เจ้าของ: God

[ทิศเหนือของค่าย] ป่าต้องห้าม

  [คัดลอกลิงก์]
โพสต์ 2025-7-16 20:06:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด







Daemon  Kannel

16 · กรกฎาคม · 2025
 · 17.40 น.
          เดม่อนครุ่นคิดถึงคำพูดของไพเพอร์ขณะที่เขาก้าวเดินลึกเข้าไปในแนวป่าด้านตะวันออกของค่าย ความคิดเรื่องลิเลียน่ายังคงวนเวียนอยู่ในหัว 'บางทีเราอาจจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันอีกแล้ว' เขายอมรับความจริงอย่างยากลำบาก 'แต่ฉันจะจดจำมิตรภาพของเราเอาไว้เสมอ' ความรู้สึกที่ได้รับพรจากเลปพราคอนช่วยให้เขาไม่จมอยู่กับความเศร้าและตัดสินใจที่จะก้าวต่อไป

          เขามาถึงทางเข้าป่าต้องห้ามที่ปกคลุมไปด้วยเงามืดครึ้มของต้นไม้ใหญ่ เสียงใบไม้เสียดสีกันตามแรงลมราวกับเสียงกระซิบต้อนรับ เดม่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ ความชื้นและกลิ่นดินป่าแทรกเข้ามาในปอด เขากระชับโล่อัสพิสบนแผ่นหลังให้แน่นขึ้น เตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า

          เดม่อนเดินลัดเลาะไปตามแนวป่าที่อยู่ใกล้กับเขตแดนค่าย พยายามสังเกตการณ์สภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง แม้จะผ่านไปเพียงสิบกว่านาที แต่ความเงียบสงบของป่าก็ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายจากความวุ่นวายภายในค่าย

          แต่แล้วความเงียบนั้นก็ถูกทำลายด้วยเสียงปะทะของโลหะ และเสียงสั่งการที่คุ้นเคย

      "เร็วกว่านี้ รูบี้! ไม่ใช่แค่วาดลวดลาย แต่ต้องมีพลัง! จำไว้ว่าทุกการเคลื่อนไหวมีผลลัพธ์!"

          เดม่อนหยุดชะงัก สายตาเขากวาดไปตามเสียง และก็พบกับภาพที่น่าตกใจ แคลรีส ลา รู ธิดาแห่งแอรีส รุ่นพี่ที่เพิ่งมาถึงค่ายได้ไม่นาน กำลังยืนอยู่กลางลานเล็กๆ ที่ดูเหมือนเป็นสนามฝึกชั่วคราว เธออยู่ในชุดฝึกเต็มยศ กำลังถือไมเมอร์ หอกไฟฟ้าคู่ใจของเธอ และตรงหน้าเธอก็คือรูบี้ ซู เด็กสาวจากบ้านแอรีสเช่นกัน รูบี้กำลังถือกระบี่เทียนหวง พลางเคลื่อนไหวอย่างพริ้วไหวราวกับนักวูซู

          แคลรีสหันมาเห็นเดม่อนที่ยืนอยู่ห่างๆ ใบหน้าบึ้งตึงของเธอปรากฏรอยยิ้มเหี้ยมๆ ที่เดม่อนคุ้นเคยจากข่าวลือเกี่ยวกับ 'นักเลงประจำค่าย'

          "อ้าว...เจ้าเด็กบ้านอะโฟรไดต์!" แคลรีสตะโกนเสียงห้าว "มาทำอะไรแถวนี้! นี่ไม่ใช่สวนดอกไม้นะ! หรือว่ามาฝึกซ้อม? ดีเลย! ไม่ต้องยืนตากลมอยู่ตรงนั้นหรอก มานี่ซะ! รูบี้! เธอก็ฝึกกับเจ้าเด็กนี่ต่อเลยล่ะกัน!"

          แคลรีสจ้องมองเดม่อนด้วยแววตาจริงจังปนข่มขู่ "นายเป็นเด็กบ้านอะโฟรไดต์นี่ ฉันจะไม่ลดระดับให้หรอกนะ! มาซะ ถ้าไม่อยากโดนอัดให้เละ!"

          เดม่อนกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง 'ซวยแล้วไง' เขานึกในใจ ปกติเขาพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับแคลรีสมาตลอด เพราะชื่อเสียงของเธอค่อนข้าง...ดุดัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะไม่มีทางเลือก

          เขาทำใจ ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปในสนามฝึกชั่วคราวอย่างช้าๆ รูบี้ ซู ที่มีใบหน้าหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี มองมาที่เขาด้วยแววตาที่แทบจะมองไม่เห็นเขาในฐานะคู่ต่อสู้

          "เอาล่ะพวกนาย" แคลรีสพูดเสียงดัง "ฉันจะสาธิตท่าพื้นฐานที่สำคัญในการต่อสู้ก่อน แล้วพวกนายก็ทำตาม" เธอเริ่มสาธิตท่าทางพร้อมหอกในมือ แต่ละท่าเต็มไปด้วยพละกำลังและความหนักแน่น "จำไว้...ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีเจตนา ไม่ใช่แค่ขยับไปตามน้ำ!"

          หลังจากสาธิตท่าทางพื้นฐานจบ แคลรีสก็สั่งให้เดม่อนและรูบี้เริ่มต่อสู้กัน "ลองใช้สิ่งที่ฉันสอนไปเมื่อกี้! แสดงให้ฉันเห็นว่าพวกนายมีดีแค่ไหน!" เธอจ้องมองเดม่อนเป็นพิเศษ "โดยเฉพาะนาย...เจ้าเด็กบ้านดอกไม้! อย่าให้ฉันผิดหวังล่ะ!"

          เดม่อนถอดแหวนออกมาก่อนจะดีดขึ้นอากาศ แหวนเปลี่ยนสภาพเป็นดาบเธซีอุสเรืองแสงสีฟ้าในมือของเขา เขาตั้งการ์ดขึ้น โล่อัสพิสถูกดึงมาประจำการที่แขน รูบี้ ซู พุ่งเข้ามาในทันทีด้วยความเร็วเหนือคาดหมาย กระบี่เทียนหวงของเธอพุ่งตรงมาที่ลำตัวของเดม่อนราวกับสายฟ้าฟาด เขาเบี่ยงตัวหลบได้อย่างเฉียดฉิว ดาบของเขาเหวี่ยงสวนกลับไป แต่รูบี้ก็หลบได้เช่นกัน การต่อสู้ของเธอเป็นไปอย่างพริ้วไหวและรวดเร็ว สลับกับการใช้ท่ายิมนาสติกและวูซูที่คล้ายจอมยุทธ์ เดม่อนต้องใช้พลังสมาธิทั้งหมดที่เขามีตามให้ทันการเคลื่อนไหวที่คาดเดาได้ยากของเธอ

          แคลรีสยืนกอดอกดูอยู่ห่างๆ ใบหน้าของเธอบึ้งตึง แต่แววตาก็ฉายแววพอใจกับการเคลื่อนไหวของรูบี้ และความพยายามของเดม่อน 'ดูซิว่าเจ้าเด็กดอกไม้นี่จะทนได้นานแค่ไหน' เธอคิด

          การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดกลางลานเล็กๆ ในป่า เสียงดาบกระทบกระบี่ดังเคล้ง! เป็นจังหวะ เดม่อนใช้ความแข็งแกร่งของโล่ป้องกันการโจมตีที่รวดเร็วของรูบี้ และหาจังหวะสวนกลับด้วยดาบเธซีอุสของเขา แม้จะเหนื่อยล้า แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ พรจากเลปพราคอนช่วยให้เขามีความอดทนและความมุ่งมั่นที่จะไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

           การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดกลางลานเล็กๆ ในป่า เสียงดาบกระทบกระบี่ดังเคล้ง! เป็นจังหวะ เดม่อนใช้ความแข็งแกร่งของโล่ป้องกันการโจมตีที่รวดเร็วของรูบี้ และหาจังหวะสวนกลับด้วยดาบเธซีอุสของเขา แม้จะเหนื่อยล้า แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ พรจากเลปพราคอนช่วยให้เขามีความอดทนและความมุ่งมั่นที่จะไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

           ชั่วโมงกว่าผ่านไป การต่อสู้ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น รูบี้ยังคงพลิ้วไหวราวกับสายน้ำ แต่เดม่อนก็ไม่ยอมให้เธอล้มง่ายๆ เขาใช้โล่รับการโจมตีอันรุนแรงของกระบี่เทียนหวงหลายครั้ง จนแขนเริ่มชาไปหมด โรคสมาธิสั้นของเขาช่วยให้เขาสามารถตอบสนองต่อการโจมตีได้เร็วขึ้น แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้าทางสมองอย่างหนัก
           
           ในที่สุด...จังหวะพลาดก็มาถึง รูบี้ใช้จังหวะที่เดม่อนพุ่งเข้าใส่ พลิกตัวหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว แล้วใช้ด้ามกระบี่ของเธอฟาดเข้าที่ด้านข้างลำตัวของเดม่อนอย่างจัง

           "อั่ก!" เดม่อนร้องออกมาเบาๆ ร่างกายของเขากระเด็นไปด้านหลัง พลางทรุดลงไปนั่งกับพื้น ดาบของเขาเปลี่ยนกลับเป็นแหวนและร่วงหล่นลงจากมือ โล่อัสพิสหลุดจากแขนกระแทกลงบนพื้นดิน

           "หยุด!" เสียงของแคลรีสดังขึ้น

           เดม่อนหอบหายใจอย่างหนัก ร่างกายของเขารู้สึกปวดไปหมด แต่เขาก็ยังเงยหน้ามองรูบี้ ใบหน้าของรูบี้ยังคงเรียบเฉย ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา แต่เดม่อนรู้ว่าเขาพ่ายแพ้แล้ว

           แคลรีสเดินเข้ามาหาเขา เธอจ้องมองเดม่อนที่นั่งอยู่บนพื้น ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย "นายทำได้ดีแล้วเจ้าเด็กบ้านอะโฟรไดต์" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ผิดจากที่เคยได้ยินมา มันไม่ใช่คำชมที่หวานหู แต่เป็นคำพูดที่จริงใจจากธิดาแห่งแอรีสที่หายากยิ่ง "หนึ่งชั่วโมงกว่า... นายรับมือกับรูบี้ได้นานกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะ"

           รูบี้เก็บกระบี่ของเธอเข้าฝัก แล้วมองมาที่เดม่อนอีกครั้ง ดวงตาของเธอยังคงดูเมินเฉย แต่เดม่อนสัมผัสได้ถึงความเคารพเล็กๆ น้อยๆ ที่แฝงอยู่ในแววตานั้น

           "กลับไปพักได้แล้ว" แคลรีสสั่ง "พรุ่งนี้ยังมีการฝึกอีกเยอะ"

           เดม่อนพยักหน้า เขารวบรวมแรงทั้งหมด พยุงตัวเองลุกขึ้นยืน คว้าแหวนและโล่ของเขาไว้ แม้จะพ่ายแพ้ แต่เขากลับรู้สึกดีอย่างประหลาด เขาได้ทดสอบตัวเองจนถึงขีดจำกัด ได้เรียนรู้สไตล์การต่อสู้ที่แตกต่างออกไป และที่สำคัญ...เขาไม่ได้ยอมแพ้ก่อนที่จะโดนล้มลง

           ก่อนที่แคลรีสจะเดินจากไป เดม่อนก็ตัดสินใจทำบางอย่าง เขารีบหยิบขวดน้ำแร่เย็นๆ ที่เตรียมมาสำหรับดื่มหลังการฝึกออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เธอ "รุ่นพี่ครับ...นี่ครับ...เป็นการขอบคุณครับ"

           แคลรีสเลิกคิ้วเล็กน้อย เธอรับขวดน้ำแร่ไป กวาดสายตาจากขวดไปยังใบหน้าของเดม่อน ใบหน้าที่ยังคงซีดเผือดจากการต่อสู้
           
           "ขอบใจ" เธอพูดสั้นๆ พลางเปิดฝาแล้วกระดกน้ำแร่เข้าปากไปอึกใหญ่

      "แล้วก็...พรุ่งนี้เจอกันที่สนามฝึกตอนเช้านะ" แคลรีสพูดต่อ พลางยื่นขวดน้ำที่เหลือกลับมาให้เดม่อน เธอไม่ได้ยิ้ม แต่ก็ไม่ได้ทำหน้าบึ้งตึงเหมือนที่เคย

      เดม่อนรับขวดน้ำมาถือไว้ เขารู้สึกตกใจเล็กน้อยที่รุ่นพี่แอรีสอยากจะฝึกเขาต่อ ไม่ใช่แค่คาบเรียนปกติ แต่เป็นการฝึกส่วนตัว!

    แต่แล้วเดม่อนก็สังเกตเห็นบางอย่าง สีหน้าของแคลรีสไม่ได้ดูยินดีที่จะรับฟังการปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอดูนิ่งเรียบราวกับก้อนหิน แต่ก็ฉายแววที่บอกว่า 'ถ้าแกกล้าปฏิเสธล่ะก็...'

           'ชิบหายแล้ว' เดม่อนคิดในใจ การฝึกกับธิดาแห่งแอรีสที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดนั้นไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากเจอเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาส่วนตัว แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว เขาแยกกับรุ่นพี่แคลรีสก่อนตามหาสำรวจต่อว่ารอบ ๆ ค่ายจะมีภัยคุกคามหรือไม่ ที่พยายามจะยุ่งย่ามกับบาเรีย ไม่รู้ว่าถ้าเจออสุรกายเขาจะจัดการไหวหรือเปล่า ความเหนื่อยล้ายังคงมีอยู่



มอบ น้ำแร่ ให้ [NPC-65] แคลรีส ลา รู (ของชอบ +20)
- พูดคุยประจำวัน +5
- หอมเย้ายวน : NPC รุ่นพี่หรือเพื่อนร่วมค่ายจะได้รับโบนัส +10 ความสนิทสนม
- เสน่ห์อันเลิศล้ำ : NPC รุ่นพี่หรือเพื่อนร่วมค่ายจะได้รับโบนัส +5 ความสนิทสนม
รวม: 40 แต้ม

NC

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-65] แคลรีส ลา รู เพิ่มขึ้น 40 โพสต์ 2025-7-16 20:06
โพสต์ 39113 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2025-7-16 20:06
โพสต์ 39,113 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความศรัทธา จาก มนต์มหาเสน่ห์  โพสต์ 2025-7-16 20:06
โพสต์ 39,113 ไบต์และได้รับ +15 EXP +1 Point +8 เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก ดาบเธซีอุส  โพสต์ 2025-7-16 20:06
โพสต์ 39,113 ไบต์และได้รับ +7 EXP +8 เกียรติยศ +10 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก หมวกนีเมียน  โพสต์ 2025-7-16 20:06
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Icarus Mirror
แหวนห้วงมิติ
คำสาปแห่งแอรีส
พร: ทนทานไฟ
โล่แห่งโทสะ
กางเกงเดินป่า
การควบคุมความรัก
ชุดบำรุงอาวุธ
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x8
x1
x9
x7
x10
x1
x1
x2
x14
x2
x1
x20
x6
x2
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-7-16 20:57:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด







Daemon  Kannel

16 · กรกฎาคม · 2025
 · 19.20 น.
    เวลา 19:20 น. แม้แสงอาทิตย์จะยังคงสาดส่องตามปรากฏการณ์ 'Eternal Sunshine' แต่บรรยากาศในค่ายฮาล์ฟบลัดก็เริ่มเปลี่ยนไป ผู้คนน้อยลง แสงไฟจากกระท่อมต่างๆ สว่างขึ้น และความเงียบสงบยามค่ำคืนเริ่มปกคลุม

    เดม่อนเดินออกมาจากลานฝึกในป่า หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดกับรูบี้และคำสั่งกึ่งบังคับให้ฝึกซ้อมเพิ่มจากแคลรีส ร่างกายของเขารู้สึกปวดร้าวไปทุกส่วน แต่จิตใจของเขากลับมุ่งมั่นกว่าที่เคย เขาตัดสินใจที่จะไม่กลับกระท่อมทันที แต่จะใช้เวลาสักหน่อยในการลาดตระเวน

    เขาเดินมุ่งหน้าไปยังแนวป่าด้านตะวันออกอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้เข้าไปลึกเหมือนตอนกลางวัน เพียงแค่เดินสำรวจไปตามขอบเขตของค่ายที่อยู่ใกล้กับป่าต้องห้าม เดม่อนใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดที่เขามี—สายตาที่คมกริบ การได้ยินที่เหนือกว่า และแม้กระทั่งกลิ่นที่เริ่มจะคุ้นชินกับกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตในตำนาน

    'ต้องแน่ใจว่าไม่มีตัวอะไรเล็ดลอดเข้ามาใกล้เขตค่ายมากเกินไป' เขานึกในใจ ภารกิจสำรวจพื้นที่อันตรายที่เขาสนใจยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด การมาเดินสำรวจในเวลานี้อาจช่วยให้เขาประเมินสถานการณ์ได้ดีขึ้น

    เดม่อนเดินช้าๆ กวาดสายตาไปตามพุ่มไม้และเงาต้นไม้สูงใหญ่ที่ทอดตัวยาว เขาตั้งใจฟังเสียงทุกเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงใบไม้ไหวตามลม เสียงสัตว์เล็กๆ หรือแม้แต่เสียงความเงียบที่ผิดปกติ


NC

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 8930 ไบต์และได้รับ 3 EXP!  โพสต์ 2025-7-16 20:57
โพสต์ 8,930 ไบต์และได้รับ +2 ความศรัทธา จาก มนต์มหาเสน่ห์  โพสต์ 2025-7-16 20:57
โพสต์ 8,930 ไบต์และได้รับ +1 เกียรติยศ +2 ความกล้า จาก ดาบเธซีอุส  โพสต์ 2025-7-16 20:57
โพสต์ 8,930 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ +3 ความกล้า +1 ความศรัทธา จาก หมวกนีเมียน  โพสต์ 2025-7-16 20:57
โพสต์ 8,930 ไบต์และได้รับ +2 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2025-7-16 20:57
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Icarus Mirror
แหวนห้วงมิติ
คำสาปแห่งแอรีส
พร: ทนทานไฟ
โล่แห่งโทสะ
กางเกงเดินป่า
การควบคุมความรัก
ชุดบำรุงอาวุธ
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x8
x1
x9
x7
x10
x1
x1
x2
x14
x2
x1
x20
x6
x2
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-7-16 21:21:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Daemon เมื่อ 2025-7-16 21:23








Daemon  Kannel

16 · กรกฎาคม · 2025
 · 19.40 น.
    เวลาล่วงเลยไปเกือบยี่สิบนาที จนกระทั่งเวลาประมาณ 19:40 น. จู่ๆ กลิ่นคุ้นเคยแต่ชวนคลื่นเหียนก็ลอยมาแตะจมูกเดม่อน — กลิ่นเหม็นสาบคล้ายวัวป่าที่เน่าเปื่อยผสมกลิ่นโลหะสนิม นั่นทำให้เขาชะงักฝีเท้าทันที

    'กลิ่นวัวเหม็นสาบ...อสุรกายศึกษาคาบแรกของโกรเวอร์' เดม่อนนึกขึ้นได้ทันที ประสาทสัมผัสที่เพิ่งฝึกฝนมาเมื่อบ่ายกำลังทำงานอย่างเต็มที่ เขากระชับเสื้อยืดสีส้มให้แน่นขึ้น

    เดม่อนถอดแหวนออกมาก่อนจะดีดขึ้นอากาศ แหวนเปลี่ยนสภาพเป็นดาบเธซีอุสเรืองแสงสีฟ้าในมือของเขา เขาเตรียมพร้อม โล่อัสพิสถูกดึงมาประจำการที่แขนทันที จากนั้นก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปหาต้นตอของกลิ่นช้าๆ

    ภาพที่เห็นทำให้เดม่อนขมวดคิ้วแน่น ตรงหน้าเขาคือร่างมหึมาของมิโนทอร์ มันกำลังยืนหันหลังให้เขา กรงเล็บขนาดใหญ่ทุบลงไปในอากาศเบื้องหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งแท้จริงแล้วมันกำลังทุบเข้ากับกำแพงบาเรียของค่ายที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

    'ขืนปล่อยไว้แบบนี้ บาเรียของค่ายอาจจะแตกได้!' เดม่อนคิดอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าตอนนี้เขาพร้อมที่จะรับมือกับมันได้แล้ว พรจากเลปพราคอนและความรู้จากคลาสของโกรเวอร์และเลเวอเรทท์ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น

    โดยไม่รอช้า เดม่อนพุ่งตัวเข้าใส่มิโนทอร์ทันที ด้วยความเร็วที่ฝึกฝนมา เขาวิ่งอ้อมไปด้านข้างของอสุรกายร่างใหญ่ หมายจะโจมตีจากจุดที่มันไม่ทันระวัง

    มิโนทอร์ยังคงบ้าคลั่งทุบตีบาเรีย มองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเดม่อนในทันที เมื่อเดม่อนเข้าประชิดตัว เขาก็เงื้อดาบเธซีอุสขึ้นสูง หมายจะฟาดฟันเข้าที่ขาของมิโนทอร์เพื่อลดความคล่องแคล่วของมัน

    แต่แล้ว สัญชาตญาณดิบของมิโนทอร์ก็ทำงาน มันหยุดการทุบตีกลางคัน หันขวับกลับมาด้วยความเร็วที่น่าตกใจ ดวงตาสีแดงก่ำจับจ้องมาที่เดม่อนด้วยความโกรธเกรี้ยว เสียงคำรามดังก้องกังวานไปทั่วป่า

    มิโนทอร์เหวี่ยงหมัดขนาดใหญ่เข้าใส่เดม่อนอย่างรวดเร็ว เดม่อนยกโล่อัสพิสขึ้นป้องกันสุดแรงเกิด เสียงปะทะดังสนั่นจนแขนของเดม่อนชาไปหมด แรงกระแทกทำให้เขาล้มกลิ้งไปกับพื้น

 'แรงเยอะกว่าที่คิด' เดม่อนคิดขณะที่รีบลุกขึ้นยืน เขาต้องใช้ความเร็วและความคล่องแคล่วเข้าสู้ เพราะพละกำลังอย่างเดียวเขาคงสู้มิโนทอร์ไม่ได้

    มิโนทอร์พุ่งเข้าใส่เดม่อนอีกครั้ง คราวนี้มันก้มหัวลง หมายจะใช้เขาแหลมคมขวิดใส่ เดม่อนรีบหลบไปด้านข้าง ปล่อยให้มิโนทอร์พุ่งชนต้นไม้ใหญ่แทน เสียงต้นไม้ลั่นดังสนั่น

    เดม่อนอาศัยจังหวะที่มิโนทอร์เสียหลัก พุ่งเข้าไปโจมตีที่ขาหลังของมันด้วยดาบเธซีอุส แสงสีฟ้าฟาดฟันเข้ากับผิวหนังหนาหนักของมิโนทอร์ เกิดเป็นรอยแผลลึก อสุรกายคำรามด้วยความเจ็บปวด

    การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด เดม่อนต้องเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการโจมตีอันหนักหน่วงของมิโนทอร์ และหาจังหวะโจมตีจุดอ่อนของมัน แม้จะเหนื่อยล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะปกป้องค่ายก็ทำให้เขาไม่ยอมถอย

    เขาใช้ดาบเธซีอุสฟาดฟันเข้าที่ขาของมิโนทอร์อีกครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ทำให้มันเริ่มเดินกะเผลก แต่เจ้าอสุรกายก็ยังคงคำรามกึกก้อง พยายามใช้เขาแหลมและหมัดยักษ์ขวิดและทุบเข้าใส่ไม่ยั้ง

    'ถึงเวลาต้องใช้ไม้ตายแล้ว!' เดม่อนคิด เขาตัดสินใจใช้พลังจากสายเลือดอะโฟรไดต์ที่ได้รับมา พลางจ้องมองไปที่ดวงตาสีแดงก่ำของมิโนทอร์ ดวงตาของเขาเปล่งประกายสีชมพูระเรื่อชั่วขณะหนึ่ง กลิ่นหอมจางๆ คล้ายดอกไม้แรกแย้มเริ่มลอยฟุ้งออกมาจากตัวเขา 

    "นาย...ดูเหนื่อยมากเลยนะ" เขาเอ่ยเสียงนุ่มนวล พยายามใช้มนต์มหาเสน่ห์โน้มน้าวอสุรกาย

      มิโนทอร์ชะงักไปชั่วครู่ ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งดูสับสนเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงสลัดหัวอย่างแรงราวกับพยายามขับไล่ความคิดประหลาดออกไปจากหัวสมองวัวๆ ของมัน 'ไม่ค่อยได้ผลแฮะ' เดม่อนคิด พลังนี้คงใช้กับอสุรกายที่ควบคุมสติไม่ได้เต็มที่ยากนัก

      แต่จังหวะที่มิโนทอร์ชะงักไปนั้นก็เพียงพอแล้ว เดม่อนไม่รอช้า เขารวบรวมสมาธิ พลังแห่งการแปลงร่างเริ่มทำงาน ร่างกายของเขายืดหดผิดรูปไปชั่วขณะ ก่อนจะกลายเป็นแมวดำขนปุยตัวเล็กๆ ในพริบตา เขาวิ่งลอดใต้หว่างขาของมิโนทอร์ไปอย่างรวดเร็ว

มิโนทอร์งงงวยกับการหายไปของคู่ต่อสู้ มันกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสับสน พยายามหาตัวเดม่อน

      เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา เดม่อนก็แปลงร่างกลับเป็นมนุษย์อีกครั้งที่ด้านหลังของมิโนทอร์อย่างรวดเร็ว เขากระโดดขึ้นบนหลังของอสุรกายยักษ์ทันที ก่อนจะเงื้อดาบเธซีอุสขึ้นสุดแขน และแทงลงไปที่บริเวณต้นคอของมิโนทอร์ซึ่งเป็นจุดอ่อนอย่างสุดแรง

      "อ๊ากกกกกก!" มิโนทอร์คำรามด้วยความเจ็บปวด มันดิ้นพล่านอย่างบ้าคลั่ง พยายามจะสลัดเดม่อนให้หลุดออกจากร่าง แต่เดม่อนเกาะแน่น ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของมัน

      แสงสีฟ้าจากดาบเธซีอุสสว่างวาบขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคมดาบที่เปื้อนเลือดตัดผ่านผิวหนังและเส้นประสาท เสียงกรีดร้องของมิโนทอร์ค่อยๆ แผ่วลง พลังชีวิตของมันเริ่มเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว

      ในที่สุด ร่างมหึมาของมิโนทอร์ก็ทรุดลงกับพื้นอย่างช้าๆ ก่อนจะแตกสลายกลายเป็นผงสีทองปลิวหายไปในอากาศ เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นกำมะถันและกลิ่นเหม็นสาบของวัวที่จางหายไปตามสายลม

      เดม่อนยืนหอบหายใจอย่างหนักอยู่กลางลานเล็กๆ นั้น เขาเหนื่อยล้าแทบหมดแรง ร่างกายปวดร้าวไปทุกส่วน แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ เขามองไปยังจุดที่มิโนทอร์เคยยืนอยู่ 'สำเร็จ... ฉันทำได้' เขาคิด

      เขายื่นมือไปหยิบขวดน้ำในเป้ออกมา กระดกน้ำเย็นๆ ลงคออึกใหญ่เพื่อดับกระหาย เสียงหอบหายใจของเขายังคงถี่รัว แม้จะไม่มีเหงื่อสักหยดไหลออกมาจากร่างกายด้วยพลังของอะโฟรไดต์ที่ชำระล้างร่างกายให้กลับมาสดชื่นอยู่เสมอ แต่ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้อย่างหนักหน่วงไม่ได้หายไปไหนเลย

      เดม่อนก้มลงเก็บสินสงครามที่มิโนทอร์ทิ้งไว้—มันคือแผ่นหนังของอสุรกาย ซึ่งดูเหมือนจะเป็นของที่ระลึกที่น่าสะสมสำหรับเดมิกอดอย่างเขา เขากระชับดาบเธซีอุสในมือจนมันหดกลับเป็นแหวนเงินบนนิ้ว ก่อนจะสะพายโล่อัสพิสเข้าที่เดิม

      เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เดม่อนก็หมุนตัว เดินออกจากป่าต้องห้ามในยามค่ำคืน มุ่งหน้ากลับเข้าไปในค่าย เพื่อรายงานภารกิจที่เขาเพิ่งทำสำเร็จ ดูเหมือนเขาจะจำได้ว่าพี่เลเวอร์ไม่อยู่ คงจะต้องไปกระท่อมเฮอร์มีสเพื่อให้พวกบ้านเฮอร์มีสช่วยส่งข่าวแจ้งพี่เลเวอร์ให้แล้ว





หนังมิโนทอร์ 1 ผืน

NC

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 28832 ไบต์และได้รับ 12 EXP!  โพสต์ 2025-7-16 21:22
โพสต์ 28,832 ไบต์และได้รับ +5 EXP +8 ความศรัทธา จาก มนต์มหาเสน่ห์  โพสต์ 2025-7-16 21:22
โพสต์ 28,832 ไบต์และได้รับ +15 EXP +6 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ดาบเธซีอุส  โพสต์ 2025-7-16 21:22
โพสต์ 28,832 ไบต์และได้รับ +7 EXP +8 เกียรติยศ +10 ความกล้า +5 ความศรัทธา จาก หมวกนีเมียน  โพสต์ 2025-7-16 21:22
โพสต์ 28,832 ไบต์และได้รับ +8 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ทักษะดาบ  โพสต์ 2025-7-16 21:22
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Icarus Mirror
แหวนห้วงมิติ
คำสาปแห่งแอรีส
พร: ทนทานไฟ
โล่แห่งโทสะ
กางเกงเดินป่า
การควบคุมความรัก
ชุดบำรุงอาวุธ
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x8
x1
x9
x7
x10
x1
x1
x2
x14
x2
x1
x20
x6
x2
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-7-22 00:22:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด







Daemon  Kannel

21 · กรกฎาคม · 2025
 · 14.00 น.
         เดม่อนตัดสินใจรับภารกิจ "มนตราสีเลือด" จากกระดานหินทันที โดยไม่รอช้า เขามุ่งหน้าไปยังป่าต้องห้ามที่อยู่ไม่ไกลจากค่ายนัก แสงแดดยามเที่ยงสาดส่องลงมาระหว่างกิ่งไม้สูงใหญ่ สร้างเงาและแสงสลับซับซ้อนไปตามทางเดินที่คุ้นเคย

         เขาเดินลึกเข้าไปในป่า ความเงียบสงัดของป่าถูกรบกวนเพียงเสียงลมพัดกระทบใบไม้และเสียงฝีเท้าของเขาเอง เดม่อนมองหาโพรงไม้ที่มีตราแห่งเฮเฟตัสประทับอยู่ตามที่ภารกิจบอกไว้ เขาเดินสำรวจไปเรื่อยๆ พลางใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดที่เรียนรู้มาในการสังเกตสิ่งรอบตัว

         ไม่นานนัก เขาก็พบโพรงไม้ขนาดใหญ่โพรงหนึ่งที่โคนต้นโอ๊กเก่าแก่ ผิวไม้รอบโพรงมีรอยไหม้เกรียมเล็กน้อย และมีสัญลักษณ์คล้ายค้อนและทั่งตีเหล็กที่เรืองแสงจางๆ ประทับอยู่ นั่นคือตราแห่งเฮเฟตัสอย่างไม่ต้องสงสัย

         เดม่อนเดินเข้าไปใกล้โพรงไม้ เขาเอื้อมมือเข้าไปสำรวจด้านใน และสัมผัสได้ถึงจดหมายที่ม้วนอยู่ข้างใน เขาดึงมันออกมา มันเป็นม้วนกระดาษหนังเก่าๆ ที่ผูกด้วยเชือกเส้นเล็กๆ

         ทันทีที่เดม่อนดึงจดหมายออกมาจากโพรงไม้ แสงสีแดงฉานก็สว่างวาบขึ้นมาจากด้านหลังต้นไม้ใหญ่ เสียงโลหะกระทบกันดังแกร๊กๆ ก่อนที่ร่างของเทพเจ้าองค์หนึ่งจะปรากฏขึ้น

         เฮเฟตัส เทพแห่งการตีเหล็กและไฟ ยืนอยู่ตรงนั้น ร่างกายของเขาดูบึกบึนแต่ก็มีร่องรอยของการทำงานหนัก ใบหน้าของเขาดูหยาบกระด้างและเต็มไปด้วยความขมขื่น ดวงตาของเขามองมาที่เดม่อนด้วยแววตาที่อ่านยาก แต่ก็แฝงไว้ด้วยความผิดหวังในชีวิตอย่างเห็นได้ชัด เคราสีดำของเขาดูยุ่งเหยิงและมีประกายไฟเล็กๆ ลุกวูบวาบอยู่บางครั้ง

         "เจ้ามาแล้วรึ...เจ้าลูกหลานอะโฟรไดต์" เฮเฟตัสเอ่ยเสียงแหบพร่า น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความเหนื่อยหน่าย "ข้าไม่แปลกใจนักที่เจ้าเห็นภารกิจนี้...เพราะเจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่ข้าต้องเผชิญ"

         เดม่อนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับเทพเจ้าโดยตรง "ท่านเฮเฟตัส...ผมมารับภารกิจครับ"

         เฮเฟตัสพ่นลมหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ "ภารกิจรึ? มันก็แค่เรื่องไร้สาระที่ข้าต้องจัดการกับความไม่รู้จักพอของเทพบางองค์เท่านั้นแหละ" เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองมาที่เดม่อนอย่างจริงจัง "เอาล่ะ ในเมื่อเจ้ามาแล้ว...ข้าจะบอกแผนการให้"

         "ข้าต้องการให้เจ้า...ไปตระเวนทั่วนิวยอร์ก" เฮเฟตัสกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เน้นย้ำทุกคำ "ไปตามสถานที่ต่างๆ ที่เจ้าคิดว่าแม่ของเจ้า...อะโฟรไดต์...กับเจ้าแอรีสคู่รักลับของนาง...น่าจะเคยไปเดทกัน"

         เดม่อนขมวดคิ้วเล็กน้อย 'นี่มันภารกิจสอดแนมชัดๆ'

         "จากนั้น...เจ้าต้องปล่อยข่าวลือ" เฮเฟตัสพูดต่อ ดวงตาของเขามีประกายแห่งความเจ้าเล่ห์แวบขึ้นมา "ข่าวลือเกี่ยวกับสถานที่ลับแห่งหนึ่งที่งดงามราวสรวงสวรรค์ เป็นที่ที่ซ่อนตัวอยู่ ณ ใจกลางแอนตาร์กติกา"

         เฮเฟตัสเว้นจังหวะ "เจ้าต้องทำให้ข่าวลือนี้แพร่สะพัดไปทั่ว...ให้มันดังพอที่อะโฟรไดต์จะมาได้ยินด้วยตัวเอง" เขาสูดหายใจลึกๆ "และเมื่อนางมาเจอเจ้า...เจ้าต้องโน้มน้าวนางให้พานายแอรีสไปฮันนีมูนที่นั่น!"

         เสียงของเฮเฟตัสเริ่มแข็งกร้าวขึ้นเมื่อพูดถึงแอรีส "จำไว้...ต้องโน้มน้าวให้นางพาเจ้าแอรีสไปด้วย! นี่คือหัวใจสำคัญของภารกิจนี้" เขามองเดม่อนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขมขื่นและความเจ็บปวด "ข้าจะจับตาดูอยู่...อย่าให้ข้าผิดหวังนะเจ้าเด็กน้อย...มิฉะนั้น...เจ้าจะได้เห็นความโกรธของข้า!"

           ถ้าเป็นไปได้เขาหวังว่าเฮเฟตัสแค่อยากจะคุยปรับความเข้าใจกับแม่ของเขาและแอรีส ภารกิจนี้เดินทางไกลและจะต้องขอช่วยเคบินที่สาม เดม่อนเดินไปยังเคบินที่สามเพื่อจะชวนเด็กโพไซดอนสักคน



เฮเฟตัส
HEROES (วีรบุรุษผู้โปรดปราน) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25
รวม: 25 แต้ม

NC

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [God-11-1] เฮเฟตัส เพิ่มขึ้น 25 โพสต์ 2025-7-22 00:42
โพสต์ 19681 ไบต์และได้รับ 9 EXP!  โพสต์ 2025-7-22 00:22
โพสต์ 19,681 ไบต์และได้รับ +10 EXP +10 เกียรติยศ +10 ความกล้า จาก ชุดบำรุงอาวุธ  โพสต์ 2025-7-22 00:22
โพสต์ 19,681 ไบต์และได้รับ +2 EXP +5 ความศรัทธา จาก มนต์มหาเสน่ห์  โพสต์ 2025-7-22 00:22
โพสต์ 19,681 ไบต์และได้รับ +5 EXP +2 เกียรติยศ +5 ความกล้า จาก ดาบเธซีอุส  โพสต์ 2025-7-22 00:22
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
Icarus Mirror
แหวนห้วงมิติ
คำสาปแห่งแอรีส
พร: ทนทานไฟ
โล่แห่งโทสะ
กางเกงเดินป่า
การควบคุมความรัก
ชุดบำรุงอาวุธ
มนต์มหาเสน่ห์
ดาบเธซีอุส
หมวกนีเมียน
ทักษะดาบ
นาฬิกาสปอร์ต
แปลงร่าง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
กำไลหินนำโชค
หอมเย้ายวน
ตาหลากสี
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
เสน่ห์อันเลิศล้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x1
x2
x8
x1
x9
x7
x10
x1
x1
x2
x14
x2
x1
x20
x6
x2
x1
x1
x1
x1
โพสต์ 2025-7-24 23:48:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

24.07.2025 | 05:00 PM

บทสนทนาเรื่องอำนาจของคำพูดและการเจรจาถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง, ถูกแทนที่ด้วยภาษาที่เก่าแก่และเป็นสากลกว่านั้น—ภาษาของสัญชาตญาณและการเอาตัวรอด แสงยามเย็นที่ส่องผ่านเรือนยอดของต้นไม้ในป่าต้องห้ามนั้นดูอ่อนแรงและป่วยไข้, ทำให้เงาที่ทอดตัวยาวบนพื้นดินดูบิดเบี้ยวและมีชีวิตชีวาอย่างน่าประหลาด

กลุ่มฝึกย่อยของแอนนาเบ็ธเคลื่อนตัวลึกเข้าไปในความมืดที่รกทึบ, ทุกย่างก้าวเงียบเชียบและระมัดระวัง สำหรับแอ็กเซล, นี่คือการเปลี่ยนจากสนามเด็กเล่นทางปัญญามาสู่สนามรบที่แท้จริง

สิ่งแรกที่พวกเขาได้สัมผัส…ไม่ใช่ภาพ, ไม่ใช่เสียง, แต่เป็นกลิ่น

มันคือกลิ่นเหม็นเน่าที่รุนแรงและชวนคลื่นไส้, กลิ่นสาบของซากศพที่เริ่มเน่าเปื่อยและดินที่ชื้นแฉะปะปนกันจนกลายเป็นม่านที่มองไม่เห็น มันหนาและหนักจนแทบจะสำลัก, เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าพวกเขาได้ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของนักกินซากแล้ว

แอนนาเบ็ธยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุดในทันที, ดวงตาสีเทาคมกริบของเธอกวาดมองไปรอบๆ, ประเมินสถานการณ์ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ

แล้วพวกเขาก็เห็นมัน

จากเงามืดหลังพุ่มไม้หนาทึบ, เงาร่างที่บิดเบี้ยวหลายร่างค่อยๆ ปรากฏตัวออกมา อัลกูล… พวกมันดูน่ารังเกียจยิ่งกว่าในตำราที่โกรวเวอร์เคยสอน ร่างกายที่ผอมแห้งและโก่งงอของพวกมันถูกปกคลุมด้วยขนที่จับกันเป็นก้อนและเต็มไปด้วยดินโคลน, กรงเล็บยาวสกปรกขูดขีดไปบนพื้นดิน, และดวงตาสีเหลืองขุ่นของพวกมันก็ลุกโชนในความมืดเหมือนถ่านไฟที่กำลังคุ

เสียงคำรามแหบห้าวและเสียงคลิกของขากรรไกรดังขึ้นจากหลายทิศทาง, เป็นการล้อมกรอบที่วางแผนมาอย่างดี พวกมันไม่ได้พุ่งเข้าโจมตีในทันที, แต่กลับเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้า, ล้อมวงเข้ามาทีละนิด, ทดสอบความกล้าของผู้บุกรุก

แต่มีอยู่ตัวหนึ่งที่แตกต่างออกไป

มันยืนอยู่นิ่งๆ ใจกลางของฝูง, ร่างของมันใหญ่และกำยำกว่าตัวอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด, แผลเป็นเก่าแก่พาดผ่านดวงตาข้างหนึ่งของมัน, และที่สำคัญที่สุด…ดวงตาสีเหลืองของมันไม่ได้ฉายแววเพียงแค่ความหิวกระหาย, แต่มันฉายแววของความเจ้าเล่ห์และความฉลาดที่น่าขนลุก—มันคือจ่าฝูง ดวงตาคู่นั้นจับจ้องมาที่เขาโดยตรง, เมินเฉยต่อเดมิก็อดคนอื่นๆ

ไม่นานเสียงประกาศิตของแอนนาเบ็ธก็ดังก้องไปทั่วลานประหารที่ไร้ผู้พิพากษา "โจมตี!"

มันคือสัญญาณปลดปล่อยความโกลาหล

เหล่าเดมิก็อดหน้าใหม่พุ่งเข้าปะทะกับฝูงอัลกูลที่หิวกระหาย, เสียงโลหะกระทบกับกรงเล็บ, เสียงคำราม, และเสียงตะโกนดังระงมขึ้นพร้อมกันท่ามกลางเงามืดของป่าต้องห้าม แอนนาเบ็ธไม่ได้เข้าร่วมวงโดยตรง, แต่เธอยืนคุมเชิงอยู่ไม่ไกล, คอยตะโกนสั่งการและชี้แนะจุดอ่อนของศัตรู, ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมกระดานที่วุ่นวายได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แต่สำหรับบุตรแห่งไทคี, โลกทั้งใบกลับหดแคบลงเหลือเพียงตัวเขากับอสูรกายจ่าฝูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

นี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้...แต่มันคือการเต้นรำ ความคิดนั้นผุดขึ้นในหัวของเขาอย่างเยือกเย็น

คู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้โง่เขลา มันไม่ได้คำรามแล้วพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง แต่มันกลับเคลื่อนที่ไปรอบๆ ตัวเขาอย่างเชื่องช้า, ดวงตาสีเหลืองที่เปี่ยมด้วยความเจ้าเล่ห์ของมันกำลังประเมินทุกการเคลื่อนไหวของเขา, มองหาช่องโหว่, มองหาความลังเลใจ

ดีลเลอร์แห่งค่ายฮาฟบลัดตอบรับการท้าทายนั้นด้วยความสงบนิ่ง เขาไม่ได้ชักดาบหรือพุ่งเข้าใส่ แต่เข็มกลัดที่ปกเสื้อของเขากลับแปรสภาพเป็นปืนพกสีดำทะมึนหนึ่งกระบอกในมืออย่างเงียบเชียบ

เกมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

แอ็กเซลเป็นฝ่ายเปิดตาเดินก่อน เขาไม่ได้เล็งไปที่หัวหรือหัวใจซึ่งเป็นเป้าหมายที่เด่นชัดเกินไป แต่กลับลดปากกระบอกปืนลงต่ำ, เล็งไปที่หัวเข่าของมัน

ปัง!

เสียงปืนที่เก็บเสียงไว้ดังขึ้นอย่างแห้งแล้ง อสูรกายจ่าฝูงไม่ได้หลบอย่างงุ่มง่าม…แต่มันเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง, ย่อตัวลงต่ำแล้วดีดตัวหลบกระสุนนัดนั้นไปด้านข้างได้อย่างเฉียดฉิว, ทิ้งให้กระสุนเจาะเข้าที่พื้นดินจนเกิดเป็นหลุมเล็กๆ

มันตอบโต้ในทันที, พุ่งเข้าใส่จากด้านข้าง, กรงเล็บแหลมคมตวัดผ่านอากาศในตำแหน่งที่ศีรษะของเขาเคยอยู่เมื่อเสี้ยววินาทีที่แล้ว บุรุษชาวรัสเซียทิ้งตัวลงต่ำ, กลิ้งตัวหลบไปบนพื้นดินที่ชื้นแฉะ, แล้วยันตัวลุกขึ้นยืนในระยะที่ปลอดภัย

การเต้นรำยังคงดำเนินต่อไป—เป็นการแลกเปลี่ยนการโจมตีและการหลบหลีกที่รวดเร็วและอันตราย แอ็กเซลไม่ได้พยายามจะยิงให้โดนเป้าหมายใหญ่ๆ แต่เขากลับใช้กลยุทธ์ที่น่ารำคาญใจกว่านั้น—การค่อยๆ ตอดเพื่อทำลายกำลัง

ปัง! ปัง!

กระสุนสองนัดถัดมาเล็งไปที่ข้อต่อหัวไหล่และข้อศอกของมัน นัดหนึ่งพลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย, แต่นัดที่สองกลับเฉี่ยวไปโดนแขนของมัน, ทิ้งรอยไหม้และกลิ่นเนื้อไหม้จางๆ ไว้เบื้องหลัง

ความอดทนของอสูรกายจ่าฝูงเริ่มหมดลง มันคำรามลั่นด้วยความโกรธ, ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังอีกต่อไป, แต่มันกลับพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น, หวังจะใช้พละกำลังดิบเถื่อนเข้าตัดสิน

และนั่นคือช่องว่างที่บุตรแห่งไทคีรอคอยอยู่

ในจังหวะที่มันพุ่งเข้ามาอย่างสุดแรง, แอ็กเซลไม่ได้กระโดดหลบไปด้านหลัง, แต่กลับสไลด์ตัวต่ำลง, สวนทางกับการโจมตีอย่างเฉียดฉิว, ลอดผ่านใต้ร่างที่น่ารังเกียจของมันไป และในเสี้ยววินาทีที่เขาอยู่ใต้ท้องของมัน, มีดสั้นที่คมกริบก็ปรากฏขึ้นในมืออีกข้างของเขา

ฉึก!

มีดสั้นในมือของเขากรีดผ่านเอ็นร้อยหวายที่ข้อเท้าข้างหนึ่งของมันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดดังลั่นไปทั่วป่า ร่างมหึมาของอสูรกายจ่าฝูงเสียหลัก, มันทรุดลงกับพื้น, ขาข้างหนึ่งใช้การไม่ได้อีกต่อไป

เกมจบแล้ว

บุรุษเจ้าของเส้นผมสีทองคำไม่ได้ปล่อยให้มันทรมาน เขาเดินเข้าไปหามันอย่างเยือกเย็น, ปลายกระบอกปืนในมือยกขึ้นเล็งอย่างมั่นคง, จ่อไปที่กลางหน้าผากที่น่ารังเกียจของมันซึ่งกำลังเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความตกตะลึง

ปัง!

กระสุนนัดสุดท้ายเจาะทะลุกะโหลกของมันอย่างเด็ดขาด, ยุติทุกสิ่งลงในทันที ร่างของมันแข็งทื่อไปชั่วขณะ, ก่อนจะระเบิดออกเป็นกองฝุ่นสีทองอร่ามที่ส่องประกายวูบวาบแล้วจางหายไปกับสายลม

เมื่อการต่อสู้หลักสิ้นสุดลง, ความโกลาหลรอบตัวก็เริ่มสงบลงเช่นกัน เหล่าเดมิก็อดคนอื่นๆ, ด้วยการนำของแอนนาเบ็ธ, ก็สามารถจัดการกับอัลกูลที่เหลือได้จนหมดสิ้น

แอ็กเซลยืนนิ่งอยู่กลางวงล้อมที่เคยเป็นสมรภูมิ, หอบหายใจหนักหน่วง, อะดรีนาลีนที่เคยพลุ่งพล่านเริ่มจางลง, ทิ้งไว้เพียงความเหนื่อยล้าที่กัดกินลึกไปถึงกล้ามเนื้อ แอนนาเบ็ธมองมาที่เขาจากอีกฟากหนึ่งของลานประหารที่ว่างเปล่า, ก่อนจะพยักหน้าให้ช้าๆ—เป็นการยอมรับที่ไร้คำพูดจากนักวางกลยุทธ์คนหนึ่งถึงอีกคนหนึ่ง

ความเงียบที่มาเยือนหลังการต่อสู้ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบ แต่กลับแบกรับน้ำหนักของความเหนื่อยล้าและความตึงเครียดที่เพิ่งผ่านพ้นไป อากาศในป่ายังคงอวลไปด้วยกลิ่นฝุ่นดินและกลิ่นสาบจางๆ ของอสูรกายที่เพิ่งสลายไป, เป็นของที่ระลึกอันไม่น่าอภิรมย์จากบททดสอบล่าสุด

"รวมตัว!" เสียงของแอนนาเบ็ธดังขึ้น, ตัดผ่านความเงียบงัน, ดึงสติของทุกคนกลับมาสู่ปัจจุบัน เหล่าเดมิก็อดหน้าใหม่ที่ยังคงยืนหอบหายใจและเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากต่างขยับเข้ามาล้อมวงเธออย่างรวดเร็ว, แววตาของแต่ละคนฉายแววของความสำเร็จระคนกับความอ่อนเพลีย

"ช่วงแรก...มันคือหายนะ" ธิดาแห่งอธีน่าเริ่มต้นบทสรุปด้วยความตรงไปตรงมา, ไม่มีการอ้อมค้อมใดๆ "พวกเธอต่างคนต่างสู้, ไม่มีแผน, ไม่มีการสื่อสาร ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันเองก็ไม่ได้ประสานงานกันดีนัก, เราคงสูญเสียมากกว่านี้" สายตาคมกริบของเธอกวาดมองทุกคน, ตอกย้ำความผิดพลาดให้ฝังลึกลงไปในใจ

"แต่" เธอเว้นจังหวะ, ปล่อยให้ความผิดหวังจางๆ เข้าปกคลุม ก่อนจะมอบคำชมที่ทุกคนรอคอย "พอพวกเธอเริ่มจับจังหวะได้, เริ่มฟังคำสั่ง, มันก็เปลี่ยนไป พวกเธอเริ่มทำงานเป็นทีม, เริ่มใช้จุดแข็งของตัวเองเพื่อสนับสนุนคนอื่น...และนั่นคือเหตุผลที่พวกเราทุกคนยังยืนอยู่ตรงนี้"

เธอพยักหน้าเล็กน้อยให้กับบุตรแห่งไทคี "การจัดการกับจ่าฝูงของนาย, มิคาอิลอฟ...เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ" จากนั้นจึงหันไปให้คำแนะนำกับคนอื่นๆ อีกสองสามคน, ชี้ให้เห็นทั้งจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง

"การฝึกวันนี้จบลงแล้ว" เธอกล่าวสรุป "กลับไปพักผ่อนซะ...แล้วจำความผิดพลาดของวันนี้ไว้ให้ดี"

เมื่อสิ้นคำสั่ง, เหล่าเดมิก็อดก็เริ่มแยกย้ายกันไปเป็นกลุ่มเล็กๆ, พูดคุยถึงการต่อสู้ที่เพิ่งผ่านมาด้วยความตื่นเต้นที่ยังไม่จางหายดี แต่ร่างสูงเจ้าของเส้นผมสีทองคำไม่ได้เดินตามคนอื่นๆ ไปในทันที เขารอจนกลุ่มเริ่มบางตาลง, แล้วจึงเดินเข้าไปหาแอนนาเบ็ธที่กำลังจะหมุนตัวกลับเช่นกัน

"สำหรับเสียงที่ต้องใช้ไปเมื่อครู่ครับ" เขาเอ่ยขึ้นเรียบๆ, พร้อมกับยื่นกระติกน้ำสแตนเลสใบเดิมที่เขาเตรียมมาให้อย่างรู้ทัน "สั่งการแก๊งเด็กวัยรุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย"

แอนนาเบ็ธหันกลับมา, ดวงตาสีเทาของเธอฉายแววขบขันเล็กน้อยระคนกับความทึ่งที่คาดไม่ถึง เธอมองกระติกกาแฟเย็นในมือของเขา, แล้วส่ายหัวเบาๆ ด้วยรอยยิ้มที่แทบมองไม่เห็น

"เธอนี่มัน...รอบคอบเกินไปจริงๆ นะ" เธอกล่าว, แต่ก็รับกระติกนั้นไปโดยไม่ปฏิเสธ

"ขอบใจ"

"เป็นเกียรติเสมอครับ รุ่นพี่" เขาตอบ, พยักหน้าให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินแยกกลับไปยังเส้นทางสู่เคบินของตัวเอง, ทิ้งให้ผู้นำกลุ่มฝึกย่อยยืนอยู่กับกาแฟเย็นและความคิดที่ซับซ้อนเกี่ยวกับน้องใหม่ผู้คาดเดายากคนนี้



Train with Annabeth (4/10)
Gift: Coffee (her favourite)
ความสัมพันธ์กับ NPC รุ่นพี่ที่สังกัด x2 (เฉพาะการให้ของ)
น้ำหอมบุรุษ: เลขไบต์ลงท้าย 2,4,6,8  + 2 bonus
+ 2 ตื่นรู้ จากการพิชิตอัลกูลครั้งแรก   Link
โบนัสพิชิตจ่าฝูง: +10 EXP +10 ความกล้า
สินสงคราม:
ไขกระดูก เลขไบต์ 0-4
เขี้ยวอัลกูล เลขไบต์ 5-9
หาก LUK 30 และได้เลขไบต์ 2 , 6 , 9 จะดรอปทั้งสองอย่าง)
หากมีค่า LUK 20 หน่วย จะอิงจากเลขไบต์รองสุดท้าย คือจำนวนที่ได้ 
หากมีค่า LUK 80 หน่วย จะอิงจากเลขไบต์ 0 = 10 ชิ้น





Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับ 5 EXP โพสต์ 2025-7-24 23:58
God
คุณได้รับ +5 ความกล้า โพสต์ 2025-7-24 23:58
God
คุณได้รับ 10 EXP โพสต์ 2025-7-24 23:58
God
คุณได้รับ +5 ความกล้า โพสต์ 2025-7-24 23:58
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-11] แอนนาเบ็ธ เชส เพิ่มขึ้น 42 โพสต์ 2025-7-24 23:58

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-8-2 21:14:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

01.08.2025 | 06:00 PM

แสงสีทองอ่อนจางของสนธยานิรันดร์กรองผ่านใบไม้ที่หนาทึบของป่าต้องห้าม, สร้างเงาที่ยาวและบิดเบี้ยวทอดลงบนพื้นดินที่ชื้นแฉะ, เปลี่ยนผืนป่าที่ควรจะดูมีชีวิตชีวาให้กลายเป็นดินแดนที่ลึกลับและน่าเกรงขาม อากาศภายในนี้เย็นและนิ่ง, แตกต่างจากความคึกคักของค่ายที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวโดยสิ้นเชิง

บุตรแห่งโชคชะตาก้าวข้ามแนวเขตที่มองไม่เห็นซึ่งกั้นระหว่างความปลอดภัยและความป่าเถื่อน, การเคลื่อนไหวของเขาราบรื่นและเงียบเชียบ, เหมือนกับนักล่าที่กำลังเข้าสู่เขตล่าของตัวเองมากกว่าจะเป็นเหยื่อที่กำลังหลงทาง เขาไม่ได้ตรงดิ่งเข้าไปในส่วนลึกของป่า, แต่กลับเลือกที่จะสำรวจไปตามแนวชายป่า, เป็นการล้อมกรอบพื้นที่เป้าหมายอย่างเป็นระบบ

ประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาตื่นตัวถึงขีดสุด ดวงตาสีฟ้าเทาของเขากวาดมองทุกรายละเอียด—ต้นไม้ที่บิดเบี้ยว, พุ่มไม้ที่หนาทึบเกินไป, และเงามืดที่อาจจะซ่อนอะไรบางอย่างไว้ หูของเขาคอยเงี่ยฟังเสียงที่ผิดปกติ, กรองเสียงลมและเสียงใบไม้ที่เสียดสีกันออกไป, เพื่อมองหาเสียงฝีเท้าหรือเสียงหายใจที่ไม่เข้าพวก

ไม่นานนัก, เขาก็พบกับร่องรอยแรก

ต้นโอ๊คขนาดใหญ่ต้นหนึ่งมีรอยแตกที่ผิดธรรมชาติ, ไม่ใช่รอยแตกที่เกิดจากฟ้าผ่าหรือพายุ, แต่เป็นรอยที่เหมือนถูกกระแทกด้วยพลังมหาศาลจากด้านข้าง, สูงจากพื้นดินเกือบสามเมตร

เขาเดินเข้าไปดูใกล้ๆ, ใช้นิ้วสัมผัสกับเนื้อไม้ที่เปิดอ้าออก, ประเมินความเสียหายอย่างเยือกเย็น…พลังขนาดนี้ไม่ใช่ฝีมือของสัตว์ป่าธรรมดาแน่นอน

เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกไม่กี่สิบเมตร, เขาก็พบกับหลักฐานชิ้นที่สอง—รอยเท้าที่ลึกและชัดเจนในดินโคลนที่อ่อนนุ่ม มันเป็นรอยอุ้งเท้า, แต่มีขนาดใหญ่กว่าของหมาป่าธรรมดาเกือบเท่าตัว, และระยะห่างระหว่างแต่ละก้าวก็บ่งบอกถึงสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว

กลิ่นเหม็นอับเหมือนเนื้อเน่าและกำมะถันจางๆ ลอยมาตามลม, ยืนยันว่าเขามาถูกทางแล้ว

บุรุษชาวรัสเซียยังคงเดินต่อไปอย่างไม่ลดละ, เก็บข้อมูลและสร้างแผนที่ในหัวของเขา เขาพบรอยขีดข่วนขนาดใหญ่บนก้อนหินที่แข็งแกร่ง, คมและลึกเกินกว่าจะเป็นฝีมือของหมีหรือเสือ, และใกล้ๆ กันนั้นก็มีขนสีดำหยาบกระด้างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนติดอยู่กับเปลือกไม้

ป่าแห่งนี้ไม่ได้แค่มีอสูรกาย…แต่มันคือแหล่งชุมนุมชั้นดีเลยทีเดียว

ภารกิจ 'ล้างบาง' ของแคลรีสดูเหมือนจะสมเหตุสมผลขึ้นมาในทันที การปล่อยให้เดมิก็อดมือใหม่เข้ามาในพื้นที่ที่มีร่องรอยของกิจกรรมหนาแน่นขนาดนี้…ก็ไม่ต่างอะไรจากการส่งแกะเข้าปากหมาป่า

เขาหยุดยืน, กวาดสายตามองไปรอบๆ, ประเมินสถานการณ์โดยรวม—พื้นที่ใกล้ชายป่ามีความหนาแน่นของอสูรกายอย่างน้อยสองถึงสามชนิด และพวกมันก็เพิ่งจะผ่านไปไม่นาน

เขายังไม่ได้เห็นตัวพวกมัน…แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา

การล่าที่ดีที่สุด…คือการล่าที่เหยื่อไม่เคยรู้ตัวว่าตัวเองกำลังถูกไล่ต้อน






Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ 11820 ไบต์และได้รับ 8 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-2 21:14
โพสต์ 11,820 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 เกียรติยศ จาก เกมคอนโซลพกพา  โพสต์ 2025-8-2 21:14
โพสต์ 11,820 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความกล้า จาก กำปั้นแห่งโชค  โพสต์ 2025-8-2 21:14
โพสต์ 11,820 ไบต์และได้รับ +2 EXP +2 ความศรัทธา จาก โชคพลิกผัน  โพสต์ 2025-8-2 21:14
โพสต์ 11,820 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 เกียรติยศ จาก Hydro X  โพสต์ 2025-8-2 21:14
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-8-2 23:35:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

01.08.2025 | 06:10 PM

การคาดการณ์ของเขาถูกต้องอย่างน่าเบื่อ

เสียงกรีดร้องแหลมสูงที่เสียดแก้วหูดังขึ้นจากยอดไม้เบื้องบน, เป็นเสียงที่ไม่เข้ากับความสงบที่น่าขนลุกของผืนป่าแห่งนี้เลยแม้แต่น้อย บุตรแห่งโชคชะตาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองด้วยความตื่นตระหนก, แต่กลับเคลื่อนที่ไปด้านข้างอย่างเป็นธรรมชาติ, ราวกับกำลังหลีกทางให้ใครบางคนเดินผ่าน

ในวินาทีนั้นเอง, ร่างของฮาร์ปี้สองตัวก็พุ่งดิ่งลงมายังจุดที่เขาเคยยืนอยู่, กรงเล็บที่แหลมคมของพวกมันกางออก, พร้อมที่จะฉีกกระชากเหยื่อที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

แต่เหยื่อของพวกมัน…ไม่ใช่เหยื่อ

ปัง! ปัง!

เสียงปืนสองนัดดังขึ้นอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด, กระสุนทองสัมฤทธิ์แต่ละนัดพุ่งขึ้นไปหาเป้าหมายของมันอย่างแม่นยำราวจับวาง ร่างของอสูรกายมีปีกร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นดินที่ชื้นแฉะ, ก่อนจะสลายกลายเป็นกองฝุ่นสีทองแล้วปลิวหายไปกับสายลม

เขาไม่ได้หยุดชื่นชมผลงานของตัวเองแม้แต่วินาทีเดียว, ปืนในมือของเขายังคงอยู่ในท่าเตรียมพร้อม, สายตาและประสาทสัมผัสยังคงสแกนพื้นที่รอบตัวอย่างต่อเนื่อง

กลิ่นเหม็นเน่าที่เคยจางๆ บัดนี้กลับรุนแรงขึ้น, เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการรบกวนของเขาได้ปลุกสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดให้ตื่นขึ้นแล้ว เงาร่างที่ผอมโซและบิดเบี้ยวสองร่างพุ่งออกมาจากหลังพุ่มไม้หนาทึบ, อัลกูล, ดวงตาที่กลวงโบ๋ของพวกมันจับจ้องมาที่เขาด้วยความหิวกระหายที่บริสุทธิ์

บุตรแห่งไทคีถอยหลังไปหนึ่งก้าว, เป็นการสร้างระยะห่างที่คำนวณมาอย่างดี, แล้วเหนี่ยวไกปืนอีกครั้ง กระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าที่กลางอกของอัลกูลตัวแรก, หยุดการเคลื่อนไหวของมันลงในทันที, ส่วนอีกตัวหนึ่งนั้นฉลาดกว่าเล็กน้อย, มันกระโจนหลบไปด้านข้าง, แล้ววิ่งซิกแซกเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วที่น่าประหลาด

แต่ความเร็วก็ไร้ความหมายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการคำนวณที่เยือกเย็น ดีลเลอร์แห่งค่ายฮาฟบลัดคาดการณ์เส้นทางการเคลื่อนที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ, เขาดักยิงไปยังจุดที่มันกำลังจะไปถึง, ไม่ใช่จุดที่มันอยู่

อัลกูลตัวที่สองวิ่งเข้าหาความตายของมันเอง, ร่างของมันสลายกลายเป็นฝุ่นผงไปอีกตน

ความเงียบกลับคืนมาสู่ผืนป่าอีกครั้ง, แต่บุรุษชาวรัสเซียก็ยังคงไม่วางใจ เขารู้ดีว่าร่องรอยที่เขาเห็นก่อนหน้านี้…ไม่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอเพียงแค่นี้

เสียงคำรามต่ำๆ ที่ดังมาจากในพงไพรยืนยันความคิดของเขา หมาป่าสองตัวก้าวออกมาจากเงามืด, ร่างของพวกมันใหญ่โตและเต็มไปด้วยมัดกล้าม, ดวงตาสีแดงฉานของพวกมันลุกโชนด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้—หมาป่าแห่งแอรีส

พวกมันไม่ได้พุ่งเข้าใส่ในทันที, แต่กลับแยกกันโอบล้อมเขาจากสองทิศทาง, เป็นกลยุทธ์การล่าที่เป็นธรรมชาติและอันตราย

แต่สำหรับคนที่สามารถมองเห็นความเป็นไปได้ทั้งหมด…มันก็เป็นเพียงแค่การเดินหมากที่คาดเดาได้ง่ายเกินไป

เขาหันไปยิงใส่หมาป่าตัวที่อยู่ทางซ้าย, แต่ไม่ได้เล็งไปที่ตัวมันโดยตรง, แต่กลับเล็งไปที่กิ่งไม้แห้งๆ ที่อยู่เหนือหัวของมัน กิ่งไม้หักลงมา, ไม่ได้สร้างความเสียหาย, แต่ก็ทำให้มันเสียจังหวะและชะงักงันไปชั่วครู่

ช่องว่างนั้นเพียงพอแล้ว

เขาสาดกระสุนที่เหลือไปยังหมาป่าตัวที่สอง, ทำให้มันต้องกระโดดหลบและมุ่งความสนใจมาที่เขาเพียงผู้เดียว, เปิดโอกาสให้เขาได้เผชิญหน้ากับศัตรูทีละตัวอย่างสมบูรณ์แบบ

การต่อสู้ที่เหลือไม่ได้ใช้เวลานาน มันจบลงอย่างรวดเร็ว, เงียบเชียบ, และไร้ซึ่งความตื่นเต้น, เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบและกองฝุ่นสีทองอีกสองกองที่ค่อยๆ จางหายไปกับสายลม

การกวาดล้างระลอกแรกไม่ได้ทำให้เขาได้หยุดพักหายใจนานนัก

เสียงหอนที่ประสานกันดังขึ้นจากในเงามืดที่ลึกเข้าไป, คราวนี้มันไม่ได้มาจากสองทิศทาง, แต่มาจากสี่ทิศทางพร้อมกัน ฝูงหมาป่าแห่งแอรีสฝูงใหม่ปรากฏตัวขึ้น, พวกมันเรียนรู้จากความผิดพลาดของเพื่อนร่วมสายพันธุ์ที่เพิ่งจะสลายไป, และครั้งนี้พวกมันไม่ได้โอบล้อม, แต่กลับพุ่งเข้าโจมตีพร้อมกัน, ตั้งใจจะใช้จำนวนที่มากกว่าบดขยี้เหยื่อให้จบสิ้นในคราวเดียว

ร่างสูงต้องใช้เวลาและสมาธิมากกว่าเดิมเล็กน้อย, เขาไม่ได้ยืนนิ่งเป็นเป้า, แต่กลับเคลื่อนที่ถอยหลังอย่างต่อเนื่อง, ใช้ต้นไม้และโขดหินเป็นที่กำบังชั่วคราวเพื่อบังคับให้พวกมันต้องแยกตัวออกจากกัน, เปลี่ยนการโจมตีแบบสี่ต่อหนึ่งให้กลายเป็นการเผชิญหน้าแบบหนึ่งต่อหนึ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาสาดกระสุน, สลับแม็กกาซีน, ฉกฉวยทุกโอกาสที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของพวกมัน…จนกระทั่งหมาป่าตัวสุดท้ายล้มลงและสลายกลายเป็นกองฝุ่น, ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่หนักอึ้งกว่าเดิม

แต่สันติสุขที่ได้มาก็คงอยู่ได้เพียงชั่วครู่

เสียงกรีดร้องที่เสียดแก้วหูดังขึ้น, ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองเสียง, แต่เป็นเสียงประสานที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งดังมาจากทุกทิศทุกทางบนยอดไม้, ราวกับว่าทั้งป่ากำลังกรีดร้องออกมาพร้อมกัน เงาร่างจำนวนมากบดบังแสงสีทองของสนธยานิรันดร์จนเกือบจะมืดสนิท

ฝูงฮาร์ปี้…ราวๆ ยี่สิบตัว

นี่คืออุปสรรคของจริง

บุตรแห่งโชคชะตาไม่ได้คิดจะยืนหยัดต่อสู้ในที่โล่ง, นั่นคือการฆ่าตัวตาย สัญชาตญาณของเขาสั่งให้พุ่งเข้าไปหาที่กำบังในทันที—โพรงไม้ขนาดใหญ่ของต้นไม้ที่ล้มลง, ที่ซึ่งมีทางเข้าเพียงทางเดียว

เขาไปถึงที่นั่นได้ทันเวลาพอดี, ก่อนที่ฝูงอสูรกายมีปีกจะพุ่งลงมายังจุดที่เขาเคยยืนอยู่, กรงเล็บที่แหลมคมของพวกมันขูดไปบนพื้นดินและเปลือกไม้จนเกิดเป็นรอยลึก

การต่อสู้ที่แท้จริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว, แต่มันไม่ใช่การปะทะซึ่งๆ หน้า, แต่เป็นการรบแบบกองโจรที่ต้องอาศัยความอดทนและสมาธิขั้นสูงสุด

เขาใช้โพรงไม้เป็นฐานที่มั่น, โผล่ออกไป, ยิงหนึ่งนัด, แล้วหลบกลับเข้ามาในที่กำบัง, เรียนรู้จังหวะและรูปแบบการโจมตีของพวกมัน ฝูงฮาร์ปี้กรีดร้องด้วยความเกรี้ยวกราด, พวกมันบินวนอยู่เหนือหัว, ผลัดกันพุ่งลงมาโจมตี, พยายามจะล่อให้เขาออกมาจากที่กำบังที่ปลอดภัย

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า, เขาต้องคอยสลับตำแหน่งการยิง, หลบเลี่ยงกรงเล็บและก้อนหินที่พวกมันขว้างลงมา, ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยหาจังหวะที่จะปลิดชีพพวกมันทีละตัว…ทีละตัว…

กระสุนแต่ละนัดที่ยิงออกไปต้องมั่นใจว่าจะไม่พลาดเป้า, และแม็กกาซีนแต่ละอันที่ถูกเปลี่ยนก็คือการนับถอยหลังสู่ความพ่ายแพ้หากเขาไม่สามารถจบเกมนี้ได้ทัน

มันคือการต่อสู้ที่ใช้เวลาและความอดทนมากกว่าพละกำลัง, คือการเดิมพันที่ต้องใช้ความเยือกเย็นเป็นทุนรอน…และในที่สุด, จำนวนของพวกมันก็เริ่มลดน้อยลง, เสียงกรีดร้องที่เคยดังสนั่นเริ่มแผ่วเบา, และช่องว่างระหว่างการโจมตีก็เริ่มยาวนานขึ้น

เมื่อฮาร์ปี้ตัวสุดท้าย, ซึ่งบ้าคลั่งด้วยความพ่ายแพ้, ตัดสินใจพุ่งเข้าใส่เป็นครั้งสุดท้าย, เขาก็ไม่ได้หลบอีกต่อไป เขาก้าวออกมาจากที่กำบัง, ยกปืนขึ้น, แล้วเหนี่ยวไกเป็นครั้งสุดท้าย, จบฉากการต่อสู้ที่ยาวนานและน่าเหน็ดเหนื่อยนี้ลงอย่างสมบูรณ์

ความเงียบที่กลับคืนมาในครั้งนี้…เงียบสงัดอย่างแท้จริง, มีเพียงเสียงหอบหายใจของเขาและกองฝุ่นสีทองขนาดมหึมาที่ค่อยๆ ปลิวหายไปกับสายลมเท่านั้น




Dungeon Link

หมาป่าแห่งแอรีส
สินสงคราม:
หนังหมาป่าแอรีส (LUK 80+ หนังหมาป่าเพิ่ม x2) 
โอกาสดรอปพิเศษ:ลูกแก้วแห่งแอรีส (เลขไบต์สุดท้าย 9 LUK 70+ จะเพิ่มอัตราสุ่มเลข 0/5/9)

อัลกูล
สินสงคราม:
ไขกระดูก, เขี้ยวอัลกูล
(LUK 50 และได้เลขไบต์สุดท้าย 2 , 6 , 9 จะดรอปทั้งสองอย่าง โดยจำนวนอีกอย่างจะได้ตามจำนวนของที่ได้จากระบบ
(LUK 80 หน่วย จะได้สินสงครามมากขึ้น x2)
Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri

แสดงความคิดเห็น

ดี: 5.0
God
ดี: 5
  โพสต์ 2025-8-2 23:48
โพสต์ 23,357 ไบต์และได้รับ +3 EXP +8 ความกล้า จาก ปืนอัจฉริยะ L&E  โพสต์ 2025-8-2 23:35
โพสต์ 23,357 ไบต์และได้รับ +10 EXP +8 เกียรติยศ +14 ความศรัทธา จาก สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง  โพสต์ 2025-8-2 23:35
โพสต์ 23,357 ไบต์และได้รับ +4 ความศรัทธา จาก น้ำหอมบุรุษ  โพสต์ 2025-8-2 23:35
โพสต์ 23,357 ไบต์และได้รับ +5 ความศรัทธา จาก แว่นกันแดด  โพสต์ 2025-8-2 23:35
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 2025-8-4 00:42:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
Jimena Fernández
Jimena Fernández

📅 วันที่: 3 สิงหาคม พุทธศักราช 2568

🌓 หัวข้อ: บททดสอบในเงาป่าต้องห้าม — การล่าฮาร์ปี้

📍 สถานที่: ป่าต้องห้าม

    พงไพรที่อยู่ตรงบริเวณเบื้องหน้า ของ สาวน้อยจีน่ากำลังแผ่ค่อยๆ เริ่มทำการแผ่กิ่งก้านลงมาต่ำทอดลงไปแนบพื้นราวกับต้องการกลบซ่อนบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ให้มิดชิดอย่างไร อย่างงั้นและแล้วหลังจากนั้ยเพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมาก็ตามมาด้วย เสียงของสายลมที่กำลังโอดครวญสะท้อนผ่านมาทางตรงบริเวณซอกไม้และเงารกชัฏ แสงแดดยังคงเจิดจรัสและไม่ยอมที่จะถูกร่มเงาบดบังลงไหง่ายๆ จนทั่วทั้งบริเวณป่าต้องห้ามในตอนนี้ และ เวลานี้คล้ายกับ กำลังจมอยู่ในม่านฟ้าสีเทาหม่นอมส้มอย่างไรก็อย่างนั้นเอง


หลังจากนั้นฉันก็ค่อยๆ เริ่มทำการเดินก้าวเรียวขาบาง เดินทางลึกเข้าไปสู่ตรงบริเวณหัวใจของป่าต้องห้าม…อย่างรวดเร็ว



   ในทุกๆ ฝีเท้า ของ การก้าวเรียวขาบางเดิน เธอพยายามที่จะทำการควบคุมฝีเท้าและการก้าวเรียวขาเดินให้ดูมีความแผ่วเบาลงไปกว่าเดิม ในตอนนี้เธอค่อยๆ เริ่มทำการปล่อยไหล่ให้ดูมีความรู้สึกผ่อนคลายลงแต่พร้อมที่จะทำการเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ในตอนนี้มีดสั้นสัมฤทธิ์ถูกนำมาซ่อนและทำการเหน็บแน่นเอาไว้ที่ตรงบริเวณข้างๆบริเวณลำตัว แต่เธอจะยังไม่ทำการควักและนำมันออกมาใช้งานในตอนนี้และเวลานี้อย่างแน่นอน เพราะเธอเองอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไป ตามเงื่อนไขของภารกิจนี้ เพราะฉะนั้นฉันจะต้องต่อสู้และเผชิญหน้ากับ ฮาร์ปี้ โดยการใช้มือเปล่าเข้าทำการต่อสู้เท่านั้น หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา หลังจากนั้นเธอก็เริ่มที่จะทำการเปล่งน้ำเสียงพร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากบาง ของ ตัวเธอเองออกไปเป็นประโยคว่า


     “ได้เวลาแล้ว...” ฉันค่อยๆ เริ่มพูดพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเบาๆ ขณะที่สายตาคู่งามก็กวาดมองไปรอบทิศทาง


ใบไม้บางใบเรื่มมีอาการสั่นไหวที่เกิดจากจังหวะแลพแรงของลม เสียงข่วนกิ่งไม้จากบริเวณที่สูงฉับพลัน ก็ดังขึ้นจนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า


ฟุ่บ!


หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก ก็ค่อยๆ ปรากฏเรือนร่างสีเข้มเริ่มบินลงมาทำการตะคุ่มโฉบลงมาจากตรงบริเวณต้นโอ๊กเก่าแก่ ดวงตาสีอำพันวาววับ เงาปีกคล้ายร่างนางวิหคเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลอยู่ตรงบริเวณกลางอากาศ มันคือ ฮาร์ปี้ดุร้าย สัตว์หรืออสุรกายในตำนานที่ถูกพูดถึงมันว่ามันสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และก็พวกมันมีความดุร้ายเกินกว่าที่มนุษย์อย่างพวกเรา จะสามารถควบคุมได้ และก็มันจะไม่มีวันหยุดล่าจนกว่าจะได้เหยื่อรายนั้นมาครอบครองหลีงจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก ก็มีเสียงพูดหนึ่ง เอ่ยประโยคขึ้นมาใหม่ว่า


“ฮี่ฮี่อี่! กลิ่นของนักรบใหม่ แถมเป็นไก่กะต้ากกุ๊กๆ งั้นหรือ...น่ากินดีนี่นะเนี่ย”


น้ำเสียงของมันเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเจือแววคลั่ง ราวกับเพลงหลอนหูของเหล่าแม่มด ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากบาง ของ เธอขึ้นมาว่า


“แล้วเจ้าเองก็พูดเกินไปมากเลยนะอสุรกายฮาร์ปี้...” ฉันค่อยๆ เริ่มทำการพูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วเป็นการตอบอย่างมั่นคง มือกำแน่นเตรียมจังหวะก่อนที่เธอจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียงพร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาอีกหนึ่งประโยคว่า "งั้นเราคอยรอดูกันว่าระหว่างอสุรกายฮาร์ปี้ กับ จีน่าลูกเจี๊ยบไก่น้อยแห่งเมืองมอสโกและลูกเสี้ยวสเปน กะต้าก กะต้าก ใครจะต้องเป็นเหยื่ออันโอชะ ของ ใครกันแน่ กะต้าก” หลังจากที่คำพูด ของ สาวน้อยจีน่าได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาในทันทีว่า


  ฟุ่บ! อสุรกายฮาร์ปี้พุ่งลงมาอีกครั้ง! คราวนี้มันบินลงมาเร็วกว่าในช่วงครั้งแรกเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็ไม่เกินไปกว่าที่ร่างกายฉันจะอ่านการเคลื่อนไหว ของ มันได้ไม่ทันเวลาหรอกนะกะต้าก เพราะว่าท่าทางจาก เรียน และฝึกฝนยิมนาสติกลีลา และเป็นการ ฝึกฝนอย่างหนักตั้งแต่เด็กถูกนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์มากเลยทีเดียว


หลังจากนั้นฉันค่อยๆ เริ่มทำการเหวี่ยงตัวหลบกลางอากาศ ก่อนที่จะหมุนตัวควงตีลังกาและม้วนตัวสองตลบลงไปกับพื้นอย่างมั่นคง และสวยงามน้ำหนักตัวถูกถ่ายลงขาทั้งสองข้างอย่างสมดุลทันที จากนั้นจังหวะที่เจ้าอสุรกายฮาร์ปี้มันกำลังหันหลังกลับ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า


ตับ!


หลังจากนั้นลูกไก่กะต้ากอย่างฉันก็ทำการถีบสวนอสุรกายฮาร์ปี้ลงไปตรงกลางบริเวณหน้าอกของมันอย่างแม่นยำ ด้วยแรงถีบในแบบฉบับ ของ ลุกไก่ที่ได้ คาราเต้สายดำมาครอบครองเป็นที่เรียบร้อยกะต้าก


หลังจากนั้นฮาร์ปี้ก็กระเด็นกระดอน กลิ้งถอยไปไม่ได้ไกลมากนัก แต่แววตาของมันเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปและ มันก็เริ่มที่จะรู้ตัวแล้ว…ว่านี่ไม่ใช่ไก่ที่จะมาเป็นเหยื่อธรรมดา ให้มันเชือดเล่นได้อย่างง่ายๆ นั่นเอง กะต้ากก ก่อนที่หลังจากนั้นสาวน้อยจีน่า จะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียงพร้อม กับเอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากบาง ของ ตัวเองเป็นประโยคที่ว่า


“ลองโดนไก่ถีบดูอีกสักทีไหม กะต้าก?” ฉันเอ่ยขึ้น ถึวแม้ว่าในเวลานี้ร่างกาย ของฉันจะเริ่มเกิดอาการหอบขึ้นมาอย่างแผ่วเบา แต่ทว่าในตอนนี้ฉันก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกแน่วแน่ในสมองของสาวน้อยไก่กะต้ากเริ่มทำการนึกถึง…ภาพที่เธอเคยได้ทำการอ่านมาจากหนังสือลึกลับที่ขึ้นมาแว๊บหนึ่ง โดยข้อความประโยคนี้นเขียนเอาไว้มีใจความดังต่อไปนี้


“เจ้าอสุรกายฮาร์ปี้มันมีจุดอ่อนอยู่ที่ด้านหลังลำคอ แต่จะเผยออกมาเพียงไม่กี่วินาทีตอนพุ่งโจมตี กะต้ากได้การไก่สอยนกร่วงฟ้าแล้วสิกะต้าก” พอหลังจากที่เอ่ยคำพูดในประโยคแรกจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นเธอก็รีบเอ่ยคำพูดในประโยคต่อไปออกมาในทันทีว่า "ใช่ฉันต้องใช้จังหวะให้มันทำทีมีโอกสซุ่มโจมตีไก่กะต้าก กะต้าก อย่างเปิดเผยอีกครั้ง แล้วหลังจากนั้นฉันจะใช้ท่าจากวิชาจากการเรียนยิมนาสติกมาเพื่อทำการฉวยโอกาสได้รับชัยชนะอย่างใสๆ ในครั้งนี้ไปนะกะต้าก


หลังจากทีจบคำพูด ของสาวน้อยจีน่า ได้ทำการเอ่ยจบลงไปได้แค่เพียงไม่นานนัก หลังจากนั้นอสุรกายฮาร์ปี้ก็ค่อยๆ เริ่มทำการคำรามออกมา จนเกิดเสียงดังขึ้นทั่วไปทั้งบริเวณป่าต้องห้าม แล้วหลังจากนั้นมันก็บินเข้ามาทำการพุ่งถาโถมใส่ฉันอีกครั้งหนึ่ง และในครั้งนี้ ฉันปล่อยให้มันเข้าใกล้ฉันได้และฉัน


ปล่อยจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นของคาวเลือดที่ออกมาจากตรงบริเวณ ปีกของมันที่เฉียดใบหน้าของฉันไปเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น


แล้วหลังจากนั้น...ฉันก็เริ่มที่จะทำการกระโดดขึ้นสูงพร้อม กับ ค่อยๆ  เริ่มทำการตีลังกาข้ามหัวของมัน! ไปอย่างช้าๆ


ปลายเท้าของเธอค่อยๆ ทำการเหยียบลงตีงบริเวณบ่า ของเจ้าอสุรกายฮาร์ปี้ไว้ก่อนที่

มือเรียวบาง ของสาวน้อยจีน่าจะทำการคว้าคอ ของ มันไว้ได้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้น

เธอก็ค่อยๆ เริ่มที่จะทำการหมุนตัวและหันหลังกลับมาทำการล็อกมันไว้ที่ตรงบริเวณกลางอากาศ!ก่อนที่เธอจะค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งย้ำเสียงพร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาเป็นประโยคที่ว่า


“เกมส์นี้ระหว่างเรามันจบลงแล้วกะต้าก กะต้าก!” ฉันเริ่มทำการใช้มือเปล่าข้างหนึ่งของตัวเองทำการจับลงไปที่ตรงบริเวณจุดที่บอบบางที่สุดของมัน คือตรงบริเวณบนหลังลำคอได้เป็ฯที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นมาว่า


ตุ้บ!


เสียงเรือนร่างของฮาร์ปี้ล้มลงกระแทกพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง มันดิ้นเบา ๆ แล้วค่อยๆ เริ่มนิ่งสงบลง แต่ทว่ามันแค่สลบไป…แต่ไม่ถึงตายหรอกกะต้าก หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่นานนัก สาวน้อยจีน่าก็ค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง พร้อม กับ เอ่ยคำพูดออกมาจากริมฝีปากบาง ของ เธอเป็นประโยคหนึ่งว่า


“ขอโทษนะ...” ฉันมีอาการหอบและหายใจแรงออกมาเล็กน้อย ขณะที่กำลังมองลงไปยังบริเวณร่างของอสุรกายฮาร์ปี้ พร้อมกับค่อยๆ เริ่มทำการเปล่งน้ำเสียง และเอ่ยคำพูดออกมาต่ออีกประโยคหนึ่งว่า “แต่เธอก็เป็นบทพิสูจน์ที่ดีมากจริงๆนะ สำหรับฉัน”




ฉันคว้าปีกของมันขึ้นมาพาดไหล่

พร้อมสายตาที่หันกลับไปยังเส้นทางค่าย


บททดสอบแรกสิ้นสุดลงแล้ว...

แต่เส้นทางของลูกครึ่งเทพสำหรับตัวฉันเองมันพึ่งจะเริ่มต้นเป็นลูกเทพไก่ขึ้นมาเองนะกะต้าก


ลิงก์การต่อสู้ระหว่าง จีน่าไก่กุ๊กๆ ศิษย์กระท่อมหมายเลขที่ 11 กับ อสุรกายฮาร์ปี้ ศิษย์ป๊าก๊อต


ผลการตัดสินจากรูปภาพ คือ จีน่าไก่กุ๊กๆ ศิษย์กรพท่อมหมายเลขที่ 11เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในครั้งนี้ไปนะคะ กะต้าก


รางวัลที่จะได้รับจากการทำภารกิจครั้งนี้ ขนฮาร์ปี้ (สุ่มตามระบบ)









แสดงความคิดเห็น

God
เสียงบางอย่างดังขึ้น มาเจอข้าที่ตลาดนัดลองไอส์แลนด์  โพสต์ 2025-8-4 00:46
God
ได้รับแผลถลอกกลาง ๆ จากการต่อสู้  โพสต์ 2025-8-4 00:45
โพสต์ 30042 ไบต์และได้รับ 18 EXP!  โพสต์ 2025-8-4 00:42
โพสต์ 30,042 ไบต์และได้รับ +10 EXP +15 เกียรติยศ +15 ความกล้า จาก เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด  โพสต์ 2025-8-4 00:42
โพสต์ 30,042 ไบต์และได้รับ +8 EXP จาก โรคสมาธิสั้น  โพสต์ 2025-8-4 00:42

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +2 ย่อ เหตุผล
God + 2

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
อ้อมกอดแห่งราตรี
ชุดภารโรง
ล็อคเก็ตรูปหัวใจ
รองเท้าเซฟตี้
นาฬิกาสปอร์ต
น้ำหอมสตรี
กำไลหินนำโชค
มีดสั้นสัมฤทธิ์
โรคสมาธิสั้น
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x1
x1
x1
x10
x1
โพสต์ 2025-8-9 00:54:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
A. Mikailov
power of calculated luck
To me luck is like a loaded gun—never random, always aimed — Axel

08.08.2025 | 06:00 PM

สิบห้าทีต่อมา, ที่ชายป่าต้องห้าม, ความอบอุ่นและแสงสว่างจากค่ายฮาล์ฟบลัดก็ดูเหมือนจะอยู่ห่างไกลออกไปคนละโลก อากาศที่นี่เย็นและหนักอึ้ง, เต็มไปด้วยกลิ่นของดินที่ชื้นแฉะและเงามืดที่ทอดตัวยาวราวกับกรงเล็บ, เป็นอาณาเขตที่ความดิบเถื่อนเป็นผู้ปกครอง, ไม่ใช่ระเบียบวินัย

แคลรีส ลา รู ยืนรออยู่แล้ว, เธอยืนพิงกับต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่ง, กอดอก, ใบหน้าของเธอไม่ได้แสดงความอดทนใดๆ

"ช้า" เธอเอ่ยขึ้นคำเดียว, เป็นการทักทายในแบบฉบับของเธอ

โดยไม่รอคำตอบ, เธอโยนวัตถุทรงกลมที่หนักอึ้งชิ้นหนึ่งมาให้เขา—โล่ทองสัมฤทธิ์ที่เรียบง่าย, ปราศจากลวดลายหรือการตกแต่งใดๆ, มีเพียงร่องรอยของการใช้งานอย่างโชกโชนที่ปรากฏอยู่บนผิวโลหะ มันคือเครื่องมือ, ไม่ใช่ของประดับ

"อาวุธเดียวที่แกจะได้ใช้คืนนี้" ธิดาแห่งแอรีสประกาศ, น้ำเสียงของเธอเด็ดขาดและปราศจากการประนีประนอม "ไม่มีปืน, ไม่มีมีด, มีแค่แผ่นเหล็กนี่กับตัวแก"

เธอก้าวเข้ามาใกล้, ดวงตาของเธอจับจ้องมาที่เขาอย่างท้าทาย, พยายามจะขุดค้นหาความลังเลหรือความหวาดกลัวที่อาจจะซ่อนอยู่ "ลืมแผนการหรูๆ ของแกไปซะ…การต่อสู้ที่แท้จริงมันไม่ได้อยู่ในหัว, แต่มันอยู่ในนี้" เธอทุบกำปั้นลงบนอกของตัวเอง "ใช้สัญชาตญาณของแก, ใช้ความโกรธ, ปล่อยให้มันนำทาง…เข้าใจไหม?"

บุตรแห่งไทคีไม่ได้ตอบรับในทันที เขารับโล่นั้นมา, สัมผัสได้ถึงน้ำหนักและความเย็นเยียบของมัน, ในขณะที่สมองของเขากำลังประมวลผล ‘กฎ’ ของเกมใหม่นี้อย่างรวดเร็ว

สัญชาตญาณ? ความโกรธ? สำหรับเขา, มันคือตัวแปรที่คาดเดาไม่ได้, คือความไร้ประสิทธิภาพที่จะนำไปสู่ความผิดพลาด, คืออคติที่จะบดบังการตัดสินใจที่เยือกเย็น…แต่เขาก็เข้าใจในตรรกะที่ดิบเถื่อนของมัน มันคือการปลดปล่อยสัญชาตญาณของนักล่าที่ถูกกดไว้ภายใต้ระเบียบวินัย

เขาไม่สามารถทำตามคำสั่งนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ, การปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงไปในความบ้าคลั่งนั้นไม่ใช่สไตล์ของเขา

ดังนั้น, เขาจึงเลือกที่จะ ‘ประยุกต์’

เขาจะยังคงวางแผน, จะยังคงวิเคราะห์, จะยังคงคำนวณความเป็นไปได้ทั้งหมด…แต่เขาจะสร้าง ‘เงื่อนไข’ ใหม่ขึ้นมาในหัว: หากแผนการหลักล้มเหลว, หากสถานการณ์เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้, หากมีตัวแปรที่ไม่คาดฝันปรากฏขึ้น…เขาจะอนุญาตให้ ‘ระบบปฏิบัติการสำรอง’—สัญชาตญาณ—เข้าควบคุมการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีนั้น

เสียงคำรามต่ำๆ ที่ดังขึ้นจากในพงไพรที่มืดมิดเป็นสัญญาณว่าบทเรียนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ฮาร์ปี้, อัลกูล, และหมาป่าแห่งแอรีส…พวกมันเริ่มปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด, ไม่ได้มาทีละตัว, แต่มาเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ผสมปนเปกันไป, เป็นการโจมตีที่ไร้ซึ่งระเบียบแต่กลับคาดเดาได้ยาก

ดาชิไม่ได้พุ่งเข้าใส่, เขาตั้งรับ, ยกโล่ขึ้น, ใช้มันเป็นกำแพงที่เคลื่อนที่ได้, สายตาของเขากวาดมอง, วิเคราะห์เป้าหมายที่อันตรายที่สุด, และคำนวณเส้นทางการเคลื่อนที่ของพวกมัน

หมาป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่จากด้านข้าง, ในขณะที่ฮาร์ปี้ก็ดิ่งลงมาจากเบื้องบน, เป็นการโจมตีที่ประสานงานกันอย่างเป็นธรรมชาติ

เขาบิดตัว ใช้ขอบโล่ที่แข็งแกร่งกระแทกเข้าที่ซี่โครงของหมาป่าอย่างรุนแรง, ไม่ได้เพื่อฆ่า, แต่เพื่อสร้างช่องว่างและทำลายจังหวะของมัน

ฮาร์ปี้ตัวนั้นมาถึงเร็วกว่าที่เขาคำนวณไว้เล็กน้อย, สัญชาตญาณของเขากรีดร้องเตือนภัย, และเขาก็ปล่อยให้มันเข้าควบคุม เขาไม่ได้คิด, แต่เขากลับดีดตัวไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน, ไม่ได้หลบ, แต่กลับใช้โมเมนตัมนั้นเปลี่ยนโล่ให้กลายเป็นอาวุธกระทุ้ง, พุ่งสวนเข้าไปที่กลางอกของฮาร์ปี้ที่กำลังจะถึงตัว

เสียงกระดูกที่ลั่นดังขึ้นเบาๆ, ร่างของอสูรกายมีปีกกระเด็นถอยหลัง, ก่อนจะสลายกลายเป็นกองฝุ่น, เปิดทางให้เขาได้เผชิญหน้ากับอัลกูลที่กำลังจะมาถึง

แคลรีสยืนมองจากระยะไกล, ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือ, แต่ในดวงตาของเธอกลับมีความพึงพอใจที่ไม่ได้ปิดบังปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก…เด็กใหม่คนนี้…อาจจะมีอะไรมากกว่าที่เธอเห็นในตอนแรกก็ได้

บุรุษเจ้าของเส้นผมสีทองคำไม่ได้เสียเวลาไปกับการพักหายใจ อัลกูลตัวนั้นส่งเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชแล้วพุ่งเข้าใส่, นิ้วที่ยาวและแหลมคมของมันกางออก, พร้อมที่จะควักลูกตาของเขาออกมา แต่สำหรับนักวิเคราะห์ที่เยือกเย็น, ความบ้าคลั่งที่คาดเดาได้ง่ายก็เป็นเพียงแค่ข้อมูลอีกชุดหนึ่ง

เขาไม่ได้ถอยหลัง, แต่กลับก้าวเข้าไปหา, ย่อตัวลงต่ำ, แล้วใช้ขอบโล่ที่แข็งแกร่งฟาดเข้าไปที่หัวเข่าของมันอย่างรุนแรง

แกร็ก!

เสียงกระดูกที่แตกหักดังขึ้นอย่างชัดเจน, อัลกูลตัวนั้นเสียหลักและล้มลงไปกองกับพื้นในทันที ก่อนที่มันจะได้ทันได้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด, โล่ทองสัมฤทธิ์ที่หนักอึ้งก็ถูกกระแทกลงมาที่กะโหลกศีรษะของมันอย่างไร้ความปรานี, จบชีวิตของมันลงอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การต่อสู้ไม่ได้จบลงแค่นั้น, หมาป่าแห่งแอรีสอีกตัวหนึ่งพุ่งทะยานออกมาจากพงไพร, มันฉลาดกว่าตัวอื่นๆ, มันรอจังหวะที่เขาเพิ่งจะสังหารเหยื่อ, หวังจะใช้ความได้เปรียบนั้นในการโจมตี

แต่แล้ว, ระบบปฏิบัติการสำรองของเขาก็ทำงานอีกครั้ง

สัญชาตญาณไม่ได้สั่งให้เขาหลบหรือป้องกัน, แต่กลับสั่งให้เขาทำในสิ่งที่บ้าบิ่นที่สุด—เขาทิ้งตัวลงไปกับพื้นพร้อมกับโล่ในมือ, ในเสี้ยววินาทีที่หมาป่ากระโจนข้ามร่างของเขาไป, เขาบิดตัวแล้วใช้ขอบโล่กระแทกเข้าไปที่ช่วงท้องที่อ่อนนุ่มของมันอย่างสุดแรง

ร่างของอสูรร้ายลอยคว้างกลางอากาศ, ก่อนจะตกลงมากระแทกพื้น, มันพยายามจะยันตัวลุกขึ้น, แต่มันก็ช้าเกินไปแล้ว ดีลเลอร์แห่งค่ายฮาฟบลัดลุกขึ้นยืน, แล้วจบเกมนี้ลงด้วยการกระทืบโล่ลงไปที่กลางหลังของมันอย่างซ้ำๆ จนกระทั่งร่างของมันสลายกลายเป็นกองฝุ่นสีทอง

ความเงียบกลับคืนสู่ผืนป่า, มีเพียงเสียงหอบหายใจของเขาและเสียงใบไม้ที่เสียดสีกันตามแรงลมเท่านั้นที่ดังขึ้น

"ไม่เลว"

เสียงที่ห้วนและไม่คุ้นเคยกับการเอ่ยคำชมดังขึ้นจากข้างหลัง แคลรีสเดินออกมาจากเงามืด, ในแววตาของเธอมีความพึงพอใจที่ไม่ได้ปิดบัง, แม้ว่าใบหน้าของเธอจะยังคงเรียบเฉยก็ตาม "ดูเหมือนแกจะไม่ได้ใช้แค่สัญชาตญาณ… ยังติดคิดนู่นคิดนี่"

"ผมแค่ประยุกต์ใช้แนวคิดของรุ่นพี่กับสไตล์ปกติครับ" เขาตอบกลับ น้ำเสียงของเขาเรียบและเยือกเย็นตามปกติ

ธิดาแห่งแอรีสส่งเสียง "หึ" ออกมาในลำคอ, ก่อนที่เรื่องราวจะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน "พรุ่งนี้เจอกันที่งานของไทสัน" เธอกล่าว, ไม่ใช่คำถาม, แต่เป็นคำบอกเล่า "อย่าทำเละเทะล่ะ เอลล่าคงจะร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ถ้านายทำพัง"

บุรุษชาวรัสเซียเกือบจะเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจกับความใส่ใจในรายละเอียดที่ไม่คาดฝันนั้น "ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ" เขารับประกันอย่างเป็นทางการ ยังไงเสียเขาก็รับปากไทสันไว้แล้ว การตระบัดสัตย์ไม่ใช่แนวของเขา

"ดี" แคลรีสกล่าวสั้นๆ "งั้นก็แยกย้าย"

เธอหันหลังแล้วเดินหายกลับเข้าไปในความมืดของป่า, ไม่ได้บอกลา, ไม่ได้มีคำพูดใดๆ เพิ่มเติม

บุตรแห่งโชคชะตายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น, มองโล่ในมือของตัวเองที่มีรอยขีดข่วนเพิ่มขึ้นมาอีกสองสามรอย ความเหนื่อยล้าทางกายภาพเริ่มคืบคลานเข้ามา, กล้ามเนื้อของเขาเริ่มส่งสัญญาณประท้วงถึงการใช้งานที่หนักหน่วง

จากสมรภูมิแห่งสัญชาตญาณ…สู่งานเลี้ยงต้อนรับเด็กทารก

มันคือการเปลี่ยนฉากที่น่าขันอย่างร้ายกาจ…แต่สำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนในทุกรูปแบบ, มันก็เป็นเพียงแค่งานอีกชิ้นหนึ่งที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วง


Train with Carisse (1/10) Link
Talk with Carisse
น้ำหอมบุรุษ: เลขไบต์ 2 4 6 8 +2 โบนัสพิเศษ
Alghoul & Wolf: LUK 80 drop x2


Power Money Game Music
CABIN 19
@Hye Ri

แสดงความคิดเห็น

God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-65] แคลรีส ลา รู เพิ่มขึ้น 3 โพสต์ 2025-8-9 10:16
God
คุณได้รับความสัมพันธ์กับ [NPC-65] แคลรีส ลา รู เพิ่มขึ้น 2 โพสต์ 2025-8-9 10:16
โพสต์ 23583 ไบต์และได้รับ 16 EXP! [VIP]  โพสต์ 2025-8-9 00:54
โพสต์ 23,583 ไบต์และได้รับ +7 EXP +6 เกียรติยศ จาก นาฬิกาสปอร์ต  โพสต์ 2025-8-9 00:54
โพสต์ 23,583 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 เกียรติยศ +4 ความศรัทธา จาก ปากกาหมึกซึม  โพสต์ 2025-8-9 00:54
←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
นาฬิกาสปอร์ต
ปากกาหมึกซึม
กางเกงเดินป่า
กล่องดนตรี
ไฟแช็ค
ผู้ควบคุมโชคชะตา
เกมคอนโซลพกพา
กำปั้นแห่งโชค
โชคพลิกผัน
Hydro X
รองเท้ามีปีก(ทั่วไป)
วงล้อแห่งโชค
สายใยแห่งโชคชะตา
ลางสังหรณ์แห่งชัยชนะ
โล่อัสพิส
หมวกเกราะ
เข็มกลัดไทคี
ชุดเครื่องเพชร
เซียนเกม
เกราะหนัง
บันทึกโซเฟีย
ชุดบำรุงอาวุธ
สรรสร้าง
ปืนอัจฉริยะ L&E
สัมผัสแห่งความรุ่งเรือง
น้ำหอมบุรุษ
แว่นกันแดด
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
ต่างหูเงิน
กำไลหินนำโชค
โรคสมาธิสั้น
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x1
x19
x10
x1
x2
x35
x1
x3
x2
x2
x1
โพสต์ 6 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด



White Swan in The Ocean

DS I Test…really ?

20 th August 2025 10 AM


   "นี่ฉันต้องเจออะไรบ้างเนี่ย— จะไม่ต้องมาหนีตายใช่ไหม ?"

   คำพูดนั้นหลุดออกมาจากริมฝีปากของเธอเบาๆ ราวกับเป็นเรื่องตลก แต่หัวใจที่เต้นระรัวอยู่ข้างในกลับรู้ดีว่านี่คือความจริง ริปลีย์ก้าวเท้าข้ามเขตกั้นที่มองไม่เห็น เข้าสู่เงามืดของป่าต้องห้าม อากาศพลันเย็นลงทันที แสงแดดยามสายที่เคยสาดส่องถูกบดบังด้วยเรือนยอดของต้นไม้โบราณที่หนาทึบ เหลือเพียงลำแสงที่ส่องลงมาเป็นหย่อมๆ ราวกับสปอตไลท์บนเวทีที่มืดมิด

   รู้สึกได้กลางคืนกลับมาแบบงง ๆ แต่แบบนี้ไม่ต้องก็ได้ ขอรับไว้แค่น้ำใจก็พอ

   เธอใช้บทเรียนของโกรเวอร์เป็นเครื่องนำทาง... ปิดตาลงชั่วครู่ สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อแยกแยะกลิ่น... กลิ่นดินชื้น, กลิ่นยางไม้, และ... กลิ่นเหม็นอับคล้ายขนนกเปียกน้ำผสมกับเนื้อเน่าจางๆ

   ฮาร์ปี้…

   “เปิดมาก็เจอเพื่อนเก่าเลยหรอ?”

   เสียงกระพือปีกดังพรึ่บพรั่บมาจากด้านบน ริปลีย์ไม่รอให้พวกมันจู่โจมก่อน เธอกลิ้งตัวหลบไปหลังต้นโอ๊กใหญ่ ทันใดนั้น ร่างของฮาร์ปี้สองตัวก็โฉบลงมาตรงจุดที่เธอเคยยืนอยู่ กรงเล็บแหลมคมข่วนอากาศจนเกิดเสียงน่าหวาดเสียว ริปลีย์อาศัยจังหวะที่พวกมันเสียหลักจากการโจมตีพลาด พุ่งตัวออกจากที่ซ่อน หอกสตรอมบริงเกอร์ในมือตวัดเป็นวงกว้าง ปลายหอกเกี่ยวเข้าที่ขาของตัวแรกและกระชากมันลงมากระแทกพื้น ก่อนที่เธอจะใช้ด้ามหอกฟาดเข้าที่ปีกของอีกตัวที่กำลังจะบินขึ้นซ้ำ มันเสียการทรงตัวชั่วขณะ และนั่นคือเวลาที่มากพอ— ปลายหอกสัมฤทธิ์แทงทะลุร่างของพวกมันทีละตัว ก่อนจะสลายกลายเป็นฝุ่นผงสีทอง

   เธอหอบหายใจเล็กน้อย ยังไม่ทันจะได้พัก เสียงขู่คำรามต่ำๆ ก็ดังขึ้นจากพุ่มไม้หนาทึบเบื้องหน้า พร้อมกับกลิ่นสาบของสุสานเก่าที่โชยมากับลม มันคือ อัลกูล

   “ขอร้องล่ะ ให้ได้หายใจหน่อยได้ไหมเนี่ย”

   ร่างผอมเกร็งสองร่างพุ่งออกมาจากเงามืดด้วยความเร็วสูง กรงเล็บยาวเฟื้อยตั้งใจจะฉีกกระชากเธอเป็นชิ้นๆ ริปลีย์ใช้พื้นฐานบัลเลต์ที่เคยฝึกฝนมาหมุนตัวหลบอย่างสง่างามแต่เฉียบขาด เธอใช้ความยาวของหอกให้เป็นประโยชน์ แทงสกัดและปัดป้องการโจมตีของทั้งสองตัวไปพร้อมกัน มันคือการเต้นรำที่อันตรายที่สุดในชีวิต เธอหลอกล่อให้อัลกูลตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่พร้อมกัน ก่อนจะสไลด์ตัวหลบไปด้านข้าง ทำให้พวกมันชนกันเอง และในจังหวะที่พวกมันกำลังสับสน... หอกในมือเธอก็ทำงานของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

   ยังไม่ทันที่ฝุ่นควันจากการสลายไปของอัลกูลจะจางลงดี ดวงตาสีแดงก่ำคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในเงามืด... ตามมาด้วยอีกคู่หนึ่ง หมาป่าแห่งแอรีส สองตัวก้าวออกมาอย่างน่าเกรงขาม น้ำลายของพวกมันหยดลงบนพื้นหญ้าจนเกิดเป็นควันจางๆ

   แม่หงส์น้อยบ้านทะเลรู้ดีว่านี่คือบททดสอบแรกตามที่โกรเวอร์บอก เธอตั้งหอกมั่นรับการจู่โจมโจมตีประสานของพวกมัน ตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่จากด้านหน้า อีกตัวพยายามอ้อมไปด้านหลัง ริปลีย์กระทืบเท้าลงบนพื้นดิน เรียกมวลน้ำจากความชื้นใต้พิภพขึ้นมาเป็นกำแพงน้ำแข็งบางๆ ชั่วพริบตาเพื่อป้องกันตัวจากด้านหลัง ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับตัวแรกเต็มกำลัง เสียงหอกและเขี้ยวเหล็กกระทบกันดังกึกก้อง เธอใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีต้านมันไว้ ก่อนจะใช้เท้าถีบเข้าที่ใต้คางของมันจนหงายหลัง และหันกลับไปแทงทะลุหัวใจของอีกตัวที่กำลังทำลายกำแพงน้ำแข็งของเธอเข้ามา

   จบศึกกับหมาป่าคู่แรก เธอก็แทบจะทรุดลงกับพื้น... แต่แล้วเสียงหอนโหยหวนก็ดังขึ้นรอบทิศทาง เงามืดใต้ต้นไม้เริ่มขยับไหว... ดวงตาสีแดงก่ำอีกสี่คู่ปรากฏขึ้น ฝูงหมาป่าแห่งแอรีส ที่เหลือได้ล้อมเธอไว้แล้ว

   นี่คือบททดสอบที่แท้จริง ริปลีย์ถอยหลังไปจนชิดกับโขดหินขนาดใหญ่เพื่อป้องกันการโจมตีจากด้านหลัง เธอกัดฟันแน่น รวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ เมื่อพวกมันกระโจนเข้าใส่พร้อมกัน... คลื่นน้ำขนาดมหึมาก็ระเบิดออกจากตัวเธอ ซัดร่างของหมาป่าทั้งสี่ให้กระเด็นไปคนละทิศคนทาง บางตัวกระแทกกับต้นไม้จนแน่นิ่ง บางตัวพยายามลุกขึ้นมา แต่ก็ถูกคลื่นน้ำที่สองซัดจนกลิ้งไปอีกรอบ ริปลีย์ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอย เธอพุ่งเข้าสังหารพวกมันทีละตัวด้วยความเร็วและความแม่นยำที่ได้มาจากการฝึกฝนอย่างหนัก

   เลือดสีเข้มของอสูรกายเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าของเธอ ลมหายใจหอบถี่จนเจ็บหน้าอก... แต่เธอก็ผ่านมันมาได้ เธอผ่านบททดสอบของโกรเวอร์แล้ว...

   ...มันก็ควรจะเป็นเช่นนั้นอ่ะนะ

   พรึ่บ... พรึ่บ... พรึ่บ... พรึ่บ...

   เสียงกระพือปีกที่ไม่ได้ดังแค่สองสามคู่... แต่ดังมาจากทั่วทุกสารทิศจนฟังดูราวกับพายุ ท้องฟ้าเหนือหัวเธอพลันมืดลง... ไม่ใช่เพราะเมฆ แต่เป็นร่างของฝูงฮาร์ปี้กว่ายี่สิบตัวที่กำลังบินวนอยู่เหนือหัวเธอ เสียงกรีดร้องของพวกมันประสานกันจนแสบแก้วหู

   ริปลีย์เงยหน้ามองด้วยแววตาที่สิ้นหวังเป็นครั้งแรก เธอยกหอกขึ้น ตั้งท่าเตรียมสู้... แต่ในใจก็รู้ดีว่านี่มันมากเกินไป เธออาจจะจัดการได้สาม... สี่... หรือห้าตัว... แต่ไม่ใช่ยี่สิบ

   ฮาร์ปี้ตัวแรกโฉบลงมา เธอปัดมันออกไปได้ แต่กรงเล็บของมันก็ฝากรอยแผลยาวไว้ที่แขนของเธอ ความเจ็บปวดแล่นปราดเข้ามาพร้อมกับคำสอนของโกรเวอร์... "ถ้าสู้ไม่ไหวหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสขึ้นมา ให้หนีทันที"

   การถอยไม่ใช่การพ่ายแพ้... แต่เป็นการตั้งรับเพื่อชนะในไฟต์ต่อไป

   ริปลีย์ตัดสินใจในเสี้ยววินาที เธอทุบด้ามหอกลงบนพื้นดินอย่างแรง รวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่สร้างกำแพงน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับไกเซอร์ มันไม่ได้ทำร้ายพวกฮาร์ปี้ แต่มันสร้างความสับสนและบดบังทัศนวิสัยได้ชั่วขณะ

   และนั่นคือเวลาทั้งหมดที่เธอต้องการ...

   เธอหันหลังกลับและโกย !!! โกยเถอะโยมอย่างไม่คิดชีวิต ลอดใต้รากไม้, กระโดดข้ามลำธาร, สไลด์ตัวไปตามทางลาดชัน เธอใช้ทุกอย่างที่เรียนรู้จากคลาสของโกรเวอร์... การเคลื่อนไหวที่เงียบเชียบ, การใช้สภาพแวดล้อมเพื่ออำพรางตัว... เสียงกรีดร้องของฝูงฮาร์ปี้ยังคงไล่หลังมา แต่ก็ค่อยๆ ไกลออกไป

   จนในที่สุด เธอก็พุ่งทะลุแนวป่าออกมาสู่แสงสว่างของค่ายอีกครั้ง ร่างเล็กทรุดลงกับพื้นหญ้า หอบหายใจอย่างหนักหน่วง แขนของเธอมีเลือดไหลซึม แต่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอยังรอด

   เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่เธอคิดว่าเกือบได้กลายเป็นเพื่อนจอร์จแล้ว

   ริปลีย์หันกลับไปมองเงามืดของป่าต้องห้าม เธอไม่ได้เอาชนะศัตรูทั้งหมด แต่เธอเอาชนะบททดสอบที่สำคัญที่สุดได้ บททดสอบแห่งการเอาชีวิตรอด

   “โอเค กลางวันจ๋า ฉันรักนาย”






เปิดใช้งานเอฟเฟค


ผลตอบรับหลังผ่านบททดสอบ:
ได้รับ 5 ตื่นรู้ และ +15 INT

การพิชิตอสุรกายประเภทนั้น ๆ เป็นครั้งแรก” จะได้ตื่นรู้ +2 และหาได้อีก +1 จากการสร้าง (อัลกูล และ หมาป่าแห่งแอรีส)

สินสงคราม อัลกูล :
ไขกระดูก
เขี้ยวอัลกูล
หาก LUK 50 และได้เลขไบต์สุดท้าย 2 , 6 , 9 จะดรอปทั้งสองอย่าง โดยจำนวนอีกอย่างจะได้ตามจำนวนของที่ได้จากระบบ
หากมีค่า LUK 80 หน่วย จะได้สินสงครามมากขึ้น x2

สินสงคราม อัลกูล :
หนังหมาป่าแอรีส
(LUK 80+ จะมีโอกาสได้หนังหมาป่าเพิ่ม x2 )
โอกาสดรอปพิเศษ:
ลูกแก้วแห่งแอรีส (เลขไบต์สุดท้าย 9)
(หากมี LUK 70+ จะเพิ่มอัตราสุ่มเลข 0/5/9)


@God

แสดงความคิดเห็น

God
ได้รับบาดเจ็บสาหัส จะไปพักฟื้นฟรีที่ห้องพยาบาลหรือจะรักษาด้วยเนคทาร์ แอมโบรเชียก็ได้ หรือไปหาแหล่งน้ำทะเลและสุ่มเลขไบต์ว่ารักษาสำเร็จหรือไม่  โพสต์ 6 วันที่แล้ว
โพสต์ 19861 ไบต์และได้รับ 12 EXP! [VIP]  โพสต์ 6 วันที่แล้ว
โพสต์ 19,861 ไบต์และได้รับ +4 EXP +4 เกียรติยศ จาก เกมคอนโซลพกพา  โพสต์ 6 วันที่แล้ว
โพสต์ 19,861 ไบต์และได้รับ +2 EXP +4 เกียรติยศ จาก Hydro X  โพสต์ 6 วันที่แล้ว
โพสต์ 19,861 ไบต์และได้รับ +5 EXP +5 เกียรติยศ +5 ความศรัทธา จาก เข็มกลัดทีมไพเพอร์  โพสต์ 6 วันที่แล้ว

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1ตื่นรู้ +4 ย่อ เหตุผล
God + 4

ดูบันทึกคะแนน

←อุปกรณ์ที่สวมใส่อยู่→
เข็มทิศมหาสมุทร
ควบคุมน้ำ
เกมคอนโซลพกพา
Hydro X
เข็มกลัดทีมไพเพอร์
หินสมุทรเทพ(*)
แหวนดาราจรัส(D)
ฟองอากาศแห่งชีวิต
ภูมิคุ้มกันเปียก
สื่อสารกับสัตว์ทะเล&ม้า
ภูมิคุ้มกันพิษ
มีดสั้นที่ลับคมพิเศษ
สายน้ำเยียวยา
โรคดิสเล็กเซีย(กรีก)
หมวกเกราะ
เซ็นเชอร์น้ำ
รองเท้าเซฟตี้
แว่นกันแดด
ชุดเครื่องเพชร
เสื้อค่ายฮาล์ฟบลัด
เสื้อฮาวาย
น้ำหอมสตรี
หอกสตอร์มบริงเกอร์
ต่างหูเงิน
หายใจใต้น้ำ
←ไอเท็มที่มีอยู่→
x10
x27
x3
x8
x1
x5
x1
x1
x10
x6
x2
x5
x5
x2
x2
x20
x89
x22
x1
x1
x2
x1
x21
x5
x2
x13
x5
x3
x5
x22
x4
x8
x5
x17
x5
x2
x1
x5
x1
x1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

เว็บไซต์นี้ มีการใช้คุกกี้ 🍪 เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้