หลังจากที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ภริดา อารยภักดีเทวราช เธอได้ทำการปลดล็อกพลังสายเลือดแห่งเทพีเฮคาที ให้ตื่นจากการหลับใหล ที่ตรงบริเวณรูปปั้น ของ เทพีมารดาเฮคาที พร้อม กับ เด็กหญิงริดาตัวน้อยๆ ยังได้รับพลัง และ สกิลแรกที่มีชื่อว่า การสื่อสาร กับ ภูติปีศาจ มาเป็นที่เรียบร้อย ทุกอย่างก็ค่อยๆ เริ่มเงียบ และ สงบลงอีกครั้งหนึ่ง ในตอนนี้ มีเพียงแค่แสงไฟจากคบเพลิงที่กลับมานิ่งสงัด กลิ่นกำยานค่อยๆ จางลง จะเหลือก็แค่เพียงเงาที่กำลังทอดยาว ตามบริเวณผนัง ของ โถงพิธีบูชา

หลังจากนั้นเด็กหญิงตัวน้อยๆ ก็ค่อยๆ เริ่มทำการถอนหายใจอย่างแผ่วเบาออกมา ... การถอนหายใจในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าเพราะเธอรู้สึกเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะว่าความเงียบที่เริ่มซึมลึกลงไปภายในจิตใจ ของ เด็กหญิงตัวน้อยๆ มันคล้ายกับม่านหมอกที่กำลังปกคลุมตัวตนเดิม ของ เธอเอาไว้และในตอนนี้ มันก็ดูเหมือนว่าจะค่อยๆ เริ่มทำการคลายตัวลงไป ทีละชั้น ทีละชั้น และเด็กหญิงริดาตัวน้อยๆ ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ในตอนนี้เธอก็เพียงแค่ค่อยๆ ทำการเดินก้าวเรียวขาบาง เดินทางออกไปจากตรงบริเวณโถงพิธีบูชาแห่งนี้ทันที

เสียงฝ่าเท้าเล็กๆ ของ เด็กหญิงริดาตัวน้อยๆ กำลังค่อยๆ เริ่มกระทบ กับ พื้นหินอย่างแผ่วเบาจนกระทั่งในเวลาต่อมา เธอก็เดินมาหยุดลงตรงหน้าปรัตูไม้สีเข้ม ซึ่งเป็นทางเข้านำไปสู่ห้องนอนส่วนตัว บนป้ายทองเล็กๆ มีสลักอักษรเขียนไว้ว่า ภริดา อารยภักดีเทวราช ถูกเขียนไว้อย่างเรียบง่าย หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการเอื้อมมือข้างขวาเล็กๆ ของ เธอไปหมุนที่ลูกบิดประตูอย่างช้าๆ หลังจากนั้นประตูก็ค่อยๆ ทำการเปิดออกกว้างเผยให้เห็นถึงโลกใบเล็กๆ ที่อบอุ่น และ ลึกลับในเวลาเดียวกันภายในห้องนอน ตกแต่งด้วยโทนสีม่วงเข้มสลับดำ คล้ายม่านรัตติกาลที่โอบล้อมดวงจันทร์ไว้ โคมไฟระย้าคริสตัลห้อยอยู่กลางห้องอย่างวิจิตร งดงามราวหยดน้ำค้างแขวนบนกิ่งไม้ยามรุ่งสาง เตียงขนาดคิงไซส์ถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย พร้อม กับหมอนหลายใบจัดซ้อนกันอย่างมีระเบียบบนผ้าคลุมเตียงกำมะหยี่สีม่วงเข้ม ผ้าม่านหนาหนักปลิวไหวเบา ๆ ตามแรงลมที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง บนโต๊ะข้างเตียง มีโคมไฟคริสตัลส่องแสงส้มอ่อนราวเปลวเทียน และหนังสือเก่าเล่มหนึ่งถูกเปิดค้างไว้ม้านั่งบุผ้าสีม่วงวางอยู่ปลายเตียง รอรับน้ำหนักของใครสักคนที่อาจนั่งลงในค่ำคืนเหงา ๆ ที่ตรงบริเวณพื้นปูพรมขนสัตว์สีดำเงา ที่นุ่มเท้าและให้สัมผัสอุ่นเหมือนอ้อมกอดของความเงียบ

เด็กหญิงริดาตัวน้อยๆ ค่อยๆ ทำการเดินก้าวเรียวขาบาง เดินทางเข้าไปภายในบริเวณด้านใน ของ ห้องนอน ของเธอ โดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการปิดประตูบานนั้นลงให้สนิทเรียบร้อย ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เริ่มเดินก้าวเรียวขาบางเดินตรงดิ่งไปหยุดอยู่ที่ตรงบริเวณกระเป๋าสัมภาระที่วางพิงไว้ข้างบริเวณม้านั่ง หลังจากนั้นเธอก็เริ่มต้นจัดเก็บข้าวของอย่างใจเย็น สมุดหนังสีดำ หมึกเงิน ถุงสมุนไพรที่มีกลิ่นบัวหลวงแห้ง และของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ทุกสิ่งถูกจัดวางลงในลิ้นชัก ในกล่องไม้ และบนชั้นวางของอย่างเป็นระเบียบ

เด็กหญิงริดาตัวน้อยๆ ไม่ได้ทำการเปิดเสียงเพลงฟัง หรือ ปล่อยให้ตัว ของ เธอเองอยู่กับความบันเทิงใดๆ เพราะสำหรับตัวเธอเองแล้ว ... ความสงบ คือ เพื่อนคนสนิทที่อยู่ด้วยกันเสมอ หลังจากที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ได้ทำการเก็บของเสร็จ เธอก็เดินเข้าสู่ห้องน้ำ ปิดประตูเบา ๆ เพียงสักครู่หนึ่ง ... ร่างบางก็กลับออกมาพร้อมชุดนอนผ้าฝ้ายสีเทาอมม่วงเรียบง่าย ผมยาวถูกปล่อยลงแนบต้นคอที่เปียกชื้นเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ เริ่มก้าวขึ้นไปบนเตียงนอนอย่างช้า ๆ และทำการล้มตัวลงบนหมอน มือเล็กค่อยๆ เริ่มทำการเอื้อมไปหยิบสมุดหนังสีดำที่เธอวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะค่อยๆ เริ่มทำการคลี่หาหน้าว่างหน้าหนึ่งค่อย ๆ ถูกเปิดออก... หลังจากนั้นปลายปากกาหมึกเงินจรดลงเบา ๆ มีใจความถูกเขียนขึ้นมาว่า
"ค่ำคืน ของ วันแรก หัวใจฉันยังสั่น ... แต่ไม่มีความรู้สึกหวาดกลัว ภายในห้องนอน ตลอดจนบริเวณด้านนอก ของ ห้อง ... มีเงาของคบเพลิง ... มืดแต่ไม่เย็น และก็ราวกับมีมืออ่อนโยนของใครบางคน วางลงบนไหล่ของฉัน... และกำลังบอก กับ ฉันว่าไม่เป็นไรแล้ว" หลังจากที่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ริดา ทำการเขียนเสร็จ เธอก็ค่อยๆ เริ่มทำการปิดสมุดบันทึก และ โคมไฟข้างเตียง ลงอย่างเบามือ หลังจากนั้นร่างเล็ก ของ เด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ก็ค่อยๆ เริ่มทำการจมหายลงไป ภายในผ้าห่มสีม่วงเข้ม ทิ้งไว้แค่เพียงความเงียบ ของ ห้องนอน และตามมาด้วยเสียง ของ ลมหายใจที่กำลังดังสม่ำเสมอ ของ เด็กหญิงริดาที่ในเวลานี้ ดวงตาของเธอกำลังหลับสนิท แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในตอนนี้ เธอกำลังนอนกอดหมอนใบเล็กไว้แนบอก พร้อมกับใจดวงหนึ่งที่เริ่มรู้แล้วว่า ... คืนนี้ เธอไม่ได้อยู่ลำพังอีกต่อไป.
