รอยเท้าเล็ก ของ โชคชะตา ที่ฝากไว้บนแผ่นดินอเมริกา กับ เสียงเงียบที่เรียกหา เธอมาตลอดชีวิต
ในความมืด ของ ห้องเก็บสัมภาระ อันแสนชวนน่าอึกอัด เด็กหญิงตัวน้อยๆ เธอมีนามว่า จองโซยอน หรือ ว่า โยนา ค่อยๆ ทำการลืมตาตื่นขึ้นมาจากภวังค์ เสียงลมหายใจ ของ เด็กหญิงตัวน้อยๆ ในตอนนี้ ทั้งเบาและถี่ เสื้อผ้าที่เธอกำลังสวมใส่อยู่เปื้อนละอองฝุ่นแค่เพียงเล็กน้อย ดวงตากลมโต ของ เด็กหญิงตัวน้อย เริ่มที่จะทำการปรับสภาพกับความมืดได้แล้ว ถึงแม้อุณหภูมิภายในห้องเก็บสัมภาระ จะมีความเย็นเฉียบ .... แต่หัวใจ ของ เด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ คนนี้ กับ เต็มไปด้วยความร้อนที่รุณแรง
ในตอนก่อนที่โยนาทำการลอบขึ้นมาบนเครื่องบิน เธอจำได้ว่า ตลอดทางเจ้าหมาป่าสีขาวลูปา นั่นนั่งอยู่กับเธอตลอดเวลา และไม่ทีท่าว่านางจะยอมเอ่ยปากพูด หรือ ไม่ยอมสบตา กับ โยนาเลยแม้แต่นิด และนางก็ไม่มีทีท่าว่าจะ ขยับไปไหน แต่ในตอนนี้เวลานี้ นางหายไปเสียแล้ว
ในเเวลานี้เสียงเครื่องยนต์ และ แรงสั่นสะเทือน ของ เครื่องบิน ช่างเงียบสงบ เด็กน้อยจองโซยอน หรือ โยนาก็ค่อยๆ เปล่งน้ำเสียง และ เอ่ยคำพูดขึ้นว่า
"แสดงว่าเครื่องบินคงลง จอดสนิทเรียบร้อยแล้วสินะ"
เด็กหญิงจองโซยอน หรือ ว่ายูนา ค่อยๆ เริ่มทำการขยับเขยื้อนร่างกาย อย่างระมัดระวัง มือเล็กๆ ของเธอก็ค่อยๆ เอื้อมไปทำการคว้ากระเป๋าสัมภาระ ของ ตนเองนำขึ้นมาถือเอาไว้แนบอก หัวใจ ของ เด็กหญิงในตอนนี้มันเต้นรัวๆ เธอรู้สึกกลัว และทั้งรู้สึกตื่นเต้น เธอเองก็ไม่รู้เลยว่า ต่อจากนี้ไป ชีวิต ของ เธอจะต้องพบ หรือ เจอกับอะไรบ้าง
แต่ในตอนนี้เธอต้องหาทางออกจากเครื่องบิน ลำนี้ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่มาพบ ยูนาค่อยๆ แอบลอบออกจากเครื่องบินลำนี้ผ่านทาง ช่องแคบข้างหลังไม้ เธอค่อยๆ ทำการไต่ขอบเหล็ก อย่างเบาเท้า ทุกฝีก้าวนั้นสั่นสะเทือนหัวใจ ราวกับเสียงระฆังปลุกจากฝัน
และแล้ว ในที่สุดเด็กหญิงยูนาตัวน้อยๆ ก็ก้าวเดินมาหยุดยืนอยู่ ตรงบริเวณประตูทางด้านหลัง ของ สนามบิน เสียงลมหายใจแรกที่เธอสูดเข้ามาเต็มปอด อย่างสบายอก สบายใจ นี่นะหรออากาศบริสุทธิ์ แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เธอได้แต่ยืนหยุดนิ่ง อยู่อย่างโดดเดี่ยว ลำพัง เพียงคนเดียว และเธอก็ได้แต่เพียง เฝ้ามองแสงแดดยามสายอ่อนจาง เจือปน กับ กลิ่น ของ ลมทะเล และเฝ้ามองดูหญ้าสีเขียวอ่อนๆ พริ้วไหว รับกับแรงลม
จนกระทั่งเงาสีขาว ของ หมาป่าลูปา มาปรากฏขึ้นตรงเบื้องหน้า บริเวณสนามหญ้าหน้าท่าอากาศยาน นางกำลังนั่ง หลังตรง ดวงตาเย็นสงบ ปลายหูตั้งชัน นางไม่แม้แต่ส่งเสียงร้อง และนางก็ไม่เคลื่อนไหว แต่นางกำลังรอเธออยู่ แต่เพียงแค่นั้น ... เด็กหญิงยูนาก็รับรู้ได้ว่า ถึงเวลาแล้ว
พอหมาป่าสีขาวลูปา ค่อยๆ เริ่มทำการลุกขึ้น นางหันหลังช้าๆ และเริ่มวิ่ง เด็กหญิงตัวน้อยเอง ก็ไม่รอช้าเธอรวบกระเป๋าไว้ด้วยมือข้างเดียว แล้ววิ่งออกตามหลังนางไป โดยที่ไม่มีแม้แต่คำถามในหัวใจ
เสียงรองเท้าผ้าใบกระทบพื้นกรวดเสียงดังสนั่น สลับ กับ เสียงหอบหายใจ เส้นผมปลิวตามแรงลมแสงแดดไล้ผิวแก้มขาวเนียนอย่างอ่อนโยน
เธอไม่รู้ว่าลูปาจะพาเธอไปที่ใด ไม่รู้ว่าเธอจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่ในใจเธอกลับสงบนิ่ง เพราะนี่คือครั้งแรกในชีวิต ... ที่เธอรู้สึกว่าเธอกำลังเดินบนทางของตนเองอย่างแท้จริง
“บางการเดินทางเริ่มต้นจากความมืด แต่สิ่งที่รออยู่ปลายทาง ... อาจคือแสงที่เรารอมาทั้งชีวิต เด็กหญิงตัวน้อย ... ลอบขึ้นเครื่องบินจากแดนไกล และลงจอดบนแผ่นดินที่กำหนดชะตาไว้แล้วว่า เธอคือบุตรแห่งอพอลโล่ ต้องฟื้นคืนแสงในหุบเขาหมาป่า”