แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-3-25 07:15
304 ฟื้นคืนจากความ(ใกล้)ตาย
xx/02/2025
ปิ๊บ… ปิ๊บ… ปิ๊บ…
หลังจากจมอยู่ในห้วงฝันเลือนรางมายาวนาน เสียงแรกที่ได้ยินคล้ายกับถูกปลุกให้ตื่นคือเสียง ‘ปิ๊บ’ แผ่วเบาและสม่ำเสมอของเครื่องวัดชีพจร ด้วยท่วงทำนองไร้ชีวิตชีวา ทว่ากลับเป็นเสียงเดียวที่บอกว่าชายหนุ่มผู้สลบไสลยังหายใจอยู่
ดวงตาทรงอัลมอนด์เปิดปรือขึ้นเพียงเล็กน้อยราวกับว่าแพขนตานั้นหนักอึ้งจนไม่อาจต้านทางแรงโน้มถ่วงของโลกไหว สิ่งที่ดีนเห็นคือภาพอันพร่าเลือนอย่างเช่นทุกครั้งที่ตื่นนอนโดยไม่มีกรอบแว่นสายตาหรือคอนแทกเลนส์ประทับอยู่บนใบหน้า เบื้องหน้าของชายหนุ่มคือฟองอากาศที่ผุดออกจากโพรงจมูกยามที่เขาหายใจเข้าและออก จนตระหนักได้ว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในน้ำ
‘นี่ฉัน…ยังไม่ตาย?’
ดวงตาสีเปลือกไม้ผลุบลงมองร่างกายของตัวเองที่แช่อยู่ในกระแสน้ำที่ให้ความรู้สึกอบอวนบางอย่างที่น่าประหลาด แขน ขา มือ เท้า ลำตัวตั้งแต่อกลงไปอยู่ครบสามสิบสอง สภาพทั้งหมดยังคงดูดีแม้มีสายบางอย่างพะรุงพะรังติดตามร่างกายของเขาเต็มไปหมด แม้ว่าตอนนี้ร่างกายจะเปลือยเปล่าล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าแม้สักชิ้นเลยก็ตาม
“พี่ดีนตื่นแล้วเหรอคะ?”
เสียงหวานใสอันคุ้นเคยดังกระทบเข้ามาในโสตประสาท คล้ายกับว่าเขาเพิ่งได้ยินเสียงนี้มาไม่กี่วันก่อนนี้เอง และเสียงนั้นชวนให้ดวงตาสีเปลือกไม้ชำเลืองขึ้นมองตรงไปด้านหน้า ท่ามกลางความพร่ามัวแต่ใบหน้าของผู้ทักถามกลับเด่นชัดผิดปกติอย่างน่าประหลาด
“บุ๋ง” จะอ้าปากพูดทว่าสิ่งที่ออกมามีแต่ฟองอากาศที่ลอยฟุ้งกลางน้ำใส
‘ชาร์ล็อต?’
อยากจะยกมือขึ้นมาขยี้ตาทว่ามือไม้ของเขากลับปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงราวกับว่ากระดูกที่ถูกมวลกล้ามเนื้อหุ้มไว้ยังไม่สมานกันดี ดีนจึงทำได้แค่กะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับม่านตาให้รับแสงมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งภาพที่เขาเห็นยังคงไม่ผิดเพี้ยน คนที่อยู่ตรงหน้าของเขาคือเด็กสาวที่ผมย้อมผมสองสี แดง และ ม่วงพาสเทล ผมเปียคู่ถูกเกล้าขึ้นอย่างเป็นระเบียบซ่อนไว้ใต้หมวกพยาบาลสีสะอาด เหลือเพียงแค่ผมหน้าม้าที่ปล่อยลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ ขับกล่อมให้นวลหน้าจิ้มลิ้มดูน่ามอง ชุดที่เธอสวมใส่คือชุดนางพยาบาลสีอ่อนแบบที่เห็นในหนังผู้ใหญ่บ่อยกว่าโรงพยาบาลในโลกจริง เธอคือ ‘ชาร์ล็อต ลิเลี่ยน’ ธิดาแห่งเฮคาที ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวของแฟนหนุ่มนั่นเอง
‘ชาร์ล็อต ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่? ที่นี่คือที่ไหน? แล้วชุดนางพยาบาล… คอสเพลย์?’
ภายในหัวที่อยู่ในสภาพมึนงงประมวลผลออกมาได้เชื่องช้า หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาขำคิกคักราวกับได้ยินความคิดที่อยู่ในหัว หรือไม่ก็ดีนอาจจะจะทำหน้าฉงนจนดูตลกเกินไป ชาร์ล็อตวางมือลงทาบไปยังกระจกใสที่กั้นขวางพวกเขาทั้งสอง ทำให้ดีนเพิ่งจะรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในแท็งก์ตู้กระจกเหมือนปลาในอควาเรียม
“ที่นี่คือโรงพยาบาลโอเชียนนิกส์ในนครแอตแลนติส ส่วนเรื่องชุด… ก็เพราะว่าหนูเป็นนางพยาบาลก็เลยใส่ชุดนางพยาบาลไงคะ” หญิงสาวตอบ
‘เดี๋ยวนะ… เธอได้ยินความคิดในหัวฉัน!?’
จากดวงตาที่เปิดปรือเพียงครึ่งเดียวได้เบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อคนตรงหน้าสามารถสื่อสารกับเขาได้
‘พวกนักเวทบ้านเฮคาทีมีคาถาอ่านใจจริง ๆ ด้วย!’
“ใช่ซะที่ไหนล่ะคะ ว่าแต่บ้านเฮคาที? ความจริงแล้วหนูสายเลือดเดียวกับพี่ดีนต่างหาก” ชาร์ล็อตตอบกลับมายิ่งสร้างความสับสนมึนงงมากกว่าเดิม
‘เดี๋ยวนะ.. สายเลือดเดียวกันกับฉัน หมายถึง… เธอเป็นลูกสาวของโพไซดอน?’
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวตรงหน้าพยักหน้า “อ้อ จริงสิ คงเป็นผลข้างเคียงของยาที่ผสมอยู่ในน้ำที่ใช้บำบัด พี่ถึงได้เห็นภาพหลอนเป็นหนูแบบนี้ หนูไม่ใช่ชาร์ล็อตหรอกค่ะ แต่คือชาร์ล็อตต่างหาก”
‘อะไรนะ? ไม่ใช่ชาร์ล็อต แต่คือชาร์ล็อต? เธอทำฉันสับสนมากกว่าเดิมอีก’
สารพัดความงงงวยประดังประเดเข้ามาเข้าสู่สมองอันมึนงง ดีนไม่เข้าใจเลยสักนิดว่านี่มันคือเรื่องบ้าอะไรกันแน่ แต่น้ำทะเลกลิ่นเอียน ๆ เหมือนผสมยาสมุนไพรหลายขนานมันชวนให้เขาง่วงเป็นอย่างมากเกินกว่าที่จะปวดหัว
“ความจริงแล้วเราควรคุยกันตอนที่พี่ออกมาจากตู้บำบัดแล้วมากกว่าจะได้รับสารอย่างถูกต้อง ซึ่งตอนนี้หนูตรวจอาการแล้วร่างกายของพี่ฟื้นฟูได้มากถึงแปดสิบเปอร์เซนต์ นับว่าเป็นแนวโน้มที่ดี พรุ่งนี้พี่ก็น่าจะออกมาจากตู้บำบัดได้แล้วล่ะค่ะ ถ้ายังไงเดี๋ยวหนูขอตัวก่อน”
กล่าวจบหญิงสาวผมพาสเทลสองสีในชุดพยาบาลก็หันหลังให้แล้วกำลังจะเดินออกจากห้องผู้ป่วย ทว่าดีนได้ส่งเสียงในใจเรียกรั้งไว้ก่อน
‘เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป! ฉันอยู่คนเดียวเหงา ๆ มาเป็นสัปดาห์ อย่าให้ฉันต้องอยู่คนเดียวอีกได้โปรด!’
เสียงเรียกของดีนทำให้สาวในชุดนางพยาบาลสาวชะงัก เธอถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าน้อย ๆ แต่ก็ยอมเดินกลับมาสนทนากับเขาอีกครั้งหนึ่ง
‘ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกัน…’
ดีนไม่รู้ว่าจะแสดงความขอบคุณอย่างไรนอกจากส่งกระแสจิตไปยังเบื้องหน้า คนเอ็กซ์โทรเวิร์ตอย่างเขาต้องอยู่บนเรือยอร์ชตามลำพังโดยไม่ค่อยได้สนทนากับใครบอกได้เลยว่าแทบจะบ้า จริงอยู่ที่เขาสามารถสื่อสารกับเพกาซัสและฮิปโปแคมปัสได้ ทว่าช่วงที่เหล่าม้าน้ำกำลังทำงานลากเรือกันอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ต่อให้ดีนชวนคุยเท่าไร สารถีทั้งหกก็เพียงแค่ถามคำตอบคำ
‘ไม่รู้ว่าชื่อจริง ๆ ของเธอคืออะไร แต่เอาเป็นว่าชื่อชาร์ล็อตไปก่อนคงไม่ว่ากันนะ’
“ได้ค่ะพี่ดีน หนูเข้าใจ” ชาร์ล็อตตัวปลอมได้แต่ยิ้มบางและพยักหน้า จากประสบการณ์การทำงานพยาบาลของเธอต้องรับมือกับคนไข้ที่มองเห็นภาพหลอนจากการมึนยาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร
‘ยังไงเธอช่วยอธิบายฉันหน่อยได้ไหม ทำไมเธอถึงเอ่อ.. เหมือนชาร์ล็อตจัง แม้แต่คำพูดด้วย เธอไม่น่าเรียกตัวเองว่า ‘หนู’ แล้วเรียกฉันว่า ‘พี่ดีน’ อยู่แล้วใช่ไหม?’
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะพี่ดีน หนูไม่ได้เรียกแทนตัวเองว่า ‘หนู’ แล้วก็ไม่ได้เรียกพี่ดีนว่า ‘พี่ดีน’ ด้วยค่ะ”
‘โอเค.. คำว่า ‘หนู’ กับ ‘พี่ดีน’ มาเต็ม ๆ หูเลย เอาเป็นว่าผมจะพยายามทำความเข้าใจก็แล้วกัน’
ใช่ มีแค่ทางเดียวเท่านั้นคือทำใจไปก่อนแล้วบอกกับตัวเองว่า ‘คนตรงหน้าไม่ใช่ชาร์ล็อต!’ แล้วก็เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวใหม่ด้วย
“อย่างที่หนูบอกไปว่าในตู้บำบัดมีตัวยาสมุนไพรวิเศษใต้สมุทรที่ช่วยทำการรักษาบาดแผลให้ดีขึ้นได้น่ะค่ะ แต่ผลข้างเคียงของมันจะทำให้พี่มองเห็นภาพหลอนอะไรสักอย่าง เช่น เห็นหนูเป็นคนรู้จักที่สนิทด้วย”
นางพยาบาลชาร์ล็อตตัวปลอมพยายามอธิบายสรรพคุณของยาวิเศษตำหรับแอตแลนติสให้ดีนฟังโดยไม่ใช้ศัพท์ทำการแพทย์อย่างยากเย็น เพราะนอกจากที่อีกฝ่ายจะไม่รู้แล้ว บางทีคนที่กำลังมองเห็นภาพหลอนอาจได้ยินชื่อวัตถุดิบผิด ๆ จนเอาไปใช้งานจริงอย่างผิดวิธีจนเกิดโทษได้
‘ฉันสนิทกับชาร์ล็อตเหรอ? ทำไมถึงมองเห็นเป็นเธอ..’
ดีนเอ่ยถาม ทว่าพยาบาลชาร์ล็อตยักไหล่แทนคำตอบว่า ‘จะไปรู้เหรอ’ ความจริงเขาน่าจะมองเห็นรีชาหรือไม่ก็เอมีเลียที่สนิทสนมด้วยมากกว่าสิ หรือว่าเขาคิดถึงแมคเคนซีมากแต่จินตนาการอีกฝ่ายในชุดนางพยาบาลสาวไม่ลงกันนะ หวยจึงมาตกที่น้องสาวแทน แน่นอนว่าความคิดเหล่านั้นถูกส่งผ่านออกมาทางกระแสจิต ทำเอาคนฟังปั้นหน้ากลั้นขำ
‘เออ ช่างเถอะ.. งั้นคำถามต่อไป ตอนนี้เรากำลังสื่อสารใต้สมุทรจากทักษะสายเลือดโพไซดอนอยู่ใช่ไหม แต่ว่าเธออ้าปากพูดออกมานี่ มันยังไง?’
“อย่างที่พี่ดีนเข้าใจค่ะ เราใช้ทักษะนั้นคุยกัน ถึงพี่จะเห็นว่าหนูยืนอยู่ในที่แห้ง แต่อย่าลืมสิคะว่านี่คือใต้ท้องทะเล พื้นที่แห้งเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เวทมนตร์บันดาลให้เกิดขึ้น”
‘อ่า เอ่อ.. เอาเป็นว่าเข้าใจ’ ถึงจะแฟนตาซีไปหน่อยแต่ก็พอจะเข้าใจได้ อย่างไรเสียเขาก็พอจะมีประสบการณ์จากบ้านพักใต้ทะเลของโพไซดอนมาก่อน ‘งั้นต่อไป… สกิลน้ำเยียวยาอย่างเดียวใช้ไม่ได้ผลเหรอ ทำไมถึงต้องใส่ยาสมุนไพรอะไรนั่นลงไปช่วยรักษาด้วยล่ะครับ’
“อื้มมม เกรงว่าถ้าใช้เพียงสกิลน้ำเยียวยาเพียงอย่างเดียวน่าจะรักษาได้ไม่ทันการน่ะค่ะ ตอนที่พี่ถูกพามาโรงพยาบาลสภาพแบบว่า..” ชาร์ล็อตปลอมยิ้มแหย เธอคงไม่อาจสาธยายได้ว่ามันเลวร้ายแค่ไหน เพราะว่ามันเลวร้ายเกินกว่าจะพรรณาออกมาได้เป็นคำพูด บางทีมันอาจจะแย่กว่าผ้าขี้ริ้วรุ่งริ่ง หรือผักใบเขียวที่ถูกต้มจนเหี่ยวกลายเป็นสีน้ำตาล
‘สภาพเลวร้าย?’ ดีนสรุปให้
“ค่ะ เอาเป็นว่ารอพี่ออกจากตู้บำบัดแล้วทราบผลตรวจพรุ่งนี้ดีกว่า”
‘อาฮะ.. เพื่อที่จะได้ไม่รับสารแบบผิด ๆ สินะ ผมจะเก็บความอยากรู้ไว้ก่อนก็ได้’
ดีนถอนหายใจออกมาบาง ๆ จนเกิดฟองอากาศไปทั่วตู้บำบัด เขาพยายามนึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะสลบไป ไม่รู้ว่ามันผ่านมาแล้วกี่วันกี่คืน ชายหนุ่มจำได้ว่าต่อสู้กับคราเคน เหมือนจะชนะแต่ก็ถูกมันรัดจนเกือบตาย ความรู้สึกเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เป็นความเจ็บที่มากกว่าครั้งไหน ๆ ตั้งแต่เกิดมา ทว่าตอนนี้ร่างกายของเขาแทบจะไร้ความรู้สึก ไม่มีแม้กระทั่งความเจ็บปวดเพียงสักนิดบนผิวกายหรือแม้แต่ในกระดูก ในการต่อสู้นั้นเกิดการสูญเสียมากมาย และมันยิ่งน่าเศร้าที่สัมผัสเมื่อตอนขึ้นขี่ดิวดรอปที่น่าจะชัดเจนที่สุดกลับเลือนหายไปจนหมด
‘ผมอยากรู้ว่าผมมาที่นี่ได้ยังไง’
“หนูไม่ทราบเหตุการณ์จริงหรอกนะคะ แต่จากรายงานมีฮิปโปแคมปัสสองตัวพาพี่ดีนมาเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนที่นี่ ลำพังแค่พลังน้ำเยียวยาจากผู้ป่วยอาการโคม่าคงไม่พอ ทีมแพทย์จึงได้พาพี่เข้ามารักษาในตู้บำบัดนี่ล่ะค่ะ”
นางพยาบาลอธิบายยาวเหยียด แต่สมองของดีนหยุดอยู่ถึงแค่คำว่า ‘ฮิปโปแคมปัสสองตัว’
‘เหลือแค่สองตัวเองเหรอ…’
คล้ายมีก้อนของความเจ็บปวดทิ่มแทงใจจนหายใจได้อย่างยากลำบาก ทว่าแปลกเหลือเกินที่เขากลับรู้สึกถึงความง่วงงุนเข้ามาแทนที่อย่างฉับพลัน หรือว่ายาสมุนไพรวิเศษอะไรนั่นจะช่วยเยียวยาบาดแผลทางจิตใจให้ด้วยนะ?
จะอย่างไรก็ช่าง ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มฝืนตื่นไม่ไหวอีกต่อไป…
ใช้สกิลน้ำเยียวยา
|