Ceres's Shrine ⋘ เทวสถานเซเรส ⋙

Moneka HONOR

วันที่ 17 เดือน ตุลาคม ปี 2025

ช่วงเช้า เวลา 08.00 - 09.00 น. ณ เทวสถานเซเรส กรุงโรมใหม่ ค่ายจูปิเตอร์

แสงเช้าลูบยอดข้าวสาลีหินแกะเหนือบานประตูวิหารเทพีเซเรส จนเหมือนรวงทองไหวเบา ๆ ตามลม โมนีก้าก้าวผ่านลานน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ไปอย่างแผ่วเบา กระเป๋าสะพายแนบอกความอุ่นจากตะวันตัวน้อยในห่อผ้าเต้น ตึก…ตึก… อย่างสม่ำเสมอ เธอหยุดหน้ารูปสลักของแม่ ผู้ทรงรวงข้าวและคอร์นูโคเปีย แล้ววางกระถางเทียนหอม กลิ่นข้าวอบน้ำผึ้งลงบนแท่นบูชา จุดไฟให้ลุกเป็นเปลวเล็ก ๆ สีอำพัน จากนั้นชันเข่าลงพนมมือ 

“แม่คะ… วันนี้หนูมาช้าหน่อยแต่ไม่ลืมนะคะ หนูได้รับเจ้าตัวเล็กเป็นฟีนิกซ์มาด้วย จะดูแลเขาให้ดีที่สุด แบบที่แม่ดูแลทุกชีวิตบนแผ่นดิน ขอให้หนูอดทนอ่อนโยนและเข้มแข็งพอสำหรับหน้าที่ใหม่นี้ด้วยนะคะ” คำภาวนาจบลง ลมเย็นจากในวิหารพัดผ่านปลายผม เปลวเทียนเอนไปทางเธอเพียงนิดก่อนกลับตั้งตรง กลิ่นหวานอุ่นของข้าวและน้ำผึ้งลอยชัดขึ้นราวเป็นคำตอบรับ เธอยกมุมปากยิ้มบาง ๆ มือขวาแตะแถบสักที่ต้นแขน รอยเส้นทองใหม่อุ่นขึ้นชั่ววูบเหมือนได้รับพร แล้วเสียงหัวใจของไข่ในกระเป๋าก็ขานรับอีกสองจังหวะพอดี

“ขอบคุณนะคะแม่… หนูจะไม่ทำให้ผิดหวัง” เธอเอ่ยเบา ๆ ลุกขึ้น ปิดฝาครอบเทียนให้ไฟคงตัว แล้วถอยออกมาสามก้าวตามพิธี ก่อนโค้งคารวะทิ้งท้าย

เมื่อก้าวพ้นชานวิหารแสงอรุณก็กวาดลานดอกไม้ให้เป็นสีทองทั้งผืน โมนีก้าปรับสายสะพายให้กระชับแนบอก มองตะวันเช้าที่ไต่เสาหินขึ้นช้า ๆ แล้วหันร่างมุ่งสู่วิหารท่านทวดเจนัสทางเนินเทมเพิลประตูแห่งการเริ่มต้นและการเลือกทางใหม่กำลังรออยู่ข้างหน้า และวันนี้ เธอมีทั้งแถบคำสัตย์บนแขน กับดวงอาทิตย์ดวงเล็กในกระเป๋า…พร้อมจะก้าวผ่านประตูบานถัดไปของโชคชะตา

รางวัล : [God-04-2] เซเรส

ถวาย เทียนหอม ของจิปาถะ เกรดเขียว - เพิ่มความโปรดปรานเทพ +15

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน  +25

โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15

เผาค่าความศรัทธาแก่เทพ

ข้า โมนีก้า เอ็ม. บลอสซัม ขอมอบศรัทธาต่อเหล่าเทพแก่ เทพีเซเรส จำนวนศรัทธาที่มอบให้: 2000 แต้ม

(ทุก ๆ 1000 ศรัทธา = 50 ความโปรดปรานต่อเทพองค์นั้น) = ได้รับความโปรดปราน +100

Moneka HONOR

วันที่ 08 เดือน พฤศจิกายน ปี 2025

ยามบ่าย เวลา 14.00 น. ณ เทวสถานเซเรส กรุงโรมใหม่ ค่ายจูปิเตอร์

รถมินิบัสค่ายจูปิเตอร์แล่นผ่านเนินเขาที่ทอดตัวเป็นคลื่นระลอกนุ่มนวลของชนบทละติน กลิ่นหญ้าสดกับกลิ่นผลไม้ที่ปลิวตามลมอบอวลอยู่ในอากาศยามบ่าย แสงแดดอ่อนสีทองละมุนแต้มทุ่งข้าวสาลีให้ส่องประกายราวกับคลื่นทองในทะเลแห่งฤดูเก็บเกี่ยว เมื่อรถจอดเทียบที่เชิงเนินเทมเพิล โมนีก้าก็สะพายกระเป๋าออกมาอย่างเบาใจ รองเท้าส้นสูงของเธอแตะพื้นหินเสียงดังแผ่ว ๆ แต่พอเดินมาถึงตรงบันไดหินอ่อนนำขึ้นสู่เทวสถาน เธอก็ถอดส้นสูงออกถือไว้ในมือแทนเพราะอยากให้แม่ได้เห็นว่าเธอเดินขึ้นมาด้วยเท้าเปล่า เหมือนครั้งตอนเด็ก ๆ 

เทวสถานของเซเรสส่องแสงระยับอยู่กลางแสงอาทิตย์ยามบ่าย ตัวอาคารทำจากหินอ่อนสีขาวประดับลวดลายรวงข้าวและผลไม้มากมาย บนยอดจั่วสลักชื่อ CERES SHRINE เอาไว้เป็นอักษรทองที่สะท้อนแสงเหมือนแสงแห่งชีวิต ด้านหน้ามีน้ำพุหินเสียงใส ต้นข้าวสาลีและดอกป๊อปปี้เรียงรายอยู่เต็มทางเดิน เสียงนกร้องและกลิ่นผลแอปเปิ้ลสุกลอยมาอ่อน ๆ ทำให้บรรยากาศสงบและอุ่นในหัวใจ

โมนีก้าเดินขึ้นบันไดช้า ๆ ผมสีน้ำตาลเข้มสะท้อนแสงทองขณะปลิวตามลม เธอขยับแหวนดาราจรัสตรงนิ้วกลางข้างซ้าย แล้วช่อดอกไม้ก็ปรากฏขึ้น ช่อทานตะวันแซมรวงข้าวสาลี เธอหัวเราะเบา ๆ กับตัวเองอย่างอ่อนโยน ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าประตูเทวสถาน 

“สวัสดีค่ะแม่ หนูมาไหว้แล้วค่ะ พึ่งกลับมาถึงค่ายเลย” น้ำเสียงเธอนุ่มแต่แฝงความอิ่มใจ “เลสเตอร์พึ่งมาส่งที่ค่ายค่ะ แล้วก็...ขอบคุณสำหรับพลังที่แม่ให้หนูก่อนออกไปนะคะ หนูได้ใช้มันจริง ๆ ในหลายครั้งเลย ขอบคุณมากค่ะ” เธอยิ้มพลางก้มศีรษะอย่างนอบน้อม สายลมอุ่นพัดผ่าน เสียงข้าวสาลีเสียดสีกันดังกรุ๊งกริ๊งเหมือนเสียงตอบรับจากผู้เป็นเทพี โมนีก้าเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเทาเงินสะท้อนเงาแสงจากประตูศักดิ์สิทธิ์ เธอกระซิบต่อเบา ๆ “แม่คงไม่ตกใจใช่ไหมคะ...ที่หนูมีแฟนเป็นเลสเตอร์ หวังว่าแม่จะไม่โหดร้ายกับเขานะคะ เขาบอกว่าเขาพยายามปรับปรุงตัวเองอยู่ หนูเองก็อยากให้แม่เห็นว่าเขากำลังพยายามเป็นเทพที่ดีขึ้นจริง ๆ” 

โมนีก้ายื่นช่อดอกไม้ถวายหน้าประตู แล้วประนมมือหลับตา ภาวนาอย่างเงียบงันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่อากาศรอบตัวจะเปลี่ยน ลมสงบลง ความร้อนจากดวงอาทิตย์คล้ายจะหลอมรวมเป็นพลังที่อ่อนโยนและอบอุ่น หยาดแสงสีทองละเอียดล้อมรอบตัวเธออย่างช้า ๆ จนเกิดวงแสงราวข้าวสาลีสุกงอม รอยยิ้มของโมนีก้าแผ่วลง เธอรู้สึกถึงบางสิ่งที่แทรกเข้ามาในร่าง พลังแห่งเซเรสที่มอบให้ เป็นความรู้ใหม่เกี่ยวกับท่วงท่าการฟันดาบเส้นโค้ง “นี่มัน...” เธอลืมตาแล้วหัวเราะเบา ๆ “แม่ให้หนูวิธีปราบเลสเตอร์เหรอคะ? โธ่ แม่ขา หนูแพ้ตั้งแต่เห็นหน้าเขาแล้วค่ะ จะให้หนูไปปราบเขาได้ยังไง”

เธอส่ายหัวพลางหัวเราะขำเอง มือเรียวลูบปลายผมเบา ๆ ก่อนหยิบเตาขนาดเล็กออกจากกระเป๋า ตั้งลงตรงหน้าประตู แล้วค่อย ๆ วางหินสีแดงงามเรียงเป็นวงกลม ทั้งหมด 121 ก้อน “ของถวายจากใจค่ะ แม่ หนูอยากให้แม่รู้ว่าหนูไม่ลืมสิ่งที่แม่สอน หนูยังคงดูแลชีวิตรอบตัวตามที่แม่เคยบอกไว้เสมอ” เธอจุดเปลวไฟจากไฟแช็ค ปล่อยให้มันลามช้า ๆ จนหินแต่ละก้อนส่องแสงแดงเข้มแล้วแปรเปลี่ยนเป็นประกายหายไปในอากาศ เธอพนมมืออีกครั้งแล้วลุกขึ้น ดวงตาเทาเงินทอดมองเทวสถานที่ส่องประกายอยู่ท่ามกลางท้องทุ่ง

“หนูจะไปไหว้ทวดต่อนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะแม่” เธอกล่าวเสียงอ่อนโยน ก่อนหมุนตัวเดินลงบันได ชุดสีขาวครีมที่เธอสวมสะบัดเบา ๆ ตามแรงลม กลิ่นไลแลคและเบอร์รี่หวานลอยคลุ้งไปกับแสงเย็นของบ่ายที่กำลังจะกลายเป็นเย็นย่ำ ราวกับคำอวยพรของเทพีแห่งพืชผลยังคงตามเธอไปทุกที่ แม้ในยามที่หัวใจของเธอกำลังเต้นแรงเพราะใครบางคนก็ตาม

ปลดพลังเทพเซเรส

เทคนิคดาบโค้ง (Lv.15) ใช้ตื่นรู้ 3 หน่วย

เผา หลักฐานการย่อย บูชาเทพ จำนวน 128 ก้อน

ได้รับ ค่าเกียรติยศ 100 หน่วยต่อ 1 หลักฐาน = 121 x 100 = 12100 เกียรติยศ

รางวัล : [God-04-2] เซเรส

ถวาย ช่อดอกไม้ ของจิปาถะ - เพิ่มความโปรดปรานเทพ +15

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน  +25

โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15

เผาค่าความศรัทธาแก่เทพ

ข้า โมนีก้า เอ็ม. บลอสซัม ขอมอบศรัทธาต่อเหล่าเทพแก่ เทพีเซเรส จำนวนศรัทธาที่มอบให้: 3000 แต้ม

(ทุก ๆ 1000 ศรัทธา = 50 ความโปรดปรานต่อเทพองค์นั้น) = ได้รับความโปรดปราน +150

Moneka HONOR

วันที่ 09 เดือน พฤศจิกายน ปี 2025

ยามเที่ยง เวลา 15.00 น. ณ เทวสถานเซเรส กรุงโรมใหม่ ค่ายจูปิเตอร์

ยามบ่ายของวัน แสงทองอ่อนสะท้อนกับหลังคาหินอ่อนสีงาช้างของวิหารเทพีเซเรส วิหารที่ตั้งอยู่กลางเนินทุ่งเทมเพิลอันเขียวขจีซึ่งรายล้อมด้วยสวนผลไม้และไร่ข้าวสาลีที่พลิ้วไหวตามแรงลม เสียงนกร้องระงมผสานกลิ่นหอมสดของเกสรดอกไม้ที่ลอยคลุ้งในอากาศ ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนอยู่ระหว่างโลกมนุษย์กับแดนสวรรค์ 

โมนีก้าเดินขึ้นบันไดหินสีขาวอย่างแผ่วเบา ชุดโค้ทสีครีมที่เธอสวมสะท้อนกับแสงแดดจนดูเหมือนเปล่งประกายอยู่ในท้องฟ้า ผมสีน้ำตาลเข้มที่แซมไฮไลท์ฟ้าอิเล็กทริกพลิ้วไปตามแรงลม เธอยกมือแตะไหล่เบา ๆ ที่ซึ่งมีเงาดำโปร่งแสงของเจ้าเหมียวออร่าเกาะอยู่ แมวผีนำโชคที่เธอรับมาเป็นเพื่อนคู่ใจ มันเหยียดตัวบิดขี้เกียจบนไหล่เธอ ดวงตาสีอำพันของมันสะท้อนแสงเหมือนเปลวไฟในแสงบ่าย

“ถึงแล้วนะ เหมียวออร่า…” เสียงของเธอนุ่มราวสายลมพัดผ่านรวงข้าว ก่อนจะยิ้มบาง ๆ แล้วก้าวเข้าสู่วิหาร ภายในนั้นเต็มไปด้วยแสงอบอุ่นและกลิ่นดินสดใหม่ผสมกลิ่นผลไม้สุก โมนีก้าก้มศีรษะเบา ๆ เมื่อเดินผ่านรูปปั้นหินอ่อนของเทพีเซเรสที่ตั้งอยู่กลางห้อง บนแท่นบูชาเต็มไปด้วยข้าวสาลี ดอกไม้ และผลไม้นานาชนิด ทั้งหมดเป็นเครื่องสักการะจากลูกหลานของเทพีเซเรส “แม่…” เธอเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้ารูปปั้น “โมนีก้ามาแล้วค่ะ ไม่ได้มาขอพรเรื่องใหญ่หรอกนะ… แค่คิดถึง” เสียงของเธอแผ่วลงเมื่อพูดจบ

เหมียวออร่ากระโดดลงจากไหล่ มันเดินวนรอบแท่นบูชาก่อนจะนั่งนิ่ง เงยหน้ามองรูปปั้นด้วยท่าทีสงบ ราวกับมันเองก็สัมผัสถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ของที่แห่งนี้ โมนีก้าหยิบเทียนหอมกลิ่นกฤษณาออกจากกระเป๋า จุดมันด้วยไฟปลายนิ้วที่ส่องแสงอ่อนจากพลังธรรมชาติ ก่อนจะหลับตาและภาวนา ไม่นานหลังจากนั้น เสียง “ฟู่” เบา ๆ ดังขึ้นเหนือศีรษะ ลมพัดวนรอบห้องอย่างแผ่วเบา และบางสิ่งบางอย่างร่วงหล่นลงบนตักเธอ ถุงผ้าสีทองเล็ก ๆ ที่ปักลายรวงข้าวและเถาวัลย์

โมนีก้ามองมันอย่างประหลาดใจ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ความรู้สึกอุ่นร้อนแผ่ซ่านทั่วร่างกาย คล้ายพลังบางอย่างกำลังไหลเข้าสู่หัวใจของเธอ พลังนั้นไม่รุนแรง แต่หนักแน่น เต็มไปด้วยความรักและชีวิต ทันใดนั้น เถาวัลย์สีเขียวสดที่เคยพาดอยู่ตามผนังวิหารเริ่มเคลื่อนไหวเองอย่างช้า ๆ ก่อนจะเลื้อยเข้ามาจากทุกทิศ เสียง “ซวบ” ดังขึ้นรอบตัว เธอเบิกตากว้าง 

“มะ...แม่?” เถาวัลย์พันรอบขาเธอ ลามขึ้นมาที่ลำตัวอย่างรวดเร็ว ดอกไม้เล็ก ๆ ผลิบานตามรอยที่มันแตะต้อง เจ้าเหมียวออร่ากระโจนขึ้นไหล่เธออีกครั้ง ส่งเสียงร้องเบา ๆ แต่เถาวัลย์ก็พันมันไว้เช่นกัน “เดี๋ย—” คำพูดยังไม่ทันจบ ร่างทั้งคู่ก็ถูกห่อหุ้มแน่นหนาด้วยเถาวัลย์และแสงสีทองที่แผ่จากพื้นหินอ่อน แสงนั้นเจิดจ้าจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใด

ในเสี้ยววินาทีต่อมา… ทั้งเธอและออร่าก็จมหายลงไปในผืนดินเหมือนน้ำซึมลงทราย เถาวัลย์คลายตัวกลับสู่สภาพเดิม ทุกอย่างกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงน้ำพุหน้าวิหารที่ยังคงไหลริน เสียงลมพัดผ่านทุ่งข้าวสาลี และกลิ่นหวานของผลไม้ที่ยังอบอวลอยู่ในอากาศ ไม่มีใครอยู่ในวิหารอีกต่อไป ราวกับโมนีก้าและแมวผีของเธอไม่เคยก้าวเข้ามาเลยด้วยซ้ำ ทิ้งไว้เพียงกลิ่นไลแลคอ่อน ๆ ที่ยังลอยอ้อยอิ่งอยู่หน้าบันไดหิน คล้ายกับว่า...เทพีเซเรสเพิ่งรับคำขอของลูกสาวแล้วพาเธอไปยังที่ที่ดินเท่านั้นจะเข้าใจ

ปลดพลังเทพเซเรส

ดาบโค้งสคิมิทาร์ (Lv.15) ใช้ตื่นรู้ 6 หน่วย

และ วาร์ป----- แค่ก ๆ พอดีเลย อิอิ ให้่แม่เอาดาบให้พร้อมเร๊ยยย นี้ไง ลูกรักกก

The Offering of Sulla (พิธีบูชายัญหมูแด่เซเรส)

Per suem fictilem, Ceres benigna messes futuras benedicat.

(Through the clay pig we offer, may gracious Ceres bless next year’s harvest with abundance.)

          แสงแดดยามกลางวันสาดส่องลงมาต้องกับยอดหญ้าสีทองอร่ามบนเนินเขาโดยรอบเทวสถานเซเรสซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าและสวนผลไม้ของเนินเทมเพิล องค์ประกอบของเทวสถานถูกประดับประดาด้วยพวงองุ่นสีม่วงเข้ม ผลแอปเปิ้ลสีแดงสดและรวงข้าวสาลีที่หนักอึ้งราวกับเป็นการแสดงความอุดมสมบูรณ์ที่เทพีประทานให้

          บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดินแดนและพืชพรรณ ผู้คนจำนวนหนึ่งยืนรายล้อมน้ำพุกลางลานหน้าเทวสถาน บางคนก็กำลังเดินเข้าออกซุ้มขายผลไม้ที่ประดับด้วยผ้าสีขาวนวลและสีส้มดินเผา ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่อยู่ในชุดสบาย ๆ แต่หลายคนถือตะกร้าหวายหรือถุงผ้าที่มีของถวาย

          กิจกรรม The Offering of Sulla ในวันนี้คือช่วงเวลาที่เราทุกคนต้องหยุดพักจากการสู้รบและภารกิจ เพื่อขอบคุณและขอพรให้การเก็บเกี่ยวในปีหน้าอุดมสมบูรณ์ ไม่มีอดอยาก การจำลองพิธีบูชาโบราณนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความเคารพ

          ภายในโถงทางเข้าของเทวสถานเต็มไปด้วยของถวายที่บรรดาเดมิกอตและพลเมืองนำมาวางไว้บนแท่นบูชา ของถวายส่วนใหญ่เป็นผลิตผลจากธรรมชาติเป็นขนมปังอบใหม่จากธัญพืชหลากหลายชนิด เค้กน้ำผึ้งที่ดูน่าอร่อย หรือผลไม้ตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างดี และเหยือกที่บรรจุนมหรือเครื่องดื่มธัญพืชหอมหวาน กลิ่นหอมของอบเชยและแป้งโดว์ลอยอบอวลไปทั่ว ราวกับเป็นการกระซิบขอบคุณเทพีเซเรสจากใจจริง

          ถัดจากแท่นถวายอาหาร คือจุดที่เตรียมไว้สำหรับ พิธีบูชายัญ ซึ่งแม้จะเรียบง่ายแต่ก็ศักดิ์สิทธิ์ ตามธรรมเนียมโบราณคือการบูชายัญหมู แต่สำหรับยุคนี้เราใช้ ตุ๊กตาหมู (ที่สะอาด) เป็นสัญลักษณ์แทน (แน่นอนว่าลดความรุนแรง)

          บริเวณพิธีเชือดเป็นพื้นหินที่ถูกทำความสะอาดอย่างดี ข้างแท่นวางมีเศษซากของตุ๊กตาหมูที่เพิ่งถูกเชือดด้วยมีดอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการเคารพต่อพิธีกรรมก่อนหน้านี้ บางตัวเป็นตุ๊กตาผ้าฝ้ายสีชมพูขาวที่ดูน่ารัก แต่ถูกกรีดอย่างประณีตบริเวณลำคอเพื่อแสดงถึงการยอมรับและบูชายัญ ส่วนผู้ทำพิธีก็จะพับเก็บเศษซากตุ๊กตาเหล่านั้นเพื่อนำไปทำลายอย่างเหมาะสม

          ในพิธีกรรมอันเรียบง่ายนี้ ผู้คนแต่ละคนจะยกมือขึ้นขอพรจากเทพีอย่างเงียบๆ ขอให้ผืนดินมีแต่ความเมตตา ให้ฤดูหนาวผ่านไปอย่างปลอดภัย และหวังว่าพลังแห่งความอุดมสมบูรณ์จะคุ้มครองค่ายไปตลอดปีหน้า เป็นอีกวันที่สงบสุขและเต็มไปด้วยความหวัง ที่ทุกคนพร้อมจะทำตามประเพณีเพื่อสานต่อมรดกแห่งโรม... และเพื่อขอบคุณเทพีเซเรสผู้เลี้ยงดูโลกใบนี้มาตลอด 

✨ วิธีเข้าร่วมพิธี (ทำวันไหนก็ได้)

ขั้นตอนที่ 1: คุณสามารถโรลเพลย์นำอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่ม ที่คุณเตรียมไว้มาถวายแด่เทพีเซเรส

➡️สำคัญ: อย่าลืม ส่งไอเทมอาหาร/ขนม/เครื่องดื่ม นั้นๆ ไปให้ ID ของแอดมินด้วยนะ!
➡️ผลลัพธ์: คุณจะได้รับค่า ความโปรดปรานเทพ +10 แต้ม ทันที (ตามปกติ)
➡️โบนัสพิเศษ: หากคุณมาในฐานะตัวเอง (ไม่ได้สวมคาร์ NPC/TGC) คุณจะได้รับโบนัสความโปรดปรานเพิ่มตามสถานะของคุณ (เช่น HEROES +25, BELIEVER +15)!

ขั้นตอนที่ 2: พิธีบูชายัญตุ๊กตาหมู (แบบจำลอง!)
นำ ตุ๊กตาหมู (ที่สะอาด) เตรียมมาและมีด (ต้องส่งไอเทมตุ๊กตาไปให้แอดมินนะ)
➡️โรลเพลย์ทำพิธีบูชายัญ: เชือดคอตุ๊กตาอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการเคารพพิธีกรรมโบราณและขอพรให้ปีหน้ามีผลผลิตเยอะๆ!

รางวัลกิจกรรมทุกคนจะได้รับ : ความโปรดปรานจากเทพีเซเรส +25 แต้ม (ไม่รวมของถวายอย่าลืมใส่ค่าความโปรดปรานจากของถวายด้วย) ,+1 VIT (ถ้าสเตตัส VIT ตันแล้วจะได้ เหรียญเซเรส 1 อัน แทน)

🔶โบนัสพิเศษ (สำหรับผู้ที่มาในฐานะตัวเอง) จะได้รับ ข้าวแท่งพลังงาน 2 แท่ง เพิ่ม!🔶

Vives annos [ลิงค์กิจกรรมหลัก]

Moneka HONOR

วันที่ 24 เดือน พฤศจิกายน ปี 2025

ช่วงสาย เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ วิหารแม่

ภายใต้แสงอรุณอ่อนของกรุงโรมใหม่ เนินเทมเพิลทอดตัวงดงามท่ามกลางสายลมปลายฤดูเก็บเกี่ยว กลิ่นหญ้าแห้งผสมกลิ่นผลไม้สุกลอยอวลประหนึ่งกำลังประกาศว่าฤดูกาลนี้เป็นของผู้ที่เกิดมาใต้ร่มเงาเทพีเซเรสโดยแท้ โมนีก้าเดินขึ้นทางลาดหินอ่อนด้วยจังหวะมั่นคง แม้รองเท้าส้นสูงจะไม่ใช่คู่ที่เหมาะจะใส่เดินขึ้นเขานัก แต่ความคุ้นชินกับที่นี่ทำให้ทุกย่างก้าวของเธอเต็มไปด้วยความแน่วแน่และความผูกพันอย่างลึกซึ้ง

วิหารเซเรสเด่นสง่าอยู่ด้านบนสุด ประหนึ่งอ้อมแขนของแม่ที่คอยเปิดรับลูกกลับบ้าน ผนังหินอ่อนสลักพวงข้าวสาลีดูราวกับลมปลายฤดูเก็บเกี่ยวพัดกระเพื่อมพวกมันให้ขยับได้จริง ประตูหินถูกเปิดแง้มเล็กน้อยรอผู้ศรัทธา เสียงน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ด้านในดังแผ่วเบา กลายเป็นดนตรีอ่อน ๆ ที่ผสานเข้ากับหัวใจของโมนีก้าทันทีที่เธอก้าวเข้าสู่ภายใน อุณหภูมิในวิหารอุ่นขึ้นราวกับพื้นที่ทั้งหมดถูกสวมกอดด้วยความรักของเทพี 

โมนีก้าเผลอถอนลมหายใจเบา ๆ ความเหนื่อยล้าจากภารกิจอันยาวนานเหมือนหลุดออกจากบ่าทีละชั้น เธอคุกเข่าลงหน้ารูปสลักของเซเรส หัวใจเต้นเป็นจังหวะสงบที่เธอหาไม่ได้จากที่ไหนนอกจากที่นี่ โมนีก้าประสานมือหลับตา พูดด้วยเสียงอ่อนนุ่มที่แฝงความผูกพันลึกที่สุดในชีวิตของเธอ “แม่… ฉันกลับมาแล้วนะคะ กลับมาถึงกรุงโรมใหม่แล้วค่ะ” เมื่อกล่าวจบสายน้ำในน้ำพุเหมือนสั่นไหวรับคำทักทาย ลมอุ่นบางเบาพัดผ่านท้ายทอยของเธอประหนึ่งการลูบศีรษะจากคนเป็นแม่ที่ไม่ได้ใช้มือของมนุษย์

โมนีก้าค่อย ๆ ลืมตา แล้วพูดต่ออย่างแผ่วเบาอย่างขำ ๆ “ช่วงนี้ฉันจะอยู่ติดค่ายนะคะ มีงานเทศกาลหน้าหนาวกับงานของสภา… ต้องเตรียมหลายอย่างเลยค่ะ แต่ฉันจะมาไหว้แม่ทุกวัน เหมือนเดิมค่ะ” สิ้นคำ ภายในวิหารเกิดความสงบแปลกประหลาด ก่อนที่โมนีก้าจะรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง ราวกับกระแสพลังงานที่อบอุ่นลื่นไหล มันนุ่มละมุน พัดเข้ามาหาเธอโดยไม่ต้องมีลม พลังนั้นลอดผ่านผิวหนัง แทรกลงไปถึงกระดูก แล้วหยั่งรากลึกถึงหัวใจของเธอโดยที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้แม้แต่น้อย

เธอขยับหายใจช้า ๆ อย่างเผลอไผล ราวกับกำลังดูดรับฤดูเก็บเกี่ยวเข้ามาในร่างกายทั้งฤดูในคราวเดียว “อืม… รู้สึกได้เลยค่ะ…” กลิ่นธัญพืชสดลอยวาบ ปลายนิ้วเธอสั่นเล็กน้อยจนเธอต้องแตะที่อกตัวเอง พลังเหมือนกำลังไหลรวมลงในลำแสงหนึ่งที่ซึมเข้าสู่เธออย่างแผ่วเบา และจู่ ๆ เธอก็รู้ นี่คือของขวัญ ของขวัญจากแม่ผู้มอบชีวิตและสายเลือด

ความสามารถใหม่เบ่งบานในตัวเธอคล้ายต้นกล้าที่งอกขึ้นจากดินในยามรุ่งสาง เธอรับรู้ถึงมันอย่างชัดเจนราวกับความทรงจำที่เพิ่งเพิ่มเข้ามา เธอยิ้มออกมาโดยไม่ต้องฝืน ดวงตาสีเทาเงินเป็นประกายสว่างขึ้นมาราวกับมีแสงฤดูเก็บเกี่ยวซ่อนอยู่ข้างใน “ขอบคุณค่ะแม่… สำหรับของขวัญชิ้นนี้” เธอก้มศีรษะลึกด้วยหัวใจที่เต็มแน่นไปด้วยความรักและความภักดี “สุขสันต์ช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยวและต้นฤดูหนาวค่ะแม่”

เมื่อลุกขึ้น เธอสัมผัสได้ว่าก้าวของเธอเบากว่าเดิม แข็งแรงกว่าเดิมและอุ่นกว่าเดิมราวกับมีผืนดินทั้งผืนคอยประคอง โมนีก้าหันหลังให้รูปสลักแล้วเดินออกจากวิหารด้วยท่วงท่าแน่นิ่งแต่มุ่งมั่น ผมสีน้ำตาลเข้มไฮไลท์ฟ้าของเธอปลิวตามลมอ่อน ๆ กลิ่นไลแลคผสมเบอร์รี่หวานลอยเจือไปกับอากาศ และทันทีที่เท้าแตะพื้นลานหน้าวิหาร เธอเงยหน้าขึ้นมองทางเดินที่ทอดยาวลงสู่เนินเทมเพิลอีกครั้ง ก่อนเอ่ยพึมพำกับตัวเองเสียงแผ่วแต่ชัดเจน

“ต่อไป… ก็วิหารทวดเจนัสสินะ”

ปลดพลังเทพเซเรส

จำแลงร่าง (Lv.30) ใช้ตื่นรู้ 4 หน่วย

Xolotl HONOR

วันที่ 26 เดือน พฤศจิกายน ปี 2025

เวลาเช้า เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ เทวสถานเซเรส

◀️┃▶️

แสงแดดยามสายอาบไล้ลงบนผิวสีขาวอมชมพูของคีอาร์อย่างอ่อนโยน ราวกับกำลังรับรู้ถึงความเย็นนิ่งในตัวเด็กสาวผู้เป็นบุตรแห่งลมเหนือ เธอก้าวขึ้นบันไดหินอ่อนของเทวสถานเซเรสด้วยฝีเท้าเบา ร่างเพรียวในชุดเรียบร้อยสไตล์ Dark Academia เคลื่อนไหวอย่างสงบงามในสถานที่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของดิน ผลไม้สุก และลมหายใจของฤดูกาลเก็บเกี่ยว ถึงจะเป็นงานบูชาที่ผู้คนส่วนมากตั้งใจมาร่วม แต่คีอาร์กลับเลือกมาในเวลาที่ไม่มีใครอยากมา เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย ทุกฝีเท้าของเธอปะทะความเงียบสงบที่หาได้ยากในฤดูกาลเทศกาลเช่นนี้ คีอาร์เข้ามาถึงโถงบูชาหลัก เธอวางตะกร้าแอปเปิ้ลลูกโตสีแดงสด คัดอย่างดีจนแทบไร้รอยตำหนิ ลงบนแท่นหินด้วยท่วงท่าสุภาพเรียบร้อย ดวงตาฉายแววกังวลอ่อน ๆ แบบเด็กสาวที่ตั้งใจทำดีแต่ไม่มั่นใจนัก

“ขอบคุณสำหรับเทศกาลค่ะ” เธอกล่าวเสียงเบา แผ่วจนเหมือนกระซิบกับลม

แต่ความคิดจริงในใจกลับเป็นอีกอย่าง… คือ ‘ของง่าย ๆ แบบนี้ก็คงเพียงพอแล้วสำหรับธรรมเนียมของมนุษย์…’

กลิ่นเพลย์มอร์แตงโม-เมนทอลประจำตัวของเธอลอยปะปนกับกลิ่นน้ำผึ้งและขนมปังอบใหม่ในเทวสถาน เกิดเป็นสัมผัสกลิ่นที่หนักเบาสลับกันอย่างประหลาด กระทั่งนกน้อยบนหลังคาก็เหมือนจะหันมามองเธอ ก่อนจะโผบินหนีเหมือนรับรู้ถึงความเย็นลึกที่แผ่ออกมาจากใจเธอ คีอาร์ก้าวไปยังพื้นที่ประกอบพิธีบูชายัญ จุดที่ใช้ตุ๊กตาหมูแทนหมูจริง วางเรียงอยู่เป็นระเบียบอย่างสะอาดสะอ้าน ดวงตาเทาอมเขียวมองตุ๊กตาหมูตัวสีชมพูอ่อนตรงหน้า ประกายในแววตายิ่งน่าขนลุกเมื่อแสงตกกระทบ

คีอาร์หยิบมีดขึ้นมาอย่างตั้งใจ ปลายนิ้วเรียวยังคงสั่นเล็กน้อยเหมือนเด็กขี้กลัวตามภาพลักษณ์ที่เธอสร้างไว้ แต่ภายในกลับนิ่งเฉยเหมือนพื้นน้ำแข็งไม่มีคลื่น เธอกรีดลำคอของตุ๊กตาอย่างรวดเร็วแม่นยำและไร้ความลังเล เสียงผ้าถูกเฉือนเบา ๆ ดังก้องในความเงียบของห้องพิธี

นุ่นสีขาวฟู ๆ ทะลักออกมาจากรอยกรีด เธอใช้นิ้วเกี่ยวมันออกอย่างใจเย็น ก่อนนำซากตุ๊กตาที่ไร้ไส้ไปวางลงในภาชนะหินที่เตรียมไว้สำหรับซากบูชายัญ คีอาร์มองมันอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาไร้ความรู้สึกสะท้อนภาพตุ๊กตาหมูยับเยินนั้นราวกับสะท้อนภาพคนจริง ๆ ที่กำลังไร้ชีวิต แล้วมุมปากเธอก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในพิธีบูชาที่เต็มไปด้วยความเคารพ

“รู้สึกเหมือนพรากชีวิตจริง ๆ เลยนะคะ…” เธอพึมพำเสียงนุ่มหวานอย่างใสซื่อ เหมือนเด็กสาวที่กำลังสับสนกับประสบการณ์แปลกใหม่

‘มนุษย์โบราณนี่เข้าใจเรื่องสัญลักษณ์ดีจริง… พลังชีวิตถูกแทนได้ด้วยของง่าย ๆ แบบนี้เอง’

คีอาร์วางมีดลงอย่างเรียบร้อยกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ก่อนจะเดินออกจากพื้นที่พิธีอย่างเงียบกริบ ร่างเล็กสง่างามค่อย ๆ เลื่อนผ่านแสงแดดอุ่นนวลจากบานประตูเทวสถานที่เปิดรับลมอ่อน ๆ เมื่อเธอก้าวออกไปสู่ลานกว้าง เสียงน้ำพุและกลิ่นผลไม้สดก็ลอยเข้ามาทักทาย เธอยืนนิ่งครู่หนึ่ง สายลมเบา ๆ พัดผ่านผมของเธอ คีอาร์ยิ้มสุภาพก่อนก้าวลงบันไดหิน  ปล่อยให้สายลมพัดเก็บกลิ่นแตงโม-เมนทอลจาง ๆ ของเธอทิ้งไว้ในเทวสถานของเซเรส

รางวัลสำหรับผู้เข้าร่วมงาน : +1 VIT, ข้าวแท่งพลังงาน 2 แท่ง(มาด้วยตัวเอง)

รางวัล : [God-04-2] เซเรส

ถวาย แอปเปิ้ล - เพิ่มความโปรดปรานเทพ +10

โบนัสจาก บูชายัญตุ๊กตาหมู - ความโปรดปรานจากเซเรส +25

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน  +25

โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15

(ส่งแอปเปิ้ล และ ตุ๊กตาหมูเรียบร้อยแล้ว)

Moneka HONOR

วันที่ 27 เดือน พฤศจิกายน ปี 2025

ช่วงบ่าย เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ เทวสถานเซเรส (กิจกรรม The Offering of Sulla (พิธีบูชายัญหมูแด่เซเรส))

แสงแดดช่วงกลางวันโปรยลงมาต้องกับเนินเขาสีทองอร่ามที่ทอดกว้างไปจนสุดสายตา ทำให้เทวสถานของเทพีเซเรสดูราวกับกำลังส่องประกายจากภายในตัวเอง ประตูหินแกะสลักลวดลายรวงข้าวและผลไม้อุดมสมบูรณ์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง พร้อมด้วยพุ่มองุ่นสีม่วงเข้มที่ไหลย้อยลงมาจากชายคาราวกับสายน้ำหวานจากสวรรค์ กลิ่นดิน กลิ่นหญ้า และกลิ่นผลไม้สุกคละคลุ้งอยู่ในอากาศอย่างอุ่นใจ เหมือนโลกทั้งใบกำลังกอดกุมผู้มาเยือนด้วยความอ่อนโยนของแม่ผู้ยิ่งใหญ่

โมนีก้าในชุดเช้าวันสบาย ๆ เดินฝ่าบรรยากาศแสนอบอุ่นนั้นเข้ามาด้วยถุงผ้าใบเล็กที่บรรจุของถวาย เธอสูดลมหายใจลึก กลิ่นซินนามอน ผสมแป้งโดว์ และกลิ่นหวานของผลไม้ที่อบอวลอยู่ทั่วโถงทำให้หัวใจเธอผ่อนคลายอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมาหลายวัน

“สวัสดีค่ะ คุณแม่…” เธอพึมพำเบา ๆ เธอไม่ได้พูดกับใครโดยตรง แต่กับวิหารทั้งหลังกับพลังของเทพีเซเรสที่สถิตอยู่ในนั้น

แท่นถวายอาหารวางเรียงรายด้วยขนมปังจากธัญพืชหลากชนิด เค้กน้ำผึ้ง ผลไม้สด และเหยือกนมธัญพืช ผู้คนหลายคนยังยืนขอพรเงียบ ๆ อยู่หน้าบันได โมนีก้าเดินขึ้นไปอย่างช้า ๆ ก่อนจะดึงกล่องเล็กสีขาวครีมออกมา เปิดออกให้เห็นเบอร์รี่ชีสพายที่เธออบเองเมื่อคืน เต็มไปด้วยความรัก ตั้งใจ และความเป็นลูกสาวของเทพีแห่งพืชผล “หวังว่าจะชอบนะคะ…” เธอยกของถวายวางบนแท่นเบา ๆ “หนูทำเองค่ะ แม่ต้องชอบแน่ ๆ”

เมื่อเสร็จในส่วนของขนม เธอก็ขยับตัวไปยังอีกแท่นหนึ่ง แท่นพิธีบูชายัญยุคใหม่ที่ตั้งอยู่ถัดไปไม่ไกล เสียงผู้คนรอบ ๆ เบาลงทันทีเหมือนทุกคนให้ความเคารพต่อช่วงเวลานี้ บนแท่นวาง มีเศษซากของตุ๊กตาหมูหลายตัววางรอการเก็บกวาด ตุ๊กตาผ้าฝ้ายสีชมพูอ่อน ๆ ที่ถูกกรีดคออย่างประณีตตามธรรมเนียม ไม่ใช่ความรุนแรง แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งการขอบคุณเจ้าป่าเจ้าดิน แบบที่โรมันโบราณเคยทำ

โมนีก้าค่อย ๆ หยิบตุ๊กตาหมูตัวนุ่มจากถุงผ้าตัวเองออกมา สีชมพูอ่อน น่ารักจนดูเหมือนไม่ควรแตะต้อง แต่พิธีคือพิธี เธอหยิบมีดเซรามิกขนาดเล็กสะอาดและคมกำลังดี ก่อนจะสูดลมหายใจเตรียมตัว “ขอให้ผลผลิตปีหน้าของพวกเราคุ้มค่า… ขอให้ผืนดินอ่อนโยนกับทุกคน…” เธอพึมพำ

จากนั้นเธอก็เชือดเส้นด้ายที่เป็นสัญลักษณ์ลำคอของตุ๊กตาอย่างรวดเร็วและสงบเงียบ การลงมือที่เร็วและนุ่มนวลจนไม่เห็นความลังเลใด ๆ ตุ๊กตาหมูถูกวางลงในตะกร้ารวมซากอย่างเรียบร้อย เธอปัดเศษด้ายเล็ก ๆ ที่ติดปลายนิ้วออก พลางยิ้มบาง ๆ ให้แท่นบูชา

“รักแม่นะคะ มาถวายของแล้วค่ะ… หนูไปก่อนนะ”

เสียงของเธอนุ่มจนเหมือนสายลมพัดผ่านยอดข้าวสาลี รอบตัวโมนีก้าแผ่วเบาเหมือนธรรมชาติเองกำลังก้มศีรษะรับคำของเธอ เธอหมุนตัวลงบันไดทีละขั้น ท่ามกลางผู้คนที่ยังคงทำพิธีของตนเองอยู่ บางคนเงยหน้ามองเธอพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน บรรยากาศอบอุ่นของการร่วมกันขอบคุณเทพีทำให้หัวใจเธอรู้สึกเบาสบาย

รางวัลสำหรับผู้เข้าร่วมงาน : +1 VIT, ข้าวแท่งพลังงาน 2 แท่ง (มาด้วยตัวเอง)

รางวัล : [God-04-2] เซเรส

ถวาย เบอร์รี่ชีสพาย - เพิ่มความโปรดปรานเทพ +10

โบนัสจาก บูชายัญตุ๊กตาหมู - ความโปรดปรานจากเซเรส +25

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน  +25

โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15

(ผมค่ายจูปิเตอร์ แต่...ผมแม่งครบ 10 ดวงแล้ว)

Sanz Mádl Count

Son of Poseidon

   EVENT

The Brumalia Commencement
The Offering of Sulla: พิธีบูชาเซเรส
25.11.2025 --- 2.00 pm

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ใช้ชีวิตปิดเทอมให้คุ้มค่าด้วยการนอน ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เที่ยงวัน กว่าจะทำธุระส่วนตัวเสร็จปาไปบ่ายสองโมง รู้สึกว่ากิจกรรมงานวันแรกคือการบูชาเทพีเซเรสที่วิหารบนเนินเทมเพิล ถึงจะออกสายไปหน่อยแต่วิหารเซเรสคงไม่เดินหนีเหล่าผู้ศรัทธาไปไหน ผมไปยังวิหารแห่งนั้น สถานที่ที่ค่ายฮาล์ฟบลัดไม่เคยมี

คนเยอะสมกับเป็นวันแรก...

เข้าคิวอยู่นานทีเดียวกว่าจะได้ถวายของแก่เทพีเซเรสเพื่อขอความอุดมสมบูรณ์ในปีต่อไป กิจกรรมหลักเห็นทีจะไม่พ้น 'การบูชายันต์หมู' ได้ยินแบบนี้อย่าเพิ่งตกใจ หากเป็นประเพณีเมื่อพันปีก่อนเห็นทีคงไม่พ้นเชือดหมูจริง ๆ จนเลือดสาดหน้าลานวิหารอย่างแน่นอน แต่ยุคสมัยใหม่ไม่นิยมการทารุณกรรมสัตว์เป็นเครื่องสังเวย พิธีกรรมการบูชาเทพในช่วงหลังจึงเป็นการสังเวยด้วยตุ๊กตา

ฉึก!

ดาบสัมฤทธิ์วิเศษปาดไปบนคอของตุ๊กตาหมูน้อยจนซากนุ่นกระจุยกระจายออกมา ในขณะที่ภาวนาขอให้การเกษตรในปีหน้ารุ่งเรือง 'ขอให้ปีหน้าอุดมสมบูรณ์ ไม่แห้งแล้ง มีของอร่อย ๆ กินทั้งปี' แม้ว่าผมจะไม่เกี่ยวข้องกับวิถีชาวนาเท่าไรแต่อย่างน้อยขอให้มีกินไม่อดตายคงไม่เหนือบ่าไปกว่าแรง

"แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วสินะ"

หลังจากบูชายันต์น้องหมูเสร็จเรียบร้อย ผมก็ถวายทาร์ตผลไม้ให้พระนางอีกชิ้นนึง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

รางวัลสำหรับผู้เข้าร่วม:
บูชาทาร์ตผลไม้ ได้รับ ความโปรดปรานจากเซเรส +10 แต้ม
บูชายัญตุ๊กตาหมู ได้รับ ความโปรดปรานจากเซเรส +25 แต้ม
ได้รับ +1 VIT

NPC - CABIN 3

NC

Clementis HONOR

Clementis

Haus of Ratigan • Daughter of Justitia • Legacy of Orcus

Place

เทวสถานเซเรส

Date and Time

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2025 • 18:10 น.

Purpose

เข้าร่วมพิธีบูชาเซเรส

บทสรุปของการสำรวจงานเทศกาลในวันแรกคือเธอไม่ได้มีเวลามากพอจะเข้าร่วมกิจกรรมใดเลย คลีเมนทิสมีโอกาสทำเพียงเดินดูสินค้าจากแผงร้านค้าต่าง ๆ แต่อย่างน้อยการทำเช่นนั้นก็ส่งผลให้หญิงสาวพอจดจำเส้นทางได้คร่าว ๆ และไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับการตามหาซุ้มกิจกรรมในวันถัดมา

เพราะแวะอ่านรายละเอียดตั้งแต่เมื่อวานจึงมีเวลาให้เตรียมอาหารสำหรับถวายแก่เทพีเซเรสเพื่อแสดงความขอบคุณและขอพร ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นสมาชิกใหม่ของค่ายจูปิเตอร์ ข้อเท็จจริงว่าเธอเพิ่งย้ายไปใช้ชีวิตที่ค่ายเป็นหลักได้เพียงไม่นานแถมยังไม่ใช่พวกแพ็กกระเป๋าด้วยหลักแนวคิดของการขนบ้านไปทั้งหลัง สิ่งที่มีอยู่ในครอบครองจึงน้อยนิดนัก

ในรายการตัวเลือกที่ไม่ได้มากมายสักเท่าไหร่ คลีเมนทิสพยายามคัดสรรสิ่งที่น่าจะเหมาะสมกับองค์เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเก็บเกี่ยวมากที่สุด

เด็กสาวเคยอ่านพบว่าในหลาย ๆ ครั้งพวกผู้ใหญ่อาชีพเกษตรกรรมจะถวายธัญพืชหรือผลผลิตส่วนหนึ่งจากการเก็บเกี่ยวครั้งแรกให้กับท่าน บุตรีแห่งจัสติเทียหวังเพียงว่าท่านจะยังไม่เบื่อหน่ายธัญพืชมากจนเกินไปนัก

นอกจากธัญพืชอบเกลือแล้วสิ่งที่ถูกเตรียมไว้ยังมีตุ๊กตาหมูเท่าที่ความสามารถของเธอจะหาซื้อได้ภายในเวลาไม่ถึงวัน มันเป็นส่วนผสมระหว่างควาสมจริงเกินกว่าจะดูน่ารักและการไม่สมจริงมากเพียงพอจะนำไปเทียบกับหมูตัวเป็น ๆ แต่ก็ยังนับเป็นหมูทั้งยังสะอาดสะอ้าน อยู่ภายใต้เงื่อนไขครบทุกประการ

คลีเมนทิสไม่ใช่พวกที่มีประสบการณ์กับมีดมากเท่าไหร่แม้ในแง่ของงานครัว น่าเหลือเชื่อเมื่อพิจารณาว่าอากัปกิริยาที่ฉับไวและสีหน้าเรียบนิ่งในตอนที่ใช้มันเชือดคอตุ๊กตาหมูดูราวกับทำเป็นกิจวัตรแต่ทุนเดิม

เท่านั้นขั้นตอนของการถวายอาหารและบูชายัญเพื่อเคารพพิธีกรรมโบราณก็เสร็จสิ้นลงอย่างเรียบร้อย ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลราทิแกนทิ้งท้ายด้วยการค้อมตัวเล็กน้อยด้วยความเคยชินขณะขอพรถึงผลผลิตในปีถัดจากนี้

โอน ธัญพืชอบเกลือ และ ตุ๊กตายัดนุ่น ให้กับ ID GOD แล้วเรียบร้อย
รางวัลการเข้าร่วมกิจกรรมที่ 2 • The Offering of Sulla

• ความโปรดปรานเทพ +10 (จากการถวายอาหาร)
• ความโปรดปรานจากเซเรส +25 (จากการบูชายัญ)
• VIT +1
• ข้าวแท่งพลังงาน +2

Eloise HEROES

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2025
เวลา 13.00 น.

วันต่อมาเอโลอิสตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมตามตารางที่ระบุไว้ในงาน The Grand Brumalia ซึ่งเป็นพิธีบูชาที่จัดขึ้นที่เทวสถานเซเรส เทพีแห่งการเกษตรของโรมัน เธอมาถึงสถานที่ดังกล่าวพร้อมกับ กระเช้าผลไม้หวายสานใบเล็กเเรียบง่าย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาบูชาเทพที่ไม่ใช่เทพกรีกอย่างจริงจัง

เมื่อเดินเข้าใกล้เนินเขาที่ตั้งของเทวสถาน แสงแดดยามกลางวันก็สาดส่องลงมาต้องกับยอดหญ้าสีทองอร่าม บนเนินเขาโดยรอบ องค์ประกอบของเทวสถานเซเรสที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าและสวนผลไม้ของเนินเทมเพิลนั้น ดูสง่างามและเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์อย่างแท้จริง

พวงองุ่นสีม่วงเข้มห้อยระย้าอยู่ตามเสาหินอ่อน ผลแอปเปิ้ลสีแดงสดถูกวางเรียงอย่างสวยงามและรวงข้าวสาลีที่หนักอึ้งถูกนำมาประดับราวกับเป็นการแสดงความอุดมสมบูรณ์ที่เทพีประทานให้ทุกปี บรรยากาศโดยรอบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดินแดนและพืชพรรณที่เพิ่งเก็บเกี่ยว มีผู้คนบางส่วนยืนรายล้อมน้ำพุกลางลานหน้าเทวสถาน ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่อยู่ในชุดสบาย ๆ ที่เน้นความเป็นพลเมืองโรมันอย่างเรียบง่าย หลายคนถือตะกร้าหวายหรือถุงผ้าที่มีของถวายอยู่ในนั้น

กิจกรรมในวันนี้คือ The Offering of Sulla ซึ่งตามที่เธอได้อ่านมาคร่าว ๆ มันคือช่วงเวลาที่ทุกคนต้องหยุดพักจากการสู้รบและภารกิจเพื่อขอบคุณและขอพรให้การเก็บเกี่ยวในปีหน้าอุดมสมบูรณ์

เอโลอิสเดินเข้าไปภายในโถงทางเข้าของเทวสถานซึ่งเต็มไปด้วยของถวายวางไว้บนแท่นบูชา กลิ่นหอมของอบเชยและแป้งโดว์ลอยอบอวลไปทั่ว ราวกับเป็นการกระซิบขอบคุณเทพีเซเรสจากใจจริง เอโลอิสยกกระเช้าผลไม้ของเธอขึ้นถวายอย่างเงียบ ๆ บนแท่นบูชา ของถวายส่วนใหญ่เป็นผลิตผลจากธรรมชาติที่ดูเรียบง่าย เธอเลยเลือกผลไม้เพราะน่าจะเป็นอะไรที่เพลย์เซฟที่สุดในการถวาย อย่างน้อยการถวายของที่นี่ก็ไม่ต้องโยนเข้ากองไฟอย่างน่าเสียดายแบบที่ค่ายฮาล์ฟบลัด

แต่จุดที่ทำใช้เอโลอิสชะงักไปครู่หนึ่งคือพื้นที่บูชายัญ สมัยนี้เขายังบูชายัญกันอยู่อีกเหรอ? จากที่คนที่นั่นบอกมา คือ ตามธรรมเนียมโบราณแล้วพวกเขาจะบูชายัญหมู แต่สำหรับยุคนี้ทางนิวโรมได้ใช้ตุ๊กตาหมูที่สะอาดแทนเพื่อลดความรุนแรงและคงไว้ซึ่งพิธีกรรม แต่ความคิดของเอโลอิสก็คิดว่ามันก็ป่าเถื่อนอยู่ดีนะ

เอโลอิสเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยความสงสัย ตุ๊กตาหมูบางตัวเป็นตุ๊กตาผ้าฝ้ายสีชมพูขาวที่ดูน่ารัก แต่ถูก กรีดอย่างประณีตบริเวณลำคอ เพื่อแสดงถึงการยอมรับและบูชายัญในเชิงสัญลักษณ์ ผู้ทำพิธีจะพับเก็บเศษซากตุ๊กตาเหล่านั้นเพื่อนำไปทำลายอย่างเหมาะสมในภายหลัง

“แปลกชะมัด” เอโลอิสพึมพำกับตัวเองเบา ๆ 

เอโลอิสรับตุ๊กตาหมูตัวหนึ่งมาไว้ในมือ มันดูนุ่มนิ่มและไร้เดียงสาอย่างที่สุด ข้างๆ กันนั้นมีมีดสั้นที่ถูกทำความสะอาดจนขึ้นเงาวาววับวางเตรียมไว้ เธอรู้สึกถึงความขัดแย้งอย่างรุนแรงในใจ แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อให้พิธีสมบูรณ์ เอโลอิสก้มลงกระซิบกับตุ๊กตาหมูตัวนั้นเบา ๆ

“ฉันต้องขอโทษด้วยนะเจ้าหมูน้อย” เสียงของเธอนั้นแผ่วเบาจนแทบไม่มีใครได้ยิน “นี่เป็นเพียงการแสดงออกถึงความเคารพในธรรมเนียมโบราณเท่านั้นเอง โปรดอวยพรให้การเก็บเกี่ยวของเราอุดมสมบูรณ์ด้วยนะ”

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นจึงหยิบมีดสั้นขึ้นมาอย่างมั่นคง ทักษะความแม่นยำของบุตรีแห่งเฮเฟตัส ถูกนำมาใช้ในการกระทำที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เธอเคยทำมา

ฉึก!

เอโลอิสกรีดมีดลงไปที่บริเวณลำคอของตุ๊กตาอย่างรวดเร็วและแม่นยำที่สุดเท่าที่จะทำได้ รอยกรีดนั้นดูประณีตราวกับงานฝีมือเพื่อแสดงถึงการยอมรับและบูชายัญตามพิธีกรรม ตุ๊กตาหมูถูกนำไปวางไว้ข้าง ๆ ซากตุ๊กตาตัวอื่น ๆ บนแท่นบูชา

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเอโลอิสยืน ยกมือขึ้นขอพรจากเทพีเซเรสอย่างเงียบ ๆ ขอให้ผืนดินมีแต่ความเมตตา และหวังว่าอำนาจแห่งความอุดมสมบูรณ์จะคุ้มครองทุกคนไปตลอดปี

เมื่อพิธีจบลงและผู้คนเริ่มทยอยกันออกจากเทวสถาน เอโลอิสก็เดินออกจากบริเวณนั้นอย่างเงียบ ๆ เธอเดินลงจากเนินเขาเทมเพิล ทิ้งกลิ่นหอมของธัญพืชไว้เบื้องหลังเพื่อมุ่งหน้าไปยังกิจกรรมอื่นที่รอคอยอยู่ในนิวโรมต่อไป

กิจกรรมที่ 2 The Offering of Sulla (พิธีบูชายัญหมูแด่เซเรส)

[God-04-2] เซเรส

ถวายตะกร้าผลไม้ โบนัสความโปรดปราน +10 แต้ม
บูชายัญตุ๊กตาหมู ความโปรดปรานจากเซเรส +25 แต้ม

หัว HEROES เพิ่มความโปรดปราน +25 แต้ม

โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ)  +15 แต้ม

+1 VIT และ ข้าวแท่งพลังงาน 2 แท่ง

@God