
วันที่ 17 เดือน ตุลาคม ปี 2025
ช่วงสาย เวลา 09.00 - 10.00 น. ณ ณ เทวสถานอะพอลโล่ เนินเทมเพิล ค่ายจูปิเตอร์
ภายในวิหารของเทพอะพอลโล่ เสียงดนตรีแผ่วเบาจากสายพิณที่ลมพัดให้สั่นสะเทือนดังก้องสะท้อนในห้องโถงอันโอ่อ่าซึ่งสว่างไปด้วยแสงทองอบอุ่นจากหน้าต่างกระจกสีสลับลวดลายเทพพยากรณ์และดอกทานตะวัน โมนีก้าเดินเข้าสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยหัวใจที่สงบนิ่ง เธออุ้มกระเป๋าผ้าที่มีไข่ฟีนิกซ์แนบอกไว้แน่น รู้สึกถึงแรงอุ่นไหวภายในมันเหมือนจังหวะเต้นของหัวใจอีกดวงหนึ่ง ข้างในวิหารนี้เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้และกลิ่นไม้จันทน์ผสมกันอย่างละเอียดอ่อน เครื่องพิณทองคำถูกจัดวางเรียงข้างแท่นบูชาใหญ่ที่มีรูปสลักเทพอะพอลโล่ยืนถือพิณและคันศร ร่างสูงสง่าถูกส่องด้วยแสงที่ลอดผ่านกระจกด้านบนราวกับดวงอาทิตย์ส่องตรงมายังผู้เป็นเจ้าของสถานที่โดยเฉพาะ
โมนีก้าเงยหน้าขึ้นมอง แล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไป แต่ก่อนที่เธอจะเริ่มพิธี เธอกลับเห็นชายหนุ่มคุ้นหน้าในเสื้อสีดำเรียบ ๆ นั่งอยู่ใกล้มุมหนึ่งของวิหาร แสงอ่อนจากหน้าต่างสาดลงบนเส้นผมดำสนิทของเขา เผยให้เห็นสีหน้าเงียบสงบและสายตาที่กำลังจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ในมือ หยาน?
เธอก้าวเข้าไปอย่างระมัดระวังและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "พี่หยาน… ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่เลยค่ะ" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นพลางคลี่ยิ้มบาง ๆ เขามีแววตาอ่อนโยนแต่ก็แฝงความนิ่งสงบแบบคนที่ผ่านการพิจารณาโลกมาอย่างลึกซึ้ง "ไม่ได้พบกันตั้งนานเลยนะ" เขาตอบเบา ๆ พร้อมวางโทรศัพท์ลงข้างตัว
โมนีก้านั่งลงข้าง ๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ "ขอโทษจริง ๆ นะคะ ที่ไม่ได้ไปเรียนภาษาจีนกับพี่เลย พอดีมีภารกิจของค่ายจูปิเตอร์ด่วนมาก… กลับมาก็แทบไม่ได้พัก"
หยานส่ายหน้าน้อย ๆ พร้อมรอยยิ้มที่มีแววเอ็นดู "ไม่ต้องขอโทษหรอก ฉันรู้แล้ว เห็นข่าวจากพวกคนของค่ายจูปิเตอร์ว่าเธอกลับมาพร้อมบาดแผลไม่น้อยเลยนะ ร่างกายดีขึ้นแล้วใช่ไหม" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยที่ไม่ต้องแต่งเติม เธอพยักหน้าเล็กน้อย "ค่ะ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ถึงยังไม่หายดีเต็มร้อยแต่ก็ดีกว่าช่วงนั้นมาก อีกไม่นานถ้าไม่มีภารกิจคงได้ไปเรียนกับพี่หยานสักที"
เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ "ไม่ต้องรีบก็ได้ ภาษามันไม่หนีไปไหนหรอก สิ่งสำคัญคือสุขภาพเธอนั่นแหละ" เสียงของเขานุ่มและอบอุ่นราวกับแสงแดดที่ลอดผ่านกระจกใสตกลงบนพื้นหินอ่อน
โมนีก้าส่งยิ้มตอบ แต่พลันสังเกตว่าเมื่อครู่เขามองหน้าจอโทรศัพท์อย่างจริงจังจนน่าสงสัย "เมื่อกี้พี่หยานดูอะไรอยู่น่ะคะ?" เธอถามอย่างสุภาพแต่แฝงความอยากรู้
หยานเหลือบมองเธอครู่หนึ่งก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้บรรยากาศเงียบสงบถูกทำลายลงด้วยเสียงข่าวจากคลิปที่พี่หยานเปิดให้ดูบนโทรศัพท์ หน้าจอแสดงภาพ “เหตุการณ์พิเศษ ร่างฉายมนุษย์อะพอลโล่บนท้องฟ้าที่คนในตำนานมองเห็นจากทุกมุมโลกน่ะ” พร้อมเสียงบรรยายที่ยังไม่ทันจบ ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นชายคนหนึ่งในชุดเรียบแต่สง่างาม แสงอาทิตย์ระยิบระยับล้อมรอบร่างของเขาราวกับเป็นจุดศูนย์กลางจักรวาล
“เอาล่ะ เอาล่ะ!” เสียงในคลิปดังขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “ฉันเข้าใจดีว่าทุกคนตื่นเต้นที่จะได้พบฉัน ใครบ้างจะไม่ตื่นเต้นล่ะ จริงไหม? ฉันคือ อะพอลโล เทพแห่งแสงสว่างและดวงอาทิตย์ ผู้สร้างบทเพลงที่ทำให้แม้แต่ซุสยังต้องโยกหัวตาม!” เสียงหัวเราะของเขาตามมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่กล้องจะจับภาพเขาเท้าสะเอว ยิ้มอย่างผู้รู้คุณในเสน่ห์ของตัวเอง
“ฉันคือเทพแห่งคำพยากรณ์ ผู้รู้ทุกอย่าง... ถึงแม้ตอนนี้จะขี้เกียจทำนายไปหน่อย และแน่นอนว่าฉันก็คือเทพแห่งการยิงธนูที่ไม่เคยพลาดเป้า... ยกเว้นตอนที่ธาเลียขับรถม้าของฉันนั่นแหละ” เสียงเขาแผ่วลงพร้อมการยักไหล่ที่เจือรอยยิ้มจงใจให้ดูเท่ราวกับคนที่รู้ดีว่าตัวเองหล่อจนโลกต้องหยุดมอง
โมนีก้ามองภาพนั้นแล้วค้างไปนิดหนึ่ง แววตาเธอเหมือนคนที่ไม่แน่ใจว่าควรจะกราบไหว้หรือปิดหน้าแล้วหัวเราะกันแน่ ขณะที่ในคลิป อะพอลโลยังพูดต่อด้วยความภาคภูมิใจ “ตอนนี้ฉันมีฉายาใหม่ที่เพิ่งได้รับจากการกู้โลกน่ะนะ... พวกคุณสามารถเรียกฉันว่า ‘เทพแห่งความมืดมิดชั่วคราว’ หรือผู้สังเคราะห์สุริยคราสก็ได้! ฉันคือคนเดียวที่จะสามารถนำความมืดมาบดบังแสงของตัวเองเพื่อช่วยรักษาสมดุลของโลกไว้ได้ยังไงล่ะ!”
แล้วเขาก็เริ่มอ่านกลอนของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ “ราตรีทดแทน แสงดับลงชั่วขณะหนึ่ง ฉันยังเทพเสมอ”
(หน้า มนก ตอนนี้)
…….อึ้ง
โมนีก้าค้างไปอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ หันไปมองพี่หยานด้วยสายตาอึ้งปนตะลึงสุดขีดเหมือนคำว่าพูดไม่ออก ถูกประทับไว้กลางหน้าผาก เธอหลุดหัวเราะเบา ๆ แต่พยายามกลั้นไว้ให้สุภาพที่สุดในวิหาร “พี่หยาน... คนนี้... พ่อพี่จริง ๆ เหรอคะ?” หยานถอนหายใจยาวอย่างคนทำใจได้มานาน เขากดปิดคลิปแล้วพยักหน้าช้า ๆ “อืม... ใช่แล้ว” น้ำเสียงเขาราบเรียบแต่แฝงความจำยอมแบบคนที่ผ่านเรื่องนี้มาไม่รู้กี่รอบ “เขาเป็นแบบนี้เสมอ... เหมือนทุกครั้งที่...ทุกครั้งที่หมายถึงทุกครั้งจริง ๆ”
โมนีก้ากลั้นหัวเราะไม่อยู่แล้วในที่สุด หลุดหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างอดไม่ได้ “พี่หยานคงเหนื่อยสินะคะ... พ่อหลงตัวเองขนาดนี้ ฉันแทบจะกราบวิหารนี้อีกครั้งเพื่อขอให้เทพอะพอลโล่ลดระดับความมั่นใจลงหน่อยเลยค่ะ”
หยานมองเธอด้วยรอยยิ้มมุมปาก “ไม่ต้องหรอก เธอขอไปก็เท่านั้น เขาคงเพิ่มมันขึ้นอีกเป็นสองเท่า” ทั้งคู่หัวเราะพร้อมกันเบา ๆ เสียงนั้นสะท้อนในวิหารราวกับดนตรีที่เบาสบาย แต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แสงอาทิตย์ลอดผ่านกระจกสีทองตกกระทบหน้าโมนีก้าทำให้เธอดูเหมือนมีออร่าของตนเอง พี่หยานหันไปมองรูปสลักเทพอะพอลโล่แล้วส่ายหัวเบา ๆ “อย่างน้อย... เขาก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน ถึงจะพูดมากไปหน่อยก็เถอะ”
โมนีก้าอดยิ้มไม่ได้ “แต่ก็จริงค่ะ ถ้าไม่มีเขา เราคงไม่มีทั้งเพลงและแสงในตอนนี้” เธอพูดอย่างจริงใจ ก่อนจะมองกลับไปยังรูปสลักอีกครั้ง ในใจลึก ๆ เธอกลับรู้สึกถึงพลังบางอย่างจากเทพแห่งแสงสว่างนั้น พลังที่อาจจะหลงตัวเองหน่อยแต่ก็เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งที่รักเสมอ
ภายในวิหารอะพอลโล่ที่ยังคงอบอวลไปด้วยแสงสีทองอ่อน ๆ จากกระจกสเตนกลาส โมนีก้าเงยหน้ามองรูปสลักของเทพเจ้าแห่งแสงอีกครั้งหลังจากที่คลิปข่าวบ้า ๆ นั่นจบลงในหัว เธอถอนหายใจอย่างคนที่พยายามตั้งสติ ก่อนจะหันกลับไปมองหยานที่ยังถือโทรศัพท์อยู่ในมือ “ความจริงนะคะ...” เธอเอ่ยขึ้นพลางยิ้มมุมปากเบา ๆ “จากที่ดูเหมือนว่าเทพอะพอลโล่น่าจะต้องการของบางอย่างเพื่อ... ฉันว่าฉันพอจะส่งให้ได้ค่ะ พอดีเมื่อวานไปจัดการเจ้าซาลาแมนเดอร์ไฟมาพอดีเลย ของครบทุกอย่างที่เกี่ยวกับที่เทพอะพอลโล่บอกเลยค่ะ”
หยานหันมามองเธอทันที ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่เคยนิ่งสงบมีประกายบางอย่างคล้ายเอ็นดู “งั้นก็อย่าลืมส่งของที่วิหารเมอร์คิวรี่นะ เขาจะเป็นคนจัดส่งต่อให้ท่านอะพอลโล่โดยตรง” น้ำเสียงของเขาเรียบ สุภาพ แต่ยังคงอบอุ่นในแบบของพี่ชายที่คอยดูแลเธออยู่ห่าง ๆ
โมนีก้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ค่ะ ได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปส่งให้” เธอเอื้อมมือไปหยิบน้ำแร่เย็น ๆ จากแหวนดาราจรัสแล้วยื่นให้เขา “พี่ต้องดื่มน้ำบ้างนะคะ ของชอบนี้นะ” เขาเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งอย่างประหลาดใจ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ แล้วรับขวดน้ำมาจากมือเธอ “ขอบใจนะ เธอนี่รู้ดีเกินไปทุกที” เขาเปิดขวดแล้วจิบอย่างสงบ แววตาที่มองเธอมีทั้งความเอ็นดูและความห่วงใยแบบคนที่คุ้นเคยกันมานาน
โมนีก้าส่งยิ้มอบอุ่นกลับไป “งั้นฉันขอตัวไปไหว้เทพอะพอลโล่ก่อนนะคะ”
หยานพยักหน้า “ได้สิ แล้วพบกัน”
ทั้งสองแยกกันตรงกลางโถง วิหารที่ปกคลุมด้วยกลิ่นดอกทานตะวันและแสงแดดยามสายทำให้บรรยากาศดูศักดิ์สิทธิ์ราวกับอยู่ในความฝัน โมนีก้าเดินไปยังแท่นบูชาสูงสุดที่มีรูปสลักเทพอะพอลโล่ในท่วงท่าถือพิณและคันศรอย่างสง่างาม ใบหน้าเปี่ยมด้วยความมั่นใจหรือเรียกให้ตรงกว่านั้นก็คือความมั่นหน้าจนแทบจะทะลุออกมาจากหินอ่อน เธอขมวดคิ้วนิดหน่อย หัวเราะในลำคอเบา ๆ “ทำไมฉันถึงรู้สึกหมั่นไส้ท่านขนาดนี้ก็ไม่รู้นะคะ...” เธอพูดพลางวางช่อดอกแสงตะวันลงตรงฐานรูปสลัก แล้วค้อมศีรษะเล็กน้อย “แต่ก็มาไหว้ตามที่สัญญาไว้เมื่อวานแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาทำให้จริงจังขนาดนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
มือเรียวแตะที่แท่นบูชาเบา ๆ พลังรอบตัวพลันเปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย ความอุ่นจากแสงรอบตัวทำให้เธอรู้ทันทีว่าพลังของเทพอะพอลโล่ยังคงอยู่ที่นี่แน่นหนา “ช่วยรับของที่ฉันจะส่งไปให้ด้วยนะคะ... ฉันเชื่อว่าคงจะจัดการส่งถึงท่านเรียบร้อยแน่”
เสียงลมหายใจของเธอเบาลง ก่อนจะหัวเราะแผ่วเบา “รอบตัวฉันมีแต่พลังของคุณเต็มไปหมดเลยค่ะ ฉันเลยอดคิดไม่ได้... ว่าบางทีฉันก็คิดถึงคนที่คล้ายท่านอยู่นิดหน่อย” เธอพูดด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “อย่างตอนที่ไปช่วยคนที่ไม่รู้จักหน้าคาดตา...ต้องไปเสี่ยงอันตรายทั้งที่...มัน... ไม่รู้สิ มันเหมือนจะดีแต่ก็ เห่อ...เอาเถอะ ทั้งหมดก็เพราะเลสเตอร์ เจ้าคนขี้เก็กที่ไม่ต่างกับท่านเลยด้วยซ้ำ” เธอส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นพนมอีกครั้ง “เอาเป็นว่า... เกียรติอันนี้ฉันยกให้ท่านแล้วกันนะคะ หวังว่าถ้าได้เจอกันตัวจริงเมื่อไหร่ ท่านจะลดระดับความมั่นหน้าลงบ้าง... อย่างน้อยให้เหลือแค่ครึ่งเดียวของวันนี้ก็ยังดี”
หลังจากพูดจบ เธอหันหลังให้แท่นบูชา เดินออกไปอย่างสงบ ทิ้งไว้เพียงแสงแดดที่สะท้อนกับกลีบดอกแสงตะวันราวกับคำอธิษฐานเล็ก ๆ ที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศ เสียงพิณแผ่วบางจากลมหวิว ๆ ผ่านเสาใหญ่ดังก้องคล้ายเสียงหัวเราะของเทพเจ้าแห่งแสงสว่างผู้มั่นใจในเสน่ห์ของตนเองแต่สำหรับโมนีก้าแล้ว มันคือเสียงล้อเลียนอ่อน ๆ จากฟากฟ้า

[God-09] อะพอลโล
ถวาย ช่อดอกไม้ ของจิปาถะ เกรดเขียว - เพิ่มความโปรดปรานเทพ +15
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +25
โบนัสจาก (ผู้โปรดปรานเหล่าเทพ) - โบนัสเพิ่มความโปรดปราน +15
เผาค่าความศรัทธาแก่เทพ
ข้า โมนีก้า เอ็ม. บลอสซัม ขอมอบศรัทธาต่อเหล่าเทพแก่ เทพีเซเรส จำนวนศรัทธาที่มอบให้: 2000 แต้ม
(ทุก ๆ 1000 ศรัทธา = 50 ความโปรดปรานต่อเทพองค์นั้น) = ได้รับความโปรดปราน +100
เผาเกียรติยศแก่เทพ
ข้า โมนีก้า เอ็ม. บลอสซัม ขอถวายเกียรติยศแก่เหล่าเทพ แก่เทพอะพอลโล เทพแห่งพระอาทิตย์
จำนวนเกียรติยศที่มอบให้: 3000 แต้ม
ได้รับ: +3 เหรียญอะพอลโล, ความโปรดปราน +15
(ทุก ๆ 1000 เกียรติยศ = +1 เหรียญอะพอลโล , +5 ความโปรดปรานต่ออะพอลโล)
[TGC-09] หยาน
พูดคุยกับ TGC ความสนิทสนม +7
โบนัสจาก HONOR (คนมีเกียรติ) - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ TGC +5
มอบ น้ำแร่ สิ่งที่ชอบที่สุดของ TGC - เพิ่มความสัมพันธ์ +20
กลิ่นหอมจาก น้ำหอม Unisex - โบนัสเพิ่มความสัมพันธ์ +5
(โรลเพลย์ที่ลงท้ายด้วย 0 2 4 6 8 - ใช้ได้กับรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นเท่านั้น)