[ย่านมิดทาวน์] Midnight Volumn Club

[คัดลอกลิงก์]

หากท่านเป็นกึ่งเทพผู้หลงทาง สามารถสมัครสมาชิกเข้าร่วมกับเราได้ที่นี่ https://t.me/+etLqVX17bGg5ZjBl

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×














Midnight Volumn Club

มิดไนท์อลุมน์ ลับ


เวลาเปิดให้บริการ

อาทิตย์ - พฤหัส : 6:30PM. - 2:00AM.

เสาร์ - อาทิตย์ : 6:00PM. - 3:00AM.


คลับและบาร์ระดับกลางในเมืองนิวยอร์ค

จัดแบ่งโซนเป็นสัดส่วนให้บริการ

มีทั้งเคาท์เตอร์บาร์ โต๊ะนั่งส่วนตัว รวมถึงส่วนฟลอร์เต้น

หากชอบบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวไม่มีเสียงดังอึกทึกก็มีห้อง VIP รองรับอยู่ชั้นบน

(ต้องสมัครสมาชิกก่อนจึงจะสามารถใช้โซน VIP ได้)

ขึ้นชื่อเรื่องการบริการ เครื่องดื่มรสชาติดี และดนตรีที่ถูกใจลูกค้าผู้มาใช้บริการ








แสดงความคิดเห็น

God
โพสต์ 11589 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2024-3-17 21:50
โพสต์ 2024-3-25 19:02:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
01. Follow Me



…เขารู้สึกเหมือนโดนใครสะกดรอยตามมาได้วันสองวันแล้ว…


วันเสาร์  02:45AM.

“วันนี้ขอบใจมาก กลับดี ๆ ล่ะแมคเคนซี”
เสียงตะโกนจากในร้านดังไล่มาเมื่อเขาออกจากประตูหลังคลับมิดไนท์โวลุ่ม

“ครับ แล้วพบกันพรุ่งนี้ครับ”
แมคเคนซีตอบรับเจ้าของร้านเพียงแค่สั้น ๆ แล้วเดินไปหา ‘แมคกี้’ รถมอเตอร์ไซต์แบบสปอร์ตทัวริ่งไบต์สีน้ำเงินจนเกือบดำที่จอดอยู่ตรงโซนที่จอดรถพนักงานซึ่งตอนนี้เหลือรถอยู่เพียงไม่กี่คันเท่านั้นเนื่องด้วยพนักงานกลับกันไปเกือบหมดแล้ว ส่วนเขาที่เป็นบาร์เทนเดอร์ก็ต้องคอยเก็บกวาดและเช็คสต๊อกพวกเครื่องดื่มและส่วนผสมที่เหลืออยู่ จึงทำให้กลับช้ากว่าใคร ๆ

ขณะกำลังจะหยิบหมวกกันน็อคมาสวม แมคเคนซีก็รู้สึกได้ถึงสายตาใครสักคนที่มองมาทางเขา ชายหนุ่มหันขวับไปยังมุมหนึ่งของตึก แต่ก็พบเพียงแค่ความมืดและความว่างเปล่าเท่านั้น เมื่อ 2 วันก่อนเขาก็รู้สึกแบบนี้ แต่ก็เป็นแบบเดียวกันนั่นคือเขามองไม่เห็นหรือไม่พบใครเลย เรียวคิ้วมุ่นลงด้วยความไม่สบอารมณ์ หากว่าเป็นลูกค้าที่คอยตามตื๊อเพื่อจะขอช่องทางติดต่อให้ได้ ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะดุให้รู้สำนึกเสียบ้าง แต่เมื่อไม่เจอใครเช่นนี้แล้ว เขาอาจจะรู้สึกไปเองล่ะมั้ง แมคเคนซีจึงสวมหมวกกันน็อคอีกครั้ง ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์แล้วสตาร์ทรถ ตอนนี้เขาเริ่มง่วงแล้ว อยากรีบกลับห้องไปนอนพักเสียที

กึก !
“เฮ้ย ! อ้าว…นึกว่าใคร คุณนี่เอง”
แมคเคนซีร้องเสียงหลง แต่พอเห็นว่าเป็นใครที่ขวางรถอยู่จากแสงไฟหน้ามอเตอร์ไซต์ เขาก็จำได้ทันที คนคนนี้คือลูกค้าที่มานั่งดื่มที่ร้านเมื่อวันสองวันก่อน เขาสั่งบรั่นดีไม่กี่แก้วแล้วนั่งดื่มเงียบ ๆ อยู่ตรงเก้าอี้สตูลตัวมุมในสุดของเคาท์เตอร์บาร์ ท่าทางของเขาดูเหมือนพนักงานบริษัทที่เลิกงานมาเหนื่อย ๆ แล้วอยากพักผ่อนจากงาน เมื่อดื่มเสร็จก็วางค่าเครื่องดื่มไว้แล้วออกจากร้านไป ว่าแต่วันนี้ทำไมเขาถึงโผล่มาเอาเสียดึกดื่นกันนะ

“ขอโทษนะครับ คลับปิดแล้ว รบกวนคุณมาใหม่พรุ่งนี้……”

“น่าอร่อย……”

“ฮะ…?”
แมคเคนซีทำหน้างงภายใต้หมวกกันน็อค น่าอร่อย…หมายถึงอะไร แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ ชายคนนั้นก็พุ่งตัวมาหาเขาแล้ว แต่ด้วยสัญชาติญาณที่มี แมคเคนซีรีบโดดลงมาจากมอเตอร์ไซต์ เขามองชายคนนั้นอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าขณะนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา คนคนนี้คงไม่ใช่พวกโรคจิตชอบทำอนาจารคนอื่นในที่สาธารณะใช่ไหม

“กลิ่นแกมันจาง…แต่ก็หอม……พวกลูกเทพ….ตายซะ !”
ชายคนนั้นพึมพำไม่เป็นภาษา มีแต่อะไรที่เขาไม่เข้าใจ แต่คำพูดพวกนี้เหมือนเขาจะเคยได้ยินมาก่อนครั้งนึง ซึ่งนานมากแล้ว ก่อนที่เขาจะย้ายมาเรียนต่อที่นิวยอร์ก ยังไม่ทันได้นึกอะไรต่อ ชายคนนั้นก็พุ่งมาทางเขาอีก แต่คราวนี้แมคเคนซีไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกกระทำฝ่ายเดียวแน่ เขาถอดหมวกกันน็อคฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นเต็มแรงจนหน้าหัน แต่ชายคนนั้นกลับแค่เซเล็กน้อยราวกับแค่โดนหมัดรุ่น ๆ ไปเท่านั้น แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น……

อยู่ ๆ ร่างของชายคนนั้นก็กลับกลายเป็นตัวประหลาดที่มีรูปร่างหน้าตาน่าสะพรึงกลัวที่สุดตั้งแต่ที่แมคเคนซีเคยเห็นมา ถ้าจะให้บรรยายรูปร่างลักษณะ เขาเองก็บอกไม่ถูก รู้แค่ว่ามันมีหัวเหมือนคน แขนขายาว มีกรงเล็บที่ใหญ่ ดวงตาของมันมองมายังแมคเคนซีอย่างกระหายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วชายหนุ่มก็เพิ่งเข้าใจตอนนี้เองว่าที่เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้บอกว่า “น่าอร่อย” หมายความว่าอะไร แต่ใครจะโง่ยอมอยู่เป็นอาหารให้ตัวประหลาดกันเล่า !? แมคเคนซีรีบวิ่งไปยังมอเตอร์ไซต์ที่จอดค้างเอาไว้ สวมหมวกกันน็อคแล้วขับออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

“แมคเคนซี ! ทางนี้พี่ชาย !”
เสียงคุ้นหูดังฝ่าเสียงเครื่องยนต์ที่แมคเคนซีเร่งความเร็วขับหนีเจ้าสัตว์ประหลาดออกมา ใครอีกล่ะทีนี้ ถ้าเป็นพวกเดียวกันกับเจ้าตัวเมื่อกี้พ่อจะชนให้ร่วงเลยคอยดู

เอี๊ยดดด !!
เสียงเบรคดังลั่นถนนที่เงียบสงัด เงาที่ปรากฏตัวขึ้นในความมืดก็คือ…

“แดนนี่ ? นายมาทำอะไรที่นี่”
แมคเคนซีถามอย่างสงสัย แดนนี่เป็นเด็กที่เช่าห้องอยู่ข้างห้องเขาตั้งแต่ที่ย้ายมาเรียนนิวยอร์กจนกระทั่งตอนนี้

“ไม่มีเวลาคุยแล้วครับ เจ้าอัลกูลตัวนั้นกำลังตามพี่มา ผมจะพาพี่ไปในที่ที่ปลอดภัย”
แดนนี่บอกด้วยความเร่งรีบและร้อนรน ยังไม่ทันถามอะไรให้ได้ความ เด็กหนุ่มก็โดดขึ้นมานั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซต์เขาซะอย่างนั้น

“เดี๋ยว อัลกูลอะไร…อย่าบอกนะว่า นายเห็นตัวประหลาดนั่นด้วย”

“เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังครับ แต่ตอนนี้ถ้าพี่ยังไม่อยากกลายเป็นอาหารมัน พี่ต้องไปที่นั่น เดี๋ยวนี้”

“แล้วที่นั่นที่ว่ามันที่ไหนเล่า”

“ลองไอแลนด์ครับ ไปเร็วครับพี่ ผมได้ยินเสียงมันกำลังวิ่งมาทางนี้แล้ว”

ลองไอแลนด์…ที่นี่อีกแล้ว มันมีอะไรกันนะ แมคแคนซีขมวดคิ้ว แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาให้คิดมากแล้ว หากที่แดนนี่พูดเมื่อครู่เป็นความจริง ก็เท่ากับว่าเจ้าตัวประหลาดนั่นวิ่งเร็วใช่ย่อย แมคเคนซีหยิบหมวกกันน็อคอีกใบตรงช่องตาข่ายเก็บของด้านหน้าโยนให้แดนนี่

“ใส่ไว้แล้วเกาะแน่น ๆ บอกทางไปลองไอแลนด์ให้ฉันด้วย”
ไม่รอให้คนซ้อนท้ายสวมหมวกกันน็อคเสร็จ แมคเคนซีบิดคันเร่งมอเตอร์ไซต์ออกตัววิ่งไปในทันที




แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
ยศชาวค่ายขนาดนี้ น่าจะขึ้นเรืองแสงสัญลักษณ์แม่ตั้งแต่เข้าประตูค่ายเลย 555+  โพสต์ 2024-3-25 19:27
โพสต์ 14342 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-3-25 19:02
โพสต์ 14,342 ไบต์และได้รับ +2 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2024-3-25 19:02
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เขตแดนเฮคาที
มาลาแห่งอัสสัมชัญ
Hydro X
เวทมนต์ [II]
คบเพลิงเวท
ต่างหูเงิน
หมวกแก๊ป
แจ็คเก็ต YANKEES
แว่นกันแดด
รองเท้าเซฟตี้
น้ำหอม Unisex
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
สร้อยข้อมือถัก
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x1
x1
x3
x6
x3
x3
x3
x2
x3
x1
x1
x5
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x1
x3
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x15
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x1
x1
x1
x1
x1
x3
x2
x2
โพสต์ 2024-4-17 18:50:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด




White Swan in The Ocean

          ‘หากอยากได้เคสแอร์พอร์ดโปรมูลค่าหลายดอลลาร์ที่อยู่ในพัสดุนี้ก็มาเอาเองที่ Midnight Volumn Club’ —

         เพราะข้อความเชิญชวนในกล่องพัสดุที่หาเจอนี้เองทำให้ริปลีย์ปวดหัวจนอยากจะบ้า อายุก็ใช่ว่าจะถึงคงต้องพึ่งการเมคโอเวอร์ตัวเองซะแล้ว ธิดาแห่งโพไซดอนเลยต้องจ่ายเงินไปหลายดอลลาร์เพื่อซื้อชุดที่ดูจะเข้ากับสถานที่มาสวมหน่อย จะให้ใส่เสื้อค่ายเข้าคลับก็คงจะโดนจับโยนออกจากคลับก่อนได้เข้า

          บัดนี้ร่างเล็กที่เคยสวมชุดปอนปอนกลายร่างเป็นหญิงสาวในเดรสสั้นลายกุหลาบชมพูเข้าคู่กับรองเท้าส้นสูงบาดใจชนิดทำบัลเลต์สาวกรีดร้องจะเอาพอยต์ชูแทน ก่อนจะเข้าไปทำภารกิจก็ฉีดน้ำหอมเสียนิด สางผมยาวถึงเอวบางเสียหน่อยให้ดูเป็นคนมาเที่ยวเล่นมากขึ้นแล้วค่อยก้าวเดินเข้าไปในคลับ แสงสีวิบวับบาดตา เสียงบีทแน่นบาดหู กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เริ่มอบอวลตั้งต่หัวค่ำทำให้รู้สึกได้เลยว่าโลกของผู้ใหญ่มันทั้งน่าตื่นตาและน่าหวั่นเกรงในเวลาเดียวกัน ดวงตาสีอัลมอนต์สอดส่ายไปทั่วพยายามที่จะนึกว่า ‘พัสดุ’ มันจะต้องอยู่ตรงไหน

         มันก็คงไม่พ้นพวกที่ลับตาไม่ห้องน้ำก็ห้องเก็บของ คำถามคือ เข้าไปยังไง?— แค่คิดริปลีย์ก็ปวดหัวจี๊ดจนอยากจะหาอะไรเข้าปากสักหน่อยก่อนทำงาน ถ้าไม่ติดว่าอายุไม่ถึงร่วมกับไม่อยากจะเมาในเวลาทำภารกิจเธอคงจบที่นั่งบาร์สั่งแอลกอฮอล์สักแก้วไปแล้ว ร่างเล็กเดินไปสั่งน้ำเปล่าสักแก้วอ้างว่าอยากจิบอะไรรองท้องก่อนจะมานั่งสังเกตการณ์ในจุดที่ดูจะลับตาคนหน่อยและสามารถมองเห​็นที่ทางได้ง่าย ทันใดนั้นเองดูเหมือนจะได้ยินเสียงเบา ๆ แว่วเข้ามาเกี่ยวกับมีใครที่เอาหุ่นสัตว์ประหลาดไปไว้หลังร้านของพนักงานเสิร์ฟ

          หลังร้านนี่เอง

          อาศัยช่วงเวลาที่คนเริ่มทยอยเข้ามา พนักงานเริ่มทำงานอย่างเต็มที่ แอบย่องไปหลังร้านเพื่อไปพิสูจน์ว่า ‘หุ่นสัตว์ประหลาด’ ที่ว่านี้คืออะไรกันแน่ ใช้เวลาไม่นานริปลีย์ก็มาถึงประตูหลังร้าน มือเล็ก ๆ ค่อย ๆ บิดลูกบิดประตูออกเบา ๆ เงียบ ๆ พร้อมกับมองไปรอบ ๆ จนปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ราว ๆ สองเมตร ดูจากท่าทางน่าจะเป็นไซคลอปทารกขนาดเลยไม่ได้ต่างจากมนุษย์เท่าไหร่นัก มันมองกล่องในมือด้วยความสนเท่ห์จนเธอรู้สึกเอ็นดู

         แต่ว่าภารกิจของเธอคือการเอาไอกล่องนั่นนะ

         ริปลีย์มองหาอะไรที่พอจะโยนแล้วมีเสียงดัง ๆ ได้บ้างก็พบกับกระป๋องเบียร์เปล่า ๆ ดูจะส่งเสียงออกมากังงวาลตามที่ตั้งใจ คนตัวเล็กไม่รอช้าคว้ากระป๋องเบียร์เปล่าโยนไปอีกทางให้เบบี้ไซคลอปได้ยินเสียงแล้วตามไปตรงนั้น ส่วนตัวเธอก็รีบจ้ำไปหยิบ ‘กล่องพัสดุจริง ๆ ’ ออกมาจากตรงนั้นเพื่อเตรียมเอาพัสดุไปคืนเฮอร์มีส

          “จะไปไหน?”

          เสียงทุ้มไม่คุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับหมอกที่ปกคลุมจนบดบังสายตาไปหมด ทันใดนั้นเองก็มีแรงปะทะเข้าที่ท้องเล็กจนตัวปลิวลงไปกองกับพื้นก็รับทราบได้ว่าชาวค่ายมือใหม่อย่างเธอต้องเอาตัวรอดให้ได้ โชคดีที่ธิดาแห่งโพไซดอนนั้นถึกเกินใครทำให้ร่างบางที่หมั่นออกกำลังเพื่อแสดงบัลเลต์มาตลอดพอจะใช้ทั้งพละกำลังและความยืดหยุ่นในการเอาตัวรอดได้บ้างแม้จะได้รอยช้ำตามแขนขาเพิ่มก็ตาม

         เมื่อหญิงสาวในชุดไม่กระฉับกระเฉงนักเอาแต่ป้องกันตนเอง ชายหนุ่มที่คอยจดจ้องภาพของเธอโดยมายาเล่นงานก็อดหัวเราะด้วยความสมเพชไม่ได้

          “ธิดาแห่งโพไซดอน มีฝีมือแค่นี้งั้นหรอ ? ” เขาเอ่ยก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ร่างบอบช้ำของริปลีย์ “จงจดจำเอาไว้ว่าคนที่ทำร้ายเธอในวันนี้ ชื่อ ลุค คาสเทลแลน”

         ราวกับละเล่นจนพอใจเรียบร้อยแล้วก็หายไปเสมือนทุกอย่างเป็นเพียงภาพมายา แต่ความเจ็บปวดที่ฝากไว้บนร่างนี้สิคือหลักฐานของเรื่องทั้งหมด ริปลีย์สำรวจร่างกาตนเองพร้อมกับปัดฝุ่นดินที่ติดตามเสื้อผ้าและผิวหนังก่อนจะไปหยิบพัสดุเพื่อตรงไปส่งของคืน

          “ถ้าได้เอาส้นเข็มปักหัวสักดอกคงจะฝันดี”









แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11553 ไบต์และได้รับ 6 EXP!  โพสต์ 2024-4-17 18:50
โพสต์ 11,553 ไบต์และได้รับ +3 ความกล้า +3 ความศรัทธา จาก ชุดเดรสลายดอกไม้  โพสต์ 2024-4-17 18:50
โพสต์ 11,553 ไบต์และได้รับ +2 EXP +6 เกียรติยศ จาก รองเท้าส้นสูง  โพสต์ 2024-4-17 18:50
โพสต์ 11,553 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมสตรี  โพสต์ 2024-4-17 18:50
โพสต์ 11,553 ไบต์และได้รับ +5 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความกล้า +4 ความศรัทธา จาก หายใจใต้น้ำ  โพสต์ 2024-4-17 18:50
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ผลิตภัณฑ์กันแดด
มีดสั้นสัมฤทธิ์
ชุดนักเรียนญี่ปุ่น
สร้อยข้อมือถัก
หมวกปีกกว้าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
ต่างหูเงิน
รองเท้าส้นสูง
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x5
x10
x10
x1
x1
x5
x1
x1
โพสต์ 2024-4-17 20:45:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dean เมื่อ 2024-4-17 20:59

083
หยุดนะเจ้าหัวขโมย คืนยานมิลาโน่มาเดี๋ยวนี้!

             สวัสดีมิดไนท์โวลุ่มคลับ..

             ดูเหมือนว่าดีนจะไม่ได้มาสถานที่อโคจรแห่งนี้นานตั้งแต่ปาร์ตี้วันเกิดปีที่ยี่สิบสามของตัวเอง คิดคราว ๆ คงผ่านมาแล้วราว ๆ สองเดือนเห็นจะได้ ทุกทีจะมาแค่ตอนกลางคืนแต่วันนี้เขามาตอนกลางวันออกจะแปลกตาไปเสียหน่อย สถานที่อโคจรที่คราคร่ำไปด้วยนักเที่ยวกลางคืนบัดนี้จึงค่อนข้างจะเงียบสงบ มีแค่รปภ.ร่างใหญ่เฝ้าอยู่เพียงแค่คนเดียว

             คิดแล้วก็น่าใจหาย.. ดีนเป็นห่วงสถานประกอบการณ์ที่เสียบาร์เทนเดอร์งานดีไปคนนึงให้กับค่ายฮาล์ฟบลัด งานดีที่ว่าไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาราวกับงานปูนปั้นเทพเจ้าที่คอยเรียกแขก แต่หมายถึงฝีไม้ลายมือมือการชงเครื่องดื่มที่สามารถมัดใจลูกค้าหลาย ๆ คนรวมถึงเขาในการมาเยือนเพียงครั้งแรก

             ‘โอลด์แฟชั่นท์ หวาน ๆ ไม่เข้ม’

             จำได้ว่าเขาสั่งแบบนี้ไปจนบาร์เทนเดอร์รูปหล่อทำหน้าฉงน แหงมล่ะ หวาน ๆ กับเหล้าหมายถึงเมาสุด ๆ แต่เขาดันบอกว่าไม่อยากได้เมา ๆ กลายเป็นคิดต้นสูตรใหม่กันอยู่นานกว่าจะได้สูตรลับฉบับเฉพาะตัว

             “พี่ดีนมัวแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรเหรอคะ?” เสียงใส ๆ ของรีชาดึงเรียกสติ

             บ้าจริง ไม่รู้เลยนะว่าเมื่อกี้เขากำลังยิ้มอยู่ หน้าตาคงดูโง่มากในสายตาคนอื่นสินะ ดีนกระแอมเบา ๆ จากนั้นก็ปรับสีหน้ากลับมาเคร่งขรึมจริงจังเพราะหลังจากนี้จะเป็นงานบู๊

             “เปล่า ไม่มีอะไรหรอกอย่าไปใส่ใจเลย”

             ว่าแต่ใครกันนะที่เป็นคนขโมยโมเดลยานมิลาโน่ไป แล้วสิ่งนั้นมันสำคัญอะไรถึงขนาดที่ใส่พิกัดเอาไว้ในกล่อง งานนี้ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ จากที่เทพเฮอร์มีสคาดการณ์อาจเป็น ‘เทพสารชั่ว’ สักองค์เป็นต้นเหตุ แต่ว่าเทพเจ้านี่ว่างกันจังเลยเนอะมาขโมยพัสดุเนี่ย หวังว่านี่จะไม่ใช่แค่เกมที่เทพเจ้าแกล้งกันไปมาแล้วเขาก็เป็นตัวหมากที่ใช้แล้วถูกเขี่ยทิ้งไป ไม่แน่ใจเลยว่าการเผชิญหน้ากับผู้ที่สามารถเจรจาได้อย่างเช่นเทพเจ้ากับต่อสู้กับอสุรกายที่ป่าเถื่อนอย่างไหนจะแย่กว่ากัน

             ดีนและรีชาเดินเข้าไปในบริเวณด้านหน้าสถานเริงรมย์ รู้สึกว่ารปภ.คนนั้นจะมีอาการแปลก ๆ แฮะ ร่างใหญ่หอบหายใจฮืดฮาดชอบกลราวกับกระทิงดุหรือไม่ก็คนเมายา ดีนบังรีชาให้อยู่ด้านหลังเมื่อสังเกตเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าท่าทางไม่ค่อยจะดี

             “ที่นี่จ้างใครมาเป็นรปภ.กลางวันเนี่ย น่ากลัวเป็นบ้า”

             และดูเหมือนว่ารปภ.คนนั้นจะน่ากลัวยิ่งขึ้นเมื่อมีเขากระทิงงอกออกมา.. เดี๋ยวนะ ไม่ใช่แล้ว นี่มันมิโนทอร์!!!

             แม้แต่ดีนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านอสุรกายกรีกยังรู้ได้ว่าสัตว์ร้ายชนิดนี้คือตัวอะไรจากเกมออนไลน์ที่เคยเล่น ในมือของมิโนทอร์ในชุดการ์ดตัวใหญ่ยักษ์สูงกว่าสี่ฟุตข้างหนึ่งถือค้อนปอนด์ขนาดมหึมาที่ถ้าโดนฟาดเข้าไปล่ะก็กระดูกคงได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ ส่วนมืออีกข้างของมันถือโมเดลยานมิลาโน่ลำเล็กจิ๋ว

             “เฮ้ย! เป็นแกเองเหรอ!?” ดีนร้องเสียงหลง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่ขโมยยานโมเดลไปจะเป็นอสูรวัวหน้าตาขึงขังแบบนี้ไปได้ นึกว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่พูดจากันเข้าใจเสียอีก

             “โฮกกกก!!” ดูเหมือนว่ามิโนทอร์จะอยากเจรจากับเขา.. ใช่ก็แย่แล้ว มันก็แค่คำรามใส่ตามฉบับอสุรกายคลั่ง

             “รีช!! วิ่งไปหลบที่กำแพงตรงนู้น!!”

             “ค่ะ!”

             เด็กหญิงตัวน้อยได้สัญญาณเธอก็วิ่งไปหลบหลังกำแพงปูนอย่างที่พี่ชายสั่ง เหมือนสัตว์ร้ายจะเห็นอะไรเล็ก ๆ วิ่งนำสายตามันจึงวิ่งตามรีชาไป เห็นแบบนั้นดีนก็รีบวิ่งเข้าไปขวางตั้งหอกเตรียมประจัญบานกับพี่วัวตัวใหญ่

             “หยุดอยู่ตรงนั้นเลย คู่มือของแกคือฉัน”

             คำพูดฟังดูเท่มากแต่ไฉนเลยหนุ่มสายเลือดโพไซดอนถึงขาสั่นพั่บ ๆ ในใจใคร่ครวญถามไครอน ‘คุณไครอนค้าบ ผมเลเวลพอจะวัดกับมันแล้วจริงดิ..’

             “โฮกกกก!!”

             มิโนทอร์โยนโมเดลในมือทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อใย ยานอวกาศที่ทำขึ้นจากพลาสติกกระทบลงพื้นปีกหักกร๊อบในนาทีเดียวกับที่ดีนร้อง “อ๊าาาา” มันกระชับค้อนศึกในมืออย่างมั่นคงจากนั้นก็ไล่หวดไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกะกะขวางทางอยู่ตรงหน้ามัน ดีนไม่เสี่ยงที่จะรับแรงปะทะตรง ๆ เจ้านี่ดูแรงเยอะกว่าอัลกูลตัวใหญ่ที่เขาเคยสู้รบด้วยเสียอีก เขาใช้วิชาการหลบหลีกว่องไวที่ฝึกมาด้วยตัวเองนานแรมปีจากการหนีตายสัตว์ประหลาดเพียงลำพังประกอบกับฟุตเวิร์คที่เล่าเรียนมาจากยัยโซเฟียใจยักษ์ที่เขาไม่ได้เจอหน้ามาร่วมเดือน จากทักษะการต่อสู้ที่บ่มเพาะมาจากตอนไปเฮติ เขารู้สึกว่าเจ้านี่มันแสนเชื่องช้าจริง ๆ เมื่อเทียบกันกับกระสุนปืน

             “แทบจะหาวแล้วเนี่ย”

             ดีนสไลด์ตัวอ้อมไปด้านหลังแล้วแทงหอกไปยังต้นขาของมิโนทอร์ มันกรีดร้องเสียงดังเหมือนวัวถูกเชือด ค่อนข้างจะทรมาณใจคนรักสัตว์แน่นอนว่ารวมถึงชายหนุ่มเองด้วย เขาคิดว่ารีบกำจัดมันให้พ้นทุกข์ไปน่าจะดีกว่า เขาดึงหอกออกมาผงธุลีนับไม่ถ้วนก็ปลิวฟุ้งออกมาแทนที่จะเป็นโลหิตสาดกระเซ็น เขาตั้งท่าจะแทงหอกอีกครั้งแต่ค้อนศึกลอยมาด้านข้างจึงจำเป็นต้องยกโล่มากันไว้ แรงทุบหลายร้อยปอนด์ทำเอาดีนกระเด็นไปหลายหลาราวกับถูกรถยนต์ชนกระเด็นก็ไม่ปาน

             “อุก!”

             ดีนพยายามยันตัวขึ้นจากความจุกหากไม่สวมชุดเกราะสัมฤทธิ์เอาไว้ก็มีกระดูกหักกันบ้าง เมื่อหยัดกายขึ้นมาได้เขาเห็นว่าโมเดลยานมิลาโน่ที่แตกหักบู้บี้อยู่ตรงหน้าเขานี่เองชายหนุ่มรีบเอามันเข้ามาเก็บซ่อนไว้ใต้เกราะ อย่างน้อยมันคงไม่พังเละไปมากกว่านี้

             มิโนทอร์วิ่งเข้ามาหาไม่รอให้ดีนได้พักหายใจเขาต้องหลบแต่ไม่รู้จะทันหรือเปล่า

             “นี่แหน่ะ!!”

             ก้อนหินเล็ก ๆ ถูกขว้างมาจากจุดที่รีชาซ่อนตัว มันกระเด็นไปโดนมิโนทอร์ก็จริงแต่แรงอันน้อยนิดไม่อาจทำให้สัตว์ยักษ์กระเทือนทว่ามันเปลี่ยนเป้าหมาย สองเท้ากีบวัวหยุดชะงัก มันเปลี่ยนเป้าไปพุ่งชนไปทางกำแพงแทน

             ได้จังหวะ ดีนค้ำหอกขึ้นมากระโดดให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้พุ่งแทงหลังคอของมิโนทอร์จากทางด้านหลัง จากนั้นมันก็สลายไปกลายเป็นเศษฝุ่นสีดำ ๆ เหมือนถูกธานอสดีดนิ้ว ส่วนเขาก็ลงจอดในท่าซูเปอร์ฮีโร่แลนดิ้ง

             “แฮ่ก.. แฮ่ก.. จบลงแล้วสินะ”

             ดีนยันหอกเอาไว้กับพื้น ควบคุมแข้งขาที่สั่นให้กลับมาเป็นปกติ การกำราบมิโนทอร์ก็ถือว่าไม่ได้เกินมือเท่าไรทำให้หนุ่มใจป๊อดใจชื้นขึ้นมาได้อีกนิด แต่นั่นเพราะมีรีชาเป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่คอยช่วยเหลือ พอเห็นว่าสถานการณ์น่าจะกลับเป็นปกติแล้วน้องสาวก็วิ่งมาหาถามไถ่อาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง

             “พี่ดีนเจ็บตรงไหนไหมคะ?”

             “เยอะเลย ตรงนี้ก็ถลอกด้วย” ชายหนุ่มเบ้หน้ากับรอยถลอกที่ฝ่ามือเล็กเสียยิ่งกว่าแมวข่วน แต่เจ็บก็คือเจ็บแหล่ะ เขาเอาเศษยานโมเดลออกมาจากเสื้อเกราะ ปีกยานหักไปข้างหนึ่ง สีถลอก แถมท้ายยานก็บู้บี้ “แย่จัง พัสดุมีสภาพแบบนี้ไปซะแล้ว แบบนี้ถือว่าเราทำภารกิจผ่านหรือเปล่าเนี่ย”

             “ไม่รู้เหมือนกัน แต่เทพเฮอร์มีสน่าจะไม่ว่าอะไรนะคะถ้าเราเอาไปส่ง” น้องสาวยังคงมองโลกในแง่ดีได้เสมอ เธอรับโมเดลพัง ๆ มาเก็บใส่กล่องพัสดุเอาไว้

             “หวังว่าจะเป็นงั้น” ดีนไหวไหล่ “ถ้างั้นก็ไปส่งงานกันเถอะ”

             ดีนและรีชาจูงมือกันเดินออกมาจากพื้นที่การต่อสู้ แต่ภาพนั้นอยู่ในสายตาของใครบางคน ไม่ใช่หนึ่งแต่เป็นสอง


             วูบบบบ


             เงาลางของชายหนุ่มผมดำนนัยน์ตาสีเทาอ่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างผิดธรรมชาติทำเอาทั้งสองชะงักฝีเท่า

             “คิดว่าการต่อสู้จะจบแล้วจริงเหรอ?” ผู้มาใหม่เปิดบทสนทนา จากนั้นเงาร่างนั้นก็แยกตัวออกจากกันราวกับภาพมายา จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่ จากสี่เป็นแปด ยืนล้อมรอบพวกเขาไว้

             “นายเป็นใคร?” ดีนถามเสียงเครียด

             เขารู้สึกว่าทั้งหมดตั้งแต่ต้นเป็นผลงานของชายคนนี้ แน่นอนล่ะว่ามิโนทอร์จะมีปัญญาเขียนจดหมายน้อยทิ้งไว้ได้อย่างไร สายตาอันหวาดระแวงมองไปรอบ ๆ พร้อมกับป้องกันน้องสาวตัวน้อย เขาเคยสัมผัสการต่อสู้รูปแบบนี้มาก่อนจากแม่มดดำที่เฮติ แสดงว่าชายตรงหน้าคงใช้เวทเข้าเล่นงานไม่ต่างกัน หนึ่งในเงาทั้งสิบอาจมีตัวจริงเพียงหนึ่งหรือไม่ก็อาจจะไม่มีเลยก็ได้ หมอนี่เป็นใคร บุตรแห่งเฮคาทีอีกคนงั้นเหรอ?

             “คำถามดี แต่ชนะให้ได้ก่อนแล้วค่อยบอกแล้วกันนะ” ชายผมดำท่าทางยียวนใช่เล่น ราวกับว่าการเล่นกับจิตใจของผู้คนคืองานอดิเรก เพียงเขาดีดนิ้วเงาทั้งสิบก็ชักกริชสั้นเข้ามาจู่โจมจากรอบทิศทาง

             “ปัดโธ่ว้อย ฉันไม่เล่นนะ!”

             ดีนกวาดหอกเป็นวงกว้าง เขาถูกฝึกมาเพื่อเอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาดไม่ใช่กับเดมิก็อดด้วยกัน มันทำใจลำบากที่จะต้องทำร้ายมนุษย์ แต่คราวนี้คงไม่มีทางเลือก เงาหนึ่งพุ่งเข้ามาจะทำร้ายรีชา ดีนจึงพุ่งหอกสวนแทงกลางอกชายคนนั้นไปโดยอัตโนมัติ

             “เฮือก!”

             “ใจอ่อนจัง ไม่อยากฆ่าคนงั้นเหรอ?” ร่างที่ถูกแทงยิ้มให้ก่อนจะสลายกลายเป็นหมอกควัน ยังดีที่ภาพนั้นไม่มีเลือดเลยไม่สยองขวัญเท่าไร แต่มันก็ทำให้จิตใจของเขาหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มได้เช่นกัน “แต่ถ้าไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่านะ”

             เงาที่สองปรากฏตัวขึ้นด้านหลังใช้กริชอันคมกริบปาดเข้าที่แขนของดีนจนเลือดออกซิบ การต่อสู้นี้อีกฝ่ายไม่กะให้ถึงตาย เพียงแค่หยอกเย้าเท่านั้น

             “โอ๊ยยย!!”

             “พี่ดีน!!”

             “สู้ตายให้ผมเห็นหน่อยสิ จะได้สนุกกันหน่อย แบบนี้มันออกจะน่าเบื่อไปหน่อยนะ บุตรและธิดาแห่งโพไซดอนมีดีแค่นี้เองเหรอ? ไม่สิ แค่นี้เรียกว่ามีดียังไม่ได้เลย”

             เปรี้ยง!!

             เงาที่พูดพล่ามระเบิดออกจากระเบิดน้ำแรงดันสูง ไม่เพียงแค่หนึ่งเงาแต่เป็นแทบทุกเงาที่อยู่ในย่านนี้เลยก็ว่าได้

             “บุตรแห่งโพไซดอนมีดีไหมเดี๋ยวก็รู้”

             เสียงปริศนาดังขึ้นมาจากยอดตึกข้างเคียงที่สูงสี่ชั้น เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปดูดีนเห็นผู้มาเยือนคนที่สี่คือชายหนุ่มคนหนึ่งอายุรุ่นราวยี่สิบปลาย ๆ สวมชุดหนังและกางเกงยีนส์สีซีด ในมือของเขามีคันธนูสัมฤทธ์ที่ใช้ตรีศูลน้ำแทนลูกศรที่ไม่มีวันหมด

             “โอ้ มีคนที่สมน้ำสมเนื้อมาให้สู้ด้วยแล้วสินะ”

             เงาของชายผมดำที่เหลืออยู่งอกร่างขึ้นมาเพิ่ม เขาเปลี่ยนเป้าหมายจากดีนและรีชาไปยังคนบนยอดตึก ร่างเงาลอยหวือขึ้นไปราวกับมีเวทมนตร์จากนั้นการปะทะกันอย่างดุเดือดบนดาดฟ้าก็เกิดขึ้น ดีนไม่เห็นอะไรนอกจากกระสุนน้ำที่ยิงใส่อย่างต่อเนื่องบางส่วนโปรยปรายลงมาเป็นสายฝน ซึ่งหยาดน้ำนั้นเมื่อโปรยปรายลงมามันทำให้บาดแผลของดีนหายสนิท

             “จำชื่อผมไว้ ผม ลุค คาสเทลแลน ผู้กลับมาจากความตายและล้างแค้น”
            
             “เช่นนั้นก็จงจำชื่อข้าไว้ ▓▓▓ ผู้กลับมาจาก▓▓▓และ▓▓▓ตัวจริง”

             น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมชวนหน้าขนลุกดังออกจากปากของบุคคลผู้มาใหม่ ดีนได้ยินถ้อยความไม่ชัดแต่ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะจบลงไปแล้ว ขั้นบันใดจากสายน้ำถูกเสกสรรกลางอากาศจากนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็กระโดดลงมายืนทีละขั้นอย่างสง่างาม มือแกร่งยกขึ้นเสยผมที่เปียกชื้นแต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีทุกอย่างก็แห้งสนิท

             “เปียกมะล่อกมะแล่กเชียว เป็นอะไรไหมน้องชาย?” เมื่อเข้ามาใกล้ถึงได้เห็นชัด ๆ ว่าบุคคลตรงหน้าเป็นหนุ่มผิวแทนแบบชาวเมดิเตอเรเนียนผู้มีรอยกระอยู่บนผิวหน้า เขาส่งรอยยิ้มคมคายมาให้ดีนและน้อยสาวตัวเล็กที่เกาะขาพี่ชายไม่ปล่อย ท่าทางเห็นว่าคู่สนทนายังคงระแวดระวังเขาจึงชิงแนะนำตัว ไรอัน ฮันส์แมน บุตรแห่งโพไซดอน เช่นเดียวกันกับพวกเธอทั้งคู่”

             “บุตรแห่งโพไซดอน.. โอ้ ใช่ เมื่อกี้ผมเห็นคุณใช้ธนูน้ำ” ดีนรีบตั้งสติ และเห็นว่าไรอันเก่งกาจและเป็นมิตรเขาจึงวางใจ “ผม ดีน นีล คุณเป็นพี่ชายสินะครับ?”

             ดีนยื่นมือไปจับอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ซึ่งไรอันก็รับน้ำใจนั้นไว้ด้วยการเช็คแฮนด์ตอบ

             “หนู รีชค่ะ รีชา แคมพ์เบลล์”

             “ไงรีชา” มือแกร่งยื่นไปลูบผมสาวน้อยอย่างเอ็นดูก่อนที่เขาจะหันกลับมาสนทนากับดีนต่อ “ถ้าว่ากันตามสายเลือดล่ะก็ใช่ นายดูตกใจน่าดู เป็นอะไรหรือเปล่า? นี่ภารกิจแรกที่ได้รับเหรอ?”

             “เอ่อ.. ก็ไม่ใช่หรอกครับ ผมเคยผ่านมาก่อน แต่ไม่เคยเจอกับอะไรแบบนี้.. หมอนั่นใคร?” ดีนถาม

             “ลุค คาสเทลแลน” ไรอันไหวไหล่ “หมอนั่นบอกไว้แบบนี้ แต่ว่านายเชื่อหรือเปล่าล่ะ?”

             “ไม่รู้สิ ผมไม่รู้จักคนชื่อลุคอะไรนั่นด้วย” คำพูดของไรอันทำให้ดีนขบคิด คนที่ชื่อลุคคนนั้นท่าทีแปลกประหลาด เขามาเพื่ออะไร ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันนะ.. ดีนเงยขึ้นสบตากับพี่ชายร่วมสายเลือดฝั่งบิดา “ยังไงก็ต้องขอบคุณมากครับที่ช่วยผมเอาไว้ ว่าแต่พี่ไรอันผ่านมาแถวนี้พอดีเหรอ?”

             “ใช่ผ่านมา...” รอยยิ้มบนมุมปากของไรอันกระตุกขึ้นมานิด ๆ “ว่าแต่ภารกิจจบแล้วใช่ไหม ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปส่ง”

             “ครับ แต่ว่าผมคงต้องไปที่ศูนย์ยูพีเอสก่อน ต้องไปส่งพัสดุ” ดีนเสตามองไปยังกล่องพัสดุที่รีชาอุ้มเอาไว้ ซึ่งไรอันก็มองตาม

             “เข้าใจแล้ว หนึ่งในภารกิจ.. นั่งรถไปคงจะสะดวกกว่า พวกนายตามมาสิ”

             ไรอันเดินนำทั้งสองไปที่รถกระบะสี่ประตูคันหนึ่งสภาพคล้ายกับรถที่ใช้งานภายในบ้านไร่ มีคนพาไปส่งแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ประหยัดค่าซับเวย์ไปได้ตั้งเยอะ…


ตื่นรู้ +2 จากการพิชิต มิโนทอร์ ครั้งแรก


แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +15 เกียรติยศ +20 ความกล้า +5 ความศรัทธา โพสต์ 2024-4-17 20:54
โพสต์ 41513 ไบต์และได้รับ 24 EXP!  โพสต์ 2024-4-17 20:45

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
หมวกคอรินเธียน
เข็มทิศมหาสมุทร
สื่อสารใต้น้ำ
เซ็นเชอร์น้ำ
เข็มกลัดโพไซดอน
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
กุหลาบสีน้ำเงินทอง
Hydro X
โล่แห่งเกียรติยศ
หนังสือรับรองไครอน
สร้อยข้อมืออัจฉริยะ
แจ๊กเก็ตยีนส์
แว่นตา
ตรีศูลน้อย
นาฬิกาสปอร์ต
ควบคุมน้ำ
ภูมิคุ้มกันพิษ
ภูมิคุ้มกันเปียก
ทักษะหอก
สายน้ำเยียวยา
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
น้ำหอม Unisex
รองเท้าเซฟตี้
หายใจใต้น้ำ
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x50
x1
x1
x1
x4
x1
x1
x1
x3
x1
x1
x1
x1
x2
x2
x1
x1
x1
x5
x4
โพสต์ 2025-2-20 09:57:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด

Activity Form

17/02/25 20.40 น. -  21.00 น.


บทที่ 45


เสียงเบสหนักๆ กระหึ่มก้องไปทั่วคลับตั้งแต่ก้าวแรกที่คูเปอร์เหยียบเข้ามา บรรยากาศอบอวลไปด้วยแสงไฟสีสันจัดจ้านที่กระพริบเป็นจังหวะ เสียงพูดคุยหัวเราะดังแข่งกับเสียงดนตรี ควันจางๆ จากเครื่องทำหมอกลอยอยู่เหนือฟลอร์เต้นรำที่เต็มไปด้วยผู้คนกำลังขยับตัวไปตามจังหวะดนตรี บรรยากาศแบบนี้แหละที่เขาต้องการ  


"โอเค นายมาที่นี่บ่อยเหรอ?" คูเปอร์ต้องตะโกนถาม เพราะเสียงในคลับดังเกินกว่าจะพูดคุยตามปกติ  


"แหงสิ! ที่นี่เป็นหนึ่งในที่ที่ดีที่สุดสำหรับผ่อนคลายหลังจากทำงานหนัก!" เลวีนหันมายิ้มให้ "นายจะชอบมันแน่"  


คูเปอร์พยักหน้ารับ ขณะเดินตามเลวีนเข้าไปลึกขึ้นผ่านกลุ่มคนที่กำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน ผับนี้ค่อนข้างเป็นระเบียบ มีพื้นที่ให้เลือกนั่งเป็นสัดส่วน จะชิลๆ ที่บาร์ จะเต้นบนฟลอร์ หรือจะนั่งคุยในมุมเงียบๆ ก็ทำได้หมด  


แน่นอนว่าคูเปอร์เองก็ไม่ได้มาที่นี่ตัวเปล่า หลังใช้ความพยามอยู่นานเขาก็หาวิธีพกหอกของเขาที่ดูเหมือนท่อแป๊บโลหะธรรมดาๆ ในสายตาคนทั่วไปเข้าได้  มันซ่อนอยู่ในเสื้อแจ็กเก็ตของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องใช้มันในสถานที่แบบนี้ แต่เพื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ ไม่ควรเกิดขึ้น ก็ตาม การพกอาวุธติดตัวมาด้วยยังคงเป็นสิ่งที่เขายึดถือเสมอ  


พวกเขาเดินเข้าไปยังโซนบาร์ เลวีนยกมือทักทายบาร์เทนเดอร์ก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมา "เอ้า คูเปอร์ นายจะเอาอะไร?"  


คูเปอร์มองเมนูครู่หนึ่งก่อนจะตอบ "โค้ก"  


เลวีนเลิกคิ้ว "โค้ก? โอ้โห นายมาอยู่ในผับแล้วสั่งโค้ก"  


"ก็ใช่" คูเปอร์ตอบหน้าตาย "ฉันไม่อยากให้คืนนี้กลายเป็นเช้าวันพรุ่งนี้ที่ฉันต้องมานั่งคิดว่า 'ทำอะไรลงไปวะ'"  


"เออ ก็เข้าใจได้" เลวีนหัวเราะ "งั้นเอาโค้กให้เขาหนึ่ง แล้วของฉันเหมือนเดิมนะ"  


ไม่นานนัก คูเปอร์ก็สังเกตว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขา เขาขยับตัวเล็กน้อยพลางกระซิบถามเลวีน "พวกเขาสนใจอะไรฉันเหรอ?"  


"ก็นายหน้าใหม่ไง" เลวีนไหวไหล่ "ที่นี่พวกเขาสนิทกันหมด ใครที่เพิ่งมาครั้งแรกก็จะเป็นที่จับตามองหน่อย ไม่ต้องคิดมากหรอก"  


แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ เสียงหวานๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นใกล้  


"คูเปอร์ใช่ไหม?"  


เขาหันไปมอง ก่อนจะพบกับหญิงสาวที่เขาไม่รู้จักมาก่อน  


เธอเป็นผู้หญิงผมสีน้ำตาลเข้มยาวเป็นลอน ผิวขาวเนียน ตาสีเขียวมรกต และรอยยิ้มที่มีเสน่ห์  


"ฉันชื่ออิซาเบล" เธอแนะนำตัวพร้อมยื่นมือมาให้จับ "ยินดีที่ได้รู้จัก"  


คูเปอร์จับมือเธอ พลางรู้สึกถึงความเย็นจากปลายนิ้วของเธอแวบหนึ่ง  


"ยินดีที่ได้รู้จัก"  


เลวีนมองพวกเขาสลับกันก่อนที่อิซาเบลจะหันมายิ้มให้เขา  


"ฉันจะดูแลเพื่อนของนายเองนะ เลวีน"  


เลวีนเลิกคิ้ว "โอเค? งั้นก็ฝากด้วยแล้วกัน ฉันจะไปคุยกับคนอื่นสักหน่อย"  


พูดจบเขาก็เดินแยกไป ปล่อยให้คูเปอร์อยู่กับอิซาเบลตามลำพัง  


เสียงดนตรีในคลับยังคงดังกระหึ่ม คูเปอร์ปล่อยตัวเองให้ไหลไปกับบรรยากาศ ขณะที่นั่งเอนหลังกับเก้าอี้บาร์ จิบโค้กของตัวเองพลางมองไปรอบ ๆ ผู้คนในผับต่างใช้เวลาสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ เสียงหัวเราะ เสียงแก้วกระทบกัน และกลิ่นเครื่องดื่มผสมกับน้ำหอมต่างๆ อบอวลอยู่ในอากาศ  


อิซาเบลเอนตัวเข้ามาใกล้เล็กน้อย "เป็นไงบ้าง นายชอบที่นี่ไหม?"  


คูเปอร์ยักไหล่ "ก็โอเคนะ บรรยากาศใช้ได้"  


"ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น" เธอยิ้มหวาน "ปกตินายไม่ค่อยเที่ยวกลางคืนเหรอ?"  


"ก็ไม่เชิง" คูเปอร์ตอบ "เคยเที่ยวอยู่หรอก แต่ช่วงหลัง ๆ มานี่ก็...ไม่ได้ออกมาสนุกแบบนี้นานแล้ว"  


"งั้นวันนี้ก็นับว่าเป็นโอกาสดีสินะ" เธอหัวเราะเบา ๆ "นายทำงานอะไรอยู่เหรอ?"  


คูเปอร์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบ "ฉันเคยเป็นนักแสดง... กำลังพยายามจะเป็นน่ะ"  


"จริงเหรอ?" อิซาเบลเบิกตากว้างอย่างสนใจ "แล้วทำไมถึงเลิกไปล่ะ"  


"ยังไม่ได้เลิกหรอก แค่... หยุดพักชั่วคราว" คูเปอร์ยิ้มจาง "ถ้าทุกอย่างเข้าที่เมื่อไหร่ ฉันตั้งใจว่าจะกลับไปที่แอลเออีกครั้ง"  


"ฟังดูมีความมุ่งมั่นดีนะ" เธอจ้องเขาด้วยแววตาที่เหมือนจะอ่านเขาออก "ฉันว่า... นายต้องเป็นนักแสดงที่มีเสน่ห์มากแน่ๆ"  


"ก็... ขอบคุณล่ะมั้ง?" คูเปอร์หัวเราะแห้งๆ  


"นายยังไม่ได้แสดงอะไรให้ฉันดูเลย" เธอเท้าคางมองเขา "ลองแสดงอะไรให้ดูหน่อยสิ"  


"แสดงอะไร?"  


"อะไรก็ได้ บทพูดฉากหนึ่งจากหนังที่นายชอบ หรือจะเป็นแอ็กติ้งอะไรก็ได้ที่นายถนัด"  


"ที่นี่เลยเหรอ?" คูเปอร์หัวเราะ "ไม่เอาน่า มันแปลกๆ นะ"  


"ไม่มีใครสนใจหรอก" อิซาเบลยิ้ม "น่า ฉันอยากเห็น"  


คูเปอร์ถอนหายใจ ก่อนจะกระแอมเล็กน้อย เขานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าท่าทางเป็นจริงจังขึ้นทันที เสียงของเขาต่ำลง น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น  


"ฉันไม่สนหรอกว่าแกเป็นใคร... แต่ถ้าแกทำให้เพื่อนฉันเป็นอันตรายล่ะก็ ฉันจะเป็นคนสุดท้ายที่แกจะอยากเจอ"


อิซาเบลเลิกคิ้ว แววตาเป็นประกาย "โอ้โห... น่าประทับใจแฮะ"  


"พอใจหรือยัง?" คูเปอร์ยิ้มมุมปาก  


"มาก" เธอยิ้มกว้างขึ้น "ฉันคิดว่านายต้องกลับไปแอลเอแน่ๆ"  


"ก็หวังว่าแบบนั้น"  


"แต่ตอนนี้อยู่ที่นี่ก่อน" อิซาเบลเอนตัวเข้ามาใกล้อีก "เพราะคืนนี้ยังอีกยาวไกล"  


คูเปอร์กำลังจะตอบอะไรบางอย่าง แต่รู้สึกได้ว่ากระเพาะปัสสาวะของเขาเริ่มประท้วงขึ้นมา  


"ขอโทษนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน"  


"อืม ได้สิ" อิซาเบลยิ้ม "ฉันจะรอนะ"  


เขาลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ ขณะที่ไม่รู้เลยว่า... มีใครบางคนแอบตามเขามาด้วย




เสียงหยดน้ำจากก๊อกเก่าดังเป็นจังหวะ ขณะที่คูเปอร์ล้างมือในอ่างหินอ่อน เขาเงยหน้ามองกระจก สบตากับตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะหันไปหยิบกระดาษเช็ดมือ  


...แล้วก็ชะงัก  


เงาที่สะท้อนในกระจก


มัน ไม่ใช่เขาคนเดียวอีกต่อไป


"อ้อ มาที่นี่เพราะแค่อยากเข้าห้องน้ำจริงๆ สินะ?"  


เสียงของอิซาเบลดังขึ้นจากด้านหลัง แต่มันไม่ใช่เสียงหวานๆ เหมือนเมื่อครู่ มันต่ำลง แหบขึ้น และเย็นยะเยือกกว่าเดิม  


คูเปอร์หันขวับกลับไป ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นร่างจริงของเธอ  


เอ็มพูซา  


เส้นผมของเธอเปล่งประกายเหมือนเปลวไฟ แววตากลายเป็นสีแดงฉาน ขาเรียวข้างหนึ่งที่เคยดูสมบูรณ์แบบตอนนี้กลายเป็นขาแพะ ห่อหุ้มด้วยปลอกสัมฤทธิ์  


"ฉันหวังว่านายจะสนุกกับช่วงเวลาดีๆ ของเราสักหน่อยนะ" เอ็มพูซายิ้ม เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคม  


คูเปอร์สบถในใจ แต่ภายนอกยังคงรักษาสีหน้าปกติ "โทษทีนะ แต่ฉันไม่ใช่ประเภทที่ยอมให้โดนสูบเลือดได้ง่ายๆ"  


"อืม ก็คิดไว้แล้วล่ะว่านายคงไม่ง่าย" เธอหัวเราะ "แต่ก็ดี ฉันชอบเล่นกับเหยื่อที่มีความท้าทายหน่อย"  


"เสียใจด้วย ฉันไม่ใช่ของเล่น"  


เอ็มพูซาไม่พูดอะไรอีก เธอพุ่งเข้ามาเร็วอย่างน่าตกใจ คูเปอร์เบี่ยงตัวหลบได้หวุดหวิด ขณะที่เธอพ่นไฟออกมาเป็นเส้นตรง  


โอเค... การต่อสู้ในห้องน้ำแคบๆ กับปีศาจที่ใช้ไฟได้ แย่กว่าที่เขาคิดไว้มาก  


คูเปอร์รีบคว้าอาวุธที่ซ่อนอยู่ ท่อโลหะที่เขานำติดตัวมา


ก่อนเข้ามาในคลับ เขาแอบซ่อนหอกจริงๆ ไว้ในซอกเสื้อแจ็กเก็ต โดยห่อมันด้วยซองพลาสติกสีดำ มันดูเหมือนท่อแป๊ปที่ไม่มีใครสนใจ เขาอาศัยจังหวะที่เอ็มพูซากำลังพุ่งเข้ามา ดึงพลาสติกออกอย่างรวดเร็ว และเหวี่ยงปลายหอกเข้าใส่เธอทันที  


เอ็มพูซาหลบได้ แต่ก็ถอยหลังเล็กน้อย แววตาของเธอเปลี่ยนไป  


"อาวุธจริงเหรอ? น่าสนใจ"  


"อยากลองโดนไหมล่ะ?"  


เธอยิ้มมุมปากก่อนจะพุ่งเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้เธอเตะขาของเขาด้วยความเร็ว คูเปอร์เสียหลักไปเล็กน้อย แต่ยังคงทรงตัวได้ทันก่อนที่จะโดนไฟลวก  


เขาแทงหอกสวนกลับไป โดนเข้าที่ไหล่ของเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ  


"แรงใช้ได้" เธอพึมพำก่อนจะกระโจนเข้าหาเขาอีกครั้ง  


คูเปอร์ใช้ขาของตัวเองยันกับขอบอ่างล้างหน้า ก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่เธอเต็มแรง!  


หอกของเขาทะลุเข้าที่กลางอกของเอ็มพูซา เธอกรีดร้องลั่น ร่างของเธอสั่นสะท้านก่อนจะสลายกลายเป็นฝุ่นไปในที่สุด  


คูเปอร์หอบหนัก ก่อนจะรีบเก็บหอกกลับเข้าซองพลาสติก แล้วปรับสีหน้าก่อนจะออกจากห้องน้ำ  


เลวีนเดินเข้ามาหาทันที "หายไปไหนมา? คุณโอลีฟบอกว่าจู่ ๆ นายก็หายตัวไป"  


คูเปอร์กระพริบตา "...คุณโอลีฟ?"


"เจ้าของคลับไง"


คูเปอร์นิ่งไปก่อนจะเข้าใจทันที เพราะเอ็มพูซาถูกกำจัดไป ความทรงจำของคนธรรมดาจึงถูกปรับไปด้วย


"อ่า ไม่มีอะไรหรอก แค่... เหนื่อยน่ะ”


เลวีนเลิกคิ้ว "พึ่งเข้ามาไม่ถึงชั่วโมงเองนะ?"  


"สนุกมากเลย… แต่ฉันขอตัวก่อนนะ"  




คูเปอร์พยายามรักษาสีหน้าให้เป็นปกติ ทั้งที่ในใจแทบอยากร้องตะโกนว่า 'ฉันอยากกลับค่าย! ฉันเหนื่อยจากการสู้มาทั้งวันแล้ว!' แต่แน่นอนว่าเขาพูดออกไปไม่ได้  


"แค่รู้สึกเพลียนิดหน่อยน่ะ" เขายิ้มบางๆ "เจอกันคราวหน้าแล้วกัน"  


"โอเค นายแน่ใจนะว่าไม่ต้องให้ฉันไปส่ง?"  


"ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้"  


เขาหมุนตัวออกจากคลับทันทีที่จบบทสนทนา เดินผ่านเสียงดนตรีและกลุ่มคนที่กำลังสนุกกันอย่างสุดเหวี่ยง เมื่อพ้นออกมาข้างนอก อากาศเย็นยามค่ำคืนก็ปะทะเข้ากับผิวหน้า เสียงเพลงจากในคลับค่อยๆ จางลงเมื่อเขาเดินห่างออกมา  


คูเปอร์สาวเท้าต่อไปเรื่อยๆ จนมาถึงตรอกเล็กๆ ที่เงียบสงบพอสมควร เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ เขาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบเหรียญดรักม่าออกมา ก่อนจะกล่าวเสียงเบา  


"Stêthi, Ô hárma diabolês!"


ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้นจากริมฝีปากของเขา สายลมแรงก็พัดผ่านอย่างกะทันหัน ตามมาด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามดังสนั่น  


แท็กซี่คันเก่าคร่ำครึปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า สามพี่น้องเทาหันมามองเขาด้วยนัยน์ตากลวงโบ๋เช่นเคย  


"โอ้ พ่อหนุ่ม!" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากที่นั่งคนขับ 


"เจอกันอีกแล้วนะ!"  


"ค่ายฮาล์ฟบลัดครับ!" คูเปอร์พูดรวดเร็ว ขณะที่ร่างทิ้งตัวลงบนเบาะอย่างหมดแรง "วันนี้ผมเหนื่อยและอยากนอนใจจะขาดแล้ว!"  


"เข้าใจล่ะ!" คนขับหัวเราะเสียงแหลม ก่อนที่แท็กซี่จะพุ่งออกไปด้วยความเร็วระดับที่คนธรรมดาคงคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตา  


คืนนี้เขาจะได้นอนเสียที... หรือเปล่านะ?



หลักฐานการพิชิต


(เอ็มพูซา)


https://percyjackson.mooorp.com/plugin.php?id=dzs_npccomrade:fight&aid=831



+  2 ตื่นรู้ จากการพิชิต เอ็มพูซา ครั้งแรก



สินสงคราม // ไม่ทราบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 87296 ไบต์และได้รับ 64 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-2-20 09:57
โพสต์ 87,296 ไบต์และได้รับ +20 EXP +55 ความกล้า +55 ความศรัทธา จาก มาลาแห่งอัสสัมชัญ  โพสต์ 2025-2-20 09:57
โพสต์ 87,296 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +10 ความกล้า +10 ความศรัทธา จาก กลยุทธ์การรบ  โพสต์ 2025-2-20 09:57
โพสต์ 87,296 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +8 ความศรัทธา จาก ยาดม  โพสต์ 2025-2-20 09:57
โพสต์ 87,296 ไบต์และได้รับ +12 EXP +12 ความกล้า +12 ความศรัทธา จาก สายตาแห่งนกฮูก  โพสต์ 2025-2-20 09:57

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
มีดสั้นสัมฤทธิ์
บทเพลง
พริบตาแห่งวีรชน
ปัญญาแห่งการรบ
ร่างจำแลง
กลยุทธ์การรบ
สายตาแห่งนกฮูก
โรคสมาธิสั้น
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
แว่นกันแดด
กำไลหินนำโชค
หมวกเกราะ
เกราะหนัง
โล่อัสพิส
หอกกรีก
อัจฉริยะ
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
ต่างหูเงิน
น้ำหอมบุรุษ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x3
x10
x5
x3
x1
x1
x1
x10
x20
x4
x1
x1
x1
x1
x1
x2
x1
x3
x1
x1
x5
x5
x2
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้