[ลองไอส์แลนด์] St. Everest Cemetery

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×



St. Everest Cemetery

สุสานเซนต์เอเวอร์เรสต์ ลองไอส์แลนด์









St. Everest Cemetery




สุสานเซนต์เอเวอร์เรสต์เป็นสุสานเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ริมป่าของลองไอส์แลนด์ ห่างจากค่ายฮาล์ฟบลัดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เวลาเดินเท้าราวครึ่งชั่วโมง เส้นทางที่นำไปสู่สุสานเป็นถนนลูกรังเก่าแก่สองข้างทางมีต้นโอ๊กและต้นซีดาร์ขึ้นแน่นขนัด ให้บรรยากาศร่มรื่นแต่ก็แฝงไปด้วยความวังเวง


เมื่อก้าวเข้าสู่เขตสุสาน ผู้มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงัดที่แตกต่างจากป่ารอบนอก สุสานแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตนัก มีเพียงหลุมฝังศพเรียงรายอยู่ไม่กี่สิบหลุม บางหลุมมีแค่ไม้กางเขนเก่า ๆ ที่จารึกชื่อเลือนราง บางหลุมถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และมอสสีเขียวเหมือนถูกกลืนหายไปตามกาลเวลา


ใกล้กับทางเข้ามีรูปปั้นหินของเทพีแห่งความตายยืนเฝ้าอยู่ แม้ว่ารูปปั้นจะสึกกร่อนจากสายฝนและลมทะเล แต่มันยังคงส่งสายตาดูลึกซึ้งราวกับกำลังเฝ้ามองผู้มาเยือน


ประวัติของสุสาน:


สุสานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นที่ฝังศพของชาวบ้านในละแวกนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและชุมชนรอบ ๆ เริ่มร่อยหรอ ความสำคัญของสุสานก็ลดลงไปด้วย


ว่ากันว่าในอดีตเคยมีทหารจากสงครามกลางเมืองฝังอยู่ที่นี่ รวมถึงลูกเรือที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเรืออับปางนอกชายฝั่งลองไอส์แลนด์









แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 9313 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-20 20:46
โพสต์ 2025-2-20 22:34:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-21 00:51

Activity Form

18/02/25 19.30น. -  20.00 น.


บทที่ 48



คูเปอร์รู้สึกว่าชีวิตของเขามันเริ่มออกทะเลไปไกลขึ้นทุกที  


เขาแค่เดินเล่นรอบกองไฟเฮสเทียเฉย ๆ เดินไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายเป็นพิเศษ แค่ใช้เวลาดื่มด่ำกับความเงียบสงบยามเย็น หรือสิ่งที่เขาเคยเรียกว่าเงียบสงบมาตลอด แต่คราวนี้มันกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายของสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน  


เพราะอยู่ดีๆ เขาก็กลายเป็นนกซะอย่างนั้น  


มันเริ่มจากความคิดลอย ๆ แบบไม่จริงจังอะไร จิตนาการถึงนกบนฟ้า อ้าแขนกว้าง พลางคิดว่า ‘อยากเป็นนกจัง ถ้ามีปีกบินได้คงดี’ แล้วทันใดนั้นร่างกายของเขาก็หายวับไปในพริบตา เหลือแค่ปีก ขน และความรู้สึกโคลงเคลงของร่างกายที่เบาหวิว  


"แกร๊ก!" คูเปอร์กระพือปีกพัลวันก่อนจะลอยตัวขึ้นไปในอากาศด้วยสัญชาตญาณ  


แล้วเขาก็กลับเป็นคนเหมือนเดิมทันทีที่รู้ตัว  


เขาหงายหลังตึงลงกับพื้นด้วยความงุนงง และทันใดนั้นเอง เสียงหัวเราะของใครบางคนก็ดังขึ้นข้างหลัง  


"เดี๋ยวนะ! เมื่อกี้พี่—"  


คูเปอร์เงยหน้าขึ้นจากพื้น พร้อมกับพบว่าผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดคือ ลิเลียน่าและคลาร่า ที่ยืนมองเขาด้วยแววตาทั้งตื่นเต้นและสนุกสนาน  


"พี่เพิ่งแปลงร่างเป็นนกไปใช่ไหม?" ลิเลียน่าแทบจะกระโดดเข้ามาหาเขา "นี่มันสุดยอดไปเลย!"  


"ไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ในค่าย" คลาร่ากอดอก มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม "แต่ดูจากสภาพของนายตอนนี้ ฉันเดาว่านายไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นใช่ไหม?"  


คูเปอร์เด้งตัวลุกขึ้นมานั่ง ถอนหายใจแรง ๆ "กะ...ก็ใช่สิ! ฉันคิดว่าแค่จินตนาการเล่นๆ เท่านั้นเอง!"  


"แล้วคิดว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง?"  


คูเปอร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่แววตาของเขาจะสว่างวาบขึ้นมา "อย่าบอกนะว่า... เป็นเพราะพรที่ขอจากแม่?"  


ทั้งสองสาวหันมามองกันเองก่อนจะหัวเราะออกมา  


"โอ้โห คูเปอร์ พี่ขอพรเทพีอะธีน่าให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ท่านกลับให้พลังแปลงร่างเป็นสัตว์มาแทนเนี่ยนะ?" ลิเลียน่าหัวเราะจนต้องกุมท้อง  


"แม่ฉันตีความคำขอแปลกๆ เสมอแหละ" คูเปอร์บ่นอุบ  


"แต่ยังไงมันก็คือพรอันล้ำค่านะ" คลาร่ากล่าวก่อนจะตบไหล่เขาแรง ๆ "และในเมื่อมันเป็นพร ก็แปลว่านายต้องฝึกมันให้ชำนาญ"  


คูเปอร์หรี่ตามองทั้งสองคนอย่างระแวดระวัง 


"เดี๋ยวนะ หมายความว่า—"  


"หมายความว่าต่อจากนี้ พี่/นายต้องฝึก!"  


คูเปอร์ไม่ทันได้ประท้วง ทั้งสองคนก็ลากเขาขึ้นฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว  


คูเปอร์ส่งเสียงโอดครวญขณะพยายามรักษาสมดุลของปีกตัวเอง ระหว่างที่บินขนาบไปกับลิเลียน่าและคลาร่า "ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?"  


"แน่นอน!" คลาร่าตะโกนกลับมาพลางเร่งความเร็ว "นายต้องฝึกควบคุมการบินให้ดี! ถ้าเกิดว่าต้องใช้พลังนี้ตอนต่อสู้ นายจะได้ไม่ร่วงลงไปกลางฝูงอสุรกายโดยไม่ได้ตั้งใจ!"  


"พูดเหมือนฉันจะไปใช้มันในการต่อสู้งั้นแหละ!"  


"ก็อาจจะ!"  


"โว้ย! ฉันไม่ได้อยากเป็นฮีโร่บนเวหานะ!"  


"แต่ตอนนี้นายเป็นแล้วไง!"  


คูเปอร์ถอนหายใจยาว ปีกของเขาเริ่มเมื่อยขึ้นมาจากการบินวนรอบค่ายเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้  


"โอเคๆ ฉันขอพักหน่อยได้ไหม?"  


ลิเลียน่ากับคลาร่ามองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าให้ "ได้ งั้นลงตรงนั้นกัน"  


คูเปอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะค่อยๆ ร่อนตัวลงสู่พื้น  


เขาคลายร่างจำแลงกลับเป็นมนุษย์ในพริบตา ขาทั้งสองข้างแตะลงบนพื้นหญ้า แล้วร่างของเขาก็ทรุดลงไปทันทีอย่างหมดสภาพ  


"ให้ตายเถอะ นกมันบินได้นานขนาดนี้เลยเหรอ?" เขาคราง ขณะนอนแผ่หลาบนพื้น  


เขาหลับตาพักสายตาสักครู่ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง และพบว่าลิเลียน่ากับคลาร่า ที่ยังคงอยู่ในร่างนก ลอยตัวอยู่เหนือเขาโดยไม่ยอมลงมา  


"เดี๋ยวนะ... ทำไมเธอสองคนไม่ลงมา?"  


แทนที่จะตอบ ทั้งสองกลับจ้องมองไปยังอะไรบางอย่างข้างหลังเขา คูเปอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่หูของเขาจะได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากข้างล่าง  


เสียงข่วน...  


เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่ลากไปตามพื้น...  


เขาค่อย ๆ หันไปมอง และสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น  


กูล...  


ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสอง แต่เป็นฝูง มีประมาณสิบตัว ยืนรวมกลุ่มกันอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ ซ่อนตัวจากแสงอาทิตย์ที่สาดส่องไม่หยุด  


และท่ามกลางพวกมันมีตัวหนึ่งที่สูงใหญ่กว่าตัวอื่น ดวงตาสีแดงก่ำจ้องเขาอย่างมุ่งร้าย  


อัลกูล...  


โอ้ ให้ตายเถอะ  


แต่ก่อนที่เขาจะได้ถอยหลัง พวกมันก็พุ่งเข้าหาเขาทันที!  


คูเปอร์กระโดดหลบเล็บอันแหลมคมที่พุ่งเข้ามาเฉียดใบหน้าของเขา เสียงคำรามต่ำดังระงมจากเหล่ากูลที่รุมเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง  


เขาสบถ ก่อนจะคว้าหอกออกมา ปัดป้องกรงเล็บที่หวังจะฉีกกระชากเขาเป็นชิ้นๆ  


แต่พวกมันเร็ว และจำนวนเยอะ  


เขาต้องคิดอะไรบางอย่างแล้ว


ทันใดนั้น ภาพของเหยี่ยวที่กำลังบินพุ่งลงมาจู่โจมเหยื่อก็ผุดขึ้นมาในหัว  


แน่สิ!  


คูเปอร์สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะระลึกถึงพลังใหม่ของตัวเอง  


ร่างของเขาเปลี่ยนแปลงไปทันที ขาทั้งสองกลายเป็นกรงเล็บที่ทรงพลัง ปีกกางออกอย่างสมบูรณ์ และในพริบตาเดียว เขาก็พุ่งขึ้นฟ้าได้สูงลิ่ว  


ฝูงกูลมองตามด้วยความงุนงง และนั่นคือโอกาสของเขา  


คูเปอร์โฉบลงมาด้วยความเร็ว พุ่งเข้าหาพวกมันจากด้านบน เขาใช้กรงเล็บจิกเข้าที่หน้าของกูลตัวหนึ่งอย่างแม่นยำ ก่อนจะดีดตัวออกมา และโจมตีอีกตัวอย่างฉับไว  


เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นเมื่อเขาใช้ความเร็วและแรงจากอากาศในการซัดกูลให้กระเด็นไปทีละตัว


แต่แล้วอัลกูลก็คำรามเสียงต่ำ ก่อนจะกระโจนขึ้นมาหมายจะคว้าตัวเขาไว้…



คูเปอร์พุ่งขึ้นสูงสุดกำลังเมื่อเห็นเงาดำมหึมาของอัลกูลกระโจนขึ้นมาตรงหน้า กรงเล็บของมันเฉียดปลายขาของเขาไปเพียงเสี้ยววินาที ถ้าช้าไปกว่านี้อีกนิดเดียว คงโดนกระชากลงไปกองกับพื้นแล้วเรียบร้อย  


"โอ้โห! ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าพวกกูลกระโดดได้ไกลขนาดนี้!"  


เขากู่ร้องออกมาขณะที่หมุนตัวกลางอากาศ ปีกของเขาตีแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะพยายามใช้ความเร็วให้เป็นประโยชน์  


อัลกูลร่วงกลับลงไปกระแทกพื้นเสียงดังตุบ ฝูงกูลที่เหลือส่งเสียงขู่ต่ำขณะมองตามเหยื่อที่บินออกไปเหนือหัว มันเริ่มกระจายตัวกันออก ล้อมรอบพื้นที่ไว้ราวกับรู้ว่าคูเปอร์ต้องลงมาไม่ช้าก็เร็ว  


ให้ตายสิ พวกมันฉลาดเกินไปแล้ว!


คูเปอร์กระพือปีกบินวนเป็นวงกลม รวบรวมความคิดว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี จะหนีตอนนี้ก็คงยาก พวกมันไม่ยอมปล่อยให้เขาออกไปจากพื้นที่แน่ ๆ ทางเดียวคือต้องหาทางจัดการมันก่อน  


ขณะนั้นเอง เสียงนกร้องก็ดังขึ้นเหนือศีรษะ เขาเหลือบขึ้นไปเห็นร่างของลิเลียน่าและคลาร่าที่ยังคงอยู่ในร่างนก กำลังบินวนอยู่สูงขึ้นไป  


"เฮ้! พวกเธอไม่คิดจะช่วยหน่อยเหรอ!?"  


ลิเลียน่ากรีดร้องเป็นเสียงเหยี่ยว ก่อนที่เสียงของเธอจะดังขึ้นผ่านลม "เราจะช่วยเอง! แต่เราต้องดูว่าพี่ทำอะไรได้บ้างก่อน!"  


"โอ้โห ขอบคุณมาก!"  


คูเปอร์กลอกตา ก่อนจะเบนสายตากลับลงไปยังฝูงกูลเบื้องล่าง อัลกูลยังคงจ้องเขาตาไม่กระพริบ มันเหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังเฝ้ารอให้เหยื่อทำพลาด  


งั้นถ้าฉันใช้จุดอ่อนของมันล่ะ?


เขานึกขึ้นได้ว่ากูลกลัวแสงสว่าง แม้ว่ามันจะไม่ถูกทำลายโดยตรง แต่ก็ทำให้มันมองเห็นไม่ถนัด และการเคลื่อนไหวของมันจะช้าลง  


ถ้าฉันพามันออกมาจากเงาต้นไม้ได้ก็จะง่ายขึ้นเยอะ 


คูเปอร์สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพุ่งดิ่งลงไปอีกครั้ง เขาใช้เท้าตะปบลงไปที่หัวของกูลตัวหนึ่งที่อยู่ริมขอบของฝูง ทำให้มันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ตัวอื่นๆ เริ่มกรูกันเข้ามาหมายจะช่วย  


"ใช่เลย พวกแกต้องเข้ามาใกล้กว่านี้!"  


เขาโฉบไปโฉบมาหลายรอบ จิกตีพวกมันให้แตกกลุ่ม สร้างความสับสนให้ฝูงกูล และบังคับให้มันถอยออกมาจากร่มเงาของต้นไม้ทีละนิด ทีละนิด  


แต่แล้วอัลกูลก็เริ่มฉลาดขึ้น มันกู่ร้องเสียงต่ำ และฝูงกูลที่กระจัดกระจายก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พวกมันไม่พุ่งเข้ามาอย่างไร้ทิศทางแล้ว แต่เริ่มเคลื่อนที่เป็นกลุ่ม ให้อัลกูลเป็นตัวนำ  


"อืม... ดูท่าฉันจะไปยั่วโมโหมันเกินไปหน่อยนะ"  


คูเปอร์สบถกับตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนแผนทันที เขาโผบินขึ้นสูงสุดกำลัง แล้วใช้ความเร็วพุ่งลงมาอย่างรุนแรง เปลี่ยนกลับเป็นร่างมนุษย์กลางอากาศ และกระแทกลงกลางฝูงกูลพร้อมกับหอกในมือที่ฟาดลงไปสุดแรง!  


แรงกระแทกทำให้ฝูงกูลกระเด็นออกไปหลายตัว กูลที่อยู่ใกล้สุดแทบจะแตกกระจายเป็นฝุ่นไปทันที ส่วนอัลกูลที่โดนแรงกระแทกจากคลื่นพลังยังคงลุกขึ้นมาอย่างโกรธจัด  


"เอาล่ะ ถ้าแกอยากเล่นหนัก ๆ ก็ได้!"  


คูเปอร์ตะโกน ก่อนที่ร่างกายของเขาจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่นก แต่เป็นหมาป่า  


ร่างของเขากลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ตาสีเทาของเขาส่องประกายดุจสัตว์นักล่า กรงเล็บยาวขึ้น และกล้ามเนื้อของเขากระชับพร้อมกระโจน  


เขาคำรามต่ำๆ และพุ่งเข้าใส่อัลกูลโดยไม่ลังเล  


อัลกูลก็ไม่ถอย มันพุ่งเข้ามาเช่นกัน การปะทะกันของพวกเขารุนแรง ร่างกายของคูเปอร์ไวกว่า ใช้เขี้ยวและเล็บในการฉีกกัด แต่ว่าพละกำลังของอัลกูลแข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด  


แต่แล้วลิเลียน่าก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้า พร้อมกับเปล่งเสียงร้องกึกก้อง เธอพุ่งเข้าไปจิกดวงตาของอัลกูล ทำให้มันร้องลั่น และคลาร่าก็พุ่งเข้ามาต่อเนื่อง ใช้กรงเล็บจิกที่คอของมัน  


"โอเค! ฉันชอบแบบนี้!"  


คูเปอร์ฉวยโอกาสในจังหวะที่มันเสียสมดุล เขากระโดดขึ้นไปกัดเข้าที่ลำคอของมันเต็มแรง!  


เสียงขาดวิ่นดังขึ้น อัลกูลคำรามครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างของมันจะเริ่มสลายเป็นฝุ่นทอง และเหล่ากูลที่เหลือก็ร้องลั่นและกลายเป็นฝุ่นไม่ต่างกัน


คูเปอร์กลายร่างกลับเป็นมนุษย์อย่างเหนื่อยหอบ ก่อนจะทรุดลงไปนั่งกับพื้น  


"โอเค... ฉันคิดว่าฉันไม่อยากเป็นนก หรือหมา หรืออะไรทั้งนั้นอีกแล้ว..."  


แต่ก่อนที่เขาจะได้พักนานกว่านั้น เสียงของคลาร่าก็ดังขึ้นเหนือหัว  


"โอเค นายบินต่อได้แล้ว"  


คูเปอร์เงยหน้าขึ้นไปมองสองสาวที่บินรออยู่และอดครวญไม่ได้  


"เดี๋ยวๆ ขอพักอีกแป๊บ!"  


"ไม่ได้!" คลาร่ากล่าวพร้อมกับใช้ปีกตีหัวเขาเบาๆ "นายยังต้องฝึกอีกเยอะ!"  


"ให้ตายสิ นี่มันการฝึก หรือทรมานกันแน่!?"  


"กึ่งๆ ล่ะมั้ง!" ลิเลียน่าหัวเราะ ก่อนจะพุ่งขึ้นฟ้าอีกครั้ง  


คูเปอร์ถอนหายใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขาเปลี่ยนร่างเป็นเหยี่ยวอีกครั้ง และทะยานขึ้นฟ้าตามพวกเธอไปอย่างไม่เต็มใจนัก  


สงสัยชีวิตเขาคงไม่มีวันสงบสุขจริงๆ สักที…



หลักฐานการพิชิต



(กูล)


https://percyjackson.mooorp.com/plugin.php?id=dzs_npccomrade:fight&aid=726



(อัลกูล)


https://percyjackson.mooorp.com/plugin.php?id=dzs_npccomrade:fight&aid=539



+  2 ตื่นรู้ จากการพิชิต กูล ครั้งแรก



+  2 ตื่นรู้ จากการพิชิต อัลกูล ครั้งแรก


สินสงคราม // ไม่ทราบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 90,707 ไบต์และได้รับ +1 Point +88 ความกล้า +88 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-2-20 22:34
โพสต์ 90,707 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-20 22:34
โพสต์ 90,707 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก ยาดม  โพสต์ 2025-2-20 22:34
โพสต์ 90,707 ไบต์และได้รับ +12 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก สายตาแห่งนกฮูก  โพสต์ 2025-2-20 22:34
โพสต์ 90,707 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-2-20 22:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +4 ย่อ เหตุผล
God + 4

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้