17/02/25 11.10น. - 11.50 น.
บทที่ 42
เมื่อปล่อยใจกับการนั่งรถไฟให้นำพาร่างกายไป สุดท้ายคูเปอร์ก็มาถึงบรู๊คลินโดยไม่รู้ตัว ไม่ต้องถามเหตุผลเลยว่าทำไมเขาถึงต้องมาสถานที่สุดหลอนแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีภารกิจอะไรเกี่ยวข้อง ไม่มีแผนการ ไม่มีเหตุจำเป็นที่ชัดเจน ถ้าจะให้ตอบก็คงมีเพียง "เพราะใจสั่งมา" ทำนองนั้น
เขายืนอยู่หน้าทางเข้า Cobble Hill Tunnel อุโมงค์รถไฟเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายทศวรรษ เรื่องเล่าของมันเต็มไปด้วยปริศนาและความลี้ลับ ทั้งเสียงกระซิบในเงามืด วิญญาณที่ยังหลงเหลือ หรือแม้กระทั่งบางคนที่เข้าไปแล้วไม่เคยกลับออกมาอีกเลย
...แต่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่เหตุผลที่เขามาที่นี่
สาเหตุที่เขาลงมาในนี้ก็เพราะ [เผื่ออนาคตอาจได้มีโอกาสต้องทำภารกิจที่นี่ การเตรียมตัวไว้ก่อนคือหนทางของผู้ฉลาด... มั้ง?]
ว่าแล้วเขาก็หยิบไฟฉายอันใหม่ที่เพิ่งซื้อก่อนลงมาจากกระเป๋า เปิดสวิตช์ให้แสงสีขาววาบขึ้นกลางความมืด ก่อนจะเริ่มเดินสำรวจอย่างไม่รีบร้อน
ภายในอุโมงค์เงียบสงัด เสียงฝีเท้าของเขาก้องสะท้อนไปตามผนังอิฐเก่า ๆ เพดานด้านบนมีซากไม้ค้ำยันที่ดูเปราะบาง บางจุดมีเถาวัลย์เลื้อยลงมาเหมือนนิยายสยองขวัญคลาสสิก น้ำหยดจากเพดานลงกระทบพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ สร้างบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกถึงความเวิ้งว้าง
เขาไล่ส่องไฟฉายไปตามผนังอุโมงค์ อิฐบางก้อนมีรอยแตกร้าว บางจุดหลุดออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างด้านใน อุโมงค์นี้เก่าแก่มากแล้ว แม้แต่เสียงฝีเท้าของเขาก็ยังทำให้ฝุ่นเก่าแก่ลอยฟุ้งขึ้นมาตามทางเดิน
"หวังว่ามันจะไม่พังลงมาตอนฉันยังอยู่ข้างในนะ"
คูเปอร์เดินต่อไปเรื่อย ๆ ระหว่างที่สำรวจไปรอบ ๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าในอดีต รถไฟเคยวิ่งผ่านเส้นทางนี้อย่างไร มีผู้โดยสารแบบไหนเดินทางกันบ้าง และทำไมมันถึงถูกปล่อยให้กลายเป็นอุโมงค์ร้างแบบนี้
เมื่อเดินลึกเข้าไปอีก เขาก็เริ่มสังเกตเห็นร่องรอยแปลก ๆ บนพื้น มันดูเหมือนรอยขูดลากของอะไรบางอย่าง ใหญ่และหนักพอสมควร ราวกับเคยมีบางสิ่งถูกลากผ่านเส้นทางนี้ เขาลองใช้ปลายเท้าเขี่ย ๆ ฝุ่นออกจากรอย แล้วก็พบว่ามันลึกกว่าที่คิด
"โอเค... นี่มันดูไม่ปกติเลยแฮะ"
เขาย่อตัวลงสำรวจใกล้ขึ้น แล้วก็พบว่าบางรอยมีลักษณะเหมือนรอยกีบเท้า... แต่เป็นขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ
กีบเท้า?
เขาเงยหน้ามองไปรอบ ๆ ไฟฉายในมือส่องไปเจอเศษบางอย่างที่มุมหนึ่งของอุโมงค์ เศษกระดูกสัตว์เล็ก ๆ กับเศษผ้าขาดวิ่นวางกองกันอยู่
"ดูท่าฉันไม่ได้เป็นแค่คนเดียวที่เคยลงมาที่นี่..."
คูเปอร์ลุกขึ้นยืน สัญชาตญาณบางอย่างกำลังบอกให้เขาระวังตัว แม้จะยังไม่มีอะไรโจ่งแจ้งว่า มีบางอย่างอยู่ในนี้ แต่การที่พบร่องรอยแบบนี้มันก็ชวนให้คิดไม่ตก
เขาเดินไปตามแนวผนังเพื่อสำรวจให้ละเอียดขึ้น และพบว่ามีรอยเล็บขนาดใหญ่ครูดอยู่บนอิฐด้วย รอยเหล่านั้นจมหายเข้าไปในเนื้ออิฐ ราวกับสิ่งที่ฝากรอยเอาไว้มีแรงมากพอจะขย้ำมันให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ ได้
คูเปอร์ใช้ปลายนิ้วแตะรอยขูดเบา ๆ
"นี่มัน... ไม่ใช่แค่พวกแมลงตัวใหญ่แน่ ๆ"
ขณะที่กำลังครุ่นคิด ไฟฉายของเขาก็ไปสะท้อนเข้ากับบางสิ่งในความมืด มันเป็นแสงสะท้อนสีแดง... เหมือนกับดวงตาของอะไรบางอย่างที่กำลังมองมา
คูเปอร์หยุดนิ่งในทันที
"โอ้ ให้ตายสิ"
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย เพ่งมองให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่แค่จินตนาการของตัวเอง
และใช่ มันไม่ใช่
เบื้องหน้าของเขา ไม่ไกลจากจุดที่ไฟฉายส่องถึง เงาสองร่างสูงใหญ่ปรากฏขึ้นในสายตา ร่างหนึ่งมีเขาโคแหลมคม รูปร่างสูงใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ส่วนอีกตัวยักษ์กว่ามนุษย์ปกติถึงสองเท่า ผิวหนังหนาหยาบกร้านเหมือนหิน
มิโนทอร์... และโทรลล์
"อุ๋ย ขอโทษทีนะครับ เผลอเข้ามารบกวนเวลาพักผ่อนของพวกคุณ" คูเปอร์พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ พยายามรักษาน้ำเสียงให้เป็นมิตรที่สุด
แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้ผล
สิ้นเสียงเขา อสูรกายทั้งสองก็คำรามลั่น อากาศรอบตัวสั่นสะเทือนจากพลังมหาศาล ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าหาเขาในเสี้ยววินาที
คูเปอร์สบถในใจ รีบกระโดดหลบกรงเล็บของโทรลล์ที่หวิดจะเฉาะเขาเป็นสองส่วน ก่อนที่มิโนทอร์จะกวาดขวานขนาดมหึมาฟาดลงมาหมายจะบดเขาให้จมพื้น
"โอเค… แบบนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องสินะ"
เขาหมุนตัวไปด้านหลัง เท้าก้าวถอยออกจากระยะโจมตี ขณะที่มือกระชับหอกแน่น
มิโนทอร์เป็นพวกใช้กำลังดิบ ขณะที่โทรลล์มีความอึดและพละกำลังมหาศาล คูเปอร์รู้ดีว่าเขาไม่สามารถเล่นงานพวกมันพร้อมกันได้ในที่แคบ ๆ แบบนี้
ดังนั้น ต้องหาวิธีแยกพวกมันออกจากกัน
เขาพุ่งตัวออกไปด้านข้าง กระแทกไหล่เข้ากับเสาผุ ๆ ดึงดูดความสนใจของโทรลล์ให้วิ่งเข้ามา มันเหวี่ยงแขนหนาทุบเสาจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่เขาหลบออกมาก่อนแล้ว
มิโนทอร์คำรามลั่น เห็นว่าโทรลล์ขวางทางมันอยู่ มันจึงผลักโทรลล์กระเด็นด้วยแรงมหาศาล ก่อนจะพุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง
คูเปอร์อาศัยจังหวะที่โทรลล์เสียหลัก พุ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว แทงหอกเข้าไปใต้ซี่โครงของมัน
"เคร้ง!"
หอกของเขาปะทะกับผิวหนังหนาของโทรลล์ ส่งเสียงดังก้อง แต่ไม่ทะลุ
"...ฉิบแล้ว แย่ล่ะ"
โทรลล์หันกลับมาอย่างโกรธเกรี้ยว ก่อนจะพุ่งใส่เขาด้วยพลังทั้งหมด
แต่คูเปอร์รู้แล้วว่ามันเป็นจุดอ่อนของตัวเอง
เขาหลบได้อย่างฉิวเฉียด ปล่อยให้โทรลล์กระแทกเข้ากับผนังอุโมงค์จนก้อนอิฐถล่มลงมาทับมัน
เสียงคำรามของมันอู้อี้อยู่ใต้ซากอิฐ
หนึ่งตัวเรียบร้อย
แต่ยังเหลืออีกหนึ่งตัวที่อันตรายกว่า
มิโนทอร์ไม่ได้เสียเวลามองโทรลล์แม้แต่น้อย มันพุ่งเข้าหาเขาโดยไม่รอให้เขาได้พักหายใจ
แต่ตอนนี้คูเปอร์รู้แล้วว่าต้องจัดการยังไง
มิโนทอร์เป็นพวกเน้นพลัง ไม่ได้เน้นเทคนิค ถ้าใช้ความเร็วให้ถูกจังหวะ...
เขาจะเล่นงานมันกลับได้
คูเปอร์พุ่งตัวไปด้านข้าง หลอกให้มิโนทอร์กวาดขวานฟาดลงมาเต็มแรง แล้วอาศัยจังหวะนั้น แทงหอกพุ่งเข้าไปใต้แขนของมัน—
เสียงร้องคำรามของมันสะท้อนก้องไปทั่วอุโมงค์ ก่อนที่ร่างของมันจะเริ่มแตกสลายเป็นฝุ่นสีทอง
"ฟู่ว์..."
เขาหอบหายใจ ยืนอยู่ท่ามกลางซากอิฐและฝุ่นทองที่ลอยฟุ้ง
"...พอเถอะ พอแล้ว"
เขามองไปรอบ ๆ ก่อนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
"ฉันต้องออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่เซ็นทรัลพาร์คบ้างแล้ว"
เขาสะบัดฝุ่นออกจากเสื้อ เดินออกจากอุโมงค์ขึ้นสู่ถนนที่เต็มไปด้วยแสงแดด ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ
ครั้งนี้เขาเลือกนั่งรถไฟใต้ดินไป เซ็นทรัลพาร์ค ปล่อยให้ตัวเองได้พักหลังจากต่อสู้หนักหน่วงมาแล้วสองรอบ
วันนี้เขาแค่อยากจะเดินเล่นเองนะ... ให้ตายสิ
หลักฐานการพิชิต
(โทรลล์)
https://percyjackson.mooorp.com/plugin.php?id=dzs_npccomrade:fight&aid=830
(มิโนทอร์)
https://percyjackson.mooorp.com/plugin.php?id=dzs_npccomrade:fight&aid=829
+ 2 ตื่นรู้ จากการพิชิต มิโนทอร์ ครั้งแรก
+ 2 ตื่นรู้ จากการพิชิต โทรลล์ ครั้งแรก