12345
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

The Cyclops Bookshop of Prophecies and the Orange Cat ⋘ ร้านหนังสือไซคลอปส์และคำทำนายและแมวสีส้ม ⋙

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-12-27 12:18

369
เยี่ยมครอบครัวไทสัน

               (FRI) 12/12/2025 เวลา 15.45 น.

               หลังจากใช้เวลาช่วงเที่ยงวันและตลอดช่วงบ่ายเดินชมร้านรวงที่ย่าน ‘วีอา แพรทอเรีย’ กับ ‘วีอา พรินซิพาลิส’ ที่เขตของค่ายจูปิเตอร์จนทั่วและได้ของติดไม้ติดมือกลับมาคนละนิดละหน่อยแล้ว (สำหรับแมคเคนซีอาจไม่นิดเพราะเอา ‘ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์’ กลับมาด้วย) เดมิก็อดหนุ่มจากค่ายฮาล์ฟบลัดทั้งสองก็พากันกลับมาที่เขตตัวเมืองนิวโรม และดีนก็เสนอว่า

               “นี่ล่ะ คือเวลาที่เหมาะสมที่จะไปบ้านไทสันกัน”

               “ร้านหนังสืออะไรนะ…”

               แมคเคนซีถามขึ้นมาอีกครั้งขณะที่พวกเขาเดินไปตามถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงในเมืองนิวโรม จนถึงตอนนี้ก็ยังจำชื่อร้านไม่ได้ทั้งหมด จำได้แค่คำที่เป็นคีย์เวิร์ดประมาณว่า ‘ไซคลอปส์’ และ ‘แมวสีส้ม’ อะไรสักอย่าง

               “ร้านหนังสือไซคลอปส์และคำทำนายและแมวสีส้ม”

               ต่างกับหนุ่มใบหน้าละตินที่ตอบออกมาได้ทันทีราวกับฝังชื่อนั้นเข้าไปในสมองแล้ว และเป็นเพราะเขาตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์เหล่าพี่น้องร่วมบิดา ดีนจึงไม่ได้บอกใครล่วงหน้าว่าพวกเขาจะมาที่นี่ แต่การหาร้านหนังสือสักร้านก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นเกินไปนัก

               “ใช่ร้านนั้นหรือเปล่า”

               หลังเดินผ่านไปได้ไม่กี่บล็อค แมคเคนซีก็สะดุดตาเข้ากับอาคารหลังหนึ่งที่ตั้งอย่างเงียบเชียบราวกับซุกซ่อนตัวอยู่ตรงมุมหนึ่งของถนนซึ่งก่อด้วยอิฐแดงเป็นรูปทรงคล้ายกระท่อมในเทพนิยายขนาดกระทัดรัด และมีกันสาดสีเขียวเขียนตัวหนังสือที่ไม่รู้ความหมายอยู่บนนั้น เขาไม่รู้ว่านี่คือร้านและบ้านของไทสันผู้เป็นพี่ชายดีนหรือเปล่า แต่จากชั้นหนังสือที่วางเรียงเป็นระเบียบตรงหน้าร้านแล้ว อย่างน้อยที่นี่ก็คือร้านหนังสือไม่ผิดแน่

               “คิดว่า… น่าจะใช่ล่ะมั้ง ถ้าไม่ใช่พวกเราก็แค่ทำเป็นดูหนังสือแล้วก็เดินออก”

               เมื่อตกลงกันได้แล้วดีนและแมคเคนซีจึงผลักบานประตูเข้าไปและได้ยินเสียงของเจ้าของร้านหนังสือไซคลอปส์คำทำนายและแมวส้มดังขึ้นทักทาย

               “ยินดีต้อนรับ”

               ดีนมองไปรอบ ๆ ไม่เจอไทสัน ไม่เจอคนที่น่าจะเป็นเอลล่าพี่สะใภ้ของเขา แล้วอีกอย่าง… เสียงนั้นไม่คุ้นหูเอาเสียเลย ไม่มีผู้คนในร้านนอกจากดีนและแมคเคนซี ทว่ากลับมีบางสิ่งเคลื่อนไหวแถว ๆ หน้าต่างบานใหญ่

               “น้องแมวส้ม!”

               ด้วยความรักสัตว์ดีนถลาเข้าไปเล่นกับเจ้าแมวส้มขนนุ่มฟูตัวนั้นทันทีโดยไม่กลัวว่าจะถูกแจกยันต์ห้าแถวหรือแขนเป็นรูด้วยสองเขี้ยว เขาลูบหัวและเกาคางน้องเหมียวของร้านอย่างมันมือ

               “หยูดดดด มือของเจ้ากำลังละเมิดเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ ระหว่าง ‘แมวผู้รู้คำพยากรณ์’ กับ ‘เดมิก็อดที่ควรอ่านป้ายห้ามจับ’!”

               “ห๊ะ! ป้ายห้ามจับ?” เป็นอีกครั้งที่บุตรเจ้าสมุทรหันไปมองรอบ ๆ จากเสียงท้วง จนเพิ่งตระหนักได้ว่าเสียงนั้นมาจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้านี่นา

               “อย่าแตะ อย่าลูบ อย่าคิดว่าน่ารัก!” แมวส้มที่ดีนเพิ่งทำการจกขนมันไปขยับปากพูดส่งเสียงออกมาจากลำคออย่างน่าเหลือเชื่อ

               “เหวอ! ที่นี่ก็มีแมวพูดได้!”

               ดีนผงะ เขาไม่รู้เลยว่าแมวของไทสันพูดได้ด้วย คิดว่ามีแค่แมวของแม่มดเท่านั้นที่สามารถพูดได้เสียอีก แต่คิดอีกทีจะไปตะลึงทำไม นี่คือบ้านของไซคลอปส์ที่มีภรรยาเป็นฮาร์ปี้ มหัศ จอ.รอ.หัน ขนาดนี้ทำไมจะมีแมวพูดได้อีกตัวอยู่ในบ้านไม่ได้กันล่ะ

             “มีอะไรเหรอคุณอริสโตเฟนส์ หรือว่ามีลูกค้ามาใหม่?”

               ไทสันโผล่หน้าออกมาจากส่วนของตัวบ้าน ตอนอยู่ที่บ้านไซคลอปส์หนุ่มบุตรแห่งโพไซดอนมิได้จำแลงกาย เขาจึงมาในสภาพที่มีดวงตาขนาดใหญ่ข้างเดียวอยู่บนใบหน้า แล้วเมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นญาติไม่ใช่ลูกค้า ดวงตาขนาดใหญ่ใสแจ๋วก็เป็นประกายระยับ ไซคลอปส์คลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ

               “อ้าวดีน ไหงนายถึงมาที่นิวโรมได้ล่ะเนี่ย”

               “เซอร์ไพรส์! เป็นไงตกใจล่ะสิ ฉันมาที่นี่ตามคำโม้ของซันซ์น่ะ เขาว่าเทศกาลบลูเบอร์รี่มีของกินฟรีไม่อั้นเลยอยากมาเห็น แต่ว่านายคงไม่ได้อ่านแชทสินะไทสัน”

               “บลูเบอร์รี่?” ไทสันเอียงคอทำหน้างงก่อนจะนึกออก “อ๋อ นายหมายถึงบรูมาเลียเหรอ ฮ่าฮ่า อาจจะนะ ปีนี้ฉันไม่ได้ออกไปเที่ยวเลย ตั้งแต่มีเจ้าตัวเล็กแม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่ค่อยได้เล่น โทษทีนะดีน”

               มือขนาดใหญ่ของไทสันลูบท้ายทอยตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มแก้เก้อ ด้วยความยุ่งหรืออะไรก็ตาม คุณพ่อมือใหม่เพิ่งสังเกตเห็นว่าแขกที่มาเยี่ยมไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียว

             “โอ๊ะ นั่นแมคเคนซีนี่นา สวัสดีนะ พวกนายเข้ามาข้างในก่อนสิ แต่เอ่อ.. บ้านของพวกเราค่อนข้างเล็กแล้วก็รกนิดนึงหวังว่าพวกนายจะไม่ว่าอะไร” ยักษ์ตาเดียวผู้ใจดีผายมือให้น้องชายทั้งสองเข้ามาในส่วนของห้องนั่งเล่นขนาดกระทัดรัดที่อยู่ถัดจากโซนของร้านขายหนังสือ

               “สวัสดีไทสัน ขอรบกวนด้วยนะ นายและครอบครัวสบายดีกันใช่ไหม”

               แมคเคนซีทักทายตอบด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก เขายังไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าก้าวเท้าเข้ามาในร้านก้าวหนึ่งแล้วจับสายจูงลูกแมวผีนำโชคทั้งสองตัวในตอนที่ดีนถลาเข้าไปหาแมวส้มที่ชื่อว่า ‘อริสโตเฟนส์’ จนแทบจะลืมแมวของตัวเอง

               “พวกเราสบายดี โอ้ พวกนายเลี้ยงแมวผีนำโชคกันด้วยเหรอ น่ารักดีนี่นา”

             “มี้”

               หลังจากถูกทักลูกแมวดำที่เหมือนกันอย่างกับฝาแฝดก็ส่งเสียงทักทายเจ้าของบ้าน แต่สิ่งที่พวกมันสนใจคือแมวส้มอาวุโสตรงนั้นต่างหาก คล้ายมีพลังอ่านใจ อริสโตเฟนส์เอ่ยปรามแมวเด็กที่ทำท่าจะเข้ามาเล่นซนด้วย

               “ข้าไม่ต้องการเล่น และเจ้าไม่จำเป็นต้องอยู่ในคำพยากรณ์ของข้า”

               “มี้?”

               ลูกแมวผีชะงักเท้า มันเอียงคอมองแมวส้มด้วยความงุนงง ไม่เพียงแค่แมวงง คนก็งงด้วย

               “คำพยากรณ์… อะไรนะ? หรือว่าคุณอริสโตเติลจะเป็นผู้ให้คำทำนายของจูปิเตอร์เหมือนคุณเรเชลเหรอ?”

               “อะแฮ่ม! นามของข้าคืออริสโตเฟนส์ต่างหาก และคำพยากรณ์ของข้าก็คือ เจ้าจะไม่อยู่ในสายตาข้าอีกต่อไป”

               แมวส้มกระโดดหนี หลบมุมไปที่อื่น มันคงอยากปลีกวิเวกเต็มแก่ ด้วยไม่พร้อมรับมือกับคนคลั่งแมว และแมวเด็กอีกสองตัว

               “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก เรื่องนี้ถ้าให้อธิบายคงยาว ฉันว่าเราเข้าไปคุยกันข้างในแล้วปล่อยให้คุณอริสโตเฟนส์เฝ้าร้านต่อไปดีกว่า”

               ไทสันยิ้มนุ่ม ๆ ตอบกลับ ในเมื่อเจ้าของบ้าน (ซึ่งตอนนี้ดีนไม่ค่อยแน่ใจว่าใครคือเจ้าของบ้านกันแน่) กล่าวเช่นนั้นแขกอย่างเขาก็ควรทำตามอย่างว่าง่าย ดีนและแมคเคนซีเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น แล้วก็เห็นว่าภรรยาของไทสันผู้เป็นฮาร์ปี้ผมแดงกำลังเล่นกับลูกน้อยอยู่

               “ฮาย คุณเอลล่า ฮายออเร ผมขอรบกวนแป๊บนึงนะ”

               “รบกวนอะไรกัน อยู่คุยด้วยกันนาน ๆ ก็ได้” ไทสันยิ้มก่อนจะเริ่มแนะนำทั้งสองฝ่ายให้ได้รู้จักกันในฐานะตัวกลาง “ทั้งคู่คงเจอกันครั้งแรก เธอคือเอลล่าเป็นภรรยาของฉัน แล้วก็ออเรตัวน้อย ตอนนี้เขาอายุได้สี่เดือนแล้วล่ะ แล้วก็ทางนี้… ดีน กับ แมคเคนซี…ดีนเป็นน้องชายของฉัน ส่วนแมคเคนซีเป็นคนรักของดีนน่ะ”

               “ดีน.. คนที่ซื้อเสื้อฮาวายมาฝากตอนนั้นใช่ไหม ขอบคุณนะคะ ดีใจจังที่ได้พบตัวจริงสักที แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคุณแมคเคนซี”

               “สวัสดีคุณเอลล่า ผมแมคเคนซี คลอดด์ ลินคอล์น ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

               เอลล่ายิ้มหวานที่เหมือนจะละลายโลกได้ เธอเป็นฮาร์ปี้ที่หน้าตาสะสวยเอาเรื่อง แตกต่างจากอสุรกายที่เคยปะทะหรือเหล่าคนงานในค่ายฮาล์ฟบลัดโดยสิ้นเชิง หากว่าเธอมีปีกสีขาวบอกว่าเป็นนางฟ้าก็เชื่อ

               “พูดถึงของฝากคราวนี้ก็มีมาให้นะ” ดีนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะนำของฝากอันหลากหลายออกมาจากแหวนห้วงมิติ “ผมซื้อนิทานพื้นบ้านของเท็กซัสมาฝาก เผื่อให้คุณอ่านให้ออเรฟังครับ”


               ดีนยื่นหนังสือนิทานให้แก่เอลล่า คนที่ชอบหนังสือเป็นทุนเดิมตาเป็นประกาย ดูเหมือนว่าเธอจะชอบของฝากที่ดีนเลือกไม่น้อยเลยเชียว หลังจากที่ให้ของขวัญคนแม่ บุตรแห่งโพไซดอนก็หยิบตุ๊กตาสุนัขชิวาว่าของฝากจากเม็กซิโกแล้วย่อตัวลงส่งให้เจ้าตัวเล็กที่นอนเล่นอยู่ในเบาะเด็กอ่อนอน ลูกของไทสันและเอลล่าออกจะดูแปลกตาไปเสียหน่อย เพราะว่าเขาเป็นลูกครึ่งที่มีลักษณะเด่นค่อนไปทางฮาร์ปี้ ทว่ามีดวงตาที่สามผุดอยู่กลางหน้าผาก

               “อาให้ตุ๊กตายัดนุ่นนะ มันคือหมาพันธุ์ชิวาว่าของเม็กซิโก หวังว่าหลานจะชอบล่ะเจ้าตัวเล็ก”

               “แอ๊ ๆ” ออเรน้อยวัยอ้อแอ้ชูมือขึ้นรับตุ๊กตาแล้วสวมกอดรับสัมผัสนุ่มนิ่มจากตุ๊กตาสุนัข ท่าทางเขาน่าจะชอบมันมากพอที่จะทำให้ตุ๊กตาตัวนี้กลายเป็นตุ๊กตาเน่าได้อีกตัว

               “ส่วนนายฉันซื้อช็อกโกแลตจากเม็กซิโกมาให้ ประเทศแถบนั้นขึ้นชื่อเรื่องช็อกโกแลตกับกาแฟมาก ฉันชิมแท่งอื่นแล้วอร่อยดี คิดว่านายน่าจะชอบนะพี่ชาย แล้วของฝากก็ไม่ได้มีแค่จากฉัน แต่แมคซี่ก็อยากมอบอะไรให้ด้วยเหมือนกัน เอาเลยที่รัก”

               ดีนถอยหลังออกไป หลีกทางให้แมคเคนซีได้มอบของที่ระลึกบ้าง

                [ต่อครึ่งหลังที่โรลเพลย์ของ @Mackenzie]

มอบ [ช็อกโกแลต] ให้ [NPC-08] ไทสัน
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+20 จากการให้สิ่งที่ชอบที่สุด
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]
+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
[รวม +40 ความสนิทสนม]


มอบ [หนังสือนิทาน] ให้ [Mythic-02] เอลล่า (ฮาร์ปี้)
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+20 จากการให้สิ่งที่ชอบที่สุด
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]

+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
[รวม +40 ความสนิทสนม]




มอบ [ตุ๊กตายัดนุ่น] ให้ [NPC-76] ออเร
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+15 จากการมอบของเกรดน้ำเงิน (ไม่รู้ว่าชอบอะไร)
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]

+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
[รวม +35 ความสนิทสนม]



แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-76] ออเร เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 5 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Mythic-02] เอลล่า (ฮาร์ปี้) เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 5 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] ไทสัน เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 5 วันที่แล้ว
โพสต์ 33862 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 5 วันที่แล้ว
โพสต์ 33,862 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ  โพสต์ 5 วันที่แล้ว
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x3
x11
x2
x7
x2
x4
x8
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mackenzie เมื่อ 2025-12-23 19:13

95.hey! Brooo!

- 12.12.2025 / 03:56PM -


เมื่อคนรักของเขาถอยหลบฉากไปแล้ว แมคเคนซีจึงขยับมาด้านหน้าแล้วหยิบของที่ซื้อเตรียมไว้มาให้ทีละคน


“ฉันมารู้ทีหลังว่าดีนเคยซื้อเสื้อฮาวายให้นายแล้วหลังจากที่ฉันซื้อมาแล้วน่ะ คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าจะรับเสื้อฮาวายจากฉันไปอีกสักตัวนึง“


แมคเคนซียิ้มให้อย่างประหม่าที่เขาดันซื้อของมาซ้ำกับดีนซะได้ แต่ไทสันกลับรับไปอย่างยินดีแล้วพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม


”แน่นอน ถ้าเป็นเสื้อฮาวาย ต่อให้นายจะซื้อมาสักโหลฉันก็ยินดี ลายนี้ฉันยังไม่มีเลยด้วย“


คำตอบสมเป็นลูกเทพเจ้าสมุทรจริง ๆ และข้อมูลที่ดีนให้เขามาก็ตรงกันคือไทสันชอบเสื้อฮาวายสุด ๆ


”ส่วนนี่ของคุณเอลล่าครับ คุณแม่ที่เพิ่งคลอดผิวบางส่วนอาจจะแตก ผมเลยซื้อครีมบำรุงผิวมาให้ ยี่ห้อนี้รีวิวดีมากทีเดียว“


จากนั้นแมคเคนซีก็หยิบถุงครีมบำรุงผิวแบรนด์เนมยี่ห้อดังมอบให้ฮาร์ปี้สาวที่เมื่อเห็นแวบแรกก็คิดว่า ‘ผิวสวยขนาดนี้ไม่ต้องใช้ครีมก็ยังได้’


”ขอบคุณมากเลยค่ะคุณแมคเคนซี ฉันก็เคยอ่านรีวิวครีมยี่ห้อนี้แล้วสนใจอยู่เหมือนกัน ฉันจะเริ่มลองใช้วันนี้เลยค่ะ“


เอลล่ารับครีมบำรุงผิวมาด้วยรอยยิ้ม ต่อให้เป็นฮาร์ปี้แต่เธอก็ยังมีรูปโฉมที่เหมือนมนุษย์ เรื่องรักสวยรักงามกับผู้หญิงย่อมเป็นของคู่กันอยู่แล้ว


”แล้วก็ของเล่นแขวนอันนี้ ผมซื้อมาให้ออเรครับ ความจริงผมเลือกของให้เด็กแรกเกิดไม่เก่ง แต่อันนี้ดูน่ารักดี หวังว่าออเรจะชอบ“


สุดท้ายคือของขวัญสำหรับเด็กน้อย แมคเคนซีเลือกโมบายที่มีแกะขนนุ่มนิ่มตัวเล็ก ๆ แขวนเรียงกันเป็นวงกลมมาให้ อย่างน้อยน่าจะช่วยให้ออเรได้มองเพลิน ๆ แล้วหลับสบายบ้าง ซึ่งทารกน้อยที่กอดตุ๊กตาที่ดีนให้อยู่ก็เพียงแค่ส่งเสียง “แอ๊ะ” เบา ๆ เป็นการตอบรับ


“ซื้อของมาฝากพวกเราทุกคนเลยขอบใจนะ” ในระหว่างที่ทุกคนแนะนำตัวกัน พ่อบ้านก็รินเครื่องดื่มสมุนไพรสไตล์โรมันแจกให้แก่แขกผู้มาเยือน จากนั้นนั่งลงบนโซฟาที่ว่างข้างเอลล่า “ว่าไปภารกิจที่พวกนายไปทำกันมาเป็นยังไงบ้าง”


“นายหมายถึงภารกิจไหนล่ะ เรื่องที่ต้องต่อสู้กับไฮเพอร์เรียน หรือเป็นเรื่องที่ฉันต้องหาเงินซ่อมบ้านดี”


“ยังต้องเลือกด้วยเหรอ ทำไมไม่เล่ามาทั้งสองภารกิจเลยล่ะ”


การพบกับญาติในครั้งนี้ดีกว่าที่คิด ดูท่าแล้วพวกเขาน่าจะมีเรื่องคุยกับไทสันอีกยาวแน่ ๆ…

.


.

”ลำบากกันไม่ใช่เล่นเลยนะพวกนายน่ะ“


หลังจากฟังน้องชายอัพเดทชีวิตช่วงที่ผ่านมาจบ ไทสันก็สรุปออกมาได้เป็นประโยคนี้ ซึ่งเขารู้ดีว่าชีวิตของเหล่าเดมิก็อดไม่มีคำว่าง่ายเลยจริง ๆ


ฟิ้ววว——


”เฮ้! ตัวอะไรน่ะ“


อยู่ ๆ ก็มีบางสิ่งบินเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ เป็น ‘แอนซิลอส’ นั่นเอง มันคงจะเที่ยวจนสำราญใจแล้วจึงได้บินกลับมาหาเจ้าของของมัน กรงเล็บแข็งแรงเกาะเข้าที่ไหล่แมคเคนซี ดวงตาของนกนักล่ามองไล่ไปยังกลุ่มคนตรงหน้าทีละคนแล้วเหมือนจะทำหน้าเซ็งออกมาเมื่อเห็นว่ามี ‘สายเลือดของโพไซดอน’ เพิ่มมาเป็นสามคน


“โอ้ ขอโทษที นี่แอนซิลอส อินทรีแห่งซุส สัตว์เลี้ยงฉันเอง”


แมคเคนซีรีบขอโทษขอโพยแทนสัตว์เลี้ยงตนเองที่ไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู แต่แอนซิลอสก็มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ หรือว่าเขาเลี้ยงมันแบบอิสระเกินไปกันนะ 


“ไม่เป็นไร ๆ ว่าแต่พวกนายนี่เลี้ยงสัตว์กันเยอะใช่เล่น ตั้งแต่อะไรนะ…สิงโตนีเมียนตัวนั้น เจ้าไข่เหลืองของนายน่ะดีน ป่านนี้ตัวโตเท่าบ้านไปแล้วหรือยัง นี่ยังเอาแมวผีนำโชคมาเลี้ยงอีก”


ไทสันส่ายหน้าอย่างไม่ถือสาแล้วนึกถึงสัตว์เลี้ยงตัวแรกของน้องชายก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้


“จะว่าไปแมวพวกนี้น่ะ ช่วยหาสินสงครามแปลก ๆ ได้นะ พวกนายเคยลองดูหรือยังล่ะ”


“คนที่ให้แมวสองตัวนี้มาก็บอกเราแบบนั้นเหมือนกัน แต่ฉันยังไม่เคยเห็นพวกมันไปไหนเลย”


แมคเคนซีบอกสิ่งที่ตนเองเห็นมาตลอดตั้งแต่พวกเขารับเลี้ยงแมวดำสองตัวนี้ นอกจากหางสีม่วงเป็นประกายสวยงามแล้ว กิจวัตรประจำวันของพวกมันก็ดูไม่ต่างจากแมวบ้านทั่วไปเท่าไหร่


“อาจจะยังโตไม่พอที่จะทำอย่างนั้นได้ค่ะ อินทรีแห่งซุสก็เช่นกัน ถ้าน้องโตขึ้นกว่านี้อีกหน่อยจะต่อสู้เก่งมากเลยนะคะ”


เอลล่าช่วยเสริม ซึ่งหนุ่มอังกฤษก็เริ่มสนใจขึ้นมานิดหน่อย


“แล้วต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ สัตว์พวกนี้ถึงจะโตขึ้นเหรอครับ”


ไม่ใช่ว่าเขาอยากให้แมวรีบไปหาสมบัติหรือใช้อินทรีมาช่วยในการต่อสู้ แต่เขาเป็นห่วงแอนซิลอสมากกว่าเพราะธรรมชาติของนกคงไม่ชอบถูกขังอยู่แต่ในกรง และเขาเองก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นจึงมักปล่อยให้อินทรีทองตัวนี้บินไปบนท้องฟ้าได้ตามใจต้องการ เมื่อถึงเวลามันก็จะกลับมาเอง


แต่จะดีแค่ไหนหากว่ามันได้บินอย่างอิสระและสามารถปกป้องตัวเองได้ด้วย


“จริง ๆ แล้วมันก็มีวิธีนะ…..”


อดีตผู้สอนวิชาอสุรกายศึกษาประจำค่ายฮาล์ฟบลัดเว้นช่วงไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ


“ถ้าเป็นวิธีที่เห็นผลเร็วหน่อยก็คือการใช้หินบูชาเทพบดให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำให้สัตว์เลี้ยงกิน“


”ฮะ…หินเนี่ยนะ มันได้จริง ๆ เหรอ“


แมคเคนซีโพล่งขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อ ให้สัตว์เลี้ยงกินหิน ไม่อันตรายหรือยังไง


”ลองดูไหมล่ะ นายมีหินบูชาเทพติดตัวมาไหม ฉันจะทำให้ดู“


ไทสันบอกยิ้ม ๆ แน่นอนว่าเขาพร้อมเสมอสำหรับการสาธิต แมคเคนซีจึงขอให้ดีนช่วยเอาหินบูชาเทพที่เขาเก็บไว้ในกระเป๋าสัมภาระแล้วฝากดีนไว้ในแหวนห้วงมิติออกมาให้ก่อนจะส่งมันให้ไทสัน


”รอแป๊บนึงล่ะ“


ไทสันบอกเพียงแค่นั้นแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับหินนิทราของแมคเคนซี จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนของแข็งถูกทุบ เพียงไม่นาน ไซคลอปส์หนุ่มก็ออกมาพร้อมชามใส่น้ำที่มีผงระยิบระยับผสมอยู่


“ให้ตัวไหนเป็นหนูทดลองดีล่ะ”


บุตรโพไซดอนครึ่งอสุรกายแกล้งบอกด้วยรอยยิ้ม แมคเคนซีรับชามใบนั้นมาก่อนจะหันมองแอนซิลอสที่เกาะอยู่ตรงไหล่


“ลองหน่อยไหมแอนซิลอส”


ราวกับรู้อยู่แล้วว่าหินบูชาเทพมีสรรพคุณอะไร อินทรีแห่งซุสก้มลงดื่มน้ำในชามอย่างไม่คิดลังเลแม้แต่น้อย หลังจากที่มันดื่มน้ำจนหมดชามแล้ว แอนซิลอสก็บินขึ้นไปด้านบน ร่างสีทองปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาเล็กน้อยจนคนในบ้านตกใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นนอกจากบินลงมาเกาะที่ไหล่แมคเคนซีตามเดิม


“ได้ผลจริงด้วยแฮะ”


แมคเคนซียังคงทึ่งไม่หายกับสิ่งที่เห็นเมื่อครู่ อีกใจก็เริ่มหวั่น ๆ เสียวสันหลังว่าเกิดแอนซิลอสปล่อยกระแสไฟฟ้าตอนเกาะไหล่เขาอยู่ขึ้นมา เขาจะโดนไฟช็อตเข้าหรือเปล่า


“แล้วก็มีอีกวิธีนึง ได้ผลช้าหน่อย แต่ก็ชัวร์”


ไทสันลุกไปหยิบอะไรบางอย่างในลิ้นชักมาให้ มันคือเหรียญกษาปณ์โบราณที่มีรูปสลักของใครบางคนอยู่


“นี่คือเหรียญเซเรส พวกนายลองไปเผาเหรียญบูชาเทพีเซเรสที่เทวสถานพร้อมกับถวายเกียรติยศให้นางที่เนินเทมเพิลดูสิ วิธีนี้ก็ได้ผลเหมือนกัน แต่ถ้าพวกนายมีเหรียญบูชาเทพอื่นด้วยจะลองดูก็ได้นะ วิธีการก็ไม่ต่างกันหรอก”


“ขอบคุณไทสัน เราจะลองดู”


แมคเคนซีรับเหรียญจากไทสันมาเก็บไว้ คิดถูกจริง ๆ ที่มาบ้านไทสันวันนี้ ถือว่าพวกเขาได้ความรู้เกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถให้สัตว์เลี้ยงจากผู้มีประสบการณ์ไปเต็ม ๆ


เสียงโมบายที่แขวนไว้เหนือประตูร้านหนังสือไซคลอปส์และคำทำนายและแมวสีส้มดังกรุ๊งกริ๊ง เป็นสัญญาณว่ามีลูกค้ารายใหม่แวะเวียนมาที่ร้าน หรือไม่ก็เป็นคนรู้จักที่มาหา ไทสันและเอลล่าไม่ได้ออกไปต้อนรับ อย่างไรเสียคุณอริสโตเฟนส์ก็สามารถรับมือได้เป็นอย่างดี


จะว่าไประหว่างที่พวกเขากำลังสนทนากันอย่างออกรสตามประสาญาติที่ไม่ได้เจอกันมานาน จะว่าคุยเพลินจนไม่ได้ยินเสียงประตูก็ไม่น่าใช่ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงโมบายแขวนประตูทำงานหลังจากที่ดีนและแมคเคนซีเข้ามาในร้านหนังสือ 


แล้วบ้านประตูส่วนของห้องนั่งเล่นก็ถูกเปิดออกตามด้วยเสียงทักอันคุ้นหูที่ออกจะมีความตกใจในน้ำเสียง


“สวัสดีไทสัน พี่เอลล่า… เฮ้ย! ดีนกับแมค พวกนายมาได้ไง!?”


ผู้มาเยือนคนที่สามคือ 'ซันซ์ มาเดิล เคานต์' บุตรแห่งโพไซดอนอีกคนที่อาศัยอยู่ในนิวโรมแห่งนี้เพื่อศึกษามหาวิทยาลัยด้านพาณิชยนาวี แล้วดีนก็เพิ่งปั่นหัวอีกฝ่ายไปเมื่อเช้าเรื่องของขวัญจับฉลาก ดีนยักคิ้วเข้มขึ้นเป็นการทักทาย (และท้าทาย)


“สวัสดีซันซ์”


“ฮาย ซันซ์นี่ ไม่ได้เจอกันนานเลย อึ้งใช่ป่ะล่ะที่ฉันมาโผล่ที่นี่ ไม่ได้ซ่อมบ้านงก ๆ อย่างที่นายเข้าใจ”


“ก็.. ตกใจนิดหน่อย ว่าแต่ เพิ่งมา?”


“เปล่า มากันตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นละ” 


“อ้าว! ถ้ามาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วที่นายส่งของขวัญให้ฉันมาเมื่อเช้านี้คือยังไงฟะ!”


หนุ่มบราซิลเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่โดยไม่รอคำเชิญชวน แสดงให้เห็นว่าเขาสนิทกับครอบครัวนี้และมาบ่อยมากแค่ไหน


“ก็ทำหน้าที่เป็นพี่ชายที่ดีไงล่ะน้องรัก” ดีนหัวเราะเปาะ ส่วนคนฟังเบ้หน้า


“ว่าแต่มาก็ดีแล้ว ฉันขี้เกียจไปงานเลี้ยงอะไรนั่นอยู่พอดี งั้นพรุ่งนี้นายไปแทนแล้วก็เอาของขวัญจับฉลากไปให้ผู้โชคดีคนนั้นเองแล้วกัน”


“หืม เอางี้เลย? เอาจริงก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ว่าของขวัญนั่นอยู่ไหนล่ะ” ดีนถาม ตอนนี้เขาไม่รู้เรื่องงานปาร์ตี้สักอย่าง รู้แค่ว่าพรุ่งนี้มีงาน และเขากับแฟนอยากไป


“อยู่ในงานนั่นแหล่ะ ฉันลงทะเบียนไว้ นายหาไม่ยากหรอก กล่องของขวัญสีส้มแสบตาแบบนั้น …ว่าแต่อะไรอยู่ในกล่อง?”


กล่องของขวัญปิดผนึกอย่างดีเกินว่าจะแกะห่อของขวัญออกมาแงะดู ความคลางแคลงยังคงติดในใจของซันซ์อยู่มาก ใจนึงทั้งสงสัย ส่วนอีกใจก็แอบโล่งอกหากดีนแกล้งเขาด้วยการใส่ระเบิดตดลงไปในกล่อง ซึ่งโอกาสที่หนุ่มเท็กซัสทำอาจมีมากกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์


“ไม่อะ ไม่บอก แต่แมคซี่นายรู้ดีเนอะ” ดีนหันไปขอเสียงจากคนรัก แต่สิ่งที่เขาได้ยินกลับเป็นเสียงเดาะลิ้นของซันซ์ที่ถูกเอาคืน “แล้วพวกเราต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง งานนี้มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมไหม นอกจากอาหารฟรีและเหล้าไม่อั้น”


“เห็นว่าธีมปีนี้เป็นงานเลี้ยงสุดหรู ใส่ทักซิโด้หรืออะไรทำนองนั้น ซึ่งมันไม่เหมาะกับฉันโคตร ๆ ดีแล้วที่นายมาจะได้มีตัวตายตัวแทน” ซันซ์ตอบ


“อาฮะ ทักซิโด้ ฉันก็ไม่เคยใส่อะไรแบบนั้นเหมือนกัน ครั้งนี้เราจะได้ทำตัวเป็นคนรวยกันแล้วสินะ” ดีนหันไปยิ้มให้กับแมคเคนซี


ตอนแรกว่าพวกเขาคิดว่ากำลังจะลากลับ แต่ในเมื่อซันซ์มาอีกคนพวกเขาจึงได้คุยกันต่ออีกยาว แล้วได้รับรู้ข้อมูลหลายอย่างเพิ่มเติม ทั้งเรื่องการเรียนนิวโรม แรก ๆ ทั้งสองไม่ได้สนใจจะเรียนปริญญาตรีใบที่สอง ทว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย หนึ่งในนั้นคือพาสปอร์ตเวทมนตร์ที่ไปได้ทุกที่ทั่วโลกด้วยวีซ่าหมอก ทำให้พวกเขาไม่ต้องทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ กันแถวด่านตรวจอีก ซึ่งมันน่าสนใจยิ่งกว่าของขวัญรับปริญญาที่มาจากพ่อแม่เทพอีก


นอกจากนี้พวกเขายังทราบเรื่องโครงการทำพระอาทิตย์จำลองของเทพอะพอลโล่ เพื่อปรับสมดุลย์ระหว่างกลางวันและกลางคืนของโลกในระหว่างที่รัตติกาลยังหายไปเป็นระยะเวลาห้าปี ซึ่งพลบค่ำไม่อาจชดเชยได้ทั้งหมด ส่วนของที่ต้องบริจาคนั้นเรียกว่าโหดมันฮา


จนกระทั่งเย็นมากแล้ว ก่อนที่ออเรตัวน้อยจะงอแงหิวนมเสียก่อน และควรให้เวลาครอบคัวไทสันได้พักผ่อนเสียที ซันซ์จึงขอตัวกลับไปก่อน ตามมาด้วยดีนกับแมคเคนซี แต่จุดมุ่งหมายของทั้งสองยังไม่ใช่โรงแรมซีซั่นคราวน์ แต่คือเนินเทมเพิลต่างหาก




คะแนนความสนิทสนม

[NPC-08] ไทสัน

ความสนิทสนมจากการพูดคุย   เพิ่มความสนิทสนม +5

ให้สิ่งที่ชอบที่สุด (เสื้อฮาวาย)   เพิ่มความสนิทสนม +20

เอฟเฟกต์กุหลาบสีน้ำเงินทอง   เพิ่มความสนิทสนม +5

เอฟเฟกต์มาลาแห่งอัสสัมชัญ   เพิ่มความสนิทสนม +10

รวมคะแนนความสนิทสนม : +40


[Mythic-02] เอลล่า (ฮาร์ปี้)

ความสนิทสนมจากการพูดคุย   เพิ่มความสนิทสนม +5

ให้สิ่งของจิปาถะ (ครีมบำรุงผิว)   เพิ่มความสนิทสนม +15

เอฟเฟกต์กุหลาบสีน้ำเงินทอง   เพิ่มความสนิทสนม +5

เอฟเฟกต์มาลาแห่งอัสสัมชัญ   เพิ่มความสนิทสนม +10

รวมคะแนนความสนิทสนม : +35


[NPC-76] ออเร

ความสนิทสนมจากการพูดคุย   เพิ่มความสนิทสนม +5

ให้สิ่งของจิปาถะ (โมบาย)   เพิ่มความสนิทสนม +15

เอฟเฟกต์กุหลาบสีน้ำเงินทอง   เพิ่มความสนิทสนม +5

เอฟเฟกต์มาลาแห่งอัสสัมชัญ   เพิ่มความสนิทสนม +10

รวมคะแนนความสนิทสนม : +35


บดหินนิทราผสมกับน้ำให้ ‘อินทรีแห่งซุส’ กิน จำนวน 1 ก้อน : 

 +2 เลเวล


 หมายเหตุ :

เหรียญเซเรสที่ดีนกับแมคเคนซีได้รับจากไทสันคือรางวัลที่ได้รับจากการร่วมกิจกรรมเทศกาล ‘อิเอย์ยูนิอูม เซเรริส’ ที่ผ่านมา (โดยการสิง NPC) จึงนำมาเขียนถึงที่มาเพื่อให้มีความสมเหตุสมผล และใช้ประกอบในเนื้อเรื่องจากนี้ไปตามความเหมาะสม

—Hakrabi

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-76] ออเร เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 5 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Mythic-02] เอลล่า (ฮาร์ปี้) เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 5 วันที่แล้ว
God
ยังไม่ไม่ได้ส่งหิน  โพสต์ 5 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] ไทสัน เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 5 วันที่แล้ว
โพสต์ 121992 ไบต์และได้รับ 56 EXP! [VIP]  โพสต์ 5 วันที่แล้ว
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส
น้ำหอมเฮคาที
เหรียญนกฮูก
สร้อยคอดีไซน์เท่
กางเกงเดินป่า
ตำราเวทมนต์เฮคาที
เข็มกลัดเฮคาที
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
เกราะนักรบสีทองแดง
การควบคุมหมอกขั้นสูง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เรียกอาวุธจากหมอก
Hydro X
การปลุกผี
คบเพลิงเวท
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
นาฬิกาสปอร์ต
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x2
x7
x10
x10
x7
x2
x9
x6
x4
x3
x70
x4
x10
x6
x12
x6
x18
x3
x55
x9
x189
x14
x14
x12
x45
x18
x5
x5
x5
x2
x5
x2
x11
x20
x10
x10
x2
x2
x2
x4
x1
x3
x12
x6
x2
x5
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x13
x2
x5
x4
x2
x1
x16
x145
x192
x10
x6
x10
x10
x16
x55
x80
x1
x1
x1
x4
x3
x1
x1
x1
x1
x5
โพสต์ 3 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
371
รับสัตว์เลี้ยง


               (SUN) 14/12/2025 เวลา 11.15 น.

               ไม่มีอะไรจะดีกว่าได้นอนกอดอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันว่างหนึ่งวันจนต้องมานั่งครุ่นคิดว่าจะทำอะไรดี ใจหนึ่งก็อยากจะนอนกอดแฟนต่ออีกหน่อยแต่ดีนก็ตระหนักรู้ได้ว่า…

               พวกเขาเอาสัตว์เลี้ยงสามตัวไปฝากไทสันตั้งแต่เมื่อวานช่วงบ่าย

               คนที่เคยไปร้านหนังสือไซคลอปส์และคำทำนายและแมวส้มรู้ดีว่าที่นั้นเป็นร้านหนังสือขนาดเล็กที่เป็นทั้งร้านและที่อยู่อาศัยในอาคารเดียวกัน แม้จะแบ่งสัดส่วนของห้องหับอย่างชัดเจนทว่าก็ยังคับแคบอยู่ดีเมื่อมีสิ่งมีชีวิตดุ๊กดิ๊กอยู่ในนั้นหลายชีวิต

               นี่ยังไม่รวมลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการเลย

               แม้จะเกรงใจแต่ดีนและแมคเคนซีจำเป็นต้องฝากสัตว์เลี้ยงเอาไว้ในช่วงเวลาที่พวกเขาเข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำ ถึงพวกน้อง ๆ จะเป็นสัตว์วิเศษที่เรียบร้อยแต่ใครจะรู้หากเจ้าพวกนี้เกิดคึกแผลงฤทธิ์ขึ้นมาในช่วงเวลาที่เข้าของไม่อยู่จนห้องเสียหาย ต้องถูกปรับค่าซ่อมแซมในราคาที่เกินคืนละหนึ่งร้อยดีนาเรียสแน่ ๆ

               ซึ่งตอนนี้เงินดีนาเรียสที่พกติดตัวไม่มากพอที่จะจ่ายค่าเสียหายที่ไม่จำเป็น ดังนั้นช่วงสายของวันดีนและแมคเคนซีจึงไปที่ร้านหนังสือไซคลอปส์และคำทำนายและแมวดำเพื่อรับเหล่าสัตว์วิเศษกลับมา โดยที่ไม่ลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือไปด้วย

               “ฮาย ไทสัน คุณเอลล่า ออเร ฉันซื้อโดนัทมาฝากล่ะ”

               ดีนถือกล่องโดนัทกล่องใหญ่เข้ามาในส่วนของตัวบ้านโดยแมคเคนซีเดินตามเข้ามาพร้อมตะกร้าผลไม้ในมือ หนุ่มอังกฤษเพียงแค่ยิ้มให้เจ้าบ้านพร้อมผงกศีรษะทักเบา ๆ

               “สวัสดี ขอบคุณนะที่ซื้อโดนัทมาให้ นั่นน่ะของโปรดฉันเลย” ไทสันผู้มีตาเดียวเข้าไปรับกล่องโดนัทจากแขกมาถือไว้พร้อมกับยิ้มแป้น

               “ออเรน่าจะยังกินโดนัทไม่ได้พวกเราเลยซื้อผลไม้มาให้แทน เผื่อว่าจะเอาไปบดเป็นอาหารเด็กอ่อนน่ะ ฉันไม่รู้ว่าออเรกินอาหารเหมือนกับเด็กปกติไหม ส่วนผลไม้พวกนี้ดีนเป็นคนเลือก” แมคเคนซีกล่าว คราวนี้เขาส่งตะกร้าให้เอลล่าที่ออกมารับแขกอีกคน

               “ขอบคุณนะคะ ออเรก็กินอาหารเหมือนกับเด็กปกตินั่นแหล่ะค่ะ”

               เอลล่าตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะส่งตะกร้าต่อให้สามีนำไปเก็บหลังบ้าน เมื่อฟังประโยคนี่จบดีนกับแมคเคนซีก็หันมองหน้ากัน หลานออเรมีจงอยแบบนก เขานึกไม่ออกเลยว่าเด็กน้อยจะดื่มนมจากแม่อย่างไร

               แต่แม่เขาบอกแบบนั้น… ปกติก็ได้

               “เมื่อคืนเป็นไงบ้างล่ะ ปาร์ตี้สนุกไหม?” ไทสันเอ่ยถามหลังจากที่นำของฝากไปเก็บ เว้นแต่โดนัทเคลือบน้ำตาลหนึ่งชิ้นที่อยู่ในมือ ไม่บอกก็รู้ว่าไทสันชื่นชอบขนมชนิดนี้มากแค่ไหน น่าจะชอบจนวางไม่ลง

               “สนุกสิ สนุกมาก ๆ แต่ฉันว่าหลังปาร์ตี้จบสนุกกว่า”

               ดีนกับแมคเคนซีมองหน้าแล้วยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย หนุ่มอังกฤษอมยิ้ม มือหมุนแหวนวงหนึ่งที่สวมอยู่บนนิ้วก้อยข้างซ้าย ทั้งสองไม่ได้ขยายความต่อแต่ไทสันก็เข้าใจ เพราะว่าเขาเองก็เป็นผู้ชายคนนึง หลักฐานคือลูกหนึ่งที่นอนอ้อแอ้อยู่บนเบาะนอน

               “แล้วพวกเด็ก ๆ ของฉันล่ะเป็นไงบ้าง พวกมันซนกันไหม”

               “ไม่เลย เป็นสัตว์วิเศษที่น่ารักกันมาก ๆ ไข่หอยเม่นกับแอนโทสติดคุณอริสโตเฟนส์แจเลย คงเพราะเป็นเผ่าพันธุ์คล้ายกันแหล่ะมั้งนะ ส่วนแอนซิลอส ฉันปล่อยให้เขาออกไปบินเล่นเป็นช่วง ๆ แล้วค่อยให้กลับมาเข้ากรง จะว่าไงดี เขาไม่ค่อยชอบฉันเท่าไร แต่กับเอลล่าไม่มีปัญหาเลยนะ”

               ไข่ซุสก็สมกับเป็นอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งซุสจริง ๆ เกลียดชังได้แม้แต่กระทั่งไทสันไซคลอปส์ที่ใจดีที่สุดในโลก (เท่าที่รู้จัก) เพียงแค่เพราะเขาเป็นบุตรแห่งบุตรแห่งโพไซดอน

               “จะว่าไปฉันสงสัยตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วแต่ไม่ได้ถาม คุณอริสโตเฟนส์เนี่ยเป็นแมวที่ถูกคาถาทำให้พูดได้เหรอ พวกเราเคยเจอแมวที่คล้าย ๆ แบบนี้ตัวนึงแต่เป็นแมวของแม่มดดำ ใช่ไหมแมคซี่” ดีนถาม ส่วนแมคเคนซีพยักหน้า

               “ใช่ แต่แมวของแม่มดที่พวกเราเคยเจอมันไม่ได้พูดอะไรยาก ๆ เหมือนที่แมวสีส้มของพวกนายพูด”
               
               พอนึกถึงเดียบลิโด้ที่พูดได้ของคุณยายเฮ็กซาเรียแล้ว มันพูดได้แต่อะไรง่าย ๆ แบบที่สัตว์จะคิดออก เช่น หิว ง่วง และ นุดมา หลบ

               “จะบอกว่าไงดีล่ะ ความจริงแล้วคุณอริสโตเฟนส์มาก่อนทุกคนอีกน่ะ” ไทสันตอบพร้อมรอยยิ้มที่ยากจะอธิบาย

               “ยังไงนะที่บอกว่ามาก่อน?”

               “คุณอริสโตเฟนส์เป็นเจ้าของร้านหนังสือมาก่อนพวกเราน่ะค่ะ ตอนเด็ก ๆ ฉันชอบอ่านหนังสือเลยมาขลุกอยู่ที่นี่บ่อย ๆ จนเขาปลดเกษียณเลยให้ฉันรับดูแลต่อ” เอลล่าเป้นคนพูดแทน

               “เป็นอย่างนั้นเหรอ ทึ่งไปเลยแฮะ ตอนแรกฉันคิดว่าไทสันเป็นเจ้าของร้านหนังสือซะอีก ที่แท้นายแต่งออกมาอยู่บ้านภรรยานี่เองพี่ชาย”

               พวกเขาอยู่คุยต่อกันอีกสักพักจนพอจะรู้เรื่องที่มาที่ไปของร้านหนังสือไซคลอป์และคำทำนายและแมวส้ม เอลล่าที่เริ่มสนิทกับพวกเราแล้วพยายามแนะนำหนังสือน่าอ่านให้ แต่ดูเหมือนเธอจะแนะนำได้แค่แมคเคนซี หลังจากที่คุยธุระกันเสร็จเรียบร้อยดีนและแมคเคนซีก็รับสัตว์เลี้ยงทั้งหมดกลับไปด้วยกัน แต่กระนั้นตราบใดที่ดีนยังอยู่ที่นิวโรมคงได้มาเยี่ยมที่บ้านนี้บ่อย ๆ



มอบ [โดนัท] ให้ [NPC-08] ไทสัน
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+20 ความสนิทสนมจากการให้สิ่งที่ชอบที่สุด
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]
+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
+10 ความสนิทสนมจาก [น้ำหอมอะพอลโล่] [ลงท้าย 0 3 5 7 9 ไบต์]
[รวม +50 ความสนิทสนม]

มอบ [โดนัท] ให้ [Mythic-02] เอลล่า (ฮาร์ปี้)
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+10 ความสนิทสนมจากของประเภทอาหาร
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]
+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
+10 ความสนิทสนมจาก [น้ำหอมอะพอลโล่] [ลงท้าย 0 3 5 7 9 ไบต์]
[รวม +40 ความสนิทสนม]



มอบ [กระเช้าผลไม้] ให้ [NPC-76] ออเร
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+10 ความสนิทสนมจากของประเภทอาหาร
+5 ความสนิทสนมจาก [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]
+10 ความสนิทสนมจาก [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
+10 ความสนิทสนมจาก [น้ำหอมอะพอลโล่] [ลงท้าย 0 3 5 7 9 ไบต์]
[รวม +40 ความสนิทสนม]

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] ไทสัน เพิ่มขึ้น 50 โพสต์ 3 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [Mythic-02] เอลล่า (ฮาร์ปี้) เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 3 วันที่แล้ว
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-76] ออเร เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 3 วันที่แล้ว
โพสต์ 18493 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 3 วันที่แล้ว
โพสต์ 18,493 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ  โพสต์ 3 วันที่แล้ว
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x3
x11
x2
x7
x2
x4
x8
x1
x1
x1
x1
โพสต์ เมื่อวาน 14:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
374
We are Family!


               (THU) 18/12/2025 เวลา 10.26 น.

               เทศกาลบรูมาเลียสิ้นสุดลงแล้ว หลายชีวิตในนิวโรมเข้าสู่โหมดปกติหลังอิ่มเอมจากเทศกาลแห่งความสุขมาเป็นเวลานานร่วมเดือน รวมถึงแขกที่มาเข้าร่วมงาน (ที่ไม่ได้ลงทะเบียน) ด้วยเช่นกัน เพราะว่าตอนนี้ค่าโรงแรมซีซาร์คราวน์กินดีนาเรียสของพวกเขาจนโบ๋เบ๋ ดีนลองเช็คตารางเวลารถไฟเฮเฟตัสจากนิวโรมสู่นิวยอร์กแล้ว กว่าที่รถไฟสายประหยัดจะเทียบชานชาลาก็เป็นเวลาสี่โมงเย็น ฉะนั้นพวกเขายังมีเวลาอีกครึ่งวันในการไปบอกลาไทสันและครอบครัวที่ร้านหนังสือไซคลอปส์และคำทำนายและแมวสีส้ม

               สองเดมิก็อดคู่รักจากฮาล์ฟบลัดจัดการเก็บสัมภาระของพวกเขาเพื่อเช็คเอาต์ก่อนสิบเอ็ดโมง ทุกอย่างโยนเก็บไว้ในแหวน ยกเว้นแต่สายจูงที่ยังจำเป็นต้องใช้อยู่ (กฎของรถไฟเฮเฟตัสไม่ได้เข้มงวดเรื่องสัตว์ คงเป็นเพราะบนรถไฟขบวนนี้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งวิเศษใดที่ขอแค่เป็นฝ่ายดีก็ขึ้นมาได้หมดกระมัง) ร้านหนังสือของคุณอริสโตเฟนส์อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่ไกลมาก เดินเท้าแค่สิบนาทีก็ถึง ลูกแมวทั้งสองตัวเดินตามเจ้าของพวกมันต้อย ๆ กวัดแกว่งปลายหางสีม่วงเรืองรองไปมา ส่วนอินทรีแห่งซุสโบยบินบนท้องฟ้าโดยไม่อาจทราบได้ว่ามันตามพวกเขามาหรือไม่ แต่เมื่อแมคเคนซีเรียกขานมันก็มักจะบินกลับลงมาด้วยเวลาไม่นานจึงไม่น่าเป็นห่วง

               เมื่อพวกเขาผลักบานประตูที่มีโมบายกรุ๊งกริ๊งห้อยเหนืออยู่เข้าไปก็เหมือนกับหลุดเข้ามาสู่โลกแห่งหนังสือ กลิ่นกระดาษและน้ำหมึกทั้งเก่าและใหม่ลอยฟุ้งในอากาศ ดีนไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไรเพราะเขาไม่ค่อยได้เข้าห้องสมุด แต่กลิ่นนั้นก็ทำให้รู้สึกสงบใจได้ดี เอ่ยทักทายแมวส้มที่คอยหลบหน้า และเมื่อผลักบานประตูอีกบานเข้าไปสิ่งที่อยู่หลังบานประตูคือครอบครัวที่อบอุ่น และแขกของครอบครัวก็ได้รับการต้นรับเป็นอย่างดี

               “ฮาย ไทสัน วันนี้พวกเราจะเดินทางกลับกันแล้วน่ะเลยแวะมาลาสักหน่อย” ดีนพูดเกริ่นก่อนที่เขาจะยื่นดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่เติบโตมาจากความรักของเทพีวีนัสให้ไทสัน “ฉันไปร่วมพิธีปิดมาเมื่อคืน ได้นี่มาด้วย หวังว่าพี่จะชอบนะ”

               “ขอบคุณนะดีน” ไทสันรับดอกกุหลาบสีน้ำเงินมาชื่นชม กลีบดอกสีน้ำเงินพลิ้วไหวราวกับดอกไม้เทพมีชีวิตแม้กิ่งถูกตัดออกจากต้น ละอองเกรสของมันโปรยปรายในอากาศ เป็นความงดงามที่ไม่มีวันถูกกาลเวลาลบเลือนไป และใช่… ตั้งแต่ที่ได้รับดอกกุหลาบไม่ว่าจะทองหรือน้ำเงินมาจากเทพีแห่งความรักและความงาม มันไม่เคยโรยราเลยแม้แต่ดอกเดียว “พวกนายจะออกเดินทางกันสี่โมงเย็นใช่ไหม ระหว่างนี้จะไปเที่ยวที่ไหนกันต่อหรือเปล่า”

               “อืมมม ก็มีหลายแห่งที่อยากไปเที่ยวนะ ฉันกับแมคซี่ยังไม่ได้ไปเยี่ยมวิหารพ่อที่เนินเทมเพิลเลย แถมได้รับคำชวนให้ไปดูซ้อมแข่งรถจากพี่แลร์รี่ด้วย แต่กำหนดการซ้อมแข่งตั้งวันที่ยี่สิบสองนู่นแน่ะ ตอนนั้นพวกเราคงไปนอนเหงา ๆ ที่ค่ายฮาล์ฟบลัดกันแล้ว” ดีนตอบด้วยสีหน้าเสียดาย

               “แล้วทำไมพวกนายไม่อยู่ต่อกันอีกหน่อยล่ะ น่าเสียดายแย่เลยนะที่ไม่ได้ไปสักการะท่านพ่อในอีกภาค แล้วการซ้อมแข่งของแลร์ลี่น่ะสุดยอดมาก ๆ เขาทุ่มเททุกอย่างไม่แพ้การแข่งจริงเลยล่ะ”

               ดีนและแมคเคนซีมองหน้ากัน มันช่างเป็นเรื่องที่ลำบากใจจริง ๆ แต่ก็ต้องบอก

               “คืองี้ ดีนาเรียสที่พวกเราแลกมามันหมดแล้วน่ะ เหลือแต่เงินฝากประจำที่กำลังออกดอกในธนาคาร ฉันกับแมคซี่คุยกันหลายรอบกำลังคิดว่าจะไปถอนออกมานิดหน่อยเพื่อเที่ยวต่อดีไหม”

               “แต่นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี” แมคเคนซีเสริม พอไทสันได้ยินเช่นนั้นเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างเร็วไว

               “นั่นแหละ พวกเราก็เลยคิดว่ากลับค่ายฮาล์ฟบลัดกันก่อนก็ได้ เอาไว้มีเงินเมื่อไรค่อยมาเที่ยวกันอีก มีรถไฟเฮเฟตัสแล้วการเดินทางก็ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อน”

               ซึ่งเมื่อไรที่ว่านั้น… มันคือเมื่อไรกันล่ะ

               “ฉันว่าพวกนายลืมอะไรไปหรือเปล่า” ไทสันยิ้ม “นายยังมีญาติอยู่ที่นิวโรมนะดีน พวกนายมานอนบ้านฉันก็ได้ ไม่ต้องเสียดีนาเรียสเลยสักเหรียญเดียว” ไทสันเสนออย่างภูมิใจ

               “จริงหรือเปล่า!” ดีนทำตาโตอย่างออกนอกหน้า “แต่พวกเราเกรงใจจัง จะรบกวนเวลาครอบครัวของพวกนายหรือเปล่าพี่ชาย ต้องถามเอลล่าก่อนไหม?”

               แมคเคนซีที่กำลังเกาคางให้ลูกแมวผีนำโชค เหลือบมองไปทางดีนราวกับรู้ว่าแฟนหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว ‘คำว่าเกรงใจของดีนน่ะมีจริงซะที่ไหน’ จากนั้นเขาก็หันมายิ้มให้กับไทสันโดยไม่ได้เปิดปากพูด เพราะยังไงเดี๋ยวดีนก็จัดการเรื่องนี้แทนทั้งหมด (ยกเว้นถ้ามันไม่เข้าท่าค่อยแทรก)

               “จริงสิ เมื่อวันก่อนเอลล่ายังถามอยู่เลยว่าพวกนายไปพักที่ไหนกัน ฉันไม่รู้ก็เลยตอบไปว่าที่กองร้อยห้ามั้ง เพราะแขกจากฮาล์ฟบลัดมักจะไปพักที่นั่นกันอยู่แล้ว เธอยังบอกเลยว่าไม่ให้พวกเขามาพักกับพวกเราเหรอ ที่ค่ายทหารทำอะไรก็ไม่สะดวก… เอ่อ ไม่ได้หมายถึงเรื่องที่นายกำลังคิดอยู่นะดีน”

               ทำเอาหนุ่มที่กำลังยิ้มกริ่มเลิกลั่กแก้ตัว

               “อะไร! ฉันกำลังคิดอะไร! ที่ไม่สะดวกคือห้องน้ำ การทำเสียงดัง หรือเวลาเคอร์ฟิวอะไรทำนองนั้นใช่ไหมล่ะ” แน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ในหัวของบุตรเจ้าสมุทรคนนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องนั้นอย่างที่ไทสันรู้ทัน “แต่ว่านายให้ฉันกับแมคซี่พักได้จริงนะ งั้นฉันขออยู่จนถึงดูซ้อมแข่งของพี่แลร์รี่เลยได้ไหม”

               “ได้แน่นอนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พวกนายจะอยู่กันจนถึงคริสต์มาสเลยก็ได้ ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ รวมถึงนายด้วยนะแมค” ดวงตาหนึ่งเดียวกลางหน้าหยียิ้มอย่างใจดี จากสรรพนามเรียกชื่อที่เปลี่ยนไปทำให้รู้ได้ว่าไซคลอปส์ตนนี้รับบุตรแห่งเฮคาทีเป็นหนึ่งเดียวกันกับครอบครัวของเขาแล้ว

               “ขอบคุณมากนะไทสัน พวกเราดีใจมากจริง ๆ ถ้ามีอะไรที่เราตอบแทนได้บ้างก็ขอให้บอก”

               “มีสิ มีอยู่แล้ว” ไทสันยิ้มกว้าง “ช่วงนี้ก็ใกล้คริสต์มาสกับปีใหม่แล้ว ฉันอยากจะตกแต่งร้านหนังสือให้เข้าเทศกาลสักหน่อย ถึงพวกเราจะเป็นชาวนิวโรมแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนฉลองเทศกาลของสากล คงต้องรบกวนสองหนุ่มแล้วล่ะ”

               “โอ้! ได้สิ ฉันชอบแต่งบ้านให้เข้ากับเทศกาลอยู่แล้ว รับรองว่าร้านหนังสือของพวกนายจะสวยเฉียบไม่มีใครเทียบ”

               “หวังว่านายจะไม่ทำให้ร้านของไทสันเต็มไปด้วยส้มนะดีน” แมคเคนซีแอบแซว

               “ร้านเต็มไปด้วยส้ม… ยังไงเหรอ?” ยักษ์ตาเดียวถาม

               “ก็แบบนี้น่ะ” แมคเคนซีโชว์รูปในสมาร์ทโฟนให้ดู เป็นรูปต้นเหมายันที่พวกเขาตกแต่งกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ครึ่งบนของต้นสนถูกแต่งไปด้วยส้มเหมือนไม่ได้นัดกับคนที่แต่งครึ่งล่างมา

               “ส้มเยอะจริง ๆ ด้วย” ไทสันหัวเราะ “จะแต่งแบบนั้นก็ได้ แต่ให้รู้ว่าเป็นร้านหนังสือหน่อยนะ เดี๋ยวมีคนมาขอซื้อส้มล่ะก็แย่เลย”

               “โธ่เอ๊ย ไม่หรอกน่า เชื่อมือพวกเราสิ! จะว่าไป คุยกันมาตั้งนาน แล้วเอลล่ากับออเรล่ะ?”

               ดีนถามด้วยความสงสัย โดยปกติแล้วสามคนพ่อแม่ลูกจะอยู่ให้ห้องนั่งเล่นตลอดเวลา หรือว่าเอลล่าพาออเรไปเยี่ยมญาติที่เป็นฮาร์ปี้กันนะ? ดีนคิดว่าอาจเป็นเช่นนั้น แต่คำตอบที่ได้รับกลับธรรมดามากกว่าที่คิด

               “วันนี้ออเรงอแงนิดหน่อยน่ะ ร้องแต่จะหาเอลล่าทั้งวัน เธอก็เลยพาออเรไปให้นมที่ชั้นสองเดี๋ยวก็คงลงมาแล้วล่ะ อ้อ จริงสิ พูดถึงเรื่องที่นอน นายโอเคไหมถ้าจะนอนกันที่ห้องรับแขก ฉันไม่รู้ว่าออเรจะร้องขึ้นมาเมื่อไร กลัวว่าพวกนายจะอดนอนกันไปด้วยน่ะ”

               หลักฐานของการอดนอนอยู่ที่ใต้ตาของผู้เป็นพ่อ แม้ใบหน้าของไทสันจะดูสดใส แต่ใต้ตาของคุณพ่อลูกอ่อนคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัดจากการที่ลูกน้อยตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึก เผลอ ๆ ว่ารอยคล้ำนั้นจะแซงหน้าแมคเคนซีไปแล้วด้วยซ้ำ

               “ได้สิ ไม่มีปัญหา พวกเรากินง่ายอยู่ง่าย จะไม่ทำอะไรแปลก ๆ ให้พวกนายตกใจตอนลงมาเข้าห้องน้ำกลางดึก” ดีนรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ

               “เห?” ส่วนไทสันติดสตั๊น กำลังคิดว่าน้องชายของเขากำลังพูดเล่นหรือพูดจริง

               “หมอนั่นล้อเล่นน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” แมคเคนซีจึงแก้ต่างให้แทน

               “ใช่ ล้อเล่นน่ะ” ดีนยิ้มกว้างเหมือนตัวการ์ตูนโตโตโร่ซึ่งดูมีพิรุธสูงมาก “ถ้าเอลล่ายังให้นมหลานอยู่แปลว่าพวกนายยังไม่มีมื้อเที่ยงสินะ ถ้างั้นให้พวกเราช่วยเอง ส่วนเรื่องแต่งร้านหนังสือเมื่อไรขอให้บอก พวกเรายินดีเสมอนะไทสัน”

               แม้ว่าดีนจะไม่ได้มีฝีมือทำอาหารที่เก่งกาจ แต่เขาก็พอจะทำอาหารได้อยู่บ้างจากการที่อยู่ซานอันโตนิโอมาราว ๆ ห้าเดือน ฉะนั้นรับรองว่าอาหารที่ทำกินได้แน่นอน ส่วนรสชาติอาจเป็นระบบสุ่ม

               “ขอบคุณที่ช่วยนะ ฉันดีใจจริง ๆ ที่พวกนายยังอยู่ในวันนี้ เรื่องแต่งร้านไว้ค่อยคุยกันอีกที ส่วนมื้อเที่ยงนี้จะทำอะไรกินกันดีล่ะน้องชาย”

               “เดี๋ยวคงต้องขอดูก่อนล่ะว่าในตู้เย็นของนายมีวัตถุดิบอะไรบ้าง แต่แมคซี่ งานนี้นายต้องมาเป็นลูกมือฉัน”

               “โอเค ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” หนุ่มอังกฤษไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะปล่อยแอนโทสลงไปวิ่งเล่นแล้วตามดีนเข้าครัวไป


ปฎิสัมพันธ์กับ [NPC-08] ไทสัน
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย
+40 ความสนิทสนมจากการมอบ [ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน]
+5 ความสนิทสนมจากเอฟเฟค [ดอกกุหลาบน้ำเงินทอง]
+10 ความสนิทสนมจากเอฟเฟค [มาลาแห่งอัสสัมชัญ]
[รวม +60 ความสนิทสนม]

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-08] ไทสัน เพิ่มขึ้น 60 โพสต์ เมื่อวาน 14:42
โพสต์ 27,392 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ เมื่อวาน 14:15
โพสต์ 27,392 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ เมื่อวาน 14:15
โพสต์ 27,392 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความกล้า +8 ความศรัทธา จาก หายใจใต้น้ำ  โพสต์ เมื่อวาน 14:15
โพสต์ 27,392 ไบต์และได้รับ +6 EXP +9 เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ เมื่อวาน 14:15
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x3
x11
x2
x7
x2
x4
x8
x1
x1
x1
x1
12345
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้