เธอยังจำวันแรกที่ก้าวขาเข้ามาภายในคฤหาสน์เก่านี้ได้เป็นอย่างดี ─ ในตอนนั้นเนเรซ่าอายุสิบเจ็ด เธอแบกกระเป๋าขาด ๆ ใบใหญ่เข้ามาภายในบ้านใหม่ด้วยการแสร้งทำเป็นว่าซาบซึ้งสุดคณาที่ได้พบหน้าพ่อบังเกิดเกล้า (一-一) , เธอไม่ปฏิเสธว่าเจ้าของข้อตกลงอันแสนวุ่นวายนั้นทำหน้าที่พ่อได้ดี เนเรซ่าได้สารพัดสิ่ง จากการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเฮนลาดิส เธอได้บรรยากาศที่เรียกว่าครอบครัวคืน ได้ความรู้จากการสอนสั่งของนักธุรกิจหัวหมอ ได้น้องสาวแสนสวยที่มากไปด้วยความรู้ความสามารถ ทว่าสิ่งที่เนเรซ่าไม่อาจได้รับจากการเป็นเฮนลาดิสนั้นกลับเป็นแค่สิ่งง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ควรจะได้
ความโล่งใจ
เมื่อคุณเลือกที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยคำลวงและเงื่อนไขมากมายที่โอบรัดจนหายใจลำบาก สิ่งเดียวที่ทำได้เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองกลายมาเป็นคนผิดคำพูด ย่อมไม่พ้นการเล่นตามบทบาทที่ตัวเองได้รับอย่างสุดความสามารถ เนเรซ่าไม่ปฏิเสธว่าตัวเองเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย เมื่อก้าวขาเข้ามาอยู่ในครอบครัวที่ดูเหมือนจะเพียบพร้อมในทุกด้าน เธอใจเย็นขึ้น ทำเป็นว่ายิ้มมากขึ้น และเคยชินต่อการรับมือกับคลื่นอารมณ์ด้วยตัวคนเดียว
ทว่า.. เฮนลาดิสไม่ใช่ครอบครัวทั่วไปแบบที่คนอื่นคิดกันซะทีเดียว
“ .. คุณไม่ได้เจอเขาจริง ๆ เหรอ ”
คำถามที่วนเวียนไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า กับเสียงการเคลื่อนไหวเดิม ๆ จากด้านข้างที่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก ทั้งหมดนี้เป็นหนึ่งในความเคยชินที่เธอได้เห็นและสัมผัสมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยที่ไม่จำเป็นต้องหันไปมอง เนเรซ่าก็ยังทราบได้ดีว่าผู้เป็นพ่อบุญธรรมยามนี้กำลังวางแว่นขยายที่ใช้ตรวจสอบมูลค่าของโบราณวัตถุที่ต้องได้รับการตรวจสอบ ก่อนจะลุกขึ้นก้าวเดินมาหาเธอ
“ การตั้งคำถามเป็นสิ่งที่ดี เนเรซ่า แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีถ้าเธอมัวแต่ตั้งคำถามในสิ่งที่ถามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ”
ฝ่ามือหนาทาบลงกับไหล่มน เนเรซ่าปรายหางตามองทางต้นสัมผัสก่อนจะผ่อนลมหายใจออกผ่านริมฝีปาก เธอละสายตาจากหน้าต่างบานใหญ่ของห้องทำงานสไตล์วิคตอเรียสุดคลาสสิค และหันตัวเข้าหาพ่อบุญธรรมตลอดหลายปีมานี้อย่าง ‘ เอเดรียน เฮนลาดิส ’ พลางยกสองแขนขึ้นกอดอก
“ ตราบเท่าที่ฉันยังไม่ได้คำตอบที่ดีพอ ฉันขอตั้งคำถามแบบนี้ต่อไปดีกว่าค่ะเอเดรียน ”
ผู้อุปถัมย์ชั่วคราวหัวเราะเบา ๆ เขาถอยหลังหนึ่งก้าว ทิ้งสะโพกลงพิงกับโต๊ะทำงานชั้นดีโดยที่สายตายังมองตรงมาที่เธอ “ ไม่รู้จักยอมแพ้สมกับที่เป็นลูกของเขาจริง ๆ ” เขาที่ถูกกล่าวอ้างนี้แน่นอนว่าคงไม่พ้นพ่อแท้ ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเด็กสาวตรงหน้า สายตาของเอเดรียนมองผ่านไหล่ของเนเรซ่าไปยังหน้าต่างที่ตั้งอยู่ ทิวทัศน์ภายนอกนั้นชวนให้มอง เมื่อนอกจากสวนไม้งามขนาดย่อมแล้วยังมีเงาร่างของบุตรสาวอย่าง ‘ ไนมีเรีย ’ เดินผ่านไปพอให้เห็นได้แค่หลังไว ๆ ก่อนจะหายไป
“ การมีเธอมาอยู่ในเฮนลาดิสทำให้ฉันนึกสงสัยไม่น้อย ว่านิกซ์จะเหมือนฉัน เหมือนกับที่เธอเหมือนเขาบ้างไหม ” ช่วงเวลาถามไถ่ตามประสาคุณพ่อทำให้เจ้าของดวงใบหน้างามอย่างเนเรซ่าจำต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ — เธอไม่ได้ประหลาดใจในหัวข้อที่อีกฝ่ายพูดขึ้น แต่อย่างน้อยก็ประหลาดใจในฐานะที่หัวข้อถูกเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ดูติดขัดแม้แต่น้อย
“ เคยมีใครบอกไหมว่าคุณเป็นคนที่น่ากลัวมาก ”
น้ำเสียงเรียบใสแสนกังวานเอ่ยขัดช่วงเวลาแสนฟุ้งซ่านของผู้ปกครองที่ยืนอยู่ตรงหน้า เอเดรียนเบิกตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะตวัดสายตาคมกริบนั้นมองมาที่เธอด้วยความฉงนใจ “ เกรงว่าคุณจะเป็นคนแรกที่พูดแบบนี้ คุณนอร์ธาร่า ”
“ ผิดแล้ว ”
“ คุณเฮนลาดิสต่างหาก ”
เนเรซ่าขยิบตาอย่างซุกซน ก่อนจะเป็นฝ่ายก้าวเดินออกไปจากห้องทำงานเมื่อไร้เหตุผลที่จะต้องคงอยู่ , ถูกต้องแล้ว ชีวิตของเธอภายในที่แห่งนี้ก็ไม่ได้แย่นัก ตลกร้ายอยู่บ้างที่คนเหล่านี้ฉลาดเป็นกรด และรู้ซึ้งในบทบาทที่ตัวเองมีกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีสักรายที่ปริปากพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวอีกหนึ่งคนที่อยู่ร่วมชายคาในฐานะน้องสาวที่รักของเธอ
ไม่เอาน่า ไนมีเรียไม่ใช่คนขลาดเขลาเลยสักนิด
นัยน์ตาสีผืนสมุทรทอดมองไปยังสวนหย่อมซึ่งถูกตัดแต่งไว้อย่างสวยงาม เธอเฝ้ามองเงาร่างบางของน้องสาวผ่านหน้าต่างด้านนอกห้องทำงาน เนเรซ่าซื่อตรงกับไนมีเรียเสมอ อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อน ที่จำเป็นต้องเรียกกันว่าพี่น้อง เพราะฉะนั้นการอาศัยอยู่ที่นี่สำหรับเธอก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่แย่ไปทั้งหมดซะทีเดียว
…
“ คุณเนเรซ่าคะ ”
“ คุณเนเรซ่า ! ”
สิ้นเสียงเพรียกร้องที่ดังสะนั่นจากคนรับจ้างทำความสะอาดที่เข้ามาทำงานที่นี้บ้างเป็นระยะ เนเรซ่าสะดุ้งเฮือก หญิงสาวที่ทอดกายอยู่บนโซฟาเดี่ยวหอบหายใจเห็นหน่อยจากการตื่นขึ้นกระทันหัน
“ ด ดิฉันขออภัยที่ต้องรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณ ” คงเป็นเพราะนัยน์ตาสีฟ้าครามอันแสนคมกริบที่ตวัดมองผู้รบกวนดูจะแฝงความไม่พอใจไว้บ้าง อีกฝ่ายที่ล่วงเกินถึงได้รีบก้มหน้าก้มตาขอโทษเป็นอย่างดีจนเนเรซ่านึกหน่ายใจในความเคยชินที่ค่อนข้างแข็งกร้าวของตัวเธอเอง
“ ไม่เป็นไรค่ะ ขอโทษที พอดีว่าฉันเพลียไปหน่อย คงเกะกะคุณแย่ ” เนเรซ่าพูดขึ้นพร้อมกับการขยับตัว เธอหลุบตาลงมองหนังสือบนอกที่อ่านค้างไว้ และแน่นอน .. อาการของโรคประหลาดทางสายตาทำให้เธอเห็นตัวอักษรมากมายกลายไปเป็นตัวอักษรกรีกโบราณที่พอจะอ่านจับใจความได้แค่ไม่กี่คำ
น่าเบื่อจริง
“ ไม่เป็นไรเลยค่ะ ! ไม่เป็นไรเลย ” แม่บ้านสาวรีบร้อนปฏิเสธความจริงที่ว่าเนเรซ่าอาจจะอยู่เกะกะพื้นที่การทำงาน และทำให้เธอต้องระมัดระวังในการใช้เสียงมากกว่าเก่า เพราะอย่างไรเสียการมีหญิงสาวที่รูปลักษณ์โดดเด่นราวกับรูปปั้นมาหลับพักผ่อนอยู่ในพื้นที่ใกล้หูใกล้ตาย่อมเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เธอมีแรงใจในการทำงานมากขึ้นไม่น้อย “ คือ คุณเอเดรียนให้ฉันมาตามว่ารถจะออกแล้ว ถ้าคุณสนใจอยากไปพิพิธภัณฑ์ก็—-- ”
“ ฉันรู้แล้ว ขอบคุณค่ะ ” หญิงสาวกล่าวตัดบทโดยทันที เนเรซ่าตวัดขาลงจากโซฟาอย่างว่องไว เธอหันหลังกลับไปยิ้มให้แม่บ้านสาวเป็นการขอบคุณเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าก้าวเดินออกไปนอกตัวคฤหาสน์
ให้ตาย นี่เธอลืมไปได้ยังไงกันว่าวันนี้เป็นวันเข้าเมือง