แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-3-14 05:09
301 แม้ทะเลจะสวยแค่ไหน แต่ก็ยังแพ้ความงามของคุณ
05/02/2025
ใช้เวลาถึงสองวันเต็ม ๆ กว่าที่เรือยอร์ชลำน้อยแล่นฉิวเคลื่อนผ่านทะเลอาหรับออกสู่มหาสมุทรอินเดีย จากการเดินทางต่อเนื่องกว่าสี่สิบแปดชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก ก็ได้เวลาเปลี่ยนฮิปโปแคมปัสลากเรือฝูงใหม่มาทำงานต่อบริเวณนอกชายฝั่งเกาะมอริเชียส ทว่าดูเหมือนสารถีลากเรือรอบถัดไปจะเกิดปัญหาอะไรบางอย่างทำให้มาช้า คนในเรือจึงได้แต่รอ
“ที่นี่สวยดี แวะเที่ยวก่อนแป๊บนึงก็ไม่เป็นไรมั้ง ทุกคนก็ไม่ต้องเกรงใจคอยเฝ้ายามหรอก ไปพักกันได้เลย”
ในเมื่อบุตรชายเจ้าสมุทรกล่าวเช่นนั้นฮิปโปแคมปัสหกตัวผู้มีหน้าที่เป็นสารถีรอบก่อนหน้าก็ลดอาการวิตก ดีเสียอีกที่พวกมันจะได้หยุดพักเติมพลัง ไม่ต้องรีบเร่งกลับไปยังถิ่นที่อยู่ ฝูงฮิปโปแคมปัสว่ายน้ำมุดลงไปใต้ท้องสมุทร เล็มกินหญ้าทะเลและสาหร่ายตุนเป็นเสบียงอาหารใส่ท้อง เพกาซัสสาวอย่างควีนถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย มันเกลียดการรอคอยและรักอิสระดีนจึงชักชวนมันสาวบินไปเที่ยวชมวิวเกาะมอริเชียสจากมุมสูง โดยไม่ลืมพาก๊อบลินน้อยติดสอยห้อยตามไปด้วย
บริเวณที่เรือยอร์ชจอดลอยลำน่าจะอยู่แถว ๆ ส่วนใต้สุดของเกาะมอริเชียสที่ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์อย่าง ‘เลอ มอร์น บราบ็องท์’ ที่เป็นภูเขาหินสูงที่ตั้งตระหง่านอย่างโดดเดี่ยวไม่มีใครมาแย่งซีน จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อของประเทศหมู่เกาะ เมื่อมองภาพจากมุมสูงช่างเป็นอะไรที่แปลกตาเสียเหลือเกินที่ความยิ่งใหญ่ของเขาหินและความเขียวขจีของผืนป่า ตัดกับสีสันของหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีครามที่อยู่ไม่ไกลกัน
ดีนยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูปภูเขาจากมุมสูง เก็บไว้เป็นที่ระลึกเสียหน่อย เพราะคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่อย่างเป็นทางการแน่ ๆ ถึงมอริเชียสจะเป็นประเทศที่สถานีรถไฟเฮเฟตัสเข้าถึง (ถ้าจำตารางที่ตัวเองจัดทำไม่ผิดไปนะ) แต่เขาก็ไม่อยากมาท่องเที่ยวบนเกาะโรแมนติกอย่างผู้ลักลอบเข้าเมือง
ณ ที่ห่างไกลสุดสายตา คล้ายกับว่ามองเห็นอะไรบางอย่างอยู่ลิบ ๆ
“ว้าว ดูนั่นสิควีน เหมือนกับว่าตรงนั้นจะมีโบราณสถานอะไรสักอย่างอยู่ด้วย”
ปลายนิ้วของชายผิวน้ำผึ้งชี้ไปที่ป้อมปราการริมชายฝั่ง มันดูไม่เก่าแก่โบราณเหมือนกับโบราณสถานที่เคยผ่านทางมาในแผ่นดินทะเลทราย ให้เดาน่าจะถูกสร้างช่วงศตวรรษที่สิบแปดในยุคล่าอาณานิคม อาจใช้งานทั้งสำหรับสอดส่องดูแลความปลอดภัยและใช้สำหรับเป็นประภาคารไปในตัว
“ฮรี้!” oO(หยุด! ห้ามพูดถึงโบราณสถาน ข้าจะไม่ยอมไปที่แบบนั้นอีกเด็ดขาด!!) ควีนยื่นคำขาด มันหักหัวบินเลี้ยวหนีไปอีกทาง
“โอเค ๆ ไม่แวะ ๆ ว้า เสียดายชะมัด”
ดีนกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ถือสา เขารู้ว่าควีนมีความทรงจำที่ไม่ดีกับโบราณสถานไปแล้วหลังจากถูกธนูยิงจนขนแหว่ง ดังนั้นเขาจะไม่บังคับใจนางให้กลับไปพบกับประสบการณ์ที่ทรอม่า
แต่ก็แอบคิด… เมื่อวันก่อนเธอยังบู๊ระห่ำดับเครื่องชนกับยักษ์จีนี่ชั่วร้ายอย่างกล้าหาญได้อยู่เลย ไหงถึงได้กลัวโบราณสถานอยู่กันนะ.. แต่มาคิดอีกมุม หากโบราณสถานไม่มีหุ่นยนตร์ของเฮเฟตัสที่ดรอปไอเท็มล้ำค่าสำหรับการทำชุดเกราะ เขาคงเลี่ยงสถานที่แบบนั้นเหมือนกัน
“ถ้างั้นลองไปเที่ยวทางนั้นไหม ในแผนที่เหมือนจะมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ด้วย”
“ฮรี้!” oO(อย่าได้หลอกข้าไปโบราณสถานบ้า ๆ นั่นเชียว!)
“โธ่เอ๊ย ไม่หลอกหรอกน่า เชื่อใจกันบ้างสิ”
ดีนตอบก่อนจะบังคับเพกาซัสมุ่งเข้าสู่แผ่นดินมากขึ้น ทิวทัศน์จากสีน้ำทะเลค่อย ๆ หายไปจนเห็นแต่เพียงพื้นที่สีเขียวที่เบื้องล่าง แซมไปด้วยหลังคาบ้านเรือนประชาชนที่กระจายตัวอย่างหลวม ๆ ไม่แอดอัดยัดเยียดเบียดเสียดเหมือนเมืองใหญ่ นับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจากต่างแดนชื่นชอบ น่าเสียดายเหลือเกินที่ตอนนี้เขาสามารถท่องเที่ยวได้จากมุมสูงเพียงเท่านั้น
ถัดออกไปจากพื้นที่สีเขียว ดีนมองเห็นเนินดินประหลาด ซึ่งนั่นน่าจะเป็น ‘ดินเจ็ดสีแห่งชามาเรล’ พื้นที่ธรรมชาติที่ดูราวกับเป็นดินแดนต้องมนตร์ ดินสีรุ้งทอดตัวเป็นเนินคลื่นที่ไล่เฉดสีจากส้ม เหลือง แดง ม่วง ไปจนถึงน้ำเงินเข้มที่เกิดจากแร่ธาตุหายากเฉพาะในพื้นที่
“นั่นไงควีนที่ฉันบอก เราลองร่อนลงต่ำกว่านี้หน่อย”
“ฮรี้!” oO(ฮึ! เนินดิน? ก็ยังดีกว่าโบราณสถาน)
ควีนส่งเสียงขึ้นจมูก ก่อนที่มันจะร่อนลงมาใกล้เรี่ยพื้นดิน ดีนและวูล์ฟเฟียลงจากหลังเพกาซัสแล้วเดินชมสีสันอันน่ามหัศจรรย์ด้วยสองขาของตัวเอง เส้นขอบฟ้าส่องแสงสะท้อนลงบนผิวดิน ทำให้สีสันยิ่งดูโดดเด่นขึ้นกว่าเดิม สายลมอุ่นพัดผ่านกลิ่นหอมของพืชพรรณป่า ชวนให้ชายหนุ่มเผลอหลับตาสูดอากาศเข้าปอด
“เฮ้อ.. อากาศดีจัง สมกับเป็นหมู่เกาะสวรรค์แดนใต้”
นอกจากเนินดินเจ็ดสี ที่ชามาเรลยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอย่างศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลที่คนรักสัตว์อย่างดีนไม่พลาดที่จะเข้าชม นอกจากนั้นยังมีน้ำตกที่ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ ๆ ที่ต้องใช้ทางเดินป่าเพื่อไปถึง แต่พวกเขามีวิถีทางที่สะดวกมากกว่านั้นคือการขี่เพกาซัสมุ่งไปยังน้ำตกชามาเรลที่มีความสูงกว่าสองร้อยเจ็ดสิบกว่าฟุต จากจุดชมวิวด้านบนเผยให้เห็นทัศนียภาพอันน่าตื่นตา ลำธารสีฟ้าใสคดเคี้ยวท่ามกลางผืนป่า ทิ้งตัวลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางร่มเงาไม้ใหญ่ ฝอยน้ำที่สาดกระเซ็นกระทบแสงแดดเกิดเป็นภาพรุ้งวับวาว ราวกับฉากในเกมแฟนตาซีให้เหล่านักผจญภัยได้มาท้าทายประสบการณ์
ทั้งสามเล่นน้ำในลำธารใสกันอยู่ครู่ใหญ่ถึงจะบินกลับกันไปที่เรือสำราญ พวกเขาเที่ยวเล่นกันมาหลายชั่วโมงแล้วป่านนี้ฮิปโปแคมปัสชุดใหม่น่าจะมากันแล้วล่ะมั้ง
“สนุกจังเลยแฮะ เหมือนว่าไม่ได้เล่นน้ำแบบนี้มานานมาก”
ชายหนุ่มบนหลังเพกาซัสยิ้มแป้นอย่างสำราญใจหลังจากได้เที่ยวเล่นแบบไม่เสี่ยงตายหลังทำภารกิจเสร็จ เขาแทบจะเอกเขนกบนหลังเพกาซัสอยู่แล้วติดอยู่แค่บนนี้ไม่มีเข็มขัดนิรภัย ยังไม่อยากกลิ้งตกลงไปจากความสูงหลายร้อยฟุตเสียด้วยสิ…
“จะว่าไป เรามาเที่ยวอาหรับแบบนี้ แถมยังบินจากที่สูงแบบนี้แทบจะตลอดทั้งทริปทำเอาฉันนึกถึงการ์ตูนที่เคยดูตอนเด็กเลย แกเคยขี่พรมวิเศษไหมไข่ผำ?”
“กี้?” วูล์ฟเฟียน้อยเอียงคอสงสัย มันไม่เข้าใจคำพูดของดีนนักแต่ดวงตากลมโตสีทมิฬเป็นประกายอยากรู้อยากเห็น
“ไม่เคยล่ะสิ ฉันก็ไม่เคย แต่เราสมมุติว่าควีนเป็นพรมวิเศษก็แล้วกัน” ดีนหัวเราะ
“ฮรี้!” oO(นี่! ให้มันน้อย ๆ หน่อย บังอาจมากที่เปรียบเพกาซัสสูงศักดิ์อย่างข้ากับพรม.. เอ่อ พรมอะไรนะ? พรมวิเศษ)
“ช่าย พรมวิเศษ เธอก็อยากรู้ล่ะสิว่าเป็นยังไง?” ฝ่ามือหนาตบที่เถาคอของม้าสาวเบา ๆ ไม่สนใจที่เพกาซัสสุดซึนเดเระบ่น จากนั้นเขาก็เอาสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าออกมาเปิดเพลงการ์ตูนวัยเด็กที่แทบจะร้องได้อย่างขึ้นใจ จากนั้นก็ใช้สมาร์ทโฟนเดดาลัสที่เพิ่งซื้อใหม่มาอัดวีดีโอประกอบเอ็มวี “ฉันอยากทำแบบนี้มานานแล้วเริ่มเลยก็แล้วกัน”
“โลกใหม่สวยงาม~~ ตื่นตาเร้าใจกว่าที่เคยมอง ไม่ต้องฟังเสียงผู้ใด คอยชี้ทางไป ดับฝันในใจที่ร่ำร้อง~~ โลกใหม่สวยงาม~~ สุกใสพร่างตากว่าที่เคยเจอ แต่พอบินสูงลอยเด่น ก็รู้ชัดเจน ตอนนี้ฉันได้มาเห็นโลกใหม่กับเธอ~~~”
ดีนแทบจะหอนไปตลอดทางที่บินกลับเหมือนกับคนเมา ตอนนี้ควีนอยากจะยกปีกขึ้นมาปิดหูเสียเหลือเกินแต่ก็ทำไม่ได้ จึงได้แต่ต้องทนฟังเพลงจากนักร้องเสียงเพี้ยนต่อไป น่าเสียดายชะมัดที่แมคเคนซีไม่อยู่ด้วย หากอีกฝ่ายมาเขายอมให้คนรักร้องท่อนของอะลาดินแทนก็ได้นะ
. . .
ในเวลาที่ตะวันควรจะคล้อยลงต่ำหากเป็นในช่วงเวลาปกติ น่าเสียดายที่รัตติกาลถูกช่วงชิงไปมิเช่นนั้นทิวทัศน์กลางมหาสมุทรอินเดียที่สะท้อนไปด้วยหมู่ดาวคงจะโรแมนติกกว่านี้…
“สถานที่โรแมนติก… อืม…”
จู่ ๆ ก็คิดไอเดียบางอย่างออก ก่อนหน้านี้ช่วงเวลาว่าง ๆ ดีนได้เข้าไปเล่นแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนเดดาลัสแล้วได้รางวัลล็อกอินมาเป็นดอกกุหลาบสีน้ำเงินหลายดอกแบบที่ส่งออกมาถึงมือจริง ๆ จนตอนนี้เขามีมันในมือกว่าสิบดอกด้วยกัน ชายหนุ่มไม่รู้ว่าดอกกุหลาบสีน้ำเงินมีไว้สำหรับทำอะไร แต่หากว่าเหมือนกับดอกกุหลาบสีทองแล้วล่ะก็ การใช้งานคงไม่แตกต่างกัน
ไม่ลองก็ไม่รู้…
ชายหนุ่มนำดอกกุหลาบสีน้ำเงินและกล่องเครื่องประดับไปที่หัวเรือยอร์ชที่ใกล้พร้อมออกเดินทาง ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่า ๆ บนท้องฟ้าควรจะมีแสงจันทร์ส่องนำทางยามค่ำคืนและหมู่ดาวขึ้นลอยเด่นเหนือฟากฟ้า แต่กลับถูกลดทอนความโรแมนติกไปด้วยแสงตะวันสว่างจ้าจนร้อนหัว
เอาเป็นว่าอย่างน้อยภาพของน้ำทะเลสีครามใสแจ๋วจนมองเห็นดอกไม้ทะเลและหมู่ปลาน้อยใหญ่ใต้ผืนน้ำก็สวยงามและโรแมนติกไปอีกแบบ เหมาะสมกับการมาฮันนีมูนกับคนรักเป็นที่สุด (แต่แค่ว่าตอนนี้คนรักของเขาน่าจะกำลังผจญภัยอยู่ที่แคนาดาอย่างดุเดือดเลือดพล่าน) คงหมาะที่จะอัญเชิญเทพีแห่งความรักและความงามมาได้
ดีนยังคงจำได้ว่าตอนนั้นเขาทำอย่างไร…
กุหลาบสีน้ำเงินถูกวางเรียงกันสิบดอกในสถานที่สุดแสนโรแมนติก ชายหนุ่มประสานมือไว้กลางอกจากนั้นภาวนานึกถึงเทพีอะโฟร์ไดท์ผู้งดงามเหนือกว่าสตรีและเทพีใด ๆ บนโลกหล้า
“เจ้าเรียกข้าหรือ?”
น้ำเสียงไพเราะสะกดใจดังขึ้นเบื้องหน้าทำเอาชายหนุ่มผู้ประสานมือภาวนาสะดุ้งนิด ๆ เปลือกตาสีเปลือกไม้ค่อย ๆ เปิดมองทีละข้าง เบื้องหน้าของเขาคือเทพีอะโฟร์ไดท์ที่คุ้นเคยปรากฎกายในชุดว่ายน้ำบิกินีสีแดงสดขับผิวสวมทับด้วยเสื้อโค้ดสีโอลด์โรส ระดับความเซ็กซี่ของเทพีแห่งความงาม ไม่ว่าชายใดที่ได้ยลก็ต้องมีจิตใจหวั่นไหว
‘แม่นายแจ่มมากเดมี่!’
คล้ายกับได้ยินเสียงในหัวเทพีอะโฟร์ไดท์จึงหัวเราะคิกคักออกมาเบา ๆ
“ใจเย็น ๆ หนุ่มน้อย ได้ข่าวมาว่าเจ้าไม่โสดแล้ว”
“โอ้ใช่ ใช่เลยครับ ผมไม่โสด แต่ความสวยของคุณก็ทำให้คนไม่โสดเผลอมองตาค้างได้อยู่หมัด…” ดีนพยายามสรรหาคำพูดมากล่าวต่อ แต่ด้วยความเขินทำให้เขาได้แต่อ้าปากงับลมสองสามรอบก่อนจะต่อประโยคจบ “แต่ถึงอย่างนั้นความรักของผมที่มีต่อแมคซี่ก็ไม่สั่นคลอนครับ”
“หึหึ พูดได้ดี” ดูเหมือนว่าเทพีแห่งความรักจะพอใจไม่น้อยที่ได้รับทั้งคำชมและการแสดงความรักอันหนักแน่นต่อคนรักของอีกฝ่าย
“ความจริงผมต้องสวัสดีคุณก่อน เอ่อ.. ผมไม่คิดว่าคุณจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเลยครับ นึกว่าคุณจะมาแต่เสียงเหมือนก่อนหน้านี้”
“แปลกหรือ? ในค่ายข้าไปมาทุกที่แล้ว แต่ทะเลของบางประเทศนานทีปีหนถึงได้มาเยือน ซึ่งเจ้าเลือกอัญเชิญข้ามาในสถานที่ที่ไม่เลว”
เทพีแย้มสรวลก่อนผินใบหน้ามองไปรอบ ๆ ในจังหวะเดียวกันกับที่อสูรน้ำฝูงใหม่มาผลัดกะลากเรือ เป็นภาพที่แม้แต่เทพีก็ยังเห็นสัตว์พาหนะของเทพสมุทรได้ไม่บ่อยคุ้มค่าแล้วกับการปรากฏกายออกมาจริง ๆ นางหันหลับมาทางดีน ก่อนสังเกตเห็นดอกกุหลาบสีน้ำเงินทั้งสิบดอก
“หืม กุหลาบน้ำเงินสิบดอก.. นี่เจ้าไม่ได้ให้ใครไปบ้างเลยหรือ?”
“ผมจะเอาไปให้ใครล่ะครับ ยังไม่รู้เลยว่าเอาไปทำอะไรได้” ดีนตอบตามตรง
“ไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไรได้ แต่อัญเชิญข้ามาเหมือนกับรู้ว่าต้องทำอย่างไรกับมันน่ะหรือ?” อะโฟร์ไดท์หรี่ตาลงคล้ายจับผิดชายเจ้าเล่ห์
“ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญน่าจะเป็นวิธีการที่ดีนี่ครับ” ดีนยักไหล่เบา ๆ
“เจ้านี่มันคารมคมคายเหลือเกินจริง ๆ”
แม้แต่เทพียังส่ายหัว จะบอกว่าสมกับที่เป็นบุตรแห่งเจ้าสมุทรจอมเจ้าชู้ก็กะไรอยู่ เพราะโพไซดอนที่นางรู้จักเน้นใช้กำลังมากกว่าฝีปากเสียมากกว่า
“เอาล่ะ ๆ เช่นนั้นข้าจะบอกให้ว่ากุหลาบสีน้ำเงินเอาไว้ทำอะไร” นางเว้นช่วง “หากกุหลาบสีทองเป็นที่โปรดปรานของเหล่าเทพเจ้า กุหลาบสีน้ำเงินก็เป็นที่โปรดปรานของเดมิก็อด”
“จริงด้วย ผมก็ยังคิดว่าสวยเลย” ดีนสมทบ พร้อมพยักหน้าหงึก ๆ
“และหากเจ้านำดอกกุหลาบสีน้ำเงินทั้งสิบมารวมกันข้าจะมอบเครื่องประดับกุหลาบน้ำเงินให้เหมือนกับที่เจ้าเคยได้รับเป็นสีทอง แล้วเจ้าจะได้รับพรความโปรดปรานเพิ่มเมื่อสนทนากับเหล่าเดมิก็อด”
“โอ้โห สุดยอดเลย งั้นผมต้องรบกวนคุณด้วยแล้วครับเทพีอะโฟร์ไดท์”
“แต่ช้าก่อน หากเจ้าผสมรวมเครื่องประดับกุหลาบทองและน้ำเงินเข้าด้วยกัน เจ้าจะได้รับเครื่องรางที่จะเพิ่มความโปรดปรานแก่ทั้งเทพเจ้าและเดมิก็อดได้ในคราวเดียวกัน”
เทพีแห่งความรักค่อย ๆ เผยสรรพคุณของเครื่องรางทีละอย่างแบบน่าดึงดูดใจราวกับเซลที่ขายของทางโทรทัศน์จนน่าแซว แต่คนที่กำลังจะขอร้องเทพเจ้ายังพอเหลือสติไม่ปากมอมก่อนที่มันจะพาให้เรือหาย
“ว้าววว จริงเหรอ ถ้างั้นผมขอให้คุณรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันเลยได้ไหมครับ ผมเอาเครื่องประดับกุหลาบทองมาด้วยพอดีเลยครับ”
เทพียิ้มให้ก่อนพยักหน้า ชายหนุ่มจึงนำเครื่องประดับกุหลาบสีทองมาวางต่อจากแถวดอกกุหลาบสีน้ำเงิน
“หากว่าเจ้าไม่เปลี่ยนใจข้าจะรวมดอกกุหลาบทั้งสองสีเข้าด้วยกัน เจ้ายินยอมหรือไม่?”
“ผมตกลงครับ” ดีนยืนยัน จากนั้นเขาก็มองมนตราของเทพีด้วยความตื่นเต้นยิ่งกว่าเก่า ซึ่งคราวนี้เจ้าตัวมาเสกสรรค์ให้ตรงหน้า
กุหลาบทั้งสิบเอ็ดดอกลอยขึ้นเหนือพื้นโดยที่กุหลาบสีน้ำเงินทั้งสิบลอยวนดอกกุหลาบสีทองดอกใหญ่ ก่อนจะถูกมนตร์สีทองดึงดูดสีน้ำเงินมาผสานรวมกันทีละดอกจนกลายมาเป็นดอกกุหลาบที่มีกลีบดอกทั้งน้ำเงินและทองในดอกเดียวกัน
“ดีน เจ้าจงรับเครื่องรางแห่งความรักที่เปี่ยมด้วยพรจากข้าและใช้มันอย่างดี”
ดอกกุหลาบทองน้ำเงินลอยมาตรงหน้าของชายหนุ่ม ละอองทองคำฟุ้งกระจายราวกับเกสรดอกไม้ แม้ไม่ได้เป็นเป้าหมายของมนตรา ดีนยังรู้สึกได้เลยว่าเขาอยากสนิทสนมกับตัวเอง (?)
“ขอบคุณมากนะครับเทพีอะโฟร์ไดท์ โปรดรับของขวัญจากผมด้วย คนสวย ๆ ก็เหมาะกับเครื่องประดับสวย ๆ ครับ”
หลังจากที่รับดอกกุหลาบแห่งความรักมา ชายหนุ่มก็มอบกล่องเครื่องประดับไข่มุกล้ำค่าให้แก่เทพีแห่งความรักเป็นการตอบแทน อะโฟร์ไดท์ดูจะโปรดปรานเครื่องประดับน้ำงามอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่นางเห็นกล่องเครื่องประดับก็คล้ายกับว่านางนึกบางอย่างขึ้นได้
“จริงสิ.. เจ้าจะถึงลองไอแลนด์วันที่เท่าไรหรือ?” เทพีถาม
“ไม่รู้สิครับ จากความเร็วที่ผมนั่งเรือมาคงถึงค่ายเฉียด ๆ วันวาเลนไทน์มั้งครับ ถ้าไม่มีอุปสรรคอะไรนะครับ”
“เฉียดวันวาเลนไทน์อย่างนั้นหรือ?” อะโฟร์ไดท์พึมพำ คิ้วเรียวงามขมวดมุ่นหากันเล็กน้อยอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่นางจะกล่าวต่อ “เช่นนั้นข้าให้ของขวัญวันวาเลนไทน์แก่เจ้าล่วงหน้าก็แล้วกัน เมื่อออกมหาสมุทรใหญ่แล้วคลื่นลมน่าจะรุนแรง ข้าคงไม่สะดวกมาพบเจ้าในเวลานั้นอีก”
เมื่อเทพีแห่งความงามสะบัดมือกล่องใบหนึ่งจึงปรากฏต่อหน้าดีน
“สุขสันต์วันแห่งความรักล่วงหน้านะดีน กล่องนี้จะเปิดได้หลังจากวันที่สิบสี่กุมภาพันธ์ เก็บรักษาไว้ให้ดีก่อนถึงค่ายล่ะ”
“โอ๊ะ ขอบคุณครับเทพีอะโฟร์ไดท์ อยากรู้จังว่าข้างในเป็นอะไร”
ดีนรับกล่องสมบัติล้ำค่ามาถือไว้ ใจนึงอยากเขย่าฟังเสียงของข้างในแทบแย่ แต่ก็กลัวว่าจะเป็นของแตกง่ายอย่างชุดเครื่องแก้ว หรือดอกกุหลาบแก้ว....?
“รอจนถึงวันนั้นเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง หวังว่าจะชอบของขวัญจากข้าล่ะ” อะโฟร์ไดท์หัวเราะคิกคักเบา ๆ จากนั้นเยื้องกายไปใกล้กับกาบเรือ “ยังไงก็เดินทางโดยสวัสดิภาพล่ะ หมดธุระของข้าแล้ว ฉะนั้นลาก่อนนะดีน”
“บายครับเทพีอะโฟร์ไดท์”
บุตรแห่งโพไซดอนโบกมือบ๊ายบายเทพีแห่งความงามที่หายตัวไปเป็นละออกคลื่น คล้ายกับตอนที่นางถือกำเนิดขึ้นมาจากทะเล
ไม่นานจากนั้นการเดินทางต่อไปก็เริ่มขึ้น คราวนี้ได้ออกสู่มหาสมุทรใหญ่จริง ๆ เสียทีนึง….

รวมดอกกุหลาบสีน้ำเงิน 10 ดอก เข้ากับ ดอกกุหลาบสีทอง (ใหญ่)
มอบ [สร้อยไข่มุกตาฮิติ] แก่ [เทพีอะโฟร์ไดท์]
HEROES (วีรบุรุษผู้โปรดปราน) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25
โบนัสจากกลุ่มสมาชิก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสความโปรดปราน+15
|