CARLOTTA
“ VENI, VIDI, VICI ”
เศษเสี้ยวชีวิต : 27 พฤศจิกายน,
ณ หุบเขาโซโนมา เวลา 06:11 PM
ถัดมาในช่วงบ่าย สองชีวิตวิ่งจ๊อกกิ้งมาจนถึงหน้าหุบเขาโซโนมา เดิมทีควรเริ่มฝึกวิ่งจากตรงนี้ แต่ด้วยความเห็นของคาร์ล็อตต้า (ที่บังคับ) ว่าจำเป็นต้องวิ่งจ๊อกกิ้งก่อนมาวิ่งเต็มแรงขาบนหุบเขานี้ เอสเตลล์จึงไม่มีทางเลือกนอกจากทำตาม
ถ้าไม่ตามมาก็แค่นอนอุตุอยู่ในห้อง แต่เธอรู้ดี คู่หูขี้เหงาคนนี้ไม่มีทางยอมถูกทิ้งไว้บนเตียงสองชั้นคนเดียวแน่
"จ..จะ ตายแล้..ว..."
เสียงของหล่อนยิ่งนานมายิ่งแผ่วลง ผู้นำทีม(สองคน)หาได้ใส่ใจไม่ สองขาของเธอยังคงลงแรงบนพื้นอย่างมั่นคงและคุมแรงไว้ได้อย่างดี ในสมองไม่ได้คิดอยู่กับช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน มันพาเธอย้อนห้วงกาลไปสู้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังพลังสายเลือดของเบลโลน่าตื่นขึ้น สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าคาร์ล็อตต้ารู้สึกได้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านในนี้ พร้อมกันนั้นมันช่วยขับส่งความแข็งแกร่งทางกายภาพในเธอมากขึ้นไปอีก
สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือทักษะในการควบคุมแรงระหว่างใช้อาวุธ ไปจนถึงดาบและโล่ต่างชนิด ที่ต่อให้เพิ่งใช้ออกด้วยแรงกายครั้งแรกก็ยังสามารถกวัดแกว่งได้อย่างชำนาญจนน่าเหลือเชื่อ
เวล็อกซ์บอกว่าวันนี้เขาจะไม่เข้าคุมการฝึกอย่างใกล้ชิด แต่จะปล่อยให้พวกเธอจัดการชีวิตอย่างอิสระ ดังนั้นเธอจึงได้บอกแผนการวิ่งสำหรับวันนี้ให้เอสเตลล์ไว้แล้ว แม้จะได้ยินเสียงคร่ำครวญไล่หลังมาเป็นระยะ แต่เจ้าของเรือนผมน้ำตาลไหม้ที่กลมกลืนไปกับสีของเปลือกไม้ในหุบเขาลึกก็ยังไม่ชะลอฝีเท้าแต่อย่างใด
ยิ่งเร่งความเร็วด้วยซ้ำ, เธอรู้ดีว่าเอสเตลล์แค่บ่นไปอย่างนั้น เอาเข้าจริง ๆ หล่อนมีกำลังเหลือล้นไม่ต่างกันเลย — ติดแค่นิสัยขี้เกียจที่ต้องช่วยกระตุ้นสักหน่อย
คาร์ล็อตต้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง หุบเขาโซโนมาแทบจะกลายปเป็นบ้านหลังที่สองอยู่แล้วหลังจากเธอมาฝึกวิ่งที่นี่ทุกวัน และชื่นชอบเหลือเกินที่จะเปลี่ยนเส้นทางไม่ซ้ำในแต่ละวัน ทั้งนี้เพื่อฝึกการจดจำเส้นทางและขัดเกลาสัญชาตญาณให้ตื่นตัวเสมอ ต้องขอบคุณคุณเวล็อกซ์ที่ช่วยชี้แนะในทุกเดือน
ดาบไม้ถูกหยิบยืมมาด้วย พวกเราพกมันไว้ติดตัวตามคำสั่งของคุณเวล็อกซ์ทุกครั้งที่ออกไปฝึกวิ่งคนเดียวเสมอ ด้วยอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นได้ตลอด สายเลือดของเดมิก็อตหรือลูกหลานโรมก็ดี สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นความกระหายอยากให้แก่อสุรกายได้ทั้งนั้น
นัยน์ดำขลับชำเลืองเห็นสัญลักษณ์ที่เธอเคยทำเอาไว้สำหรับเส้นทางนี้ ส่งสัญญาณให้เอสเตลล์ชะลอฝีเท้าเตรียมสำหรับการหยุดพักกลางทาง
"ยังไหวไหม?"
"เห็นสภาพฉันแล้วเธอยังคิดว่าไหวเหรอ!! หาาาา!??!!"
แน่นอนว่าคาร์ล็อตต้าเมินเฉยอาการโวยวายเกินพอดีไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้หล่อนทำหน้าเหมือนเป็นพระอาทิตย์ที่เตรียมระเบิดมากกว่าดวงตะวันอันสดใสเหมือนฉายา
"ถ้ายังมีแรงเหลือกะว่าจะชวนวิ่งต่อจนถึงอีกจุดพักสักหน่อย...ช่างเถอะ"
เอสเตลล์มองเธอที่ใช้เส้นเสียงราบเรียบเหมือนชวนคุยเรื่องลมฟ้าอากาศราวกับยลสัตว์ประหลาด ในแววตาแทบจะตะโกนออกมาได้อย่างชัดเจนว่านี่คือเพื่อนทรยศ คนที่ไม่เอาถ่านด้วยกันตอนเรียนหนังสือมันหายไปไหน!
"ยัยเพื่อนทรพี!"
แล้วก็ไม่คิดจะปิดบังความคิดในหัวต่อกันด้วย, คาร์ล็อตต้าหมางเมินโดยสิ้นเชิง บอกตัวเองว่าเธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ตวัดมือยกขวดน้ำขึ้นต่อริมฝีปาก —ดื่มมันเพื่อดับกระหายอย่างอารมณ์ดี
นาน ๆ ทีจะได้แกล้งให้ยัยนี่อารมณ์เสียได้, ไม่เลวเลย
หมายเหตุ :
— รางวัลการฝึกประจำวัน : ฝึกออกกำลังกาย +15 EXP / +5 คะแนน
— [ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ] ได้รับโบนัสความโปรดปราน +15
— [HONOR] : โบนัสเพิ่มความโปรดปรานทวยเทพ+25
หมายเหตุ (ooc) :
— รอคูลดาวน์แล้วจะลงโรลสู้มอน !
— Color #FF5555
ณ หุบเขาโซโนมา เวลา 06:11 PM
ถัดมาในช่วงบ่าย สองชีวิตวิ่งจ๊อกกิ้งมาจนถึงหน้าหุบเขาโซโนมา เดิมทีควรเริ่มฝึกวิ่งจากตรงนี้ แต่ด้วยความเห็นของคาร์ล็อตต้า (ที่บังคับ) ว่าจำเป็นต้องวิ่งจ๊อกกิ้งก่อนมาวิ่งเต็มแรงขาบนหุบเขานี้ เอสเตลล์จึงไม่มีทางเลือกนอกจากทำตาม
ถ้าไม่ตามมาก็แค่นอนอุตุอยู่ในห้อง แต่เธอรู้ดี คู่หูขี้เหงาคนนี้ไม่มีทางยอมถูกทิ้งไว้บนเตียงสองชั้นคนเดียวแน่
"จ..จะ ตายแล้..ว..."
เสียงของหล่อนยิ่งนานมายิ่งแผ่วลง ผู้นำทีม(สองคน)หาได้ใส่ใจไม่ สองขาของเธอยังคงลงแรงบนพื้นอย่างมั่นคงและคุมแรงไว้ได้อย่างดี ในสมองไม่ได้คิดอยู่กับช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน มันพาเธอย้อนห้วงกาลไปสู้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังพลังสายเลือดของเบลโลน่าตื่นขึ้น สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าคาร์ล็อตต้ารู้สึกได้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านในนี้ พร้อมกันนั้นมันช่วยขับส่งความแข็งแกร่งทางกายภาพในเธอมากขึ้นไปอีก
สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือทักษะในการควบคุมแรงระหว่างใช้อาวุธ ไปจนถึงดาบและโล่ต่างชนิด ที่ต่อให้เพิ่งใช้ออกด้วยแรงกายครั้งแรกก็ยังสามารถกวัดแกว่งได้อย่างชำนาญจนน่าเหลือเชื่อ
เวล็อกซ์บอกว่าวันนี้เขาจะไม่เข้าคุมการฝึกอย่างใกล้ชิด แต่จะปล่อยให้พวกเธอจัดการชีวิตอย่างอิสระ ดังนั้นเธอจึงได้บอกแผนการวิ่งสำหรับวันนี้ให้เอสเตลล์ไว้แล้ว แม้จะได้ยินเสียงคร่ำครวญไล่หลังมาเป็นระยะ แต่เจ้าของเรือนผมน้ำตาลไหม้ที่กลมกลืนไปกับสีของเปลือกไม้ในหุบเขาลึกก็ยังไม่ชะลอฝีเท้าแต่อย่างใด
ยิ่งเร่งความเร็วด้วยซ้ำ, เธอรู้ดีว่าเอสเตลล์แค่บ่นไปอย่างนั้น เอาเข้าจริง ๆ หล่อนมีกำลังเหลือล้นไม่ต่างกันเลย — ติดแค่นิสัยขี้เกียจที่ต้องช่วยกระตุ้นสักหน่อย
คาร์ล็อตต้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง หุบเขาโซโนมาแทบจะกลายปเป็นบ้านหลังที่สองอยู่แล้วหลังจากเธอมาฝึกวิ่งที่นี่ทุกวัน และชื่นชอบเหลือเกินที่จะเปลี่ยนเส้นทางไม่ซ้ำในแต่ละวัน ทั้งนี้เพื่อฝึกการจดจำเส้นทางและขัดเกลาสัญชาตญาณให้ตื่นตัวเสมอ ต้องขอบคุณคุณเวล็อกซ์ที่ช่วยชี้แนะในทุกเดือน
ดาบไม้ถูกหยิบยืมมาด้วย พวกเราพกมันไว้ติดตัวตามคำสั่งของคุณเวล็อกซ์ทุกครั้งที่ออกไปฝึกวิ่งคนเดียวเสมอ ด้วยอาจเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นได้ตลอด สายเลือดของเดมิก็อตหรือลูกหลานโรมก็ดี สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นความกระหายอยากให้แก่อสุรกายได้ทั้งนั้น
นัยน์ดำขลับชำเลืองเห็นสัญลักษณ์ที่เธอเคยทำเอาไว้สำหรับเส้นทางนี้ ส่งสัญญาณให้เอสเตลล์ชะลอฝีเท้าเตรียมสำหรับการหยุดพักกลางทาง
"ยังไหวไหม?"
"เห็นสภาพฉันแล้วเธอยังคิดว่าไหวเหรอ!! หาาาา!??!!"
แน่นอนว่าคาร์ล็อตต้าเมินเฉยอาการโวยวายเกินพอดีไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้หล่อนทำหน้าเหมือนเป็นพระอาทิตย์ที่เตรียมระเบิดมากกว่าดวงตะวันอันสดใสเหมือนฉายา
"ถ้ายังมีแรงเหลือกะว่าจะชวนวิ่งต่อจนถึงอีกจุดพักสักหน่อย...ช่างเถอะ"
เอสเตลล์มองเธอที่ใช้เส้นเสียงราบเรียบเหมือนชวนคุยเรื่องลมฟ้าอากาศราวกับยลสัตว์ประหลาด ในแววตาแทบจะตะโกนออกมาได้อย่างชัดเจนว่านี่คือเพื่อนทรยศ คนที่ไม่เอาถ่านด้วยกันตอนเรียนหนังสือมันหายไปไหน!
"ยัยเพื่อนทรพี!"
แล้วก็ไม่คิดจะปิดบังความคิดในหัวต่อกันด้วย, คาร์ล็อตต้าหมางเมินโดยสิ้นเชิง บอกตัวเองว่าเธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ตวัดมือยกขวดน้ำขึ้นต่อริมฝีปาก —ดื่มมันเพื่อดับกระหายอย่างอารมณ์ดี
นาน ๆ ทีจะได้แกล้งให้ยัยนี่อารมณ์เสียได้, ไม่เลวเลย
หมายเหตุ :
— รางวัลการฝึกประจำวัน : ฝึกออกกำลังกาย +15 EXP / +5 คะแนน
— [ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ] ได้รับโบนัสความโปรดปราน +15
— [HONOR] : โบนัสเพิ่มความโปรดปรานทวยเทพ+25
หมายเหตุ (ooc) :
— รอคูลดาวน์แล้วจะลงโรลสู้มอน !
— Color #FF5555




