12 · กันยายน · 2025 · 00.00 น.
เอสเปอร์และไกด์เดินเคียงกันมาในเส้นทางที่ทอดลึกเข้าไปในหุบเขา โดยมีหมาป่าหลายตัวเดินรายล้อมอยู่ — ลูปา, ลูปัส, เวล็อกซ์ และเฟอร์รัส
เอสเปอร์ก้าวเดินไปด้วยท่าทางที่ยังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส แต่ในแววตากลับซ่อนความกังวล เขารู้สึกได้ว่าครั้งนี้ต้องไม่แพ้เหมือนครั้งที่แล้ว มันมีบางสิ่งบางอย่างที่หนักอึ้งราวกับเงามืดแฝงอยู่ใต้ความสงบงดงามนี้ ข้าง ๆ กันนั้น ไกด์ก้าวเดินอย่างเงียบสงบ ร่างสูงกว่าของเขาทำให้ดูมั่นคงกว่าที่ควรจะเป็นสำหรับเด็กอายุสิบสามปี
“ได้ยินเสียงอะไรไหม” เอสเปอร์ถามขึ้น น้ำเสียงแข็งแต่ก็แฝงความอยากรู้อยู่ลึก ๆ
“มียินแต่เสียงลม” ไกด์ตอบเรียบง่าย
ลูปาที่เดินอยู่ด้านหน้า หยุดก้าวชะงัก ดวงตาสีเหลืองอำพันหันกลับมามองทันที “เด็กทั้งสอง เงียบ” เสียงเธอแน่นหนัก “มีบางสิ่งอยู่ใกล้”
ยังไม่ทันที่เอสเปอร์จะเอ่ยถาม เสียงครางต่ำ ๆ คล้ายสัตว์ป่าดังขึ้นจากพุ่มไม้หนาทางด้านข้าง กลิ่นเหม็นคาวและฉุนแปลกประหลาดลอยมากับสายลม ทำให้ทั้งคู่เผลอกลั้นหายใจ
ฮาร์ปี้ตัวเดิมที่เคยทำร้ายเอสเปอร์กับไกดฺโผล่มาอีกครั้ง เอสเปอร์ที่แค้นมาก เด็กหนุ่มผมสีเงินอ่อนใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดหวดตีฮาร์ปี้ราวกับตียุงตัวใหญ่ “ไกด์ ไอ้ตัวนี้ฉันจัดการเอง”
การต่อสู้ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ท้อ เขาก็ไม่ถอยกระทั่งร่างฮาร์ปี้กรีดร้องสลายหายไป เขาโล่งใจคิดว่าทุกอย่างกำลังจะจบลงสักที
ทันใดนั้นเงาร่างขรุขระรูปร่างผิดเพี้ยนก็ก้าวออกมา มันคือก็อบลิน ร่างเล็กแต่เต็มไปด้วยพลังดิบ กรงเล็บแหลมคมและดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความกระหาย พอเห็นเด็กสองคนก็แสยะยิ้ม
“ก็อบลิน…” ไกด์กระซิบ “พี่เอสเปอร์ระวังตัว”
เอสเปอร์ยกคางขึ้น ยกกราดิอุสไม้ขึ้นแม้จะรู้ดีว่าไม่ใช่อาวุธที่สมบูรณ์นัก “แกกล้าหัวเราะเยาะฉันหรือไง ไอ้ตัวน่าเกลียด”
หมาป่ารอบกายทั้งสี่คำรามต่ำในลำคอ แต่ยังไม่พุ่งเข้าไป ลูปาเอ่ยเสียงเข้ม “พวกข้าจะยืนเฝ้าดูพวกเจ้า”
“อะไรนะ?!” เอสเปอร์หันขวับไปทางลูปา แต่ก็ไม่มีเวลาเถียงต่อ เพราะก็อบลินพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วเหนือคาด กรงเล็บฟาดลงมาตรงหน้า
ปัง!
ไกด์ก้าวเข้ามารับการโจมตีแทน ฟันดาบไม้ปัดกรงเล็บออกไปด้านข้าง แรงกระแทกทำให้เขาสะท้านไปทั้งแขน “มันแข็งแรงกว่าที่คิด”
เอสเปอร์กัดฟัน กระโจนเข้าไปเสริม “งั้นก็อย่าให้มันได้ตั้งหลัก!” เขาฟาดดาบใส่ด้านหลังของก็อบลิน แม้จะไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรง แต่แรงกระแทกก็ทำให้มันชะงักและหันมาพุ่งใส่เอสเปอร์แทน
ดวงตาแดงก่ำของมันจ้องตรงมา เอสเปอร์ถอยหลังแทบไม่ทัน เขารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงจนเกือบทะลุออกมา “เราต้องโจมตีพร้อมกัน ไม่งั้นมันจะเล่นงานเราทีละคน”
ไกด์พยักหน้า สีหน้าสงบนิ่ง “จังหวะเดียวกัน พร้อมกันสาม สอง…หนึ่ง”
ทั้งสองเด็กหนุ่มสบตากันเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ก็อบลินพร้อมกัน เสียงดาบไม้ฟาดซ้ายขวา ปัง! ฟึ่บ! ก็อบลินคำรามลั่น กรงเล็บปัดป่ายอย่างบ้าคลั่ง แต่การโจมตีสองทางพร้อมกันทำให้มันเสียสมดุล
“อีกที!” ไกด์ตะโกน เอสเปอร์ฟาดจากด้านบน ไกด์แทงจากด้านล่าง แรงประสานบีบให้ก็อบลินถอยกรูดจนล้มลง
มันคำรามสุดเสียง ร่างสั่นสะท้าน ก่อนที่จู่ ๆ จะเกิดแสงสีเขียวหม่นแผ่กระจายออกมา ร่างของมันค่อย ๆ สลายเป็นเถ้าควันหายไปต่อหน้าต่อตา เหลือเพียงกลิ่นเหม็นคละคลุ้งลอยอยู่ในอากาศ
เอสเปอร์ตั้งหอบหนัก เหงื่อไหลตามขมับ มือยังคงกำดาบไม้แน่น “ดีนะที่ไม่โดนขย้ำเหมือนฮาร์ปี้บ้านั่น!” เสียงเขายังเต็มไปด้วยท่าทีคุณชาย แต่ในแววตากลับแฝงความโล่งใจที่รอดมาได้
ไกด์หายใจแรง แต่ยังคงยืนตัวตรง “เราชนะเพราะทำงานร่วมกัน ไม่ใช่เพราะใครคนเดียว”
เอสเปอร์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนเบือนหน้าไปอีกทางราวกับไม่ยอมรับตรง ๆ “ก็แล้วแต่จะพูดฉันเป็นคนฟาดครั้งสุดท้ายนะ”
เสียงหัวเราะทุ้มต่ำของลูปัสดังขึ้นจากด้านข้าง “ไม่เลวเลย พวกเจ้าผ่านการทดสอบแรกแล้ว”
ลูปาเดินเข้ามา ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมองทั้งคู่ด้วยแววเข้มงวดแต่แฝงความภาคภูมิใจ “เจ้าทั้งสองเริ่มเรียนรู้ความหมายของ ‘สหายร่วมรบ’ แล้ว จำไว้ ไม่มีนักรบโรมันคนใดต่อสู้เพียงลำพัง”
เวล็อกซ์เสริมเสียงเข้ม “แต่ก็อย่าเพิ่งหลงตัวเอง ยังมีสิ่งที่น่ากลัวกว่าก็อบลินมากนัก”
เฟอร์รัสยืนเงียบ แต่สายตาคมดุของเขาทำให้เอสเปอร์ถึงกับยืดหลังตรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ความเงียบเข้ามาแทนที่หลังจากนั้น เสียงลมพัดไร่องุ่นยังคงดังเบา ๆ เอสเปอร์หันไปมองไกด์อีกครั้ง คราวนี้ในแววตาไม่ได้เต็มไปด้วยการท้าทายอย่างเดียว แต่มีบางสิ่งบางอย่างคล้ายยอมรับ แม้จะไม่ยอมพูดออกมาตรง ๆ ก็ตาม
|