[บ้านพักหมายเลข 7] หน้าบ้าน

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×


Carbin 07 Apollo






บ้านของเหล่าลูกๆ เทพแห่งดวงอาทิตย์ ดนตรี กวี ศิลปะ ยิงธนู และการรักษา นามว่าอะพอลโล เป็นบ้านที่มีทั้งความสนุกสนานและครึกครื้นและก็เก่งกาจเรื่องการยิงธนูและการรักษามากที่สุดในค่ายแห่งนี้ เหล่าลูกๆของอะพอลโลมักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นดนตรี กานแต่งบทกวี การวาดภาพ การฝึกซ้อมยิงธนู หรือ กำลังช่วยรักษาให้คนอื่นอยู่ ทำให้ภายในของบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเครื่องดนตรี สมุด ดินสอ กระดาษวาดภาพ สี คันธนู และอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษา และยังตกแต่งไปด้วยพิณโบราณตามจุดต่างๆ ในบ้าน





แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 3050 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-2-29 18:51
โพสต์ 2024-12-30 11:59:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Activity Form

[บ้านพักหมายเลข 7] หน้าบ้าน

ย้อนเวลา 23 / 12 / 2024 เวลา 13.30 น.




หลังจากที่เธอซ่อมบ้าน แบบว่า... ดูไม่จืดไปกว่าเดิมเลยเธอก็รีบเดินออกมามาอยู่หน้าบ้านหลังถัดไปมันอยู่ไม่ไกลจากเดิมเท่าไหร่

พอเดินมาเล็กน้อยก็ถึงแล้วบ้านของ เหล่าบุตรและธิดาของอะพอลโล หรือบ้านพักหมายเลข 7 นั้นเอง

หรือถ้าเรียกก็คือคนที่ เดินทางมารับพวดเธอแต่ก็ไม่ได้ เดินทางมาส่งแต่อย่างใดทิ้งให้เธอกลับอย่างยากลำบากเลย

เดี๋ยวจะถือโทษอีกฝ่ายก็คงไม่ได้เพราะว่าเค้าบอกว่าเค้ามารับแต่เค้าไม่ได้บอกนิ ว่าเค้าจะมาส่งด่วย

อีกอย่างเธอก็รวมตัวอยากไปเองด้วย เพราะงันพูดอะไรไม่ได้หรอกนะ

จะทำยังไงได้เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านบ้านหลังนี้ดูไม่มีอะไรบุบสลายเลยทุกอย่างดูปกติมาก 

มีแค่ของหน้าบ้านที่ดูกระจัดกระจายแล้วก็เสียหายไปบ้างเล็กน้อย 

ตัวบ้านยังอยู่ดีไม่เอนเอียงเหมือนกับบ้านหลังก่อนที่เธอไปเจอมา 

เธอหยิบไม้กวาดมาปัดกวาด จัดแจงเข้าของที่เสียหายจากด้านนอก

อย่างเช่น เก้าอี้สนาม หรือโต๊ะ หลอดไฟ และตัวโคมไฟด้านนอกบ้าน ของต่างๆ ที่อยู่ด้านนอกของตัวบ้าน

ไหนจะกระถางต้นไม้ที่แตก หรือเสียหายไปบ้าง แม้ว่าตัวบ้านจะไม่ได้รับความเสียหายมากเท่าไหร่แต่เรื่องของรอยแตกก็ยังพอมีอยู่บ้าง

เธอคิดภาพไม่ออกเลยว่าเขาสู้กันยังไง ทำของเสียหายกันได้ขนาดนี้ ยิ่งบ้านก่อนหน้านี้นะ มันเรียกว่าเยอะเลย เด็กสาวที่คิดเอาเองว่า .... เขาน่าจะเอาปืนใหญ่ออกมาสู้กันหรือเปล่า ของเเบบพังหนักมากเลยทีเดียว

แต่เธอจะไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องนี้หรอกนะเพราะว่าเดี๋ยวจะทำออกมาแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 

เธอก็เลยจัดแจงเก็บกระถางต้นไม้ที่แตกออกใส่ถุงดำ แล้วเธอก็จัดแจงเดินเอามันไปทิ้ง

เธอยังไม่ลืมที่จะลากเก้าอี้ที่มันพังออกมาด้วยเพราะว่ามันทะลุเป็นรูเลย 

อาจจะเกิดขึ้นจากการต่อสู้ในจัพวกโต๊ะที่พังขาโต๊ะที่หัก 

แต่ทุกอย่างโดยรวมดูโอเคเลยมันดูไม่มีอะไรเสียหายมากเท่าไหร่ยกเว้นของรอบรอบบ้าน 

อาจจะมีเรื่องของหลอดไฟที่ดูจะแตกบ้าง  เพราะถ้าเห็นตัวโคมไฟนั้นแตกเธอก็เลยคาดการณ์เอาไว้ว่าหลอดไฟก็น่าจะเสียหายเช่นกัน

แต่เรื่องหลอดไฟเสียเสียหายสำหรับลอร่าแล้ว ... คือเธอก็เปลี่ยนหลอดไฟไม่เป็นด้วยแถมท่าทางจะไม่ใช่แค่เปลี่ยนหลอดไฟ คงต้องเปลี่ยนทั้งตัวโคมไฟเลย เนื่องจากโคมไฟตัวนี้มันก็ท่าทางจะใช้การต่อไม่ได้แล้วนะ

เธอเก็บของรอบบ้านอย่างดี  แต่รอบนี้เธอไม่ได้แปะโน้ตหรือเขียนอะไรไว้ให้เพราะว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้อยู่แล้วว่าบ้านนั้น ได้รับความเสียหายบ้างแต่ก็ยังเรียกว่าปกติดี กว่าบ้านหลังอื่นๆ

แม้จะได้รับความเสียหายแต่ก็ถือว่าได้รับความเสียหายน้อย 

เธอที่เก็บของทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ลากของนั้นออกไปไปทิ้ง 

มันคือของตกแต่งบ้านที่ไม่สามารถใช้ได้แล้วไหนจะ  หมอนที่กระจุยกระจาย 

เธมัดมันใส่ถุงแล้วก็รวมไปก่อนที่จะเอารถเข็นออกมาเข็นมันออกไปเลย

เนื่องจากวิธีนี้มันยังทุ่นแรงแล้วก็ประหยัดพลังงานพลังงานเธอก็เลยใช้วิธีนี้ เธอจะได้ไม่ต้องหิ้วเองให้หนักมือ

หวังว่าบ้านหลังอื่นจะเสียหายน้อยแบบนี้นะ  แต่ทางที่ดีดีไม่เสียหายอะไรเลยน่าจะดีกว่า

คิดไปแล้วบ้านเธอรอดได้ยังไงเนี่ยทำไมไม่มีลูกหลงอะไรตกมาเลย 

แต่ก็นับเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่มีอะไรเสียหาย  เพราะค่าซ่อมแซมก็คงไม่มีปัญญาใช้คงไม่ต้องไปเบิกเงินพ่อมาทำแน่นอน

เธอนึก ก่อนที่ท้องของเธอนั้นจะเริ่มร้องขึ้น

เสียงคำรามจากท้องดังขึ้นเป็น เหมือนกับสัญญาณที่บอกว่าเธอเริ่มจะหิวแล้วด้วย

ร่างเล็กเอามือป้องท้องของตัวเองเล็กน้อยแล้วก็เดินไปที่โรงอาหารเธอว่าเธอต้องไปหาอะไรทานสักหน่อยก่อนที่จะทำงานอื่นต่อได้ 

เพราะว่ากองทัพน้อยของเธอนั้นเดินด้วยท้อง 

คงต้องกินให้อิ่มแล้วค่อยทำงานต่อนะ!!




  โรลเพลย์ซ่อมแซมจะได้รับโบนัสจากโรลเพลย์ +15 EXP 

แสดงความคิดเห็น

God
โรลเพลย์นี้ใช้แลกรางวัลแล้ว  โพสต์ 2024-12-30 23:47
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2024-12-30 12:32
โพสต์ 15689 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-30 11:59
โพสต์ 15,689 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-12-30 11:59
โพสต์ 15,689 ไบต์และได้รับ +3 EXP +4 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-12-30 11:59
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
Hydro X
บัตรส่วนลดรถไฟ HP 2025
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เข็มกลัดไดโอนีซุส
แว่นกันแดด
ขลุ่ยไม้เถาองุ่น
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
สัมผัสแห่งองุ่น
ธนู
ชุดเครื่องเพชร
หมวกปีกกว้าง
ความคิดสร้างสรรค์
โรคสมาธิสั้น
ต่างหูเงิน
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x6
x3
x1
x2
x2
x2
x2
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x3
x2
x4
x4
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x4
x7
x9
โพสต์ 2024-12-31 04:43:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-12-31 04:44

268
เดินสายซ่อมบ้าน
               
               27/12/2024 เวลา 14.06 น. - 17.50 น.

               รายงานความคืบหน้าการทำห้องสัตว์เลี้ยงของบ้านโพไซดอน…

               เมื่อวานเหล่าบุตรแห่งเจ้าสมุทรได้ทำการทาสีรองพื้นของห้องสัตว์เลี้ยงทั้งด้านในและด้านนอกไปแล้ว ที่เหลือรอให้สีแห้งจึงค่อยทาสีจริงทับ หากพูดถึงขั้นตอนแล้วก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากมากมาย เริ่มจากการทำความสะอาดพื้นผิวของปูน อุดรอยแตกด้วยอะคริลิก จากนั้นเก็บรายละเอียดรอยโป๊วที่ผนังให้เรียบทั่วกัน จากนั้นใช้เทปกาวในการแปะตามขอบต่าง ๆ เช่นขอบหน้าต่างไม่ให้สีเลอะไปโดน

               งานละเอียดเป็นของนายช่างใหญ่ไทสัน ส่วนดีนและน้องชายคนอื่น ๆ มีหน้าที่ในการทาสีอย่างเดียว ห้องสัตว์เลี้ยงไม่ได้กว้างขวางก็เลยเสร็จงานไวและได้พักผ่อน แล้วค่อยมาทาสีจริงในวันรุ่งขึ้นซึ่งก็คือวันนี้… การทำงานเสร็จสิ้นรวดเร็วไม่แพ้เมื่อวานเพราะมีตั้งสี่แรงมือ ทั้งที่ความจริงมีช่างทาสีเพียงแค่คนเดียวก็เหลือแหล่ แต่อย่างว่า… ทุกคนน่าจะติดลมความสนุกจากการทาสีผนังกันตั้งแต่เมื่อวาน

               หลังจากจัดการงานทาสีของห้องเสร็จเรียบร้อยสิ่งต่อไปที่ทำได้ก็คือการรอสีให้แห้ง เหล่าสายเลือดเทพสมุทรจึงสลายโต๋แยกย้ายกันไปทำงานอย่างอื่น บางคนก็ไปช่วยซ่อมแซมสถานที่อื่น ๆ ในค่ายฮาล์ฟบลัด บางคนก็ไปพักผ่อน หรือบางคนปลีกวิเวกไปที่ทะเลสาบ

               ขอจบการโม้เรื่องบ้านตัวเองลงเพียงเท่านี้

               .
               .
               .

               ในเวลาว่างของวัน ชายหนุ่มชาวเท็กซัสหนึ่งเดียวในบ้านโพไซดอน ติดใจกับการซ่อมแซมบ้านจึงเดินไปตามกระท่อมหลังอื่น ดูว่าที่ไหนขอความช่วยเหลือและได้รับความเสียหายมาบ้าง ดูเหมือนว่ากระท่อมที่โชคร้ายจะมีกระท่อมโพไซดอน อะธีน่า อะพอลโล่ อะโฟร์ไดท์ ฮิปนอส และเฮคาที นอกนั้นปลอดภัยดีอาจจะมีแค่สนามหญ้าหน้าบ้านแหว่งไปนิดหน่อย ในระหว่างนี้ชายหนุ่มก็ทำการสำรวจประชากรของกระท่อมแต่ละหลังตามคำสั่งของคุณดีไปด้วยเลย

               บ้านที่ซ่อมเสร็จแล้วเห็นจะมีเพียงโพไซดอนกับเฮคาทีที่มีกำลังพลเยอะ และมีพ่อมดที่เสกเครื่องเรือนทำงานเองได้จึงไม่ลำบากลำบนในการซ่อมแซมมากเท่าไร ส่วนบ้านที่เหลือทั้งกำลังคนน้อย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กที่เรี่ยวแรงน้อยกันทั้งนั้น อย่างเช่นกระท่อมที่ดีนตัดสินใจช่วยเหลือในวันนี้ คือกระท่อมหมายเลขเจ็ด อะพอลโล่ ที่มีผู้อยู่อาศัยเพียงสองคนนั่นก็คือ ทิปตา ปินตัง และเคธี่ เฟย์ อาศัยอยู่ นอกจากนี้เหตุผลอีกอย่างคือ ดีนได้ไปลงชื่อกิจกรรมของกระท่อมอะโฟร์ไดท์เอาไว้แล้วได้ดูโอเมทเป็นหญิงสาวรุ่นพี่ของบ้านนี้เลยอยากไปทำความรู้จักกันสักหน่อย

               ดีนหยุดยืนอยู่หน้าบ้านหมายเลขเจ็ด สายตาสำรวจร่องรอยต่าง ๆ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเสียหายมากมาย ไม่แน่ว่าสองศรีพี่น้องบ้านเทพสุริยันจะจัดการทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็แหงมแหล่ะ.. นี่ก็ผ่านมาตั้งห้าวันแล้วนี่นา ใครจะปล่อยให้ตัวเองอยู่กับบ้านพัง ๆ ได้ไหว แต่ก็นั่นแหล่ะ นอกจากการซ่อมบ้านดีนยังมีวัตถุประสงค์อื่นอีก

               ก๊อก.. ก๊อก..

               “มีใครอยู่ไหม?”

               ดีนป้องปากตะโกนเข้าไปด้านในกระท่อมอะพอลโล่ ตอนนี้เขาเริ่มคิดเรื่องกระดิ่งหน้าประตูบ้านจับจิต จากการที่เขาต้องมาเคาะประตูหน้าบ้านคนอื่นแล้วตะโกนเรียกแบบนี้ตั้งหลายครั้ง (สำหรับบ้านเฮคาทีไม่นับ เพราะว่าดีนเข้าออกจนพรุนราวกับว่าเป็นกระท่อมของตนเอง) หรือจะซื้อกระดิ่งอัตโนมัติมาติดไว้ที่หน้าบ้านโพไซดอนดี? จะว่าไปก็เป็นความคิดที่เข้าท่าใช่เล่น

               “ครับ มาแล้วครับ” เสียงแตกหนุ่มของบุรุษที่ยังไม่โตเต็มวัยดีตะโกนออกมาจากด้านในบ้าน จากนั้นประตูไม้ก็เปิดออก เป็นทิปตาที่มาเปิดประตูให้ “สวัสดีครับพี่ดีน มี.. เอ่อ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

               ดูท่าทางหนุ่มน้อยชาวซีจะตกใจใช่เล่นเมื่อจู่ ๆ มีคนมาเคาะประตูถึงหน้าบ้าน บางทีแล้วทิปตาอาจยังคงหลอน ๆ จากเหตุการณ์เมื่อวันนั้นอยู่ เพียงแต่คราวนี้ไม่มีแซเทอร์เป่าแตรวิ่งรอบค่าย

               “ฮายอาจารย์ คือว่าฉันมาทำแบบสำรวจประชากรในบ้านน่ะ แล้วก็อยากถามด้วยว่าที่บ้านนายมีอะไรเสียหายบ้างไหม จะมาช่วยซ่อมน่ะ”

               “ครับ ถ้างั้นเชิญเข้ามาก่อน” ทิปตาเปิดประตูบ้านให้ดีนเข้ามาอย่างว่าง่าย

               หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมดีนถึงเรียกหนุ่มน้อยว่า ‘อาจารย์’ คืองี้… เรื่องมันมีอยู่ว่าช่วงเดือนมีนาคมที่ดีนได้เข้ามาอยู่ที่ค่ายฮาล์ฟบลัดใหม่ ๆ คุณดีได้จัดปาร์ตี้รอบกองไฟเฮสเทียขึ้น ไม่ต้องบอกก็คงเดาภาพออกว่าปาร์ตี้ที่จัดโดยเทพแห่งงานรื่นเริงจะสนุกสุดเหวี่ยงแค่ไหน แต่ก็นั่นแหล่ะ พอมีปาร์ตี้ติดต่อกันทุกสัปดาห์ร่างกายก็เริ่มล้าจนลุกไม่ขึ้น วันหลัง ๆ ดีนจึงอยากไปงานแบบชิล ๆ สบาย ๆ ไม่ปล่อยให้ดื่มหนักจนร่างกายพัง

               วันนั้นเขาเห็นเด็กกลุ่มหนึ่งล้อมวงเล็ก ๆ กันอยู่ที่ข้างกองไฟ ร้องเพลงเล่นกีต้าร์กันเองจึงไปร่วมแจม คนอย่างดีนสนิทกับคนอื่นได้ไม่ยากอยู่แล้ว ชายหนุ่มจึงตีซี้ขอให้เด็กที่ร้องเพลงเล่นกีต้าร์เก่งที่สุด ซึ่งก็คือทิปตา สอนการเล่นกีต้าร์ให้ ทว่าหลังจากนั้นเขาก็แทบจะไม่ได้จับเครื่องสายนี้อีก จนมอบอุคุเลเล่ที่ซื้อมาจากมินิมาร์ทให้แมคเคนซีไปเพราะรายนั้นเล่นดนตรีได้เก่งชวนเคลิ้มเลยทีเดียวเชียวล่ะ…

               จบการระลึกความไว้ก่อน… ดีนเดินเข้าไปในห้องโถงของกระท่อมหมายเลขเจ็ด ที่นี่ตกแต่งสไตล์มินิมอลแต่ยังคงความอบอุ่นเหมือนนั่งอยู่หน้าเตาผิงให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้าน แม้คนจะน้อยแต่กลับดูไม่เงียบเหงา เฟอร์นิเจอร์บางอย่างให้กลิ่นอายของตะวันออก แสดงถึงรสนิยมความชื่นชอบของเทพผู้ขับขี่ราชรถสุริยันได้เป็นอย่างดี

               “บ้านนายดูไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลยนะ”

               “เสียหายอยู่บ้างนิดหน่อยครับ มีโคมไฟแตกกับกระถางต้นไม้หัก แต่เมื่อหลายวันก่อนคุณลอร์ร่าจากกระท่อมคุณดีมาช่วยเก็บกวาดให้ สภาพเลยออกมาดูดีแบบนี้ล่ะครับ ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงอันเบาอย่างคนสนทนาไม่เก่ง หากให้ร้องเพลงเล่นกีต้าร์คงจะดีกว่านี้ ซึ่งดีนรู้ถึงลักษณะนิสัยนั้นเขาจึงพยายามเป็นผู้ชวนคุย

               “ดีจังแฮะ ถือว่าเสียหายน้อยกว่ากระท่อมฉันเยอะเลย แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ซ่อมแซมทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว แถมเรายังต่อเติมห้องใหม่เพิ่มอีกด้วย...”

               “ทิฟฟี่ มีใครมาเหรอ?” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังลงมาจากชั้นสอง ขัดการโม้เรื่องบ้านของดีนไว้ตรงนี้ จากนั้นเธอก็พาร่างเล็กแต่ดูสมส่วนลงมาจากบันได ดูแล้วสาวคนนี้อายุอานามน่าจะไม่ห่างจากดีนเท่าไร ที่ว่าไม่ห่างหมายถึงเธอน่าจะอายุน้อยกว่า..

               “สวัสดีครับ ผมดีน นีล จากกระท่อมหมายเลขสาม ยินดีที่ได้รู้จัก ผมมาเพื่อสอบถามเรื่องจำนวนสมาชิกภายในบ้านแล้วก็ตรวจสอบความเสียหายของกระท่อมด้วย เผื่อมีอะไรให้ผมช่วยซ่อม ตอนนี้ก็ว่างงานพอดีน่ะครับ”

               “อ๋า ดีน นีล.. นายคือดีน นีลที่ชื่อยาว ๆ คนนั้นใช่ไหม? ฉันเคธี่ เฟย์นะ ยินดีที่ได้รู้จัก แค่ว่าเรียกสั้น ๆ ว่าแคทก็ได้” จากที่กำลังเดินลงมาคราวนี้เคธี่วิ่งดุ๊ก ๆ ลงมาจากบันไดเหมือนกับคนไฮเปอร์ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าของสองหนุ่ม

               “ครับ ใช่.. ผมคือดีน นีล คนที่ชื่อยาวคนนั้น”

               ดีนขำ จะบอกว่า ‘ดีน นีล’ คือชื่อที่ยาวก็กะไรอยู่ แต่ช่องว่างระหว่าง ‘ดีน’ และ ‘นีล’ ได้ยัดชื่อกลางพ่วงนามสกุลแม่ลงไป จากนั้นกดคลิกขวาซ่อนเอาไว้จนแทบลืมสนิท จะว่าไป… หากว่าแม่ไม่หนีจากพ่อไปแล้วอยู่เป็นคุณนายเจ้าของโรงแรมจะเป็นยังไงนะ? ป่านนี้ชื่อของเขาคงไม่ใช่ดีน นีลคนชื่อยาว แต่เป็น ‘เอลวิน สตอร์ม’ คนชื่อสั้นแทน

               “แต่เฮ้.. คุณคือรุ่นพี่เคธี่คนนั้นเหรอ? ให้ตายสิ ผมคิดว่าคุณอายุน้อยกว่าผมซะอีก!” อดตะลึงไม่ได้จริง ๆ เป็นคำชมที่กล่าวออกมาจากใจไร้สารปรุงแต่งเลยทีเดียว

               “ขอบใจที่ชมนะ แต่เห็นแบบนี้ฉันอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้วล่ะ” รุ่นพี่สาวหัวเราะคิกคัก สำหรับผู้หญิงเมื่อถูกชมว่าอายุน้อยย่อมดีใจเป็นธรรมดา

               “ว่าแต่คุณรู้จักผม?”

               “โอ้ แน่สิ! ก็นายเป็นคู่หูเล่นเกมของฉันนี่นา เกมวาสนา โชคชะตา พรหมลิขิตน่ะใช่ไหม? แล้วนายน่าจะรู้ชื่อของฉันตั้งแต่จับสลากแล้วด้วย”

               “เออ.. ก็จริงแฮะ เกือบลืมไปเลยว่าเรารู้ชื่อกันแล้วแค่ไม่เคยเห็นหน้า” ดีนยิ้มเก้อ ๆ เขายกมือเกาหัวตัวเองปอย ๆ “ความจริงผมก็มาเพราะเรื่องนี้ด้วย กับชื่อกิจกรรม เอ่อ.. วาสนา โชคชะตา พรหมลิขิต.. ให้ตายสิ ชื่อชวนจั๊กจี้เป็นบ้า! อย่างกับกิจกรรมนัดบอร์ดอะไรทำนองนั้นเลย…”

               “นายก็คิดเหมือนกันเหรอ!” เคธี่หัวเราะร่าเริง สดใสเหมือนกับพระอาทิตย์ “แต่ทำไงได้ล่ะ คนคิดเกมคือบ้านอะโฟร์ไดท์นี่นา มันก็ต้องออกมาในแนว ๆ นั้นอยู่แล้ว”

               “จริงด้วยแฮะ” พอคิดตามก็จริงอย่างที่หญิงสาวพูดเหมือนกัน

               “เอ่อ.. คือว่า พวกพี่คุยกันไปก่อนนะครับ ผมขอตัว” ทิปตาที่พูดไม่เก่งไม่รู้จะคุยอะไรกับทั้งสองคนดีจึงขอตัวอย่างสุภาพ เพราะดูแล้วบทของเขาน่าจะหมดลงเพียงแค่ตรงนี้

               “อื้อ เดี๋ยวฉันอยู่รับแขกต่อเอง นายก็แต่งเพลงต่อดี ๆ ล่ะ” พี่สาวโบกมือลาน้องชาย ส่วนดีนได้แต่ค้อมหัว จากนั้นทิปตาก็ขึ้นบันไดไปยังห้องของตัวเอง เคธี่ก็หันกลับมาสนทนากับดีนต่อ “งี้ต้องเริ่มยังไงนะ? ฉันต้องบอกความต้องการกับนายใช่หรือเปล่า อืม… จริงอยู่ที่พ่อเราเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ แต่ตอนนี้แสงสว่างกำลังทำร้ายฉัน ฉันนอนไม่ได้เลยในห้องก็ร้อนไปหมด บางทีการเอาหน้าต่างออกอาจจะช่วยได้ แต่ฉันว่าฉันต้องการผู้ช่วยสักคน.. คงประมาณนี้ แต่ก็ เอ่อ.. ถึงไม่เกี่ยวกัน แต่ตอนนี้หน้าต่างที่ห้องก็มีปัญหาอยู่จริง ๆ แหล่ะ”

               “คุณเล่นบอกความต้องการมาโต้ง ๆ แบบนี้เลยเหรอครับ ผมนึกว่ากติกาเขาให้ไปเล่นที่กระโจมต้องประสงค์ที่บ้านอะโฟร์ไดท์ซะอีก”

               “อูย.. ฉันนี่ก็ใจร้อนจริง ๆ” เคธี่ทำท่าเขกหัวตัวเอง “งั้นเอาไว้เรานัดวันกันไปเล่นกิจกรรมนี้กันดีไหม? ฉันว่างวันอาทิตย์ล่ะ แต่อาทิตย์นี้คงไม่ได้ ต้องรอให้ผ่านงานศพของเอลลิสไปเสียก่อน…” ประโยคหลังเธอพูดเสียงแผ่ว “ถ้างั้นเอาเป็น วันที่ห้า มกราคมเป็นไง?”

               “ผมไม่แน่ใจเลยว่าวันที่ห้าจะยังอยู่ค่ายไหม แบบว่ากะจะไปรับภารกิจที่เมืองนีออมน่ะครับ ผมจะออกจากค่ายไปพร้อมกับแฟนก็เลย…”

               “นายยังไม่ว่างสินะ งั้นไม่เป็นไร ๆ เอาไว้ตอนที่นายกลับมาจากภารกิจก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน ฉันน่ะยังไงก็ได้ขอแค่เป็นวันอาทิตย์ที่ไม่มีสอน”

               “โอเคครับ งั้นคุณต้องรอผมนานหน่อยแล้วล่ะ” ดีนหัวเราะเบา ๆ เพราะการเที่ยวแต่ละครั้งจนชอบติดลมยาวจนไม่รู้ว่าจะได้กลับมาจริง ๆ เมื่อไร “แต่ก่อนหน้านี้คุณบอกว่ายังไงนะ? หน้าต่างเป็นปัญหาจริง ๆ คงไม่ใช่แค่รำคาญแดดใช่ไหมครับ?”

               “ไม่ใช่หรอก คือว่าวันที่มีการต่อสู้กันน่ะ แบบว่าหน้าต่างห้องฉันมัน… เฟี้ยววว ตู้มมม เพล้ง!!” รุ่นพี่สาวทำไม้ทำมือประกอบท่าทางไปด้วย “มันก็ประมาณนั้นแหล่ะ นายพอจะเข้าใจใช่ไหม?”

               “เรียกง่าย ๆ ก็คือหน้าต่างแตก? งั้นผมขอขึ้นไปดูที่ห้องคุณหน่อยได้หรือเปล่า?”

               “ได้สิ ฉันไม่มีปัญหา ถ้างั้นก็ตามมาเลย!” เคธี่เดินนำหน้า พาขึ้นบันไดชั้นสองของบ้านอะพอลโล่ไปยังห้องนอนของตัวเอง แต่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป.. “เดี๋ยวแป๊บนึงนะ ขอดูก่อนว่ามีอะไรที่ต้องเอาไปซ่อนหรือเปล่า” หญิงสาวกล่าว จากนั้นก็เข้าไปในห้องคนเดียวประมาณสามนาที ประตูห้องนอนก็เปิดต้อนรับอีกครั้งหนึ่ง “เรียบร้อย เชิญจ้า”

               “รบกวนด้วยนะครับ” ดีนยิ้ม การได้เข้าห้องผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรกก็ออกจะตื่นเต้นเหมือนกันแฮะ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ทำแบบนี้ออกจะบ่อย แม้ว่าเป็นคนละจุดประสงค์กันก็ตาม..

               ห้องนอนของเคธี่ก็เหมือนกับห้องของผู้หญิงทั่วไป ข้าวของวางอย่างเป็นระเบียบ (อาจเพราะเพิ่งเก็บตะกี้นี้) ตกแต่งอย่างอบอุ่นตามธีมบ้าน แต่ไม่ลืมจะมีของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ประดับประดาไว้ตามมุมต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีตุ๊กตาตัวใหญ่นอนเป็นเพื่อนอยู่บนเตียง หญิงสาวเจ้าของห้องเดินไปที่หน้าต่างเจ้าปัญหาก่อนจะรูดม่านออก ตอนนี้สิ่งที่ดีนเห็นคือกระดาษหนังสือพิมพ์แปะไว้ที่บ้านหน้าต่างแทนที่กระจกใส ลมจากนอกอาคารที่พัดผ่านไปมาทำให้เสียงของหนังสือพิมพ์ตีกันกระพือ

               อย่างกับหน้าต่างบ้านในโฆษณาเกมการ์เดนสแคปส์ในโทรศัพท์มือถือ… เกมที่ชอบโฆษณาระบบที่ตัวเกมไม่มี สร้างสตอรี่ดราม่าให้ตัวละคร (ที่ไม่มีในเกมจริง) เช่น หญิงสาวถูกสามีทิ้งเลยต้องหอบลูกเล็ก ๆ กับหมาน้อยตัวหนึ่งไปพักอาศัยอยู่ในบ้านร้าง จากนั้นเราต้องช่วยเหลือโดยการรวมไอเท็มเพื่อซ่อมบ้านก่อนที่สามชีวิตจะหนาวตาย… มันตรงเสียยิ่งกว่าอะไรดี

               “ให้ตายสิคุณแคท! คุณทนนอนแบบนี้มาตั้งห้าวันเนี่ยนะ!”

               “ให้ทำไงได้เล่า ฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้จักงานช่างนี่นา ทิปตาเองก็น่าจะทำไม่เป็นเหมือนกันฉันก็เลยไม่ได้รบกวนใคร…” เคธี่ยิ้มแหยก่อนจะพูดต่อ “แต่ก็ไม่แย่ซะทีเดียวหรอก อย่างน้อยลมก็ไม่ได้เข้ามามากเท่าไร แถมยังลดแสงอาทิตย์อีกด้วย…” คล้ายกับเธอพยายามหาข้อดีในความโชคร้ายที่ต้องใช้กระดาษหนังสือพิมพ์แทนกระจกหน้าต่าง

               “โอเค ผมพอจะเข้าใจเหตุผล.. งี้เอาไงดีล่ะครับ คุณบอกว่าอยากเอาหน้าต่างออกใช่ไหม? ผมเรียนฉาบปูนมาแล้ว แต่มันจะโอเคจริงหรือเปล่า?”

               “ความจริงก็ไม่โอเคเท่าไรถ้าไม่มีหน้าต่างเลย” เคธี่พูดเสียงอุบอิบด้วยท่าทางการยืนประสานมือกันไว้ข้างหน้าพร้อมทั้งหมุนนิ้วชี้ของทั้งสองมือวนกันไปมา

               “เอางี้ไหมครับ เดี๋ยวเราเปลี่ยนบานหน้าต่างกัน แล้วเลือกหน้าต่างที่ทึบแสงหน่อย ผมว่าถ้าทำเป็นโมเสกก็น่าจะสวยดี..” ชายหนุ่มกุมคางพลางมองไปที่กรอบหน้าต่าง แม้จะกันแสงไม่ได้ทั้งหมด แต่กระจกสีต่าง ๆ ที่นอกจากจะสวยงามแล้วก็น่าจะช่วยกรองแสงได้ในระดับหนึ่ง

               “เป็นความคิดที่ดีเลย! แต่เราจะไปเอาหน้าต่างมาจากไหนกันดีล่ะ?”

               “เรื่องนั้นไม่ยาก เมื่อวานผมไปขอเบิกวัสดุจากบ้านใหญ่มา เห็นว่าคุณไครอนเองก็ต้องเปลี่ยนหน้าต่างกระจกสีเหมือนกัน เราไปขอเขามาสักบ้านนึงคุณไครอนน่าจะไม่ว่าอะไร…” คิดเองเออเองแล้วหนึ่ง แต่ผู้อำนวยการก็คงจะไม่ว่าอะไรจริง ๆ นั่นแหล่ะ “แต่ก่อนอื่นเราต้องวัดขนาดช่องหน้าต่างเก่าก่อนครับถ้าเล็กกว่าไม่มีปัญหา ฉาบปูนปิดทับได้ แต่ถ้าหน้าต่างใหม่ใหญ่กว่าช่อง… อื่ม สงสัยผมคงต้องเรียกไทสันมาดูอาการ”

               “หงูย งั้นก็ขอให้มีขนาดที่ตรงเป๊ะทีเถอะ” เคธี่กุมมือภาวนา และเพื่อไม่ให้เสียเวลาทั้งสองจึงออกเดินทางไปบ้านใหญ่ด้วยกัน

               ไม่ว่าจะด้วยโชคเข้าข้างหรือไม่ หรือจะเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ หรือยิ่งกว่านั้นคือเทพอะพอลโล่ได้ยินสิ่งที่บุตรสาวภาวนา ทั้งสองที่มาขอเบิกอุปกรณ์จากบ้านใหญ่จึงพบกับหน้าต่างกระจกสีที่มีขนาดเท่ากับช่องหน้าต่างห้องของเคธี่เป๊ะชนิดจับวาง และหน้าต่างปริศนาบานนี้คุณไครอนยังบอกอีกว่าเอาไปเลยไม่ได้ใช้ หรือว่า โชคชะตา วาสนา พรหมลิขิตกับหน้าต่างห้องจะมีจริง!

               เมื่อได้อุปกรณ์สำหรับการซ่อมบานหน้าต่างแล้ว ก็ได้ขอแรงแซเทอร์อีกสองคนมาช่วยยกหน้าต่างกระจกสีไปยังบ้านพักอะพอลโล่ จากนั้นลงมือซ่อมแซม เริ่มด้วยการหาผ้าใบมาคลุมเฟอร์นิเจอร์และพื้นพรม จากนั้นสกัดปูนเอาหน้าต่างเก่าออก ทำความสะอาดเป่าฝุ่นให้สะอาด ก่อนจะติดตั้งหน้าต่างบานใหม่ที่เป็นกระจกสีลงไปแทน ยึดติดด้วยกาวซิลิโคน รอให้แห้งจากนั้นก็เก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย แล้วก็เสร็จ! อะไรมันจะง่ายปานนั้นราวกับเทพบันดาลใจ

               “โอ๊ยยย สวยมากเลย ลายหน้าต่างก็สวย”

               หญิงสาวเจ้าของห้องดูจะปลื้มกับกระจกสีบานนี้มากถึงกับลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่หลายรอบ แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนกลายเป็นสีสันหลายเฉด ไม่ทำให้ห้องร้อนเกินไปตามเป้าประสงค์ เห็นแบบนี้คนมาซ่อมห้องให้ก็ดีใจ

               “ขอบคุณมากเลยนะดีน ถ้าไม่ได้นายช่วยไว้มีหวังฉันได้ใช้หนังสือพิมพ์แทนบานหน้าต่างไปตลอดกาลแน่ ๆ”

               “ไม่เป็นไรเลยครับคุณแคท เหมือนว่าคุณมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับด้วยสินะ ถ้างั้นลองเอาลูกอมคาโมมายด์ไปกินดู ผมได้มาตอนออกไปซื้อของข้างนอก น่าจะทำให้หลับสบายขึ้นอีกต่อนึง”

               “ขอบคุณนะคู่หู นายให้ของฉันมาอีกแล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรมาตอบแทนดีเลย”

               “ไม่เป็นไรครับ” ดีนหัวเราะ “งั้นเอางี้ไหม ตอนถ้าผมไปขอเรียนยิงธนูคุณก็ช่วยอย่าเคี่ยวกับผมมาก แล้วก็ให้การบ้านง่าย ๆ หน่อย”

               “ได้สิ ตกลงตาม–.. เอ้ย! ไม่ได้!! ถ้าฉันลำเอียงเดี๋ยวคุณไครอนได้หักเงินเดือนกันพอดี นายต้องขออย่างอื่นแทนแล้วล่ะดีน!” เคธี่เกือบจะคล้อยตาม แต่เธอโชคดีแล้วเพราะว่าดีนไม่ได้สนใจการใช้ธนูเท่าไร

               “งั้นเปลี่ยนเป็นช่วยบอกเทพอะพอลโล่ทีได้ไหมครับว่าช่วยลดแสงลงนิดนึงได้ไหม ผมไม่รู้ว่าระหว่างเป็นมะเร็วผิวหนังกับถูกอสุรกายงาบไปกินอย่างไหนมีโอกาสเกิดง่ายกว่ากันแล้ว”

               “ได้สิ ได้! ถ้าข้อนี้ล่ะก็รับปากเลย แต่ว่านายยังต้องกลัวอีกเหรอ ได้ข่าวว่านายเป็นหัวหน้าทีมทวงคืนตรีศูลที่หายไปนี่นา ฝีมือระดับนี้ฉันคิดว่าคงไม่เป็นอย่างข้อหลังง่าย ๆ หรอก”

               “โธ่ คุณเคธี่ คุณไม่รู้อะไรซะแล้วครับ..” ดีนยิ้มฝืด ๆ ไม่อยากจะคิดว่าระหว่างทางตัวเองโดนอะไรมาบ้าง เกือบตายจากรถทัวร์คว่ำ เกือบตายเพราะถูกปล้น เกือบตายเพราะปลดปล่อยคธูลฮู เกือบตายเพราะราชสีห์นีเมียนตะปบจนหน้าแหก และอย่างสุดท้าย เกือบตายเพราะถูกไคมีร่าแทงเข็มพิษใส่ถึงสองครั้ง ถ้าไม่ได้พ่อช่วยเอาไว้ ป่านนี้คงไม่มี ‘ดีน นีล ที่ชื่อยาว ๆ คนนั้น’ อยู่มาซ่อมหน้าต่างให้เธอหรอก “เอาเป็นว่าผมขอสิ่งตอบแทนแค่นั้นแหล่ะ ส่วนหน้าต่างถ้ามีปัญหาอะไรก็แจ้งมาทางกระท่อมโพไซดอนได้ ที่นั่นมีน่าช่างใหญ่คอยช่วยเหลือครับ”

               “ได้เลยดีน ถ้างั้นเราแลกคอนแทกต์กันดีไหม? เวลาติดต่ออะไรจะได้ไม่ต้องมาเคาะประตูหน้าบ้านเสี่ยงดวง” รุ่นพี่สาวหยิบเอาสมาร์ทโฟนเดดาลัสรุ่นเลกาซีออกมา เห็นแล้วช้ำใจทุกทีเพราะนั่นคือสิ่งที่เขาไม่มียังไงล่ะ!

               “ตอนนี้ยังไม่ได้ครับ ผมยังไม่ได้ซื้อโทรศัพท์มาเลย แต่เร็ว ๆ นี้ได้ซื้อแน่ ๆ เอาเป็นว่าถ้าซื้อมาแล้วผมจะขอคุณแลกคอนแทกต์ก่อนใครเลย”

               “ว้า น่าเสียดาย แต่เอาแบบนั้นก็ได้ คุยกับนายถูกคอดี ถ้ามีโทรศัพท์เมื่อไรฉันจะส่งข้อความไปป่วนนายแน่ ๆ” หญิงสาวหัวเราะคิกคักเหมือนเด็กซน

                “ผมจะรอดูเลยว่าใครจะได้ป่วนใครกันแน่” ดีนหัวเราะพร้อมท้ากลับ ขณะนั้นเสียงตั้งปลุกก็ดังขึ้นมาจนดีนต้องยกไอโฟนธรรมดาขึ้นมากดปิดแจ้งเตือน “โอ้ จะหกโมงแล้ว.. ถ้าไงวันนี้ผมขอตัวก่อนดีกว่า ใกล้ได้เวลานัดกินมื้อเย็นแล้ว คุณทำความสะอาดห้องต่อเองได้ไหม?”

               “ได้สิ ฉันทำเอง แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว รบกวนตั้งหลายอย่าง นายไปกินมื้อเย็นเธอ เดี๋ยวแฟนจะรอนาน” เคธี่เดินนำออกจากห้องนอนเพื่อไปส่งแขก

               “งั้นขอตัวก่อนนะครับคุณเคธี่ ไว้นัดเจอกันที่บ้านอะโฟร์ไดท์”

               ทั้งสองร่ำลาโบกมือบ๊ายบายให้แก่กัน จากนั้นก็แยกย้ายไปทำธุระของตนเอง


โรลเพลย์ซ่อมแซมบ้าน +1 Point
มอบ [อมยิ้ม] ให้ [เคธี่ เฟย์]

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-09] เคธี่ เฟย์ เพิ่มขึ้น 10 โพสต์ 2025-1-1 00:04
โพสต์ 56229 ไบต์และได้รับ 30 EXP!  โพสต์ 2024-12-31 04:43
โพสต์ 56,229 ไบต์และได้รับ +25 EXP +1 Point [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +40 ความกล้า +40 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมืออัจฉริยะ  โพสต์ 2024-12-31 04:43
โพสต์ 56,229 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก แจ๊กเก็ตยีนส์  โพสต์ 2024-12-31 04:43
โพสต์ 56,229 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก แว่นตา  โพสต์ 2024-12-31 04:43
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x10
x2
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x3
x1
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x6
x2
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-2-10 02:26:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ERTAH BROWN
Carbin 07 Apollo
Feb, 10, 2025 | 0.00AM

กว่าจะเดินทอดน่องมาถึงที่เคบินหมายเลขเจ็ดก็ใช้เวลาอยู่นานโขเลยเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเธอหลงทางหรือว่าอะไร แต่หากว่าด้วยความที่เป็นหญิงสาวที่เป็นมิตร ซึ่งอาจจะเกินความจำเป็นอยู่นิดหน่อย ก็เลยทำให้ตัวเธอนั้นเอ่ยทักทายคนที่เดินสวนอยู่เนือง ๆ และบางคนก็ได้พูดคุยเรื่องความเป้นอยู่ในค่ายแห่งด้วยเล็กน้อย ถือว่าเป้นสิ่งที่ดีสำหรับเธอ แต่มันก็ทำให้เวลาในการเข้าบ้านของเธอนั้นกลายเป็นวันใหม่ไปเสียแล้ว เธอได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกับขายาวที่มาหยุดอยู่หน้าบ้านหมายเลขเจ็ด ดวงตาสีเปลือกไม้ของเออต้ามองไปที่บ้านหลังที่สองของเธอ ไม่มีความคิดอะไรที่สอดคล้องขึ้นมาจากเหนือจากความประหลาดใจ เธอคิดว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงนี้มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสามารถอยู่ได้ แต่ทำอย่างไรได้ล่ะ นี่เป็นบ้านของเธอไปแล้ว คงจะทำได้เพียงแค่ว่า เดินเข้าไปแล้วตามหาที่นอนของตัวเอง ในวันนี้เธอตั้งใจเพียงเท่านั้น เพราะด้วยวลาที่ก้าวไปวันใหม่แล้ว ก็คงจะทำอะไรมากมายไปกว่านี้ไม่ได้เช่นกัน

“ เข้าไปเลยแล้วกัน ”

ตัดสินใจได้แล้ว ขายาวก็เดินเข้าไปภายในบ้านหลังนี้ทันที ด้วยความรู้สึกที่แฝงความประหม่าเล็กน้อย แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเท่าไหร่ เพราะว่าบรรยากาศที่คิดว่าจะเงียบเชียบกลับมีแต่ความครื้นเครงที่สัมผัสได้ถึงจะมีเพียงความเงียบเหงา ก่อนหน้านี้คงจะมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นแน่ และนอกจากบรรยากาศที่ไม่ได้คาดคิดแล้ว ที่นี่ยังมีหลายอยากที่ทำให้ดวงตาของเธอเป็นประกาย ทั้งเครื่องดนตรี อุปกรณ์วาดภาพต่าง ๆ มันแทบจะทำให้เออต้าวิ่งเข้าไปกอดพวกมันเอาไว้ ในตอนแรกที่คิดว่าเธอจะอยู่ได้หรือเปล่า ตอนนี้กลับไม่มีคำถามเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว แค่มีอุปกรณ์เพียงเท่านี้ เธอน่าจะอยู่ที่นี้ได้ตลอดเลยด้วยซ้ำ ประกอบกับเครื่องดนตรีที่เธอติดมาด้วยอีก มันคงจะสนุกและมีความสุขมากแน่ ๆ

“ สุดยอดไปเลย... ”

หรือว่านี่จะเป้นอย่างที่ไครอนได้บอกกัน ทุกอย่างนั้นได้บอกเอาไว้หมดแล้วเธอเป็นลูกของใคร เพราะว่าแบบนี้ไง ถึงได้เห็นได้ชัดเจน ทั้งความรักในเสียงดนตรีและศิลปะ มันเจิดจ้าออกมาอย่างเช่นพ่อของเธอเลยจริง ๆ แต่เออต้าคงจะไม่ได้รู้ตัวหรอก เพราะตอนนี้เธอกำลังให้ความสนใจกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ภายในบ้าน

มือเรียวของเธอค่อย ๆ ประคองจับเครื่องดนตรีขึ้นมาดูทีละชิ้นอย่างทะนุถนอม ย้ายไปดูอุปกรณ์งานศิลปะต่าง ๆ รวมไปถึงหนังสือเกี่ยวกับกวีต่าง ๆ ซึ่งเมื่อเปิดดูแล้วมันไม่ได้อ่านยากเหมือนหนังสือที่เธอร่ำเรียนเลยแม้แต่น้อย คงจะเป็นผลมาจากโรคดิสเล็คเซียของเธอด้วย แต่น่าแปลกที่ตอนนี้มันไม่ได้มีอาการแบบนั้น หรือว่าที่บอกว่าลูกครึ่งเทพจะเป็นแบบนี้อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้

ทำไมหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับเธอมันค่อย ๆ ชัดเจนและหาเหตุผลได้มากขึ้นเรื่อย ๆ กัน หรือว่าการที่เธอมาที่นี่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างที่คุณแม่และเซเทอร์ตนนั้นได้บอกไว้จริง ๆ

อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจเท่าไหร่หรอก

ใบหน้าน่ารักของเออต้ามองไปโดยรอบอีกครั้งก่อนที่จะวางหนังสือกวีลง มีทางเดินหนึ่งที่จะพาไปยังอีกที่หนึ่ง ในตอนนี้มันมืดและเงียบ เธอจึงตัดสินว่าจะยังไม่ไปในวันนี้ แต่หากว่าในพรุ่งนี้เช้า ในเวลาที่เธอตื่นเช้ามา เธอคงจะมีโอกาสได้เข้าไปภายในนั้น ส่วนในเวลานี้ เธอควรจะไปหาห้องนอนที่เป้นของเธอเองเสียที ไม่อย่างนั้นเธอคงจะได้เล่นสนุกอยู่ตลอดตอนไม่ได้นอนพักผ่อนแน่ ๆ อย่างน้อยตอนนี้เธอจะต้องเก็บแรงเอาไว้ก่อน เพื่อที่เช้ามาจะได้ไปทำอย่างอื่นภายในค่ายแห่งนี้


จะได้เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่เสียที

ว่าแล้วขายาวก็เริ่มออกเดินไปยังห้องที่มีเตียงนอนอยู่ สัมภาระถูกวางเอาไว้ใกล้ตัวเว้นแต่เครื่องดนตรีที่เธอนำติดตัวมาด้วยอย่างกีต้าร์โปร่งตัวโปรด เธอเปิดออกมาจากกระเป๋าก่อนที่จะลูบบมันอย่างทะนุถนอม ทั้งวันนี้เธอยังไม่ได้เล่นเครื่องดนตรีเลย มันทำให้เธอรู้สึกคิดถึงและโหนหวนเสียงดนตรี

แต่หากว่าในเวลาแบบนี้ มันคงจะเป็นการรบกวนคนอื่นมากเกินไป เออต้าคงไม่ทำเรื่องสีมารยาทแบบนั้นอย่างแน่นอน จึงได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย ถ้าเธอมาถึงที่นี่ได้เร็วกว่านี้ เธออาจจะสามารถบรรเลงเพลงได้สักครึ่งชั่วโมงอย่างที่ชอบทำทุกวัน วันนี้พลาดไปแล้ว มันคงเอาอะไรกลับคืนมาไม่ได้ ฉะนั้นเธอจึงตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องได้จับกีต้าร์ของเธอในยามเช้าให้ได้

ดูเหมือนว่าความตั้งใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ของเออต้าจะเยอะแยะเหลือเกิน คิดได้แบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ ความคิดของเธอนี่มันยังคงเร็วและหุนหันพลันแล่นอีกเหมือนเลย ถึงมันจะดีขึ้นมานิดหน่อยเพราะเริ่มโตแล้วก็ตามที

“ นอนได้แล้วเออต้า พรุ่งนี้เธอตื่นไม่ไหวมันจะแย่เอา ”

เธอเอ่ยบอกกับตัวเองเอาไว้ ทั้งที่มันจะเป็นหน้าที่ของน้าลูซี่แท้ ๆ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้มีเพียงเธอคนเดียวที่จะพูดประโยคเตือนใจเหล่านั้นได้แล้ว


หวังว่าที่บ้านของเธอจะยังปลอดภัยดี

นั่นเป็นความคิดสุดท้ายก่อนที่กีต้าร์จะถูกเก็บไปแล้วร่างโปร่งของเธอก็ล้มตัวลงเตียง

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 15209 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-2-10 02:26
โพสต์ 15,209 ไบต์และได้รับ +5 EXP จาก โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)  โพสต์ 2025-2-10 02:26
โพสต์ 15,209 ไบต์และได้รับ +5 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-2-10 02:26
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กระบอกลูกธนู
ธนู
น้ำหอมสตรี
หูฟังบลูทูธ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แสงสว่างศักดิ์สิทธิ์
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x8
x8
x8
x16
x1
x4
x1
x2
x2
x2
x4
โพสต์ 2025-9-3 23:27:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ค่ายฮาล์ฟบลัด
วันที่: 3 กันยายน 2025 
บันทึกลึกลับ ของ บุตรีเฮคาที ฉบับที่ 44
ภาพลึกลับ

เนื้อหาโรลเพลย์: 


    เมื่อภริดาหรือ ริดา และ ทีน่า แซนโดวาล ก้าวออกจากคลังอาวุธของบ้านอะธีน่า เสียงก้องกังวานในความทรงจำยังคงเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทีนาหันกลับมามองริดาด้วยรอยยิ้มอบอุ่นและสายตาอ่อนโยน


    ​“ริดา สถานที่ต่อไปที่พี่จะพาเราไปเป็นหนึ่งในบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น สดใส และครึกครื้นที่สุดในค่ายแห่งนี้เลยนะ” ทีนาพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจและชัดถ้อยชัดคำ “นั่นก็คือ บ้านหมายเลขที่ 7 บ้านอะพอลโล บ้านของเหล่าลูกๆ ของเทพแห่งดวงอาทิตย์ ดนตรี กวี ศิลปะ การยิงธนู และการรักษาจ้ะ”


​.   ดวงตาของริดาเปล่งประกายด้วยความสนใจทันที เธอเร่งฝีเท้าให้เดินเคียงข้างทีนา ขณะที่กลิ่นหอมจางๆ ของสมุนไพรและเสียงดนตรีอันไพเราะค่อยๆ ลอยมาแตะโสตประสาท เป็นการบอกใบ้ว่าทั้งคู่กำลังเข้าใกล้ดินแดนแห่งศิลป์และแสงสว่าง


    “บ้านอะพอลโลเหรอคะ” ริดาเอ่ยถาม “ริดาได้ยินหลายคนพูดถึงว่าที่นั่นสนุกมาก แล้วก็เก่งเรื่องการรักษาด้วยใช่ไหมคะ”


    ทีนายิ้มบางๆ พลางพยักหน้า “ใช่เลยจ้ะ บ้านนี้น่ารักและคึกคักตลอดเวลา ลูกๆ ของเทพอะพอลโลมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นดนตรี แต่งกวี วาดภาพ หรือไม่ก็ช่วยเหลือรักษาเพื่อนๆ ที่บาดเจ็บในค่าย ด้วยเหตุนี้เอง บ้านพวกเขาจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขเสมอ”


    ​เมื่อเดินมาถึงหน้ากระท่อมบ้านอะพอลโล ภาพที่ปรากฏก็ทำให้ริดาแทบหยุดหายใจ บ้านถูกออกแบบให้ดูสว่างไสวเสมือนมีแสงแดดอาบไล้ แม้ในยามที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม หลังคาทำจากไม้สนสีทองอ่อนสะท้อนแสงอย่างนุ่มนวล ด้านหน้าประดับด้วย พิณโบราณ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทพอะพอลโล รอบๆ บ้านปลูกดอกไม้สีเหลืองทอง


    และส้มอมแดงสลับกันไปมา กลิ่นหอมของพืชสมุนไพรปะปนกับเสียงขลุ่ยและเสียงพิณที่ดังก้องมาแต่ไกล ทำให้บรรยากาศดูราวกับสรวงสวรรค์ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

“ที่นี่…เหมือนสวรรค์เลยค่ะพี่ทีนา ทั้งแสง สี กลิ่น และเสียง ทุกอย่างดูอบอุ่นมาก” ริดาเอ่ยเสียงแผ่วด้วยความตื่นเต้น


    ทีนาหัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดู “ใช่แล้วล่ะ นี่แหละบ้านของลูกๆ อะพอลโล พอเราเข้าไปข้างใน ริดาจะได้เห็นสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านี้อีก”


​ห้องโถงสุริยัน


    ​ทันทีที่ทั้งคู่ก้าวเท้าเข้าสู่ตัวบ้าน กลิ่นหอมของสมุนไพรผสมกับกลิ่นไม้หอมอ่อนๆ ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น ภาพเบื้องหน้าคือห้องโถงกว้างใหญ่โอ่อ่าที่เรียกขานกันมาเนิ่นนานว่า “ห้องโถงสุริยัน”


    ​แสงอาทิตย์ส่องผ่านกระจกสีที่ประดับอยู่รอบด้าน กระจายเป็นลำแสงหลากสีสันดุจสายรุ้งตกกระทบพื้นหินอ่อนสีขาวนวล บรรยากาศภายในดูสง่างามและอบอุ่นราวกับยืนอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของเทพอะพอลโล

​กลางห้องมี รูปปั้นหินอ่อนของเทพอะพอลโล ตั้งตระหง่านสง่างาม ใบหน้าเปี่ยมด้วยความเมตตาและรอยยิ้มละมุน รอบๆ รูปปั้นประดับด้วยพิณโบราณและ คันธนูทองคำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดนตรีและการยิงธนู


    ​ผนังห้องเต็มไปด้วยตู้หนังสือที่จัดเก็บตำราหลากหลายประเภทอย่างเป็นระเบียบ ทั้งหนังสือดนตรีที่บอกเล่าเรื่องราวโน้ตและทำนอง, หนังสือกวีที่บันทึกบทกวีจากยุคโบราณ, หนังสือศิลปะว่าด้วยเทคนิคและประวัติศาสตร์งานสร้างสรรค์, คู่มือการยิงธนูสำหรับผู้ฝึกหัดและผู้ชำนาญ และ ตำราการรักษา ที่ลูกๆ ของอะพอลโลใช้ศึกษาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น


   ​เสียงหัวเราะและเสียงดนตรีจากเด็กหนุ่มสาวลูกครึ่งเทพดังก้องเป็นระยะ หลายคนกำลังนั่งเล่นกีตาร์, วาดภาพบนผืนผ้าใบ หรือกำลังใช้สมุนไพรผสมยารักษาบาดแผลอย่างขะมักเขม้น


​เคธี่ เฟย์: มิตรภาพครั้งใหม่


​.   ขณะที่ริดากำลังชื่นชมทุกสิ่งด้วยสายตาเป็นประกาย ทีนาก็โบกมือเรียกใครบางคน เด็กสาวร่างโปร่งผมสีน้ำตาลเข้มมัดหางม้าสูงเดินเข้ามาอย่างคล่องแคล่ว ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มสดใสเป็นเอกลักษณ์และแววตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ


    “ริดา นี่คือ เคธี่ เฟย์ หรือที่ทุกคนเรียกสั้นๆ ว่า แคท เธอเป็นรุ่นพี่ของที่นี่ และเป็นลูกสาวของเทพอะพอลโลคนหนึ่งด้วยนะ” ทีนาแนะนำ


    เคธียิ้มกว้างพร้อมเอื้อมมือมาทักทาย “ยินดีที่ได้รู้จักนะ ริดา! ฉันเคธี่ พูดภาษาอังกฤษหรือสเปนได้ ถ้าสะดวกภาษาไหนก็บอกได้เลยนะ”


    ริดาจับมือแคทอย่างประหม่าแต่เป็นมิตร “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ริดารู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะที่ได้มาเยี่ยมบ้านอะพอลโล”


    เคธียิ้มรับและหัวเราะเสียงใส “โอ้ ไม่ต้องเกร็งเลยนะ! บ้านเราชอบต้อนรับเพื่อนใหม่เสมอ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปดูมุมดนตรี มุมยิงธนู และมุมสมุนไพร รับรองว่าจะต้องประทับใจแน่นอน”


    ​ทีนาหันไปมองทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่นขณะกล่าวเพิ่มเติมให้ริดาได้รู้จักแคทมากขึ้น “แคทเข้าค่ายฮาล์ฟบลัดตั้งแต่อายุ 12 ปี และเก่งกาจเรื่องการยิงธนูมากเลยนะ เธอออกภารกิจครั้งแรกตอนอายุ 15 และตั้งแต่นั้นมาก็หลงรักการผจญภัย ล่าอสุรกาย จนแทบไม่ได้อยู่นิ่งในค่ายเลย”


“ว้าว… นั่นฟังดูน่าตื่นเต้นมากเลยค่ะ!” ริดาตาเป็นประกายด้วยความชื่นชม


    เคธียักไหล่เล็กน้อย แต่ยังคงยิ้มสดใส “ก็สนุกดีนะ ถึงจะเหนื่อยและเสี่ยงอันตรายหน่อย แต่สำหรับฉัน มันคุ้มค่ามากที่ได้ออกไปผจญภัย”


​.   ขณะนั้นเอง ลำแสงอาทิตย์อันอบอุ่นได้สาดส่องผ่านกระจกสีตรงหัวมุมห้อง ตกกระทบกับเส้นผมของริดาและแคทจนเปล่งประกายราวกับทองคำ สร้างภาพอันงดงามที่สะท้อนถึงมิตรภาพครั้งใหม่ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในบ้านอะพอลโลแห่งนี้…


รับรางวัล : +15 EXP


​    

    ​



     ​

   

     ​


   


 

    ​

  

    



"ในความมืดมิดยังมีแสงนำทางผู้กล้าแห่งเฮคาที"
สถานที่: หน้าบ้าน หมายเลขที่ 7 อะพอลโล |  หัวข้อ: ดินแดนแห่งศิลป์และแสงสว่าง

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-9-4 01:29
โพสต์ 20,041 ไบต์และได้รับ +10 EXP +6 เกียรติยศ +8 ความกล้า +8 ความศรัทธา จาก สื่อสารกับภูตผีปีศาจ   โพสต์ 2025-9-3 23:27
โพสต์ 20,041 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-9-3 23:27
โพสต์ 20041 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-9-3 23:27
โพสต์ 20,041 ไบต์และได้รับ +2 EXP +7 ความศรัทธา จาก ผลิตภัณฑ์กันแดด  โพสต์ 2025-9-3 23:27
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หอกกรีก
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ทักษะมีดสั้น
การร่ายคาถา
ชุดเครื่องเพชร
กล้องถ่ายรูป
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
แว่นกันแดด
ปากกาหมึกซึม
กล่องดนตรี
รองเท้าเซฟตี้
กิ๊บติดผม
ต่างหูเงิน
กางเกงเดินป่า
เข็มกลัดเฮคาที
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x6
x2
x2
x5
x19
x8
x2
x2
x3
x12
x11
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้