[ประเทศยูเครน] เมืองมารียูปอล

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×



Mariupol, Donetks, Ukriane

เมืองมารีอูปอล แคว้นดอแนตสก์ ประเทศยูเครน
(สาธารณรัฐประชาชนดอแนตสก์)









เมืองมารีอูปอล



เป็นนครในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศยูเครน

ตั้งอยู่บนชายฝั่งทิศเหนือของทะเลอะซอฟตรงปากแม่น้ำกัลมีอุส ในภูมิภาคปรืออาซอวิยา

เป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับที่สิบของยูเครน และอันดับที่สองของแคว้นดอแนตสก์

มีประชากร 431,859 คน ประชากรส่วนใหญ่ของนครสื่อสารด้วยภาษารัสเซีย

ในขณะที่สถิติทางชาติพันธุ์พบว่ามีประชากรทั้งชาวยูเครนและชาวรัสเซียอยู่พอ ๆ กัน

นอกจากนี้ยังมีชาติพันธุ์กรีกมารีอูปอลเป็นชนกลุ่มน้อยที่สำคัญของนคร


นครตั้งขึ้นบนค่ายคอสแซ็กเก่าที่มีชื่อว่ากัลมีอุส และได้รับสิทธิ์ในการเป็นนครในปี 1778

ต่อมาในสมัยโซเวียตซึ่งมีธรรมเนียมการเปลี่ยนชื่อนครตามชื่อผู้นำคอมมิวนิสต์

นครได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น จดานอฟ ตามชื่อของ อันเดรย์ จดานอฟ ตั้งแต่ปี 1948 ถึง 1989


...ภายหลังสงครามในดอนบัส...

เมื่อนครดอแนตสก์กลายเป็น เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนดอแนตสก์ ในปี 2014

นครมารีอูปอลได้ขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการปกครองชั่วคราวของแคว้นดอแนตสก์


ประเทศ (โดยนิตินัย): ยูเครน

ประเทศ (โดยพฤตินัย): สาธารณรัฐประชาชนดอแนตสก์










แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 10221 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-6-4 21:35
โพสต์ 2024-6-10 20:45:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-11-12 11:28

168
ภารกิจเดินทางฉบับย่อม

             จากสถานนีต้นทาง เคียฟ สู่สถานีปลายทาง ครามาตอร์สค์

             ระยะเวลาเดินทางจริงไม่ได้รวดเร็วอย่างที่คำนวนเอาไว้ ดีนและเลนน็อคมาถึงสถานีรถไฟกรุงเคียฟราว ๆ สามทุ่มของวันที่ออกเดินทาง พวกเขาคิดว่าน่าจะได้ขึ้นรถไฟต่อไปยังครามาตอร์สค์ราว ๆ สี่ทุ่ม แต่ความจริงแล้วกว่ารถไฟจะมาก็เลทไปถึงสองชั่วโมง ไม่ใช่เพราะกูเกิ้ลเซ็ตตารางรถไฟผิดแต่เป็นเพราะดีนลืมไปว่าประเทศที่กำลังอยู่ในระหว่างสงครามย่อมมีเหตุผิดพลาดได้อยู่เสมอ และที่นี่ไม่ใช่นิวยอร์กที่มีรถไฟหลายขบวนวิ่งตลอดทั้งคืน กว่าที่ทั้งสองจะได้ขึ้นรถไฟก็ใกล้เวลาเที่ยงคืนเข้าไปทุกที

             ทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถไฟมีแต่ความมืดมิด แต่ยังพอเห็นซากปรักหักพังจากสงครามได้บ้างตามแสงสลัวจากข้างทาง ช่างเป็นภาพที่น่าใจหาย เคียฟคือเมืองหลวงของยูเครนแต่ก็ยังถูกขีปนาวุธถล่ม หากเมืองหลวงถูกโจมตีคงไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยสำหรับประเทศแห่งนี้ ดีนไม่รู้ว่าเลนน็อครู้สึกอย่างไร เพราะเมื่อขึ้นรถไฟมาได้อีกฝ่ายก็ได้แต่สวมหูฟังและหลับตาลงคล้ายกับว่ายังคงนอนหลับอยู่บนรถด่วนพิเศษเฮเฟตัสมาไม่พอ แต่สำหรับดีนแล้วเขาใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ นาทีนี้อสุรกายที่น่ากลัวที่สุดในโลกคงยังไม่น่าหวาดผวาเท่ากับขีปาณาวุธพิสัยไกลที่จะยิงถล่มเข้ามาเมื่อไรก็ไม่รู้

             ชายหนุ่มหวนนึกถึงเพื่อนคนหนึ่ง ดาริน่า อีวาโนวา คงเป็นชื่อคุ้นหูกันดีในค่ายฮาล์ฟบลัด แม้ว่าเขาจะไม่ได้เจอเธอเลยหลังจากแยกย้ายกันไปอยู่คนละบ้าน ดีนจำไม่ได้ว่าบ้านเกิดของหญิงสาวคือเมืองอะไร เธอเคยเล่าให้ฟังว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเรื่องงานศิลปะและไม่ใช่เมืองหลวงอย่างเคียฟ ชายหนุ่มหวังว่าบ้านเกิดของเธอจะปลอดภัยดี หากงานศิลปะทั้งหลายถูกทำลายลงไปคงน่าเสียดายแย่ ยังดีที่เธอและพ่อมีญาติที่นิวยอร์คจึงพากันอพยพย้ายที่อยู่กันมา แต่ชาวยูเครนหลายคนคงไม่โชคดีเท่า พวกเขาสูญเสียบ้านที่อยู่อาศัย ครอบครัว คนรัก หรือแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง

             การเดินทางบนรถไฟยาวนานราวกับบันทึกการเดินทางฉบับย่อ ดีนนอนหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ตื่นขึ้นมาตอนเช้ารับแสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างรถไฟจนต้องปิดม่าน เขาดูนาฬิกาข้อมือ ‘แปดนาฬิกา สามสิบหกนาที’ ยังอีกยาวนานกว่าจะถึงครามาตอร์สค์ ตามแมพกูเกิ้ลเขาเห็นว่าใช้เวลาเดินทางราวเจ็ดชั่วโมง แต่ตามความจริงหน้าตั๋วต้องเดินทางถึงสิบห้าชั่วโมง เนื่องจากทางรถไฟบางส่วนถูกทำลายจึงจำเป็นต้องใช้เส้นทางอ้อมไปลงสถานีอื่นก่อนจะสลับขบวนถึงสองครั้ง

             ดีนกะพริบตาปรับโฟกัสรับแสง พอจะจำเรื่องราวของเมื่อคืนได้คร่าว ๆ ช่วงราว ๆ หกโมงเขางัวเงียตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่งเมื่อรู้สึกถึงแสงไฟนอกหน้าต่างจากการที่รถไฟสลับขบวนที่ ‘ปาซาชีร์สกี้’ น่าจะเป็นเมืองหนึ่งในยูเครนนี่แหล่ะ และดูเหมือนว่าจะต้องสลับขบวนอีกครั้งที่ ‘สโลเวียนสค์’ ช่วงเที่ยงครึ่ง

             ไหน ๆ ตื่นขึ้นมาแล้วเขาก็หิ้วกระเป๋าใบเล็กที่พกอุปกรณ์ล้างหน้าต่าง ๆ ไปแปรงฟันในห้องน้ำของรถไฟที่ทั้งแคบและไม่สะอาดเทียบไม่ได้เลยกับห้องน้ำรถบ้านที่คณะเดินทางดูแลกันเองอย่างสะอาดเรียบร้อย แต่พวกเขาจำต้องโดยสารอยู่ในขบวนรถไฟตั้งสิบสามชั่วโมงเลยนี่นา ทนได้ก็ต้องทน ท่องเอาไว้ว่าเขาโชคดีแล้วที่ระเบิดไม่ลงเมื่อคืนนี้

             ลูกเรือเข็นรถเข็นมาขายอาหารเช้า จะดีกว่านี้ถ้าได้ทานไก่ทอดกรอบ ๆ กับวาฟเฟิลแผ่นโต ๆ ที่ราดเมเปิ้ลไซรัปเสียจนชุ่ม แต่อาหารบนรถไฟในประเทศที่มีสงครามจะมีอะไรแบบนั้นได้ยังไง สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้คงไม่พ้นแซนวิชแฮมชีสชืด ๆ ที่พอจะประทังหิวไปได้บ้าง และสถานีที่เขาต้องลงต่อไปคือดอแนตสก์ หนึ่งในเมืองที่เป็นสมรภูมิสงคราม คงต้องหาอาหารการกินยากมากแน่ ๆ ดีนจึงตุนเสบียงเป็นแซนวิชห้าหกชิ้นสำหรับพวกเขาทั้งสองตามสัญญาว่าจะเลี้ยงเลนน็อคตลอดการเดินทาง

             .
             .
             .

             จากครามาตอร์สค์ สู่ดอแนกตสก์

             เมื่อลงจากรถไฟมาชายหนุ่มก็เห็นซากเมืองที่ถูกทำลายอยู่ข้างหน้า สะพานบางแห่งถล่มจากขีปนาวุธ อาคารบ้านเรือนพังพินาศ ยิ่งใกล้พื้นที่ชายแดนทุกอย่างยิ่งดูแย่ลงไปเรื่อย ๆ จะบอกว่าเมืองแห่งนี้เป็นชายแดนของยูเครน ณ ปัจจุบันก็ว่าได้ เพราะเมืองถัดไปที่ต้องเดินทางผ่านคือ ‘ดอแนกตสก์’ ดีนไปศึกษาข้อมูลของดอแนสตสก์มาคร่าว ๆ แม้ว่าเมืองนี้จะถูกระบุว่าเป็นเมืองหนึ่งทางภูมิภาคตะวันออกของยูเครน แต่ในปัจจุบันกองกำลังปลดแอกได้ปกครองเมืองนี้แล้วสถาปนาทั้งแคว้นเป็นประเทศใหม่ชื่อ ‘สาธารณะรัฐดอแนสตสก์’ โดยมีรัสเซียหนุนหลัง

              พวกเขาจำต้องเรียกหาแท็กซี่ไปดอแนกตสก์ซึ่งหารถยากมาก ๆ แค่เรียกรถก็ใช้เวลานานถึงสองชั่วโมง และเดินทางเกือบสามชั่วโมงกว่าจะถึง เรียกได้ว่าใช้เวลาเกินกว่าแผนไปถึงสามเท่าตัว

             เกือบทุ่มกว่าจะถึงดอแนกตสก์ เรียกได้ว่าใช้เวลาไปทั้งวันสำหรับการเดินทาง จากแพลนที่บอกว่าเดินทางสิบสามชั่วโมงคือไม่จริง เอาเข้าจริงแล้วแทบจะเป็นยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยต่างหาก แล้วดึกแบบนี้การหารถไปมารีอูปอลแทบจะเป็นไปไม่ได้พวกเขาจึงจำเป็นต้องหาที่พักเพื่อซุกหัวนอน แต่คนไม่มีวีซ่าเข้าเมืองที่อยู่ระหว่างสงครามแบบนี้จะไปขอเข้าโรงแรมได้ยังไง ดังนั้นคืนนี้พวกเขาจึงจำเป็นต้องไปแอบนอนหลับพักผ่อนที่สวนสาธารณะรกร้างเอา

             ‘นี่ฉันมาทำอะไรที่นี่วะ!’

             ดีนตะโกนถามตัวเองในใจ มากำจัดกูลตามภารกิจเทพีอะธีน่าน่ะใช่ แต่จำเป็นจะต้องมายังเมืองสุดเขตชายแดนแบบนี้ด้วยเหรอ? คล้ายเลนน็อคอ่านสีหน้าเขาออก อีกฝ่ายตบบ่าของดีนเบา ๆ คล้ายให้กำลังใจโดยไม่ได้พูดอะไร อีกฝ่ายเปิดปากพูดก็แค่ตอนที่จำเป็นต้องใช้ภาษารัสเซียสำเนียงแปล่ง ๆ ในการติดต่อเดินทางเพียงเท่านั้น

             การเป็นเดมิก็อดมันไม่ง่าย.. ไม่ง่ายเลยจริง ๆ คืนนี้ทั้งคืนจึงต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ระแวงทั้งโจรมาปล้น ทหารมาจับ ระเบิดจากประเทศขั้วตรงข้าม และอสุรกายจากรัสเซีย จะว่าไปก็น่าแปลกที่พวกเขาไม่เจอศัตรูเลยระหว่างการเดินทาง อาจเป็นเพราะอสุรกายถูกระเบิดตายหมดแล้วก็ได้มั้ง? ดีนไม่รู้ว่าระเบิดทำอันตรายแก่อสุรกายได้ไหม แต่ถึงมันจะหนังเหนียวแค่ไหนจะไปทานทนแรงระเบิดได้ยังไงกันล่ะ..

             อย่างไรก็ช่าง ขอให้พรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้…

             .
             .
             .

             เช้าวันที่สอง ณ เมืองดอแนกตสก์

             อย่าเรียกว่าเมื่อคืนได้นอนหลับเลย ใครจะไปนอนหลับลงต่อให้เป็นบุตรแห่งพระยมก็เถอะ รถถังที่จอดประจำการอยู่แทบทุกจุดของมุมเมืองทำเอาใจหวิว แต่ถือว่าสองเดมิก็อดยังคงดวงดีอยู่ที่ไม่ถูกอะไรก็แล้วแต่ที่พวกเขากลัวมารังควาน เช้าวันนี้ทั้งสองจึงรีบจัดการธุระส่วนตัวที่สวนสาธารณะแล้วหารถเพื่อเดินทางต่อไปมารีอูปอล

             “ต้องใช้เวลาเท่าไรนะกว่าจะถึงมารีอูปอล”

             ดีนรำพึงรำพันถึงจุดหมายปลายทาง เขารู้สึกว่าการเดินทางมายูเครนครั้งนี้ระทมยิ่งกว่าภารกิจเดินทางเสียอีก ส่วนถ้าเทียบกับที่เฮติเขาตอบไม่ได้ว่าที่ไหนแย่กว่ากัน

             ขณะเดินไปที่ท่ารถ รถถังคันหนึ่งที่จอดนิ่งอยู่อย่างสงบเสงี่ยมก็ติดเครื่องแล้วแล่นตามทั้งสองมาบนถนน

             ‘แปลก ๆ’

             ดีนคิดในใจถึงความผิดปกตินั้น จึงสะกิดเลนน็อคให้เร่งฝีเท้าแล้ววิ่งไปหลบหลังซากตึก

             ตู้ม!!

             ลูกปืนใหญ่ยิงเข้าหากำแพงที่ผุพังจนกำแพงที่พวกเขาหลบลี้อยู่แตกกระจาย

             “เฮ้ย! ทำไมอ่ะ เขายิงพวกเราทำไม!!” ดีนกล่าวอย่างร้อนรน แม้ว่าเขาจะเป็นบุคคลลักลอบเข้าเมืองแต่ไม่เห็นจำเป็นจะต้องจับกุมด้วยวิธีรุนแรงแบบนี้เลยนี่นา

             เลนน็อคชะโงกหน้าไปมองรถถังคันใหญ่ก่อนจะขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็นำหอกสัมฤทธิ์และโล่ออกมาจากกระเป๋าแห่งความมืด

             “ไม่ใช่ นั่นวัวโคลลิส” ชายหนุ่มสายเลือดฮาเดสตอบเสียงเรียบ ท่าทางของเขาคล้ายกับพร้อมจะเข้าไปปะทะเสมอ

             “วัวโคลลิสที่ว่าเป็นของเทพเฮเฟตัส?” ดีนพอจะรู้มาว่ามีวัวหลุดคิวซีบางตัวที่เทพทิ้งขว้างลงมาบนโลกมนุษย์ แต่ไม่คิดว่ามันจะปะปนอยู่ในพื้นที่สงครามแบบนี้.. ไม่สิ นี่น่ะมันเหมาะเหม็งมากเลยต่างหาก ดีนชะโงกหน้ามองตาม ตอนนี้รถถังที่เห็นในตอนแรกกลายเป็นกระทิงเหล็กตัวยักษ์ “เวรล่ะ แล้วทำไง?”

             “ก็ต้องจัดการน่ะสิ” เลนน็อคพุ่งตัวลงเงาหายไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้ดีนหน้าเหวออยู่ตรงนี้เพียงลำพัง

             ตู้ม!!

             ปืนใหญ่ลูกที่สองยิงเข้ามาทำเอากำแพงส่วนที่เหลือหายวับไปทันที ดีนรีบกลิ้งตัวหลับออกมาก่อนที่จะถูกซากอิฐและเศษระเบิดกระเด็นใส่ ท่าไม่ดี เสียงดังกล่าวเรียกให้พวกทหารรัสเซียที่อยู่แถวนั้นมาทางนี้

             “เวรล่ะ เวรล่ะ เวรล่ะ!!”

             ต้องรีบปิดฉากเดี๋ยวนี้เลย!!

             เลนน็อคพุ่งตัวขึ้นมาจากเงา เขาทิ่มแทงใต้ท้องของวัวโคลลิส เสียงของโลหะปะทะกันเข้าอย่างจัง มันเองก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ของทวยเทพคงไม่ใช่เหล็กกาก ๆ ที่ชนทีแล้วบุบ จากระยะไกลดีนเห็นเพื่อนต่อสู้นัวอยู่กับวัวเหล็ก ส่วนเขาหาวิถีทางที่จะกำจัดมันลงโดยไว

             “แถวนี้มีน้ำบ้างไหมเนี่ย!”

             ดีนตั้งจิตหากระแสน้ำ เขาสัมผัสได้ว่าใต้ฝ่าเท้ามีทางระบายน้ำใต้ดินอยู่ ถ้าอย่างนั้นก็ได้เวลาระเบิดถนนกันอีกรอบ

             ตู้ม!!

             เสียงระเบิดดังขึ้นครั้งที่สาม แต่คราวนี้มาจากพื้นด้านล่างของวัวโคลลิส ถนนที่ผุพังแตกออก จากนั้นมวลน้ำมหาศาลก็ผุดขึ้นกระแทกเจ้าวัวคลั่งจนปลิวตกกระทบพื้น ด้วยน้ำหนักของมันเองทำให้ชิ้นส่วนบางแห่งแตกออก มันสะบัดหัวไปมาไล่ความมึน แต่สิ่งประดิษฐ์แบบนั้นจะมึนได้เหรอ? แต่ก็ใช่เวลามาหาคำถาม ดีนควบคุมน้ำจู่โจมมันอีกครั้ง แต่คราวนี้วัวที่ว่องไวติดเจ็ทพุ่งกระแทกตัวมาทางดีน

             ‘ฉิบหายแล้ว หลบไม่ทันแน่ ๆ!’

             “ระวัง!!”

             เลนน็อคพุ่งตัวออกมาจากเงาแล้วยกโล่กันดีนเข้าไว้ จนทั้งสองถูกชนกระเด็นไปพร้อม ๆ กัน แต่ด้วยความที่ตัวของทั้งสองใส่เกราะสัมฤทธิ์สุดแกร่งของดีจากค่ายฮาล์ฟบลัดเอาไว้จึงไม่บาดเจ็บอะไรมาก แต่ก็ทำเอาจุกแล้วมึนไปหลายวินาที

             “แค่ก! โอ๊ย จุกชะมัด!” ดีนไอโขลกออกมา ดีที่เลนน็อคมาช่วยไว้ไม่งั้นเขาคงได้รับบาดเจ็บเยอะกว่านี้แน่ ๆ

             “ยืนไหวไหม?” หนุ่มบ้านฮาเดสรีบลุกขึ้นก่อนจะยื่นมือมาให้เขาจับเพื่อลุกตาม

             “ไหว แต่.. ทหารจะมากันแล้ว เอาไงดี” สถานการณ์ยิ่งแย่ก็ยิ่งทำให้สายเลือดจากโพไซดอนล่ก

             “....” แม้แต่เลนน็อคคนคูลก็ยังต้องถอนหายใจออกมาแรง ๆ “ไม่เป็นไร เราล้มพวกมันได้ ฉันจะล่อมันไว้ จากนั้นนายควบคุมน้ำทำลายมัน”

             “เอ่อ.. เอางั้นก็ได้”

             หลังจากที่ดีนรับปากเลนน็อคก็มุดเงาหายไป เขาพุ่งตัวออกมาจากเงาที่ข้างตึกในแนวระนาบจากนั้นก็ปักหอกลงบนรอยต่อบริเวณคอของวัวโคลลิส มันออกอาการพยศหนักเมื่อได้รับความเสียหาย ตอนนี้อีกฝ่ายเหมือนกับเล่น ‘กระทิงดุ’ เลนน็อคเรียกดาบสัมฤทธิ์จากเงามาอีกเล่มแล้วแทงคอของมันแล้วพยายามจับยึดอาวุธในมือทั้งสองไว้ให้มั่นเพื่อที่จะได้ไม่กระเด็นตกลงมา

             วัวโคลลิสที่คุ้มคลั่งวิ่งมาทางดีนอีกครั้ง คราวนี้ปากของมันอ้าออกเตรียมยิงกระสุนปืนใหญ่มาอีกหน ดีนเห็นภายในช่องปากของมันเป็นสีแดงวูบวาบมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่คราวนี้เขาไม่ยอมปล่อยให้มันยิงพลังออกมาหรอก!

             “ไปเลยพลังน้ำ จัดการมัน!!”

             ดีนควบคุมน้ำที่ด้านหน้าพ่นปืนแรงดันน้ำพลังสูงเข้าไปในปากของวัวเหล็ก จากมวลน้ำปริมาณมากที่ยิงเข้าไปทำให้ตัวของมันปริแตกระเบิดออก

             บรึ้ม!!

             ฉากนี้ช่างเหมือนฉากพิชิตสัตว์ประหลาดในหนังโทคุซึทสึ (ขบวนการห้าสีต่าง ๆ)

             ในชั่วพริบตานั้นเลนน็อคหายตัวเข้าไปในเงา ก่อนจะปรากฏตัวออกมาอีกทีหลังจากที่วัวโคลลิสระเบิดตัวไปแล้วเก็บสินสงครามที่โคลลิสเหลือทิ้งเอาไว้ก่อนที่ทหารรัสเซียจะแห่กันมา

             .
             .
             .

             ดีนและเลนน็อคหลบลี้ไปตามถนนหนทางจนถึงจุดที่รู้สึกว่าปลอดภัย เขาไม่รู้ว่าหนีกันมาไกลเท่าไรแต่บริเวณนี้ไร้เงาจากทหารรัสเซีย

             “เอาไงกันต่อดีพวกเรา จะหารถบัสไปมารีอูปอลยังไงดี?”

             “ไม่มีบัสไปมารีอูปอลหรอก พวกเราคงต้องหาแท็กซี่” เลนน็อคตอบ

             “อ้าว ไม่มีบัสเหรอ” ดีนขมวดคิ้ว ทั้งที่ในกูเกิ้ลบอกว่าขึ้นรถบัสไปได้เนี่ยนะ แต่การเดินทางครั้งนี้มีแต่เรื่องผิดแผนเต็มไปหมดเพราะเป็นประเทศสงคราม “ว่าแต่.. นายรู้ได้ไงน่ะเลนนี่?”

             เลนน็อคโคลงหัวเล็กน้อยก่อนจะตอบเขา

             “มิฮาอิลบอกมา” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบเหมือนอีกครั้งบนรถไฟ พร้อมส่งสายตากำชับมาให้ดีนที่ทำหน้างงอยู่ว่า ‘ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อย่าไปใส่ใจเลย’ จากนั้นอีกฝ่ายก็พยักหน้าให้อากาศ “มาทางนี้เถอะ เหมือนว่าเราจะไปเรียกแท็กซี่ได้จากตรงนั้น”

             หนุ่มบ้านฮาเดสชี้นิ้วไปที่เส้นทางข้างหน้าที่ดูไม่ออกเลยว่าจะมีแท็กซี่ผ่านมาแถวนี้ แต่รอไม่ถึงห้านาทีก็มีรถรับจ้างผ่านมาจริง ๆ เลนน็อคเข้าไปเจรจากับคนขับรถก่อนจะหันมาพูดกับดีน

             “คนขับขอให้จ่ายสองเท่า เป็นสองร้อยรูเบิล นายโอเคหรือเปล่า?”

             “สองร้อยรูเบิลเหรอ ได้สิ ได้เลย แค่อย่าทิ้งไว้กลางทางก็พอ.. งั้นก็ไปกันเลย”

             จากนั้นทั้งสองก็นั่งแท็กซี่เก่า ๆ ไปยังมารีอูปอล ซึ่งเหมือนเดิม คูณสามเวลาการเดินทางได้เลย…


ตื่นรู้+2 จากการพิชิตครั้งแรก
ของรางวัล หาร 2 กับเลนน็อค

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 39444 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2024-6-10 20:45
โพสต์ 39,444 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-6-10 20:45
โพสต์ 39,444 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-6-10 20:45
โพสต์ 39,444 ไบต์และได้รับ +8 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ควบคุมน้ำ  โพสต์ 2024-6-10 20:45
โพสต์ 39,444 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก ภูมิคุ้มกันเปียก  โพสต์ 2024-6-10 20:45

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
โพสต์ 2024-6-11 21:33:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-11-12 11:40

169
บทส่งวิญญาณ

             “โอ๊ยยย ในที่สุดก็ถึงสักที”

             ดีนลงมายืดเส้นยืดสายหลังจากที่เขาได้แต่นั่งคุดคู่อยู่ในแท็กซี่ท้องถิ่นนานถึงสามชั่วโมง ให้นั่งเฉย ๆ ไม่เท่าไร แต่คุยอะไรไม่ได้เลยสิที่น่าอึดอัดมาก คู่หูทำภารกิจครั้งนี้เป็นคนพูดน้อย ส่วนจะชวนลุงคนขับคุยเล่นก็ดันไม่เข้าใจภาษารัสเซียอีก ไม่งั้นคงได้สัมภาษณ์โชเฟอร์ไปแล้วว่าชีวิตช่วงนี้เป็นไงบ้าง อยู่อาศัยท่ามกลางสงครามลำบากมากไหม

             อีกอย่างเขาไม่มี ‘อีวาน’ กับ ‘มิฮาอิล’ ที่เลนน็อคอ้างว่า ‘แค่พูดตาม’ คอยช่วยเหลือเสียด้วย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ที่มาที่ไปของสองชื่อนั้นเลยก็ตามที ดีนรู้จักอีกฝ่ายประมาณนึงแม้จะไม่สนิทกันมาก พอจะรู้ว่าเลนน็อคเป็นคนตรงไปตรงมาจึงไม่น่าเล่นมุก จะบอกว่าเพ้อเจ้อก็.. ตนยังคุยกับม้าและสัตว์ทะเลได้เลย บางทีเด็กบ้านฮาเดสอาจจะมีเพื่อนในจินตนาการคอยช่วยเหลือก็ได้มั้ง

             “ดีน คนขับบอกว่าขอทิป” เลนน็อคสะกิดหลังเขาที่ลงมาก่อน เนี่ยคนแบบนี้จะเอาอะไรมาล้อเล่น

             “ทิปเหรอ ได้ ๆ ห้าสิบรูเบิลพอไหม เมื่อกี้ยังคิดราคาสองเท่าแล้วเลย”

             ดีนยื่นแบงก์รูเบิลให้อีกฝ่ายไปเพื่อตัดปัญหา แต่ถ้ามองโลกในแง่ดีคงปลอบตัวเองได้ว่า ลุงแกก็ต้องเสี่ยงตายพาพวกเขาขับรถมาที่นี่ คนมันก็ต้องกินต้องใช่อ่ะเนอะ รัฐบาลคงซัพพอร์ตทุกคนในระหว่างสงครามไม่ได้หรอก จากนั้นดีนก็นึกไอเดียนึงได้กระทันหัน

             “เออ ใช่ เลนนี่ คุยกับลุงให้ที ถ้าลุงมารับเราหลังจากทำภารกิจเสร็จไปส่งที่เมืองอะไรนะที่พวกเราลงรถไฟกันมา”

             “ครามาตอร์สค์?”

             “ใช่ ๆ นั่นแหล่ะ ถ้าลงไปส่งพวกเราที่ครามาตอร์สค์ฉันให้ลุงเลยห้าพันรูเบิล พวกเราต้องสู้กับกูลตอนกลางคืนใช่ไหม? ถ้างั้นให้แปดโมงเช้าลุงมารับเราที่นี่ก็ได้”

             ที่นี่ที่หมายถึงคือสุสานประจำเมืองมารีอูปอล… เมื่อได้รับสารเลนน็อคก็พยักหน้าแล้วหันไปสนทนากับโชเฟอร์ ดีนเห็นคนขับรถทำตาโตก่อนจะพยักหน้ารับงาน อันที่จริงเงินห้าพันรูเบิลมีอัตราการแลกเปลี่ยนอยู่ที่ราว ๆ ห้าสิบกว่าดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นเอง แม้จะไม่ใช่คนรวยแต่เมื่ออยู่ในเมืองที่ค่าครองชีพต่ำก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นเศรษฐี

             ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมง กว่าจะเย็นก็ต้องรอเง็กถึงตั้งสิบสองชั่วโมงผีถึงจะออกมา ในตอนนี้ดีนอยากทำอะไรตั้งหลายอย่าง เช่น อาบน้ำ ทานอาหารดี ๆ แล้วก็นอนหลับพักผ่อน ทว่าตอนนี้ทำได้เพียงแค่รับประทานแซนวิชที่ซื้อตุนมาจากบนรถไฟ

             “เลนนี่เรามากินมื้อเที่ยงกันก่อนไหม?”

             ดีนนั่งลงที่ริมฟุตบาทข้างทางก่อนจะหยิบเอาเสบียงอาหารที่เหลืออยู่น้อยนิดออกมายื่นให้อีกฝ่าย ส่วนเลนน็อคก็นั่งลงข้าง ๆ แล้วรับแซนวิชมาเปิดทาน แม้อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรแต่ท่าทางหิวโหยน่าดู ในยามหิวแม้จะเป็นแซนวิชชืด ๆ ก็อร่อยขึ้นมาได้ถ้าไม่สนใจฉากหลังของสุสานที่ชวนให้รู้สึกหนาวหลัง ดีนกัดแซนวิชไปคำพลางมองภาพบ้านเรือนตรงหน้า

             มารีอูปอลมีร่องรอยของการสู้รบทิ้งระเบิดมาก่อนแต่ถือว่าสภาพดีกว่าอีกสองเมืองที่ผ่านมานิดหน่อย เพราะเมืองนี้เป็นจุดสู้รบแรก ๆ ของสองปีก่อน จากนั้นก็ถูกรัสเซียยึดแล้วรุกพื้นที่ไปข้างหน้าเรื่อย ๆ ในตอนนี้พื้นที่ปะทะจึงเป็นดอแนกตสก์เสียมากกว่า พื้นที่ที่ถูกยึดจึงได้รับการบูรณะในบางส่วนจนประชาชนกลับเข้ามาอยู่อาศัยได้บ้าง แต่วันดีคืนดีก็อาจมีขีปณาวุธของทางฝั่งยูเครนยิงเข้ามาถล่ม และมีกลุ่มคนที่ออกมาเดินขบวนเรียกร้องจนทางการต้องจัดการ ดังนั้นจะบอกว่ามารีอูปอลเป็นเขตแดนของยูเครนก็พูดได้ไม่เต็มปาก จนกว่าที่สงความจะสงบเมื่อนั้นถึงได้รู้ว่าดินแดนนี้จะเป็นของประเทศไหนกันแน่

             “จะว่าไป.. อีวาน กับมิฮาอิลนี่ใครเหรอ? คงไม่ใช่ว่านายล้อฉันเล่นใช่ไหม?” ดีนยังคงสงสัยถึงชื่อเพื่อนในจิตนาการของอีกฝ่าย ถ้าแค่อำกันเล่นจะได้รู้ไปเลย

             เลนน็อคชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะส่งแซนวิชที่เหลือเข้าปากจนหมดจึงได้เล่า

             “วิญญาณของเด็กที่ยังไม่ถูกรับรอง พวกเขามาทำภารกิจรัสเซียเมื่อคราวก่อน ทีมมีกันสามคน อีวาน มิฮาอิล และเยเลน่า อีวานเป็นชาวรัสเซีย เยเลน่าเป็นชาวยูเครน ส่วนมิฮาอิลเป็นชาวไครเมีย.. ต้องเรียกว่าประเทศอะไรดีล่ะ” ชายหนุ่มยักไหล่ “โชคไม่ดีมิฮาอิลเสียชีวิตที่ดอแนกสตก์เป็นคนแรกจากเหตุปะทะเมื่อสามเดือนก่อน คนต่อมาคือเยเลน่าเธอเสียชีวิตที่มารีอูปอล หรือก็คือที่นี่”

             “โอ้…” พอได้ฟังแบบนี้แซนวิชในมือดีนก็รสชาติกร่อยลงไปถนัดตา สีหน้าของคู่หูไม่ได้ล้อเล่น และไม่มีเหตุจำเป็นจะเอาชื่อคนอื่นมาปั้นเรื่อง ดีนฝืนยัดมันเข้าปากแล้วเคี้ยวกลืนก่อนจะกินมันไม่ลงจริง ๆ “แล้ว… อีวานล่ะ?”

             “อีวานเป็นคนเดียวที่ทำภารกิจสำเร็จ แต่มีเหตุบางอย่างที่เขาติดต่อกับเทพีอะธีน่าไม่ได้จึงต้องหาทางกลับมานิวยอร์กด้วยตัวเอง เขาเสียชีวิตขากลับ ถูกขีปณาวุธยิงถล่มที่เคียฟ”

             “พวกเขาน่าสงสารจัง ถ้างี้.. ตอนนี้มีวิญญาณสามดวงตามเรามาเหรอ”

             “ถ้าที่นี่.. ก็มีมากกว่าสามนะ” เลนน็อคตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยราวกับเป็นเรื่องปกติที่เขาพบเจอเป็นวิสัย “แม้จะผ่านมานานสามเดือนแล้วแต่พวกเขายังไม่ได้ถูกรับตัวไปปรโลก ที่ยูเครนมีคนตายมากเกินไปจนธานาทอสรับพวกเขาไปไม่ทัน แต่คิดว่าคืนนี้แหล่ะที่ทุกอย่างจะจบลง”

             “เหรอ.. ถ้าแบบนั้นดีสำหรับพวกเขาล่ะก็นะ.. พวกเราก็ทำหน้าที่ของพวกเราให้เต็มที่กันเถอะ”

             “อืม”

             .
             .
             .

             เวลาห้าทุ่มครึ่ง

             ได้หลับไปหนึ่งตื่น สุสานแห่งนี้เงียบสงบเหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนทั้งคนเป็นและคนตาย ส่วนตอนนี้ดีนและเลนน็อคสภาพคงเหมือนกับคนไร้บ้านที่ใครผ่านไปผ่านมาต่างไม่ใส่ใจ เพราะคนไร้บ้านที่เมืองนี้มีอยู่เต็มไปหมด

             “ใกล้ได้เวลาแล้ว เข้าไปในสุสานกันเถอะ”

             เลนน็อคสะกิดดีนจากนั้นอีกฝ่ายก็มุดเงาเข้าไปโผล่ที่อีกฟากของรั้วเหล็ก

             “โอเค..” ดีนได้แค่ตอบรับสั้น ๆ หลังจากอ้าปากค้าง ทั้งอิจฉาพลังที่สะดวกสบายของเด็กบ้านฮาเดส แล้วอึ้งที่อีกฝ่ายทิ้งเขาไว้ฝั่งนี้โดยไม่ทันตั้งตัว ดีนมองรั้วเหล็กสูงแถมปลายยังเป็นยอดแหลม “โอ้ไม่.. ถ้าถูกเสียบล่ะก็ไม่สนุกแน่”

             ยังดีที่บริเวณใกล้ ๆ มีรางน้ำอยู่ชายหนุ่มสายเลือดโพไซดอนจึงควบคุมน้ำดันตัวเองให้ลอยข้ามรั้วเหล็กมา แม้จะเป็นเมืองติดชายทะเลก็ตรงแต่ทะเลอยู่ตั้งนู่น ไม่ได้ใกล้สุสานเลยแม้แต่น้อยคงพึ่งพาพลังจากน้ำทะเลไม่ได้ เมื่อเข้ามาในสุสานกันเรียบร้อยแล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปในส่วนลึกเรื่อย ๆ บรรยากาศที่วิเวกวังเวงทำเอาดีนเกาะหลังเลนน็อคไม่ปล่อยจนมาถึงโกดังเก็บศพขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างลวก ๆ เพื่อเก็บศพผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้ประกอบพิธีกรรม

             “ถะ..แถวนี้หรือเปล่า?”

             “อืม เยเลน่าบอกว่าน่าจะแถวนี้ อีกเดี๋ยวกูลน่าจะออกมา” เลนน็อคหันมาบอก “ปล่อยก่อนได้ไหม แบบนี้มันสู้ไม่ถนัด”

             “อะ.. โอเค” ในเมื่อเพื่อนบอกให้ปล่อยงั้นปล่อยก็ได้แม้ว่าดีนจะสั่นไปทั้งตัว

             ‘กลัวอะไรวะ ผีก็แค่พลาสม่าแหล่ะน่า!’

             เขาพยายามใช้วิทยาศาสตร์มาปลอบตัวเอง ก่อนหน้านี้คิดว่าไม่เคยกลัวผีมาก่อนและคิดว่าความเชื่อเรื่องวิญญาณมันช่างเพ้อเจ้อ แต่พอมาอยู่ในสถานการณ์จริงที่บรรยากาศเป็นใจมันน่ากลัวสุด ๆ ดีนเอาหอกมาถือไว้ในมือให้มั่นเผื่อความฮึกเหิมจะทำให้เขาหายขาสั่น

             ไม่นานเกินรอ บางสิ่งบางอย่างวิ่งออกมาจากทิวไม้รกครึ้มเป็นกองทัพ มันคือ ‘กูล’ อสุรกายกินซากศพลูกพี่ลูกน้องของอัลกูลที่มีขนาดตัวเล็กกว่า อาจจะดุร้ายน้อยกว่า (มั้ง) แต่ปริมาณที่เจอไม่ใช่น้อย ๆ เลยทีเดียว ไม่ใช่แค่สิบ ยี่สิบ แต่ดูแล้วน่าจะราว ๆ สี่สิบตัว
               
             “โอ้ เชี่ย… ทำไมมันเยอะแบบนี้เนี่ย!”

             “ที่นี่มีศพคนตายที่ยังไม่ได้ประกอบพิธีกรรมเยอะ กูลจะเยอะก็ไม่แปลกหรอก ตอนนี้เตรียมตัวปะทะดีกว่า” เลนน็อคกล่าว เขาปักหอกสัมฤทธ์ลงบนพื้นจากนั้นร่างโครงกระดูกก็โผล่ขึ้นมาพร้อมกับอาวุธสงครามในมือ

             “นายเป็นเนโครแมนเซอร์เหรอ ทำแบบนี้ได้ด้วย?” ดีนทำตาโต แต่หากว่านั่นคือพวกเดียวกันกับเราก็ถือว่ามีผู้ช่วยรับมือกำจัดกูลฝูงนี้

             เลนน็อคพุ่งตัวออกไปต่อสู้ด้านหน้า กวาดหอกสัมฤทธิ์อย่างรวดเร็วและรุนแรงราวกับเป็นปรมาจารย์หอก สายเลือดฮาเดสและทหารโครงกระดูกพยายามปกป้องโกดังเก็บศพแห่งนี้สุดชีวิต ซึ่งดีนก็ต้องทำแบบนั้นบ้างแล้ว เลือดในกายเริ่มร้อนขึ้น ดีนพุ่งตัวออกไปอีกด้านหนึ่งของโกดังจากนั้นก็ใช้หอกจ้วงแทงตวัดฟาดกูลเหล่านั้นจนกระเด็นกระดอน พวกมันเป็นอสุรกายชั้นต่ำที่จัดการตัวต่อตัวได้ไม่ยาก แต่ที่ยากก็คือปริมาณที่เยอะและกลิ่นเหม็นเน่าราวกับซากศพของพวกมัน

             ดีนสังเกตเห็นว่าระแวกนี้มีบ่อน้ำเก่าอยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะเรียกน้ำในบ่อมาช่วยสู้ได้ก็ได้ ทว่าเมื่อเขาใช้พลังเรียกหาน้ำกลับไม่มีของเหลวพุ่งออกมาเลยสักหยด บ่อน้ำนั้นคงจะแห้งสนิทไปแล้ว

             “โธ่เว้ย! แค่หอกอย่างเดียวก็ได้วะ!!”

             ฝูงกูลกรูเข้ามาเรื่อย ๆ ราวกับไม่มีที่สิ้นสุดจนดีนคิดว่ามันมีแค่ยี่สิบตัวจริงเหรอเนี่ย การต่อสู้ยืดเยื้อเป็นชั่วโมง ช่วงเวลาพักหายใจหายคอมีไม่ถึงห้านาที ทั้งกำลังและเรี่ยวแรงของพวกเราเริ่มจะร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งตะวันขึ้นเหนือฟ้าฝูงกูลในสุสานถึงได้ถูกกำจัดไปจนหมด

             .
             .
             .


[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]

             “แฮ่ก.. แฮ่ก.. มันจบแล้ว… ใช่ไหม?” ดีนทรุดตัวลงนั่งลงกับพื้น แม้จะไม่บาดเจ็บร้ายแรงแต่สภาพของเขาไม่ได้ต่างอะไรเลยกับคนที่ออกกำลังกายหนักมา

             “อืม.. ธานาทอสมาแล้ว”

             เลนน็อคกล่าว ในน้ำเสียงที่เรียบนิ่งยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เหนื่อยหอบ ดวงตาสีทมิฬของอีกฝ่ายจ้องมองไปที่อะไรบางอย่างที่ดีนมองไม่เห็น จากนั้นเขาก็พยักหน้าหงักหงักให้กับอะไรบ้างอย่าง ไม่แน่ว่าอาจเป็น อีวาน มิฮาอิล และเยเลน่าก็ได้ ไม่น่าคิดไปเองคล้ายกับว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่หาได้ยากสำหรับคน ๆ นี้

             มาคิดดูแล้ววิญญาณของเด็กค่ายฮาล์ฟบลัดทั้งสามอาจจะเป็นกลุ่มของเด็กที่เคยชวนเขาไปงานปาร์ตี้ของคุณดีก็ได้ น่าเสียดายที่เขาไม่อาจเอ่ยคำร่ำลากับทั้งสามได้เลย ดีนหลับตาลงก่อนจะอธิษฐานในใจ

             ‘ขอให้พวกนายไปดีนะ ไม่รู้ว่าใช่คนที่เคยชวนฉันไปงานปาร์ตี้หรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็ ฉันจะบอกว่างานปาร์ตี้สนุกมาก ฉันสนุกสุดเหวี่ยงสุด ๆ ถ้าพวกนายน่าจะได้อยู่ด้วยก็คงดี..’

             แต่สุ่มเสียงในใจจะส่งผ่านให้ดวงวิญญาณได้ยินได้หรือเปล่านะ? จู่ ๆ ก็รู้สึกเศร้าอย่างสุดหัวใจจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา แต่ดีที่เลนน็อคกล่าวออกมาก่อน…

             “สามคนนั้นไปแล้ว รวมถึงคนอื่น ๆ ที่ตายในเมืองนี้ด้วย”

             “เฮ้อ สุดท้ายก็จบแบบแฮปปี้เอนด์ดิ้งสินะ” ดีนใช้หอกยันตัวเองให้ลุกขึ้นมา แล้วพยายามพูดจาติดตลกกลบความหวั่นไหวในใจ “อยากอาบน้ำชะมัดเลย ตอนนี้ฉันตัวเหม็นฉึ่งไปหมด”

             “ยังพอมีเวลาก่อนโชเฟอร์จะมา ห้องน้ำสาธารณะ”

             “โอ้ จริงด้วย ตอนขามาเหมือนจะเห็นอยู่ใช่ไหม?”

             จากนั้นทั้งสองก็เดินออกมาจากบริเวณสุสานและเข้าใช้บริการห้องน้ำสาธารณะใกล้ ๆ มันไม่ได้สะดวกสบายแต่ก็ดีกว่าไม่ได้จัดการกับตัวเองหลังจากฟัดกับซากศพมาเลย และเมื่อได้เวลาลุงโชเฟอร์เมื่อวานก็มารับพวกเขาตามนัดหมาย ก็อย่างว่าเงินตั้งห้าพันรูเบิลใช้ชีวิตได้เกือบเดือนเลยนี่นา

             แต่แล้วปัญหาก็เกิดเพราะล่ามส่วนตัวของเลนน็อคไปสู่ปรโลกกันหมดแล้ว…

             ทว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็แก้ได้ด้วยกูเกิ้ลแปลภาษา เลนน็อคหยิบสมาร์ทโฟนออกมาเปิดใช้เครือข่ายโรมมิ่งราคาแพงหูฉี่ ดีนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้แต่อ้าปากหวอ

             “เดี๋ยวนะเลนนี่ ถ้านายเปิดใช้สัญญาณแบบนี้อสุรกายก็แห่กันมาน่ะสิ!”

             “แห่กันมาแล้วไงล่ะ?” หนุ่มสายเลือดฮาเดสยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ จากนั้นก็หยิบหูฟังออกมาสวมแล้วฟังเพลงราวกับเป็นเรื่องชิล ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ

             จากนั้นความบันเทิงก็เกิดขึ้นตลอดเส้นทางจนไปถึงครามาตอร์สค์ อสุรกายที่คิดว่าตายจากลูกระเบิดไปแล้ววิ่งตามรถแท็กซี่บุโรทั่ง แต่เลนน็อคก็มุดเงาแว้บไปจัดการปีศาจพวกนั้นแล้วกลับมานั่งในรถอย่างรวดเร็วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พนันได้เลยว่ากว่าจะถึงสถานีรถไฟเคียฟหมอนี่ต้องได้สินสงครามเยอะจนกระเป๋าปิดไม่สนิทแน่ ๆ


ตื่นรู้ +2 จากการพิชิตครั้งแรก
(แยกกันจัดการกูลกับเลนน็อค คนละ 20 ตัว)


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 42989 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-6-11 21:33
โพสต์ 42,989 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2024-6-11 21:33
โพสต์ 42,989 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-6-11 21:33
โพสต์ 42,989 ไบต์และได้รับ +8 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก ควบคุมน้ำ  โพสต์ 2024-6-11 21:33
โพสต์ 42,989 ไบต์และได้รับ +5 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความศรัทธา จาก ภูมิคุ้มกันเปียก  โพสต์ 2024-6-11 21:33

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มกลัดโพไซดอน
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
เข็มทิศมหาสมุทร
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมน้ำ
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
หมวกเกราะ
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x10
x1
x2
x4
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้