[บันทึกการเดินทาง] HAPPY TRIP WITH DENISTA

[คัดลอกลิงก์]

START : 23/12/2024 - 10:55
FINISH : 24/12/2024 - 04:59
STATUS : FINISH
CHAPTHER : 9




ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 1727 ไบต์และได้รับ 1 EXP!  โพสต์ 2024-12-25 03:59
โพสต์ 2024-12-25 05:39:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-25 05:49




ไดอารี่ที่รัก.. ในที่สุดฉันก็—--

โครม ! เคร๊ง พรวด !

“ เฮ้ ! ขับรถดี ๆ หน่อย ! ”

“ อย่าบ่นเยอะนักน่ายัยหนู ”

“ โอ๊ย ให้ตายสิ.. ”

ไดอารี่ที่รัก ในที่สุดฉันก็ (ขีดฆ่า)

การเดินทางของฉันเริ่มต้นจากเช้าวันจันทร์ที่สดใส หนึ่งวันก่อนถึงคริสต์มาสอีฟ — แย่จริง ฉันคิดถึงพ่ออีกแล้ว แต่ช่างเถอะ เขาคงอยู่สักที่บนโลกและกำลังมีความสุขโดยที่ไม่มีฉัน เหมือนทุก ๆ ปี : ) อย่างไรก็ตามความคิดของฉันที่มีต่อพ่อไม่ใช่ส่วนสำคัญของบันทึกครั้งนี้ แต่เป็นการเดินทางไปยังค่ายจูปิเตอร์ต่างหาก อันที่จริงฉันควรจะมีบันทึกตั้งแต่ตอนเดินทางออกจากบ้าน แต่เชื่อเหอะ ด้วยอายุ 15 แค่ก้าวขาออกจากบ้านมาเดินทางไกล ไม่ตายได้ก็บุญแล้ว

โอ๊ย ทำไมถึงได้มีคำว่าแต่เยอะนักนะ

เช้าวันนี้ฉันตื่นขึ้นได้ด้วยการปลุกของลูปา ข้าวของของฉันถูกเก็บตั้งแต่เมื่อคืน ยอมรับเลยว่าทีแรกฉันเอาบางอย่างไปซ่อนเผื่อว่าจะได้วนกลับไปอีก แต่พระเจ้าช่วย.. ลูปาจมูกดีสมกับเป็นหมาสุด ๆ (ขอโทษนะลูปา ฉันรักคุณ) ดังนั้นแผนการที่จะทำตัวงอแงก็เลยล่มจนไม่เหลือเศษหน้าให้กอบกู้ ฉันตัดสินใจเดินออกมาจากเขตป่าของหุบเขาโซโนม่า บอกลาป่าแดงพิลึกพิลั่นนั่นก่อนจะรีบวิ่งแจ้นมาจนถึงถนนใหญ่ ฉันไม่รู้ว่าทำไมของบนตัวถึงได้เยอะขนาดนี้แต่โชคดีที่ได้กระเป๋าเดินทางจากลูปาเพิ่มมาอีกหนึ่งใบ ฉันเลยสามารถยัดทุกอย่างแล้วแบกเพื่อมาเรียกรถอยู่ริมถนนได้โดยไม่ดูเหมือนยัยบ้าหอบฟาง (คำเตือนให้ตัวเอง : อย่าหาวิ่งทั้งที่แบกของเยอะอีก จะตายอยู่แล้ว )

กลับมาที่การเรียกรถ ด้วยความที่เส้นถนนตรงตีนเขาโซโนม่าไม่ได้มีคนผ่านเยอะ(รึเปล่า) หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะนี่เป็นช่วงคริสต์มาส ฮะฮ่า ทำไมฉันถึงเลือกวันได้ดีอย่างนี้เนี่ย? มีรถไม่มากที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นรถเล็กและไม่คิดที่จะรับผู้โดยสาร โชคดีที่ฉันเจอตาแก่—- หมายถึง ลุงหน้าตาขี้เบื่อคนหนึ่งขับรถกระบะเก่า ๆ ของเขาผ่านมา ถึงจะไม่ถูกชะตาแต่ก็บอกได้เลยว่าคงมีแค่เขาที่ใช้งานได้แล้วในช่วงเวลาแบบนี้

“ ยัยหนูแบบเธอมาทำอะไรแถวนี้? ” เขาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงของชายแก่ขี้หงุดหงิดชวนให้สยิว

“ ฉันกำลังตามหารถไปส่งที่ ๆ ไม่ได้ไกลจากตรงนี้มากน่ะค่ะ ” ส่วนนี่คือสิ่งที่ฉันเลือกตอบเขา

ระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้เหมือนอย่างที่ลูปากำชับมา

“ ถ้าไม่ได้ไกลมากแล้วทำไมไม่เดินไปซะล่ะ ”

เอ้า ไอ้แก่นี่ (ขีดฆ่า)

หมายถึง— โอ้ คุณลุงผู้แสนตรงไปตรงมา จะเป็นการกรุณาอย่างมากหากลุงช่วยพิจารณาดูสภาพขาและข้าวของของดิฉันก่อนจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา < น่าเสียดายที่ไม่ได้พูดแบบนี้ออกไปแต่พอมาย้อนคิดแล้วมันก็ค่อนข้างตลกดี สื่อมีผลต่อเยาวชนหรือเปล่านะ? ช่วงนี้เหมือนฉันปากจัดขึ้นกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัวยังไงก็ไม่รู้

“ ของมันเยอะฉันแบกไปตลอดทางไม่ไหวน่ะค่ะ ”

ถึงเขาจะไม่ได้ตอบอะไรกลับมาในตอนนั้นแต่สีหน้าของเขาพูดออกมาหมดแล้ว ฟีลแบบว่า ‘ แล้วแบกมาได้ขนาดนี้แบกต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือไง? ’ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าคนปกติคงไม่นึกกันว่าบนหุบเขาและในป่าลึกที่ทุรกันดานจะมีบ้านให้พักอาศัย ท่องไว้เดนิสต้า ไม่ใช่ความผิดของลูปา ไม่ใช่ความผิดของบ้านหมาป่า (กำหมัด) ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฉันแอบด่าเขาอยู่ในใจหรือต่อมความเป็นผู้ใหญ่ของเขากำลังทำงาน อย่างน้อยต่อมาเขาก็ยังถามฉันด้วยท่าทางสุภาพขึ้น?

“ แล้วจะไปไหน ”

“ ฉันนัดกับเพื่อนไว้ที่อุโมงค์คัลลีคอตต์ค่ะ ”

และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่คำตอบของฉันทำให้สีหน้าของเขายับยู่ยี่ด้วยความสงสัย รู้กันเท่านี้นะ เขาเป็นคนแก่ที่เก็บสีหน้าไม่เก่งที่สุดในโลกเลย แม้แต่เด็ก ๆ ในบ้านหมาป่าบางคนยังทำได้ดีกว่าเขาด้วยซ้ำนี่เขามีชีวิตมาจนถึงอายุเท่านี้โดยไม่โดนต่อยหรือเดือดร้อนได้ยังไง (จากผู้เล่นเดนิสต้า : ก็คงจะวิธีเดียวกับที่เธอปากแบบนี้แต่ยังรอดมาได้นั่นแหละเนซ) เพราะมันก็ผ่านมาสักพักแล้ว ฉันจำรายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่แม่นเท่าไหร่ แต่ด้วยการเจรจาตอบโต้ไปมาเหมือนตีปิงปองในที่สุดฉันก็ได้หอบข้าวหอบของมาอาศัยบารมีท้ายกระบะของเขาเป็นตัวช่วยในการเดินทาง

เขาบอกว่าเขาชื่ออเล็กซานเดอร์ กับนามสกุลอะไรสักอย่างที่ฉันไม่ได้ใส่ใจจะจำ มีลูกสาวที่อายุเท่ากับฉันหนึ่งคน เธอคนนั้นเรียนที่ต่างประเทศ เขาดูเป็นผู้ชายรักครอบครัว ท่าทางคงจะเลิกกับภรรยาแล้วเพราะเขาไม่พูดถึงเธอเลย แต่อย่างน้อยประกายในแววตาและน้ำเสียงภาคภูมิใจที่มีต่อลูกสาวก็คงจะทดแทนความเหงาที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาน่ากลัวนั่นได้อยู่บ้างล่ะมั้ง


เสียงล้อบดกับถนนลาดยางเปรียบเสมือนเสียงขับกล่อม ลมเย็น ๆ ที่ปะทะกับร่างจนเด็กสาวต้องรื้อผ้าในกระเป๋าเดินทางมาห่อตัวไว้ก็ดูเหมือนจะเป็นประสบการณ์สุดทรหดแต่ในขณะเดียวกันมันก็มีความสนุกสนานแฝงอยู่ในนั้น เดนิสต้าหัวเราะเบา ๆ เมื่อเธอกวาดสายตาอ่านบันทึกที่เขียนอีกครั้งจนถี่ถ้วน ‘ ไม่ควรเรียกมันว่าบันทึกเลยแฮะ มันดูเหมือน Burn Book มากกว่า ’

เธอปิดสมุดลง นำมันมากอดไว้กับอกและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ‘ เป็นวันที่ท้องฟ้าสวยจริง ๆ ’ ไม่มีก้อนเมฆ มีแค่พื้นหลังของฟากฟ้าสีเข้มสดใสพร้อมด้วยดวงอาทิตย์แขวนเพื่อให้ความอบอุ่นในช่วงท้ายปีที่มีหิมะตกลงมาอย่างอ้อยอิ่ง มือข้างหนึ่งของเธอหงายขึ้นรองรับเกล็ดหิมะที่พริ้วไหวไปตามลม น่าเสียดายที่ความเร็วของรถกลายเป็นว่าเป่ามันทิ้งไปจนเกือบหมด

“ ขับช้าลงหน่อยได้ไหม !! มันหนาว !!! ”

เดนิสต้าตะโกนสู้กับเสียงลมกรรโชกแรงเพื่อให้ผู้ขับที่เปิดกระจกได้ยินความต้องการของเธอ แต่เสียงตะโกนที่ตอบมากลับทำให้เธอต้องกรอกตา “ หนาวก็ใส่เสื้อกันหนาวเพิ่มอีกชั้นสิ !! ” เสียงทุ้มใหญ่ของเขามีความขบขันแฝงอยู่จนเธอสัมผัสได้ แต่สัญชาตญาณบางอย่างของเธอกลับกึกก้องอยู่ในใจว่าเขาไม่ได้ใจร้าย สวนทางกับความเป็นจริงและการแสดงออกของเขาจนเด็กสาวเริ่มที่จะขมวดคิ้ว แต่นั่นไม่สำคัญ เดนิสต้าตั้งมั่นไว้ในใจว่าเธอจะเก็บประโยคเมื่อครู่นี้ไปเขียนใส่ไว้ใน Burn Book ของเธอแน่นอน

‘ เดี๋ยวก่อน.. ไม่ใช่ว่ารถมันเริ่มช้าลงเหรอ? ’

สองข้างทางที่ผ่านไปยังคงเต็มไปด้วยแมกไม้เหมือนเก่า แต่ตอนนี้เธอกลับสามารถมองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มจากเดิมได้มากขึ้น รวมไปถึงการที่มีหิมะบางส่วนตกลงมาถึงพื้นท้ายกระบะซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเร็วของรถที่ลดลง ดวงตาของเดนิสต้าเบิกกว้าง แต่แล้วเธอก็เริ่มหัวเราะ มันเป็นเสียงหัวเราะใส ๆ ที่ดังพอจะทำให้คนขับชำเลืองมองสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านกระจกมองหลัง

“ หัวเราะอะไรของเธอยัยหนู ”

“ เปล่า ๆ ก็แค่.. ก็แค่.. ”

“ ก็แค่อะไรเล่า !! ”

ยิ่งพูดก็ยิ่งหัวเราะ เดนิสต้างอตัวลงซบพื้นกระบะพร้อมกับเสียงหัวเราะดังลั่น

‘ ตาย ตาย คุณสารถีคนนี้ใจดีกว่าที่คิดแฮะ ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ได้รับกระเป๋าคาดเอว 1 ใบจากลูปาในบันทึกหน้าแรก
ความคืบหน้า : เดินทางออกจากหุบเขาโซโนม่า




แสดงความคิดเห็น

มาเกาะเบารอติดตามตอนต่อไปฮะ *จกป็อปคอร์น*  โพสต์ 2024-12-25 13:36
ฉันจะรอคอยเธออยู่ที่ทางช้างเผือก~  โพสต์ 2024-12-25 10:36
God
ลูปามอบกระเป๋า(เนเรซ่า)ให้คุณ บอกว่าสิ่งนี้จูโน่ฝากมอบให้ เธอจะได้ใช้มันผ่านการเดินทางคราวนี้  โพสต์ 2024-12-25 10:16
ที่ปากแบบนี้แล้วยังรอดมาได้ ขอสันนิษฐานได้ว่า ฝั่งตรงข้ามตุยเรียบไปหมดครับ ปะครับ  โพสต์ 2024-12-25 06:45
โพสต์ 18884 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-25 05:39
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-25 20:10:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-26 22:44




อเล็กซานเดอร์คือผู้ชายประเภทที่ขี้โวยวาย ขี้เขินและชอบโมโหกลบเกลื่อน สูตรสำเร็จของพวกพระเอกแปลก ๆ ในการ์ตูนที่ทำเป็นปากแข็งแต่สุดท้ายก็ช่วย มันก็ปกติอยู่สำหรับ.. เด็กวัยรุ่นบางช่วง แต่ที่น่าประหลาดใจคือตอนนี้เขาอายุ 52 แล้ว แต่ก็ยังมีนิสัยแบบนี้อยู่? < เจ้าตัวบอกเองว่าอายุ 52 ฉันไม่ได้คิดไปเองหรือพิจารณาเอาจากหน้าเขา เพราะถ้าให้ฉันเดาฉันอาจเขียนว่าเขาอายุ 60 ด้วยซ้ำ

เขามีนิสัยที่เคยชินกับการขับรถเร็วดูได้จากที่บ่นกระปอดกระแปดว่าเขากำลังขับรถช้าเหมือนเต่า ทั้งที่รถของเขากำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยมีผู้โดยสารนั่งท้ายกระบะ เป็นความเร็วที่มากพอในการปล่อยให้ฉันปลิวตกจากท้ายกระบะได้ แต่ไม่ต้องห่วง เดนิสต้า นอร์ทาร่าเคยเจอที่หนักกว่านี้มาแล้ว ดังนั้นสบายมาก (ไม่จริง) โอเค ยอมรับก็ได้ว่ามันค่อนข้างน่ากลัว คุณเข้าใจใช่ไหม? ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในขณะที่รถกำลังแล่นไปตามทางลงจากตีนเขา ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองสามารถลอยหรือไม่ก็ตีลังกาตลบร่วงไปโผล่หน้ารถได้ทุกวินาทีถ้าไม่จับให้ดี

แต่ก็ยังดีที่ราว ๆ 20 นาทีหลังจากขึ้นรถของอเล็กซานเดอร์ในที่สุดฉันกับเขาก็มาถึงเขตพื้นราบที่เต็มไปด้วยฟาร์มองุ่นรวมไปถึงโรงกลั่นไวน์ ด้วยความอยากรู้และไม่อยากถูกหลอก— คือ เข้าใจฉันใช่ไหม ฉันก็เป็นเด็กคนหนึ่งในช่วงวัยที่กำลังอร่อย(ยังไงนะ?) การจะเชื่อใจใครมันก็เป็นเรื่องยาก เพื่อให้ตัวเองสามารถรู้ตัวทันในกรณีที่อเล็กซานเดอร์ขับออกนอกเส้นทางเกินกว่าที่จะรับได้ ฉันเลยตัดสินใจลองศึกษาเส้นทางดูเล่น ๆ ในระหว่างที่เขาไม่ได้สังเกตเพราะกำลังสนุกอยู่กับเพลง Take Me Home, Country Roads จากวิทยุในเขตชานเมือง

แถวนี้แทบไม่มีอะไรเลยนอกจากฟาร์มองุ่น โรงกลั่นไวน์ และสนามแข่งรถกับสนามโกคาร์ท .. รู้กันเท่านี้นะ ช่วงหลัง ๆ มานี้ฉันชอบแอบลูปาเปิดดูการแข่งขันรถ และพระเจ้า ทันทีที่เห็นชื่อสนามแข่งรถ หัวใจฉันเต้นเร็วพอ ๆ กับวินาทีที่สบตากับพนักงานขายไอติมเมื่อสิบกว่าปีก่อน พวกเธอเข้าใจใช่ไหม รักแรกพบ(?) ความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่นั้น

ฉันก็เข้าใจนะ พวกเธออาจจะมองว่ามันแปลกที่ตื่นเต้นแค่เพราะรู้ว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ใกล้ ๆ และเรากำลังจะเดินทางผ่านมันในอีกไม่กี่นาที แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ายิ่งใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมากแค่ไหนสถานที่พวกนี้ก็ยิ่งหาได้ยาก เผอิญว่าก่อนหน้านี้ฉันเป็นสาวในเมือง และแน่นอนไม่ต้องพูดถึงการย้ายจากในเมืองไปอยู่บนเขา อันที่จริงถ้าเกิดว่าฉันรู้จักกับอเล็กซานเดอร์เป็นการส่วนตัวมากกว่านี้ฉันคงขอร้องให้เขาแวะระหว่างทางอยู่หรอก น่าเสียดายที่ไม่ T T ถึงจะเสียดายนิดหน่อย แต่การเดินทางนี้ยังต้องไปต่อ อเล็กซานเดอร์บอกว่าเขามีธุระที่ Thirty-Seven Winery ดังนั้นพวกเราเลยมาจอดรถที่นั้น

“ อย่าดื้ออย่าซนแล้วเข้าไปรอในตัวรถซะ โอเคไหม? ” เขากำชับพร้อมกับชี้หน้าฉันเหมือนเด็กวัยเตาะแตะ ในตอนนั้นมีหลายอย่างให้โฟกัสมาก ไม่ว่าจะความสูงของเขาที่มากกว่าที่ฉันคิดไว้ หรือการที่เขาโง่พอจะให้เด็กแปลกหน้าเข้าไปนั่งรอในรถ โอเค โอเค ฉันไม่ได้จะบอกว่าตัวเองไร้ความน่าเชื่อถือแต่ เฮ้ คิดดูสิ ฉันสามารถขโมยรถเขาได้เลยตอนนี้ ทันที ถ้าเกิดว่าเป็นพวกหัวหมอพอ โชคดีนะ ที่เขาเจอสาวสวยใจดีไม่คิดร้ายกับใคร(?) ดังนั้นรถของเขาจะยังปลอดภัยฉันรับประกัน


เสียงปิดสมุดดังขึ้นพร้อมกับการถอนหายใจยาวเหยียด ศีรษะของเดนิสต้าเอนพิงไปกับที่รองศีรษะของเบาะภายในรถกระบะเก่า ๆ ที่มีแค่สองที่นั่งในตัวรถ หญิงสาวกะพริบตาหลายครั้งเพื่อขับไล่ความอ่อนล้า ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย เสียงสบถเบา ๆ ลอดออกมาเมื่อเธอรู้ตัวดีถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้ “ ทำไมฉันต้องมาบันทึกการเดินทางอะไรนี่ด้วย.. ”

ลำพังแค่อาการดิสเล็กเซียก็เป็นปัญหามากพอแล้ว แต่นี่เธอยังเป็นดิสเล็กเซียประหลาดที่ทำให้เห็นอักษรซ้อนทับจนต้องเขียนมันใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับว่ากำลังลงโทษตัวเอง ลมหายใจหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด ‘ มันเป็นการทรมาณเยาวชน ฉันจะแจ้งให้หมด ’ ชั่วขณะหนึ่งแม้แต่เสียงเพลงก็ไม่สามารถช่วยเหลือให้ความร้อนรุ่มในใจของเธอเบาลง ดวงตาของเธอชำเลืองมองไปทางโรงกลั่นไวน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ถัดออกไป อเล็กซานเดอร์เข้าไปในนั้นได้เกือบชั่วโมงแล้ว .. เนื่องจากเธอไม่ได้ถามเขาอย่างชัดเจน ดังนั้นเธอจึงไม่มีข้อมูลเลยแม้แต่น้อยว่าเขามาที่นี่เพื่อทำอะไร ‘ ฉันไม่ได้อยากจะคิดในแง่ลบแต่นี่มันไม่น่าไว้ใจจริง ๆ ’

ไม่น่าไว้ใจ ความรู้สึกนี้มีทั้งด้านที่ดีและไม่ดี , บางทีเขาอาจเข้าไปทำธุระที่เกี่ยวกับการเตรียมอุปกรณ์มาทำร้ายเธอ หรือไม่เขาอาจกำลังตกอยู่ในอันตรายด้วยตัวของเขาเอง— เพี๊ยะ เสียงตบดังขึ้นที่แก้มนุ่ม ‘ อย่ามาทำตัวอ่อนไหวไปหน่อยเลยเดนิสต้า เป็นห่วงคนอื่นเนี่ยนะ? ห่วงตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ’ มือของเธอเปลี่ยนจากการประคองแก้มที่แดงขึ้นเล็กน้อยจากแรงตบมาเป็นการเสยผมช่วงหน้าผากให้โคนยกขึ้นย้อนไปด้านหลังศีรษะ

‘ เขาบอกให้ฉันอยู่ในรถ ฉันควรอยู่ในรถ เฝ้ารถให้เขา ไม่ทำตัวสร้างปัญหา ใช่ ฉันควรทำแบบนั้น ’

“ ช่างแ*่ง ใครสน ”

ถ้าให้นั่งรออยู่ในนั้นไปอีกหลายชั่วโมง เดนิสต้าต้องประสาทกินแน่ เธอผลักประตูรถให้เปิดออกก้าวลงไปเหยียบพื้นดินไม่สม่ำเสมอเพื่อสูดอากาศธรรมชาติที่มาพร้อมกับกลิ่นของความกลัว.. ‘ เดี๋ยวก่อนนะ ’ จากท่าทางสบาย ๆ ที่ออกมายืดเส้นยืดสายเมื่อครู่สลับมาเป็นท่าทางตึงเครียดได้ในพริบตา หญิงสาวมีพรสวรรค์ในการรับรู้อารมณ์ก็จริงแต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่เธอจะพบกับอารมณ์ด้านลบที่ขมวดกันเป็นก้อนใหญ่อย่างวันนี้ ‘ บ้าเอ๊ย เกิดอะไรขึ้นในนั้นเนี่ย ’ มีความเป็นไปได้นับหมื่นนับแสนที่เธอไม่อยากให้มันเป็นและเพื่อป้องกันเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น เธอจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง

ร่างบางปรี่ไปคว้าอาวุธที่ซ่อนไว้ในกระเป๋า ก่อนจะวิ่งตาลีตาเหลือกไปด้านใน โครม !! เสียงถีบประตูตามมาด้วยการปรากฏตัวของหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่มีพร้อมฝุ่นควันที่กระจัดกระจาย แสงอาทิตย์ที่สาดย้อนมาตามแผ่นหลัง ภาพซิลลูเอทอันแสนสมบูรณ์แบบของเรือนร่างที่สมควรขนานนามว่าลูกรักของเทพีแห่งความงามทำให้หมู่ชายธรรมดาที่อยู่ด้านในพลันอ้าปากค้าง ทว่า—-

“ อเล็กซานเดอร์ มีใครตายหรือยัง !! ”

พรวด

“ พูดบ้าอะไรของเธอเนี่ยยัยหนู ”

เอ้า?

ไม่ใช่แค่อเล็กซานเดอร์และคนรู้จักของเขาเท่านั้นที่งง เดนิสต้าเองก็ด้วย ความรู้สึกหวาดกลัวที่เธอสัมผัสได้ยังไม่ทันเลือนหายแต่พวกเขากลับปกติดี — ดีมากด้วยซ้ำเมื่อดูเอาจากแก้วไวน์ที่อยู่ในมือคนที่กำลังคุยกับอเล็กซานเดอร์ แต่ไม่รวมกับการที่หนึ่งในนั้นเผลอพ่นไวน์ออกมาเพราะคำพูดของเธอ ‘ แปลก ’ ดวงตาของเดนิสต้ากวาดมองไปรอบ ๆ จงใจเมินเสียงพูดเชิงรำคาญของเหล่าชายแก่ที่บอกว่าเธอเป็นเด็กไร้สาระ แต่ก็ไม่พ้นชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามที่พวกเขาถามว่าเธอแบกไม้กอล์ฟเข้ามาทำไม

‘ ตาแก่งี่เง่า นี่หอกฮาลต้าราคา 20 เหรียญดีนาเรียสเลยนะ ! ’

สาวน้อยวัยสิบเก้ากรอกตา เธอเดินผ่านพวกเขาไปยังประตูอีกบานที่อยู่ด้านในอาคารตั้งใจจะสำรวจให้ทั่วเพื่อหาต้นต่อของความผิดปกติโดยไม่สนใจคำคัดค้าน “ ขออนุญาตนะคะ ” ริมฝีปากของเธอขยับขอแบบพอเป็นพิธีต่อให้พวกเขาไม่ยินยอมเธอก็มีวิธีทำให้พวกเขาต้องยอมอยู่ดี สัญชาตญาณของเดนิสต้าไม่เคยพลาด เธอไม่แน่ใจว่าทำไมตัวเองถึงได้มั่นใจนัก แต่นั่นไม่สำคัญ เมื่อเทียบกับความเป็นไปได้สุดเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น ‘ ฉันไม่เคยอยากเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย แต่พระเจ้า.. พอเป็นครึ่งเทพชีวิตก็ไม่เคยมีอะไรดีสักอย่าง ’

ไม่ทันให้มือของเธอแตะลงกับลูกบิดด้วยซ้ำ.. เสียงกระซิบบางอย่างก็ลอยมาคล้ายลมที่จงใจเป่าเข้าหูของคนในบริเวณนั้น สำหรับเดนิสต้าเสียงนั้นเป็นเพียงมนต์ลวงใจที่ก่อกวนให้เธอหัวเสียแต่ไม่ใช่กับอีกสองชีวิตที่อยู่ข้างหลัง ‘ โอ้ ไม่.. ซวยล่ะ ’ ความโกลาหลเกิดขึ้นทันทีที่เธอหันขวับกลับไปมอง เสียงหมัดและด่าทอรวมไปถึงการตะโกนโหวกเหวกระหว่างชายสองคนทำให้เธออ้าปากค้าง

“ อะไรเนี่ย.. ”

เพื่อไม่ให้คนแก่สองคนระเบิดอารมณ์ใส่กันจนไร้ที่สิ้นสุด เดนิสต้าปรี่เข้าไปแทรกกลางระหว่างพวกเขา แขนข้างหนึ่งใช้ด้ามหอกยันอกพนักงานโรงกลั่นไวน์ ส่วนแขนอีกข้างยันอเล็กซานเดอร์ไม่ให้เขาเหวี่ยงหมัดมั่วซั่ว “ แก่แล้วก็อย่าใช้แรงเยอะกันนักสิ ตั้งสติหน่อย อยากไปนอนหยอดข้าวต้มที่โรงพยาบาลกันหรือไง อายุป่านนี้เอวเคล็ดไปหมอไม่รับรักษาแล้วนะ ! ” เสียงของเด็กสาวไม่มีทางไปสู้เสียงใหญ่ ๆ ของชายสูงวัยได้ เรี่ยวแรงก็ด้วย ยิ่งเวลาผ่านไปความพยายามที่จะทำให้พวกเขาสงบก็ดูเป็นความหวังที่ริบหรี่

“ มากาเร็ตต์เป็นของฉัน ไองั่ง ! ”

“ ถุ้ย ของฉันต่างหาก อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะว่าแกแวะไปหาลิซ่าที่บ้านของเธอบ่อย ๆ ไอกร๊วกเอ๊ย ”

เดนิสต้าผิวปาก เธอชำเลืองตามองอเล็กซานเดอร์ที่หน้าแดงซ่านด้วยความอับอาย “ แก แก !! ”

“ โอ๊ยย รู้แล้ว รู้แล้วว่ามากาเร็ตต์สวยมาก ชอบนักก็ไปจีบสิ มาอวดอะไรกันตรงนี้ พอเถอะน่า ” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในบริเวณนี้ตะโกนสวนเสียงของทั้งคู่ที่เริ่มพ่นคำหยาบคายออกมาอีกครั้ง .. เดนิสต้าสุดจะทนแล้วจริง ๆ ครึ่งเทพตัวน้อยถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะสะบัดหอกด้วยท่าทางที่ฝึกมานับครั้งไม่ถ้วน ด้ามหอกที่ไร้ใบมีดฟาดลงกับท้ายทอยของชายทั้งสองคนละที่ ตัวของพวกเขาทรุดฮวบลงกับพื้นโดยที่เธอไม่มีใจคิดจะช่วยประคองเลยสักนิด

“ แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ” มือข้างหนึ่งของเธอจับที่สะโพกของตัวเอง หญิงสาวส่ายหน้าอย่างระอาในปัญหารัก ๆ ใคร่ ๆ ของพวกผู้ใหญ่ เธอผลักความคิดเกี่ยวกับปัญหายิบย่อยนั้นออกไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองรอบ ๆ พร้อมกับก้าวขาเดินข้ามร่างที่ไร้สติของชายทั้งสองโดยไม่มีสักเสี้ยวที่นึกเกรงใจหรือกังวล “ เอาล่ะ เลิกเล่นซ่อนแอบได้แล้ว แกปั่นหัวทุกคนแบบนี้ต้องการอะไร ”

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก

เดนิสต้าเอาลิ้นดุนกระพุงแก้มด้วยความไม่พอใจและเมื่อเห็นอย่างนั้น เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังแทรกขึ้นกลางความเงียบ เสียงนั้นสะท้อนไปมาราวกับกระดิ่งคริสตัลแฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมและการเย้ยหยันจนคนฟังถึงกับกำหมัด “ ขอเดานะ แกคงเป็นปีศาจสาวจอมซนที่ชอบเล่นสนุกกับหัวคนก่อนจะกินพวกเขาล่ะสิ ” คำพูดเสียดสีจากครึ่งเทพอันแสนโอชะดูไม่มีผลเมื่อปีศาจที่เธอกำลังพูดถึงได้ปรากฏตัวพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

ร่างสูงโปร่งในเดรสรัดรูปสีดำสนิทราวกับค่ำคืนที่เลือนหายไปจากโลกมาพร้อมกับเส้นผมสีแดงเพลิงพลิ้วไหวตามภาพมายาคติของปีศาจผู้ล่อลวงใจ “ นี่น่ะเหรอเด็กน้อยที่จะมาขวางทางฉัน? ” น้ำเสียงของเธอหวานใสราวกับน้ำผึ้งที่เต็มไปด้วยพิษร้าย ด้วยการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้า สะโพกมนของเธอส่ายไปมาระหว่างที่ก้าวไปนั่งลงบนโต๊ะทำงาน

ดวงตาของเดนิสต้าจับจ้องอยู่ที่การเคลื่อนไหวนั้น ชั่วขณะหนึ่งเธอรู้สึกเหมือนคนโง่ .. ‘ แม่เจ้า ถ้าพี่สาวจะบิ๊กเบิ้มขนาดนี้ทำไมต้องมาสรรหารังแกคนแก่ด้วย พี่ไปหาผู้ชายดี ๆ ไม่ดีกว่าเหรอคะ ’ เดมิก็อดที่อยู่ในระหว่างเดินทางผ่านการทดสอบเพื่อไปให้ถึงค่ายซึ่งเป็นจุดหมายเริ่มที่จะขมวดคิ้วอีกครั้ง “ ส่วนป้าแบบเธอก็คือคน .. ไม่สิ ตัวอะไรสักอย่างที่จะมาขวางทางฉัน? ” ดวงตาสีแดงราวกับไวน์ของอสุรกายสาวมีประกายความโกรธเกรี้ยวพาดผ่านทันทีที่ได้ยินถ้อยคำของเธอ และนั่นก็เป็นวินาทีที่เดนิสต้ารู้ตัวว่าเธอซวยแล้ว

“ เดี๋ยว ๆๆๆ ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ กรี๊ดด เดี๋ยว !!

ความดุร้ายของเอ็มพูซาที่ทะนงในความงามจะมีมากเป็นพิเศษเมื่อพบกับคำดูหมิ่น เสียงกรีดร้องที่เข้าใกล้กับคำว่าคำราม ลูกไฟก้อนแล้วก้อนเล่าสาดเข้าหากายของเทพธิดาน้อยที่วิ่งพล่านไปทั่ว ‘ ไม่แฟร์นี่หว่า เอาเมจมาเจอไฟต์เตอร์เนี่ยนะ ฉันหาระยะเข้าประชิดยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ! !! ’ โชคดีที่สังเวียน(?)ต่อสู้ของสองสาวไม่ใช่ที่โล่ง เดนิสต้ายังมีแต้มต่อในการใช้ร่างกายเล็ก ๆ ของเธอหลบซ่อนไปตามแนวตู้หรือชั้นเอกสาร แม้ว่าส่วนมากในวินาทีต่อมา เปลวเพลิงของเอ็มพูซาจะสามารถเผาผลาญสิ่งกำบังเหล่านั้นออกไปได้หมดก็ตาม

“ เลิกวิ่งไปมาเหมือนหนูแล้—- ”

Bonk

สันหนังสือเล่มที่หนึ่งถูกปาเข้าฟาดหน้าผากของเอ็มพูซาจนเซถอยด้วยความไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับ.. หยดเลือดที่ไหลลงมาจากจมูกของเธอ อย่าว่าแต่เอ็มพูซาที่ตกใจ เดนิสต้าเองก็อ้าปากค้างเป็นครั้งที่สองของวัน ต่อให้อยากจะกลั้นขำเป็นการให้เกียรติแต่เจอแบบนี้เข้าก็คงไม่ไหว เดนิสต้างอตัวลงพร้อมกับหัวเราะคิกคัก จุดฉนวนโทสะของเอ็มพูซาให้ทะยานขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด

“ นังเด็กบ้า ! แกไม่ตายดีแน่ !! ”

“ เธอไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้หรอก ” เดนิสต้าควงหอกเฮลต้าในมือและหัวเราะเบา ๆ อีกครั้ง

แสงวูบวาบจากลูกไฟด้วยพลังของเอ็มพูซาปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ช่วงแรกของการต่อสู้เดนิสต้าเน้นความสนใจไปที่การหลบหลีกพยายามไม่อยู่เป็นเป้านิ่งเพื่อเลี่ยงการบาดเจ็บที่ไม่จำเป็นแม้ว่ามันจะเป็นการกินแรงรวมไปถึงพลังงานมากก็ตาม ทว่าในช่วงจังหวะหนึ่งที่ลูกไฟเข้ามาใกล้จวนจะปะทะกับร่างกาย หญิงสาวสะบัดหอกออกเป็นเส้นตรงผ่ากลางแกนของลูกไฟจนมันสลายหายไปคล้ายกับก้อนควันที่ถูกลมตัดจนดับ ด้วยการค้นพบใหม่ที่มีประโยชน์ ดวงตาของเดนิสต้าเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย แววตาที่เคยจริงจังผันกลับมาเป็นสนุกสนานเมื่อเธอพบหนทางไล่ตามได้โดยไม่ต้องคอยกังวล

‘ ยัยเด็กบ้านี่โคตรน่ากลัวเลย ! ’ ถึงจะมารู้ตัวเองตอนนี้ก็สายไปแล้ว ช่วงจังหวะมากมายที่หล่อนเสียเปรียบในการต่อสู้ไม่สามารถทวงคืนกลับมาได้เลย เมื่อร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลที่ถูกคมของหอกเฉือนจนสะบักสะบอม ปีศาจสาวหันมองซ้ายขวา ความปรารถนาที่จะวิ่งหนีพุ่งพล่านขึ้นมาเมื่อเห็นว่าครึ่งเทพที่ควรจะไร้พิษสงเริ่มหันมาเป็นฝ่ายออกล่า พรึ่บ.. เสียงหนังสือเล่มหนึ่งลอยขึ้นกลางอากาศดึงความสนใจของเอ็มพูซาให้หันไปมอง และก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าตกหลุมพราง สวบ— ปลายหอกฮาลต้าทะลุผ่านหนังสือเล่มหนาด้วยการผลักเต็มแรงของเดนิสต้า สานต่อให้มีดปลายหอกที่คมกริบแทงเข้าตรึงร่างของปีศาจสาวไว้กับผนัง

“ เท่าไหร่ ”

เสียงเรียบ ๆ ที่ดังขึ้นจากผู้จับหอกมั่นทำให้เอ็มพูซาหัวเราะอย่างเกลียดชัง “ เท่าไหร่เหรอ? เธอหมายถึงอะไรล่ะ .. ครึ่งเทพที่ฉันฆ่าไป ผู้ชายโง่ ๆ พวกนั้นที่ฉันกิน? หรือเหยื่อของฝันร้ายไร้จุดจบพวกนั้— อั่ก.. ” เพื่อตอบแทนการตอบกลับด้วยคำยั่วยุ เดนิสต้ากดหอกลงไปกับร่างของเอ็มพูซามากขึ้นจนอีกฝ่ายคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ‘ มีแต่ต้องลากเด็กนี่ไปลงนรกด้วยกันเท่านั้นฉันถึงจะพอใจ ’ ความอาฆาตของอสุรกายที่เข้าใกล้ช่วงสภาวะตัดสินเป็นตายผลักให้เปลวเพลิงแห่งความสิ้นหวังเดือดพล่านไปตามเส้นเลือดส่งผลให้ร่างกายร้อนระอุจนแม้แต่หอกฮาลต้าก็ยังดูดซึมความร้อนนั้นไปจนถึงส่วนที่มือของเดนิสต้าสัมผัส

ไวกว่าความคิด เสี้ยววินาทีที่ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ฝ่ามือร้อนราวกับโลหะที่ผ่านการหลอมมาอย่างยาวนานก็คว้าเข้าที่ลำคอตามต่อด้วยการผลักให้แผ่นหลังของเดนิสต้ากระแทกเข้ากับชั้นหนังสืออย่างแรง “ ฮะฮ่า.. ไม่เป็นไร ฉันยังหวนคืนกลับมาใหม่ได้ทุกครั้งที่ประตูทาร์ทารัสเปิดออกแต่ไม่ใช่กับพวกแก ” ความเกลียดชังฝังลึกอยู่ในน้ำเสียงของอสุรกายสาว ดวงตาสีเลือดของเธอคล้ายเป็นสิ่งที่ผนึกพายุอันชั่วร้ายเอาไว้ ความร้อนเกินขนาดเมื่อแนบกับผิวมนุษย์ก็กลายมาเป็นความทรมาณชนิดที่ยากจะรับมือ

เสียงกรีดร้องของเดนิสต้าเสมือนบทเพลงที่ช่วยกล่อมเกลาหัวใจของเอ็มพูซา อสุรกายสาวหัวเราะอย่างเริงร่า ทว่าด้วยการดิ้นทุรนทุรายของเหยื่อในกำมือกลับส่งผลให้มือหนังสือเล่มหนาร่วงลงมาจากชั้นอย่างเชื่องช้าและ.. Bonk มันตกลงฟาดที่กลางกระหม่อมของผู้มีกายร้อนดั่งเพลิง ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่ว ดวงตาเฉียบคมของนางปีศาจเบิกกว้างเมื่อรู้สึกถึงก้อนเลือดที่ทะลักออกมาผ่านริมฝีปาก ‘ นี่ฉัน.. มาตาย..เพราะหนังสือ..เนี่ยนะ…? ’ ในช่วงลมหายใจสุดท้ายก่อนที่ร่างกายจะสลาย ดวงตาของเธอเหลือบขึ้นมองเดมิก็อดตัวแสบผู้เป็นคนสังหารเธออย่างโหดเหี้ยม แทนที่จะได้พบความตื่นตระหนกหรือสิ้นหวัง .. สิ่งที่เอ็มพูซาเห็นกลับเป็นเงาลาง ๆ ของนิ้วกลางและการขยับปากที่ไร้สุ้มเสียง

‘ หนังสือทรูดาเมจ จำไว้ด้วยล่ะ ! ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : ตบตีกับพี่สาวเอ็มพูซาที่โรงกลั่นไวน์ ระยะทาง 49 นาที หลังขึ้นรถ
ศัตรูภายในบททดสอบตัวที่หนึ่ง : เอ็มพูซา | ผลการประลอง : ชนะ
รางวัลการพิชิตครั้งแรก : +2 ตื่นรู้ | เส้นผมเอ็มพูซา (เลขไบต์คู่) (ยกเว้นเลขไบต์ 8) / ขาทองแดง (เลขไบต์คี่) (ยกเว้นเลขไบต์ 1) / ของดรอปพิเศษ: (เลขไบต์ 1/8) แก่นวิญญาณเอ็มพูซา




แสดงความคิดเห็น

( บอกไว้ก่อนว่าที่มันยาวเพราะตัวถัดไปต้องเจอเวล 76 ค่ะ ขอฟาร์มเวลหน่อย อ่านข้าม ๆ ได้เลย มันไม่มีอะไร 5555 )  โพสต์ 2024-12-25 20:17
โพสต์ 43644 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-12-25 20:10
โพสต์ 43,644 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-25 20:10
โพสต์ 43,644 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-25 20:10
โพสต์ 43,644 ไบต์และได้รับ +15 EXP +30 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-25 20:10

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-26 22:51:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด



คุณเชื่อใน Lucky Charm ไหม?

หลังจากที่ฉันก่อเหตุวินาศสันตะโรไว้ในโรงกลั่นไวน์ ฉันตัดสินใจหอบอเล็กซานเดอร์หนีออกมา รู้กันเท่านี้นะ— ฉันกระทำการผิดกฏหมายเล็กน้อยด้วยการขับรถทั้งที่ยังไม่มีใบขับขี่ อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มันเป็นถนนตรงโล่งและกว้างทำให้ไม่มีอุปสรรคมากมายในการขับรถ อันที่จริงฉันจะเดินทางยังไงก็ไม่สำคัญ(แต่นี่เป็นบันทึกการเดินทาง?) สำคัญตรงที่ประสบการณ์สุดหรรษากับพี่สาวอสุรกายตัวเมื่อกี้ต่างหาก

จากการค้นหาในสมาร์ทโฟนอัจฉริยะ (ฉันซื้อมาตอนไหน?) พี่สาวที่ฉันเจอคงอยู่ในขอบเขตของเอ็มพูซา อสุรกายในสังกัดของเทพีเฮคาทีที่เกิดมาจากตำนานการสร้างมนุษย์ในปกรณัมโบราณของฝั่งกรีก ‘แพนโดร่า’ ชื่อของผู้หญิงคนนั้นที่เป็นตัวเอกในตำนาน มนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการบางอย่างของเฮเฟตัสและได้รับความอยากรู้อยากเห็นรวมไปถึงโถลึกลับที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดมาจากซุส เอาเป็นว่า, ด้วยสารพัดเรื่องราว ท้ายที่สุดพี่แพนโดร่าผู้อยากรู้อยากเห็นก็ตัดสินใจเปิดโถจนปล่อยให้ความชั่วร้ายต่าง ๆ นา ๆ เป็นอิสระ หนึ่งในนั้นยังมีสายพันธุ์ของพี่เอ็มพูซาด้วย

ปกติแล้วพวกเธอจะเคลื่อนไหวตามคำสั่งของเทพีเฮคาทีหรือไทรเวียถ้าพูดกันในฝั่งโรมัน ดังนั้นมันเลยแปลกโคตร ๆ ที่พวกเธอโผล่มาในการเดินทางของฉัน นี่ฉันเป็นที่จับตามองของเทพหรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญ? บางทีในช่วงที่ไม่มีกลางคืนพวกเขาอาจจะอดอยากจนต้องออกมาหากินเองจริง ๆ ? แต่ช่างเถอะ นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉัน ฉันรู้แค่ว่าตัวเองได้สิ่งที่เรียกว่าสินสงครามมาหนึ่งอย่าง น่าจะเป็นสินสงครามประเภทที่เรียกว่า ‘เส้นผมของเอ็มพูซา’ ฉันไม่รู้ว่ามันไว้ใช้ทำอะไร จำเป็นไหม แต่คิดว่าคงต้องเก็บไว้ก่อน เพราะในกระเป๋าที่ได้มาจากลูปา ฉันเองก็เจอพวกของยิบย่อยหลังจากการต่อสู้เยอะอยู่พอสมควร

นอกจากเส้นผมของพี่สาวหัวไฟคนนั้นแล้ว ฉันตัดสินใจจิ๊กหนังสือนำโชคที่ร่วงใส่หัวพี่แกมาด้วย มันเป็นหนังสือเก่า ๆ เล่มหนึ่งที่ฉันอ่านไม่ออก อาศัยทรานสเลทของโทรศัพท์เหมือนจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาละติน และมีชื่อเรื่องว่า ‘ Utopia ’ วรรณกรรมสุดคลาสสิกเกี่ยวกับดินแดนที่ไม่มีจริงของเซอร์ทอมัส.. อะไรสักอย่าง บางทีนี่อาจเป็นทั้ง Lucky Charm และโอกาสให้การเรียนภาษาละตินเพิ่ม(แม้ว่าคำศัพท์ในนั้นจะเก่ากึกก็ตาม) จะว่าไปฉันได้บอกหรือยังนะว่าตอนนี้เราอยู่ไหน? เรากำลังอยู่ที่เส้นทางอุทยาน Deer Island Preserve เนื่องจากฉันไม่มีปัญญาพารถของเราเข้าเมือง ไม่ต้องพูดถึงการขอให้คนช่วยเลย คนสมัยนี้ไว้ใจยาก ถ้าเกิดเผลอรับโจรขึ้นมา ฉันอาจจะต้องตีโจรแทนที่จะตีอสุรกาย

พูดถึงเรื่องนั้นฉันยอมรับว่าตัวเองกำลังสงสัย สงสัยในสิ่งที่ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายถึงยังไงมันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด เหมือนมีทั้งความสนุกที่ได้ทดลองทำในสิ่งที่เรียน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นความรู้สึกต่อต้าน มีบางชั่ววูบที่ฉันขยับตัวไปก่อนความคิดจนเหมือนว่าไม่เป็นตัวเอง นั่นปกติหรือเปล่า? ฉันคิดว่าคงไม่ … ไอความรู้สึกด้านชาหลังจากที่พึ่งฆ่าสิ่งมีชีวิตไปก็ด้วย โอเค อย่าหาว่าฉันโลกสวยมองปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตหรืออะไรพวกนั้น แต่— พวกเขาก็มีชีวิตจิตใจ ใช่ไหม? มีความคิด มีชีวิต อาจจะมีความฝันด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ฝั่งตรงข้ามกันเราก็ต้องคอยจัดการพวกเขา ซ้ำ ๆ ? นั่นเป็นโศกนาฏกรรมชัด ๆ ฉันควรจะรู้สึกแย่กว่านี้ไม่ว่ามันจะเป็นการทำเพื่อเอาชีวิตรอดหรืออะไรก็ตาม

ประหลาดจังที่ทุกอย่างเหมือน.. ไม่สมเหตุสมผลไปหมด


“ อึก.. หัวฉัน ”

เสียงคร่ำครวญของอเล็กซานเดอร์ดึงความคิดของเดนิสต้าให้ออกจากบันทึกประจำตัว นัยน์ตาสีฟ้าหม่นราวกับมณีที่ขุ่นมัวเหลือบไปมองชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าย่ำแย่ “ ยินดีต้อนรับกลับ ” เขาหลับไปเกือบชั่วโมงด้วยการลงมือของเธอ.. เป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่บนใบหน้าหวานมีความรู้สึกผิดแฝงอยู่แต่เมื่อสายตาของอเล็กซานเดอร์เลื่อนมาหยุดที่เดนิสต้า บนใบหน้าของเธอกลับมีแค่รอยยิ้มเป็นกลางที่ไม่ได้ยินดียินร้ายต่อสิ่งใด หญิงสาวส่งขวดน้ำที่เปิดฝาแล้วให้กับเขา ช่วยเหลือในการเรียกสติได้กลับมาทำงานอย่างปลอดโปร่งหลังจากการพักผ่อนที่ดู.. เป็นปริศนากว่าครั้งอื่น ๆ

“ เกิดอะไรขึ้น? ”

“ โอ้.. ”

คำถามของอเล็กซานเดอร์ทำให้เดนิสต้าเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาจรดมองที่เขาอย่างพิจารณา พยายามหาร่องรอยของการหลอกลวงแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ‘ จำไม่ได้? .. แสดงว่าคงโดนมนต์สะกดตั้งแต่ก้าวขาเข้าไปเลยสินะ ’ ต้นสายปลายเหตุที่ไม่น่ายินดีเท่าไหร่นั้นทำให้เดนิสต้าจำต้องถอนหายใจ เธอไม่สามารถบอกความจริงกับเขาได้ทั้งหมด ดังนั้นการปั้นสถานการณ์ขึ้นมาใหม่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น คำโกหกสีขาวที่เหมือนกับขนมขิงโรยด้วยไอซิ่ง.. แอปเปิ้ลอาบยาพิษสำหรับมนุษย์ที่มีไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง

“ คุณบอกว่าง่วงก็เลยจอดรถนอนพักเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุน่ะ ” แม้จะไม่ใช่เหตุผลที่น่าเชื่อถือแต่ก็ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว เดนิสต้าหมุนปากกาในมือไปมาอย่างรอคอย ดูว่าเขาจะหลงเชื่อโดยทันทีหรือจะตอบโต้ด้วยเหตุผล ซึ่งอเล็กซานเดอร์ก็ไม่ทำให้เธอต้องผิดหวัง มือของเขายกขึ้นคลึงที่ขมับบีบนวดอยู่หลายครั้งก่อนจะโน้มตัวลงเปิดลิ้นชักเก็บของภายในรถ หยิบเอาหมากฝรั่งมายัดใส่เข้าปากของตัวเขาเอง

“ ถ้างั้นนั่นก็เป็นฝันสินะ .. ฝันที่ประหลาดมาก ” เขางึมงัม มือหนาเคลื่อนไปดึงสายนิรภัยมารัดเพื่อความปลอดภัยอย่างที่ควรจะทำ เดนิสต้าเอียงคอเล็กน้อยพอให้ศีรษะสามารถสบกับประตูรถได้ เธอไม่ได้ละสายตาจากเขาแต่แววตาเปลี่ยนไปเป็นขบขันแทนการสังเกต ปลายปากกาที่ไม่ได้ถูกเปิดของเธอเคาะลงกับปกหนังสือแข็ง ๆ ที่อาจจะมีอายุมากกว่าขาจนเกิดเป็นเสียงจับจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว ใกล้เคียงกับเสียงเข็มนาฬิกาแต่ก็ไม่ได้สม่ำเสมอ

“ คุณฝันว่าอะไร? ” เธอถามด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง เดนิสต้าทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้.. เพราะลึก ๆ แล้วเธอเชื่อว่าตัวเองรู้คำตอบรวมไปถึงรายละเอียดฝันของเขาอย่างหมดจด มันคงจะเป็นภาพเลือนลางเกี่ยวกับสิ่งประหลาดที่เกิดขึ้นก่อนเธอจะเข้าไปในโรงกลั่นไวน์ ที่เขาคงไม่คิดจะแบ่งปันให้กับเด็กแปลกหน้าที่อายุใกล้เคียงกับลูกหรือไม่ก็หลานของเขา

“ ถามทำไม ”

“ เผื่อเอาไปเป็นต้นแบบนิยาย ”

“ ฝันไปเถอะ ”

เดนิสต้าหัวเราะให้กับการปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดของอเล็กซานเดอร์ เธอเอนศีรษะไปด้านหลัง ปล่อยตัวให้แนบชิดไปกับเบาะข้างคนขับ ยกมือขึ้นราวกับกำลังสร้างภาพฝันให้เขาคิดตาม “ ไม่เอาน่า เดี๋ยวฉันให้เครดิต ” เดนิสต้าพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ดวงตาของเธอเปิดเพียงครึ่งเพราะรอยยิ้มที่ยกกว้างจนตาหยีเป็นทรงจันทร์เสี้ยวชวนให้หัวใจคนมองอ่อนยวบ “ ลองนึกการโปรยหัวนิยายเกี่ยวกับเรื่องของการเดินทางที่ผ่านการเผชิญหน้ากับผู้คนครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วตามต่อด้วยอะไรที่แบบว่า.. ”

“ แรงบันดาลใจ—- จากความฝันสุดฮอตของหนุ่มชาวสวนที่สู่วรรณกรรมร่วมยุคแสนบรรเจิด !!! ”

“ บัดซบที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลย ” อเล็กซานเดอร์กรอกตา เขาเปล่งเสียงที่คล้ายการเสียงคำรามแต่ก็ไม่รุนแรงเท่าออกมา ทำให้ตัวของเดนิสต้างอลงด้วยความขบขัน เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเคล้าไปกับเสียงเพลงคันทรี่จากในวิทยุของรถเก่า ๆ นับว่าเป็นบรรยากาศอุ่นวาบที่เขาห่างหายไปนานหลังจากที่ลูกสาวย้ายไปเรียนต่างประเทศ ทว่าอเล็กซานเดอร์ไม่คิดจะอ่อนข้อให้ ถ้าเขาเผลอทำตัวใจดีหรือบอกไปว่าเธอทำให้เขานึกถึงลูกสาว แม่หนูนี้คงทำตัวมีปัญหามากกว่าเดิมแน่ “ เลิกทำตัวเป็นเด็กกวนประสาทแล้วเตรียมตัวให้ดี เรากำลังจะเข้าเมือง ”

“ ทำไมล่ะ? คุณอายที่พกเด็กตาดำ ๆ คนหนึ่งเข้าเมืองเหรอ? ”

เดนิสต้าเลิกคิ้วขึ้น เธอชำเลืองตามองเขาด้วยความประหลาดใจ

“ ฉันไม่อยากให้เธอโดนอันธพาลต่อยเพราะปาก ”

‘ Nah.. That’s rude ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : เริ่มเข้าสู่ตัวเมือง ผ่านเขตอุทยาน Deer Island Preserve




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 21305 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-12-26 22:51
โพสต์ 21,305 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-26 22:51
โพสต์ 21,305 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-26 22:51
โพสต์ 21,305 ไบต์และได้รับ +5 EXP +12 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-26 22:51
โพสต์ 21,305 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-26 22:51
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-27 05:34:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด



จากข้างถนนในอุทยานเดินทางมาจนถึงในเมือง ><

ฉันไม่แน่ใจว่าควรเรียกเขตนี้ว่าอะไร ซานตาโรซ่า? หรือซานฟานซิสโก? เอาเป็นว่าสักอย่างในระหว่างสองเมืองนั้น แถวนี้ไม่ใช่เขตเมืองหลัก แต่เป็นส่วนของเมืองท่าที่เชื่อมกับอ่าว .. มันน่าเหลือเชื่อมากที่แค่เปลี่ยนฝั่งของประเทศความรู้สึกก็แตกต่างราวฟ้ากับเหว ฉันเคยอยู่ที่บอสตันตอนเด็ก ที่นั่นเป็นเขตเมืองเก่า ถึงจะมีกลิ่นอายความเจริญที่เพิ่มเข้ามาแต่ก็ยังติดโทนของความหรูหราคลาสสิค ผิดกับเมืองแคลิฟอเนียร์ที่เป็นเมืองแบบสตรีทติดโทนของพวกรักอิสระ

ฉันคิดว่าตัวเองเหมาะกับพื้นที่เขตนี้มากกว่าเมืองหลวงที่เคยไปซะอีก มันดูเหมาะกับการเดินทางไปเรื่อย ๆ พบปะความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ไม่เหมือนเมืองหลวงที่แค่สบตาแล้วก็จากกันไปตลอดกาล < ดูดราม่าควีนดีจัง แต่ฉันชอบนะ นาน ๆ ทีจะมีเวลามาคิดสะเปะสะปะ อาจจะดูน่าเหลือเชื่อที่ฉันมานั่งเขียนอะไรพวกนี้หลังพึ่งฟัดกับอสุรกาย แต่เชื่อเถอะ เมื่อเธอว่าง ว่างมาก ว่างจนไม่มีอะไรให้ทำแต่ก็ดันนึกขึ้นได้ว่าลูปากำชับให้เขียนบันทึกการเดินทาง

โอ๊ย คิดถึงลูปาจัง ถ้าเป็นปกติตอนนี้ฉันคงกำลังซ้อมหรือไม่ก็ปวดหัวกับเนื้อหาวิชาภาษาละติน

“ ถ้าจะไปอุโมงค์นั่นของเธอเราจำเป็นต้องข้ามอ่าวซานฟรานซิสโก เพราะงั้นแวะเข้าห้องน้ำกินข้าวไว้ให้เรียบร้อย ” อเล็กซานเดอร์บอกกับฉันแค่นั้น เขาไม่สนใจความคิดเห็นของฉันหรอกเพราะทันทีที่เขาพูดจบเขาก็หักเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดของร้านที่ชื่อว่า Maya Palenque แค่ดูจากชื่อก็พอเดาได้แล้วว่าไม่ใช่อเมริกาแท้ พวกเขาเป็นภัตตาคารและมี Camtina แปลในภาษาที่เข้าใจง่ายคือการเรียกบาร์ที่พบได้ทั่วไปในสเปนและละติน —- ฉันก็ยังหนีไม่พ้นละตินในทุกช่วงของชีวิตจริง ๆ


“ คุณเคยมาที่นี่ไหม? ” เดนิสต้าปลดสายเข็มขัดนิรภัยที่รัดอยู่ ใบหน้าของเธอหันตามการเคลื่อนไหวอันกระชับกระเฉงของอเล็กซานเดอร์ที่กำลังก้าวลงจากรถ คิ้วของหญิงสาวเลิกขึ้นเมื่อดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของเธอ มันชัดเจนมากว่าเขาไม่ต้องการที่จะตอบ ‘ บางครั้งเขาก็ดูน่ารำคาญ.. ไม่สิ ส่วนมากเขารำคาญ ’ เดนิสต้าส่ายหัวมุมปากของเธอยกขึ้นอย่างขบขันก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายมาไว้ในอ้อมแขนและวิ่งตามเขาเข้าไปด้านในร้าน “ คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่าเคยมาที่นี่ไหม ”

“ แค่นี้เด็กแบบเธอก็เดาไม่ได้หรือไง ” อเล็กซานเดอร์ตอบพร้อมเสียงของกระดิ่งแขวนประตูที่ดังขึ้นต้อนรับการมาของพวกเขา สายตาของเดนิสต้าจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของสารถีขั่วคราวในทุกก้าวที่เดินเข้าไป เธอกำลังพยายามคาดเดาคำตอบที่ต้องการ ผิดกับอเล็กซานเดอร์ที่มีเป้าหมายอันชัดเจน เมื่อพวกเขามาถึงบริเวณโต๊ะคิดเงิน อเล็กซานเดอร์ยกแขนขึ้นเท้ากับพื้นผิวเรียบของเคาน์เตอร์ หยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบบนริมฝีปากเสริมภาพลักษณ์ชายแก่แบดบอยสุดเย้ายวนใจก่อนจะกล่าวเสียงแหบพร่า “ เฮ้ ลิซ่า ”

‘ อ๋อ.. ชื่อของแม่สาวที่ตาลุงอีกคนบอกว่าเขาไปหาที่บ้านบ่อย ๆ ไหนขอดูหน้าหน่อยซิ? ’ เดนิสต้าทิ้งสะโพกพิงกับโต๊ะอาหารพร้อมกับจ้องมองไปยังเคาน์เตอร์ร้านเพื่อดูการเคลื่อนไหว และในที่สุด ‘ ลิซ่า ’ คนนั้นก็ปรากฏตัว สาวละตินวัยกลางคนผู้มีผิวสีน้ำผึ้งและสวมชุดสีขาวของชาวยิปซีเงยหน้าขึ้นมองลูกค้าที่พึ่งมาถึง ริมฝีปากสีคล้ำแต่มันวาวด้วยลิปบาล์มของเธอคนนั้นเหยียดออกเป็นรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ ดวงตาของเดนิสต้าเบิกกว้างขึ้นและตามมาด้วยการกลืนน้ำลาย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวทนาหรืออยากเอาใจช่วย ลึก ๆ ในใจของเธอกลับรู้สึกว่าสมควรทำตัวดี ๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในร้าน

‘ ว้าว.. อเล็กซ์ คุณฝันสูงเหมือนกันนะเนี่ย ’

“ ว่าไงคะ ” สาวยิปซีหน้าตาสะสวยคนนั้นทักทายเขาด้วยความยินดี บรรยากาศหวานแหววสีชมพูแผ่กระจายไปทั่วร้านอาหาร จนกระทั่งศีรษะเล็ก ๆ ของเดนิสต้าโผล่ข้ามเนินไหล่ของอเล็กซานเดอร์เผยให้เห็นดวงตาเรียวเฉี่ยวคล้ายตาแมว ที่ทำให้สาวสวยวัยกลางคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือข้างหนึ่งของลิซ่ายกขึ้นทาบอกอีกข้างยกขึ้นทาบริมฝีปาก “ นั่น.. ลูกสาวคุณกลับมาแล้วเหรอคะ? ”

อเล็กซานเดอร์อ้าปากค้างจนบุหรี่ร่วงจากปาก “ อะไรนะ? โอ้ ไม่ ๆ .. แม่หนูนี่.. เอ่อ.. หลงทางน่ะ เธอเลยติดรถฉันมา ” ท่าทางกระอักกระอ่วนของชายแก่และอาการตกใจของลิซ่าที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นความสงสาร “ ตายจริง เธอหลงทางเหรอจ๊ะ ตั้งใจจะไปที่ไหนล่ะ? ”

แมวน้อยที่พึ่งได้รับอิสรภาพของตัวเองกลับคืนมาไม่ถึงหนึ่งวันดีค่อย ๆ โน้มไปชำเลืองมองสีหน้าของอเล็กซานเดอร์ พวกเขาสื่อสารกันทางสายตาด้วยความเข้าใจที่ก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน เดนิสต้าสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด เธอหันหน้ากลับไปมาลิซ่า “ อุโมงค์คัลลีคอตต์ค่ะ ” เมื่อเธอพูดจบแววตาของลิซ่าก็ยิ่งดูเวทนามากขึ้น.. เดนิสต้าคร้านจะใส่ใจคำเยินยอของสาวผิวสีน้ำผึ้งที่มีต่ออเล็กซานเดอร์ว่าเขามีเมตตาและใจดีมากแค่ไหนในการช่วยเหลือเด็กสาวที่กำลังเดือดร้อน ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจที่จะถอยหลังออกไปช้า ๆ

“ คุณลิซ่าคะ ถ้าไม่ลำบากอะไร หนูขอแซนวิชน์ง่าย ๆ ไม่เอาผัก แค่นั้นพอค่ะ เอ่อ ขอไปเดินเล่นรอบ ๆ หน่อย นั่งรถมานานหนูเมื่อยมาก .. ถ้าจะไปแล้วเรียกฉันด้วยนะอเล็กซานเดอร์ ”

“ เอ๊ะ เดี๋ยวสิจ๊—- ” ลิซ่าร้องเรียกเธอด้วยความห่วงใยแต่ช้าไปเสียแล้ว กระดิ่งแขวนประตูดังขึ้นก่อนจะเงียบลงเป็นสัญญาณการออกไปนอกตัวอาคารของเด็กสาวแปลกหน้าที่เธอพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ดวงตาของลิซ่าเลื่อนไปมองอเล็กซานเดอร์เล็กน้อย เขาส่ายหัวก่อนจะหันกลับมาสบตากับเธอ

“ ถ้างั้นพวกเรา..? ”



ด้านในมีอะไรเกิดขึ้น เดนิสต้าไม่รู้และไม่คิดว่าตัวเองจำเป็นจะต้องรู้ เธอเดินเตร่ไปรอบ ๆ ร้านด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ‘ ฉันควรเขียนบันทึกสำหรับนินทาเขาเพิ่มอีกสักหน้า ’ ความคิดไร้สาระทำให้มุมปากของเดนิสต้ายกขึ้นใกล้เคียงกับสิ่งที่เธอมักทำเมื่อเจอเรื่องสนุกแต่มันก็เป็นเพียงความคิดชั่ววูบ อาการดิสเล็กเซียของเธอยังไม่ดีขึ้นถ้าหักโหมเขียนต่อไป ต่อให้ทุกชั่วโมงของวันเต็มไปด้วยแสงสว่างก็คงจะเปล่าประโยชน์ เธอสามารถเสียสมาธิได้ง่าย ๆ หากว่าดวงตาล้าจนเกินไป ‘ ดูท่าปีนี้คงไม่มีปัญหาเรื่องหิมะตกหนักเกินไปในเมื่อพระอาทิตย์ยังคอยทำงานหนักอยู่ตลอดทั้งวันทั้งคืน ’

“ ไปรอที่รถดีกว่า ”

ร่างบางของหญิงสาวหมุนตัวกลับเพื่อย้อนเดินไปตามทางที่เคยผ่านมาแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อถึงหัวมุมของร้านในองศาที่แค่เอี้ยวก็พอจะเห็นตัวรถ เท้าของเดนิสต้าก็หยุดชะงัก เธอสังเกตเห็นเงาตะคุ่ม ๆ สีดำใกล้กับล้อรถ คิ้วของเดนิสต้าขมวดเข้าหากัน ดวงตาของเธอเฝ้ามองการเคลื่อนไหวแปลกประหลาดเหล่านั้นสังเกตความเผอิญที่มันมักใช้เวลามากเป็นพิเศษในบริเวณที่เธอเคยนั่งหรือสัมผัส

‘ เหมือนกำลังมองหา.. หาใคร ฉัน? ไม่เอาน่า อีกแล้วเหรอ? ’

เดนิสต้าต้องการให้เรื่องนี้จบไวที่สุด ร่างเล็กเคลื่อนตัวช้า ๆ อย่างระมัดระวังไปตามซอกหลืบและจุดที่มีสิ่งกำบัง ‘ เขาจะรู้ตัวแน่ ดังนั้นต้องทำให้ไว ’ นิ้วของเธองอเข้ามากำเป็นหมัด สิ่งเดียวที่เดนิสต้าพกไว้ในกระเป๋าคือมีดสั้น นักเดินทางตัวน้อยสูดหายใจเข้า เธอหยิบมีดสั้นออกมาจากที่เก็บตั้งใจเตรียมพร้อมรับกับอะไรก็ตามที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างแฝงตัวเข้าไปใกล้เงีย—-

กร๊อบ..

กิ่งไม้แห้งบนพื้นถูกเหยียบจนส่งเสียงแตกหัก ทั่วทั้งร่างของเดนิสต้านิ่งค้าง ทว่าศีรษะของเงาตะคุ่มนั้นกลับหันขวับมองมา ‘ พระเจ้า.. นี่มันโคตรพ่อโคตรแม่หมาป่า ’ เสียงคำรามของมันดังกึกก้อง หมาป่าสีดำขนาดมหึมา ปากของมันเรืองแสงสีส้มราวกับมีไฟหลอมอยู่ในตัวแต่ก็ยังไม่น่ากลัวเท่าดวงตาสีเพลิงที่จ้องตรงมาด้วยความกระหาย ใบหน้าหวานของเดนิสต้าเงยขึ้นมองท้องฟ้า เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรำคาญ

‘ Here we go again.. ’

เธอตั้งท่าพร้อมยกมีดสั้นในมือขึ้นตามความเคยชินของร่างกาย —- ไฟพ่นมาจากริมฝีปากหมาป่าราวกับว่าเป็นลมหายใจที่อัดเป็นก้อนและพ่นออกมา เดนิสต้าเอี้ยวกายหลบหลีกเปลวเพลิงนั้น แสงไฟสะท้อนบนตัวรถจนเกิดประกายระยิบระยับ ‘ กลางวันแสก ๆ แถมยังกลางที่แจ้ง ชีวิตคนจะเจอมันก็เอาแต่เจอไม่หยุดไม่หย่อนจริง ๆ ‘ เมื่ออสุรกายที่มีความคล่องตัวสูงกับหญิงสาวที่ฝึกฝนเรื่องความยืดหยุ่นอยู่เป็นประจำมาเจอกัน การต่อสู้ของพวกเขาเลยรวดเร็วเสมือนกับการวิ่งบนลู่ที่ไม่มีช่วงให้หยุดชะงัก

แต่ในขณะเดียวกันภายในร้านอาหาร.. อเล็กซานเดอร์ยืนประชิดอยู่กับลิซ่าในบรรยากาศเงียบสงบราวกับช่วงเวลาที่มีแค่พวกเขา “ อเล็กซ์.. เด็กคนนั้นยังรออยู่ ” เธอพูดด้วยความเขินอายเมื่อมือหยาบกร้านของเขาสัมผัสกับแผ่นหลังของเธอด้วยความหวงแหน ใบหน้าของลิซ่าก้มลงต่ำแต่ก็เป็นเช่นนั้นได้ไม่นานนัก อเล็กซานเดอร์โน้มตัวลงเล็กน้อย มืออีกข้างของเขาเชยคางของลิซ่าขึ้นด้วยความรักใคร่ “ กลางวันแสก ๆ … ไม่มีอะไรหรอก ”

ระยะห่างของพวกเขาค่อย ๆ เลือนหาย มีเพียงความใกล้ชิดคลอเคล้ามาด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ อเล็กซานเดอร์ดูมีความสุขจนลืมแม้กระทั่งโลกหรือภาระที่เขาแบกรับ ทุกความสนใจมีเพียงหญิงสาวในอ้อมแขนที่สบตาเขาอย่างอ่อนหวาน เสี้ยววินาทีที่ริมฝีปากของพวกเขาเฉียดกัน

บึ้ม !

เสียงระเบิดดังเบา ๆ มาจากด้านนอกหน้าต่างตามด้วยแสงไฟวาบ ร่างบางในมือเขาสะดุ้งเฮือก ลิซ่าหันไปมองทางหน้าต่างด้วยความสงสัยแต่ไม่ทันได้มองให้ดี อเล็กซานเดอร์ก็ดันคางของเธอให้หันกลับมาสบตากับเขา “ อย่าไปสนใจเลย คงมีพวกแปลก ๆ เล่นพลุอีกตามเคย ”

เล่นพลุบ้านพ่****@)$%^#&(*%^&*

เปลวเพลิงจากหมาป่าทมิฬพุ่งเฉียดเสื้อของเธอจนเกิดเป็นรอยไหม้ เดนิสต้าสบถก่อนจะกัดฟันแน่น ‘ ฉันไม่มีชุดให้เปลี่ยนเยอะ อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ที่เขาต้องสงสัยได้ไหม !! ’ มีดสั้นของเธอเฉือนไปแนวร่างของหมาป่าที่แยกเขี้ยวขู่อย่างน่าเกรงขาม ทุกการเคลื่อนไหวของมันราวกับมีภาพซ้อนทับประหลาดที่เดนิสต้าไม่เคยเห็นมาก่อน.. เธอไม่เคยเจอหมาป่าที่พ่นไฟได้ แน่นอน แต่ทุกการกระทำของมันกับใกล้เคียงภาพในหัวในตอนที่เธอประมือกับหมาป่า

แต่นั่นมันตอนไหน?

“ อ่า ให้ตาย.. ช่วงนี้ยิ่งปวดหัวอยู่ ทำไมถึงได้มีปัญหาเยอะนักนะ ” เดนิสต้าพลิกตัวหลบกรงเล็บของหมาป่า เธอใช้ร่างกายวิ่งเข้ากระแทกตัวของหมาป่าสีดำเมี่ยมด้วยแรงทั้งหมดที่มีจนมันล้มลงกระแทกรถยนต์คันหนึ่ง ส่งให้เสียงแตรดังสนั่น

ภายในร้าน เสียงแตรรถที่ดังขึ้นส่งผลให้อเล็กซานเดอร์สะดุ้ง แต่เขายังคงติดพันกับการกลืนกินริมฝีปากที่หอมหวานของสุภาพสตรีที่เขาเฝ้าแวะมาสานสัมพันธ์ด้วยเป็นระยะ ‘ มีบางอย่างแปลก ๆ ’ อเล็กซานเดอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาของเขาชำเลืองมองไปทางหน้าต่าง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกงุ่นง่านเมื่อองศาที่เขาอยู่ไม่เอื้อต่อการมองออกไปข้างนอก ดังนั้นเขาจึงพยายามรักษาบรรยากาศหวานชื่นต่อไปด้วยการหลอกตัวเอง “ คงมีใครกดแตรเล่น เธอก็รู้ใช่ไหมที่รัก? ” แทนที่คำตอบด้วยคำพูด ลิซ่าหัวเราะเบา ๆ ในลำคอก่อนจะรั้งใบหน้าของอเล็กซานเดอร์ลงมาจูบอีกครั้ง

ด้านในหวานฉ่ำ ส่วนด้านนอกแทบจะกลายเป็นแดนร้างฝังหมา เท้าของเธอยันถีบเข้าที่อกของหมาป่าสีดำที่เต็มไปด้วยบาดแผลจนมันทรุดลงกับพื้น มือข้างที่ไม่ได้ถืออาวุธยกขึ้นเสยเส้นผมไปด้านหลัง ลมหายใจของเดนิสต้าถี่และหนัก เธอใช้แรงไม่น้อยไปกับการต่อกร บนตัวมีรอยแผลถาก ๆ ที่มาจากความพยายามเอาตัวรอด ทว่าพอเธอเลื่อนสายตามองเข้าไปในหน้าต่างด้วยความเกรงว่าคนที่อยู่ด้านในจะสังเกตถึงสิ่งผิดปกติ เธอกลับพบฉากสวีทของชายหญิงเข้าเต็มตา

“ แหวะ.. ”

เดนิสต้ากรอกตา เธอไม่ได้แหวะอะไรออกมาจริง ๆ แต่ก็ใกล้เคียง “ ขอโทษนะ ฉันชอบหมา โดยเฉพาะหมาป่า แต่ฉันปล่อยนายไว้แถวนี้ไม่ได้ ” เสียงของเธอเบาหวิวราวกับเสียงกระซิบ ราวกับว่ามันเข้าใจในคำพูดของเธอ เสียงครางหงิงของอสุรกายที่บาดเจ็บดังขึ้นในลำคอเป็นการร่ำลาโลก ก่อนที่เดนิสต้าจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการปิดฉากจนร่างของมันสลายหายไป

“ เอาล่ะ ที่นี้ก็.. ”

หญิงสาวทิ้งตัวทรุดลงนั่งกับพื้น เธอชันเข่าข้างหนึ่งขึ้น ปล่อยให้แผ่นหลังแนบไปกับล้อรถที่เธอปกป้องเอาไว้ด้วยชีพ ‘ ปล่อยให้ตาแก่นั่นสนุกสนานกับชีวิตชายโสดจนกว่าเขาจะนึกได้ว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งรอเขาอยู่ก็แล้วกัน ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : พักที่ร้านอาหาร
ศัตรูภายในบททดสอบตัวที่สอง : เฮลฮาวน์ | ผลการประลอง : ชนะ
รางวัลการพิชิตครั้งแรก : +2 ตื่นรู้
สินสงคราม : เขี้ยวเฮลฮาวนด์ (เลขไบต์คู่ - ยกเว้นเลขกรงเล็บ)
- ขนเฮลฮาวนด์ (เลขไบต์คี่ - ยกเว้นเลขกรงเล็บ)
- กรงเล็บเฮลฮาวนด์ (เลขไบต์ 0/3/7)

ของดรอปพิเศษ: (เลขไบต์ 1/8): ได้รับ แก่นวิญญาณเฮลฮาวนด์




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 33058 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-12-27 05:34
โพสต์ 33,058 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-27 05:34
โพสต์ 33,058 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-27 05:34
โพสต์ 33,058 ไบต์และได้รับ +5 EXP +12 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-27 05:34
โพสต์ 33,058 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-27 05:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-27 23:18:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด



หลังออกจากร้านอาหารของลิซ่า ถึงไม่อยากจะแซะแต่ขอหน่อยเถอะ ไอกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงที่ติดตัวเขามานั่นอะไร(กรอกตา) อเล็กซานเดอร์ดูอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้ เขาเอาแต่ฮัมเพลงยิ้มกว้างแทบถึงหูบรรยากาศความรักฟุ้งฝันน่ารำคาญพวกนั้นทำให้ฉันไม่มีสมาธิจนต้องมานั่งก้มหน้าก้มตาอยู่กับเธออีกแล้ว ไดอารี่ที่รัก(?) อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ในรถไม่ได้มีแค่ฉันกับเขา —- ตกใจล่ะสิ ? ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดอะไรอยู่ ทันทีที่เราผ่านโรงเรียนประถมขื่ออะไรสักอย่างที่ฉันไม่ทันได้สังเกต อยู่ ๆ เขาก็จอดรถแล้วลดกระจกลง หันไปตะโกนคุยกับเด็กชายคนหนึ่งที่มีสีหน้าเศร้าสร้อย

ทายหน่อยไหมว่านั่นใคร?

เซอร์ไพร์ส ~ นั่นคือลูกชายของมากาเร็ตต์

ตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังนั่งอยู่บนตักฉัน ฉันใช้หลังเขาเป็นโต๊ะวางไดอารี่ชั่วคราว แบบ— ว้าว ใครจะไปนึกว่าชายแก่คนนี้พึ่งไปจิ๊จ๊ะกับสาวคนหนึ่ง จากนั้นก็แวะรับลูกชายของสาวอีกคนเพื่อไปส่งจนถึงบ้าน? พนันกันดีไหมว่าถ้าไปถึงที่นั้นฉันต้องรออีกนานแค่ไหนสำหรับยกที่สองที่อาจเกิดขึ้น


“ พี่เขียนอะไร ”

เสียงแหลม ๆ ของเด็กชายตัวจ้อยดังขึ้นเพื่อถามเธอ ลูกชายของมากาเร็ตต์เป็นเด็กผิวขาวผมบลอนด์ตาสีฟ้า ได้รับความหวานบนใบหน้ารวมไปถึงดวงตากลมเหมือนลูกกวางมาจากแม่ของเขา ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เดนิสต้าจะหลีกเลี่ยงการสบตา ‘ เขาน่ารักเกินไป ฉันใจอ่อนกับสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยและน่ารักเสมอ ’ หญิงสาววางบันทึกของตัวเองลงบนตักเขาเปลี่ยนจากการใช้มือขีดเขียนตัวอักษรให้กลายมาเป็นการม้วนพันปอยผมของเขาเล่น “ บันทึกการเดินทางน่ะ ”

“ เขียนทำไม? ” มือของเขาแตะลงที่ปกของบันทึก เด็กชายผมบลอนด์เอียงใบหน้ามองด้วยความสงสัย

“ ไม่รู้สิ ” เดนิสต้าตอบพร้อมกลั้วหัวเราะ เธอจับศีรษะของเด็กชายตัวน้อยให้เอนพิงกับไหล่ของเธอ และใช้มืออีกข้างวางทับที่บันทึกประหนึ่งปกป้องสิ่งของของตัวเองเพื่อไม่ให้ใครมาเปิดดูเนื้อหาด้านใน เธอปล่อยให้ศีรษะพิงกับกรอบประตูรถ ดวงตามองตรงไปด้านหน้าเช่นเดียวกับสายตาของเด็กน้อยบนตัก “ วันนี้ที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง ”

“ ก็ดีนะ… ไม่มีอะไรพิเศษ ”

“ ไม่มีอะไรพิเศษ? ” เดนิสต้าเลิกคิ้ว ปลายนิ้วของเธอพันกับปลายผมสีบลอนด์ของเด็กชายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน อเล็กซานเดอร์ที่กำลังขับรถอยู่ข้าง ๆ คอยชำเลืองตามองพวกเขาอยู่เป็นระยะ เขาไม่อยากให้เด็กสาวที่พึ่งรับขึ้นรถมาได้ไม่ถึงวันเผลอสอนอะไรแปลก ๆ ให้กับลูกชายของมากาเร็ตต์ แต่การจะห้ามก็คงยาก เพราะเรื่องความปากไวรวมไปถึงความกวนประสาท ไม่มีใครสู้เธอได้แน่นอน

“ ไม่มีใครโดนครูดุ? เล่นซนจนล้ม? หรือ… มีเด็กผู้หญิงมาส่งจดหมายรักให้? ” แก้มของเด็กชายตัวน้อยเริ่มแดงระเรื่อจนคนถามหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ดวงตาของเดนิสต้าเปล่งประกายด้วยความสนุกสนานเมื่อพบว่าบนตักของเธอมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลั่นแกล้งที่สุดในโลก “ อย่าเขินเลยน่า เรื่องธรรมชาติ คนเราต้องมีประสบการณ์กันทั้งนั้น ”

“ อย่าแกล้งเขา ”

“ ไม่เอาน่า อเล็กซานเดอร์ ฉันยังไม่ทันทำอะไรเลย ”

“ ไม่มีอะไรแบบนั้นซะหน่อย! อย่ามาพูดอะไรแปลก ๆ นะ! ”

การโวยวายของลูกชายมากาเร็ตต์ทำให้รอยยิ้มของเดนิสต้ากว้างขึ้น เปลือกตาของเธอปิดลงซึมซับกับบรรยากาศแสนสุขที่ไม่ได้สัมผัสมานานนับตั้งแต่พ่อหายตัวไป เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากหญิงสาวที่จะเลือนหายไปจากชีวิตของพวกเขาในสักวันหนึ่ง “ โอเค ๆ ไม่มีก็ไม่มี… แต่ดูจากหน้าเธอ ฉันว่าอาจจะมีเด็กผู้หญิงที่แอบชอบเธอจริง ๆ ก็ได้? ”

“ หยุดเลย! ” เด็กชายตะโกนอย่างเขินอาย แต่มุมปากของเขาก็ยังยกขึ้นเล็ก ๆ

“ ก็ได้ ๆ งั้น.. ” เพื่อไม่ให้เด็กชายแปลงร่างเป็นปลาปักเป้าด้วยความเง้างอน เดนิสต้าดึงด้านที่ดีที่สุดของเธอออกมา ล้มเลิกการกลั่นแกล้งหรือแซวสุดไร้สาระมาเป็นการถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย “ มีการบ้านอะไรให้ทำหรือเปล่า? วิชาคณิตเป็นยังไง? ”

เด็กชายถอนหายใจยาวราวกับกำลังบ่นว่าเธอจู้จี้ แต่แทนที่จะแสดงท่าทางดื้อรั้นไม่พอใจ เขากลับใช้เวลาคิดกับคำถามของเธอ ก่อนจะตอบเสียงดังด้วยความมั่นใจ “ ก็แค่โจทย์คณิตปกติ… แต่ฉันแก้ได้หมดแล้ว ไม่ยากหรอก ” การสนทนาของพวกเขาดำเนินต่อไป ทำให้บรรยากาศในรถเบาลง เสียงหัวเราะของพวกเขากลมกลืนไปกับเสียงเพลงจากวิทยุที่ช่วยขับกล่อมบรรยากาศจวบจนถึงคราวที่เดินทางมาถึงปลายทาง

“ เราจะได้เจอกันอีกไหม? ”

“ ไม่ ”

นั่นเป็นสิ่งที่รู้กันดีสำหรับการพบเจอคนแปลกหน้า เด็กชายตัวน้อยห่อเหี่ยวอยู่ตรงหน้าเธอราวกับต้นไม้ที่ขาดการรดน้ำ ‘ สีหน้าแบบนั้นพอจะทำฉันใจอ่อนได้เลย.. ’ แต่เดนิสต้าทำไม่ได้ ชีวิตของเธอซับซ้อนและวุ่นวาย ไม่สมควรเกี่ยวพันกับใครโดยเฉพาะคนธรรมดา ฉะนั้นหลังจากส่งเจ้าหนูที่เธอไม่แม้แต่ถามชื่อหรือแนะนำตัว อเล็กซานเดอร์และเดนิสต้ากลับขึ้นมาอยู่บนรถเพื่อเดินทางอีกครั้ง

“ เธอดูเคยชินกับการบอกลา ”

“ เมื่อเราโตขึ้น ไม่ว่าใครก็ต้องชินไปกับมัน ”



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : เข้าสู่ตัวเมือง ก่อนข้ามอ่าวซานฟรานซิสโก




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-27 23:18
โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +2 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-27 23:18
โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-27 23:18
โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +4 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก ชุดเครื่องเพชร  โพสต์ 2024-12-27 23:18
โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-12-27 23:18
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-28 01:51:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-28 02:36




ตอนนี้ฉันกำลังอยู่บนสะพานข้ามอ่าวซานฟรานซิสโกหลังจากที่เราพึ่งออกมาจากอู่ซ่อมรถ ฮั่นแน๊ งงล่ะสิว่าอู่ซ่อมรถมาจากไหน พวกเธอเผลออ่านข้ามอะไรไป? ไม่หรอก ไม่เลย พวกเธออ่านถูกแล้ว ก่อนหน้านี้พึ่งเป็นหน้าที่ร่ำลากับเจ้าหนูหัวทองบ้านมากาเร็ตต์และอยู่ ๆ เราก็กระโดดมาที่สะพานเลย ไทม์สคิปแบบใหม่ที่อาจจะทำให้เธอต้องหนักใจกับสิ่งที่ฉันกำลังจะเล่าต่อไปนี้

หลังออกจากบ้านของมากาเร็ตต์มา อเล็กซานเดอร์บอกฉันว่าเรากำลังจะขับรถไปตามหนึ่งในสะพานข้ามอ่าวที่มีความยาวมากที่สุดในโลก(จริงไหมไม่รู้ ก็เขาบอกฉันมาแบบนี้) ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยเขาเลยจะขอแวะไปเช็ครถที่อู่ของเพื่อนเขา เพราะไอเสียงแตรและเสียงบึ้มที่ดังตรงร้านของลิซ่าทำให้เขากังวล (ฉันกลั้นขำเกือบตาย ขอโทษนะแต่มันตลกจริง ๆ ที่เขาไม่เอะใจเลย) แน่นอน ฉันไม่ว่าอะไร แหงล่ะ มันเป็นรถเขา สิทธิ์ของเขา จนถึงตอนนี้เขาไม่ไล่ให้ฉันเดินข้ามสะพานไปเองก็ถือว่ามีพระคุณมากแล้ว อู่ที่เขาแวะไปเป็นอู่ที่เขาสนิทกับเจ้าของ เขาบอกว่ามันจะใช้เวลาไม่นาน แค่เช็คสภาพรถ และถ้าเกิดว่ามีปัญหาเขาอาจวานให้คนอื่นไปส่งฉันแทนซึ่งนั่นก็โอเค อย่างไรก็ตามเมื่อเราไปถึง สิ่งต่าง ๆ กลับ.. ไม่เป็นอย่างที่คิด

ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลงจากรถเลย บรรยากาศของที่นั้นเงียบมาก ดูวังเวง คล้าย ๆ บรรยากาศที่โรงกลั่นไวน์ ฉันไว้ใจที่จะให้อเล็กซานเดอร์ลงไปคนเดียวก็เลยเข้าไปกับเขาด้วย (และเขาก็ไม่เข้าใจ แถมบอกว่าฉันงี่เง่า อี ก แ ล้ ว) เมื่อเข้าไปด้านในที่พวกเราเจอไม่ใช่นายช่างที่อเล็กซานเดอร์บอกว่าสนิท แต่เป็นคนแปลกหน้าที่แม้แต่เขาก็ยังไม่เคยเจอมาก่อน เขาคนนั้นบอกว่าตัวเองชื่อจอร์ช เป็นญาติของนายช่างอัลเบิร์ต (ขอนอกเรื่องนิด นี่มันการเดินทางรวมชื่อคนแก่หรือยังไง?)

ที่ตลกก็คือ อเล็กซานเดอร์กระซิบฉันในตอนที่นายจอร์ชคนนั้นเผลอว่า “ อัลเบิร์ตไม่มีญาติ ” โอ้ ว้าว—- แจ็กพอร์ตสุด ๆ (*วาดอิโมจินิ้วกลาง*) ด้วยเหตุนี้เอง อาศัยสติปัญญาอันน้อยนิดของเขา อเล็กซานเดอร์บอกว่าเขาจะหาจังหวะให้ฉันปลีกตัวไปโทรแจ้งตำรวจโดยไม่เอะใจเลยว่า เด็กมีโทรศัพท์ที่ไหนจะไปยืนโบกรถรอเขากลางเขาถ้าหากว่าโทรศัพท์ของเธอใช้ได้? : ) พูดตรง ๆ นะ อเล็กซานเดอร์ไม่มีทางเป็นลูกมิเนอร์วาได้ สมองของเขาเหมือนเต็มไปด้วยอะไรสักอย่างที่.. ไม่มีประโยชน์

ฉันเกือบจะตกลงไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเพราะซื่อบื้อแต่เป็นเพราะตราบเท่าที่เขายังไม่หมดสติ ฉันจำเป็นต้องรับบทเด็กอมมืออมเท้าเก็บความสามารถของตัวเองเอาไว้ นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดในตอนแรก จนกระทั่งเผอิญสบตากับจอร์ชและเผชิญหน้ากับแจ็กพอร์ตที่สอง

เขามีตาเดียว

ไอ้เวรเอ๊ย สาบานเลยว่าตอนนั้นฉันอยากจะกรีดแล้วลงไปดิ้นกับพื้น การเดินทางบ้า ๆ นี่ขยันส่งตัวประหลาดเข้าหาฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นเครื่องรางดูดอมนุษย์ยังไงอย่างงั้น(ใช่) จากที่จะเป็นฝ่ายปลีกตัวเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ขัดขวางพวกเราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่มนุษย์ฉันก็จำเป็นจะต้องหาวิธีทำให้อเล็กซานเดอร์เป็นฝ่ายปลีกตัวออกไปแทน อันที่จริงมันไม่มีอะไรดีไปกว่าการทุบหัวเขาให้สลบ แต่น่าเสียดายที่วิธีนั้นดันถูกใช้ไปแล้ว

ฉันเลยทำอะไรที่หน้าด้านกว่านั้น

ไหน ๆ ถูกเข้าใจว่าเป็นเด็กเอาแต่ใจไปแล้ว ฉันก็เลยชี้นิ้วสั่งอเล็กซานเดอร์ในเรื่องไร้สาระแล้วลองเอาตัวเข้าไปออเซาะหนุ่มไซคลอปส์นั่นเล่น ๆ ผลสรุปคือ —- นอกจากพวกเขาจะติดกับแล้วยังดูราบรื่นดีด้วย ดังนั้นฉันเลยได้เข้ามาอยู่ในห้องทำงานสองต่อสองกับไซคลอปส์ตัวอ้วนกลมนี้ ฮู้เร่ (?)

อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคุณปล่อยชายหญิงไว้ด้วยกัน? อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคุณปล่อยอสุรกายไว้กับคนที่ถูกกำหนดให้จัดการอสุรกาย? ✧.* สงคราม *.✧ ไงล่ะ ฉันไม่รู้ว่าเสียงครึกโครมที่เกิดขึ้นจะส่งผลยังไงต่ออเล็กซานเดอร์ที่รออยู่ข้างนอก มันไม่เหมือนการต่อสู้ ฉันใช้คำว่ามันเป็นการปาข้าวของใส่กันเหมือนคู่สามีภรรยาทะเลาะกันมากกว่า โอเค ให้ฉันอธิบายก่อน คือ ฉันก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ 19 ที่สูง 164 เซน และหนักไม่ถึง 50 กิโล ดังนั้นการจะให้ไปตบตีใกล้ ๆ กับไซคลอปส์ที่ตัวใหญ่กว่าเธอสองเท่า?? นั่นบ้าไปแล้ว

มันไม่ใช่อะไรที่ฉลาดนักหรอก การเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงซ้ำ ๆ ซาก ๆ แต่ฉันไม่มีทางเลือก ชีวิตเหวี่ยงให้ต้องมาเจออะไรบ้า ๆ ตั้งแต่ 12 บางครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองเสียสติไปแล้วแต่ไม่ใช่เลย ยังมีคนที่เหมือนกันรอฉันอยู่ที่ค่ายจูปิเตอร์อะไรนั่น ดังนั้นฉันเลยจำเป็นต้องทำการเดินทางนี้ให้สำเร็จไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม การต่อสู้กับไซคลอปส์ไม่ได้น่าหวือหวา พูดตามตรงว่าค่อนข้างน่าเบื่อ เหมือนกับกำลังฉายซ้ำสิ่งที่เคยทำมาแล้วซ้ำ ๆ แต่ไอสิ่งที่ทำซ้ำ ๆ นี่กลับเก่งขึ้นก็เท่านั้น

แปลกแฮะ.. หลังจากการปวดหัวหนัก ๆ ทุกอย่างก็ประหลาดไปหมด

เรื่องราวจบยังไงนะเหรอ? ก็ จบเหมือนตอนที่เราจบมื้ออาหาร มีคนเข้ามาเก็บกวาด เช่นตำรวจที่โผล่เข้ามาพร้อมกับอเล็กซานเดอร์และเจอแค่ความว่างเปล่า(ฉันฆ่าเขาไปแล้ว โทษที) มีร่องรอยกายต่อสู้แล้วก็ ฉันที่สะบักสะบอมนิดหน่อยเป็นหลักทาง เพื่อให้ตัวเองสามารถไปต่อได้ฉันจำเป็นต้องบอกว่าพวกเขาหนีไปแล้ว และเชื่อสิว่าในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมาด้วยคำสาป หรืออะไรสักอย่างที่เทพทำไว้กับมนุษย์ พวกเขาจะค่อย ๆ ลืมเรื่องนี้เหมือนกับที่ลืมว่าความรู้สึกในตอนที่อกหักเป็นยังไง

บ้าเอ๊ยทำไมในหน้านี้ฉันดูอีโมจัง


“ ยัยหนู เธอไม่เป็นไรแน่นะ ” อเล็กซานเดอร์ออกปากถามด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมทางของเขาเงียบมาตั้งแต่ตอนที่พวกเขาขับรถออกจากอู่ ชายที่แก่กว่าไม่ทราบว่าสิ่งใดเกิดขึ้นภายในห้องทำงานนั้น เสียงโครมคราม เสียงคำรามแปลก ๆ และห้องที่พังยับเยิน ทว่าเด็กสาวข้างกายเขากลับมีแค่บาดแผลเล็กน้อยและอาการเหม่อลอย “ ฉันรู้ว่าเราไม่ได้ญาติดีกันเท่าไหร่แต่ เฮ้ เธอคุยกับฉันได้ โดยเฉพาะหลังจากเมื่อกี้นี้ ”

“ … ”

เดนิสต้าไม่ได้ตอบ ดวงตาทอดมองไปทางผิวน้ำของอ่าวใหญ่ที่คั่นกลางระหว่างสองฝั่งของแผ่นดิน ใบหน้าของเธอไม่ได้โศกเศร้าหรือสับสน มีเพียงความสงบรูปแบบหนึ่งที่เข้าใจได้ยาก “ ไม่เป็นไร ฉันชินกับมันแล้ว ” คำตอบนี้ลอดออกมาจากริมฝีปากของเธออย่างง่ายดายทั้งที่มันสมควรจะเป็นเรื่องยากในการยอมรับ เดนิสต้าหัวเราะเบา ๆ เธอหลับตาลงคล้ายปิดการรับรู้ของตัวเอง ปล่อยให้ความมืดเข้าครอบงำการมองเห็น

“ ขอฉันนอนหน่อย ช่างมันเถอะ ”



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : อยู่บนสะพานริชมอนด์
ศัตรูภายในบททดสอบตัวที่สาม : ไซคลอปส์ | ผลการประลอง : ชนะ
สินสงคราม : ตาไซคลอปส์ (หากจัดการไซคลอปส์ระดับหัวหน้าจะได้รับ แก่นวิญญาณไซคลอปส์ อีก 1 ชิ้น)




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 17985 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 01:51
โพสต์ 17,985 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 01:51
โพสต์ 17,985 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-28 01:51
โพสต์ 17,985 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-28 01:51
โพสต์ 17,985 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-28 01:51
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-28 02:37:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด



แสงแดดยามสายสะท้อนเป็นประกายอยู่บนผิวน้ำทะเล ท้องฟ้าสีครามเปิดโล่งไร้เมฆบดบัง เส้นทางทอดยาวเลียบชายฝั่งเต็มไปด้วยลมทะเลพัดผ่านทำให้ใจของผู้มาเยือนเต็มไปด้วยความสงบ รถกระบะเก่า ๆ คันหนึ่งแล่นอย่างช้า ๆ ไปตามถนนลาดยาง เสียงคลื่นซัดสาดกระทบชายหาดดังก้องเป็นพื้นหลังเสริมให้บรรยากาศริมทะเลทรงเสน่ห์อย่างสมบูรณ์แบบ สะพานริชมอนด์ที่พวกเขาพึ่งขับผ่านเป็นสะพานยาวที่ใช้เวลาขับไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ดังนั้นเมื่อลงมาจากสะพานและขยับตามถนนมาได้ไม่เท่าไหร่ เดนิสต้าก็ตื่นขึ้นมาในที่สุด

ถือว่าเป็นการนอนที่สั้นมากสำหรับเด็กวัยเดียวกัน แต่ก็เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่ควรจะระวังตัวเมื่ออาศัยบารมีคนแปลกหน้าให้ช่วยพาเธอไปส่งยังปลายทาง เดนิสต้านั่งเอนตัวไปทางหน้าต่าง ฝ่ามือของเธอวางอยู่บนขอบกระจกที่ลดลงครึ่งหนึ่ง ปล่อยให้ลมทะเลพัดพาเส้นผมของเธอให้ปลิวพริ้วเป็นสายเล็ก ๆ ในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังขอบฟ้าที่ตัดกับขอบน้ำทะเล

“ ชอบทะเลเหรอ? ” อเล็กซานเดอร์ถาม เขาไม่ได้หันมองอย่างจริงจังแต่ก็ยังเหลือบตามามองเธอ

“ ไม่ถึงกับชอบแต่ก็ไม่เคยเบื่อที่ได้เห็นมัน ” เดนิสต้าตอบเสียงยานคางคล้ายกับอาการเกียจคร้านที่สมกับเป็นตัวตนของเธอ หญิงสาวปล่อยสายตามองผ่านผู้คนริมหาด รวมไปถึงรถที่ขนาบข้างคันแล้วคันเล่าก่อนจะนำขึ้นไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่ากระบะเก่า ๆ คันนี้ “ ทุกครั้งที่มองทะเล.. โดยเฉพาะทะเลสงบ ๆ แบบนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนว่าที่นั่นไม่มีการเวลา ทุกอย่างหยุดนิ่งแต่พอมองลึกลงไปก็เจอแต่สิ่งที่เราไม่สามารถทำความเข้าใจได้ สิ่งที่ซับซ้อนหรือไม่ก็บ้าคลั่ง ”

“ ขอเดาว่าเธออ่านมาเยอะสินะ ” เขาปรักปรำความคิดของเธอด้วยการตอบกลับเชิงเยาะเย้ย

‘ ฉันเป็นดิสเล็กเซียย่ะ ’ เดนิสต้าตอบกลับในใจและกรอกตาในจังหวะที่เขาไม่ทันได้มอง ไม่นานหลังจากนั้น รถของอเล็กซานเดอร์ก็แล่นมาถึงจุดจอดพักเล็ก ๆ ที่มีศาลาตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นสนใหญ่ ข้างศาลามีห้องน้ำสาธารณะที่ดูสะอาดสะอ้าน เขาจอดรถชิดขอบลานดินก่อนจะหันมาพูดกับเธอ

“ ฉันขอเข้าห้องน้ำหน่อย เธอจะลงมาสูดอากาศหรือรอในรถ? ”

เดนิสต้าไม่ได้ตอบด้วยคำพูด เธอแบมือเป็นสัญญาณให้เขาส่งกุญแจรถมา และเขาก็ทำแบบนั้นแต่โดยดี ทั้งสองลงจากรถ อเล็กซานเดอร์มุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำเพื่อทำธุระของเขาส่วนเธอก็เดินทอดน่องแยกออกมาตามทางเดินที่ปูด้วยหินกรวดเล็ก ๆ ก่อนจะมาหยุดยังบริเวณศาลาเพื่อใช้เวลามองออกไปยังเส้นแบ่งอันเป็นจุดที่ทะเลกับผืนฟ้ามาบรรจบกัน

“ เดินทางไกลเหรอครับ? ” เสียงปริศนาของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

เธอหันกลับไป เพื่อที่จะได้พบกับชายในชุดตำรวจยืนอยู่ด้านหลัง เขาสวมหมวกที่บังใบหน้าไม่มากทั้งยังมีแววตาที่เป็นมิตร ‘ ตราตำรวจดูปกติดี เครื่องแบบก็ไม่เลว.. พกปืนโจ่งแจ้งในเขตพลุกพล่าน .. คงไม่ได้มาร้าย ’ จากการประเมินคร่าว ๆ ด้วยการคาดการณ์และทริคเฉพาะตัวอีกเล็กน้อย เดนิสต้าพบว่าคุณตำรวจแปลกหน้าคนนี้เป็นชายอัธยาศัยดีที่ไม่ได้มีพิษสงอะไร.. ฉะนั้นเพื่อตอบแทนไมตรีที่เขาสอบถามอย่างสุภาพ ใบหน้าหวานจึงประดับรอยยิ้มในระหว่างที่ตอบกลับเขา

“ ใช่ค่ะ แค่แวะพักนิดหน่อย ”

ประจวบเหมาะจริง ๆ อเล็กซานเดอร์เดินมาเพื่อตามตัวเธอพอดี ชายที่รับบทเป็นลุงและสารถีชั่วคราวให้กับเดนิสต้าเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าทันทีที่เขาปล่อยยัยหนูแปลกหน้านี้ไว้คนเดียว แม่หนูนี้ก็ดึงดูดให้ตำรวจเข้ามาทักทายเสียแล้ว “ สวัสดีคุณตำรวจ มีอะไรหรือเปล่า? ” อเล็กซานเดอร์ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับรอยแผลจาง ๆ บนผิวของเด็กสาว .. จะว่าไปแผลพวกนั้นดูเหมือนใกล้หายแล้ว? ได้ยังไงกัน?

ความสงสัยของอเล็กซานเดอร์กำลังเพิ่มขึ้น แต่เสียงของคุณตำรวจก็ตัดผ่านหมอกแห่งความใคร่รู้นั้นด้วยคำพูดที่น่าสงสัยยิ่งกว่า “ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เห็นคนแวะมาพักเลยอยากเตือนอะไรนิดหน่อย ” ไม่ใช่ทุกครั้งที่ตำรวจประจำภาคพื้นที่จะมาแสดงตัวตักเตือนบางสิ่ง อเล็กซานเดอร์และเดนิสต้าหันมองหน้ากันโดยอัตโนมัติก่อนจะหันกลับไปทางคุณตำรวจ

“ เตือนอะไรหรือครับ? ”

“ ช่วงนี้ในพื้นที่รอบ ๆ นี้ มีรายงานคนหายตัวไปแบบลึกลับหลายคนครับ ” ตำรวจหนุ่มกล่าวพลางกวาดสายตามองไปรอบกาย “ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแถวนี้ พวกเขามักจะหายตัวไปในบริเวณที่ห่างไกลจากผู้คน หรือบางครั้งก็กลางดึก ไม่มีร่องรอยหรือหลักฐานชัดเจน ”

เป็นอะไรที่อันตรายจริง ๆ แค่คำเตือนเดียวก็พลิกบรรยากาศที่เคยผ่อนคลายให้กลับมาหนักหน่วง คนที่ร้อนใจที่สุดย่อมเป็นอเล็กซานเดอร์ เขาขมวดคิ้วก่อนจะรีบถามตามประสาชายที่เคยใฝ่ฝันอยากทำอาชีพที่มั่นคงอย่างตำรวจ “ หายตัวไปอย่างต่อเนื่องเลยเหรอ? พอจะมีเบาะแสไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น? ”

“ ยังไม่มีอะไรแน่ชัดครับ พวกเรากำลังพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อสืบเบาะแส และในขณะเดียวกันก็กระจายคำเตือนให้กับชาวเมืองรวมไปถึงนักท่องเที่ยว ” ตำรวจหนุ่มตอบพร้อมกับรอยยิ้มจนใจที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขา อเล็กซานเดอร์และตำรวจคนนั้นแยกตัวไปสนทนากันต่ออีกเล็กน้อย ทิ้งให้เดนิสต้าเฝ้ามองผืนน้ำที่คล้ายจะสงบแต่ก็ซับซ้อนจนกระทั่งอเล็กซานเดอร์เดินกลับมา เธอถึงพึ่งจะตระหนักได้ว่าคุณตำรวจใจดีคนนั้นได้จากไปแล้ว

“ อย่าคิดมากน่ายัยหนู ไปกันเถอะ ”

เดนิสต้าโยนกุญแจให้อเล็กซานเดอร์ เธอไม่ได้รีบร้อนในการที่จะกลับไปขึ้นรถ ‘ สุดท้ายแล้วจะเป็นคลื่นทะเลที่กลืนกินผู้คนอีกครั้ง.. หรือว่าจะเป็นอะไรกันแน่นะ ’ ปริศนาที่ไม่มีทางไขได้ ความรู้สึกติดค้างในใจที่น่าหงุดหงิดแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น หญิงสาวปฏิเสธที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ เธอก้าวขึ้นรถ ปล่อยให้เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกครั้งและนำพาพวกเขาไปสู่เส้นทางที่ไม่อาจจะคาดเดาได้



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : ห่างจากอุโมงค์ไม่เกินครึ่งชั่วโมง




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 15962 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 02:37
โพสต์ 15,962 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 02:37
โพสต์ 15,962 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-28 02:37
โพสต์ 15,962 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-28 02:37
โพสต์ 15,962 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-28 02:37
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-28 17:00:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด



ฉันรู้สึกเหมือนว่ามีคนจับตามองฉันมาพักใหญ่แล้ว มันอาจจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่ออกจากศาลา เสียงครืดคราดปริศนา ความรู้สึกเป็นปรปักษ์ที่แผ่ออกมาจากบางคน บางอย่าง หรือบางสิ่ง ไม่รู้สิ.. มันเหมือนถูกไล่ตาม เหมือนเป็นเหยื่อที่นักล่ากำลังเฝ้ารอโอกาสสำหรับโจมตี ซึ่งมันไม่ดีต่อคนข้างกายฉันในเวลานี้— และอันที่จริงก็ไม่ดีต่อตัวฉันด้วย


นัยน์ตาสีหม่นของหญิงสาวที่ดูคล้ายแมวจอมซนเลื่อนมองฝูงพิราบที่บินสะเปะสะปะไร้ทิ้งทาง เสียงซุบซิบของนกแห่งรักกำลังพร่ำบอกถึงภัยร้ายที่เดนิสต้าไม่อาจระบุตำแหน่งของมันได้ ‘ .. น่าหงุดหงิดชะมัด ’ หนึ่งในผู้สืบทอดสายเลือดทวยเทพที่มีเป้าหมายเป็นการเดินทางไปให้ถึงสถานที่พักพิงอันปลอดภัยกำลังพยายามกล่อมตัวเองให้เชื่อว่าความรู้สึกประหลาดนี้เป็นเพียงความหวาดระแวงที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมลบ ๆ กับชีวิตเฮงซวยที่มักเจอแต่เรื่องเซอร์ไพร์สในแบบที่คนอื่นไม่เจอ

ทว่าอีกใจหนึ่ง เดนิสต้าก็รู้ดี ‘ ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ โดยเฉพาะกับพวกเรา ’ ตลอดครึ่งวันที่ผ่านมา เธอเจอตัวประหลาดเยอะและถี่ยิ่งกว่าที่เคยเจอมาทั้งชีวิต ทั้งหมดไม่ใช่อสุรกายระดับต่ำ มีแต่พวกที่รับมือได้ยากแล้วก็ยากขึ้นเรื่อย ๆ .. บางทีนี่อาจเป็นการไล่บี้ให้เธอแยกตัวจากสารถีจำเป็น ดวงตาเรียวเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ข้างกาย อเล็กซานเดอร์ยังคงมีสมาธิอยู่กับการขับรถ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเผลอเหยียบคันเร่งมากกว่าปกติเนื่องจากความกังวลที่ผุดขึ้นหลังได้ยินข่าวเกี่ยวกับการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา

‘ ต้องหาจังหวะแยกกับเขา อย่างน้อยก็ก่อนถึงอุโมงค์ ’ ถึงจะคิดได้แต่การทำให้สำเร็จก็ไม่ง่าย อเล็กซานเดอร์ดูไม่คล้ายคนที่จะยอมล้มเลิกกลางทางโดยเฉพาะเมื่อเขาพาเธอมาถึงบริเวณที่ห่างจากอุโมงค์แค่ไม่กี่กิโลเมตร พูดถึงเขา.. อเล็กซานเดอร์ไม่ใช่เพื่อนร่วมทางที่ดีก็จริงแต่เขาก็ไม่แย่ อย่างน้อย ๆ เดนิสต้าก็ต้องการให้เขาปลอดภัยหลังจากที่แยกกับเธอ ดังนั้นเธอจำเป็นต้องคิดให้มากวางแผนให้รอบคอบและจัดการกับอะไรก็ตามที่อาจจะเป็นอันตรายต่อเขาในภายหลัง ‘ เฮ้อ.. ฉันไม่เหมาะกับเรื่องใช้สมองเลย ’

เมื่อสิ้นสุดเวลาตัดพ้อหรือบ่นตัวเอง สาวสวยชำเลืองตาไปมองกระจกข้างของรถจนสะดุดตากับหมาบีเกิ้ลตัวหนึ่งที่นั่งจ้องกลับมาจากข้างทาง เดนิสต้าเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงน ทว่าในวินาทีต่อมาความประหลาดใจของเธอก็กระจ่างเมื่อบีเกิ้ลตัวเท่าแยกเขี้ยวพร้อมกับสะบัดหางที่ยาวกว่าปกติราวกับธงบอกสัญญาณรบ

‘ นั่นไม่ใช่บีเกิ้ล ’

สาวครึ่งเทพรีบหันหน้ากลับไปมองเส้นถนนที่อยู่ตรงหน้า เธอสูดหายใจเข้าก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ “ อเล็กซานเดอร์ จอดรถ ฉันจะลงตรงนี้แหละ ” ท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างปุบปับของเธอทำให้เขาไม่เข้าใจ อเล็กซานเดอร์ไม่จอด ไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ เขายังคงขับไปข้างหน้าพร้อมกับพูดอะไรบางอย่างเป็นภาษาที่เธอไม่เข้าใจหรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะสมาธิของเธอไม่ได้อยู่ที่เสียงของเขาอีกต่อไปแล้ว

“ อเล็กซานเดอร์ จอด ” เดนิสต้าย้ำ หางตาของเธอเหลือบไปเห็นหมา— ไม่ใช่หมาด้วยซ้ำ ร่างสูงใหญ่ของสิงโตที่มีส่วนผสมระหว่างสัตว์ต่าง ๆ วิ่งตามมาตลอดทางโดยที่ไม่มีใครสังเกต ‘ ผีหลอกกลางวันแสก ๆ ให้ตาย ทำไมต้องมีแต่ฉันที่เห็นอะไรแบบนี้ตลอด ’ รถกระบะเซ็งกระบ๊วยของอเล็กซานเดอร์ยังคงขับต่อไปจนถึงทางแยกที่ไฟจราจรบอกให้หยุดวิ่ง ไม่มีการรั้งรออีกต่อไปแล้ว เดนิสต้าปลดสายเข็มขัดนิรภัยและกระโจนลงจากรถ ทิ้งให้อเล็กซานเดอร์ตะโกนโหวกเหวกจากด้านในด้วยถ้อยคำที่เธอฟังไม่ทัน

“ ขอบคุณสำหรับครึ่งวันที่ผ่านมา รักคุณนะ สับรางดี ๆ มากาเร็ตต์กับลิซ่าดูเป็นสาวหึงโหดใช่ย่อย ” เสียงตะโกนโต้กลับของเดนิสต้าตัดผ่านความรู้สึกห่วงใยของอเล็กซานเดอร์ให้ย่อยสลายกลายเป็นควัน ชายวัยกลางคนเริ่มโวยวายเกี่ยวกับความแก่แดดของเธอจนคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ หันมองแต่เดนิสต้าก็คร้านจะใส่ใจกับความคิดเห็นของคนเหล่านั้น เธอกระโดดขึ้นไปหยิบกระเป๋าที่หลังรถ วิ่งกลับมาเกาะข้างกระจกฝั่งคนนั้นและส่งจูบทางอากาศให้สารถีชั่วคราวเป็นการอำลาจนสีหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความหมั่นไส้

“ บาย อเล็กซานเดอร์ .. คงจะดีถ้าคุณไม่ลืมฉัน ”

จากกลางถนนตรงไปสู่ซอกหลืบ เดนิสต้าวิ่งมาพักใหญ่โดยมีเป้าหมายเป็นการลากอสุรกายในร่างบีเกิ้ลปลอมให้ออกมาจากฝูงชน เดิมทีเธอเคยเป็นคนที่เห็นแก่ตัวกว่านี้ ความคิดของสาวครึ่งเทพแตกกระจายนับพันนับหมื่นในทุกก้าวที่วิ่งออกไป บางทีอาหารในบ้านหมาป่าคงมีอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็ต้องเป็นคำสอนของลูปาที่ปลุกสัญชาตญาณความเป็นคนดีให้เริ่มผุดขึ้นมาจนต้องผลักตัวเองไปเจอกับความสุ่มเสี่ยงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ‘ สนุกเหรอ? ไม่ เสพติดเหรอ? ไม่ มีความสุข? ไม่ ’

‘ เหมือนเป็นแค่หน้าที่ที่เราก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม แต่ก็จำเป็นต้องทำ ’

..

“ หน้าที่บ้าบออะไรอีกล่ะนั่น ” เสียงบ่นงึมงัมดังขึ้นเมื่อร่างบางเหยียบกับลำต้นไม้ใหญ่ส่งให้ตัวเองกระโดดขึ้นสูงและปามีดสั้นเข้าใส่สิ่งมีชีวิตพิลึกพิลั่นตัวนั้น ด้วยความว่องไวของอสุรกายที่ผสมผสานส่วนต่าง ๆ ของแพะ สิงโต และงูอย่างลงตัว มันเคลื่อนหลบพร้อมเงยหน้าขึ้นคำรามกึกก้อง ปล่อยลมหายใจร้อนกรุ่นที่แทรกมาด้วยเปลวเพลิงให้พวยพุ่งเข้าหาเธอราวกับปืนไฟที่จ่อเป้าเล็งเอาไว้แล้ว

‘ คิดสิเดนิสต้า ’

หอกฮาลต้าสะบั้นไฟเหล่านั้นทิ้งอย่างไร้เยื่อใย ไม่มีการถนอมน้ำใจหรือไว้ไมตรี ดวงตาเรียวเฉี่ยวหรี่ลงอย่างระมัดระวังตรงข้ามกับความเย่อหยิ่งถือดีของอสุรกายที่แฝงประกายชัดเจนในแววตา เดนิสต้าไม่ใช่สุภาพสตรีไร้เดียงสา หรือครึ่งเทพที่แค่ฝึกฝนกำลังแต่ไม่ใส่ใจปัญญา ถึงจะไม่แน่ใจช่วงเวลาที่ชัดเจนแต่เธอพบว่าในส่วนลึกของความทรงจำมีช่วงเวลาที่เธอเคยค้นคว้าอย่างหนักเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ ‘ เมื่อไหร่นะ.. ทำไมถึง— อึก ’ ห้วงความคิดของเธอถูกขัดด้วยการเข้าประชิดตัวของอสุรกายระดับ S Class ที่มาโดยไร้สุ้มเสียง

ไม่มีที่ยืนให้กับนักรบที่เสียสมาธิในการต่อสู้ กรงเล็บของไคเมร่าตวัดเข้าใกล้ตัวในระยะเผาขน ดวงตาของสาวครึ่งเทพเบิกกว้างเธอรีบดึงตัวเองให้เอนไปด้านหลังหลบการโจมตีในเสี้ยววิ แต่ก็ไม่พ้นรับลมหายใจเพลิงที่ถากลงกับผิวอ่อนนุ่ม ‘ บ้าเอ๊ย บ้าจริง บ้าชะมัด !! ’ หากเป็นแค่ความเจ็บปวด เดนิสต้าอาจจะยังพอทนไหว แต่นี่คือความเจ็บที่มาพร้อมกับความแสบร้อน สาวสวยที่จำใจต้องต่อกรกับอสุรกายระดับสูงอดไม่ได้ที่จะขู่ร้องในคอด้วยความหงุดหงิดเมื่อตระหนักได้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ต่างอะไรจากการวิ่งไล่จับของแมวกับหนู

แมวคือมัน หนูคือเธอ

ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่โชค และการเอาตัวรอดว่าใครจะเหนือกว่าใคร

‘ ต้องมีสักทาง คิดสิเดนิสต้า คิดเร็วเข้า ’ ทุกอย่างในสายตาเธอล้วนสิ้นหวัง ความต่างของร่างกาย ความรวดเร็ว พละกำลังไหนจะสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่เฉียบคม พวกมันมีสามหัวสามสมองช่วยกันคิดแต่เธอมีหัวเดียว ความเสี่ยงเดียว ชีวิตเดียว และร่างกายเดียว —- ไม่ใช่การต่อสู้ที่แฟร์ แต่ต่อให้หนีก็คงไม่สามารถหนีไปได้ตลอดกาล ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังศัตรู เฝ้ามองความเคยชินที่แสดงออกผ่านการเคลื่อนไหว ‘ หางงูบ้า ๆ ที่คอยปัดไปมา .. หัวแพะที่เน้นเรื่องการพ่นไฟ และหัวสิงโตคอยสอดส่อง.. เดี๋ยวนะ ’

ใบหน้าหวานราวลูกแมวจอมหยิ่งของเดนิสต้าเหลอหลาขึ้นมาทันทีที่เห็นร่างหนาใหญ่ของมันกระโจนขึ้นไปบนฟ้าและบิน ‘ บิน? บินเนี่ยนะ? ไอตัวประหลาดสามหัวที่โคตรจะหนักนั่นบินเนี่ยนะ?? เ*ี่ย สร้างมาให้ใครสู้วะเนี่ย ’ ถึงจะรู้คำตอบอยู่แก่ใจว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีไว้ให้ยอดคนปราบแต่เดนิสต้าก็อดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง ความคิดที่จะไปจนถึงค่ายเริ่มมอดดับลงทุกที

‘ ยิ่งสู้ยิ่งไม่เห็นความหวัง ฉันยอมแพ้ไปเลยดีไหมนะ ’ ความคิดชั่ววูบนี้ถูกยกให้ไปอยู่ในหมวดการตัดสินใจที่น่าลอง มาถึงตรงนี้เดนิสต้าไม่คิดว่าตัวเองมีอะไรให้เสีย พ่อของเธอหายตัวไป แม่ที่ไม่เคยพบหน้า ปริศนาชีวิตที่ต้องไขเพื่อให้ได้พบกับอุปสรรคที่อันตรายยิ่งกว่าวันนี้ สุดท้ายแล้วนั่นคือสิ่งที่เด็กสาวคนหนึ่งควรเผชิญ— ไม่สิ .. นั่นคือสิ่งที่เด็กทุกคนควรได้เผชิญจริงเหรอ?

คำตอบคือ ไม่

เดนิสต้าไม่คิดว่าเธอจะสามารถชินกับมันได้ ไม่มีทางได้และไม่มีวัน , การตายด้วยน้ำมือไคเมร่าอย่างน้อยก็ฟังดูดีกว่าตายด้วยมือของฮาร์ปี้หรือก็อปลิน มันเป็นสัตว์ที่ทรงพลัง คู่ควรแก่การเป็นสาเหตุการเสียชีวิตแม้ว่าจะไม่มีใครสนใจที่จะจดจำก็ตาม ทว่า.. หากสุดท้ายจะต้องจมลงในกองเพลิงจนมอดมลาย เหตุใดจะต้องนิ่งเฉยและปล่อยให้เพลิงนั้นแผดเผาโดยไม่มีการสนองคืน?

‘ Hell, Nah ’

เป็นความคิดที่บ้า เป็นการตัดสินใจที่เอาแต่ตัวเอง —- เดนิสต้าจะไม่บอกว่าเธอคิดได้ถูกต้องแต่นี่เป็นชีวิตของเธอ การตัดสินใจขึ้นอยู่ที่เธอ สาวครึ่งเทพที่ปะทะกับเรี่ยวแรงเหนือมนุษย์ของไคเมร่าเซถลาไปด้านหลัง ปลายหอกในมือปักลงกับพื้นยึดไม่ให้ตัวเองล้มจนเสียโอกาสตอบโต้ ด้วยพละกำลังและความหวังเฮือกสุดท้าย เธอผลักตัวเองมุ่งหน้าเข้าไปหาไคเมร่า ดวงตาสิงโตเบิกกว้าง หางที่มีลักษณะเป็นหัวงูตวัดมาในทิศทางเดียวกันพร้อมอ้าปากเตรียมพ่นหนามพิษปลิดชีวิตผู้ที่กล้าต่อกร

ด้วยการอาศัยแรงผลักจากปลายหอก อ้างอิงการเคลื่อนไหวของนักกระโดดสูง ร่างบางที่ลอยขึ้นเหนืออากาศรีบพลิกหอกลงมาและทิ้งตัวแทงกลางศีรษะของอสรพิษร้ายอย่างแรงจนส่วนหัวที่สามารถพ่นผิดได้ถูกตรึงไว้กับพื้น กลิ่นคาวเลือดและเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดกระแทกเข้ากับโสตประสาทการรับรู้ของเดนิสต้าอย่างรุนแรง แต่สิ่งเหล่านั้นไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว .. ไม่ ไม่เลยสักนิด ขาเรียวที่ดูไร้เรี่ยวแรงเหยียบลงบนหัวสิงโต มีดสั้นที่สมควรจะเป็นอาวุธไร้พิษสงเฉือนตัดเส้นเอ็นหลังศีรษะของแพะจนใบหน้ามันห้อยต่องแต่ง

ดวงตาของเดนิสต้าพร่าไปด้วยม่านน้ำบาง ๆ ที่ไม่รู้ว่ารวบรวมมาจากที่ไหน มีดของเธอทิ่มแทงบนแผ่นหลังของอสุรกายสามหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่สนว่าลมหายใจสุดท้ายของมันอาจจะผ่านไปแล้ว เธออยู่ตรงนั้น บนลำตัวของสิ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่าอันตรายที่สุด ปล่อยให้อะดรีนาลีนเข้าครอบงำจนใจเต้นระส่ำ สองมือกำแน่นจนข้อนิ้วขึ้นเป็นสีขาวจวบจนร่างของมันแหลกสลายกลายเป็นผงสีทองอร่าม

ราวกับว่าได้จากไปอย่างสงบ.. สงบจนน่าอิจฉา

ด้วยเนื้อตัวที่มีบาดแผล ตามเสื้อผ้ามีรอยไหม้ และยังไม่รวมกับหยดเลือดที่สาดกระเซ็น เดนิสต้านั่งอยู่ตรงนั้น ในพื้นที่ว่างเปล่าไร้ผู้คนที่เธอยังพอจะได้ยินเสียงรถจากที่ไกล ๆ อาวุธร่วงลงกับพื้นส่งเป็นเสียงเกร๊งเบา ๆ .. สายตาของเธอจ้องมองไปที่มือของตัวเอง ทีละน้อยเธอค่อย ๆ ยกมือขึ้นบังดวงตาเพื่อปกปิดบางสิ่ง

“ บ้าเอ๊ย.. ”

คล้ายว่าความผิดหวังได้กัดกินหัวใจของเธอไปแล้ว แม้ว่าจะมีชื่อว่าเป็นผู้รอดชีวิต เธอไม่คาดหวังแล้ว.. ไม่มีความปรารถนากับชีวิต ทว่าโชคชะตาก็ยังเล่นตลก ภายใต้เสียงหัวเราะในดินแดนเงียบงันอันมีนามว่าจิตใจ ท้ายที่สุดเปลือกนอกที่บอบช้ำก็ยังต้องหลั่งน้ำตาให้กับความสับสนในช่วงวันอันแสนอบอุ่น



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : ห่างจากอุโมงค์ไม่เกิน 5 นาที
ศัตรูภายในบททดสอบตัวที่สาม : ไคเมร่า | ผลการประลอง : ชนะ
รางวัลพิชิตครั้งแรก : +2 ตื่นรู้
สินสงคราม : เกล็ดงู (เลขไบต์ 0-3) / เขี้ยวสิงโต (เลขไบต์ 4-6) / ขนแพะ (เลขไบต์ 7-9)
(LUK 80+ จะได้รับจำนวนเพิ่มขึ้นตามเลขไบต์รองสุดท้าย)




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 30157 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 17:00
โพสต์ 30,157 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 17:00
โพสต์ 30,157 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-28 17:00
โพสต์ 30,157 ไบต์และได้รับ +5 EXP +12 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-28 17:00
โพสต์ 30,157 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-28 17:00

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2024-12-28 19:40:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-28 19:41




มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด ตลอดการเดินทางนี้ฉันมีความสุขที่ได้พบกับคนมากมายสารพัดเรื่องราวแต่ถึงอย่างนั้นการมีอยู่ของสิ่งที่ไม่ควรจะมีก็ยังตามหลอกหลอนฉัน มันเป็นฝันร้ายทั้งที่ยังลืมตา เป็นชีวิตที่หลบหนีไม่ได้แม้จะอยากก็ตาม .. หลายคนบอกว่าชีวิตที่แตกต่างคือพร แต่หลังจากที่ฉันประสบมาด้วยตัวเอง ไม่ มันคือคำสาป , คำสาปที่ทำให้เราคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเส้นทางนี้ถูกต้องไหม และเราทำได้จริงหรือเปล่า หลังจากพิชิตไคเมร่า ฉันก็ไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่คืออะไร ความภาคภูมิใจมีไหม? ก็มี แต่.. ในอนาคตฉันยังต้องเจอที่มากกว่านี้ใช่ไหม? พอคิดขึ้นมาได้แบบนี้ เส้นทางข้างหน้าก็บีบแคบจนน่าอึดอัดไปหมด

ถ้าเกิดว่านี่เป็นฝันร้าย อย่างน้อยก็ขอให้ฉันตื่นขึ้นมาในชีวิตที่สงบสุข ไม่จำเป็นต้องฝ่าฝันเพื่อเอาชีวิตรอด

เพราะยังไงโลกนี้ก็ไม่เคยใจดีตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว


หน้าสุดท้ายของบันทึกจบลงด้วยความในใจที่หลบซ่อนมาตลอดการเดินทาง เพื่อเผชิญหน้ากับตัวเอง เดนิสต้าพบว่าการเขียนบันทึกก็เหมือนจะมีประโยชน์ขึ้นมาเล็กน้อยแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ยุ่งยากก็ตาม ด้วยร่างกายที่ไม่ได้สะอาดวิ้งวับ เธอจำเป็นต้องล้มเลิกความคิดที่จะไปปรากฏตัวหน้าอุโมงค์ด้วยสภาพสวยสดงดงาม ‘ ไม่ตายก็เก่งแล้ว ’ เธอแบกร่างที่บอบช้ำไปตามทางเดิน

ผ่านรถคันแล้วคันเล่าที่ขับเลยเธอไป รวมไปถึงสี่แยกที่เธอตัดสินใจวิ่งลงจากรถของอเล็กซานเดอร์

แน่นอน กระบะคันนั้นไม่อ—- What??

รถเก่า ๆ ใกล้พังที่ยังถูกใช้อย่างถนอมของอเล็กซานเดอร์จอดอยู่ที่ลานจอดรถของร้านอาหารฟาสฟู้ตด์บริเวณสี่แยก ส่วนตัวเจ้าของรถก็นั่งทำหน้าทมึงอยู่บนเคาน์เตอร์ชิดกระจก สองตาของเขาจับจ้องถนนราวกับกำลังตามหาใครบางคน เดนิสต้าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เสียงหัวเราะเบา ๆ ลอดออกมาจากริมฝีปากแต่กลับก้องกังวานสะท้านไปทั้งหัวใจ เธอพลิกตัวเข้าไปหลบหลังป้ายโฆษณาเบอร์เกอร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านฟาสฟู้ตด์ก่อนจะทรุดตัวนั่งอย่างอ่อนแรง

‘ ก็น่ารักเหมือนกันนี่นา ’ รอยยิ้มจนใจแต้มลงบนใบหน้าหวาน นึกไม่ถึงเลยว่าความดื้อรั้นกึ่งรับผิดชอบของชายคนนั้นจะมีมุมที่น่าชื่นชม ดังนั้นด้วยการตัดสินใจครั้งสุดท้าย เดนิสต้ายกมือขึ้นช้า ๆ เฝ้าคอยการมาถึงของบางสิ่งที่เป็นมิตรและกำลังใกล้เข้ามา

เสียงกระพือปีกดังขึ้นเหนือศีรษะ พิราบสีขาวบริสุทธิ์ตัวเล็กจ้อยโผลงมาเกาะบนมือนุ่ม ดวงตากลมเข้มของมันสบกับนัยน์ตาสีฟ้าหม่นอย่างเคารพ หนึ่งในความสามารถพิเศษที่เดนิสต้ายังไม่เข้าใจวิธีการทำงานของมัน ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถสื่อสารกับสัตว์บางชนิดได้ ย้ำว่าบางชนิด “ ฉันรบกวนเธอสักเรื่องได้หรือเปล่า? ” เดนิสต้าฉีกกระดาษหน้าที่ว่างของบันทึกออกมา เธอใช้ปากกาเขียนข้อความสั้น ๆ ตามความคิดและอารมณ์ในขณะนั้นก่อนจะพับจนเรียบร้อยแล้วยื่นไปให้พิราบขาวได้ใช้จะงอยปากคาบไว้

“ ฝากส่งให้กับคุณชายหน้าบูดที่อยู่ตรงข้ามทีนะ ”

เมื่อพูดจบ เจ้าตัวน้อยก็กระพือปีกบินขึ้นเหนือมือของเดนิสต้าเล็กน้อย สาวครึ่งเทพหยักยิ้มอย่างอ่อนโยน ปลายนิ้วของเธอลูบบนเส้นขนนกนุ่ม ๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยให้มันบินร่อนไปส่งจดหมายสวนทางกับเธอที่กระชับเสื้อคลุมเดินแฝงหายไปกับฝูงชนที่มีอยู่บ้างประปรายเพื่อไปยังอุโมงค์อันเป็นสถานที่สุดท้าย

ถึง อเล็กซานเดอร์ ><

คุณจะเป็นสารถีคนโปรด คุณลุงสุดเห่ย และชายเจ้าชู้ในความทรงจำของฉันตลอดกาล

ด้วยรัก(และไม่ชอบ), เดนิสต้า

เธอเชื่อว่าเขาจะชอบมัน จดหมายไร้สาระที่ไม่มีความทราบซึ้งใด ๆ นอกจากกวนประสาท เสียงหัวเราะคิกคักของหญิงสาวยังคงดังแผ่วเบาไปตลอดทางจวบจนสายตาพบเข้ากับความโอ่อ่าอลังกาลของอุโมงค์ที่รอต้อนรับมาตลอดหลายปี

‘ บ๊ายบาย บันทึกที่รัก แล้วก็—- สวัสดี ค่ายจูปิเตอร์ ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : ถึงอุโมงค์
รางวัลผ่านบททดสอบไปถึงอุโมงค์คัลลีคอตต์:
+100 พลังใจ , 35 ดีนาเรียส และ อาหารเทพ 1 แท่ง +50 EXP ,
+1 Level up ความโปรดปรานจากจูโน่+35 แต้ม

รางวัลพิเศษ: +โดยมีผลตอบรับรางวัลพิเศษ +2 ตื่นรู้ และ +5 Point ความโปรดปรานจากลูปา+จูโน่+20
( ในฐานะ BELIEVER มีโบนัสอะไรไหมฮะ )




แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-12-28 19:48
God
BELIEVER เลือก 1 เทพ ดังนั้นสุ่ม ได้จูโน่ สุ่มแทน---)   โพสต์ 2024-12-28 19:48
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-05-2] จูโน่ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-12-28 19:48
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-05-2] จูโน่ เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2024-12-28 19:47
God
คุณได้รับ 150 EXP โพสต์ 2024-12-28 19:47

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +100 เหรียญดีนาเรียส +35 ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 100 + 35 + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สายใยแห่งรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x3
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
x2
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้