แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-1-28 18:05
288 'หนี' หุ่นยนต์ทองคำ 'ปะ' หุ่นยนต์ทองคำ
25/01/2025 เวลา 11.00 น.
บินหนีจากป้อมอัลมัศมัคออกนอกเมืองมาได้ประมาณสิบสามไมล์ก็คิดว่าต้องแวะพักกันสักหน่อย ตำแหน่งที่พวกเขาลงจอดคือริมแม่น้ำวาดี ฮานีฟะฮ์ ที่อยู่ติดกับเมืองโบราณดิรอียะฮ์ แผนการหลายอย่างที่อยู่ในหัวของดีนพังไม่เป็นท่า จากเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในปราการโบราณใจกลางเมืองริยาด
“เฮ้อ.. ถึงอากาศจะไม่ร้อนมากแต่บินกลางแดดนาน ๆ แบบนี้ไม่ไหวแฮะ”
ขนาดคนยังบ่นแล้วพาหนะอย่างควีนจะไม่เหนื่อยแย่หรือ เมื่อลงจอดม้าสาวก็รีบก้มดื่มน้ำในแม่น้ำสายเล็กทันที ความร่มรื่นของย่านเมืองเก่าพอจะช่วยให้ทั้งสองคลายร้อนได้บ้าง ดีนเปิดขวดน้ำที่พกมา ใช้ทั้งดื่มและล้างหน้าในคราวเดียวกัน ผิวหน้าที่ถูกแดดเผาร้อนจนแสบ แม้ว่าจะทาครีมกันแดดก่อนลงจากรถไฟเฮเฟตัสมาแล้วแต่ดูเหมือนว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก ตอนนี้คงต้องปลอมตัวเป็นคนอาหรับไปก่อน เขาเอาผ้าที่เตรียมไว้มาพันรอบหัวแทนฮู้ดเพื่อบังแดด
ดีนเปิดสมาร์ทโฟนเพื่อดูพิกัดของตนเอง ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากเมืองหลวงริยาดไม่ไกล คำนวนระยะทางคร่าว ๆ ด้วยสมองจากเด็กสายวิทยาศาสตร์ หากไม่เถลไถลมากจนเกินไปหรือเกิดเหตุสุดวิสัยบางอย่าง คืนนี้เขาน่าจะไปได้ไกลถึงเมืองฮาอิล ที่นั่นมีจุดตั้งแคมป์พักแรมกลางทะเลทราย หรือหากไม่ถึงก็น่าจะพอแวะพักกลางทางที่ทะเลทรายกาสซิมได้ แต่เป็นไปได้ไปให้ถึงเมืองดีกว่า
“เดี๋ยวเราต้องไปตามทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีกเรื่อย ๆ อีกประมาณสามร้อยห้าสิบไมล์ เธอไหวไหมควีน?”
“ฮรี้” oO(ข้าไม่รู้ว่าสามร้อยห้าสิบไมล์ที่เจ้าหมายถึงมันไกลแค่ไหน) เพกาซัสสาวตอบมาตามตรง ดีนจึงตระหนักได้ว่าควรจะอธิบายเปรียบเทียบให้ง่ายกว่านี้
“เอ่อ.. สามร้อยห้าสิบไมล์ก็น่าจะพอ ๆ กับ… บินจากค่ายฮาล์ฟบลัดไปแมนฮัตตัน แล้วก็กลับมาฮาล์ฟบลัด จากนั้นก็ไปที่แมนฮัตตันอีกที”
“ฮรี้” oO(.... ค่อนข้างไกลทีเดียว หากได้พักกลางทางก่อนสักครั้งหรือสองครั้งน่าจะพอไหว แต่สิ่งสำคัญคือน้ำ อากาศของเมืองชายหาดนี้แห้งเกินไป)
“ไม่ใช่ชายหาด นี่คือทะเลทรายต่างหาก” ดีนหัวเราะกับความไร้เดียงสาของสัตว์ ไม่รู้ว่าช่วงที่เขาเที่ยวอยู่ในมัสยิดและป้อมอัลมัศมัค อีกฝ่ายสังเกตการณ์บินเล่นไปถึงไหน ส่วนเรื่องน้ำไม่แย้งเพราะสำคัญจริง “น้ำสินะ.. ได้เลย ตรงนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่าจะมีร้านค้า เดี๋ยวฉันไปซื้อตุนมาไว้เยอะ ๆ เลย ถ้าสักสองแพ็ค.. เอ่อ.. น่าจะหนักเท่ากระเป๋านี้อีกสองใบ.. เธอจะไหวไหม?”
“ฮรี้!” oO(ฮึ! เจ้าดูแคลนข้าว่าเป็นอาชาอ่อนแออย่างนั้นรึ กับน้ำหนักแค่นั้นข้าแบกได้สบายมาก)
“เปล่าว่าสักหน่อย ฉันเป็นห่วงเธอต่างหาก ไม่อยากให้แบกภาระเยอะเกินไป แต่ถ้าบอกว่าไหวงั้นก็ตกลง… เดี๋ยวฉันไปหาซื้อเสบียงสำหรับเย็นนี้และพรุ่งนี้ก่อน เธอรออยู่ตรงนี้ หาอะไรกินไปพลางก่อนนะควีน”
หลังจากที่ปลดสัมภาระแล้วฝากไว้ที่ควีน ดีนก็ปลีกตัวออกมาแล้วเข้าไปยังเมืองโบราณดิรอียะห์ แม้ปากจะบอกว่าไปหาซื้อเสบียง แต่การได้มาเมืองเก่าซึ่งเป็นรากฐานของประเทศจะปล่อยผ่านไปได้ยังไง ไหน ๆ แล้วก็ขอแวะชมโบราณสถานอายุกว่าพันปีสักหน่อยเถอะ
ส่วนโบราณสถานดั้งเดิมยังคงมีอยู่ แต่ก็มีบางส่วนที่สร้างขึ้นมาใหม่ให้แนบเนียนไปกับซากอารยะธรรมเก่าที่ทำจากหินทราย ซึ่งในส่วนนั้นจะเป็นร้านค้าต่าง ๆ ทั้งร้านอาหาร และร้านขายของฝาก ทว่าเขาไม่ควรซื้อของฝากในเวลานี้ เน้นหาแต่สิ่งจำเป็นไว้ก่อน
ชายหนุ่มเดินผ่านร้านรวงต่าง ๆ เข้าไปด้านใน จนในที่สุดก็ถึงส่วนของโบราณสถานของจริงเสียทีนึง ในโซนนี้นักท่องเที่ยวไม่มากเท่าส่วนของร้านอาหาร จึงสามารถเดินชมเมืองโบราณได้อย่างชิล ๆ จนถ่ายรูปมาได้ตั้งหลายรูป บ้านเรือนสมัยโบราณปลูกติดกันจรแทบไร้ช่องว่าง จนทำให้ดีนอดที่จะจินตนาการไม่ได้ว่าชาว ‘อัต-ตูราอิฟ’ (ชื่อเก่าของเมืองดิรอียะห์) จะมีชีวิตความเป็นอยู่แบบไหน
ทางเดินในนี้ค่อนข้างวกวนราวกับเขาวงกต ชวนให้รู้สึกตื่นเต้นได้ทุกครั้งเมื่อลัดเลี้ยวไปตามทางเดินที่เหมือนกับว่าจะมีตัวอะไรโผล่ออกมาได้ตลอดเวลา
ใช่.. แล้วมีอะไรที่ว่าโผล่ออกมาจริง ๆ
กึก วูม…
เสียงกลไกบางอย่างทำงานอยู่หลังกำแพงของซากบ้านหลังหนึ่งจนผู้เดินผ่านหยุดชะงักแล้วต้องวกกลับไปดู
“โอ๊ะโอ..”
ดีนอุทานออกมาทันทีเมื่อสิ่งที่เขาโผล่หน้าเข้าไปดูเป็นเพื่อนเก่าที่คุ้นหน้าคุ้นตา ชุดเกราะสีทองอร่ามไม่ควรตั้งอยู่ท่ามกลางซากโบราณสถาน ลูกไฟสีแดงฉานสว่างวาบบริเวณดวงตา มันคือ ‘หุ่นยนต์ทองคำ’ ที่ดีนเพิ่งกำจัดไปตัวนึงเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
⌈ἄνθρωπος κινδύνος, προσέχετε: Δῖν Ἐλβίν Ἀλβάρεθ Νεῖλ, Υἱὸς Ποσειδώνος.⌋ (ตรวจพบบุคคลอันตราย: ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล บุตรแห่งโพไซดอน, ดำเนินการกำจัด)
“อีกแล้วเหรอ.. ไม่เอาน่าพวก”
หุ่นทองคำรัวภาษากรีกที่ฟังไม่เข้าใจใส่อีกแล้ว เท่าที่ฟังออกในประโยคเหล่านั้นมีชื่อเขาอยู่ด้วย รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีมากกว่าที่มันจะพูดว่า ‘ยินดีต้อนรับคุณดีนสุดหล่อเข้าสู่เมืองโบราณดิรอียะห์ครับ ขอเชิญคุณเที่ยวสนุกอย่างสำราญใจ’ ต้องไม่ใช่ประโยคนี้อย่างแน่นอน!
หากเป็นไปได้หนุ่มสายเลือดโพไซดอนอยากหลีกเลี่ยงการปะทะให้ได้มากที่สุด เขาชั่งใจว่าจะรีบเรียกควีนให้มารับออกจากจุดนี้ หรือเลือกจะสู้กับมันดี
‘เอาไงดีนะ.. ไอ้ตัวนี้มันก็ดรอปของที่จะใช้สร้างชุดเกราะด้วยสิ’
ดูเหมือนความงกจะชนะ ดีนไม่เคยพบเจอสิ่งประดิษฐ์นี้ของเฮเฟตัสมาก่อน ไม่แน่มันอาจจะมีอยู่แค่ในดินแดนทะเลทรายก็แล้ว แล้วแบบนี้จะมีเหตุผลอะไรที่ไม่กอบโกย
“ถ้านายอยากมีปัญหากับฉันนัก งั้นก็มาเป็นส่วนประกอบของชุดเกราะฉันเลยมา!”
อัญมณีสีครามที่ข้อมือเรืองแสงวาบ ก่อนที่หอกสามง่ามจะปรากฏขึ้นในมือ คราวนี้ดีนไม่รอเป็นฝ่ายตั้งรับ เขารีบบุกเข้าโจมตีหุ่นเกราะทองอย่างรวดเร็วว่องไว จากการประมือกันมาแล้วรอบนึงทำให้ชายหนุ่มรู้จุดอ่อนของมันดีว่าเจ้านี่ช้าอย่างกับสล็อต เขาแทงหอกไปตามข้อต่อแขนและขาในขณะที่มันเงื้ออาวุธขึ้นจะฟาดฟัน ทว่าเมื่อถูกสกัดกั้น ชิ้นส่วนโลหะก็หลุดร่วงลงมากองลงกับพื้นที่ละชิ้น จนเหลือแค่ตัวเปล่าที่ไร้แขนขา และสิ้นฤทธิ์ลงจากการโจมตีครั้งสุดท้ายเข้าที่ใจกลางลำตัว
“เฮ้อ.. อีซี่ย์~~”
ดีนสะบัดตรีศูลออกมาเมื่อร่างทองคำค่อย ๆ สลายไปเหลือแต่เพียงสินสงครามมีค่า เขารีบกอบโกยมันใส่ไว้ในกระเป๋าคาดเอวในทันที
‘ชุดเกราะของฉันใกล้ได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว’
เมื่อนึกถึงของที่สั่งผลิต ดีนก็ภาวนาขอให้เทพเฮเฟตัสส่งหุ่นยนต์ทองคำมาให้เขาจัดการและกอบโกยวัตถุดิบอีกสักสิบถึงยี่สิบตัว กำจัดหุ่นยนต์น่ะดีกว่าให้ไปฆ่าอสุรกายเยอะ ที่ว่าดีกว่าคือผลกระทบที่จะส่งถึงจิตใจเพราะแม้ว่ามันจะมีระบบเอไอทว่าไร้ชีวิต พอคิดว่าตัวเองต้องไปล่าปีศาจจิ้งจอกที่ญี่ปุ่นก็รู้สึกนอยด์ ๆ ขึ้นมานิดหน่อย
ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่มีเวลามาคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิด เพราะว่าเขายังมีอย่างอื่นให้ทำอีกเยอะแยะ..
หลังจากเดินชมโบราณสถานเสร็จ ก็ออกมาหาซื้อเสบียงอาหารต่อ จะว่าไปตอนนี้ก็เที่ยงตรง ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วสิ ความจริงดีนอยากรับประทานอาหารในร้านเพื่อจะได้พักเหนื่อย ทว่าหากเดินทางช้าพวกเขาก็จะยิ่งเพิ่มวันที่ต้องตกระกำลำบากท่ามกลางทะเลทรายที่แสงแดดแผดเผาเพิ่มอีกหลายวัน ดังนั้นดีนจึงเลือกรับประทานสตรีทฟู้ดง่าย ๆ สไตล์อาหรับ ‘ชวาม่า’ ดูจะเป็นตัวเลือกที่คุ้นเคยที่สุดในตอนนี้
รสชาติอาหารของชาวตะวันออกกลางเผ็ดร้อนไปด้วยเครื่องเทศ ด้วยความเป็นชาวเท็กซัสและรับประทานอาหารเม็กซิกันบ่อย ๆ เขาจึงไม่นึกรังเกียจกลิ่นอันรุนแรงของสารพัดเครื่องเทศ แต่ถ้าพูดถึงดีกรีของอาหารที่เคยรับประทาน เครื่องเทศที่แทรกอยู่ในอาหารเม็กซิกันและอาหารไทยดูจะพ่ายแพ้อาหารอาหรับตั้งแต่ยังไม่ได้ออกรบ ความอร่อยน่ะสุดยอด เพียงแต่ว่าต่อจากนี้ท้องไส้จะรับไหวแค่ไหนกันนะ…
หลังจากจบมื้ออาหารง่าย ๆ ดีนก็ซื้อน้ำดื่มติดมาด้วยถึงสองแพ็ค และอินทผลัมผลไม้ที่ให้พลังงานสูงติดมาด้วยอีกถุงใหญ่ ๆ เขาเจรจากับคนขายผ่านแอปพลิเคชั่นแปลภาษาอยู่นาน เห็นอาบังบอกว่าอูฐชอบกินผลไม้ชนิดนี้ด้วย ดีนไม่แน่ใจว่าควีนจะกินได้ไหมแต่ต้องลองดู
. . . 12.30 น.
“เฮ้! ม้าสวยรอนานไหม?”
ดีนกลับมาที่ริมแม่น้ำวาดี ฮานีฟะฮ์เห็นว่าเพกาซัสของเขากำลังเล็มกินหญ้าแถวนั้นเพื่อกักตุนพลังงาน และพอม้าสาวเห็นว่าเขากลับมา มันก็รีบตั้งคอตรงด้วยท่วงท่าสง่างามและหยิ่งยะโสเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนเดิมทั้งที่เศษหญ้าแห้ง ๆ ยังติดที่มุมปาก กิริยาที่ได้เห็นทำให้ชายหนุ่มยิ้มมุมปากแต่ไม่เผลอปากแซวเพราะยังไม่อยากถูกถีบ
“ฮรี้!” oO(ฮึ! หายไปนานมาก ข้าก็นึกว่าเจ้าถูกหุ่นทองคำแบบเมื่อเช้าถลกหนังไปแล้ว)
“ไม่มีทาง ฉันก็มีฝีมือเหมือนกันนะ ว่าแต่รู้ได้ไงว่าฉันสู้กับไอ้ตัวนั้นมา”
“ฮรี้” oO(ข้าก็แค่เดา ในเมื่อเจ้าพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยไหมล่ะ?)
“ได้สิ ลุยกันต่อเลย แต่ก่อนอื่นฉันมีของมาฝากเธอด้วย” ดีนล้วงมือเข้าไปในถุงแล้วหยิบอินทผลัมออกมาลูกนึง “ลองชิมไหม คนขายบอกว่าอูฐชอบกิน แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอจะชอบไหม”
ควีนใช้จมูกดุนดมก่อนจะลองงับเอาผลไม้รสหวานจัดไปจากมือ
“ฮรี้?” oO(รสชาติก็ไม่เลว มันคืออะไร?)
“ดีใจที่เธอชอบ มันคืออินทผลัมน่ะ ผลไม้ประจำถิ่นทะเลทราย ให้พลังงานสูง ฉันซื้อมาถุงใหญ่เลย เราได้กินจนเบื่อแน่ ๆ”
เมื่อจบการสนทนา เดมิก็อดและเพกาซัสของเขาก็ออกเดินทางกันต่อ กระนั้นด้วยสภาพภูมิประเทศที่ไม่คุ้นชิน มองไปทางไหนก็เห็นแต่ทรายจนต้องถือจีพีเอสไปด้วยตลอดทางเพื่อไม่ให้หลง กอปรกับภูมิอากาศแห้งแล้งทำให้ต้องแวะพักกินน้ำกันอยู่เนือง ๆ ทำให้กว่าจะไปถึงแคมป์พักแรมกลางทะเลทรายที่เมืองฮาอิลก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มกว่า ๆ แบบที่ตะวันยังส่องหัว
ถือว่าคิดถูกที่พวกเขาไม่ตัดสินใจนอนพักค้างแรมกลางทะเลทรายเพียงลำพัง เพราะที่จุดตั้งแคมป์มีห้องน้ำให้อาบและมีจุดพักม้าและอูฐให้ควีนได้พักผ่อนอย่างสบาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นให้บริการจนไม่ต้องมากัดก้อนอินทผลัมกิน
. . .
23.00 น.
ดีนมุดตัวเข้าไปในเต็นท์นอน แสงสว่างจากด้านนอกไม่ชวนให้หลับใหล ทว่าเวลานี้คนที่เดินทางมาทั้งวันแถมยังต่อสู้กับหุ่นยนต์ทองคำอีกตั้งสองตัวทั้งง่วง ทั้งเหนื่อย ทั้งปวดตัว ร่างสูงซุกตัวเข้าไปในถุงนอนก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาตอบข้อความและรายงานสถานการณ์ประจำวัน
D.E.A.N.: ถึงริยาดแล้ว! D.E.A.N.: ความจริงฉันกะจะบอกนายตั้งแต่มาถึงแล้วล่ะที่รัก แต่มีเรื่องวุ่น ๆ นิดหน่อย D.E.A.N.: ไปไหนก็ถูกหุ่นยนต์ทองคำไล่ตามทั้งวันเลย D.E.A.N.: เหนื่อยเป็นบ้า D.E.A.N.: อยากกลับบ้านแล้ว! D.E.A.N.:  D.E.A.N.: ฉันคิดถึงนายจังที่รัก เมื่อไรเราจะได้คุยกันโดยไม่ผ่านข้อความนะ D.E.A.N.: แต่ว่าตอนนี้ฉันรอให้นายมาตอบไม่ไหวแล้ว D.E.A.N.: ฝันดีครับแมคซี่ D.E.A.N.: 
สินสงคราม: ฟันเฟือง 10 หน่วย และ เศษทองคำ 1 ชิ้น
วันที่พิชิต: 28/01/2025
|