บทบันทึกแห่งคืนโศก และการตื่นรู้ของดวงวิญญาณเดมี่ก็อตน้อยนามว่า จอง โซยอน
คืนนั้น ... ท้องฟ้าเหนือกรุงโซลกลับมืดมน กว่าคืนไหนๆ ไม่มีแม้แต่ดวงจันทร์ จะโผล่พ้นม่านเมฆามาให้กำลังใจเด็กหญิงผู้หนึ่ง ในห้วงแห่งความเงียบงัน ...... คฤหาสน์สกุลจอง ก็ยังคงสงบนิ่งงดงามดังภาพวาดหากแต่ ภายใต้ความหรูหราโอ่อ่าดั่งวังโบราณนั้น กำลังเกิดบางสิ่งที่เหนือคำอธิบาย
เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนหนึ่งครั้ง ..................
โซยอน เด็กหญิงวัย 12 ปี ผู้มีเรือนผมสีดำขลับยาวละต้นคอ และนัยน์ตากลมโตราวสระว่ายน้ำในคืนเดือนดับกำลังยืนนิ่งอยู่กลางโถงบันไดหินอ่อน ของ คฤหาสน์เธอไม่ได้หลับ เธอไม่ได้ฝัน เพราะสิ่งที่เธอเห็น กำลังพุ่งตรงมาจากปลายระเบียงด้านทิศเหนือ ..........................
"ครืนนน ...." เสียงกระจกสั่นสะเทือน และ เงาดำใหญ่โตดั่งร่างสัตว์ประหลาดจากนรกโลกันตร์ ก็ปรากฎขึ้น ท่ามกลางพายุที่กระแทกหน้าต่าง
ร่างนั้นสูงกว่าเสาโรมันในสวน เส้นผม ของ มันพริ้วไหวด้วยไฟสีดำสนิท ใบหน้าบิดเบี้ยว ... ไร้ดวงตามีเพียงรูพรุนที่กลวงลึก เสียงหายใจ ของ มันคือเสียงกรีดร้องจากขุมนรก
"มันไม่ใช่คน ..." นั่น คือ สิ่งเดียวที่โซยอนคิดได้ในขณะนั้น
"อย่าเข้ามา ... อย่าเข้ามา ...!!" เธอร้องเสียงสั่นพลางถอยหลัง จนแผ่นหลังกระแทก กับ เสาไม้โอ๊ค และก่อนที่เงาดำนั้นจะเข้าถึงตัว ราวกับโลกสั่งให้มันหายวับไปประตูระเบียงเปิดออกเองตามแรงลม ..... แล้วทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความเงียบ
วันรุ่งขึ้น .... เด็กหญิงตัวน้อยเปลี่ยนไป
เธอไม่พูด กับ ใครอีกเลย ไม่กิน ไม่ยิ้ม และไม่แม้แต่จะออกจากห้อง เธอเอาแต่นั่งอยู่บนเตียง มองหน้าต่างบานเดิมที่เงาดำนั้นเคยมาเยือน หัวใจเล็กๆ นั้นกำลังต่อสู้ กับ สิ่งที่ใหญ่เกินกว่าเด็กอายุสิบสองปี จะเข้าใจ
แม่เปิดประตู .... ความลับเปิดเผย
ประตูไม้โอ๊คสีเข้มเปิดออกเบาๆ พร้อมเสียงฝีเท้านุ่มนวลที่เดินเข้ามา หญิงสาวในวัยสามสิบปลาย ผู้มีใบหน้าสง่างาม ผิวขาวซีดราวหยาดหิมะฤดูหนาว และนัยน์ตาสีน้ำผึ้งอ่อนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย จอง ซูคีมารดา ของ โซยอน นั่งลงเบาๆ ข้างลูกสาว ของ ตน
"โซยอน ... ลูกของแม่ ... แม่อยู่ตรงนี้แล้วนะคะ" เสียงของเธอนุ่มดั่งกลีบกุหลาบที่ร่วงลงพื้น
มือเรียวลูบศีรษะ ของ โซยอนเบาๆ เธอสัมผัสได้ถึงอาการสั่นไหวเล็กๆ ใต้เส้นผม ของ ลูกน้ำตาเริ่มเอ่อคลอ ในดวงตาคู่งามนั้น ... แต่เธอยังยิ้ม
"แม่รู้ ... ว่าลูกเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น แม่ขอโทษ ที่ต้องบอกความจริง กับ ลูกในค่ำคืนเช่นนี้"
เด็กหญิงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสั่นระริก
"มันคืออะไรคะ แม่ ...? ทำไมมันถึงมาหาหนู ทำไมหนูถึงเห็นมันคนเดียว ...?"
แม่กอดเธอแน่น แล้วกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วย ความรักปนเจ็บปวด ...
"เพราะลูกไม่ใช่แค่เด็กหญิงธรรมดา ลูกคือ ... เดมี่ก็อต ลูกคือบุตรี ของ เทพอพอลโล่ เทพแห่งแสงสว่างบทเพลง และพลังแห่งการเยียวยา และลูกยังสืบเชื้อสายเลือดจากเทพีวีนัส ผ่านตระกูลจองที่เป็นบุตรหลานของเธอมาโดยตรง"
จดหมายแห่งการรับรอง ... โชคชะตาที่ไม่อาจเลี่ยง
หญิงสาวเอื้อมมือ ไปหยิบกล่องไม้สีทองอ่อนซึ่งเธอเก็บรักษาไว้อย่างดีใต้เตียง ภายในกล่องนั้นมี จดหมายฉบับหนึ่ง เขียนด้วยหมึกสีดำจาง และกระดาษที่มีกลิ่นอายโบราณ
"นี่ คือจดหมายจากคุณยาย ของ ลูก ... เธอเขียนเอาไว้ก่อนสิ้นลม เพื่อมอบให้ลูกในวันที่โชคชะตาเริ่มเผยตัว"
โซยอนคลี่จดหมายนั้นออก เสียงในหัวเธอราวกับได้ยินเสียง ของ คุณยายพูดเอง
"ถึงหลานรัก ... โซยอน ของ ยาย
หากหนูได้อ่านข้อความนี้ ย่อมหมายถึงวันนั้นมาถึงแล้ว หนูเป็นลูกหลานแห่งโรม สายเลือด ของ วีนัสยังไหลเวียนอยู่ในตัวผีเสื้อตัวน้อย ของ ยาย ... เจ้ากำลังจะได้โบยบิน ไปเผชิญความจริง ไปค้นหาความหมาย ของ แสงที่ซ่อนอยู่ในตัวเจ้าเอง"
การร่ำลา ... ด้วยหัวใจที่แตกสลาย แต่เปี่ยมไปด้วย ความหวัง
จอง ซูคี ผู้เป็นมารดา ช่วยลูกจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเล็ก เตรียมข้าว ของ เครื่องใช้ ที่จำเป็นใส่ลงไปให้ครบ มือไม้ที่กำลังสั่นไหว ของ คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ ไม่ได้เกิดจากความหวาดกลัว แต่เกิดจากการที่เธอต้องยอมปล่อยลูกสาวตัวน้อยๆ ให้ออกไปเผชิญโลกอันกว้างใหญ่นั่น ... คือความกล้าหาญ ของ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นแม่ทุกคน
"โซยอน ... จงอย่าหวั่นไหว เราคือโรม ลูกคือความภาคภูมิใจ ของ แม่ เจ้าคือคนพิเศษ ... อย่าได้ลืมคำพูด ของแม่ ไม่ว่าจะเผชิญ กับ อสุรกายหรือความมืดใดในโลกนี้ก็ตาม"
"แม่ขาหนูกลัว ..."
"แม่อยู่ตรงนี้ กับ ลูกเสมอ ... ในหัวใจ ของ ลูก ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหน"
และเมื่อประตูไม้ ของ คฤหาสน์ ค่อยๆ ปิดสนิทลงเสียงฝีเท้าเล็กๆ ของ หนูน้อยจองโซยอน ก็ได้ทำการเดินก้าวออกจากคฤหาสน์สกุลจอง และก้าวเข้าสู่โชคชัตาใหม่ ในมือ ของ เธอกำลังถือจดหมายปิดผนึกฉบับหนึ่งที่ยังไม่ได้ทำการเปิดออกอ่าน เลยแม้แต่นิด เอาไว้แน่น ในความคิด ของ เด็กหญิงตัวน้อยๆ ในตอนนี้ มีเพียงแค่คำพูด ของ ผู้เป็นแม่ ลอยวนไปวนมาอยู่ภายในหัว ของ เธอว่า
"ในใจของหนู จะมีความรัก ของ แม่ อยู่กับหนูเสมอ และ หนูมีสายเลือด ...และมีแสงของเทพอพอลโล่ และมีสเนห์ ของ เทพวีนัสซ่อนอยู่"