[ประเทศอังกฤษ, อ๊อกซฟอร์ด] The starfall House

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×





บ้านหลังนี้ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น
ตั้งอยู่แถบชานเมืองอ๊อกฟอร์ด ละแวกนี้ไม่ค่อยมีคนพลุ่งพล่าน

เหมาะแก่การพักผ่อน และผู้ต้องการปลีกวิเวก
โดยด้านหน้าของบ้านมีพุ่มไม้สองข้างและพุ่มไม้เลื้อย






แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 1054 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-5-21 17:57
โพสต์ 2025-5-22 10:52:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ชั่วโมงระทึกขวัญ พาร์ท 1

       เช้าวันอากาศปลอดโปร่ง แสงแดดอุ่นตกลงบนร่างของชายหนุ่มที่กำลังเดินกลับบ้าน  ใกล้วันเกิดปีที่ 21 แม่กำชับไม่ให้เถลไถลไปไหนไกล ทำเหมือนว่าเขาเป็นพวกชอบเที่ยวไม่ค่อยกลับบ้าน แปลกใจหมู่นี้แม่มีท่าทางไม่สบายใจมาหลายวัน ถามกี่ครั้งก็บอกไม่มีอะไรทุกครั้ง แล้วแม่จะเล่นมุขเงียบใส่ทุกครั้งเสมอ จนกลายเป็นเรื่องปรกติระหว่างแม่กับลูกที่รู้กันเพียงสองคนระหว่างทางเดินกลับบ้านไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า สายตาของเขาเห็นเด็ก 8 ขวบเดินกลับบ้านโดยไม่มีผู้ปกครองตามมาด้วย ครั้นเด็กสบตามันกลายเป็นผีแลบลิ้น ปลิ้นตา กระพริบตาอีกทีหลายเป็นสุนัขตัวน้อยฉี่ข้างเสาไฟฟ้า สงสัยว่าช่วงนี้จะนอนน้อยเห็นภาพหลอนบ่อย

       บ้านหลังปัจจุบันเกิดจากการย้ายบ้านมาแล้วรวม 15 ครั้ง ทั่วเกาะอังกฤษ จนมาลงเอยที่บ้านหลังนี้ที่ปลอดภัยและอบอุ่นมากที่สุด บ้านแต่ละหลังที่เคยพำนักอาศัยลงความเห็นว่าทั้งดุและเฮี้ยนจนสามารถนำไปเล่าในรายการไหนสักรายหนึ่งได้ ส่วนบ้านหลังนี้ที่แม่ซื้อมา เขาเกลี่ยกล่อมให้แม่ซื้อ เพราะมันถูกโฉลกกับตัวเขาด้วยมั้ง

       ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ ค่ำคืนไหนไม่อยากอยู่ในห้องมักจะมานั่งเล่นในห้องครัวและมักเจอผีสตรีชุดเทาแวะเวียนมาสนทนาด้วยเป็นครั้งคราว ที่เรียกสตรีชุดเทาเพราะว่า เธอเป็นผีผมยาวอายุไล่เลี่ยกับแม่ มารยาทดี แม้ว่าจะสถิตย์ที่นี่มานานมากแล้วก็ตาม เธอไม่เคยไปไหนจากบ้านหลังนี้เลย

       โทมัส ไวท์ แก่กว่าแม่ของลุคหลายปีมีลูกสาวติดสอยห้อยตามมาด้วย 1 คน ตกเย็นมักจะนั่งดื่มเบียร์กับไวน์เป็นประจำทุกวัน บางวันดื่มจนเมามายทะเลาะกับแม่ของเขา จนค่ำคื่นหนึ่งเขาได้ขอให้สตรีสีเทาแกล้งหลอกพ่อเลี้ยงเวลาจะทะเลาะกับแม่นั่นทำให้หายห่วงได้ในระดับหนึ่ง ความปรกติที่ไม่ปรกติคือลุคกับแอนนาไม่สนิมสนมดุจพี่น้อง เพราะคุยกันไม่กี่ประโยคแล้วแยกย้ายไปอยู่คนละมุมบ้าน

        กระทั่งลุคเดินประตูเข้ามาในบ้าน ค่อยเห็นว่าน้องสาวติดพ่อนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ  ยังไม่ทันก้าวเท้าขึ้นชั้นที่สอง เพื่อเอากระเป๋าเป้ไปเก็บ ได้ยินเสียงแม่ทะเลาะกับพ่อเลี้ยง รอบนี้น่าจะสาหัสกว่าทุกครั้ง จับใจความได้ว่าเอาเงินไปแต่งรถมาใหม่จนทำให้แม่อารมณ์เหวี่ยงใส่อย่างที่ชีวิตนี้เขาไม่เคยได้เห็น

     "แม่ ผมมีเรื่องจะคุยด้วยครับ "

     ลุคตะโกนสุดเสียงแข่งกับเสียงทะเลาะ จนแม่ยอมรามือเดินมาหา โดยปรับอารมณ์ให้กลับมาปรกติให้รวดเร็วที่สุด

     "ลุคมีเรื่องอะไรหรือเปล่า แม่คิดว่าจะกลับค่ำเสียแล้ว ยังไม่ได้ทำอะไรเลย มัวทะเลาะกับไอ้แก่หัวล้าน"

    อลิซาเบธผ่อนลมหายใจสั้น ยาว กับการต้องเสียพลังงานทะเลาะกับคนหัวล้าน ยืนยิ้มให้ลูกชายของเธอ

     "ช่วงนี้เวลาเดินกลับจากทำงานพาร์ทธาม ผมมักจะเห็นอะไรแปลกๆ ประหลาดๆ กระพริบตาอีกทีก็คิดว่าตาฝาดทุกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร"

     ลุคคิดว่าตัวเองประสานหลอนหรือไม่ก็เพราะทำงานจนเครียดมากเกินไป จนกลายเป็นคนเห็นภาพหลอน

     "ไม่ใช่ว่าลูกทำงานจนเครียดมากเกินไปหรอกไม่ใช่ไหมจ๊ะ"

     แม่ของเขาเริ่มมีสีหน้ากังวล มุ่นคิ้วเข้าหากัน สีหน้าเริ่มมีความกังวล

     "ไม่น่ามีอะไรให้เครียดนะ แม่ นอกจากตาแก่หัวล้าน มันก็ไม่มีอะไรแล้ว"

     มันเป็นปัญหาเดียวกันของแม่กับลูก เรื่องอื่นตาแก่นี่ดีทุกอย่าง ยกเว้นเวลาเมาเท่านั้น บรรยากาศภายในบ้านจะตึงเครียดขึ้นมาทันที และมันเป็นเวลาที่เขาต้องสวมหูฟังเพื่อฟังเพลงไม่ให้ไได้ยินเสียงของตาแก่นี่คนเดียว

     มันจะว่าแปลกก็แปลก มันจะว่าประหลาดก็ประหลาด ช่วงเวลาใกล้วันเกิดปีที่ 21 ของเขา เขากลับเห็นอะไรประหลาดๆที่สามารถแหกอกได้ แลบลิ้น กลอกตา ทำสารพัดที่ปรกติทำกันไม่ได้ และมันค่อยๆกลายเป็นปัญหาายในใจของเขาตลอดมา

     ระหว่างรอแม่ขึ้นไปบนบ้านเพื่อจัดการอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ลุคหันมามองทางหน้าต่างด้านหน้าต่างที่มีผ้าม่านเปิดไว้ เขาเห็นว่ามีกลุ่มคนยืนกระจายตัวบริเวณถนนด้านหน้าบ้านของเขา โดยไม่รู้จุดประสงค์ว่าพวกเขามายืนทำอะไร สังเกตุจากชุดที่พวกมันสวมใส่เหมือนกลุ่มขับรถมอร์เตอร์ไซด์ สวมใส่เสื้อกั๊กหนังแทบทุกคน พอเพ่งมองดูดีๆ มันกลายเป็นพวกวิญญาณ ผี ที่ยืนจับกลุ่มกัน กระทั่งรถขนของวิ่งผ่านหน้าบ้าน มันกลายเป็นคนปรกติตามเดิม

     "ลุค ลูกมองดูอะไร นี่จัดกระเป๋าเสื้อผ้าให้ไปเที่ยวพักผ่อน สมองจะได้ผ่อนคลายนะจ๊ะ"

     แม่สะกิดถามจากด้านหลัง มองดูมันมีแต่พวกกลุ่มคนยืนกันตรงข้ามหน้าบ้าน ไม่เห็นมีอะไรให้น่าดู ยื่นกระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับพักร้อนมาให้  แล้วเดินไปหยิบกุญแจรถของตาแก่มาขับ

     "นี่เธอจะเอารถฉันขับไปไหน ฉันต้องใช้รถนะ"

     โทมัสตะโกนตามหลัง สบถอีกหลายคำ ไม่ยอมลุกออกจากเก้าอี้ไปไหนเลย

    "ตาแก่หน้าโง่ ฉันจะพาลูกไปเที่ยวพักผ่อนสัก 2-3 วัน แกมีปัญหาอะไร"

    เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอดชีวิต ย่อมมีความห้าว ความแกร่งเป็นธรรมดา ไม่อย่างนั้นคงไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้

     "แม่ครับ แล้วเราจะไปเที่ยวที่ไหนกัน ไหนบอกว่าใกล้วันเกิดของผมแล้วจะไม่ไปไหนไง"

     ลุคเดินตามหลังแม่ ด้วยความสับสนกับท่าทีของเธอ

    "สวมรองเท้านั่นซะ แล้วถือกระเป๋ามาด้วย เราจะไปเที่ยวเมือง warwick กันแม่จะไปรอที่รถ"

     เธอไม่รอช้าสักวินาทีเดียว ราวกับจะไปให้พ้นบ้านหลังนี้ที่มีตาแก่ขี้เมาที่เมาได้ทุกวันแบบนี้ ช่างเฮงซวยสิ้นดี

     เขาเดินตามออกมานอกบ้าน โยนกระเป๋าเป้ใส่เสื้อผ้าไว้ด้านหลังรถ BMW I 7 รถชั้นดี มีล้อแม๊ก 4 ล้อ ราคาไม่ใช่เล่น ระหว่างเดินขึ้นมานั่งบนรถทุกสายตาจับจ้องมาที่ลุค มันคือกลุ่มคนที่ยืนตรมข้ามบ้านของลุคนั่นเอง การไปพักผ่อนครั้งนี้คงมีเรื่องน่าตื่นเต้นรออยู่เบื้องหน้า

     

     


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 15090 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-5-22 10:52
โพสต์ 15,090 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-5-22 10:52
โพสต์ 15,090 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-5-22 10:52
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สัมผัสแห่งความตาย
เสื้อกันหนาวมีฮู้ด
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โพสต์ 2025-5-22 16:09:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ชั่วโมงระทึกขวัญ พาร์ท 2 (จบ)

       การเดินทางไปพักผ่อนที่เมือง warwick ของแม่นอกจากพาลูกไปเที่ยว มันยังเป็นการพาตัวเองไปผ่อนคลายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ให้ห่างจากตาแก่หัวล้านขี้เมา ระหว่างนั่งบนรถอันแสนสบาย ซึ่งมันสบายกว่ารถของแม่มาก สายตาเห็นตรงกระจกมีกลุ่มรถมอร์เตอร์ไซด์ขับตามหลังมา เขาจำได้ดีแม้ไม่ต้องดูรายละเอียดมาก สงสัยจริงว่าขับรถตามหลับมาทำไม ทำไมแซงขึ้นหน้ากันไปให้หมด แล้วแม่ของเขาเป็นคนขับรถช้า มันจะเร็วขึ้นได้อีกถ้านั่นเป็นชั่วโมงเร่งด่วน เขาเห็นหน้าแต่ละคนไม่ได้ชวนให้อยากสนทนาด้วยสักคนเดียว

       รถยนต์คันนี้มันสะดวกสบายก็จริง มันอาจจะเพราะนั่งครั้งแรกไม่ค่อยสบายตัว อีกอย่างมันเป็นในรอบหลายเดือนที่ได้นั่งรถยต์ไปเที่ยวกับแม่ เขาจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ไปเที่ยวกันคือเซาท์แธมป์ตัน เมืองท่าเรือ นั่นก็เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มันเป็นความทรงจำที่ดีมากสำหรับเขากับแม่สองคน

        แม่พาขับรถมาได้ 1 ชั่วโมง ลุคคอยมองกระจกด้านข้างคนนั่งเป็นระยะ กลุ่มมอร์เตอร์ไซด์เฮงซวยมันก็ขับตามหลังไม่ยอมแซงขึ้นหน้าเสียที มันชวนหงุดหงิดและอารมณ์เป็นอย่างมาก สมองครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อถึงจะหลุดพ้นจากคนพวกนี้ได้ หากเป็นแบบนี้ต่อไปคงได้ถึงที่หมายกันแน่

     "ผมว่าขับเร็วอีกนิดได้ไหม รถมอร์เตอร์ไซด์ด้านหลังจะได้ขับแซงเราไปได้"

     ลุคหันมาบอกแม่ที่ขับรถช้าไม่เคยทันใจลูกชายคนนี้เลยสักครั้ง

     "รถข้างหน้าก็ไม่ติด ทำไมพวกนั่นไม่ขับแซงขึ้นไปเองล่ะ เราไม่ได้รีบซักหน่อย"

    อลิซาเบธถอนหายใจเหลือบตามองดูกลุ่มมอร์เตอร์ไซด์ด้านหลัง กระพริบไฟท้ายรถยนต์เป็นสัญญาณว่าแซงขึ้นไปได้ จนแล้วจนรอดพวกมันก็ไม่ทำอย่างที่คาดหวังไว้ เธอเร่งความเร็วขึ้นเป็น 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พวกมันก็เร่งความเร็วตามแต่ไม่ยอมแซงขึ้นหน้า

      ลุคเพ่งสมาธิมองได้เห็นว่าเป็นพวกผี วิญญาณเร่ร่อนแฝงกายตามเขามา ช่างเป็นวาสนาโดยแท้คนไม่ตาม ชีวิตมีแต่วิญญาณตามข้างกาย
     "บรื้น....บรื้น..."
     เสียงเร่งความเร็วของรถยนต์ที่แม่เร่งความเร็วไต่ระดับขึ้นไป แซงรถบนท้องถนน คิดว่าอยากหลุดพ้นเสียที เพราะเบื้องหลังพวงมาลัย เธอมีสีหน้ามุ่งมั่น เคร่งเครียด จริงจัง จนลุคไม่กล้าเอ่ยปากพูดสิ่งใดออกมารบกวนการขับรถของแม่ แล้วสิ่งที่เขาเห็นคือ บรรดาวิญญาณมันเกิดสามัคคีกันขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย ต่างขี่มอร์เตอร์ไซด์เร่งความเร็ว กระจายตามท้องถนนเกาะติดกันตามรถยนต์ของแม่ ทว่ารถยนต์คันนี้ตาแก่หัวล้านเจ้าของรถเพิ่งไปแต่งรถมาใหม่ ความเร็วของรถย่อมเร็วกว่าความเร็วปรกติ และที่ทุกคนไม่รู้คืออลิซาเบธเธอเป็นขาซิ่งชั่วโมงเร่งด่วน หากไม่เป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาวิทยาลัย เธอสามารถลาออกไปเป็นนักแข่งรถได้สบาย
     ลุคนั่งหลังติดเบาะคอยระวังหลังให้กับแม่ เขารู้สึกว่าไม่ได้สัมผัมความเร็วแบบนี้มานานมากแล้ว มันไม่ได้รู้สึกแย่ มันรู้สึกดีมากเลย และยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น สายตามองเห็นรถมอร์เตอร์ไซด์ Triump เร่งเครื่องยนต์ขับตามรถยนต์ เขาเพิ่งสังเกตุว่าแม่ไม่ได้ วอร์วิก แต่แม่กำลังขับไป เซาท์แธมป์ตัน แทน
     "แม่จะไปเซาท์แธมป์ตันเหรอครับ"
     เขาหันมาถามแม่เพื่อความแน่ใจ เพราะความเร็วของแม่ไม่ได้ผ่อนลงเลย กลัวตำรวจท้องถิ่นขับรถตามประชิดให้ลงไปเสียค่าปรับ
     "ใช่ แม่เปลี่ยนใจแล้วลูก เส้นทางนั้นมันสะดวกกว่าด้วย"
     เธอเบี่ยงเส้นทางการจราจรแน่นขนัดออกเส้นทางสู่เมืองท่าเรือ พักผ่อนหย่อนใจกับบรรยากาศของท่าเรือเก่าแก่ กว่าจะถึงตอนนั้นต้องสลัดทิ้งพวกกลุ่มแก๊งค์นี้ให้หลุดเสียก่อน สายตาเหลือบมองท้องฟ้า มันใกล้จะมืดแล้วด้วย พลังงานของวิญญาณจะทบเท่าพูลทวี ยามราตรีมาเยือนปกคลุมทุกพื้นที่
     เขาหันไปมองอีกครั้งพวกมันลับหายจากสายตาไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าหายไปอย่างไร แม่กลับมาขับรถเชื่องช้าตามปรกติ ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. คงอยากให้ถึงจุดหมายโดยเร็วที่สุดและไม่อยากเจอตำรวจ แต่คิดว่าใบสั่งน่าจะตามมาในอีกไม่ช้า พวกเขาไม่เคยมีเจ้าหนี้หรือกู้เงินใครจนต้องส่งคนพวกนี้มาตามประชิด หนี้บัตรเครดิตจนเจ้าหน้าที่ธนาคารส่งคนมาทวงถามยิ่งไม่ใช่ สงสัยจังว่าพวกมันตามติดขนาดนี้เพราะสาเหตุอะไร
     คล้อยหลังเที่ยงคืนวพกเขาสองคนแม่ลูกพักกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมือง เซาท์แธมป์ตัน แยกกันนอนคนละห้อง เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการเดินทางอันแสนโหดร้าย และไม่มีพลังงานเหลือพอจะลากสังขารตัวเองไปอาบน้ำได้ จึงล้มนอนลงบนเตียง ค่อยออกไปหาอะไรทานตอนเช้า
     " ครืด...ครืด.."
     เสียงเดินลากเท้าบนทางเดินในโรงแรมบนชั้น 3 ที่ลุคกำลังพักผ่อนและมันกำลังตรงมาที่ห้องของลุคเพียงห้องเดียว นอนหลับได้ไม่ถึงชั่วโมงต้องเจอการระทึกขวัญอีกหนึ่งรอบ สงสัยว่าแก๊งค์มอร์เตอร์ไซด์แค่โหมโรง รอบนี้คือของจริง มันคือชายที่มีลำตัวหน้า กล้ามแขนใหญ่ สวมชุดกีฬา มันกำลังเดินลากเท้าหนักอึ้งมาหาลูคัสที่กำลังนอนหลับไหล ครั้นถึงประตูหน้าห้องมันไม่เคาะประตูเป็นมารยาท ใช้แรงไม่มากสามารถดันเปิดประตูเข้ามาได้ไม่ยากเย็น
     ลูคัสสะดุ้งจากที่นอนเห็นแจ่มชัดจากไฟหน้าห้องน้ำว่าเป็นวิญญาณเฮี้ยน อาฆาต มันไม่รอช้าเดินเข้ามาหาเขาทันที แต่เขาไม่รอจนมาถึงเตียง รีบลุกขึ้นหยิบหมอนกระแทกใส่เข้าไปทั้งตัว แต่มันขยับถอยหลังนิดเดียว ขนาดทุ่มสุดแรงและเล่นกีฬา ถัดจากนี้ได้แค่หลบหลีกเท่านั้น เพราะสู้พละกำลังมันไม่ไหว ทั้งตัวมันเองก็เชื่องช้าเป็นทุมเดิม ทำให้หลบหนีออกมานอกได้ง่ายดาย เขาวิ่งออกมาเคาะประตูที่ห้องของแม่ตะโกนเรียก จนแม่ลุกขึ้นมาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า
     "ผมไม่มีเวลาอธิบาย บอกได้แค่ว่าต้องหนีแล้ว"
     เขาจูงมือแม่วิ่งหนีลงทางบันไดหนีไฟลงมาชั้นล่าง จนมาถึงด้านหน้าประชาสัมพันธ์ พากันออกมาด้านนอกโรงแรม ต่างคนต่างเหนื่อยหอบด้วยกันทั้งคู่ ไม่คิดว่าการมาเที่ยวพักผ่อนจะเป็นการวิ่งหนีผีพวกนี้ แม่ตัดสินใจขับรถออกมานั่งกันรบริเวณท่าเรือของเมือง เซาท์แธมป์ตัน
     "แม่คิดว่าลูกคงเจออะไรบางอย่างที่แม่คงจะหาคำอธิบายจากลูกไม่ได้ แม่คิดว่าลูกต้องออกเดินทางอีกครั้ง"
     อลิซาเบธมานั่งคิดทบทวนตลอดระยะเวลาที่ออกจากบ้านมาจนถึงท่าเรือ มันจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เพียงแค่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรเท่านั้นเอง เธอเปิดกระเป๋าเป้หยิบม้วนกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง ยื่นให้กับลูคัส
     "อันนี้คืออะไรครับ ผมไม่เข้าใจ"
     เขาทำสีหน้างุนงงปนสงสัย รับม้วนกระดาษมาไว้ในมือ
    "มันคือแผนที่ที่พ่อของลูกทิ้งมันไว้ให้แม่ หากว่าวันหนึ่งลูกเจอเรื่องประหลาดอย่างวันนี้ ให้ส่งให้กับลูก มันจะนำพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมันปลอดภัยสำหรับลูกมากกว่าที่นี่"
    เธอดึงกลับมาแล้วใส่ลงในกระเป๋าเป้เสื้อผ้าและหยิบล็อกเก็ตออกมาสวมใส่ให้กับลูคัส
    "แล้วมันคือที่ไหนเหรอครับ ผมไม่เข้าใจเลย"
    "ถึงเวลาลูกจะเข้าใจทั้งหมดเอง เราคงไม่ได้เที่ยวพักผ่อนด้วยกันอีกแล้ว ลูกไปตรงท่าเรือสินค้า แล้วมันจะบอกเองว่าควรไปที่ไหนต่อ "
     อลิซาเบธยกมือลูบแก้มลูคัสด้วยความอ่อนโยน เธอคงจะไม่ได้เจอหน้าลูกชายอีก หนนี้ได้แค่นำทางเข้าเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่เอ่ยคำอำลาใดๆออกมา ให้ลูกชายได้ไปตามวิถีทางของเขาเอง เธอขับรถออกจากท่าเรือปล่อยให้ลูกชายไปตามเส้นทางที่ได้บอกทิ้งไว้
     

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 19024 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-5-22 16:10
โพสต์ 19,024 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-5-22 16:10
โพสต์ 19,024 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-5-22 16:10
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สัมผัสแห่งความตาย
เสื้อกันหนาวมีฮู้ด
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โพสต์ 2025-5-28 18:51:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เรือสินค้าอัปปาง พาร์ท 1
        ลูคัสยืนมองรถยนต์ของแม่ที่หายลับไปกับความมืด บรรยากาศค่ำคืนรู้สึกหนาวขึ้นมา ใคร่ครวญเหตุการณ์ที่ได้เจอมา เขายังรู้สึกหลอนไม่หาย ความรู้สึกต่อสู้และวิ่งหนีตนหนึ่งที่พละกำลังมากกว่าตัวเองหลายเท่าตัว ได้แต่คิดว่าใครมันตามปองร้ายได้ขนาดนี้ สายตายืนสำรวจรอบข้างสัมผัสกับความอ้างว้างไร้ผู้คน มองดูนาฬิกาข้อมือ มันเพิ่งตี 3 ใครมันอยากจะตื่นขึ้นมานั่งรับอากาศเย็น ลุคสะพายเป้เดินโดดเดี่ยว คนเดียว ชินแล้วกับการไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่นับชั่วโมงระทึกขวัญที่เดินทางมากับแม่ มันช่างเป็นกิจกรรมครอบครัวในรอบหลายปีที่ตื่นเต้นสิ้นดี
        ระหว่างทางเดินเล่นบริเวณท่าเรือ เพื่อหาเรือสินค้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เพียงแค่ขึ้นเรือสินค้าแอบสักมุมหนึ่งของเรือ กางแผนที่ออกมา แล้วมันจะบอกว่าควรไปสถานที่แห่งใด สถานที่ที่ปลอดภัยกว่าที่บ้านที่ย้ายรวมแล้ว 15 ครั้ง จนถึงตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าบ้านไหนปลอดภัย ถ้าถามว่าบ้านไหนเฮี้ยนที่สุดเท่าที่เคยอาศัย ลูคัสสามารถตอบได้แบบไม่ต้องเปลืองพลังงานสมอง ทุกวันนี้ไม่ประสาทกินเพราะมีตาแก่หัวล้านเข้ามาอาศัยชายคาด้วย นับว่าโชคดีที่สุดในชีวิต คงไม่มีอะไรให้ลุ้นระทึกอีกแล้ว  ลูคัสเดินตามทางมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงบริเวณท่าเรือ มันมีส่วนที่จอดเรือยอร์ช เรือใบ และถัดออกไปเป็นบริเวณท่าเทียบเรือจอดเรือสินค้า
       อากาศของช่วงเวลานี้มันหนาวเย็นสุดขั้ว วันหนึ่งเจอแทบจะทุกอากาศในวันเดียวกัน จึงสวมเสื้อกันมีฮู้ดสวมฮู้ดคลุมศีรษะและสวมหมวกแก๊ปทับลงบนฮู้ดอีกที มือทั้งสองข้างซุกอยู่ด้านในกระเป๋าด้านหน้าของเสื้อกันหนาว เดินเล่นเอื่อยเฉื่อยมาจนถึงท่าเทียบเรือสินค้า มันเป็นเรือสินค้าขนาดใหญ่ประมาณ 3 ลำ จอดเทียบท่า ไม่รู้ว่าเช้านี้เรือลำไหนจะออกจากท่าเทียบรือ
        แล้วแม่บอกว่าให้ขึ้นเรือสินค้าที่จะออกจากเรือเซาท์แธมป์ตัน ยังออกไม่ออกว่าลำไหนกันแน่ อีกอย่างมันยังไม่เช้า ฟ้าไม่สว่าง คนแทบไม่มี เขาควรจะไปทางไหนก่อนดี ไม่เคยรู้สึกทำตัวไม่ถูก คิดอะไรไม่ออกแบบนี้มาก่อน อากาศหนาวเย็น เขาควรเริ่มต้นทำอะไรก่อนดี หรือต้องคิดหาวิธีลอบขึ้นเรือสินค้าโดยไม่ให้คนจับได้ ไม่เคยต้องมาทำตัวเป็นโจร ระหว่างยืนคิดในหัวว่าจะใช้วิธีไหนขึ้นเรือสินค้า สายตาเห็นคนแก่ใช้ไม้เท้าพยุงตัวเองสองข้างเดินตรวจความเรียบร้อย สิ่งหนึ่งที่เขามีคือสามารถมองความมืดได้ชัดเจนแม้ในสถานที่ที่มืดที่สุด ใบหน้าของคนแก่มีหนวดเคราดั่งแพะ รูปร่างค่อนข้างกำยำ แข็งแรง สวมกางเกงยีนส์เก่า เหมือนไม่ได้ซักมานานหลายปี ใส่เสื้อแจ็ตเก็ตสีน้ำตาล เดินตรวจตราความเรียบร้อยจนมาถึงจุดที่เขายืนอยู่พอดี ค่อยเห็นว่ามีเขาคู่หนึ่งซ่อนในผมดกหนา ตาแก่ยืนสำรวจ มองดูทั่วทั้งร่างกาย จนหยุดยืนตรงหน้าลูคัส
      "คุณเป็นใครถึงได้มาเสียมารยาทแบบนี้"
      ลูคัสเอ่ยปากถามตรงๆ เพราะท่าทีของอีกฝ่ายมันส่อพฤติกรรมไม่มีมารยาท แถมกลิ่นตัวคล้ายคนติดเหล้ากับไวน์ ประสาทสัมผัสไม่ได้ดีขนาดนั้น แค่อยู่กับตาแก่หัวล้านแล้วแยกออกได้ทันที
      "ฉันเป็นใครนะเหรอ" ตาแก่ย้อนคำถามด้วยน้ำเสียงของคนไม่แยแส "ฉันเป็นคนจำพวกเดียวกับเธอและ..และรู้ว่าเธอเป็นคนแบบไหน จากกลิ่นอายที่ออกมาจากตัวเธอที่รุนแรงอยู่ในขณะนี้" อีกฝ่ายเดินค้ำด้วยไม้เท้าไปนั่งม้าหิน
       "คุณรู้ได้ยังไงว่าผมเป็นใคร" ลูคัสนั่งม้านั่งหินตรงข้าม วางเป้ลงข้างเท้า "แล้วสรุปคุณเป็นใครกันแน่"
       "อย่างแรกฉันไม่ทำร้ายเธอแน่นอน อย่างที่สองเธอต้องมานั่งม้านั่งด้านข้างเพราะมันพูดเสียงดังไม่ได้ เผื่อว่าใครบังเอิญเดินผ่านมาได้ยิน แม้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจก็ตาม" ตาแก่ร่ายยาวเสร็จจบประโยค ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายที่ต้องมานั่งอธิบายให้คนแปลกหน้าฟัง กระทั่งเด็กหนุ่มยอมมานั่งม้านั่งด้านข้าง จึงเริ่มเรียงคำพูดว่าจะเริ่มจากจุดไหนก่อน
        "อย่างแรกที่ฉันจะบอกเธอก็คือฉันเป็นคนดูแลและปกป้องเธอ ถึงแม้ว่าช่วงหลังฉันไม่ได้ใส่เลยก็ตาม ซึ่งฉันต้องขอโทษด้วย ต่อมาเธอคงเริ่มรับรู้ได้ว่าเจอเรื่องประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายให้แม่ของเธอฟังได้ใช่ไหม" ตาแก่นั่งมองดูใบหน้าเด็กหนุ่มกำลังมีสีหน้าคิดตามและประมวลผลตามคำพูดที่ได้เล่าให้ฟังข้างต้น
       "เมื่อคุณเป็นคนดูแลผมทำไมถึงได้รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง เช่นวันนี้ที่ต้องหนีตามล่าของพวกตัวประหลาดหัวซุกหัวซุน" ลูคัสหงุดหงิดทุกครั้งเวลาเล่าเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นมา มันชวนให้หงุดหงิดทุกครั้งที่นึกถึงมัน
       "ฉันยอมรับผิดที่บกพร่องต่อหน้าที่ในบางครั้ง แต่เธอก็รอดมานั่งคุยกับฉันได้ นับว่าเบื้องบนยังเมตตาเธออยู่มาก"
       ตาแก่เริ่มเหมือนคนเมาที่พูดจากวนประสาท แต่ก็ไม่สามารถยั่วอารมณ์อีกฝ่ายได้เลย
      "เบื้องบนอะไรอีก ไม่เห็นเข้าใจเลย" ลูคัสหันหน้ามาหาตาแก่ มุ่นคิ้วขมวดด้วยความไม่เข้าใจ "พูดจาให้ฟังง่ายได้ไหม ฉันยังไม่รู้เลยว่าที่คุณว่าฉันเป็นใคร และยังไม่ได้ทำตอบด้วยว่าคุณเป็นใคร"
      "เธอเป็นบุตรของเทพที่หาได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะไม่ใช่เทพธรรมดา แต่เป็นถึง 1 ใน 3 มหาเทพ ของคณะเทพโอลิมปัส เพียงแค่เขาไม่มีเก้าอี้ในสภาของโอลิมปัสเท่านั้น ฉันว่าเธอเดาออกว่าฉันหมายถึงมหาเทพองค์ไหน? เดาว่าเธอคงอ่านผ่านตามาบ้างเหมือนกัน" ตาแก่ลุกขึ้นยืนจากม้านั่งหิน เมื่อเอ่ยถึงปวงเทพที่ผู้คนคิดว่าเป็นตำนานที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้แล้ว
      "คุณคงไม่ได้หมายถึงฮาเดสหรือเฮดีส ประมุขที่ปกครองยมโลกหรอกใช่ไหม"
      ลูคัสใช้เวลาครุ่นคิดไม่นาน สมองประมวลผลจนได้คำตอบออกมาได้ มันไม่คาดคิดจริงๆ ตำนานกลายเป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย
      "ใช่ ใช่แล้ว เธอเป็นบุตรในไม่กี่คนของมหาเทพฮาเดส กลิ่นอายของเขารุนแรงมาก และเธอก็คือมนุษย์ครึ่งเทพที่มีสายเลือดเทพครึ่งหนึ่งไหลเวียนอยู่ในตัวของเธอ"
      ตาแก่มีสีหน้าจริงจัง แววตาหยอกล้อหายไปแทนที่ด้วยความเคร่งขรึม มองดูสายเลือดของฮาเดสอีกคน แม้ว่าจะรู้นานแล้วก็ตาม
      "แล้วผมต้องทำอย่างไร แม่ผมก็ไม่รู้เรื่องนี้ แม่แค่ให้แผนที่มาหนึ่งฉบับ บอกแค่ว่าให้มาที่ท่าเทียบเรือสินค้าที่นี่และแผนที่จะบอกว่าให้ไปที่ไหนต่อ"
       ลูคัสดึงม้วนแผ่นที่ออกมาจากกระเป๋าเป้ยืนให้ตาแก่ได้ดู เผื่อว่าจะช่วยกันแก้ปัญหาให้ได้บ้าง
       ตาแก่รับม้วนแผ่นที่มาจากลูคัสคลี่ม้วนแผ่นที่ออก มันเป็นแผ่นที่ที่ไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่าเส้นทางไปยังสถานที่ที่ได้กำหนดไว้เป็นการเฉพาะและมีเพียงเขากับลูคัสที่เห็นเส้นทางกับสถานที่ที่ปรากฎบนแผ่นที่เท่านั้น
"ค่ายฮาล์ฟบลัด ฮิลล์ฮาล์ฟบลัด ฟาร์มโร้ด 3.141
ลองไอส์แลนด์ นิวยอร์ก 11954"
     "ตกลง ตอนนี้เรารู้แล้วว่าแผนที่นำพาเราไปที่ไหน ส่วนตอนนี้เราแค่หาทางขึ้นไปบนเรือสินค้าก็พอ" ตาแก่ม้วนแผนที่ส่งคืนลูคัสและชี้ไปที่เรือสินค้าขนาดใหญ่ลำที่ 3 ท้ายสุดของท่าเรือสินค้า "อ้อ! ฉันลืมบอกไปว่า ฉันชื่อโทมัส เรียกว่าทอมก็ได้"

      ทอมหรือโทมัสเดินนำหน้า ลูคัสสะพายเป้เดินตามหลังไปอย่างเงียบเชียบ อากาศหนาวแบบนี้ไม่อยากสนทนานาน เก็บแรงไว้ใช้บนเรือสินค้าดีกว่า ระหว่างเดินเลียบท่าเรือสินค้า เขาสังเกตุว่าทอมเดินปรกติแทบไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ หรือไม้ค้ำเป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้น


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 9 EXP โพสต์ 2025-5-28 18:52
โพสต์ 18,687 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อกันหนาวมีฮู้ด  โพสต์ 2025-5-28 18:51
โพสต์ 18,687 ไบต์และได้รับ +3 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +6 ความกล้า จาก หมวกแก๊ป  โพสต์ 2025-5-28 18:51
โพสต์ 18,687 ไบต์และได้รับ +3 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-5-28 18:51
โพสต์ 18,687 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +4 ความกล้า จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-5-28 18:51
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สัมผัสแห่งความตาย
เสื้อกันหนาวมีฮู้ด
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โพสต์ 2025-5-28 21:41:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เรือสินค้าอัปปาง พาร์ท 2

        การเดินมาถึงบริเวณท่าเทียบเรือที่ 3 ของท่าเรือเมืองเซาท์แธมป์ตัน ลูคัสได้เห็นคนงานเรือสินค้ากำลังทยอยมาเริ่มงานในช่วงเวลาตี 4 อากาศหนาวไม่เคยปราณีผู้ใดจริงๆ เสียงคนดูแลคนงานที่เป็นลูกเรือกำลังเร่งลูกเรือให้รีบตรวจดูตู้สินค้า ความเรียบร้อยตามจุดต่างๆ ไม่ให้บกพร่อง ลูคัสกับทอมยืนสังเกตุการณ์ห่างจากเรือสินค้าไม่มาก ความกลมกลืนของทอมเรียกว่าเนียนไปกับพวกเขาจนจับพิรุธใดไม่ได้เลย

     "เอ่อ..ผมลืมบอกไปเหมือนกันว่า ผมลูคัสหรือลุคนะ"

     ลุคหันมากระซิบบอกทอมที่กำลังยืนมองลูกเรือ คิดว่ากำลังหาทางเข้าไปในกลมกลืนกับคนอื่น

    "ก่อนฉันจะมาเจอเธอที่ท่าเรือ ฉันไปสนิทกับกัปตันเรือสินค้าลำนี้ ทำให้ง่ายต่อการเข้าไป" โทมัสหันมาพูดเสียงเบา "กัปเรือสินค่าลำนี้กำลังจะไปอเมริกาพอดี นับว่าพวกเรามีโชคอยู่บ้าง" โทมัสแกล้งเดินกะเผลก หันหลังมาให้เดินตามไปด้วยกัน  "เราจะเข้าไปหลบบนชั้นดาดฟ้าของเรือสินค้า มันง่ายต่อการไม่มีเรื่องกับใครและหลบหนีได้ง่าย"

     พวกเขาเดินกลมกลืนกับพวกลูกเรือสินค้า เดินเข้าไปด้านในเรือสินค้า พวกเขาทำตัวปรกติแบบคนทั่วไป จนมาถึงบริเวณส่วนรับประทานอาหาร นั่งลงรอเวลาเรือสินค้าออกจากท่าเรือ

     "ลุค ฉันมีความรู้สึกว่าลืมบอกอะไรเธอไปหนึ่งข้อ ซึ่งมันสำคัญกับเธอและฉันที่เป็นคนดูแลด้วยเช่นกัน" โทมัสหันมากระซิบ สายตาคอยระแวดระวัง ป้องกันคนเผลอเข้ามาทักทาย ระหว่างที่กำลังสนทนาเรื่องสำคัญ "เธอเป็นลูกของฮาเดสซึ่งพ่อของเธอไม่ถูกชะตากับโพไซดอน มหาเทพแห่งท้องสมุทร"

     "แล้วมันสำคัญกับฉันยังไงเหรอ ทอม"

     ลุคไม่ทราบเลยว่าสิ่งที่ทอมกำลังจะบอกกับเขามันจะมีสาระสำคัญอะไรต่อตัวของเขา

     "แน่นอนว่ามันย่อมสำคัญมาก ลุค เธอฟังฉันให้ดี ฮาเดสปกครองยมโลกและพื้นพิภพ ขณะเดียวกันโพไซดอนปกครองมหาสมุทร ประเด็นสำคัญคือเมื่อไหร่ก็ตามที่เรือสินค้าลำนี้ออกท่องมหาสมุทรไปจนถึงเขตมหาสมุทรแอตแลนติส" โทมัสเว้นจังหวะพักหายใจและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ "โพไซดอนก็จะรับรู้ได้ทันทีว่ามีบุตรของฮาเดสร่วมอาศัยมากับเรือสินค้าลำนี้ และถึงตอนนั้นโพไซดอนคงไม่ปล่อยให้ลูกของฮาเดส นั่นก็คือเธอ ลุค อยู่บนเรือสินค้าได้อย่างสบายจนไปถึงค่ายได้หรอกนะ"

     "มันก็แปลว่าเรือสินค้าลำนี้มันไม่ปลอดภัยและฉันก็ต้องจมสู่ท้องมหาสมุทร"

     ลุคสามารถจินตนาการได้ทันทีที่ทอมนั่งบอกรายละเอียดสำคัญให้ฟัง มันสยดสยอง แล้วเขาต้องมาตายเพราะความพิโรธของโพไซดอนใช่ไหม มันโหดร้ายกว่าหนีวิญญาณเฮี้ยนเสียอีก

    "มันก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก ทวยเทพแค่หยอกล้อเราปางตาย นั่นคือสิ่งที่พวกเขาใช้เรียกกัน แต่มันไม่สนุกสำหรับพวกเรา"

    โทมัสเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของลุค พูดปลอบใจ ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม

        เพียงไม่นาน 1 ชั่วโมงผ่านไป เรือสินค้าส่งสัญญาณออกเทียบท่าเรือเซาท์แธมป์ตัน เรือสินค้าขนาดใหญ่บรรทุกตู้สินค้าหลากหลายตู้ หลากหลายขนาด เคลื่อนตัวออกจากท่าเรือช้าๆ ระมัดระวัง จากนี้ต่างหากคือชั่วโมงระทึกขวัญของจริง โหดร้ายกว่าผีร้าย วิญญาณหลายเท่าตัว

     "ฉันเคยสนทนากับแม่ของเธออยู่2-3ครั้ง แต่ละครั้งทำให้เห็นว่าเธอเป็นคนเข้มแข็งและห้าวหาญมากแค่ไหน" โทมัสสังเกตุเห็นล็อคเก็ตรูปหัวใจมันโผล่มานอกเสื้อ "และบทสนทนาทุกครั้งมักลงเอยด้วยการจิกกัดของแม่เธอ และฉันก็ไม่คิดอยากจะแหย่เธออีกเลย"

        ทุกคนล้วนมีมุมหรือประตูต้องห้าม ห้ามบุคลอื่นล่วงล้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต โทมัสเป็นแซเทอร์ที่ได้เห็นล็อคเก็ตของแทนใจก็รู้ว่าได้ทันทีว่าไม่ควรล่วงล้ำเข้าไป ลุคเป็นคนที่เหมือนจะพูดคุยได้ง่าย แต่เขาก็มีเขตกั้นว่าได้ถึงจุดไหน ระวังตัว และเฉียบคม มันคงเป็นสิ่งที่โทมัสสามารถอธิบายได้ในตอนนี้

     "ผมเป็นคนนำโชคร้ายมาให้พวกเขาหรือเปล่า" ลุคหันมาถามโทมัสที่กำลังนั่งเงียบ ราวกับคนทำสมาธิ "พวกเขาต้องมาประสบเคราะห์ร้ายเพราะผมใช่ไหม"

     "ไม่หรอก ลุค เธอไม่ใช่คนดวงซวยนำความโชคร้ายมาให้พวกเขา มันแค่เป็นเคราะห์กรรมที่พวกเราต้องมาพบเจอด้วยกัน"

     โทมัสตบไหล่ลูคัสเชิงให้กำลังใจ

      ช่วงเวลาผ่านไปเนิ่นนาน เรือสินค้าล่องนาวากลางมหาสมุทรจนมาถึงเขตมหาสมุทรแอตแลนติส ทุกอย่างเป็นไปตามที่โทมัสผู้ดูแลลูคัสได้กล่าวไว้ก่อนเรือออกจากท่าเรือเซาท์แธมป์ตัน เข้าเขตน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติสเมื่อไหร่ เท่ากับมาเข้าเฝ้าโพไซดอน และโชคชะตาช่างโหดร้าย บุคลที่โดยสารมากับเรือสินค้าคือบุตรของฮาเดส มหาเทพที่ไม่ถูกชะตากันมาช้านาน ด้านนอกเริ่มมีเค้าลางไม่ค่อยดี เหตุที่รู้เพราะโทมัสพาลูคัสมาห้องบัญชาการเรือของกัปตันเรือสินค้า

        ท้องฟ้าเหนือมหาสมุทรแอตแลนติส เมฆดำปกคลุมหนา ท้องฟ้าสีดำทะมึน แผ่นน้ำในมหาสมุทรกำลังก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นสูงก่อตัวในระดับ 3 เมตร คาดว่ามันจะก่อตัวสูงขึ้นอีกหลายเท่า ลมทะเลเริ่มก่อตัวสูงเป็นพายุหมุนมาแต่ไกล สภาพการณ์เช่นนี้กัปตันเร่งความเร็วเรือให้พ้นจากเกลียวคลื่นสูง ทว่าไม่ทันเรือได้เร่งความเร็ว เรือบรรทุกสินค้าเริ่มสั่น โครงเครง จนต้องหาเกาะยึดไว้ให้แน่น

     "ลุค โพไซดอนมาต้อนรับพวกเราแล้ว เขารู้แล้วว่าพวกเราก้าวล่วงเข้ามาเขตแดนของเขา"

     โทมัสหันมากระซิบบอกลูคัส ลูคัสสงบนิ่งไม่แสดงอาการ เขาต้องเผชิญเหตุการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย

     "ฉันดูพยากรณ์อากาศมา มันไม่ได้มีเหตุการณ์พวกนี้ อากาศแปรปรวนนี่"

     กัปตันยืนบ่นกับลูกน้อง มองดูสภาพอากาศที่ไม่ได้สามารถรับมือได้ทันท่วงที

        ไม่ทันได้ตั้งตัวรับมือ ความชุลมุนวุนวายภายในเรือสินค้าเกิดขึ้นจนทุกคนหัวหมุน ยกเว้นโทมัสกับลูคัส ขณะนี้เรือสินค้าโครงเครงหนักขึ้น คลื่นในมหาสมุทรแอตแลนติสจาก 3 เมตร ก่อตัวขึ้นมาเป็น 15 เมตรในไม่กี่นาที น่าหวาดหวั่นใจยิ่งนัก ไม่ทันได้พักหายใจพายุเฮอริเคนก่อตัวแต่ไกลมุ่งมาทางเรือสินค้าด้วยระดับความเร็วอันน่าตกใจ ประกอบกับคลื่นในมหาสมุทรทำให้เจอคลื่นสูงระดับ 30 เมตร โพไซดอนคงประสงค์ให้เรือสินค้าคว่ำโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นคงไม่มีสภาพอากาศแปรปรวน รุนแรงจนน่าตกใจได้ขนาดนี้ ไม่มีใครรอดจากสภาพอากาศนี้ได้

        ลูคัสมองหน้ากับโทมัสจับมือเตรียมตัวรับเหตุการณ์เรือสินค้าล่มจมกลางมหาสมุทรแอตแลนติส  เรือสินค้าลำน้อยเทียบกับพายุคลื่นลมมหาสมุทร คลื่นสูงขนาด 30 เมตรได้พลิกคว่ำเรือสินค้าลง ตู้สินค้าหลากหลายขนาดแตกกระจายทั่วท้องมหาสมุทร เรือสินค้าขาดแบ่งเป็นสองท่อน เหล่าลูกเรือต่างหนีตายจ้าละหวั่น สุดท้ายกระโดดหนีลงน้ำ เกาะตู้สินค้าเอาตัวรอด ซากเรืออัปปาง ตู้สินค้าลอยเต็มท้องมหาสมุทรแอตแลนติส


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 17167 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-5-28 21:41
โพสต์ 17,167 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อกันหนาวมีฮู้ด  โพสต์ 2025-5-28 21:41
โพสต์ 17,167 ไบต์และได้รับ +3 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +6 ความกล้า จาก หมวกแก๊ป  โพสต์ 2025-5-28 21:41
โพสต์ 17,167 ไบต์และได้รับ +3 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2025-5-28 21:41
โพสต์ 17,167 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความศรัทธา +4 ความกล้า จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2025-5-28 21:41
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สัมผัสแห่งความตาย
เสื้อกันหนาวมีฮู้ด
หมวกแก๊ป
รองเท้าเซฟตี้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
โหมดขั้นสูง
B Color Image Link Quote Code Smilies

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้