[ย่านไซน่าทาวน์] ชุมชนชาวจีน

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×


ย่านไซน่าทาวน์





ย่านไชน่าทาวน์สุดคึกคักนี้เป็นย่านที่มีผู้คนหนาแน่น ซึ่งดึงดูดเหล่านักชิม

และนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายังร้านอาหารจีน

และร้านอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ขายเกี๊ยว ซาลาเปาหมูแดง

และบะหมี่เส้นทำมือ อีกทั้งยังมีทางเดินสุดครึกครื้นที่เต็มไปด้วย

ร้านขายของฝาก ร้านชานมไข่มุก และตลาดที่ขายทุกอย่างตั้งแต่ปลาสด

ปลาแห้ง จนถึงสมุนไพรและเครื่องเทศ นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้เคียง

ยังมีสวนสาธารณะโคลัมปัส ซึ่งเป็นสถานที่พบปะกันของคนในพื้นที่

เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ไทชิ เล่นหมากรุก และไพ่นกกระจอก





แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 4385 ไบต์และได้รับ 1 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-3-28 17:57
โพสต์ 2024-3-30 00:40:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด


Luke Castellan(?)




เดม่อนกับลิเลียน่าเดินมาจนถึงบริเวณย่านไซน่าทาวน์ นับว่าไกลพอสมควรหากเริ่มจากเซ็นทรัลพาร์ค ตอนแรกผมเสนอลิเลียน่าไปทางรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่เธอบอกว่านั่นอันตรายเกินไป ถ้าเราเจออสุรกายบนรถไฟแล้วตัวนั้นร้ายกาจกว่าเรามากนัก เท่ากับเราอยู่ในไมโครเวฟดี ๆ นี่เองพร้อมโดนกิน



เราจึงเลือกเดินเท้ามากว่า 6 ไมล์ จนมาถึงย่านที่มีชาวเอเชียเยอะที่สุดในแมนฮัตตัน เอาจริง ๆ ผมไม่ค่อยแปลกใจที่เจอชาวเอเชีย เพราะในค่ายรุ่นผมก็เหมือนจะมีชาวเอเชียเยอะพอสมควร บางทีก็แอบคิดนะว่า เทพรุ่นนี้คงไปติดใจสาวเอเชียกันสินะ



"ถึงสักที ว่าแต่จะเริ่มต้นจากที่ไหนดีเหรอลิเลียน่า" เดม่อนพูดขึ้นก่อนหันไปมองบุตรีแห่งอะธีน่า หากเรื่องตัดสินใจ เขาขอเดิมพันเชื่อใจเธอดีกว่า



"เราแยกย้ายกันค้นหาล่ะกัน จำไว้ ถ้าไม่มั่นใจว่าชนะ กลับมาเจอกันป้ายรถเมล์นั่นนะ อย่าฝืนตัวเอง" ลิเลียน่าพูดขึ้นย้ำผมเสียงแข็ง เธอยื่นหน้ามาใกล้ผม จนผมต้องเอนหลัง ใบหน้าเธอที่โน้มตัวมองตาผม



"ง....งืม เข้..เข้าใจแล้ว" เดม่อนตอบกลับลิเลียน่า ก่อนเธอจะยิ้มและกลับไปยืนเป็นปกติ



"เอาล่ะนายไปทางนั้น ส่วนชั้นจะไปทางนั้นเอง ช่วยกันหาจะไวกว่า" ลิเลียน่าพูดก่อนวิ่งไปเส้นทางที่ตัวเองกำหนดเพื่อค้นหา


ผมมองไล่หลังลิเลียน่าก่อนหันไปเส้นทางที่ผมจะต้องไปสำรวจ กล่องพัสดุเฮอร์มีส เดม่อนเดินไปตามถนนเพื่อตรวจสอบ สายตาสอดส่องบริเวณทุกที่ ๆ เดินผ่าน



ย่านนี้ผมเคยมากับพ่อสมัยเด็กกว่านี้ อาหารจีนที่นี่อร่อยมากและมีความแปลกจากอาหารอเมริกันพอสมควร โดยเฉพาะหม่าล่าตอนนั้นผมกินครั้งแรกเผ็ชจนลิ้นซาไปทั้งอาทิตย์ ท้องเสียอีกด้วย เขาเดินผ่านกระจกร้านตัดผม ก่อนจะสังเกตเห็นรูปลักษณ์ตัวเองในชุดช่างแอร์ มือถือไขควง ดาบในมือเขา และด้านหลังที่เหน็บโล่ไว้กลับดูเป็นเป้สะพายหลัง นี่อย่าบอกนะว่ามนุษย์มองเห็นเขาเป็นช่างแอร์(?)



เดม่อนเดินต่อไปไม่สนใจสายตาผู้คน ก่อนเขาเห็นบางอย่างข้างหน้าเลี้ยวเข้าตรอก ดูเหมือนนั่นมันจะเป็นตัวอะไรสักอย่างแวบ ๆ ขานั่นไม่ใช่ขาคนแน่ ๆ ถึงเขาไม่ทันเห็นลำตัวก็เถอะ ก่อนวิ่งตามเข้าไปในตรอกดังกล่าว


มิโนทอร์ ใช่ มันคือมิโนทอร์กำลังยืนรอเขาอยู่ ใบหน้าดุดันและหัววัว ร่างกายที่ดูหุ่นฟิตและมัดกล้ามของมันแข็งแกร่งชะมัด มันตวัดขวานในมือทุ่มพื้นจนพื้นดินมีรอยร้าว ก่อนหยิบยกขึ้นพาดบ่าตนเอง


ผมหยิบโล่ด้านหลังออกมา ก่อนหันไปมอง เจ้ามิโนทอร์กำลังวิ่งชาร์จตรงมายังผม พละกำลังมิโนทอร์ไม่อาจต้านทานได้แน่ ผมกระโดดไปด้านข้างก่อนจะตวัดดาบฟาดไล่แผ่นหลังไป และวิ่งเข้าไปในตรอก เพื่อไม่ให้มีฝูงชนมามุงดูมากนัก เพราะเขาไม่แน่ใจว่าคนธรรมดาจะเห็นมิโนทอร์เป็นตัวอะไร ผมมองซ้ายมองขวา ก่อนจะกลับหันหลังมาประจัญหน้ากับมิโนทอร์


ผมยกโล่ขึ้นบ้องหน้า ก่อนจะวิ่งเพื่อหวังแลกกับมัน ก่อนง้างดาบทำท่าแทงไว้เหนือโล่ เมื่อใกล้ถึงตัวผมก็แทงดาบออกไป แลกกับหมัดของมิโนทอร์ โดนหมัดเสยปากจนมีเลือดกรอกปาก แต่มิโนทอร์ก็โดนดาบผมแทงลำตัวมันสร้างบาดแผลพอสมควร


ก่อนผมชักดาบคืน และ กระโดดหลบหมัดรอบที่สองของมันที่ปล่อยออกมา ก่อนจะตวัดดาบกลางอากาศฟาดแขนมันทั้งสองข้างจนเกิดรอยแผลทอดยาว เดม่อนยังคงต่อสุ้กับมิโนทอร์อยากยากลำบาก แต่ก็ไม่คามือเขา ดูเหมือนการฝึกกับลิเลียน่าจะได้ผลดีทีเดียว ทำให้เขาพอจะรับมืออสุรกายที่ทรงพลังตัวนี้ได้


เดม่อนสู้กับมิโนทอร์อยู่พักใหญ่ ๆ จนในที่สุดเขาก็สามารถปลิดชีพมันไ้ดสำเร็จ ก่อนเดินไปเก็บเขามิโนทอร์อันเป็นสินสงครามที่หลงเหลืออยู่ เดม่อนมองกล่องพัสดุเฮอร์สมีสที่อยู่ข้างถังขยะในตรอกนั้น ก่อนเขาหยิบขึ้นมาเช็คดู 


ในขณะเดม่อนกำลังพลิกเช็คพัสดุ ก่อนมีดาบพุ่งมาจากด้านบน โชคดีที่เขาหลบทันไม่งั้นคงกลายเป็นสองท่อนแล้ว เขาเงบหน้าขึ้นมองหาตัวคนปาดาบ ก่อนสายตาเดม่อนไปสังเกตเห็นชายยืนบนคาดฟ้า สายตาเขาเหมือนกำลังมองลงมาที่เขา เพราะตัวเขาสัมผัสถึงแรงอาฆาตจากอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน


เขากระโดดไต่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงพื้น ผมไม่รอช้าพุ่งไปโจมตีเขาทันที แต่การโจมตีผมหลายครั้งพลาดเป้า ไม่เคยโดนเขาแม้แต่น้อยเลย ผมพยายามทำเช่นนี้วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย ก่อนผมถอยมาด้านหลัง ยกมือปาดเหงื่อ กว่าจะรู้ตัวนี่ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว


ชายคนนั้นก็ปรบมือ "เก่งดีนี่ แต่ฝีมือเจ้ายังอ่อนแอเกินไปที่จะชนะ" 


ชายคนนั้นพูดขึ้นก่อนจะแนะนำตัว "ผม ลุค คาสเทลแลน จงจำไว้ผมกลับมาครั้งนี้เพื่อหวนคืนความแค้นต่อทุกสรรพชีวิตในโลกทั้งหมด!!"


เสียงประกาศก้องดังก้องทั่วบริเวณ ผมที่รู้สึกคุ้นชื่อ ลุค คาสเทลแลน แต่ก็นึกไม่ออก ราวกับเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง


ชายที่อ้างตัวเป็นลุคแสยะยิ้ม ก่อนะจพูดบางอย่างครั้งสุดท้าย "ลาก่อนเจ้าเด็กน้อย สักวันเจ้าจะได้เผชิญหน้ากับข้า" 


เขาพูดเสร็จสิ้นก็หายวับไปราวกับมนต์วิเศษพรางตัว ผมมองซ้ายมองขวาแต่ก็ไร้วี่แววเขา เดินไปหยิบพัสดุและกลับไปรอลิเลียน่าที่จุดนัดพบ เพื่อจะพากันเดินทางนำพัสดุไปส่งศูนย์เฮอร์มีส.....









แสดงความคิดเห็น

God
+2 ตื่นรู้จากการพิชิตมิโนทอร์ครั้งแรก  โพสต์ 2024-3-30 10:42
โพสต์ 19154 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-3-30 00:40
โพสต์ 19,154 ไบต์และได้รับ +4 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก เปลี่ยนชุดใจปรารถนา  โพสต์ 2024-3-30 00:40
โพสต์ 19,154 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก ล็อคเก็ตรูปหัวใจ  โพสต์ 2024-3-30 00:40
โพสต์ 19,154 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-3-30 00:40

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x7
x10
x1
x2
x1
x11
x2
x8
x1
x2
x1
x3
x2
x1
x18
x1
โพสต์ 2024-3-31 02:17:37 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Lost parcel  (1)
Feria Hayes
การรับภารกิจจากเหล่าเทพครั้งใหม่นี้จากท่านเทพเฮอร์มีสนั่น คือ การไปตามหาพัศดุที่หายไปให้กลับคืนมา เฟเรียก็เลยตัดสินใจเดินทางมายังไซน่าทาวน์เป็นที่แรกของการสำรวจหาเบาะแสที่นี่ โดยมีกาเอลแล้วก็…

“ไม่เห็นต้องลำบากมาด้วยกันแบบนี้เลยนะคะพี่ศิลา บอกแล้วไงว่าหนูกับกาเอลมากันเองได้"

“ทำเป็นพูดดี เธอเองก็ไม่เคยออกมานอกค่ายไกลขนาดนี้ไม่ใช่รึไงล่ะ คนเป็นพี่ชายก็ต้องมาด้วยเป็นธรรมดาใช่ไหม"


“ก็จริงนะคะ…”

เธอทำหน้ามุ่ยนิด ๆ ที่โดนพี่ศิลา ผู้เป็นพี่ชายร่วมบ้านของเธอตามมาด้วยความเป็นห่วงที่เธอมาทำภารกิจข้างนอกค่ายคนเดียวแบบนี้

“ลุงศิลา อย่าแกล้งม่าม๊าสิครับ ม่าม๊ามุ่ยแล้วนะครับ”

ในตอนนั้นเองที่กาเอลทักขึ้นมาเพราะนึกว่าพี่ศิลาแกล้งแม่ของตนล่ะนะ ก็เล่นทำเอาพี่ศิลาหลุดขำออกมาเลย

“5555 ลุงไม่ได้แกล้งสักหน่อยนะกาเอล แล้วนี่ไปจำคำแบบนั้นจากไหนนี่”

“เพลงในหูฟังของม่าม๊าฮะ มีคำแบบนี้อยู่ด้วย”

เฟเรียอึ้งกับคำพูดของลูกชายตัวน้อย ทำเอาเธอคิดเลย นี่ไปฟังเพลงไหนมานี่ อย่าบอกนะว่ามันเพลงมันสุ่มจนหลุดเพลย์ลิงค์อีกแล้วน่ะ แต่มันก็ทำเอาเธอเขินเลย

“พอเลยลุงหลานคู่นี้ นี่เรียกมาช่วยงานนะคะ ไม่ได้ให้มาเผาเราแบบนี้ ถ้าว่างนักก็แยกย้ายไปหาเบาะแสได้แล้วนะ”

เธอเอ่ยออกมาอย่างหัวเสียก่อนที่พวกเธอทั้งสามจะแยกย้ายไปหาเบาะแสกัน

“เฟเรีย ใช่อันนี้ไหม”

“ไหนดูสิคะ”

เธอเข้าไปดูก็พบว่ามันคือกล่องพัศดุที่มีโลโก้เฮอร์มีสเอ็กซ์เพรส แต่กล่องถูกเปิดแล้ว แถมยังมีกระดาษโน๊ตทิ้งไว้เชิญชวน

“เหมือนว่าคนที่ขโมยไปจะวางกับดักให้เราไปหานะคะ”

“ม่าม๊า จะไปเหรอ กับดักไม่ใช่เหรอฮะ”

“ม่าม๊าจะไปจ้ะ กาเอล เพราะนี้คือเบาะแสเดียวที่เรามี ถึงจะเป็นกับดักจริงเราก็จะผ่านมันไปด้วยกันนะ”

เธอลูบหัวกาเอลที่มีท่าทีเป็นห่วงเธอเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วออกเดินทางไปตามเบาะแสทันที

หาเบาะพัศดุที่หายไป

แสดงความคิดเห็น

God
เลข 3 - เจอเบาะแส ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด Wendy's  โพสต์ 2024-3-31 10:54
โพสต์ 6033 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-3-31 02:17
โพสต์ 6,033 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +1 ความศรัทธา จาก เกราะหนัง  โพสต์ 2024-3-31 02:17
โพสต์ 6,033 ไบต์และได้รับ +2 ความศรัทธา จาก น้ำหอมสตรี  โพสต์ 2024-3-31 02:17
โพสต์ 6,033 ไบต์และได้รับ +2 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก กำไลหินนำโชค  โพสต์ 2024-3-31 02:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เรือแคนูไม้
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ควบคุมดอกป๊อปปี้
ฝันร้าย
มีดสั้นสัมฤทธิ์
Daedalus's Legacy
จิตวิญญาณนักรบแห่งโอกู
เกราะสายรุ้ง
สะกดจิต
น้ำหอม Unisex
ทักษะหอก
กำไลหินนำโชค
หูฟังบลูทูธ
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โล่อัสพิส
หอกกรีก
หลับใหล
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x4
x7
x11
x24
x6
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x6
x18
โพสต์ 2024-4-17 15:34:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด




White Swan in The Ocean

          ว่ากันว่าหากต้องการจะซ่อนอะไรสักอย่างการซ่อนที่ดีนั้นคือการซ่อนโดยถือคติว่า ‘จงซ่อนต้นไม้ในป่า’

          และตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังหาต้นไม้ที่ว่ามานั่นแหละ

          “นี่เรียกว่าหาเรื่องใส่ตัวได้ไหม?” ริปลีย์เอ่ยขณะที่ยื่นเงินสิบดอลลาร์ให้คนขับแท็กซี่ก่อนจะมองบรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยเหล่าชนชาติเอเชียแผ่นดินใหญ่ “เอาวะ จะซ่อนอะไรมันก็ต้องไปซ่อนที่เนียนอยู่แล้ว”

          ธิดาแห่งโพไซดอนถอนหายใจออกมาก่อนที่จะยกมือทั้งสองตบหนาตัวเองกระตุ้นให้ตื่นตัว คิดเสียว่าหากไม่ได้อะไรกลับก็ยังได้มาซื้ออะไรคุ้นปากคุ้นลิ้นลงท้อง สองเท้าเริ่มก้าว สองขาเริ่มเดิน ดวงตาสีอัลมอนต์กวาดมองไปรอบๆอย่างสนอกสนใจ เดินไปเรื่อยๆก็ไปวายแวะซื้อสตรอเบอร์รี่เคลือบน้ำตาลที่เขาเรียกกันว่าถังหูลู่

          “เข้าใจคิดดีนี่ หล่อน้ำตาลแล้วจุ่มน้ำแช่น้ำแข็งเย็นจัดจะได้เคลือบสวย”

          ใช้เวลาเดินอยู่นานสองนานทีเดียวกับย่านชุมชนชาวจีนแห่งนี้ หากไม่หักห้ามใจไว้คงมือถุงของกินหิ้วเต็มแขนเป็นแน่ ทว่าเมื่อเดินมาถึงจุดหนึ่งก็พบกับชายอเมริกันผิวขาวใส่หมวกบังใบหน้าวางกล่องลังอะไรบางอย่างไว้ที่หนาประตูบ้านที่ปิดสนิท ริปลีย์เห็นเช่นนั้นก็ค่อยๆเดินไปยืนที่ร้านขายเกาลัดที่ใกล้บ้านนั้นที่สุด เอ่ยซื้อสักถุงพอเป็นพิธีก่อนจะมองซ้ายขวาตรวจสอบให้ดี

          ไปแล้ว…

          ร่างเล็กยื่นเงินจ่ายค่าเกาลัดแล้วรับมาหิ้วในมือและเดินไปทางกล่องลังนั้น มืออีกข้างที่ว่างเนื่องจากถังหูลู่โดดลงท้องไปจนสิ้นก็ทำการเลื่อนกล่องจนพบบกับสัญลักษณ์คุ้นตาเหมือนที่แปะภารกิจ โลโก้เฮอร์มีสเอ็กซ์เพรส— ริปลีย์ไม่รอช้าวางเกาลัดลงข้างๆและนั่งย่อลงไปเปิดดูพัสดุเปิดแย้มแสดงถึงการถูกแกะเรียบร้อย . . .

          ??? — เชิญมาตามคำเชิญนี้หรอ? ใครมาเล่นตลกอะไรกัน









แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 6330 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2024-4-17 15:34
โพสต์ 6,330 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 เกียรติยศ +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก หายใจใต้น้ำ  โพสต์ 2024-4-17 15:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
ชุดนักเรียนญี่ปุ่น
สร้อยข้อมือถัก
หมวกปีกกว้าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
รองเท้าส้นสูง
น้ำหอมสตรี
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x5
x1
x1
STR
0+0
INT
0+0
LUK
0+0
POW
0+0
CHA
0+0
VIT
0+0
โพสต์ 2024-4-28 20:37:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
"พ่อรักลูกนะ ขอโทษที่พ่อบอกลูกไม่ได้นะก่อนหน้านี้"


"ไม่เป็นไรเลยครับ พ่อไม่ได้ผิดเลย ฝากลาคุณน้ากับพี่น็อกซ์ด้วยนะครับ"

บนบ่าเขามีกระเป๋าเป้ขนาดค่อนข้างใหญ่ที่รู้ได้เลยว่าเขากำลังจะเดินทางไปที่ไหนสักแห่งอยู่อย่างแน่นอน เมื่อเขาได้กล่าวอำลากับคนสำคัญของเขาเสร็จเขาก็ได้ก้าวออกจากบ้านไปไม่แน่ใจนักว่าอีกนานแค่ไหนที่เขาจะได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้เขาต้องนั่งรถไปเป็นเวลาเกือบวันระหว่างทางนั้นเขาก็มีแวะพักระหว่างทางบ้างเป็นครั้งคราว เขาคงจะคิดถึงที่บ้านของเขาไม่น้อยแต่ยังดีที่เขายังมีเทคโนโลยีที่จะทำให้ติดต่อกับคนที่เขาได้อยู่เสมอ

เวลาสามวันแห่งการเดินทางของเขาในที่สุดรถที่เขานั่งมาก็ได้หยุดลงยังสถานีปลายทางอย่างไซน่าทาว์นศูนย์รวมของอาหารจีนรวมไปถึงการตกแต่งเน้นสีแดงเป็นหลักทั้งยังมีโคมไฟรูปร่างแปลกตาได้ประดับอยู่ทุกที่ผู้คนมากมายได้เดินกันจนแน่นถนนกลิ่นหอมของอาหารจีนได้หอมฟุ้งจนทำให้เขาท้องร้องออกมาเบาๆยิ่งต้องผ่านการเดินทางที่แสนนานแล้วนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกหิวขึ้นไปอีก

'อ่า...หิวจังมีอะไรให้รองท้องก่อนไหมนะ'

สายตาก็สอดส่องเท้าก็ก้าวเดินผ่านไปหนึ่งร้าน สองร้าน สามร้านผ่านไป ที่เขายังไม่หยุดสักร้านนั้นเพราะมันน่ากินไปสะทุกร้านเลยคงใช้เวลาสักพักใหญ่ในการเดินเที่ยวชมให้ทั่วหมู่บ้านแห่งนี้ แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้เดินทางมาเพื่อเที่ยวเล่นสิ่งที่เขาตามหาอยู่นั่นคือแคมป์ปริศนาที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน  แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยามที่จะหามันเบาะแสนั้นมีเพียงชื่อแคมป์และที่อยู่โดยคร่าวเท่านั้น 'ให้โชคชะตานำทาง' สิ่งนี้ยิ่งทำให้เขางงขึ้นไปอีกเพราะเขาก็ไม่ใช่คนที่ดวงดีอะไรขนาดนั้น จะมีเพียงก็แต่หน้าตาที่ดีนี่แหละที่เขาภูมิใจ ขาเรียวค่อยเดินไปสรุปแล้วเขาก็ซื้อเกือบทุกร้านที่เขาสนใจมาอย่างละนิดละหน่อยแต่เขาก็รู้สึกเขาจะได้มากจนแทบกินไม่ไหว

อาหารค่อยๆถูกเอาใส่ปากของเขาไปอย่างเนิบๆ เขาได้เดินจนขาของเขารู้สึกล้าจึงได้ไปนั่งยังม้านั่งใกล้น้ำพุตกแต่งแห่งหนึ่ง เขานั้นชอบมองการเคลื่อนไหวของน้ำพุและชอบที่จะฟังเสียงน้ำที่พุ่งขึ้นและกระทบกับน้ำที่รองรับอยู่ข้างล่าง เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะวางเหล่าของกินที่เต็มไม้เต็มมือของเขาพลันได้มาคนเดินมาใกล้เขา

"โจชัวร์นั้นนายหรอ"


เสียงที่ไม่คุ้นหูนักได้ดังขึ้นก่อนที่เขาจะหันไปหาต้นเสียง ชายผู้หนึ่งที่ดูแล้วอายุไม่ต่างจากเขานักแต่เขากลับรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมากได้ปรากฏต่อหน้าเขา

"ขอโทษนะครับไม่ทรายว่าเราเคยเจอกันมาก่อนไหม"

"น่าน้อยใจนะเนี่ย คีธไง ที่เรียนด้วยกันหน่ะ"

เขาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจและดีใจ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้พบเพื่อนสมัยเรียนทั้งยังเป็นหนึ่งในเพื่อนที่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายจริงใจด้วยเป็นอย่างมากแต่เมื่อเขาอยู่ในวัยทำงานเขาก็ได้ติดต่อกับเพื่อนของเขาน้อยลงเรื่อยๆอย่างน่าใจหายแต่ก็น่าแปลกใจที่เพื่อนของเขานั้นดูแล้วขาจะยังไม่ดีขึ้นนักแต่ดูเหมือนจะมาไกลจากบ้านเกิดด้วยตัวคนเดียว

"ฉันจำได้แล้ว  นายมาที่นี่คนเดียวงั้นหรอหรือว่ามีคนพามาด้วย แล้วลมอะไรพานายมาถึงตรงนี้ได้หละ"

"มาคนเดียวนี่แหละ ถ้าเราบอกว่าลมแห่งโชคชะตาพัดมาหละนายจะเชื่อไหม"

คำพูดที่เขาไม่คาดคิดได้ถูกเอ่ยขึ้นจากเพื่อนเก่าของเขา โชคชะตา ทำมห้เราทั้งคู่ได้มาพบกันอีกครั้งอย่างนั้นหรอแสดงว่าเขาคงจะรู้เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่ยากจะอธิบายก่อนหน้านี้ กระกายได้สว่างขึ้นในดวงตาของโจชัวร์ความหวังนั้นอยู่ใกล้กว่าที่เขาคิดมากนัก พอเขารู้สึกสบายใจก็รู้สึกหิวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

"ทำไมจะไม่เชื่อหละฉันว่านายต้องมาอธิบายกับฉันอีกเยอะเลยนะ แต่มาคนเดียวแบบนี้เดี๋ยวช่วยดูแลแล้วกันนะ"

"ฮ่าๆ รู้หน่าสงสัยค่ำคืนนี้คงจะอีกยาวแน่ๆ กินให้หมดแล้วเดินไปคุยไปไหมหละ"

โจชัวร์รับคำอย่างทันท่วงทีก่อนที่เขาจะเริ่มกินอาหารและขนมที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วยังไม่ลืมแบ่งให้คีธเพื่อนของเขาที่โผล่มาพร้อมกับความลึกลับและกุญแจไขปริศนาในเวลาเดียวกัน

เวลาผ่านไปพักใหญ่เขาได้เริ่มเดินเล่นไปพร้อมกับเพื่อนเก่าที่กลับมาสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว การคุยสัพเพเหระที่มากมายนั้นทำให้เขาเกือบลืมความจริงที่เขาได้สงสัยอยู่และเส้นทางที่เขาถูกพามาได้เปลี่ยวลงเรื่อยๆ เรื่อย... เรื่อย เขาได้เดินเข้ามาภายในป่าที่ดูยิ่งทึบเมื่ออยู่ในเวลากลางคืน ก่อนที่คีธจะได้หยุดลง

"โว้ว...คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าเราจะเดินเข้ามาในป่าขนาดนี้ ห...เห้ยนายจะทำอะไร"

"มันเกะกะหน่ะ"

เขาแทบไม่เชื่อหูของตัวเองหลังจากที่เขาเห็นอีกฝ่ายกำลังถอดกางเกงลงทั้งยังไม่ใช้ไม้ช่วยพยุงขาสถานการณ์ในตอนนี้สำหรับเขานั้นค่อนข้างจะแปลกมาก ผู้ชายสองคนอยู่ในป่าทึบที่ไม่รู้ลึกเท่าไหร่สองต่อสองและมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะถอดกางเกงเขาไม่ใช่คนที่รู้สึกไม่ชอบความสัมพันธ์ความรักของคนเพศเดียวกัน แต่แบบนี้ก็ค่อนข้้างจะรวดเร็วเกินไปอย่างมาก

"...!! เดี๋ยวก่อนๆ เราไม่ได้จะทำเรื่องไม่ดี"




เพื่อนเก่าของเขาได้เอ่ยขึ้นก่อนที่เขาจะได้อธิบายว่าตนเองนั้นเป็นครึ่งคนครึ่งแพะหรืออีกชื่อหนึ่งคือแซเทอร์รวมถึงยังเป็นผู้พิทักษ์ของเขาอีกด้วย เมื่อโจชัวร์ได้ทราบเขาก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะเดินกลับไปที่เดิม

"แล้วฉันก็ต้องนำทางนายไปที่ค่ายด้วยนะ"

คำพูดที่เหมือนประตูสวรรค์ทำให้โจชัวร์แทบจะอยากมุ่งหน้าไปยังจุดหมายให้เร็วที่สุดเนื่องด้วยสายเลือดนักผจญภัยในตัวของเขาที่แทบจะเอ่อล้นออกมาทำให้เขาและคีธได้ออกเดินจากไปยังค่ายอย่างไม่ทุลักทุเลนัก



แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 13457 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-4-28 20:37
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x2
โพสต์ 2024-7-20 18:52:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Alastor เมื่อ 2024-7-20 18:54






ท้องฟ้าสีแดงบรรยากาศไม่น่าร่มรื่น เสียงโทรศัพท์รุ่นเก่าสั่นเป็นระยะ ๆ ดูเหมือนเจ้าของจะปล่อยให้มันสั่นแบบนั้นมาสักพัก 


[สายที่ไม่ได้รับ 99+]

[ ​ 🅵.🅷🅴🅸🅽🅾 ]


ทอดสายตาจ้องมองนามบัตรด้วยรอยยิ้มกว้างน่าขนลุก เป็นนามบัตรค่ายแห่งหนึ่งสถานที่ตั้งอยู่บริเวณลองไอส์แลนด์


‘เจ้าควรจะไปที่นั่น’ เสียงพูดเบาราวกับเสียงกระซิบผ่านมาตามสายลม


อลาสเตอร์นั่งพิงเก้าอี้โยก สะท้อนเงาของตัวเองพลางใช้ความคิดถึงจิตแพทย์ส่วนตัวคนล่าสุดที่เป็นคนยื่นนามบัตรนี้แก่เขา


‘ถ้านายไปที่นี่จะเข้าใจทุกอย่างเอง’ อลาโน่ อารัคนิส กล่าวไว้เช่นนี้ ‘อัล นายไม่ได้ป่วยจิตอย่างที่คิดหรอก’


รอยยิ้มแหลมคมหุบลง เขาไม่รู้เหมือนกันทำไมจิตแพทย์ส่วนตัวถึงพูดแบบนั้น หรือจะหมดหวังในการหาทางรักษาคนอย่างอลาสเตอร์ให้กลับมาเป็นคนปกติ แต่มันก็คงจะยากหน่อย ในเมื่อสภาวะการประเมินเขาอยู่ในระดับก้ำกึ่ง สามและสี่ สัญญาณอันตรายเกือบเข้าขั้นสัญลักษณ์ สีแดง


เอาเข้าจริงมันก็ตลกดีที่ได้เห็นคนที่พยายามรักษาเขาล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า สายตาอันสิ้นหวังดูบันเทิงในมุมมองของเขา 


อลาสเตอร์โยนถุงยาทิ้งลงถังขยะ ไม่ได้ตั้งใจเข้ารับการรักษาตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ ยาประจำก็ทิ้งลงถังขยะทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาลโรคจิตเวช 


อ๋อ…..


อีกคนที่คาดหวังในตัวเขามากคือผู้เป็นพ่อ ยอมทุ่มเงินเพื่อหาจิตแพทย์เก่ง ๆ มาดูแลเป็นที่ปรึกษาของเขา คนแล้วคนเล่าก็ยังเป็นเหมือนเดิม


ปัจจุบันชายหนุ่มพักอาศัยที่เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยเซียน่า ดินแดนคนเถื่อน เป็นเมืองที่ไม่ควรออกไปเดินมืด ๆ คนเดียว ไม่ค่อยปลอดภัย อาชญากรรมเยอะ


.

.

.

.

.


ทุกครั้งที่ไปนครนิวยอร์ก อลาสเตอร์ชอบแวะไปไชน่าทาวน์ 


ส่วนเหตุผลที่เขามาทำธุระอะไรที่นิวยอร์ก ก็ขอเก็บไว้เป็นความลับ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องงานแน่ ๆ เพราะเขาล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำงานมาตั้งนานแล้ว คนว่างงาน เกาะสมบัติพ่อกินไปวัน ๆ ถึงเขาจะไม่ได้ทำงานสักคน ครอบครัวก็เหลือกินเหลือใช้


สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คราวนี้อลาสเตอร์คงไม่กลับนิวออร์ลีนส์ไปสักพัก แต่จะเปลี่ยนเป้าหมายเดินทางไปยังลองไอส์แลนด์แทน


เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันค่ายฮาล์ฟบลัด เป็นสถานที่แบบไหน ?









แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 17386 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2024-7-20 18:52
โพสต์ 17,386 ไบต์และได้รับ +3 EXP +6 เกียรติยศ +4 ความกล้า จาก รองเท้าเซฟตี้  โพสต์ 2024-7-20 18:52
โพสต์ 17,386 ไบต์และได้รับ +4 เกียรติยศ จาก ต่างหูเงิน  โพสต์ 2024-7-20 18:52
โพสต์ 17,386 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมบุรุษ  โพสต์ 2024-7-20 18:52
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ความอดกลั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
โรคสมาธิสั้น
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
โพสต์ 2025-2-19 11:32:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Cooper เมื่อ 2025-2-19 15:35

Activity Form

17/02/25 8.10 น. - 9.45 น.


บทที่ 41 


เช้านี้อากาศโปร่ง ลมเย็นพัดมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ท้องฟ้าไร้เมฆบดบัง เป็นวันที่เหมาะแก่การออกไปเดินเล่น หลังจากเมื่อวานที่เขาไปดูบอร์ดหินและบังเอิญโดนมันโกง(?) อย่างไร้เยื่อใย คูเปอร์ก็ตัดสินใจแล้วว่า "เขายังไม่อยากไปทำภารกิจ" และจากความรู้สึกของเขาตอนนี้ "ไม่น่าจะใช่เร็ว ๆ นี้ด้วย" ดังนั้น วันนี้เขาตัดสินใจจะออกมาเดินเล่นนอกค่าย ให้ไกลขึ้นจากเมื่อวาน และปล่อยใจให้สบาย...  


...ซึ่งไกลในที่นี้หมายถึง นิวยอร์ก  


(เอาจริง ๆ จากลองไอส์แลนด์มานิวยอร์กก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้นหรอกนะ)


การเดินทางในวันนี้ยังคงใช้บริการเจ้าเก่าเจ้าเดิม "แท็กซี่สามพี่น้องเทา" ถึงแม้เขาจะเคยบอกตัวเองหลายครั้งว่า "จะไม่ขึ้นอีกแล้ว" แต่สุดท้ายก็ต้องเรียกใช้อยู่ดี และพูดตามตรง... บางครั้งเขาก็แอบ ติดใจความเร็วของพวกนางนิด ๆ  


"นายมั่นใจนะว่าต้องการไปไชน่าทาวน์?" พี่สาวคนโตถาม ขณะที่ตาซ้ายของเธอลอยอยู่ที่คอนโซลหน้ารถ  


"แน่นอน" คูเปอร์ตอบเรียบ ๆ  


"โอเค งั้นจับให้แน่นล่ะ"  


และก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว รถแท็กซี่ก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรุนแรงราวกับติดเครื่องเจ็ต ขับฝ่าเส้นทางที่ไม่มีใครมองเห็นและตัดผ่านการจราจรที่ปกติควรจะติดขัดของนิวยอร์กด้วยความเร็วระดับที่สามารถทำให้มนุษย์ธรรมดาหัวใจวายตายได้ โชคดีที่เขานั่งรถพวกนางมาหลายรอบแล้ว... เลยเริ่มชิน  


ไชน่าทาวน์, นิวยอร์ก


เมื่อเท้าของคูเปอร์แตะพื้น เขาก็ต้องใช้เวลาตั้งหลักสักพักเพื่อให้ร่างกายกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ  


"ให้ตายสิ... ต่อให้นั่งจนชินก็เถอะ มันก็ยัง—"  


รถแท็กซี่สามพี่น้องเทาหายไปแล้ว ก่อนที่เขาจะได้บ่นอะไรต่อ  


"...เร็วเกินไปไหม?"


เขาถอนหายใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองรอบ ๆ  


ไชน่าทาวน์เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้คนเดินขวักไขว่ตามท้องถนน ร้านค้าริมทางตั้งเรียงราย กลิ่นอาหารจีนหอมกรุ่นลอยมาเตะจมูกกลิ่นหมั่นโถว ก๋วยเตี๋ยวเป็ดปักกิ่ง และติ่มซำลอยมาตามลม คูเปอร์พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ภารกิจคราวที่แล้วเขาก็มานิวยอร์กก็จริง แต่ก็มาแบบเช้าเย็นกลับ เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการต่อสู้จนแทบไม่มีโอกาสได้เที่ยว ตอนแรกก็นึกว่าจะได้เดินชิล ๆ หลังจบภารกิจ...  


เขานึกย้อนถึงเหตุการณ์ตอนช่วยเทพีฮีบี้ เมื่อลงจากภารกิจเสร็จ พวกเขาก็เหนื่อยล้าจนแทบขยับร่างกายไม่ไหว ความตั้งใจจะเดินเที่ยวก็ถูกล้มเลิกไปโดยปริยาย แต่วันนี้... ไม่มีภารกิจ ไม่มีหมอกประหลาด ไม่มีภาพหลอนจากความทรงจำ มีแค่ตัวเขาเอง กับบรรยากาศในเมืองที่ยังคึกคักเสมอ  



คูเปอร์เริ่มก้าวเดินไปเรื่อย ๆ ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยของไชน่าทาวน์ พยายามซึมซับบรรยากาศให้ได้มากที่สุด เขาหยุดดูขนมเปี๊ยะหน้าตาน่ากินจากร้านข้างทาง มองพ่อค้ากำลังโชว์ฝีมือดึงเส้นบะหมี่สด ๆ และเผลอฟังการต่อราคาของลูกค้ากับแม่ค้าไปด้วย บางครั้งเขาก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มกับบทสนทนาแปลก ๆ อย่างชายชราที่กำลังต่อรองราคาปลาแห้งอย่างเอาเป็นเอาตาย หรือเด็กน้อยที่พยายามจะคว้าขนมจากร้านโดยที่แม่ของเธอไม่ทันสังเกต  


เสียงตะโกนเรียกลูกค้าของพ่อค้าแม่ค้า ผสมกับเสียงพูดคุยภาษาจีนที่เขาพอฟังออกนิดหน่อย ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในอีกโลกหนึ่ง กลิ่นธูปจากศาลเจ้าเล็ก ๆ ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นอาหารนานาชนิดที่ชวนให้รู้สึกหิวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว  


เขาเดินผ่านซุ้มขายเครื่องรางจีน สายตากวาดมองยันต์โชคลาภสีแดง โคมไฟกระดาษ และรูปปั้นกวนอูที่ตั้งเรียงรายอยู่บนชั้น มีร้านหนึ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาเป็นพิเศษ เพราะเจ้าของร้านกำลังนั่งแกะสลักจี้หยกด้วยมืออย่างประณีต คูเปอร์มองดูอย่างสนใจ ก่อนจะหันไปเห็นแผ่นป้ายไม้ที่เขียนไว้ว่า "เครื่องรางแท้จากเส้าหลิน" 


"นายสนใจอะไรเป็นพิเศษไหม?" เสียงแม่ค้าสูงวัยดังขึ้น  


"แค่ดูเฉย ๆ ครับ" คูเปอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มมารยาท  


แม่ค้าหัวเราะ "เครื่องรางพวกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย ว่ากันว่าบางชิ้นเคยผ่านการครอบครองของผู้วิเศษมาแล้ว"  


"เหรอครับ?" เขาพยักหน้าเล็กน้อย แม้จะรู้ว่า 90% ของของพวกนี้อาจจะเป็นแค่เรื่องเล่าทางการตลาด แต่ 10% ที่เหลือ...ก็อาจจะจริงก็ได้  


เมื่อเดินออกจากร้านเครื่องราง คูเปอร์ก็อดไม่ได้ที่จะหยุดมองรถเข็นขายเกาลัดย่างที่ตั้งอยู่ริมถนน คนขายกำลังใช้ที่เขี่ยเหล็กพลิกเกาลัดไปมาเหนือเตาถ่าน กลิ่นหอมหวานลอยมาแตะจมูกจนทำให้เขาตัดสินใจควักเงินซื้อหนึ่งถุง  


"ขอบคุณครับ" เขาพยักหน้ารับถุงกระดาษสีน้ำตาลมา ก่อนจะหยิบเกาลัดร้อน ๆ ขึ้นมาเป่าแล้วกัดเข้าไป รสชาติหอมมัน อุ่นมือดีด้วย  


เขาเดินกินเกาลัดพลางสำรวจตรอกเล็กตรอกน้อยไปเรื่อย ๆ ผ่านร้านขายชาสมุนไพรที่มีกล่องชาเรียงรายเป็นสิบ ๆ แบบ ผ่านโรงน้ำชาเก่าแก่ที่มีเสียงเครื่องดนตรีจีนดังลอดออกมา และผ่านซอยแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยผนังอิฐสีแดงและโปสเตอร์ภาษาจีนเก่า ๆ  


บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา คูเปอร์อดคิดไม่ได้ว่า เฮอร์มีสคงจะชอบที่นี่ เพราะมันเต็มไปด้วยข้าวของแปลก ๆ และการต่อรองราคาที่ดุเดือด  


ในขณะที่เขากำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ดวงตาก็เหลือบไปเห็นป้ายร้านบะหมี่ที่เขียนว่า "บะหมี่เป็ดสูตรต้นตำรับ"


"...จริงหรอ"  


คูเปอร์หยุดยืนมองร้านนั้นอยู่นานพอสมควร ระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าจะเดินเข้าไปดีไหม เพราะหลังจากเดินเที่ยวมาสักพัก ท้องก็เริ่มร้องประท้วงขึ้นมาเบา ๆ  


แต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวเข้าไปในร้าน เสียงดัง "แกร๊ก!" ก็ดังขึ้นจากตรอกด้านข้าง  


เขาชะงัก หันไปมองต้นเสียง มันเป็นตรอกเล็ก ๆ ที่เงียบสงัด ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน  


แล้วนั่นเองที่สายตาของเขาสะดุดเข้ากับบางสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ข้าง ๆ รถที่จอดอยู่  


มันมีลักษณะคล้ายเครื่องจักร... แต่ก็คล้ายวัว...  


ร่างขนาดมหึมาทำจากโลหะทองสัมฤทธิ์ มีเขาสีเงินแวววาว ดวงตาเป็นประกายทับทิมที่ส่องแสงแปลกประหลาด และมันกำลังแฝงตัวอยู่ข้าง ๆ รถที่จอดเรียงรายอยู่ ราวกับต้องการพรางตัวให้ดูกลมกลืน  


"วัวโคลคีส..."


"ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?"


คูเปอร์ขยับตัวอย่างระมัดระวัง เขากวาดตามองรอบ ๆ ไม่มีคนอยู่แถวนี้ ไม่มีแม้แต่กล้องวงจรปิด สถานที่กว้างพอที่จะต่อสู้ได้...  


(และรวมถึงหนีด้วย ถ้าจำเป็น)


แต่ไม่มีเวลาให้คิดมากไปกว่านี้ เพราะทันทีที่เขาหยิบหอกออกมา—  


แกร๊ก!


วัวโคลคีสขยับตัว หันมาประจันหน้ากับเขา ดวงตาทับทิมเรืองแสงขึ้น ก่อนที่เสียงคำรามโลหะจะดังขึ้น  


เปลวไฟสีส้มแดงพวยพุ่งออกมาจากปากของมัน!


"โอ้ ไม่นะ!"  


คูเปอร์กระโจนหลบอย่างฉับไว เปลวไฟพุ่งผ่านเฉียดไปเผาผนังด้านหลังเป็นสีดำ  


"แย่ล่ะสิ..."


เขาไม่มีพลังต้านไฟ และวัวตัวนี้ก็เป็นโลหะทั้งตัว เล่นแรงไม่ได้เพราะอาจทำให้ไฟลุกลาม หรือทำให้วัวคลั่งจนสร้างความเสียหายไปทั่ว  


ต้องใช้สมองมากกว่ากำลัง


เขากลั้นหายใจ ก่อนจะพุ่งไปด้านข้าง หลอกล่อให้วัวพ่นไฟใส่ที่ผิดจุด แล้วอาศัยจังหวะที่มันหยุดเพื่อชาร์จพลังโจมตี แทงเข้าไปที่รอยต่อขาขวาหน้า


เสียงโลหะบดกระทบกันดังสนั่น วัวโคลคีสกระตุกก่อนที่พลังงานของมันจะดับลงในที่สุด  


คูเปอร์ยืนนิ่ง หอบหายใจเบา ๆ  


"นี่ฉันแค่มาเดินเล่นนะ..."



หลังจากนั้นไม่นาน ร่างของวัวโคลคีสก็เริ่มสั่นสะท้านก่อนที่โลหะทองสัมฤทธิ์จะค่อย ๆ แตกร้าว เสียงก้องต่ำดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะสลายกลายเป็นฝุ่นสีทอง ลอยฟุ้งขึ้นกลางอากาศแล้วจางหายไป หลงเหลือไว้เพียงสินสงครามที่ตกอยู่เบื้องหน้า


คูเปอร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก ขยับไหล่เพื่อคลายความตึงเครียด ก่อนจะก้มลงสำรวจสิ่งที่ตกอยู่ มันเป็นเศษโลหะขนาดไม่ใหญ่นัก แต่เมื่อเขาลองเอื้อมมือไปแตะ ก็ต้องรีบดึงกลับแทบไม่ทัน


“โอ้โห ร้อนเป็นบ้า…”


แม้ว่าเปลวไฟของวัวโคลคีสจะดับไปแล้ว แต่ความร้อนจากร่างกายของมันยังคงหลงเหลืออยู่ โลหะชิ้นนั้นร้อนจนแทบจับไม่ได้ และดูไม่มีทีท่าว่าจะเย็นลงในเร็ว ๆ นี้

คูเปอร์ยืนมองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ


“ก็ได้… งั้นก็ปล่อยมันไว้ที่นี่ละกัน”


เขาหันหลังเดินออกไปโดยหวังว่า ใครบางคน ที่มีภูมิคุ้มกันไฟ หรืออย่างน้อยก็มือหนาพอจะหยิบมันขึ้นมาได้ จะผ่านมาเจอและเก็บมันไปใช้ประโยชน์ต่อเอง


"...โอเค ได้เวลากลับไปเดินเที่ยวต่อซะที"  


หลังจากเจอวัวพ่นไฟมาแบบไม่ทันตั้งตัว คูเปอร์ก็รู้สึกว่าเขาสมควรได้กินอาหารดี ๆ สักมื้อ  


เขาเดินกลับออกไปจากตรอกแคบ ๆ ทันทีที่พ้นจากเงาตึก เสียงจอแจและบรรยากาศคึกคักของไชน่าทาวน์ก็ต้อนรับเขากลับมาอีกครั้ง ราวกับเมื่อครู่ไม่มีการต่อสู้อะไรเกิดขึ้น  


คราวนี้เขาตั้งใจเดินหาของกินอย่างจริงจัง กลิ่นหอมของอาหารลอยมาจากทุกทิศทาง ไม่ว่าจะเป็นซาลาเปานึ่งร้อน ๆ หมูแดงย่างเกลือในตู้กระจก หรือหม้อไฟที่กำลังเดือดปุด ๆ อยู่ในร้านเล็ก ๆ ข้างทาง  


สุดท้าย คูเปอร์ก็หยุดที่ร้านบะหมี่เป็ดที่เขาเล็งไว้ก่อนหน้านี้ เข้าไปนั่งในร้านเล็ก ๆ ที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย พอได้กลิ่นน้ำซุปร้อน ๆ และเสียงเส้นบะหมี่ถูกลวกในน้ำเดือด เขาก็รู้สึกว่าตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกที่นี่  


เมื่อชามบะหมี่เป็ดถูกวางลงตรงหน้า คูเปอร์ก็ไม่รอช้า เขาใช้ตะเกียบคีบเส้นขึ้นมา พลางเป่าให้คลายร้อนก่อนจะลองซดน้ำซุป  


"โอ้โห…" เขาพึมพำกับตัวเอง น้ำซุปเข้มข้นกลมกล่อม ส่วนเป็ดก็หนังกรอบเนื้อนุ่มพอดี ฟังดูอาจจะเป็นแค่มื้ออาหารธรรมดา ๆ แต่สำหรับคนที่เพิ่งผ่านการต่อสู้มาเมื่อกี้ นี่มันเหมือนของขวัญจากโอลิมปัส  


เขากินบะหมี่ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่เร่งรีบ ปล่อยให้ตัวเองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หลังจากจัดการกับชามบะหมี่เสร็จ เขาก็สั่งน้ำเก๊กฮวยเย็น ๆ มาดื่มอีกแก้ว รสหวานอ่อน ๆ กับความเย็นจากน้ำแข็งช่วยให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นทันตา  


หลังจากอิ่มท้องแล้ว คูเปอร์ก็กลับไปเดินเล่นในตลาดต่อ คราวนี้เขาตั้งใจมองหาร้านของที่ระลึก เพราะคิดว่าน่าจะซื้ออะไรติดมือกลับไปเป็นที่ระลึก  


เขาเดินผ่านร้านขายพัดกระดาษที่มีลวดลายวาดด้วยมือ หยุดดูพ่อค้ากำลังสาธิตการพับกระดาษเป็นรูปสัตว์ ก่อนจะสะดุดเข้ากับร้านขายถ้วยชาที่เรียงรายเป็นชั้น ๆ มีลวดลายสีฟ้าขาวคลาสสิก บางใบก็เป็นลายมังกร บางใบเป็นดอกเหมย  


"สนใจชุดชารึเปล่า?" แม่ค้าถามพร้อมรอยยิ้ม  


คูเปอร์มองถ้วยชาก่อนจะยิ้มมารยาทอีกครั้ง "ขอบคุณครับ แค่ดูเฉย ๆ"  


เขาเดินต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย ผ่านซอยที่มีร้านขายโมจิญี่ปุ่น ร้านขายผลไม้สดที่มีทุเรียนและลิ้นจี่วางเรียงกันอยู่ และสุดท้ายก็ไปหยุดที่ร้านหนังสือมือสอง  


ร้านหนังสือเล็ก ๆ แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในซอยแคบ ๆ ภายในเต็มไปด้วยชั้นไม้สูงที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือ คูเปอร์เดินเข้าไปอย่างสนใจ กวาดตามองสันหนังสือที่มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน บางเล่มเก่าจนกระดาษเริ่มเปลี่ยนสี แต่ก็ดูมีเสน่ห์ในแบบของมัน  


ระหว่างที่เดินสำรวจ เขาหยุดที่ชั้นหนังสือด้านหลังสุด นิ้วไล้ไปตามสันหนังสือเล่มหนึ่งที่ดูเก่ากว่าปกติ และเมื่อเขาหยิบออกมาดู...  


ตำราวิชาอาคมแห่งเอเชียตะวันออก”  


คูเปอร์เลิกคิ้ว เขาพลิกดูเนื้อหาในเล่ม พบว่ามีการพูดถึงยันต์จีน การใช้สมุนไพร และเรื่องเล่าของภูตผีในวัฒนธรรมเอเชีย อ่านผ่าน ๆ แล้วก็ไม่ได้ดูเหมือนเป็นหนังสือเวทมนตร์จริง ๆ แต่มันก็น่าสนใจดี  


หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนั้นติดมือกลับไปด้วย เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นของที่ระลึกจากวันนี้  



เมื่อออกจากร้านหนังสือ คูเปอร์ก็กวาดตามองรอบ ๆ ฟ้าในตอนนี้ยังคงเป็นสีฟ้าสดใส แสงแดดยังคงแรงกำลังดี ทอดเงาเป็นเส้นยาวบนพื้นถนน แม้ว่าเขาจะเดินสำรวจไชน่าทาวน์มาพักใหญ่ แต่พอมองนาฬิกาก็พบว่า


"เอาจริงดิ ยังไม่ถึงเที่ยงเลยเหรอ?"


เขาอุตส่าห์คิดว่าเดินมาได้นานพอสมควรแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังเหลือเวลาอีกมาก ก่อนที่เขาจะต้องกลับค่าย  


"งั้นไปที่อื่นต่อดีกว่า"


หลังจากคิดได้ดังนั้น คูเปอร์ก็ตัดสินใจออกจากย่านไชน่าทาวน์ ขึ้นรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุด และปล่อยให้ตัวเองไปตามเส้นทางของความคิดที่ยังไม่ได้กำหนดจุดหมายปลายทางที่แน่นอน  


...บางที นิวยอร์กยังมีอะไรให้เขาสำรวจอีกเยอะก็ได้


+ 2 ตื่นรู้ จากการพิชิตวัววัวโคลคีส ครั้งแรก


ไม่ได้เก็บสินสงครามเนื่องจากไม่มีพลังทนทานไฟ และขวดน้ำสำหรับใช้ราด รวมถึงพลังควบคุมน้ำ


หลักฐานการพิชิต


https://percyjackson.mooorp.com/dzs_npccomrade-fight?aid=652


แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 81583 ไบต์และได้รับ 64 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-19 11:32
โพสต์ 81,583 ไบต์และได้รับ +20 EXP +55 ความกล้า +55 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-2-19 11:32
โพสต์ 81,583 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-19 11:32
โพสต์ 81,583 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก ยาดม  โพสต์ 2025-2-19 11:32
โพสต์ 81,583 ไบต์และได้รับ +12 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก สายตาแห่งนกฮูก  โพสต์ 2025-2-19 11:32

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
กลยุทธ์การรบ
ยาดม
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x3
x1
x1
x4
x5
x1
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้