Little Tiber River ⋘ แม่น้ำไทเบอร์น้อย ⋙

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×





Little Tiber River

⋘ แม่น้ำไทเบอร์น้อย ⋙









แม่น้ำไทเบอร์น้อยเป็นแม่น้ำที่ไหลในค่ายจูปิเตอร์ แม่น้ำสายนี้ไม่ได้ใหญ่เท่ากับแม่น้ำไทเบอร์สายเดิมในกรุงโรม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ชาวค่ายจูปิเตอร์เรียกแม่น้ำสายนี้ว่า "แม่น้ำไทเบอร์น้อย" แม่น้ำสายนี้ไหลด้วยพลังของแม่น้ำไทเบอร์สายเดิม และสามารถชะล้างพรแห่งกรีกได้ และเป็นแม่น้ำหลายหลักของกรุงโรมใหม่ที่โอบล้อมทั้งกรุงโรมและค่าย เป็นแนวปราการป้องกันทางธรรมชาติชั้นดีในการรับมือข้าศึกที่สามารถรุกรานมาถึงแนวหลังต้องเผชิญหน้ากับโทสะแห่งแม่น้ำไทเบอร์และสายเลือดเนปจูนร่วมมือกัน






แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 6565 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-12-5 00:38
โพสต์ 2025-6-26 00:10:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Resha Campbell
The youngest sister of Poseidon's lineage.
20.06.2025 --- 10:00 AM
- - - - - - - - - - - - - - - - - -

เมื่อดวงอาทิตย์อยู่กลางฟ้า แสงทองส่องต้องผืนน้ำจนเป็นประกายระยิบระยับคล้ายเกล็ดแก้ว บัดนี้ริมสองฝั่งของแม่น้ำไทเบอร์น้อยถูกตกแต่งด้วยธงผ้าลูกไม้ ลวดลายดวงตาแห่งโชคชะตา ขึงโยงจากท่าเรือถึงสะพานโค้งหินกลางเมือง

เหล่าผู้คนทั้งสองฝั่งขวักไขว่และยิ่งแน่นขนัดมากขึ้นขึ้นเมื่อใกล้ถึงฝั่งน้ำซึ่งเป็นจุดชมขบวนพาเหรดล่องเรือ ดูเหมือนว่าพวกเด็ก ๆ เดมิก็อดจะมาช้าเกินไปสำหรับการจับจองที่นั่งชั้นยอด แต่นาทีนี้ต่อให้ต้องเขย่งปลายเท้าดูก็มองไม่เห็น ได้ยินมาว่าหากใครอยากได้ที่นั่งดี ๆ ต้องมาจับจองกันตั้งแต่เช้าตรู่ ทว่าไม่คิดว่าจะคนเยอะได้ขนาดนี้

"หวา แย่จัง แบบนี้จะมองเห็นไหมเนี่ย"

รีชาพยายามเขย่งตัวเพื่อมองวิว

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

"รีชา นิโคไล เชมัส ทางนี้ มาตรงนี้สิ" เสียงเรียกมาจากผู้ชมแถวหน้า เป็นบุตรแห่งอะพอลโล่สองคนที่โบกมือมาทางเด็ก ๆ 

"อ๊ะ พี่คาเลปกับพี่ทิฟฟี่นี่นา"

รีชาโบกมือกลับไป ทำเลที่ทั้งสองจองไว้อยู่ริมแม่น้ำไทเบอร์น้อย แม้ไม่ใช่จุดที่ดีที่สุด แต่ก็สามารถมองเห็นขบวนพาเหรดได้โดยง่าย

แต่ว่าคนเยอะแบบนี้จะไปหา 2 คนนั้นยังไงล่ะ?

"นิคกี้ เช พวกเราต้องจับมือกันไว้แน่น ๆ นะ แล้วเดินลุยไปหาพวกพี่ ๆ กัน"

เชมัสมองเหล่าฝูงชนที่แออัดกันแถวหน้าพลางขมวดคิ้วแต่ก็ยังคงตอบ "ผมยังไงก็ได้"

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

"เอาล่ะพวกเราไปกัน! ขอทางหน่อยค่า~"

มือซ้ายจับมือนิโคไล มือขวาจับมือเชมัส จากนั้นเด็กหญิงตัวเล็กก็เดินนำเด็กชายที่ตัวใหญ่กว่าเธอนิดหน่อยแหวกฝูงชนไปยังแถวหน้า ใช้ความได้เปรียบที่ตัวเล็กกว่าค่อย ๆ มุดไปตามทาง

จนแล้วจนรอดทั้งสามก็มายืนอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเด็ก ๆ บ้านอะพอลโล่กันจนได้ จากมุมนี้มองเห็นวิวแม่น้ำไทเบอร์น้อยได้ชัดเจนขึ้นเยอะเลย



[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]

เสียงแตรดนตรีกระหึ่มก้องไปทั่วแม่น้ำไทเบอร์น้อยเมื่อการแสดงพาเหรดเริ่มต้นขึ้น ขบวนเรือเริ่มล่องจากต้นน้ำด้วยจังหวะช้า ๆ ท่ามกลางเสียงแตรสังข์และเครื่องสายประสานเสียง เสียงนั้นไม่เพียงประกาศเริ่มขบวน แต่ยังถือเป็นการสวดอ้อนวอนต่อโชคชะตาให้กรุณาต่อมนุษย์ตลอดทั้งปี

เรือพิธีลำแรก ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยลายปูนปั้นทองคำจำลองวังของเทพีฟอร์ทูน่า ด้านหน้ามีรูปปั้นไม้เคลือบทองของเทพี มือข้างหนึ่งถือกงล้อแห่งโชค อีกข้างประคองเขาสัตว์ ที่หลั่งของผลผลิตจำลองไม่ขาดสาย ทั้งข้าวสาลี องุ่น ลูกมะเดื่อ และเหรียญทองจำลอง เด็กหญิงแต่งกายเป็นเทพธิดาน้อยยืนเรียงเป็นวงกลมรอบฐานประติมากรรม สวมพวงดอกไม้สดและโปรยกลีบดอกไม้ลงน้ำไม่ขาดตอน

ตามมาด้วย เรือของช่างฝีมือและสมาคมต่าง ๆ ของเมือง ช่างทำขนมปัง ช่างทอง จิตรกร และนักดนตรี ต่างตกแต่งเรือของตนให้สะท้อนโชคดีตามสายอาชีพ เรือของช่างขนมปังโปรยแป้งสาลีให้เป็นหมอกสีขาวบาง ๆ เหนือน้ำ ขณะที่บนเรือของนักดนตรีบรรเลงบทเพลงสดใสจากเครื่องดนตรีแบบโรมัน มีนักร้องเสียงสูงขับบทสดุดีเทพีฟอร์ทูน่าด้วยสำเนียงแบบเก่า ร่วมกับเสียงปรบมือของประชาชนบนฝั่งที่ยืนเรียงแน่นริมตลิ่ง

ขบวนกลางคือ เรือของสภาเมือง ประดับด้วยม่านแพรไหมปักตราสัญลักษณ์ SPQR โดยหัวเรือเป็นเวทีขนาดเล็กสำหรับ ละครใบ้ที่แสดงเรื่อง 'การกำเนิดขึ้นองโชคชะตา' นักแสดงใช้หน้ากากครึ่งหน้าจัดวางท่าทางอันอ่อนช้อย บอกเล่าการต่อสู้ระหว่างชะตากรรมอันบิดเบี้ยวและสติปัญญาของมนุษย์ ก่อนที่ฟอร์ทูน่าจะมอบกงล้อให้ผู้ที่ยอมรับทั้งโชคร้ายและโชคดีอย่างสงบ

ท้ายขบวนคือ เรือของประชาชน ที่เปิดให้ผู้คนสวมชุดขาวผูกผ้าพาดไหล่สีทองขึ้นเรือได้ เรือเหล่านี้ตกแต่งเรียบง่ายแต่สดใส ใช้ไม้ดอกพื้นถิ่น เช่น ดอกไอริส ดอกลิลลี่ และมะลิร้อยพวง สตรีสูงวัยจะร้อยด้ายแดงผูกข้อมือให้เด็ก ๆ บนเรือเพื่ออวยพรเรื่องโชคดีในชีวิต

เมื่อขบวนเรือทั้งหมดล่องผ่านสะพานหินหลักของเมือง จะมีพิธีโปรยดีนาเรียสจนแม่น้ำไทเบอร์น้อยกลายเป็นสีทองระยับจากเหรียญตราที่ถูกโยนลงมาเพื่อขอพรให้โชคดี

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

ไม่พลาดที่จะทำตามธรรมเนียม รีชาโปรยเหรียญดีนาเรียสที่เธอพอจะมีติดตัวอยู่บ้าง จากนั้นประสานมืออธิษฐาน หลับตาอ้อนวอนต่อเทพีแห่งโชคชะตา

'ไม่ว่าตอนนี้จูลี่จะอยู่ที่ไหน ก็ขอให้เขาปลอดภัยด้วยค่ะ'

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

หลังเสร็จพิธีกรรมเหล่าผู้คนก็หลั่งไหลออกจากริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์น้อยจนผู้คนเริ่มบางตา แล้วสาวน้อยรีชาก็เพิ่งนึกขึ้นได้

"แย่ล่ะ เราว่าจะถ่ายคลิปให้พี่ ๆ ดูด้วยนี่นา!"

เธอโพลงขึ้นมา แต่อย่างน้อยก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่พอจะแก้ไขตัวเองได้ทัน

"เราเพิ่งนึกได้ พี่ดีนฝากเราแลกเงินล่ะ เดี๋ยวเราขอตัวไปที่ธนาคารหน่อยได้ไหม นิคกี้กับเชมัสไปหาร้านอาหารรอเราก่อนก็ได้นะ"

"ผมยังไงก็ได้" เชมัสพูด... ที่หมายถึงให้ไปด้วยก็ยังได้

@Mackenzie [NPC Nikolai Croft]

"โอเค ถ้างั้นก็ไปด้วยกัน แต่ว่ารอเราด้วยนะ จะรีบแลกเงินให้เสร็จเลย"

เธอพูด จากนั้นยกมือบ๊ายบายสองพี่น้องอะพอลโล่ ก่อนจะกลับเข้าเมืองอีกครั้งเพื่อไปธนาคารแห่งนิวโรม



[เทศกาลฟอร์ทูน่า]
โยนเหรียญขอพรแม่น้ำไทเบอร์น้อย
5 ดีนาเรียส
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เข้าร่วมขบวนพาเหรดเรือและโปรยเหรียญลงแม่น้ำไทเบอร์น้อยเพื่อ “เสี่ยงโชค” และขอพร
+2 POINT

แสดงความคิดเห็น

Nikolai CroftSon of Hecate's lineage.-2025.06.20 / 10:00AM.- [ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]สถานที่ต่อไปที่กลุ่มเดมิก็อดทั้งสามคนมาถึ  รายละเอียด ตอบกลับ โพสต์ 2025-6-29 12:21
โพสต์ 18827 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-6-26 00:10
โพสต์ 18,827 ไบต์และได้รับ [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก เข็มทิศมหาสมุทร  โพสต์ 2025-6-26 00:10
โพสต์ 18,827 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก สื่อสารใต้น้ำ  โพสต์ 2025-6-26 00:10
โพสต์ 18,827 ไบต์และได้รับ +2 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ [ถูกบล็อค] ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เซ็นเชอร์น้ำ  โพสต์ 2025-6-26 00:10
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x2
x11
x2
x7
x2
x4
x7
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-6-29 12:21:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Dean ตอบกลับเมื่อ 2025-6-26 00:10 Resha CampbellThe youngest sister of Poseidon's lineage.20.06.2025 --- 10:00 AM - - - - - - - - - ...
Nikolai Croft
Son of Hecate's lineage.


-2025.06.20 / 10:00AM.- 


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


สถานที่ต่อไปที่กลุ่มเดมิก็อดทั้งสามคนมาถึงก็คือแม่น้ำไทเบอร์น้อย จากกำหนดการที่ฟังรีชาบอกเล่ามา ดูเหมือนว่าอีกไม่นานจะมีขบวนพาเหรดเรือเพื่อสรรเสริญสดุดีเทพีฟอร์ทูนาที่จุดนี้ แต่พวกเขาคงมาช้าไปหน่อย แม้พิธีการจะเริ่มในช่วงกลางวัน แต่ผู้คนมากมายกลับมาจองที่นั่งสำหรับเฝ้าชมขบวนแห่เรือตั้งแต่เช้าจนตอนนี้แทบไม่เหลือที่ว่าง ครั้นจะดูจากด้านหลังก็อาจถูกเบียดบังจนมองอะไรไม่เห็น


โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธิดาตัวน้อยแห่งมหาเทพโพไซดอน


"หวา แย่จัง แบบนี้จะมองเห็นไหมเนี่ย"


เท้าเล็ก ๆ ของเธอพยายามเขย่งขึ้นจนสุด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล กลุ่มฝูงชนตรงหน้าพวกเขาหนาแน่นเกินไป จนนึกออกได้เพียงแค่วิธีเดียวที่รีชาจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือขี่คอนิโคไลไม่ก็เชมัส แต่แบบนั้นคงไม่เหมาะสม


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


"รีชา นิโคไล เชมัส ทางนี้ มาตรงนี้สิ"


เหมือนได้ยินเสียงใครสักคนเรียกชื่อตนเองกับเพื่อนอีกสองคน พอมองไปยังต้นเสียงก็เห็นเหล่าบุตรแห่งอพอลโลกำลังโบกมือมาให้จากริมแม่น้ำตรงจุดที่น่าจะเห็นขบวนพาเหรดชัดกว่าตรงที่พวกเขาอยู่ กับทิปตา นิโคไลเคยพบอีกฝ่ายบ้างที่แถวชายหาดของค่าย ส่วนคนที่ชื่อคาเลปเขาไม่ค่อยคุ้นหน้าเท่าไหร่ แต่ดูจากรีชาที่โบกไม้โบกมือตอบแล้วน่าจะสนิทสนมกับทั้งคู่เหมือนคนอื่นในค่ายอย่างไม่ต้องสงสัย


"นิคกี้ เช พวกเราต้องจับมือกันไว้แน่น ๆ นะ แล้วเดินลุยไปหาพวกพี่ ๆ กัน"


รีชาหันมาบอกด้วยใบหน้าจริงจังจนนิโคไลถึงกับผงะ จะให้ฝ่าฝูงชนเข้าไปน่ะเหรอ เธอต้องพูดเล่นแน่ ๆ เขายอมดูอยู่ตรงนี้ยังดีกว่า


“ผมยังไงก็ได้”


คำตอบของเชมัสเหมือนดับฝันนิโคไล ถึงเด็กชายจากบ้านแอมฟิไทรต์จะหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ประโยคติดปากของเจ้าตัวก็ดูเหมือนเป็นการตกลงไปในตัว แล้วแบบนี้เขาจะทำยังไงได้นอกจาก…


"อ..โอเค"


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


เมื่อได้รับคำตอบอันเป็นเอกฉันท์ (?) เช่นเคย ธิดาแห่งโพไซดอนก็ไม่รอช้า จับมือเพื่อนทั้งสองคนละข้างเดินแหวกผู้คนตรงหน้าเข้าไปทันทีจนนิโคไลต้องก้มหน้า เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าหัวใจตนเองกำลังเต้นรัวแรงจนแทบกระดอนออกมาจากอกด้วยอาการแพนิค เหงื่อเริ่มไหลซึมตามไรผมและฝ่ามือจนไม่แน่ใจว่ารีชาจะรู้สึกไหมว่ามันเย็นเฉียบไปจากเดิม บุตรแห่งเฮคาทีจำต้องขบริมฝีปากไว้เพื่อต่อสู้กับความกลัวในจิตใจ 


จนสุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งสามคนก็มารวมกลุ่มกับทิปตาและคาเลปได้สำเร็จ


หลังจากนั้นไม่นานขบวนแห่เรือประจำเทศกาลฟอร์ทูนาก็เริ่มต้นขึ้น จากมุมที่พวกเขาอยู่ทำให้เห็นเรือแต่ละลำได้อย่างชัดเจน วิถีชีวิต ความเชื่อ ความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของคนพื้นเมือง ดนตรีที่ไพเราะ และความแข็งแกร่งเกรียงไกรของกองทัพชาวนิวโรมันสะท้อนออกมาให้เห็นจนแทบละสายตาไม่ได้ จิตใจอันหวาดกลัวของนิโคไลค่อย ๆ สงบลงยามมองขบวนเรือค่อย ๆ ล่องไปตามสายน้ำ 


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


เมื่อเรือทุกลำลอดผ่านสะพานหินหลักของเมืองไปแล้ว ผู้ชมในที่นั้นต่างโปรยเหรียญดีนาเรียสลงในแม่น้ำไทเบอร์น้อยแล้วพากันขอพรกับเทพฟอร์ทูนา แม้แต่รีชาเองก็ด้วย เด็กหญิงโปรยเหรียญทองจำนวนหนึ่งลงไปแล้วหลับตาพร้อมกับประสานมือไว้ตรงอก จากท่าทางนิ่งสงบเช่นนั้น เธอคงจะอธิษฐานเรื่องสำคัญอยู่


“ขอบคุณนะ”


เชมัสสะกิดไหล่เขาเบา ๆ แล้วยื่นเหรียญดีนาเรียสจำนวนหนึ่งมาให้ นิโคไลกล่าวขอบคุณเบา ๆ ด้วยไม่อยากรบกวนการขอพรของรีชาก่อนจะรับไว้แล้วโปรยลงไปในแม่น้ำ


‘ขอให้จูลี่ พี่ ๆ ที่บ้าน พี่ดีนรวมถึงทุกคนในค่ายฮาล์ฟบลัดที่ออกไปทำภารกิจกลับมาถึงค่ายอย่างปลอดภัยด้วยเถอะครับ’


มือทั้งสองข้างประสานกัน ดวงตาทั้งคู่หลับตาลงแล้วอธิษฐานต่อเทพีแห่งโชคชะตาด้วยความตั้งใจจริง แม้ไม่เคยออกไปทำภารกิจ แต่ในฐานะเหยื่อและผู้ได้รับการช่วยชีวิต นิโคไลรู้ดีว่าการทำภารกิจของเหล่าเดมิก็อดนั้นอันตรายและยากลำบากเพียงไหน เขาไม่อยากให้เกิดความสูญเสียใด ๆ อีก ไม่ว่ากับใครก็ตาม


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


"แย่ล่ะ เราว่าจะถ่ายคลิปให้พี่ ๆ ดูด้วยนี่นา !"


รีชาบอกขึ้นมาขณะที่ผู้คนเริ่มทยอยไปเที่ยวส่วนอื่นของงานเทศกาลต่อภายหลังจากขบวนพาเหรดเรือจบลง ดูเหมือนว่าเธอจะลืมเรื่องสำคัญอย่างการอัดคลิปไปเสียสนิท แต่แล้วเด็กหญิงก็นึกอีกเรื่องที่ต้องทำขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วเมื่อพูดถึงพี่ชายที่ไปทำภารกิจอยู่


"เราเพิ่งนึกได้ พี่ดีนฝากเราแลกเงินล่ะ เดี๋ยวเราขอตัวไปที่ธนาคารหน่อยได้ไหม นิคกี้กับเชมัสไปหาร้านอาหารรอเราก่อนก็ได้นะ"


ซึ่งก็แทบไม่ต้องเดาคำตอบของเชมัสเลยแม้แต่น้อย


“ผมยังไงก็ได้”


“ฉันว่าเราไปด้วยกันดีกว่า วันนี้คนเยอะ เดี๋ยวหากันไม่เจอ”


[ดูโรลเพลย์ของรีชาประกอบ]


เมื่อตกลงกันได้แล้ว ทั้งสามคนก็บอกลารุ่นพี่จากบ้านอพอลโลทั้งสองคน ก่อนจะขอแยกตัวเข้าไปในเมืองเพื่อไปทานมื้อเที่ยงและไปที่ธนาคารนิวโรม


“อะไรเหรอเชมัส…”


นิโคไลหันมาถามเชมัสที่สะกิดเขาอีกครั้งระหว่างที่ทั้งคู่เดินตามรีชาไป บุตรแห่งแอมฟิไทรต์ไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยื่นสมาร์ทโฟนมาให้เท่านั้น


“นี่มัน…”


คลิปภาพของขบวนแห่เรือเทศกาลฟอร์ทูนาตั้งแต่ต้นจนจบปรากฏสู่สายตา ดูท่าว่าเชมัสคงถ่ายเก็บไว้ตอนที่ทั้งรีชาและเขามัวแต่ดูกันจนเพลินแน่ ๆ


“ส่งให้รีชาสิ เธอต้องดีใจแน่”


นิโคไลส่งสมาร์ทโฟนคืนให้เชมัสก่อนที่ทั้งสองจะรีบเดินเมื่อเด็กหญิงคนเดียวในกลุ่มที่เดินนำหน้าไปไกลแล้วหันมาเร่ง




เทศกาลฟอร์ทูนา

โยนเหรียญขอพรแม่น้ำไทเบอร์น้อย

  4 ดีนาเรียส


เข้าร่วมขบวนพาเหรดเรือและโปรยเหรียญลงแม่น้ำไทเบอร์น้อยเพื่อ “เสี่ยงโชค” และขอพร

+2 POINT

@God 

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
  โพสต์ 2025-6-29 22:58
โพสต์ 63392 ไบต์และได้รับ 36 EXP!  โพสต์ 2025-6-29 12:22
โพสต์ 63,392 ไบต์และได้รับ +20 EXP +1 Point +20 ความกล้า +40 ความศรัทธา จาก เขตแดนเฮคาที  โพสต์ 2025-6-29 12:22
โพสต์ 63,392 ไบต์และได้รับ +20 EXP +55 ความกล้า +55 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-6-29 12:22
โพสต์ 63,392 ไบต์และได้รับ +18 EXP +30 เกียรติยศ จาก Hydro X  โพสต์ 2025-6-29 12:22
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
แหวนดาราจรัส
น้ำหอมเฮคาที
เหรียญนกฮูก
สร้อยคอดีไซน์เท่
กางเกงเดินป่า
ตำราเวทมนต์เฮคาที
เข็มกลัดเฮคาที
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
เกราะนักรบสีทองแดง
การควบคุมหมอกขั้นสูง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เรียกอาวุธจากหมอก
Hydro X
การปลุกผี
คบเพลิงเวท
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
นาฬิกาสปอร์ต
รองเท้าเซฟตี้
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x2
x1
x2
x7
x10
x10
x7
x2
x9
x6
x4
x3
x70
x4
x10
x6
x12
x6
x18
x3
x55
x9
x189
x14
x14
x12
x45
x18
x5
x5
x5
x2
x5
x2
x11
x20
x10
x10
x2
x2
x2
x4
x1
x3
x12
x6
x2
x5
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x13
x2
x4
x4
x2
x1
x16
x145
x192
x10
x6
x10
x10
x16
x55
x80
x1
x1
x1
x4
x3
x1
x1
x1
x1
x5
โพสต์ 2025-11-18 16:26:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด


The Hunter's Respite (ค่ำคืนแห่งการพักผ่อน)

ป้ายยาสิ่งที่คุณชอบมาเสียดี ๆ

             เมื่อแสงสีทองสุดท้ายของวันได้ลาลับไปจากขอบฟ้าแต่ยังคงเห็นได้ไกล ๆ จากการที่ช่วงกลางคืนตอนนี้คือช่วงเวลาพลบค่ำ ความมืดก็ไม่ได้นำพาความอ้างว้างมาสู่กรุงนิวโรมในค่ำคืนนี้ ณ บริเวณริมแม่น้ำไทเบอร์น้อยยังคงมีบรรยากาศอบอุ่นกำลังก่อตัวขึ้นอย่างนุ่มนวล


             แม่น้ำสายนี้ ซึ่งเป็นแนวปราการป้องกันทางธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของค่ายจูปิเตอร์และโอบล้อมนครไว้ แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าแม่น้ำไทเบอร์สายเดิม แต่ก็ไหลเอื่อย ๆ ด้วยพลังอันศักดิ์สิทธิ์ เสียงน้ำไหลเบา ๆ เป็นเหมือนเสียงกระซิบของเทพไทเบรินัส คอยชำระล้างความเหนื่อยล้าและพลังที่ไม่พึงประสงค์ (แม้กระทั่งพรแห่งกรีก) ออกไปจากเหล่าเดมิกอตที่ยืนอยู่ริมฝั่ง


ภาพประกอบโซนพักผ่อน

             งาน The Hunter's Respite ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่เป็นกันเอง พื้นดินถูกปูด้วยเสื่อขนาดใหญ่หลายผืน มีกองไฟกองใหญ่จุดอยู่ตรงกลางเปล่งแสงสีส้มแดงอ่อนโยน และมีสายไฟประดับดวงเล็ก ๆ ห้อยระย้าตามต้นไม้ สร้างความรู้สึกเหมือนอยู่ในการตั้งแคมป์พักผ่อนสุดโรแมนติก กลิ่นหอมฉุนของบาร์บีคิวเนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อไก่ และผักที่กำลังถูกย่างบนเตาผสมกับกลิ่นควันฟืนและกลิ่นน้ำค้างยามค่ำคืน เป็นสัญญาณของการปล่อยวางจากวินัยอันเคร่งครัด


             ภาพยนตร์กลางแจ้งถูกฉายขึ้นบนจอผ้าสีขาวขนาดใหญ่ที่ขึงอยู่ระหว่างต้นไม้ แม้เสียงจะถูกเปิดในระดับที่ไม่ดังเกินไป แต่ก็เพียงพอให้ผู้คนได้เอนกายลงพักผ่อนและรับชมอย่างสบายอารมณ์ ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งนั่งล้อมวงอยู่รอบกองไฟ บรรดาเดมิกอตและพลเมืองต่างผลัดกันหยิบยืมกีตาร์และอูคูเลเล่มาบรรเลงเพลงสบาย ๆ ทุกคนร่วมกันร้องเพลงเบา ๆ ส่งเสียงหัวเราะ และที่สำคัญที่สุดคือการแลกเปลี่ยนความชื่นชอบของกันและกัน บางคนพูดถึงความคลั่งไคล้ในซีรีส์จีนโบราณ, บางคนเปิดเผยว่าชอบอาหารไทยมากกว่าพิซซ่า, และบางคนก็เล่าเรื่องความฝันอันแสนประหลาดที่พวกเขาซ่อนไว้


             ค่ำคืนนี้คือช่วงเวลาที่พวกเขาได้ทิ้งดาบและโล่ห์ไว้ชั่วคราว ปล่อยตัวและใจออกห่างจากการรบและอสุรกาย ให้ตัวเองได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองอย่างแท้จริง และได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ริมสายน้ำที่คอยปกป้องพวกเขาอยู่เสมอ เป็นค่ำคืนแห่งความสงบสุขที่กินเวลายาวนานไปจนเกือบถึงเช้า (03:00 น.) เป็นรางวัลสำหรับเหล่านักรบที่สมควรได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดก่อนจะกลับไปทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่อีกครั้ง


วิธีเข้าร่วม (ง่ายมาก):
➡️โรลเพลย์เข้าร่วม: เดินทางมายังริมแม่น้ำไทเบอร์น้อยในช่วงกลางคืน (RP Time 18:00 - 03:00 น.)
➡️แชร์ของดี: โพส เพลง (จาก YouTube) ที่อยากแนะนำให้เพื่อนไปฟัง 1 เพลง หรือ แชร์ภาพยนตร์/ซีรี่ย์ที่อยากให้เพื่อนดู (พร้อมแปะภาพโปสเตอร์ด้วยนะ!) ครีเอจโรลเพลย์ตามสะดวก ป้ายยาเพลงและหนังมาให้ซะดี ๆ !!!

รางวัลกิจกรรมทุกคนจะได้รับ :  เนื้อมิโนทอร์ 3 ชิ้น, 10 คนแรกที่โพส จะได้รับ: +1 Point, คนที่โพสหลังจาก 10 คนแรก: ได้รับ หินอัปเกรด 2 ก้อน แทน
Vives annos [ลิงค์กิจกรรมหลัก]

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 16543 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-11-18 16:26
โพสต์ 16,543 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก แหวนเคลื่อนย้าย  โพสต์ 2025-11-18 16:26
โพสต์ 16,543 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต  โพสต์ 2025-11-18 16:26
โพสต์ 16,543 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก เนตรแห่งฟีบี้  โพสต์ 2025-11-18 16:26
โพสต์ 16,543 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก น้ำหอมเฮคาที  โพสต์ 2025-11-18 16:26
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Vulcan's Ember
ควบคุมมด
การฟืิ้นฟูแห่งชีวิตบริสุทธิ์
ผืนป่าลวงตา
ใบขับขี่สากล
บอดี้สูทแบล็คชิฟเทอร์ส
ดาบสุริยคติ
Icarus Mirror
แหวนเคลื่อนย้าย
จำแลงร่าง
สร้อยข้อมือเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เนตรแห่งฟีบี้
น้ำหอมเฮคาที
การควบคุมพืชขั้นสูง
การควบคุมธรนี
เข็มทิศ
รากพันธนาการ
หมวกเซนจูเรี่ยนกองร้อยที่ 2
สัมผัสแห่งชีวิต
พลังบงการความยาวของร่างกาย
โล่สคูทุม
รองเท้าเดินทัพ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
เกมคอนโซลพกพา
กล่องดนตรี
กระซิบแห่งพงไพร
แหวนดาราจรัส(D)
ต่างหูเงิน
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x6
x1
x10
x15
x4
x1
x1
x23
x2
x5
x8
x3
x4
x6
x15
x7
x2
x1
x4
x4
x8
x2
x2
x2
x4
x6
x8
x7
x2
x1
x4
x1
x1
x4
x5
x10
x27
x2
x2
x9
x27
x3
x4
x3
x2
x25
x1
x1
โพสต์ 2025-12-5 16:04:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด





วันที่ 1 ธันวาคม 2025
เวลา 
18:00 น.



ในช่วงพลบค่ำที่นิวโรมซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เอโลอิสไม่ได้สัมผัสมานานหลายเดือนนับตั้งแต่เหตุการณ์กลางวัน 24 ชั่วโมงที่ค่ายฮาล์ฟบลัด แสงสีทองสุดท้ายของวัน ได้ลาลับไปจากขอบฟ้าอย่างอ่อนโยน แต่ยังคงทิ้งริ้วสีส้มแดงไว้บนขอบฟ้าที่ไกลออกไป

แม่น้ำสายนี้เป็นแนวป้องกันสำคัญของค่ายจูปิเตอร์และโอบล้อมเมืองไว้ ไหลเอื่อย ๆ ด้วยพลังอันศักดิ์สิทธิ์ เสียงสายน้ำที่ไหลเบา ๆ เป็นเหมือนทำนองเพลงที่ช่วยชำระล้างความเหนื่อยล้า และสร้างความผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เอโลอิสรู้สึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนมากทีเดียว

งานเฉลิมฉลองค่ำคืนนี้มีชื่อว่า The Hunter's Respite ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและเป็นกันเอง พื้นดินถูกปูด้วย เสื่อหลายผืนสำหรับการพักผ่อน มีกองไฟขนาดใหญ่จุดอยู่ตรงกลาง ส่องแสงสีส้มแดงที่อ่อนโยน พร้อมกับ สายไฟประดับดวงเล็กๆ ที่ห้อยระย้าจากกิ่งไม้เหนือศีรษะ แถมมีการจัดเลี้ยงด้วยบาร์บีคิวด้วย

เอโลอิสซึ่งไม่ถนัดเข้าสังคมมากนัก แต่ก็ไม่ต้องการที่จะพลาดโอกาสนี้ เธอเห็นพื้นที่ว่างบนเสื่อผืนหนึ่งใกล้กับกองไฟ จึงเดินเข้าไปนั่งร่วมวงอย่างเงียบ ๆ แล้วเริ่มหยิบบาร์บีคิวเนื้อย่างที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นมารับประทานอย่างเอร็ดอร่อย

ผู้คนเริ่มสนทนาและแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันอย่างเป็นกันเอง กลุ่มหนึ่งกำลังเอนกายดูภาพยนตร์ที่ฉายบนจอผ้าขาวขนาดใหญ่ที่ขึงอยู่ระหว่างต้นไม้ ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งนั่งล้อมวงรอบกองไฟพร้อมเครื่องดนตรีสาย เสียงหัวเราะและการร้องเพลงเบา ๆ สร้างความรู้สึกของความสามัคคี เอโลอิสอยากจะเข้าร่วมบทสนทนาบ้างแต่ยังไม่รู้จะเริ่มกับใครอย่างไรดี

ในขณะที่สายตาของเธอกำลังสำรวจผู้คน ก็หันไปพบกับบุคคลที่เธอรู้สึกคุ้นตา ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งคุยกับเพื่อน ๆ อย่างสบายอารมณ์ เขามีใบหน้าของทหารโรมันที่เธอเคยเห็นในสนามรบ

เอโลอิสตัดสินใจรวบรวมความกล้า เดินเข้าไปหาเขา

“เอ่อ...นายใช่ควินตัส แอนเดอร์สันหรือเปล่า?” เอโลอิสเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ

ควินตัสหันมาเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่หนักแน่น 

“ใช่ครับ ผมเอง”

เอโลอิสโล่งอกที่ทักถูกคน

“ใช่จริง ๆ ด้วยสินะ! นายอาจจะจำฉันไม่ได้ แต่ว่านายเคยไปช่วยพวกเราสู้กับอสุรกายที่ค่ายฮาล์ฟบลัด” เธอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ “ครั้งนั้นต้องขอขอบคุณพวกนายมาก ๆ เลยที่มาเป็นกำลังเสริม ถ้าไม่ได้พวกนายพวกเราต้องแย่แน่”

ควินตัสใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์นั้น

“อืม...ผมเหมือนจะคุ้น ๆ หน้าอยู่นะ คลับคล้ายคลับคลาว่ามีคนผมแดง ๆ สู้อยู่แถวนั้นด้วย” เขาตอบพลางยิ้มเล็กน้อย “จริงสิ ขอแสดงความเสียใจเรื่องการเสียชีวิตของคนในค่ายในศึกครั้งนั้นด้วยนะ”

เอโลอิสพยักหน้ารับทันที เธอรู้ว่าเขาหมายถึงเอลลิส

“แล้วเอ่อ…คุณชื่ออะไรนะครับ?” ควินตัสถาม

“ฉันชื่อเอโลอิส เพจค่ะ เป็นธิดาแห่งเฮเฟตัส”

ควินตัสพยักหน้า ก่อนจะหันกลับไปสนทนากับเพื่อน ๆ หัวข้อสนทนาของพวกเขาในตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนังและซีรีส์ แต่ละคนแสดงความคิดเห็นอย่างออกรส จนกระทั่งมีคนหันมาถามเอโลอิส

“แล้วคุณเอโลอิสล่ะ? ช่วงนี้ดูเรื่องไหนบ้างไหม? มีแนะนำบ้างหรือเปล่า?”
 
เอโลอิสคิดถึงช่วงเวลาที่ได้นั่งดูซีรีส์ถอดสมองที่กระท่อมเฮอร์มีส

“ถ้าที่ฉันชอบไปนั่งดูที่บ้านเฮอร์มีสช่วงนี้ก็เป็นซีรีส์ BL ของไทยน่ะค่ะ” เธอตอบอย่างตรงไปตรงมา

ทุกคนมองมาที่เธอด้วยความสนใจปนแปลกใจ

“แต่มันค่อนข้างเบียว ๆ หน่อยนะคะ ชื่อเรื่องว่า ‘มีสติหน่อยคุณธีร์’ ไม่รู้พวกนายรู้จักไหม แต่ฉันว่ามันค่อนข้างโดนเส้นน่ะ” เอโลอิสกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มกึ่งขำ “ดูแล้วเสียสติดี”

เธอหลุดหัวเราะออกมาเมื่อนึกถึงเนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยความปั่นและบทพูดสุดเบียว ความรู้สึกของการได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเอง อย่างอิสระท่ามกลางเหล่านักรบโรมันทำให้เธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ทุกคนในวงสนทนาหัวเราะกับการยอมรับที่ตรงไปตรงมาของเธอ บทสนทนาก็ดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนานและเบาสมอง

ค่ำคืนนี้ถือเป็นวันดี ๆ ที่ช่วยให้จิตใจคลายเครียดได้มาก ก่อนที่เอโลอิสจะต้องไปเผชิญหน้ากับ ข้อสอบ DSTOMP ที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่วันข้างหน้า แค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้ว…



แปะโปสเตอร์
ปกติไม่ค่อยได้ดู BL เลยแต่ชีวิตมันเครียด หาอะไรเบาสมองดู 
กรุณาถอดสมองก่อนดูเพราะบทพูดมันเบียวมาก 55555


กิจกรรมที่ 4 The Hunter's Respite (ค่ำคืนแห่งการพักผ่อน)
รางวัลสำหรับผู้เข้าร่วม : เนื้อมิโนทอร์ 3 ชิ้น
โบนัสพิเศษ! 10 คนแรกที่โพส : +1 Point

@God 





แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
ได้โปรดเถอะสวรรค์ ได้โปรดเอาความเจ็บปวดทั้งหมดของเธอ มาลงที่ผมแต่เพียงผู้เดียว  โพสต์ 2025-12-10 16:28
ราตรีสวัสดิ์นะคนดื้อ รีบนอนซะนะ อย่าดื้อกับหมอนใบนั้น ที่เธอใช้นอนฝันยามหนุน   โพสต์ 2025-12-10 16:14
God
ดี: 5
  โพสต์ 2025-12-5 16:28
โพสต์ 16401 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-5 16:04
โพสต์ 16,401 ไบต์และได้รับ +4 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม  โพสต์ 2025-12-5 16:04
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
เสื้อแจ็คเก็ตบุนวม
เรือมินิบานาน่า
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
เกราะไทเทเนียม
สร้อยไข่มุกตาฮิตี
ผลิตภัณฑ์กันแดด
ค้อนไฟ
ควบคุมโลหะ
เข็มขัดเครื่องมือวิเศษ
ยอดนักสร้าง
หมวกนีเมียน
สัมผัสกับดัก
กลศาสตร์
โล่อัสพิส
กำไลหินนำโชค
ทนทานไฟ
ต่างหูเงิน
รองเท้าเซฟตี้
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x2
x18
x1
x4
x16
x1
x1
x3
x5
x5
x2
x4
x50
x1
x33
x1
x1
x1
x273
x2
x22
x7
x8
x2
x9
x10
x2
x52
x17
x31
x1
x1
x2
x5
x2
x8
x13
x2
x26
x7
x7
x7
x6
x44
x52
x3
x4
x11
x9
x9
x26
x18
x14
x1
x3
x6
x1
x11
x2
x2
x5
x1
x15
x5
x7
x11
x7
x15
x10
x15
x7
x25
x6
x3
x26
x1
x8
x3
x11
x69
x3
x2
x6
x10
x7
x5
x4
x5
x59
x1
x7
x25
x2
x48
x458
x24
x4
x185
x24
x1
x10
x11
x18
x7
x3
x1
x1
x2
x2369
x1
x39
x1
x1
x7
x1
x11
x3
x1
x1
x808
x25
x1
x1
x1
x3
x1
x198
x16
x16
x2
x14
x88
x13
x59
x391
โพสต์ 2025-12-10 18:34:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Clementis
Haus of Ratigan • Daughter of Justitia • Legacy of Orcus
Place
แม่น้ำไทเบอร์น้อย
Date and Time
วันที่ 3 ธันวาคม 2025 • 12.06 น.
Purpose
ภารกิจไกด์เดินชมรอบค่าย
NPC
วินเซนโซ เบอร์กาม็อตโต
“แม่น้ำไทเบอร์น้อยจะไหลภายในค่ายจูปิเตอร์ ถึงจะไม่ได้ใหญ่เท่าสายเดิมที่อยู่ในกรุงโรมเก่า แต่ก็มีพลังที่สามารถชพล้างพรแห่งกรีกได้เหมือนกัน อันที่จริงมันไม่ได้อยู่แค่ในค่ายแต่ล้อมทั้งกรุงโรมใหม่ด้วย เชื่อว่าคงไม่ต้องอธิบายเยอะใช่ไหม”
ดูเหมือนการรับรู้ว่าเธอเป็นประชากรชาวนิวโรมจะช่วยประหยัดคำพูดให้กับวินเซนโซได้ไม่น้อย คลีเมนทิสพยักหน้าด้วยเพราะเธอทราบข้อมูลพวกนี้อยู่แต่เดิมแล้ว ต่อให้ไม่ค่อยออกไปไหน แต่จะไม่รู้จักแม่น้ำสายที่ไหลอยู่รอบเมืองเกิดเลยก็กระไรอยู่
“คิดว่ายังไง จะเดินสำรวจแถวนี้อีกสักหน่อยมั้ย”
คำถามที่ตามมาพาลพาให้หญิงสาวก้มมองหน้าปัดนาฬิกา เธอเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อพิจารณาคำตอบ ก่อนจะได้ข้อสรุปกับตัวเองเป็นการส่ายหัวเบา ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ เที่ยงแล้วรีบทัวร์แล้วรีบไปหาอะไรทานกันดีกว่า เอาไว้ฉันค่อยแวะกลับมาสำรวจตอนว่าง ๆ ก็ได้”
ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่น่าพึงพอใจไม่น้อยในความคิดของฝ่ายเบอร์กาม็อตโต เขาจึงมุ่งหน้านำทางเธอไปยังอาคารกองร้อยที่หนึ่งซึ่งอยู่ภายในตัวค่าย

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [TGC-19] วินเซนโซ เบอร์กาม็อตโต เพิ่มขึ้น 10 โพสต์ 2025-12-10 19:16
God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-12-10 19:16
โพสต์ 7165 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-12-10 18:34
โพสต์ 7,165 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก กล่องดนตรี  โพสต์ 2025-12-10 18:34
โพสต์ 7,165 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ จาก เกมคอนโซลพกพา  โพสต์ 2025-12-10 18:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กำแพงแห่งคำสั่ง
สัมผัสแห่งความไม่สมดุล
ดาบสปาเธร์
หมวกเกราะกาเลีย
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
Hydro X
หนังสือนิยาย
กล่องดนตรี
เกมคอนโซลพกพา
ช่อดอกไม้
ต่างหูเงิน
ชุดเครื่องเพชร
เข็มทิศ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x2
x1
x3
x2
x1
x5
x5
x2
x1
x1
x30
x3
x5
x2
x1
x2
x1
x2
x1
x1
x10
x5
x1
x2
x2
x5
โพสต์ 2025-12-10 19:30:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Xolotl เมื่อ 2025-12-10 19:33

วันที่ 02 เดือน ธันวาคม ปี 2025

เวลาเย็น เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ แม่น้ำไทเบอร์น้อย

◀️┃▶️


แสงอาทิตย์ยามเย็นทอดตัวต่ำลงเหนือโดมหินอ่อนของกรุงนิวโรม เสียงระฆังบรูมาเลียดังแว่วจากใจกลางเมืองเรียกให้เหล่าลูกครึ่งเทพมารวมตัวกันในงานค่ำคืนที่กำลังจะเริ่มขึ้น คีอาร์ยืนอยู่ใต้ซุ้มไม้เลื้อยของฟอรัม ดวงตาเทาอมเขียวมองเส้นแสงทองที่กำลังกลืนไปกับสีครามของฟ้าอย่างเงียบงัน “รุ่นพี่” เธอเอ่ยเสียงเรียบ “หนูต้องไปทำกิจกรรมในงานบรูมาเลียตอนเย็นแล้วค่ะ”


เอมีเลียที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันมาพร้อมรอยยิ้ม “งั้นพี่ไปด้วยสิ”

คีอาร์ชะงักไปเล็กน้อยกับคำตอบนั้น ดวงตาเธอสะท้อนภาพของหญิงผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นและท่าทีชวนปวดหัวในแว่นที่เธอสวม “รุ่นพี่ไม่กลับไปที่ค่ายเหรอคะ?”
“เดี๋ยวทำกับเธอเสร็จก่อนค่อยกลับ” เอมีเลียตอบง่าย ๆ พลางยืดแขนขึ้นคลายกล้ามเนื้อ “พี่ขับรถกลับเองได้ ไม่ต้องรอรถไฟหรอก สบายมาก” 

สิ้นคำตอบคีอาร์ถอนหายใจเบา ๆ ไม่ได้ตอบโต้ เธอรู้ดีว่าการเถียงกับคนที่ดื้อดึงในลักษณะนี้คือการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น สุดท้ายก็เพียงพยักหน้าแล้วลุกขึ้น เดินนำออกจากฟอรัมโดยไม่พูดอะไรอีก ทั้งคู่เดินผ่านตรอกหินที่ทอดยาวออกนอกเมือง แสงจากโคมเวทมนตร์สองข้างทางเริ่มส่องสว่างท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย กลิ่นดินชื้นจากแม่น้ำไทเบอร์น้อยลอยเข้ามาแตะปลายจมูก


“ว่าแต่กิจกรรมอะไรเหรอ คีอาร์?” เอมีเลียถามขึ้นขณะก้าวตามหลัง มือหนึ่งล้วงกระเป๋า อีกมือถือเสื้อคลุมพาดบ่า

“ชื่อ The Hunter’s Respite ค่ะ” คีอาร์ตอบสั้น ๆ ไม่หันกลับมามองคนด้านหลังตัวเองเลยด้วยซ้ำ

“แล้วทำอะไรบ้างล่ะ?” เอมีเลียก็ชวนถามอีก

“เป็นแคมป์พักผ่อนค่ะ” เธอพูดเสียงเรียบ ความหมายของคำว่า พักผ่อน ในความคิดของคีอาร์ไม่ใช่การสังสรรค์ หากแต่เป็นการได้อยู่เงียบ ๆ กับตรรกะในหัวโดยไม่ต้องถูกเสียงใครแทรกแซง แต่ดูเหมือนว่าแคมป์ครั้งนี้จะไม่ใช่การพักผ่อนเสียแล้ว เอมีเลียหัวเราะในลำคอเมื่อคิดถึงการพักผ่อนตรงแคมป์ไฟ “พักผ่อนงั้นเหรอ ฟังดูเหมือนจะมีแต่กิจกรรมใช้แรงแน่เลย พวกสายลมเหนือแบบเธอนี่ต้องชอบแน่ ๆ”


คีอาร์ยังคงไม่ตอบ เธอเดินนิ่ง ๆ ไปตามทางดินริมแม่น้ำ ให้ลมพัดผมสีบลอนด์ทองแดงให้ปลิวเล็กน้อย คำว่าชอบแน่ ๆ เหมือนคำประชดเพราะเธอไม่มีทางใช้แรงในการทำงานหรืออะไรมากมายนัก แรงที่เธออยากจะใช้คือแรงสมองไม่ใช่แรงอย่างอื่น พลางที่ร่างบางเคลื่อนไหวด้วยความเงียบสงบเยือกเย็นราวอากาศยามฤดูหนาว ส่วนเอมีเลียเดินตามอยู่ข้างหลังอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะขยับขึ้นมาเดินเคียงข้างโดยไม่พูดอะไร เธอเหลือบมองเด็กสาวที่อยู่ข้างตัว ใบหน้าสงบ ดวงตาเรียบเฉยจนเหมือนจะไม่รู้จักคำว่ารู้สึก แต่ก็มีบางสิ่งในนั้นที่น่าดึงดูดเกินกว่าจะละสายตา


คีอาร์รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวนั้น เธอหันไปมองเล็กน้อย เห็นอีกฝ่ายเดินข้างกันอยู่โดยไม่พูดหรือขออนุญาต เธอไม่แสดงสีหน้าใด ๆ เพียงพูดขึ้นเบา ๆ “รุ่นพี่ เดินข้าง ๆ ทำไมคะ?”

“ก็ไม่อยากเดินตามต้อย ๆ เหมือนลูกหมาน่ะสิ” เอมีเลียหัวเราะ “เดินข้าง ๆ กันแบบนี้ดูดีกว่าเยอะเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ก็แล้วแต่รุ่นพี่ค่ะ” คีอาร์ตอบราบเรียบ แต่แววตาเธอแฝงประกายประเมินเล็กน้อย คนคนนี้พูดอะไรดูไม่จริงจัง แต่กลับรู้วิธีรักษาระยะห่างได้อย่างพอดี เอมีเลียไม่ได้บุกรุก แต่ก็ไม่ปล่อยให้ไกลเกินไป เหมือนนักบินที่รู้ตำแหน่งของลมทุกกระแสในอากาศอย่างแม่นยำเกินไปจนหนีไม่ได้และไล่ไม่ทัน 

รับมือยาก…


เสียงน้ำไหลของแม่น้ำไทเบอร์ดังข้างทาง สายลมหนาวพัดรอบตัวพวกเธออีกครั้ง เอมีเลียมองเส้นผมของคีอาร์ที่สะท้อนแสงเย็นในยามค่ำ พลางยิ้มมุมปาก “รู้ไหมคุณหนูลมหนาว พี่ว่าพวกเราคงได้อยู่ด้วยกันอีกนานแน่ ๆ เลยล่ะ” คีอาร์เหลือบตามองเอมีเลียนิดเดียวแต่เธอกลับไม่ตอบอะไร เธอเพียงคิดในใจอย่างสงบเงียบ ๆ ระหว่างเดินเข้าพื้นที่ มนุษย์มักพูดประโยคแบบนี้เวลาต้องการสร้างสายสัมพันธ์ แต่สุดท้ายแล้วสายสัมพันธ์คือภาระ ทุกสิ่งมีค่าเท่ากับประโยชน์ที่มันให้ และตอนนี้… รุ่นพี่คนนี้ยังคงมีประโยชน์อยู่


เมื่อมาถึงสถานที่จัดกิจกรรม The Hunter’s Respite อากาศเย็นยามค่ำเริ่มคลี่คลุมทั่วบริเวณ ท้องฟ้าสีม่วงน้ำเงินแต้มแสงไฟดวงเล็กจากสายหลอดที่ห้อยระย้าตามต้นไม้รอบลาน เสียงแม่น้ำไทเบอร์น้อยไหลเบาอยู่ใกล้ ๆ ผสมกลิ่นฟืนไหม้และเนื้อบาร์บีคิวที่ลอยแตะจมูกให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่นอย่างน่าประหลาด คีอาร์มองรอบบริเวณอย่างสำรวจ สถานที่ดูเรียบง่ายกว่าที่คิดไว้ แต่กลับมีระเบียบในแบบของมันเสื่อผืนใหญ่ถูกปูไว้รายรอบกองไฟหลายจุด ด้านข้างมีเตาย่างและโต๊ะไม้เรียงเป็นแถว ภาพยนตร์กลางแจ้งถูกฉายอยู่ตรงมุมหนึ่งของลานให้คนกลุ่มเล็ก ๆ เอนกายชมกันอย่างสบาย เธอถอนหายใจเบา ๆ ความตึงเครียดในไหล่เหมือนลดลงเล็กน้อยจากจำนวนคนและเสียงที่ไม่ได้ดังนัก


“ดูไม่เลวเลยนี่นา” เอมีเลียเอ่ยพลางยิ้ม เหลือบมองไฟสีส้มแดงที่สะท้อนในดวงตาเธอ “พี่ชอบกลิ่นฟืนแบบนี้จัง” คีอาร์พยักหน้าเบา ๆ ตอบรับแต่ไม่ตอบคำพูดนั้น พลางกวาดสายตามองหามุมที่มีคนน้อยที่สุดจนพบกองไฟหนึ่งใกล้ริมทางน้ำ เธอเดินเข้าไปอย่างเงียบ ๆ แล้วนั่งลงในตำแหน่งที่พอดีกับลมเย็นจากฝั่งแม่น้ำที่พัดมา แต่ก่อนจะทันได้เอนหลัง เอมีเลียก็มานั่งลงข้าง ๆ พร้อมยกมือไบอกขอโทษเล็กน้อย “ขอนั่งด้วยได้ไหม? ที่เหลือมันเต็มหมดเลย” คำนั้นทำให้คีอาร์มองซ้ายขวา ที่จริงมันยังมีที่นั่งอีกนิด แต่ไม่อยากเถียงกับคนดื้อจึงเพียงพยักหน้า “เชิญค่ะ รุ่นพี่”


“ขอบใจจ้ะ คุณหนูลมเหนือ” เสียงของเอมีเลียมีแววล้อเบา ๆ ก่อนจะเอนตัวนั่งข้างกันในระยะที่ไม่ถึงกับแตะตัวแต่ใกล้พอให้ความร้อนจากกองไฟส่งมาถึงผิว คนรอบกองไฟเริ่มทยอยเข้ามาเพิ่ม กลุ่มหนึ่งส่งเสียงหัวเราะ อีกกลุ่มกำลังร้องเพลงคลอด้วยกีตาร์ เสียงเพลงผสมกลิ่นควันไม้ทำให้ค่ำคืนนี้ดูไม่เร่งรีบและเป็นมิตรอย่างประหลาด ชายหนุ่มคนหนึ่งในกองไฟของคีอาร์และเอมีเลียเลยยกมือขึ้นพูด “งั้นแนะนำตัวกันหน่อยดีกว่า เผื่อใครยังไม่รู้จักกันนะ”


เอมีเลียยิ้มรับ “พี่ชื่อเอมีเลีย แอร์ฮาร์ต จากค่ายฮาล์ฟบลัด ธิดาซุส”


เสียงรอบกองไฟเงียบไปหนึ่งจังหวะ ก่อนจะมีเสียงอุทานเบา ๆ ตามมา “เอมีเลีย แอร์ฮาร์ตเหรอ!? นักบินหญิงคนนั้นน่ะเหรอ?” อีกคนก็เหมือนพึดต่อ “เดี๋ยว…บุตรของซุสอีกคนเหรอ ทำไมช่วงนี้ลูกของมหาเทพถึงโผล่เยอะจัง…” เอมีเลียหัวเราะเบา ๆ ยกมือขึ้นอย่างคนไม่ถือสา “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน สายลมเหนือคงพัดพามาเองล่ะมั้ง” ไม่นานเสียงหัวเราะรอบกองไฟดังขึ้นอีกครั้ง บรรยากาศกลับมาผ่อนคลาย ขณะที่คีอาร์นั่งนิ่งเงียบอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้มีส่วนร่วมกับวงสนทนา เธอเพียงเขี่ยเศษไม้ในกองไฟเบา ๆ มองเปลวที่แตกตัวออกจากกันด้วยสมาธิ เธอไม่เกลียดเสียงหัวเราะเหล่านั้น แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงต้องเปลืองพลังไปกับสิ่งที่ไม่ให้ผลลัพธ์ใด


เมื่อถึงคิวเธอ คีอาร์จึงพูดเพียงสั้น ๆ “คีอาร์ โซล็อตล์…สายเลือดบอเรอัสค่ะ” เสียงเธอเรียบและสุภาพพอจะจบประโยคโดยไม่เปิดช่องให้ซักถามต่อ แต่ก็ไม่วายมีบางคนเหลือบตามองอย่างสนใจ “บอเรอัส…เทพแห่งลมเหนือเหรอ? ไม่ค่อยได้ยินลูกหลานของท่านเลยนะ” คีอาร์ยิ้มบาง ๆ เหมือนว่าไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอคิดยังไง “คงเพราะลมเหนือไม่ชอบให้ใครสังเกตค่ะ”


เอมีเลียที่นั่งข้าง ๆ หัวเราะเบา ๆ พลางเอียงหน้ามาทางคีอาร์ “พูดได้เฉียบขาดเหมือนเดิมเลยนะคุณหนูลมหนาว พี่ชอบจัง” 


คีอาร์ไม่ตอบ เธอก้มหน้าลงมองเปลวไฟอีกครั้งในความเงียบ มือบางเขี่ยฟืนไปเรื่อย ๆ ราวกับต้องการใช้จังหวะนั้นกลบเสียงรบกวนทั้งหมดในหัว รอบตัวของเธอเต็มไปด้วยบทสนทนาของเหล่าลูกครึ่งเทพ บางคนคุยเรื่องเกม บางคนโต้แย้งเรื่องอาหาร บางคนพูดถึงซีรีส์ที่ชอบ ทุกเสียงล้วนมีน้ำหนักของชีวิตปกติที่พวกเขาไขว่คว้ากลับมาให้ได้หลังผ่านศึก แต่คีอาร์กลับรู้สึกว่าทุกคำพูดเป็นแค่สัญญาณรบกวนที่เธอจำเป็นต้องปรับสมดุลในหัวให้เรียบ ข้างกายของเธอ เอมีเลียยังคงคุยกับกลุ่มคนอื่นได้อย่างคล่องแคล่ว เสียงหัวเราะของเธอเบาแต่เต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่ทำให้คนรอบข้างยิ้มตามได้โดยไม่รู้ตัว เธอรู้วิธีจะเป็นศูนย์กลางโดยไม่ต้องแย่งซีนใคร


คีอาร์เหลือบมองการคุยนั้นเพียงแวบเดียว ก่อนจะก้มกลับไปมองไฟอีกครั้ง เธอคิดในใจอย่างนิ่งเรียบเช่นเดิม มนุษย์มักมีความสามารถพิเศษในการทำให้ตัวเองดูอบอุ่นโดยไม่จำเป็น ทั้งที่ภายในล้วนแสวงหาการยอมรับเพื่อให้รู้ว่าตนยังมีอยู่… แต่สุดท้ายมันก็เป็นเพียงกลไกทางเคมีในสมองเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์เท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย


ไม่นานเสียงหัวเราะรอบกองไฟค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงดนตรีอันอ่อนโยนของอูคูเลเล่และกีตาร์ที่ส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ ทีละคน บางคนร้องเพี้ยน บางคนเสียงดีเกินคาด แต่ทุกคนต่างเต็มไปด้วยรอยยิ้มและแววตาที่อบอุ่นท่ามกลางเปลวไฟที่เต้นระบำตามแรงลมเหนืออันอ่อนแรง คีอาร์นั่งนิ่ง มือเล็กเขี่ยเศษถ่านช้า ๆ อย่างไม่สนใจนัก จนเมื่อเพลงสิ้นสุดลงพร้อมเสียงปรบมือ ก็มีใครบางคนเอ่ยขึ้นจากฝั่งตรงข้าม “ทีนี้ถึงตาคีอาร์แล้ว!”


ทำเรียกนั้นทำให้เธอเงยหน้าขึ้นอย่างสงบ ดวงตาเทาอมเขียวมองไปรอบวงราวกับกำลังคำนวณเส้นทางหลบหนี “หนู…ไม่กล้าร้องค่ะ ร้องไม่เก่งเลยจริง ๆ” น้ำเสียงเธอนุ่มละมุนจนไม่มีใครสงสัยในคำปฏิเสธนั้น ใบหน้าขาวซีดมีสีเลือดจางขึ้นเล็กน้อย เหมือนคนที่กำลังอายจริง ๆ ทว่าในใจกลับเงียบสนิท การพูดปฏิเสธด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจะลดแรงกดดันจากฝูงชนได้ร้อยละเก้าสิบ ถ้ายังยืนยันอีกสิบ ฉันจะต้องจำยอมเพื่อรักษาภาพลักษณ์สุภาพเรียบร้อยไว้...


“โธ่ คุณคีอาร์ ร้องหน่อยเถอะน่า~” เสียงจากอีกฟากดังขึ้นพร้อมเสียงสนับสนุนจากคนอื่น ๆ ที่เริ่มตะโกนแซวอย่างสนุกสนาน แล้วเสียงเอมีเลียก็ตามมาอย่างที่เธอคาดไว้ “พี่ว่าให้คุณหนูลมเหนือร้องหน่อยสิ เสียงแบบเธอเหมาะกับเพลงช้าแน่เลย” คำพูดนั้นของเอมีเลียเหมือนกำลังต้อนหมาป่าที่แสร้งทำตัวเป็นลูกแมวให้จนมุมโดยสมบูรณ์เพราะอีกฝ่ายใช้สายตานั้นด้วย


คีอาร์เงียบไปหนึ่งจังหวะ ดวงตาไหวเพียงเสี้ยว ก่อนที่ริมฝีปากบางจะคลี่ยิ้มเล็ก ๆ แบบที่ทำให้ใครต่อใครละลาย “ถ้าทุกคนอยากฟัง…ก็ได้ค่ะ” เธอรับอูคูเลเล่มาจากมือใครบางคนอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ทั้งที่ในความจริงมือของเธอวางนิ้วถูกคอร์ดตั้งแต่สัมผัสแรก เมื่อได้รับและทำใจได้ร่างบางสูดลมหายใจเบา ๆ เสียงรอบกองไฟเงียบลงทันทีเมื่อเธอเอ่ยเสียงแรกออกมา


เสียงของคีอาร์เบา ราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่านยอดสน เป็นเสียง Head Voice ที่นุ่มละมุนจนแทบไม่กล้าแทรกแซง บางเบาแต่ชัดเจน ดนตรีรอบข้างหายไป เหลือเพียงเสียงเธอและเปลวไฟที่ไหวไหวราวจะเต้นตามจังหวะนั้น “Just close your eyes…~” น้ำเสียงนั้นหวานละมุน ราวกับคำปลอบโยน แต่ในใจของเธอเย็นชาจนแทบไร้ชีพจร หลับตาซะ… ถ้าพวกเธอหลับหมด ฉันก็จะได้ความสงบคืนมาเสียที


“Don’t you dare look out your window Everything’s on fire~…”


ผู้คนรอบกองไฟมองหน้ากัน ดวงตาหลายคู่มีน้ำใส ๆ เอ่อขึ้นเล็กน้อยเพราะคิดว่าเด็กสาวคงหมายถึงคำเตือนอันแสนอ่อนโยนต่อโลกที่โหดร้าย ทว่าในใจของคีอาร์ กลับไม่ใช่ความสงสารเลยแม้แต่น้อย อย่าสาระแนมองออกไปข้างนอก ความจริงมันโหดร้ายจนพวกเธอจะสติแตก แล้วฉันจะรำคาญเสียงกรีดร้องของพวกเธอ หลับตาซะ เชื่อในโลกปลอม ๆ นี้ไปเถอะ


เธอร้องต่อเรื่อย ๆ ด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบแต่งดงามเกินจะมองข้าม ทำนองเพลงลอยในอากาศเหมือนหมอกหนาในเช้าวันหิมะตก “You’ll be alright…” คำโกหกที่เธอร้องด้วยเสียงที่อ่อนโยนที่สุด เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีใครในที่นี้จะไม่เป็นไรจริง ๆ ในโลกของเดมิก็อดนี้ ไม่มีที่ใดปลอดภัยจากความตายและโชคชะตาที่พร้อมจะกลืนกินพวกเขาทุกเมื่อ เมื่อเสียงสุดท้ายจางหาย ความเงียบเข้าครอบงำชั่วขณะ ก่อนจะมีเสียงปรบมือและเสียงชมดังขึ้นราวกับระเบิดกลางความนิ่ง 


“โอ้ พระเจ้า เสียงเธอสวยมาก!” 

“เหมือนเพลงกล่อมเด็กเลย!” 

“ร้องอีกได้ไหม!?”


คีอาร์ก้มศีรษะเล็กน้อย ริมฝีปากแตะแนวรอยยิ้มบาง ๆ “ขอบคุณค่ะ แต่พอแค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวคนอื่นจะไม่ได้ร้อง” เธอพูดอย่างถ่อมตนตามแบบฉบับนั้น ในขณะที่คนรอบข้างยังคงชื่นชมไม่ขาดปาก เอมีเลียกลับเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสียงนุ่ม “พี่ไม่คิดเลยนะ ว่าคุณหนูลมเหนือจะมีเสียงแบบนี้” คีอาร์มองกลับไปที่เอมีเลียเพียงนิดเดียว แววตาเทาอมเขียวสะท้อนแสงไฟที่ไหววูบ เหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่หลังม่านน้ำแข็ง “บางอย่าง…ก็ไม่ได้มีไว้ให้รู้ตั้งแต่แรกค่ะ รุ่นพี่”


“งั้นพี่จะจำไว้” เอมีเลียบอกแบบนั้นพลางหัวเราะเบา ๆ 


เปลวไฟเริ่มลามสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเข้าสู่ช่วงดึก ดวงไฟประดับเหนือศีรษะทอแสงนวลอบอุ่น แต่กลับยิ่งทำให้คีอาร์รู้สึกอึดอัดเมื่อคนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ๆ เสียงหัวเราะ เสียงเพลง เสียงพูดคุยดังระงมเหมือนคลื่นที่ซัดเข้าหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเสียงในหัวเธอเริ่มเบลอและความเย็นในร่างกายเริ่มกระจายตัวเป็นสัญญาณเตือน ในขณะที่เอมีเลียหัวเราะกับใครสักคนอยู่ตรงข้าม คีอาร์นั่งตัวแข็ง มือเล็กวางบนเข่าอย่างเงียบเชียบ เธอมองไปรอบ ๆ เหมือนจะหาทางหลบ แต่ยังต้องรักษาภาพให้เป็นคุณหนูผู้สุภาพอยู่ดี


กระทั่งชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้กองไฟ เขามีรอยยิ้มกว้างและถือแก้วเป๊ปซี่ในมือ เดินมาทางพวกเธอโดยไม่มีทีท่าจะหยุด เขาพูดอะไรบางอย่างกับกลุ่มข้างหลัง แต่กลับย่อตัวลงนั่งตรงช่องว่างระหว่างคีอาร์กับเอมีเลียที่แทบไม่มีเหลือ และก่อนที่คีอาร์จะขยับหนีมือของชายคนนั้นก็วางลงบนไหล่เธออย่างเป็นกันเอง สัมผัสนั้นเหมือนเหล็กร้อนวางลงบนผิวน้ำแข็ง ภายในร่างคีอาร์มีเสียงบางอย่างดัง ติ๊ก เหมือนกลไกเริ่มทำงาน ลมหายใจเธอสั่นระริก ความเย็นจัดพุ่งขึ้นตามแนวสันหลัง นิ้วมือเริ่มชา อากาศรอบตัวลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกถึงพลังของลมกรดที่เตรียมจะปะทุออกมาโดยไม่ผ่านตรรกะใด ๆ


แต่ก่อนที่สติจะขาด เอมีเลียขยับตัวทันที มือของเธอวางลงบนไหล่คีอาร์ไวกว่าใคร เสียงหัวเราะเธอยังคงเป็นปกติอย่างแนบเนียน “ขอโทษนะจ๊ะ ฉันขอยืมตัวคีอาร์หน่อยนะ พาไปพักนิดนึง เธอดูจะร้อน ๆ ไปหน่อย” เอมีเลียพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นดึงมือคีอาร์ให้ตามมาทันที “อะ— อะไรเหรอ? เดี๋ยวสิ!” ชายหนุ่มคนนั้นขยับตัวเล็กน้อย 


แต่เอมีเลียเพียงยิ้ม “อย่าห่วงเลยค่ะ ฉันดูแลคุณหนูลมหนาวของฉันเอง” น้ำเสียงนั้นยังคงเป็นมิตร ทว่ามีแรงกดดันบางอย่างแผ่จากรัศมีของลูกสาวแห่งซุสจนเขาต้องยิ้มแห้ง ๆ แล้วถอยออกไปโดยไม่กล้าพูดอะไรอีก เมื่อเดินออกมาจากแสงไฟจนเหลือเพียงเงาจากแม่น้ำไทเบอร์ที่สะท้อนจันทร์ คีอาร์สูดลมหายใจยาว เสียงฟู่ของไอเย็นค่อย ๆ หายไปจากอากาศ “เราเกือบจะทำร้ายเขาแล้วใช่ไหม?” เสียงเอมีเลียดังขึ้นเรียบ ๆ แต่มีรอยยิ้มซ่อนอยู่ในน้ำเสียงนั้น 


ตอนที่ได้ยินคำนั้นคีอาร์กลับหันมามองเล็ก ๆ “หนูไม่ได้—”

“เกือบแล้วน่ะสิ” เอมีเลียขัดขึ้นทันที เธอเอนตัวเล็กน้อยมองเด็กสาวที่ยืนแข็งเป็นแท่งน้ำแข็งตรงหน้า “พี่เห็นสายตาเธอนะ คีอาร์ ลมรอบตัวแทบหยุดหายใจแล้ว”

คีอาร์หลบตา “ขอโทษค่ะ… รุ่นพี่ ขอบคุณที่ช่วยไว้”

“แค่ขอบคุณ? พี่บินข้ามมหาสมุทรมาก็ยังได้ขอบคุณที่ดีกว่านี้นะ” เอมีเลียยกคิ้ว มือเท้าเอวมองคีอาร์

คีอาร์ชะงักเล็กน้อยกับสายตานั้น ใบหน้าขาวอมชมพูขึ้นสีบาง ๆ แบบไม่รู้ตัว “แล้ว…พี่อยากได้อะไรคะ?”

“คำขอบคุณที่มีชีวิตหน่อยสิ” เอมีเลียก้าวเข้ามาใกล้ ดวงตาสีทองเข้มมองนิ่ง “พี่ไม่ใช่ครูในคลาสดาบนะตอนนี้ ไม่ต้องยืนตัวตรงเหมือนนักเรียนที่โดนตำหนิ ขอบคุณให้มันจริงใจหน่อยไม่ได้หรอ หืม?...” จากคำนั้นคีอาร์นิ่งไปครู่ ก่อนจะยกสายตามองตรง ริมฝีปากขยับช้า ๆ “ขอบคุณนะคะ รุ่นพี่… ถ้าไม่ได้พี่ หนูคงได้แช่แข็งใครสักคนจริง ๆ”


เมื่อได้คำที่พอใจเอมีเลียก็หัวเราะในลำคอ “แบบนี้สิ ถึงจะฟังขึ้นหน่อย” เธอว่าพร้อมเอื้อมมือมาวางบนศีรษะคีอาร์แล้วลูบเบา ๆ เหมือนปลอบเด็กน้อยแม้ว่านี้จะเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้สัมผัสกันก็ตามที “ดีแล้วที่บอกตรง ๆ อย่างน้อยพี่จะได้รู้ว่าต้องกันใครอีกบ้าง” คีอาร์นิ่งรับสัมผัสนั้นไว้ เธอไม่ชอบการถูกแตะตัวแต่ครั้งนี้กลับไม่ได้ขยับหนี เหมือนร่างกายรับรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ตั้งใจรุกราน แค่…อบอุ่นเกินกว่าที่ควร


“หนูจะจำไว้ค่ะ” เธอพูดเบา เสียงเหมือนลมหายใจเหนือผิวน้ำ “แต่ครั้งหน้า รุ่นพี่ไม่ต้องช่วยก็ได้”

“โธ่ ไม่เอาน่า” เอมีเลียหัวเราะอีกครั้ง “พี่ไม่ช่วยได้ยังไง ไม่งั้นคุณหนูลมหนาวของพี่จะไปแช่แข็งคนทั้งค่ายแล้วมั้ง?” 

คีอาร์ถอนหายใจเบา ๆ “ถ้ามันทำให้หนูได้อยู่เงียบ ๆ… ก็ไม่เลวเท่าไร”

“เพราะเราพูดแบบนี้แหละ พี่ถึงได้อยากแกล้งเรานัก” เอมีเลียหัวเราะลั่นในคราวนี้


เพลงที่แนะนำ


(หนังที่แนะนำ ดรุณพเนจรท่องยุทธภพ ข้าไม่มี ข้าก็... ไม่มีเงิน อย่าลืมไปดูกันนะจ๊ะ เจ้าเผิงหล่อมา)


รางวัลกิจกรรม :  เนื้อมิโนทอร์ 3 ชิ้น, 10 คนแรกที่โพส จะได้รับ: +1 Point


[NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต

พูดคุยกับ NPC ความสนิทสนม +5

โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ รุ่นพี่ +20

โบนัสจากเข้าร่วมกิจกรรมกับ NPC - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ NPC +5

กลิ่นหอมจาก น้ำหอม Unisex  - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +5

(โรลเพลย์ที่ลงท้ายด้วย 0 2 4 6 8 - ใช้ได้กับรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นเท่านั้น)



แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2025-12-10 21:42
โพสต์ 85430 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-10 19:30
โพสต์ 85,430 ไบต์และได้รับ +18 EXP +30 เกียรติยศ จาก Ignis Anima  โพสต์ 2025-12-10 19:30
โพสต์ 85,430 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 ความกล้า +7 ความศรัทธา จาก คมมีดวายุ  โพสต์ 2025-12-10 19:30
โพสต์ 85,430 ไบต์และได้รับ +4 EXP +8 ความกล้า +9 ความศรัทธา จาก ลมกรด  โพสต์ 2025-12-10 19:30
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Ignis Anima
คมมีดวายุ
ลมกรด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
หอกกรีก
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
สัมผัสแห่งสายลม
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
น้ำหอม Unisex
กล่องดนตรี
ปากกาหมึกซึม
ต่างหูเงิน
แว่นตา
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x1
x1
x1
x4
x1
x1
x3
x10
x1
x2
x3
x1
x3
x8
x3
x3
x5
x5
x2
x2
x4
x1
โพสต์ 2025-12-11 22:18:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2025-12-11 22:24

Sanz Mádl Count

Son of Poseidon

   EVENT

The Brumalia Commencement
The Hunter's Respite
3.12.2025 --- 7.45 pm

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -



ดูเหมือนว่านี่คือช่วงเวลาพักจากการบูชาเทพและเทพี เหล่าชาวโรมถึงได้มานั่งปิกนิกในยามพลบค่ำริมแม่น้ำไทเบอร์น้อย ก่อกองไฟปิ้งบาร์บีคิว ขึงผ้าใบแชร์หนังกลางแปลง บ้างก็ร้องเพลงเต้นระบำราวกับว่าที่นี่ไม่ใช่ค่ายทหารสุดเคร่งครัดอย่างค่ายจูปิเตอร์แห่งนิวโรม
                                                                       
ในมุมนี้นิวโรมเหมือนฮาล์ฟบลัดมากกว่าที่คิด
                                                                       
อาจเป็นอย่างนั้นเพราะความจริงแล้วพวกเราไม่ได้ต่างกันเลย หากถอดหัวโขนที่ได้รับออกไปทุกคนในนี้ก็เป็นเพียงแค่วัยรุ่นธรรมดา ๆ คนหนึ่งมีความฝัน มีความสดใส และมีความร่าเริง
                                                                       
"แล้วนายล่ะซันซ์ มีเพลงกับหนังที่ชอบเรื่องไหนบ้าง?" เพื่อนใหม่จากค่ายจูปิเตอร์เอ่ยถาม เขาคือหนุ่มผมทองสายเลือดจูปิเตอร์ที่ชื่อว่า อาเธอร์ แมฟเวอริค ที่เพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
                                                                       
"ฉันเหรอ?" ผมชี้หน้าตัวเอง "ไม่มีเป็นพิเศษ"
                                                                       
คิดไว้แล้วว่าอาจถูกถามด้วยคำถามนี้ เพราะทุกคนในวงสนทนาต่างแนะนำหนังและเพลงที่ชอบกันหมดแล้ว
                                                                       
"โธ่ อย่าตอบอะไรที่น่าเบื่อแบบนั้นสิ"
                                                                       
หญิงสาวที่มีเส้นผมสีเพลิงหัวเราะคิกคักขณะเอ่ยถาม ใช่ เธอมีผมไฟลุกจริง ๆ เพราะว่าเธอคือ เอ็มพูซาสุดสวยที่ชื่อว่า อารีเอล เมื่อได้พบเธอครั้งแรกทำเอาผมติดสตั๊น ไม่รู้ว่าควรชักอาวุธออกมาหรือเข้าไปทักทายทำความรู้จักดี แต่ที่นี่คือนิวโรม นครที่รวบรวมทั้งสายเลือดแห่งเทพ ลูกหลานมรดกเทพ และอสุรกายฝ่ายดีเอาไว้ด้วยกัน ผมจึงเลือกอย่างหลังที่จะจับมือนุ่ม ๆ ของเธอแทน
                                                                       
"ไม่มีที่ชอบเลยเหรอครับพี่ การ์ตูนในความทรงจำก็ได้นะฮะ" คราวนี้คนที่พูดคือ ลักซ์ สกายไรเดอร์ หนุ่มน้อยบุตรแห่งโซล เทพแห่งท้องฟ้าที่ผมไม่รู้จะเทียบกับเทพองค์ไหนของกรีกดี เขาเพิ่งแนะนำหนังเรื่องสตาร์เทรคไป จนนึกสงสัยว่าเกิดทันด้วยเหรอ
                                                                       
"ฉันชอบเล่นเกมมากกว่า ถ้าถามถึงเกม ออฟ เดอะ เยียร์ อาจจะตอบง่ายกว่านี้" ผมตอบออกไปด้วยท่าทางเท่ ๆ กลบเกลื่อนความรู้เรื่องหนังและเพลงอันน้อยนิดของตัวเอง แต่คนอื่นทำหน้าเซ็ง
                                                                       
ทว่าอยู่ ๆ ก็นึกถึงพี่ชายต่างมารดาขึ้นมา หมอนั่นน่ะเป็นแฟนหนังตัวยง พูดอะไรก็วกเข้าเรื่องหนังตลอดจนบางทีผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ
                                                                       
"แล้วถ้าถามพี่น้องที่บ้านให้ล่ะ? เจ้าพวกนั้นต้องมีเรื่องให้ป้ายยาเป็นสิบเรื่องแน่ ๆ" ผมเสนอความคิด
                                                                       
"แล้วแบบนั้นจะถือว่านายแนะนำหนังกับเพลงที่ชอบได้ยังไงล่ะ" อารีเอลยู่หน้า แต่เหมือนว่าอาเธอร์จะไม่ได้มีความคิดแบบนั้น
                                                                       
"ฉันว่าก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนะ บางทีพวกเราอาจมีความชอบตรงกับพี่น้องคนใดคนหนึ่งของพวกนายแล้วได้มาเป็นเพื่อนกันในอนาคตผ่านงานอดิเรกก็ได้นี่นา"
                                                                       
"ความจริงผมก็ไม่ติดนะฮะ คิดแบบพี่อาเธอร์อยู่เหมือนกัน" ลักซ์ตอบ
                                                                       
"โอเค งั้นเดี๋ยวลองถามให้"
                                                                       
ผมหยิบสมาร์ทโฟนเดดาลัสขึ้นมา เข้ากลุ่มแชท Poseidon Cabin 3 แล้วเลื่อนอ่านข้อความที่เหล่าพี่น้องแชทค้างไว้ประปราย ซึ่งไม่ได้มีสาระอะไรเหมือนเดิม ซึ่งดีแล้ว พอคุยเรื่องมีสาระทีไรไม่พ้นถูกใช่งานสักที
                                                                       
Sanz: เฮ้! ขอถามอะไรหน่อยสิ 
D.E.A.N.: ว่างายซันซ์นี่
D.E.A.N.: 
                                                                       


ดีนตอบแชทกลับมาทันทีราวกับในมือของหมอนี่ติดกาวไว้กับโทรศัพท์มือถือ
                                                                       
Sanz: ฉันกำลังคุยกับเพื่อนใหม่เรื่องหนังและเพลงอยู่น่ะ
Sanz: แต่ไม่มีอะไรไปแนะนำเขาได้เลยน่ะสิ
D.E.A.N.: ถ้างั้นนายถามถูกคนแล้วน้องรัก
D.E.A.N.: เพราะว่าฉันน่ะเป็นเจ้าแห่งหนัง
D.E.A.N.: 
                                                                       
หมอนี่ดูจะภูมิใจในเรื่องนี้น่าดู (แต่อาจจะน้อยกว่าตอนที่ดีนอวดแฟน) ทีนี้ก็สบายล่ะ
                                                                       
Sanz: อะ ว่ามา
                                                                       
ผมเห็นดีนกำลังพิมพ์ข้อความยุกยิก ทว่าโพสต์ที่เด้งขึ้นมาคือข้อความของรีชา น้องน้อยที่น่ารักของเรา
                                                                       
Resha: กำลังถามถึงหนังอยู่เหรอคะ หนูขอแนะนำด้วยคนได้มั้ย
Resha: 
                                                                       
ตอนนี้เหมือนกลายเป็นการประชันสติ๊กเกอร์เซ็ตใหม่ของสองพี่น้องโพไซดอน แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ ผมเดาว่ารีชน่าจะเสนอเรื่องเจ้าหญิงเจ้าชายแบบที่เธอชอบแน่ ๆ
                                                                       
Sanz: ได้สิรีช แนะนำมาเลย
D.E.A.N.: อย่าบอกนะว่า...
Resha: งู้ยยยย ขอบคุณนะคะพี่ซันซ์ งั้นหนูแนะนำเรื่องโปรดของหนูเลย เป็นหนังรักที่มาจากนิยายค่ะ หาดูได้ใน Amazon Prime
                                                                       
หนังใน Amazon Prime? นึกไม่ออกเลยแฮะว่าจะเป็นเรื่องไหน แต่อย่างรีชคงไม่แนะนำหนังเลือดสาดอย่าง The Boys อะไรนั่นหรอกนะ ผมเคยคิดจะดู แต่โดนเกมตัดใหม่หน้าไปก่อนเลยไม่เคยได้ดูสักที

Resha: นี่เลยค่ะเรื่องนี้
Resha: Red White & Royal Blue ค่ะ
D.E.A.N.: ชื่อคุ้น ๆ แฮะ
Sanz: ชื่อคุ้น ๆ แฮะ

ผมกับดีนพิมพ์พร้อมกันซะงั้น แล้วรีชก็เฉลยด้วยการโพสต์คลิปวีดีโอของหนังเรื่องนั้นให้ดู

Resha: 
D.E.A.N.: เฮ้ย! นี่มันหนังจากนิยายเกย์เล่มนั้นนี่หว่า 😱😱😱
Resha: พี่ดีนใจร้าย!
Resha: ไม่ใช่หนังเกย์สักหน่อย
Resha: เขาเรียกว่า Boy's Love ค่ะ
Resha: 
D.E.A.N.: หนังเรื่องนี้มันจำกัดอายุไม่ใช่เหรอ แล้วเธอเข้าไปดูได้ยังไง
Resha: ก็...
Resha: หนูดูจากแล๊ปท็อปพี่ดีนที่ล็อกอินค้างไว้น่ะค่ะ 😶


D.E.A.N.: 

ผมรู้เลยว่าที่ดีนตกใจไม่ใช่เพราะน้องสาวเอาไอดีตัวเองไปดูหนังเกินอายุ แต่ตกใจเพราะความลับอื่น ๆ ที่หมอนี่ซ่อนเอาไว้ในคอมพิวเตอร์แน่ ๆ

D.E.A.N.: ซันซ์นี่ นายห้ามน้องเข้าคอมฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!
Sanz: จะห้ามได้ยังไง ฉันกับรีชอยู่คนละที่กัน
D.E.A.N.: งั้นเจรี่ เจรี่ช่วยด้วยยยยยย

แต่ไร้สัญญาณตอบรับจากเจโรมที่กำลังอินเลิฟกับสาวบ้านไดโอนีซุสราวกับว่าหมอนั่นหลุดไปอยู่ในมิติแห่งความรักแล้วหายตัวไปตลอดกาล ส่วนรีชก็จ้อถึงความชอบของเธอไม่หยุด

Resha: นิดหน่อยเองค่าพี่ดีน ไม่เป็นไรหรอกเนอะ ยังไงพี่ก็ไม่ว่างดู หนูดูให้ไง จะได้ไม่ขาดทุน 
Resha: อิอิ
Resha: อีกอย่างพระเอกของเรื่องเหมือนพี่กับพี่แมคจะตายไป

ก็เหมือนจริงแหล่ะ เหมือนอย่างกับแกะ เหมือนอย่างกับสองคนนั้นไปแสดงมาเอง ถ้าผมไม่รู้จักดีนกับแมคเคนซี คงคิดว่าสองคนนี้เป็นดาราแน่ ๆ

Sanz: เอาน่า ๆ นายก็รับบทเรียนนี้ไว้แล้วกัน
Sanz: ว่าแต่ที่จะเสนอหนังกับเพลงน่ะ ไม่เสนอแล้วหรือไง
D.E.A.N.: แน่นอนสิ ฉันมีที่อยากเสนอ
D.E.A.N.: เป็นหนังที่เหมือนโลกในฝันของฉันเลย
D.E.A.N.: เพลงของหนังเรื่องนี้เพราะด้วย 

D.E.A.N.: เดี๋ยวฉันส่งเป็นเพลงประกอบหนังให้เลยแล้วกัน
Sanz: จัดมา
D.E.A.N.: 


D.E.A.N.: แถมตอนนี้กำลังฉายภาค 2 อยู่ในโรงด้วยนะพวกนาย!

ดีนหายไปแป๊บนึงก่อนที่เขาจะส่งคลิปมา ทำเอาผมรู้สึกประหลาดใจกับเรื่องที่เขาแนะนำ... ไม่ใช่ว่าคาดไม่ถึงหรอกนะ แต่... 

'หมอนี่ยังอยากเป็นหมาอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ!!!' 

ไม่ ๆๆ ผมควรจะตกใจที่หนังเรื่องโปรดของดีนคืออนิเมชั่นสัตว์มุ้งมิ้ง แต่รีชกับชอบหนังเก-- เอ้ย! บอยส์เลิฟเรทผู้ใหญ่เนี่ยสิ

"ซันซ์นายคุยกับที่บ้านเสียเพลินเลยนะ คืนนี้พวกเราจะได้รู้รสนิยมของพี่น้องนายไหมเนี่ย" เอ็มพูซาสาวเท้าคางพลางแซว

"ได้แล้ว ๆ คือว่างี้.. พี่ชายฉันแนะนำหนังการ์ตูนเรื่อง Zootopia น่ะ เขาบอกว่ามีภาคสองด้วย ว่าแต่เคยดูภาคหนึ่งกันหรือยัง"

"ไม่น่ะ" อาเธอร์ส่ายหน้าตอบ "แต่น่าสนใจดีนะ เป็นอนิเมชั่นที่ภาพสวยดี แล้วนี่... กวางตัวนี้คือชากีร่างั้นเหรอ"

"ผมเคยดูฮะ ชอบภาคหนึ่งมาก ๆ เลย เอาไว้ผมหาเวลาแว้บจากค่ายไปดูภาคสองสักทีดีกว่า" ลักซ์ตอบด้วยรอยยิ้มใสซื่อแบบเด็ก ๆ ที่น่าจะชอบหนังประเภทนี้รองจากการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่

"ว้ายย น้องกระต่ายน่ารักจัง แต่ว่าโลกนี้มีแต่สัตว์เหรอ" อารีเอลหันไปถามลักซ์

"ใช่ครับพี่อารีเอล โลกของซูโทเปียมีแต่สัตว์ เป็นโลกที่ไม่มีมนุษย์อยู่ในสมการตั้งแต่แรก" เด็กชายอธิบาย กลายเป็นว่าลักซ์แย่งผมแนะนำหนังไปแล้ว

"เป็นเหมือนยูโทเปียสินะ สัตว์ทุกตัวอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ถูกแบ่งแยก ราวกับโลกในฝันจริง ๆ..." ปีศาจสาวเกศาเพลิงยิ้มด้วยรอยยิ้มเศร้า ๆ ก่อนจะปรับอารมณ์ไม่ให้บรรยากาศดูหม่นหมอง

จนผมแอบคิดเหมือนกัน หรือว่าสิ่งที่ดีนบอกว่า 'เป็นหนังที่เหมือนโลกในฝันของฉันเลย' จะมีความหมายเหมือนที่อารีเอลสื่อ แต่ไม่รู้ทำไม ผมก็ยังคิดว่าหมอนี่ยังอยากเป็นแค่หมาของคนรวยอยู่ดี

"แต่ว่าคุยกับที่บ้านตั้งนานได้หนังมาแค่เรื่องเดียวเองเหรอจ๊ะ ฉันนึกว่าจะได้มาเยอะกว่านี้เสียอีก" 

"เอ่อ... ความจริงก็มีแหล่ะ แต่ว่าเป็นหนังเ--... บอยส์เลิฟที่น้องสาวฉันเสนอ ลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะแนะนำต่อดีไหม น้องสาวฉันชอบเพราะว่านักแสดงสองคนหน้าคล้ายกับญาติพวกเราน่ะ"

"แนะนำได้สิ ยุคสมัยเปลี่ยนไปหมดแล้ว ทุกคนชินกับเรื่องความรักของเพศเดียวกันหมดแล้วล่ะ" อาเธอร์ตอบอย่างเปิดกว้าง

"หนังบีแอลฉันก็ไม่รังเกียจนะ ชอบอยู่แล้วเลิฟคอเมดี้น่ะ อิอิ" 

"บีแอลคืออะไรเหรอครับ?" ลักซ์ถามสีหน้าฉงน

"เอ่อ.. ที่เรียกว่า... หนังวาย ใช่ไหม?" อาเธอร์เสริมอย่างไม่ค่อยแน่ใจ "เป็นหนังรักที่แสดงนำโดยนักแสดงชายสองคนน่ะ"

เมื่อได้คำตอบเด็กชายก็ทำปากเป็นคำว่า 'อ๋อ' แล้วไม่ได้เสนอความเห็นใดต่ออีก

"นี่ เรื่องนี้น่ะ" ผมเอาคลิปที่รีชส่งให้เพื่อนใหม่ดู คนที่ร้องกรี๊ดคืออารีเอล ส่วนอาเธอร์อมยิ้มบาง ๆ เอามือปิดตาลักซ์ตอนเข้าฉากวาบหวามในพรีวิว

"พระเอกหล่อจังซันซ์! พี่ชายนายหน้าตาคล้าย ๆ นักแสดงเหรอ คนไหนน่ะ ผิวขาวหรือว่าผิวแทน แต่ไม่ว่าคนไหนก็หล่อทั้งคู่เลย ไว้ชวนเขามานิวโรมสิ แล้วแนะนำให้ฉันได้รู้จักบ้าง"

"อ้อ..." คำขอนี้ชวนเอาผมพูดไม่ออก แต่บอกความจริงไปน่าจะดีกว่า เอ็มพูซาสาวจะได้เลิกฝันกลางวันลม ๆ แล้ง ๆ "ดีนหน้าตาคล้ายคนผิวแทนน่ะ แต่แฟนพี่ชายฉันก็หน้าตาเหมือนกับพระเอกอีกคน... คือ หมอนั่นเป็นเกย์"

"โอ้..." อสูรสาวอุทานออกมาได้แค่นั้น อ่านไม่ออกว่านั่นคือความรู้สึกเสียดายหรือว่าอะไร ทว่าเธอเปลี่ยนเรื่องคุยทันที "นี่ ๆ ข้าวโพดปิ้งอร่อยดีเนอะ ฉันว่าไปเอามาเพิ่มอีกไม้ดีกว่า"

สงสัยจะช็อคจริง ๆ แหล่ะ แต่ตรงนี้ยังมีคนที่หล่อไม่แพ้กันอยู่นะคร้าบคุณอารีเอล
                                                                                                                                              













- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แนะนำหนัง 2 เรื่องนี้ (แถม)


รางวัลเข้าร่วมกิจกรรม:
เนื้อมิโนทอร์ 3 ชิ้น (วัวสวรรค์?),
10 คนแรกที่โพส จะได้รับ: +1 Point
NPC - CABIN 3
NC

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
  โพสต์ 2025-12-12 21:42
โพสต์ 50964 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-12-11 22:18
โพสต์ 50,964 ไบต์และได้รับ +15 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +20 ความศรัทธา จาก น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ  โพสต์ 2025-12-11 22:18
โพสต์ 50,964 ไบต์และได้รับ +9 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ +8 ความกล้า จาก กางเกงเดินป่า  โพสต์ 2025-12-11 22:18
โพสต์ 50,964 ไบต์และได้รับ +7 EXP [ถูกบล็อค] เกียรติยศ จาก Anker PowerCore  โพสต์ 2025-12-11 22:18
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
น้ำมันหอมกลิ่นสุริยะ
กางเกงเดินป่า
Anker PowerCore
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่อัสพิสขัดเกลา
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x2
x1
x3
x3
x1
x1
x2
x11
x2
x7
x2
x4
x7
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-12-12 21:33:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Clementis
Haus of Ratigan • Daughter of Justitia • Legacy of Orcus
Place
แม่น้ำไทเบอร์น้อย
Date and Time
วันที่ 4 ธันวาคม 2025 • 20.12 น.
Purpose
The Hunter's Respite
ความเหนื่อยล้าของเมื่อวานทำให้ลืมกิจกรรมในเทศกาลบรูมาเลียไปเสียสนิท โชคดีนักที่พื้นที่สำหรับการพักผ่อนจะถูกจัดเตรียมจนถึงเกือบช่วงเช้ามืดของวันที่หก นับว่ายังมีเวลาอยู่เหลือเฟือ จึงไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่จะพบกับบริเวณสังสรรค์หย่อนใจเมื่อมาถึงริมแม่น้ำไทเบอร์น้อย
เธอมาคนเดียว บริเวณโดยรอบไม่มีใบหน้าคุ้นตาอยู่เลยแม้แต่น้อย เมื่อเป็นอย่างนั้นแผนที่จะอยู่ตัวติดกับรุ่นพี่สักคนที่รู้จักก็ถูกพับเก็บไป เด็กสาวเรียนรู้ว่าค่ำคืนนี้คงจะต้องฉายเดี่ยวเสียแล้ว
ดวงตาคู่สวยมองสำรวจไปรอบ ๆ บริเวณที่มีการฉายภาพยนตร์กลางแจ้งน่าสนใจไม่น้อย ทว่าถูกตัดออกไปจากตัวเลือกเมื่อพบว่าตอนนี้มันกำลังเล่นหนังแนวโรแมนซ์อยู่ ซึ่งเธอไม่ถูกกับอะไรแบบนั้นสักเท่าไหร่ หากเลือกได้หนังที่ถูกดัดแปลงจากวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนอาจจะเข้ากับคลีเมนทิสมากกว่า
ดังนั้นร่างบางจึงเคลื่อนตัวไปทิ้งตัวลงบนเสื่อลายตารางสีขาวแดงผืนหนึ่งซึ่งล้อมกองไฟอยู่ เสียงกีตาร์โปร่งดังคลอในสายลมชวนให้เผลอโยกกายตามโดยไม่ทันรู้ตัว กำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำอะไรดีในตอนที่บาร์บีคิวไม้หนึ่งถูกยื่นมาให้โดยคนที่ทราบจากรอยสักว่าเป็นรุ่นพี่ แต่ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายกลับไม่อยู่ในความทรงจำ ทว่านั่นไม่ได้สลักสำคัญแต่อย่างไร
“ไม้เดียวก็พอ ขอบคุณค่ะ”
คนไม่ค่อยขยันทานอาหารนักบอกแบบนั้น น้ำเสียงนอบน้อมในตอนรับมันมา ลูกแก้วที่น้ำตาลเทาส่องประกายเล็กน้อยเมื่อได้ลิ้มรส อร่อยกว่าที่คาดเดาเอาไว้หลายส่วน รู้ตัวอีกทีก็เหลือเพียงชิ้นสับปะรดและพริกหยวกที่อยู่เกือบก้นไม้ หากย้อนเวลากลับไปได้ขอเพิ่มอีกสักไม้คงดี
ทว่าริมฝีปากที่เผยอออกหมายจะถามถึงบาร์บีคิวไม้ใหม่ก็ต้องกลืนประโยคที่อยู่ในความคิดไปเมื่อเพลงก่อนหน้าจบลง บุคคลที่มีกีต้าร์อยู่ในมือถามความเห็นจากคนอื่นว่าควรดีดเพลงไหนต่อ ก่อนคนที่นั่งอยู่ใกล้เคียงจะถามต่อเป็นทอด ๆ จนบรรจบยังรุ่นน้องหน้าใหม่
“อา.. เพลงที่ชอบเหรอคะ”
เธอมีเพลงที่ชอบหลายบท นั่นรวมถึงเพลงที่ชอบที่สุดด้วย การตอบคำถามนี้ด้วยเพลย์ลิสต์น่าจะง่ายกว่าการเลือกเพลงใดเพลงหนึ่ง แต่หากมีเงื่อนไขกำกับเพิ่มเติมก็พอจะวางนิ้วจิ้มได้อยู่
“ถ้าที่เหมาะกับบรรยากาศตอนนี้.. เพลง False God ของ Taylor Swift ก็แล้วกันค่ะ”
บอกเพียงนั้นเสียงดนตรีก็ดังขึ้นจากสายกีต้าร์ที่ถูกดีด ทำนองคุ้นหูจึงถูกรับเข้าสู่โสตประสาทขณะบุตรีแห่งจัสติเทียทอดสายตาจับจ้องฝูงหิ่งห้อยบินรอบไม้ต้นใหญ่ คลอบรรเลงไปพร้อมกับเสียงไม้ฟืนดีดตัวในกองไฟและบทสนทนารอบตัว

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
  โพสต์ 2025-12-12 21:42
โพสต์ 10571 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-12-12 21:33
โพสต์ 10,571 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก รองเท้าเดินทัพ  โพสต์ 2025-12-12 21:33
โพสต์ 10,571 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก โล่สคูทุม  โพสต์ 2025-12-12 21:33
โพสต์ 10,571 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความศรัทธา จาก หนังสือนิยาย  โพสต์ 2025-12-12 21:33
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
กำแพงแห่งคำสั่ง
สัมผัสแห่งความไม่สมดุล
ดาบสปาเธร์
หมวกเกราะกาเลีย
เกราะทหารโรมัน
รองเท้าเดินทัพ
Hydro X
หนังสือนิยาย
กล่องดนตรี
เกมคอนโซลพกพา
ช่อดอกไม้
ต่างหูเงิน
ชุดเครื่องเพชร
เข็มทิศ
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
x2
x2
x1
x3
x2
x1
x5
x5
x2
x1
x1
x30
x3
x5
x2
x1
x2
x1
x2
x1
x1
x10
x5
x1
x2
x2
x5
โพสต์ 2025-12-13 15:44:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
13:00 น.ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์น้อย (13/12/2025)
สายน้ำที่ไหลเอื่อยและใสสะอาดของ ‘แม่น้ำไทเบอร์น้อย’ เปรียบเสมือนเครื่องชำระล้างจิตวิญญาณหลังจากต้องเผชิญกับความร้อนระอุและฝุ่นผงของสนามรบมาหมาด ๆ ไคคุกเข่าลงริมตลิ่งอย่างระมัดระวังไม่ให้กางเกงเปื้อนโคลน ควักน้ำเย็นเฉียบขึ้นมาล้างหน้าล้างตา ความสดชื่นแล่นพล่านไปทั่วใบหน้า ช่วยเรียกสติที่เริ่มล้าให้กลับมาตื่นตัวเต็มร้อย
“แม่น้ำสายนี้เชื่อมโยงกับไทเบอร์สายเดิมที่โรม...” โนอาห์ยืนกอดอกมองดูสายน้ำที่ไหลวน “มันมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปฏิเสธสิ่งแปลกปลอม... โดยเฉพาะพวกคำอวยพรจากฝั่งกรีก ถ้าใครมีติดตัวมา ลงน้ำนี้ทีเดียวหายเกลี้ยง”
“ของพรรค์นั้นผมไม่มีหรอกครับ” ไคสะบัดน้ำออกจากมือ เช็ดหน้าด้วยผ้าเช็ดหน้าพกพาที่รีดมาเรียบกริบ “ผมโรมันร้อยเปอร์เซ็นต์... แต่ในมุมมองยุทธวิธี นี่คือคูเมืองธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ ศัตรูที่บุกมาถึงตรงนี้ต้องเจอกับกระแสน้ำที่กราดเกี้ยวและโทสะของเนปจูน... เป็นปราการด่านสุดท้ายที่แข็งแกร่ง”
“และเป็นเส้นชัยของภารกิจทัวร์มาราธอนของเราด้วย” โนอาห์ยื่นมือมาดึงไคให้ลุกขึ้นยืน “นายทำได้ดีมาก ไค... เดินทั่วค่ายภายในหนึ่งวันโดยไม่บ่นสักคำ แถมยังวิเคราะห์ทุกอย่างเป็นฉาก ๆ ฉันยอมรับเลยว่านายอึดกว่าที่คิด”
ไคปัดฝุ่นที่กางเกง ยืดตัวตรงสบตาโนอาห์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความเคารพที่เพิ่มพูนขึ้น
“เพราะผมมีรุ่นพี่ที่ดีคอยนำทางครับ” ไคตอบเสียงจริงจัง “ขอบคุณที่เสียเวลาพาผมเดินดูทุกซอกทุกมุม... มันทำให้ผมเห็นภาพชัดเจนแล้วว่าผมต้องทำอะไรต่อที่นี่”
“ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวอย่างเป็นทางการ คุณชาย” โนอาห์ยิ้มกว้าง ตบไหล่ไคหนัก ๆ หนึ่งที “เอาล่ะ กลับไปที่พรินซิเปียกัน หมดเวลาสนุกแล้ว ได้เวลารายงานตัวและรับของขวัญต้อนรับ... หวังว่านายจะชอบนะ”
รับภารกิจไกด์เดินชมรอบค่าย
  • ทัวร์แม่น้ำไทเบอร์น้อย EXP +15

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 15 EXP โพสต์ 2025-12-13 17:35
Kai
โพสต์ 8073 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-12-13 15:44
Kai
โพสต์ 8,073 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก เสื้อค่ายจูปิเตอร์  โพสต์ 2025-12-13 15:44
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เสื้อค่ายจูปิเตอร์
โรคดิสเล็กเซีย(ละติน)
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x10
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้