[The LoNex Principal] Titus Flavius Domitianus (ไททัส ฟลาวิอุส โดมิติอานุส)

🎕ข้อมูลพื้นฐานบุคลิกภาพชีวประวัติส่วนเสริม

01

Domitian Emperor

Dominic Stone (D.S.)

02

Full Name:
Titus Flavius Domitianus

Statue: GOD

BIRTH: 
24 October 51

Legacy of Minerva

Alias: THE sadism

Affiliation: LoNex

dato más largito

Titus Flavius Domitianus (Dominic Stone (D.S.))

03

personality

    โดมิเซียน เป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพที่ซับซ้อนและมีสองด้านอย่างชัดเจน โดยเริ่มจากการเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถและมีความรับผิดชอบทางการคลัง ซึ่งนำมาซึ่งเสถียรภาพยาวนานให้กับจักรวรรดิโรมันในยุคแรกของการปกครอง
 แต่ในท้ายที่สุดกลับกลายเป็นทรราชผู้หวาดระแวงและโหดเหี้ยม ความหวาดระแวงอันฝังลึกนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เขาต้องแยกตัว โดยมีสัญลักษณ์เด่นคือการใช้หินเฟนไจต์สะท้อนแสงในวังเพื่อตรวจจับผู้ลอบสังหาร ซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นผู้ไม่ไว้วางใจใครง่าย ๆ และสร้างระบบการเฝ้าระวังที่สมบูรณ์แบบเพื่อความอยู่รอดหลังความตาย

04

story

        จักรพรรดิไททัส ฟลาวิอุส โดมิติอานุส (Titus Flavius Domitianus) ผู้เป็นที่รู้จักในนาม โดมิเซียน ทรงปกครองจักรวรรดิโรมันตั้งแต่ปี ค.ศ. 81 ถึง 96 ประวัติศาสตร์ระบุว่ารัชสมัย 15 ปีของพระองค์แบ่งออกเป็นสองช่วงที่แตกต่างกัน ช่วงแรกแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการ ที่มีประสิทธิภาพ ความรับผิดชอบทางการคลัง และความพยายามในการรักษาระเบียบ และความยุติธรรมในจักรวรรดิ ความมีเสถียรภาพที่ยาวนานถึง 18 ปีภายใต้การปกครองของพระองค์เป็นสิ่งที่หาได้ยากในประวัติศาสตร์โรมัน

       ในรัชสมัยช่วงต้น โดมิเซียนทรงประกาศพระองค์เป็นผู้พิทักษ์ของเทพีมิเนอร์วา (Minerva) และทรงให้การอุปถัมภ์ต่อเทพ อะพอลโล (Apollo) อย่างเปิดเผย ในฐานะเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง, ดนตรี, และ การพยากรณ์ ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้เองที่โดมิเซียนได้ถวายความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อเทพอะพอลโล พระองค์ได้จัดตั้ง Capitoline Games และสถาปนาวิหารเพื่อเชิดชูเทพแห่งแสงสว่างและคำพยากรณ์ ความผูกพันนี้ได้นำไปสู่ ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและลึกซึ้ง (กุ๊กกิ๊ก) กับเทพอะพอลโลในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นเสมือน "ยุคทอง" ที่เต็มไปด้วยความฝันในความสมบูรณ์แบบและความรู้ที่ได้รับจากเหล่าทวยเทพ

       อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลัง รัชสมัยของพระองค์ถูกครอบงำด้วยความเป็นทรราชที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และความหวาดระแวงอย่างรุนแรง ซึ่งอาจมีรากฐานมาจากความร้าวฉานในความสัมพันธ์กับอะพอลโล หรือการทรยศครั้งใหญ่จากโอลิมปัส พระองค์เริ่มทำการสังหารหมู่สมาชิกวุฒิสภาและข้าราชการระดับสูงหลายครั้ง ความโหดร้ายนี้ไม่ได้มาจากความบ้าคลั่งโดยกำเนิด แต่มาจากความต้องการในการควบคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จและไม่ยอมลดราวาศอก ซึ่งเป็นลักษณะที่จำเป็นสำหรับจักรพรรดิที่ต้องเผชิญกับการกบฏจริง ๆ

     สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในด้านบุคลิกภาพของโดมิเซียนและเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจการ "ฉายเดี่ยว" ของเขาคือ ความหวาดระแวงที่ฝังลึก มีบันทึกว่า โดมิเซียนถึงกับสั่งให้บุผนังของระเบียงทางเดินในพระราชวังด้วยหินเฟนไจต์ ซึ่งเป็นหินมันวาวที่ค้นพบในยุคของเนโร หินชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อน ทำให้พระองค์สามารถเห็นเงาของผู้ลอบสังหารที่กำลังย่องเข้ามาด้านหลังได้ล่วงหน้า การเฝ้าระวังที่สมบูรณ์แบบนี้เป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากความไม่ไว้วางใจใครเลยแม้แต่เทพเจ้าเอง

การเปลี่ยนสถานะเป็นเทพชั้นรองผ่านอำนาจมืด
  เช่นเดียวกับสามจักรพรรดิโรมันของไทรอัมวิเรตโฮลดิ้งส์ที่สามารถบรรลุสถานะเป็นเทพชั้นรองได้ผ่านการบูชาและชื่อเสียงที่คงอยู่แม้หลังจากความตาย โดมิเซียนก็ได้ใช้กลไกที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าพระองค์จะถูกวุฒิสภาลงโทษด้วยการทำลายความทรงจำ (Damnatio Memoriae) หลังจากการลอบสังหารในปี ค.ศ.96 แต่ความโหดร้ายและความน่าสะพรึงกลัวที่พระองค์ทิ้งไว้ในจิตสำนึกของมนุษย์นั้นคงอยู่ การปฏิเสธแสงสว่างของอะพอลโลและการโอบรับความมืด ได้เปลี่ยนเส้นทางสู่ความเป็นเทพของพระองค์ ซึ่งเป็นรากฐานของอาณาจักรใต้พิภพ LoNex ในยุคปัจจุบันด้วยที่คุมเครือข่ายของโลกใต้ดิน ธุรสีเทาในตลาดมืดไว้อย่างครบวงจร

05

Extras

LoNex เป็นการแสดงออกถึงความทะเยอทะยานในการบริหารจัดการและการควบคุมทางการคลังของโดมิเซียนในโลกยุคใหม่ โดยที่ D.S. เลือกที่จะควบคุม ตลาดมืดในโลกใต้ดิน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ไม่สามารถถูกสั่นคลอนได้ ต่างจากไทรอัมวิเรตที่พึ่งพาโครงสร้างสมัยใหม่ ดังนั้น โดมินิก สโตน (Dominic Stone) จึงเป็นภัยคุกคามที่ไม่เหมือนใคร: เป็นสัญลักษณ์ของความหวาดระแวงและความทะเยอทะยานที่ถูกซ่อนไว้และได้รับการจัดระเบียบอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งใช้ความสามารถในการบริหารที่ชาญฉลาดสร้างอาณาจักรใต้พิภพที่ยั่งยืนและลึกซึ้งกว่าความร่วมมือที่คาดเดาได้ยากของไทรอัมวิเรต

habilities

1) การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ: สร้างเสถียรภาพและความยุติธรรมในจักรวรรดิ (ช่วงแรกของรัชสมัย)

2) ความรับผิดชอบทางการคลัง: บริหารจัดการเงินทุนและทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3) ความเป็นอัตตาธิปไตย (Autocracy): มีแนวทางการปกครองที่เด็ดขาดและมุ่งเน้นการควบคุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ

4) ความมั่นคงและการเอาตัวรอดความหวาดระแวงขั้นรุนแรง: แม้จะเป็นข้อบกพร่อง แต่ก็เป็นกลไกที่ผลักดันให้เกิดการป้องกันตนเองอย่างถึงที่สุด

5) การสร้างระบบเฝ้าระวังที่สมบูรณ์แบบ: ความไม่ไว้วางใจนำไปสู่การพัฒนาระบบที่ทำให้รอดพ้นจากการทรยศและการค้นพบ

6) การหลีกเลี่ยงความร่วมมือ: ความสามารถในการ "ฉายเดี่ยว" เพื่อลดความเสี่ยงจากการทรยศภายใน

7) การควบคุมตลาดมืด: ควบคุม "ตลาดมืดในโลกใต้ดิน" ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ไม่สามารถถูกสั่นคลอนได้ขององค์กร LoNex

8) การรักษาอำนาจในความมืด: ความสามารถในการรักษาสถานะเทพชั้นรองผ่านความน่าสะพรึงกลัวที่คงอยู่ในจิตสำนึกของมนุษย์

9) การบริหารเครือข่ายใต้ดินขนาดมหึมา: ใช้ทักษะทางการคลังในอดีตเพื่อจัดการเครือข่าย LoNex ให้เป็นแหล่ง "ต้นทุนขององค์กร" ที่ทำให้เขามีอำนาจเหนือแก๊งมาเฟียทั่วโลกที่ยังหลงเหลืออยู่ในยุคปัจจุบัน