เมื่อพวกคุณได้อ่านบันทึกของดิฉัน หมายความว่าดิฉันยังมีชีวิตอยู่–🫦
ยามที่ผู้คนกำลังหลับใหลในยามราตรีของต้นคิมหันต์ฤดูซึ่งลมร้อนยังคงแหลมคม ณ ประตูค่ายฮาล์ฟบลัด ต้นสนศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องเขตแดนค่าย เมื่อเดินผ่านออกจากประตูโค้งสร้างจากหินอ่อนสีขาว ประดับประดาด้วยไม้เลื้อยงดงาม ข้างบนซุ้มประตูสลักอักษรสีทอง เผยร่างของเดมิก็อดทั้งสามคนกำลังเช็คความเรียบร้อยของสัมภาระที่จัดเตรียมไว้
ชายหนุ่มเรือนผมสีดำขลับชมพูผมปรกหน้ายื่นกระดาษซีร็อกซ์ให้ผู้ร่วมเดินทาง เนื้อหาของกระดาษแผ่นนี้ไม่ต่างจากแผนที่ แต่เป็นแผนที่ขนาดย่อมมีหมุดหมาย 657 บูเลอวาร์ด , เวสต์ฟิลด์, รัฐนิวเจอร์ซีย์
"เริ่มจากถนนฟาร์มโรด 3.141" ไฮรี่อธิบาย "และที่เหลือพวกเราขับรถไปเส้นทางตามนี้"
"พี่ไฮรี่ละเอียดจังเลยนะคะ"
"จากลองไอส์แลนด์ไปที่นั่นใช้เวลากี่ชั่วโมง"
"ใช้เวลาไม่นานครับ ถ้าขับรถส่วนตัวไปก็ราว ๆ 24 ไมล์ 40 นาที ขับรถกลางคืนถนนโล่งกว่าช่วงเช้าที่จราจรติดขัด"
"เริ่ดมากสุดหล่อ" ร่างเล็กเอ่ยชื่นชม "บราโว่ ๆ เดี๊ยนชอบไอเดียนี้ ก็ดีเหมือนกันผิวเดี๊ยนจะได้ไม่โดนแสงแดด แสงยูวีทำลายผิว"
ปาร์ตี้กลุ่มคนหน้าตาดีถือไฟฉายคนละกระบอกส่องทางเดินอันมืดทึบกลางป่าสน เนินเขารายล้อมต้นไม้สูงใหญ่
เสียงฝีเท้าดังสะท้อนทำลายความเงียบงันพงไพร เสียงจิ้งหรีดเรไรพัดแว่วตามสายลม
ในระหว่างเดินฝ่าป่าไปยังถนนฟาร์มโรด 'ดิฉันขอแนะนำให้พวกคุณได้รู้จัก สมาชิกในทีมทั้งสองคน ไฮรี่ แฟรงค์ คอสเตลโล่ น้องชายของดิฉัน และสาวน้อยวัยกระเตาะชาล็อต ลิลเลียน ธิดาแห่งเฮคาที หนึ่งในกุญแจสำคัญ'
ยิ่งก้าวขาไปด้านหน้า ทางเดินออกสู่ถนนแสงจากหลอดไฟของเสาไฟริมถนน ที่เคยเห็นริบหรี่ มันขยายใหญ่ขึ้นจนมองเห็นชัดเจนสองลูกตา
อาร์ตี้คำนวณระยะทางและเวลา "งานนี้หวานเจี๊ยบ 3-4 วัน คงเสร็จ" เปล่งน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ
"ถ้างานไม่ใหญ่อย่างที่พี่บอกผม คงเสร็จ ราว ๆ นั้นแหละครับ" ไฮรี่ตั้งข้อสงสัยรำพึงอยู่ในใจ 'คำพยากรณ์ออกเดินทาง งานไม่ใหญ่แน่นะวิ กระนั้นร่างสูงไม่ปริปากถามซ้ำ เมื่อเห็นพี่อาร์ตี้แสดงท่าทางมั่นใจออกนอกหน้า
"หนูสงสัย"
"จ๊ะสาว"
เด็กสาวในชุดเดรสโลลิต้ายาวปาดเปิดไหล่ ใบหน้ายิ้มแย้มพลันหายไปกลับกลายเป็นสีหน้าสงสัยขึ้นมาแทน
"พี่ไฮรี่บอกว่าถ้าขับรถส่วนตัวจะไปถึง ประมาณ 40 นาที สินะคะ ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเราไม่ใช้บริการแท็กซี่สามพี่น้องสีเทา จะได้ไปถึงไวกว่าเดิม"
"ใครจะไปก็ไปเถอะย่ะ เดี๊ยนไม่ไปแล้วคนนึง"
"ส่งเร็วก็จริง แต่มันก็เร้าใจเกินน้องสาว"
"แล้วเราใจมันไม่ดีหรอคะหนูเคยอ่านในบันทึกของพี่เพอร์ซี่ ดูน่าสนุกและตื่นเต้น มันจะเหมือนนั่งเครื่องเล่นไวกิ้งหรือนั่งรถไฟเหาะตีลัง แบบที่สวนสนุกไหมคะ"
ไฮรี่ไม่แปลกใจที่ชาวค่ายส่วนใหญ่จะเคยอ่านบันทึกการเดินทางของวีรบุรุษคนสำคัญของค่ายฮาล์ฟบลัด เพอร์ซีย์ แจ็กสัน เขาแค่นยิ้มแสยะเย้ยหยัน เลิกใส่ใจคำพูดเด็กสาว เพราะไม่อยากนึกถึงประสบการณ์สุดแย่เกินบรรยาย เขาหยิบซองหนังเก็บกุญแจรีโมทหรูหรา
"พี่อาร์ตี้ ชาล็อต จะไปเอารถกับผมหรืออยากยืนรออยู่แถวนี้"
"ไกลไหมล่ะ"
"เก้าร้อยเมตร"
อาร์ตี้ก้มมองรองเท้าส้นสูงสีแดง ฝ่าดงจากป่าสนออกมาได้ เดินอีกสักเก้าร้อยเมตรไหวชิล ร่างเล็กขยิบตาตกลงที่จะพร้อมกันดีกว่า ยืนรออยู่ตรงนี้ บรรยากาศแถวนี้วังเวงเหมือนจะเจอผีตลอดเวลา เสาไฟช่วยเป็นแสงสว่างได้น้อยนิด
ทั้งสามถึงลานจอดรถที่ชายหนุ่มเช่าไว้
ร่างสูงเช็คแบตเตอรี่กับลมยาง เทสล่ามาพร้อมภาพลักษณ์ของยานยนต์สุดหรู อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย กลายเป็นหนึ่งใน ของเล่นคนรวย ที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันจะได้ครอบครองสักครั้ง
ระบบขับเองอัตโนมัติตามเส้นทางที่กำหนดไว้ เขานั่งคุมพวงมาลัย อาร์ตี้ ชาล็อตนั่งเบาะหลัง มุ่งหน้าทางตะวันตกเฉียงเหนือเข้าสู่ลาฟาแยตและเลี้ยวซ้ายไปทางบรอดเวย์
ไฟหน้ารถส่องเห็นเงาตะคุ่มของสิ่งมีชีวิตที่กำลังวิ่งสวนทาง ขนาดลำตัวใหญ่เทียบเท่าเช้าเกือบโตเต็มวัย
"ช้างหลุดเหรอ" อาร์ตี้กุมอกร้องวี้ดว้ายเสียงแหลม "มันวิ่งมาทางรถเราแล้ว กรี๊ด ๆๆๆ"
"ตัวเหี้— อะไรวิ่งตัดหน้ามาฟ่ะ"
ไฮรี่ตบพวงมาลัยพยายามหักหลบ วัวทองสัมฤทธิ์โคลคีสวิ่งสวนเลนพุ่งชนหน้ารถเข้าอย่างจัง
เอี๊ยดดดดดดด
โครมมมมมมม
รถล้อเสียดสีพื้นถนนพร้อมประกายไฟเกิดเสียงอุบัติเหตุดังสนั่น ฝากระโปรงหน้าบุบยุบ แรงกระชากทำให้คนบนรถมีรอยฟกช้ำม่วงเขียวตามข้อแขน ฝ่ามือบอบบางจับใบหน้าหัวปูดนูนชนกระจกเต็ม ๆ
"ดีนะจมูกไม่หัก ไม่งั้นดิฉันจะลาภารกิจไปทำจมูกใหม่ ว้าย ๆๆ"
พูดไม่ทันจบ เจ้าวัวคลุ้มคลั่งพุ่งชนรถอีกรอบ พยายามทำลายรถคันหรูให้กลายเป็นเศษเหล็ก
ว่าแล้วทั้งสามก็ไม่รอช้าเปิดประตูรถพยุงร่างกายต่ออสุรกายที่หมายปองร้ายชีวิตพวกเขา ดวงตาเป็นทับทิบขนาดเท่ากำปั้นของวัวโคลคีสซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยเทพเฮเฟตัสจ้องเขม็ง ร่างเล็กผมแพลตินั่มบลอนด์ชักมีดสั้นขู่
"อ…อย่าเข้ามานะยะ เดี๊ยนแทงไส้แตกแน่"
เจ้าของใบหน้าหวานแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดในทันทีที่วัวโคลคีสเล็งมาที่ตัวเอง 'อีวัวบ้า ยืนอยู่ตั้งสามคน เล็งดิฉันทำไม ไปเล็งคนอื่นสิยะ'
แส้กระดูกงูตวัดเหวี่ยงไปด้านหน้า ดึงดูดความสนใจวัวโคลคีส วิ่งปรื๋อชาร์จชายหนุ่มอีกคนแทน ไฮรี่แสดงความเกรี้ยวกราดหวดล็อกร่างอสุรกายตัวใหญ่
"อินคันทาเร อินคาร์เซอรัส" ชาล็อตร่ายเวทมนตร์คาถาเสกเชือก โดยชี้คบเพลิงไปยังเป้าหมาย ฉับพลันเชือกโผล่มาหลายเส้นกลางอากาศมัดอสุรกายอัตโนมัติ
เจ้าวัวหยุดการเคลื่อนไหว เมื่อถูกเชือกและแส้รัดตึง ลูกเล่นของมันยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มันอ้าปากที่เป็นบานพับ เปลวเพลิงร้อนแรงสีขาวพวยพุ่ง ถึงจะอยู่ห่างจากมัน พวกเราทุกคนยังรู้สึกถึงความร้อนของผิวโลหะ
"จัดการมันเลย" ไฮรี่ตะโกน
"มงลงมิสแกรนด์ !!!" ชายหนุ่มหน้าหวานพูดปลุกใจ วิ่งพลางหลบวัวโคลคีสที่พ่นไฟไม่หยุดพัก อากาศแปรเปลี่ยนเป็นไอร้อนล้วน ๆ มีดสั้นแทงยับอัดปากก่อนที่วัวทองสัมฤทธิ์จะพ่นไฟอีกรอบ
กลไกด้านในตัววัวโคลคีสถูกทำลายจากด้านใน มันโซเซหงายหลังล้มลง ร่างกายสลายเป็นละอองสีทอง
ร่างสูงวิ่งมาดูอาการอาร์ตี้ "โอเคนะ"
"ตอบไม่โอเคแล้วกลับค่ายตอนนี้เลยทันป่ะ"
"มาถึงครึ่งทางแล้ว ให้กลับ…"
"รถพังเละจะไปยังต่อยังไงเอ่ย" อนาถใจแท้อาร์ตี้จดบันทึกบัญชีหนังหมาไว้ในใจ "คอยดู๊ คอยดู เถอะเดี๊ยนจะร้องเรียน เดี๊ยนจะแจ้งคอมเพลนไปยังโอลิมปัส วัวโคลคีสที่เทพสร้าง …เทพองค์ไหนนะยะ"
"เฮเฟตันค่ะ"
"ดิฉันจะไม่ยอมต้องส่งเรียนร้องอย่างเดียวเท่านั้นมีอย่างที่ไหนปล่อยให้สิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา พังทำลายข้าวของคนอื่น แถมยังเอาชีวิตอีก !" ร่างเล็กวีนแตกขนาดแท็กซี่สามพี่น้องสีเทายังเคยนำเรื่องนี้แจ้งคอมเพลนกับคุณดี นับประสาอะไรกับวัวบ้าจักรกล เดี๋ยวเจอแน่จ่ะ
ความเสียใจต่อรถไม่มีอยู่ในอารมณ์ไฮรี่ ยกเว้นอาการหงุดหงิด รถพังเละไม่เป็นท่าใกล้สะพานสี่เลนพูลาสกิสกายเวย์ ทางหลวงตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐนิวเจอร์ซีย์
ทั้งที่ถึงนิวเจอร์ซีย์แล้วแท้ ๆ
"ผมเสนอรอจนกว่าจะเช้าค่อยเรียกรถที่ผ่านไปผ่านมาแถวนี้" เขามองนาฬิกาข้อมือแสดงบอกเวลาอีก 27 นาที เที่ยงคืน
"อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะเช้า ดิฉันไม่ชอบไอเดียนี้ ยุงได้กัดเลือดหมดตัวกันพอดี"
"เวอร์ ๆ"
"ไม่ย่ะ"
"ช่วยเข็นรถหน่อยสิครับ" ไฮรี่เรียกสองสาว (?) เพราะต้องการเข็นเทสล่าไปไหล่ทาง ฝั่งซ้ายสุดของช่องทางเดินรถ มีเส้นทึบ ๆ ขาว ๆ ลากยาว ๆ เอาไว้ และเว้นให้มีความกว้างประมาณกึ่งหนึ่งของช่องทางเดินรถปกติ เป็นที่จอดพักในกรณีฉุกเฉิน
"เดี๊ยนต้องช่วยเข็น แหม่ ๆ งานใช้แรงไม่ถนัดยืนให้กำลังใจอย่างเดียวไม่ได้เบ๋อ นี่สาวมาด้วยสิเธอ"
"พี่คะ"
"ยืนอ้ำอึ้งอะไรยะ อย่ากินแรงคนอื่นเนาะ"
เด็กสาวขยับคบเพลิงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เริ่มจากมุมล่างซ้าย เปล่งเสียงคาถาซ่อมแซมพื้นฐานใช้ได้กับวัสดุใหญ่แม้ความเสียหายเละตุ้มเป๊ะเกือบจำเค้าโครงเดิมรถไม่ได้ "อินคันทาเร เรปาโร"
แสงสีขาวเปล่งสว่างรอบรถ ซ่อมแซ่มของที่ชำรุดจากการถูกวัวทองสัมฤทธิ์โคลคีสชนยับ ฝากระโปรงหน้าและส่วนอื่น ๆ ซ่อมแซมอัตโนมัติทันตา สภาพกลับมาเหมือนใหม่
"เรียบร้อยค่ะ"
"สาว ว้าวเอเวอร์รี่ติง จิงเกอเบล" อาร์ตี้แตะเปลือกตาที่ทาปาดกลิตเตอร์ "ทำได้ทำไมไม่บอกแต่แรก"
"พวกพี่คุยกันไม่เปิดช่องไฟให้หนูพูดเลยค่ะ หนูไม่รู้จะพูดบอกยังไงดี เลยรอให้พวกพี่คุยกันเสร็จก่อน" ชาล็อตลิลเลียนตอบกลับ หาจังหวะแทรกไม่ได้… พี่อาร์ตี้ พี่ไฮรี่คุยกันเร็วมาก
ถึงเริ่มต้นสู่รัฐนิวเจอร์ซีย์จะทุลักทุเล ทว่านี่เป็นอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังทั้งสามอยู่ ณ ปลายทาง