อาจารย์ทิ้งข้อความเอาไว้บนโต๊ะ และคาร์ล็อตต้าใช้เวลาอ่านอย่างยากลำบาก เพราะโรคดิสเล็กเซียโดยกำเนิด มันเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดใจ และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สมัยเรียนไฮสคูลเธอถึงเลือกเอาดีด้านกิจกรรมมากกว่าวิชาการ
เป็นเรื่องธรรมดาที่หล่อนรู้กระทั่งเวลาตื่นนอนของเธอ แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมที่ผ่านมาเรื่องการย้ายที่อยู่ถึงไม่เคยถูกกล่าวถึงเลย ทำไมอาจารย์ถึงไม่บอกเธอด้วยตนเองก่อนหน้านี้ พวกเขามาดูบ้านแล้วหรือ แล้วเจรจากันตอนไหนอย่างไร สารพัดคำถามไร้ซึ่งคนตอบ มีเพียงเทปเสียงของหล่อนที่ทิ้งไว้ในห้องนอนตนเอง ควบคู่กับหนึ่งลักษณ์ฉบับเก่าปริศนาที่อยู่ในไดอารี่ของแม่
เรื่องสาส์นฉบับนั้น, ไว้เรามาพูดถึงกันทีหลังเถอะ
ส่วนตอนนี้
รูปหางตากดลง นัยนาดำจัดจ้องมองจดหมายเพียงม้วนเทปและเครื่องเล่นเก่าแก่คร่ำครี ท่ามกลางความว่างเปล่า ไม่เหลือกระทั่งเสื้อผ้าหรือข้าวของเครื่องใช้สักอย่าง — และมันไม่ต่างจากห้องของเธอที่ตื่นมาพบเจอในตอนเช้า
“อรุณสวัสดิ์ ฉันรู้ว่าเธอคงมีคำถามหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอาจไม่พอใจฉันในหลาย ๆ เรื่องเช่นเดียวกัน
เสี่ยวเยว่ ฉันจำเป็นต้องจากไป และเธอก็จำเป็นต้องจรลีสู่โลกกว้างเช่นกัน, เธอรู้อยู่แล้วว่าจะหาฉันเจอที่ไหน หรือฉันไปที่ไหน แต่ได้โปรด, ไม่ใช่สำหรับตอนนี้ อย่าได้พยายามตามหาฉัน
มีที่ที่หนึ่งที่เธอจำเป็นต้องไป นั่นคือจุดเริ่มต้นใหม่ของเธอเป็นชะตาของเธอ บางทีทุกอย่างที่สงสัยอาจคลี่คลายลง ณ สถานที่แห่งนั้น หากเธอไม่อาจเข้าใจ ขอเพียงจดจำไว้ จงเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตนเอง , ตามหาสิ่งที่สายใยของเธอร่ำร้องอยากพบเจอ สายเลือดของเธอจะนำทางไปสู่ที่ที่เหมาะสม และสักวันหนึ่งเมื่อเธอพร้อม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้พบกันอีกครั้ง”
และต่อจากนั้นคือภาษาจีน,
“ลูกเอย สิ่งที่อาจารย์สอนให้ก็มีหมดแล้ว จากนี้จะทำยังไงต่อไป จะเลือกเดินทางไหน มีเพียงชีวิตของเธอที่จะกำหนดชะตาตัวเองได้ เสี่ยวเยว่ อาจารย์เสียใจที่ต้องแยกจากกัน แต่มันก็แค่สำหรับตอนนี้
หากวันไหนที่รู้สึกว่าตัวเองหลงทาง ไดอารี่เล่มสำคัญเล่มนั้นจะช่วยฉุดรั้งเธอให้ออกจากความสับสนได้— อย่างที่เคยเป็นมาเสมอ
ลาก่อนเสี่ยวเยว่ ลูกศิษย์ผู้น่าภูมิใจของอาจารย์ เมื่อถึงเวลาที่เราเจอกันอีกครั้ง อย่าลืมเล่าเรื่องราวการผจญภัยของตัวเองให้อาจารย์ฟังด้วยล่ะ”
เมื่อปลายนิ้วเคาะปุ่ม กลไกเครื่องเล่นเทปก็ส่งผลให้มันหยุดลง — หลังจากที่เธอกดฟังซ้ำเป็นรอบที่สาม
ยามสูดลมหายใจเข้า ไร้เสียงถอนใจตามหลัง ทุกอย่างนิ่งค้างตามความรู้สึกอันท่วมท้นและอดกลั้น สุดท้ายอากาศและมวลความอัดอั้นนั้นก็ถูกพ่นออกมาบางเบา
“ถ้าพูดต่อหน้าและกอดลากันสักหน่อย…คงดีกว่านี้แท้ ๆ”
คาร์ล็อตต้าแค่นหัวเราะ เหลียวมองกระเป๋าเป้เพียงใบเดียวที่อาจารย์เหลือไว้ให้ ในนั้นอัดแน่นไปด้วยข้าวของจำเป็นชั่วคราว เงิน และความรู้สึกห่วงใย ทั้งยังคะนึงหาวันวานในอดีต
เธอคิดว่าจะไม่หลงเหลือมันตั้งแต่ที่แม่จากไปแล้วเสียอีก …แต่ยังมีมันอยู่นี่เอง ความรักที่มีต่อใครคนหนึ่งผู้คอยเป็นร่มเงาให้แก่เธอ
อย่างที่หญิงเฒ่าคนนั้นมักกล่าวอยู่บ่อย ๆ เป็นอาจารย์แม้เพียงหนึ่งวัน เปรียบดั่งเป็นมารดาตลอดชีวิต เดิมทีเธอมักไม่ใส่ใจและมองว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ความผูกพันของอาจารย์ศิษย์จะเทียบเท่าความรักที่แม่มีต่อลูกได้อย่างไร
ที่แท้ก็มีอยู่นี่เอง
อันที่จริง อาจารย์ก็มักทำให้เธอนึกถึงสิ่งที่แม่มอบให้เสมอมา หล่อนเลี้ยงดูเธอเหมือนลูกแท้ ๆ คนหนึ่งด้วยซ้ำ
คาร์ล็อตต้าเลิกไล่ล่าหาคำตอบกับความเศร้าโศกนี้ เธอหยิบของกระเป๋าขึ้นมาสะพายหลัง เครื่องเล่นเทปและข้อความบนโต๊ะจะถูกทิ้งอย่างแน่นอนระหว่างการเดินทางอย่างไม่รู้จุดหมายนี้ ส่วนม้วนเทปนั้น เธอเลือกให้มันเบียดเสียดอยู่ในกระเป๋าพร้อมเพรียงกับจดหมายไร้ที่มาและไดอารี่ของแม่
“เอาล่ะ, ควรออกเดินทางกันได้แล้ว”
นี่คือจุดเริ่มต้นการเดินทาง สู่ชะตาและปลายทางที่ยังไม่พบเจอ
พานพบเพื่อจาก