บทที่3
แสงอาทิตย์ยามเช้าเริ่มทอแสงอ่อนๆ ผ่านหมู่เมฆสีเทา รถคันเก่าแล่นไปตามถนนทางหลวงสาย 25A อย่างช้าๆ ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางข้ามคืน คูเปอร์จับพวงมาลัยแน่น ความง่วงเริ่มครอบงำ แต่เขาพยายามสลัดมันออกไป สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง หลังจากเหตุการณ์ที่ปั๊มน้ำมัน เขาเรียนรู้ที่จะไม่ประมาทกับสิ่งใดอีก
เจคหลับพิงกระจกอยู่ข้างๆ หมวกปีกกว้าง ปิดบังเขาแพะ ของเขาไว้ เสียงกรนเบาๆ ดังเป็นจังหวะ คูเปอร์อดยิ้มไม่ได้ – ช่างเป็นผู้พิทักษ์ที่น่าเอ็นดูจริงๆ
แต่แล้วบางอย่างก็ดึงความสนใจของเขา คูเปอร์ขมวดคิ้ว ชะลอรถลง
"เจค" คูเปอร์สะกิดเพื่อน "ตื่นเถอะ มีอะไรแปลกๆ"
เจคสะดุ้งตื่น กระพริบตาถี่ๆ "อะไร? มอนสเตอร์อีกเหรอ?"
"ไม่ใช่ แต่ดูนั่นสิ" คูเปอร์ชี้ไปที่ถนนเบื้องหน้า "สังเกตมั้ย? หมอกกำลังจางลงตามแสงแดด แต่ตรงโค้งนั้น... มันกลับหนาขึ้นเรื่อยๆ"
"มันไม่ใช่หมอกธรรมดา" สีหน้าของเจคเคร่งขึ้มทันที "นั่นคือ ม่านหมอกวิเศษที่ซ่อนค่ายจากสายตามนุษย์ธรรมดา เราใกล้ถึงแล้ว"
คูเปอร์พยักหน้า กำลังจะถามต่อ แต่ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องแหลมสูงก็ดังแว่วมาจากท้องฟ้า ทำเอาขนที่ต้นคอของเขาลุกชัน เขามองขึ้นไปผ่านกระจกหน้ารถ เงาปีกกว้างสามคู่ทาบทับบนพื้นถนน ร่างของสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนผสมระหว่างผู้หญิงและนกอินทรีย์กำลังร่อนวนอยู่เหนือศีรษะ
"ฮาร์ปี้!" เจคร้องลั่น ใบหน้าซีดเผือด "สามตัว! พวกมันคงได้กลิ่นเลือดเทพของนายสักพักแล้ว"
"แต่ทำไมพวกมันถึงรอจนถึงตอนนี้?" คูเปอร์ถามพลางเหยียบคันเร่ง รถพุ่งไปข้างหน้าเร็วขึ้น
"เพราะตรงนี้เป็นจุดที่เหมาะที่สุด" เจคตอบ น้ำเสียงเครียด "ถนนคดเคี้ยว วนขึ้นเขา พื้นที่แคบ... พวกมันฉลาดพอที่จะรอจังหวะ"
ราวกับจะยืนยันคำพูดของเจค ฮาร์ปี้ตัวหนึ่งก็พุ่งดิ่งลงมา กรงเล็บแหลมคมเหยียดออก พร้อมจะฉีกทึ้งทุกอย่างที่ขวางทาง
คูเปอร์หักพวงมาลัยหลบอย่างฉิวเฉียด ล้อรถครูดกับราวกั้น เสียงโลหะเสียดสีดังสนั่น "เจค! ฉันมีแผน แต่นายต้องเชื่อใจฉัน"
"บอกมา!"
"ถนนนี้วนเป็นเกลียวขึ้นไปเรื่อยๆ ใช่มั้ย?" คูเปอร์พูดพลางหลบการโจมตีจากฮาร์ปี้ตัวที่สอง "ถ้าเราทำให้พวกมันบินสวนทางกัน..."
ดวงตาของเจคเบิกกว้าง "นายบ้าไปแล้ว! แต่... แต่มันอาจได้ผล!"
คูเปอร์เริ่มขับรถซิกแซก สมองประมวลผลทุกองค์ประกอบอย่างรวดเร็ว ความเร็วลม ความกว้างของถนน ระยะห่างระหว่างโค้ง ความเร็วในการบินของฮาร์ปี้ ทุกอย่างผสานเข้าด้วยกันเป็นสมการในหัวของเขา
ฮาร์ปี้ตัวแรกพุ่งลงมาอีกครั้ง คูเปอร์รอจนถึงจังหวะสุดท้ายจึงหักหลบ ทำให้มันต้องบินวนขึ้นไปใหม่ในมุมที่เขาต้องการ
"ตัวที่สอง! ระวัง!" เจคร้อง พลางกระชากร่างต่ำลงหลบกรงเล็บที่ปาดผ่านหลังคารถ
คูเปอร์รอจนฮาร์ปี้ตัวที่สองพุ่งลงมาใกล้ จึงเหยียบเบรกกะทันหัน ยางรถร้องดังเอี๊ยด ควันขาวพวยพุ่ง ฮาร์ปี้ที่ไม่ทันตั้งตัวพลาดเป้า และต้องบินวนขึ้นในทิศทางตรงข้ามกับตัวแรกพอดี
"เหลืออีกตัว..." คูเปอร์พึมพำ เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาตามขมับ
ฮาร์ปี้ตัวสุดท้ายดูจะฉลาดกว่าสองตัวแรก มันบินวนรออยู่สูง คอยจังหวะ แต่นั่นก็คือสิ่งที่คูเปอร์ต้องการ
"จับให้แน่น!" คูเปอร์ตะโกน พลางเหยียบคันเร่งสุดแรง รถพุ่งทะยานขึ้นทางลาดชัน
ฮาร์ปี้ตัวที่สามพุ่งตามลงมาในระดับต่ำ หวังจะตัดหน้ารถ ในขณะที่อีกสองตัวกำลังบินวนกลับมาจากคนละทิศทาง
"ตอนนี้!" คูเปอร์ตะโกน พลางหักพวงมาลัยเข้าโค้งหักศอกอย่างรวดเร็ว
เสียงปะทะกลางอากาศดังสนั่น! ฮาร์ปี้ทั้งสามที่บินมาด้วยความเร็วสูงในระดับความสูงต่างกัน พุ่งชนกันกลางอากาศอย่างจัง ขนนกสีน้ำตาลปลิวว่อน เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นหุบเขา
"เข้าไปในม่านหมอก! เร็ว!" เจคตะโกนสุดเสียง
คูเปอร์ไม่รอช้า เขาเหยียบคันเร่งจนสุด พุ่งเข้าไปในม่านหมอกหนาทึบ ความเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง โลกรอบตัวพร่าเลือนราวกับภาพวาดสีน้ำที่ถูกน้ำหยด เสียงกรีดร้องของฮาร์ปี้เริ่มเบาลงๆ จนเงียบหาย
และแล้ว... เมื่อม่านหมอกจางลง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้คูเปอร์ต้องอ้าปากค้าง
หุบเขาเขียวขจีทอดยาวสุดสายตา ทะเลสาบน้ำใสวาววับสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้า และเหนือสิ่งอื่นใด... บรรยากาศแห่งพลังอำนาจโบราณที่แผ่ซ่านไปทั่ว ราวกับว่าที่นี่เป็นดินแดนที่เวลาหยุดนิ่ง
"ยินดีต้อนรับสู่ค่ายฮาล์ฟบลัด" เจคยิ้มกว้าง
คูเปอร์จอดรถช้าๆ หัวใจเต้นระรัว ความรู้สึกประหลาดๆ แผ่ซ่านในอก
"มาเถอะ" เจคพูดพลางเปิดประตูรถ "มีคนรอพบนายอยู่มากมาย... และฉันว่านายมีเรื่องต้องรู้อีกเยอะเลย"
คูเปอร์พยักหน้า ก้าวลงจากรถอย่างช้าๆ สายลมเย็นพัดผ่าน เขาสูดหายใจลึกเต็มปอดเพื่อสูดดมอากาศบริสุทธิ์ หลังไม่ได้ทำมานาน เอาล่ะการเริ่มต้นครั้งใหม่ของคูเปอร์คงใกล้เริ่มขึ้นแล้ว
|