Honoring Ellis Wakefield: Legacy of a Warrior

ท่ามกลางความมืดมิดแห่งวันเหมายัน ยามที่พลังแห่งเทพโอลิมเปียนอ่อนล้าลงถึงขีดสุด
 ภัยร้ายก็บังเกิดขึ้น ณ ค่ายฮาล์ฟบลัด กองทัพอสุรกายนำโดยเทพเจ้าแห่งเล่ห์กล โลกิ บุกโจมตีหมายชิงขนแกะทองคำ
 เสียงคำราม เสียงโลหะกระทบกันและเสียงร้องโหยหวน ดังกึกก้องไปทั่วผืนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์
 เลือดของเหล่าวีรบุรุษ หลั่งรินดุจสายธาร ท่ามกลางความโกลาหล เอลลิส เวคฟิลด์ บุตรแห่งเทพสงครามแอรีส
ได้ยืนหยัดต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าเดมิกอด เขาคือเปลวเพลิงที่ลุกโชน ท้าทายความมืดมิด ดาบในมือของเขา
 ฟาดฟันเหล่าอสุรกาย ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ แม้จะถูกมองว่าเป็นคนมุทะลุ แต่ในยามคับขัน
 เอลลิส กลับแสดงให้เห็นถึงไหวพริบและความเฉลียวฉลาด เขาต่อสู้ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ เพื่อปกป้องมิตรสหาย

แม้แต่เทพีเบลโลน่า (ด้วยนางอยู่กรุงโรมไม่มีอะไรทำ เพราะเหล่าเทพส่วนใหญ่อยู่ในบุคลิกภาคกรีกเสียหมด) ผู้ซึ่งอ่อนกำลังลงอย่างมากในวันเหมายัน ก็ยังปรากฎกายขึ้นเพื่อช่วยเหลือเหล่าเดมิกอด
นางมอบพลังให้ ควินตัส แอนเดอร์สัน บุตรแห่งเทพีอาร์คัส
 และเอลลิส สามารถต่อกรกับเทพโลกิได้ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด
 เอลลิสต่อสู้ด้วยความห้าวหาญ เขาได้เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้อง

 ชาวค่ายฮาล์ฟบลัดจากเล่ห์กลอันแยบยลของโลกิ ในที่สุดโลกิก็ถูกขับไล่ไปได้ 

เอลลิส เวคฟิลด์ วีรบุรุษผู้กล้าหาญ สิ้นลมหายใจลง ท่ามกลางความโศกเศร้าของเหล่ามิตรสหาย
 เขาจากไปอย่างมีเกียรติ สมกับเป็นบุตรแห่งเทพสงคราม วันนี้ เราได้สูญเสียเอลลิสไปอย่างไม่มีวันกลับ
 แต่วีรกรรมของเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์แห่งค่ายฮาล์ฟบลัด เป็นตำนานเล่าขานสืบไป

เอลลิส ผู้ซึ่งความรักที่มีต่อ อลิเซีย เคอร์เนอตี้ เปรียบดั่งดวงดาวที่ส่องสว่าง นำทางให้เขาก้าวเดิน
 จิตวิญญาณอันห้าวหาญของเขาจะคงอยู่เคียงข้างค่ายฮาล์ฟบลัดตลอดกาล

22 ธันวาคม 2024 เวลา 00.35 น.
 วันแห่งความโศกเศร้า แต่วันนี้ ชื่อของ เอลลิส เวคฟิลด์ จะถูกจารึกไว้ในดวงใจของเราตลอดไป...

 แต่ชัยชนะครั้งนี้ ต้องแลกมาด้วยความสูญเสียอันใหญ่หลวง

 (ไม่สามารถย้อนหลังแบบได้รางวัล แต่ย้อนหลังแบบไม่ได้รางวัลได้)

ก่อนวันที่ 29 ธันวาคม 2024

- เขียนโรลเพลย์ได้ยินข่าวการเสียชีวิตของเอลลิสเสียชีวิต +15 EXP
- ช่วงระหว่างนี้สามารถแวะมาเคารพศพเอลลิสที่ตั้งโลงอยู่บริเวณใกล้กองไฟเฮสเทีย
โบนัส: +10 EXP (แวะมาได้ 4 วัน)

กำหนดการพิธีไว้อาลัย เอลลิส เวคฟิลด์
(ย้อนหลังเวลาภายในวันนั้นได้ หรือลงก่อนเวลาได้ ถ้าไม่มีอะไรทำแล้ว)

วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2024
ระยะเวลาสำหรับเขียนโรลเพลย์(ได้รางวัล): 29-31 ธันวาคมตลอดทั้งวัน 2024 

เวลา 16:00 - 18:00 น.

16:00 - 16:15 น.

พิธีกรกล่าวเปิดงาน
- คำกล่าวเปิดงานคุณดี

Spoiler: คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดี เหล่าสหายแห่งค่ายฮาล์ฟบลัด...

วันนี้ เราทุกคนมาอยู่ร่วมกัน ณ ที่แห่งนี้ ด้วยหัวใจที่หนักอึ้งและความรู้สึกโศกเศร้า
เพื่อร่วมส่งดวงวิญญาณของวีรบุรุษผู้กล้าหาญ เอลลิส เวคฟิลด์ สู่ทุ่งเอลลิเซียม

เอลลิส... (คุณดีเว้นวรรคเล็กน้อย เสียงสั่นเครือ) เขาเป็นมากกว่าแค่เพื่อน เขาเป็นเหมือนพี่น้อง เป็นครอบครัวของเรา 
เขาคือผู้ที่คอยอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าจะยามสุขหรือยามทุกข์

(คุณดีมองไปยังผู้คนรอบข้าง เสียงนุ่มทุ้ม)

พวกเราคงจำได้ดีถึงรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความอบอุ่นที่เอลลิสมอบให้ เขาเป็นคนจริงใจ
ตรงไปตรงมา และไม่เคยลังเลที่จะช่วยเหลือผู้อื่น

(เสียงสะอื้นดังขึ้นเบาๆ จากผู้ร่วมพิธี  คุณดียกมือขึ้นเล็กน้อย  เป็นเชิงปลอบประโลม)

ความทรงจำเกี่ยวกับเอลลิส ยังคงสดใสอยู่ในใจของเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนร่วมกัน การผจญภัยในภารกิจต่าง ๆ 
หรือแม้แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขที่เราได้ใช้ร่วมกัน

(คุณดีสูดหายใจลึก  ก่อนจะกล่าวต่อ)

เอลลิส เขาคือแบบอย่างของวีรบุรุษ ผู้กล้าหาญ เสียสละและจงรักภักดี เขาจากไปอย่างมีเกียรติ
 ทิ้งไว้เพียงความทรงจำอันงดงามและวีรกรรมที่ไม่มีวันลืมเลือน

วันนี้ แม้ร่างกายของเขาจะจากไป แต่จิตวิญญาณของเอลลิสจะยังคงอยู่กับพวกเราตลอดไป

ขอให้การเดินทางของเอลลิสเอลลิเซียมของเขาเป็นไปอย่างสงบสุข...

(คุณดีโค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินลงจากแท่น ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมไปทั่วลานพิธีครู่หนึ่ง)

- คำกล่าวเปิดงานคุณไครอน

Spoiler: คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันนี้เป็นวันที่น่าโศกเศร้าที่สุดวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของค่ายฮาล์ฟบลัด เราได้สูญเสียบุตรแห่งแอรีสผู้กล้าหาญ
เอลลิส เวคฟิลด์ ไปอย่างไม่มีวันกลับ 

เอลลิส...  (ไครอนเว้นวรรคเสียงสั่นเครือ) เขาเป็นนักรบผู้กล้าหาญ เป็นดั่งเปลวเพลิงที่ลุกโชน 
เป็นดั่งคมดาบที่เฉียบคม เขาไม่เคยหวั่นเกรงต่ออันตรายใด ๆ และพร้อมเสมอที่จะปกป้องมิตรสหาย

ข้าจำได้ดีถึงวันที่เอลลิสเข้ามาที่ค่ายแห่งนี้เป็นครั้งแรก (ไครอนมองไปยังท้องฟ้าราวกับกำลังนึกถึงภาพในอดีต)
แม้เขาจะดูเป็นเด็กหนุ่มที่มุทะลุ ใจร้อน แต่ข้าก็สัมผัสได้ถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่ซ่อนอยู่ภายใน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เอลลิสได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า เขาคู่ควรกับการเป็นวีรบุรุษแห่งค่ายฮาล์ฟบลัด
เขาต่อสู้กับเหล่าอสุรกาย ปกป้องผู้บริสุทธิ์และไม่เคยย่อท้อต่อความยากลำบากใดๆ

แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต เอลลิสก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเสียสละ
เขาได้พลีชีพเพื่อปกป้องมิตรสหายจากเล่ห์กลอันแยบยลของเทพโลกิ (ไครอนกำหมัดแน่น เสียงเครียดขรึม)

การจากไปของเอลลิส เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเรา แต่จิตวิญญาณแห่งวีรบุรุษของเขา
จะยังคงสถิตอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป

วันนี้ เราจะมาร่วมกันรำลึกถึงวีรกรรมของเอลลิสและส่งดวงวิญญาณของเขาสู่ทุ่งเอลลิเซียม

ขอให้เอลลิส จงไปสู่สุคติ...

- คณะผู้คนที่มาร่วมไว้อาลัยยืนสงบนิ่ง 1 นาที

ก่อนบ้านอะพอลโลเพียงคนเดียวทั้งค่ายและมีรุ่นพี่มาช่วยเริ่ม บรรเลงเพลงไว้อาลัย
(เพลง The Last of the Mohicans โดย Trevor Jones)
ก่อนคณะผู้มาร่วมงานร้องเพลงตาม

16:15 - 16:30 น.

ฉายภาพชีวประวัติและวีรกรรมของเอลลิส เวคฟิลด์ (บรรยายโดย ไครอน)

ฉายภาพวีดีทัศน์รำลึกถึงเอลลิส

Spoiler: คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ชีวประวัติและวีรกรรม

จุดเริ่มต้น:

- เอลลิส เวคฟิลด์ เกิดในเวลส์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2007

- เขาใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างยากลำบาก ถูกมองว่าเป็นเด็กก้าวร้าว มีปัญหาและมักมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่น

- พลังแห่งเดมิกอดเริ่มปรากฏ เมื่อเอลลิสอายุได้ 12 ปี เขาถูกสัตว์ประหลาด "เฮลฮาวด์" โจมตี
แต่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจาก "แซทเทอร์"
และเดินทางมาถึงค่ายฮาล์ฟบลัด

ชีวิตในค่ายฮาล์ฟบลัด:

- เอลลิสเข้าร่วมกระท่อมของแอรีสและฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อควบคุมพลังและเรียนรู้การต่อสู้

- เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักรบผู้กล้าหาญและเชี่ยวชาญการต่อสู้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ดาบ หอก ธนู
หรือแม้แต่การต่อสู้มือเปล่า

- แม้จะดูเป็นคนมุทะลุ แต่เอลลิส ก็มีความเฉลียวฉลาดและมีไหวพริบในการต่อสู้

- เขาเป็นที่รักของเพื่อน ๆ และได้รับความเคารพจากเหล่าพี่น้องร่วมกระท่อม

วีรกรรม:

- ภารกิจตามหา "ดาบแห่งเซอร์ซี" (2020): เอลลิส ร่วมกับเพื่อน ๆ เดินทางไปยังเกาะ "เอีย" เพื่อตามหาดาบวิเศษ เขาต่อสู้กับเหล่า "เลสทริโกเนียน" อย่างกล้าหาญ และมีส่วนสำคัญในการนำดาบกลับมายังค่ายฮาล์ฟบลัด

- การต่อสู้กับ "โทรลแห่งเหมือง" (2021): เอลลิส และเพื่อน ๆ ช่วยเหลือชาวเมือง "เดนเวอร์" จากการโจมตีของโทรล
(มนุษย์เห็นพวกมันเป็นกลุ่มก่อการร้าย) เขาใช้ความสามารถในการต่อสู้และไหวพริบ หลอกล่อโทรลให้ตกลงไปในเหวลึก

- การปกป้องค่ายจาก "อสุรกายปลาหมึกยักษ์" (2022): เอลลิส เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการต่อสู้กับอสุรกายปลาหมึกยักษ์ที่บุกโจมตีค่ายฮาล์ฟบลัด เขาใช้ทักษะการยิงธนู สังหารอสุรกายปลาหมึกยักษ์และช่วยปกป้องค่ายไว้ได้

วีรกรรมสุดท้าย:

การต่อสู้กับโลกิในวันเหมายัน (21 ธันวาคม 2024): ในวันที่พลังของเทพเจ้าอ่อนแอที่สุด
โลกิ ได้บุกโจมตีค่ายฮาล์ฟบลัด หมายจะชิงขนแกะทองคำ เอลลิสต่อสู้กับเหล่าอสุรกายอย่างกล้าหาญ
และร่วมมือกับ ควินตัส แอนเดอร์สัน บุตรแห่งอาร์คัส เทพีโรมัน ต่อกรกับโลกิ
แม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เอลลิสก็สามารถปกป้องเพื่อนชาวค่ายฮาล์ฟบลัดจากการโจมตีหลอกล่อของโลกิ
ที่หมายจะหนี และสละชีวิตของตนเอง เพื่อให้เพื่อนๆ ของเขามีชีวิตรอด

เกียรติประวัติ:

เอลลิส ได้รับเหรียญกล้าหาญจากค่ายฮาล์ฟบลัด ถึง 3 ครั้ง จากวีรกรรมอันโดดเด่น

เขาเป็นที่รักและเป็นที่เคารพของเหล่าเดมิกอด และครูฝึก

ชื่อของเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของค่ายฮาล์ฟบลัด ในฐานะวีรบุรุษผู้กล้าหาญและเสียสละ

ข้อมูลเพิ่มเติม:

- เอลลิส มีความรักกับ อลิเซีย เคอร์เนอตี้ ธิดาแห่งอะโฟร์ไดต์

16:30 - 17:00 น.

- กล่าวคำไว้อาลัยจากแอรีส

Spoiler: คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(เสียงดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่า  เทพแอรีสในชุดเกราะสีบรอนซ์ ปรากฏตัวขึ้นกลางลานพิธี ดวงตาแดงก่ำ
จ้องมองไปยังรูปถ่ายของเอลลิส ด้วยแววตาโศกเศร้า)

เอลลิส! ลูกชายของข้า! (เสียงคำรามของแอรีสทำให้ผู้คนสะดุ้ง)

เจ้าทำให้ข้าภูมิใจ! (แอรีสทุบกำปั้นลงบนหน้าอกตนเองเสียงดังสนั่น)
เจ้าได้ต่อสู้เยี่ยงวีรบุรุษ เจ้ากล้าหาญและไม่เคยย่อท้อ! สมเป็นบุตรแห่งข้า!

ข้า...  ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาสูญเสียเจ้าไปแบบนี้ (เสียงของแอรีสแผ่วลง) 
ข้า... ข้าอยากจะปกป้องเจ้าจากอันตรายทั้งปวง แต่ข้า... ข้าทำไม่ได้...

(แอรีสหันหน้าไปทางผู้คน ก่อนเสียงจะกลับมาดังก้องอีกครั้ง)

พวกเจ้าจงฟังข้า! เอลลิสคือแบบอย่างของนักรบที่แท้จริง! เขาคือความกล้าหาญ! ความเสียสละ!
และเกียรติยศของเหล่าบุตรแห่งแอรีส!

(แอรีสมองไปยังรูปถ่ายของเอลลิสอีกครั้ง น้ำตาไหลอาบแก้ม)

เอลลิส...  ลูกชายของข้า... ข้าจะจดจำเจ้าไว้ตลอดไป...
วีรกรรมของเจ้าจะถูกเล่าขานไปชั่วกาลนาน...

(แอรีสหายวับไปทิ้งไว้เพียงเสียงสะอื้นไห้ของเหล่าผู้ร่วมไว้อาลัย)

- กล่าวคำไว้อาลัยจาก อลิเซีย เคอร์เนอตี้ (หากกลับมาทัน ถ้าไม่ทันข้าม)

Spoiler: คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(อลิเซีย ก้าวขึ้นบนแท่นอย่างเชื่องช้า ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาแดงก่ำ มือบางกำสร้อยข้อมือเงินที่เอลลิสมอบให้แน่น)

เอลลิส...  (เสียงของเธอสั่นเครือแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่) ฉัน... ฉันไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี...

(เธอมองไปยังรูปถ่ายของเอลลิสที่ตั้งอยู่กลางลานพิธี ความทรงจำมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในหัว)

ครั้งแรกที่เราเจอกัน... ฉันยังจำได้ดี (อลิเซียยิ้มทั้งน้ำตา) นายดูเหมือนลูกหมาป่าตัวน้อยที่พยายามทำตัวแข็งกร้าว 
แต่ ๆ แล้ว นายอ่อนโยนกว่าใคร ๆ เลย เราผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย
เอลลิส  (เสียงของเธอเริ่มหนักแน่นขึ้น) การฝึกฝน การต่อสู้ การผจญภัย ทุกช่วงเวลาล้วนมีค่าและฉันจะไม่มีวันลืม

นายสอนให้ฉันเข้มแข็ง สอนให้ฉันกล้าหาญ และสอนให้ฉันรู้จักรักแท้ (อลิเซียมองไปยังสร้อยข้อมือที่เธอสวมอยู่)
นายคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน เอลลิส

แต่แล้ว...  วันที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาถึง (น้ำตาของเธอ ไหลรินอาบแก้ม) วันที่ฉันต้องสูญเสียนายไปตลอดกาล

ฉันเสียใจเอลลิส (เสียงของเธอสั่นไหว) ฉันเสียใจที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างนายในวินาทีสุดท้าย ฉันเสียใจที่ไม่ได้บอกลา

แต่ฉันรู้ว่านายจะอยู่ในใจฉันเสมอ (อลิเซียมองขึ้นไปบนฟ้า) ความรักของเราจะไม่มีวันจางหาย

เอลลิส... ฉันรักนาย... หลับให้สบายนะ... วีรบุรุษของฉัน...

(อลิเซียก้มลงวางดอกไม้สีขาวหน้ารูปถ่ายของเอลลิส ก่อนจะเดินลงจากแท่น ท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้ของผู้คน)

- กล่าวคำไว้อาลัยจากชาวค่าย (Member)
** ให้ใส่แท็กโรลเพลย์ของคนก่อนหน้าด้วย มีคนไว้อาลัยกี่คนก็ใส่ตามจำนวนนั้น
ให้รู้ว่าก่อนโรลเรามีใครเดินขึ้นก่อนเรา **
(คนที่ไว้อาลัยได้รับโบนัส: หินแห่งกำลัง 1 ก้อน และ +20 EXP และ +50 เกียรติยศ)

17:00 - 17:30 น.

- พิธีวางพวงหรีด

- พิธีจุดคบเพลิง
- คุณสามารถเดินนำของที่ต้องการมอบให้เอลลิสไปใส่กองไฟได้ (ส่งของขวัญมาไอดี God)

ชาวค่ายที่ร่วมพิธีทุกคนร่วมกันขับขานเพลง
(เพลง My Immortal โดย Evanescence)

17:30 - 18:00 น.

- พิธีกรกล่าวปิดงาน โดยไครอน

Spoiler: คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(ไครอนยืนสงบนิ่งอยู่หน้าแท่นพิธี สายตาจับจ้องไปยังเปลวไฟจากคบเพลิงที่ลุกโชติช่วง ท่ามกลางความเงียบสงัด
เขาสูดหายใจลึก ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น)

เหล่าเดมิกอตทั้งหลาย...

แม้เอลลิสจะได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ความทรงจำและวีรกรรมของเขา
จะยังคงส่องสว่างอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป

(ไครอนมองไปยังผู้คนรอบข้างด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง)

วันนี้ เราได้มาร่วมกันรำลึกถึงชีวิตและเกียรติประวัติของเอลลิส เราได้ยินเรื่องราวมากมาย
ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ ความเสียสละและความรักที่เขามีต่อค่ายฮาล์ฟบลัดและเพื่อนๆ ทุกคน

เอลลิส อาจจะไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว แต่จิตวิญญาณของเขาจะยังคงสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ เคียงข้างพวกเรา
คอยเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางแห่งวีรบุรุษ

(ไครอนมองไปยังคบเพลิงอีกครั้ง เปลวไฟลุกโชติช่วงสว่างไสว ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของเอลลิสที่ยังคงอยู่)

จงอย่าลืม เอลลิส เวคฟิลด์ วีรบุรุษผู้กล้าหาญ ผู้ซึ่งสละชีวิตเพื่อปกป้องพวกเรา
จงจดจำเขาไว้ในฐานะแบบอย่างและแรงบันดาลใจในการต่อสู้เพื่อความถูกต้องและปกป้องผู้อ่อนแอ

ขอให้ดวงวิญญาณของเอลลิส จงไปสู่สุคติและขอให้พวกเราทุกคนจงเข้มแข็ง
และก้าวเดินต่อไป เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของเขา

(ไครอนโค้งคำนับพร้อมกับเสียงปรบมือและเสียงสะอื้นไห้ดังกึกก้องไปทั่วลานพิธี)

- คณะผู้ร่วมไว้อาลัยร่วมรับประทานอาหารว่าง

หมายเหตุ:

- ขอความร่วมมือแต่งกายชุดสุภาพ

- งดส่งพวงหรีด

- ที่ต้องการกล่าวคำไว้อาลัย สามารถแจ้งความจำนงต่อไครอน ณ หน้างานได้เลย

รางวัลผู้ร่วมงาน:
+100 พลังน้ำใจ / +25 EXP (คน Level Max +3 Point แทน) / +50 พลังงาน
+50 เกียรติยศ และ +50 ศรัทธา

ของขวัญไว้อาลัย: หินแห่งกำลัง 1 ก้อน