308 ท่านชาย พบ คุณชาย
20/03/2025 เวลา 14.00 น.
รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยที่จะได้พบกับคุณชายตระกูลดังจากแอตแลนติส นี่อาจเป็นการพบปะไฮโซครั้งแรกในชีวิตก็ได้หากไม่รับรวมแมคเคนซีกับแนนซี่ที่นิวยอร์ก เอาเข้าจริงสิ่งที่เขินไม่ใช่ด้วยชนชั้นฐานะ คนอย่างดีนตีซี้ชาวบ้านได้ทุกเพศทุกวัย แม้แต่เทพก็ ‘เซย์ฮาย’ ใส่ตลอดหากเขาคิดว่าสนิทด้วยแล้ว
เพียงแต่ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกตัวตัวเองแต่งตัวไม่ค่อยเหมาะสมกับการเจรจาธุรกิจ บนเนื้อตัวของเขามีเพียงเสื้อฮาวาย กางเกงขาสามส่วนใส่สบายเมื่ออยู่ในพื้นที่เขตร้อน รองเท้าผ้าใบแบรนกีฬา และที่แปลกประหลาดที่สุดเห็นทีจะเป็นแว่นตาว่ายน้ำที่สวมใส่อยู่บนโครงหน้าได้รูปแทนแว่นตาที่หายไป แม้ดีนจะมั่นใจในความหล่อเหลาของตัวเองแค่ไหน แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ‘แม่งโคตรจะแปลก’
“คุณลูอิส ผมคิดว่ากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ดีไหม?”
ดีนกระซิบถามองครักษ์ที่มาด้วยความไม่มั่นใจ ทั้งที่ในสัมภาระไม่มีชุดไหนที่ดีกว่านี้ยกเว้นกางเกงยีนส์ที่ไม่ได้สวมมา
เมื่อได้ยินคำถามไซคลอปส์หนุ่มก็เลิกคิ้วบนดวงตาใหญ่โตขึ้น
“ท่านชายประสงค์ที่จะเปลี่ยนชุดหรือขอรับ.. แต่ว่าตอนนี้พวกเรามาถึงคฤหาสน์ดีมิเทียสแล้ว เกรงว่าจะ…”
ลูอิสละไว้เพียงเท่านั้น… ใช่ตอนนี้พวกเขามาถึงคฤหาสน์ดีมิเทียสอันหรูหราหมาเห่าแล้ว แถมยังนั่งอยู่ในห้องรับรองแขกเพื่อรอเจ้าบ้านออกมาเจรจาธุรกิจอีกต่างหาก คิดจะกลับหลังหันก็ดูจะสายไปเสียแล้ว
“ขออนุญาตเสิร์ฟน้ำชาและของว่างเจ้าค่ะ”
“โอ้ ขอบคุณครับ”
สาวใช้เรเน่ยกเซ็ตไฮทีมาเสิร์ฟแก่แขกทั้งสอง ขนมบนชั้นวางละลานตาน่ารับประทานไปหมดทุกอย่าง ทั้งแซนวิช มาการอง สโคน มาดแลน และอีกสารพัดของหวาน ขนาดว่าเพิ่งกินมื้อเที่ยงมาหมาด ๆ ก็อดที่จะท้องร้องโครกครากอีกรอบไม่ได้
‘ถ้าแมคซี่อยู่ตรงนี้ต้องหาว่าฉันตะกละแน่ ๆ’
แต่ใครจะไปสนใจล่ะ เจ้าบ้านอุตส่าห์ขุนอย่างดีก็ต้องกินให้เยอะที่สุดเพื่อถนอมน้ำใจเขาสิ!
“สำหรับข้ามิต้องขอรับ ข้าเป็นเพียงองครักษ์ผู้ติดตามท่านชาย” ลูอิสยกมือปรามเมื่อสาวใช้รินน้ำชาใส่แก้วของเขา จนมือที่รินชาเผลอสะดุดจนทำน้ำชากระฉอกลงบนจานรองแก้ว
“ขะ.. ขออภัยเจ้าค่ะ” เรเน่ตอบด้วยความลนลาน นางรีบค้อมหัวปลก ๆ
“โธ่เอ๊ย คุณลูอิสอย่าพิธีรีตองน่า เขารินให้ก็แปลว่าเห็นคุณเป็นแขกเหมือนกัน อย่าทำให้เจ้าบ้านเสียน้ำใจสิ คุณเรเน่รินชาต่อได้เลยครับ”
ไซคลอปส์ได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ ตาปริบ ๆ ในใจคิด ‘ท่านเป็นแขกอย่าพูดเองเออเองเหมือนเป็นเจ้าของบ้านสิขอรับ!’ ทว่าผู้ร่วมสายเลือดโพไซดอนเพียงเสี้ยวเดียวก็ได้แต่ตอบรับญาติห่าง ๆๆๆๆ ของตนเองตามหน้าที่ “ขอรับ…”
เมื่อสาวใช้จากไปดีนจึงเริ่มรับประทาน เขาหยิบขนมมาดแลนรูปทรงเปลือกหอยเข้าปาก จากนั้นจิบชานมที่มีกลิ่นอายของทะเลรับประทานคู่ไปด้วย แปลกนิดหน่อยแต่ก็อร่อยดี ถือว่าดีมากแล้วที่บ้านนี้ไม่เสิร์ฟขนมรสเกลือทะเลแบบฉบับแอตแลนเตียน
ดวงตาสีเปลือกไม้มองไปรอบ ๆ ห้องรับแขกด้วยสายตาไร้ความเกรงใจ
การตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างหรูหรา คุมโทนด้วยสีฟ้า ขาว และทอง ดีนบอกไม้ได้ว่านี่คือสถาปัตยกรรมแบบใด เพราะจะว่าคล้ายกับโลกด้านบนก็ใช่ แต่ก็มีความเป็นเอกลักษณ์แบบแอตแลนติสที่ไม่เคยเห็น ฝ้า บัว เพดาน รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของห้องตกแต่งคล้ายสถาปัตยกรรมโรโคโค ทว่าก็มีบางส่วนที่ดูเป็นกรีกเอาเสียมาก ๆ อย่างเช่นเสาบ้านและลวดลายเลขาคณิตที่เป็นวอลเปเปอร์ ให้กลิ่นอายของคฤหาสน์เก่าหลายชั่วอายุคนก็จริง แต่เครื่องใช้ไฟฟ้า (?) กลับมีความทันสมัยยิ่งกว่าบ้านโมเดิร์นบางหลัง
ให้แขกรอไม่นาน คุณชายไซม่อนก็ปรากฏกายออกมาในชุดสูทสีขาวดูเรียบหรูสมกับเป็นคุณชายจริง ๆ ตรงกันข้ามกับท่านชายสายเลือดกษัติรย์อย่างดีนที่สวมเสื้อผ้าสบาย ๆ เหมือนนี่เป็นบ้านของตัวเองลิบลับ
“ขออภัยที่ให้รอครับท่านเอลวิน กระผมไซม่อน ดีมิเทียส ยินดีที่ได้พบ”
ไซม่อน ดีมิเทียส เป็นชายหนุ่มรูปงาม เรือนผมสีบลอนด์ยาวสลวยรวบอย่างเป็นระเบียบครึ่งหัว นัยน์ตาสีฟ้าครามรับกับใบหน้าที่ได้รูป ดูเผิน ๆ เขาเหมือน ‘คริส เฮมส์เวิร์ธ’ ในเวอร์ชั่นที่หนุ่มกว่า และตัวบางกว่า เครื่องหน้าหล่อเหลาเกินจริงไปมาก แต่ก็คงสมกับที่เป็นชาวแอตแลนติสที่เมื่ออยู่ในน้ำแล้วจะเปลี่ยนร่างเป็นเงือก ท่าทางของเขาดูสุภาพเรียบร้อยสมกับเป็นคุณชายตัวจริง
“โอ้ ไม่ ผมรอไม่นานเลย” ดีนรีบปิดปากเคี้ยวขนมให้หมดชิ้นแล้วจิบชาตาม ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือ (ที่เพิ่งเข็ดเศษขนมกับขากางเกง) ออกไปจับทักทายตามแบบฉบับชาวอเมริกัน “ผม ดีน นีล— เอ่อ ลืมไป… ผมใช้นี้เป็นชื่อบนบก แต่ถ้าเป็นชื่อที่แอตแลนติสเขาเรียกผมกันว่า เอลวิน อัลวาเรซ เอาเป็นว่าคุณสะดวกเรียกแบบไหนก็ได้ ผมโอเคหมดครับ”
ทว่ามือที่ยืนไปด้านหน้าเหมือนคว้าจับอากาศอย่างเก้อเขิน ไซม่อนมองมือที่ยื่นมาด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย แต่ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเขาก็เข้าใจได้ว่านี่คือการทักทายแบบฉบับโลกเบื้องบน จึงไม่ปล่อยให้ดีนรอนานเกินไปเป็นการเสียมารยาท เขย่าเบา ๆ แบบที่เคยเห็นในภาพยนตร์ของมนุษย์จากนั้นปล่อยมือแขกแล้วผายมือให้เขาได้นั่ง
“กระผมควรเป็นฝ่ายเรียกชื่อที่ท่านชายสะดวกให้เรียกมากว่าครับ”
“เอลวินก็ได้ครับ ถ้าเรียกดีนคนอื่นคงงงแย่”
ดีนไม่ถือสา หากเป็นโลกบนทะเลเขาคงให้อีกฝ่ายเรียกตนแค่ดีนไปแล้ว มันสื่อถึงตัวตนของเขามากกว่าเยอะ
“ครับท่านชายเอลวิน” แว้บหนึ่งที่ดวงตาสีครามเสมองไปทางองครักษ์ก่อนที่จะหันกลับมาสบยังคู่สนทนา เรียวคิ้วสีอ่อนขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อต้องมองดีนผ่านแว่นตาว่ายน้ำ ในใจคงคิดว่าประหลาด และในหัวมีเรื่องอยากจะถามชายหนุ่มจากต่างแดนเต็มไปหมด “ไม่ทราบว่าท่านชายสะดวกไปเดินเล่นกับกระผมได้หรือไม่ครับ”
“เดินเล่นเหรอ?” คราวนี้เป็นฝ่ายที่ดีนรู้สึกฉงน เห็นว่ามีธุระก็คิดว่าจะคุยกันในห้องรับแขกจนจบเสียอีก “โอ้! คุณคงไม่ได้จะจับผมไปใช้แรงงานมนุษย์หรอกนะ!”
“ใช้แรงงานมนุษย์?” ไซม่อนโคลงหัว เขาสะดุ้งเล็กน้อยที่จู่ ๆ คนตรงหน้าก็โพล่งออกมา ถึงแขกจะเป็นมนุษย์ซึ่งถือว่าต่ำศักดิ์กว่า แต่ก็เป็นถึงบุตรชายคนโปรดของเจ้าสมุทร
“โธ่เอ๊ย ผมล้อเล่นหรอก ก็เห็นว่าชาวแอตแลนติสชอบใช้แรงงานชาวกรีกโบราณนี่นา แต่ว่าผมไม่โบราณนะ แล้วก็ไม่ใช่ชาวกรีกด้วย”
“อื้ม… เป็นมุกตลกที่น่าสนใจดีนะครับ” คุณชายยิ้มบาง ๆ คล้ายกับเป็นการปั้นหน้ายิ้มนิดหน่อย ก่อนอธิบายเพิ่มเติม “พอดีกระผมที่เรื่องอยากไหว้วานท่านชายน่ะครับ เป็นเรื่องที่ส่วนตัวเสียเล็กน้อย”
“หืม… เรื่องส่วนตัวซะด้วย”
ดีนกลอกตาขณะคิด เห็นอีกฝ่ายแนะนำตัวในจดหมายว่ามาจากตระกูลผู้คิดค้นเทคโนโลยีก็นึกว่าจะคุยเรื่องธุรกิจอะไรกัน ส่วนเรื่องที่อยากขอร้องเป็นเรื่องเส้นสายให้คุยกับโพไซดอนเสียอีก แค่ดูแล้วเหมือนไม่ใช่ แล้วสีหน้าเว้าวอนของไซม่อนบ่งบอกว่าเรื่องนี้สำคัญจริง ถ้าไม่ได้แล้วจะขาดใจตาย
จะบอกว่าสงสารก็ใช่ แต่ความสาระแนดันมีมากกว่า
“ได้สิครับ ไว้เดินเล่นกันไปคุยกันไปก็ได้ แต่คุณคงห้ามไม่ให้บอดี้การ์ดของผมตามไปห่าง ๆ ไม่ได้อ่ะนะ” แล้วก็ชี้ไปทางลูอิส
“กระผมคงห้ามไม่ได้ครับ” ไซม่อนยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก “หากคุณชายตกลงก็เชิญทางนี้ครับ”
เสียดายนิดหน่อยตรงที่เขาเพิ่งกินขนมไปแค่ชิ้นเดียว ที่เหลือนั่นคงไม่ใช้ฟู้ดเวสต์หรอกนะ แต่จะให้ยกถาดไฮทีไปทั้งยวงมันก็กะไรอยู่ ดีนจึงเดินตามไปโดยไม่ได้หยิบอะไรติดมือมาเลยสักอย่างเดียว
คุณชายไซม่อนก็เดินนำออกไปทางสวนหลังบ้านอันกว้างขวาง พุ่มไม้ต่าง ๆ ทั้งไม้ใบและไม้ดอกถูกดูแลอย่างดีคล้ายกับสวนในพระราชวังเก่าอย่างตอนที่ดีนไปภารกิจที่ปารีสกับแมคเคนซี ชายหนุ่มทั้งสองเดินไปตามทางเดินที่ปูไปด้วยอิฐสีขาว ทุกสิ่งทุกอย่างดูสวยงามสะอาดตาไปเสียหมด
“แอตแลนติสแตกต่างจากโลกด้านบนมากไหมครับ?”
ไซม่อนเป็นฝ่ายเปิดฉากสนทนาก่อน แปลกเหมือนกันที่ดีนถูกแย่งตำแหน่งคนช่างจ้อ
“มากเลย แถมค่อนข้างจะแตกต่างจากที่ผมคิดไว้อีกต่างหาก ตอนแรกคิดว่าทุกพื้นที่จะเต็มไปด้วยน้ำซะอีก”
เมื่อได้ยินคำตอบเจ้าบ้านก็หัวเราะน้อย ๆ
“คงเป็นครั้งแรกที่ท่านชายมาที่นี่สินะครับ”
แต่ดีนส่ายหน้า
“ความจริงนี่เป็นครั้งที่สองครับ ครั้งแรกผมมาทำภารกิจส่งตรีศูลของพ่อ ตอนนั้นไปแค่ที่พระราชวังไม่ได้เข้ามาในเขตตัวเมืองเลย” ดีนเว้นวรรค เมื่อหันไปมองหน้าอีกฝ่ายก็คล้ายเห็นเครื่องหมายคำถามผสมกับร่องรอยของความตั้งใจฟัง “ส่วนครั้งนี้เพราะซวย ผมดันถูกคราเคนโจมตีตอนนั่งเรือ ก็เลยถูกฮิปโปแคมปัสพามารักษาที่โรงพยาบาลแอตแลนติส ไม่งั้นได้สิ้นชื่อแน่”
พูดเหมือนเรื่องตลกทว่าเจ้าตัวได้แต่ยิ้มแห้ง ไม่อยากสาธยายเลยว่าตอนนั้นสภาพตนที่หมอเล่ามันเละแค่ไหน รอดตายมาได้นี่พล็อตอาร์เมอร์ของตัวเอกชัด ๆ
“ทะเลนอกแอตแลนติสอันตรายมาก เป็นไปได้พวกเราชาวแอตแลนติสจะไม่ออกไปนอกอาณาจักรเช่นกัน มีแต่เพียงกลุ่มผู้บุกเบิกเล็ก ๆ ที่ออกไปสู่โลกด้านนอกครับ” ไซม่อนไม่ได้ถามต่อ ข่าวลือเรื่องบุตรชายเจ้าสมุทรถูกทำร้ายจนสาหัสถูกลือไปทั่วทั้งแอตแลนติสตั้งแต่วันแรก จึงไม่เป็นที่สงสัย
“หืม เป็นงี้เอง ถ้างั้นพวกตำนานต่าง ๆ ล่ะ?” ดีนตั้งข้อสงสัย
“นอกจากแอตแลนติสก็จะมีชุมชนชาวเงือกอื่น ๆ อยู่บ้างครับ เกาะกลุ่มกันจะปลอดภัยกว่า”
คำตอบของไซม่อนทำให้ดีนเข้าใจได้หลายส่วน เอาเป็นว่ามีเงือกนอกแอตแลนติสจริงแต่ก็เป็นส่วนน้อยมาก ๆ อีกกลุ่มที่คิดถึงคือพนักงานโรงแรมแอตแลนติสที่พ่อส่งไปทำธุรกิจบนโลกมนุษย์
“อันที่จริง ผมค่อนข้างจะสนใจวัฒนธรรมด้านบนมาก ๆ ครับ แต่ก็เคยขึ้นไปด้านบนแค่ไม่กี่ครั้ง”
ไซม่อนเปิดประเด็นอีกครั้ง ช่วยให้ดีนพอเข้าใจได้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเรียกเขาเข้าพบ ทั้งที่พื้นเพของชาวแอตแลนติสมักดูแคลนเผ่าพันธุ์อื่นนอกเหนือจากตนเอง
“งี้นี่เอง คุณก็เป็นหนึ่งผู้บุกเบิกเหมือนกันสินะ... เรื่องที่คุณอยากไหว้วานผมคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกข้างบนใช่ไหมครับ?”
คุณชายดีมิเทียสยิ้มบาง ๆ โดยไม่ตอบ พวกเขาเดินเล่นกันมาจนสุดระเบียงสวน ไซม่อนเท้าแขนกับราวกั้นด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนจะมองวิวไปด้านล่าง คฤหาสน์ค่อนข้างตั้งอยู่บนเนินสูง พวกเขาจึงสามารถเห็นเขตเมืองชั้นกลางและชั้นล่างที่มีกำแพงกั้นขวางแต่ละเขตอยู่ มันไม่ได้สวยงามเหมือนเขตเมืองที่ดีนได้มาเยือน แต่เขตดังกล่าวออกจะคล้ายกับสลัมย้อนยุคเสียมากกว่า
“ถ้าอย่างนั้นขอเข้าเรื่องที่จะไหว้วานท่านชายเลยก็แล้วกันครับ คือว่ากระผม.. อยากให้ท่านชายนำของขวัญและจดหมายไปให้สตรีนางหนึ่ง”
ได้ยินคำขอชายหนุ่มผิวน้ำผึ้งก็หูตั้งแล้วยิ้มกริ่ม ตอนแรกก็นึกว่าอะไร ที่แท้ก็ปัญหาหัวใจนี่เอง อย่างกับตำนานเงือกน้อยมีจริง เพียงแต่คราวนี้สลับเพศกันนิดหน่อย
“ใช่แบบที่ผมคิดไว้ไหมเนี่ย”
ดีนแซวเบา ๆ จนไซม่อนมีท่าทีเขินอายชัดจนต้องกระแอมปรับมาด
“กระผมเจอนางที่ไทม์สแควร์ นิวยอร์ก เหมือนกับว่านางจะเป็นนักร้องชื่อ ‘เคธี่’ หรืออะไรสักอย่าง ท่านชายจะคิดว่าผมเป็นแฟนคลับของนางก็ได้ขอรับ”
“โอ้โห คุณเคยไปนิวยอร์กด้วย ถ้าคุณเป็นแฟนคลับจริงคงส่งของขวัญไปที่สตูดิโอไปแล้วมั้ง ผมว่าไม่ใช่แค่นั้นใช่ไหมล่ะ น่าจะอยากได้อะไรมากกว่านั้น อย่างเช่นเบอร์โทรตรงไม่ผ่านผู้จัดการอะไรแบบนี้” บุตรแห่งโพไซดอนกล่าวเล่น ๆ แต่ดูเหมือนคำพูดเหล่านั้นจะตรงใจกับไซม่อนทุกประโยค “เธอชื่อ ‘เคธี่’ เหรอ.. ผมรู้จักนักร้องที่ชื่อเคธี่หลายคนด้วยสิ”
“ถ้าอย่างไรท่านชายสะดวกแลกคอนแทกกันหรือไม่ครับ กระผมจะได้ส่งรูปของนางให้แล้วเราจะได้ติดต่อกันง่าย ๆ”
“ได้อยู่แล้ว ผมไม่มีปัญหาหรอกนะถ้าจะแลกคอนแทก แต่จะให้ไปขอเบอร์ดารามันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”
“เช่นนั้น… กระผมยินดีจะมอบ ‘หินแห่งปัญญา’ ให้ท่าน หากท่านชายทำคำร้องขอของกระผมสำเร็จดีหรือไม่ขอรับ”
ของรางวัลทำให้ดีนเลิกคิ้ว
‘เริ่มจะเป็นธุรกิจแล้วสินะ…’
กะจะทำให้ฟรีนะเนี่ย แต่ในเมื่อเจ้าตัวเสนอรางวัลมาทำไมจะไม่รับล่ะ
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ว่าผมไม่รับปากนะว่าจะสำเร็จ หรือว่าเสร็จเมื่อไร แต่ผมจะพยายาม… ส่วนนี่คอนแทกผม”
ชายหนุ่มนำสมาร์ทโฟนเดดาลัสออกมาจากนั้นจึงแลกคอนแทกกันและกัน สวัสดีเพื่อนในเฟซบุ๊กคนที่ 3,156 ที่ชื่ออ่านโคตรยาก... ว่าแล้วก็ส่งสติ๊กเกอร์ทักทายไปสามตัว
“สติ๊กเกอร์คุณเยอะดีนะครับ”
“ผมมีเยอะกว่านี้อีก คุณชายไปโหลดไว้รอแชทกับสาวได้เลย ผู้หญิงชอบอะไรน่ารักดุ๊กดิ๊ก ๆ แบบนี้.. ว่าแต่แปลกใจเลยแฮะ ไม่คิดว่าชาวแอตแลนติสมีเฟซบุ๊กด้วย”
“ท่านชายอาจไม่เชื่อก็ได้ แต่ชาวเราใช้เฟซบุ๊กกันเป็นปกติครับ แม้ชาวแอตแลนติสไม่ชอบสุงสิงกับมนุษย์แต่ก็อดที่จะพึ่งวิทยาการอันน่าทึ่งของโลกเบื้องบนไม่ได้อยู่ดี ซึ่งออกจะย้อนแย้งสักนิดหน่อย” ไซม่อนอมยิ้มเล็กน้อย
“เข้าใจเลย เหมือนว่าเกลียดบริษัทหน้าเลือดนั่นชะมัด แต่ก็อดซื้อของไม่ได้เพราะต้องใช้” ดีนไหวไหล่
“ครับ แบบนั้นเลย…” ไซม่อนตอบรับก่อนจะส่งบางอย่างมาให้ “นี่รูปของนางครับ ใช่เคธี่ที่ท่านชายรู้จักหรือไม่?”
D.E.A.N.:
Zymaon Detiuos:
สวัสดีครับ
D.E.A.N.:
ดีนยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาดู ภาพหญิงสาวงดงามกำลังร้องเพลงไปพลางขณะที่กำลังเล่นเปียโนไปด้วย น่าเสียดายที่ดีนไม่คุ้นหน้าเธอเลย บางทีนักร้องหญิงคนนี้อาจจะเดบิวตอนที่ดีนเข้าค่ายฮาล์ฟบลัดมาแล้ว เขาจึงไม่ค่อยรู้จักดาราหน้าใหม่
“ไม่รู้จักเลย… แต่ว่าผมมีเพื่อนในวงการบันเทิงอยู่บ้าง บางทีอาจมีวิธีติดต่อ ส่วนการหาว่าเธอทำงานที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไร”
“กระผมคงไม่ตั้งความหวังมากไปใช่หรือไม่ครับ…”
บุตรโพไซดอนละสายตาจากหน้าจอ เห็นได้ชัดว่าไซม่อนทำหน้าหงอยลงไปถนัดตา
“อย่าเพิ่งสิ้นหวังน่า ถึงโอกาสจะมีแค่หนึ่งเปอร์เซ็นเราก็ต้องหวังได้สิ!” ดีนพยายามให้กำลังใจ แต่ก็แอบกลัวเหมือนกันว่าเขาจะทำให้อีกฝ่ายรอเก้อหรือเปล่า “ถ้าเธอรู้ว่าคนหล่อ ๆ (และรวย) อย่างคุณอยากทำความรู้จักเธอต้องไม่ปฏิเสธแน่ ๆ ครับ”
“หากท่านกล่าวเช่นนั้นกระผมก็จะสู้ต่อ” กล่าวถึงตรงนี้ไซม่อนก็นำกล่องของขวัญและจดหมายรักออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท “ของขวัญให้นางครับ ปะการังสีแดงหายากและจดหมาย กระผมรบกวนท่านชายด้วย”
“ได้เลยคุณไซม่อน ไว้ถ้ายังไงผมจะติดต่อคุณเรื่อย ๆ นะ”
ดีนรับปาก จากนั้นทั้งสองก็แลกเปลี่ยนเรื่องแอตแลนติสและโลกด้านบนอยู่อีกครู่ใหญ่ จากนั้นดีนจึงกลับไปที่พระราชวังแอตแลนติสกับลูอิส
ตอบรับคำขอของ ไซม่อน ดีมิเทียส แต่ไม่รับปากว่าจะสำเร็จเมื่อไร
|