สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล, นิวยอร์ก | 03 OCT. 2025 | 09:00 A.M.

เมื่อรถบัสของค่ายมาถึงสถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัลอันเก่าแก่และโอ่อ่าแห่งมหานครนิวยอร์กก็จวนเจียนใกล้เวลาที่รถไฟเฮเฟตัสสายนิวโรมที่จะมุ่งหน้าสู่ซานฟรานซิสโกเมืองแห่งวัยรุ่นและความหวังเคลื่อนขบวน
เดมิก็อดแต่ละคนไม่ได้พกพาสัมภาระมาเยอะ พวกเขาแบกแค่เป้หนึ่งใบสะพายหลังเหมือนกับตอนที่ไปทำภารกิจคำพยากรณ์เดลฟี เพราะว่าการทัวร์นิวโรมในครั้งนี้มีระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน 2 คืน คงมีแต่มนุษย์ธรรมดาที่มองเห็นผ่านม่านหมอกมนตราอย่างมาร์ธาเท่านั้นที่ต้องรอกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใต้รถบัส
"โอ้โห กระเป๋ามามี้ใบใหญ่จัง ขนอะไรมาบ้างคะเนี่ย หรือว่า... อย่าบอกนะว่ามี้จะย้ายไปอยู่นิวโรมกับพี่นาเวียแล้ว"
"นี่น่ะเหรอคะ" หญิงสาวที่ถูกทักเสมองไปทางกระเป๋าลากที่อยู่ในมือ เธอยกนิ้วขึ้นมาจรดริมฝีปากก่อนจะขยิบตาให้คนถาม "ความลับจ้ะ"
"ความลับก็ได้ เอาไว้หนูจะรอดูว่าพี่มีอะไรมาเซอร์ไพรส์" ลิเลียน่ายิ้มกว้าง คล้ายว่าเธอรู้ทันว่ามีอะไรอยู่ในนั้น
ใช่.. ที่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่แบบนี้เป็นเพราะว่าชุดที่จะใช้ในการประกวดคอสตูมงานเทศกาล Ieiunium Cereris ที่มาร์ธาใช้เวลาว่างนำชุดเดรสงานพรอมตัวเก่ามามิกซ์แอนด์แมทช์กับผ้าม่านที่มีจนเกิดเป็นชุดสำหรับใส่ประกวดนี้
เป็นมาร์ธาเสียอีกที่ประหลาดใจมากกว่าที่คนอื่น ๆ ไม่ได้เตรียมชุดคอสตูมสำหรับประกวดกิจกรรมผืนนาและผ้าคลุมมาหรือไร หรือเพราะว่าทุกคนมีแหวนวิเศษที่ใช้เก็บของได้กันหมดจึงไม่จำเป็นต้องแบกกระเป๋าใบโต
เธอมองไปที่กระเป๋าลากขนาด 28 นิ้ว พลางคิดในใจ 'เราคงไม่ได้เล่นใหญ่ไปหรอกใช่ไหม?'
"ให้หนูช่วยลากให้ไหมคะมี้" ลิเลียน่าเสนอ
"หืม จะไม่ลำบากเธอเหรอจ๊ะ?"
"ไม่หรอกค่ะมี้ หนูน่ะไม่ค่อยได้ลากกระเป๋าใบใหญ่แบบนี้เลย คิดว่ามันน่ะจะสนุกดีน่ะค่ะ เหมือนแอร์โฮสเตสอะไรทำนองนั้น~" กล่าวจบธิดาอะธีน่าก็หัวเราะ ทำเอาผู้ฟังส่ายหน้าทั้งรอยยิ้ม
"เธอเนี่ยนะ มีความสุขกับอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ได้ดีจัง ถ้าแบบนั้นก็ได้เลยค่ะ ช่วยรบกวนให้พี่ด้วยนะคะ"
มาร์ธาส่งกระเป๋าลากของเธอให้ลิเลียน่า ระหว่างนี้ก็เห็นว่าไครอนเปลี่ยนขาลูกม้าทั้งสี่เป็นเก้าอี้วีลแชร์อย่างที่เขาชอบทำยามออกมาทำธุระในโลกแห่งมนุษย์ ด้วยความที่เคยดูแลกันมานาน มาร์ธาอาสาเข็นรถเข็นวีลแชร์ให้เด็กชายผิวดำนั่งเพื่อให้แนบเนียนแม้เธอจะรู้ว่าผู้อำนวยการสะดวกใจที่จะออกเดินทางด้วยตัวเองมากกว่า แต่ถ้าเธอไม่ช่วยเหลือเขาคณะเดินทางนี้คงถูกหาว่าแล้งน้ำใจไม่ก็เหยียดผิวเพื่อนร่วมทางแน่ ๆ
เหล่าเดมิก็อดและผู้อำนวยการค่ายรีบไปยังชานชาลาหมายเลข 9 โดยที่วิลเลี่ยมและนิโคกดปุ่มกลไกลับเปิดทางเดินนำเข้าไปก่อน ตามด้วยมิแรนด้าอยู่ตรงกลาง และปิดท้ายด้วยไครอน, มาร์ธา และลิเลียน่า เมื่อเข้ามาในชานชาลาโลกแห่งทวยเทพแล้ว ไครอนก็กลับสู่ร่างปกติ (แต่ยังเด็กอยู่) และทำการเช็คชื่อ
"เด็ก ๆ อยู่กันครบไหม?"
"หนึ่ง.. สอง.. สาม.. สี่.. ห้า.. หก ครบค่า" ลิเลียน่าอาสานับจำนวนคนก่อนจะตอบกลับไปอย่างร่าเริง
"เดี๋ยวฉันจะไปรับตั๋วรถไฟที่จองไว้ให้นะคะ"
"มิแรนด้าให้ผมช่วยไหม?"
วิลเลี่ยม "วิล" แอนดรูว์ โซเลซ อดีตที่ปรึกษากระท่อมอะพอลโล่เอ่ยถามเด็กหญิงตัวเล็กที่รับหน้าที่ประสานงานกับฝั่งค่ายจูปิเตอร์ ส่วนทางด้าน นิโค ดิ แองเจโล่ บุตรแห่งฮาเดสก็ยังคงเงียบกริบตามสไตล์เมื่อห้อมล้อมด้วยบุคคลที่ไม่คุ้นเคย
เด็กหญิงมิแรนด้ามองไปที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วแล้วก็ต้องยิ้มแห้ง เพราะมันสูงเกินกว่าที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ จะเขย่งถึง หรือไม่ก็ต้องปีนบันไดแบบก็อบลินตัวเขียวผูกเนคไทด์ที่กำลังซื้อตั๋วเป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่ ณ ขณะนี้ ...ท่าทางลำบากลำบนน่าดู
"สงสัยว่าต้องรบกวนรุ่นพี่แล้วค่ะ" มิแรนด้าตอบด้วยความเกรงอกเกรงใจ
"อย่าพูดว่ารบกวนเลยครับ เรื่องแค่นี้เอง ถ้างั้นเราไปกัน" วิลเลี่ยมยิ้มให้มิแรนด้าอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันไปทางแฟนหนุ่ม "เดี๋ยวฉันมานะโกสต์คิง"
"อืม" นิโคเพียงแค่พยักหน้าที่อยู่ใต้ฮู้ดสีดำรับ เขาไม่ว่าอะไรถ้าแฟนหนุ่มจะใจดีแบบนี้กับคนในค่ายที่ตัวเล็กกว่า
ไม่นานนักทั้งมิแรนด้าและวิลเลี่ยมก็กลับมาพร้อมกับตั๋วรถไฟสายประหยัดแบบที่จองไว้สำหรับทุกคนแล้วทำการแจกจ่ายตามรายชื่อ
"ได้เวลาพอดีเลย พวกเราขึ้นรถไฟกันเถอะจ้ะ นี่ตั๋วของแต่ละคนนะ"
"ไปเลยค่า ออกเดินทางได้~~"
ลิเลียน่าดูจะตื่นเต้นกว่าปกติ ไม่รู้เป็นเพราะได้ลากกระเป๋าเดินทางใหญ่ใหญ่แบบที่ไม่ค่อยได้ลาก หรือได้เดินทางท่องเที่ยวไกลกันแน่ จะอะไรก็ได้แต่ขอแค่อย่าให้ดีใจเพราะได้โดดเรียนวันนี้ก็พอ ...แต่สายเลือดอะธีน่าคงไม่คิดแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ...เนอะ