The Bacchus Ballroom ⋘ บอลรูมแบคคัส ⋙

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×





The Bacchus Ballroom


⋘ บอลรูมแบคคัส ⋙






บอลรูมแบคคัส สถานที่จัดเลี้ยงและโถงใหญ่ของมหาวิทยาลัยนิวโรม ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัย

เป็นสถาปัตยกรรมอันสง่างามที่ผสมผสานความคลาสสิกและความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว

ด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราและโอ่อ่า เพดานสูงประดับด้วยโคมไฟระย้าแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่

พื้นขัดเงาอย่างสวยงาม และเวทีขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการแสดงและการกล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างลงตัว บอลรูมแบคคัสเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่งงาน งานประชุม งานสัมมนา

และกิจกรรมอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัยและบุคคลภายนอก ด้วยพื้นที่กว้างขวางที่สามารถรองรับแขกได้จำนวนมาก

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ ระบบเสียง ระบบไฟ แสงสี และอุปกรณ์สำหรับการนำเสนอ

นอกจากนี้บอลรูมแบคคัสยังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนิวโรม

เคยใช้เป็นสถานที่ในการจัดงานสำคัญต่างๆ ของมหาวิทยาลัย เช่น พิธีรับปริญญา งานเลี้ยงแสดงความยินดี

และงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ฉะนั้นบอลรูมแบคคัสจึงไม่ได้เป็นเพียงสถานที่จัดงาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจ

ของมหาวิทยาลัยนิวโรม เป็นสถานที่ที่นักศึกษา บุคลากร และศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยได้มารวมตัวกัน

เพื่อสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน






คุณสมบัติเด่นของบอลรูมแบคคัส ความจุ : สามารถรองรับแขกได้จำนวนมาก การตกแต่ง : หรูหราและโอ่อ่า สิ่งอำนวยความสะดวก : ครบครันและทันสมัย ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ : เป็นสถานที่จัดงานสำคัญของมหาวิทยาลัย สัญลักษณ์ : ความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัย สามารถยื่นเรื่องขอใช้งานสถานที่ในพิธี : เลี้ยงสังสรรค์, แต่งงาน, ประชุม, สัมมนา และกิจกรรมอื่น ๆ ของมหาวิทยาลัย รวมไปถึงบุคคลภายนอกในบางโอกาส






แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 12093 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-4 11:54
โพสต์ 2025-11-19 02:57:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-12-14 00:05


The Feast of Immortals (งานเลี้ยงแห่งอมตะชน)

In Brumaliis saltamus donec cadamus 🍾 vinum regnat, et cor incenditur.

(In Brumalia we dance until we fall🥂wine reigns, and the heart burns with fire.)

            บอลรูมแบคคัส ณ มหาวิทยาลัยนิวโรมถูกเนรมิตให้กลายเป็นวิมานแห่งความหรูหรา โถงขนาดใหญ่อันโอ่อ่านี้ส่องสว่างด้วยโคมไฟระย้าคริสตัลนับสิบดวง ภาพวาดสีน้ำมันบนเพดานที่เล่าเรื่องราวของเทพเจ้าโรมันและกรีกฉายแสงประกายทอง สะท้อนลงมายังพื้นหินอ่อนขัดมันที่สลักคำว่า Bacchus Ballhum ผ้าม่านกำมะหยี่สีเขียวมรกตห้อยระย้าจากเพดาน ขณะที่เสาหินอ่อนสูงตระหง่านถูกประดับด้วยพวงมาลัยเถาองุ่นและดอกไม้สีแดงตามธีม Brumalia อย่างหนาแน่น


ภาพประกอบโซนพักผ่อน


            วันนี้ เหล่าเดมิกอตและพลเมืองทุกคนละทิ้งชุดฝึกและเสื้อยืดธรรมดา ทุกคนมาในชุดราตรีที่งดงามและทักซิโด้หรือสูทที่ถูกตัดเย็บอย่างดี สีสันของชุดที่หลากหลายตัดกับโทนสีทองและเขียวของห้องโถงอย่างมีชีวิตชีวา เดมิกอตบางคนจากค่ายฮาล์ฟบลัดแต่งกายด้วยสไตล์ที่ทันสมัยกว่า ในขณะที่สมาชิกค่ายจูปิเตอร์หลายคนยังคงเน้นความสง่างามตามธรรมเนียมโรมันแต่บางคนก็แหวกแนวไปเลยก็มี


            งานเลี้ยงมื้อค่ำ ถูกจัดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ โต๊ะกลมจำนวนมากเรียงรายอยู่สองฝั่งของโถง มีอาหารคาวหวานเลิศรสวางไว้อย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่เนื้อย่างที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน, อาหารทะเลนานาชนิด, สลัดสดใหม่จากไร่ของเซเรส, ไปจนถึงขนมหวานและเค้กที่ตกแต่งอย่างวิจิตร เหล้าองุ่นชั้นดีถูกรินลงในแก้วอย่างต่อเนื่อง (หรือน้ำองุ่นสำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ) ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความรื่นเริงอย่างรวดเร็ว


            สายตาที่จับจ้องและเสียงกระซิบดังอยู่ทั่วห้อง คู่รักหลายคู่ถือโอกาสนี้จีบกันอย่างเปิดเผย บ้างก็กำลังเต้นรำอย่างนุ่มนวล บ้างก็แลกเปลี่ยนถ้วยไวน์ท่ามกลางเสียงเพลง  บางกลุ่มก็เริ่มเมามาย เล็กน้อย หัวเราะเสียงดังและเล่าเรื่องวีรกรรมในสนามรบอย่างสนุกสนานตามประสาเดมิกอดที่โดนโขกสับใช้งานตลอดปี


            ทว่าท่ามกลางความวุ่นวาย ก็ยังมีเหล่าลูกครึ่งเทพที่อยู่เงียบๆ มืดมน เฝ้าสังเกตการณ์ฝูงชน พวกเขาคือสายเลือดกรีกและโรมันที่มารวมตัวกันเป็นครั้งแรกในงานเฉลิมฉลอง บางคนจากค่ายที่ต่างกันก็เริ่มพูดคุยและสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างเป็นกันเอง


ภาพประกอบโซนพักผ่อน


            จุดศูนย์กลางของงานคือกองของขวัญที่ถูกนำมาจากกิจกรรม The Saturnalia Deposit ซึ่งกองสูงอยู่กลางห้องโถง นี่คือช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นที่ทุกคนได้แลกเปลี่ยนของขวัญ ผู้คนต่างค้นหากล่องที่มีชื่อของตนเองกำกับไว้ และเปิดเผยความลับที่ถูกซ่อนไว้ในฟอรัมเมื่อหลายวันก่อน


            เมื่อถึงช่วงดึก การเฉลิมฉลองก็เริ่มเข้าสู่ช่วงสุดท้าย โต๊ะอาหารเริ่มถูกเคลื่อนย้ายออกไปอย่างรวดเร็ว วงออร์เคสตราดนตรีคลาสสิกเริ่มเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ เร้าใจขึ้นและรวดเร็วขึ้น บรรยากาศของ Bacchus Ballroom เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้หรือเปิดผับ ชั่วคราว! เหล่าเดมิกอตที่เต็มไปด้วยพลังเริ่มเต้นรำคัฟเวอร์แดนซ์กันอย่างสุดเหวี่ยง เพื่อใช้พลังแห่งไวน์และความสุขส่งท้ายเทศกาลอย่างเต็มที่ ก่อนที่ความหนาวเย็นของฤดูหนาวและภารกิจอันหนักอึ้งจะกลับมาอีกครั้ง ชนแก้ว!! 


[ใบรายชื่อเฉลยการสุ่ม]


✅ วิธีเข้าร่วม :
➡️โรลเพลย์เข้าร่วม: เดินทางมายังบอลรูมแบคคัส แล้ว เข้าร่วมงานเลี้ยง
➡️โชว์ชุด: บอกด้วยว่าคุณแต่งตัวยังไงมางาน (แปะรูปชุดราตรี/สูทที่เข้ากับงานเลี้ยงด้วยก็ได้นะ!)
➡️รับ/ส่งมอบของขวัญ: ผู้จัดจะประกาศในโพสเริ่มกิจกรรมว่าใครได้ของขวัญจากใครบ้าง! คุณก็โรลเพลย์รับ/ส่งมอบของขวัญที่ได้รับ/ที่ต้องให้ ได้เลย! (ถ้าเป็นผู้เล่นมา โพสตามหลังหรือโคกันได้เลยนะ!)


รางวัลกิจกรรมทุกคนจะได้รับ : +35 EXP (ถ้า Lv Max รับ หินตีบวก 1 ก้อน แทน), +50 พลังน้ำใจ, +50 ศรัทธา, 50 เกียรติยศ และ ไดเอทเป๊บซี 1 กระป๋อง ไปเพิ่มความสดชื่น!


📌ขอแจ้งให้ทราบว่า ถ้าคุณได้ของขวัญจาก NPC: NPC จะมอบของจากร้าน สารพัดเร็วไว 1 ชิ้นให้คุณ และคุณจะได้รับโบนัสพิเศษจากกิจกรรมนี้เป็น +20 ความสนิทสนมจาก NPC คนนั้น

Vives annos [ลิงค์กิจกรรมหลัก]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 20542 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-19 02:57
โพสต์ 20,542 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก แหวนเคลื่อนย้าย  โพสต์ 2025-11-19 02:57
โพสต์ 20,542 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต  โพสต์ 2025-11-19 02:57
โพสต์ 20,542 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก เนตรแห่งฟีบี้  โพสต์ 2025-11-19 02:57
โพสต์ 20,542 ไบต์และได้รับ +15 EXP +15 เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-19 02:57
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-15 00:35:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Clementis
Haus of Ratigan • Daughter of Justitia • Legacy of Orcus
Place
บอลรูมแบคคัส
Date and Time
วันที่ 9 ธันวาคม 2025 • 19.21 น.
Purpose
The Feast of Immortals
NPC
เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
การได้ก้าวเข้าสู่เขตมหาวิทยาลัยนิวโรมในเวลาแบบนี้ชวนให้รู้สึกประหลาดอยู่มาก ก่อนหน้านี้เธอทัวร์พื้นที่ท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้า ทว่าตอนนี้ซึ่งแม้จะยังเรียกมืดค่ำได้ไม่เต็มปากด้วยเพราะราตรียังไม่หวนคืน แต่บรรยากาศในช่วงที่ท้องฟ้าเปลี่ยนสีก็แตกต่างไปจากความทรงจำอยู่หลายส่วน
แต่ก็นั่นล่ะ ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงบรรยากาศของมหาวิทยาลัยนิวโรมหรอกที่แปลก การแต่งกายของบุตรีแห่งจัสติเทียเองก็แตกต่างจากปกติเช่นกัน
เรือนผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบเก็บและเกล้าขึ้นไปด้านหลังอย่างหลวมจนดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่กลับเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ เธอปล่อยปอยผมยาวบางส่วนให้หลุดลุ่ยลงมาเคลียคลอหยอกล้อกับกรอบหน้าเรียวและลำคอระหง ช่วยขับเน้นความรู้สึกที่ดูผ่อนคลายแต่เย้ายวนใจในคราวเดียวกัน
เครื่องหน้าสวยคมเฉี่ยวสะดุดตา ผิวพรรณขาวเนียนละเอียดผุดผ่องตัดกับแสงไฟระย้า ดวงตาคู่สวยถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีน้ำตาลฟุ้งขับเน้นแววตาให้ดูลึกลับและทรงพลัง รับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกโทนสีแดงอิฐเจือชมพูตุ่นน่าค้นหา
คลีเมนทิสสวมชุดราตรียาวเกาะอกเผยช่วงไหล่และแผ่นหลังเนียนขาว ตัวชุดตัดเย็บจากวัสดุแวววาวคล้ายเกล็ดเลื่อมละเอียดหรือผ้าเมทัลลิกสีเงินเหลือบม่วงลาเวนเดอร์ สะท้อนประกายเมื่อกระทบกับแสงไฟจากแชนเดอเลียร์ ช่วงลำตัวเข้ารูปเน้นสัดส่วนเอวคอดกิ่วขณะที่ชายกระโปรงจะทิ้งตัวยาวฟูฟ่อง — มันคือเดรสที่เลือกมาโดยพิจารณาแล้วว่าเหมาะสำหรับงานเต้นรำฤดูหนาว
เหมาะสมดังตั้งใจ เมื่อกวาดสายตาผ่าน ๆ เธอดูโดดเด่นโดยไม่ได้แปลกแยก และคงมองว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของงานมากกว่านี้หากไม่คิดว่ากลิ่นอายความรักจากหลากหลายคู่ชวนให้เธอรู้สึกราวอยู่ผิดที่ จนเลือกดันตัวเองไปเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ยืนชิดผนังห้องบอลรูม กว่าจะก้าวออกจากบริเวณนั้นก็ตอนที่ได้ยินชื่อของตัวเองถูกขานหลังมีใครสักคนจับฉลากได้ของขวัญที่ทายาทออร์คัสเป็นคนเตรียมมา
“โถ่ อย่าให้รู้นะว่าใครได้ของขวัญจากโมนีก้า”
นั่นคือประโยคแรกที่ได้ยินจากคนที่ถือกระดาษระบุชื่อของเธออยู่ในมือ ตั้งคำถามไว้อยู่หรอกว่าใบหน้าของเขาดูคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ที่แท้ก็แฟนหนุ่มของหัวหน้ากองร้อยที่สองซึ่งเคยเห็นผ่านตาในโรงอาหารและงานเทศกาลบรูมาเลียนี่เอง
“คลีเมนทิสเป็นชื่อของเธอเองเหรอ ดีใจเถอะ การได้ให้ของขวัญกับฉันถือเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตของเธอแล้ว”
“อ่า อย่างนั้นเหรอคะ”
สิ่งที่เขาบอกแทบทันทีที่เห็นเด็กสาวก้าวเข้าหาพร้อมกับกล่องของขวัญในมือเล่นเอาธิดาแห่งความยุติธรรมคิ้วกระตุก ไม่เห็นจำได้ว่าเคยนึกอยากได้หรือร้องขอเกียรตินั้น แต่เลือกตอบเพียงสั้นพร้อมรอยยิ้มบาง ทำหูทวนลมไม่ถือสาตามประสาคนไม่อยากมีเรื่องให้เหนื่อยเปล่า
“ก้ามปูอลาสก้า ? ให้ตาย ของดีนี่ ดูท่าจะเสียไปหลายดอลล่าร์ ถึงจะชอบกุ้งล็อบสเตอร์มากกว่าแต่ก็ขอบใจ จะกินให้อร่อยเลย”
คลีเมนทิสชื่นชอบปฏิกิริยาซื่อตรงนั้นมากกว่าการพูดขอบคุณแถมเกรงใจเสียงหวานเสียอีก มันทำให้เธอสบายใจได้ใสกอย่างเหลือเชื่อ อย่างน้อยที่สุดก็ได้รู้ว่าเขาไม่ได้เกลียดของขวัญนี้จริง ๆ แถมยังดูจะพึงพอใจอยู่ประมาณหนึ่งอีกด้วย คราวนี้ก็เป็นตาของเธอที่ต้องหยิบกระดาษแผ่นเล็กออกมาจากกล่องสุ่มเพื่อเสี่ยงดวงว่าตัวเองจะได้รับของขวัญจากใคร
เอโลอีส เพจ ?

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 45 โพสต์ 2025-12-15 16:04
God
คุณได้รับ +50 เกียรติยศ +50 ความศรัทธา โพสต์ 2025-12-15 16:04
God
คุณได้รับ 35 EXP โพสต์ 2025-12-15 16:04
โพสต์ 13075 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-15 00:35
โพสต์ 13,075 ไบต์และได้รับ +4 ความกล้า จาก ดาบสปาเธร์  โพสต์ 2025-12-15 00:35

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ย่อ เหตุผล
God + 50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กำแพงแห่งคำสั่ง
สัมผัสแห่งความไม่สมดุล
ดาบสปาเธร์
หมวกเกราะกาเลีย
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
Hydro X
หนังสือนิยาย
กล่องดนตรี
เกมคอนโซลพกพา
ช่อดอกไม้
ต่างหูเงิน
ชุดเครื่องเพชร
เข็มทิศ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x2
x1
x3
x2
x1
x5
x5
x2
x1
x1
x30
x3
x5
x2
x1
x2
x1
x2
x1
x1
x10
x5
x1
x2
x2
x5
โพสต์ 2025-12-15 10:09:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moneka เมื่อ 2025-12-15 12:30

วันที่ 13 เดือน ธันวาคม ปี 2025

เวลาเย็น เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องบอลรูมแบคคัส มหาวิทยาลัยนิวโรม


เสียงเปิดประตูโถงดังก้องท่ามกลางบรรยากาศอันโอ่อ่าแห่งห้องบอลรูมแบคคัส กลิ่นไวน์หอมผสมกับกลิ่นขนมหวานลอยคลุ้งในอากาศ แสงจากโคมไฟระย้าคริสตัลสะท้อนกับชุดราตรีหลากสีที่เคลื่อนไหวไปตามจังหวะเสียงดนตรีของวงออเคสตรา เมื่อเลสเตอร์ก้าวเข้ามาในงานพร้อมกับหญิงสาวผมแดงเพลิงในชุดเดรสผ่าข้างสุดร้อนแรง หลายสายตาในห้องก็หันมามองพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เอสต้าในคราบโมนีก้ายิ้มมุมปากอย่างไม่สะทกสะท้าน เธอสวมชุดราตรีคัตเอาท์สีแดงเข้มที่เผยแผ่นหลังขาวนวลและช่วงขาเรียวยาวอย่างจงใจ ผ้าซาตินเนื้อเนียนแนบไปกับสัดส่วนพอดีทุกโค้ง เธอแต่งหน้าโทนแดงไวน์ดึงเสน่ห์ให้ยิ่งโดดเด่น ดวงตาเทาเงินกวาดมองรอบห้องด้วยแววขี้เล่นก่อนจะกระซิบกับคนข้างกาย “ทุกคนมองฉันเหมือนฉันเผลอเดินเข้ามาในโบสถ์พร้อมชุดซีทรูแหนะ”



เลสเตอร์หัวเราะเบา ๆ พลางยกมือวางที่เอวเธอแน่นขึ้นอีกนิด “ใครจะมองยังไงก็ช่างเถอะ มิวส์ของผมจะใส่อะไรก็ได้ทั้งนั้น” เขาโน้มศีรษะลงใกล้พอให้เสียงทุ้มกระซิบชิดหู “เพราะสุดท้ายคุณก็เป็นแฟนของผมอยู่ดี”


“โอ้ พระเจ้า... ชุดราตรีนี้มันร้อนจนแทบละลายอยู่แล้วนะคะ แล้วคุณยังกล้าเติมไฟอีกเหรอคะ” เอสต้าหัวเราะคิก ยกมือแตะอกเขาอย่างเบา ๆ แต่แววตาเจิดจ้าไปด้วยความสนุกสนาน


ทั้งคู่เดินฝ่าฝูงชนเข้าไปในห้องโถงกลาง เสียงพูดคุยคละคลุ้งราวกับคลื่นกระทบฝั่ง ด้านข้างมีเหล่าเดมิก็อดจากทั้งสองค่าย ค่ายจูปิเตอร์ในชุดทางการและค่ายฮาล์ฟบลัดในสไตล์แฟชั่นสมัยใหม่หันมามองพวกเขาด้วยความสงสัยปนความรู้สึกบางอย่างเพราะปกติแล้วโมนีก้าจะไม่ได้สวมเสื้อผ้าแบบนี้ด้วยซ้ำยิ่งกับคนขี้หนาวในหน้าหนาวชุดแบบนี้มันเปิดเกินที่จะคิดว่าโมนีก้าจะสวมใส่มากกว่า แต่เอสต้ากลับแค่ยักไหล่ เดินเยื้องย่างอย่างมั่นใจ ข้างเธอเลสเตอร์ในชุดสูทสีดำเข้มกับผ้าเช็ดกระเป๋าไวน์แดงเข้ากับชุดของเธออย่างพอดิบพอดี เขาดูทั้งอบอุ่นและอันตรายในเวลาเดียวกัน และยิ่งเมื่อเขายกมือโอบเอวเธออย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ชาวค่ายจูปิเตอร์หลายคนถึงกับนิ่งไป


“โมนีก้าตัวจริงคงไม่กล้าแต่งขนาดนี้แน่” เขากระซิบข้างหู

“นั่นเพราะโมนีก้าชอบความสุภาพเรียบร้อย ส่วนฉันชอบความร้อนแรงเอาแบบทะลุจุดศูนย์ไปเลยค่ะ” เอสต้าตอบ พลางยิ้มหวานอย่างผู้หญิงที่รู้ว่าตัวเองอันตราย “แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันยังอยู่ในร่างที่คุณรักนั่นแหละ”


เลสเตอร์หัวเราะในลำคอกับคำนั้น “ไม่ว่าร่างไหนก็ใช่ทั้งนั้น เพราะสุดท้าย... ผมก็แพ้คุณอยู่ดี” คำพูดนั้นเรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากเธอ ก่อนที่ทั้งคู่จะก้าวเข้าสู่ใจกลางของงาน ใกล้กองของขวัญจากกิจกรรม Saturnalia Deposit ที่สูงเด่นอยู่กลางห้อง สายตาหลายคู่ยังคงมองตามพวกเขาไม่วาง แต่เอสต้ากลับเพียงหมุนตัวเล็กน้อยให้กระโปรงเดรสสยาย แสงไฟสะท้อนบนผิวเธอเหมือนเปลวไฟเต้นระบำ


“คุณว่าฉันจะโดนโมนีก้าด่าทีหลังไหมคะ ถ้าเธอตื่นมาแล้วเห็นรูปคืนนี้?”

เลสเตอร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ “คงด่าผมก่อน แล้วค่อยด่าคุณทีหลัง”

“ดีค่ะ อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องโดนก่อน” เอสต้าว่าพลางหัวเราะ หันไปหยิบแก้วไวน์ (?) จากพนักงานเสิร์ฟ “คืนนี้คุณจะเต้นกับฉันไหมคะ หรือจะยืนเป็นรางวัลชมเชยให้คนอื่นมองแทน?”

“ถ้าผมเต้นกับคุณ คงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แน่”

“งั้นดีเลยค่ะ” เธอยื่นมือให้เขา “เพราะฉันไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ของเล่นฉันเหมือนกัน” รอยยิ้มของทั้งคู่ตัดกับแสงไฟในห้องราวกับเปลวเพลิงสองสายที่เต้นรำบนหินอ่อน เมื่อเสียงไวโอลินเริ่มบรรเลง เพลงแรกของงานบรูมาเลียดังขึ้นด้วยความรู้สึกว่าคืนนี้คงอีกยาวไกลแน่ ๆ 


เสียงดนตรีหวานลึกในห้องบอลรูมค่อย ๆ เบาลงเมื่อถึงช่วงแลกของขวัญ Saturnalia Gift Exchange เดมิก็อดหลายสิบคนเริ่มทยอยเดินไปยังจุดวางกล่องของขวัญตรงกลางห้อง เอสต้าในคราบของโมนีก้า ถือกล่องเล็ก ๆ สีทองในมือ พลางหมุนตัวเล็กน้อยอย่างขี้เล่น “ฉันต้องไปให้ของขวัญคนอื่น ๆ แล้วล่ะค่ะ” เธอหันไปบอกเลสเตอร์ด้วยน้ำเสียงชวนล้อ เขาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น แต่ดวงตานั้นยังคงติดอยู่บนเธออย่างไม่ละสายตา


ขณะเอสต้าเดินผ่านฝูงชนในชุดเดรสผ่าข้างสีแดงสด เสียงเรียกใสซื่อก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “คุณโมนีก้าใช่ไหมคะ!” เธอหันกลับไปมองแล้วก็พบเข้ากับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ผมสีน้ำผึ้ง ดวงตาเป็นสีเขียวอ่อนราวกับใบไม้แรกผลิ เด็กคนนั้นยืนถือกล่องของขวัญไว้แน่นในมือสองข้าง รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้ามีทั้งความเคอะเขินและความกระตือรือร้น “ใช่ค่ะ ฉันเอง” เอสต้าตอบพร้อมรอยยิ้มสุภาพที่พยายามเลียนแบบโมนีก้าอย่างแนบเนียน “หนูน้อย มีอะไรให้ฉันหรือเปล่าเอ่ย?”


“หนูน้อยหรอคะ? ฮ่ะ ๆ โอเค ๆ ฉันชื่อมิแรนด้า การ์ดิเนอร์ จากค่ายฮาล์ฟบลัดค่ะ” เธอพูดเสียงใสแต่ไม่ได้บอกว่าเธอไม่ได้อายุแค่ 10 ขวบหรอก ยื่นกล่องของขวัญสีเขียวพาสเทลประดับริบบิ้นสีทองให้ “ฉันจับฉลากของขวัญมอบให้คุณค่ะ นี้ค่ะ ได้ยินว่าคุณเป็นธิดาของเซเรส เป็นกระถางต้นไม้น้อย ฉันทำเองจากพลังของดีมิเทอร์”


เอสต้ารับกล่องนั้นอย่างแผ่วเบา พลางยิ้มบาง “ขอบคุณมากเลยนะคะ มิแรนด้า ฉันชอบของแบบนี้มาก”

หญิงสาวในร่างเด็กหญิงยิ้มสดใสขึ้น “ตอนรู้ว่าต้องให้คุณรู้สึกบังเอิญจังเลยค่ะ ฉันก็เป็นธิดาของดีมิเทอร์เหมือนกัน! พูดให้ถูกคืออีกภาคหนึ่งของท่านเซเรส... เราเหมือนเป็นญาติกันเลยนะคะ!”

“อืม…” เอสต้ากระพริบตา ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงความเจ้าเล่ห์ “อย่างนั้นก็คงใช่ค่ะ ญาติคนสวยต่างค่ายของฉัน” แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรต่อ เสียงทุ้มอบอุ่นคุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “โมนีก้า” มือใหญ่ของเลสเตอร์แตะเบา ๆ ที่เอวเธอ ก่อนจะโอบเข้ามาอย่างอ่อนโยนแต่ชัดเจนพอให้ทุกคนในรัศมีนั้นเห็นชัด เขายิ้มขี้เล่นลงมาพร้อมเอ่ยทัก “อ้าว มิแรนด้า... ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันในร่างนี้… ไปทำอะไรมาล่ะเนี้ย? โดนเซอร์แมนดูดพลังชีวิตเพราะโวยวายเยอะเกินไปหรอ?”


มิแรนด้าเงยหน้าขึ้น ดวงตาเบิกกว้าง “เลสเตอร์... คือ—ไม่สิ คุณอะพอลโล่?! พระเจ้า คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ แล้ว... หล่อขึ้นเยอะเลยนะ! สมัยก่อนคุณยังมีห่วงยางรอบเอวอยู่เลย”

เลสเตอร์หัวเราะในลำคอหน้าเจื่อนเล็กน้อย “อย่าไปเอาภาพจำแบบนั้นของผมมาสิคตรับ แต่ก็ขอบคุณครับ ช่วงนี้พยายามดูแลตัวเองหน่อย หลังจากเคยถูกเรียกว่าคนเฉิมหน้าตกกระ แถมไม่มีซิกแพก 8 ก้อน มันก็สะเทือนใจอยู่เหมือนกัน”

หญิงสาวในร่างเด็กหญิงหัวเราะขำเบา ๆ ก่อนจะกะพริบตาอย่างอยากรู้อยากเห็น “แล้ว...คุณโมนีก้านี้คือ?” เธอหันไปมองเอสต้า สายตากึ่งซนกึ่งสงสัย

เลสเตอร์ตอบทันทีโดยไม่ลังเล “แฟนของผมเองครับ”
เพราะคำตอบนั้นบรรยากาศเลยนิ่งไปหนึ่งอึดใจ มิแรนด้าถึงกับอ้าปากค้าง มือที่ถือกระถางต้นไม้สั่นเล็กน้อย “แฟน...? ของคุณ...เลสเตอร์...อะพอลโล่?”

“ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ” เอสต้าพูดเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่มีแววขี้เล่น “และเขาพูดถูกทุกคำเลยค่ะ”

เลสเตอร์หัวเราะพรืด มองหน้าเอสต้าอย่างหมั่นไส้ปนเอ็นดู “คุณเล่นตามผมได้เร็วขึ้นทุกวันเลยนะ มิวส์ของผม”

“ฉันก็แค่ทำหน้าที่ของแฟน (ตัวปลอม) ให้เหมือนจริงค่ะ” เอสต้าตอบพลางหรี่ตา แต่รอยยิ้มมุมปากนั้นกลับมีแววท้าทายระยิบระยับ “แค่หวังว่าคุณจะไม่ติดใจเวอร์ชันนี้ก็พอ”

มิแรนด้ายืนมองสองคนนั้นพลางเอามือปิดปากกลั้นหัวเราะ “พระแม่ดีมิเทอร์... ฉันไม่รู้จะตกใจหรืออิจฉา(?)แล้วค่ะ” เธอพูดแซวอย่างอารมณ์ดี “ไม่คิดเลยว่าคุณจะมีแฟนแบบนี้”
“โชคดีของผมแหละครับ” เลสเตอร์ตอบเสียงเรียบแต่สายตาเต็มไปด้วยประกายขี้เล่น “ไม่งั้นชีวิตผมคงจืดชืดเกินไป”

“หรือไม่ก็วุ่นวายเกินไป” เอสต้าว่าต่อทันที

“นั่นแหละ เสน่ห์ของคุณ” เขาตอบกลับเอสต้ากัดกันแบบไม่พลาดเลยสักนิด


เสียงพูดคุยรอบข้างยังคงคละคลุ้งอยู่ในงานเลี้ยงที่ส่องแสงระยิบระยับราวกับอาณาจักรแห่งเทพ เอสต้าในคราบของโมนีก้าเอนตัวพิงเลสเตอร์เล็กน้อย มือถือแก้วไวน์ (?) ชูขึ้นพอเป็นพิธี “คุณสองคนดูเหมือนรู้จักกันมานานนะคะ” เธอพูดเสียงเรียบแต่มีแววซุกซนชัดเจน ดวงตาเทาเงินวาวแสงสะท้อนจากโคมไฟเหนือหัว เลสเตอร์หัวเราะในลำคอ พลางมองเธออย่างรู้ทัน “คุณไม่ได้อ่านชีวประวัติผมตอนอยู่ในร่างเลสเตอร์เลยเหรอครับ มันมีบอกอยู่นะว่าผมเคยช่วยมิแรนด้าไว้จากไฟในป่าโดโดนา”


“หืม? ฉันไม่อ่านหรอก เสียเวลา” เอสต้าตอบทันทีโดยไม่มองหน้าเขา “ฉันชอบของจริงมากกว่าของเขียนเองใส่สีตีไข่แบบที่คุณชอบทำ” เธอหมุนแก้วในมือเบา ๆ ก่อนจะหันไปยิ้มกับมิแรนด้า “ยินดีที่ได้พบอีกครั้งนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย” มิแรนด้ายิ้มกลับอย่างสุภาพ “ฉันก็เหมือนกันค่ะ โม—เอ่อ คุณโมนีก้า ยินดีจริง ๆ” เอสต้าทำตาโตเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามต่อ “ไม่ทราบว่าคุณรู้จักคนชื่อออสติน อ๋าว หรือเปล่าคะ? ฉันต้องเอาของขวัญไปให้เขาเพราะจับฉลากได้ชื่อเขา”


“แน่นอนสิ ฉันรู้จักค่ะ!” มิแรนด้ารีบตอบพร้อมยกมือชี้ไปทางมุมหนึ่งของห้องที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังคุยอยู่กับกลุ่มเดมิก็อด “นั่นไง ออสตินคนนั้นเลย” สายตาของเอสต้าหันตามไปทันที ชายหนุ่มคนนั้นมีผิวขาวนวล ดวงตาเรียวคมสีอำพัน ผมดำสนิทตัดกับเสื้อเชิ้ตสีครีมคอสูงที่ดูเรียบแต่แฝงกลิ่นอายศิลปะอย่างชัดเจน เขากำลังถือพวงเชอร์รี่ผลเล็ก ๆ สีแดงสดในมือกำลังลิ้มรสชาติของผลผลิตของโรมันอยู่… พระเจ้า


“โคตรน่ารักเลย” เสียงของเอสต้าหลุดออกมาโดยไม่รู้ตัว 


เลสเตอร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินเต็มสองหู สีหน้าของเทพพระอาทิตย์แข็งขึ้นในเสี้ยววินาที มือที่โอบเอวเธออยู่ก็รัดแน่นขึ้นจนเอสต้าต้องกลั้นหัวเราะ “แล้วผมล่ะ?” เสียงเขาเรียบเย็นแต่แฝงแรงหึงจนชัดเจน ดวงตาสีฟ้าของเลสเตอร์สะท้อนแสงโคมคริสตัลจนวูบเหมือนเปลวไฟ เอสต้าหันมามองหน้าเขา ดวงตาเป็นประกายราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่ “โชคดีนะคะที่คนชื่อออสตินไม่ใช่คนจากค่ายจูปิเตอร์ ไม่งั้นฉันคงจีบไปแล้ว” คิ้วของเลสเตอร์ขมวดแน่นขึ้นอย่างหงุดหงิด แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไร เอสต้าก็ยกคางขึ้นเล็กน้อยแล้วจ้องเขากลับเต็มตาอย่างจงใจ “หรือคุณอยากให้ฉันจีบคุณแทนล่ะคะ?”


“อย่าท้าครับ” เขาพูดเสียงต่ำ ริมฝีปากคลี่ยิ้มแต่ดวงตากลับไม่ขำ “เพราะผมเอาจริง”


เอสต้าหัวเราะพรืดอย่างกลั้นไม่อยู่ เธอชอบเวลาที่เลสเตอร์หลุดมาดแบบนี้ มันทำให้เทพพระอาทิตย์ผู้ยิ่งใหญ่ดูเหมือนมนุษย์ธรรมดาที่หวงของเล่นตัวเองเกินเหตุ มิแรนด้าที่มองอยู่เงียบ ๆ ถึงกับยิ้มเจื่อน “เอ่อ... งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ เหมือนจะมีคนกำลังจะ... ลุกเป็นไฟ” มิแรนด้ายิ้มพลางถอยหลังไปอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวถูกลูกหลง ก่อนจะหายลับไปในฝูงชน


เลสเตอร์ถอนหายใจเบา ๆ แต่ยังไม่ยอมปล่อยเอวเธอ “คุณนี่มันตัวป่วนจริง ๆ เอสต้า”

“ฉันรู้ค่ะ” เธอตอบพลางยิ้มร้าย ยกมือแตะอกเขาเบา ๆ “แต่คุณก็ยังไม่หนีไปไหนนี่นา คุณชายพระอาทิตย์”

เขาส่ายหัวพลางหัวเราะในลำคอ “เพราะดูเหมือนผมจะติดไฟที่คุณจุดขึ้นนี่แหละ”

“ดีค่ะ” เธอตอบกลับเสียงหวาน “งั้นฉันจะจุดเพิ่มให้อีก เผื่อคุณยังไม่ร้อนพอ”

เลสเตอร์สบตาเธออยู่นานจากคำนั้นก่อนจะยิ้มบาง ๆ และกระซิบข้างหู “คืนนี้คุณจะได้รู้ ว่าพระอาทิตย์เวลาไหม้จริง ๆ มันร้อนขนาดไหน”


“งั้นคืนนี้ค่อยไหม้ได้ไหมล่ะคะ” เอสต้าเอ่ยเสียงเบาแต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยแววท้าทาย นิ้วเรียวยกขึ้นแตะที่ปกเสื้อของเลสเตอร์เบา ๆ ทำทีเหมือนจัดให้เข้าที่ แต่การเคลื่อนไหวนั้นกลับเต็มไปด้วยจงใจจนเขาสูดลมหายใจหนักผ่านจมูก สายตาคมของเขาฉายแววข่มกลั้นอย่างชัดเจน “คุณ...” เสียงของเขาขาดห้วงราวกับต้องใช้ความพยายามทั้งหมดในการไม่เผลอทำอะไรบ้า ๆ กลับไป “อย่าเพิ่งเผาฉันสิ เดี๋ยวฉันต้องไปส่งของขวัญให้ออสติน อ๋าว ก่อนนะคะ” เธอยิ้มบาง ๆ ริมฝีปากโค้งนิด ๆ แบบที่รู้ว่ากำลังฆ่าเขาช้า ๆ เลสเตอร์ก็เลยขยับตามเอสต้าไปด้วย “ผมไปด้วย”

“ไม่ต้องเลยค่ะ” เอสต้าหันมาหรี่ตาใส่เขา “คุณน่ะหาเรื่องคนอื่นเก่งจะตาย เดี๋ยวฉันยังไม่ได้ให้ของขวัญก็ต้องดับไฟไปก่อน” เธอยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากของเขาเบา ๆ ปลายเล็บเฉียดริมฝีปากร้อน “รอก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะกลับมาเต้นรำกับคนที่ฉันอยากเต้นด้วยที่สุดในตอนนี้” เท่านั้นเอง แสงในดวงตาของเลสเตอร์ก็เปลี่ยนเป็นประกายแห่งความมั่นใจที่คุ้นเคย ใบหน้าคมโน้มลงเล็กน้อยราวกับจะพูดอะไร แต่ก็เพียงยิ้มมุมปาก “ผมรู้อยู่แล้ว ว่าคุณหมายถึงผม”


“อย่าเพิ่งมั่นใจนักสิคะ” เอสต้าทิ้งท้ายอีกฝ่าย พร้อมส่งสายตากวนประสาทให้ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางอีกฟากของห้อง เธอไม่ทันได้เดินพ้นสามก้าวก็ถึงแล้วล่ะเพราะออสตินบังเอิญเดินมาตรงนี้พอดี “สวัสดีค่ะ ขออภัยนะคะ คุณออสติน อ๋าว ใช่ไหมคะ?” ออสตินชะงัก หันกลับไปตามเสียงนั้น ก่อนจะเห็นหญิงสาวผมแดงในชุดราตรีสีเดียวกับไวน์ชั้นดีเดินเข้ามาในแสงไฟคริสตัลที่สาดลงจากเพดาน เธอยิ้มบางอย่างที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความซนในคราวเดียวกัน ดวงตาสีเทาเงินจับจ้องมาที่เขาราวกับกำลังมองเหยื่อที่น่าสนใจมากกว่าสหายในงานเลี้ยง  “ฉันมีของจะมอบให้น่ะค่ะ” เอสต้าพูด น้ำเสียงฟังดูสุภาพแต่แฝงรอยขี้เล่น เธอยกกล่องของขวัญเล็ก ๆ ที่ห่ออย่างตั้งใจด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์โง่ ๆ ส่งให้ “จับฉลากได้ชื่อคุณพอดี”


ออสตินเลิกคิ้ว ยิ้มมุมปาก “ของผมเหรอครับ? แบบนี้ผมคงโชคดีสินะ”

“แน่นอนสิคะ” เอสต้าตอบอย่างรวดเร็ว “คุณได้ของขวัญจากคนที่จัดงานนี้ขึ้นเลยนะคะ”

ออสตินหัวเราะในลำคอ เสียงของเขาเบาและนุ่มพอจะกลืนไปกับเสียงไวโอลินในพื้นหลัง “ผมไม่สงสัยเลยว่าคุณจะเป็นใคร... เดรสสีแดง ผมแดง แล้วก็สายตาที่ดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างในห้องนี้น่ะเซนจูเรี่ยนบลอสซัมใช่ไหมครับ?”

เอสต้าหรี่ตานิด ๆ อย่างมีเลศนัย “คุณพูดเหมือนเคยเห็นฉันในหนังสือพิมพ์เมอร์คิวรี่อย่างงั้นแหละค่ะ”

“ไม่ถึงขนาดนั้นครับ น่าจะไม่มีใครกล้าทำข่าวของคุณมากนัก” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น “แต่ชื่อของคุณดังพอที่คนค่ายฮาล์ฟบลัดจะเคยได้ยินอยู่บ้าง”

เธอหัวเราะเบา ๆ “ฟังดูเหมือนคำชม แต่ฉันจะถือว่าคุณตั้งใจชมก็แล้วกัน” แล้วเธอก็ยื่นกล่องของขวัญให้ในที่สุด นิ้วเรียวขาวซีดสัมผัสหลังมือของเขาแผ่วเบาอย่างจงใจ “ข้างในไม่มีระเบิดนะคะ อย่ากลัวนะ”

ออสตินรับไว้ด้วยรอยยิ้มที่ผสมระหว่างเขินและขำ “ผมจะจำไว้นะครับ... แล้วผมควรเปิดเลยไหม?”

เอสต้าหัวเราะเบา ๆ ดวงตาเทาเงินระยับ “พูดเก่งเหมือนคนสายเลือดไดโอนีซุสไปเลยค่ะ”

“ก็พ่อผมเป็นเทพแห่งไวน์นี่ครับ ถ้าไม่พูดให้คนฟังหัวเราะได้ เขาคงไม่เรียกผมว่าลูกแท้ ๆ” 


ขณะที่ทั้งสองสบตากันอยู่นั้น เสียงไอเบา ๆ ดังขึ้นข้างหลังอย่างจงใจ “ขอโทษที่ขัดจังหวะครับ” เลสเตอร์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นใกล้ ๆ มีใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มสุภาพ แต่ดวงตาสีฟ้านั่นกลับนิ่งเรียบจนเหมือนจะจับอุณหภูมิของห้องลดลงไปสององศา “ออสติน อ๋าวใช่ไหมครับ?” น้ำเสียงของเลสเตอร์นุ่มแต่ฟังแล้วรู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่าง “ผมเคยได้ยินชื่อ นักแสดงชื่อดังจากฮาล์ฟบลัดนี่เอง”


ออสตินหันมาทางเขา ยิ้มสุภาพ “ครับ ผมเอง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ... ถ้าจำไม่ผิด คุณเป็นคนจากค่ายจูปิเตอร์ใช่ไหม?”

“ใช่ครับ” เลสเตอร์พยักหน้าช้า ๆ ดวงตาไม่ละไปจากเขาแม้แต่น้อย “นาน ๆ จะได้เห็นคนจากค่ายฮาล์ฟบลัดมาในนิวโรม”

“ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีครับ ได้มาเจอหลายคนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน...” ออสตินหันไปยิ้มให้เอสต้าที่ในตอนนี้ยืนอมยิ้มอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งคู่  บรรยากาศคล้ายมีไฟฟ้าแล่นผ่านระหว่างสายตาสองชายหนุ่ม หนึ่งคือพระอาทิตย์ในร่างมนุษย์ที่กำลังหึงจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ อีกหนึ่งคือบุตรแห่งไดโอนีซุสที่ไม่รู้เลยว่ากำลังยั่วเทพเจ้าโดยบังเอิญ แน่นอนว่าสำหรับออสตินแล้วเขาไม่ได้คิดอะไรกับเซนจูเรี่ยนบลอสซัมเลยแม้แต่น้อย แค่เป็นคนอารมณ์ดีเท่านั้น


เอสต้ามองทั้งสองสลับกันอย่างขบขัน “โอเคค่ะ สุภาพบุรุษทั้งสอง... หนึ่งคนฉันพึ่งของขวัญให้ อีกคนหวงของขวัญอยู่ ฉันว่ามันเริ่มจะร้อนเกินไปสำหรับช่วงแลกของแล้วนะ”

เลสเตอร์เลิกคิ้วทันควัน “ร้อนเพราะใครกันล่ะครับ?”
“แน่นอนก็เพราะคุณสิคะ” เอสต้าตอบพลางยกมุมปากขึ้นอย่างท้าทาย ก่อนจะหันไปทางออสตินเพื่อขอบคุณ “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” เป็นจังหวะเดียวกันที่เลสเตอร์ขยับเข้ามาข้างเธอเหมือนจะกั้นระยะกับชายอีกคน มือของเขาวางบนแผ่นหลังเธอเบา ๆ แต่แรงพอให้รู้ว่าไม่อยากให้ใครแตะต้อง “ขอตัวก่อนนะครับ” เขาพูดเสียงเรียบ “เธอติดคิวเต้นรำไว้แล้ว”

เอสต้าหัวเราะคิกคักกับสิ่งที่เลสเตอร์ทำ “อ๋อ ใช่สิคะ กับคนที่ฉันอยากเต้นด้วยที่สุดในตอนนี้ แล้วพบกันนะคะคุณออสติน ยินดีที่ได้รู้จัก” ออสตินยกแก้วไวน์ขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มเขานิ่งแต่เปี่ยมเสน่ห์ประมาณว่าเชิญตามสบายเลยนะครับ ประมาณนั้น เลสเตอร์ถึงหันกลับมาส่งยิ้มให้ออสตินเป็นยิ้มที่ดูสุภาพแต่แฝงแรงอวดดีตามสไตล์ของเขา ก่อนจะโอบเอวเอสต้าแน่นขึ้นแล้วพาเธอเดินกลับไปยังกลางฟลอร์ เต็มไปด้วยสายตานับสิบคู่ที่แอบมองอยู่ และหลังจากนั้นเห็นว่า... ช่วงท้ายของกิจกรรมเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่สองมันส์เกินเบอร์จนเต้นบนโต๊ะมันไปเลย... เมาหัวทิ่มท่ามกลางแฟนหนุ่มที่ไม่มีการหยุดอะไรทั้งนั้น-- (เห่อ เขียนแล้วทะลุ 100K แน่เลย เอาไป 2 บรรทัด)


รางวัลกิจกรรมทุกคนจะได้รับ : หินตีบวก 1 ก้อน แทน, +50 พลังน้ำใจ, +50 ศรัทธา, 50 เกียรติยศ และ ไดเอทเป๊บซี 1 กระป๋อง


[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)

สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

[NPC-02] ออสติน อ๋าว
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
โบนัสจากกิจกรรม มอบของขวัญให้ NPC - เพิ่มความสัมพันธ์ NPC +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)

[NPC-64] มิแรนด้า การ์ดิเนอร์
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
โบนัสจากกิจกรรม รับของขวัญจาก NPC - เพิ่มความสัมพันธ์ NPC +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +50 เกียรติยศ +50 ความศรัทธา โพสต์ 2025-12-15 12:46
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-64] มิแรนด้า การ์ดิเนอร์ เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-12-15 12:45
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] ออสติน อ๋าว เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2025-12-15 12:45
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-12-15 12:45
โพสต์ 90715 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-15 10:09

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ย่อ เหตุผล
God + 50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-15 23:21:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด





วันที่ 13 ธันวาคม 2025
เวลา 19.00 
น. เป็นต้นไป




วันนี้เป็นหนึ่งในวันที่เอโลอิสรู้สึกว่าอยู่ผิดที่ผิดทางที่สุดในชีวิตเดมิก็อด บอลรูมแบคคัส ณ มหาวิทยาลัยนิวโรมถูกเนรมิตให้กลายเป็นวิมานแห่งความหรูหราอลังการ โถงขนาดใหญ่อันโอ่อ่านี้ส่องสว่างด้วย โคมไฟระย้าคริสตัลนับสิบดวง สะท้อนประกายทองจากภาพวาดสีน้ำมันบนเพดานที่เล่าเรื่องราวของเทพเจ้าโรมันและกรีก ผ้าม่านกำมะหยี่สีเขียวมรกตห้อยระย้าตัดกับเสาหินอ่อนสูงตระหง่านที่ถูกประดับด้วยพวงมาลัยเถาองุ่นและดอกไม้สีแดงอย่างหนาแน่น

เอโลอิสสวมชุดราตรีเปิดไหล่สีเบอร์กันดีซึ่งเป็นชุดที่ดูเป็นทางการและหรูหราที่สุดเท่าที่เธอจะหาได้ในตู้เสื้อผ้าของตัวเอง (อันที่จริงต้องตัดเองที่ห้องเวิร์คช็อปมาเพื่อการนี้เลยแหละเพราะปกติไม่มี) เธอเดินเข้าสู่ห้องโถงด้วยความประหม่า

เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีพวกบุตรธิดาเฮเฟตัสที่เป็นพี่ ๆ น้อง ๆ ของเธอ เข้าร่วมงานนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงได้หัวเราะกันเกรียวกราวแน่ ถ้าเห็นเธอในชุดทางการแบบนี้ เพราะปกติแล้วชุดที่เธอใส่มีแต่เสื้อค่ายหรือเสื้อเปื้อนน้ำมันเครื่อง



เหล่าเดมิก็อดและพลเมืองทุกคนละทิ้งชุดฝึกและเสื้อยืดธรรมดา ทุกคนมาในชุดราตรีที่งดงามและทักซิโด้ที่ถูกตัดเย็บอย่างดี เอโลอิสแค่อยากจะเข้ามาดูบรรยากาศว่างานเลี้ยงแบบชาวค่ายจูปิเตอร์มันเป็นอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่าเธอ เกร็งมากพอสมควร เพราะไม่ค่อยรู้จักใคร และไม่กล้าที่จะเข้าไปทักทายใครก่อน

“ฉันมาทำอะไรที่นี่…” เธอพึมพำขณะที่มองคู่รักหลายคู่ที่กำลังเต้นรำอย่างนุ่มนวลหรือจีบกันอย่างเปิดเผย

เอโลอิสพยายามทำตัวให้ลีบที่สุด เธอมองหาโซนพักผ่อนแล้วไปคว้าน้ำผลไม้ในงานมาดื่มเงียบ ๆ ขณะที่รอให้ถึงเวลาสำคัญของค่ำคืนนี้คือ การจับของขวัญ

จุดศูนย์กลางของงาน คือกองของขวัญที่ถูกนำมาจากกิจกรรม The Saturnalia Deposit ซึ่งกองสูงอยู่กลางห้องโถง และแล้วก็มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอย ดูเหมือนว่าจะมีคนจับได้ชื่อเธอ เอโลอิสไม่รอช้า เธอรีบหยิบกล่องของขวัญของตัวเองที่มาพร้อมลายพิมพ์เฟืองเพื่อนำไปให้อีกฝ่าย

คนที่เดินมารับของขวัญคือ คลีเมนทิส เมฟ ราทิแกน ซึ่งสวมชุดราตรีชุดราตรียาวเมทัลลิกสีเงินเหลือบม่วงลาเวนเดอร์

“สวัสดีค่ะ” เอโลอิสแนะนำตัวพร้อมยื่นกล่องให้ “ฉันชื่อเอโลอิส เพจ นะคะ ธิดาแห่งเฮเฟตัส มาจากค่ายฮาล์ฟบลัด…ฉันเห็นว่าที่นิวโรมมีของเจ๋ง ๆ เยอะเลย ก็เลยไม่แน่ใจว่าจะชอบไหม แต่ก็หวังว่าคุณจะชอบนะคะ”

คลีเมนทิสรับกล่องไปพร้อมรอยยิ้มที่สุภาพ เอโลอิสรู้สึก โล่งใจเป็นอย่างมาก เมื่อภารกิจการมอบของขวัญเสร็จสิ้นลงไป

และแล้วก็มาถึงนาทีลุ้นระทึกของเอโลอิส เธอตัดสินใจเดินไปที่กองของขวัญแล้วลองจับสลากดูบ้าง เธอเปิดอ่านชื่อที่ติดอยู่บนกล่องของขวัญด้วยความตื่นเต้น แล้วก็พบคำที่คุ้นเคย 'ออสติน อ๋าว'

เอโลอิสทำหน้าเหม่อเล็กน้อย ขนาดมาไกลถึงนิวโรมแล้วก็ยังไม่พ้นของขวัญจากชาวค่ายฮาล์ฟบลัดสินะ เธอส่ายหัวอย่างขบขัน

“ไง คุณที่ปรึกษาบ้านเฮเฟตัส”

เสียงทักทายที่เต็มไปด้วยความเฮฮาดังมาจากด้านหลัง ออสติน อ๋าว ซึ่งเป็นบุตรแห่งไดโอนีซุสเดินเข้ามาหาในชุดสูทที่ดูดีแต่ก็ยังคงความผ่อนคลายในแบบของคนดัง

“สวัสดีค่ะรุ่นพี่” เอโลอิสหัวเราะเล็กน้อย “ไม่คิดเลยว่ามาไกลถึงนี้แต่ก็ยังได้ของจากคนค่ายเดียวกันจนได้…แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่ยินดีนะคะอย่าเข้าใจผิด ไม่ว่าใครให้ก็ยินดีทั้งนั้น เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับของขวัญจากนักแสดงชื่อดัง”

ออสตินหัวเราะร่วน เมื่อได้ยินการเรียกขานอย่างเป็นทางการนั้น

“นึกว่าจะพูดว่าชาวไร่เสียอีก” เขาพูดติดตลก “ขอบคุณที่ยังจำได้ว่าผมเป็นนักแสดง นี่ของขวัญนะ”

เขาหยิบกล่องของขวัญที่ถูกห่ออย่างเรียบง่ายแต่ดูดี ยื่นให้เธอ เอโลอิสรับกล่องมาแต่ยังไม่เปิดดูตอนนี้

“ไม่ว่าข้างในจะเป็นอะไรจะใช้อย่างดีเลยค่ะ” เธอตอบด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้สนุกกับงานเลี้ยงต่อเลยนะ” ออสตินกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ

ความเฮฮาสนุกสนานและไม่ถือตัวของรุ่นพี่ออสติน ทำให้เอโลอิสผ่อนคลายความเกร็งลงไปเยอะ สมกับเป็นลูกคุณดีที่สามารถสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับทุกคน

เอโลอิสเดินกลับไปที่โซนพักผ่อนอีกครั้ง กอดกล่องของขวัญไว้ในอ้อมแขน พลางมองบรรยากาศในห้องโถงที่เริ่มเปลี่ยนไป โต๊ะอาหารเริ่มถูกเคลื่อนย้ายออกไปอย่างรวดเร็ว วงออร์เคสตราดนตรีคลาสสิกเริ่มเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ เร้าใจและรวดเร็วขึ้น บรรยากาศของ Bacchus Ballroom เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้  เหล่าเดมิก็อดที่เต็มไปด้วยพลังเริ่มเต้นรำกันอย่างสุดเหวี่ยงเพื่อใช้พลังแห่งไวน์และความสุขส่งท้ายเทศกาล

เอโลอิสจิบน้ำผลไม้ในแก้ว แล้วยิ้มให้กับภาพความรื่นเริงรอบตัว เธอรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของงานรื่นเริงนี้ก็ไม่เลวนัก แม้จะเกร็งในตอนแรกแต่พออยู่ไปสักพักก็เริ่มคิดว่ามันสนุกแล้วล่ะ…



กิจกรรมที่ 7 The Feast of Immortals (งานเลี้ยงแห่งอมตะชน)
รับ หินตีบวก 1 ก้อน, +50 พลังน้ำใจ, +50 ศรัทธา และ เกียรติยศ
ไดเอทเป๊บซี 1 กระป๋อง 

[NPC-02] ออสติน อ๋าว
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
ได้ของจาก NPC โบนัสพิเศษ +20 ความสนิทสนม

@God 




แสดงความคิดเห็น

Eloise ได้รับ ชีสบอร์ด ที่มีสตรอว์เบอร์รีมากกว่าปกติแบบสุด ๆ   โพสต์ 2025-12-15 23:35
God
คุณได้รับ +50 เกียรติยศ +50 ความศรัทธา โพสต์ 2025-12-15 23:35
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-02] ออสติน อ๋าว เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-12-15 23:34
โพสต์ 17613 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2025-12-15 23:21
โพสต์ 17,613 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความกล้า จาก Ignis Anima  โพสต์ 2025-12-15 23:21

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ย่อ เหตุผล
God + 50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม
เรือมินิบานาน่า
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ค้อนไฟ
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
กลศาสตร์
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x2
x18
x1
x4
x16
x1
x1
x3
x5
x5
x2
x4
x50
x1
x33
x1
x1
x1
x273
x2
x22
x7
x8
x2
x9
x10
x2
x52
x17
x31
x1
x1
x2
x5
x2
x8
x13
x2
x26
x7
x7
x7
x6
x44
x52
x3
x4
x11
x9
x9
x26
x18
x14
x1
x3
x6
x1
x11
x2
x2
x5
x1
x15
x5
x7
x11
x7
x15
x10
x15
x7
x25
x6
x3
x26
x1
x8
x3
x11
x69
x3
x2
x6
x10
x7
x5
x4
x5
x59
x1
x7
x25
x2
x48
x458
x24
x4
x185
x24
x1
x10
x11
x18
x7
x3
x1
x1
x2
x2369
x1
x39
x1
x1
x7
x1
x11
x3
x1
x1
x808
x25
x1
x1
x1
x3
x1
x198
x16
x16
x2
x14
x88
x13
x59
x391
โพสต์ 2025-12-18 09:17:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 13-14 เดือน ธันวาคม ปี 2025

เวลาเย็น เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ บอลรูมแบคคัส มหาวิทยาลัยนิวโรม

◀️┃▶️


ภายใต้แสงทองของโคมระย้าที่ระยิบระยับเหนือเพดานวาดภาพเทพเจ้ากรีกโรมัน บอลรูมแบคคัสของมหาวิทยาลัยนิวโรมงดงามราวกับอาณาจักรแห่งอมตะ เสาหินอ่อนสีงาช้างเรียงรายตลอดโถงสูงตระหง่าน ผ้าม่านกำมะหยี่สีมรกตพาดลงมารับกับพื้นหินขัดสะท้อนแสงวิบวับจากเหล้าองุ่นในถ้วยแก้ว และเสียงหัวเราะปนเสียงไวโอลินที่บรรเลงทำนองฤดูหนาวแผ่วเบาให้บรรยากาศดูทั้งศักดิ์สิทธิ์และอบอุ่นไปพร้อมกัน


คีอาร์ปรากฏตัวขึ้นในงานอย่างเงียบงามราวกับสายลมเหนือที่แผ่วพาดเหนือยอดเขา เธอสวมชุดกระโปรงผ้าทูลล์สีเขียวมะกอกอ่อน ช่วงอกคอดรับทรวดทรงและปักลายดอกไม้เล็ก ๆ สีพาสเทลอย่างละเอียดราวกับกลีบดอกไม้ลอยอยู่บนผืนหิมะ ใต้แสงเทียนนับร้อยที่สะท้อนผ่านเนื้อผ้าบางนั้น ดูคล้ายหมอกเย็นที่เคลื่อนไหวในป่าเงียบ เธอรวบผมบลอนด์ทองแดงสตรอว์เบอร์รีไว้หลวม ๆ ปลายผมสะท้อนประกายแดงอบอุ่นเมื่อแสงตกกระทบ แว่นกลมบางกรอบสีทองวางอยู่บนสันจมูกเรียว เสริมให้ใบหน้าขาวซีดอมชมพูดูละมุนละไมยิ่งขึ้น


(ผู้หญิงในสเป็ค ผปค. อิจฉาใครจะได้น้องไปครอง)

คีอาร์ไม่คุ้นกับงานเลี้ยงลักษณะนี้ แม้แม่ของเธอจะเคยพาเข้าร่วมมาหลายครั้งในวัยเด็กก็ตาม เสียงพูดคุยและกลิ่นเหล้าองุ่นลอยคลุ้งรบกวนประสาทสัมผัสจนเธออยากหนีออกไปสูดอากาศเย็นข้างนอก แต่ด้วยมารยาท เธอเลือกจะเดินหลบไปตามมุมห้องอย่างสง่างาม รักษาระยะห่างจากฝูงชนที่สุดเท่าที่จะทำได้


ใจกลางโถงคือกองของขวัญจากกิจกรรม The Saturnalia Deposit ที่จัดขึ้นก่อนหน้านี้ กล่องสีสดใสและหรูหราเรียงสูงราวภูเขาเล็ก ๆ ทุกคนต่างตื่นเต้นกับช่วงเวลาการแลกเปลี่ยน คีอาร์เดินเข้าไปเงียบ ๆ ท่ามกลางความอึกทึก หยิบกล่องของตนขึ้นมา กล่องสีขาวเงินขนาดพอดีมือที่เธอห่อเองอย่างเรียบง่าย และผู้ที่เธอต้องมอบให้...คือชายคนหนึ่งจากค่ายจูปิเตอร์


ชเว มินจุน เดมิก็อดเชื้อสายวีนัส ผู้มีรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีทองซีดตัดกับตาสีน้ำตาลอ่อนที่สะท้อนแสงเทียนราวน้ำผึ้ง เขาแต่งสูทสีกลางคืนขับผิวขาวเนียนให้โดดเด่น ใบหน้าเรียบแต่แฝงรอยยิ้มบาง ๆ ของคนที่รู้จักใช้เสน่ห์อย่างไม่ตั้งใจ เป็นบุคลิกที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความมั่นใจและความเป็นมิตรในเวลาเดียวกัน


คีอาร์หยุดอยู่ตรงหน้าเขา สูดหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงนุ่ม “ฉันจับฉลากได้ส่งมอบมันคุณค่ะ” เธอยื่นกล่องของขวัญออกไปด้วยท่าทางเรียบสงบ สายตาไม่สบตรง ๆ นัก เหมือนกลัวว่าแค่สัมผัสทางสายตาจะทำให้ความเงียบในใจเธอแตกสลาย


มินจุนรับกล่องไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ขอบคุณครับ” เสียงของเขานุ่ม ละมุนราวกับบทเพลงหนึ่งที่กล่อมสายลมให้นิ่ง คีอาร์เพียงพยักหน้า รับคำขอบคุณด้วยท่าทีเรียบเฉยอย่างที่ควร เธอถอยหลังเล็กน้อย เตรียมจะหลบออกจากวงคน แต่ชายหนุ่มกลับขมวดคิ้วนิด ๆ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้แนะนำตัว เขาก้มมองกล่องในมือ เห็นชื่อที่เขียนไว้ตรงโน้ตเล็ก ๆ Ki’ar Xolotl “ขอบคุณนะครับ...คุณคีอาร์” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอขึ้นอย่างชัดถ้อย น้ำเสียงนั้นไม่ได้ดังมาก แต่พอให้คนใกล้ ๆ ได้ยิน


หญิงสาวชะงักเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีเทาอมเขียวมองเขาชั่วครู่ เหมือนสายลมที่พัดผ่านหน้าผาแล้วจางหายไปในพริบตา เธอยิ้มบางตามมารยาทอันสมบูรณ์แบบตามแบบฉบับคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลย


“ค่ะ ยินดีค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินหลบฝูงชนออกไปทางมุมที่เงียบกว่า เสียงรองเท้าส้นบางกระทบพื้นหินเป็นจังหวะนุ่ม ๆ จนแทบกลืนไปกับเสียงไวโอลินในห้อง


คีอาร์ยืนฟังเสียงดนตรีในงานเลี้ยงยังคงบรรเลงแผ่วอยู่ท่ามกลางโคมไฟระย้าที่ทอประกายทองสะท้อนพื้นหินอ่อน ราวกับแสงจากสรวงสวรรค์กำลังโปรยลงมาเหนือเหล่าบุตรแห่งเทพทั้งหลาย เธอยืนอยู่บริเวณด้านข้างของโถงใหญ่ ลมหายใจเย็นเฉียบของเธอสอดประสานเข้ากับบรรยากาศอบอุ่นในห้องราวกับลมหวนที่หลงเข้ามาในฤดูรื่นเริง ใบหน้าของเธอเรียบเฉยไม่ต่างจากน้ำแข็งในแก้วไวน์ จนกระทั่งใครบางคนเดินเข้ามาใกล้


#ดีน @Dean 


ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทปรากฏตรงหน้า เขาดูสง่างามและเรียบหรูในเวลาเดียวกัน เส้นผมสีเข้มถูกจัดอย่างเรียบร้อย ผิวขาวอมทองสะท้อนแสงไฟที่ส่องลงมาเหนือม่านหลัง เขายิ้มอย่างอ่อนโยนเป็นรอยยิ้มที่มีมารยาทแบบชายหนุ่มจากตะวันตก แต่อบอุ่นจนทำให้บรรยากาศรอบตัวดูผ่อนคลายลงอย่างประหลาด ภายในมือของเขามีกล่องของขวัญ กล่องนั้นห่อด้วยกระดาษลายทางสีขาวสลับส้ม ผูกริบบิ้นสีส้มสดใสไว้ด้านบน พร้อมโน้ตเล็ก ๆ ที่เขียนด้วยลายมือหวัด ๆ ว่า ระวังของแตก — Dean


#ดีน @Dean 


คีอาร์รับกล่องไว้ด้วยสองมืออย่างระมัดระวัง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ดวงตาสีเทาอมเขียวของเธอส่องประกายเย็นเฉียบปนระแวดระวังในทีแรก แต่เมื่อเธอวิเคราะห์เสี้ยววินาทีของแววตาชายคนนั้นก็พบเพียงความจริงใจตรงไปตรงมา ไม่มีการวางแผนหรือความเสแสร้ง... มีเพียงความอบอุ่นของลูกชายแห่งท้องทะเลที่สื่อออกมาอย่างบริสุทธิ์ เธอพยักหน้าเบา ๆ และตอบด้วยเสียงนุ่มนวลที่เปี่ยมมารยาท 


“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้พบและยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ฉันชื่อคีอาร์ โซล็อตล์ เชื้อสายบอเรอัส... พึ่งเข้าค่ายฮาล์ฟบลัดไม่นานค่ะ” รอยยิ้มบางคลี่ขึ้นบนริมฝีปากของเธอ มันเป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนแต่ผ่านการคำนวณอย่างละเอียดในใจ เธอรู้ดีว่าการสร้างสายสัมพันธ์กับบุตรแห่งมหาเทพทั้งสามคือการวางหมากที่ปลอดภัยที่สุดในโลกที่เทพและลูกครึ่งเทพมีชีวิตอยู่ด้วยอำนาจและสมดุล


#ดีน @Dean 


“หวังว่าจะได้พบกันในค่ายนะคะ ขอบคุณค่ะ ฉันขอตัวก่อน” คีอาร์ตอบสั้น ๆ ราวกับลมเหนือที่พัดผ่านผิวน้ำเพียงครู่เดียวก่อนจะจางหาย เธอถอยหลังอย่างสุภาพ ย่อศีรษะเล็กน้อยเพื่อบอกลา แล้วหมุนตัวกลับเข้าไปในกลุ่มผู้คนอีกครั้ง เงาของเธอละลายหายไปในแสงสีทองของบอลรูม เหลือไว้เพียงกลิ่นหอมจาง ๆ ของลูกอมแตงโมและเมนทอลที่ล่องลอยปะปนในอากาศ



รางวัลกิจกรรมทุกคนจะได้รับ : 35 EXP, +50 พลังน้ำใจ, +50 ศรัทธา, 50 เกียรติยศ และ ไดเอทเป๊บซี 1 กระป๋อง

[NPC-35] ชเว มินจุน
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
โบนัสจากกิจกรรม มอบของขวัญให้ NPC - เพิ่มความสัมพันธ์ NPC +20

กลิ่นหอมจาก น้ำหอม Unisex  - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +5

(โรลเพลย์ที่ลงท้ายด้วย 0 2 4 6 8 - ใช้ได้กับรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นเท่านั้น)

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 35 EXP โพสต์ 2025-12-18 09:42
God
คุณได้รับ +50 เกียรติยศ +50 ความศรัทธา โพสต์ 2025-12-18 09:42
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-35] ชเว มินจุน เพิ่มขึ้น 50 โพสต์ 2025-12-18 09:34
โพสต์ 36270 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-18 09:17
โพสต์ 36,270 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 ความกล้า +7 ความศรัทธา จาก คมมีดวายุ  โพสต์ 2025-12-18 09:17

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ย่อ เหตุผล
God + 50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
คมมีดวายุ
ลมกรด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
หอกกรีก
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
สัมผัสแห่งสายลม
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
น้ำหอม Unisex
กล่องดนตรี
ปากกาหมึกซึม
ต่างหูเงิน
แว่นตา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x1
x1
x1
x4
x1
x1
x3
x10
x1
x2
x3
x1
x3
x8
x3
x3
x5
x5
x2
x2
x4
x1
โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-12-27 14:33

370
งานเลี้ยงจับฉลาก

               (SAT) 13/12/2025 เวลา 18.00 น.

               เมื่อก้าวเท้าแรกผ่านซุ้มประตูสูงตระหง่านเข้าไป กลิ่นหอมอ่อนของเทียนไขและดอกไม้สดลอยมาแตะปลายจมูก แสงทองจากโคมระย้าคริสตัลนับสิบส่องลงมาราวกับแสงอาทิตย์ยามอัสดง ทำให้พื้นหินอ่อนขัดเงาใต้เท้าสะท้อนประกายระยิบระยับ ทุกย่างก้าวให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง

               “แมคซี่… นายเคยออกงานเลี้ยงที่หรูหราหมาเห่าขนาดนี้มาก่อนไหม?” ดีนกระซิบถามคนรักที่เดินเข้างานมาพร้อมกัน

               เบื้องหน้าคือ ‘บอลรูมแบคคัส แห่งมหาวิทยาลัยนิวโรม’ ห้องโถงยาวสุดสายตา โอบล้อมด้วยเสาหินอ่อนสีงาช้างเรียงรายอย่างมีจังหวะ ผ้าม่านกำมะหยี่สีเขียวเข้มถูกจับจีบอย่างประณีต แกว่งไหวเบา ๆ ตามกระแสอากาศราวกับกำลังต้อนรับผู้มาเยือน เพดานสูงเหนือศีรษะถูกแต่งแต้มด้วยภาพเฟรสโกอันวิจิตร เหล่าเทพและวิญญาณในท่าร่ายรำ ท่ามกลางหมู่ดาวและเมฆสีคราม มองลงมาด้วยสายตานิ่งสงบ ราวกับเป็นพยานของงานเลี้ยงนี้

               เสียงดนตรีลอยมาเป็นระลอก นุ่มลึกและสง่างาม ผสมกับเสียงสนทนาและเสียงหัวเราะของแขกผู้ร่วมงานที่แต่งกายในชุดราตรีและสูทหรูหรา สีสันของผ้าไหมและผ้าซาตินไหลเคลื่อนไปบนฟลอร์เต้นรำ ผู้คนจับมือหมุนตัวอย่างอ่อนช้อย ท่วงท่าทั้งหมดสอดประสานกับแสงเทียนที่เรียงรายบนโต๊ะอาหารราวกับทะเลดาวบนพื้นดิน

               “ไม่… ไม่เคย”

               แมคเคนซีตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายก็ดูล่กไม่แพ้กัน ดีที่พวกเขาได้รับบรีฟจากซันซ์มาก่อนว่างานเลี้ยงในบอลรูมแบคคัสต้องใส่ทักซิโดเลยมีเวลาไปเช่าหามาทัน ไม่อย่างนั้นทั้งสองได้แต่งตัวเหมือนบ้านนอกกเข้ากรุง (โรมใหม่) แน่ ๆ


               “แล้วพวกเราควรเริ่มจากอะไรก่อนดีล่ะ–..”

               พูดไม่ทันจบประโยคดีบริกรชาวลาร์ก็เข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มทั้งสอง แชมเปญที่หมักบ่มอย่างพิถีพิถันด้วยกรรมวิธิพิเศษของเทพแบคคัสถูกเสิร์ฟลงตรงหน้า ของเหลวสีเหลืองทองใสสะอาดระยิบระยับในแก้วคริสตัล ฟองละเอียดผุดขึ้นช้า ๆ ราวกับมีชีวิต ส่งกลิ่นหอมอ่อนของผลไม้สุกและยีสต์หวานละมุน เพียงแสงไฟสะท้อนผ่านก็เหมือนจับแสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณเอาไว้ในแก้วเดียว รอให้ริมฝีปากแตะต้องเพื่อปลุกฤทธิ์แห่งความรื่นรมย์และความลุ่มหลงให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง

               “เริ่มต้นได้ดี เยี่ยม!”

               ดีนคว้าแก้วทรงสูงขึ้นมาค่อย ๆ ละเลียดจิบรสชาติอันเลอค่านั่นทีละนิด เขาไม่อยากเมาเร็วไป เพราะวันนี้เป็นวันพิเศษเกินกว่าที่จะทำให้ตนเองฟุบหลับไปก่อนที่จะถึงห้องนอน หลังจากที่แอลกอฮอล์เข้าปากก็คล้ายว่าสวิตซ์ความประหม่าถูกปิดดับ เปิดแทนทับด้วยความใจกล้าที่จะเดินเข้าไปสนุกสนานกับงานเลี้ยงได้โดยไม่ลังเล

               ขณะที่ทั้งสองกำลังเพลิดเพลินไปกับรสชาติของอาหารชั้นเลิศที่ถูกปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่อย่างพิถีพิถันด้วยเชฟฝีมือดี การประกาศผลการจับสลากก็เริ่มขึ้น

               “แมคซี่ นายรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวมา”

               ดีนบอกกับคนรักก่อนที่เขาจะเดินไปหยิบของขวัญที่ลงทะเบียนทิ้งไว้ (โดยซันซ์) ขึ้นมา มันหาง่ายจริงอย่างที่น้องชายว่า กล่องของขวัญสีส้มเด่นสะดุดตามาแต่ไกล ดีนไม่รู้ว่าทำไมผู้จัดงานต้องเก็บกล่องของขวัญที่เข้าร่วมไปก่อนหนึ่งคืน พวกเขาเอาไปตรวจสอบระเบิดหรือไงนะ? แต่เท่าที่ดู กล่องของขวัญจับฉลากไม่น่าถูกแตะต้องนอกจากเคลื่อนย้าย เพราะโพสต์อิทคำว่า ‘ระวังของแตก’ ยังไม่ออกไปจากหน้ากล่อง มันถูกติดไว้บนตำแหน่งเดิมอย่างไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปแหล่ะดีแล้ว ดูเด่นแถมตลกดีเป็นบ้า

               “สวัสดี ปีใหม่กำลังจะดีขึ้นแล้วนะ” ชายคนหนึ่งในทักซิโดสีดำสนิทดูเรียบหรูเข้ามาทัก เขาพูดเสียงเบาแต่เจือความขี้เล่น “เพราะคนที่ฉันจับได้…”

               ปลายนิ้วจิ้มลงตรงชื่อบนหน้ากล่องที่เขียนด้วยลายมือบุตรแห่งท้องทะเลอีกคน

               “หือ?” ดีนเลิกคิ้วอย่างไม่ค่อยเข้าใจเจตนาอันมีลูกล่อลูกชนอย่างแพรวพราวของคนตรงหน้าสักเท่าไร แต่มั่นใจได้ว่าแอลกอฮอล์อันน้อยนิดไม่น่าจะทำให้ชายหนุ่มอยู่ในอาการมึนเมาได้ จะว่าไงดี.. คนตรงหน้ามาแบบแปลกจนเขามึน

               “ใช่ นายเลย ‘ดีน’ โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ แต่เป็นฉันเองที่จับชื่อนายได้ ซึ่งฉัน.. คอนเนอร์ สโตล บุตรแห่งเฮอร์มีส ยินดีที่ได้รู้จัก” คอนเนอร์ขยับเสื้อสูทหยิบกล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีเข้มเรียบหรูผูกริบบิ้นทองบาง ๆ ไม่ฉูดฉาดแต่ดูตั้งใจออกมา “ของขวัญปีใหม่” เขายื่นมันให้ พร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อย “ไม่ใช่ระเบิด ไม่ใช่กับดัก… ครั้งนี้ฉันสาบาน” มุมปากยกขึ้นอีกนิด แววตาฉายความซุกซน

               “โอ้ ยินดีที่ได้รู้จักคุณคอนเนอร์ ผมดีน.. ใช่อย่างที่คุณรู้ชื่อผมจากหน้ากล่อง” ดีนยื่นมือไปจับกับคอนเนอร์ที่เพิ่งรู้จักเป็นเพื่อนใหม่ “กำลังสงสัยเลยว่าที่ทีมงานเอาของขวัญไปเก็บก่อนหนึ่งคืนเพราะว่าตรวจระเบิดหรือเปล่า แปลว่าก่อนหน้านี้เคยมีคนทำแบบนั้นจริง ๆ ด้วยสินะ”

               ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ใครมันจะกล้ายัดระเบิดลงกล่องจริง ๆ กันล่ะ เหตุการณ์แบบนั้นน่าจะมีแค่ในหนังเรื่องแบทแมน แต่หวังว่าเขาจะไม่ได้ป๊ะเข้ากับ ‘โจ๊กเกอร์’ อยู่หรอกนะ

               “นายก็ลองเดาดูสิดีน” คอนเนอร์หัวเราะในลำคอ “ถ้าอยากรู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน นายจะเปิดกล่องของขวัญออกก่อน หรือจะเต้นรำกันสักเพลงก่อนจะเปิดมันกันล่ะ”

               มาถึงตรงนี้ดีนอ้าปากค้างกับความหมาหยอกไก่ของคอนเนอร์ ‘อะไรนะ!? เอาจริงดิ หมอนี่กำลังชวนฉันเต็นรำ?’ ความคิดในหัวตีกันจนมึน ใบหน้านั้นสร้างความขบขันแก่คอนเนอร์เป็นอย่างมาก

               “ล้อเล่นหรอกน่า หากขอนายเต้นรำด้วยจริง สุภาพบุรุษที่ยืนอยู่ตรงนั้นคงเอาเรื่องตาย” บุตรเฮอร์มีสเพยิดหน้าไปทางแมคเคนซีที่ตอนนี้กำลังคุยกับใครสักคนที่ดีนไม่รู้จักอยู่ “เพราะงั้นนายจะเปิดตอนไหนก็แล้วแต่เถอะ ขอให้มีความสุขในงานเทศกาล” กล่าวจบคอนเนอร์ก็ปลีกตัวเดินจากไปโดยที่ดีนยังไม่ทันได้ขอบคุณอีกฝ่ายสักคำ ราวกับเรื่องที่ถูกเต๊าะเมื่อครู่นี้เพียงแค่หลับใน

               “อะไรของเขาวะ ประหลาดฉิบเป๋ง”

               บุตรแห่งโพไซดอนพึมพำ ตอนนี้ในมือของเขามีกล่องของขวัญสองใบแล้วสิ เพราะงั้นรับเอาของตัวเองไปให้ผู้ที่มีรายชื่อตรงกันดีกว่า ดีนรับกระดาษที่ถูกจัดสรรมาแล้วเปิดดู ‘คีอาร์ โซล็อตล์’

              ‘ใครล่ะเนี่ย ไม่คุ้นชื่อเลย เด็กค่ายจูปิเตอร์งั้นเหรอ?’

               ถามจริง นี่แปลว่าเขาต้องถามคนทั้งงานใช่ไหมว่าใครชื่ออะไรบ้าง? แต่มันต้องมีวิธีที่ง่ายกว่านั้นสิ เช่นถามใครสักคนในนี้ที่เขารู้จัก แล้วต้องเป็นคนที่คุ้นเคยกับทั้งฮาล์ฟบลัดและนิวโรมจนพอจะทราบได้ว่าใครเป็นใคร และแล้วเขาก็พบเหยื่อที่ยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนตำแหน่งแปดนาฬิกา ‘คริสเตียน ปาร์โร’ บุตรแห่งไดโอนิซุสเคยเรียนที่นิวโรมอาจพอคุ้นหน้าคนเมืองนี้ และด้วยความกว้างขวางทางด้านมิตรไมตรีจึงทำให้ดีนเชื่อใจใช้บริการ

               “ฮาย คริสต์”

               “อ้าว หวัดดีดีน ไม่เห็นลงชื่อไว้ คุณมาร่วมงานเลี้ยงด้วยเหรอ”

               “ใช่ ฉันเพิ่งมาร่วมงานเมื่อสองวันก่อนน่ะ จะว่าไปนาย…”

               สายตาของหนุ่มเจ้าเสน่ห์มองมาที่กล่องของขวัญสีส้มแสบตาแสบใจ คริสเตียนพาดรอยยิ้มขึ้นมุมปากทันที

               “คุณจับได้ชื่อผมสินะ แต๊งกิ้—.. อ้าว” คริสเตียนแบมือขยับมารับของไว้แต่ว่าดีนยกหนี

               “ฉันจับได้นายซะที่ไหน คนที่ฉันได้คือ ‘คีอาร์ โซล็อตล์’ นายรู้จักเขาป่ะ ไม่สิ จากชื่ออาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้”

               “โธ่เอ๊ย อยากให้ช่วยก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก รู้จักสิ คีอาร์น่ะเด็กใหม่บ้านบอเรอัส”

               เห็นไหมว่าคริสเตียนไม่ทำให้ผิดหวัง แต่...

               “ห๊ะ! บอเรอัส? เทพองค์ไหนอีกล่ะเนี่ย”

               ดีนทำหน้างง เขาไม่อยู่ค่ายแค่ไม่กี่เดือนไหงถึงมีกระท่อมหลังใหม่ผุดขึ้นมาได้ แต่เอาเข้าจริงเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ากระท่อมถูกปลูกขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับสายเลือดจากไมเนอร์ก็อด หรือความจริงมันมีอยู่แล้วแค่เขายังไม่รู้สึกถึงมันก็เท่านั้นเอง

               “ขี้เกียจอธิบาย ไว้คุณไปหาข้อมูลเองแล้วกัน ส่วนคีอาร์น่ะอยู่นู่น เด็กผู้หญิงผมแดงใส่แว่น สวมเดรสสีเขียวมะกอกอ่อน”

               ไม่พูดเปล่ายังชี้ให้เห็นสาวน้อยคนหนึ่งรูปร่างลักษณะตามที่บอก ยืนอยู่เพียงลำพังข้างโถงบอลรูม

               “โอเค ขอบใจมากนะเพื่อน ฉันเอาของขวัญไปให้คีอาร์ก่อน”

               หลังเสร็จธุระกับหนุ่มสายเลือดไดโอนิซุส ดีนก็ผละออกมาแล้วเดินไปหาสาวน้อยในชุดสีเขียวทันทีพร้อมด้วยรอยยิ้มร่าเริงบนใบหน้า

               “ฮาย เธอคีอาร์ใช่ไหม ฉันดีนนะ อยู่ค่ายฮาล์ฟบลัดเหมือนกัน พอดีว่าฉันจับฉลากได้ชื่อเธอน่ะ ส่วนนี่ของขวัญ”

               ดีนยื่นกล่องของขวัญสีส้มที่มีโพสต์อิทแปะไว้อย่างเด่นสะดุดตาให้อีกฝ่าย เธอมองเขาด้วยสายตาประเมินท่าที ดูแล้วเด็กคนนี้น่าจะไม่ใช่คนพูดเก่ง หรืออาจจะถึงขั้นขี้อายเลยด้วยซ้ำ (?) พอเข้าใจไปเองแบบนั้นดีนก็ยิ่งยิ้มกว้างอย่างจริงใจเพื่อแสดงตนว่าไม่มีพิษมีภัย จนกระทั่งเธอยอมรับของขวัญปีใหม่จากเขาไปแล้วเริ่มแนะนำตัวออกมา

               “สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้พบและยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ฉันชื่อคีอาร์ โซล็อตล์ เชื้อสายบอเรอัส... พึ่งเข้าค่ายฮาล์ฟบลัดไม่นานค่ะ”

               “อื้อ ฉันรู้จากคริสต์มาคร่าว ๆ แล้วน่ะ” ดีนชี้ไปทางคริสเตียนที่ตอนนี้กำลังจับกลุ่มพูดคุยกับเพื่อน ๆ ที่เรียนจบรุ่นเดียวกันอย่างออกรส โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ากำลังถูกจับจ้องอยู่ “โลกแห่งทวยเทพมันโหดร้ายนิดหน่อย ที่…ความจริงก็ไม่หน่อย แต่ถ้าเธออยากได้คำช่วยเหลือหรือขอคำปรึกษาก็สะกิดฉันได้เลยนะ ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้อะไรเหมือนกันก็เถอะแต่ว่ายินดีช่วยเหลือ ยินดีต้อนรับเข้าสู้ค่ายนะเด็กใหม่”

               “หวังว่าจะได้พบกันในค่ายนะคะ ขอบคุณค่ะ ฉันขอตัวก่อน”

               คีอาร์พูดน้อยกว่าที่คิด ท่าทางของเธอราวกับมีเรื่องอะไรในใจซุกซ่อนอยู่ตลอดเวลา เสมือนว่าที่ผ่านมาเจอมาหนัก (แหงมล่ะ คนที่ไม่เจอมาหนักคือคนที่โชคดีไง) สาวน้อยขอตัวจากไปเหลือทิ้งไว้แค่กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของพืชตระกูลแตง ดีนหวังว่าสักวันเธอจะยอมเปิดใจให้ใครสักคน เพราะว่าในโลกที่โหดร้ายใบนี้ไม่สามารถมีชีวิตได้ด้วยตัวคนเดียว หรืออย่างน้อย… ของขวัญปีใหม่ของเขาอาจช่วยบรรเทาความเหงาให้เธอได้บ้าง

               หลังจากจบธุระเรื่องแลกของขวัญดีนก็เดินกลับไปหาแมคเคนซีที่กำลังคุยอยู่กับชายหนุ่มอีกคนที่เขารู้จัก รุ่นพี่ที่รวย ๆ คนนั้น… ‘แลร์รี่ (ไม่ทราบนามสกุล)’

               “ฮาย แมคซี่ ฉันกลับมาแล้ว” ดีนกลับมาด้วยรอยยิ้มร่าเริง เมื่อยืนเคียงกันมือซนก็บีบที่บั้นท้ายงาม ๆ อย่างลืมตัว


               “สวัสดีครับ คุณ… รุ่นพี่แลร์รี่ใช่ไหมถ้าผมจำไม่ผิด”

              “ใช่แล้วครับ สวัสดี นายคงเป็นดีนสินะ คนที่โพสต์เน็คทาร์บ่อย ๆ แล้วก็ชอบอวดแฟนน่ะ”

               นอกจากเป็นคนรวยแล้วแลร์รี่ยังอัธยาศัยดีอย่างน่าเหลือเชื่อ แล้วตอนนี้ภาพจำของเขากับเพื่อนในอินเทอร์เน็ตกลายเป็นคนที่ชอบอวดแฟนไปแล้วสินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะว่าแฟนหนุ่มของเขามีดีให้อวดนี่นา เพราะงั้นอวดตลอดไปคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ

                [ต่อครึ่งหลังที่โรลเพลย์ของ @Mackenzie]

รางวัลกิจกรรม:
Lv Max รับ หินตีบวก 1 ก้อน, +50 พลังน้ำใจ, +50 ศรัทธา, 50 เกียรติยศ
และ ไดเอทเป๊บซี 1 กระป๋อง

ส่งของขวัญให้ @Xolotl เรียบร้อยแล้ว



ปฏิสัมพันธ์กับ [NPC-74] คอนเนอร์ สโตล
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]
+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
+20 ความสนิทสนมจากโบนัสกิจกรรม
[รวม +40 ความสนิทสนม]


ปฏิสัมพันธ์กับ [NPC-67] คริสเตียน ปาร์โร
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]
+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
[รวม +20 ความสนิทสนม]



ปฏิสัมพันธ์กับ [NPC-54] แลร์รี่
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]
+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
[รวม +20 ความสนิทสนม]


แสดงความคิดเห็น

Dean ได้รับ ตัวต่อเลโก้ ที่มีชิ้นส่วน 1 ชิ้นสุดท้ายขาดหายไปอย่างน่าหงุดหงิด  โพสต์ 4 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับ +50 เกียรติยศ +50 ความศรัทธา โพสต์ 4 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-74] คอนเนอร์ สโตล เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 4 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-54] แลร์รี่ เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 4 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-67] คริสเตียน ปาร์โร เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 4 วันที่แล้ว

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ย่อ เหตุผล
God + 50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x3
x11
x2
x7
x2
x4
x8
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
97.the feast of immortals

ต่อจาก Dean [Link]


- 13.12.2025 / 06:00PM -


วันนี้ถือเป็นวันแรกของช่วงสุดท้ายใน ‘เทศกาลบรูมาเลีย’ หลังจากที่เทศกาลนี้เริ่มจัดมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นับว่าเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และกินเวลานานสำหรับชาวนิวโรมเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่ไม่ใช่พลเมืองชาวนิวโรม แมคเคนซีจึงไม่รู้ประวัติความเป็นมาของเทศกาลนี้ว่าเกิดขึ้นอย่างไร เขาเพียงแค่รู้มาจากซันซ์ น้องชายร่วมบิดาของดีนที่บอกว่า ‘เป็นเทศกาลขอบคุณเทพีเซเรส และเฉลิมฉลองงานรื่นเริงกับเทพแบคคัส’ เพียงเท่านั้น


สองเดมิก็อดหนุ่มจากค่ายฮาล์ฟบลัดมาถึงงานในช่วงที่ยังเริ่มไปได้ไม่นานนัก โถง ‘บอลรูมแบคคัส แห่งมหาวิทยาลัยนิวโรม’ ถูกเนรมิตรให้กลายเป็นบรรยากาศแห่งงานเลี้ยงสุดหรูหรา โคมไฟแชนเดอเรียคริสตัลส่องแสงระยิบระยับราวกับดวงดาว ตามเสาหินอ่อนประดับด้วยพวงมาลัยเถาองุ่นและมีพุ่มดอกไม้สีแดงจัดไว้ตามจุดต่าง ๆ อย่างงดงาม


ผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาร่วมงานต่างสวมชุดทางการ ทั้งชุดสูท ทักซิโด้และชุดราตรีร่วมสมัย แมคเคนซีสังเกตเห็นว่ามีชาวนิวโรมจำนวนหนึ่งยังสวมชุดพื้นเมืองที่เรียกว่า ‘โทก้า’ เหมือนชาวโรมันสมัยก่อน แต่ก็ดูเหมาะสมและกลมกลืนเข้ากับบรรยากาศงานได้เป็นอย่างดี สำหรับดีนและแมคเคนซีที่ถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน วันนี้พวกเขาเลือกใส่ชุดทักซิโด้สุภาพสีดำทรงเรียบง่ายที่เช่ามาจากร้านในเมืองเพื่อไม่ให้ขัดกับธีมงาน




เสียงดนตรีบรรเลงคลอเคล้าไปกับเสียงสนทนาของผู้คน นอกจากการพบปะสังสรรค์และเต้นรำแล้ว งานนี้ก็ยังมี ‘อาหารเพียบ’ รวมถึง ‘เหล้าไม่อั้น’ ตามที่ซันซ์บอกไว้ไม่มีผิด เพราะเพียงแค่พวกเขาเดินเข้ามาในงานได้ไม่กี่ก้าวบริกรชาวลาร์ก็ต้อนรับพวกเขาด้วยการเดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มถึงที่ แชมเปญรสนุ่มละมุนลิ้นถูกกลืนผ่านลงลำคอ รสสัมผัสดีเยี่ยมไม่เสียชื่องานเฉลิมฉลองของเทพแห่งไวน์


แต่ทั้งที่มีเครื่องดื่มที่ทั้งรสชาติดีและชื่นชอบที่สุดมาอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ ดีนกลับดูยั้งใจไว้เหมือนไม่ค่อยอยากดื่มมันเท่าไหร่จนน่าแปลกใจ เพราะมันช่างผิดปกติวิสัยของเจ้าตัวเหลือเกิน


“แมคซี่ นายรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวมา”


หลังจากรับประทานอาหารรสเลิศภายในงานซึ่งถือเป็นมื้อเย็นของทั้งคู่ไปได้สักพัก กิจกรรมประกาศผลจับสลากของขวัญก็เริ่มขึ้น ดีนที่ส่งของขวัญเข้าร่วมด้วยจึงขอตัวไปแลกของขวัญกับคนอื่น ๆ ก่อน


“ตามสบายเลยที่รัก”


แมคเคนซีพยักหน้ารับแล้วหันมาสนใจบรรยากาศภายในงานต่อ เขาสังเกตเห็นดีนสนทนากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้า อีกฝ่ายยื่นกล่องของขวัญให้คนรักของเขา จึงเข้าใจได้ไม่ยากว่าคนคนนั้นจับได้ชื่อของดีน


“สวัสดีครับท่านวุฒิสมาชิกสภาคอร์เนลิอุส ไม่นึกว่าคุณจะให้เกียรติมาร่วมงานด้วย”


เสียงใครบางคนเรียกความสนใจของแมคเคนซีให้หันไปมอง จากจุดที่ยืนอยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา หรือไม่ก็อาจจะเด็กกว่านิดหน่อยกำลังทักทายบุรุษอีกคนซึ่งมีท่าทีสุขุม เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแลคสีดำขลับแบบสุภาพเหมือนนักธุรกิจที่เพิ่งเลิกงานแล้วผ่านมามากกว่าตั้งใจจะมาร่วมงาน เส้นผมดกหนาสีเดียวกันกับชุดถูกหวีเสยขึ้นราวกับเคยจัดแต่งทรงมาอย่างดี ที่ใช้คำว่า ‘เคย’ เพราะตอนนี้มันค่อนข้างยุ่งไม่เป็นทรงเล็กน้อยจากช่วงเวลาที่ผ่านมาแทบทั้งวัน


“ผมแค่มาดูความเรียบร้อยของงาน เดี๋ยวต้องกลับไปทำงานต่อ”


ชายคนนั้นยกมือขึ้นข้างหนึ่งเป็นเชิงปฏิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อีกฝ่ายหยิบจากบริกรมาให้อย่างต้องการเอาอกเอาใจ แมคเคนซีสังเกตว่าเขาดูหน้าเจื่อนไปเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นดื่มเองจนหมดจากนั้นจึงขอตัวไปทางอื่น ปล่อยให้คนคนนั้นยืนมองบรรยากาศในงานด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์


“ถ้าไม่ดื่มแชมเปญ สนใจดื่มชาสักแก้วไหมครับ”


ชาเอิร์ลเกรย์ร้อนควันฉุยแก้วหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้า เรียกความสนใจให้ดวงตาคมเข้มละจากงานเลี้ยงอันแสนน่าเบื่อในความรู้สึกของเขามามองคู่สนทนาคนใหม่ เขามั่นใจว่าไม่เคยเห็นคนคนนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นในกองร้อย ค่ายจูปิเตอร์ หรือแม้แต่ในสภาเซเนท แต่ความปรารถนาดีและแววตาที่ไม่ได้ส่อเจตนาร้ายทำให้เขาไม่คิดจะปฏิเสธน้ำใจของชายหนุ่ม


“ขอบคุณ ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน เป็นนักศึกษามหาวิทยานิวโรมอย่างนั้นเหรอ”


ชายคนนั้นเริ่มเปิดบทสนทนาแล้วยกแก้วชาขึ้นมาสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ก่อนจะจิบเล็กน้อย ด้วยความช่างสังเกตตามอาชีพของคนที่เคยทำงานหลังเคาน์เตอร์บาร์ ทำให้แมคเคนซีจับสีหน้าได้ว่าอีกฝ่ายดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย


“ไม่ใช่ครับ ผมแมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์น มาจากค่ายฮาล์ฟบลัด ผมแค่มาเที่ยวงานเทศกาลเฉย ๆ”


อาจเป็นเพราะบุคลิกจริงจังของคนตรงหน้า ทำให้แมคเคนซีคิดว่าการแนะนำตัวแบบเต็มยศเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่า แต่ปฏิกิริยาที่อีกฝ่ายให้กลับมาคือการเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับมีความสงสัยอยู่ในนั้น


“ฮาล์ฟบลัด…? ค่ายกรีกจากลองไอแลนด์? เดินทางไกลมาถึงนิวโรมเลยงั้นเหรอ ผมลูซิอุส คอร์เนลิอุส ฟูสกัส วุฒิสมาชิกสภาเซเนท ลูกหลานโรมัน ต้นตระกูลบุตรแห่งไทรเวีย ในนามเจ้าบ้าน ขอบคุณที่คุณให้เกียรติมาเที่ยวชมงานเทศกาลของชาวนิวโรม”


ผิดจากที่คิดเสียที่ไหน อีกฝ่ายแนะนำตัวเต็มยศยิ่งกว่าเขาเสียอีก แม้จะเป็นการต้อนรับตามมารยาทที่ดี แต่แมคเคนซีกลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายเพียงแค่พูดไปตามหน้าที่เท่านั้น


ซึ่งก็แน่อยู่แล้ว…อีกฝ่ายดูมีตำแหน่งเป็นคนใหญ่คนโตในนิวโรม วุฒิสภาชิกสภาเซเนทอะไรสักอย่าง คงไม่ทำให้ตัวเองเสียหน้า แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามแต่ มีเพียงแค่สิ่งเดียวที่แมคเคนซีดูจะสนใจมากกว่าสิ่งอื่น


“คุณเป็นลูกหลานของเทพีไทรเวียเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นคุณก็ใช้เวทได้ด้วยเหมือนกันหรือเปล่า”


เหมือนว่าเขาจะเจอคนที่เป็นญาติห่าง ๆ เข้าแล้ว เรียกว่าแบบนี้ได้ไหมนะ…อย่างน้อยก็เป็นมารดาอีกภาคหนึ่งของตนเอง 


“ลูกหลานโรมันคือกลุ่มคนที่สืบเชื้อสายมาจากเทพ บางคนก็ไม่ใช่สายเลือดโดยตรงแต่บรรพบุรุษเป็นลูกหลานของเทพมาก่อน ถ้าเป็นคนกลุ่มแรกก็สามารถใช้พลังวิเศษได้ แต่กลุ่มหลังคนที่ใช้พลังได้ก็มี บางคนพลังก็ยังไม่ตื่น และคนที่ไม่สามารถใช้พลังได้ก็มีเช่นกัน”


ฟังดูก็รู้ว่าลูซิอุสเลี่ยงที่จะบอกข้อมูลของตนเองโดยใช้การอธิบายแบบรวม ๆ ซึ่งแมคเคนซีเองก็ไม่ได้ต้องการละลาบละล้วงเรื่องที่อีกฝ่ายไม่ต้องการให้รู้ขนาดนั้น เขาจึงรับฟังเรื่องที่ว่านี้อย่างตั้งใจไว้ประดับเป็นความรู้ติดตัวแทน


แต่ประโยคถัดไปของวุฒิสมาชิกสภาเซเนทกลับทำให้แมคเคนซีพูดไม่ออก 


“แต่การที่คุณถามผมแบบนั้น นั่นแปลว่าคุณสามารถใช้เวทได้ และคุณที่มาจากค่ายฮาล์ฟบลัดก็คือสายเลือดเทพีเฮคาที ซึ่งผมเพิ่งได้ยินกลุ่มคนใช้เวทรวมถึงพวกแม่มดและพวกในตลาดมืดลือกันหนาหูว่าไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ของจอมเวทเมอร์ลินถูกเดมิก็อดจากค่ายฮาล์ฟบลัดได้ไปไว้ในครอบครอง“


”…………“


ดวงตาสีฮาเซลสบมองคนตรงหน้านิ่ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะข่าวมันแพร่สะพัดไปเร็วหรือหน้าที่การงานของอีกฝ่ายหรือเปล่าจึงสามารถประมวลผลและสรุปข้อมูลของตัวเขาออกมาได้จากสิ่งที่เขาพูดเพียงไม่กี่ประโยค ที่สำคัญคือสิ่งที่ลูซิอุสพูดนั้น…ไม่มีผิดเลยแม้แต่น้อย


หากบอกว่าลูซิอุสคนนี้ทำงานหน่วยข่าวกรองของนิวโรม แมคเคนซีก็เชื่อ


”ที่คุณพูดมาก็…ใช่ครับ“


เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ จากตรงมุมปากที่เริ่มมีหนวดเคราขึ้นตามโครงหน้าคมเข้มของลูซิอุส ราวกับพอใจที่คู่สนทนายอมรับง่าย ๆ อย่างตรงไปตรงมาในสมมุติฐานที่ถูกต้องของตนเอง


”เก็บคทานั่นไว้ให้ดี มันมีค่ามหาศาลกว่าที่คุณคิดไว้ เผลอ ๆ อาจประเมินค่าไม่ได้ด้วยซ้ำ“


ชาเอิร์ลเกรย์ส่วนสุดท้ายไหลผ่านลงคอลูซิอุสไป เขาวางแก้วเปล่าลงในถาดบริกรที่เดินผ่านมาแล้วดูนาฬิกาข้อมือ


”หมดเวลาน้ำชาของผมแล้ว ผมต้องกลับไปทำงานที่สภาต่อ หากมีโอกาสเราคงได้พบกันอีก ขอให้เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในนิวโรม ยินดีที่ได้รู้จักคุณลินคอล์น“ 


”ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณลูซิอุส“


น่าเสียดายที่บทสนทนาระหว่างพวกเขาทำให้แมคเคนซีลืมเลือนนามสกุลของอีกฝ่ายไป แต่แม้จะเรียกด้วยชื่ออีกฝ่ายก็ดูไม่ได้ถือสาอะไร ลูซิอุสหันหลังให้แล้วเดินออกจากงานเลี้ยงที่กำลังครึกครื้นไปอย่างเงียบ ๆ ชุดสีดำที่สวมใส่ทำให้เขากลืนหายไปกับความมืดยามพลบค่ำราวกับหายตัวได้


แม้เป็นการสนทนาเพียงสั้น ๆ แต่แมคเคนซีก็แอบชื่นชมในความสุขุมและมีไหวพริบของอีกฝ่าย


“หายไปไหน”


พอหันกลับไปมองยังจุดเดิม คนรักของเขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว เหลือเพียงแค่ชายหนุ่มที่ให้ของขวัญดีนก่อนหน้านั้นกำลังคุยกับคนอื่นอยู่ อีกฝ่ายคงกำลังเอาของขวัญของตนเองไปให้ใครสักคนในมุมหนึ่งของงาน คิดได้ดังนั้น แมคเคนซีจึงไปหาอะไรใส่ท้องรอต่อ

.


.

“เฮ้ ตรงนั้นน่ะ นาย..ใช่แมคเคนซีหรือเปล่า”


เหมือนได้ยินใครเรียกชื่อตนเองแว่ว ๆ จนหนุ่มอังกฤษที่เพิ่งไปตักอาหารมาอีกจานต้องมองซ้ายมองขวาเพื่อหาต้นเสียงนั้น แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างเมื่อรู้ว่าคนคนนั้นคือใคร


นั่นมัน ‘แลร์รี่’ เดมิก็อดบุตรแห่งเมอร์คิวรี่ นักแข่ง F1 ดาวรุ่งพุ่งแรงคนนั้นนี่นา!


“ค..ครับ ใช่ ผมเอง แมคเคนซี”


ให้ตาย เขาเกร็งเสียยิ่งกว่าตอนสนทนากับลูซิอุสผู้เข้มงวดของสภาเซเนทซะอีก ใครมันจะไปนึกว่านักแข่งรถชื่อดังระดับโลกจะมาทักเขาก่อน ว่าแต่…อีกฝ่ายรู้จักเขาได้ยังไงกันนะ


“โอ้ เยี่ยมเลย นายมาร่วมงานเทศกาลที่นิวโรมด้วย ตอนนั้นขอบใจมากนะที่ช่วยเม้นต์ให้กำลังใจ ไฟในใจพี่ลุกโชนจนได้รางวัลชนะเลิศเลยล่ะ”


แลร์รี่ยิ้มอารมณ์ดีแล้วตบไหล่เขาป้าบหนึ่งราวกับคนที่สนิทสนมกันมานานตามนิสัยคนอัธยาศัยดี วันนี้ชายหนุ่มมาในชุดสูทไม่เป็นทางการแบรนด์ดังสีแดงเฉดเดียวกับชุดเรซซิ่งสูท (ซึ่งแมคเคนซีเข้าใจว่าน่าจะเป็นสีนำโชคของเจ้าตัว) เสื้อเชิ้ตสีไวน์แดงปลดกระดุมช่วงอกสองเม็ดส่งให้ชายหนุ่มดูมีลุคขี้เล่นสไตล์หนุ่มเจ้าสำราญแต่ก็คงไว้ซึ่งความเรียบหรูในคราวเดียวกัน


ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะยังจำได้ นั่นแปลว่าแลร์รี่ค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดและเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนรอบตัวได้ดีทีเดียว


“ยินดีด้วยครับ ได้ข่าวว่าคุณเพิ่งลงแข่งขันที่สนามอาบูดาบีด้วยใช่ไหม“


สำหรับคนที่ชอบเรื่องรถแต่ไม่ถึงกับเป็นแฟนพันธุ์แท้กีฬาแข่งรถอย่างแมคเคนซีก็พอติดตามข่าวสารมาบ้าง ซึ่งสนามอาบูดาบี กรังปรีซ์ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก็ถือเป็นสนามสุดท้ายของปีนี้


”ใช่แล้ว แต่ก็ยังต้องซ้อมทุกวันไม่ให้ฝีมือตกอยู่ นี่พี่ก็เพิ่งกลับมาจากสนามซ้อมเลย หิวสุด ๆ“


พูดจบแลร์รี่ก็ฉก ‘ไก่ทอดเกาหลี’ จากจานในมือแมคเคนซีเข้าปากทันทีโดยไม่สนว่ามือไม้จะเลอะเทอะ ส่วนอีกมือก็หยิบไวน์ขาวจากบริกรที่เดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มไว้ด้วยแก้วนึง


“อร่อยมาก ได้กินของชอบตอนเหนื่อย ๆ นี่มันดีชะมัด!”


“ถ้าไม่รังเกียจ เอาไปทั้งจานเลยก็ได้ครับ ผมเพิ่งไปตักมา ยังไม่ได้ทาน”


เห็นคนหิวซ่กแล้วก็เอ็นดู แม้ว่าอีกฝ่ายจะอายุมากกว่าตนเองก็ตาม แมคเคนซีจึงยื่นจานอาหารให้


“โอ้ แต๊งค์กิ้วน้อง งั้นพี่ไม่เกรงใจล่ะนะ”


แลร์รี่กระดกไวน์จนหมดแก้วแล้ววางไว้แถวนั้นก่อนจะรับจานไก่ทอดจากหนุ่มอังกฤษมา เขารับประทานไปด้วยพูดคุยถึงการแข่งขันล่าสุดของตนเองที่เพิ่งผ่านมาไปด้วยอย่างออกรส


“ฮาย แมคซี่ ฉันกลับมาแล้ว”


“อุ๊บ!”


ดีนที่กลับมาจากการแลกของขวัญส่งเสียงทักทาย ไม่ใช่เพียงแค่เสียงเท่านั้น แต่มือซน ๆ ของอีกฝ่ายยังบีบบั้นท้ายเสียจนเขาหลุดเสียงร้องออกมา แต่ก็ทำได้เพียงแค่คาดโทษคนที่ยืนยิ้มเผล่ในใจ




“สวัสดีครับ คุณ…รุ่นพี่แลร์รี่ใช่ไหมถ้าผมจำไม่ผิด”


“ใช่แล้วครับ สวัสดี นายคงเป็นดีนสินะ คนที่โพสต์เน็คทาร์บ่อย ๆ แล้วก็ชอบอวดแฟนน่ะ“


คำทักทายแรกของแลร์รี่สำหรับดีนทำเอาแมคเคนซีหลุดขำ ดูท่าว่าพวกเขาคงถูกพูดถึงและเป็นที่รู้จักในเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็คงห้ามคู่รักเดมิก็อดคู่นี้ให้หยุดคลั่งรักและอวดแฟนในโลกออนไลน์ไม่ได้


พอมีดีนเข้ามาร่วมวงแล้วหัวข้อสนทนาก็เริ่มมีสีสันมากขึ้น ทั้งสามคนคุยกันถูกคอจนถึงขนาดว่าแลร์รี่ชวนพวกเขาไปดูการฝึกซ้อมที่สนามแข่งรถ ซึ่งทั้งดีนและแมคเคนซีก็สัญญาว่าจะไปอย่างแน่นอน จากนั้นแลร์ลี่ก็ขอตัวไปคุยกับเพื่อนกลุ่มอื่นต่อ ซึ่งพอดีกับที่ดนตรีในบอลรูมเริ่มบรรเลงเพลงช้าเปลี่ยนบรรยากาศให้ผู้คนในที่นั้นพากันจับคู่เต้นรำไปตามท่วงทำนองหวานซึ้งท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกของงานเลี้ยงยามค่ำ


“เรามาเต้นรำกันสักเพลงไหมที่รัก”


แมคเคนซียื่นมือไปตรงหน้าบุตรโพไซดอนผู้เป็นคนรัก จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเต้นรำกันคือตรงกองไฟเฮสเทียในค่ายฮาล์ฟบลัด และนั่นคือวันแรกที่พวกเขาตกลงคบกัน


“แปลกแฮะ คราวนี้นายเป็นคนเอ่ยปากชวนฉันงั้นเหรอ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”


ใบหน้างดงามตามสไตล์หนุ่มละตินส่งยิ้มให้ ฝ่ามือใหญ่วางลงบนมือบุตรเทพีแห่งม่านหมอกหลังตอบตกตลง ก่อนที่ทั้งคู่จะค่อย ๆ เคลื่อนกายไปตามจังหวะเพลง




รางวัลกิจกรรม

Lv Max รับ หินตีบวก 1 ก้อน / +50 พลังน้ำใจ / +50 ศรัทธา / 50 เกียรติยศ 

และ ไดเอทเป๊บซี 1 กระป๋อง


คะแนนความสนิทสนม

[NPC-41] ลูซิอุส คอร์เนลิอุส ฟูสกัส

ความสนิทสนมจากการพูดคุย   เพิ่มความสนิทสนม +5

ให้เครื่องดื่ม (ชาเอิร์ลเกรย์)   เพิ่มความสนิทสนม +10

เอฟเฟกต์กุหลาบสีน้ำเงินทอง   เพิ่มความสนิทสนม +5

เอฟเฟกต์มาลาแห่งอัสสัมชัญ   เพิ่มความสนิทสนม +10

รวมคะแนนความสนิทสนม : +30


[NPC-54] แลร์รี่

ความสนิทสนมจากการพูดคุย   เพิ่มความสนิทสนม +5

ให้ของที่ชอบที่สุด (ไก่ทอดเกาหลี)   เพิ่มความสนิทสนม +20

เอฟเฟกต์กุหลาบสีน้ำเงินทอง   เพิ่มความสนิทสนม +5

เอฟเฟกต์มาลาแห่งอัสสัมชัญ   เพิ่มความสนิทสนม +10

รวมคะแนนความสนิทสนม : +40

—Hakrabi

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-54] แลร์รี่ เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 4 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-41] ลูซิอุส คอร์เนลิอุส ฟูสกัส เพิ่มขึ้น 30 โพสต์ 4 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับ +50 เกียรติยศ +50 ความศรัทธา โพสต์ 4 วันที่แล้ว
หล่อครับ รักครับ 🥺💗  โพสต์ 4 วันที่แล้ว
โพสต์ 115502 ไบต์และได้รับ 56 EXP! [VIP]  โพสต์ 4 วันที่แล้ว

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +50 ย่อ เหตุผล
God + 50

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส
น้ำหอมเฮคาที
เหรียญนกฮูก
สร้อยคอดีไซน์เท่
กางเกงเดินป่า
ตำราเวทมนต์เฮคาที
เข็มกลัดเฮคาที
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
เกราะนักรบสีทองแดง
การควบคุมหมอกขั้นสูง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เรียกอาวุธจากหมอก
Hydro X
การปลุกผี
คบเพลิงเวท
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
นาฬิกาสปอร์ต
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x2
x7
x10
x10
x7
x2
x9
x6
x4
x3
x70
x4
x10
x6
x12
x6
x18
x3
x55
x9
x189
x14
x14
x12
x45
x18
x5
x5
x5
x2
x5
x2
x11
x20
x10
x10
x2
x2
x2
x4
x1
x3
x12
x6
x2
x5
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x13
x2
x5
x4
x2
x1
x16
x145
x192
x10
x6
x10
x10
x16
x55
x80
x1
x1
x1
x4
x3
x1
x1
x1
x1
x5
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้