1234567
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
เจ้าของ: God

[ใกล้กับสนามฝึก] อัฒจันทร์

[คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-7-17 00:04:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด







Daemon  Kannel

17 · กรกฎาคม · 2025
 · 13.00 - 15.00 น.
         เดม่อนตื่นเช้าตรู่ตามปกติ เขาวิ่งออกกำลังกายรอบค่ายจนเหงื่อซึมไปทั่วทั้งตัว แม้จะเหนื่อยล้าจากการปะทะกับมิโนทอร์เมื่อคืน แต่เขาก็ยังคงรักษาวินัยการฝึกฝนอย่างเคร่งครัด หลังจากพักผ่อนครู่หนึ่ง เขาก็หยิบโล่อัสพิสขึ้นมาพาดไหล่บวกกับใช้พลังหอมเย้ายวนเพื่อชำระล้างร่างกายให้สดชื่นราวกับอาบน้ำใหม่ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอัฒจันทร์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดคลาสวิชาจิตวิญญาณแห่งเพอร์ซีอุส

       ขณะที่เดินไป เดม่อนก็ครุ่นคิดถึงคำพูดของรุ่นพี่แคลรีสเมื่อวาน 'พรุ่งนี้เจอกันที่สนามฝึกตอนเช้านะ' ตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร แต่เมื่อได้ยินข่าวลือจากชาวค่ายคนอื่นๆ ว่าวันนี้แคลรีสจะมาสอนวิชานี้แทนรุ่นพี่เลเวอเรทท์ที่ยังไม่กลับมาค่าย เดม่อนก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง 'แค่คนเดียวก็น่ากลัวจะแย่แล้ว นี่เพิ่มพี่แคลรีสที่มีชื่อเสียงอีกคน' เขานึกในใจ ใบหน้าของธิดาแห่งแอรีสที่บึ้งตึงและแววตาที่ดูไม่ยินดีรับการปฏิเสธยังคงติดตาเขาอยู่

       เมื่อเวลา 13:00 น. ตรงเป๊ะ เดม่อนก็มาถึงอัฒจันทร์ มีชาวค่ายจำนวนหนึ่งมารวมตัวกันแล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนรุ่นน้องที่เพิ่งเข้าค่ายได้ไม่นาน แคลรีส ลา รู ยืนอยู่กลางลานฝึกในชุดเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงทหาร ดูทะมัดทะแมงและน่าเกรงขามเช่นเคย เธอถือไมเมอร์ หอกไฟฟ้าคู่ใจของเธอไว้ในมือ

     "เอาล่ะทุกคน!" แคลรีสตะโกนเสียงห้าว ดวงตาของเธอกวาดมองไปทั่ว "ยินดีต้อนรับสู่คาบที่สองของวิชาจิตวิญญาณแห่งเพอร์ซีอุส! วันนี้ฉันจะมาสอนแทนเจ้าเลเวอเรทท์ที่ยังไม่กลับมา" เธอหยุดเล็กน้อย แล้วจ้องมองมาที่เดม่อนเป็นพิเศษ "หวังว่าทุกคนจะพร้อมสำหรับบทเรียนที่แท้จริงนะ!"

     เธอก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย "วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง 'ทุกอย่างคืออาวุธ'!" แคลรีสพูดพลางใช้ปลายหอกชี้ไปที่พื้น "พวกเจ้าคิดว่าชัยชนะคือจุดสิ้นสุดงั้นเหรอ? ผิดถนัด! จำเรื่องเพอร์ซีอุสได้ไหม? หลังจากที่เขาตัดหัวเมดูซ่าได้แล้ว เขาไม่ได้โยนมันทิ้งไป! เขาเปลี่ยนมันให้เป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของเขา! นั่นแหละคือจิตวิญญาณแห่งเพอร์ซีอุส! มันคือการมองเห็นโอกาสในทุกสิ่ง! ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของรอบตัว หรือแม้แต่สิ่งที่ได้มาจากการต่อสู้!"

     แคลรีสเดินไปรอบๆ พลางอธิบายต่อ "เมื่อพวกนายเอาชนะอสุรกายได้แล้ว อย่าเพิ่งคิดว่าจบ! พวกนายจะต้องรู้จักพลิกแพลง นำทุกสิ่งที่เหลืออยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด! เศษซากของอสุรกาย อาวุธที่มันทิ้งไว้ หรือแม้แต่สภาพแวดล้อมรอบตัว...ทุกอย่างสามารถเป็นอาวุธได้หมด!"

     จากนั้น แคลรีสก็เดินไปยังโต๊ะที่วางของใช้ต่างๆ ไว้ เธอหยิบของบางอย่างขึ้นมา "เอาล่ะ ถึงเวลากิจกรรมภาคปฏิบัติแล้ว! ฉันจะให้ปริศนาสถานการณ์กับพวกนาย!"

     เธอชี้ไปที่ชาวค่ายคนหนึ่ง "สมมติว่า...พวกเธอเพิ่งเอาชนะไซคลอปส์ได้แล้ว แต่ตอนนี้มีเฮลล์ฮาวนด์อีกฝูงกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเธออย่างรวดเร็ว! ในกระเป๋าของไซคลอปส์ที่ตายไป มีแค่ค้อนยักษ์, เชือกยาวๆ, และเศษโลหะขนาดใหญ่... พวกเธอจะใช้อะไรสร้างความได้เปรียบในสถานการณ์นี้!?"

     ชาวค่ายหลายคนเริ่มกระซิบกระซาบกัน บางคนก็ทำหน้าครุ่นคิด เดม่อนเองก็เริ่มประมวลผลสถานการณ์ในหัวทันที

     แคลรีสมองมาที่เดม่อน "เจ้าเด็กบ้านอะโฟรไดต์! นายก่อนเลย! นายจะทำยังไง!?"

     เดม่อนรู้สึกกดดันเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามตั้งสติ 'ค้อนยักษ์...เชือก...เศษโลหะ...เฮลล์ฮาวนด์...' เขานึกถึงสิ่งที่โกรเวอร์สอนเมื่อวานเรื่องการประเมินภัยคุกคาม และสิ่งที่แคลรีสเพิ่งสอนไปเรื่องการใช้ทุกอย่างเป็นอาวุธ

     "ผม...ผมจะใช้เชือกครับรุ่นพี่!" เดม่อนตอบเสียงดังฟังชัด "ผมจะผูกปลายเชือกเข้ากับค้อนยักษ์ แล้วเหวี่ยงมันเหมือนลูกตุ้ม!" เขานึกภาพในหัว 'ถ้าเหวี่ยงได้แรงพอ มันจะสร้างแรงกระแทกมหาศาล' "จากนั้น ผมจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่สูงที่สุดแถวนั้น แล้วใช้ค้อนยักษ์ที่ผูกเชือกไว้เหวี่ยงใส่พวกเฮลล์ฮาวนด์จากด้านบนครับ! หรือถ้ามันเข้ามาใกล้ ผมก็จะใช้เศษโลหะขว้างใส่เพื่อถ่วงเวลา หรือใช้เป็นโล่ชั่วคราวครับ"

     แคลรีสเงียบไปครู่หนึ่ง เธอจ้องมองเดม่อนด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก ก่อนที่มุมปากของเธอจะยกขึ้นเล็กน้อย "ไม่เลว!" เธอพูดเสียงห้าว "เป็นการคิดที่ใช้ได้! อย่างน้อยก็ไม่ได้คิดแต่จะวิ่งหนี!" เธอหันไปทางชาวค่ายคนอื่นๆ "จำไว้! การคิดนอกกรอบคือสิ่งสำคัญ! อย่าจำกัดตัวเองอยู่แค่สิ่งที่เห็น! ทุกอย่างคืออาวุธ ถ้าพวกเจ้ารู้จักใช้มัน!"

     แคลรีสยังคงให้สถานการณ์สมมติต่างๆ แก่ชาวค่ายคนอื่นๆ แต่ละสถานการณ์มีความซับซ้อนและท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ เธอคอยให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมาและดุดัน แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้และประสบการณ์ที่ล้ำค่า

     เดม่อนยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขารับฟังคำถามและสถานการณ์สมมติจากแคลรีสอย่างตั้งใจ แม้จะไม่ได้ถูกเรียกให้ตอบทุกครั้ง แต่เขาก็คิดหาคำตอบในใจไปด้วยทุกครั้ง

   "สถานการณ์ต่อไป!" แคลรีสประกาศเสียงห้าว "พวกนายอยู่ในป่าลึก พบกับกลุ่มสัตว์ประหลาดที่กำลังหลับใหลอยู่ใกล้ลำธารเล็กๆ คุณไม่มีอาวุธคมๆ เหลืออยู่แล้ว มีเพียงก้อนหินมากมายรอบตัว, เปลือกไม้ที่หลุดร่อนจากต้นไม้, และน้ำในลำธาร... พวกนายจะทำยังไงให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ โดยไม่ให้พวกมันตื่น!?"

       ชาวค่ายหลายคนเริ่มกระซิบกระซาบกัน บางคนก็ทำหน้าครุ่นคิด พวกเขามักจะถูกฝึกให้โจมตี ไม่ใช่หลบเลี่ยงหรือใช้สภาพแวดล้อมแบบนี้

       เดม่อนนึกถึงพรจากเลปพราคอนที่ทำให้เขามีความอดทนและไม่ย่อท้อ รวมถึงสิ่งที่โกรเวอร์สอนเรื่องการสังเกตกลิ่นและเสียง และสิ่งที่เลเวอเรทท์สอนเรื่องโล่คือเครื่องมือ

       'น้ำ...หิน...เปลือกไม้...' เดม่อนประมวลผล 'ถ้าไม่ให้ตื่น ก็ต้องไม่เสียงดัง และต้องไม่ให้มันรู้ตัว'

       "ผมจะใช้น้ำครับรุ่นพี่!" เดม่อนตอบ "ผมจะค่อยๆ เทน้ำลงไปบนทางที่พวกมันจะเดินผ่านมา เพื่อทำให้พื้นลื่น แล้วก็วางเปลือกไม้หรือก้อนหินที่แหลมคมไว้ใต้ผิวน้ำ เพื่อให้พวกมันสะดุดหรือบาดเจ็บโดยไม่รู้ตัวครับ" 

       เขาหยุดคิด "หรือถ้าพวกมันกำลังหลับอยู่ ผมก็จะค่อยๆ ใช้เปลือกไม้ หรือก้อนหินขนาดเล็ก ขว้างไปในทิศทางตรงกันข้าม เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ หรือสร้างเสียงปลอมๆ ให้พวกมันเข้าใจผิดว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้นครับ"

       แคลรีสพยักหน้าช้าๆ ใบหน้าของเธอเริ่มมีแววพอใจมากขึ้นเรื่อยๆ "ใช้ได้! การล่อหลอกและสร้างสถานการณ์ให้ได้เปรียบโดยไม่ต้องปะทะโดยตรง...นั่นแหละสติปัญญา! ไม่ใช่แค่ใช้กำลังทื่อๆ ไปวันๆ!" เธอหันไปมองชาวค่ายคนอื่นๆ "จำไว้! พวกนายไม่จำเป็นต้องสู้ทุกครั้งที่เจอ! บางครั้ง การหลบเลี่ยงหรือใช้สภาพแวดล้อมให้เป็นประโยชน์คือวิธีที่ดีที่สุดในการเอาตัวรอด!"

       แคลรีสยังคงให้สถานการณ์สมมติต่างๆ แก่ชาวค่ายคนอื่นๆ ตลอดช่วงเวลาการฝึก แต่ละสถานการณ์มีความซับซ้อนและท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ เธอคอยให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมาและดุดัน ไม่มีการประนีประนอม แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้และประสบการณ์ที่ล้ำค่า ซึ่งเป็นสิ่งที่เดม่อนและคนอื่นๆ ซึมซับเข้าไปอย่างเต็มที่

         เมื่อเวลา 15:00 น. ตรงเป๊ะ แคลรีสก็ประกาศจบการฝึก "พอแค่นี้สำหรับวันนี้" เธอพูดเสียงห้าว ใบหน้าของเธอดูจริงจัง แต่ก็มีร่องรอยความพึงพอใจในสายตา "จำไว้ให้ดี... ทุกอย่างคืออาวุธ ถ้าพวกนายรู้จักคิด จิตวิญญาณแห่งเพอร์ซีอุส ไม่ใช่แค่เรื่องของการต่อสู้ แต่คือเรื่องของการใช้สติปัญญาเพื่อพลิกผันสถานการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ให้กลายเป็นชัยชนะ!" เธอจ้องมองไปที่เดม่อนเป็นพิเศษอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย "ส่วนนาย วันนี้ทำได้ดีนะ... เจ้าเด็กบ้านอะโฟรไดต์"

         ชาวค่ายคนอื่นๆ เริ่มแยกย้ายกันไป บ้างก็เดินไปดื่มน้ำ บ้างก็ไปพูดคุยกันถึงความยากของสถานการณ์สมมติที่ได้รับ เดม่อนรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมา เขาจัดการกับสถานการณ์ที่ยากกว่าที่คิดไว้ได้ด้วยดี และได้รับคำชมจากรุ่นพี่แคลรีสอีกด้วย

         เดม่อนถอดโล่อัสพิสออกมา พลางหอบหายใจเบาๆ เหงื่อซึมไปทั่วแผ่นหลัง แต่ในใจกลับรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมาก วันนี้เขาได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญอีกอย่างหนึ่ง และความรู้สึกที่ได้ใช้สติปัญญาเอาชนะอุปสรรคก็เป็นความรู้สึกที่ดีอย่างประหลาด ราวกับความสามารถในการมองผ่านเงาสะท้อนบนโล่ ได้ช่วยให้เขามองเห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวเองชัดเจนขึ้นด้วย บางทีถ้าเขา

         หลังจากการฝึกอันเข้มข้นภายใต้การดูแลของธิดาแห่งแอรีสอย่างแคลรีส เดม่อนรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งตัว แต่ก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ เขาตัดสินใจหาที่พักสักครู่ ก่อนที่จะกลับกระท่อมไปชำระล้างร่างกายและพักผ่อน

         เขาเดินไปนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาอยู่ไม่ไกลจากลานฝึก ลมเย็นๆ พัดผ่านมาเป็นระยะๆ ช่วยคลายความร้อนจากเหงื่อที่ซึมอยู่บนแผ่นหลัง เดม่อนหลับตาลง สูดหายใจลึกๆ พยายามปล่อยวางความปวดเมื่อยทั้งหมด

         ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยก็ดังเข้ามาใกล้ พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้แรกแย้มที่ลอยมาตามลม เดม่อนลืมตาขึ้น และเห็นอลิเซีย เคอร์เนอตี้ พี่สาวร่วมบ้านอะโฟรไดต์ที่เขาเจอเป็นคนแรกในวันแรกที่มาถึงค่าย เธอยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยผิวสีน้ำผึ้งและเส้นผมสีเข้มหยิกลอนตามธรรมชาติที่งดงาม ใบหน้าของเธอยังคงเปื้อนรอยยิ้มที่ใจเย็นและอัธยาศัยดี

         "เดม่อน...เป็นยังไงบ้างจ๊ะ" อลิเซียเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เธอเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ อย่างเป็นกันเอง "พี่เห็นนายฝึกหนักมาทั้งวันเลยนี่นา"

         เดม่อนพยักหน้า "ก็...เหนื่อยครับพี่อลิเซีย แต่ก็สนุกดีครับ" เขาพยายามยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นก็ยังดูฝืนเล็กน้อย

         อลิเซียมองมาที่เขาอย่างอ่อนโยน เธอรับรู้ได้ถึงความเศร้าที่ซ่อนอยู่ในแววตาของน้องชายร่วมบ้าน แม้เดม่อนจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เธอก็รู้ว่าเขากำลังคิดถึงเรื่องของลิเลียน่า

         "เรื่องลิเลียน่าใช่ไหมจ๊ะ" อลิเซียพูดเบาๆ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเข้าใจ "พี่ก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าอาการแบบนี้ของลิเลียน่าจะหายไปได้หรือเปล่า" เธอถอนหายใจเล็กน้อย "แต่พี่เชื่อนะว่าลึกๆ แล้วลิเลียน่าก็ยังคงมีความรู้สึกดีๆ และมิตรภาพที่เคยมีให้นายเหมือนเดิม... เพียงแต่บางที นี่อาจจะเป็นเรื่องของเวลาน่ะจ้ะ"

         เธอหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นเล็กน้อย "พี่คิดว่าในภารกิจที่เธอกลับมาจากเฮติตอนนั้น... เธอคงเจออะไรบางอย่างที่หนักหนาสาหัสเกินกว่าที่ใครคนหนึ่งจะแบกรับทุกอย่างไว้เพียงลำพัง" อลิเซียมองไปยังท้องฟ้าที่ยังคงสว่างจ้า เธอเองก็จำเหตุการณ์ในภารกิจเฮติบางช่วงได้ไม่แน่ชัดนัก ราวกับว่าถูกอะไรบางอย่างบดบัง "บางทีเธออาจจะต้องใช้เวลาในการเยียวยาจิตใจของตัวเองนะ...แล้ววันหนึ่ง ทุกอย่างอาจจะกลับมาเป็นปกติได้"

         คำพูดของอลิเซียราวกับสายลมเย็นที่พัดผ่านเข้ามาในใจของเดม่อน มันช่วยปลอบประโลมความรู้สึกหนักอึ้งให้เบาบางลงได้บ้าง เขารู้สึกขอบคุณพี่สาวร่วมบ้านคนนี้ที่เข้าใจความรู้สึกของเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายเลย

         เดม่อนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง คำพูดของอลิเซียทำให้ความคิดของเขาวนเวียนอยู่ในหัว 'บางทีเขาไม่ควรถอดใจเร็วเกินไป' แววตาของเขาฉายแววครุ่นคิดตามสิ่งที่พี่สาวร่วมบ้านพูด

         'ถ้าเป็นตัวฉัน...ลิเลียน่าจะพยายามช่วยฉันไหมนะ?' คำถามนี้ผุดขึ้นมาในใจของเดม่อน เขาหวนนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในซีแอตเทิล วันที่เขาถูกลักพาตัวไปโดยองค์กรลึกลับปริศนา วันนั้นลิเลียน่าเชื่อเสียงของแม่เขา และมาตามหาเขาจนเจอ ช่วยเขาออกมาจากสถานการณ์อันตรายนั้นได้

         ความทรงจำนั้นชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน มันเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าลิเลียน่าจะไม่ทอดทิ้งเขา นั่นบ่งชี้ว่าลึกๆ แล้ว เธอยังคงเป็นเพื่อนที่ห่วงใยเขาเสมอ

         'บางที...ลิเลียน่าอาจจะมีความลำบากใจบางอย่าง' เดม่อนครุ่นคิด เขาเริ่มเข้าใจว่าการที่เธอจำเขาไม่ได้ อาจไม่ใช่เพราะเธอไม่ต้องการจดจำ แต่เป็นเพราะบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เหนือการควบคุมของเธอเอง มันจะต้องเป็นแบบนี้แน่....

         ความรู้สึกหนักอึ้งในใจของเดม่อนเริ่มคลี่คลายลงช้าๆ ความหวังเล็กๆ ก่อตัวขึ้นในใจอีกครั้ง เขามองไปที่อลิเซียด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

         "ขอบคุณครับพี่อลิเซีย" เดม่อนเอ่ยเสียงแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ "ผม...ผมจะลองดูอีกครั้งครับ"

         อลิเซียยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เธอรู้ว่าคำพูดของเธอได้ช่วยปลอบประโลมจิตใจของน้องชายคนนี้ได้มากแค่ไหน

         "ดีแล้วจ้ะ พี่เชื่อว่านายทำได้" อลิเซียพูด ก่อนจะลุกขึ้นยืน "พี่ไปก่อนนะจ๊ะ นายก็พักผ่อนเยอะๆ ล่ะ"

         เดม่อนพยักหน้า เขามองตามหลังอลิเซียที่เดินจากไปจนลับตา ความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการฝึกและจากเรื่องราวของลิเลียน่ายังคงอยู่ แต่ตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยความหวังและความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมแพ้

         'ฉันจะรอ...รอจนกว่าเธอจะกลับมา' เดม่อนคิดในใจ 'แล้วฉันจะลองพยายามเข้าหาลิเลียน่าอีกครั้ง' เขาเชื่อว่าความผูกพันที่พวกเขามีต่อกันนั้นไม่ได้หายไปไหน เพียงแค่มันถูกซ่อนอยู่ภายใต้บางสิ่งบางอย่างที่เขายังไม่เข้าใจ และเขาจะต้องพยายามทำความเข้าใจมันให้ได้

     เดม่อนคิดแล้วค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงใต้ต้นไม้ เพื่อพักผ่อนอย่างสงบสักครู่ ท่ามกลางสายลมยามเย็นพัดเย็นสบาย
        


วิชาจิตวิญญาณแห่งเพอร์ซีอุส คลาสที่ 2/4
รางวัลเข้าฝึก (แนบโรล): +2 Point
ทุกๆ การฝึกจะได้รับค่าความสนิท +5 (ไม่จำกัดไบต์) 
โบนัส: ทุกๆ 10,000 ไบต์ ได้รับค่าความสนิทเพิ่มอีก +5 (สูงสุด 100,000 ไบต์ รวม 50)
รวม 50,000 ไบต์: 30 แต้ม


มอบ กุหลาบสีน้ำเงิน ให้ [NPC-65] แคลรีส ลา รู +40
- พูดคุยประจำวัน +5
- หอมเย้ายวน : NPC รุ่นพี่หรือเพื่อนร่วมค่ายจะได้รับโบนัส +10 ความสนิทสนม
- เสน่ห์อันเลิศล้ำ : NPC รุ่นพี่หรือเพื่อนร่วมค่ายจะได้รับโบนัส +5 ความสนิทสนม
รวม: 60 แต้ม

NC

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-65] แคลรีส ลา รู เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-7-17 00:07
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-65] แคลรีส ลา รู เพิ่มขึ้น 85 โพสต์ 2025-7-17 00:06
โพสต์ 59039 ไบต์และได้รับ 30 EXP!  โพสต์ 2025-7-17 00:04
โพสต์ 59,039 ไบต์และได้รับ +40 EXP +35 เกียรติยศ +35 ความกล้า จาก ชุดบำรุงอาวุธ  โพสต์ 2025-7-17 00:04
โพสต์ 59,039 ไบต์และได้รับ +1 Point จาก มนต์มหาเสน่ห์  โพสต์ 2025-7-17 00:04
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Icarus Mirror
แหวนห้วงมิติ
คำสาปแห่งแอรีส
พร: ทนทานไฟ
โล่แห่งโทสะ
กางเกงเดินป่า
การควบคุมความรัก
ชุดบำรุงอาวุธ
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x8
x1
x9
x7
x10
x1
x1
x2
x14
x2
x1
x20
x6
x2
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-7-24 01:16:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
18-07-2025 08.00 AM

I want to be your everything little darling




ค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ไนมีเรียได้หลับใหลอย่างแท้จริง การหลับใหลที่ปราศจากความฝันอันน่าสะพรึงกลัวหรือเสียงกระซิบของคำพยากรณ์ มันคือการพักผ่อนที่ร่างกายและจิตวิญญาณของเธอโหยหามานาน แสงแดดยามเช้าที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างของเคบิน 20 ไม่ได้ปลุกเธอให้ตื่น แต่กลับเป็นความเงียบสงบที่แปลกปลอมเกินไปต่างหาก

ห้วงคำนึงของสตรีตาคมเต็มไปด้วยเศษเสี้ยวของเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา ภาพของไฮดร้าที่งอกออกมาสิบหัว, ความเย็นเยียบของพลังที่ไหลบ่าเข้าสู่ร่าง, และถ้อยคำแห่งวันสิ้นโลกที่ออกจากปากของเทพพยากรณ์ ทุกอย่างหมุนวนอยู่ในหัวราวกับเศษซากของพายุที่เพิ่งสงบลง

“ธิดาแห่งม่านหมอกปลุกเงาที่หลับใหล”

คำพยากรณ์นั้นไม่ใช่แค่ลางบอกเหตุอีกต่อไป แต่มันคือตราประทับที่ถูกตีลงบนโชคชะตาของเธอเรียบร้อยแล้ว การตัดสินใจจึงเกิดขึ้นอย่างเงียบงันในใจ เธอต้องไปพบไครอน เพื่อปรึกษา เพื่อหาคำตอบ และเพื่อเตรียมตัวสำหรับสงครามครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึง

ขณะที่กำลังจะลุกจากเตียงนั้นเอง เสียงเคาะประตูเบาๆ ก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงของเด็กสาวคนหนึ่งจากบ้านไอริส “พี่ไนมีเรียคะ! มีข้อความสายรุ้งถึงพี่ค่ะ!” เด็กสาวกล่าวพลางยื่นแผ่นกระดาษที่ยังคงมีละอองน้ำสีรุ้งเกาะอยู่จางๆ ให้ “รุ่นพี่ไฮด์ฝากมาบอกว่า ให้ไปพบรุ่นพี่คริสโตเฟอร์ที่คาเฟ่พรุ่งนี้ตอนหกโมงค่ะ น่าจะเรื่องสอบคลาสยิงปืนนะคะ”

เจ้าของรอยยิ้มงามรับข้อความมาด้วยรอยยิ้มขอบคุณ ก่อนจะปิดประตูลง ช่างเป็นการเริ่มต้นวันที่วุ่นวายเสียจริง

มื้อเช้าของวันคือหนวดคราเค่นทอดกรอบที่ได้รับเป็นของฝากมาจากเพื่อนร่วมค่าย มันคือหนึ่งในข้อดีของการสร้างมิตรภาพเอาไว้ทั่วสารทิศ รสชาติเค็มๆ มันๆ และความกรุบกรอบของมันอร่อยกว่าที่คิดไว้มาก ช่วยปลุกให้สมองที่ยังคงเฉื่อยชาอยู่ตื่นตัวขึ้นมาได้บ้าง

หลังมื้อเช้า ร่างอรชรในชุดฝึกซ้อมที่ทะมัดทะแมงก็ออกจากเคบิน 20 แต่จุดหมายของเธอไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ในทันที สองเท้าพาร่างบางไปยังลานฝึกซ้อมที่คุ้นเคย ที่ที่กลิ่นเหงื่อ, ฝุ่นดิน, และโลหะผสมปนเปกันจนเป็นกลิ่นเฉพาะตัว ที่นั่น เลเวอเรทท์ ฟรีมอนท์ กำลังฝึกซ้อมดาบอยู่ตามลำพัง การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็ว, หนักหน่วง, และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่น่ากลัว

เธอผู้นั้นยืนรออย่างเงียบๆ จนกระทั่งเขาฝึกจบและหันมาเห็นเธอ

“มาแต่เช้าเลยนะ” เขาเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ตามปกติ แต่ในแววตานั้นมีความอ่อนลงเล็กน้อย

“ก็แค่มาบอกลาน่ะค่ะ” สตรีรอยยิ้มเรียบตอบ “ในฐานะที่การติวเข้มแบบตัวต่อตัวของรุ่นพี่จบลงแล้ว”

บุตรแห่งแอรีสเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าด้วยหลังมือ เขามองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากวันแรกที่เจอกันอย่างสิ้นเชิง “เธอไม่ใช่แค่ฉลาด” เขาเอ่ยขึ้นมาตรงๆ “แต่ยังอึดกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ จากนี้ไปก็ลองไปทำภารกิจจริงๆ ดูซะ จะได้รู้ว่าสิ่งที่ฉันสอนไปมันใช้ได้ผลแค่ไหน”

นั่นคือคำชมครั้งแรกที่เธอเคยได้รับจากเขา มันไม่ใช่คำชมที่หวานหู แต่กลับหนักแน่นและจริงใจที่สุด

“พูดถึงภารกิจเดินทาง” เจ้าของนัยน์ตาลึกลับกล่าว “พอดีว่าฉันเพิ่งได้รับมาสดๆ ร้อนๆ เลยค่ะ เมื่อคืนนี้เอง”

เธอเล่าเรื่องคำพยากรณ์แห่งวันสิ้นโลกที่ได้รับจากเรเชลให้เขาฟังทั้งหมด ไม่มีการปิดบัง ไม่มีการอ้อมค้อม เธอเล่าในฐานะที่เขาไม่ใช่แค่ครูฝึกอีกต่อไป แต่เป็นคนที่ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน

ยิ่งฟัง ใบหน้าของเลเวอเรทท์ก็ยิ่งเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะบุตรแห่งเทพแห่งสงคราม เขาย่อมเข้าใจความหมายของคำว่า ‘โรคระบาด, สงคราม, ความอดอยาก, และความตาย’ ได้ดีกว่าใครทั้งหมด

“คำพยากรณ์ระดับนี้” เขากล่าวเสียงเข้มหลังจากที่เธอเล่าจบ “มันคือภารกิจระดับวีรบุรุษที่ไม่ใช้สนามเด็กเล่นของมือใหม่” หยุดไปชั่วครู่ ดวงตาสีฟ้าคมกริบคู่นั้นจ้องมองเธออย่างจริงจัง “รออยู่ที่นี่แป๊บหนึ่ง ฉันมีบางอย่างจะให้ มันน่าจะช่วยให้เธอรอดกลับมาได้”

เขากำลังจะหันหลังเดินไปยังเคบินของเขา แต่ไนท์กลับเอ่ยขัดขึ้น

“ขอบคุณสำหรับความหวังดีค่ะรุ่นพี่” เธอกล่าวพลางยิ้มบางๆ “แต่ฉันไม่ชอบรับของใครฟรีๆ”

มือที่วาดเฮนน่าจนเต็มล้วงเข้าไปในแหวนลูกบากษ์มิติของเธอแล้วหยิบไส้กรอกย่างร้อนๆ ที่ยังส่งกลิ่นหอมฉุยออกมาสองสามชิ้นแล้วยื่นให้เขา “ถือซะว่านี่เป็นการแลกเปลี่ยนก็แล้วกันค่ะ”

เลเวอเรทท์มองไส้กรอกย่างของโปรดของเขาในมือของเธอ สลับกับมองใบหน้าที่ยิ้มอย่างรู้ทันนั้นแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขารับมันมาถือไว้

“เอาเป็นว่า” ร่างอรชรกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เจือความขี้เล่นเป็นครั้งแรกของวัน “ถ้ารุ่นพี่รับปากว่า เมื่อฉันกลับมาถึงค่ายอีกครั้ง จะปฏิบัติต่อฉันให้ดีขึ้นอีกหน่อย ไม่ใช่ในฐานะเด็กบ้านเฮคาทีรึแม่มดที่น่าระแวง แต่ในฐานะรุ่นน้องคนโปรดของคุณน่ะ ฉันจะยอมรับของชิ้นนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้งเลย”

คำท้านั้นทำให้บุตรแห่งแอรีสหลุดยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก เขาส่ายหน้าเบาๆ ให้กับความเจ้าเล่ห์ที่ไม่เคยลดละของเธอ ก่อนจะกัดไส้กรอกย่างเข้าไปคำโตโดยไม่ตอบอะไร แต่ในความเงียบนั้น มันคือคำตอบรับที่ชัดเจนที่สุดแล้ว

******

กินหนวดคราเค่นทอดกรอบ : ผู้กินอาหารจานนี้ผ่านโรลเพลย์และส่งมาไอดี GOD ได้รับ +3 VIT

กิจกรรมฝึกฝนกับรุ่นพี่ : แจ้งรุ่นพี่ว่ากำลังจะไปทำภารกิจคำพยากรณ์ รัตติกาลที่สาบสูญ (หัวใจ 10 ดวง)

[NPC-28] เลเวอเรทท์ ฟรีมอนท์
โบนัสความสัมพันธ์จากการพูดคุย +5 พี่เลิกตึงใส่ผมได้ละ ผมไม่ได้จีบพี่เชิงนั้นคับ
มอบ ใส้กรอกย่าง + 20
กำไลมิตรประสาน : ทุกครั้งที่สนทนาคู่สนทนาจะรู้สึกถึงออร่าบางอย่างที่ทำให้รู้สึกคุ้นเคยและสนิทสนมกับคุณขึ้นเล็กน้อย ได้รับโบนัสพิเศษ +10 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)


@God 

i'll melt your heart into two @HyeRi Codes

แสดงความคิดเห็น

"เธอรู้ว่าต้องใช้มันตอนไหน"  โพสต์ 2025-7-24 01:47
เลเวอร์เลทท์ ฟรีมอนท์ มอบ [ไข่มุกยมโลก 1 ea]   โพสต์ 2025-7-24 01:46
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-28] เลเวอเรทท์ ฟรีมอนท์ เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2025-7-24 01:38
God
กิจกรรมฝึกฝนกับรุ่นพี่จบลงแล้ว นี่แค่มาบอกกล่าวไม่ถือเป็นการฝึก  โพสต์ 2025-7-24 01:37
God
ได้รับ +3 VIT จากการเคี้ยวดราเคน  โพสต์ 2025-7-24 01:35
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ไฟแช็ค
ปากกาหมึกซึม
กิ๊บติดผม
กล่องดนตรี
ตำราเวทมนต์เฮคาที
การควบคุมหมอกขั้นสูง
เข็มกลัดเฮคาที
ทักษะยิงปืน
แหวนดาราจรัส(D)
คิดค้นคาถา
เส้นทางลับ
เรียกอาวุธจากหมอก
กล้องถ่ายรูป
Daedalus's Legacy
กำไลมิตรประสาน
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
การปลุกผี
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
แหวนจันทราทมิฬ
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ชุดเครื่องเพชร
รองเท้าส้นสูง
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
โรคสมาธิสั้น
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x10
x2
x18
x9
x11
x16
x5
x5
x2
x4
x1
x1
x4
x1
x5
x2
x20
x10
x4
x3
x1
x2
x5
x1
x1
x3
x1
x40
x7
x4
x35
x1
x3
x3
x35
x4
x16
x1
x1
x1
x1
x4
x1
x6
x2
x8
x10
x2
x1
x1
x9
x1
x1
x28
x1
x5
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-7-29 20:17:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
24-07-2025 13.15 PM

I want to be your everything little darling




สมองที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วงตลอดช่วงเช้าต้องการเชื้อเพลิงมาเติมเต็ม และไม่มีอะไรจะตอบสนองความต้องการนั้นได้ดีไปกว่าโปรตีนจากใต้ทะเลลึก สองเท้าพาร่างที่เริ่มโหยหาพลังงานมายังศาลาอาหารที่คึกคักไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงกระทบกันของภาชนะ กลิ่นอาหารหลากหลายชนิดที่ลอยมาปะทะจมูกนั้นน่าจะทำให้ใครหลายคนน้ำลายสอ แต่สำหรับเป้าหมายของไนท์ในวันนี้แล้ว มันอาจจะทำให้บางคนอยากจะเบือนหน้าหนี

หนวดคราเค่นทอดกรอบที่เหลือจากมื้อเย็นเมื่อวานถูกตักใส่จานจนพูน มันคือเมนูพิเศษที่ไม่ค่อยมีใครกล้าลองนัก แต่สำหรับคนที่ต้องการพลังงานเพื่อใช้ในการฝึกฝนอันต่อเนื่องแล้ว รูปลักษณ์ที่น่าสยดสยองของมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

“นี่เธอกำลังจะกินอสุรกายจากขุมนรกเป็นมื้อกลางวันจริงๆ เหรอ” เสียงของวิญญาณสาวดังขึ้นในหัวด้วยความขยะแขยงอย่างไม่ปิดบัง “เห็นแล้วมันพะอืดพะอมจนพลังเวทของฉันแทบจะตีกลับ ให้ตายเถอะ สมัยของฉันอย่างน้อยเราก็ยังย่างมันให้สุกก่อนจะกินนะ ไม่ใช่เอามาทอดจนกรอบเป็นขนมขบเคี้ยวแบบนี้”

“มันคือโปรตีนขั้นสูง และฉันที่ตอนนี้วิ่งฝึกไปทั่วเพื่อเตรียมรับมือหายนะครั้งใหญ่ ต้องการมัน!!” เจ้าของรอยยิ้มเรียบตอบกลับพลางจัดการกับอาหารจานยักษ์ตรงหน้าอย่างไม่สนใจไยดี

หลังจากเติมพลังให้ตัวเองจนเต็มที่แล้ว ก่อนที่จะเดินออกจากศาลาอาหาร ร่างอรชรก็แวะไปที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง คว้าแฮมเบอร์เกอร์เนื้อชิ้นโตที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ มาหนึ่งชิ้น มันไม่ใช่สำหรับเธอ แต่เป็นเครื่องบรรณาการสำหรับครูฝึกคนต่อไป

อากาศยามบ่ายที่ลานประลองนั้นร้อนระอุราวกับลมหายใจของมังกร พื้นดินที่แห้งผากคลุ้งไปด้วยฝุ่นทุกครั้งที่มีการก้าวเท้า และเสียงดาบที่กระทบกับโล่ก็ดังก้องไปทั่วราวกับเป็นบทเพลงแห่งสงครามที่ไม่เคยมีวันจบสิ้น

เอมีเลีย แอร์ฮาร์ต ยืนอยู่กลางลานประลองด้วยท่าทีที่สงบนิ่งและน่าเกรงขาม ร่างสูงโปร่งในชุดเกราะฝึกซ้อมที่ทะมัดทะแมงนั้นดูราวกับรูปปั้นของเทพีแห่งสงคราม ดวงตาสีฟ้าของหล่อนคมกริบและจดจ่ออยู่กับการฝึกสอน ไม่ได้วอกแวกไปกับสิ่งรอบข้าง

“สำหรับนักบินผู้ยิ่งใหญ่ที่สละเวลามาสอนนักรบฝึกหัดค่ะ” สตรีตาคมเอ่ยขึ้นพลางยื่นห่อแฮมเบอร์เกอร์ให้

เอมีเลียเหลือบมองของในมือด้วยหางตา ก่อนจะหันมารับมันไปอย่างเงียบเชียบ รอยยิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นปรากฏขึ้นที่มุมปากของหล่อนเพียงชั่วครู่ก่อนจะเลือนหายไป “ขอบใจ” คือคำพูดสั้นๆ ที่หลุดออกมา นั่นคือการยอมรับในแบบฉบับของเธอ

“วันนี้” ครูฝึกผู้เป็นตำนานกล่าวเปิดบทเรียนด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับการสวนกลับ การโจมตีที่แท้จริงไม่ได้เริ่มขึ้นเมื่อเธอเป็นฝ่ายรุก แต่เริ่มขึ้นในเสี้ยววินาทีที่เธอป้องกันการโจมตีของศัตรูได้สำเร็จ”

บทเรียนเริ่มต้นด้วยพื้นฐานการโจมตีด้วยดาบ ทั้งการฟัน (Slash) ที่เน้นความรุนแรงและวงกว้าง และการแทง (Thrust) ที่เน้นความแม่นยำและจู่โจมในจุดตาย การเคลื่อนไหวของธิดาแห่งเฮคาทีนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ มันไม่ได้เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง แต่กลับเต็มไปด้วยความแม่นยำและประสิทธิภาพที่น่าขนลุก ทุกการเคลื่อนไหวถูกคำนวณมาอย่างดี ราวกับกำลังร่ายรำเวทมนตร์แห่งความตาย

จากนั้นก็เป็นการใช้โล่เพื่อการรุก การกระแทกด้วยโล่ ไม่ใช่แค่การผลัก แต่คือการใช้แรงปะทะเพื่อทำลายจังหวะและเปิดช่องว่างของศัตรู

และสุดท้ายก็มาถึงหัวใจของบทเรียนในวันนี้ หลักการ “ป้องกันและสวนกลับ” (Block and Counter)

“บล็อก แล้วแทง! บล็อก แล้วฟัน! ทำให้มันเป็นสัญชาตญาณ!” เสียงของเอมีเลียก้องไปทั่วลานประลอง

ร่างบางฝึกซ้อมคอมโบนั้นกับหุ่นฟางซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว เสียงโลหะที่กระทบกับฟางแห้งดังขึ้นเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ มันคือท่วงทำนองแห่งการป้องกันและการตอบโต้ที่เริ่มจะหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย

“ยังช้าไป!” เอมีเลียเดินเข้ามาติวเข้ม “จังหวะระหว่างการบล็อกกับการสวนกลับของเธอห่างกันเกินไป อสูรตัวจริงมันไม่รอยืนรอให้เธอตั้งท่าสวยๆ หรอกนะ”

ว่าแล้วครูฝึกในตำนานก็หยิบดาบและโล่ฝึกซ้อมขึ้นมาเอง “มานี่ มาซ้อมกับฉัน”

การซ้อมแบบเบาๆ กับเอมีเลียนั้นให้ความรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ต่อหน้าพายุเฮอริเคน ทุกการโจมตีของหล่อนรวดเร็ว, หนักหน่วง, และไร้ซึ่งความปรานี แต่ในขณะเดียวกัน มันก็คือบทเรียนที่ดีที่สุด ไนท์ถูกบีบให้ต้องใช้สัญชาตญาณทั้งหมดที่มีเพื่อป้องกันและหาจังหวะสวนกลับ นางต้องเรียนรู้ที่จะอ่านการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ, ทิศทางของสายตา, และจังหวะการหายใจของคู่ต่อสู้

“ดีขึ้น” เอมีเลียกล่าวหลังจากที่การซ้อมจบลง เหงื่อของหล่อนยังไม่ซึมออกมาแม้แต่หยดเดียว “แต่ยังต้องฝึกอีกเยอะ จำไว้เสมอว่า ดาบและโล่ไม่ใช่แค่เหล็กสองชิ้น แต่มันคือส่วนหนึ่งของร่างกายเธอ”

ถึงแม่บทเรียนในวันนี้จบลง แต่มันได้ทิ้งร่องรอยแห่งความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไว้ในใจของว่าที่แม่มดสาว การต่อสู้ไม่ใช่แค่การใช้พลัง แต่คือการอ่านเกม คือการหาจังหวะ และคือการเปลี่ยนการป้องกันให้กลายเป็นการโจมตีที่อันตรายที่สุด

******

เข้าเรียนวิชาดาบและโล่ 3/4 รางวัลเข้าชั้นเรียน: +10 EXP , +20 ความกล้า

กินหนวดคราเค่นทอดกรอบ : ผู้กินอาหารจานนี้ผ่านโรลเพลย์และส่งมาไอดี GOD ได้รับ +3 VIT

[NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต
ให้ แฮมเบอร์เกอร์ ของโปรด +20
กำไลมิตรประสาน : ทุกครั้งที่สนทนาคู่สนทนาจะรู้สึกถึงออร่าบางอย่างที่ทำให้รู้สึกคุ้นเคยและสนิทสนมกับคุณขึ้นเล็กน้อย ได้รับโบนัสพิเศษ +10 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)
การพูดคุย: +5 ความสนิทสนม คือผมเรียนกับคุณคับ ถามเก่งด้วยนะ
@God 


i'll melt your heart into two @HyeRi Codes

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ +5 ความกล้า โพสต์ 2025-7-29 20:26
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2025-7-29 20:20
โพสต์ 19707 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-7-29 20:17
โพสต์ 19,707 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก ตำราเวทมนต์เฮคาที  โพสต์ 2025-7-29 20:17
โพสต์ 19,707 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก การควบคุมหมอกขั้นสูง  โพสต์ 2025-7-29 20:17
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ไฟแช็ค
ปากกาหมึกซึม
กิ๊บติดผม
กล่องดนตรี
ตำราเวทมนต์เฮคาที
การควบคุมหมอกขั้นสูง
เข็มกลัดเฮคาที
ทักษะยิงปืน
แหวนดาราจรัส(D)
คิดค้นคาถา
เส้นทางลับ
เรียกอาวุธจากหมอก
กล้องถ่ายรูป
Daedalus's Legacy
กำไลมิตรประสาน
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
การปลุกผี
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
แหวนจันทราทมิฬ
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ชุดเครื่องเพชร
รองเท้าส้นสูง
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
โรคสมาธิสั้น
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x10
x2
x18
x9
x11
x16
x5
x5
x2
x4
x1
x1
x4
x1
x5
x2
x20
x10
x4
x3
x1
x2
x5
x1
x1
x3
x1
x40
x7
x4
x35
x1
x3
x3
x35
x4
x16
x1
x1
x1
x1
x4
x1
x6
x2
x8
x10
x2
x1
x1
x9
x1
x1
x28
x1
x5
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-8-2 22:38:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
28-07-2025 15.10 AM

I want to be your everything little darling



 ก้อนหินแห่งปัญญาที่เพิ่งได้รับจากเทพีอะธีน่ายังคงให้ความรู้สึกอุ่นซ่านและกระจ่างชัดอยู่ในความคิด แต่ท้องที่เริ่มส่งเสียงประท้วงก็เรียกร้องพลังงานที่เป็นรูปธรรมมากกว่าพลังแห่งความรู้ สองเท้าจึงพาร่างที่สวมชุดฝึกซ้อมอันคุ้นเคยมายังศาลาอาหารที่เริ่มคึกคักขึ้นในยามบ่าย

วันนี้เมนูที่เลือกไม่ใช่ของว่างเบาๆ แต่เป็นสเต็กเนื้อสันในของมิโนทอร์ที่ถูกย่างมาอย่างดีจนส่งกลิ่นหอมเย้ายวนไปทั่ว มันคือมื้ออาหารที่ไม่ได้กินเพื่อความอร่อย แต่กินเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ เพื่อตอกย้ำความทรงจำถึงภารกิจเดี่ยวครั้งแรกที่สำเร็จลุล่วงด้วยไหวพริบและคมดาบของตนเอง

“แหม กล้าหาญชาญชัยเสียจริงนะ” เสียงของสตรีในชุดร่างโปร่งใสดังขึ้นในห้วงคำนึงขณะที่เจ้าของรอยยิ้มเรียบกำลังจัดการกับสเต็กชิ้นโต “กินญาติห่างๆ ของอสูรที่เธอเพิ่งจะสังหารไปเนี่ย ไม่กลัวว่ามันจะลุกขึ้นมาวิ่งไล่ขวิดในท้องรึไง”

“วัยกำลังโตต้องเสริมโปรตีนบ้างสิแคลร์ และนี่เป็นการให้เกียรติคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งต่างหาก” ร่างอรชรตอบกลับในใจ ก่อนจะจัดการกับมื้ออาหารตรงหน้าจนหมดเกลี้ยง และเช่นเคย ก่อนจะจากไปก็ไม่ลืมที่จะหยิบแฮมเบอร์เกอร์เนื้อชิ้นโตสองชั้นห่อกลับไปด้วยหนึ่งชิ้น

ลานประลองในช่วงบ่ายยังคงร้อนระอุและอบอวลไปด้วยกลิ่นของหยาดเหงื่อ, โลหะ, และผืนดินที่แห้งผากเช่นเคย เอมีเลีย แอร์ฮาร์ต ยืนรออยู่แล้วด้วยท่าทีที่เคร่งขรึมและจริงจังยิ่งกว่าทุกครั้ง ดวงตาของหล่อนจับจ้องมาที่ไนท์ราวกับจะประเมินทุกอณูของความพร้อมก่อนการทดสอบครั้งสุดท้าย

“เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินรบค่ะ” ว่าที่แม่มดสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นห่อเบอร์เกอร์ให้

นักบินในตำนานรับไปโดยไม่ได้เอ่ยคำขอบคุณใดๆ แต่สายตาที่อ่อนลงเล็กน้อยนั้นก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว “วันนี้คือบทสรุปของทุกสิ่งที่เราเรียนกันมา” หล่อนกล่าวเสียงเรียบ “ตั้งใจให้ดีล่ะ เพราะพรุ่งนี้จะไม่มีโอกาสให้แก้ตัวอีกแล้ว”

น้ำเสียงนั้นหนักแน่นและเปี่ยมด้วยความหมาย มันคือคำพูดของครูที่รู้ดีว่าลูกศิษย์กำลังจะก้าวเข้าสู่สมรภูมิที่แท้จริง

“ก่อนที่เราจะเริ่มภาคปฏิบัติ” เอมีเลียกล่าวต่อ “เรามาทบทวนทฤษฎีกันอีกครั้ง” ภาพฉายเวทมนตร์ปรากฏขึ้นกลางอากาศเป็นรูปของอสุรกายสามชนิดที่คุ้นเคย

“เฮลล์ฮาวนด์ จงใช้ความเร็วและความคล่องตัวให้เป็นประโยชน์ อย่าปะทะตรงๆ แดรคีเน ล่อให้พวกมันเข้ารุมในที่แคบแล้วใช้โล่กระแทกเพื่อทำลายการประสานงาน ยักษ์ไลสโตรโกเนียน ให้ใช้สมอง อย่าใช้กำลัง หาสิ่งกีดขวาง ทำให้พวกมันเสียหลักล้มด้วยตัวเอง”

ทฤษฎีถูกสรุปจบลงอย่างรวดเร็วและกระชับ จากนั้นก็เป็นการฝึกการเคลื่อนที่บนพื้นที่จำลองที่ไม่เรียบและเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง ธิดาแห่งเฮคาทีต้องเรียนรู้ที่จะตระหนักถึงรอบทิศทาง ระวังหลังอยู่เสมอ และใช้ทุกย่างก้าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด

และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุด การทดสอบขั้นสุดท้ายในฉากการต่อสู้จำลอง

เอมีเลียชี้นิ้วไปยังกลางลานประลอง หุ่นยนต์อสูรที่ทำเลียนแบบจากสัมฤทธิ์สามตัวอยู่ตรงนั้นมาพักใหญ่แล้ว ดุท่ารุ่นพี่จะขอความช่วยเหลือจากกระท่อมเฮเฟตัสมาไม่น้อยในการฝึกพวกเธอ พวกมันคำรามลั่นด้วยเสียงของกลไกที่น่าขนลุก เฮลล์ฮาวนด์ที่เคลื่อนไหวได้เร็วดั่งเงา, แดรคีเนที่แกว่งดาบและแส้ไปมาอย่างน่ากลัว, และยักษ์ไลสโตรโกเนียนขนาดจำลองที่ยังคงดูน่าเกรงขาม

“เป้าหมายของเธอคือเอาชีวิตรอดและทำลายพวกมันให้ได้ทั้งหมด” เอมีเลียสั่งการ “ฉันจะประเมินผลจากท่าทาง การตัดสินใจ และการใช้ทักษะของเธอ เริ่มได้!”

สิ้นเสียงคำรามของครูฝึก เฮลล์ฮาวนด์จักรกลก็พุ่งเข้าใส่เป็นตัวแรก!

ไนท์ไม่ได้พุ่งเข้าปะทะ แต่กลับวิ่งหลบไปทางด้านข้าง ใช้เสาหินจำลองเป็นที่กำบัง ดวงตาที่คมกริบกวาดมองการเคลื่อนไหวของศัตรูทั้งหมดอย่างรวดเร็ว แดรคีเนกำลังขยับปีกเข้ามาจากทางซ้าย ในขณะที่ยักษ์กำลังเงื้อกระบองเตรียมทุบ

“แผน แผนอยู่ไหน!” เสียงของวิญญาณสาวดังขึ้นอย่างร้อนรน

ธิดาแห่งเฮคาทีใช้ความคิดในเสี้ยววินาที นางกระแทกโล่เข้ากับเสาหินอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสนั่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเฮลล์ฮาวนด์ ก่อนจะพุ่งตัวออกจากที่กำบังแล้วสไลด์ตัวลอดใต้แขนของยักษ์ที่กำลังเหวี่ยงกระบองลงมาอย่างสุดแรง

โครม! กระบองทองสัมฤทธิ์ฟาดเข้ากับพื้นดินจนสะเทือนเลื่อนลั่น

จังหวะนั้นเอง ไนท์ก็ดีดตัวขึ้นมาอยู่ด้านหลังของยักษ์แล้วใช้ดาบแทงเข้าไปที่ข้อพับเข่าที่เป็นจุดเชื่อมต่อกลไกอย่างแม่นยำ ยักษ์จักรกลเสียหลักล้มคุกเข่าลง แดรคีเนที่กำลังพุ่งเข้ามาต้องชะงักกะทันหัน

นั่นคือโอกาสที่รอคอย! ร่างอรชรไม่รอช้า พุ่งตัวเข้าใส่แดรคีเนทันที เสียงดาบปะทะกับดาบดังขึ้นเป็นประกายไฟ โล่ถูกใช้เพื่อปัดป้องแส้ที่ฟาดเข้ามา ก่อนที่เจ้าของรอยยิ้มงามจะใช้ท่า “ป้องกันและสวนกลับ” ที่เพิ่งเรียนมาสดๆ ร้อนๆ

เคร้ง! โล่รับการฟันของแดรคีเนไว้ได้ ก่อนที่คมดาบของไนท์จะแทงสวนกลับเข้าไปที่ช่องว่างใต้แขนของหุ่นยนต์อย่างรวดเร็ว แดรคีเนจักรกลชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่แสงไฟในดวงตาของมันจะดับวูบลง

เหลือเพียงตัวสุดท้าย เฮลล์ฮาวนด์ที่กำลังวิ่งวนรอบตัวอย่างสับสน

“จบมันซะ!”

สตรีผู้สวมแหวนผีสิงไม่ได้รอให้ศัตรูตั้งตัวได้ นางใช้ความได้เปรียบจากพื้นที่ที่ไม่เรียบกระโดดขึ้นไปบนซากของยักษ์จักรกล แล้วพุ่งตัวลงมาหาเฮลล์ฮาวนด์จากมุมสูงราวกับเป็นนักล่าแห่งรัตติกาล คมดาบฟาดเฉือนลงไปที่ลำคอของมันอย่างแม่นยำและไร้ซึ่งความปรานี ศีรษะของหุ่นยนต์สุนัขกลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้น

ทุกอย่างกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงหอบหายใจของหญิงสาวและเสียงกลไกที่กำลังจะหยุดทำงาน

เอมีเลียเดินเข้ามาเงียบๆ ใบหน้าของหล่อนยังคงเรียบเฉย แต่ในแววตานั้นมีความพึงพอใจฉายชัดออกมา

“การตัดสินใจดี การเคลื่อนไหวใช้ได้” หล่อนกล่าวสรุป “แต่ยังลังเลเกินไปในจังหวะสุดท้าย”

ครูฝึกผู้เป็นตำนานหยุดยืนตรงหน้าลูกศิษย์ ก่อนจะวางมือลงบนบ่าของไนท์เบาๆ “แต่สำหรับภารกิจที่เธอกำลังจะไปเจอ แค่นี้ก็ถือว่าสอบผ่านแล้วล่ะ”

มันคือคำชมที่สูงที่สุดเท่าที่จะได้รับจากเอมีเลีย แอร์ฮาร์ต และคือตราประทับสุดท้ายที่ยืนยันว่า ธิดาแห่งเฮคาทีคนนี้ พร้อมแล้วสำหรับทุกสิ่งที่จะมาถึงในภารกิจ.. เอ๊ะ หรือเหมือนเธอลืมอะไรไปบางอย่าง

*****

เข้าเรียนวิชาดาบและโล่ 4/4 ครบ!
รางวัลเข้าชั้นเรียน: +10 EXP , +20 ความกล้า


กินสเต็กมิโนทอร์ย่าง : ผู้กินอาหารจานนี้ผ่านโรลเพลย์และส่งมาไอดี GOD ได้รับ +3 Point


[NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต
ให้ แฮมเบอร์เกอร์ ของโปรด +20
กำไลมิตรประสาน : ทุกครั้งที่สนทนาคู่สนทนาจะรู้สึกถึงออร่าบางอย่างที่ทำให้รู้สึกคุ้นเคยและสนิทสนมกับคุณขึ้นเล็กน้อย ได้รับโบนัสพิเศษ +10 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)
การพูดคุย: +5 ความสนิทสนม คือผมเรียนกับคุณคับ

@God 
i'll melt your heart into two @HyeRi Codes

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-06] เอมีเลีย (แมรี่) แอร์ฮาร์ต เพิ่มขึ้น 35 โพสต์ 2025-8-2 22:42
God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-8-2 22:41
God
คุณได้รับ +5 ความกล้า โพสต์ 2025-8-2 22:41
โพสต์ 22310 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-2 22:38
โพสต์ 22,310 ไบต์และได้รับ +8 EXP +7 เกียรติยศ +7 ความกล้า จาก ไฟแช็ค  โพสต์ 2025-8-2 22:38
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
ต้านทานเวทมนตร์
สื่อสารกับสุนัข
ไฟแช็ค
ปากกาหมึกซึม
กิ๊บติดผม
กล่องดนตรี
ตำราเวทมนต์เฮคาที
การควบคุมหมอกขั้นสูง
เข็มกลัดเฮคาที
ทักษะยิงปืน
แหวนดาราจรัส(D)
คิดค้นคาถา
เส้นทางลับ
เรียกอาวุธจากหมอก
กล้องถ่ายรูป
Daedalus's Legacy
กำไลมิตรประสาน
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
การปลุกผี
การร่ายคาถา
ศาสตร์การปรุงยา
คบเพลิงเวท
ผลิตภัณฑ์กันแดด
แหวนจันทราทมิฬ
โล่อัสพิส
เกราะหนัง
ชุดเครื่องเพชร
รองเท้าส้นสูง
สื่อสารกับภูตผีปีศาจ
โรคสมาธิสั้น
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x10
x2
x18
x9
x11
x16
x5
x5
x2
x4
x1
x1
x4
x1
x5
x2
x20
x10
x4
x3
x1
x2
x5
x1
x1
x3
x1
x40
x7
x4
x35
x1
x3
x3
x35
x4
x16
x1
x1
x1
x1
x4
x1
x6
x2
x8
x10
x2
x1
x1
x9
x1
x1
x28
x1
x5
x2
x2
x3
โพสต์ 2025-8-13 00:34:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด



White Swan in The Ocean

2/4 SWI

5th August 2025 9-11 AM


   เช้านี้ลานฝึกทวนเต็มไปด้วยไอหมอกบาง ๆ จากทะเลสาบที่อยู่ไม่ไกล แดดยังอ่อนแต่ก็เริ่มแผดขึ้นเล็กน้อย เสียงนกร้องประสานกับเสียงฝีเท้าของเด็ก ๆ ที่ทยอยเข้ามาในลานฝึก

   ริปลีย์มาถึงพร้อมเหงื่อซึมเล็กน้อยหลังจากการวอร์มอัพ เธอหยิบทวนฝึกบุด้วยนวมขึ้นมาหมุนทดสอบน้ำหนัก ก่อนโซเฟียจะก้าวเข้ามาด้วยเสื้อค่ายสีส้มและกางเกงยีนส์เหมือนเคย มือข้างหนึ่งถือถ้วยกาแฟดำไอน้ำกรุ่น

   “เช้า ๆ แบบนี้สมองยังไม่ตื่นใช่ไหม? ดีเลย…จะได้ตื่นเพราะทวนของฉัน”

   ก่อนเข้าฝึกแทงและปัดป้อง โซเฟียให้ทุกคนยืนเป็นวงแล้วทำ Footwork Drill – ก้าวหน้า, ถอยหลัง, สไลด์ข้าง – เพื่อปลุกกล้ามเนื้อและฝึกสมดุล

   ริปลีย์ใช้พื้นฐานบัลเลต์เข้าช่วย ทำให้ก้าวได้มั่นคง แต่โซเฟียก็แกล้งเดินมาสะกิดทวนเธอแรง ๆ เพื่อดูว่าจะเสียจังหวะหรือไม่

   “อย่าเต้นเหมือนอยู่ในงานกาล่า…นี่คือการขยับตามจังหวะการเอาตัวรอด”

   ในช่วงต่อมาเป็นการเรียนรู้ศาสตร์แห่งการแทง (The Science of the Thrust) โซเฟียสาธิตการแทงสูง (High-line) และต่ำ (Low-line) พร้อมเน้นให้แรงส่งมาจากเท้า–สะโพก–ลำตัว–ไหล่–แขน ปลายทวนพุ่งอย่างตรงและเร็ว

   ริปลีย์ลองตาม แต่แรก ๆ ยังใส่แรงมากเกินไปจนเสียจังหวะ เธอจึงปรับให้เน้นความแม่นแทนความแรง

   “อย่าฆ่ามันด้วยพลัง…ฆ่ามันด้วยการแทงที่แม่นยำ ถูกที่ถูกเวลา”

   ต่อไปเป็นการเรียนศิลปะแห่งการปัดป้อง (The Art of the Parry) โซเฟียใช้ทวนเบี่ยงการโจมตีจากคู่ฝึกอย่างนุ่มนวล แต่คมพอจะเปิดช่องสวนกลับทันที (Riposte)

   นักเรียนถูกจับคู่ให้ฝึกแบบช้า ๆ – ฝ่ายหนึ่งแทงตามรูปแบบ อีกฝ่ายปัดแล้วสวน ริปลีย์จับคู่กับเดมิก็อดบ้านแอรีสที่สูงกว่าเธอเกือบหัว แต่เธอใช้การสไลด์หลบพร้อมปัดให้คู่ฝึกเสียจังหวะ ก่อนแทงกลับอย่างรวดเร็ว

   “ดี…จังหวะนั้นคงเสียเขี้ยวไซคลอปส์ไปแล้วหนึ่งซี่”

   โซเฟียที่เดินผ่านมาเห็นพอดีก็หัวเราะเบา ๆ พร้อมเอ่ยอย่างชอบใจ การเรียนทั้งสามหัวข้อการเรียนรู้นี้กินเวลาไปตามคาบเรียนสองชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว ครั้นเมื่อใกล้เวลาเลิกคลาสโซเฟียก็เป่านกหวีดเพื่อเรียกให้ทุกคนหยุดก่อนจะมารวมตัวกันเพื่อฟังสรุปความหลังเลิกคลาส

   “จำไว้—ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีเหตุผล ถ้าทำไปเพราะดูเท่…ก็เตรียมโดนเจี๊ยะเป็นเนื้อจุ๊ยซี่ก่อนได้เลย”

   เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ จากนักเรียนดังขึ้น พร้อมกับความรู้สึกว่าทุกคนตื่นเต็มตาแล้ว ริปลีย์เดินออกจากลานฝึกพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ และทวนฝึกที่รู้สึก “คุ้นมือ” ขึ้นกว่าเดิมมาก

   อา…วันนี้น่าจะฝึกแค่นี้ได้ล่ะมั้ง ?




เปิดใช้งานเอฟเฟค


ปฏิสัมพันธ์กับ โซเฟีย คลาร์ก
+5 ความสนิทสนมจากการพูดคุย


ใช้ได้ตัวละครผู้หญิงเท่านั้น : ทุกครั้งที่โรลเพลย์ลงท้ายด้วยเลขไบต์ 2 4 6 8 คู่สนทนาจะได้กลิ่นหอมบนตัวคุณ ได้รับโบนัสพิเศษ+2 แต้ม (เฉพาะรุ่นพี่และเพื่อนเท่านั้น)

รางวัลเข้าชั้นเรียน (แนบโรล): +10 EXP
@God

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-8-13 00:50
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-04] โซเฟีย คลาร์ก เพิ่มขึ้น 5 โพสต์ 2025-8-13 00:50
โพสต์ 9679 ไบต์และได้รับ 4 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-13 00:34
โพสต์ 9,679 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ จาก Hydro X  โพสต์ 2025-8-13 00:34
โพสต์ 9,679 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า +2 ความศรัทธา จาก หินสมุทรเทพ(*)  โพสต์ 2025-8-13 00:34
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
1234567
ตั้งกระทู้ใหม่ กลับไป
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้