[แอตแลนติกเหนือ] Flores Island

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×


Flores Island






เกาะฟลอเรส ดินแดนแห่งความงามดุจภาพวาด  ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอะซอเรส กลุ่มตะวันตกบนแผ่นอเมริกาเหนือ  

และเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มนั้น  ด้วยพื้นที่ 141.7 ตารางกิโลเมตร


ธรรมชาติสรรค์สร้างภูมิประเทศอันงดงาม ผสมผสานระหว่างขุนเขาสูงตระหง่าน 

 หุบเขาลึกชอุ่ม และหน้าผาสูงชันที่ท้าทายสายตา มอร์โรอัลโต ยอดเขาสูงสุดของเกาะ

ตั้งตระหง่านเหนือระดับน้ำทะเล 914 เมตร ราวกับเป็นผู้พิทักษ์แห่งฟลอเรส


แม้จะมีประชากรเพียง 3,793 คน กระจายตัวอยู่ในเขตเทศบาลซานตาครูซและลาเจส ดาสฟลอเรส แต่ความงดงามของเกาะแห่งนี้ กลับดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก 

 ให้มาสัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ


ฟลอเรส ยังเป็นที่ตั้งของ Ilhéu de Monchique จุดตะวันตกสุดของโปรตุเกส 

 และถูกยกย่องให้เป็นจุดตะวันตกสุดของยุโรป (แม้ว่าจะตั้งอยู่บนแผ่นอเมริกาเหนือ)

ความงดงามของเกาะ ยังได้รับการเติมแต่งด้วยสีสันสดใสจากดอกไฮเดรนเยียสีฟ้า 

 ที่บานสะพรั่งนับพันดอก แต่งแต้มทุ่งหญ้า ริมฝั่งลำธารและทะเลสาบให้มีชีวิตชีวา 

 ราวกับสรวงสวรรค์บนดิน





แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 5429 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-12-27 22:05
โพสต์ 2024-12-27 23:14:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Elina LetaniaStay with me, I'm afraid of my soul "Life flows like water; to live is to adapt and transform."
แสงอาทิตย์ในช่วงเที่ยงวันสาดส่องลงมาบนเกาะฟอเรส สายลมเย็นๆ จากทะเลพัดมาเบา ๆ ชายหาดเงียบสงบ ไม่มีเสียงใดนอกจากคลื่นทะเลที่กระทบฝั่งเป็นระยะๆ ท้องฟ้าใสไร้เมฆปกคลุม สะท้อนให้เห็นความสงบและความสวยงามที่บริสุทธิ์ แต่ภายใต้ความสงบเหล่านี้ กลับแฝงไปด้วยความท้าทายที่ยิ่งใหญ่

หลังจากการเดินทางอันยาวนานผ่านอุโมงค์ประตูวิเศษ เด็กหญิงเอลิน่า, เซลีน และลูคัส ก็ได้มาถึงเกาะฟอเรสในที่สุด พวกเขาทั้งสามยืนอยู่บนชายหาด อันมีทรายละเอียดสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกาย การผจญภัยครั้งใหม่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่ที่ท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้า

"พิกัดคือ 44°19'02.6"N 38°46'44.2"W" ลูคัสพูดขึ้นขณะยืนถือแผนที่ในมือ แผนที่ที่เขาถือยังดูใหม่และไม่ขาดวิ่น แต่กลับมีร่องรอยการใช้งานที่ชัดเจน แสงแดดที่กระทบกับแผนที่ทำให้เส้นทางที่เขาจะต้องเดินทางดูชัดเจนขึ้น

“เรือ...” เซลีนพูดเสียงเบา ขณะที่เธอหันมองไปยังชายหาดที่มีเรือไม้ลำหนึ่งจอดอยู่ รอการออกเรือ

“เราต้องไปหามันให้เจอก่อนจะสายเกินไป” เอลิน่าพูดเสียงมั่นคง ขณะยืนตรงและจ้องมองไปยังท้องทะเลเบื้องหน้า สายตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเราต้องไปถึงพิกัดนั้นให้ได้”

เซลีนหันไปมองเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะเดินไปที่เรือไม้ลำเล็กที่อยู่บนชายหาด พร้อมกับกล่าวเสียงเบา "ลูคัสต้องดูแผนที่ตลอดเวลานะ ไม่งั้นเราจะหลงทาง"

ลูคัสพยักหน้าและเดินตามไปที่เรือ "ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ให้หลงทาง"

เอลิน่าคอยช่วยเซลีนยกใบเรือ และเชือกที่ใช้ผูกเรือกับทุ่นเล็กๆ ให้คลายออก ก่อนจะขึ้นเรือไปนั่งที่ด้านหน้า ขณะที่เซลีนจับใบเรือและลูคัสนั่งอยู่ด้านหลัง เริ่มจัดการหางเสือเพื่อควบคุมทิศทางของเรือ

“ถ้าเราไม่ออกตอนนี้ เราจะเสี่ยงต่อการโดนคลื่นลมที่อาจรุนแรงขึ้นในช่วงบ่าย” เอลิน่าพูดเสียงมั่นคง ขณะมองไปยังท้องทะเลที่กำลังเปลี่ยนสีเป็นฟ้าครามที่งดงาม

"แล้วพวกเราพร้อมกันหรือยัง?" เซลีนถาม ขณะที่มือของเธอจัดการให้ใบเรือพาดลมทะเล

"พร้อมแล้ว" เอลิน่าตอบ ยิ้มให้กับเซลีน

"ไปกันเถอะ" ลูคัสกล่าว พร้อมกับหมุนหางเสือให้เรือเริ่มเคลื่อนตัวออกจากชายฝั่ง


---

เรือเริ่มเคลื่อนตัวออกไปจากชายหาด ดวงอาทิตย์ในช่วงเที่ยงยังคงส่องแสงอย่างแรงกล้า คลื่นทะเลซัดเข้ามาเป็นระลอกเล็กๆ แต่เรือไม้ก็เคลื่อนที่ไปได้อย่างช้าๆ พร้อมกับท้องฟ้าที่เปิดกว้าง ไม่มีอะไรขวางกั้นเส้นทางของพวกเขา

“ทะเลวันนี้สงบจริงๆ” เซลีนพูด ขณะมองไปยังคลื่นเล็กๆ ที่กระทบเรือเบาๆ

"มันสงบแค่ช่วงแรก" เอลิน่าพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก "รอไปสักพักเถอะ...ทะเลมักไม่คงที่หรอก"

ลูคัสหันไปมองแผนที่อย่างละเอียด "เราต้องไปตามเส้นทางที่แม่ทัพบอกไว้ เราจะไปถึงพิกัดนั้นให้ได้"

"แม้จะต้องเผชิญกับอันตรายหรืออุปสรรคอะไรก็ตาม" เอลิน่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เราจะไปถึงที่นั่น"

ทั้งสามคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน—การไปถึงพิกัดที่แม่ทัพมอบให้ พวกเขารู้ดีว่าการเดินทางในทะเลนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและอันตรายที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่สิ่งที่พวกเขามีคือความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตัวเอง

“ทะเลกว้างขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะเจออะไรที่นั่น” เซลีนพูดเสียงแผ่ว ขณะยกมือขึ้นลูบผมที่ถูกลมทะเลพัด

"ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราต้องไปถึงให้ได้" ลูคัสกล่าวด้วยความมั่นใจ ขณะมองไปข้างหน้า เส้นทางที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด

เอลิน่าหันมามองทั้งสองคนและยิ้มบางๆ “พวกเราจะทำมันได้”


---

ท้องทะเลในช่วงเที่ยงนั้นสงบและสวยงาม แต่ภายในใจของพวกเขารู้ดีว่าการเดินทางที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้น พวกเขาต้องเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า การเดินทางไปยังพิกัดที่แม่ทัพให้มาจะเป็นการเปิดเผยความลับที่ไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน แม้จะเต็มไปด้วยความลึกลับและอันตราย แต่พวกเขาก็ไม่อาจหันหลังกลับได้

"อย่าลืม...พิกัดคือ 44°19'02.6"N 38°46'44.2"W" เอลิน่าพูดเบาๆ ขณะที่มองไปข้างหน้า ท้องทะเลกว้างและอาณาจักรที่พวกเขากำลังจะเดินทางไปยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันทุกเมื่อ
#หมายเหตุ: เด้กหญิงเอเลน่า เลทาเนีย ลูคัส และเซลีน เดินทางมาถึงยังเกาะฟลอเรส และกำลังออกเดินทางโดยเรือไปยังพิกัดที่แม่ทัพบอก
"Every wave tells a story, and every drop contains a universe." the world will stain us with a scarlet cross
✿ Elli

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14500 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-12-27 23:14
โพสต์ 14,500 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-27 23:14
โพสต์ 14,500 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2024-12-27 23:14
โพสต์ 14,500 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก ลมหายใจสมุทร  โพสต์ 2024-12-27 23:14
โพสต์ 14,500 ไบต์และได้รับ +2 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2024-12-27 23:14
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สายน้ำเยียวยา
หอกฮาลต้า
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
สัมผัสแห่งกระแสน้ำ
กระซิบแห่งท้องน้ำ
ลมหายใจสมุทร
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x12
x2
x1
x4
x2
โพสต์ 2024-12-28 15:40:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Elina LetaniaStay with me, I'm afraid of my soul "Life flows like water; to live is to adapt and transform."
เรือ อควาเรียส แล่นผ่านน้ำใสที่สะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายราวกับเพชร ก่อนจะจอดสนิทลงที่ชายฝั่งเกาะฟอเรส เสียงคลื่นเบาๆ กระทบขอบเรือสร้างบรรยากาศสงบเงียบ แต่ในความสงบนี้ กลับแฝงไปด้วยความกดดันจากภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น

เอลิน่า เด็กหญิงตัวน้อย ผู้มีดวงตาสีฟ้าประกายราวกับท้องฟ้ายามเช้า ยืนมองเกาะด้วยความรู้สึกโล่งใจและตื่นเต้น "พี่ลูคัส เราถึงเกาะฟอเรสแล้ว! พวกเราทำสำเร็จขั้นหนึ่งใช่ไหมคะ?"

ลูคัส ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมเข้มและสายตาแน่วแน่ ถอนหายใจเบาๆ ขณะจัดการสมอเรือ "ใช่ แต่ยังไม่หมด เราแค่เริ่มต้นในเส้นทางกลับสู่กรุงโรมเท่านั้น"

เซลีน หญิงสาวผมดำยาวสลวย ผู้มีความสง่างามในทุกการเคลื่อนไหว พยักหน้าเล็กน้อยขณะมองไปยังกล่องทองคำที่ซ้อนเรียงกัน "ทองคำจักรพรรดิทั้ง 40 ก้อนนี้ ไม่ใช่แค่สมบัติ แต่เป็นอนาคตของกรุงโรม ทุกก้อนต้องถึงที่หมายโดยปลอดภัย"


---

ขนทองคำจักรพรรดิ

กล่องทองคำจักรพรรดิถูกแกะออกจากใต้ท้องเรือทีละใบ ลวดลายที่แกะสลักบนกล่องสะท้อนแสงจันทร์เป็นเงางาม ทุกคนช่วยกันขนย้ายด้วยความระมัดระวัง

"ทองคำพวกนี้ดูหนักจังเลยค่ะ..." เอลิน่าพูดขณะพยายามช่วยยกกล่องใบหนึ่ง แต่ด้วยแรงของเธอ มันแทบไม่ขยับ

ลูคัสยิ้มบางๆ ขณะยื่นมือช่วย "นั่นเพราะมันไม่ใช่แค่ทองคำ มันคืออนาคตของอาณาจักร ความรับผิดชอบที่หนักหนาเกินกว่าเด็กตัวเล็กๆ อย่างเธอจะต้องแบก"

เซลีนมองเอลิน่าด้วยสายตาอบอุ่น "แต่เอลิน่า เธอก็มีหน้าที่สำคัญในการดูแลพวกเราด้วยนะ การให้กำลังใจคือสิ่งที่พวกเราต้องการที่สุด"

เอลิน่ายิ้มกว้างขึ้น "เข้าใจแล้วค่ะ! ฉันจะให้กำลังใจเต็มที่เลย!"


---

เส้นทางผ่านประตูฟลอเรส

หลังจากขนทองคำจักรพรรดิทั้งหมดเสร็จ ทั้งสามคนก็เริ่มออกเดินทางเข้าสู่ป่าลึก เสียงใบไม้เสียดสีและสายลมเย็นที่พัดผ่าน ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความลึกลับ

"พี่ลูคัส ทำไมเราต้องกลับทางเดิมด้วยคะ? มันมืดและดูน่ากลัว..." เอลิน่าถามพลางจับแขนลูคัสแน่น

"เพราะทางนี้เป็นทางเดียวที่เรามั่นใจว่าจะพาเรากลับถึงกรุงโรมได้อย่างปลอดภัย" ลูคัสตอบเสียงหนักแน่น แต่สายตากลับจับจ้องไปยังเงามืดข้างหน้าอย่างระมัดระวัง

เซลีนเดินตามหลังสุด คอยเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหว "ประตูฟลอเรสอาจดูเหมือนประตูธรรมดา แต่ในคืนที่ไร้แสงดาว มันเป็นเหมือนทางผ่านไปสู่ดินแดนแห่งความลับ"

เอลิน่ากลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้น "ดินแดนแห่งความลับ? หมายความว่าอาจมีสิ่งที่เรายังไม่รู้ซ่อนอยู่ใช่ไหมคะ?"

เซลีนยิ้มบางๆ "ใช่ แต่ไม่ต้องกลัว เราจะผ่านมันไปด้วยกัน"


---

ประตูฟลอเรส

เมื่อเดินทางมาถึง ประตูฟลอเรสปรากฏตรงหน้า โครงสร้างหินสูงใหญ่ที่ถูกสลักลวดลายโบราณอย่างวิจิตร รอบๆ มีเถาวัลย์และมอสปกคลุม ราวกับมันถูกทิ้งร้างมานาน

"นี่แหละคือเส้นทางกลับกรุงโรม" ลูคัสกล่าวพลางวางหีบทองคำลงกับพื้น

เซลีนเอื้อมมือแตะที่ผิวหินของประตู ความเย็นจับใจแผ่ซ่านไปทั่วมือ "มันยังคงมอบความลึกลับเหมือนทุกครั้งที่เราเดินผ่าน"

เอลิน่ามองไปยังข้อความที่สลักไว้บนเสาประตู "พี่เซลีน นี่หมายความว่าอะไรคะ?"

เซลีนอ่านออกเสียงแปลข้อความ "‘ผู้ที่ถือสมบัติแห่งจักรพรรดิ จงก้าวผ่านด้วยหัวใจที่มั่นคงและความกล้าที่ไม่หวั่นไหว’"

ลูคัสหันมามองพวกเธอ "พร้อมหรือยัง? เมื่อเราก้าวผ่านไป ไม่มีทางหันกลับอีกแล้ว"

เอลิน่าจับมือเซลีนแน่น "พร้อมค่ะ! เราจะไปถึงกรุงโรมด้วยกัน!"


---

เสียงหินเคลื่อนตัวดังสะท้อน ประตูค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นเส้นทางที่มืดมิดและลึกลับเกินกว่าจะคาดเดา แต่ทั้งสามคนก้าวเข้าสู่มันด้วยความมั่นใจ เพราะสิ่งที่พวกเขาถือไว้ในมือ ไม่ใช่เพียงทองคำ แต่คืออนาคตของจักรวรรดิ.
#หมายเหตุ: เด็กหญิงตัวน้อยเอลิน่า เลทาเนีย ลูคัส และเซลีน ทำการขนทองจักรพรรดิ จำนวน 40 ก้อนลงจากเรือ และช่วยกันขนเดินทางกลับไปยังบริเวณกรุงโรม ผ่านประตูฟลอเรส


"Every wave tells a story, and every drop contains a universe." the world will stain us with a scarlet cross
✿ Elli

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14357 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 15:40
โพสต์ 14,357 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 15:40
โพสต์ 14,357 ไบต์และได้รับ +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2024-12-28 15:40
โพสต์ 14,357 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก ลมหายใจสมุทร  โพสต์ 2024-12-28 15:40
โพสต์ 14,357 ไบต์และได้รับ +2 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2024-12-28 15:40
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สายน้ำเยียวยา
หอกฮาลต้า
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
สัมผัสแห่งกระแสน้ำ
กระซิบแห่งท้องน้ำ
ลมหายใจสมุทร
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x12
x2
x1
x4
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้