CHAPTER 8
21 May 2025 06:10 AM
- - - - -
ค่ำคืนที่แสนยาวนานผ่านไปไวเหมือนโกหก อเดลเลดรู้สึกเหมือนเพิ่งจะปิดเปลือกตาไปเมื่อครู่รู้ตัวอีกทีก็หกโมงเช้า แต่สาเหตุที่ทำให้เธอตื่นไม่ใช่เพราะหลับเต็มอิ่มแต่เป็นเพราะเสียงก๊อกแก๊กที่ดังมาจากประตูโบสถ์ร้างหลังเล็กที่เธอใช้เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจเมื่อคืนนี้ต่างหากที่ทำให้หญิงสาวตื่นเต็มตา
"เวรๆๆ" ตั้งแต่มาทำภารกิจเธอเผลอพูดคำหยาบไปมากมายจนอาจจะโดนออเดรย์ผู้อุปถัมป์ของเธอแพ่นกะบาลเอาได้หากหล่อนบังเอิญมาได้ยินเข้า
โอเคกลับเข้าเรื่อง.. ประตูโบสถ์ที่กำลังส่งเสียงน่ารำคาญใจอยู่นั้นถูดล็อกจากด้านในโดยฝีมือของเธอเองทำให้สามารถถ่วงเวลาผู้ที่กำลังพยายามจะบุกรุกเอาไว้ได้ (เอาจริงๆ ก็เป็นเธอเองนี่แหละที่เป็นคนบุกรุกก่อน แต่ช่างมันเถอะ) สถานการณ์ของเธอในตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นการปิดประตูตีแมวเพราะทางเข้าออกของโบสถ์แห่งนี้มีเพียงแห่งเดียวคือเจ้าประตูก๊อกแก๊กนั่น เธอไม่สามารถหนีเอาตัวรอดไปได้หากไม่เปิดประตูและก็ไม่แน่ใจว่าหากประตูเปิดเธอจะเจอเข้ากับอะไร ถ้าโชคดีหน่อยอาจจะเจอคุณลุงใจดีที่แวะมาทำความสะอาดโบสถ์ร้างและมองว่าเธอเป็นคนจรจัดที่มาใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ซุกหัวนอน หรือถ้าซวยหน่อยก็คงจะเป็นอสุรกายที่พยายามจะเข้ามากินเธอเป็นอาหารเช้า แต่ไม่ว่าจะเจอใครการไม่เปิดเผยตัวก่อนอาจจะเป็นทางที่ดีที่สุด
โครมมม!!
ประตูโบสถ์ถูกพังเข้ามาด้านในจนฝุ่นคลุ้ง ชายหุ่นล่ำบึ้กในเครื่องแบบตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาข้างในพร้อมกับชายผอมกะหร่องอีกคนที่ถือไม้กวาดไว้ในมือ
"บอกแล้วว่าโบสถ์นี้มีไว้แค่เก็บของเท่านั้น จะมีคนอยู่ได้ยังไงกัน" ชายที่คาดว่าจะเป็นคนดูแลสุสานแห่งนี้ว่าพร้อมกับโบกมือไปมา อเดลเลดประเมินเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่หลังข้าวของกองพะเนินที่ใช้เป็นที่ซ่อนตัว ถ้าเธอเผยตัวตอนนี้อย่างมากก็อาจจะแค่ถูกส่งไปปรับทัศนคติว่าห้ามไปนอนในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาติอีก แต่หากยังคงซ่อนตัวและปล่อยให้ทั้งสองเดินออกไป ผู้ดูแลสุสานก็มีสิทธิ์ที่จะล็อคโบสถ์ร้างแห่งนี้จากด้านนอกและทำให้เธอได้นอนยาวในสุสานไปตลอดกาล
ขณะที่กำลังตัดสินใจว่าจะยอมมอบตัวดีๆ ไหมอยู่นั้น หญิงสาวก็ได้ยินเสียงแปลกๆ มาจากตำรวจนายนั้นคล้ายเสียงโลหะเสียดสีกันภายใต้เสื้อผ้ายูนิฟอร์มตำรวจและเสียงมันจะดังทุกครั้งที่นายตำรวจขยับตัวหรือขยับช่วงข้อต่อในร่างกาย
"เทียนนี่เพิ่งจะถูกใช้ไปหมาดๆ" เสียงทุ้มต่ำแปลกๆ เหมือนใช้ออโต้จูนของตำรวจนายนั้นยิ่งทำให้อเดลเลดไม่แน่ใจสถานการณ์ตรงหน้าว่าควรจะออกไปดีไหม แต่ขณะที่กำลังลังเลอยู่นั้นนายตำรวจล่ำบึ้กก็พุ่งเข้ามาทำลายข้าวของภายในโบสถ์ร้างด้วยความเร็วและพละกำลังที่น่าตกใจเพื่อค้นหาตัวมนุษย์กึ่งเทพที่หลบซ่อนอยู่ภายใน กว่าจะรู้ตัวอเดลเลดก็ถูกมือที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้าลากออกมาจากที่ซ่อนโดยไม่สามารถขืนตัวเองได้และถูกเหวี่ยงลอยออกมานอกโบสถ์พร้อมกับข้าวของที่กระจัดกระจายจนร่างกระแทกกับพื้นโดยมีตำรวจนายนั้นเดินตามออกมาช้าๆ
"ไม่ต้องรุนแรงขนาดนั้นหรอกครับคุณตำรวจ!" ผู้ดูแลสุสานตกใจจนเผลอปล่อยไม้กวาดหลุดมือก่อนที่จะรีบวิ่งเข้ามาดูหญิงสาวปริศนาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของสุสาน "เป็นอะไรรึเปล่าหนู"
"ไม่เป็นไรค่ะ" อเดลเลดพลิกตัวกลับมาประชันหน้ากับตำรวจที่กำลังเพ่งมองเธอและคุณลุงผู้ดูแลสุสานอย่างพิจารณาว่าจะจัดการใครก่อนดี เธอรู้แล้วว่าตำรวจนายนี้ไม่ใช่ตำรวจธรรมดาและยังคงตกใจกับพละกำลังอันน่าเหลือเชื่อจนอยากจะตะโกนว่าพ่อช่วยหนูด้วย เสกสายฟ้าสักลำมาช็อตตำรวจคนนี้ที
"คุณลุงช่วยหลบไปก่อนได้ไหมคะ" หญิงสาวหันไปขอร้องคุณลุงที่กำลังช่วยประคองเธอให้ลุกขึ้นจากพื้นเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย เสียงโลหะเสียดสีกันดังเสียดหูเมื่อนายตำรวจสืบเท้าเข้ามาหาอเดลเลดอย่างไม่รีบร้อน
"เหวี่ยงกันแบบนี้มันเจ็บนะ" เธอพูดเพื่อถ่วงเวลาให้คุณลุงออกไปจากพื้นที่อย่างปลอดภัยเสียก่อน ขณะที่ประเมินคู่ต่อสู้ตรงหน้าไปด้วย ความทรงจำหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวถึงเรื่องราวของสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกละทิ้งโดยเทพเฮเฟตัส มันถูกสร้างเพื่อช่วยเหลือมนุษย์กึ่งเทพแต่หลังจากที่ถูกทิ้งลงมายังโลกมันกลับแปรเปลี่ยนเป็นเครื่องจักรกลที่ตามล่าและสังหารมนุษย์กึ่งเทพแทน เมื่อเห็นว่าพื้นที่โดยรอบปราศจากผู้คนแล้วอเดลเลดจึงเริ่มแผนการสำหรับเอาตัวรอดทันที ซึ่งก็คือการพูดไปเรื่อยนั่นแหละ
ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องจักรกลสังหารก็ต่อกรยากมากพออยู่แล้ว ร่างกายของมันยังถูกสร้างมาจากโลหะที่ทนทานต่อการโจมตีอีก โอ้ย! จะบ้าตาย..
"แกถูกทิ้งแล้วมาแก้แค้นกับมนุษย์แบบฉันนี่มันไม่ถูกเลยนะ ฉันไม่ใช่คนทิ้งนายสักหน่อย" เอาล่ะสมอง.. ให้เวลาสิบวินาทีในการพูดจาปั่นประสาทเจ้าหุ่นจักรกลนี่ให้โกรธหน่อยสิ
"สังหารมนุษย์กึ่งเทพเป็นประสงค์ของเทพเฮเฟตัส" เสียงแบบออโต้จูนพูดขึ้นพร้อมกับหยิบปืนพกออกมาจากซองใส่ปืนก่อนที่มันจะแปรสภาพเป็นปืนเลเซอร์อันใหญ่ ทันทีที่เดธแมชชีนลั่นไกแสงเลเซอร์สีแดงก็พุ่งออกมาจากปากกระบอกปืน อเดลเลดกระโจนไปด้านข้างทำให้สามารถหลบแสงเซอร์นั้นได้อย่างเฉียดฮิว แต่ต้นไม้ด้านหลังที่ถูกแสงเลเซอร์นั้นอย่างจังกำลังละลายกลายเป็นกองของเหลวสีดำที่มีควันกรุ่น โอเค.. อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าถ้าเจ้าปืนนั่นยิงโดนเธอแค่นิดเดียวก็อาจจะเป็นตั๋วทางผ่านสำหรับเที่ยวทาทาร์รัสได้เลย
"แกมันก็เป็นแค่หุ่นกระป๋องเหล็กโง่เง่าที่ถูกเตะลงมาอยู่ในกองขยะเท่านั้นแหละ" อเดลเลดแอบกรีดร้องอยู่ในใจและเสียวสันหลังวาบว่าคำพูดของเธอที่ด่าทอสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำนี้จะทำให้เทพเฮเฟตัสไม่พอใจไหม แต่หลังจากรอดูอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากจะทำให้หุ่นจักรกลตรงหน้าเกี้ยวกราดขึ้นเท่านั้น
"ข้าเป็นหุ่นจักรกลที่ฉลาดล้ำที่สุด AI ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเต็มระบบ ร่างกายแข็งแกร่งไร้เทียมทาน เจ้ามันเป็นแค่มนุษย์กระจอก" กระสุนเลเซอร์นัดถัดไปถูกยิงออกมาและระเบิดหลุมศพที่อยู่แถวนั้นจนกระจายทั่วทิศ อเดลเลดหันซ้ายหันขวาเพื่อหาอะไรสักอย่างที่จะสามารถช่วยชีวิตตัวเองได้ก่อนที่จะไปพบกับเชิงเทียนที่เธอใช้เมื่อคืนกับจานทองเหลือที่น่าจะกระเด็นกระดอนออกมาพร้อมกับเธอตอนที่ถูกเหวี่ยงออกมาจากโบสถ์ เอาวะ!
"ไม่มีใครต้องการแกอีกต่อไปแล้ว" มือเล็กเคาะเชิงเทียนกับจานทองเหลืองเข้าหากันเป็นเสียงป๊องแป๊งที่น่ารำคาญสุดๆ สลับกับพูดจายียวนน่าโมโหต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่ลดละ ถามว่าทำไมไม่สู้กับเดธแมชชีนตรงๆ น่ะหรอ ก็เพราะว่าหุ่นจักรกลตนนี้ตายไม่เป็นและมีพลังเหลือร้ายมากเกินกว่าจะต่อกรได้ การเข้าไปต่อสู้แบบพวกบ้าพลังอาจจะเป็นการเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ
"หยุดนะ!" เดธแมชชีนที่ถูกเสียงเคาะน่ารำคาญของอเดลเลดก่อกวนเริ่มสันสนทิศทางและล็อคเป้าไม่ได้ หญิงสาววิ่งไปหลบตรงนั้นทีตรงนี้ทีขณะเคาะเชิงเทียนเข้ากับจานไปด้วยจนจานทองเหลืองเริ่มบุบ
"ไม่มีใครต้องการแกอีกต่อไป ไม่มีสักคน" ดูเหมือนแผนการยั่วโมโหจะเริ่มได้ผลเมื่อผสมรวมกับเสียงเคาะถี่รัว แต่เดธแมชชีนที่โดนก่อกวนเองก็ตอบสนองด้วยการยิงปืนเลเซอร์มั่วไปทั่วทิศทางจนทำลายหลุมศพเพิ่มอีกหลายหลุม (ขอให้ผีมาหลอกแกเถอะ!) ก่อนที่จะส่งเสียงแปลกๆ และปล่อยปืนเลเซอร์หลุดจากมือ แม้จะไร้อาวุธแต่หุ่นจักรกลสังหารตนนี้ก็ยังอันตรายอยู่ดี มีดสั้นของอเดลเลดคงไม่สามารถแทงทะลุเหล็กกล้าเข้าไปทำลายวงจรภายในได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงการปิดประตูตีเดธแมชชีน (แมว) เท่านั้น!
"ถอยไป! ถอยสิไอพวกพ่อไม่รัก" หญิงสาวพยายามเค้นเสียงให้ก้องกังวานและทรงพลัง ใส่พลังความกดดันทั้งหมดลงไปในน้ำเสียงและเคาะเชิงเทียนเสียงดัง ถี่รัวมากขึ้น หุ่นจักรกลที่กำลังสับสนอย่างหนักค่อยๆ ถอยทีละก้าวเข้าไปในโบสถ์ร้างหลังเล็ก ถอยเข้าไปลึกพอที่จะสามารถปิดประตูได้
แกร๊ก!
เชิงเทียนในมือหักเป็นสองท่อน อเดลเลดเงยหน้าขึ้นมองเดธแมชชีนที่นิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังรีบูตระบบของตัวเองเมื่อเสียงรบกวนหายไป หญิงสาวโยนของในมือทิ้งพร้อมกับปิดประตูโบสถ์ร้างทันทีและขัดมือจับประตูทั้งสองข้างด้วยไม้กวาดของคุณลุงซึ่งคงจะต้านหุ่นจักรกลสมรรถนะสูงได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีแต่อย่างน้อยก็คงเพียงพอให้หนีได้ทันก่อนที่หุ่นนั่นจะกลับมาทำงานอย่างสมบูรณ์ดังเช่นปกติ
"ขอโทษที่รบกวนนะคะ" เธอสับขาวิ่งสุดแรงเกิดพร้อมกับขอโทษขอโพยบรรดาหลุมศพที่ระเบิดเละไม่เหลือซาก หวังเพียงวิญญาณที่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขนั้นจะไม่โกรธเกรี้ยวและโทษว่าเธอเป็นต้นเหตุเพราะนั่นคงไม่ดีแน่ๆ
- - - - -
ภารกิจปริศนาแห่งสายฟ้า