เรื่องมันมีอยู่ว่าเดม่อนต้องไปทำธุระสำคัญที่ธนาคารกรุงโรมใหม่ และในฐานะที่เราเป็นนักรบลูกครึ่งเทพที่ใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์มาเกือบทั้งชีวิต การจัดการกับเงินทองในโลกแห่งตำนานก็เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ให้ดีเสียก่อน
ตึกของธนาคารกรุงโรมใหม่นี่ดูน่าเกรงขามจริง ๆ มันคล้ายกับวิหารโบราณที่ประดับด้วยเสาหินอ่อนสูงตระหง่าน แต่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยแฝงอยู่ทุกหนแห่ง ผมเดินเข้าไปในล็อบบี้ที่กว้างขวาง มันดูสะอาดและเงียบกว่าที่คาดไว้มาก ผนังประดับด้วยภาพวาดของเทพเมอร์คิวรี่กำลังนับเหรียญทองคำ ซึ่งเป็นภาพที่ดูเข้ากับบรรยากาศดี
ที่เคาน์เตอร์ ผมพบกับพนักงานสาวในชุดทูนิคสีขาว เธอยิ้มให้ก่อนจะกล่าวทักทาย "ยินดีต้อนรับสู่ธนาคารกรุงโรมใหม่ ท่านต้องการทำธุรกรรมอะไรหรือคะ?"
"ผมอยากแลกเงินครับ" ผมตอบ "ห้าพันดอลลาร์กับสองร้อยดรักม่า แลกเป็นดีนาเรียสทั้งหมดเลย"
พนักงานพยักหน้า เธอกดปุ่มบนแผงควบคุมที่ซ่อนอยู่ในเคาน์เตอร์ จากนั้นมีแสงสีทองส่องลงมาจากเพดาน แผงควบคุมแสดงข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นมา อัตราแลกเปลี่ยนของดอลลาร์ดูแล้วค่อนข้างดี แต่ก็มีค่าธรรมเนียม 0.5% ที่น่าปวดใจ ส่วนการแลกเปลี่ยนจากดรักม่าเป็นดีนาเรียสก็มีเรตของมันอยู่ ผมเคยได้ยินมาว่าสภาเซเนตทำแบบนี้เพื่อสร้างมิตรภาพที่ดีกับค่ายฮาล์ฟบลัด ที่จริงมันก็ดีนะ... แต่ผมก็ยังไม่ไว้ใจโรมันทั้งหมดอยู่ดี
"การแลกเปลี่ยนดอลลาร์จะต้องเป็นไปตามแพ็คเกจที่กำหนดไว้เท่านั้นค่ะ" พนักงานกล่าวอย่างสุภาพ "ห้าพันดอลลาร์ของท่านจะถูกแลกได้ 250 ดีนาเรียส และมีค่าธรรมเนียมอีก 0.5% ค่ะ"
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ในธนาคารมนุษย์ทั่วไป เพียงแต่ทุกอย่างมันดู... เวทมนตร์ขึ้นหน่อยเท่านั้นเอง ผมยื่นบัตรเดบิตที่แปลงมาสำหรับใช้ในโลกเวทมนตร์ให้เธอ พนักงานสแกนบัตรที่แผงควบคุม จากนั้นเธอหยิบถุงผ้าไหมสีแดงขึ้นมาสองใบ
"ส่วนดรักม่าของท่าน สองร้อยดรักม่าจะแลกได้ 190 ดีนาเรียสค่ะ" เธอพูดพร้อมกับใส่เหรียญทองคำลงในถุงให้ผม
ผมมองถุงเงินในมือ มันหนักกว่าที่คิดเอาไว้มาก พนักงานส่งรอยยิ้มให้ผมอีกครั้งพร้อมกล่าว "ขอให้สนุกกับการใช้จ่ายในกรุงโรมใหม่นะคะ เจ้าหนูเดมิก็อด"
ผมพยักหน้าและเดินออกจากธนาคารไปพร้อมกับถุงเงินที่ดูคล้ายถุงของซานตาคลอส มันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างราบรื่น แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังคงต้องระวังตัวเสมอ เพราะถึงแม้จะดูเหมือนโลกมนุษย์ แต่โลกตำนานก็มีอะไรบางอย่างที่คาดเดาไม่ได้เสมอ
ตอนที่ก้าวออกมาจากประตูธนาคารและยืนอยู่บนถนนในบริเวณใจกลางกรุงโรมใหม่ ผมรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม แต่ผมต้องทำมันให้เร็วที่สุด... ทันใดนั้น ผมก็คิดถึงสิ่งที่รีชาเคยบอก
เธอเคยบอกว่ารุ่นพี่ค่ายจูปิเตอร์กำลังจัดกิจกรรมอะไรบางอย่างใน Social Nectar
ผมลองนึกย้อนไปถึงตอนที่รีชากำลังเล่น Social Nectar บนโทรศัพท์ของเธอ แล้วเธอก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดูโพสต์หนึ่ง
สวัสดีชาว Social Nectar ทุกคนครับ! วันนี้พี่แลร์รี่มีอะไรมาท้าทาย...และแจกรางวัลเด็ดๆ ด้วยนะ! 😉
รุ่นน้องคนไหนที่เพิ่งเคยออก ภารกิจคำพยากรณ์ระดับใหญ่ 'เป็นครั้งแรกในชีวิต' แล้วมีบันทึกการเดินทางของภารกิจนั้นที่เขียนไว้ละเอียดๆ สัก 30 หน้า เป๊ะๆ เนี่ย... (นับปี 2025 เป็นต้นไป)
รีบแชร์บันทึกนั้นมาให้พี่อ่านได้เลยนะครับ!
พิเศษสุดๆ! คนแรก ที่ส่งบันทึกครบถ้วนและถูกใจพี่... พี่จะ ถอยแท็บเล็ตเครื่องใหม่ล่าสุดของเดดาลัส "อิคารัส มิเรอร์" ให้เป็นรางวัลไปเลยครับ! ✨ โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ นะ! รีบหน่อยล่ะ!
ผมไม่รู้จักแลร์รี่ แต่ดูจากโพสต์อื่นๆ ที่รีชาเคยให้ดู ดูเหมือนเขาจะเป็นรุ่นพี่ค่ายจูปิเตอร์
นั่นทำให้ผมมีคำถาม... ทำไมเขาถึงจัดกิจกรรมนี้? และทำไมเขาถึงต้องการบันทึกการเดินทางของพวกเรา?
ผมคิดว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลก... แต่ในเมื่อพี่แลร์รี่เสนอรางวัลให้ ถ้าหากบันทึกของพวกเราได้รับรางวัลนี้มันก็คงถือเป็นข่าวดีไม่น้อย ผมต้องรีบหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพี่แลร์รี่ เพื่อที่จะได้ส่งบันทึกเล่มนี้ไปให้เขาพิจารณาได้โดยเร็วที่สุด
แลกเปลี่ยนเงินตรา
5,000 USD = 250 ดีนาเรียส
200 ดรักม่า = 190 ดีนาเรียส
รวมภาษี 0.5% / 5% = 5,275 USD / 211 ดรักม่า (โอนแล้ว)
ยอดที่ได้รับรวม: 440 ดีนาเรียส