[ย่านมิดทาวน์] Swanson House

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×
the
Swanson
House
Living Room

ห้องนั่งเล่นของบ้านสวอนสัน โซฟาสีน้ำเงินเข้มที่ตัดกับสีบ้านที่เป็นสีฟ้าอ่อนส่งให้ภายในบ้านดูมีมุมที่เงียบสงบขึ้นมาบ้าง เพดานที่เปิดโล่งรับกับหน้าต่างบ้านสูงที่เห็นภายนอกส่งให้เครื่องดนตรีหลากหลายชนิดที่มุมห้องอย่างเปียโน เชลโล่ ไวโอลีน กีตาร์ และอีกหลายอย่างดูน่าเล่นทันตา รวมถึงมุมชั้นหนังสือเล็กๆที่ทำให้คนในบ้านสวอนสันหลายครั้งหลายคราก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแห่งนี้เพื่ออ่านหนังสือ
Kitchen Room

ห้องครัวของบ้านหลังนี้ก็เช่นเดียวกับห้องนั่งเล่นที่มีหน้าต่างเปิดกว้างมองเห็นสวนภายนอก เคาท์เตอร์ครัวที่มีเก้าอี้บาร์ให้คนในบ้านมาสังสรรค์ทำเมนูได้หลากหลาย ทั้งยังพื้นที่ทานอาหารยังมีโซฟาตัวกว้างคอยนั่งดูโทรทัศน์ชมรายการรอเมนูยามค่ำให้ได้เพลิดเพลิน
Swimming Pool

สระว่ายน้ำภายในอาคารอยู่ถัดจากสวนเล็กๆของพื้นหลังในส่วนหลังบ้าน เช่นเดียวกับพื้นที่บ้านส่วนอื่นๆที่มีหน้าต่างเปิดโล่งรับแสงที่สาดส่องเข้ามา แม้จะเป็นสระว่ายน้ำภายในอาคารแต่ก็กว้างขว้างพอที่จะมีพื้นที่ลึกตั้งแต่ 1ไปจนถึง 2.5 เมตร
Garden

พื้นที่สวนเล็กหลังบ้านสวอนสันนั้นไม่ได้มีไว้จัดสวนเป็นกิจลักษณะแต่มีไว้เพื่อนั่งเล่นเช่นเดียวกับที่อื่นๆ โซฟากลางแจ้ง เตาบาร์บีคิวสำหรับดินเนอร์นั้นมีเพรียบพร้อมเสร็จสรรพให้เด็กๆในบ้านได้มาพักผ่อนตามเจตจำนงของแคทเธอรีนผู้เป็นมารดา แม้เหล่าเด็กสาวทั้งสองของเธอนั้นจะไม่ค่อยชอบออกจากพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองกันเท่าใดนัก
Katherine Room

ห้องนอนของผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของบ้านอย่างแคทเธอรีนถูกจัดสรรอย่างคลาสสิคและเรียบง่าย สบายตา เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งทุกอย่างมีพร้อมสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง
Ripley Room

ห้องของน้องเล็กของบ้านที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีไม้ประดับปลอมแขวนไปมาตามความชอบของเจ้าของ เตียงเล็กๆและโต๊ะทำงานหนึ่งตัวที่ถูกใช้บ่อยครั้งถูกจัดอยู่ในมุมที่ใช้สอยได้ง่ายไม่ต้องเดินไปไหนไกล
Roxana Room

ห้องนอนของร็อกซาน่า เด็กสาวผู้ถูกรับเลี้ยงในบ้านนี้ดูจะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคอมพิวเตอร์ของเธอที่มีไว้ทำงานและหางานตามนิสัยของตัวเจ้าของห้อง ตัดกับเตียงนอนที่มีเพียงเตียงนอนเล็กๆและชั้นเก็บของที่เรียบง่ายเพียงเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 12384 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-2-27 10:25
โพสต์ 2024-4-13 01:34:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Ripley เมื่อ 2024-4-13 03:26

White Swan in The Ocean

          ในช่วงเวลาที่แสนน่าเบื่อหน่ายมีสาวน้อยคนหนึ่งกำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับว่าต้องการออกไปให้รู้แล้วรู้รอด

          “ริปลีย์ สวอนสัน” เสียงของหญิงวัยผู้ใหญ่ดังมาจากหน้าชั้นเรียน นั่นคือเสียงของคุณครูผู้สอนวิชาศาสนาและนักปราชญ์สากล “สามเทพผู้ยิ่งใหญ่มีใครบ้าง”

          ไม่รู้เลยว่าคำถามนี้จะเป็นการเช็คว่าเธอฟังหรือไม่ หรือว่าเป็นการประมาทที่เขียนคำตอบไว้บนกระดานแต่ว่ายังถามในสิ่งที่เขียนลงไป คงคิดว่าเธอที่เป็นขึ้นชื่อว่าอ่านหนังสือไม่คล่องคงจะอ่านไม่ได้หรือเปล่า?

          แต่คงต้องขอโทษที่ทำให้คุณครูและเพื่อนทั้งหลายผิดหวังแล้วล่ะ ไม่ว่าจะเพราะเธอก็ไม่ได้จะใจลอยจนจับอะไรไม่ได้ศัพท์ หรือ เพราะว่าเธอสามารถอ่านคำบนกระดานได้…แม้ว่ามันจะไม่ใช่ภาษาอังกฤษก็ตาม

          ”ซูส โพซิดอน เฮดีส?“

          “...ถึงแม้ว่าจะเป็นสำเนียงกรีก แต่…ถูกต้องค่ะคุณสวอนสัน”

          กริ๊งงงงงงงงง

          “ถึงแม้ว่าเธอจะอ่านบนกระดานได้ แต่ว่าการเป็นผู้ฟังที่ดีเป็นหนึ่งในหน้าที่ของนักเรียนนะคะ หวังว่าคาบหน้าจะเห็นคุณตั้งใจเรียน“ คุณครูเอ่ยกับเธอก่อนจะกลับไปมองกวาดสายตากับทุกคน ”สำหรับคาบนี้เอาไว้แค่นี้ สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ”

          กับการถูกขานชื่อให้ลุกขึ้นตอบคำถามในวิชานี้ดูเหมือนว่าริปลีย์จะชินชาเสียแล้ว นอกจากจะไม่สนใจสายตาผู้คนเธอยังหยิบหูฟังขึ้นมาสวมและเก็บกระเป๋าสะพายออกจากห้องโดยไวราวกับรอมาเนิ่นนาน ไม่นานนักเธอก็ลงจากห้องเรียนชั้นสองตรงมาถึงทางเข้าหน้าโรงเรียน สาวน้อยวัยมัธยมปลายไม่ทันจะอารมณ์ดีได้ถึงยี่สิบนาทีก็ต้องพบกับรถเฟอร์รารี่สีฟ้าคันหรูคุ้นตาของพี่สาวตัวดีของเธอและคำทักทายแสนแสบสัน

          ‘ยัยเด็กบัลเลต์บ้านสวอนสัน’ ได้ยินเสียงคุ้นหูก็ถึงกับกรอกตาจนจะกรอกวนไปมองสมองตัวเองได้หนึ่งรอบถ้วน เด็กนักเรียนที่เดินผ่านไปมาต่างมองมาที่สองสาวหน้าโรงเรียนจนทำริปลีย์กระดากอายจนแทบอยากจะมุดดินหนีไปให้พ้นๆจากตรงนี้

          “สงสัยแดดนิวยอร์กจะแรงไป ยัยบ้านนอกอ็อตตี้เลยกลายเป็นสาวตาถั่วไปแล้ว” เธอกล่าว— ก่อนจะโยนกระเป๋าใส่ร่างบางผู้ขับรถด้วยความหมั่นไส้ถึงค่อยยัดร่างของตัวเองขึ้นรถคันเก่งของร็อกซาน่าไป

          โตจนจะเป็นควายอยู่แล้วยังจะมารับกันอยู่ได้ ริปลีย์คิดพลางมุ่ยหน้าขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับแม่ของตนเองที่คอยกำชับให้พี่สาวแสนประหลาดผู้มีนามว่า ร็อกซาน่า มารับมาส่งเธอระหว่างโรงเรียน อคาเดมีบัลเล่ต์ และบ้าน

          “มีใครเคยบอกพี่ไหมว่าบ้านมันไม่ได้หนีเราไปไหน?” คันเร่งที่ถูกเหยียบจนมิดทำน้องน้อยที่แทบจะรัดเข็มขัดเกือบไม่ทันต้องออกปากบ่น หากเธอช้าไปสักเสี้ยว ที่คาดเอวเธอคงเปลี่ยนจากเข็มขัดนิรภัยเป็นแอร์แบคกระแทกทรวงแทน

          ด้วยความที่วันนี้เป็นวันหยุดของยัยเด็กบัลเลต์ไม่ต้องไปเข้าซ้อมหรือทำการแสดง จุดหมายปลายทางที่ควรจะเป็นคณะบัลเลต์คาร์ลอสจึงเปลี่ยนเป็นบ้านสวอนสันแทน ในขณะที่กำลังขับรถอยู่นี้เองเด็กสาวบ้านสวอนสันก็เลือกที่จะมองชมนกชมไม้ มองดูทิวทัศน์ของเมืองที่ผ่านสายตาไปเพื่อความผ่อนคลายแทนที่จะสนใจพี่สาวของเธอที่กำลังคุยกับ ‘จอร์จ’ วิญญาณ เพื่อนจินตนาการ หรืออะไรก็ตามที่ตัวริปลีย์หรือใครก็ตามต่างมองไม่เห็นเช่นร็อกซาน่า ไม่ทันจะออกจากรั้วโรงเรียนได้นานนักก็มีอะไรบางอย่างโฉบรถจนต้องหดคอหนี ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจะเหลือบไปพบกับตัวประหลาดอย่างหญิงสาวมีปีกนกสีแดงและมีขาเป็นกรงเล็บอย่างกับนก

          “ร็อกซี่ เหมือนเราอาจจะต้องวิ่งหนีบ้านแทนแล้วล่ะ เหยียบ! เหยียบให้มิด!”

          เสียงหัวเราะสดใสแปรเลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องของสองสาวทันใด จากที่ขับรถคันหรูกลับบ้านสบายใจกลับกลายเป็นฉากหนีตายราวกับว่าหลุดออกมาจากกองถ่ายภาพยนต์ฮอลลีวูดสักเรื่อง ร็อกซาน่าที่ตกใจเอ่ยถามออกมาราวกับไม่เชื่อสาวตาว่ามันคือ ‘ฮาร์ปี้’ ใช่หรือไม่

          “ฉันเห็นได้เป็นตัวแบบนี้คงเป็นจอร์จหรอกมั้ง—!?” ริปลีย์กล่าวประชด

          “แล้วจะเอายังไง จะไปไหน!!” ร็อกซาน่าตอบ

          “เอาเป็นว่าขับออกจากทางหลักก่อนก็แล้วกัน” ริปลีย์เอ่ยพร้อมกับกดสมาร์ทโฟนเปิดสิริพูดออกไปว่า “ทางเลี่ยงถนนเส้นหลัก” ทันใดที่รู้ทางก็บอกทางร็อกซาน่าให้ขับจนออกจากทางหลักไปได้และมุ่งสู่ถนนนอกเมืองไร้ผู้คน “ทางโน้นมีโรงนาอยู่ น่าจะไปหลบได้นะ”

          ว่าแล้วก็ชี้ให้พี่สาวตัวเองมองไปตรงโน้นนนน มีโรงนาดูเหมือนน่าจะร้างทีเดียว แต่อย่างน้อยก็แข็งแรงพอจะให้พวกเธอหลบภัย

          “ฝากบอกจอร์จทีว่าถ้าไม่รอดก็เตรียมรับน้องใหม่ได้เลย”

          ร็อกซาน่าบิดพวงมาลัยออกทางหลักทันทีตามคำบอกสิริตรงไปที่โรงนาทันที ดูเหมือนว่าประโยคหลังของเธอจะส่งผลกระทบต่อของชายไร้ร่างหลังเบาะทีเดียว

          “เงียบน่าจอร์จ! น้องฉันยังไม่ตาย!” ร็อกซานาเอ่ยพร้อมกับเหยียบคันเร่งจนมิดพุ่งเข้าประตูกว้างของโรงนาทันที

          ฮาร์ปี้ที่ไล่ตามมาไม่หยุดหย่อนพุ่งเข้ากับกองฟาง แต่คนหวาดระแวงอย่างร็อกซาน่าหรือจะยอมหยุดรถ เธอพุ่งผ่านทุ่งนาไปเรื่อยๆ เอาเฟอร์รารี่คันน้ำเงินสุดโปรดพุ่งเข้าป่าจนโดนไม้ขีดข่วนรอบรถ

          “รถฉัน!” ร็อกซาน่าผู้เป็นคนขับรถได้แต่บ่นไปแบบนั้นทว่าจะให้หยุดเหยียบคันเร่ง เห็นทีคงได้กลายเป็นเพื่อนจอร์จตามที่ริปลีย์กล่าวมาจริงๆ รถคันสวยพุ่งเข้าป่าต่อไปเรื่อยๆร็อกซาน่าจากที่มีแต่ความกลัวเริ่มจะหัวเสียปล่อยมือขวาจากพวงมาลัยเอื้อมไปหักไม้ข้างหน้าปาใส่ฮาร์ปี้ที่บินตามมาเหนือหัวด้านหลัง

          “พูดให้ถูก รถ‘แม่’! ”

          ริปลีย์ที่สิ้นสุดการเป็นเนวิเกเตอร์สาวบอกทางก็หดหัวลงเป็นเต่า เงยขึ้นมาอีกทีก็พบว่าร่างปีศาจสาวฮาร์ปี้หายไปเสียแล้ว

          “รีบกลับกันเหอะ ก่อนจะได้กลายเป็นเพื่อนจอร์จจริงๆ” เธอกล่าวชวนให้พี่สาวตัวเองรีบกลับบ้านได้แล้ว ท่าทางคราวนี้จะไม่สามารถปิดบังแคทเธอรีนผู้เป็นมารดาของเธอได้อีกแล้ว

          “แล้วจะเอาไงดี แม่เอาตายแน่”

          เมื่อไร้ร่างฮาร์ปี้ร็อกซาน่าโล่งอกและหัวเราะคำว่าเพื่อนจอร์จอยู่ได้ไม่นาน เมื่อมองเห็นสภาพรถที่มีแต่รอยขีดข่วนไม่พอหน้ารถด้านข้างยังบุบเพราะชนโดนต้นไม้และป้ายสุสานก่อนหน้านี้

          “ซวยละ” เธอพึมพัมเบาๆ พร้อมหักพวงมาลัยหันไปทางบ้านในหัวคิดถึงแผนการณ์ว่าเอาอย่างไรดีก่อนจะหันไปถามจอร์จ

          “จอร์จมีแผนไหม ขอแบบไม่โดนไล่ออกจากบ้านก็พอ” และดูจากสีหน้าของเจ้าของคำถาม ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับคำตอบที่รื่นหูเท่าไหร่ “แล้วจะเอารถไปซ่อนที่ไหน! รถคันโตๆพูดเหมือนมันจะย่อส่วนได้เพราะไฟฉายหุ่นยนต์แมวสีฟ้างั้นแหละ”

          ร็อกซาน่ายังคงโต้ตอบอยู่กับคนด้านหลังอยู่ตลอดทางจนรถขับมาถึงบ้าน ตอนแรกเธอหมายจะอ้อมรถไปจอดที่สวนหลังบ้านเพื่อรอดพ้นคืนนี้ไปก่อน แต่ทว่ากลับเห็นหญิงสาวคนสวยยืนกอดอกอยู่หน้าบ้านพร้อมกับแสงพระอาทิตย์สีส้มที่ค่อยๆคลอยแสงลงเรื่อยๆ

          “ขอโทษนะ ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอกับจอร์จคุยอะไรกัน แต่ว่าสิ่งมีชีวิตที่อันตรายยิ่งกว่าฮาร์ปี้เมื่อครู่นี้กำลังจ้องมาทางนี้แล้วล่ะ…”

          สิ้นแล้วกับแผนที่กำลังจะวาง เหลือแผนเดียวคือการมอบตัวแต่โดยดี

          “ร็อกซาน่า!!! ริปลีย์!!!”

          เสียงแผดดังกังวานออกมาจากนักบัลเลต์มืออาชีพเจ้าของหัวเรือใหญ่คณะบัลเลต์คาร์ลอสประจำนิวยอร์ก พวกเธอเลยต้องลงจากรถมายืน จ๋ อ ง อย่างช่วยไม่ได้นี่สิ

          “เกิด อะ ไร ขึ้น?”

          “หนู เอ่อ…พอดีว่าหักเลี้ยวหนีหมาข้ามถนนเลยลงไปกองอยู่ริมทางน่ะค่ะ” บอกไปพร้อมกับเอามือผายโชว์สภาพรถ แต่สิ่งที่ทำพวกเธอกลืนน้ำลายเอือกไม่ใช่แค่นั้น เพราะว่าปีศาจนกนั่นดันทิ้งรอยกรงเล็บเป็นทางงามๆที่ประตูนี่สิ “แม่เชื่อไหม?”

          กอดอกคือคำตอบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่เชื่อ

          “โอเค สงสัยต้องไปเรียนการแสดงเสริมจากคลาสบัลเลต์แล้วสิ” ริปลีย์พึมพำกับตัวเอง

          “พวกหนูโดนฮาร์ปี้ไล่มา …ใช่ไหมร็อกซี่?”

          ร็อกซาน่าที่หัวหดรอคำด่าดันโดนโบ้ยมาเสียอย่างนั้น ร็อกซาน่าหันไปทางจอร์จที่ก็นั่งทับขาก้มหน้าหงุดอยู่บนรถไม่ต่างจากเธอ เธอก้าวลงมาจากรถเมื่อเห็นประตูที่มีรอยกรงเล็บใหญ่ที่แก้ตัวยังไงก็ไม่ขึ้นก็ทำได้แค่พยักหน้าตอบรับแคทเธอรีน ในหัวนั่งนับเงินเก็บแล้วว่าพอจะใช้คืนได้ไหม

          “ค่ะ…” ยอมรับโทษผิดทันที “คือว่าเอาเงินเก็บของหนูชดใช้ก่อนได้ไหมคะ?”

          ว่าแล้วเธอก็ล่วงในกระเป๋าเปิดสมาร์ทโฟนมองจำนวนเลขหกหลักที่เก็บมาตลอดชีวิตบนแอพธนาคารด้วยน้ำตาแทบจะตกใน เอาไงต้องคืน ต้องคืนนะร็อกซาน่า แต่ความละโมบโลภมากก็ยังครอบงำหันไปทางน้องสาวตัวแสบ

          ศอกซ้ายสะกิดเชิงให้ อธิบายสิ อธิบายยยยยย

          “ช้าก่อน— ว่าอะไรนะ ฮาร์ปี้?”

          แต่แทนที่แม่ของพวกเธอจะโฟกัสกับสภาพรถกลับถามถึงปีศาจตัวนั้น ตอนแรกพวกเธอนึกว่าจะโดนแม่หัวเราะเยาะบอกว่าพวกเธอโกหก ทว่าสิ่งที่เป็นปฏิกิริยาจริงๆของแคทเธอรีนคือใบหน้าที่ซีดขึ้นทันใด

          “ฮาร์ปี้จริงๆใช่ไหม?” สองสาวพยักหน้าตอบรับแต่โดยดี “พวกลูกเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

          ริปลีย์และร็อกซาน่าหันกลับมามองหน้ากัน (โดยที่ร็อกซาน่าก็หันไปมองที่ว่างๆที่คาดว่าน่าจะเป็นจอร์จอีกทีนึง) ก่อนจะตกลงอธิบายว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ริปลีย์อายุ 12 ขวบก็โดนแบบนี้ปีละหนได้ หรือหากโตขึ้นมาช่วงที่มาอยู่นิวยอร์กเต็มตัวก็จะเจอแบบนี้ 3 เดือนครั้ง ส่วนร็อกซาน่าเห็นอยู่บ่อยๆแทบจะเดือนละครั้ง โดยได้รับคำเตือนจะพวกผีให้หนี แคทเธอรีนที่ได้ฟังก็รีบบอกให้เด็กๆเอารถไปเก็บแล้วขึ้นไปรวมตัวที่ห้องนั่งเล่น สองสาวที่มีความผิดติดตัวทำได้เพียงทำตามแต่โดยดีก็เก็บรถให้เรียบร้อยและเดินกลับเข้าบ้านไปเจอกับแคทเธอรีนผู้เป็นมารดายืนถือซองจดหมายเก่าๆมาให้พวกเธออ่าน

          “แม่ตั้งใจจะปิดบังจากพวกลูกไปตลอดชีวิต” แคทเธอรีนกล่าวโดยไม่อาจปิดบังความกังวลจากเด็กๆได้ “แม้ว่าแม่จะบอกลูกเสมอ ริปลีย์ ว่าพ่อของลูกนั้นต้องไปทำงานที่ไกลแสนไกลจนไม่อาจมาพบพวกเราได้ แต่ความจริงทุกอย่างมันอยู่ในจดหมายฉบับนี้ จดหมายที่ควรจะส่งถึงพวกลูกตั้งแต่เรามานิวยอร์กแรกๆ”

          สองสาวมองหน้ากันก่อนจะเปิดจดหมายอ่าน ข้อความที่บอกว่าพวกเธอนั้นเป็นฮาร์ฟบลัดทำให้พวกเธองุนงงและสับสนยิ่งกว่าสิ่งใดแต่ทว่าสิ่งน่าเหลือเชื่อพวกนี้ดันกลายเป็นเหตุผลที่น่าเชื่อถือทันใดที่เพิ่งพ้นจากกรงเล็บฮาร์ปี้มาได้

                    ครึ่งเทพ? พ่อเป็นเทพ? 

          “ถ้าอย่างนั้น…พวกหนูต้องไปอยู่ที่นี่หรอ? ที่ค่ายลูกครึ่งอะไรนั่น?”

          “ใช่ เตรียมข้าวของให้ดี เพื่อความปลอดภัยของพวกเธอ แม่จะส่งไปภายในคืนนี้”

          ร็อกซาน่าที่อ่านจดหมายกุมขมับถามแคทเธอรีนย้อนซ้ำอีกครั้ง

          “คุณแม่รู้ได้ไงคะว่านี่เป็นเรื่องจริง ริปลีย์อาจจะแค่เห็นผีเหมือนหนูก็ได้ จดหมายนี้อาจจะเป็นมิจฉาชีพหลอกเด็กไปขาย หรือจับไปเรียกค่าไถ่ก็ได้นะคะ”

          เธอถามด้วยความกังวลสุดฤทธิ์ด้วยสีหน้าเชื่อไม่ได้อย่างรุนแรง

          “ถ้าฮาร์ปี้ที่พวกหนูเห็นเป็นผีจริง คงไม่มีร่องรอยมาเซอร์ไพรส์แม่แล้วล่ะร็อกซี่”

          คำตอบของแคทเธอรีนบ่งบอกถึงทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ร็อกซาน่าที่คาดหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นได้แต่หดหู่ ถึงรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่แบบนั้นก็ตาม ตอนนี้ริปลีย์ทำได้เพียงเดินตามแรงดันหลังของมารดาไปทางบันไดขึ้นชั้นสองเพื่อบังคับให้พวกเธอไปเก็บของ

          และออกจากบ้านตรงไปยังสถานที่ตามจดหมายทันทีราวกับต้องการวิ่งหนีบางสิ่งให้เร็วที่สุด










แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 42661 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-4-13 01:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
ชุดนักเรียนญี่ปุ่น
สร้อยข้อมือถัก
หมวกปีกกว้าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
รองเท้าส้นสูง
น้ำหอมสตรี
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้