ดู: 66|ตอบกลับ: 10

Jung Soyeon (จอง โซยอน)

[คัดลอกลิงก์]
STR
0+0
INT
0+0
LUK
0+0
POW
0+0
CHA
0+0
VIT
0+0
Jung Soyeon


เกี่ยวกับฉัน


ชื่อ: Jung Soyeon (จอง โซยอน)
ชื่อเล่น : Yona (โยนะ)
วันเกิด: 27 กรกฎาคม 2013
สถานที่เกิด: ไม่ได้ระบุไว้ว่าเกิดในสถานที่ใด
เชื้อชาติ: เกาหลี

ลักษณะทางกายภาพ: เธอมีใบหน้าสวยหวาน รูปทรงไข่เล็กน้อย ผิวขาวเนียน ดวงตากลมโต จมูกโด่งเล็กน้อย ริมฝีปากอวบอิ่มเล็กน้อย เธอมักจะชอบไว้ผมยาว และ ผมสั้นสีดำเข้ม และเธอมีดวงตาสีดำ และ น้ำตาลเข้ม และมีรอยสักซึ่งมีสัญลักษณ์ ที่สืบทอดความเป็นลูกหลานแห่งโรม ผู้มีสายเลือดแห่งเทพีวีนัส และ ตัวของเธอยังเป็น บุตรีแห่งเทพอพอลโล อยู่ที่ตรงบริเวณแขนข้างขวา ไร้รอยแผลเป็น

ครอบครัว:
ต้นตระกูล: Jung Taejin (정태진) “ผู้ค้ำจุนด้วยเกียรติแห่งนักรบ และหล่อหลอมรักแท้ด้วยเลือดแห่งวีนัส”
แม่: Jung Sookhee


สิ่งที่ชอบ: 1. เสียงดนตรีจากเปียโนคลาสสิก
2. การวาดภาพด้วยสีน้ำ
3. แสงแดดยามสาย
4. นิทานกรีกโบราณ และตำนานโรมัน
5. ดอกคามิเลีย (Camellia)
สิ่งที่ไม่ชอบ: 1. เสียงดังและการทะเลาะกัน
2. การถูกจ้องมองหรือพูดถึงในที่สาธารณะ
3. แสงไฟนีออนจ้า หรือแสงไฟที่กระพริบเร็ว
4. ความรู้สึกถูกบังคับหรือควบคุม
5. คำโกหก แม้จะเล็กน้อยก็ตาม
สิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข:
1. การได้นั่งเงียบ ๆ ข้างคุณแม่ในยามเช้า พร้อมเสียงนกร้องและกลิ่นชาดอกไม้จาง ๆ โซยอนชอบเช้าอันเงียบสงบ  แสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านผ้าม่าน และอ้อมแขนอุ่นของแม่ที่โอบกอดเธอไว้ขณะนั่งจิบชาด้วยกัน “ในช่วงเวลานั้นโลกทั้งใบเงียบงัน… ยกเว้นหัวใจของเราที่เต้นพร้อมกัน”

2. การวาดภาพและระบายสีในสมุดเล่มโปรดของเธอ
เธอไม่ได้วาดเพื่อความสวยงาม เธอวาดเพื่อถ่ายทอดบางอย่างที่พูดไม่ได้… บางทีเป็นแสงอาทิตย์เหนือทุ่งลาเวนเดอร์ บางทีก็เป็นเงาร่างของใครบางคนที่เธอฝันถึงเสมอ


3. เสียงเปียโนที่ไหลลื่นและแว่วหวาน
โดยเฉพาะเมื่อเป็นคุณแม่ของเธอที่บรรเลง… หรือบทเพลงที่เธอเคยได้ยินตั้งแต่ในท้อง เสียงนั้นเป็นเหมือนสายน้ำเย็นใสที่ไหลลูบหัวใจเธอให้สงบ เธอหลับตาและยิ้มได้เสมอ


4. การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่า ดอกไม้ หรือ ริมทะเลในฤดูร้อน
โซยอนมีจิตวิญญาณเชื่อมโยงกับโลกธรรมชาติ เมื่อเธอได้สัมผัสพื้นดิน ใบไม้ หรือไล่ตามผีเสื้อกลางแสงแดด จิตใจของเธอจะเบิกบานเหมือนดอกไม้แรกแย้ม “แม่ขา หนูว่าเสียงลมกำลังหัวเราะอยู่นะคะ”

5. การเขียนบันทึก หรือจดหมายถึงคนที่เธอรัก แม้พวกเขาจะอยู่ไกลหรือไม่มีคำตอบกลับมา มันเป็นทางลัดของหัวใจ

เธอรู้สึกว่าเมื่อเธอเขียน จิตใจเธอได้เดินทางไปหาผู้รับจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น “คุณพ่ออะพอลโล่” หรือ “คุณยายผู้เขียนจดหมายเก่า ๆ ไว้ให้”

6. การได้ช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่ต้องถูกขอ เธอจะมีรอยยิ้มอบอุ่นและเปล่งประกายที่สุด เมื่อได้หยิบผ้าเช็ดหน้าให้เพื่อน น้ำดื่มให้คุณลุงคนขายของ หรือแม้แต่เก็บลูกแมวหลงทางมาเลี้ยงไว้ในผ้าห่ม

ความกลัว:

1. การสูญเสียคนที่เธอรักไป … โดยไม่ทันได้บอกลา โซยอนไม่เคยพูดมันออกมา แต่เธอกลัวลึก ๆ ว่าวันหนึ่งแม่ของเธอจะจากไป หรือใครบางคนที่เธอรักจะจางหายไปราวหมอก

"ถ้าหนูตื่นมาแล้วไม่เห็นแม่… หนูจะทำอย่างไรดีคะ?"

2. ความเงียบงันที่ยาวนานผิดปกติ ไม่ใช่ความสงบ แต่เป็นความเงียบที่ว่างเปล่า ไม่มีเสียงนก ไม่มีเสียงลม ไม่มีแม้แต่เสียงหัวใจตัวเอง เธอเคยฝันถึงมัน และตื่นขึ้นมาด้วยน้ำตาบนใบหน้า

มันเป็นความเงียบ… ที่เหมือนโลกทั้งใบลืมว่าเธอยังอยู่ตรงนี้

3. การถูกทิ้งไว้เพียงลำพังในที่ที่เธอไม่รู้จัก
โดยเฉพาะในที่ที่ไร้ความอบอุ่น ไร้แสงอาทิตย์ และไม่มีมือของใครให้จับไว้ โซยอนจะวิตกอย่างรุนแรงถ้าหลงทาง หรือถูกแยกจากแม่โดยไม่ทันตั้งตัว

และมัน "กำลังจะเอื้อมมือมาหาเธอ"


4. ความจริงเกี่ยวกับตัวตนของเธอเอง ที่บางครั้งก็หนักเกินไปสำหรับเด็กหญิงวัยสิบสอง แม้เธอจะได้รับรู้ว่าตนเป็นลูกของเทพอะพอลโล่ แต่เธอก็ยังรู้สึก… แปลกแยกและหวั่นไหว ความเป็นเดมี่ก็อตนั้นยิ่งใหญ่ และบางครั้งเธอแค่อยากเป็น “แค่โซยอนธรรมดา” เท่านั้น

5.อสุรกายและเงามืดที่เธอเริ่มเห็นตั้งแต่อายุ 12 มันไม่ใช่เพียงภาพน่ากลัว แต่มันคือความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่าง "รู้จักเธอ" ดียิ่งกว่าเธอรู้จักตัวเอง

จุดแข็ง:
จุดแข็งของจองโซยอน
1. หัวใจที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของผู้อื่น (Empathy สูงมาก)
โซยอนสามารถรับรู้และเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นได้ลึกซึ้ง แม้เพียงแค่มองแววตา หรือสัมผัสลมรอบกาย นี่คือพรแห่งสายเลือดเทพ แต่เธอใช้มันด้วยหัวใจของมนุษย์

2. พรสวรรค์ด้านเสียงดนตรี การเล่นเปียโนไม่ใช่แค่ความสามารถ แต่มันคือ “ภาษาหัวใจ” ของโซยอน เสียงที่เธอใช้พูดกับโลกในแบบของเธอทุกครั้งที่เธอวางนิ้วบนคีย์เปียโน เธอเยียวยาความรู้สึกของผู้ฟังได้โดยไม่ต้องเอ่ยคำ

3. จินตนาการอันลึกซึ้ง และจิตใจที่มีความฝัน เธอมักมองเห็นโลกในมุมที่คนอื่นไม่เคยมอง เธอเชื่อว่าสายลมมีชื่อ และว่าผีเสื้อจำเสียงหัวเราะของเธอได้

4. จิตใจหนักแน่นเกินวัย แม้จะมีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนบาง แต่โซยอนมีจิตใจมั่นคงและไม่หวั่นไหวต่อคำพูดทำร้ายหรือแรงกดดันจากภายนอก เธอสามารถยืนหยัดในสิ่งที่ตนเชื่อโดยไม่จำเป็นต้องเสียงดัง เธอคือ “ความกล้าที่เงียบงัน”

5. ความกล้าหาญเงียบ ๆ เธอไม่ใช่เด็กที่ชอบต่อสู้ แต่หากใครทำร้ายคนที่เธอรัก เธอจะยืนหยัดอย่างไม่ถอย แม้หัวใจจะสั่นก็ตาม

จุดอ่อน
1. อ่อนไหวง่าย และมีความรู้สึกมากเกินไปในบางสถานการณ์
ความสามารถในการ “รับรู้ความรู้สึกของคนอื่น” นั้นเป็นพร แต่ก็กลายเป็นภาระเมื่ออยู่ในที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

2. ขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างรุนแรง เพราะความเป็นเดมี่ก็อตทำให้เธอรู้สึก “แตกต่าง” เธอจึงมักตั้งคำถามว่า “ตัวเองสมควรมีอยู่ในโลกใบนี้หรือไม่”

3. ไม่สามารถโกหกได้ดี ความจริงใจของโซยอนนั้นใสสะอาดจนแทบไม่สามารถปิดบังอะไรได้เลย เธอเป็นหนังสือเปิดที่ทุกคนอ่านออก

4. ไวต่อเสียงและบรรยากาศรอบตัว เสียงดังเกินไป แสงวูบวาบ หรือบรรยากาศที่กดดัน จะทำให้เธอเกิดอาการปวดหัวหรือสั่นกลัว

5. กลัวการสูญเสีย และไม่กล้าผูกพันกับใครง่าย ๆ ถึงแม้เธอจะอบอุ่นและรักทุกคน แต่ในใจลึก ๆ เธอกลัวว่า “ใครคนนั้นจะจากไป” ดังนั้นเธอมักหลบสายตา หรือสร้างกำแพงเล็ก ๆ ไว้เงียบ ๆ

รูปรอยสัก:


ข้อบกพร่องร้ายแรง: ไม่มีโรค
โรคประจำตัวเดมี่ก็อต:
1.โรคดิสเล็กเซีย (ละติน)
2.โรคสมาธิสั้น


แรงจูงใจ
"ฉันอยากเข้าใจว่าฉันคือใคร ... และจะรักโลกใบนี้ได้อย่างไร ทั้งที่ฉันไม่แน่ใจว่ามันรักฉันจริงหรือเปล่า"

1. ค้นหาตัวตนที่แท้จริง

โซยอนเติบโตมาพร้อมความรู้สึกว่าตนเอง "แตกต่าง" แต่ไม่เคยเข้าใจว่าทำไม จนกระทั่งรู้ความจริงว่าเธอเป็นลูกของเทพอะพอลโล่ แรงจูงใจของเธอคือการตามหาว่า แท้จริงแล้วเธอคือใคร และ เกิดมาเพื่ออะไร“หากฉันเป็นแสง... แล้วฉันควรส่องสว่างให้ใคร?”

2. ต้องการรู้ว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร

การที่เติบโตมากับแม่เพียงคนเดียว ทำให้เธอซาบซึ้งในความรักที่อ่อนโยนแต่ก็อยากรู้ว่ารูปแบบของความรักอื่น ๆ เช่น ความรักของพ่อ ความรักแบบเพื่อน หรือความรักแบบคู่ชีวิต จะมีอยู่จริงไหม และจะมอบให้ใครได้บ้าง

3. ปกป้องคนที่เธอรักจากอสุรกายและภัยเหนือธรรมชาติ
หลังจากที่เริ่มเห็นสิ่งเหนือธรรมชาติและถูกรู้ว่าอาจตกเป็นเป้าของเหล่าอสุรกาย เธอมีแรงผลักดันในการฝึกฝนและเรียนรู้พลังของตน เพื่อจะไม่ต้องหนี แต่จะสามารถ ปกป้องผู้อื่นได้ด้วยตัวเอง “ฉันไม่อยากให้แม่ต้องกลัวอีกต่อไป”

4. ตามรอยบรรพบุรุษ เพื่อคืนชีวิตให้กับชื่อเสียงตระกูล Jung แห่งโรม เมื่อได้รับจดหมายของคุณยาย และได้รู้ว่าตนมีสายเลือดของเทพวีนัสและโรมัน แรงผลักดันอีกส่วนของเธอจึงกลายเป็นการ “ยืนหยัดในนามของผู้หญิงในตระกูล Jung” เพื่อยืนยันว่า เราคือโรม… เรายังอยู่… และเราจะไม่ถูกลืม

5. แสวงหาสถานที่ที่เธอจะ ‘เป็นตัวเอง’ ได้โดยไม่ต้องซ่อน โซยอนรู้สึกว่าตนไม่สามารถเปิดเผยตัวตนในสังคมมนุษย์ได้อย่างแท้จริง เธอจึงแสวงหาดินแดน สถานที่ หรือแม้แต่ผู้คน ที่เธอจะได้ “เป็นตัวของตัวเอง” ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกมองว่าแปลกหรือผิด“มีที่ไหนในโลกไหม ที่ฉันจะหัวเราะโดยไม่ต้องหันหลังกลับไปมอง?”

บุคลิกภาพ
ภายนอกที่ทุกคนเห็น

สงบ เรียบร้อย และลุ่มลึก

โซยอนมักปรากฏตัวอย่างเงียบสงบ คล้ายภาพวาดสีน้ำที่แค่ได้มองก็รู้สึกเย็นใจ เธอไม่ใช่เด็กหญิงที่ชอบเป็นจุดสนใจ แต่เมื่อใดที่เธอเอ่ยปากพูด เสียงนั้นจะคล้ายบทกวีที่ถูกทอด้วยสายลมอ่อน ชวนให้คนฟังหยุดโลกไว้ชั่วขณะ

มีมารยาทสูง และช่างสังเกต

เธอเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ เงียบเพราะฟัง ไม่ใช่เพราะเฉยชา มักสังเกตได้ถึงอารมณ์หรือแม้แต่รอยร้าวที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มของผู้อื่น จึงมักมีคำพูดที่เหมาะเจาะต่อสถานการณ์เสมอ

เปี่ยมเสน่ห์แบบธรรมชาติ

เสน่ห์ของเธอไม่ใช่ความสวยที่แต่งแต้ม แต่เป็นความละมุนที่แผ่ออกมาโดยไม่ต้องพยายาม ผู้คนมักรู้สึกไว้วางใจเธอโดยไม่รู้ตัว ราวกับเธอเป็นพื้นที่ปลอดภัย

ภายในที่แม่รู้ดีที่สุด

อ่อนไหวแต่กล้าหาญ

เธอร้องไห้เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตบาดเจ็บ เธอเจ็บเมื่อเห็นใครถูกทอดทิ้ง… แต่ในเวลาเดียวกัน เธอคือคนที่จะลุกขึ้นปกป้องแม้ตัวเองจะสั่นกลัว

สรุปสั้น ๆ บุคลิกของโซยอนใน 5 คำ

อ่อนโยน – ลึกซึ้ง – อ่อนไหว – กล้าหาญ – ลึกลับ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 50926 ไบต์และได้รับ 30 EXP!  โพสต์ 2025-6-13 20:25

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 เงินดอลลาร์ +20 เหรียญดีนาเรียส +5 ตื่นรู้ +1 ย่อ เหตุผล
God + 30 + 20 + 5 + 1

ดูบันทึกคะแนน

STR
0+0
INT
0+0
LUK
0+0
POW
0+0
CHA
0+0
VIT
0+0
 เจ้าของ| โพสต์ 2025-6-13 20:44:32 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Soyeon เมื่อ 2025-6-18 16:04

ประวัติต้นตระกูล (กรณีลูกหลานโรม)



ณ กรุงโซล เมืองหลวงที่ยังคลาคล่ำด้วยเสียงแตรของรถลากและเพิงไม้ไผ่ในปี ค.ศ. 1927… สายลมฤดูใบไม้ผลิแผ่วผ่านรั้วบ้านไม้เก่าหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เขตอินซาดง มีทารกชายถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ เด็กผู้นั้นมีดวงตากลมดำราวหยาดหมึก ดั่งว่าจ้องมองเข้าไปในวิญญาณของผู้พบเห็น

เขาได้รับนามว่า จอง แทจิน (Jung Taejin)
บุตรชายเพียงคนเดียวของ จอง ฮยอนจุน (Jung Hyunjoon) ผู้เป็นนักคัดลายมือประจำศาลาวัด ผู้เลี้ยงดูเขาด้วยสองมือที่เปื้อนหมึกแต่เปี่ยมด้วยความเมตตา

“ลูกคือปาฏิหาริย์ของข้า” พ่อเคยกระซิบกับเขาในคืนที่ฝนโปรย “และเจ้าจะเติบใหญ่ … มิใช่เพียงเพื่อข้า แต่เพื่อโลกที่ยังไม่เข้าใจในตัวเจ้า”



วัยเยาว์แห่งโซล

แทจินเติบโตท่ามกลางบ้านเงียบ เรียนรู้การเขียนตัวอักษรฮันจาโดยการจุ่มพู่กันในขวดหมึกที่สืบทอดกันมาในตระกูล เขามีเพื่อนเพียงสองคนคือ “ชินอู” บุตรช่างปั้น และ “แทยอน” เด็กสาวขี้สงสัยที่ชอบตั้งคำถามกับหมู่ดาว เด็กทั้งสามเล่นในสวนไผ่หลังวัด ท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกพฤกษาและเสียงขลุ่ยของพระเฒ่า

แต่เมื่ออายุได้ 12 ปี ... แทจินเริ่ม “เห็น” สิ่งที่ไม่มีใครเห็น — แสงระยิบเรืองรองเหนือศีรษะคนผ่านไปมา เงาร่างปีกเงินที่ยืนบนหลังคาบ้าน และเสียงเพลงอันอบอุ่นที่ดังจากทิศไร้ผู้เปล่งเสียง

เมื่อเขาเงียบงันและพ่อสังเกตได้ ฮยอนจุนจึงพาเขาไปนั่งใต้ต้นพลัมหน้าบ้านแล้วเอ่ยความจริงที่เขาเก็บงำมานาน...

“แทจิน… ลูกไม่ได้เป็นเพียงลูกของข้า ลูกเกิดจากแสง … จากความรักอันบริสุทธิ์ที่เทพีวีนัสประทานไว้กับมนุษย์ผู้วาดฝัน … ข้าเป็นเพียงผู้เลี้ยงดูเจ้าด้วยหัวใจ แต่มารดาของเจ้าคือเทพีแห่งความรัก ผู้สูงส่งเหนือผู้ใด”



นั่นเป็นคืนแรกที่แทจินร้องไห้ … ไม่ใช่เพราะเสียใจ แต่เพราะเขารู้แล้วว่าชีวิตเขาไม่ใช่ของเขาเพียงผู้เดียว เขาถูกส่งมาเพื่อบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่

เส้นทางของวีรบุรุษ

ในปี 1943 ขณะอายุ 16 ปี เขาออกเดินทางจากเกาหลีใต้ ผ่านเรือสินค้าไปยังชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา จนถึง หุบเขาโซโนมา แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งรู้จักกันในหมู่ลูกเทพว่า “บ้านหมาป่า” สถานฝึกสอนผู้มีสายเลือดแห่งทวยเทพ

ที่นั่นเขาฝึกฝนตนเองทั้งศาสตร์แห่งอาวุธ การต่อสู้ พลังจิต และความเข้มแข็งของหัวใจ

สองปีให้หลัง ในปี 1945 เขาถูกคัดเลือกเข้าร่วม ค่ายจูปีเตอร์ กองร้อยที่ 3 แห่งกองพันที่ 12

วีรกรรมและการรับใช้

ตลอดเวลา 10 ปี (1945–1955) ที่อยู่ในค่ายจูปิเตอร์ เขาได้ฝากชื่อเสียงไว้มากมาย ทั้งในการรบกับพวกไททัน การลอบเข้าเขตต้องห้ามของไฮดราทะเลสาบมิสติค และการนำกลุ่มรบป้องกันค่ายจากการบุกของมารแห่งความฝัน เขาเป็นผู้นำโดยมิใช่ด้วยคำพูด … แต่ด้วยสายตาที่นิ่งมั่น

“ข้าไม่ใช่เทพ … ข้าไม่ใช่ผู้วิเศษ… ข้าเป็นเพียงผู้กล้าที่ไม่ยอมถอย”  คำกล่าวของแทจินในการปกป้องเด็กใหม่คนหนึ่งจากการกลั่นแกล้งในค่าย



จากนั้นในปี 1955 เขาถูกคัดเลือกให้ได้ไปรบเคียงข้างบุตรแห่งมาร์สและมีร์คิวรี่ในภารกิจป้องกันอาณาเขตโลกจากสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเงามืด

เขารับใช้ที่โรมจนครบ 10 ปี สิ้นสุดในปี 1965

ชีวิตในโลกกว้างและวันสุดท้าย

ตั้งแต่ปี 1965 เป็นต้นไป แทจินเลือกออกเดินทางไปทั่วโลก ทั้งอินเดีย เปรู อียิปต์ จีน และออสเตรเลีย เขาสร้างตำนานท้องถิ่นให้กับผู้คนในถิ่นห่างไกล ใช้พลังรักษา รบแทน และสอนเยาวชนที่มีพลังแต่ไร้ทิศทาง จวบจนถึงปี 1993 เขาสิ้นใจอย่างสงบในที่พักกลางป่าเชิงเขาเอล์บส์แห่งบาวาเรีย ท่ามกลางสายลมฤดูใบไม้ร่วงที่ชวนให้คิดถึงกลิ่นบ้านเกิด

“จงใช้หัวใจนำทาง … และอย่าให้เลือดเทพในตัวเจ้าลืมความเป็นมนุษย์”  คำสั่งเสียสุดท้ายของเขาในสมุดบันทึก




---

Jung Taejin ไม่ได้เป็นเพียงนักรบ เขาคือ “ทวด” ของ Jung Soyeon  ผู้สืบทอดสายเลือดของเขาในรุ่นที่สี่ และเป็นผู้ก่อร่างสร้างรากฐานให้กับตระกูล Jung อย่างสง่างาม

และแม้เวลาจะผ่านพ้นไปกว่า หนึ่งศตวรรษ นามของเขายังดังก้องในสายลมที่พัดผ่านทุ่งหญ้าบนเขาโซโนมา... ดั่งเสียงของทหารผู้ไม่เคยลืมตนเอง


---



แสดงความคิดเห็น

God
กรุณาระบุปีให้ชัดเจนกว่านี้ และเขียนเรียบเรียงใหม่ให้เข้าใจ  โพสต์ 2025-6-13 21:44
God
ประวัติแก้ใหม่ทั้งหมด อ่านแล้วงงx100 และนิวยอร์กเกี่ยวอะไรด้วย ย้ำว่าแก้ใหม่ยกแผง   โพสต์ 2025-6-13 21:22
โพสต์ 7379 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-6-13 20:44
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
STR
0+0
INT
0+0
LUK
0+0
POW
0+0
CHA
0+0
VIT
0+0
 เจ้าของ| โพสต์ 2025-6-13 20:47:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Soyeon เมื่อ 2025-6-14 19:55

ประวัติตัวละคร ของ คุณ

"ค่ำคืนนี้...ความเงียบงันทำให้เสียงหัวใจของแม่ดังกึกก้องเกินกว่าท่วงทำนองใดจะกลบได้" ข้าพเจ้ามีนามว่า จอง ซูคี สตรีอายุสามสิบแปดปี ผู้เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาในสายตาโลก หากแต่เป็น จักรวาลทั้งดวง ในสายตาของลูกเพียงคนเดียวที่ข้าภาคภูมิใจเหนือสิ่งอื่นใดบนผืนพิภพนี้ จอง โซยอน หรือ โยนา เด็กหญิงตัวน้อยผู้ถือกำเนิดในยามราตรีท่ามกลางเสียงเปียโนขับขานบทคลาสสิก ณ เวลา 23.00 น. ของคืนวันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม บทเพลงนั้นเป็น “Clair de Lune” ที่ถูกบรรเลงด้วยมือของข้าเอง...เป็นเสียงแรกที่เธอได้ยินก่อนแม้แต่จะลืมตาดูโลก ดวงตาใสแจ๋วคู่เล็กนั้น...สบตาข้าอย่างไม่รู้เดียงสา มืออันนุ่มนิ่มยื่นมาเกาะกุมปลายนิ้วของข้าอย่างไม่ลังเล และในห้วงเวลานั้น ข้าก็รู้เลยว่า...แม่จะปกป้องเด็กคนนี้ด้วยลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

คฤหาสน์จอง...คือโลกทั้งใบของเรา

เราสองแม่ลูกอาศัยอยู่ที่ คฤหาสน์จอง กลางกรุงโซล สถานที่เงียบสงบแต่อบอวลด้วยความอบอุ่น ที่ซึ่งข้าพยายามทดแทนทุกอย่างที่เธอควรได้รับจากครอบครัวที่สมบูรณ์ ถึงแม้ข้าจะเป็นเพียงคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ตาม

ในยามที่เธอยังเป็นทารก โซยอนเป็นเด็กเลี้ยงง่าย...ขี้อ้อนและรักเสียงดนตรี เธอมักเงียบลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงเปียโน และเมื่ออายุได้หนึ่งขวบ เธอก็เริ่มฮัมทำนองง่ายๆ ตามข้าอย่างแม่นยำ

เธอมีความรักในธรรมชาติ แม้จะเติบโตในเมืองใหญ่ หากแต่ดอกไม้เล็กๆ ริมทางยังทำให้เธอยิ้มกว้างราวกับพบขุมทรัพย์
พอเธออายุได้สี่ขวบ เธอเริ่มวาดภาพ...ภาพดอกไม้ แสงแดด และบางครั้งก็มี ปีกโปร่งแสงของผีเสื้อแปลกตา

โซยอนในวัยเยาว์…ผีเสื้อน้อยกับหัวใจบริสุทธิ์

ตั้งแต่อายุห้าขวบจนถึงสิบเอ็ด โซยอนเติบโตเป็นเด็กหญิงที่เปี่ยมด้วยความสามารถและมีเสน่ห์เกินวัย เธอเป็นนักเปียโนรุ่นจิ๋วที่สามารถเล่นเพลงคลาสสิกยากๆ ได้อย่างแม่นยำราวกับร่างของเธอคือเครื่องดนตรี
เธอพูดจานุ่มนวล อ่อนหวาน และมีรอยยิ้มที่อบอุ่นจนคนรอบข้างตกหลุมรักเธอโดยไม่รู้ตัว

เธอมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อ ฮาริน เด็กหญิงผู้เรียบร้อยและรักการอ่าน พวกเธอมักแลกไดอารี่กัน และโซยอนก็ชอบวาดรูปในทุกหน้ากระดาษ

แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของข้าเต้นรัวที่สุด คือทุกเช้า...ไม่ว่าแดดจะร้อน หรือฝนจะโปรย เธอจะวิ่งมากอดข้าจากด้านหลัง แล้วพูดเบาๆ ว่า “แม่คือแสงแดดของหนู...แม่รู้ไหม?”

จุดเปลี่ยน...เมื่อผีเสื้อเริ่มสั่นปีก

จนกระทั่งวันหนึ่ง วันธรรมดาวันหนึ่ง เมื่อโซยอนอายุได้สิบสองปีพอดี เธอเริ่มเก็บตัวเงียบ ไม่พูด ไม่ยิ้ม ไม่แม้แต่จะเปิดเปียโนที่เธอเคยหลงรัก ข้ารู้ทันทีว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ข้าจึงเดินเข้าไปหาลูกอย่างช้าๆ แล้วนั่งลงข้างๆ เธอบนเตียงสีขาวนั้น เอื้อมมือไปลูบผมของเธออย่างเบามือ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยห่วงใยว่า...

“โซยอน...ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม...เล่าให้แม่ฟังได้ทุกเรื่องนะคะคนดีของแม่”

เด็กน้อยของข้านิ่งไปชั่วอึดใจ...ก่อนน้ำตาคู่หนึ่งจะไหลรินลงจากแก้มใส

“แม่คะ…หนูเห็นอสุรกาย…เห็นแสงประหลาดในห้อง หนูเห็นเงาดำที่ตามหนูอยู่ทุกคืน…หนูกลัว”

ข้าไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว ข้าโอบกอดลูกแน่น กดจูบที่กลางศีรษะ แล้วพูดเบาๆ ว่า…

“โซยอน...ลูกไม่ได้บ้า และลูกไม่ได้อยู่คนเดียว”

ความจริงที่แม่ต้องเปิดเผย…และจดหมายจากคุณยาย

ข้าตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟัง...ความจริงที่เก็บซ่อนไว้มาทั้งชีวิต เธอไม่ใช่เพียงเด็กหญิงธรรมดา แต่เธอคือบุตรีแห่ง เทพอะพอลโล่ เทพแห่งแสงสว่างและดนตรี และอีกครึ่งหนึ่งของสายเลือดเธอนั้น มาจาก เทพีวีนัส ผ่านสายเลือดตระกูล จอง

และในวันนั้นเอง ข้าได้ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้กับเธอ จดหมายลายมือของ คุณยายจอง ซูนา ซึ่งเขียนไว้ก่อนเสียชีวิต...

“ถึง โซยอน...ผีเสื้อตัวน้อยของยาย บรรพบุรุษของเราคือชาวโรมัน และหนู…คือหนึ่งในเชื้อสายของเทพวีนัส ความงามที่หนูมี ไม่ได้อยู่แค่รูปกาย แต่เป็นแสงแห่งเมตตาในหัวใจ
ถึงเพลาแล้วที่เจ้าจะโบยบิน ไปค้นหาตัวตนของตนเอง จำไว้นะหลานรัก...ผีเสื้อตัวน้อยย่อมกลายเป็นราชินีแห่งท้องฟ้า”

คำมั่นของแม่…ก่อนเธอจะออกเดินทาง

หลังจากที่อ่านจดหมายนั้นจบ ข้าก็ช่วยเธอจัดเตรียมสัมภาระ...แม้ใจจะเจ็บปวด แต่ข้ากลับรู้ว่า นี่คือเส้นทางของเธอ...และข้าไม่สามารถห้ามได้ ก่อนที่เธอจะจากไป ข้าก้มลงกอดลูกแน่นอีกครั้ง และกระซิบข้างหูว่า...“ลูกคือคนพิเศษ...จงจำไว้เสมอ
และไม่ว่าที่ใดในจักรวาล แม่จะเป็นที่พักใจของลูกเสมอ
เราคือโรม...ลูกคือความภาคภูมิใจของทั้งสายเลือดมนุษย์และเทพเจ้า”



และก่อนที่เทพอะพอลโล่จะหวนคืนสู่เขาโอลิมปัส ข้าก็ได้รับคำแนะนำสุดท้ายเขาฝากสถานที่ปลอดภัยไว้ และเตือนให้ข้าระวัง... เพราะเมื่อโชคชะตาเริ่มเผยตัว เหล่าอสุรกายจะไล่ล่าเพื่อทำลาย

คำลงท้ายจากหัวใจของแม่

ค่ำคืนนี้ โซยอนไม่อยู่ข้างกาย...แต่หัวใจของเธอยังเต้นในอกของข้าเธอคือแสงแห่งอรุณ เป็นท่วงทำนองของเปียโนในคืนที่ไร้ดาว
เป็นทุกลมหายใจ เป็นบทกวีที่ไม่รู้จบในชีวิตของแม่คนนี้

หากใครได้พบลูกของข้า...จงรักเธอด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์
เพราะเธอไม่ใช่เพียง เด็กหญิงผู้มีปีก แต่เธอคือ...ผีเสื้อตัวน้อยแห่งดวงตะวัน

จอง ซูคี

มารดาผู้เฝ้ามองการโบยบินอย่างภาคภูมิ













แสดงความคิดเห็น

God
แหกคาร์อะพอลโลอย่างรุนแรงกับคาแรกเตอร์อะพอลโลในจักรวาลริก ไรออร์แดน  โพสต์ 2025-6-13 21:34
โพสต์ 15131 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-6-13 20:47
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
ไม่ระบุชื่อ
ไม่ระบุชื่อ  โพสต์ 2025-6-14 20:25:12
คอมเม้นประวัติบรรพบุรุษ
- รอยต่อเกิดมาในนิวยอร์ก ตั้งแต่เยาว์วัย ข้าเติบโตในบ้านที่เรียกกันว่า บ้านหมาป่า  ขัดแย้งกัน สรุปจะเกิดที่นิวยอร์ก หรือเกิดที่บ้านหมาป่า ถ้าเกิดนิวยอร์ก แล้วทำไมไปเติบโตที่บ้านหมาป่าได้ คนละฟากเลย นิวยอร์กกับบ้านหมาป่า ราวๆ 2914 ไมล์ นิดๆ   และพ่อแม่ของทวดเราทำไมถึงพาไปทิ้งบ้านหมาป่าตั้งแต่เด็กแบบนั้น ระบุเหตุผลให้ชัดเจนด้วย
- ปลดปล่อยหมู่บ้านที่ถูกกองกำลังมืดล้อมไว้ คือหมูบ้านในประเทศอะไร ของยุคหลัง 1980 และปีอะไรที่บรรพบุรุษสร้างผลงานนี้ โปรดระบุให้ชัดเจนด้วย เพราะส่วนนี้แอดต้องนำไปเขียนเป็นประวัติศาสตร์ของกรุงโรมใหม่
- เคยสังหารจอมเวทย์ศัตรูที่ข่มเหงผู้บริสุทธิ์ ศัตรูฝ่ายไหน ประเทศอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น เป็นใคร เกิดอะไรขึ้น โปรดศึกษาประวัติศาสตร์ยุคนั้นและเอามาเขียนข้อมูลประยุกต์ด้วย ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพราะส่วนนี้แอดต้องนำไปเขียนเป็นประวัติศาสตร์ของกรุงโรมใหม่
- แล้วทวดปลดประจำการจากค่ายจูปิเตอร์แล้ว ไปทำอะไรนิวยอร์กอีก โปรดระบุเหตุผลให้ชัดเจนด้วย ทำไมถึงเริ่มต้น จากนิวยอร์ก สู่เกาหลีใต้ และจากนั้นอีกหลายประเทศ ข้าได้พบทั้งมิตรและศัตรู แต่ข้ายังคงยึดมั่นในคำสอนของเทพีวีนัส งงว่าปลดประจำการแล้วทำไมไม่ไปเกาหลีใต้จากซานฟรานซิสโกไปเลย ถ้าจะไปที่เกาหลีจริงๆ ทำไมต้องล้อมทวีปไปนิวยอร์ก
- ประวัติของตัวเราเองจะยังไม่ตรวจใดๆทั้งสิ้นจนกว่าประวัติบรรพบุรุษผ่าน
- ระบุปีเกิดของแม่เราด้วย ตอนนี้เริ่มสงสัยแล้วแม่อายุเท่าไหร่กันแน่ ในเมื่อคุณย่า อายุ 45 ปี

แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 4175 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-14 20:25
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x9
x1
x1
x1
x1
x3
x1
x4932
x1
x1
x1
x1
x900
x1
x9
x2
x1
x2
x1
x1
x3
x1
x1
x1
x60
x96
x1
x2
x2
x1
x1
x1
x5
x1
x1
x3
x1
x7
x15
x21
x2
x1
x7
x1
x3
x1
x2
x2
x1
x1
x6
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้