แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-4-26 01:28
099 โลมาถลาคลื่น
โดนเทพีไอริสเล่นเข้าให้แล้ว!
ดีนแทบทรุดลงกับพื้นหลังจากที่สะพานสายรุ้งพาเขามาส่งยังริมถนนใกล้ ๆ กับสะพานแฟรนซิส สก็อตคีย์ด้วยความไวพอ ๆ กับแสง โชคดีที่การเดินทางครั้งนี้อยู่เหนือกฎฟิสิกส์ มิเช่นนั้นเขาคงมีสภาพสยองเช่นปลิวตกลงมา กระดูกถูกแรงอัดอากาศแหลกเหลวไปทั่วทั้งร่าง หรือไม่ก็โดนอากาศเสียดสีจนเกิดความร้อนจนถูกเผาไหม้เป็นจุณ หรืออาจจะโดนทั้งสามอย่างพร้อมกัน บอกไม่ถูกเลยว่าระหว่างวาร์ปของเทพีอะธีน่ากับเทพีไอริสของใครชวนให้หวาดเสียวกว่ากัน จนพาลคิดถึงทริปเที่ยวปารีสโดยสายการบินอะโฟรไดท์แอร์ไลน์ จะบริการทุกระดับประทับใจหรือเปล่า…
เขาพยายามไล่ความคิดอัปมงคลออกไปจากหัวแล้วหาทางสืบเบาะแสคนงานที่สูญหายไปกลางแม่น้ำพาแท็ปส์โค ทางที่ดีคือต้องไปสำรวจยังจุดเกิดเหตุยังซากสะพานหักที่กลางน้ำ แต่ว่าจะไปถึงตรงนั้นได้อย่างไรล่ะ? ดีนมองไปรอบ ๆ แถวนี้มีท่าเรือเล็ก ๆ ที่มีสปีดโบทจอดอยู่เรียงราย แถมยังไม่ลำนึงที่ดีนเห็นแว้บ ๆ ว่ามีกุญแจคาเรืออีกต่างหาก ช่างประมาทสิ้นดี เป็นคนอื่นคงขโมยเรือไปแล้ว แต่ดีนจะปล่อยให้สถานการณ์ที่ตัวเองเป็นโจรขโมยเรือเกิดซ้ำที่ประเทศบ้านเกิดไม่ได้เด็ดขาด เพราะถึงขโมยเรือมาได้ดีนก็ขับเรือไม่เป็น มันอาจจะไม่ยากหากมีพื้นฐานการขับรถอยู่แล้วแต่กระนั้นเขาก็ไม่มีใบอนุญาตขับเรือ ในฐานะพลเมืองสหรัฐเขาจะไม่ยอมทำแบบนั้นเด็ดขาด
‘แล้วถ้างี้ต้องทำไงล่ะ ว่ายน้ำไปเหรอ?’
คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับสายเลือดโพไซดอน ดีนมีทั้งทักษะหายใจใต้น้ำและอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้ที่เพิ่งขอพรจากพ่อมา แต่กว่าจะไปถึงกลางแม่น้ำได้คงเหนื่อยหอบน่าดู…
“วี้~” oO(ท่านเอลวิน)
“หือ?” เหมือนมีใครบางคนเรียกเขามาจากทางฝั่งน้ำ จากเสียงเหมือนเด็กผู้ชายที่ยังไม่แตกหนุ่มดี
“วี้~” oO(ท่านเอลวิน ทางนี้)
เสียงตีน้ำจ๊อม ๆ เรียกให้เขามองไปทางต้นเสียง แล้วเสียงนั้นก็ออกมาจากโลมาตัวหนึ่ง
“เฮ้ย!! โลมาพูดได้!!?!!” ถึงกับผงะเมื่อเห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ ก่อนหน้านี้เขาเคยสนทนากับพี่ฮิปโปแคมปัส แกลลี่ย์ และ ไทร์รีม มาก่อน แต่สัตว์วิเศษในตำนานจะพูดได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่โลมาพูดได้เนี่ยสิแปลกสุด ๆ
“วี้~?” oO(พูด? ผมเปล่า) โลมาน้อยให้การปฏิเสธ “วี้~?” oO(ผมก็แค่ ส่งเสียง วี้ ๆ)
“โอเค ฉันจะพยายามไม่คิดว่าตัวเองเป็นบ้า ว่าแต่นายชื่ออะไร คุณพ่อเป็นคนส่งมาช่วยฉันงั้นเหรอ?” ดีนถามกลับ
“วี้~” oO(โลมาไม่มีชื่อ คุณพ่อผมไม่ได้ส่ง ท่านโพไซดอนส่งมา)
‘หัวจะปวด.. หมอนี่ใสซื่อชะมัด!’ ชายหนุ่มได้แต่ยกมือลูบหน้าเพื่อปรับอารมณ์ อยากจะบอกเหลือเกินว่า ‘พ่อฉันไม่ใช่พ่อนายว้อย!!!’
“โอเค งั้นฉันเรียกนายว่าโลมานะ นายพอจะนำทางฉันไปที่ซากสะพานแฟรนซิส สก็อตคีย์ได้ไหม?”
“วี้~” oO(สะพานสก็อตคีย์คืออะไรไม่รู้จัก) โลมาน้อยส่ายตัวไปมาใต้ผืนน้ำ
“เอิ่ม.. นายไม่รู้จักเหรอ” ตอนนี้ดีนเริ่มคิดแล้วว่าภารกิจนี้จะสำเร็จลุล่วงจริงไหม หรือว่าเขาต้องขโมยเรือจริง ๆ ชายหนุ่มลองพยายามอธิบายอย่างใจเย็น เขาชี้นิ้วไปที่ซากสะพานซึ่งตอนนี้เหลือเพียงแค่ตอม่อในส่วนที่ชำรุด “นั่นน่ะ สะพานแฟรนซิส สก็อตคีย์”
“วี้~” oO(อ๋อ ปลาไหลยักษ์ลอยได้ที่ถูกวาฬเหล็กตัวบ้อเริ่มหม่ำ ๆ จนตัวขาดครึ่ง.. ได้ฮะ ขี่หลังผมมาได้เลย)
ในที่สุดก็สื่อสารกันเข้าใจ สงสัยว่าหลังจากนี้เขาคงต้องใช้ภาษาเด็กน้อยกว่าที่คุยกับรีชากับโลมาตัวนี้ ว่าแต่ให้ขี่หลังโลมาไปนี่มัน ประสบการณ์สุดยอดเยี่ยม!
“รอฉันแป๊บนึงนะ”
[เพลงประกอบ กด ► ฟังเพื่อเพิ่มอรรถรส]
ดีนถอดคอนแท็กเลนส์ออกแล้วรีบเอาแว่นตาว่ายน้ำค่าสายตาแปดร้อยขึ้นมาสวมใส่แทน เพราะรู้ว่างานนี้ต้องเปียกแน่นอนของสำคัญหลาย ๆ อย่างที่อยู่ในกระเป๋าจึงถูกแพ็คในซองพลาสติกซิบล็อคเป็นอย่างดี ในตอนนี้ดีนก็พร้อมที่จะลงน้ำแล้ว เขากระโดดลงไปในแม่น้ำที่เย็นเฉียบอุณหภูมิเจ็ดสิบสี่องศาฟาเรนไฮด์ ถือว่าอุ่นกว่าที่ลองไอแลนด์เยอะ ถึงกระนั้นมันก็ไม่มีผลอะไรกับสายเลือดมนุษย์ปลาอย่างเขาอยู่ดี ดีนว่ายน้ำท่าลูกหมาตกน้ำเข้าไปเกาะหลังของโลมาเด็ก ตัวมันสั้นกว่าส่วนสูงเขาอีก
“หนักไหมโลมา นายลากฉันไปไหวนะ?”
“วี้~” oO(ไหวฮะ ฮึ้บ!)
โลมาน้อยส่งเสียงน่าเอ็นดูออกมา ก่อนที่มันจะออกแรงว่ายน้ำไปข้างหน้าโดยมีดีนเกาะครีบหลังอยู่ ด้วยแรงส่งของน้ำทำให้ไม่ต้องออกแรงมากนักแต่ก็ถือว่าไม่ได้ว่ายน้ำเร็วเท่าไร ไม่ได้ฉวัดเฉวียนเหมือนโลมาในสวนน้ำหรือสารคดี คงเพราะว่ามันยังเด็กเกินไปอยู่ด้วยล่ะมั้ง
‘พ่อก็ใช้โลมาไม่เลือกตัวเล้ย…’
แต่อย่างน้อยก็มาถึงตอม่อสะพานได้โดยสวัสดีภาพ ดีนปีนขึ้นไปบนนั้นคล้ายกับว่าเขาเห็นรอยกรงเล็บของสัตว์ร้ายใช้เสาสะพานแทนที่ฝนเล็บแมวเลย
‘นี่คือเบาะแสหรือเปล่านะ?’
ดีนยกมือทาบคางตัวเองอย่างครุ่นคิด ในนาทีนั้นเขาเพิ่งรู้ว่าเสื้อผ้าของตัวเองได้แห้งสนิทหลังขึ้นจากน้ำมาไม่กี่วินาที
‘ว้าววว นี่เหรอพลังใหม่ที่ได้มา เหมือนกับตอนของพี่ไรอันเลยแฮะ’
ถ้าแบบนี้ก็สะดวกสบายไม่ต้องกลัวเปียก ถึงกระนั้นพวกอุปกรณ์สำคัญก็ยังต้องแพ็คไว้ในถุงซิบล็อคอยู่ดี
ดีนตื่นเต้นอยู่กับพลังใหม่เพียงแค่ไม่ถึงนาทีก็กลับมาโฟกัสที่งานต่อ ฝ่ามือทาบลงไปที่กรงเล็บนั้น มันดูคล้ายกับกรงเล็บของนกยักษ์เลยแฮะ หรือว่าฮาร์ปี้จะลักพาตัวคนงานไปอย่างนั้นเหรอ? ดีนรู้จักกับอสุรกายไม่กี่อย่าง ที่ใกล้เคียงที่สุดคงเป็นฮาร์ปี้ ก็อาจเป็นไปได้ถ้าอย่างนั้นรังก็คงอยู่ในที่สูง ดีนแหงนหน้ามองหาจุดที่น่าจะเป็นจุดทำรังของอสุรกายครึ่งนก
“วี้~” oO(ท่านเอลวินทำอะไรเหรอ?)
“ฉันกำลังหาเบาะแสอสุรกายที่ลักพาตัวคนงานไปน่ะสิ บางทีอาจจะอยู่บนเสาสะพานต้นอื่นที่ไม่ได้ถล่ม”
“วี้~” oO(ไม่นะฮะ คนงานไม่ได้ถูกลักพาตัวไปตรงนั้น แต่เป็นถ้ำลับที่ปากแม่น้ำที่มีสวนเขียว ๆ ต่างหาก)
“ห๊ะ นายรู้เหรอว่าคนงานถูกลักพาตัวไปที่ไหน?”
“วี้~” oO(ช่ายยย) โลมาน้อยตอบลากเสียงยาว
“เอ้า แล้วทำไมนายไม่พาฉันไปที่นั่นตั้งแต่แรกล่ะโลมา” เป็นอีกครั้งที่ดีนยกมือขึ้นกุมขมับ
“วี้~” oO(ก็ท่านเอลวินบอกว่าอยากมาดูซากปลาไหลท้องแตก)
“โอ้พระเจ้า…” ก็จริงของมัน เขาไม่ได้บอกว่าจุดประสงค์หลักของตัวเองนั้นมาทำอะไร บอกแค่ว่าอยากจะไปที่ซากสะพานแฟรนซิส สก็อตคีย์ “โอเค นายไม่ผิด ฉันเองที่ผิด ถ้างั้นโลมาน้อย ช่วยพาฉันไปหาคนงานที่ถูกลักพาตัวหน่อยนะ”
ดีนพนมมือขอร้องเหมือนที่ชาวเอเซียชอบทำกันแม้จะไม่สวยงามเท่า เจ้าโลมากระโดดเหนือน้ำแล้วทำเสียงวี้ ๆ เป็นสัญญาณว่าได้อย่างฮึกเหิม จากนั้นชายหนุ่มก็กระโดดลงน้ำอีกครั้งแล้วเกาะครีบโลมาว่ายแหวกกลางแม่น้ำพาแท็ปส์โค
“กรี๊ซซซซ”
เสียงกรีดร้องแหลมสูงกรีดอากาศโฉบลงมาจากฟากฟ้า ดีนที่ผ่านสมรภูมิต่อสู้มาหนักพอตัวมีสัญชาตญาณดีพอที่จะเอี้ยวตัวหลบอะไรบางอย่างที่พุ่งลงมาได้อย่างฉิวเฉียด และเมื่อเขาแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้าก็เห็นว่ามีนกตัวใหญ่สยายปีกกว้างบดบังแสงอาทิตย์แรงกล้า มันคือฮาร์ปี้ที่ดูแล้วน่าจะเก่งกาจกว่าพบในป่าต้องห้ามของค่ายฮาล์ฟบลัด
แย่ล่ะสิ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่อยู่ในสถานะที่เหมาะจะต่อสู้เอาเสียเลย พาหนะของเขาคือโลมาเด็กที่น่าจะไม่เคยผ่านประสบการณ์รบ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นบุตรแห่งโพไซดอนแต่ก็ใช่ว่าจะยืนบนน้ำได้เสียเมื่อไร แถมคู่ต่อสู้ก็อยู่กลางอากาศอีกมีแต่ต้องปาหอกในระยะไกลเสียล่ะมั้ง
ฮาร์ปี้บินโฉบลงมาอีกครั้ง ดีนตบสีข้างของโลม้าน้อยให้น้องหักเลี้ยวหลบไปมา แม้สัตว์น้ำจะเป็นเด็กแต่ก็เถอะว่ามันมีความคล่องตัวสูงในสถาณการณ์คับขัน คงต้องเปลี่ยนคำพูด บางทีคุณพ่ออาจจะส่งตัวที่เหมาะมานำทางให้เขาแล้วก็ได้
“เฮ้ โลมา ฉันจะเหยียบขึ้นไปบนหัวนายนะ แล้วก็จัดการกับฮาร์ปี้ นายจะไหวไหม?”
“วี้~” oO(หวาวว ทำเหมือนพี่ที่อยู่ในสวนน้ำเหรอฮะ ได้เลย ผมจะลองดู)
“โอเค”
เขาไม่รู้ว่าเจ้าหมอนี่มันรู้เรื่องโลมาในสวนน้ำได้อย่างไร คงไม่ใช่ว่าเคยว่ายไปเกาะแทงก์ของสวนน้ำดูโลมาตัวอื่นฝึกมาหรอกนะ แต่บางทีพวกมันอาจจะเล่าเรื่องกันผ่านคลื่นโซน่าใต้น้ำก็ได้ เพราะการสื่อสารของสัตว์จำพวกโลมาและวาฬสามารถพูดคุยกันเองได้หลายสิบไมล์ เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้วดีนก็ปีนขึ้นไปเหยียบหัวของโลมา พยายามกางแขนทรงตัวแล้วหยิบหอกที่เหน็บไว้ข้างหลัง ท่าทางโลมาน้อยจะดูการฝึกมาอย่างโชกโชนมันผงกหัวออกแรงส่งให้ดีนกระโดดขึ้นไปในจังหวะที่ฮาร์ปี้โฉบลงมา ดีนก็แทงหอกเข้าไปกลางอกของมนุษย์นกยักษ์ที่แผดเสียงดังลั่น ร่างของมันสลายกลายเป็นเถ้า เหลือเพียงแต่ขนฮาร์ปี้ที่เป็นสินสงครามร่วงหล่นลงมา
ซู่มมมม
ดีนตกลงไปในแม่น้ำพาแท็ปส์โค ฉากทัศน์ที่อยู่ใต้แม่น้ำคือซากปรักหักพังของสะพานที่ยังเก็บกู้ไม่หมด และกองขยะจำนวนมหาศาลที่จมอยู่ใต้แม่น้ำ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของมนุษย์ที่ไม่รักธรรมชาติ ทำให้เป็นภาระของเทพสมุทรต้องมาคอยเก็บกวาดแทนเทศบาลเมือง นอกจากภาพอันน่าหดหู่ก็ยังมีความสวยงามแฝงอยู่ เหล่าปลาน้อยในแม่น้ำแหวกว่ายมาล้อมตัวเขาไว้ต่างเอ่ยทักทาย
“บุ๋ง” oO(นั่นท่านเอลวินนี่ สวัสดี)
ดีนจะเอ่ยทักทายแต่กลายเป็นว่าพออ้าปากเขาได้กลืนน้ำเข้าไปหนึ่งอึกใหญ่แทน ดูเหมือนว่าพลังที่พ่อให้มาจะไม่ได้ใช้งานแบบนี้นะ.. ถ้างั้นลองเพ่งจิต
“....” oO(ฮาย พวกนายได้ยินฉันไหม?) มือข้างซ้ายที่ไม่ได้กำหอกโบกไปมาให้ฝูงปลาเหล่านั้น
“บุ๋ง” oO(ได้ยิน พวกเราได้ยินท่าน)
“....” oO(ว้าว นี่ฉันคุยกับปลาได้ แถมยังว่ายน้ำเล่นกับปลาอีก ฉันคือเดอะลิตเติลเมอร์เมดอย่างนั้นเหรอ!)
“บุ๋ง” oO(นางเงือกก็มีนะท่านเอลวิน ถ้าท่านอยากดูเราจะนำทางไป) ปลาตัวหนึ่งคุยกับเขาซึ่งดีนไม่รู้ว่าเป็นตัวไหน แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก
“....” oO(โอ้ น่าเสียดายจัง แต่คงต้องวันหลังแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันมีภารกิจที่ต้องทำ) หากว่าเขาไม่เคยเจอชาวเงือกมาก่อนคงได้เสียดายมากกว่านี้ “....” oO(ฉันต้องขึ้นไปแล้วล่ะ ไว้เจอกันใหม่นะพวก แล้วก็ขอโทษแทนมนุษย์ด้วยที่ทำให้บ้านของพวกนายสกปรกไปหมด)
“บุ๋ง” oO(ไม่เป็นไร ถึงจะไม่สบายแต่เรายังทนไหว โชคดีนะท่านเอลวิน)
ดีนโบกมือลาฝูงปลาจากนั้นเขาก็โผล่ขึ้นจากน้ำแล้วว่ายฟรีสไตล์ไปเกาะโลมาน้อย ในปากของมันคาบขนฮาร์ปี้ไว้ คงเก็บไว้ให้ตอนที่เขากำลังเซย์ฮายกับเพื่อนใต้น้ำ ดีนเหน็บหอกไว้กลางหลังเหมือนเดิมเกรงว่าอาวุธของเขาจะไปทำอันตรายสัตว์ตัวน้อยเข้า จากนั้นถึงค่อยรับสินสงครามมา
“โอ้ นายเก็บไว้ให้ฉันด้วยเหรอ น่ารักเหมือนกันนี่นา” จากนั้นถึงค่อยลูบหลังให้
“วี้~” oO(ฮี่ฮี่ ผมเก่งใช่ม้า~~)
“จ้า ๆ นายเก่งมาก เป็นคู่หูต่อสู้สุดเจ๋งแจ๋ว” ดีนชนหมัดกับครีบของโลมาจิ๋วเหมือนที่วัยรุ่นชอบทำกันแม้ว่าเขาจะเลยคำว่า ‘ทีนเอจ’ มาแล้วนิดหน่อย “คงไม่มีฮาร์ปี้ที่ไหนกล้ามาเล่นงานอีกแล้ว ถ้างั้นพวกเราลุยกันต่อเถอะ”
“วี้~” oO(ได้เลยฮับป๋ม!)
ถ้าครีบเล็ก ๆ นั้นยกขึ้นตะเบ๊ะได้มันคงทำไปแล้ว แม้จะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ยอมรับเลยว่าเจ้าโลมาน้อยตัวนี้มันน่าเอ็นดูชะมัด ดีนเกาะครีบหางของมันไปเรื่อย ๆ เหมือนกับขี่สกู๊ตเตอร์น้ำจนทั้งคู่ได้ไปถึงบริเวณวอเตอร์เอดจ์พาร์ค บัลติมอร์
 ตื่นรู้ +2 จากการพิชิต [ฮาร์ปี้] ครั้งแรก
|