[บันทึกการเดินทาง] HAPPY TRIP WITH DENISTA

[คัดลอกลิงก์]

START : 23/12/2024 - 10:55
FINISH : 24/12/2024 - 04:59
STATUS : FINISH
CHAPTHER : 9




ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 1727 ไบต์และได้รับ 1 EXP!  โพสต์ 2024-12-25 03:59
โพสต์ 2024-12-25 05:39:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-25 05:49




ไดอารี่ที่รัก.. ในที่สุดฉันก็—--

โครม ! เคร๊ง พรวด !

“ เฮ้ ! ขับรถดี ๆ หน่อย ! ”

“ อย่าบ่นเยอะนักน่ายัยหนู ”

“ โอ๊ย ให้ตายสิ.. ”

ไดอารี่ที่รัก ในที่สุดฉันก็ (ขีดฆ่า)

การเดินทางของฉันเริ่มต้นจากเช้าวันจันทร์ที่สดใส หนึ่งวันก่อนถึงคริสต์มาสอีฟ — แย่จริง ฉันคิดถึงพ่ออีกแล้ว แต่ช่างเถอะ เขาคงอยู่สักที่บนโลกและกำลังมีความสุขโดยที่ไม่มีฉัน เหมือนทุก ๆ ปี : ) อย่างไรก็ตามความคิดของฉันที่มีต่อพ่อไม่ใช่ส่วนสำคัญของบันทึกครั้งนี้ แต่เป็นการเดินทางไปยังค่ายจูปิเตอร์ต่างหาก อันที่จริงฉันควรจะมีบันทึกตั้งแต่ตอนเดินทางออกจากบ้าน แต่เชื่อเหอะ ด้วยอายุ 15 แค่ก้าวขาออกจากบ้านมาเดินทางไกล ไม่ตายได้ก็บุญแล้ว

โอ๊ย ทำไมถึงได้มีคำว่าแต่เยอะนักนะ

เช้าวันนี้ฉันตื่นขึ้นได้ด้วยการปลุกของลูปา ข้าวของของฉันถูกเก็บตั้งแต่เมื่อคืน ยอมรับเลยว่าทีแรกฉันเอาบางอย่างไปซ่อนเผื่อว่าจะได้วนกลับไปอีก แต่พระเจ้าช่วย.. ลูปาจมูกดีสมกับเป็นหมาสุด ๆ (ขอโทษนะลูปา ฉันรักคุณ) ดังนั้นแผนการที่จะทำตัวงอแงก็เลยล่มจนไม่เหลือเศษหน้าให้กอบกู้ ฉันตัดสินใจเดินออกมาจากเขตป่าของหุบเขาโซโนม่า บอกลาป่าแดงพิลึกพิลั่นนั่นก่อนจะรีบวิ่งแจ้นมาจนถึงถนนใหญ่ ฉันไม่รู้ว่าทำไมของบนตัวถึงได้เยอะขนาดนี้แต่โชคดีที่ได้กระเป๋าเดินทางจากลูปาเพิ่มมาอีกหนึ่งใบ ฉันเลยสามารถยัดทุกอย่างแล้วแบกเพื่อมาเรียกรถอยู่ริมถนนได้โดยไม่ดูเหมือนยัยบ้าหอบฟาง (คำเตือนให้ตัวเอง : อย่าหาวิ่งทั้งที่แบกของเยอะอีก จะตายอยู่แล้ว )

กลับมาที่การเรียกรถ ด้วยความที่เส้นถนนตรงตีนเขาโซโนม่าไม่ได้มีคนผ่านเยอะ(รึเปล่า) หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะนี่เป็นช่วงคริสต์มาส ฮะฮ่า ทำไมฉันถึงเลือกวันได้ดีอย่างนี้เนี่ย? มีรถไม่มากที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นรถเล็กและไม่คิดที่จะรับผู้โดยสาร โชคดีที่ฉันเจอตาแก่—- หมายถึง ลุงหน้าตาขี้เบื่อคนหนึ่งขับรถกระบะเก่า ๆ ของเขาผ่านมา ถึงจะไม่ถูกชะตาแต่ก็บอกได้เลยว่าคงมีแค่เขาที่ใช้งานได้แล้วในช่วงเวลาแบบนี้

“ ยัยหนูแบบเธอมาทำอะไรแถวนี้? ” เขาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงของชายแก่ขี้หงุดหงิดชวนให้สยิว

“ ฉันกำลังตามหารถไปส่งที่ ๆ ไม่ได้ไกลจากตรงนี้มากน่ะค่ะ ” ส่วนนี่คือสิ่งที่ฉันเลือกตอบเขา

ระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้เหมือนอย่างที่ลูปากำชับมา

“ ถ้าไม่ได้ไกลมากแล้วทำไมไม่เดินไปซะล่ะ ”

เอ้า ไอ้แก่นี่ (ขีดฆ่า)

หมายถึง— โอ้ คุณลุงผู้แสนตรงไปตรงมา จะเป็นการกรุณาอย่างมากหากลุงช่วยพิจารณาดูสภาพขาและข้าวของของดิฉันก่อนจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา < น่าเสียดายที่ไม่ได้พูดแบบนี้ออกไปแต่พอมาย้อนคิดแล้วมันก็ค่อนข้างตลกดี สื่อมีผลต่อเยาวชนหรือเปล่านะ? ช่วงนี้เหมือนฉันปากจัดขึ้นกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัวยังไงก็ไม่รู้

“ ของมันเยอะฉันแบกไปตลอดทางไม่ไหวน่ะค่ะ ”

ถึงเขาจะไม่ได้ตอบอะไรกลับมาในตอนนั้นแต่สีหน้าของเขาพูดออกมาหมดแล้ว ฟีลแบบว่า ‘ แล้วแบกมาได้ขนาดนี้แบกต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือไง? ’ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าคนปกติคงไม่นึกกันว่าบนหุบเขาและในป่าลึกที่ทุรกันดานจะมีบ้านให้พักอาศัย ท่องไว้เดนิสต้า ไม่ใช่ความผิดของลูปา ไม่ใช่ความผิดของบ้านหมาป่า (กำหมัด) ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฉันแอบด่าเขาอยู่ในใจหรือต่อมความเป็นผู้ใหญ่ของเขากำลังทำงาน อย่างน้อยต่อมาเขาก็ยังถามฉันด้วยท่าทางสุภาพขึ้น?

“ แล้วจะไปไหน ”

“ ฉันนัดกับเพื่อนไว้ที่อุโมงค์คัลลีคอตต์ค่ะ ”

และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่คำตอบของฉันทำให้สีหน้าของเขายับยู่ยี่ด้วยความสงสัย รู้กันเท่านี้นะ เขาเป็นคนแก่ที่เก็บสีหน้าไม่เก่งที่สุดในโลกเลย แม้แต่เด็ก ๆ ในบ้านหมาป่าบางคนยังทำได้ดีกว่าเขาด้วยซ้ำนี่เขามีชีวิตมาจนถึงอายุเท่านี้โดยไม่โดนต่อยหรือเดือดร้อนได้ยังไง (จากผู้เล่นเดนิสต้า : ก็คงจะวิธีเดียวกับที่เธอปากแบบนี้แต่ยังรอดมาได้นั่นแหละเนซ) เพราะมันก็ผ่านมาสักพักแล้ว ฉันจำรายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่แม่นเท่าไหร่ แต่ด้วยการเจรจาตอบโต้ไปมาเหมือนตีปิงปองในที่สุดฉันก็ได้หอบข้าวหอบของมาอาศัยบารมีท้ายกระบะของเขาเป็นตัวช่วยในการเดินทาง

เขาบอกว่าเขาชื่ออเล็กซานเดอร์ กับนามสกุลอะไรสักอย่างที่ฉันไม่ได้ใส่ใจจะจำ มีลูกสาวที่อายุเท่ากับฉันหนึ่งคน เธอคนนั้นเรียนที่ต่างประเทศ เขาดูเป็นผู้ชายรักครอบครัว ท่าทางคงจะเลิกกับภรรยาแล้วเพราะเขาไม่พูดถึงเธอเลย แต่อย่างน้อยประกายในแววตาและน้ำเสียงภาคภูมิใจที่มีต่อลูกสาวก็คงจะทดแทนความเหงาที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาน่ากลัวนั่นได้อยู่บ้างล่ะมั้ง


เสียงล้อบดกับถนนลาดยางเปรียบเสมือนเสียงขับกล่อม ลมเย็น ๆ ที่ปะทะกับร่างจนเด็กสาวต้องรื้อผ้าในกระเป๋าเดินทางมาห่อตัวไว้ก็ดูเหมือนจะเป็นประสบการณ์สุดทรหดแต่ในขณะเดียวกันมันก็มีความสนุกสนานแฝงอยู่ในนั้น เดนิสต้าหัวเราะเบา ๆ เมื่อเธอกวาดสายตาอ่านบันทึกที่เขียนอีกครั้งจนถี่ถ้วน ‘ ไม่ควรเรียกมันว่าบันทึกเลยแฮะ มันดูเหมือน Burn Book มากกว่า ’

เธอปิดสมุดลง นำมันมากอดไว้กับอกและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ‘ เป็นวันที่ท้องฟ้าสวยจริง ๆ ’ ไม่มีก้อนเมฆ มีแค่พื้นหลังของฟากฟ้าสีเข้มสดใสพร้อมด้วยดวงอาทิตย์แขวนเพื่อให้ความอบอุ่นในช่วงท้ายปีที่มีหิมะตกลงมาอย่างอ้อยอิ่ง มือข้างหนึ่งของเธอหงายขึ้นรองรับเกล็ดหิมะที่พริ้วไหวไปตามลม น่าเสียดายที่ความเร็วของรถกลายเป็นว่าเป่ามันทิ้งไปจนเกือบหมด

“ ขับช้าลงหน่อยได้ไหม !! มันหนาว !!! ”

เดนิสต้าตะโกนสู้กับเสียงลมกรรโชกแรงเพื่อให้ผู้ขับที่เปิดกระจกได้ยินความต้องการของเธอ แต่เสียงตะโกนที่ตอบมากลับทำให้เธอต้องกรอกตา “ หนาวก็ใส่เสื้อกันหนาวเพิ่มอีกชั้นสิ !! ” เสียงทุ้มใหญ่ของเขามีความขบขันแฝงอยู่จนเธอสัมผัสได้ แต่สัญชาตญาณบางอย่างของเธอกลับกึกก้องอยู่ในใจว่าเขาไม่ได้ใจร้าย สวนทางกับความเป็นจริงและการแสดงออกของเขาจนเด็กสาวเริ่มที่จะขมวดคิ้ว แต่นั่นไม่สำคัญ เดนิสต้าตั้งมั่นไว้ในใจว่าเธอจะเก็บประโยคเมื่อครู่นี้ไปเขียนใส่ไว้ใน Burn Book ของเธอแน่นอน

‘ เดี๋ยวก่อน.. ไม่ใช่ว่ารถมันเริ่มช้าลงเหรอ? ’

สองข้างทางที่ผ่านไปยังคงเต็มไปด้วยแมกไม้เหมือนเก่า แต่ตอนนี้เธอกลับสามารถมองเห็นรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มจากเดิมได้มากขึ้น รวมไปถึงการที่มีหิมะบางส่วนตกลงมาถึงพื้นท้ายกระบะซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเร็วของรถที่ลดลง ดวงตาของเดนิสต้าเบิกกว้าง แต่แล้วเธอก็เริ่มหัวเราะ มันเป็นเสียงหัวเราะใส ๆ ที่ดังพอจะทำให้คนขับชำเลืองมองสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านกระจกมองหลัง

“ หัวเราะอะไรของเธอยัยหนู ”

“ เปล่า ๆ ก็แค่.. ก็แค่.. ”

“ ก็แค่อะไรเล่า !! ”

ยิ่งพูดก็ยิ่งหัวเราะ เดนิสต้างอตัวลงซบพื้นกระบะพร้อมกับเสียงหัวเราะดังลั่น

‘ ตาย ตาย คุณสารถีคนนี้ใจดีกว่าที่คิดแฮะ ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ได้รับกระเป๋าคาดเอว 1 ใบจากลูปาในบันทึกหน้าแรก
ความคืบหน้า : เดินทางออกจากหุบเขาโซโนม่า




แสดงความคิดเห็น

มาเกาะเบารอติดตามตอนต่อไปฮะ *จกป็อปคอร์น*  โพสต์ 2024-12-25 13:36
ฉันจะรอคอยเธออยู่ที่ทางช้างเผือก~  โพสต์ 2024-12-25 10:36
God
ลูปามอบกระเป๋า(เนเรซ่า)ให้คุณ บอกว่าสิ่งนี้จูโน่ฝากมอบให้ เธอจะได้ใช้มันผ่านการเดินทางคราวนี้  โพสต์ 2024-12-25 10:16
ที่ปากแบบนี้แล้วยังรอดมาได้ ขอสันนิษฐานได้ว่า ฝั่งตรงข้ามตุยเรียบไปหมดครับ ปะครับ  โพสต์ 2024-12-25 06:45
โพสต์ 18884 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-25 05:39
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-12-25 20:10:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-26 22:44




อเล็กซานเดอร์คือผู้ชายประเภทที่ขี้โวยวาย ขี้เขินและชอบโมโหกลบเกลื่อน สูตรสำเร็จของพวกพระเอกแปลก ๆ ในการ์ตูนที่ทำเป็นปากแข็งแต่สุดท้ายก็ช่วย มันก็ปกติอยู่สำหรับ.. เด็กวัยรุ่นบางช่วง แต่ที่น่าประหลาดใจคือตอนนี้เขาอายุ 52 แล้ว แต่ก็ยังมีนิสัยแบบนี้อยู่? < เจ้าตัวบอกเองว่าอายุ 52 ฉันไม่ได้คิดไปเองหรือพิจารณาเอาจากหน้าเขา เพราะถ้าให้ฉันเดาฉันอาจเขียนว่าเขาอายุ 60 ด้วยซ้ำ

เขามีนิสัยที่เคยชินกับการขับรถเร็วดูได้จากที่บ่นกระปอดกระแปดว่าเขากำลังขับรถช้าเหมือนเต่า ทั้งที่รถของเขากำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยมีผู้โดยสารนั่งท้ายกระบะ เป็นความเร็วที่มากพอในการปล่อยให้ฉันปลิวตกจากท้ายกระบะได้ แต่ไม่ต้องห่วง เดนิสต้า นอร์ทาร่าเคยเจอที่หนักกว่านี้มาแล้ว ดังนั้นสบายมาก (ไม่จริง) โอเค ยอมรับก็ได้ว่ามันค่อนข้างน่ากลัว คุณเข้าใจใช่ไหม? ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในขณะที่รถกำลังแล่นไปตามทางลงจากตีนเขา ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองสามารถลอยหรือไม่ก็ตีลังกาตลบร่วงไปโผล่หน้ารถได้ทุกวินาทีถ้าไม่จับให้ดี

แต่ก็ยังดีที่ราว ๆ 20 นาทีหลังจากขึ้นรถของอเล็กซานเดอร์ในที่สุดฉันกับเขาก็มาถึงเขตพื้นราบที่เต็มไปด้วยฟาร์มองุ่นรวมไปถึงโรงกลั่นไวน์ ด้วยความอยากรู้และไม่อยากถูกหลอก— คือ เข้าใจฉันใช่ไหม ฉันก็เป็นเด็กคนหนึ่งในช่วงวัยที่กำลังอร่อย(ยังไงนะ?) การจะเชื่อใจใครมันก็เป็นเรื่องยาก เพื่อให้ตัวเองสามารถรู้ตัวทันในกรณีที่อเล็กซานเดอร์ขับออกนอกเส้นทางเกินกว่าที่จะรับได้ ฉันเลยตัดสินใจลองศึกษาเส้นทางดูเล่น ๆ ในระหว่างที่เขาไม่ได้สังเกตเพราะกำลังสนุกอยู่กับเพลง Take Me Home, Country Roads จากวิทยุในเขตชานเมือง

แถวนี้แทบไม่มีอะไรเลยนอกจากฟาร์มองุ่น โรงกลั่นไวน์ และสนามแข่งรถกับสนามโกคาร์ท .. รู้กันเท่านี้นะ ช่วงหลัง ๆ มานี้ฉันชอบแอบลูปาเปิดดูการแข่งขันรถ และพระเจ้า ทันทีที่เห็นชื่อสนามแข่งรถ หัวใจฉันเต้นเร็วพอ ๆ กับวินาทีที่สบตากับพนักงานขายไอติมเมื่อสิบกว่าปีก่อน พวกเธอเข้าใจใช่ไหม รักแรกพบ(?) ความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่นั้น

ฉันก็เข้าใจนะ พวกเธออาจจะมองว่ามันแปลกที่ตื่นเต้นแค่เพราะรู้ว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ใกล้ ๆ และเรากำลังจะเดินทางผ่านมันในอีกไม่กี่นาที แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ายิ่งใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมากแค่ไหนสถานที่พวกนี้ก็ยิ่งหาได้ยาก เผอิญว่าก่อนหน้านี้ฉันเป็นสาวในเมือง และแน่นอนไม่ต้องพูดถึงการย้ายจากในเมืองไปอยู่บนเขา อันที่จริงถ้าเกิดว่าฉันรู้จักกับอเล็กซานเดอร์เป็นการส่วนตัวมากกว่านี้ฉันคงขอร้องให้เขาแวะระหว่างทางอยู่หรอก น่าเสียดายที่ไม่ T T ถึงจะเสียดายนิดหน่อย แต่การเดินทางนี้ยังต้องไปต่อ อเล็กซานเดอร์บอกว่าเขามีธุระที่ Thirty-Seven Winery ดังนั้นพวกเราเลยมาจอดรถที่นั้น

“ อย่าดื้ออย่าซนแล้วเข้าไปรอในตัวรถซะ โอเคไหม? ” เขากำชับพร้อมกับชี้หน้าฉันเหมือนเด็กวัยเตาะแตะ ในตอนนั้นมีหลายอย่างให้โฟกัสมาก ไม่ว่าจะความสูงของเขาที่มากกว่าที่ฉันคิดไว้ หรือการที่เขาโง่พอจะให้เด็กแปลกหน้าเข้าไปนั่งรอในรถ โอเค โอเค ฉันไม่ได้จะบอกว่าตัวเองไร้ความน่าเชื่อถือแต่ เฮ้ คิดดูสิ ฉันสามารถขโมยรถเขาได้เลยตอนนี้ ทันที ถ้าเกิดว่าเป็นพวกหัวหมอพอ โชคดีนะ ที่เขาเจอสาวสวยใจดีไม่คิดร้ายกับใคร(?) ดังนั้นรถของเขาจะยังปลอดภัยฉันรับประกัน


เสียงปิดสมุดดังขึ้นพร้อมกับการถอนหายใจยาวเหยียด ศีรษะของเดนิสต้าเอนพิงไปกับที่รองศีรษะของเบาะภายในรถกระบะเก่า ๆ ที่มีแค่สองที่นั่งในตัวรถ หญิงสาวกะพริบตาหลายครั้งเพื่อขับไล่ความอ่อนล้า ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย เสียงสบถเบา ๆ ลอดออกมาเมื่อเธอรู้ตัวดีถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้ “ ทำไมฉันต้องมาบันทึกการเดินทางอะไรนี่ด้วย.. ”

ลำพังแค่อาการดิสเล็กเซียก็เป็นปัญหามากพอแล้ว แต่นี่เธอยังเป็นดิสเล็กเซียประหลาดที่ทำให้เห็นอักษรซ้อนทับจนต้องเขียนมันใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับว่ากำลังลงโทษตัวเอง ลมหายใจหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด ‘ มันเป็นการทรมาณเยาวชน ฉันจะแจ้งให้หมด ’ ชั่วขณะหนึ่งแม้แต่เสียงเพลงก็ไม่สามารถช่วยเหลือให้ความร้อนรุ่มในใจของเธอเบาลง ดวงตาของเธอชำเลืองมองไปทางโรงกลั่นไวน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ถัดออกไป อเล็กซานเดอร์เข้าไปในนั้นได้เกือบชั่วโมงแล้ว .. เนื่องจากเธอไม่ได้ถามเขาอย่างชัดเจน ดังนั้นเธอจึงไม่มีข้อมูลเลยแม้แต่น้อยว่าเขามาที่นี่เพื่อทำอะไร ‘ ฉันไม่ได้อยากจะคิดในแง่ลบแต่นี่มันไม่น่าไว้ใจจริง ๆ ’

ไม่น่าไว้ใจ ความรู้สึกนี้มีทั้งด้านที่ดีและไม่ดี , บางทีเขาอาจเข้าไปทำธุระที่เกี่ยวกับการเตรียมอุปกรณ์มาทำร้ายเธอ หรือไม่เขาอาจกำลังตกอยู่ในอันตรายด้วยตัวของเขาเอง— เพี๊ยะ เสียงตบดังขึ้นที่แก้มนุ่ม ‘ อย่ามาทำตัวอ่อนไหวไปหน่อยเลยเดนิสต้า เป็นห่วงคนอื่นเนี่ยนะ? ห่วงตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ’ มือของเธอเปลี่ยนจากการประคองแก้มที่แดงขึ้นเล็กน้อยจากแรงตบมาเป็นการเสยผมช่วงหน้าผากให้โคนยกขึ้นย้อนไปด้านหลังศีรษะ

‘ เขาบอกให้ฉันอยู่ในรถ ฉันควรอยู่ในรถ เฝ้ารถให้เขา ไม่ทำตัวสร้างปัญหา ใช่ ฉันควรทำแบบนั้น ’

“ ช่างแ*่ง ใครสน ”

ถ้าให้นั่งรออยู่ในนั้นไปอีกหลายชั่วโมง เดนิสต้าต้องประสาทกินแน่ เธอผลักประตูรถให้เปิดออกก้าวลงไปเหยียบพื้นดินไม่สม่ำเสมอเพื่อสูดอากาศธรรมชาติที่มาพร้อมกับกลิ่นของความกลัว.. ‘ เดี๋ยวก่อนนะ ’ จากท่าทางสบาย ๆ ที่ออกมายืดเส้นยืดสายเมื่อครู่สลับมาเป็นท่าทางตึงเครียดได้ในพริบตา หญิงสาวมีพรสวรรค์ในการรับรู้อารมณ์ก็จริงแต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่เธอจะพบกับอารมณ์ด้านลบที่ขมวดกันเป็นก้อนใหญ่อย่างวันนี้ ‘ บ้าเอ๊ย เกิดอะไรขึ้นในนั้นเนี่ย ’ มีความเป็นไปได้นับหมื่นนับแสนที่เธอไม่อยากให้มันเป็นและเพื่อป้องกันเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น เธอจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง

ร่างบางปรี่ไปคว้าอาวุธที่ซ่อนไว้ในกระเป๋า ก่อนจะวิ่งตาลีตาเหลือกไปด้านใน โครม !! เสียงถีบประตูตามมาด้วยการปรากฏตัวของหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่มีพร้อมฝุ่นควันที่กระจัดกระจาย แสงอาทิตย์ที่สาดย้อนมาตามแผ่นหลัง ภาพซิลลูเอทอันแสนสมบูรณ์แบบของเรือนร่างที่สมควรขนานนามว่าลูกรักของเทพีแห่งความงามทำให้หมู่ชายธรรมดาที่อยู่ด้านในพลันอ้าปากค้าง ทว่า—-

“ อเล็กซานเดอร์ มีใครตายหรือยัง !! ”

พรวด

“ พูดบ้าอะไรของเธอเนี่ยยัยหนู ”

เอ้า?

ไม่ใช่แค่อเล็กซานเดอร์และคนรู้จักของเขาเท่านั้นที่งง เดนิสต้าเองก็ด้วย ความรู้สึกหวาดกลัวที่เธอสัมผัสได้ยังไม่ทันเลือนหายแต่พวกเขากลับปกติดี — ดีมากด้วยซ้ำเมื่อดูเอาจากแก้วไวน์ที่อยู่ในมือคนที่กำลังคุยกับอเล็กซานเดอร์ แต่ไม่รวมกับการที่หนึ่งในนั้นเผลอพ่นไวน์ออกมาเพราะคำพูดของเธอ ‘ แปลก ’ ดวงตาของเดนิสต้ากวาดมองไปรอบ ๆ จงใจเมินเสียงพูดเชิงรำคาญของเหล่าชายแก่ที่บอกว่าเธอเป็นเด็กไร้สาระ แต่ก็ไม่พ้นชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามที่พวกเขาถามว่าเธอแบกไม้กอล์ฟเข้ามาทำไม

‘ ตาแก่งี่เง่า นี่หอกฮาลต้าราคา 20 เหรียญดีนาเรียสเลยนะ ! ’

สาวน้อยวัยสิบเก้ากรอกตา เธอเดินผ่านพวกเขาไปยังประตูอีกบานที่อยู่ด้านในอาคารตั้งใจจะสำรวจให้ทั่วเพื่อหาต้นต่อของความผิดปกติโดยไม่สนใจคำคัดค้าน “ ขออนุญาตนะคะ ” ริมฝีปากของเธอขยับขอแบบพอเป็นพิธีต่อให้พวกเขาไม่ยินยอมเธอก็มีวิธีทำให้พวกเขาต้องยอมอยู่ดี สัญชาตญาณของเดนิสต้าไม่เคยพลาด เธอไม่แน่ใจว่าทำไมตัวเองถึงได้มั่นใจนัก แต่นั่นไม่สำคัญ เมื่อเทียบกับความเป็นไปได้สุดเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น ‘ ฉันไม่เคยอยากเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย แต่พระเจ้า.. พอเป็นครึ่งเทพชีวิตก็ไม่เคยมีอะไรดีสักอย่าง ’

ไม่ทันให้มือของเธอแตะลงกับลูกบิดด้วยซ้ำ.. เสียงกระซิบบางอย่างก็ลอยมาคล้ายลมที่จงใจเป่าเข้าหูของคนในบริเวณนั้น สำหรับเดนิสต้าเสียงนั้นเป็นเพียงมนต์ลวงใจที่ก่อกวนให้เธอหัวเสียแต่ไม่ใช่กับอีกสองชีวิตที่อยู่ข้างหลัง ‘ โอ้ ไม่.. ซวยล่ะ ’ ความโกลาหลเกิดขึ้นทันทีที่เธอหันขวับกลับไปมอง เสียงหมัดและด่าทอรวมไปถึงการตะโกนโหวกเหวกระหว่างชายสองคนทำให้เธออ้าปากค้าง

“ อะไรเนี่ย.. ”

เพื่อไม่ให้คนแก่สองคนระเบิดอารมณ์ใส่กันจนไร้ที่สิ้นสุด เดนิสต้าปรี่เข้าไปแทรกกลางระหว่างพวกเขา แขนข้างหนึ่งใช้ด้ามหอกยันอกพนักงานโรงกลั่นไวน์ ส่วนแขนอีกข้างยันอเล็กซานเดอร์ไม่ให้เขาเหวี่ยงหมัดมั่วซั่ว “ แก่แล้วก็อย่าใช้แรงเยอะกันนักสิ ตั้งสติหน่อย อยากไปนอนหยอดข้าวต้มที่โรงพยาบาลกันหรือไง อายุป่านนี้เอวเคล็ดไปหมอไม่รับรักษาแล้วนะ ! ” เสียงของเด็กสาวไม่มีทางไปสู้เสียงใหญ่ ๆ ของชายสูงวัยได้ เรี่ยวแรงก็ด้วย ยิ่งเวลาผ่านไปความพยายามที่จะทำให้พวกเขาสงบก็ดูเป็นความหวังที่ริบหรี่

“ มากาเร็ตต์เป็นของฉัน ไองั่ง ! ”

“ ถุ้ย ของฉันต่างหาก อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะว่าแกแวะไปหาลิซ่าที่บ้านของเธอบ่อย ๆ ไอกร๊วกเอ๊ย ”

เดนิสต้าผิวปาก เธอชำเลืองตามองอเล็กซานเดอร์ที่หน้าแดงซ่านด้วยความอับอาย “ แก แก !! ”

“ โอ๊ยย รู้แล้ว รู้แล้วว่ามากาเร็ตต์สวยมาก ชอบนักก็ไปจีบสิ มาอวดอะไรกันตรงนี้ พอเถอะน่า ” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในบริเวณนี้ตะโกนสวนเสียงของทั้งคู่ที่เริ่มพ่นคำหยาบคายออกมาอีกครั้ง .. เดนิสต้าสุดจะทนแล้วจริง ๆ ครึ่งเทพตัวน้อยถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะสะบัดหอกด้วยท่าทางที่ฝึกมานับครั้งไม่ถ้วน ด้ามหอกที่ไร้ใบมีดฟาดลงกับท้ายทอยของชายทั้งสองคนละที่ ตัวของพวกเขาทรุดฮวบลงกับพื้นโดยที่เธอไม่มีใจคิดจะช่วยประคองเลยสักนิด

“ แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง ” มือข้างหนึ่งของเธอจับที่สะโพกของตัวเอง หญิงสาวส่ายหน้าอย่างระอาในปัญหารัก ๆ ใคร่ ๆ ของพวกผู้ใหญ่ เธอผลักความคิดเกี่ยวกับปัญหายิบย่อยนั้นออกไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองรอบ ๆ พร้อมกับก้าวขาเดินข้ามร่างที่ไร้สติของชายทั้งสองโดยไม่มีสักเสี้ยวที่นึกเกรงใจหรือกังวล “ เอาล่ะ เลิกเล่นซ่อนแอบได้แล้ว แกปั่นหัวทุกคนแบบนี้ต้องการอะไร ”

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก

เดนิสต้าเอาลิ้นดุนกระพุงแก้มด้วยความไม่พอใจและเมื่อเห็นอย่างนั้น เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังแทรกขึ้นกลางความเงียบ เสียงนั้นสะท้อนไปมาราวกับกระดิ่งคริสตัลแฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมและการเย้ยหยันจนคนฟังถึงกับกำหมัด “ ขอเดานะ แกคงเป็นปีศาจสาวจอมซนที่ชอบเล่นสนุกกับหัวคนก่อนจะกินพวกเขาล่ะสิ ” คำพูดเสียดสีจากครึ่งเทพอันแสนโอชะดูไม่มีผลเมื่อปีศาจที่เธอกำลังพูดถึงได้ปรากฏตัวพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

ร่างสูงโปร่งในเดรสรัดรูปสีดำสนิทราวกับค่ำคืนที่เลือนหายไปจากโลกมาพร้อมกับเส้นผมสีแดงเพลิงพลิ้วไหวตามภาพมายาคติของปีศาจผู้ล่อลวงใจ “ นี่น่ะเหรอเด็กน้อยที่จะมาขวางทางฉัน? ” น้ำเสียงของเธอหวานใสราวกับน้ำผึ้งที่เต็มไปด้วยพิษร้าย ด้วยการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้า สะโพกมนของเธอส่ายไปมาระหว่างที่ก้าวไปนั่งลงบนโต๊ะทำงาน

ดวงตาของเดนิสต้าจับจ้องอยู่ที่การเคลื่อนไหวนั้น ชั่วขณะหนึ่งเธอรู้สึกเหมือนคนโง่ .. ‘ แม่เจ้า ถ้าพี่สาวจะบิ๊กเบิ้มขนาดนี้ทำไมต้องมาสรรหารังแกคนแก่ด้วย พี่ไปหาผู้ชายดี ๆ ไม่ดีกว่าเหรอคะ ’ เดมิก็อดที่อยู่ในระหว่างเดินทางผ่านการทดสอบเพื่อไปให้ถึงค่ายซึ่งเป็นจุดหมายเริ่มที่จะขมวดคิ้วอีกครั้ง “ ส่วนป้าแบบเธอก็คือคน .. ไม่สิ ตัวอะไรสักอย่างที่จะมาขวางทางฉัน? ” ดวงตาสีแดงราวกับไวน์ของอสุรกายสาวมีประกายความโกรธเกรี้ยวพาดผ่านทันทีที่ได้ยินถ้อยคำของเธอ และนั่นก็เป็นวินาทีที่เดนิสต้ารู้ตัวว่าเธอซวยแล้ว

“ เดี๋ยว ๆๆๆ ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ กรี๊ดด เดี๋ยว !!

ความดุร้ายของเอ็มพูซาที่ทะนงในความงามจะมีมากเป็นพิเศษเมื่อพบกับคำดูหมิ่น เสียงกรีดร้องที่เข้าใกล้กับคำว่าคำราม ลูกไฟก้อนแล้วก้อนเล่าสาดเข้าหากายของเทพธิดาน้อยที่วิ่งพล่านไปทั่ว ‘ ไม่แฟร์นี่หว่า เอาเมจมาเจอไฟต์เตอร์เนี่ยนะ ฉันหาระยะเข้าประชิดยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ! !! ’ โชคดีที่สังเวียน(?)ต่อสู้ของสองสาวไม่ใช่ที่โล่ง เดนิสต้ายังมีแต้มต่อในการใช้ร่างกายเล็ก ๆ ของเธอหลบซ่อนไปตามแนวตู้หรือชั้นเอกสาร แม้ว่าส่วนมากในวินาทีต่อมา เปลวเพลิงของเอ็มพูซาจะสามารถเผาผลาญสิ่งกำบังเหล่านั้นออกไปได้หมดก็ตาม

“ เลิกวิ่งไปมาเหมือนหนูแล้—- ”

Bonk

สันหนังสือเล่มที่หนึ่งถูกปาเข้าฟาดหน้าผากของเอ็มพูซาจนเซถอยด้วยความไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับ.. หยดเลือดที่ไหลลงมาจากจมูกของเธอ อย่าว่าแต่เอ็มพูซาที่ตกใจ เดนิสต้าเองก็อ้าปากค้างเป็นครั้งที่สองของวัน ต่อให้อยากจะกลั้นขำเป็นการให้เกียรติแต่เจอแบบนี้เข้าก็คงไม่ไหว เดนิสต้างอตัวลงพร้อมกับหัวเราะคิกคัก จุดฉนวนโทสะของเอ็มพูซาให้ทะยานขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด

“ นังเด็กบ้า ! แกไม่ตายดีแน่ !! ”

“ เธอไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้หรอก ” เดนิสต้าควงหอกเฮลต้าในมือและหัวเราะเบา ๆ อีกครั้ง

แสงวูบวาบจากลูกไฟด้วยพลังของเอ็มพูซาปรากฏขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ช่วงแรกของการต่อสู้เดนิสต้าเน้นความสนใจไปที่การหลบหลีกพยายามไม่อยู่เป็นเป้านิ่งเพื่อเลี่ยงการบาดเจ็บที่ไม่จำเป็นแม้ว่ามันจะเป็นการกินแรงรวมไปถึงพลังงานมากก็ตาม ทว่าในช่วงจังหวะหนึ่งที่ลูกไฟเข้ามาใกล้จวนจะปะทะกับร่างกาย หญิงสาวสะบัดหอกออกเป็นเส้นตรงผ่ากลางแกนของลูกไฟจนมันสลายหายไปคล้ายกับก้อนควันที่ถูกลมตัดจนดับ ด้วยการค้นพบใหม่ที่มีประโยชน์ ดวงตาของเดนิสต้าเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย แววตาที่เคยจริงจังผันกลับมาเป็นสนุกสนานเมื่อเธอพบหนทางไล่ตามได้โดยไม่ต้องคอยกังวล

‘ ยัยเด็กบ้านี่โคตรน่ากลัวเลย ! ’ ถึงจะมารู้ตัวเองตอนนี้ก็สายไปแล้ว ช่วงจังหวะมากมายที่หล่อนเสียเปรียบในการต่อสู้ไม่สามารถทวงคืนกลับมาได้เลย เมื่อร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลที่ถูกคมของหอกเฉือนจนสะบักสะบอม ปีศาจสาวหันมองซ้ายขวา ความปรารถนาที่จะวิ่งหนีพุ่งพล่านขึ้นมาเมื่อเห็นว่าครึ่งเทพที่ควรจะไร้พิษสงเริ่มหันมาเป็นฝ่ายออกล่า พรึ่บ.. เสียงหนังสือเล่มหนึ่งลอยขึ้นกลางอากาศดึงความสนใจของเอ็มพูซาให้หันไปมอง และก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าตกหลุมพราง สวบ— ปลายหอกฮาลต้าทะลุผ่านหนังสือเล่มหนาด้วยการผลักเต็มแรงของเดนิสต้า สานต่อให้มีดปลายหอกที่คมกริบแทงเข้าตรึงร่างของปีศาจสาวไว้กับผนัง

“ เท่าไหร่ ”

เสียงเรียบ ๆ ที่ดังขึ้นจากผู้จับหอกมั่นทำให้เอ็มพูซาหัวเราะอย่างเกลียดชัง “ เท่าไหร่เหรอ? เธอหมายถึงอะไรล่ะ .. ครึ่งเทพที่ฉันฆ่าไป ผู้ชายโง่ ๆ พวกนั้นที่ฉันกิน? หรือเหยื่อของฝันร้ายไร้จุดจบพวกนั้— อั่ก.. ” เพื่อตอบแทนการตอบกลับด้วยคำยั่วยุ เดนิสต้ากดหอกลงไปกับร่างของเอ็มพูซามากขึ้นจนอีกฝ่ายคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ‘ มีแต่ต้องลากเด็กนี่ไปลงนรกด้วยกันเท่านั้นฉันถึงจะพอใจ ’ ความอาฆาตของอสุรกายที่เข้าใกล้ช่วงสภาวะตัดสินเป็นตายผลักให้เปลวเพลิงแห่งความสิ้นหวังเดือดพล่านไปตามเส้นเลือดส่งผลให้ร่างกายร้อนระอุจนแม้แต่หอกฮาลต้าก็ยังดูดซึมความร้อนนั้นไปจนถึงส่วนที่มือของเดนิสต้าสัมผัส

ไวกว่าความคิด เสี้ยววินาทีที่ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ฝ่ามือร้อนราวกับโลหะที่ผ่านการหลอมมาอย่างยาวนานก็คว้าเข้าที่ลำคอตามต่อด้วยการผลักให้แผ่นหลังของเดนิสต้ากระแทกเข้ากับชั้นหนังสืออย่างแรง “ ฮะฮ่า.. ไม่เป็นไร ฉันยังหวนคืนกลับมาใหม่ได้ทุกครั้งที่ประตูทาร์ทารัสเปิดออกแต่ไม่ใช่กับพวกแก ” ความเกลียดชังฝังลึกอยู่ในน้ำเสียงของอสุรกายสาว ดวงตาสีเลือดของเธอคล้ายเป็นสิ่งที่ผนึกพายุอันชั่วร้ายเอาไว้ ความร้อนเกินขนาดเมื่อแนบกับผิวมนุษย์ก็กลายมาเป็นความทรมาณชนิดที่ยากจะรับมือ

เสียงกรีดร้องของเดนิสต้าเสมือนบทเพลงที่ช่วยกล่อมเกลาหัวใจของเอ็มพูซา อสุรกายสาวหัวเราะอย่างเริงร่า ทว่าด้วยการดิ้นทุรนทุรายของเหยื่อในกำมือกลับส่งผลให้มือหนังสือเล่มหนาร่วงลงมาจากชั้นอย่างเชื่องช้าและ.. Bonk มันตกลงฟาดที่กลางกระหม่อมของผู้มีกายร้อนดั่งเพลิง ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่ว ดวงตาเฉียบคมของนางปีศาจเบิกกว้างเมื่อรู้สึกถึงก้อนเลือดที่ทะลักออกมาผ่านริมฝีปาก ‘ นี่ฉัน.. มาตาย..เพราะหนังสือ..เนี่ยนะ…? ’ ในช่วงลมหายใจสุดท้ายก่อนที่ร่างกายจะสลาย ดวงตาของเธอเหลือบขึ้นมองเดมิก็อดตัวแสบผู้เป็นคนสังหารเธออย่างโหดเหี้ยม แทนที่จะได้พบความตื่นตระหนกหรือสิ้นหวัง .. สิ่งที่เอ็มพูซาเห็นกลับเป็นเงาลาง ๆ ของนิ้วกลางและการขยับปากที่ไร้สุ้มเสียง

‘ หนังสือทรูดาเมจ จำไว้ด้วยล่ะ ! ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : ตบตีกับพี่สาวเอ็มพูซาที่โรงกลั่นไวน์ ระยะทาง 49 นาที หลังขึ้นรถ
ศัตรูภายในบททดสอบตัวที่หนึ่ง : เอ็มพูซา | ผลการประลอง : ชนะ
รางวัลการพิชิตครั้งแรก : +2 ตื่นรู้ | เส้นผมเอ็มพูซา (เลขไบต์คู่) (ยกเว้นเลขไบต์ 8) / ขาทองแดง (เลขไบต์คี่) (ยกเว้นเลขไบต์ 1) / ของดรอปพิเศษ: (เลขไบต์ 1/8) แก่นวิญญาณเอ็มพูซา




แสดงความคิดเห็น

( บอกไว้ก่อนว่าที่มันยาวเพราะตัวถัดไปต้องเจอเวล 76 ค่ะ ขอฟาร์มเวลหน่อย อ่านข้าม ๆ ได้เลย มันไม่มีอะไร 5555 )  โพสต์ 2024-12-25 20:17
โพสต์ 43644 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-12-25 20:10
โพสต์ 43,644 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-25 20:10
โพสต์ 43,644 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-25 20:10
โพสต์ 43,644 ไบต์และได้รับ +15 EXP +30 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-25 20:10

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-12-26 22:51:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด



คุณเชื่อใน Lucky Charm ไหม?

หลังจากที่ฉันก่อเหตุวินาศสันตะโรไว้ในโรงกลั่นไวน์ ฉันตัดสินใจหอบอเล็กซานเดอร์หนีออกมา รู้กันเท่านี้นะ— ฉันกระทำการผิดกฏหมายเล็กน้อยด้วยการขับรถทั้งที่ยังไม่มีใบขับขี่ อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มันเป็นถนนตรงโล่งและกว้างทำให้ไม่มีอุปสรรคมากมายในการขับรถ อันที่จริงฉันจะเดินทางยังไงก็ไม่สำคัญ(แต่นี่เป็นบันทึกการเดินทาง?) สำคัญตรงที่ประสบการณ์สุดหรรษากับพี่สาวอสุรกายตัวเมื่อกี้ต่างหาก

จากการค้นหาในสมาร์ทโฟนอัจฉริยะ (ฉันซื้อมาตอนไหน?) พี่สาวที่ฉันเจอคงอยู่ในขอบเขตของเอ็มพูซา อสุรกายในสังกัดของเทพีเฮคาทีที่เกิดมาจากตำนานการสร้างมนุษย์ในปกรณัมโบราณของฝั่งกรีก ‘แพนโดร่า’ ชื่อของผู้หญิงคนนั้นที่เป็นตัวเอกในตำนาน มนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการบางอย่างของเฮเฟตัสและได้รับความอยากรู้อยากเห็นรวมไปถึงโถลึกลับที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดมาจากซุส เอาเป็นว่า, ด้วยสารพัดเรื่องราว ท้ายที่สุดพี่แพนโดร่าผู้อยากรู้อยากเห็นก็ตัดสินใจเปิดโถจนปล่อยให้ความชั่วร้ายต่าง ๆ นา ๆ เป็นอิสระ หนึ่งในนั้นยังมีสายพันธุ์ของพี่เอ็มพูซาด้วย

ปกติแล้วพวกเธอจะเคลื่อนไหวตามคำสั่งของเทพีเฮคาทีหรือไทรเวียถ้าพูดกันในฝั่งโรมัน ดังนั้นมันเลยแปลกโคตร ๆ ที่พวกเธอโผล่มาในการเดินทางของฉัน นี่ฉันเป็นที่จับตามองของเทพหรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญ? บางทีในช่วงที่ไม่มีกลางคืนพวกเขาอาจจะอดอยากจนต้องออกมาหากินเองจริง ๆ ? แต่ช่างเถอะ นั่นไม่ใช่ปัญหาของฉัน ฉันรู้แค่ว่าตัวเองได้สิ่งที่เรียกว่าสินสงครามมาหนึ่งอย่าง น่าจะเป็นสินสงครามประเภทที่เรียกว่า ‘เส้นผมของเอ็มพูซา’ ฉันไม่รู้ว่ามันไว้ใช้ทำอะไร จำเป็นไหม แต่คิดว่าคงต้องเก็บไว้ก่อน เพราะในกระเป๋าที่ได้มาจากลูปา ฉันเองก็เจอพวกของยิบย่อยหลังจากการต่อสู้เยอะอยู่พอสมควร

นอกจากเส้นผมของพี่สาวหัวไฟคนนั้นแล้ว ฉันตัดสินใจจิ๊กหนังสือนำโชคที่ร่วงใส่หัวพี่แกมาด้วย มันเป็นหนังสือเก่า ๆ เล่มหนึ่งที่ฉันอ่านไม่ออก อาศัยทรานสเลทของโทรศัพท์เหมือนจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาละติน และมีชื่อเรื่องว่า ‘ Utopia ’ วรรณกรรมสุดคลาสสิกเกี่ยวกับดินแดนที่ไม่มีจริงของเซอร์ทอมัส.. อะไรสักอย่าง บางทีนี่อาจเป็นทั้ง Lucky Charm และโอกาสให้การเรียนภาษาละตินเพิ่ม(แม้ว่าคำศัพท์ในนั้นจะเก่ากึกก็ตาม) จะว่าไปฉันได้บอกหรือยังนะว่าตอนนี้เราอยู่ไหน? เรากำลังอยู่ที่เส้นทางอุทยาน Deer Island Preserve เนื่องจากฉันไม่มีปัญญาพารถของเราเข้าเมือง ไม่ต้องพูดถึงการขอให้คนช่วยเลย คนสมัยนี้ไว้ใจยาก ถ้าเกิดเผลอรับโจรขึ้นมา ฉันอาจจะต้องตีโจรแทนที่จะตีอสุรกาย

พูดถึงเรื่องนั้นฉันยอมรับว่าตัวเองกำลังสงสัย สงสัยในสิ่งที่ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายถึงยังไงมันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด เหมือนมีทั้งความสนุกที่ได้ทดลองทำในสิ่งที่เรียน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นความรู้สึกต่อต้าน มีบางชั่ววูบที่ฉันขยับตัวไปก่อนความคิดจนเหมือนว่าไม่เป็นตัวเอง นั่นปกติหรือเปล่า? ฉันคิดว่าคงไม่ … ไอความรู้สึกด้านชาหลังจากที่พึ่งฆ่าสิ่งมีชีวิตไปก็ด้วย โอเค อย่าหาว่าฉันโลกสวยมองปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตหรืออะไรพวกนั้น แต่— พวกเขาก็มีชีวิตจิตใจ ใช่ไหม? มีความคิด มีชีวิต อาจจะมีความฝันด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ฝั่งตรงข้ามกันเราก็ต้องคอยจัดการพวกเขา ซ้ำ ๆ ? นั่นเป็นโศกนาฏกรรมชัด ๆ ฉันควรจะรู้สึกแย่กว่านี้ไม่ว่ามันจะเป็นการทำเพื่อเอาชีวิตรอดหรืออะไรก็ตาม

ประหลาดจังที่ทุกอย่างเหมือน.. ไม่สมเหตุสมผลไปหมด


“ อึก.. หัวฉัน ”

เสียงคร่ำครวญของอเล็กซานเดอร์ดึงความคิดของเดนิสต้าให้ออกจากบันทึกประจำตัว นัยน์ตาสีฟ้าหม่นราวกับมณีที่ขุ่นมัวเหลือบไปมองชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าย่ำแย่ “ ยินดีต้อนรับกลับ ” เขาหลับไปเกือบชั่วโมงด้วยการลงมือของเธอ.. เป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่บนใบหน้าหวานมีความรู้สึกผิดแฝงอยู่แต่เมื่อสายตาของอเล็กซานเดอร์เลื่อนมาหยุดที่เดนิสต้า บนใบหน้าของเธอกลับมีแค่รอยยิ้มเป็นกลางที่ไม่ได้ยินดียินร้ายต่อสิ่งใด หญิงสาวส่งขวดน้ำที่เปิดฝาแล้วให้กับเขา ช่วยเหลือในการเรียกสติได้กลับมาทำงานอย่างปลอดโปร่งหลังจากการพักผ่อนที่ดู.. เป็นปริศนากว่าครั้งอื่น ๆ

“ เกิดอะไรขึ้น? ”

“ โอ้.. ”

คำถามของอเล็กซานเดอร์ทำให้เดนิสต้าเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาจรดมองที่เขาอย่างพิจารณา พยายามหาร่องรอยของการหลอกลวงแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ‘ จำไม่ได้? .. แสดงว่าคงโดนมนต์สะกดตั้งแต่ก้าวขาเข้าไปเลยสินะ ’ ต้นสายปลายเหตุที่ไม่น่ายินดีเท่าไหร่นั้นทำให้เดนิสต้าจำต้องถอนหายใจ เธอไม่สามารถบอกความจริงกับเขาได้ทั้งหมด ดังนั้นการปั้นสถานการณ์ขึ้นมาใหม่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น คำโกหกสีขาวที่เหมือนกับขนมขิงโรยด้วยไอซิ่ง.. แอปเปิ้ลอาบยาพิษสำหรับมนุษย์ที่มีไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง

“ คุณบอกว่าง่วงก็เลยจอดรถนอนพักเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุน่ะ ” แม้จะไม่ใช่เหตุผลที่น่าเชื่อถือแต่ก็ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว เดนิสต้าหมุนปากกาในมือไปมาอย่างรอคอย ดูว่าเขาจะหลงเชื่อโดยทันทีหรือจะตอบโต้ด้วยเหตุผล ซึ่งอเล็กซานเดอร์ก็ไม่ทำให้เธอต้องผิดหวัง มือของเขายกขึ้นคลึงที่ขมับบีบนวดอยู่หลายครั้งก่อนจะโน้มตัวลงเปิดลิ้นชักเก็บของภายในรถ หยิบเอาหมากฝรั่งมายัดใส่เข้าปากของตัวเขาเอง

“ ถ้างั้นนั่นก็เป็นฝันสินะ .. ฝันที่ประหลาดมาก ” เขางึมงัม มือหนาเคลื่อนไปดึงสายนิรภัยมารัดเพื่อความปลอดภัยอย่างที่ควรจะทำ เดนิสต้าเอียงคอเล็กน้อยพอให้ศีรษะสามารถสบกับประตูรถได้ เธอไม่ได้ละสายตาจากเขาแต่แววตาเปลี่ยนไปเป็นขบขันแทนการสังเกต ปลายปากกาที่ไม่ได้ถูกเปิดของเธอเคาะลงกับปกหนังสือแข็ง ๆ ที่อาจจะมีอายุมากกว่าขาจนเกิดเป็นเสียงจับจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว ใกล้เคียงกับเสียงเข็มนาฬิกาแต่ก็ไม่ได้สม่ำเสมอ

“ คุณฝันว่าอะไร? ” เธอถามด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง เดนิสต้าทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้.. เพราะลึก ๆ แล้วเธอเชื่อว่าตัวเองรู้คำตอบรวมไปถึงรายละเอียดฝันของเขาอย่างหมดจด มันคงจะเป็นภาพเลือนลางเกี่ยวกับสิ่งประหลาดที่เกิดขึ้นก่อนเธอจะเข้าไปในโรงกลั่นไวน์ ที่เขาคงไม่คิดจะแบ่งปันให้กับเด็กแปลกหน้าที่อายุใกล้เคียงกับลูกหรือไม่ก็หลานของเขา

“ ถามทำไม ”

“ เผื่อเอาไปเป็นต้นแบบนิยาย ”

“ ฝันไปเถอะ ”

เดนิสต้าหัวเราะให้กับการปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดของอเล็กซานเดอร์ เธอเอนศีรษะไปด้านหลัง ปล่อยตัวให้แนบชิดไปกับเบาะข้างคนขับ ยกมือขึ้นราวกับกำลังสร้างภาพฝันให้เขาคิดตาม “ ไม่เอาน่า เดี๋ยวฉันให้เครดิต ” เดนิสต้าพูดเสียงกลั้วหัวเราะ ดวงตาของเธอเปิดเพียงครึ่งเพราะรอยยิ้มที่ยกกว้างจนตาหยีเป็นทรงจันทร์เสี้ยวชวนให้หัวใจคนมองอ่อนยวบ “ ลองนึกการโปรยหัวนิยายเกี่ยวกับเรื่องของการเดินทางที่ผ่านการเผชิญหน้ากับผู้คนครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วตามต่อด้วยอะไรที่แบบว่า.. ”

“ แรงบันดาลใจ—- จากความฝันสุดฮอตของหนุ่มชาวสวนที่สู่วรรณกรรมร่วมยุคแสนบรรเจิด !!! ”

“ บัดซบที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเลย ” อเล็กซานเดอร์กรอกตา เขาเปล่งเสียงที่คล้ายการเสียงคำรามแต่ก็ไม่รุนแรงเท่าออกมา ทำให้ตัวของเดนิสต้างอลงด้วยความขบขัน เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นเคล้าไปกับเสียงเพลงคันทรี่จากในวิทยุของรถเก่า ๆ นับว่าเป็นบรรยากาศอุ่นวาบที่เขาห่างหายไปนานหลังจากที่ลูกสาวย้ายไปเรียนต่างประเทศ ทว่าอเล็กซานเดอร์ไม่คิดจะอ่อนข้อให้ ถ้าเขาเผลอทำตัวใจดีหรือบอกไปว่าเธอทำให้เขานึกถึงลูกสาว แม่หนูนี้คงทำตัวมีปัญหามากกว่าเดิมแน่ “ เลิกทำตัวเป็นเด็กกวนประสาทแล้วเตรียมตัวให้ดี เรากำลังจะเข้าเมือง ”

“ ทำไมล่ะ? คุณอายที่พกเด็กตาดำ ๆ คนหนึ่งเข้าเมืองเหรอ? ”

เดนิสต้าเลิกคิ้วขึ้น เธอชำเลืองตามองเขาด้วยความประหลาดใจ

“ ฉันไม่อยากให้เธอโดนอันธพาลต่อยเพราะปาก ”

‘ Nah.. That’s rude ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : เริ่มเข้าสู่ตัวเมือง ผ่านเขตอุทยาน Deer Island Preserve




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 21305 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2024-12-26 22:51
โพสต์ 21,305 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-26 22:51
โพสต์ 21,305 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-26 22:51
โพสต์ 21,305 ไบต์และได้รับ +5 EXP +12 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-26 22:51
โพสต์ 21,305 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-26 22:51
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-12-27 05:34:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด



จากข้างถนนในอุทยานเดินทางมาจนถึงในเมือง ><

ฉันไม่แน่ใจว่าควรเรียกเขตนี้ว่าอะไร ซานตาโรซ่า? หรือซานฟานซิสโก? เอาเป็นว่าสักอย่างในระหว่างสองเมืองนั้น แถวนี้ไม่ใช่เขตเมืองหลัก แต่เป็นส่วนของเมืองท่าที่เชื่อมกับอ่าว .. มันน่าเหลือเชื่อมากที่แค่เปลี่ยนฝั่งของประเทศความรู้สึกก็แตกต่างราวฟ้ากับเหว ฉันเคยอยู่ที่บอสตันตอนเด็ก ที่นั่นเป็นเขตเมืองเก่า ถึงจะมีกลิ่นอายความเจริญที่เพิ่มเข้ามาแต่ก็ยังติดโทนของความหรูหราคลาสสิค ผิดกับเมืองแคลิฟอเนียร์ที่เป็นเมืองแบบสตรีทติดโทนของพวกรักอิสระ

ฉันคิดว่าตัวเองเหมาะกับพื้นที่เขตนี้มากกว่าเมืองหลวงที่เคยไปซะอีก มันดูเหมาะกับการเดินทางไปเรื่อย ๆ พบปะความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ไม่เหมือนเมืองหลวงที่แค่สบตาแล้วก็จากกันไปตลอดกาล < ดูดราม่าควีนดีจัง แต่ฉันชอบนะ นาน ๆ ทีจะมีเวลามาคิดสะเปะสะปะ อาจจะดูน่าเหลือเชื่อที่ฉันมานั่งเขียนอะไรพวกนี้หลังพึ่งฟัดกับอสุรกาย แต่เชื่อเถอะ เมื่อเธอว่าง ว่างมาก ว่างจนไม่มีอะไรให้ทำแต่ก็ดันนึกขึ้นได้ว่าลูปากำชับให้เขียนบันทึกการเดินทาง

โอ๊ย คิดถึงลูปาจัง ถ้าเป็นปกติตอนนี้ฉันคงกำลังซ้อมหรือไม่ก็ปวดหัวกับเนื้อหาวิชาภาษาละติน

“ ถ้าจะไปอุโมงค์นั่นของเธอเราจำเป็นต้องข้ามอ่าวซานฟรานซิสโก เพราะงั้นแวะเข้าห้องน้ำกินข้าวไว้ให้เรียบร้อย ” อเล็กซานเดอร์บอกกับฉันแค่นั้น เขาไม่สนใจความคิดเห็นของฉันหรอกเพราะทันทีที่เขาพูดจบเขาก็หักเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดของร้านที่ชื่อว่า Maya Palenque แค่ดูจากชื่อก็พอเดาได้แล้วว่าไม่ใช่อเมริกาแท้ พวกเขาเป็นภัตตาคารและมี Camtina แปลในภาษาที่เข้าใจง่ายคือการเรียกบาร์ที่พบได้ทั่วไปในสเปนและละติน —- ฉันก็ยังหนีไม่พ้นละตินในทุกช่วงของชีวิตจริง ๆ


“ คุณเคยมาที่นี่ไหม? ” เดนิสต้าปลดสายเข็มขัดนิรภัยที่รัดอยู่ ใบหน้าของเธอหันตามการเคลื่อนไหวอันกระชับกระเฉงของอเล็กซานเดอร์ที่กำลังก้าวลงจากรถ คิ้วของหญิงสาวเลิกขึ้นเมื่อดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของเธอ มันชัดเจนมากว่าเขาไม่ต้องการที่จะตอบ ‘ บางครั้งเขาก็ดูน่ารำคาญ.. ไม่สิ ส่วนมากเขารำคาญ ’ เดนิสต้าส่ายหัวมุมปากของเธอยกขึ้นอย่างขบขันก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายมาไว้ในอ้อมแขนและวิ่งตามเขาเข้าไปด้านในร้าน “ คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่าเคยมาที่นี่ไหม ”

“ แค่นี้เด็กแบบเธอก็เดาไม่ได้หรือไง ” อเล็กซานเดอร์ตอบพร้อมเสียงของกระดิ่งแขวนประตูที่ดังขึ้นต้อนรับการมาของพวกเขา สายตาของเดนิสต้าจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของสารถีขั่วคราวในทุกก้าวที่เดินเข้าไป เธอกำลังพยายามคาดเดาคำตอบที่ต้องการ ผิดกับอเล็กซานเดอร์ที่มีเป้าหมายอันชัดเจน เมื่อพวกเขามาถึงบริเวณโต๊ะคิดเงิน อเล็กซานเดอร์ยกแขนขึ้นเท้ากับพื้นผิวเรียบของเคาน์เตอร์ หยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบบนริมฝีปากเสริมภาพลักษณ์ชายแก่แบดบอยสุดเย้ายวนใจก่อนจะกล่าวเสียงแหบพร่า “ เฮ้ ลิซ่า ”

‘ อ๋อ.. ชื่อของแม่สาวที่ตาลุงอีกคนบอกว่าเขาไปหาที่บ้านบ่อย ๆ ไหนขอดูหน้าหน่อยซิ? ’ เดนิสต้าทิ้งสะโพกพิงกับโต๊ะอาหารพร้อมกับจ้องมองไปยังเคาน์เตอร์ร้านเพื่อดูการเคลื่อนไหว และในที่สุด ‘ ลิซ่า ’ คนนั้นก็ปรากฏตัว สาวละตินวัยกลางคนผู้มีผิวสีน้ำผึ้งและสวมชุดสีขาวของชาวยิปซีเงยหน้าขึ้นมองลูกค้าที่พึ่งมาถึง ริมฝีปากสีคล้ำแต่มันวาวด้วยลิปบาล์มของเธอคนนั้นเหยียดออกเป็นรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ ดวงตาของเดนิสต้าเบิกกว้างขึ้นและตามมาด้วยการกลืนน้ำลาย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวทนาหรืออยากเอาใจช่วย ลึก ๆ ในใจของเธอกลับรู้สึกว่าสมควรทำตัวดี ๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในร้าน

‘ ว้าว.. อเล็กซ์ คุณฝันสูงเหมือนกันนะเนี่ย ’

“ ว่าไงคะ ” สาวยิปซีหน้าตาสะสวยคนนั้นทักทายเขาด้วยความยินดี บรรยากาศหวานแหววสีชมพูแผ่กระจายไปทั่วร้านอาหาร จนกระทั่งศีรษะเล็ก ๆ ของเดนิสต้าโผล่ข้ามเนินไหล่ของอเล็กซานเดอร์เผยให้เห็นดวงตาเรียวเฉี่ยวคล้ายตาแมว ที่ทำให้สาวสวยวัยกลางคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือข้างหนึ่งของลิซ่ายกขึ้นทาบอกอีกข้างยกขึ้นทาบริมฝีปาก “ นั่น.. ลูกสาวคุณกลับมาแล้วเหรอคะ? ”

อเล็กซานเดอร์อ้าปากค้างจนบุหรี่ร่วงจากปาก “ อะไรนะ? โอ้ ไม่ ๆ .. แม่หนูนี่.. เอ่อ.. หลงทางน่ะ เธอเลยติดรถฉันมา ” ท่าทางกระอักกระอ่วนของชายแก่และอาการตกใจของลิซ่าที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นความสงสาร “ ตายจริง เธอหลงทางเหรอจ๊ะ ตั้งใจจะไปที่ไหนล่ะ? ”

แมวน้อยที่พึ่งได้รับอิสรภาพของตัวเองกลับคืนมาไม่ถึงหนึ่งวันดีค่อย ๆ โน้มไปชำเลืองมองสีหน้าของอเล็กซานเดอร์ พวกเขาสื่อสารกันทางสายตาด้วยความเข้าใจที่ก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน เดนิสต้าสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด เธอหันหน้ากลับไปมาลิซ่า “ อุโมงค์คัลลีคอตต์ค่ะ ” เมื่อเธอพูดจบแววตาของลิซ่าก็ยิ่งดูเวทนามากขึ้น.. เดนิสต้าคร้านจะใส่ใจคำเยินยอของสาวผิวสีน้ำผึ้งที่มีต่ออเล็กซานเดอร์ว่าเขามีเมตตาและใจดีมากแค่ไหนในการช่วยเหลือเด็กสาวที่กำลังเดือดร้อน ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจที่จะถอยหลังออกไปช้า ๆ

“ คุณลิซ่าคะ ถ้าไม่ลำบากอะไร หนูขอแซนวิชน์ง่าย ๆ ไม่เอาผัก แค่นั้นพอค่ะ เอ่อ ขอไปเดินเล่นรอบ ๆ หน่อย นั่งรถมานานหนูเมื่อยมาก .. ถ้าจะไปแล้วเรียกฉันด้วยนะอเล็กซานเดอร์ ”

“ เอ๊ะ เดี๋ยวสิจ๊—- ” ลิซ่าร้องเรียกเธอด้วยความห่วงใยแต่ช้าไปเสียแล้ว กระดิ่งแขวนประตูดังขึ้นก่อนจะเงียบลงเป็นสัญญาณการออกไปนอกตัวอาคารของเด็กสาวแปลกหน้าที่เธอพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ดวงตาของลิซ่าเลื่อนไปมองอเล็กซานเดอร์เล็กน้อย เขาส่ายหัวก่อนจะหันกลับมาสบตากับเธอ

“ ถ้างั้นพวกเรา..? ”



ด้านในมีอะไรเกิดขึ้น เดนิสต้าไม่รู้และไม่คิดว่าตัวเองจำเป็นจะต้องรู้ เธอเดินเตร่ไปรอบ ๆ ร้านด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ‘ ฉันควรเขียนบันทึกสำหรับนินทาเขาเพิ่มอีกสักหน้า ’ ความคิดไร้สาระทำให้มุมปากของเดนิสต้ายกขึ้นใกล้เคียงกับสิ่งที่เธอมักทำเมื่อเจอเรื่องสนุกแต่มันก็เป็นเพียงความคิดชั่ววูบ อาการดิสเล็กเซียของเธอยังไม่ดีขึ้นถ้าหักโหมเขียนต่อไป ต่อให้ทุกชั่วโมงของวันเต็มไปด้วยแสงสว่างก็คงจะเปล่าประโยชน์ เธอสามารถเสียสมาธิได้ง่าย ๆ หากว่าดวงตาล้าจนเกินไป ‘ ดูท่าปีนี้คงไม่มีปัญหาเรื่องหิมะตกหนักเกินไปในเมื่อพระอาทิตย์ยังคอยทำงานหนักอยู่ตลอดทั้งวันทั้งคืน ’

“ ไปรอที่รถดีกว่า ”

ร่างบางของหญิงสาวหมุนตัวกลับเพื่อย้อนเดินไปตามทางที่เคยผ่านมาแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อถึงหัวมุมของร้านในองศาที่แค่เอี้ยวก็พอจะเห็นตัวรถ เท้าของเดนิสต้าก็หยุดชะงัก เธอสังเกตเห็นเงาตะคุ่ม ๆ สีดำใกล้กับล้อรถ คิ้วของเดนิสต้าขมวดเข้าหากัน ดวงตาของเธอเฝ้ามองการเคลื่อนไหวแปลกประหลาดเหล่านั้นสังเกตความเผอิญที่มันมักใช้เวลามากเป็นพิเศษในบริเวณที่เธอเคยนั่งหรือสัมผัส

‘ เหมือนกำลังมองหา.. หาใคร ฉัน? ไม่เอาน่า อีกแล้วเหรอ? ’

เดนิสต้าต้องการให้เรื่องนี้จบไวที่สุด ร่างเล็กเคลื่อนตัวช้า ๆ อย่างระมัดระวังไปตามซอกหลืบและจุดที่มีสิ่งกำบัง ‘ เขาจะรู้ตัวแน่ ดังนั้นต้องทำให้ไว ’ นิ้วของเธองอเข้ามากำเป็นหมัด สิ่งเดียวที่เดนิสต้าพกไว้ในกระเป๋าคือมีดสั้น นักเดินทางตัวน้อยสูดหายใจเข้า เธอหยิบมีดสั้นออกมาจากที่เก็บตั้งใจเตรียมพร้อมรับกับอะไรก็ตามที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างแฝงตัวเข้าไปใกล้เงีย—-

กร๊อบ..

กิ่งไม้แห้งบนพื้นถูกเหยียบจนส่งเสียงแตกหัก ทั่วทั้งร่างของเดนิสต้านิ่งค้าง ทว่าศีรษะของเงาตะคุ่มนั้นกลับหันขวับมองมา ‘ พระเจ้า.. นี่มันโคตรพ่อโคตรแม่หมาป่า ’ เสียงคำรามของมันดังกึกก้อง หมาป่าสีดำขนาดมหึมา ปากของมันเรืองแสงสีส้มราวกับมีไฟหลอมอยู่ในตัวแต่ก็ยังไม่น่ากลัวเท่าดวงตาสีเพลิงที่จ้องตรงมาด้วยความกระหาย ใบหน้าหวานของเดนิสต้าเงยขึ้นมองท้องฟ้า เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความรำคาญ

‘ Here we go again.. ’

เธอตั้งท่าพร้อมยกมีดสั้นในมือขึ้นตามความเคยชินของร่างกาย —- ไฟพ่นมาจากริมฝีปากหมาป่าราวกับว่าเป็นลมหายใจที่อัดเป็นก้อนและพ่นออกมา เดนิสต้าเอี้ยวกายหลบหลีกเปลวเพลิงนั้น แสงไฟสะท้อนบนตัวรถจนเกิดประกายระยิบระยับ ‘ กลางวันแสก ๆ แถมยังกลางที่แจ้ง ชีวิตคนจะเจอมันก็เอาแต่เจอไม่หยุดไม่หย่อนจริง ๆ ‘ เมื่ออสุรกายที่มีความคล่องตัวสูงกับหญิงสาวที่ฝึกฝนเรื่องความยืดหยุ่นอยู่เป็นประจำมาเจอกัน การต่อสู้ของพวกเขาเลยรวดเร็วเสมือนกับการวิ่งบนลู่ที่ไม่มีช่วงให้หยุดชะงัก

แต่ในขณะเดียวกันภายในร้านอาหาร.. อเล็กซานเดอร์ยืนประชิดอยู่กับลิซ่าในบรรยากาศเงียบสงบราวกับช่วงเวลาที่มีแค่พวกเขา “ อเล็กซ์.. เด็กคนนั้นยังรออยู่ ” เธอพูดด้วยความเขินอายเมื่อมือหยาบกร้านของเขาสัมผัสกับแผ่นหลังของเธอด้วยความหวงแหน ใบหน้าของลิซ่าก้มลงต่ำแต่ก็เป็นเช่นนั้นได้ไม่นานนัก อเล็กซานเดอร์โน้มตัวลงเล็กน้อย มืออีกข้างของเขาเชยคางของลิซ่าขึ้นด้วยความรักใคร่ “ กลางวันแสก ๆ … ไม่มีอะไรหรอก ”

ระยะห่างของพวกเขาค่อย ๆ เลือนหาย มีเพียงความใกล้ชิดคลอเคล้ามาด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ อเล็กซานเดอร์ดูมีความสุขจนลืมแม้กระทั่งโลกหรือภาระที่เขาแบกรับ ทุกความสนใจมีเพียงหญิงสาวในอ้อมแขนที่สบตาเขาอย่างอ่อนหวาน เสี้ยววินาทีที่ริมฝีปากของพวกเขาเฉียดกัน

บึ้ม !

เสียงระเบิดดังเบา ๆ มาจากด้านนอกหน้าต่างตามด้วยแสงไฟวาบ ร่างบางในมือเขาสะดุ้งเฮือก ลิซ่าหันไปมองทางหน้าต่างด้วยความสงสัยแต่ไม่ทันได้มองให้ดี อเล็กซานเดอร์ก็ดันคางของเธอให้หันกลับมาสบตากับเขา “ อย่าไปสนใจเลย คงมีพวกแปลก ๆ เล่นพลุอีกตามเคย ”

เล่นพลุบ้านพ่****@)$%^#&(*%^&*

เปลวเพลิงจากหมาป่าทมิฬพุ่งเฉียดเสื้อของเธอจนเกิดเป็นรอยไหม้ เดนิสต้าสบถก่อนจะกัดฟันแน่น ‘ ฉันไม่มีชุดให้เปลี่ยนเยอะ อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ที่เขาต้องสงสัยได้ไหม !! ’ มีดสั้นของเธอเฉือนไปแนวร่างของหมาป่าที่แยกเขี้ยวขู่อย่างน่าเกรงขาม ทุกการเคลื่อนไหวของมันราวกับมีภาพซ้อนทับประหลาดที่เดนิสต้าไม่เคยเห็นมาก่อน.. เธอไม่เคยเจอหมาป่าที่พ่นไฟได้ แน่นอน แต่ทุกการกระทำของมันกับใกล้เคียงภาพในหัวในตอนที่เธอประมือกับหมาป่า

แต่นั่นมันตอนไหน?

“ อ่า ให้ตาย.. ช่วงนี้ยิ่งปวดหัวอยู่ ทำไมถึงได้มีปัญหาเยอะนักนะ ” เดนิสต้าพลิกตัวหลบกรงเล็บของหมาป่า เธอใช้ร่างกายวิ่งเข้ากระแทกตัวของหมาป่าสีดำเมี่ยมด้วยแรงทั้งหมดที่มีจนมันล้มลงกระแทกรถยนต์คันหนึ่ง ส่งให้เสียงแตรดังสนั่น

ภายในร้าน เสียงแตรรถที่ดังขึ้นส่งผลให้อเล็กซานเดอร์สะดุ้ง แต่เขายังคงติดพันกับการกลืนกินริมฝีปากที่หอมหวานของสุภาพสตรีที่เขาเฝ้าแวะมาสานสัมพันธ์ด้วยเป็นระยะ ‘ มีบางอย่างแปลก ๆ ’ อเล็กซานเดอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาของเขาชำเลืองมองไปทางหน้าต่าง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกงุ่นง่านเมื่อองศาที่เขาอยู่ไม่เอื้อต่อการมองออกไปข้างนอก ดังนั้นเขาจึงพยายามรักษาบรรยากาศหวานชื่นต่อไปด้วยการหลอกตัวเอง “ คงมีใครกดแตรเล่น เธอก็รู้ใช่ไหมที่รัก? ” แทนที่คำตอบด้วยคำพูด ลิซ่าหัวเราะเบา ๆ ในลำคอก่อนจะรั้งใบหน้าของอเล็กซานเดอร์ลงมาจูบอีกครั้ง

ด้านในหวานฉ่ำ ส่วนด้านนอกแทบจะกลายเป็นแดนร้างฝังหมา เท้าของเธอยันถีบเข้าที่อกของหมาป่าสีดำที่เต็มไปด้วยบาดแผลจนมันทรุดลงกับพื้น มือข้างที่ไม่ได้ถืออาวุธยกขึ้นเสยเส้นผมไปด้านหลัง ลมหายใจของเดนิสต้าถี่และหนัก เธอใช้แรงไม่น้อยไปกับการต่อกร บนตัวมีรอยแผลถาก ๆ ที่มาจากความพยายามเอาตัวรอด ทว่าพอเธอเลื่อนสายตามองเข้าไปในหน้าต่างด้วยความเกรงว่าคนที่อยู่ด้านในจะสังเกตถึงสิ่งผิดปกติ เธอกลับพบฉากสวีทของชายหญิงเข้าเต็มตา

“ แหวะ.. ”

เดนิสต้ากรอกตา เธอไม่ได้แหวะอะไรออกมาจริง ๆ แต่ก็ใกล้เคียง “ ขอโทษนะ ฉันชอบหมา โดยเฉพาะหมาป่า แต่ฉันปล่อยนายไว้แถวนี้ไม่ได้ ” เสียงของเธอเบาหวิวราวกับเสียงกระซิบ ราวกับว่ามันเข้าใจในคำพูดของเธอ เสียงครางหงิงของอสุรกายที่บาดเจ็บดังขึ้นในลำคอเป็นการร่ำลาโลก ก่อนที่เดนิสต้าจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการปิดฉากจนร่างของมันสลายหายไป

“ เอาล่ะ ที่นี้ก็.. ”

หญิงสาวทิ้งตัวทรุดลงนั่งกับพื้น เธอชันเข่าข้างหนึ่งขึ้น ปล่อยให้แผ่นหลังแนบไปกับล้อรถที่เธอปกป้องเอาไว้ด้วยชีพ ‘ ปล่อยให้ตาแก่นั่นสนุกสนานกับชีวิตชายโสดจนกว่าเขาจะนึกได้ว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งรอเขาอยู่ก็แล้วกัน ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : พักที่ร้านอาหาร
ศัตรูภายในบททดสอบตัวที่สอง : เฮลฮาวน์ | ผลการประลอง : ชนะ
รางวัลการพิชิตครั้งแรก : +2 ตื่นรู้
สินสงคราม : เขี้ยวเฮลฮาวนด์ (เลขไบต์คู่ - ยกเว้นเลขกรงเล็บ)
- ขนเฮลฮาวนด์ (เลขไบต์คี่ - ยกเว้นเลขกรงเล็บ)
- กรงเล็บเฮลฮาวนด์ (เลขไบต์ 0/3/7)

ของดรอปพิเศษ: (เลขไบต์ 1/8): ได้รับ แก่นวิญญาณเฮลฮาวนด์




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 33058 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-12-27 05:34
โพสต์ 33,058 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-27 05:34
โพสต์ 33,058 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-27 05:34
โพสต์ 33,058 ไบต์และได้รับ +5 EXP +12 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-27 05:34
โพสต์ 33,058 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-27 05:34

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-12-27 23:18:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด



หลังออกจากร้านอาหารของลิซ่า ถึงไม่อยากจะแซะแต่ขอหน่อยเถอะ ไอกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงที่ติดตัวเขามานั่นอะไร(กรอกตา) อเล็กซานเดอร์ดูอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้ เขาเอาแต่ฮัมเพลงยิ้มกว้างแทบถึงหูบรรยากาศความรักฟุ้งฝันน่ารำคาญพวกนั้นทำให้ฉันไม่มีสมาธิจนต้องมานั่งก้มหน้าก้มตาอยู่กับเธออีกแล้ว ไดอารี่ที่รัก(?) อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ในรถไม่ได้มีแค่ฉันกับเขา —- ตกใจล่ะสิ ? ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดอะไรอยู่ ทันทีที่เราผ่านโรงเรียนประถมขื่ออะไรสักอย่างที่ฉันไม่ทันได้สังเกต อยู่ ๆ เขาก็จอดรถแล้วลดกระจกลง หันไปตะโกนคุยกับเด็กชายคนหนึ่งที่มีสีหน้าเศร้าสร้อย

ทายหน่อยไหมว่านั่นใคร?

เซอร์ไพร์ส ~ นั่นคือลูกชายของมากาเร็ตต์

ตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังนั่งอยู่บนตักฉัน ฉันใช้หลังเขาเป็นโต๊ะวางไดอารี่ชั่วคราว แบบ— ว้าว ใครจะไปนึกว่าชายแก่คนนี้พึ่งไปจิ๊จ๊ะกับสาวคนหนึ่ง จากนั้นก็แวะรับลูกชายของสาวอีกคนเพื่อไปส่งจนถึงบ้าน? พนันกันดีไหมว่าถ้าไปถึงที่นั้นฉันต้องรออีกนานแค่ไหนสำหรับยกที่สองที่อาจเกิดขึ้น


“ พี่เขียนอะไร ”

เสียงแหลม ๆ ของเด็กชายตัวจ้อยดังขึ้นเพื่อถามเธอ ลูกชายของมากาเร็ตต์เป็นเด็กผิวขาวผมบลอนด์ตาสีฟ้า ได้รับความหวานบนใบหน้ารวมไปถึงดวงตากลมเหมือนลูกกวางมาจากแม่ของเขา ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เดนิสต้าจะหลีกเลี่ยงการสบตา ‘ เขาน่ารักเกินไป ฉันใจอ่อนกับสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยและน่ารักเสมอ ’ หญิงสาววางบันทึกของตัวเองลงบนตักเขาเปลี่ยนจากการใช้มือขีดเขียนตัวอักษรให้กลายมาเป็นการม้วนพันปอยผมของเขาเล่น “ บันทึกการเดินทางน่ะ ”

“ เขียนทำไม? ” มือของเขาแตะลงที่ปกของบันทึก เด็กชายผมบลอนด์เอียงใบหน้ามองด้วยความสงสัย

“ ไม่รู้สิ ” เดนิสต้าตอบพร้อมกลั้วหัวเราะ เธอจับศีรษะของเด็กชายตัวน้อยให้เอนพิงกับไหล่ของเธอ และใช้มืออีกข้างวางทับที่บันทึกประหนึ่งปกป้องสิ่งของของตัวเองเพื่อไม่ให้ใครมาเปิดดูเนื้อหาด้านใน เธอปล่อยให้ศีรษะพิงกับกรอบประตูรถ ดวงตามองตรงไปด้านหน้าเช่นเดียวกับสายตาของเด็กน้อยบนตัก “ วันนี้ที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง ”

“ ก็ดีนะ… ไม่มีอะไรพิเศษ ”

“ ไม่มีอะไรพิเศษ? ” เดนิสต้าเลิกคิ้ว ปลายนิ้วของเธอพันกับปลายผมสีบลอนด์ของเด็กชายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน อเล็กซานเดอร์ที่กำลังขับรถอยู่ข้าง ๆ คอยชำเลืองตามองพวกเขาอยู่เป็นระยะ เขาไม่อยากให้เด็กสาวที่พึ่งรับขึ้นรถมาได้ไม่ถึงวันเผลอสอนอะไรแปลก ๆ ให้กับลูกชายของมากาเร็ตต์ แต่การจะห้ามก็คงยาก เพราะเรื่องความปากไวรวมไปถึงความกวนประสาท ไม่มีใครสู้เธอได้แน่นอน

“ ไม่มีใครโดนครูดุ? เล่นซนจนล้ม? หรือ… มีเด็กผู้หญิงมาส่งจดหมายรักให้? ” แก้มของเด็กชายตัวน้อยเริ่มแดงระเรื่อจนคนถามหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ดวงตาของเดนิสต้าเปล่งประกายด้วยความสนุกสนานเมื่อพบว่าบนตักของเธอมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลั่นแกล้งที่สุดในโลก “ อย่าเขินเลยน่า เรื่องธรรมชาติ คนเราต้องมีประสบการณ์กันทั้งนั้น ”

“ อย่าแกล้งเขา ”

“ ไม่เอาน่า อเล็กซานเดอร์ ฉันยังไม่ทันทำอะไรเลย ”

“ ไม่มีอะไรแบบนั้นซะหน่อย! อย่ามาพูดอะไรแปลก ๆ นะ! ”

การโวยวายของลูกชายมากาเร็ตต์ทำให้รอยยิ้มของเดนิสต้ากว้างขึ้น เปลือกตาของเธอปิดลงซึมซับกับบรรยากาศแสนสุขที่ไม่ได้สัมผัสมานานนับตั้งแต่พ่อหายตัวไป เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากหญิงสาวที่จะเลือนหายไปจากชีวิตของพวกเขาในสักวันหนึ่ง “ โอเค ๆ ไม่มีก็ไม่มี… แต่ดูจากหน้าเธอ ฉันว่าอาจจะมีเด็กผู้หญิงที่แอบชอบเธอจริง ๆ ก็ได้? ”

“ หยุดเลย! ” เด็กชายตะโกนอย่างเขินอาย แต่มุมปากของเขาก็ยังยกขึ้นเล็ก ๆ

“ ก็ได้ ๆ งั้น.. ” เพื่อไม่ให้เด็กชายแปลงร่างเป็นปลาปักเป้าด้วยความเง้างอน เดนิสต้าดึงด้านที่ดีที่สุดของเธอออกมา ล้มเลิกการกลั่นแกล้งหรือแซวสุดไร้สาระมาเป็นการถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย “ มีการบ้านอะไรให้ทำหรือเปล่า? วิชาคณิตเป็นยังไง? ”

เด็กชายถอนหายใจยาวราวกับกำลังบ่นว่าเธอจู้จี้ แต่แทนที่จะแสดงท่าทางดื้อรั้นไม่พอใจ เขากลับใช้เวลาคิดกับคำถามของเธอ ก่อนจะตอบเสียงดังด้วยความมั่นใจ “ ก็แค่โจทย์คณิตปกติ… แต่ฉันแก้ได้หมดแล้ว ไม่ยากหรอก ” การสนทนาของพวกเขาดำเนินต่อไป ทำให้บรรยากาศในรถเบาลง เสียงหัวเราะของพวกเขากลมกลืนไปกับเสียงเพลงจากวิทยุที่ช่วยขับกล่อมบรรยากาศจวบจนถึงคราวที่เดินทางมาถึงปลายทาง

“ เราจะได้เจอกันอีกไหม? ”

“ ไม่ ”

นั่นเป็นสิ่งที่รู้กันดีสำหรับการพบเจอคนแปลกหน้า เด็กชายตัวน้อยห่อเหี่ยวอยู่ตรงหน้าเธอราวกับต้นไม้ที่ขาดการรดน้ำ ‘ สีหน้าแบบนั้นพอจะทำฉันใจอ่อนได้เลย.. ’ แต่เดนิสต้าทำไม่ได้ ชีวิตของเธอซับซ้อนและวุ่นวาย ไม่สมควรเกี่ยวพันกับใครโดยเฉพาะคนธรรมดา ฉะนั้นหลังจากส่งเจ้าหนูที่เธอไม่แม้แต่ถามชื่อหรือแนะนำตัว อเล็กซานเดอร์และเดนิสต้ากลับขึ้นมาอยู่บนรถเพื่อเดินทางอีกครั้ง

“ เธอดูเคยชินกับการบอกลา ”

“ เมื่อเราโตขึ้น ไม่ว่าใครก็ต้องชินไปกับมัน ”



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : เข้าสู่ตัวเมือง ก่อนข้ามอ่าวซานฟรานซิสโก




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-27 23:18
โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +2 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-27 23:18
โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-27 23:18
โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +4 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก ชุดเครื่องเพชร  โพสต์ 2024-12-27 23:18
โพสต์ 14,458 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-12-27 23:18
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-12-28 01:51:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-28 02:36




ตอนนี้ฉันกำลังอยู่บนสะพานข้ามอ่าวซานฟรานซิสโกหลังจากที่เราพึ่งออกมาจากอู่ซ่อมรถ ฮั่นแน๊ งงล่ะสิว่าอู่ซ่อมรถมาจากไหน พวกเธอเผลออ่านข้ามอะไรไป? ไม่หรอก ไม่เลย พวกเธออ่านถูกแล้ว ก่อนหน้านี้พึ่งเป็นหน้าที่ร่ำลากับเจ้าหนูหัวทองบ้านมากาเร็ตต์และอยู่ ๆ เราก็กระโดดมาที่สะพานเลย ไทม์สคิปแบบใหม่ที่อาจจะทำให้เธอต้องหนักใจกับสิ่งที่ฉันกำลังจะเล่าต่อไปนี้

หลังออกจากบ้านของมากาเร็ตต์มา อเล็กซานเดอร์บอกฉันว่าเรากำลังจะขับรถไปตามหนึ่งในสะพานข้ามอ่าวที่มีความยาวมากที่สุดในโลก(จริงไหมไม่รู้ ก็เขาบอกฉันมาแบบนี้) ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยเขาเลยจะขอแวะไปเช็ครถที่อู่ของเพื่อนเขา เพราะไอเสียงแตรและเสียงบึ้มที่ดังตรงร้านของลิซ่าทำให้เขากังวล (ฉันกลั้นขำเกือบตาย ขอโทษนะแต่มันตลกจริง ๆ ที่เขาไม่เอะใจเลย) แน่นอน ฉันไม่ว่าอะไร แหงล่ะ มันเป็นรถเขา สิทธิ์ของเขา จนถึงตอนนี้เขาไม่ไล่ให้ฉันเดินข้ามสะพานไปเองก็ถือว่ามีพระคุณมากแล้ว อู่ที่เขาแวะไปเป็นอู่ที่เขาสนิทกับเจ้าของ เขาบอกว่ามันจะใช้เวลาไม่นาน แค่เช็คสภาพรถ และถ้าเกิดว่ามีปัญหาเขาอาจวานให้คนอื่นไปส่งฉันแทนซึ่งนั่นก็โอเค อย่างไรก็ตามเมื่อเราไปถึง สิ่งต่าง ๆ กลับ.. ไม่เป็นอย่างที่คิด

ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลงจากรถเลย บรรยากาศของที่นั้นเงียบมาก ดูวังเวง คล้าย ๆ บรรยากาศที่โรงกลั่นไวน์ ฉันไว้ใจที่จะให้อเล็กซานเดอร์ลงไปคนเดียวก็เลยเข้าไปกับเขาด้วย (และเขาก็ไม่เข้าใจ แถมบอกว่าฉันงี่เง่า อี ก แ ล้ ว) เมื่อเข้าไปด้านในที่พวกเราเจอไม่ใช่นายช่างที่อเล็กซานเดอร์บอกว่าสนิท แต่เป็นคนแปลกหน้าที่แม้แต่เขาก็ยังไม่เคยเจอมาก่อน เขาคนนั้นบอกว่าตัวเองชื่อจอร์ช เป็นญาติของนายช่างอัลเบิร์ต (ขอนอกเรื่องนิด นี่มันการเดินทางรวมชื่อคนแก่หรือยังไง?)

ที่ตลกก็คือ อเล็กซานเดอร์กระซิบฉันในตอนที่นายจอร์ชคนนั้นเผลอว่า “ อัลเบิร์ตไม่มีญาติ ” โอ้ ว้าว—- แจ็กพอร์ตสุด ๆ (*วาดอิโมจินิ้วกลาง*) ด้วยเหตุนี้เอง อาศัยสติปัญญาอันน้อยนิดของเขา อเล็กซานเดอร์บอกว่าเขาจะหาจังหวะให้ฉันปลีกตัวไปโทรแจ้งตำรวจโดยไม่เอะใจเลยว่า เด็กมีโทรศัพท์ที่ไหนจะไปยืนโบกรถรอเขากลางเขาถ้าหากว่าโทรศัพท์ของเธอใช้ได้? : ) พูดตรง ๆ นะ อเล็กซานเดอร์ไม่มีทางเป็นลูกมิเนอร์วาได้ สมองของเขาเหมือนเต็มไปด้วยอะไรสักอย่างที่.. ไม่มีประโยชน์

ฉันเกือบจะตกลงไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเพราะซื่อบื้อแต่เป็นเพราะตราบเท่าที่เขายังไม่หมดสติ ฉันจำเป็นต้องรับบทเด็กอมมืออมเท้าเก็บความสามารถของตัวเองเอาไว้ นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดในตอนแรก จนกระทั่งเผอิญสบตากับจอร์ชและเผชิญหน้ากับแจ็กพอร์ตที่สอง

เขามีตาเดียว

ไอ้เวรเอ๊ย สาบานเลยว่าตอนนั้นฉันอยากจะกรีดแล้วลงไปดิ้นกับพื้น การเดินทางบ้า ๆ นี่ขยันส่งตัวประหลาดเข้าหาฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นเครื่องรางดูดอมนุษย์ยังไงอย่างงั้น(ใช่) จากที่จะเป็นฝ่ายปลีกตัวเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ขัดขวางพวกเราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่มนุษย์ฉันก็จำเป็นจะต้องหาวิธีทำให้อเล็กซานเดอร์เป็นฝ่ายปลีกตัวออกไปแทน อันที่จริงมันไม่มีอะไรดีไปกว่าการทุบหัวเขาให้สลบ แต่น่าเสียดายที่วิธีนั้นดันถูกใช้ไปแล้ว

ฉันเลยทำอะไรที่หน้าด้านกว่านั้น

ไหน ๆ ถูกเข้าใจว่าเป็นเด็กเอาแต่ใจไปแล้ว ฉันก็เลยชี้นิ้วสั่งอเล็กซานเดอร์ในเรื่องไร้สาระแล้วลองเอาตัวเข้าไปออเซาะหนุ่มไซคลอปส์นั่นเล่น ๆ ผลสรุปคือ —- นอกจากพวกเขาจะติดกับแล้วยังดูราบรื่นดีด้วย ดังนั้นฉันเลยได้เข้ามาอยู่ในห้องทำงานสองต่อสองกับไซคลอปส์ตัวอ้วนกลมนี้ ฮู้เร่ (?)

อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคุณปล่อยชายหญิงไว้ด้วยกัน? อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคุณปล่อยอสุรกายไว้กับคนที่ถูกกำหนดให้จัดการอสุรกาย? ✧.* สงคราม *.✧ ไงล่ะ ฉันไม่รู้ว่าเสียงครึกโครมที่เกิดขึ้นจะส่งผลยังไงต่ออเล็กซานเดอร์ที่รออยู่ข้างนอก มันไม่เหมือนการต่อสู้ ฉันใช้คำว่ามันเป็นการปาข้าวของใส่กันเหมือนคู่สามีภรรยาทะเลาะกันมากกว่า โอเค ให้ฉันอธิบายก่อน คือ ฉันก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ 19 ที่สูง 164 เซน และหนักไม่ถึง 50 กิโล ดังนั้นการจะให้ไปตบตีใกล้ ๆ กับไซคลอปส์ที่ตัวใหญ่กว่าเธอสองเท่า?? นั่นบ้าไปแล้ว

มันไม่ใช่อะไรที่ฉลาดนักหรอก การเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงซ้ำ ๆ ซาก ๆ แต่ฉันไม่มีทางเลือก ชีวิตเหวี่ยงให้ต้องมาเจออะไรบ้า ๆ ตั้งแต่ 12 บางครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองเสียสติไปแล้วแต่ไม่ใช่เลย ยังมีคนที่เหมือนกันรอฉันอยู่ที่ค่ายจูปิเตอร์อะไรนั่น ดังนั้นฉันเลยจำเป็นต้องทำการเดินทางนี้ให้สำเร็จไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม การต่อสู้กับไซคลอปส์ไม่ได้น่าหวือหวา พูดตามตรงว่าค่อนข้างน่าเบื่อ เหมือนกับกำลังฉายซ้ำสิ่งที่เคยทำมาแล้วซ้ำ ๆ แต่ไอสิ่งที่ทำซ้ำ ๆ นี่กลับเก่งขึ้นก็เท่านั้น

แปลกแฮะ.. หลังจากการปวดหัวหนัก ๆ ทุกอย่างก็ประหลาดไปหมด

เรื่องราวจบยังไงนะเหรอ? ก็ จบเหมือนตอนที่เราจบมื้ออาหาร มีคนเข้ามาเก็บกวาด เช่นตำรวจที่โผล่เข้ามาพร้อมกับอเล็กซานเดอร์และเจอแค่ความว่างเปล่า(ฉันฆ่าเขาไปแล้ว โทษที) มีร่องรอยกายต่อสู้แล้วก็ ฉันที่สะบักสะบอมนิดหน่อยเป็นหลักทาง เพื่อให้ตัวเองสามารถไปต่อได้ฉันจำเป็นต้องบอกว่าพวกเขาหนีไปแล้ว และเชื่อสิว่าในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมาด้วยคำสาป หรืออะไรสักอย่างที่เทพทำไว้กับมนุษย์ พวกเขาจะค่อย ๆ ลืมเรื่องนี้เหมือนกับที่ลืมว่าความรู้สึกในตอนที่อกหักเป็นยังไง

บ้าเอ๊ยทำไมในหน้านี้ฉันดูอีโมจัง


“ ยัยหนู เธอไม่เป็นไรแน่นะ ” อเล็กซานเดอร์ออกปากถามด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมทางของเขาเงียบมาตั้งแต่ตอนที่พวกเขาขับรถออกจากอู่ ชายที่แก่กว่าไม่ทราบว่าสิ่งใดเกิดขึ้นภายในห้องทำงานนั้น เสียงโครมคราม เสียงคำรามแปลก ๆ และห้องที่พังยับเยิน ทว่าเด็กสาวข้างกายเขากลับมีแค่บาดแผลเล็กน้อยและอาการเหม่อลอย “ ฉันรู้ว่าเราไม่ได้ญาติดีกันเท่าไหร่แต่ เฮ้ เธอคุยกับฉันได้ โดยเฉพาะหลังจากเมื่อกี้นี้ ”

“ … ”

เดนิสต้าไม่ได้ตอบ ดวงตาทอดมองไปทางผิวน้ำของอ่าวใหญ่ที่คั่นกลางระหว่างสองฝั่งของแผ่นดิน ใบหน้าของเธอไม่ได้โศกเศร้าหรือสับสน มีเพียงความสงบรูปแบบหนึ่งที่เข้าใจได้ยาก “ ไม่เป็นไร ฉันชินกับมันแล้ว ” คำตอบนี้ลอดออกมาจากริมฝีปากของเธออย่างง่ายดายทั้งที่มันสมควรจะเป็นเรื่องยากในการยอมรับ เดนิสต้าหัวเราะเบา ๆ เธอหลับตาลงคล้ายปิดการรับรู้ของตัวเอง ปล่อยให้ความมืดเข้าครอบงำการมองเห็น

“ ขอฉันนอนหน่อย ช่างมันเถอะ ”



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : อยู่บนสะพานริชมอนด์
ศัตรูภายในบททดสอบตัวที่สาม : ไซคลอปส์ | ผลการประลอง : ชนะ
สินสงคราม : ตาไซคลอปส์ (หากจัดการไซคลอปส์ระดับหัวหน้าจะได้รับ แก่นวิญญาณไซคลอปส์ อีก 1 ชิ้น)




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 17985 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 01:51
โพสต์ 17,985 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 01:51
โพสต์ 17,985 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-28 01:51
โพสต์ 17,985 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-28 01:51
โพสต์ 17,985 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-28 01:51
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-12-28 02:37:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด



แสงแดดยามสายสะท้อนเป็นประกายอยู่บนผิวน้ำทะเล ท้องฟ้าสีครามเปิดโล่งไร้เมฆบดบัง เส้นทางทอดยาวเลียบชายฝั่งเต็มไปด้วยลมทะเลพัดผ่านทำให้ใจของผู้มาเยือนเต็มไปด้วยความสงบ รถกระบะเก่า ๆ คันหนึ่งแล่นอย่างช้า ๆ ไปตามถนนลาดยาง เสียงคลื่นซัดสาดกระทบชายหาดดังก้องเป็นพื้นหลังเสริมให้บรรยากาศริมทะเลทรงเสน่ห์อย่างสมบูรณ์แบบ สะพานริชมอนด์ที่พวกเขาพึ่งขับผ่านเป็นสะพานยาวที่ใช้เวลาขับไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ดังนั้นเมื่อลงมาจากสะพานและขยับตามถนนมาได้ไม่เท่าไหร่ เดนิสต้าก็ตื่นขึ้นมาในที่สุด

ถือว่าเป็นการนอนที่สั้นมากสำหรับเด็กวัยเดียวกัน แต่ก็เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่ควรจะระวังตัวเมื่ออาศัยบารมีคนแปลกหน้าให้ช่วยพาเธอไปส่งยังปลายทาง เดนิสต้านั่งเอนตัวไปทางหน้าต่าง ฝ่ามือของเธอวางอยู่บนขอบกระจกที่ลดลงครึ่งหนึ่ง ปล่อยให้ลมทะเลพัดพาเส้นผมของเธอให้ปลิวพริ้วเป็นสายเล็ก ๆ ในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังขอบฟ้าที่ตัดกับขอบน้ำทะเล

“ ชอบทะเลเหรอ? ” อเล็กซานเดอร์ถาม เขาไม่ได้หันมองอย่างจริงจังแต่ก็ยังเหลือบตามามองเธอ

“ ไม่ถึงกับชอบแต่ก็ไม่เคยเบื่อที่ได้เห็นมัน ” เดนิสต้าตอบเสียงยานคางคล้ายกับอาการเกียจคร้านที่สมกับเป็นตัวตนของเธอ หญิงสาวปล่อยสายตามองผ่านผู้คนริมหาด รวมไปถึงรถที่ขนาบข้างคันแล้วคันเล่าก่อนจะนำขึ้นไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่ากระบะเก่า ๆ คันนี้ “ ทุกครั้งที่มองทะเล.. โดยเฉพาะทะเลสงบ ๆ แบบนี้ มันให้ความรู้สึกเหมือนว่าที่นั่นไม่มีการเวลา ทุกอย่างหยุดนิ่งแต่พอมองลึกลงไปก็เจอแต่สิ่งที่เราไม่สามารถทำความเข้าใจได้ สิ่งที่ซับซ้อนหรือไม่ก็บ้าคลั่ง ”

“ ขอเดาว่าเธออ่านมาเยอะสินะ ” เขาปรักปรำความคิดของเธอด้วยการตอบกลับเชิงเยาะเย้ย

‘ ฉันเป็นดิสเล็กเซียย่ะ ’ เดนิสต้าตอบกลับในใจและกรอกตาในจังหวะที่เขาไม่ทันได้มอง ไม่นานหลังจากนั้น รถของอเล็กซานเดอร์ก็แล่นมาถึงจุดจอดพักเล็ก ๆ ที่มีศาลาตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นสนใหญ่ ข้างศาลามีห้องน้ำสาธารณะที่ดูสะอาดสะอ้าน เขาจอดรถชิดขอบลานดินก่อนจะหันมาพูดกับเธอ

“ ฉันขอเข้าห้องน้ำหน่อย เธอจะลงมาสูดอากาศหรือรอในรถ? ”

เดนิสต้าไม่ได้ตอบด้วยคำพูด เธอแบมือเป็นสัญญาณให้เขาส่งกุญแจรถมา และเขาก็ทำแบบนั้นแต่โดยดี ทั้งสองลงจากรถ อเล็กซานเดอร์มุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำเพื่อทำธุระของเขาส่วนเธอก็เดินทอดน่องแยกออกมาตามทางเดินที่ปูด้วยหินกรวดเล็ก ๆ ก่อนจะมาหยุดยังบริเวณศาลาเพื่อใช้เวลามองออกไปยังเส้นแบ่งอันเป็นจุดที่ทะเลกับผืนฟ้ามาบรรจบกัน

“ เดินทางไกลเหรอครับ? ” เสียงปริศนาของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

เธอหันกลับไป เพื่อที่จะได้พบกับชายในชุดตำรวจยืนอยู่ด้านหลัง เขาสวมหมวกที่บังใบหน้าไม่มากทั้งยังมีแววตาที่เป็นมิตร ‘ ตราตำรวจดูปกติดี เครื่องแบบก็ไม่เลว.. พกปืนโจ่งแจ้งในเขตพลุกพล่าน .. คงไม่ได้มาร้าย ’ จากการประเมินคร่าว ๆ ด้วยการคาดการณ์และทริคเฉพาะตัวอีกเล็กน้อย เดนิสต้าพบว่าคุณตำรวจแปลกหน้าคนนี้เป็นชายอัธยาศัยดีที่ไม่ได้มีพิษสงอะไร.. ฉะนั้นเพื่อตอบแทนไมตรีที่เขาสอบถามอย่างสุภาพ ใบหน้าหวานจึงประดับรอยยิ้มในระหว่างที่ตอบกลับเขา

“ ใช่ค่ะ แค่แวะพักนิดหน่อย ”

ประจวบเหมาะจริง ๆ อเล็กซานเดอร์เดินมาเพื่อตามตัวเธอพอดี ชายที่รับบทเป็นลุงและสารถีชั่วคราวให้กับเดนิสต้าเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าทันทีที่เขาปล่อยยัยหนูแปลกหน้านี้ไว้คนเดียว แม่หนูนี้ก็ดึงดูดให้ตำรวจเข้ามาทักทายเสียแล้ว “ สวัสดีคุณตำรวจ มีอะไรหรือเปล่า? ” อเล็กซานเดอร์ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับรอยแผลจาง ๆ บนผิวของเด็กสาว .. จะว่าไปแผลพวกนั้นดูเหมือนใกล้หายแล้ว? ได้ยังไงกัน?

ความสงสัยของอเล็กซานเดอร์กำลังเพิ่มขึ้น แต่เสียงของคุณตำรวจก็ตัดผ่านหมอกแห่งความใคร่รู้นั้นด้วยคำพูดที่น่าสงสัยยิ่งกว่า “ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เห็นคนแวะมาพักเลยอยากเตือนอะไรนิดหน่อย ” ไม่ใช่ทุกครั้งที่ตำรวจประจำภาคพื้นที่จะมาแสดงตัวตักเตือนบางสิ่ง อเล็กซานเดอร์และเดนิสต้าหันมองหน้ากันโดยอัตโนมัติก่อนจะหันกลับไปทางคุณตำรวจ

“ เตือนอะไรหรือครับ? ”

“ ช่วงนี้ในพื้นที่รอบ ๆ นี้ มีรายงานคนหายตัวไปแบบลึกลับหลายคนครับ ” ตำรวจหนุ่มกล่าวพลางกวาดสายตามองไปรอบกาย “ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแถวนี้ พวกเขามักจะหายตัวไปในบริเวณที่ห่างไกลจากผู้คน หรือบางครั้งก็กลางดึก ไม่มีร่องรอยหรือหลักฐานชัดเจน ”

เป็นอะไรที่อันตรายจริง ๆ แค่คำเตือนเดียวก็พลิกบรรยากาศที่เคยผ่อนคลายให้กลับมาหนักหน่วง คนที่ร้อนใจที่สุดย่อมเป็นอเล็กซานเดอร์ เขาขมวดคิ้วก่อนจะรีบถามตามประสาชายที่เคยใฝ่ฝันอยากทำอาชีพที่มั่นคงอย่างตำรวจ “ หายตัวไปอย่างต่อเนื่องเลยเหรอ? พอจะมีเบาะแสไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น? ”

“ ยังไม่มีอะไรแน่ชัดครับ พวกเรากำลังพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อสืบเบาะแส และในขณะเดียวกันก็กระจายคำเตือนให้กับชาวเมืองรวมไปถึงนักท่องเที่ยว ” ตำรวจหนุ่มตอบพร้อมกับรอยยิ้มจนใจที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขา อเล็กซานเดอร์และตำรวจคนนั้นแยกตัวไปสนทนากันต่ออีกเล็กน้อย ทิ้งให้เดนิสต้าเฝ้ามองผืนน้ำที่คล้ายจะสงบแต่ก็ซับซ้อนจนกระทั่งอเล็กซานเดอร์เดินกลับมา เธอถึงพึ่งจะตระหนักได้ว่าคุณตำรวจใจดีคนนั้นได้จากไปแล้ว

“ อย่าคิดมากน่ายัยหนู ไปกันเถอะ ”

เดนิสต้าโยนกุญแจให้อเล็กซานเดอร์ เธอไม่ได้รีบร้อนในการที่จะกลับไปขึ้นรถ ‘ สุดท้ายแล้วจะเป็นคลื่นทะเลที่กลืนกินผู้คนอีกครั้ง.. หรือว่าจะเป็นอะไรกันแน่นะ ’ ปริศนาที่ไม่มีทางไขได้ ความรู้สึกติดค้างในใจที่น่าหงุดหงิดแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น หญิงสาวปฏิเสธที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ เธอก้าวขึ้นรถ ปล่อยให้เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกครั้งและนำพาพวกเขาไปสู่เส้นทางที่ไม่อาจจะคาดเดาได้



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : ห่างจากอุโมงค์ไม่เกินครึ่งชั่วโมง




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 15962 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 02:37
โพสต์ 15,962 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 02:37
โพสต์ 15,962 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-28 02:37
โพสต์ 15,962 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-28 02:37
โพสต์ 15,962 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-28 02:37
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-12-28 17:00:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด



ฉันรู้สึกเหมือนว่ามีคนจับตามองฉันมาพักใหญ่แล้ว มันอาจจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่ออกจากศาลา เสียงครืดคราดปริศนา ความรู้สึกเป็นปรปักษ์ที่แผ่ออกมาจากบางคน บางอย่าง หรือบางสิ่ง ไม่รู้สิ.. มันเหมือนถูกไล่ตาม เหมือนเป็นเหยื่อที่นักล่ากำลังเฝ้ารอโอกาสสำหรับโจมตี ซึ่งมันไม่ดีต่อคนข้างกายฉันในเวลานี้— และอันที่จริงก็ไม่ดีต่อตัวฉันด้วย


นัยน์ตาสีหม่นของหญิงสาวที่ดูคล้ายแมวจอมซนเลื่อนมองฝูงพิราบที่บินสะเปะสะปะไร้ทิ้งทาง เสียงซุบซิบของนกแห่งรักกำลังพร่ำบอกถึงภัยร้ายที่เดนิสต้าไม่อาจระบุตำแหน่งของมันได้ ‘ .. น่าหงุดหงิดชะมัด ’ หนึ่งในผู้สืบทอดสายเลือดทวยเทพที่มีเป้าหมายเป็นการเดินทางไปให้ถึงสถานที่พักพิงอันปลอดภัยกำลังพยายามกล่อมตัวเองให้เชื่อว่าความรู้สึกประหลาดนี้เป็นเพียงความหวาดระแวงที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมลบ ๆ กับชีวิตเฮงซวยที่มักเจอแต่เรื่องเซอร์ไพร์สในแบบที่คนอื่นไม่เจอ

ทว่าอีกใจหนึ่ง เดนิสต้าก็รู้ดี ‘ ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ โดยเฉพาะกับพวกเรา ’ ตลอดครึ่งวันที่ผ่านมา เธอเจอตัวประหลาดเยอะและถี่ยิ่งกว่าที่เคยเจอมาทั้งชีวิต ทั้งหมดไม่ใช่อสุรกายระดับต่ำ มีแต่พวกที่รับมือได้ยากแล้วก็ยากขึ้นเรื่อย ๆ .. บางทีนี่อาจเป็นการไล่บี้ให้เธอแยกตัวจากสารถีจำเป็น ดวงตาเรียวเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ข้างกาย อเล็กซานเดอร์ยังคงมีสมาธิอยู่กับการขับรถ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเผลอเหยียบคันเร่งมากกว่าปกติเนื่องจากความกังวลที่ผุดขึ้นหลังได้ยินข่าวเกี่ยวกับการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา

‘ ต้องหาจังหวะแยกกับเขา อย่างน้อยก็ก่อนถึงอุโมงค์ ’ ถึงจะคิดได้แต่การทำให้สำเร็จก็ไม่ง่าย อเล็กซานเดอร์ดูไม่คล้ายคนที่จะยอมล้มเลิกกลางทางโดยเฉพาะเมื่อเขาพาเธอมาถึงบริเวณที่ห่างจากอุโมงค์แค่ไม่กี่กิโลเมตร พูดถึงเขา.. อเล็กซานเดอร์ไม่ใช่เพื่อนร่วมทางที่ดีก็จริงแต่เขาก็ไม่แย่ อย่างน้อย ๆ เดนิสต้าก็ต้องการให้เขาปลอดภัยหลังจากที่แยกกับเธอ ดังนั้นเธอจำเป็นต้องคิดให้มากวางแผนให้รอบคอบและจัดการกับอะไรก็ตามที่อาจจะเป็นอันตรายต่อเขาในภายหลัง ‘ เฮ้อ.. ฉันไม่เหมาะกับเรื่องใช้สมองเลย ’

เมื่อสิ้นสุดเวลาตัดพ้อหรือบ่นตัวเอง สาวสวยชำเลืองตาไปมองกระจกข้างของรถจนสะดุดตากับหมาบีเกิ้ลตัวหนึ่งที่นั่งจ้องกลับมาจากข้างทาง เดนิสต้าเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงน ทว่าในวินาทีต่อมาความประหลาดใจของเธอก็กระจ่างเมื่อบีเกิ้ลตัวเท่าแยกเขี้ยวพร้อมกับสะบัดหางที่ยาวกว่าปกติราวกับธงบอกสัญญาณรบ

‘ นั่นไม่ใช่บีเกิ้ล ’

สาวครึ่งเทพรีบหันหน้ากลับไปมองเส้นถนนที่อยู่ตรงหน้า เธอสูดหายใจเข้าก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ “ อเล็กซานเดอร์ จอดรถ ฉันจะลงตรงนี้แหละ ” ท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างปุบปับของเธอทำให้เขาไม่เข้าใจ อเล็กซานเดอร์ไม่จอด ไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ เขายังคงขับไปข้างหน้าพร้อมกับพูดอะไรบางอย่างเป็นภาษาที่เธอไม่เข้าใจหรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะสมาธิของเธอไม่ได้อยู่ที่เสียงของเขาอีกต่อไปแล้ว

“ อเล็กซานเดอร์ จอด ” เดนิสต้าย้ำ หางตาของเธอเหลือบไปเห็นหมา— ไม่ใช่หมาด้วยซ้ำ ร่างสูงใหญ่ของสิงโตที่มีส่วนผสมระหว่างสัตว์ต่าง ๆ วิ่งตามมาตลอดทางโดยที่ไม่มีใครสังเกต ‘ ผีหลอกกลางวันแสก ๆ ให้ตาย ทำไมต้องมีแต่ฉันที่เห็นอะไรแบบนี้ตลอด ’ รถกระบะเซ็งกระบ๊วยของอเล็กซานเดอร์ยังคงขับต่อไปจนถึงทางแยกที่ไฟจราจรบอกให้หยุดวิ่ง ไม่มีการรั้งรออีกต่อไปแล้ว เดนิสต้าปลดสายเข็มขัดนิรภัยและกระโจนลงจากรถ ทิ้งให้อเล็กซานเดอร์ตะโกนโหวกเหวกจากด้านในด้วยถ้อยคำที่เธอฟังไม่ทัน

“ ขอบคุณสำหรับครึ่งวันที่ผ่านมา รักคุณนะ สับรางดี ๆ มากาเร็ตต์กับลิซ่าดูเป็นสาวหึงโหดใช่ย่อย ” เสียงตะโกนโต้กลับของเดนิสต้าตัดผ่านความรู้สึกห่วงใยของอเล็กซานเดอร์ให้ย่อยสลายกลายเป็นควัน ชายวัยกลางคนเริ่มโวยวายเกี่ยวกับความแก่แดดของเธอจนคนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ หันมองแต่เดนิสต้าก็คร้านจะใส่ใจกับความคิดเห็นของคนเหล่านั้น เธอกระโดดขึ้นไปหยิบกระเป๋าที่หลังรถ วิ่งกลับมาเกาะข้างกระจกฝั่งคนนั้นและส่งจูบทางอากาศให้สารถีชั่วคราวเป็นการอำลาจนสีหน้าของเขาบูดบึ้งด้วยความหมั่นไส้

“ บาย อเล็กซานเดอร์ .. คงจะดีถ้าคุณไม่ลืมฉัน ”

จากกลางถนนตรงไปสู่ซอกหลืบ เดนิสต้าวิ่งมาพักใหญ่โดยมีเป้าหมายเป็นการลากอสุรกายในร่างบีเกิ้ลปลอมให้ออกมาจากฝูงชน เดิมทีเธอเคยเป็นคนที่เห็นแก่ตัวกว่านี้ ความคิดของสาวครึ่งเทพแตกกระจายนับพันนับหมื่นในทุกก้าวที่วิ่งออกไป บางทีอาหารในบ้านหมาป่าคงมีอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็ต้องเป็นคำสอนของลูปาที่ปลุกสัญชาตญาณความเป็นคนดีให้เริ่มผุดขึ้นมาจนต้องผลักตัวเองไปเจอกับความสุ่มเสี่ยงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ‘ สนุกเหรอ? ไม่ เสพติดเหรอ? ไม่ มีความสุข? ไม่ ’

‘ เหมือนเป็นแค่หน้าที่ที่เราก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม แต่ก็จำเป็นต้องทำ ’

..

“ หน้าที่บ้าบออะไรอีกล่ะนั่น ” เสียงบ่นงึมงัมดังขึ้นเมื่อร่างบางเหยียบกับลำต้นไม้ใหญ่ส่งให้ตัวเองกระโดดขึ้นสูงและปามีดสั้นเข้าใส่สิ่งมีชีวิตพิลึกพิลั่นตัวนั้น ด้วยความว่องไวของอสุรกายที่ผสมผสานส่วนต่าง ๆ ของแพะ สิงโต และงูอย่างลงตัว มันเคลื่อนหลบพร้อมเงยหน้าขึ้นคำรามกึกก้อง ปล่อยลมหายใจร้อนกรุ่นที่แทรกมาด้วยเปลวเพลิงให้พวยพุ่งเข้าหาเธอราวกับปืนไฟที่จ่อเป้าเล็งเอาไว้แล้ว

‘ คิดสิเดนิสต้า ’

หอกฮาลต้าสะบั้นไฟเหล่านั้นทิ้งอย่างไร้เยื่อใย ไม่มีการถนอมน้ำใจหรือไว้ไมตรี ดวงตาเรียวเฉี่ยวหรี่ลงอย่างระมัดระวังตรงข้ามกับความเย่อหยิ่งถือดีของอสุรกายที่แฝงประกายชัดเจนในแววตา เดนิสต้าไม่ใช่สุภาพสตรีไร้เดียงสา หรือครึ่งเทพที่แค่ฝึกฝนกำลังแต่ไม่ใส่ใจปัญญา ถึงจะไม่แน่ใจช่วงเวลาที่ชัดเจนแต่เธอพบว่าในส่วนลึกของความทรงจำมีช่วงเวลาที่เธอเคยค้นคว้าอย่างหนักเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ ‘ เมื่อไหร่นะ.. ทำไมถึง— อึก ’ ห้วงความคิดของเธอถูกขัดด้วยการเข้าประชิดตัวของอสุรกายระดับ S Class ที่มาโดยไร้สุ้มเสียง

ไม่มีที่ยืนให้กับนักรบที่เสียสมาธิในการต่อสู้ กรงเล็บของไคเมร่าตวัดเข้าใกล้ตัวในระยะเผาขน ดวงตาของสาวครึ่งเทพเบิกกว้างเธอรีบดึงตัวเองให้เอนไปด้านหลังหลบการโจมตีในเสี้ยววิ แต่ก็ไม่พ้นรับลมหายใจเพลิงที่ถากลงกับผิวอ่อนนุ่ม ‘ บ้าเอ๊ย บ้าจริง บ้าชะมัด !! ’ หากเป็นแค่ความเจ็บปวด เดนิสต้าอาจจะยังพอทนไหว แต่นี่คือความเจ็บที่มาพร้อมกับความแสบร้อน สาวสวยที่จำใจต้องต่อกรกับอสุรกายระดับสูงอดไม่ได้ที่จะขู่ร้องในคอด้วยความหงุดหงิดเมื่อตระหนักได้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ต่างอะไรจากการวิ่งไล่จับของแมวกับหนู

แมวคือมัน หนูคือเธอ

ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่โชค และการเอาตัวรอดว่าใครจะเหนือกว่าใคร

‘ ต้องมีสักทาง คิดสิเดนิสต้า คิดเร็วเข้า ’ ทุกอย่างในสายตาเธอล้วนสิ้นหวัง ความต่างของร่างกาย ความรวดเร็ว พละกำลังไหนจะสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่เฉียบคม พวกมันมีสามหัวสามสมองช่วยกันคิดแต่เธอมีหัวเดียว ความเสี่ยงเดียว ชีวิตเดียว และร่างกายเดียว —- ไม่ใช่การต่อสู้ที่แฟร์ แต่ต่อให้หนีก็คงไม่สามารถหนีไปได้ตลอดกาล ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังศัตรู เฝ้ามองความเคยชินที่แสดงออกผ่านการเคลื่อนไหว ‘ หางงูบ้า ๆ ที่คอยปัดไปมา .. หัวแพะที่เน้นเรื่องการพ่นไฟ และหัวสิงโตคอยสอดส่อง.. เดี๋ยวนะ ’

ใบหน้าหวานราวลูกแมวจอมหยิ่งของเดนิสต้าเหลอหลาขึ้นมาทันทีที่เห็นร่างหนาใหญ่ของมันกระโจนขึ้นไปบนฟ้าและบิน ‘ บิน? บินเนี่ยนะ? ไอตัวประหลาดสามหัวที่โคตรจะหนักนั่นบินเนี่ยนะ?? เ*ี่ย สร้างมาให้ใครสู้วะเนี่ย ’ ถึงจะรู้คำตอบอยู่แก่ใจว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีไว้ให้ยอดคนปราบแต่เดนิสต้าก็อดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง ความคิดที่จะไปจนถึงค่ายเริ่มมอดดับลงทุกที

‘ ยิ่งสู้ยิ่งไม่เห็นความหวัง ฉันยอมแพ้ไปเลยดีไหมนะ ’ ความคิดชั่ววูบนี้ถูกยกให้ไปอยู่ในหมวดการตัดสินใจที่น่าลอง มาถึงตรงนี้เดนิสต้าไม่คิดว่าตัวเองมีอะไรให้เสีย พ่อของเธอหายตัวไป แม่ที่ไม่เคยพบหน้า ปริศนาชีวิตที่ต้องไขเพื่อให้ได้พบกับอุปสรรคที่อันตรายยิ่งกว่าวันนี้ สุดท้ายแล้วนั่นคือสิ่งที่เด็กสาวคนหนึ่งควรเผชิญ— ไม่สิ .. นั่นคือสิ่งที่เด็กทุกคนควรได้เผชิญจริงเหรอ?

คำตอบคือ ไม่

เดนิสต้าไม่คิดว่าเธอจะสามารถชินกับมันได้ ไม่มีทางได้และไม่มีวัน , การตายด้วยน้ำมือไคเมร่าอย่างน้อยก็ฟังดูดีกว่าตายด้วยมือของฮาร์ปี้หรือก็อปลิน มันเป็นสัตว์ที่ทรงพลัง คู่ควรแก่การเป็นสาเหตุการเสียชีวิตแม้ว่าจะไม่มีใครสนใจที่จะจดจำก็ตาม ทว่า.. หากสุดท้ายจะต้องจมลงในกองเพลิงจนมอดมลาย เหตุใดจะต้องนิ่งเฉยและปล่อยให้เพลิงนั้นแผดเผาโดยไม่มีการสนองคืน?

‘ Hell, Nah ’

เป็นความคิดที่บ้า เป็นการตัดสินใจที่เอาแต่ตัวเอง —- เดนิสต้าจะไม่บอกว่าเธอคิดได้ถูกต้องแต่นี่เป็นชีวิตของเธอ การตัดสินใจขึ้นอยู่ที่เธอ สาวครึ่งเทพที่ปะทะกับเรี่ยวแรงเหนือมนุษย์ของไคเมร่าเซถลาไปด้านหลัง ปลายหอกในมือปักลงกับพื้นยึดไม่ให้ตัวเองล้มจนเสียโอกาสตอบโต้ ด้วยพละกำลังและความหวังเฮือกสุดท้าย เธอผลักตัวเองมุ่งหน้าเข้าไปหาไคเมร่า ดวงตาสิงโตเบิกกว้าง หางที่มีลักษณะเป็นหัวงูตวัดมาในทิศทางเดียวกันพร้อมอ้าปากเตรียมพ่นหนามพิษปลิดชีวิตผู้ที่กล้าต่อกร

ด้วยการอาศัยแรงผลักจากปลายหอก อ้างอิงการเคลื่อนไหวของนักกระโดดสูง ร่างบางที่ลอยขึ้นเหนืออากาศรีบพลิกหอกลงมาและทิ้งตัวแทงกลางศีรษะของอสรพิษร้ายอย่างแรงจนส่วนหัวที่สามารถพ่นผิดได้ถูกตรึงไว้กับพื้น กลิ่นคาวเลือดและเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดกระแทกเข้ากับโสตประสาทการรับรู้ของเดนิสต้าอย่างรุนแรง แต่สิ่งเหล่านั้นไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว .. ไม่ ไม่เลยสักนิด ขาเรียวที่ดูไร้เรี่ยวแรงเหยียบลงบนหัวสิงโต มีดสั้นที่สมควรจะเป็นอาวุธไร้พิษสงเฉือนตัดเส้นเอ็นหลังศีรษะของแพะจนใบหน้ามันห้อยต่องแต่ง

ดวงตาของเดนิสต้าพร่าไปด้วยม่านน้ำบาง ๆ ที่ไม่รู้ว่ารวบรวมมาจากที่ไหน มีดของเธอทิ่มแทงบนแผ่นหลังของอสุรกายสามหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่สนว่าลมหายใจสุดท้ายของมันอาจจะผ่านไปแล้ว เธออยู่ตรงนั้น บนลำตัวของสิ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่าอันตรายที่สุด ปล่อยให้อะดรีนาลีนเข้าครอบงำจนใจเต้นระส่ำ สองมือกำแน่นจนข้อนิ้วขึ้นเป็นสีขาวจวบจนร่างของมันแหลกสลายกลายเป็นผงสีทองอร่าม

ราวกับว่าได้จากไปอย่างสงบ.. สงบจนน่าอิจฉา

ด้วยเนื้อตัวที่มีบาดแผล ตามเสื้อผ้ามีรอยไหม้ และยังไม่รวมกับหยดเลือดที่สาดกระเซ็น เดนิสต้านั่งอยู่ตรงนั้น ในพื้นที่ว่างเปล่าไร้ผู้คนที่เธอยังพอจะได้ยินเสียงรถจากที่ไกล ๆ อาวุธร่วงลงกับพื้นส่งเป็นเสียงเกร๊งเบา ๆ .. สายตาของเธอจ้องมองไปที่มือของตัวเอง ทีละน้อยเธอค่อย ๆ ยกมือขึ้นบังดวงตาเพื่อปกปิดบางสิ่ง

“ บ้าเอ๊ย.. ”

คล้ายว่าความผิดหวังได้กัดกินหัวใจของเธอไปแล้ว แม้ว่าจะมีชื่อว่าเป็นผู้รอดชีวิต เธอไม่คาดหวังแล้ว.. ไม่มีความปรารถนากับชีวิต ทว่าโชคชะตาก็ยังเล่นตลก ภายใต้เสียงหัวเราะในดินแดนเงียบงันอันมีนามว่าจิตใจ ท้ายที่สุดเปลือกนอกที่บอบช้ำก็ยังต้องหลั่งน้ำตาให้กับความสับสนในช่วงวันอันแสนอบอุ่น



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : ห่างจากอุโมงค์ไม่เกิน 5 นาที
ศัตรูภายในบททดสอบตัวที่สาม : ไคเมร่า | ผลการประลอง : ชนะ
รางวัลพิชิตครั้งแรก : +2 ตื่นรู้
สินสงคราม : เกล็ดงู (เลขไบต์ 0-3) / เขี้ยวสิงโต (เลขไบต์ 4-6) / ขนแพะ (เลขไบต์ 7-9)
(LUK 80+ จะได้รับจำนวนเพิ่มขึ้นตามเลขไบต์รองสุดท้าย)




แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 30157 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-12-28 17:00
โพสต์ 30,157 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความกล้า จาก หอกฮาลต้า  โพสต์ 2024-12-28 17:00
โพสต์ 30,157 ไบต์และได้รับ +5 ความกล้า จาก โล่อัสพิส  โพสต์ 2024-12-28 17:00
โพสต์ 30,157 ไบต์และได้รับ +5 EXP +12 ความศรัทธา จาก กล่องสรวงสวาท   โพสต์ 2024-12-28 17:00
โพสต์ 30,157 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +6 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-12-28 17:00

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
โพสต์ 2024-12-28 19:40:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nereza เมื่อ 2024-12-28 19:41




มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด ตลอดการเดินทางนี้ฉันมีความสุขที่ได้พบกับคนมากมายสารพัดเรื่องราวแต่ถึงอย่างนั้นการมีอยู่ของสิ่งที่ไม่ควรจะมีก็ยังตามหลอกหลอนฉัน มันเป็นฝันร้ายทั้งที่ยังลืมตา เป็นชีวิตที่หลบหนีไม่ได้แม้จะอยากก็ตาม .. หลายคนบอกว่าชีวิตที่แตกต่างคือพร แต่หลังจากที่ฉันประสบมาด้วยตัวเอง ไม่ มันคือคำสาป , คำสาปที่ทำให้เราคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเส้นทางนี้ถูกต้องไหม และเราทำได้จริงหรือเปล่า หลังจากพิชิตไคเมร่า ฉันก็ไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่คืออะไร ความภาคภูมิใจมีไหม? ก็มี แต่.. ในอนาคตฉันยังต้องเจอที่มากกว่านี้ใช่ไหม? พอคิดขึ้นมาได้แบบนี้ เส้นทางข้างหน้าก็บีบแคบจนน่าอึดอัดไปหมด

ถ้าเกิดว่านี่เป็นฝันร้าย อย่างน้อยก็ขอให้ฉันตื่นขึ้นมาในชีวิตที่สงบสุข ไม่จำเป็นต้องฝ่าฝันเพื่อเอาชีวิตรอด

เพราะยังไงโลกนี้ก็ไม่เคยใจดีตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว


หน้าสุดท้ายของบันทึกจบลงด้วยความในใจที่หลบซ่อนมาตลอดการเดินทาง เพื่อเผชิญหน้ากับตัวเอง เดนิสต้าพบว่าการเขียนบันทึกก็เหมือนจะมีประโยชน์ขึ้นมาเล็กน้อยแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ยุ่งยากก็ตาม ด้วยร่างกายที่ไม่ได้สะอาดวิ้งวับ เธอจำเป็นต้องล้มเลิกความคิดที่จะไปปรากฏตัวหน้าอุโมงค์ด้วยสภาพสวยสดงดงาม ‘ ไม่ตายก็เก่งแล้ว ’ เธอแบกร่างที่บอบช้ำไปตามทางเดิน

ผ่านรถคันแล้วคันเล่าที่ขับเลยเธอไป รวมไปถึงสี่แยกที่เธอตัดสินใจวิ่งลงจากรถของอเล็กซานเดอร์

แน่นอน กระบะคันนั้นไม่อ—- What??

รถเก่า ๆ ใกล้พังที่ยังถูกใช้อย่างถนอมของอเล็กซานเดอร์จอดอยู่ที่ลานจอดรถของร้านอาหารฟาสฟู้ตด์บริเวณสี่แยก ส่วนตัวเจ้าของรถก็นั่งทำหน้าทมึงอยู่บนเคาน์เตอร์ชิดกระจก สองตาของเขาจับจ้องถนนราวกับกำลังตามหาใครบางคน เดนิสต้าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เสียงหัวเราะเบา ๆ ลอดออกมาจากริมฝีปากแต่กลับก้องกังวานสะท้านไปทั้งหัวใจ เธอพลิกตัวเข้าไปหลบหลังป้ายโฆษณาเบอร์เกอร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านฟาสฟู้ตด์ก่อนจะทรุดตัวนั่งอย่างอ่อนแรง

‘ ก็น่ารักเหมือนกันนี่นา ’ รอยยิ้มจนใจแต้มลงบนใบหน้าหวาน นึกไม่ถึงเลยว่าความดื้อรั้นกึ่งรับผิดชอบของชายคนนั้นจะมีมุมที่น่าชื่นชม ดังนั้นด้วยการตัดสินใจครั้งสุดท้าย เดนิสต้ายกมือขึ้นช้า ๆ เฝ้าคอยการมาถึงของบางสิ่งที่เป็นมิตรและกำลังใกล้เข้ามา

เสียงกระพือปีกดังขึ้นเหนือศีรษะ พิราบสีขาวบริสุทธิ์ตัวเล็กจ้อยโผลงมาเกาะบนมือนุ่ม ดวงตากลมเข้มของมันสบกับนัยน์ตาสีฟ้าหม่นอย่างเคารพ หนึ่งในความสามารถพิเศษที่เดนิสต้ายังไม่เข้าใจวิธีการทำงานของมัน ดูเหมือนว่าเธอจะสามารถสื่อสารกับสัตว์บางชนิดได้ ย้ำว่าบางชนิด “ ฉันรบกวนเธอสักเรื่องได้หรือเปล่า? ” เดนิสต้าฉีกกระดาษหน้าที่ว่างของบันทึกออกมา เธอใช้ปากกาเขียนข้อความสั้น ๆ ตามความคิดและอารมณ์ในขณะนั้นก่อนจะพับจนเรียบร้อยแล้วยื่นไปให้พิราบขาวได้ใช้จะงอยปากคาบไว้

“ ฝากส่งให้กับคุณชายหน้าบูดที่อยู่ตรงข้ามทีนะ ”

เมื่อพูดจบ เจ้าตัวน้อยก็กระพือปีกบินขึ้นเหนือมือของเดนิสต้าเล็กน้อย สาวครึ่งเทพหยักยิ้มอย่างอ่อนโยน ปลายนิ้วของเธอลูบบนเส้นขนนกนุ่ม ๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยให้มันบินร่อนไปส่งจดหมายสวนทางกับเธอที่กระชับเสื้อคลุมเดินแฝงหายไปกับฝูงชนที่มีอยู่บ้างประปรายเพื่อไปยังอุโมงค์อันเป็นสถานที่สุดท้าย

ถึง อเล็กซานเดอร์ ><

คุณจะเป็นสารถีคนโปรด คุณลุงสุดเห่ย และชายเจ้าชู้ในความทรงจำของฉันตลอดกาล

ด้วยรัก(และไม่ชอบ), เดนิสต้า

เธอเชื่อว่าเขาจะชอบมัน จดหมายไร้สาระที่ไม่มีความทราบซึ้งใด ๆ นอกจากกวนประสาท เสียงหัวเราะคิกคักของหญิงสาวยังคงดังแผ่วเบาไปตลอดทางจวบจนสายตาพบเข้ากับความโอ่อ่าอลังกาลของอุโมงค์ที่รอต้อนรับมาตลอดหลายปี

‘ บ๊ายบาย บันทึกที่รัก แล้วก็—- สวัสดี ค่ายจูปิเตอร์ ’



ตัวอักษรเอียง = เนื้อหาที่ถูกเขียนในรูปแบบบันทึก
ความคืบหน้า : ถึงอุโมงค์
รางวัลผ่านบททดสอบไปถึงอุโมงค์คัลลีคอตต์:
+100 พลังใจ , 35 ดีนาเรียส และ อาหารเทพ 1 แท่ง +50 EXP ,
+1 Level up ความโปรดปรานจากจูโน่+35 แต้ม

รางวัลพิเศษ: +โดยมีผลตอบรับรางวัลพิเศษ +2 ตื่นรู้ และ +5 Point ความโปรดปรานจากลูปา+จูโน่+20
( ในฐานะ BELIEVER มีโบนัสอะไรไหมฮะ )




แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-29] ลูปา เพิ่มขึ้น 20 โพสต์ 2024-12-28 19:48
God
BELIEVER เลือก 1 เทพ ดังนั้นสุ่ม ได้จูโน่ สุ่มแทน---)   โพสต์ 2024-12-28 19:48
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-05-2] จูโน่ เพิ่มขึ้น 15 โพสต์ 2024-12-28 19:48
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-05-2] จูโน่ เพิ่มขึ้น 55 โพสต์ 2024-12-28 19:47
God
คุณได้รับ 150 EXP โพสต์ 2024-12-28 19:47

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +100 เหรียญดีนาเรียส +35 ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 100 + 35 + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
สร้อยนำโชคจากไทสัน
คัมภีร์เอาชีวิตรอด(เอลล่า)
ประสาทสัมผัสดีขึ้น
แปลงร่าง
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
หอกฮาลต้า
โล่อัสพิส
กล่องสรวงสวาท
เกราะหนัง
Daedalus's Legacy
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับความรัก
สัญชาตญาณแห่งรัก
ทักษะมีดสั้น
ต่างหูเงิน
หอมเย้ายวน
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
มีดสั้นสัมฤทธิ์
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x6
x5
x5
x5
x8
x1
x1
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x10
x2
x1
x5
x1
x1
x1
x20
x1
x1
x2
x7
x1
x3
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้