New Rome University ⋘ มหาวิทยาลัยนิวโรม ⋙

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×





New Rome University


⋘ มหาวิทยาลัยนิวโรม ⋙






มหาวิทยาลัยนิวโรมตั้งตระหง่านกลางใจกรุงโรมใหม่ ดั่งอนุสรณ์สถานแห่งความรู้และจิตวิญญาณโรมัน ที่นี่ไม่ใช่เพียงสถาบันการศึกษา แต่เป็นศูนย์กลางแห่งปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมที่เปิดประตู ต้อนรับเหล่าเดมิก็อดและลูกหลานแห่งโรมันจากทั่วทุกมุมโลก สถาปัตยกรรมที่สะท้อนความยิ่งใหญ่และจิตวิญญาณ ตัวมหาวิทยาลัยเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสง่างามและขลังของสถาปัตยกรรมโรมันโบราณ ผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว หอระฆังสูงเสียดฟ้า ดึงดูดทุกสายตาด้วยหลังคามุงกระเบื้องสีแดง ที่ลาดเอียงชวนพิศวง เสมือนเสียงระฆังจะดังกังวานเพื่อปลุกจิตวิญญาณแห่งการเรียนรู้ในทุกเช้าของวันใหม่





ห้องสมุดแห่งปัญญา : สรวงสวรรค์สำหรับผู้ใฝ่รู้ ห้องสมุดกลางของมหาวิทยาลัยเปรียบได้กับวิหารแห่งปัญญา แสงอาทิตย์ลอดผ่านโดมทองอร่ามตกกระทบ พื้นหินอ่อนขัดมัน เผยให้เห็นภาพโมเสกสีสดที่เล่าเรื่องราวของเทพเจ้า นักปราชญ์ และวีรบุรุษแห่งประวัติศาสตร์โรมัน ชั้นหนังสือสูงตระหง่านอัดแน่นไปด้วยหนังสือ ม้วนกระดาษ และจารึกเก่าแก่ บางเล่มมีอายุนับพันปี แต่ยังคงรอการเปิดอ่านด้วยความศรัทธาในความรู้ ทางเดินสลัวที่มีแสงเทียนริบหรี่พาไปสู่โถงลับ ที่ซึ่งพื้นหินสลักชื่อวีรบุรุษผู้พลีชีพเพื่ออาณาจักร แต่ละก้อนหินเหมือนบทกวีแห่งการเสียสละ บ้างเลือนรางด้วยกาลเวลา บ้างดูสดใหม่เสมือนเป็นเครื่องเตือนใจ ว่าประวัติศาสตร์ยังคงดำเนินอยู่ ชีวิตนักศึกษา : ความเรียบง่ายที่งดงาม หอพักนักศึกษาสะท้อนความเรียบง่ายและอบอุ่น เตียงไม้โอ๊คคู่ที่แข็งแรงและข้าวของเครื่องใช้ ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศผ่อนคลายหลังจากวันแห่งการเรียนรู้อันเข้มข้น มหาวิทยาลัยที่หล่อหลอมทั้งนักรบและนักปราชญ์ มหาวิทยาลัยนิวโรมไม่ได้เป็นเพียงสถานศึกษา แต่คือสัญลักษณ์ของการหลอมรวมระหว่างความกล้าหาญและปัญญา ศูนย์รวมแห่งจิตวิญญาณและมรดกแห่งอาณาจักรโรมัน ที่นี่นักรบผู้กล้าจะถูกขัดเกลาให้กลายเป็นนักปราชญ์ผู้มุ่งมั่น สืบทอดและปกป้องเกียรติภูมิแห่งโรมันต่อไปอย่างภาคภูมิ





แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 11258 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-1-12 00:45
โพสต์ 2025-12-5 03:43:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Clementis เมื่อ 2025-12-5 03:49

Clementis
Haus of Ratigan • Daughter of Justitia • Legacy of Orcus
Place
มหาวิทยาลัยนิวโรม
Date and Time
วันที่ 3 ธันวาคม 2025 • 06.50 น.
Purpose
ภารกิจไกด์เดินชมรอบค่าย
NPC
วินเซนโซ เบอร์กาม็อตโตมาเวอริค วอห์น
มหาวิทยาลัยนิวโรมคือสถาบันการศึกษาที่คลีเมนทิสเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาแล้วหลายต่อหลายครั้งตามประสาเด็กที่เกิดและเติบโตมาในกรุงโรงใหม่ การที่มันตั้งตระหง่านอยู่บริเวณใจกลางหมายความว่าเธอย่อมต้องมีโอกาสได้เห็นผ่านตาอยู่บ้าง แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่คิดว่าจะได้ก้าวเข้ามาด้านใน อย่างน้อยก็ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้
คลีเมนทิสเดินตามวินเซนโซมาเรื่อย ๆ ไม่นานทั้งสองก็ย่างกรายเข้าสู่เขตสถาบันตามที่คนพี่สัญญาเอาไว้เมื่อเช้า ถึงอย่างนั้นจุดหมายแรกของพวกเขากลับกลายเป็นโรงอาหารเซเรสตามประสาคนที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตลอดวัน
แม้จะใช้เวลาในนั้นไม่มากนักแต่บรรยากาศอบอุ่นก็เป็นสิ่งที่สัมผัสถึงได้อย่างง่ายดาย เจ้าของคู่ดวงตาชวนฝันไม่มั่นใจนักว่านักเรียนที่เข้าศึกษาจะได้รับสิทธิ์ทานอาหารฟรีหรือสิทธิประโยชน์จะมาในรูปแบบส่วนลด แต่สำหรับคนนอกอย่างเธอและเบอร์กาม็อตโต การต้องจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อแลกกับอาหารเลิศรสก็นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมดีแล้ว
ติดก็เพียงแต่ว่าฝ่ายราทิแกนควรเรียนรู้ที่จะหักห้ามใจตัวเองและเลิกทำตัวเป็นทาสการตลาดมากกว่านี้ เพียงเห็นโปรโมชันไก่ทอดเกาหลีซื้อหนึ่งกล่องแถมหนึ่งมันก็กลายเป็นเมนูอาหารประจำวันของเธอทันที จนกระทั่งมื้อเช้าสิ้นสุดลงถึงได้ถูกตอกย้ำให้เข้าใจในความหมายของ ‘ตาใหญ่กว่าท้อง’
เพราะแบบนั้น เด็กสาวจึงจำเป็นต้องเดินถือกล่องไก่ทอดคลุกซอสที่ยังไม่ถูกแตะต้องไปไหนมาไหนตลอดการเดินทัวร์ในเขตมหาวิทยาลัย ครั้นจะชักชวนให้วินเซนโซรับไปทานก็ได้รับคำปฏิเสธจนทราบดีว่าหนนี้ก็คงไม่ใจอ่อน
คิดว่าจะต้องพกติดตัวทั้งวันเสียแล้ว จนกระทั่งกลิ่นหอมของมันนำพาเสียงท้องร้องจากทางขวามือ เรียกใบหน้าพริ้มเพราให้ผินมองเพื่อพบกับบุคคลไม่คุ้นหน้า ไม่ทราบนาม แต่คงจะอยากทานอาหารในกล่องกระดาษนี้มากเลยทีเดียว
“ฉันให้ค่ะ กล่องนี้ยังไม่ได้แตะ ถือซะว่าช่วยให้ฉันไม่ต้องเดินหิ้วมันก็ได้”
“หื้อ ?”
เธอเดินตรงไปยื่นอาหารใส่มือเขา ก้าวออกมาไม่ปล่อยโอกาสให้ปฏิเสธเนื่องเพราะกลัวจะต้องเมื่อยแขนไปมากกว่านี้ กลับกันคลีเมนทิสรีบรุดให้วินเซนโซพาทัวร์สถานที่ถัดไป
“รู้จักกันงั้นสิ”
ถึงอย่างนั้นคนอายุมากกว่าก็เอ่ยถามระหว่างเร่งฝีเท้า
“ไม่เลย”
“อ้าว นึกว่าเธอเป็นเพื่อนคนดังซะแล้ว”
“คนดัง ?”
หนนี้ความสงสัยเปี่ยมล้นในน้ำเสียงของบุตรีแห่งจัสติเทีย
“สมาชิกวง GETS!X ไง — มาเวอริค วอห์น นี่เธอไม่รู้จักจริง ๆ เหรอ”
“ฮึ”
แค่นเสียงในลำคอตอบกลับเพียงสั้น เท่านั้นก็เป็นอันรับทราบระหว่างสองคนที่กัดกันเก่งเสมือนเป็นพี่น้องคลานตามกันมาว่าเธอไม่เคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อนสักครั้งในชีวิต และดูจะไม่สนใจสักเท่าไหร่หากเหตุการณ์เมื่อครู่จะทำให้เธอดูเป็นเด็กประหลาดในสายตาของเขา
คลีเมนทิสไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้เจอเขาอีกครั้งง่าย ๆ หรอก หรือต่อให้เจอก็ไม่คิดว่าเขาจะจดจำเธอด้วยเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-38] มาเวอริค วอห์น เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-12-5 08:59
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-12-5 08:59
โพสต์ 8597 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-12-5 03:43
โพสต์ 8,597 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2025-12-5 03:43
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กำแพงแห่งคำสั่ง
สัมผัสแห่งความไม่สมดุล
ดาบสปาเธร์
หมวกเกราะกาเลีย
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
Hydro X
หนังสือนิยาย
กล่องดนตรี
เกมคอนโซลพกพา
ช่อดอกไม้
ต่างหูเงิน
ชุดเครื่องเพชร
เข็มทิศ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x2
x1
x3
x2
x1
x5
x5
x2
x1
x1
x30
x3
x5
x2
x1
x2
x1
x2
x1
x1
x10
x5
x1
x2
x2
x5
โพสต์ 2025-12-6 00:52:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Eloise เมื่อ 2025-12-6 00:54





วันที่ 5 ธันวาคม 2025
เวลา 08.00 - 16.00 
น.



แสงแดดยามเช้าตรู่ของนครนิวโรมสาดส่องลงมากระทบกลุ่มหมอกบางเบาที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือผืนหญ้าสีเขียวขจี เสมือนเป็นม่านต้อนรับยามอรุณรุ่งของมหาวิทยาลัยนิวโรม อาคารต่าง ๆ ที่มีสถาปัตยกรรมโรมันโบราณอันสง่างามนั้นตั้งตระหง่านท้าทายกาลเวลา ราวกับถูกยกมาจากยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิโรมัน ผสานกับความทันสมัยที่กลมกลืนอย่างลงตัว หอระฆังสูงเสียดฟ้า ซึ่งมีหลังคามุงกระเบื้องสีแดงลาดเอียงดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ชวนให้จิตใจของผู้พบเห็นบังเกิดความรู้สึกสงบและตื่นเต้นไปพร้อมกัน

เอโลอิสก้าวเท้าเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัยด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความมุ่งมั่นและความประหม่าในยามเช้าตรู่ ที่นี่ไม่ใช่แค่สถาบันการศึกษา แต่เป็นศูนย์กลางแห่งปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมที่เปิดประตูต้อนรับเหล่าบุตรแห่งทวยเทพทั้งกรีกและโรมันจากทั่วทุกมุมโลก เธอตรงไปยังจุดที่ตั้งของกระดานประกาศขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนสีขาวนวล ซึ่งรายชื่อของผู้เข้ารับการสอบ DSTOMP ในวันนี้ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ

นิ้วเรียวของเอโลอิสไล่ผ่านรายชื่อนับสิบอย่างใจจดใจจ่อจนกระทั่งสายตาไปสะดุดเข้ากับชื่อของตนเอง หัวใจของเธอเต้นเร้าราวกับเสียงกลองศึกที่ประโคมขึ้นอย่างเร่งรีบ ท้องไส้ปั่นป่วนจนรู้สึกคล้ายมีผีเสื้อนับร้อยตัวโบยบินอยู่ภายใน เธอพยายามสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อควบคุมความรู้สึกที่กำลังตีรวนภายใน

ความกังวลกัดกินใจเธออย่างเงียบ ๆ ตลอดช่วงเวลาของการเตรียมตัวสอบ DSTOMP ที่แสนจะหฤโหดนี้ เธอเป็นคนที่มีภาวะสมาธิสั้น ความตั้งใจที่จะทุ่มเทอ่านตำราและบทความอันซับซ้อนจึงมักจะถูกบั่นทอนลงอยู่เสมอ เพียงแค่เสียงนกร้องจากนอกหน้าต่าง หรือการเหลือบไปเห็นเศษฝุ่นที่เต้นระบำในลำแสงอาทิตย์ก็เพียงพอที่จะดึงความสนใจของเธอให้เตลิดเปิดเปิงไปไกลแล้ว การติวสอบจึงกลายเป็นการต่อสู้กับจิตใจตนเองเป็นหลัก จนหลายครั้งเธอต้องว่อกแว่กหาสิ่งอื่นทำจนลืมเวลาอ่านหนังสือไปเสียสนิท 

"หวังว่าฉันจะเตรียมตัวมาดีพอนะ”

เมื่อถึงเวลาที่กำหนด เอโลอิสเดินเข้าไปในอาคารหลักอันโอ่อ่า ซึ่งภายในตกแต่งด้วยเสาหินอ่อนแกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง และเพดานสูงตระหง่าน การเดินเข้าไปในห้องสอบทำให้เธอยิ่งรู้สึกกดดัน ห้องนั้นกว้างขวางและสว่างไสว โต๊ะไม้โอ๊กเก่าแก่จัดวางเป็นแถวอย่างเคร่งครัด เธอค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่ง ณ ตำแหน่งที่กำหนดตามหมายเลขสอบ

ไม่นานนักหลังจากผู้เข้าสอบทุกคนนั่งประจำที่แล้ว ประตูห้องสอบก็เปิดออกอีกครั้ง และผู้ที่ก้าวเข้ามาก็คือเทพอะพอลโล เขาก้าวเข้ามาอย่างมั่นใจด้วยท่าทางมั่นหน้ามั่นโหนกเก็กหล่อสุดฤทธิ์ให้สมกับเป็นเทพบุตรรูปงามแห่งโอลิมปัส แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาหล่อเหลาบาดใจจริง ๆ เส้นผมสีทองอร่ามรับกับรัศมีแห่งแสงอาทิตย์ที่ดูเหมือนจะสว่างกว่าปกติรอบกาย เครื่องแต่งกายของเขาสะอาดและดูดีอย่างไร้ที่ติ เป็นที่แน่ชัดว่าเขาคือผู้คุมสอบประจำวันนี้

เทพอะพอลโลยกมือขึ้นเล็กน้อย คลื่นพลังงานสีทองอ่อน ๆ ก็แผ่ซ่านไปทั่วห้อง ก่อนที่กระดาษข้อสอบปกสีงาช้างหนาเตอะจะปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้เข้าสอบแต่ละคนอย่างนุ่มนวล โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องเดินแจกให้เสียเวลาแม้แต่น้อย

เอโลอิสรีบพลิกกระดาษข้อสอบแผ่นแรกด้วยมือที่สั่นเทา พริบตาที่สายตาของเธอได้กวาดอ่านคำถาม ข้อความแรกที่เธอสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนคือ…ข้อสอบโคตรยากเลย!

คำถามแรก ๆ คือบทกลอนโบราณที่ให้ตีความหมายและวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และที่ร้ายกาจที่สุดคือคำถามเชิงฟิสิกส์ควอนตัม! ข้อสอบชุดนี้ไม่ได้วัดแค่ความรู้ แต่เป็นการทดสอบทักษะในทุกด้านอย่างแท้จริง ทั้งสติปัญญา ความรู้เชิงมนุษยศาสตร์ และความเข้าใจในปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ระดับสูง

"เริ่มจับเวลาสอบได้!" เสียงทุ้มนุ่มทว่าทรงอำนาจของเทพอะพอลโลดังกังวานขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มต้น

การสอบของเอโลอิสจึงกลายเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างสมองที่ต้องการสมาธิกับจิตใจที่ว่อกแว่กของตนเอง ข้อสอบทั้งหมดเป็นแบบข้อเขียนล้วนที่ต้องการการอธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อให้มั่นใจว่าได้คะแนนครบถ้วน เธอใช้เวลาในการตอบคำถามแต่ละข้ออย่างเนิ่นนานเป็นพิเศษ เพราะต้องพยายามรวบรวมความรู้ที่กระจัดกระจายอยู่ในสมองให้กลับมารวมกันอย่างเป็นระบบเพื่อกลั่นกรองออกมาเป็นประโยคที่สละสลวยและได้ใจความ

ช่วงเวลาอันยาวนานแห่งความเงียบสงบภายในห้องสอบถูกแบ่งออกเป็นช่วงที่นั่งเขียนอย่างตั้งใจ และช่วงที่นั่งเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างอย่างช่วยไม่ได้ เธอประเมินคร่าว ๆ ว่าน่าจะใช้เวลาไปกับการนั่งเหม่อจ้องมองผนังห้อง หรือแม้แต่พยายามถอดรหัสลวดลายบนโต๊ะไม้ไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละห้าสิบ ของเวลาสอบทั้งหมด เมื่อเหลือเวลาเพียงน้อยนิดเธอก็รีบกลับมาเขียนคำตอบอีกครั้งโดยอาศัยความรู้ที่พอจะติวมาได้ผสมผสานกับสัญชาตญาณและโชคลางเล็ก ๆ น้อย ๆ เธอตั้งใจว่าจะต้องเขียนให้เต็มและครบถ้วนที่สุด

เอโลอิสใช้เวลาในการทำข้อสอบอย่างคุ้มค่า  เธอเป็นคนสุดท้ายที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อส่งกระดาษคำตอบในขณะที่เสียงระฆังดังเป็นสัญญาณหมดเวลาดังขึ้น เธอยื่นข้อสอบที่เต็มไปด้วยลายมือของตนเองให้แก่เทพอะพอลโลด้วยความรู้สึกโล่งอกอย่างที่สุด แต่ก็ไม่คิดว่ากระบวนการตรวจข้อสอบของเทพเจ้าจะรวดเร็วเหนือจินตนาการขนาดนั้น ทันทีที่ข้อสอบออกจากมือของเธอและถูกวางลงบนโต๊ะผู้คุมสอบ เทพอะพอลโลก็ส่งยิ้มบาง ๆ ที่มาพร้อมกับใบกระดาษแข็งสีครีมแผ่นหนึ่งที่ลอยมาหยุดตรงหน้าของเอโลอิส

ใบสรุปคะแนนสอบถูกส่งมาถึงในพริบตา เอโลอิสรับมันไว้แบบแทบไม่เชื่อสายตาและค่อย ๆ ก้มลงมองตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษอย่างช้า ๆ

DSTOMP: 92 / 100 คะแนน

รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอทันทีอย่างห้ามไม่อยู่ 92 คะแนน! เป็นคะแนนที่น่าประทับใจมากสำหรับเด็กที่มีปัญหาเรื่องสมาธิอย่างเธอ นั่นหมายความว่าเธอสอบผ่านเกณฑ์ที่ต้องใช้เพื่อยื่นเอกสารเข้ามหาวิทยาลัยนิวโรมในส่วนที่ยากที่สุดไปได้แล้ว! ความรู้สึกที่ท่วมท้นไปด้วยความสุขและความสำเร็จนี้ทำให้เท้าของเธอแทบจะลอยได้

เอโลอิสเดินออกจากห้องสอบและจากอาคารหลักอย่างร่าเริง ในที่สุดเธอก็ประสบความสำเร็จในการเอาชนะความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งไปได้แล้ว ความฝันที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันอันศักดิ์สิทธิ์แห่งโรมใหม่ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น




ผลการสอบ DSTOMP


@God 




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 19457 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-6 00:52
โพสต์ 19,457 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม  โพสต์ 2025-12-6 00:52
โพสต์ 19,457 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เรือมินิบานาน่า  โพสต์ 2025-12-6 00:52
โพสต์ 19,457 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-12-6 00:52
โพสต์ 19,457 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เกราะไทเทเนียม  โพสต์ 2025-12-6 00:52
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม
เรือมินิบานาน่า
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ค้อนไฟ
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
กลศาสตร์
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x2
x18
x1
x4
x16
x1
x1
x3
x5
x5
x2
x4
x50
x1
x33
x1
x1
x1
x273
x2
x22
x7
x8
x2
x9
x10
x2
x52
x17
x31
x1
x1
x2
x5
x2
x8
x13
x2
x26
x7
x7
x7
x6
x44
x52
x3
x4
x11
x9
x9
x26
x18
x14
x1
x3
x6
x1
x11
x2
x2
x5
x1
x15
x5
x7
x11
x7
x15
x10
x15
x7
x25
x6
x3
x26
x1
x8
x3
x11
x69
x3
x2
x6
x10
x7
x5
x4
x5
x59
x1
x7
x25
x2
x48
x458
x24
x4
x185
x24
x1
x10
x11
x18
x7
x3
x1
x1
x2
x2369
x1
x39
x1
x1
x7
x1
x11
x3
x1
x1
x808
x25
x1
x1
x1
x3
x1
x198
x16
x16
x2
x14
x88
x13
x59
x391
โพสต์ 2025-12-6 01:57:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 05 เดือน ธันวาคม ปี 2025

ช่วงเย็น เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ หน้ามหาลัยนิวโรม


แสงของยามเย็นคลี่ตัวอาบลานกว้างหน้ามหาวิทยาลัยนิวโรม ด้วยสีทองอบอุ่น เสียงน้ำพุที่ไหลรินกลางจัตุรัสกลมกลืนกับเสียงหัวเราะของเหล่านักศึกษาเดมิก็อดที่ทยอยเดินออกจากตึกเรียน สถาปัตยกรรมโรมันโบราณตระหง่านสูงสง่า เสาหินสีขาวสะท้อนแสงอาทิตย์ที่ใกล้ลับขอบฟ้า ผสมผสานกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์และชีวิตสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างน่าทึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศนั้น มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงบันไดทางขึ้นหน้ามหาวิทยาลัย โมนีก้าอยู่ในชุดโค้ทยาวสีงาช้างพริ้วเบา ๆ ตามลมหนาว ดวงตาสีเทาเงินมองไปรอบ ๆ อย่างประหม่าเล็กน้อย เธอไม่ได้เข้าใจนักว่าทำไมจู่ ๆ เลสเตอร์ถึงส่งข้อความมาว่า รอผมที่หน้ามหาลัยนะ เซนจูเรียน ผมคุมสอบเสร็จแล้ว จะออกไปหาเดี๋ยวนี้


มือของเธอเย็นเฉียบแต่กลับอบอุ่นขึ้นนิดเมื่อจับไอแพดไว้แน่น ความงุนงงผสมกับความตื่นเต้นบางอย่างที่เธออธิบายไม่ถูก จนกระทั่ง… มีบางอย่างเกิดขึ้นเป็นแสงทองจ้าสาดวาบจากฟากฟ้า ราวกับดวงอาทิตย์เพิ่งตกลงมาจากสวรรค์ เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบลาน ผู้คนต่างชะงักเมื่อรัศมีแห่งเทพแผ่กระจายกลางอากาศ เงาของตึกสูงสะท้อนประกายแสงที่อาบไล้ท้องฟ้าให้กลายเป็นทองระยับ และท่ามกลางแสงนั้น… มีร่างหนึ่งกำลังเดินลงมาช้า ๆ เขาไม่ใช่เลสเตอร์ แต่เป็นอะพอลโล เทพเจ้าผู้เปี่ยมไปด้วยแรงดึงดูดอันรุนแรง


เสื้อคลุมหนังราคาแพงพร้อมกับกล้ามเนื้อแผงอกและหน้าท้องแน่นเรียงราวกับงานแกะสลักของประติมากรกรีกที่เผลอลอบเห็นได้ไกล ๆ พร้อมกับผิวของเขามีสีแทนสวยดั่งชายหนุ่มจากชายหาดเบย์วอช เส้นผมสีทองบริสุทธิ์ทอประกายระยับอย่างที่แม้แต่ทองคำยังดูหม่นเมื่อเทียบ ดวงตาสีฟ้าครามเจิดจ้าจนแทบทำให้คนมองหลงลืมโลกไปชั่วขณะ และเขา…คือความหล่อที่ไม่อาจนิยามด้วยถ้อยคำใดได้ ไม่ใช่ความงามของมนุษย์ แต่คือความสมบูรณ์แบบที่อันตราย ความหล่อเหลาที่สามารถฆ่าได้ด้วยการสบตาเพียงครั้งเดียว รอยยิ้มที่มุมปากของเขานั้นอบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์แต่ก็ร้ายกาจพอจะละลายสติของใครได้ในวินาทีเดียว


ชั่ววินาทีนั้นโมนีก้าชะงักทั้งร่าง ตาเบิกค้าง ลมหายใจติดขัดในลำคอ เธอไม่เคยเห็นเขาในร่างเทพจริง ๆ มาก่อน และเมื่อเห็น มันก็แทบจะมากเกินกว่าหัวใจมนุษย์จะรับไหว 


อะพอลโลเดินตรงเข้ามาหาเธออย่างสง่าผ่าเผย แสงอ่อนที่ล้อมรอบเขายังคงกระพริบระยับราวกับเขายังแบกรัศมีของดวงอาทิตย์ติดมาด้วยทุกย่างก้าว และรอยยิ้มที่มีพลังพอจะทำให้ศาสนิกชนเปลี่ยนศาสนาได้ภายในห้าวินาที


“เป็นยังไงบ้างครับ มิวส์ของผม?” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยขึ้น พร้อมแววตาที่สะกดโลกให้หยุดหมุน “คุณชอบเลสเตอร์ที่ขี้บ่น... หรือคุณชอบเทพเจ้าแห่งแสงอาทิตย์ที่หล่อจนสามารถหยุดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ด้วยรอยยิ้มมากกว่ากัน? ไหนบอกผมหน่อยสิ... ว่าคุณคิดถึงหนุ่มคนไหนมากกว่ากันดี”


โมนีก้าชะงักในทันที ไม่ใช่เพราะหัวใจเต้นแรง แต่เพราะปริมาณความหลงตัวเองที่มากเกินความจำเป็น เธอค่อย ๆ ใช้มือป้องตาข้างหนึ่งด้วยสีหน้าที่บ่งชัดว่ากำลังข่มอารมณ์ “อะพอลโล... คุณกลับเป็นเลสเตอร์เดี๋ยวนี้นะ” เธอกัดฟันพูดเสียงต่ำ น้ำเสียงนั้นไม่ดัง แต่เต็มไปด้วยแรงกดดันแบบคนที่เคยออกรบ “นายกำลังทำตัวเป็นป้ายประกาศเดินได้ อยู่กลางลานของมหาวิทยาลัยนิวโรมนะ!” เธอกวาดสายตาไปรอบ ๆ นักศึกษาเดมิก็อดบางคนเริ่มยกมือถือขึ้นถ่ายรูป บางคนทำท่าจะคุกเข่า บางคนเริ่มร้องเพลงสรรเสริญเล็ก ๆ ซึ่งทำให้โมนีก้าอยากหายตัวไปตรงนั้น


เธอหันกลับมาหาเขา กระซิบเสียงกร้าว “ทุกคนที่นี่รู้ว่านายมาคุมสอบในฐานะอะไรฮะ แต่ตอนนี้นายมาในร่างเทพกรีกเต็มยศแบบนี้... พวกเขาจะเข้าใจผิดว่าเทพอะพอลโลกำลังเต๊าะสาวที่มีแฟนแล้วต่างหาก!”


อะพอลโลนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาสีฟ้าครามที่มักจะทอแสงแห่งความมั่นใจกลับไหววูบขึ้นเล็กน้อย เขาเผลอกะพริบตาช้า ๆ ก่อนจะตอบเสียงอ่อยแต่ก็ยังพยายามรักษาฟอร์มไว้เต็มที่ “อ...อะไรนะครับ?” เขาเริ่มพูดช้าลง เหมือนกำลังตั้งหลัก “คุณกำลังปฏิเสธ... ความหล่อเหลาที่สมบูรณ์แบบนี้เหรอ? ร่างนี้? ร่างที่ได้รับการสรรเสริญนับพัน ๆ ปี ร่างที่กวีตั้งแต่ยุคสมัยแรกเขียนบทสรรเสริญให้จนกระดาษไหม้เพราะความร้อนของผม... คุณจะให้ผมซ่อนมันไว้จริง ๆ เหรอครับโมนีก้า?”


โมนีก้าเท้าเอว หรี่ตามองเขาเหมือนกำลังดูพ่อบ้านที่เพิ่งทำครัวพัง “ใช่ค่ะ ฉันกำลังปฏิเสธมันอยู่ตอนนี้เลย คุณเทพจะได้หยุดทำให้ชาวนิวโรมหมดสติทีละคน”


“แต่ผมไม่ได้เต๊าะใครแล้วนะ!” เขารีบแย้ง สีหน้าจริงจังอย่างคนที่เพิ่งโดนกล่าวหาเรื่องใหญ่ “ผมสัญญาแล้วนี่ว่าไม่ยุ่งกับใครอีกนอกจากคุณ ผมรักษาสัญญานะครับ! ตอนนี้ผมแค่... ดูดีไปหน่อยเองพวกเขาต้องยอมรับว่าทนความร้อนแรงและหน้าตาของผมไม่ได้เอง


โมนีก้ายกมือขึ้นปิดหน้า ถอนหายใจแรง “นายไม่ได้ดูดีไปหน่อย นายกำลังเรืองแสงจนคนจะกราบอยู่แล้ว! เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส!”


อะพอลโลชะงักกับการเรียนชื่อเต็มมันบ่งบอกว่าตอนนี้โมนีก้าพร้อมที่จะดึงหูเขาให้ร่างเทพเจ้าแน่ ๆ แม้จะหล่อขนาดไหนก็ตาม จนเขาไหวไหล่พลางหัวเราะน้อย ๆ แบบยอมจำนน “โอเค โอเค เข้าใจแล้วครับ มนุษย์ทนพลังความงหล่อ รวย สปอร์ต โอลิมปัส ระดับผมไม่ได้จริง ๆ” เขาดีดนิ้วเบา ๆ แสงทองที่ล้อมรอบตัวค่อย ๆ จางหาย กล้ามเนื้อแน่นกลับกลายเป็นรูปร่างของชายหนุ่มผมน้ำตาลฟู ๆ แต่โดนเซ็ตให้ดูดีในเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าเรียบธรรมดาแต่มีประกายความมั่นใจแบบคนที่รู้ว่าตัวเองหล่ออยู่ดี และแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมไปมีห่วงยางและไม่แยกจากซิกแพกแปดลูกของเขาอีกเด็ดขาด


เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส ยืนอยู่ตรงหน้าเธออีกครั้งในเวอร์ชันมนุษย์ที่ดูเหมือนนักร้องนำวงอินดี้มากกว่าเทพเจ้า เขายกมือเสยผมแล้วพึมพำยิ้ม ๆ “พอใจหรือยังครับ มิวส์ของผม”

โมนีก้ากอดอก หรี่ตา “มากกว่านี้อีกนิด ถ้านายหุบปากได้ด้วยจะดีมาก”

เลสเตอร์หัวเราะเบา ๆ แววตาเขายังมีแสงระยับของแสงอาทิตย์ซ่อนอยู่ “ก็เพราะคุณนี่แหละ ที่ทำให้ผมอยากพูดตลอดเวลา” ทันทีที่ได้ยินคำนั้น โมนีก้าก้าวถอยหลังเล็กน้อยเพื่อสำรวจร่างของเลสเตอร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาอยู่ในร่างมนุษย์แล้วก็จริง แต่ความเข้มข้นในแววตาสีฟ้าครามนั้นยังไม่อาจหลอกใครได้เลย มันคือแสงของเทพเจ้าผู้คุ้นเคยกับการได้รับการบูชา ไม่ใช่เพียงจากผู้คนแต่จากทั้งจักรวาลที่โคจรภายใต้แสงของเขา


เธอมองเขาในเสื้อแจ็กเก็ตหนังและเชิ้ตลายสก็อตแบบธรรมดา ๆ แต่พลังที่ซ่อนอยู่ในร่างนั้นกลับเหมือนพายุใต้ท้องฟ้า เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย รอยยิ้มเจ้าเสน่ห์เริ่มปรากฏ


“ไหน… คุณอยากให้ผมไปที่ไหนดีครับ เซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2” เสียงของเขาเรียบและมั่นใจเหมือนคนที่ชินกับการเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง “ผมมีเวลาอีกไม่นาน เพราะวันนี้ผมเหนื่อยทั้งวันกับการทรมานนักเรียนที่กำลังสอบเข้าด้วยความฉลาดเฉลียวของผม โดยเฉพาะลูกสาวเฮเฟตัสเธอเป็นคนที่น่าทึ่งนะ ได้ตั้งเก้าสิบสองคะแนน ผมนี้มองไม่ผิดคนจริง ๆ” เขาพูดพลางยักคิ้วขึ้นด้วยท่าทีภาคภูมิใจราวกับเพิ่งสร้างงานศิลป์ระดับโลก โมนีก้าถอนหายใจยาวเธอกำลังจะอ้าปากเสนอให้ไปนั่งดื่มช็อกโกแลตร้อนในโรงอาหารเพื่อให้เขาหยุดพล่ามเสียที แต่ก่อนที่เธอจะได้หายใจเข้า เลสเตอร์ก็ชิงขยับเข้ามาเสียก่อน


มือของเขาจับข้อมือเธอเบา ๆ แล้วดึงเข้ามาใกล้จนไม่มีช่องว่างระหว่างกัน กลิ่นกายอุ่นจัดของเขาแผ่เข้ามาครอบงำทุกประสาทสัมผัส เสียงรอบตัวเริ่มจางลงราวกับโลกทั้งใบเหลือเพียงสองคน เขาก้มลงเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าครามสะท้อนเปลวไฟจากโคมถนนเป็นประกาย “ผมมีทางเลือกที่ดีกว่านั้นให้คุณ มิวส์ของผม” เขากระซิบ เสียงทุ้มต่ำลากยาวอย่างจงใจจนแทบกลืนไปกับลมหายใจของเธอ


ทันทีที่ได้ยินคำนั้นโมนีก้าก็หัวใจเต้นแรงขึ้นทันที เธอพยายามรักษาสีหน้าให้ปกติ แต่ไม่อาจปิดบังความสั่นในปลายนิ้วได้เลย


“ฟังผมให้ดีนะครับ โมนีก้า” เขากล่าวต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นทุกวินาที “ผมทนเห็นคุณเหนื่อยจากการจัดงานบรูมาเลียไม่ได้อีกแล้ว และผมก็ทนไม่ได้ที่จะต้องจูบคุณแบบเร่งรีบหลังเวที หรือให้ทหารโรมันมาตะโกนขัดจังหวะเราอีก ผมอยากจะใช้เวลาที่เป็นของเรา...ของเราจริง ๆ” คำพูดนั้นเหมือนแสงไฟแผ่วในยามค่ำ ละมุนแต่แรงพอจะสะเทือนในอกของเธอ เขาจ้องเธอแน่วนิ่ง สายตานั้นทั้งอบอุ่นและร้อนแรงในเวลาเดียวกัน เนตรแห่งฟีบี้ของเธอส่องประกายขึ้นโดยสัญชาตญาณ และสิ่งที่มันสะท้อนกลับมาคือความจริงใจล้วน ๆ แต่ดันแฝงความร้อนแรงชนิดเผาไหม้


“ดังนั้น...” เลสเตอร์ยิ้มบาง เจือด้วยประกายเจ้าเล่ห์ที่ทำให้คนมองต้องลืมหายใจ “ผมได้จัดเตรียมสิ่งที่เรา คู่ควร เอาไว้แล้ว” เขาหยุด เว้นช่วงให้คำพูดนั้นจมลึกลงในจิตใจเธอ ก่อนจะพูดต่อช้า ๆ “หลังงานบรูมาเลียจบลง... เราจะหนีไปฮาวายกันครับ”


“ฮาวาย? เดี๋ยว—นายหมายถึง... จริงจังเหรอ?” โมนีก้าตาอย่างไม่เชื่อหู


“จริงจังที่สุดในชีวิตที่หล่ออมตะของผมเลยครับ” เขาตอบอย่างมั่นคง แววตาไม่ไหวสั่นแม้แต่น้อย “ผมจองบังกะโลส่วนตัวริมชายหาดมาคาเลน่าไว้แล้วที่เกาะเมาวี สามวันเต็ม มันเป็นวิลล่าที่มีสระอินฟินิตี้ ห้องครัวที่คุณไม่ต้องแตะต้อง อ่างน้ำวนที่มองดาวได้... และเหนือสิ่งอื่นใด มันคือที่ที่ไม่มีใครจากค่ายจูปิเตอร์หรือสภาเซเนทจะตามเราไปถึงได้”


มือของเขาเลื่อนขึ้นมาจากข้อมือถึงหลังมือ จูบลงอย่างอ่อนโยนแต่ยาวนานจนน่ารำคาญใจ ความอบอุ่นจากริมฝีปากนั้นทำให้เธอเหมือนถูกดึงออกจากความจริงเข้าสู่โลกของเขาเพียงลำพัง “โมนีก้า...” เขาเอ่ยชื่อเธอด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนเธอขนลุก “ผมต้องการสามวันนั้น เพื่อเรียนรู้นิยามใหม่ของคำว่าใกล้ชิด ผมอยากให้คุณได้พักจริง ๆ และผมอยากใช้ทุกวินาทีที่มี... ชดเชยทุกนาทีที่ผมต้องอยู่ห่างจากคุณ ที่คุณทำให้ผมทรมารทั้งเป็นด้วยช่วงเวลาที่เร้าร้อนเหมือนโลกเดือด ด้วยวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความรักของเรา”


“ที่นั่น...” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคำสาปหวาน “จะไม่มีใครมาขัดจังหวะผมได้อีกแล้วนะครับ และผมก็จะไม่มีข้ออ้างใด ๆ ที่จะหยุดตัวเองอีก คุณเข้าใจความหมายของผมใช่ไหม... เซนจูเรี่ยน?” จากคำพูดนั้นโมนีก้ารู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา เธออยากพูด อยากตอบ อยากขยับหนี แต่ร่างกายกลับเหมือนถูกตรึงไว้ด้วยแรงดึงดูดที่ไม่มีวันต้านได้ ใบหน้าเธอเห่อร้อน แก้มเปลี่ยนสีราวกับเปลวเพลิงที่ลามช้า ๆ


“...เลสเตอร์...” จังหวะที่เสียงของโมนีก้านั้นเริ่มสั่นเข้าทุกทีไฟในลานมหาวิทยาลัยนิวโรมเริ่มส่องแสงอ่อนลงยามค่ำ รัศมีทองจากหลอดแก๊สสว่างสะท้อนกับหินอ่อนสีขาวเรียบ ดึงเงาของทั้งสองคนให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น เลสเตอร์ยังไม่ผละออกจากโมนีก้า เขายังคงยืนประชิดจนเธอได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นชัดเจนภายใต้เสื้อแจ็กเก็ตหนัง เสียงหายใจของทั้งคู่สอดประสานกันในจังหวะอันอันตราย


แต่ในจังหวะที่ลมหายใจร้อนแรงนั้นกำลังจะกลืนกินความเงียบรอบตัว เสียงรองเท้าหนังเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมแสงส้มอ่อนจากกองไฟเล็ก ๆ ที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างโรงหลอมของสาขาวิศวกรรมเวท ลมหายใจของโมนีก้าสะดุด เธอชะงักพร้อมกับเลสเตอร์ที่หันไปช้า ๆ


@Eloise 


หญิงสาวผมแดงในเสื้อยืดสีส้มสดของค่ายฮาล์ฟบลัดปรากฏตัวขึ้นกลางแสงนั้น เธอมีผิวขาวอมชมพูจากเปลวไฟในโรงตีเหล็กที่ยังไม่มอด ใบหน้าคมคาย ตาคมเข้มขับกับสีผมแดงสดที่สะท้อนเปลวไฟจนดูราวกับเปลวเพลิงที่มีชีวิต เงาของเธอทอดยาวบนพื้นหินราวกับภาพวาด


เลสเตอร์ยิ้มขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่าย “อ้อ! ผมพึ่งพูดถึงเมื่อกี้ไปนี้เอง มาพอดีเลยนะเนี้ย โชคชะตาชะมัด” เขาหันกลับมาทางโมนีก้า ก่อนจะแนะนำอย่างลวก ๆ แต่เต็มไปด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “โมนีก้า... นี่คือ เอโลอีส เพจ ลูกสาวของเฮเฟตัส เธอคือคนที่ทำผมต้องคิดถึงคุณเกินไปเพราะออกข้อสอบช้าเป็นคนสุดท้ายของห้องโน้นน่ะ”


@Eloise 


ในจังหวะนั้นดวงตาสีเทาเข้มของเธอไล่จากใบหน้าแดงซ่านของโมนีก้าไปถึงเลสเตอร์ที่ยืนอยู่ใกล้เกินระยะคนรู้จัก ก่อนจะเอียงศีรษะเล็กน้อยอย่างคนที่เข้าใจทุกอย่างโดยไม่ต้องถามคำใดออกมา เลสเตอร์ยิ้มบาง ๆ เหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะผละตัวออกจากโมนีก้าเพียงนิดเดียว แต่ยังคงใช้สายตาไล่ไปตามริมฝีปากเธออย่างเปิดเผยจนหญิงสาวแทบอยากมุดพื้นหนี “ผมเข้าใจครับว่าคุณพูดไม่ออก” เขากระซิบเสียงทุ้มต่ำ ใบหน้าโน้มเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนของเขาสัมผัสผิวเธออีกครั้ง “แต่โปรดจำไว้นะครับ... ผมจองที่นอนไว้แค่สำหรับสองคนเท่านั้น และวิวพระอาทิตย์ขึ้นจากเตียงที่นั่น... มันคุ้มค่ากว่าวิวบนโอลิมปัสเป็นร้อยเท่าเลยล่ะ”


คำของเขาทำให้โมนีก้าชะงักใบหน้าร้อนผ่าวราวกับโดนลนไฟเพราะเขากล้าพูดต่อหน้าคนอื่นขนาดนี้ได้ยังไง แบบนี้มันก็เหมือนชีชัดว่าเขาคืออะพอลโลงั้นสิ โว้ยยย ในจังหวะนั้นเลสเตอร์ปล่อยข้อมือของเธอช้า ๆ แต่ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบา ๆ ที่ริมฝีปากล่างของเธอเป็นการสัมผัสที่แผ่วเหมือนกลีบดอกไม้แต่กลับแฝงพลังพายุทะเลร้อนแรง จนโมนีก้าสะท้านทั้งตัวในทันที


“ผมต้องไปแล้วครับ” เขาถอนหายใจอย่างเสียดาย “หน้าที่ของเทพเจ้าที่ผมเกลียด แต่มันก็เป็นข้ออ้างที่ดีพอให้ผมได้มาคุมสอบ... และได้ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจแบบนี้ให้คุณ” เขาถอยหลังหนึ่งก้าว แต่สายตายังไม่ละจากเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว ก่อนจะดึงแว่นกันแดดสีชาเข้มขึ้นมาสวม ปิดบังดวงตาสีฟ้าครามไว้ใต้เลนส์ แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากกลับชัดเจนกว่าเดิม “อ้อ... อีกเรื่องครับ เซนจูเรียนของผม” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนโมนีก้าได้กลิ่นแสงแดดและกลิ่นหอมอ่อนของซิตรัสจากตัวเขา “อย่าลืมเคลียร์ตารางงานให้ดีที่สุดนะครับ... เพราะผมได้ยินมาว่าคลื่นที่ฮาวายซัดแรงมาก และผมไม่อยากให้คุณต้องยืนตรงตลอดสามวันหรอก”


น้ำเสียงที่ลากยาวและแฝงแววตาพราวทำให้โมนีก้าแทบอยากหายไปตรงนั้น “เลสเตอร์!” เธอกัดฟัน แต่เขาเพียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ พลางถอยหลังอย่างผู้ชนะ


“แล้วเจอกันครับ แต่งานบรูมาเลียผมไปหาคุณแน่นอนเดี๋ยวไปรับนะครับมิวส์ของผม แล้วก็เอโลอีสบาย ฝากดูแลแฟนผมด้วยนะ” เขาโบกมือเล็กน้อยก่อนหมุนตัวไปยังรถ Maserati สีแดงเชอร์รี่ที่เพิ่งปรากฏขึ้นตรงริมถนนด้วยกลิ่นควันบาง ๆ และเสียงเครื่องยนต์คำราม เขาเปิดประตูขึ้นไปนั่ง แล้วลดกระจกลงมาพร้อมยักคิ้วให้โมนีก้าและเอโลอีสอีกครั้งก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็วสูง


@Eloise  #เลสเตอร์ยักคิ้วเก๊กหล่อให้น่ะ


หลังจากนั้นเสียงเครื่องยนต์หรูค่อย ๆ ห่างไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบกับแสงระยิบจากโคมไฟ โมนีก้ายังคงยืนนิ่ง ใบหน้าแดงจนถึงปลายหู หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ


@Eloise 


โมนีก้ากลืนน้ำลายแรง เธอหันไปสบตากับเอโลอีสที่มีแววล้อเลียนระยิบอยู่ในดวงตา ด้านหลังมีแสงไฟจากเตาหลอมสะท้อนผมสีแดงของอีกฝ่ายให้ดูเหมือนเปลวเพลิงที่หัวเราะเบา ๆ อยู่ในยามค่ำ “เอ่อ ขอโทษนะคะคุณเอโลอีส… คือ…เอ่อ ฉัน” โมนีก้าเหมือนจะพูดอะไรไม่ออกสักนิดหน่อย บ่งบอกว่ามีความกระอักกระอ้วนระหว่างคนสองคนท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์ของ Maserati สีแดงเชอร์รี่คันนั้นเพิ่งจางหายไปจากลานมหาวิทยาลัย กลิ่นควันและกลิ่นแดดอุ่นที่เลสเตอร์ทิ้งไว้ยังอบอวลในอากาศ โมนีก้าที่ยังหน้าแดงก่ำหันกลับมาช้า ๆ แล้วสบตากับหญิงสาวผมแดงที่ยังยืนพิงเสาอยู่ไม่ไกล แสงจากเตาหลอมด้านหลังสะท้อนเส้นผมของเธอจนดูเหมือนเปลวไฟกำลังลุกวาบอยู่ในเงามืด


@Eloise 


โมนีก้าถอนหายใจเบา ๆ ก่อนยกมือแตะขมับด้วยสีหน้าปลง “ค่ะ เอ่อคือว่า… ฉันโมนีก้านะคะ คนค่ายจูปิเตอร์ฉันเป็นธิดาเซเรสหรือเทพีดิมีเทอร์น่ะค่ะ แล้วก็มีเชื้อสายของเทพเจนัส … ยังไงก็ฉันขอโทษแทนแฟนฉันด้วยนะคะ เขา... เอ่อ...” เธอเหลือบมองทิศที่รถของเลสเตอร์หายไป แล้วกัดริมฝีปากเบา ๆ “ก็อย่างที่คุณเห็น เขาเป็นคนที่ไม่เข้าใจคำว่าพอดีสักเท่าไหร่”


@Eloise 


โมนีก้ากะพริบตาแรงทีหนึ่ง “คุณก็รู้เหรอ…แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ฉันไม่ค่อยอยากให้ใครรู้เลยค่ะ มันโคตรน่าอาย”


@Eloise 


โมนีก้าทำหน้าปลงตก ก่อนพึมพำออกมาเสียงเบาแต่ชัดจนอีกฝ่ายได้ยินเต็มหู “โอ้พระเจ้า... นี่ฉันจะรอดไหมเนี่ย...” แล้วบ่นอุบเหมือนกำลังคุยกับตัวเอง “โอ๊ย ฉันต้องพกถุงยางไหมวะเนี่ย... แต่ถุงยางของคนธรรมดามันทำอะไรเทพไม่ได้หรอกนี่หว่า...”


@Eloise 


โมนีก้าชะงักเพราะเหมือนเธอเผลอพูดอะไรบางอย่างก่อนรีบหันกลับไปทางคุณเอโลอีส ยกมือปัดอากาศแรง ๆ “เปล่า ๆ ค่ะ! ฉันแค่พูดเล่นนิดหน่อย! เอ่อ... เรื่องนี้มันซับซ้อนนิดหน่อยน่ะค่ะ” แต่สีหน้ากลับดูเหมือนคนที่กำลังคำนวณสูตรเคมีเพื่อสร้างระเบิดมากกว่าการพูดเล่น


@Eloise 


ในจังหวะนั้นโมนีก้าหันขวับมาทางเธอ ดวงตาสีเงินสว่างขึ้นเล็กน้อยอย่างมีประกายมุ่งมั่น “ลูกของเฮเฟตัสสร้างของได้ใช่ไหมคะ คุณสนใจจะสร้างของบางอย่างให้ฉันไหมคะ?”


@Eloise 


“เป็นของที่... สำคัญมากค่ะ” โมนีก้าเน้นเสียงช้า ๆ เหมือนกำลังพูดเรื่องชีวิตกับความตาย “ระดับ... คอขาดบาดใจเลยล่ะค่ะ” ยังไม่ทันที่เอโลอีสจะอ้าปากถาม โมนีก้าก็หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ตทันที นิ้วเรียวของเธอจิ้มหน้าจอรัวราวกับมือสังหารกำลังยิงคาถาอัญเชิญเทพ เสียง “ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ” ดังรัวเป็นจังหวะจากแท็บเล็ตที่ส่องแสงสีฟ้าอ่อน ๆ ในมือของเธอ แต่เมื่อเห็นข้อความบนหน้าจอชัด ๆ หากคนอ่านก็อาจจะชะงักตัว แข็งค้างไปชั่ววินาที


@Eloise 


โมนีก้าหยุดพิมพ์ แต่ก็ยังยืนยันด้วยสีหน้าเอาจริง แล้วโชว์แบบคำสั่งแบบสั่งซื้อ “ใช่ค่ะ ถุงยางแบบพิเศษ วัสดุทนอสุจิศักดิ์สิทธิ์ ไม่ละลายตอนโดนน้ำเชื้อของเทพเจ้า ไม่ขาดเมื่อเจอพลังสายฟ้า และอย่าลืมต้องกันได้ล้านเปอร์เซ็นต์ได้ด้วยค่ะ ฉันทุ่มไม่อั้น ถ้าคุณทำได้ บอกฉันนะคะ”


@Eloise 


แสงจากแท็บเล็ตสะท้อนในดวงตาทั้งคู่ เหมือนเปลวไฟจากเตาหลอมที่เพิ่งจุดขึ้นอีกครั้ง และเอโลอีสทำได้เพียงยืนเหวออยู่ตรงนั้น ขณะที่โมนีก้าทำส่งคำสั่งซื้อแบบมัดมือชก ด้วยท่าทีเหมือนคนเพิ่งประกาศสงครามกับสวรรค์เองกับมือ สงครามที่จะไม่มีลูกเดมิก็อดเป็นภูเขาเหล่ากาไงล่ะ



[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอมเฮคาที - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +10
(ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 0 5 7 9 ทำให้ได้รับความโปรดปรานจาก NPC TGC SP Lares Satyr ได้รับความโปรดปราน+10)

สรุปรวมค่าความสัมพันธ์ หาร 2 = โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +17.5

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 17 โพสต์ 2025-12-6 09:36
โพสต์ 88795 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-6 01:57
โพสต์ 88,795 ไบต์และได้รับ +9 EXP +8 ความศรัทธา จาก จำแลงร่าง  โพสต์ 2025-12-6 01:57
โพสต์ 88,795 ไบต์และได้รับ +12 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก แหวนเคลื่อนย้าย  โพสต์ 2025-12-6 01:57
โพสต์ 88,795 ไบต์และได้รับ +25 EXP +1 Point +40 เกียรติยศ +40 ความกล้า +40 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต  โพสต์ 2025-12-6 01:57
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-6 16:33:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด





วันที่ 5 ธันวาคม 2025
เวลา 18.00 
น.



@Moneka 

เอโลอิสปรากฏตัวขึ้นจากด้านข้างของอาคารหลัก เธอดูสดใสกว่าที่เคยเป็นมา ชุดเสื้อยืดสีส้มสดใสของค่ายฮาล์ฟบลัดตัดกับผิว ดวงตาคมเข้มของเธอเป็นประกายด้วยความสุขที่ไม่อาจเก็บซ่อนได้ รอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนใบหน้าขณะที่เธอถือกระดาษแข็งสีครีมแผ่นหนึ่งไว้ในมืออย่างทะนุถนอม

@Moneka

เอโลอิสที่กำลังวิ่งเหยาะ ๆ อย่างร่าเริงก็หยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงทุ้มอันมั่นใจที่พูดถึงชื่อของเธออย่างชัดเจน สมองของเธอกำลังประมวลผลอย่างรวดเร็ว เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้มาก่อน แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวเฮเฟตัส และรู้ว่าเธอออกห้องสอบช้าที่สุดล่ะ? รายละเอียดเล็กน้อยเช่นนี้มีเพียง... คนคุมสอบเท่านั้นที่ควรจะรู้ไม่ใช่เหรอ?

@Moneka

เอโลอิสยืนแข็งทื่ออยู่ห่าง ๆ อย่างทำอะไรไม่ถูก ดวงตาของเธอกะพริบปริบ ๆ มองการแสดงออกของทั้งคู่ด้วยความงุนงง เธอเพิ่งถูกแนะนำตัวอย่างเป็นทางการไม่ถึงห้านาที แต่คนทั้งสองนี้กลับเริ่มต้นบทสนทนาที่เต็มไปด้วยการกระซิบกระซาบและการสัมผัสที่แฝงความร้อนแรงราวกับลืมไปแล้วว่ามีคนอื่นยืนอยู่ด้วย

จีบกันต่อหน้าธารกำนัลแบบนี้เนี่ยนะ!...เอโลอิสคิดในใจอย่างอึดอัด เธอเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ไม่ได้อยากเป็นสักขีพยานในเรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยความลับของเหล่าเดมิก็อดและเทพเจ้าเลยแม้แต่น้อย ความรู้สึกคล้ายบทเพลงเก่า ๆ ดังขึ้นในหัว…ฉันมาทำอะไรที่นี่~ 

แต่ทันทีที่เธอได้ยินคำว่า ‘คุมสอบ’ ความสงสัยของเธอก็มลายหายไปจนหมดสิ้น ใช่แล้ว! ชายหนุ่มที่ชื่อเลสเตอร์คนนี้คือเทพอะพอลโลจริง ๆ ท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเกินมนุษย์ แถมรู้จักเธออีกต่างหากสิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันอย่างดี

เธอได้แต่มองเทพเจ้าผู้แปลงกายในชุดแจ็กเก็ตหนังทำท่าทางเก๊กหล่ออย่างเต็มที่ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวไปพูดประโยคสุดท้ายที่ทั้งหวานและร้ายกาจกับหญิงสาวคนนั้น จากนั้นเลสเตอร์ก็ถอยหลังอย่างสง่างาม สวมแว่นกันแดดสีชาเข้มเพื่อปิดบังดวงตาสีฟ้าครามอันทรงพลัง ก่อนจะโบกมือ และกล่าวฝากฝังแฟนเขาให้เธอช่วยดูแล วัท?

เอโลอิสตะลึงงันไปเล็กน้อย เธอพิจารณาสาวน้อยที่ชื่อโมนีก้าที่ใบหน้าแดงก่ำแล้วมองเลสเตอร์สลับกัน 

นี่มันพรากผู้เยาว์ชัดๆ!

ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวของธิดาเฮเฟตัส เทพสมัยนี้ปลอมเป็นเด็กเพื่อมาล่อลวงเด็กงั้นเรอะ!? 

เธอได้แต่พยักหน้ารับคำสั่งอย่างงง ๆ พร้อมรอยยิ้มแห้ง ๆ ที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เพราะถึงแม้จะคิดอย่างไร เธอก็ไม่กล้าขัดใจคำพูดสุดท้ายของเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ที่กำลังขับรถมาเซราติสีแดงเชอร์รี่ออกไปจากบริเวณมหาวิทยาลัยด้วยความเร็วสูงอยู่ดี

@Moneka

เมื่อรถมาเซราติสีแดงของเทพอะพอลโลหายลับไปจากสายตา พร้อมกับทิ้งกลิ่นควันจาง ๆ และความรู้สึกวุ่นวายใจไว้เบื้องหลัง เอโลอิสก็กะพริบตาปริบ ๆ 

"ดูแลแฟนเขา? ฉันเนี่ยนะ?" เธอพึมพำกับตัวเองอย่างงุนงง เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องทำอะไรต่อ หรือต้องรับผิดชอบอะไร เธอทำได้เพียงเอนตัวไปพิงกับเสาหินอ่อนขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับมองหญิงสาวที่ตอนนี้ยืนตัวคนเดียวและใบหน้าแดงก่ำอยู่กลางลาน

เอโลอิสก็เริ่มพิจารณาเธออย่างจริงจังอีกครั้งภายใต้แสงไฟ ทำไมเธอถึงได้ดูคุ้นหน้าขนาดนี้นะ?...เอโลอิสคิดอย่างใช้ความคิด

จู่ ๆ ภาพเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ เทศกาล The Grand Brumalia ใช่แล้ว! เธอจำได้แล้วว่าเคยเห็นหญิงสาวคนนี้ที่นั่น! ถ้าจำไม่ผิด...ใช่คนที่เดินขึ้นสู่เวทีหลักเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ในวันเปิดเทศกาล...และเป็นคนเดียวกับคนที่...เกือบจะสะดุดล้มตรงบันไดทางขึ้นเวทีใช่ไหมนะ? เอโลอิสใช้มือลูบคางด้วยความสงสัย

@Moneka

เอโลอิสยืนพิงเสาหินอ่อนอย่างผ่อนคลายภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็นที่เริ่มจางลง แต่ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่โมนีก้าอย่างมีนัยยะแฝง ความรู้สึกที่เพิ่งเป็นสักขีพยานในบทสนทนาแสนส่วนตัวของเทพเจ้ายังคงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย

โมนีก้ากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ใบหน้าของเธอยังคงแดงก่ำจากความเขินอายปนความโกรธที่ถูกเทพอะพอลโลทำให้เสียอาการต่อหน้าคนอื่น เธอหันมาสบตากับเอโลอิส ธิดาเฮเฟตัสเห็นดังนั้นก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก

“มีอะไรรึเปล่าคะ?” เธอถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและแฝงความอยากรู้อยากเห็นอย่างไม่ปิดบัง “เหมือนว่าคุณมีอะไรอยากจะพูดหรือเปล่า?”

@Moneka

เอโลอิสมองตามทิศที่โมนีก้าเหลือบมองไป ซึ่งเป็นทิศที่รถมาเซราติหายลับไปเมื่อครู่ เธอเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวตรงหน้าดี ว่าการมีแฟนเป็นเทพเจ้าผู้มีชื่อเสียงเรื่องความหลงตัวเองและไม่มีขีดจำกัดทางสังคมนั้นต้องเหนื่อยใจขนาดไหน

เอโลอิสยิ้มรับด้วยความเข้าใจในทันที ในฐานะลูกสาวเฮเฟตัสและอยู่ในโลกของเดมิก็อดมานานพอสมควร เธอพอจะรู้จักชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของเทพอะพอลโล หรือ 'เลสเตอร์' คนนี้อยู่บ้าง

“เอ่อ…ฉันเข้าใจค่ะ” เอโลอิสกล่าวตอบสั้น ๆ อย่างเห็นใจ พร้อมพยักหน้ารับอย่างจริงจัง “เป็นเรื่องที่ไม่ได้น่าประหลาดใจเลยค่ะ ฉันก็เคยประสบพบเจอกับความแปลกของเขา…อยู่บ้าง…”

@Moneka

เอโลอิสได้แต่พยักหน้ารับอย่างไม่เต็มเสียงนัก ความน่าอายที่พูดถึงนั้นคงจะหมายถึง ความมั่นหน้าของเทพอะพอลโลใช่ไหมล่ะ ที่ไม่ว่าจะอยู่ในร่างเทพเต็มยศหรือร่างจำแลง ก็มักจะทำเรื่องที่ดึงดูดความสนใจจนคนรอบข้างต้องอับอายแทนอยู่เสมอ เธอเข้าใจว่าคุณโมนีก้ากำลังสื่อเรื่องนั้นอยู่ใช่ไหมล่ะ! ใช่แหละ…

@Moneka

เอโลอิสสะดุ้งสุดตัวราวกับถูกน้ำเย็นสาดใส่ ความคิดที่ว่าโมนีก้ากำลังกังวลเรื่องความมั่นหน้าของเทพอะพอลโลพลันมลายหายไปสิ้น แทนที่ด้วยความตื่นตระหนกที่ปนเปกันอยู่กับความสงสัยแทน

อะไรนะ! ถุงยางงั้นเหรอ! หมายความว่าไงน่ะ? คุณโมนีก้ากับเทพอะพอลโล...วัท?! ความคิดทั้งหมดของเธอหยุดชะงักลงราวกับวงจรไฟฟ้าถูกตัดขาด เอโลอิสอ้าปากค้างเล็กน้อย ก่อนจะรีบขยับตัวออกจากเสาหินอ่อน เธอโน้มตัวเข้าไปหาโมนีก้าด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด และถามด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าที่ตั้งใจไว้เล็กน้อย

“ตะกี๊คุณพูดว่าอะไรนะคะ?” เอโลอิสถาม ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง “ถุงยางงั้นเหรอ!?”

@Moneka

เมื่อได้ยินคำว่าพูดเล่นจากปากของโมนีก้า เอโลอิสก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันที เธอไม่ได้ต้องการจะเชื่อเรื่องซับซ้อนใด ๆ อีกแล้ว ความจริงที่ว่าเทพเจ้าจอมหลงตัวเองกับธิดาเซเรสกำลังวางแผนไปเที่ยวฮาวายก็ซับซ้อนพอแล้ว

โธ่...ก็ว่าแล้ว…เอโลอิสคิดอย่างใจชื้น

เธอไม่คิดจะซักไซ้หรือตั้งคำถามอะไรต่ออีก เพราะถึงแม้จะดูตื่นตระหนก แต่ถ้าโมนีก้าบอกว่าพูดเล่น มันก็คงเป็นเรื่องตลกของชาวโรมันแหละมั้ง เธอคนนั้นคงไม่คิดจะไปทำอะไรแบบนั้นกับเทพจริง ๆ หรอก ใช่ไหมล่ะ?

“อ๋อ...เข้าใจแล้วค่ะ” เอโลอิสตอบรับสั้น ๆ โดยพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด “ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ”

@Moneka

เมื่อได้ยินคำว่าสร้างของประกายความสนใจในดวงตาคมเข้มของเอโลอิสก็ลุกวาบขึ้นทันที ความเหนื่อยล้าจากการสอบ DSTOMP และความวุ่นวายใจจากเรื่องเทพเจ้าหายไปจนหมดสิ้น โอกาสทางธุรกิจมาแล้ว!

เธอกำลังต้องการงานพิเศษเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายจิปาถะ และที่สำคัญที่สุดคือค่าเทอมสำหรับการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวโรมในอนาคตอันใกล้นี้ การรับงานสร้างของฟังดูเป็นข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตอนนี้เลยทีเดียว เอโลอิสจึงก้าวเข้าหาโมนีก้าอีกหนึ่งก้าว ดวงตาของเธอมุ่งมั่นไม่แพ้กัน

“สนใจสิคะ!” เอโลอิสตอบรับอย่างกระตือรือร้น “คุณต้องการให้ฉันสร้างอะไรคะ?”

@Moneka

เอโลอิสที่กำลังกระตือรือร้นรอรับออร์เดอร์ถึงกับชะงัก เธอเริ่มเดาไปต่าง ๆ นานาในใจ คอขาดบาดตาย? อาจจะเป็นเกราะป้องกันเวทมนตร์สำหรับภารกิจลับ? หรืออาวุธที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อต่อต้านศัตรูของเทพอะพอลโล? ความคิดของเธอวิ่งวุ่นไปหมด
เมื่อหน้าจอแท็บเล็ตถูกยื่นมาให้ดูอย่างรวดเร็ว เอโลอิสก็กวาดสายตาอ่านข้อความบนหน้าจอนั้นอย่างตั้งใจ ภาพกราฟิกสามมิติที่ปรากฏบนจอไม่ใช่ภาพพิมพ์เขียวของอาวุธ หรือแบบร่างของเกราะป้องกัน แต่เป็นโมเดลที่ละเอียดของสิ่งที่ไม่คาดคิด

เอโลอิสถึงกับตัวแข็งทื่อในพริบตา ความเข้าใจของเธอถึงกับหยุดชะงักไปชั่ววินาที ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง

“ถะ...ถุงยาง...เหรอคะ!” เอโลอิสอุทานเสียงแผ่ว แต่เต็มไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด

นี่คือของสำคัญระดับคอขาดบาดตายที่ลูกสาวเฮเฟตัสอย่างเธอต้องสร้างให้ธิดาเซเรสจริง ๆ น่ะเหรอ!

@Moneka

เอโลอิสกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความตกตะลึงที่เปลี่ยนเป็นความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในที่สุด ทำให้เธอแทบจะพูดไม่ออก ความน่าอับอายที่โมนีก้ากลัวไม่ใช่เรื่องความมั่นหน้าของอะพอลโล แต่เป็นเรื่องของผลที่ตามมาจากการไปฮาวายจริง ๆ! และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับอนาคตของโมนีก้าจริง ๆ ด้วย!

สมองของธิดาเฮเฟตัสเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้สนใจเรื่องความน่าอับอายอีกต่อไป สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความท้าทายทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ

"วัสดุทนอสุจิศักดิ์สิทธิ์...ไม่ขาดเมื่อเจอพลังสายฟ้า...กันได้ล้านเปอร์เซ็นต์..." เอโลอิสพึมพำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมเข้มของเธอเริ่มทอประกายแห่งความกระตือรือร้นและอยากรู้อยากเห็นในเชิงช่างทันที

เธอรู้สึกเหมือนถูกท้าทายด้วยปริศนาทางวิศวกรรมในระดับเทพเจ้า มันเป็นงานที่ซับซ้อนและต้องใช้ทักษะขั้นสูง และแน่นอน... งานนี้ต้องมาพร้อมกับค่าตอบแทนที่มหาศาลตามที่โมนีก้าสัญญา ซึ่งหมายถึงค่าเทอมมหาวิทยาลัยนิวโรมไงล่ะ!

เอโลอิสพยักหน้า เธอยื่นมือออกไปรับแท็บเล็ตที่มีแบบสั่งซื้อแปลกประหลาดที่สุดในชีวิตของเธอมาถือไว้

“รับทราบค่ะ!” เอโลอิสตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในฐานะช่างฝีมือ “ฉันรับงานนี้ค่ะ! ขอเวลาฉันคำนวณวัสดุและกลไกป้องกันเล็กน้อยนะคะ แล้วเสร็จเมื่อไหร่จะมาแจ้งค่ะ”

เธอรู้ดีว่าการสร้างสิ่งที่สามารถต้านทานพลังงานของเทพเจ้าได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันคือการทดสอบฝีมือขั้นสูงสุดที่มาพร้อมกับค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว ซึ่งจะช่วยให้ความฝันในการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนิวโรมของเธอเป็นจริง ฉะนั้นไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องทำมันให้สพเร็จให้ได้เลย!

@Moneka 





[NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5

รับออเดอร์ถุงยาง (?)

@God 





แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-82] เลสเตอร์ ปาปาโดปูลอส เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-12-6 17:17
โพสต์ 32707 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-6 16:33
โพสต์ 32,707 ไบต์และได้รับ +8 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +15 ความกล้า +15 ความศรัทธา จาก เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม  โพสต์ 2025-12-6 16:33
โพสต์ 32,707 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +12 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก เรือมินิบานาน่า  โพสต์ 2025-12-6 16:33
โพสต์ 32,707 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-12-6 16:33
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม
เรือมินิบานาน่า
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ค้อนไฟ
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
กลศาสตร์
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x2
x18
x1
x4
x16
x1
x1
x3
x5
x5
x2
x4
x50
x1
x33
x1
x1
x1
x273
x2
x22
x7
x8
x2
x9
x10
x2
x52
x17
x31
x1
x1
x2
x5
x2
x8
x13
x2
x26
x7
x7
x7
x6
x44
x52
x3
x4
x11
x9
x9
x26
x18
x14
x1
x3
x6
x1
x11
x2
x2
x5
x1
x15
x5
x7
x11
x7
x15
x10
x15
x7
x25
x6
x3
x26
x1
x8
x3
x11
x69
x3
x2
x6
x10
x7
x5
x4
x5
x59
x1
x7
x25
x2
x48
x458
x24
x4
x185
x24
x1
x10
x11
x18
x7
x3
x1
x1
x2
x2369
x1
x39
x1
x1
x7
x1
x11
x3
x1
x1
x808
x25
x1
x1
x1
x3
x1
x198
x16
x16
x2
x14
x88
x13
x59
x391
โพสต์ 2025-12-6 18:35:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด

วันที่ 05 เดือน ธันวาคม ปี 2025

ช่วงเย็น เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ มหาลัยนิวโรม


ลมหนาวยามค่ำเริ่มพัดแรงขึ้นเมื่อแสงจากเตาหลอมของเอโลอีสเริ่มมอดลง เหล็กที่เพิ่งหลอมเสร็จยังคงส่งไอร้อนระเรื่อขึ้นจากแท่น โมนีก้าเตรียมจะขอตัวกลับ เธอหันไปยิ้มให้เอโลอีสอย่างสุภาพ มือยังถือแท็บเล็ตไว้แน่น แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยคำลา เสียงลมหายใจของเธอกลับขาดห้วงไปในทันที


#เอโลอีส


หญิงสาวลูกครึ่งเทพีเซเรสหยุดนิ่ง ดวงตาสีเงินเบิกกว้างอย่างตกใจ มือที่ถือแท็บเล็ตสั่นระริก หัวใจของเธอบีบแน่นจนน้ำเสียงที่หลุดออกมากลายเป็นเสียงครางต่ำ ลมหายใจเริ่มติดขัดก่อนจะกลายเป็นเสียงหอบแผ่ว เธอก้มตัวลงจับหน้าอก หวังเพียงจะสูดลมหายใจเข้าอีกครั้ง แต่กลับไม่เป็นผล ร่างกายของโมนีก้าสั่นเทาอย่างรุ่นแรง หัวใจของโมนีก้าเต้นแรงเกินกว่าจะรับได้ ก่อนจะค่อย ๆ อ่อนแรงลง เธอทรุดลงกับพื้นอย่างช้า ๆ ราวกับหุ่นกระบอกที่สายขาด ผมสีน้ำตาลเข้มไฮไลท์สีฟ้าไหลลงคลอเคลียไหล่ เสื้อโค้ตกันหนาวที่เธอสวมอยู่ดูใหญ่เกินตัวในขณะนี้ ดวงตาคู่นั้นยังเปิดกว้าง มองไปยังใบหน้าแดงจากเปลวไฟของเอโลอีสที่กำลังตกใจสุดขีด


#เอโลอีส


โมนีก้าเผยอริมฝีปาก พยายามเปล่งเสียงออกมาทั้งที่ลมหายใจแทบไม่เหลือ “ฝาก... ของของฉัน... ด้วยนะคะ...” เสียงสุดท้ายแผ่วราวสายลมในฤดูใบไม้ร่วง ก่อนที่เสียง “อึก” สั้น ๆ จะหลุดออกจากลำคอ เธอล้มลงแน่นิ่ง แท็บเล็ตในมือหล่นกระทบพื้นเกิดเสียงเบา ๆ ก้องในความเงียบ ไฟจากเตาหลอมด้านหลังส่องสว่างไหวระยับ เสียงเหล็กที่เพิ่งเย็นตัวลงดังแผ่วในความเงียบ เงาของทั้งสองทอดยาวบนพื้นหินราวกับภาพแกะสลักที่หยุดนิ่งอยู่ในเวลา จิตวิญญาณของโมนีก้าค่อย ๆ ลอยขึ้นจากร่าง ราวกับละอองแสงสีเงินอ่อนที่ส่องประกายระยิบ ดวงตาคู่นั้นยังมองไปยังเอโลอีสที่กุมมือเธอไว้แน่น ริมฝีปากของเธอเหมือนจะยิ้มแผ่วเบา


ร่างไร้ลมหายใจของเธอนิ่งสงบ ใบหน้าอ่อนโยนดั่งกำลังหลับในความฝันอันไกลโพ้น และเมื่อแสงสีเงินนั้นลอยสูงขึ้น สัมผัสถึงความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ที่เธอรัก จิตวิญญาณของเธอก็หลอมรวมเข้ากับลมยามค่ำ กลายเป็นเพียงเสียงกระซิบที่เบาราวกลีบดอกไม้ร่วง 


“ฝากพวกเขาด้วยนะคะ...”


#เอโลอีส


“เลสเตอร์...พ่อ… แม่ ขอ เสียงนั้นหายไปพร้อมกับแสงสุดท้ายจากเตาหลอม ทิ้งไว้เพียงเอโลอีสที่คุกเข่าอยู่ท่ามกลางความเงียบของโรงตีเหล็ก ดวงตาของเธอสะท้อนเปลวไฟสุดท้ายที่มอดดับลง พร้อมกับคำถามที่ไม่มีวันได้คำตอบอีกเลย



[ให้ของทั้งหมดที่มีแก่ Eloise]

[โมนีก้า เอ็ม. บลอสซัม หัวใจวายเสียชีวิต]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 15307 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-6 18:35
โพสต์ 15,307 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 ความศรัทธา จาก จำแลงร่าง  โพสต์ 2025-12-6 18:35
โพสต์ 15,307 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก แหวนเคลื่อนย้าย  โพสต์ 2025-12-6 18:35
โพสต์ 15,307 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต  โพสต์ 2025-12-6 18:35
โพสต์ 15,307 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก เนตรแห่งฟีบี้  โพสต์ 2025-12-6 18:35
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-6 23:06:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด





วันที่ 5 ธันวาคม 2025
เวลา 18.00 
น. เป็นต้นไป



@Moneka

เอโลอิสรู้สึกได้ถึงความผิดปกติอย่างฉับพลันของคนตรงหน้า ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะโล่งอกกับเรื่องของที่สั่งทำ แต่สีหน้าของโมนีก้ากลับเปลี่ยนไปราวกับมีบางสิ่งผิดปกติอย่างร้ายแรง ใบหน้าของโมนีก้าดูซีดเซียวและไม่สู้ดีนัก ราวกับพลังงานทั้งหมดถูกดูดกลืนไป เอโลอิสขมวดคิ้วด้วยความกังวล เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง

“คุณโมนีก้าคะ? คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” เอโลอิสถาม พร้อมโน้มตัวเข้าไปใกล้เล็กน้อยเพื่อสังเกตอาการของธิดาเซเรส

@Moneka

เมื่อโมนีก้าทรุดลงกับพื้นอย่างกะทันหัน เอโลอิสก็ตกใจจนตัวแข็งทื่อ ร่างกายของเธอชาไปชั่วขณะเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดและดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกของธิดาเซเรส


“คุณโมนีก้า!” เอโลอิสอุทานเสียงหลง เธอรีบทรุดตัวลงคุกเข่าข้างร่างของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

เอโลอิสเอื้อมมือที่สั่นเทาไปประคองศีรษะของโมนีก้าไว้เบา ๆ เพื่อไม่ให้กระแทกกับพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบ เธอใช้มืออีกข้างแตะที่ข้อมือของโมนีก้าเพื่อวัดชีพจร แต่ชีพจรเต้นเร็วและแผ่วเบาจนน่าตกใจ

"เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!?" เอโลอิสคิดอย่างตื่นตระหนกสุดขีด "ทำไมจู่ ๆ ก็ล้มลงไปแบบนี้? นี่มันไม่เหมือนอาการบาดเจ็บจากการต่อสู้เลย! หรือว่าถูกสาป? หรือว่าเธอป่วยหนักอยู่แล้ว?"

ความรู้ทั้งหมดที่เธอมีในฐานะลูกสาวเฮเฟตัส ซึ่งเน้นไปที่งานช่างและการตีเหล็ก ไม่ได้ช่วยอะไรเธอในสถานการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์เลยแม้แต่น้อย เอโลอิสทำได้เพียงจับไหล่ของโมนีก้าไว้เบา ๆ และมองรอบตัวอย่างเลิ่กลั่กเพื่อหาความช่วยเหลือ โดยไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรต่อไป

@Moneka

เอโลอิสถึงกับตัวแข็งทื่อราวกับถูกหลอมเป็นรูปปั้นทองแดง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันตรงหน้าเธอ ทำให้ความตกใจก่อนหน้านี้กลายเป็นความหวาดกลัว เธอรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่แผ่ซ่านจากร่างของโมนีก้า ดวงตาของเอโลอิสเบิกกว้างเมื่อเธอเห็นละอองแสงสีเงินลอยขึ้นไปในอากาศ...เธอรู้สึกว่าต้องพูดอะไรบางอย่างเพื่อปลอบใจโมนีก้าเสียหน่อย

“คุณโมนีก้าคะ...ทำใจดี ๆ ไว้ก่อนนะคะ!” เอโลอิสกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามจับมือของโมนีก้าไว้แน่นขณะที่รู้สึกถึงพลังชีวิตที่กำลังจะจากไป

แต่คำสั่งเสียสุดท้ายที่แผ่วเบานั้นทำให้เอโลอิสต้องตระหนกและสงสัยอย่างรุนแรง

“ฝาก...ฝากอะไรเหรอคะ?”

@Moneka

“คุณโมนีก้า! คุณโมนีก้าคะ!” เอโลอิสเรียกชื่อธิดาเซเรสเสียงดังซ้ำ ๆ พลางเขย่าร่างเธอเบา ๆ แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใด ๆ ทั้งสิ้น

ความหวาดกลัวเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว เอโลอิสรู้สึกราวกับเลือดทั้งหมดไหลลงไปที่เท้า เธอเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นตระหนกพร้อมกับความคิดที่วิ่งวนอยู่ในหัว…ชิบหายละ! นี่ฉันเป็นโคนันเหรอเนี่ย ไปที่ไหนก็มีแต่คนตาย! จะปล่อยให้คุณโมนีก้าตายไม่ได้เด็ดขาด!

สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดและช่วยเหลือคนอื่นเข้ามาแทนที่ความตื่นตระหนก เอโลอิสรีบตรวจดูทางเดินหายใจของโมนีก้า ก่อนจะเริ่มดำเนินการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานทันที เธอประสานมือเข้าด้วยกันแล้วเริ่มปั๊มหัวใจอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอลงบนหน้าอกของโมนีก้า

“ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ! มีคนกำลังจะตาย!” เอโลอิสตะโกนสุดเสียง แต่เสียงของเธอดูกลืนหายไปในความกว้างใหญ่ของลานมหาวิทยาลัยยามเย็น

ในที่สุดสายตาของเธอก็เห็นนักศึกษาชายคนหนึ่งกำลังเดินผ่านมา เอโลอิสจึงตะโกนเรียกเสียงดังด้วยความหวัง

“พี่คะ ๆ! ช่วยด้วยค่ะ มีคนหมดสติและไม่หายใจแล้วค่ะ! พี่ช่วยโทรเรียกรถพยาบาลทีค่ะ ฉันไม่มีสมาร์ทโฟนค่ะ!”

ชายหนุ่มคนนั้นตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพที่เอโลอิสกำลังพยายามปั๊มหัวใจให้ร่างที่แน่นิ่งอยู่กับพื้น แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่หมดสติ เขาก็เหมือนจะจำได้ทันทีว่าเธอคือหัวหน้ากองร้อยที่สอง 

“เกิดอะไรขึ้นครับ!?” ชายหนุ่มถามด้วยความตกใจ

เอโลอิสยังคงปั๊มหัวใจต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน พลางตอบกลับด้วยเสียงหอบ

“ฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ! เหมือนจู่ ๆ เธอก็รู้สึกไม่ดีแล้วก็ทรุดลงไปเลย ตอนนี้เธอไม่หายใจค่ะ ฉันกำลังพยายามปฐมพยาบาลอยู่ แต่...ฉันไม่ใช่หมอน่ะค่ะ ช่วยเร่งโทรหน่อยได้ไหมคะ!”

“ได้ ๆ ครับ!” ชายหนุ่มรับคำอย่างรวดเร็ว เขาหยิบสมาร์ทโฟนออกมาและเริ่มโทรเรียกรถพยาบาลทันที เขาคุยสายอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันมาบอกเอโลอิสที่ยังคงปั๊มหัวใจอย่างต่อเนื่องด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“ติดต่อสถานพยาบาลแล้วครับ พวกเขากำลังรีบมา”

เอโลอิสขอบคุณเขาด้วยใบหน้าโล่งใจ แต่ก็ยังไม่หยุดการปั๊มหัวใจจนกระทั่งรถพยาบาลฉุกเฉินของมหาวิทยาลัยนิวโรมมาถึง เจ้าหน้าที่พยาบาลรีบเข้าจัดการสถานการณ์ต่อจากเอโลอิสอย่างรวดเร็ว พวกเขาเคลื่อนย้ายร่างของโมนีก้าขึ้นเปลอย่างระมัดระวัง

เนื่องจากเป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์และเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือคนสุดท้ายก่อนที่หน่วยฉุกเฉินจะมาถึง เอโลอิสกับนักศึกษาชายคนนั้นจึงถูกขอให้ติดตามไปกับรถพยาบาลด้วยอย่างช่วยไม่ได้ รถฉุกเฉินเปิดสัญญาณเสียงดังลั่น แล่นออกจากมหาวิทยาลัยนิวโรมมุ่งหน้าไปยังสถานพยาบาลของค่ายทันที ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและความตื่นตระหนกไว้เบื้องหลัง



[NPC-38] มาเวอริค วอห์น
พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5

CPR โมนีก้า พาไปส่งสถานพยาบาล
@God 
@God 




แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-38] มาเวอริค วอห์น เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-12-7 12:03
โพสต์ 17821 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-6 23:06
โพสต์ 17,821 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม  โพสต์ 2025-12-6 23:06
โพสต์ 17,821 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เรือมินิบานาน่า  โพสต์ 2025-12-6 23:06
โพสต์ 17,821 ไบต์และได้รับ +5 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-12-6 23:06
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม
เรือมินิบานาน่า
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ค้อนไฟ
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
กลศาสตร์
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x2
x18
x1
x4
x16
x1
x1
x3
x5
x5
x2
x4
x50
x1
x33
x1
x1
x1
x273
x2
x22
x7
x8
x2
x9
x10
x2
x52
x17
x31
x1
x1
x2
x5
x2
x8
x13
x2
x26
x7
x7
x7
x6
x44
x52
x3
x4
x11
x9
x9
x26
x18
x14
x1
x3
x6
x1
x11
x2
x2
x5
x1
x15
x5
x7
x11
x7
x15
x10
x15
x7
x25
x6
x3
x26
x1
x8
x3
x11
x69
x3
x2
x6
x10
x7
x5
x4
x5
x59
x1
x7
x25
x2
x48
x458
x24
x4
x185
x24
x1
x10
x11
x18
x7
x3
x1
x1
x2
x2369
x1
x39
x1
x1
x7
x1
x11
x3
x1
x1
x808
x25
x1
x1
x1
x3
x1
x198
x16
x16
x2
x14
x88
x13
x59
x391
โพสต์ 2025-12-13 00:30:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
18:30 น. มหาวิทยาลัยนิวโรม (12/12/2025)
เมื่อเดินผ่านพ้นเขตประตูศักดิ์สิทธิ์เข้ามาสู่ตัวเมือง บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนจากความขึงขังของค่ายทหารเป็นความศิวิไลซ์ที่น่าหลงใหล ไคเดินเคียงคู่กับโนอาห์ไปตามถนนปูหิน มุ่งหน้าสู่อาคารที่โดดเด่นที่สุดใจกลางเมือง หอระฆังสูงเสียดฟ้าที่มีหลังคากระเบื้องสีแดงตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางแสงสาดยามเย็นที่ยังคงสว่างเหมือนเที่ยงวัน คือสัญลักษณ์ของ ‘มหาวิทยาลัยนิวโรม’
สำหรับไค ที่นี่คือสวรรค์ที่แท้จริง
เขาแหงนหน้ามองโดมทองคำของหอสมุดกลางด้วยแววตาที่เป็นประกายระยับยิ่งกว่าตอนเห็นอาวุธชนิดไหน ๆ กลิ่นหอมของกระดาษเก่าและหมึกจาง ๆ ที่ลอยออกมาจากหน้าต่างบานใหญ่ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้กลับมาเติมพลัง
“วิหารแห่งปัญญา...” ไคพึมพำออกมาอย่างลืมตัว รอยยิ้มบาง ๆ ที่หาได้ยากปรากฏขึ้นบนใบหน้า “ผมใฝ่ฝันว่าจะได้มานั่งอ่านหนังสือในนั้นแบบเต็มวันโดยไม่มีใครมากวน สถาปัตยกรรมที่นี่ผสมผสานความขลังกับฟังก์ชันการใช้งานได้สมบูรณ์แบบจริง ๆ”
“เก็บอาการหน่อยคุณชาย น้ำลายจะหกแล้ว” โนอาห์เอ่ยแซวขณะเดินล้วงกระเป๋ามองดูเหล่านักศึกษาในชุดโทก้าที่เดินขวักไขว่ “ที่นี่คือปลายทางของเดมี่ก็อตส่วนใหญ่ หลังจากรอดชีวิตจากกองทัพครบสิบปี เราก็จะได้สิทธิ์มาเรียนต่อ ใช้ชีวิตสงบ ๆ เป็นปัญญาชน... หรือถ้าเก่งจริง จะเรียนควบคู่ไปกับรับราชการก็ได้ แต่นั่นหมายความว่านายต้องแบ่งร่างให้ทัน”
“ผมทำได้แน่ครับ” ไคตอบรับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ สายตายังคงจับจ้องไปที่ภาพโมเสกหน้าอาคาร “นักรบที่ไร้ปัญญา ก็เป็นได้แค่เครื่องจักรสังหาร แต่ปราชญ์ที่ไร้กำลัง ก็ปกป้องอะไรไม่ได้... มหาวิทยาลัยนี้คือเบ้าหลอมที่จะทำให้คนคนนึงสมบูรณ์แบบ”
“คมคาย” โนอาห์พยักหน้ายอมรับ “ข้างในนั้นมีหอเกียรติยศที่สลักชื่อวีรบุรุษผู้เสียสละด้วยนะ มันคอยเตือนใจเราเสมอว่า ความรู้ที่เราได้เรียน แลกมาด้วยเลือดของคนที่ปกป้องเมืองนี้”
ไคนิ่งไปครู่หนึ่ง สีหน้ากลับมาเคร่งขรึมและให้เกียรติ “ผมทราบครับ... และสักวัน ผมจะทำให้แน่ใจว่าชื่อของผมจะไปอยู่บนหิ้งประวัติศาสตร์ในฐานะผู้สร้าง ไม่ใช่แค่ผู้เสียสละ”
“งั้นก็รีบเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดในสนามรบให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาห่วงเรื่องเกรดเฉลี่ย” โนอาห์ตบไหล่ไคเบา ๆ ก่อนจะเดินนำออกไปทางสถานีรถไฟ “ไปกันเถอะ ยังมีอีกหลายที่ต้องดู ก่อนที่ห้องสมุดจะดึงดูดวิญญาณนายไปจนกู่ไม่กลับ”
ไคจำใจต้องละสายตาจากหอสมุดอันเป็นที่รัก เดินตามรุ่นพี่ออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์ แต่ในใจหมายมั่นปั้นมือแล้วว่า ทันทีที่มีวันหยุด เขาจะมาขลุกอยู่ที่นี่ทั้งวันแน่นอน
รับภารกิจไกด์เดินชมรอบค่าย
  • ทัวร์มหาวิทยาลัยนิวโรม EXP +15

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-12-13 00:35
Kai
โพสต์ 9017 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-12-13 00:30
Kai
โพสต์ 9,017 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2025-12-13 00:30
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้