[ห้องบันทึกข้อมูล NPC เทวตำนานประกอบโรลเพลย์]

ห้องนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ทุกคนมาส่งข้อมูลบันทึก NPC เทวตำนานที่ทุกคน

จะหยิบยกมาประกอบในโรลเพลย์เพื่อนำมาโลดแล่นตอนออกไปนอกค่าย

เพื่อสามารถแบ่งปันให้เพื่อน ๆ สามารถนำ NPC ตำนานเหล่านั้นมาเล่นได้

โดยไม่ขัดแย้งกันเอง โดย NPC เหล่านี้จะเป็น NPC ประกอบ

จากในตำนานกรีกโบราณและโรมันเท่านั้น

โปรดเช็คดูในกระทู้นี้ว่ามีเพื่อนเสนอ NPC ตำนานคนนั้นหรือยัง

โดยบางคนอาจจะหยิบมาเล่นเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับคุณ (ที่ไม่มีวันชนะ) 

แต่ NPC ก็แค่เห็นคุณเป็นของเล่น เลือกไม่ฆ่า อยากเห็นคุณทรมาน

หรือเสริมสตอรี่อื่น ๆ ยามออกไปนอกค่าย

* ขอให้จัดแต่งแบบฟอร์มให้อ่านง่าย เพราะเผื่อเพื่อน ๆ ในเว็บอยากนำมาโรลเพลย์ด้วย *

[แบบฟอร์ม]

** บุคคลในตำนาน หากมีข้อมูลในหนังสือให้อิงชีวประวัติจากหนังสือเป็นหลัก

และ เสริมเหตุผลช่วงท้ายที่พบเจอเรา ยกเว้นว่าบางคนตาย 

แต่เราอาจจะเคยเจอก่อนปีตาย **

รูปภาพ : (หากเป็นเมจนักแสดง ไปแจ้งลงทะเบียนเมจด้วย)

ชื่อ NPC ตำนาน :

บุคลิกภาพ (Personality) :

ชีวประวัติโดยสรุป : (สำหรับบางบุคคลที่เป็นมนุษย์เสียชีวิตไปแล้ว ไม่เคยปรากฎในหนังสือ

สามารถใช้เหตุการณ์ในหนังสือ House of Hades ที่ประตูยมโลกถูกเปิดออก หลบหนีมาใช้ชีวิตบนโลกและหลบซ่อนตัวเอง ใช้ชีวิตในโลกต่อ)

เหตุการณ์ที่พบเจอกับ NPC ครั้งแรก : 

ชื่อเรียกในยุคปัจจุบัน :

Daemon HEROES

Helen of Troy

ชื่อ NPC ตำนาน : เฮเลน แห่ง ทรอย

บุคลิกภาพ (Personality) : 

เฮเลนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นบุคคลที่น่ารัก, มีความยุติธรรม และงดงามที่สุดในโลก

เธอมีผมสีบลอนด์ทองเป็นลอนยาวสลวยเป็นประกาย ดวงตาสีฟ้าไพลินเป็นประกาย 

ผิวขาวกระจ่างใสไร้ที่ติ และริมฝีปากที่เย้ายวนใจราวกับดอกกุหลาบ อีกทั้งเธอยังกล่าวได้อีกว่า

สวยกว่าเทพีอะโฟรไดต์เสียอีก ในฐานะราชินีแห่งสปาร์ต้าและเจ้าหญิงแห่งทรอย 

เฮเลนมักจะสวมชุดกรีกและเสื้อคลุมทันสมัยที่หรูหราและโดดเด่นที่สุด 

ควบคู่ไปกับเครื่องประดับที่งดงามและน่าทึ่งที่สุด

เพื่อให้เข้ากับความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ของเธอเสมอ

และเฮเลนยังมีความรู้สึกผิดอย่างมากที่เป็นสาเหตุหลักของการทำลายทรอย 

แต่โดยภาพรวม เฮเลนเป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดอย่างมาก และรู้สำนึกผิดอีกด้วย

ชีวประวัติโดยสรุป : 

ซุสจำแลงกายเป็นหงส์ และบังคับให้อินทรีไล่เขากลางอากาศ เพื่อแสร้งทำให้ ท่านหญิงเลด้า 

ภรรยาของกษัตริย์ทินดาริอุสแห่งสปาร์ต้า เกิดความสงสารและช่วยเหลือหงส์ตัวน้อย(?)

หลังจากนั้นเขาก็แอบกลับร่างมนุษย์นอนกับเธอ จากการเผชิญหน้าครั้งนี้กับเลด้า ซุสได้แถสารพัดเหตุผลโกหกเธอ และหลังซุสจากไป เลด้าก็ได้วางไข่สองฟอง โดยมีเฮเลนและน้องชายของเธอ โพลิดูซีส โผล่ออกมาจากไข่ใบแรก และคาสเตอร์, ซิลเทมนาสตรา, ทิมันดรา และฟิโลโน่ (ลูก ๆ ของเลด้าที่เกิดจากการผสมของกษัตริย์ทินดาริอุส) ออกมาจากไข่อีกใบ 

โดยชนวนสงครามทรอยเริ่มขึ้น เมื่อซุสได้โยนภาระการบอกว่าเทพีองค์ใดสวยที่สุด 

คือ เฮร่า อะธีน่า และ อะโฟร์ไดต์ ให้ไปพบกับปารีสแห่งทรอย

- เฮร่าเสนอตำแหน่งผู้ปกครองเอเชียและยุโรปให้เขาหากเธอได้รับเลือก

- อะธีน่า เสนอที่จะมอบทักษะการต่อสู้มากมายให้กับเขา วงศ์ตระกูลของเขา และทรอย ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเอาชนะศัตรูในสงครามได้หากเธอถูกเลือก

- อะโฟร์ไดต์ เสนอที่จะมอบผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกให้เขาหากเธอถูกเลือก

หลังจากปารีสได้ฟังข้อเสนอ เขาก็เลือกอะโฟร์ไดต์และมอบแอปเปิ้ลทองคำแก่เทพีอะโฟร์ไดต์

เฮร่าและอะธีน่าทั้งสองต่างโกรธเคืองปารีสอย่างมาก และสาบานว่าเขาจะเป็นศัตรูของพวกเธอไปตลอดชีวิต

อะโฟรืไดต์ได้ชี้นำทางและช่วยเหลือปารีสให้ไ้ดพบเจอเฮเลน และทั้งสองตกหลุมรักกัน

ภายใต้การชี้นำของเทพีแห่งความรัก จนหลังเธอตาย เฮเลนก็ยังไม่มั่นใจว่าที่เธอรักปารีส

เป็นความรักเกิดจากเธอ หรือเทพีอะโฟร์ไดต์ชี้นำกันแน่

เมื่อโอกาสมาถึง ประตูยมโลกถูกเปิดออก ทำให้เฮเลนอาศัยจังหวะนี้หลบหนีออกมา

แต่ด้วยอำนาจบางอย่างจากทวยเทพ(?) ทำให้เฮเลนที่หนีออกมาจากโลกใต้พิภพ

กลับพบว่าตัวเองอยู่ในร่างวัยสิบห้า หรือนี่เป็นพรให้เธอมีชีวิตครั้งใหม่จากบิดาของเธอ(?)

เหตุการณ์ที่พบเจอกับ NPC ครั้งแรก : 

เดม่อนพบเจอเฮเลน่าครั้งแรกตอนย้ายโรงเรียนใหม่ ขึ้นชั้นเกรดแปด ต้องยอมรับเลยว่าเธอ

คือดาวป๊อบปูล่าของโรงเรียน เขาไม่รู้หรอกว่าเธอคือเฮเลน แต่เธอเป็นผู้หญิงที่สวยสุด ๆ

และดูเหมือนเฮเลน่าจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับเขา เธอมักจะมาหาเขาและพูดแปลก ๆ 

อย่าง ระวังตัวนะ นายอาจจะตายได้ทุกเมื่อ ตอนนี้อายุนายเริ่มเนื้อหอม 

ซึ่งผมก็รู้สึกแปลก ๆ มาตลอดตั้งแต่มาค่าย ตอนแรกผมคิดว่าเธอแค่จะแกล้งผมเหมือนที่เธอแกล้งเด็กคนอื่น ๆ

เพราะปกติเธอก็ชอบแกล้งผมประจำที่โรงเรียน เลยไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดเหล่านั้น 

จนกระทั่งวันที่เจออสุรกายตัวเป็น ๆ และได้รู้เรื่องพวกเขาจากค่ายฮาล์ฟบลัดก็ทำให้ผมคิดมาตลอด

ชื่อเรียกในยุคปัจจุบัน : เฮเลน่า

Dean HEROES

ORION

Rian Huntsman

Personality

ชายหนุ่มผู้ทะมัดทะแมงและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง เขาคือนายพรานมือหนึ่งที่หาใครเปรียบมิได้ แม้บางครั้งโอไรออนอาจจะดูเป็นคนทะนงตัวไปเสียหน่อยแต่เขาก็มีดีตามอวดอ้าง ครั้งหนึ่งเคยมีปณิธาน "จะล่าสัตว์ให้หมดทั้งโลก"

โอไรออนเป็นคนที่บทจะดีก็ดีแต่มีมุมที่ร้าย ๆ ความใจดีอบอุ่นมีพอ ๆ กับความเยือกเย็น หลังจากที่เคยถูกอุบายจาก อะพอลโล่ เขาเก็บความแค้นนั้นไว้โดยไม่สนวิธีการ คราวนี้ต่อให้ต้องหลอกใช้ผู้อื่นก็จำต้องทำให้บรรลุผลสำเร็จ

...ถือเป็นชายคลั่งรักเสียจนน่ากลัว...

Background Profile

STORY I (โอไรออน version จักรวาลคอมมูฯ)

โอไรออน เป็นลูกครึ่ง เทพโพไซดอน กับ นางยูริอาเล ธิดาของกษัตริย์ไมนอสแห่งครีต เขาเติบโตขึ้นมาสมชายชาตรี โดยมีงานอดิเรกคือการล่าสัตว์

โอไรออนแต่งงานครั้งแรกกับ นางไซเด สาวงามฝีปากกล้าจนทำให้เทพเฮร่าไม่พอพระทัยจึงถูกส่งไปยมโลก ต่อมาเขาได้พบรักครั้งใหม่กับ นางเมโรพี ธิดาของกษัตริย์โอโนเปียนแห่งเกาะคิออส ซึ่งสัญญาว่าจะยกธิดาให้หากโอไรออนช่วยกำจัดสัตว์ร้ายให้หมดเกาะ แต่เมื่อโอไรออนทำงานสำเร็จเขากลับถูกว่าที่พ่อตาหักหลัง มอมเมรัย ควักลูกตาแล้วจับโยนทะเล แต่เนื่องจากโอไรออนเป็นบุตรโพไซดอนเขาจึงรอดชีวิตมาได้จากพลังน้ำเยียวยา และหายดีในเวลาต่อมา

ต่อมาโอไรออนชายผู้อาภัพในความรักได้มาพบกับ เทพีอาร์เทมีส เทพีแห่งดวงจันทร์ที่ซึ่งถือครองพรหมจรรย์ ทั้งคู่สนิทสนมกันได้โดยง่ายเพราะงานอดิเรกที่เหมือนกัน จนกระทั่งความสนิทสนมนั้นก่อเกิดเป็นความรัก ทำให้ต่อมาเทพีอาร์เทมีสตัดสินใจที่จะแต่งงานกับโอไรออน

ทว่าเรื่องราวถึงหูของเทพฝาแฝดอย่าง เทพอะพอลโล เสียก่อน เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เทพเจ้าจึงออกอุบายท้าน้องสาวยิงธนูไปยังเกาะไกลลิบที่อยู่กลางน้ำ ซึ่งนั่นไม่ใช่เกาะ แต่คือโอไรออนที่กำลังว่ายน้ำเล่นอยู่กับ ซิริอุส สุนัขคู่ใจทำให้ทั้งสองเสียชีวิตในทันที ด้วยความเสียใจที่สูญเสียคนรัก เทพีอาร์เทมีสจึงขอร้องให้บิดาเทพซุสนำร่างของเขาและสุนัขคู่หูขึ้นไปเป็นดวงดาวบนฟากฟ้า

STORY II (ข้อมูลตามจักรวาล Riordan)
โอไรออน คืออสุรกายเผ่ายักษ์ที่เกิดมาเป็นเป็นคู่ปรับของเทพอะพอลโลและเทพีอาร์เทมีส เขาไม่ได้ร่วมสู้รบในสงครามไททันครั้งที่หนึ่ง ในขณะที่มีชีวิตอยู่ได้ทำงานเป็นนายพรานหลวงให้กับกษัตริย์โอโนเปียนแห่งเกาะคิออส ซึ่งภายหลังได้ถูกกษัตริย์ทรยศ ควักลูกตาและเนรเทศออกจากเมือง แต่สุดท้ายก็รอดมาได้โดยการช่วยเหลือจาก เทพเฮเฟตัส สุดยอดนักประดิษฐ์แห่งโอลิมปัส โดยประดิษฐ์ตาเทียมให้จึงสามารถมองเห็นได้เป็นปกติ

หลังจากที่ตั้งรกรากอยู่ที่เกาะเดลอส โอไรออนต้องต่อสู้กับแมงป่องยักษ์ที่ เทพีไกอา ผู้เป็นมารดาส่งมา วีรกรรมที่กล้าหาญนั้นเข้าตาของเทพีอาร์เทมีสนางจึงต้องการมาชื่นชมวีรบุรุษ จากนั้นทั้งสองก็สนิทกันจนเกิดเป็นความรัก ทั้งคู่ตั้งใจว่าจะแต่งงานกัน แต่เรื่องนี้ก็เข้าหูของเทพอะพอลโล (อีกแล้ว) เทพแห่งดวงตะวันจึงสาปให้โอไรออนคุ้มคลั่งไล่ฆ่าสัตว์ทุกอย่างในโลกหล้า ซึ่งนั่นได้กระตุ้นให้เทพีไกอาส่งแมงป่องยักษ์มาต่อสู้อีกครั้ง คราวนี้โอไรออนได้รับพิษจากแมงป่องจนเขาเสียชีวิต

เทพีอาร์เทมีสออกตามหาคนรักของนางจนไปพบร่างไร้วิญญาณของโอไรออนท่ามกลางซากศพของสัตว์น้อยใหญ่มากมาย เพื่อให้วีรกรรมของคนรักคงอยู่ชั่วนิรันดร์นางจึงส่งเขาไปเป็นดวงดาวบนฟากฟ้า

หลังจากที่โอไรออนกลับมาจากทาร์ทารัส เขาได้ติดตามมารดาก่อความเดือดร้อนบนโลกมนุษย์มากมาย โดยพยายามอยู่ให้ไกลจากเทพีอาร์เทมีสเสมอ

FACT 
โอไรออน (I) และโอไรออน (II) คือคนละคนกัน เรื่องราวชีวิตที่คล้ายคลึงกันล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ เทพีอาร์เทมีสตกหลุมรัก โอไรออน (II) ก่อน ภายหลังจากที่นางได้พบกับ โอไรออน (I) อีกครั้งเธอจึงคิดว่าได้รับคนรักเก่าของนางคืนมา แต่สุดท้ายชะตากรรมของทั้งคู่ก็ไม่ต่างไปจากเดิม ในตอนที่นางขอให้ซุสช่วยนำร่างของ โอไรออน (I) ไปเป็นดวงดาว ตอนนั้นมีเพียงแค่ซิริอุสที่ได้รับโอกาส ส่วนวิญญาณของเขาต้องตกอยู่ในทาร์ทารัส

โอไรออน (II) พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการพบปะของเขากับอาร์เทมีส แต่ โอไรออน (I) พยายามต่อสู้เพื่อคนรักของตัวเอง และท้าทายอำนาจของเทพอะพอลโล

At Present

"ไรอัน ฮันส์แมน" คือชื่อที่โอไรออนใช้อยู่ในโลกมนุษย์ขณะนี้ เขากลับมาจากทาร์ทารัสโดยได้มาอยู่ในร่างวัยยี่สิบปลาย ๆ พร้อมกับสุนัขคู่ใจซิริอัส ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเมื่อปรากฏกายบนโลกคือความแค้นต่ออะพอลโล ต่อมาคือความรู้สึกโหยหาเทพีอาร์เทมีสคนรักอย่างสุดหัวใจ

ไรอันก่ออาชญากรรมโดยไม่มีใครจับได้ เขาสวมรอยเป็น ไรอัน ฮันส์แมน หนึ่งในเหยื่อผู้โชคร้าย จากนั้นก็ครอบครองกระท่อมแห่งหนึ่งในชนบทของรัฐนิวเจอร์ซีย์ รวมทั้งทรัพย์สินบางส่วนของครอบครัวฮันส์แมนจึงทำให้ไรอันใช้ชีวิตอย่างไม่ยากลำบากในโลกมนุษย์ยุคคริสศตวรรษ์ที่ 21 ระหว่างนั้นก็ทำงานเป็นนายพรานไปพลาง และวางแผนที่จะเข้าถึงเทพีอาร์เทมีสไปด้วย

First Meeting

ไรอันเดินทางเข้ามาที่นิวยอร์กเพื่อตามหาเบาะแสของเทพีอาร์เทมีส เขาคิดว่าอย่างน้อยการที่เขาปรากฏกายขึ้นที่นี่จะทำให้อยู่ในสายตาของนางบ้าง จนบังเอิญได้พบกับ "ดีน เอลวิน อัลวาเรซ นีล" และ "รีชา แคมพ์เบลล์" ที่กำลังทำภารกิจตามหาพัสดุที่หายไปของเทพเฮอร์มีส เพียงแค่มองปราดเดียวไรอันก็รู้ได้ทันทีว่าทั้งสองเป็นน้องชายและน้องสาวร่วมบิดาของตนจึงเข้าไปช่วยเหลือ และพาทั้งสองคนกลับมายังค่ายฮาล์ฟบลัดโดยปลอดภัย

ในสายตาของบุตรและธิดาเทพโพไซดอน ไรอันเป็นพี่ชายสุดแกร่งที่พึ่งพาได้ แถมยังมีน้องหมาให้เล่นอีกต่างหาก...

"ซิริอุส" สุนัขพันธุ์ฟาโรห์ฮาวด์ เพศผู้
โตเต็มวัย เป็นสุนัขที่เงียบสงบ สุขุม วินัยจัด เชื่อฟังคำสั่งจากเจ้าของอย่างยิ่งยวด
งานอดิเรกของมัน คือ การล่า และทำหน้าที่นั้นเป็นอย่างดีโดยไม่เคยบกพร่อง

SIRIUS (ซิริอุส)

King

God BELIEVER

Arianne

Personality

หญิงสาวผู้มีนิสัยรักสันโดษ เธอเป็นคนอ่อนโยน ไม่ค่อยชอบคบค้าสมาคมกับผู้ใด มักจะเลือกปลีกวิเวกอยู่ตามลำพังด้วยพลังเวทมนต์ในตัวเธอ จนความลับของเธอถูกคนในเผ่าบริเตนรู้เข้า พวกเขาเกรงกลัวเธอและขับไล่เธอออกจากหมู่บ้าน

อารีแอนน์เลยต้องมาใช้ชีวิตตามลำพังในป่าเขาบริเวณตอนใต้ของเกาะบริเตน ตลอดเวลามาเธอพยายามเก็บตัวและไม่เคยออกไปไหนไกลกระท่อมของเธอ เธอไม่ค่อยเปิดใจกับคนแปลกหน้ามากนัก ทำให้หลายคนคิดว่าเธอเป็นคนแปลกและค่อนข้างลึกลับ 

Background Profile

STORY I 

อารีแอนน์ เป็นหญิงชาวบริเตนที่ถูกเนรเทศ ซึ่งเธอถูกกล่าวหาจากชนเผ่าของเธอว่าเป็นแม่มดและเรียนภาษาละตินจากด่านหน้าของโรมันที่อยู่ใกล้ ๆ อีกทั้งอารีแอนน์ยังเป็นผู้ช่วยชีวิต
นายพลควินตัส ดิอาส แห่งกองร้อยที่ 9 ของโรมัน เธอเป็นผู้ให้ที่พักพิงและอาหาร รวมถึงการรักษาโบธอสและดิอาสในขณะหนีการตามล่าของกองทัพบริเตน

จนทั้งสองพร้อมจะเดินทางต่อเพื่อมุ่งหน้ากลับสู่เขตโรมัน ในวันที่ดิอาสจากไปอารีแอนน์ก็เริ่มรู้ใจตัวเองแล้วว่าเธอมีความรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ต้องแยกจากเขา เธอมีความรักให้นายพลโรมันหนุ่ม แต่ว่าชะตากรรมของดิอาสและโบธอสก็ไม่อาจสามารถหนีพ้นกลับสู่โรมันอย่างปลอดภัย โชคดีดิอาสหนีรอดมาได้ เขาควบม้ากลับมาตายใกล้กับบริเวณกระท่อมของอารีแอนน์ นับแต่นั้นกองร้อยที่ 9 ของโรมันก็ไม่มีใครรู้ชะตากรรมอีกเลย เรื่องราวพวกเขายังคงเป็นปริศนา บางตำนานเล่าว่าอารีแอนน์เป็นบุตรีของเฮคาที นั่นทำให้สาเหตุที่เธอโดนขับไล่มีความน่าจะเป็นและสมเหตุสมผล อีกทั้งเธอใช้เวทมนต์ต้องห้ามเพื่อคืนชีวิตชายผู้เป็นที่รัก แต่เขาใช้ชีวิตอยู่กับเธอได้เพียงสามปี ก่อนร่างจะสลายไป เพราะพลูโต ภาคโรมันของฮาเดสไม่อาจยอมให้คนแหกกฎแห่งความตาย เขานำพาดวงวิญญาณดิอาสผู้เป็นวีรบุรุษโรมันไปสู่แอลลิเซียม ทิ้งไว้ให้อารีแอนน์เศร้าโศก 

เธอโศกเศร้าทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อสูญเสียดิอาสไปเป็นครั้งที่สอง จนถูกชนเผ่าโลตัสล่อลวงและพาเธอไปเสพดอกบัวทำให้เธอหลงลืมทุกเรื่องราวภายนอก หลงภวังค์อยู่ภายในคาสิโนโลตัสนับแต่นั้นมาจนปัจจุบัน แม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายพันปี แต่ภายในคาสิโนโลตัสเวลาทุกอย่างหยุดนิ่ง ทำให้เธอยังคงรูปลักษณ์ดรุณีสาววัย 20 ต้น ๆ ไม่แก่เลยแม้แต่น้อย....

First Meeting

เธอไม่รู้ว่าเวลาของโลกเปลี่ยนแปลงไปมากมายแค่ไหนแล้ว ตัวเธอยังหลงภวังค์ในคาสิโนโลตัส ใช้ชีวิตลืมโลกข้างนอกโดยสิ้นเชิง จนมนุษย์กึ่งเทพคำพยากรณ์ตามหาตร๊ศูลโพไซดอนไปพบเธอ และได้ปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์....

ดีน เดม่อน และไบร์ท ได้รับภารกิจคำพยากรณ์ตรีศูลที่หายไป จากการตีความคำทำนาย ทั้งสามต้องเดินทางไปที่ลาสเวกัส และเข้าไปในคาสิโนโลตัส ที่นั่นเอง ไบร์ทได้พบกับอารีแอนน์ที่หลงลืมตัวตน (ส่วนเดม่อนได้พบกับเอมีเลีย) พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากลูซิเฟอร์ให้กลับมาจดจำตัวตนได้ จากนั้นทั้งห้าก็ออกเดินทางต่อจนสามารถนำตรีศูลคืนแก่โพไซดอน อารีแอนน์ขอแยกทางจากไป เพื่อทำตามวัตถุประสงค์บางอย่างที่ลูซิเฟอร์ชี้นำ

King

Dean HEROES

Hemithea

Molpadia or Emmie

Personality

บุคลิกของเฮมิเทียสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตที่ผ่านมาของเธอ เธอเป็นคนเอาใจใส่และให้เกียรติผู้อื่น มองทุกคนในเวย์สเตชั่นเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่ ความเมตตาของเธอแผ่ขยายไปถึงทุกคน แม้กระทั่ง ลิตีเยร์ อาชญากรจอมโหด ที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจนเขาต้องหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้ง เฮมิเทียเป็นทั้งแม่และภรรยาที่รักและห่วงใยครอบครัวอย่างสุดซึ้ง เธอมีความมั่นใจในตัวเองและภูมิใจในสิ่งที่เธอเป็น

วันเกิด: 1 ธันวาคม 1987
(ปีค.ศ.เป็นปีที่เอมมี่ออกจากกลุ่มพรานเพื่อจะมาใช้ชีวิตร่วมกับโจเชฟินแฟนสาวทำให้อายุขัยกลับมาเดินต่อตามปกติ เนื่องจากปีค.ศ.จริงสมัยของเธอยังไม่มี)
อายุจริง: มากกว่า 3000 ปี
อายุร่างกาย: 55 ปี

Background Profile

เฮมิเทีย หรือที่รู้จักกันในชื่อ มอลปาเดีย หรือ เอมมี่ อดีตเจ้าหญิงแห่งเกาะนักซอส ไม่ได้เป็นเพียงแค่อดีตพรานแห่งอาร์เทมิส แต่เธอคือผู้ที่แบกรับมรดกแห่งเทพเจ้าถึงสององค์ ทั้งไดโอนีซุส เทพแห่งไวน์และความรื่นเริง ผู้เป็นบิดาของกษัตริย์สตาฟีลุส บิดาของเธอ และอาร์เทมิส เทพีแห่งการล่า ผู้ที่เธอเคยถวายตัวรับใช้ ชีวิตของเธอจึงผูกพันกับทั้งความสุขสำราญและความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ความขัดแย้งในตัวตนนี้เองที่หล่อหลอมให้เธอเป็นบุคคลที่มีมิติและน่าสนใจ

เรื่องราวของเฮมิเทียเริ่มต้นด้วยโศกนาฏกรรม การทำโถไวน์ล้ำค่าของบิดาแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ นำไปสู่คำสั่งประหารชีวิตที่ไร้เหตุผล เมื่อความตายอยู่ตรงหน้า เฮมิเทียและน้องสาวเลือกที่จะกระโดดหน้าผาลงสู่ทะเล แทนที่จะเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของบิดา การกระทำนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความสิ้นหวัง พวกเธอร้องขอความช่วยเหลือจากอาร์เทมิส แต่กลับเป็นอะพอลโล เทพแห่งแสง ดนตรี และการพยากรณ์ ผู้ที่ได้ยินคำร้องขอและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ด้วยความเมตตา อะพอลโลได้สละส่วนหนึ่งของพลังศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง เพื่อมอบความเป็นอมตะให้แก่สองพี่น้อง การช่วยเหลือครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการช่วยชีวิต แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของพวกเธออย่างถาวร เปลี่ยนพวกเธอจากเจ้าหญิงมนุษย์ธรรมดา ให้กลายเป็นเทพธิดาองค์น้อย และนำพาพวกเธอไปสู่การรับใช้เทพีอาร์เทมิส

การเข้าร่วมกลุ่มพรานแห่งอาร์เทมิส เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของเฮมิเทีย ที่นี่ เธอได้พบกับ โจเซฟิน ฮันเทรส พรานอีกคน และก่อเกิดเป็นความรักที่งดงาม ความรักครั้งนี้เป็นการท้าทายคำปฏิญาณแห่งพรหมจรรย์ แต่ในที่สุด เฮมิเทียและโจเซฟินก็ตัดสินใจที่จะเลือกเส้นทางของตนเอง พวกเธอแยกทางกับอาร์เทมิสด้วยความเข้าใจในปี 1987 นับแต่นั้นเธอก็มีอายุปกติ โดยนับต่อจากวัย 18 ปีก่อนเธอได้รับพรอมตะ  และเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบมนุษย์ร่วมกัน การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่จะเลือกความรักและความสุขของตนเอง เหนือสิ่งอื่นใด

การปรากฏตัวของจอร์จิน่า เด็กหญิงที่ถูกนำมาโดยอากาเมธัส ได้เติมเต็มชีวิตของทั้งสองให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พวกเธอรับเลี้ยงจอร์จิน่าเป็นลูกสาวบุญธรรม สร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง

At Present

ปัจจุบัน เฮมิเทีย โจเซฟิน และจอร์จิน่า ดูแล เวย์สเตชั่น สถานที่ปลอดภัยที่ก่อตั้งโดย บริโตมาร์ติส เทพีกับดักและตาข่ายหรือเทพีแห่งเกาะครีต สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักพิงสำหรับเหล่าเดมี่ก็อตผู้ลี้ภัยและอมตะทุกประเภท แต่เป็นบ้าน เป็นครอบครัวที่เฮมิเทียสร้างขึ้นจากประสบการณ์และความรักของเธอ

First Meeting

การปรากฏตัวครั้งแรกของเฮมิเทียในปี 2024 อยู่ในภารกิจคำพยากรณ์ตรีศูลที่หายไป ดีน เดม่อน และไบร์ท บังเอิญพบกับ โบล์ต บุตรแห่งซุส ที่ถูกเทพีเฮร่าสาปเป็นสุนัข ทั้งสามติดต่อกลับไปยังค่ายฮาล์ฟบลัดเพื่อขอคำปรึกษาจากไครอน จนได้รับคำแนะนำว่า ให้พาบุตรแห่งซุสไปฝากเลี้ยงไว้ที่ เวย์สเตชั่น ที่อินเดียนาโพลิส เมื่อผ่านทางดีนและเดม่อนจึงพาโบล์ตไปส่ง โดยไบร์ทขอรออยู่ที่ท่ารถบัส ในตอนนั้นผู้ที่ออกมาต้อนรับสองเดมิก็อดมีเฮมิเทียเพียงคนเดียว

ความรักความผูกพันของ

เฮมิเทีย โจเซฟิน และจอร์จิน่า

cr. Official Art

King

Dean HEROES

Josephine

Josie or Jo ro Big Jo

Personality

โจเซฟิน เป็นคนที่เป็นมิตรและกระตือรือร้นมาก เธอมีความหลงใหลในเครื่องจักรอย่างมาก โจเซฟินรักภรรยาของเธอ เฮมิเธีย และลูกสาว จอร์จินา อย่างสุดหัวใจ เธอยังปฏิบัติต่อผู้อยู่อาศัยทุกคนที่เวย์สเตชันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวขยายของเธอด้วย

วันเกิด: 1 มกราคม 1920
อายุจริง: 105 ปี
อายุร่างกาย: 54 ปี

Background Profile

โจเซฟิน ธิดาแห่งเฮคาที เทพีแห่งเวทมนตร์ คาถา และทางสามแพร่ง ไม่ได้เป็นเพียงแค่อดีตพรานแห่งอาร์เทมีส แต่เธอคือผู้ที่ผสานความลึกลับแห่งเวทมนตร์เข้ากับความแข็งแกร่งแห่งการล่า ชีวิตของเธอเริ่มต้นขึ้นในทศวรรษ 1920 ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายและอาชญากรรม โจเซฟินในคราบชายหนุ่ม ได้โลดแล่นอยู่ในโลกใต้ดินของกลุ่มมาเฟียชื่อดัง เช่น อัล คาโปน เธอไม่ได้เป็นเพียงแค่คนนอก แต่เป็นตัวกลางสำคัญ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มมาเฟียต่าง ๆ และคนค้าเหล้าเถื่อนชาวแอฟริกันอเมริกัน การใช้ชีวิตในโลกมืดนี้ หล่อหลอมให้เธอเป็นคนเฉลียวฉลาด กล้าหาญ และมีไหวพริบปฏิภาณ

การตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มพรานแห่งอาร์เทมิส เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของโจเซฟิน จากโลกแห่งอาชญากรรม สู่โลกแห่งการล่าและการอุทิศตนให้กับเทพีพรหมจรรย์ ที่นี่ เธอได้พบกับเฮมิเทียพรานอีกคน และก่อเกิดเป็นความรักที่แข็งแกร่ง ความรักครั้งนี้เป็นการท้าทายกฎเกณฑ์ของกลุ่มพราน แต่ในที่สุด โจเซฟินและเฮมิเทียก็เลือกที่จะเดินตามหัวใจ พวกเธอแยกทางกับอาร์เทมิสด้วยดีในปี 1987 (และอายุที่เคยหยุดนิ่งของเธอ 17 ปีก็กลับมาเดินตามปกติ) และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะมนุษย์

การแต่งงานของโจเซฟินและเอ็มมี่ นำพาพวกเธอไปสู่ เวย์สเตชั่น สถานที่ปลอดภัยสำหรับเหล่ากึ่งเทพและวิญญาณแห่งธรรมชาติในเมืองอินเดียแนโพลิส รัฐอินเดียนา ภายใต้การดูแลของบริโตมาร์ติส เทพีแห่งกับดัก ตาข่าย และเกาะครีต โจเซฟินและเอ็มมี่รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้ ให้ความช่วยเหลือและที่พักพิงแก่ผู้ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่หลับนอนในยามค่ำคืน หรือการช่วยเหลือเหล่ากึ่งเทพให้สามารถใช้ชีวิตปะปนกับมนุษย์ได้อย่างปกติสุข เวย์สเตชั่นจึงกลายเป็นมากกว่าแค่ที่พัก แต่เป็นบ้าน เป็นครอบครัว และเป็นที่พึ่งพิงสำหรับผู้ที่ต้องการ

เจ็ดปีก่อนเหตุการณ์ใน The Dark Prophecy อากาเมธัส วิญญาณตนหนึ่ง ได้นำเด็กทารกหญิงมาที่เวย์สเตชั่น โจเซฟินและเอ็มมี่รับเลี้ยงเด็กหญิงคนนั้นและตั้งชื่อว่า จอร์จิน่า พวกเธอเลี้ยงดูจอร์จิน่าด้วยความรักและความเอาใจใส่ เสมือนลูกสาวแท้ ๆ ของตนเอง 

At Present

ปัจจุบัน เฮมิเทีย โจเซฟิน และจอร์จิน่า ดูแล เวย์สเตชั่น สถานที่ปลอดภัยที่ก่อตั้งโดย บริโตมาร์ติส เทพีกับดักและตาข่ายหรือเทพีแห่งเกาะครีต สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักพิงสำหรับเหล่าเดมี่ก็อตผู้ลี้ภัยและอมตะทุกประเภท แต่เป็นบ้าน เป็นครอบครัวที่เฮมิเทียสร้างขึ้นจากประสบการณ์และความรักของเธอ

First Meeting

ไม่มี

ความรักความผูกพันของ

เฮมิเทีย โจเซฟิน และจอร์จิน่า

cr. Official Art

King

Dean HEROES

Georgina

Personality

จอร์จิน่า ดูเหมือนเด็กหญิงวัยสิบสี่ขวบทั่วไปที่ชอบการวาดรูป เธอยังมีความกล้าหาญ เนื่องจากเธอเดินทางไปหาโทรโฟเนียสด้วยตัวเอง งานวาดบางชิ้นของเธอเป็นภาพคนก้างปลา อะพอลโลสังเกตว่าบางภาพมีบรรยากาศที่ดูมืดมนมาก

วันเกิด: 1 มกราคม 2010
อายุ: 15 ปี

Background Profile

จอร์จิน่า เด็กหญิงผู้มีดวงตาที่ฉายแววความอยากรู้อยากเห็นและความกล้าหาญ เป็นลูกบุญธรรมของเฮมิเทียและโจเซฟิน คู่รักผู้ดูแลเวย์สเตชั่น สถานที่พักพิงอันอบอุ่นสำหรับเหล่ากึ่งเทพและวิญญาณแห่งธรรมชาติในอินเดียแนโพลิส ชีวิตของจอร์จิน่าผูกพันกับความลึกลับและความไม่แน่นอน ตั้งแต่แรกเริ่มที่เธอถูกนำมาที่เวย์สเตชั่นโดยวิญญาณชื่ออากาเมธัส เจ็ดปีก่อนสงครามจักรวรรดิครั้งใหญ่ ในตอนนั้นเธอเป็นเพียงทารกน้อยที่โชคชะตานำพามาสู่อ้อมอกของเอ็มมี่และโจซี่ ผู้ซึ่งมอบความรักและการดูแลให้เธอเสมือนลูกแท้ๆ ความผูกพันกับแม่บุญธรรมทั้งสองนี้เป็นรากฐานสำคัญในชีวิตของเธอ เป็นแหล่งความรัก ความอบอุ่น และความมั่นคง ที่หล่อหลอมให้เธอเติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง

ความสัมพันธ์ของจอร์จิน่ากับอะพอลโล เทพเจ้าแห่งแสง ดนตรี และคำพยากรณ์ เป็นอีกหนึ่งปมปริศนาที่เพิ่มความซับซ้อนให้กับตัวละครของเธอ แม้แต่อะพอลโลเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอเป็นลูกสาวของเขาหรือไม่ ความไม่แน่นอนนี้สร้างความคลุมเครือและความสงสัยในใจของจอร์จิน่า และสะท้อนให้เห็นถึงความบกพร่องในฐานะพ่อของอะพอลโล ผู้ซึ่งหลงลืมแม้กระทั่งลูกๆ ของตน ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนนี้เป็นเหมือนเงาที่ติดตามจอร์จิน่า ทำให้เธอต้องค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวตนและที่มาของเธอ

เมื่อคอมโมดัสก้าวขึ้นสู่อำนาจ ความวุ่นวายและความมืดมิดก็แผ่ขยายไปทั่วดินแดน จอร์จิน่า ด้วยความกล้าหาญและหวังที่จะช่วยเหลือครอบครัวของเธอ ได้ตัดสินใจเดินทางไปหาออราเคิลแห่งโทรโฟเนียสด้วยตัวคนเดียว การเดินทางครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของเธอ แต่ในขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นถึงความเปราะบางของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่และอันตราย การเผชิญหน้ากับออราเคิลส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อจิตใจของเธอ ทำให้เธอเสียสติและตกอยู่ในอันตราย ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราวของเธอ การที่บัลลังก์แห่งความทรงจำถูกคอมโมดัสยึดไป ทำให้การเยียวยาจิตใจของเธอเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น และเธอยังถูกจับตัวโดยกองกำลังของสามจักรพรรดิ สถานการณ์เลวร้ายนี้ยิ่งตอกย้ำถึงความเปราะบางของเธอ

ในยุค The Dark Prophecy อะพอลโลได้ยินเกี่ยวกับชะตากรรมของจอร์จิน่าจากคำพยากรณ์ ซึ่งตอกย้ำถึงความทุกข์ทรมานที่เธอได้รับ อะพอลโลได้ช่วยเหลือจอร์จิน่าและนำเธอกลับไปยังเวย์สเตชั่น แต่ความบอบช้ำทางจิตใจยังคงอยู่ ระหว่างการต่อสู้ที่เวย์สเตชั่น จอร์จิน่า เอ็มมี่ และลีโอ ตกเป็นตัวประกันของคอมโมดัสอีกครั้ง แต่ในที่สุดอะพอลโลก็สามารถปลดปล่อยพลังเทพของเขาและช่วยเหลือทุกคนได้ ในงานศพของเอโลอิส จอร์จิน่าถามอะพอลโลตรงๆ ว่าเขาเป็นพ่อของเธอหรือไม่ คำตอบที่ไม่แน่นอนของอะพอลโลนำมาซึ่งความเงียบงัน แต่จอร์จิน่าก็ยอมรับมันและกลับไปหาแม่บุญธรรมของเธอ

ใน The Tower of Nero หลังจากที่อะพอลโลกลับคืนสู่ความเป็นเทพอีกครั้ง จอร์จิน่าได้ถามถึงตุ๊กตาไม้ทำความสะอาดท่อที่เธอเคยทำให้เขา ความสัมพันธ์กับสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ตุ๊กตาไม้ทำความสะอาดท่อ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันและความทรงจำเล็กๆ น้อยๆ ที่มีความหมายต่อเธอ เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่พวกเขาแบ่งปันกัน แม้จะไม่ชัดเจนในเรื่องสายเลือด แต่ก็มีความผูกพันทางใจ แม้ว่าอะพอลโลจะขอให้เธอทำให้อีกตัว แต่เธอปฏิเสธ ซึ่งอาจแสดงถึงการยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาในแบบที่เป็นอยู่ ณ ขณะนั้น การปฏิเสธนี้อาจเป็นการแสดงออกถึงการยอมรับความไม่แน่นอน และการเลือกที่จะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับแม่บุญธรรมของเธอมากกว่า

ภาพวาดที่มืดมิดของจอร์จิน่า สะท้อนถึงความรู้สึกและความคิดที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของเธอ อาจเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่เธอได้รับ เช่น การเดินทางไปหาออราเคิล หรือความไม่แน่นอนในเรื่องพ่อของเธอ ภาพวาดเหล่านี้เป็นเหมือนหน้าต่างที่เปิดให้เห็นโลกภายในของเธอ ซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อนและความรู้สึกที่ยากจะอธิบายด้วยคำพูด

At Present

ปัจจุบัน เฮมิเทีย โจเซฟิน และจอร์จิน่า ดูแล เวย์สเตชั่น สถานที่ปลอดภัยที่ก่อตั้งโดย บริโตมาร์ติส เทพีกับดักและตาข่ายหรือเทพีแห่งเกาะครีต สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่พักพิงสำหรับเหล่าเดมี่ก็อตผู้ลี้ภัยและอมตะทุกประเภท แต่เป็นบ้าน เป็นครอบครัวที่เฮมิเทียสร้างขึ้นจากประสบการณ์และความรักของเธอ

First Meeting

ไม่มี

ความรักความผูกพันของ

เฮมิเทีย โจเซฟิน และจอร์จิน่า

cr. Official Art

King