ๊ย!” เธออุทานรีบก้มลงจะเก็บความน่าอายนี้ แต่ก่อนที่ปลายนิ้วจะสัมผัสกระดาษก็มีมืออีกคู่หยิบขึ้นมาก่อน


เงาของร่างสูงค่อย ๆ ทาบลงบนพื้น เธอเงยหน้าขึ้น แล้วหัวใจแทบหยุดเต้น ใบหน้าคมสงบ ดวงตาลึกนิ่งที่เธอจำได้ขึ้นใจ ชายหนุ่มเชื้อสายเอเชียที่เจอกันมาแล้วถึงสามครั้ง ครั้งแรกในค่ายเมื่อเขาล้มมาทับ ครั้งที่สองในท่อระบายน้ำเสียและครั้งที่สามตอนเข้าเวรยามกลางวิหารเบลโลน่า เขาเงียบขรึมดังเดิม ดวงตาสีเข้มเหลือบมองลายมือบนกระดาษก่อนจะส่งสายตากลับมาหาเธอ “นี่…ของคุณรึเปล่า” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียบง่ายแต่ฟังดูจริงจัง


โมนีก้าหน้าร้อนผ่าว รีบคว้ากระดาษกลับ “ขะ…ค่ะ ขอโทษนะคะ ฉันไม่ระวังเอง” เธอก้มศีรษะเล็กน้อย พยายามยัดกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวอักษรจีนบิดเบี้ยวกลับเข้าสมุดอย่างลนลาน


ชายหนุ่มยังคงมองเธออยู่เงียบ ๆ ก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ลายมือ…ดูเหมือนกำลังหัดเขียนเหรอ” น้ำเสียงไม่ได้มีแววล้อเลียน แต่แฝงความใส่ใจบางอย่าง “ก็…พยายามอยู่ค่ะ แต่คงเหมือนตัวหนอนมากกว่าตัวหนังสือ” เธอเผลอหัวเราะแห้ง ๆ แก้เก้อ ดวงตาเหลือบมองเขาแวบหนึ่งแล้วรีบหลบ “ฉัน…โมนีก้าค่ะ”


ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าเบา ๆ “หยาน” เขาตอบสั้น ๆ แต่เพียงพอให้ชื่อของเขาฝังแน่นในใจเธอ สายลมพัดผ่านทำให้กระดาษบางแผ่นสั่นไหว โมนีก้ากำมันแน่น พลางยิ้มเก้อ ๆ “ขอบคุณที่ช่วยเก็บนะคะ…ครั้งนี้ก็คงเป็นครั้งที่สี่แล้วสินะที่เราเจอกัน”


หยานมุมปากยกขึ้นเล็กน้อยคล้ายรอยยิ้มที่แทบมองไม่เห็น “อาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้” เขาเอ่ยเบา ๆ ดวงตาเรียบสงบแต่มองลึกจนเธอรู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล


โมนีก้าก้มหน้าลงเล็กน้อย น้ำเสียงแผ่วจนแทบกลืนไปกับเสียงลม “ก็คงงั้นค่ะ…ขอโทษอีกครั้งนะคะ ฉันมัวแต่เอ๋อเรื่องภาษาจีนอยู่ตลอดเลย ที่เซเนกาให้เรียนสามภาษา ฉันไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง อ่านก็ไม่ออก ฟังก็ไม่รู้เรื่อง พูดได้อยู่สองคำเองหนี่ห่าวกับหวออ้ายหนี …ถ้าต้องเรียนตามเพื่อนไม่ทัน ฉันคงได้ซ้ำชั้นแน่ ๆ” เธอบ่นออด ๆ แอด ๆ พร้อมกับยู่หน้าด้วยความหงุดหงิดที่ปนความกลัว


หยานมองเธอเงียบ ๆ แววตานิ่งลึก แต่มีประกายอ่อนโยนที่ทำให้คนตรงหน้าเริ่มคลายเกร็ง “ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นก็ได้” เสียงทุ้มของเขานุ่มลง “ภาษาจีนไม่ได้เรียนกันวันเดียวรู้เรื่องหรอก ต่อให้คนจีนเองบางทียังงงสำเนียงต่างจังหวัดเลย” โมนีก้าเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตากลมโตมีประกายสับสน “จริงเหรอคะ…แต่ฉันดูเหมือนตัวตลกเวลาเขียน ทุกตัวอักษรเหมือนตัวหนอนยึกยือ” หยานนิ่งฟังไม่ได้ขัดจังหวะ ดวงตาคมกริบยังคงมองเธออย่างเงียบ ๆ ก่อนเอ่ยช้า ๆ น้ำเสียงสุขุมแต่มีแววอ่อนโยนแฝงอยู่ “ภาษามันไม่ได้ยากเกินไปหรอก แค่คุณยังไม่ได้เจอวิธีที่เหมาะกับตัวเองเท่านั้น”


โมนีก้าเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เลิกคิ้วราวกับไม่เชื่อ “พูดง่ายจังนะคะ…” เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือกอดสมุดแน่นเหมือนอยากซ่อนความล้มเหลวเอาไว้


หยานก้าวเข้ามาใกล้ครึ่งก้าว พูดเรียบ ๆ แต่หนักแน่น “ถ้าอยาก…ผมพอจะช่วยได้” โมนีก้ากะพริบตาปริบ ๆ หัวใจเต้นแรงโดยไม่รู้สาเหตุตอนที่อีกฝ่ายบอกแบบนั้น เอ๊ะ? หมายความว่ายังไงนะ? “ชะ…ช่วย?” เธอเอียงคองง ๆ เหมือนไม่แน่ใจว่าเขาพูดจริงหรือแค่ปลอบเธอเท่านั้น


หยานพยักหน้าน้อย ๆ แววตายังคงมั่นคง “ผมพูดอ่านเขียนภาษาจีนได้ ผมโตมาจากฮ่องกง ถ้าอยากเรียน ผมจะสอน…แต่คุณต้องตั้งใจ”


หญิงสาวอ้าปากค้างเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ แก้เก้อ แม้จะยังมีท่าทีเกร็ง ๆ แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ ก็เริ่มผุดขึ้นที่ริมฝีปากของโมนีก้า ขณะที่หยานยังคงยืนนิ่งราวกับไม่ได้คิดว่านี่คือเรื่องใหญ่โตอะไรนัก แต่ในแววตากลับมีบางอย่างที่อุ่นขึ้นอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว


ลมเย็นจากต้นไม้ข้างทางพัดมาเบา ๆ ขณะทั้งสองยืนอยู่ใต้เงาอาคารเรียน โมนีก้าขยับเท้าลงน้ำหนักไปมาเหมือนเด็กที่รอคำตอบ ดวงตาสีเทาเงินของเธอมีทั้งความเกรงใจและความหวังผสมปนกัน “แต่…ฉันไม่มีเงินเลยนะ จะรบกวนคุณไหม” น้ำเสียงเธอเบาราวกับกลัวลมจะพัดคำพูดหายไป “ฉันไม่ค่อยเก่งด้านภาษา ขนาดภาษาละตินยังต้องใช้เวลานานกว่าคนอื่นกว่าจะเข้าใจเลย…”


หยานยืนพิงเสาอย่างสงบ แสงแดดอุ่นส่องผ่านใบไม้ตกกระทบผมสีดำสนิทของเขาเป็นประกาย เขาส่ายหน้าเบา ๆ น้ำเสียงเรียบแต่หนักแน่น “ไม่เป็นอะไร ผมอาสาเอง” โมนีก้าเงยหน้าขึ้นทันที ใบหน้าที่เพิ่งซีดจากความเครียดเริ่มมีสีเลือดฝาด “คุณโอเคจริง ๆ เหรอถ้าจะเป็นติวเตอร์ให้ฉัน? ฉันเกรงใจนะคะเนี้ย” เธอถามทั้งที่มือยังเกาะสายกระเป๋าแน่น


ชายหนุ่มยักไหล่นิดหนึ่ง ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง “โอเคสิ ผมเองก็เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนิวโรม ใกล้ ๆ นี้เอง”


“หาาา…!” เสียงอุทานของโมนีก้าดังขึ้นจนคนเดินผ่านต้องเหลียวมองเธอเบิกตากว้างจนเกือบลืมกระพริบ “ที่แท้คุณเป็นรุ่นพี่นี่เอง” มือข้างหนึ่งรีบยกขึ้นปิดปากพร้อมหัวเราะเขิน “งั้น…ขอเรียกพี่หยานได้ไหมคะ?” แววตาของหยานอ่อนลงเล็กน้อยริมฝีปากกระตุกยิ้มมุม “ถ้ามันทำให้คุณจำชื่อได้ก็ตามสบาย”


“ตกลงนะคะ พี่หยาน” โมนีก้าพูดพลางยกยิ้มกว้างขึ้น ความอึดอัดจากเมื่อครู่ค่อย ๆ คลายออก หยานเหลือบมองท้องฟ้าแล้วขยับมือดูนาฬิกาเพราะเขาต้องไปเข้าคลาสบ่ายต่อ “งั้นเรามาตกลงเรื่องเวลาเรียนกัน ผมมีคาบเช้าที่มหาวิทยาลัยทุกวัน แต่ช่วงเย็นหรือคืนวันเสาร์อาทิตย์ว่าง”


“จริงหรอคะ?!” โมนีก้าตอบพร้อมก้าวเข้าใกล้เล็กน้อย ดวงตาเป็นประกาย “ถ้างั้นเอาเย็นวันพุธกับวันเสาร์ดีไหมคะ? ฉันจะได้ทบทวนระหว่างสัปดาห์ด้วย”


“ได้” เขาตอบสั้น ๆ แต่แววตาอบอุ่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “เริ่มพุธนี้เลยก็ได้ ถ้าคุณพร้อม” และทันทีที่เข้าบอกแบบนั้นโมนีก้าก็รีบพูด “พร้อมค่ะ!” เธอรีบตอบทันควัน เสียงใสเจือหัวเราะบาง ๆ ความเหนื่อยล้าจากชั้นเรียนสามภาษาหนักหน่วงดูจะเบาลงทันทีที่ได้ยินคำยืนยันจากชายหนุ่มเงียบขรึมตรงหน้า โมนีก้ารู้สึกเหมือนเจอเส้นทางใหม่ที่พอจะพาเธอไปต่อได้


[TGC-09] หยาน

พูดคุยกับ TGC ความสนิทสนม +7

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ TGC +5

กลิ่นหอมจาก น้ำหอม Unisex  - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +5

(โรลเพลย์ที่ลงท้ายด้วย 0 2 4 6 8 - ใช้ได้กับรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นเท่านั้น)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-09] หยาน เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-9-17 21:10
โพสต์ 49128 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-9-17 20:45
โพสต์ 49,128 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความศรัทธา จาก น้ำหอม Unisex  โพสต์ 2025-9-17 20:45
โพสต์ 49,128 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2025-9-17 20:45
โพสต์ 49,128 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก หนังสือนิยาย  โพสต์ 2025-9-17 20:45
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
การควบคุมธรนี
สัมภาระเต็มรูปแบบ
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หนังสือนิยาย
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
Icarus Mirror
ดาบสุริยคติ
น้ำหอม Unisex
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
นาฬิกาสปอร์ต
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x5
x2
x2
x8
x2
x10
x5
x5
x20
x20
x6
x16
x63
x1
x7
x2
x4
x8
x6
x6
x1
x3
x8
x14
x10
x2
x22
x17
x1
x3
x3
x2
x5
x5
x2
x18
x26
x7
x5
x13
x6
x45
x36
x15
x69
x1
x1
x32
x2
x9
x70
x2
x2
x2
x20
x5
x4
x5
โพสต์ 2025-10-11 20:00:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด

25 · กันยายน · 2025 · 

07.00 น. - 12.00 น.

High School: เกรด 11


เสียงระฆังโลหะใสกังวานก้องท่ามกลางแสงเช้าสีทองอ่อน วันที่ 16 ของเดือนกันยายน ปีนี้ไม่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา เพราะ เอสเปอร์ก้าวเข้าสู่วัยสิบหก… และในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขากำลังยืนอยู่หน้าประตูหินอ่อนของ อะคาเดเมีย เซเนกา โรงเรียนระดับมัธยมปลายชั้นนำของนครโรมใหม่ ซึ่งขึ้นตรงต่อมหาวิทยาลัยนิวโรมโดยตรง


“ดูสิ เหมือนว่าเทพเจ้าเลือกวันเกิดให้พี่พอดีเลยนะ”


เสียงทุ้มเรียบของ พิลวอน ดังขึ้นจากข้าง ๆ วันนี้ไกด์คนสนิทสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดเรียบ กับเสื้อคลุมเทาอ่อนพาดบ่า ดวงตาเรียวของเขาหยอกล้อในแสงเช้า


เอสเปอร์หันมามอง ยิ้มบาง “วันเกิดที่ต้องตื่นเช้าขนาดนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นของขวัญหรือบทลงโทษ”


“ถ้าพูดถึงบทลงโทษ” พิลวอนเลิกคิ้ว “อย่าลืมว่าวิชาแรกของพี่คือ ภาษาละตินโบราณ ของศาสตราจารย์เวเลเรียนะ”


“ขอแค่ไม่ให้เธอให้แปลบทสุนทรพจน์ของซิเซโรวันแรก ฉันถือว่าโชคดีมากแล้ว” เอสเปอร์ตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งประชด แต่ก็ยกมุมปากขึ้นนิด ๆ เหมือนจะยอมรับชะตากรรม


ทั้งสองเดินเข้าสู่ลานกลางของอะคาเดเมีย เสาหินอ่อนสีงาช้างเรียงรายสองข้างเหมือนขบวนผู้พิทักษ์จากอดีต ผนังด้านในสลักอักษรละตินคำว่า Sapientia Aeternum Est — ปัญญาคือสิ่งนิรันดร์ แสงแดดยามเช้าสาดผ่านหลังคากระจกลงบนพื้นหินอ่อนสีขาวครีม ทอดเงาเสาเป็นลวดลายสวยงามราวกับภาพวาด


เสียงสนทนาเบา ๆ ของนักเรียนที่แต่งชุดยูนิฟอร์มโรมันสมัยใหม่ เสื้อคลุมคอเปิดสีไวน์แดง ผ้าคาดเอวทองอ่อน ดังคลอไปทั่วบริเวณ เอสเปอร์สังเกตว่า มีทั้งลูกครึ่งเทพชาวกรีก โรมาเนีย อียิปต์ และแม้แต่ลูกครึ่งเทพนอร์ส ทุกคนดูมุ่งมั่นและสงบนิ่งอย่างน่าประหลาด


“ขอต้อนรับนักเรียนใหม่สู่ปีการศึกษาใหม่!”


เสียงหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากบันไดชั้นบนสุดของโถง เธอสวมผ้าคลุมสีขาวขอบทองและถือแผ่นกระดานหินบาง ๆ  ศาสตราจารย์เวเลเรีย ดอมิเทีย 


เธอก้าวลงมาช้า ๆ ดวงตาคมเข้มมองตรงไปยังเอสเปอร์ที่ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักเรียนใหม่ “นายคงเป็น เอสเปอร์… ใช่ไหม? สถาบันได้รับจดหมายจากพ่อของนายแล้ว”


เอสเปอร์ชะงักเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า “ครับ”


“ผมขอตัวไปเรียนคลาสผมก่อน” ไกด์โบกมือเล็กน้อย


“อืม แล้วเจอกันหลังเลิกเรียน”


เสียงหัวเราะแผ่วคลอท่ามกลางความขรึมของสถาปัตยกรรมโบราณ พวกเขาเดินต่อไปยังห้องเรียนชั้นสอง ห้องที่ใช้เรียนเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เพดานโค้งประดับภาพจิตรกรรมของเทพีมินเนอร์วา เทพีแห่งปัญญา แสงจากโคมไฟแก้วส่องสว่างเหนือโต๊ะหินอ่อนเรียงเป็นแถว


เอสเปอร์นั่งแถวที่สอง พิลวอนนั่งข้าง ๆ เปิดตำราเล่มหนาที่มีกลิ่นหมึกและหนังสัตว์เก่า ๆ ขณะนั้น ศาสตราจารย์เวเลเรียเดินเข้ามาพร้อมแผ่นหนังแกะ “วันนี้… เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ ฉันจะให้ทุกคนแปลคำจารึกที่พบในวิหารเบลโลนา ภาษาละตินระดับนักบวช อย่าคิดว่าแค่จำได้ก็พอ ต้องเข้าใจด้วย”


เธอวางแผ่นหนังไว้ตรงหน้าเอสเปอร์ บนพื้นมีอักษรลึกลับสลักไว้ว่า “Virtus in tenebris fulget.”


เพื่อนร่วมชั้นเรียนชะโงกหน้ามาดู “อะไรนะ วิทยาศาสตร์ในเทเนอบริส?”


เอสเปอร์ตอบกลับเสียงราบเรียบ “ไม่ใช่ วิทยาศาสตร์หรอก… ‘ความกล้าเปล่งประกายในความมืด’”


ศาสตราจารย์เวเลเรียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ตอบได้เร็วดี”


“ขอบคุณครับ” เอสเปอร์ตอบอย่างสุภาพ 


วันที่ 1



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 20428 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-10-11 20:00
โพสต์ 20,428 ไบต์และได้รับ +6 EXP +12 ความกล้า จาก ปืน AR-15  โพสต์ 2025-10-11 20:00
โพสต์ 20,428 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก โล่สคูทุม  โพสต์ 2025-10-11 20:00
โพสต์ 20,428 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก รองเท้าเดินทัพ  โพสต์ 2025-10-11 20:00
โพสต์ 20,428 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะทหารโรมัน  โพสต์ 2025-10-11 20:00
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
ไรเฟิลจู่โจมเทมเพสทัส
แมกกาซีนเทมเพสทัส
เข็มทิศ
หมวกกันน็อต
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เกราะทหารโรมัน
สัมภาระจำลอง
แจ็คเก็ต YANKEES
นาฬิกาสปอร์ต
กล่องดนตรี
แว่นตา
เกมคอนโซลพกพา
หนังสือนิยาย
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x1
x1
x15
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้